บทที่27
[/b]
“รบ”
“หื้ม ว่าไง”
“คนที่มึงรักมากๆคนนั้น เค้าเป็นคนแบบไหนวะ”
ผมที่กำลังนอนพิงอกมันอยู่ที่เตียงเอ่ยถามมันออกมาแบบนั้น อีกฝ่ายที่กำลังนั่งเล่นแท็บเล็ทอยู่ หยุดเขี่ยหน้าจอ แล้วก้มหน้าเลิกคิ้วมองผม
“ทำไมถึงถามวะ”
“ก็แค่อยากรู้”
“กูว่ามึงไม่อยากรู้หรอก” มันที่ว่าแบบนั้น ว่าแท็บเล็ทลงข้างตัว ก่อนจะลูบหัวผม เกี่ยวผมของผมเล่นอยู่แบบนั้น
“ทำไม กูอยาก”
“ดื้อจัง”
“เล่าให้ฟังหน่อย คนที่มึงชอบเค้าเป็นแบบไหน”
“เฮ้อ...” มันที่ถอนหายใจออกมาหน่อยๆ แต่ก็ยอมพูดต่อ
“เป็นคนสวย ที่เหมือนจะนิสัยดีและดูเหมือนจะรักกูมาก แต่เปล่า มันแค่เรื่องโกหก ทุกอย่างก็มีแค่นี้”
“เรื่องสั้นหรอมึง จบไวเหลือเกิน”
“ฮ่าๆ”
“แล้วเธอชื่ออะไร”
“ถามทำไมวะฝา แปลกๆนะมึง จะอยากรู้ทำไมกับอดีตที่มันผ่านไปแล้ว”
“ก็แค่อยากรู้ ไม่ได้หรอวะ”
“เฮ้อ ชื่อเจน...คนๆนั้น ชื่อเจน”
เจน...
ไม่ใช่หลินหลิน
“เนี่ย พอพูดให้ฟังก็ดูมึงทำหน้า”
“ทำไม กูทำอะไร”
“คิ้วขมวดเป็นโบว์แล้วไอ้สัด” ว่าแบบนั้นก่อนจะยื่นนิ้วมาถูๆที่หน้าผากของผม ถูไม่เบาจนกูคิดว่า อีกนิดเลขน่าจะโผล่ขึ้นมาที่หน้าของกูเองจ๊ะ เวร เบามือหน่อยจะได้ไหมวะ นี่หน้าพี่ฝาไง มึงลืมหรอรบ-*-
“กูเปล่าน่าไอ้สัดพี่รบ”
“ก็ถ้าจะมีไอ้สัดก็ไม่ต้องมีพี่หรอกฝา”
“อ้าวได้หรอไอ้สัดรบ”
โป้ก
“โอ๊ย เจ็บนะ”
“กวนตีน” ว่าแบบนั้นแต่ก็เอามือมาลูบๆหัวผมที่โดนมันเขกเมื่อกี้ให้ รู้สึกถูกตบหัวแล้วลูบหลัง
“พี่...”
“หื้ม”
“มึงไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน แถมแอนตี้ด้วย ... ตอนนี้...มึงไม่คิดอยากกลับไปหาผู้หญิงบ้างหรอวะ”
“คิดอะไร ทำไมถึงถาม”
“ก็แค่อยากรู้...มึงก็แค่ตอบมาสิวะ”
“มึงเองก็ชอบผู้ชายครั้งแรกไม่ใช่รึไง แล้วมึงอยากกลับไปหาผู้หญิงไหมล่ะ?”
“อยาก”
“หื้ม” มันที่พูดออกมาแค่นั้น แต่วงแขนที่โอบกระชับผมเข้าไปหาตัว กระดูกกูแทบละเอียด
“โอ๊ยๆ ใจเย็นสิวะพี่”
“ยังไง”
“ก็อยาก แบบเห็นผู้หญิงสวยๆก็ยังมองนะ แต่ไม่ได้คิดจะไปเอาเค้าอะไรแบบนี้ กูไม่ได้อยู่ในจุดที่จะไปเอาเค้าได้อีกแล้วเว่ย...แต่มึง...”
“เพราะกูเป็นคนเอามึง เลยต่างจากความรู้สึกของคนโดนเอาใช่ไหม อันนี้สินะที่มึงอยากจะพูด”
“ก็มันจริง”
“อืม...ก็จริงของมึง” มันที่พูดออกมาแบบนั้น น่าแปลกที่ใจผมสั่นเพราะคำสั้นๆของมัน
“แต่ ตอนนี้กูมีมึงให้เอา จะอยากไปเสียบคนอื่นทำไมวะ ไม่เมคเซ้น”
“ก็เผื่อมึงอยากเปลี่ยนไปข้างหน้า”
“กูบอกหรอว่ากูจะเปลี่ยน?”
“ก็....”
“กูยอมรับนะ เห็นผู้หญิงสวยๆบางทีมันก็เป็นสันดานกูเลย ก็อยากคุยอยากต่อ กูยอมรับเลย ไม่รู้จะปฏิเสธทำไม เพราะเมื่อก่อนมึงก็เห็นๆอยู่ว่ากูเยอะ...”
“เยอะมากไอ้สัด มากมาย”
“ดูหัวร้อนเนอะ”
“....”
“หึ แต่ก็นั่นแหล่ะ เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆบางทีมันก็รู้สึกนะ แต่แปลกว่ะ กูก็รู้สึกเหมือนมึงนะ ว่ากูไปทำแบบนั้นไม่ได้แล้วว่ะ เวลาจะเอาใครที่ไม่ใช่มึง แม่งเหมือนมีภาพหลอนเป็นหน้ามึงโผล่มาทุกที ทำไม่ได้ว่ะ...กลัวมึงเสียใจ”
“หรอวะ...ทำไมปากหวานจังวะ”
“หวานป๊ะล่ะ”
“- -“
“สงสัยจะลืม มา กูให้ชิม”
“ไม่เอาเว่ย อื้ออ อืมมมม.....”
ริมฝีปากอุ่นที่ประทับลงมากดจูบเบาๆ นวดคลึงเบาๆอยู่ที่ริมฝีปากอยู่แบบนั้น มันที่ยิ้มออกมาทั้งๆที่ไม่ละริมฝีปากออกไป ได้แต่ลืมตาคนตรงหน้าที่ยังแนบริมฝีปากเอาไว้แบบนั้น ตาสีนิลของมันที่สะท้อนภาพของผม ผมหวังให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป....
.
.
.
เช้าวันใหม่ที่ตื่นมาแบบไม่สดใสเท่าไหร่ เพราะเมื่อคนที่นอนกอดผมเอาไว้ข้างๆตัวทั้งคืน ตอนนี้มันกลับว่างเปล่า ก็คิดเอาว่ามันคงตื่นก่อน เลยลุกออกจากที่นอนอยากจะยืนบิดขี้เกียจอีกนานสองนาน แต่สายตาดันเห็นเงาแว๊บๆจากระเบียงห้องนอน มึงปิดม่านไว้ แต่ก็ก็ยังเสือกเห็น เลยแอบเดินเข้าไปใกล้แบบไม่ให้มันรู้
“อือ อยู่ห้อง....อยู่คนเดียว”
อยู่คนเดียว...กูนี่วิญญาณหรอไอ้สัด
“จะมาทำไมไม่สะดวก พอๆ แค่นี้ก่อนนะ”
“...............”
“รู้แล้วเดี๋ยวไปรับไงหลิน แค่นี้นะครับ”
ในจังหวะที่มันคงกดวาง ผมก็ทำแค่เดินเร็วๆวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ทำเหมือนว่ากูไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ผมพยายามคิดแบบกลางๆเข้าไว้ ว่าจริงๆแล้วหลินหลินที่มันคุยด้วย อาจจะเป็นญาติโกโหติกามันจากฝั่งไหน อาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องลูกน้องลูกพี่ทางแม่ที่ไม่เจอกันนานหรืออะไร มันเลยไม่สะดวกใจที่จะเล่าให้ผมฟัง ก็พยายามที่จะคิดแบบนี้ เพื่อไม่ให้เราทะเลาะกัน ไม่ให้ผมเองดูเป็นคนขี้ระแวงจนวุ่นวาย และเพราะแบบนั้นไหนๆกูก็เข้าห้องน้ำมาแล้วกูก็อาบน้ำอาบท่าซะเลย เดี๋ยวก็ต้องไปมหาลัยอีก อย่าเสียเวลา ถ้าสายไอ้เซียร์ได้จิกด่าเป็นแม่ไก่ออกลูกไปอีก ... ใช้เวลาในการอาบน้ำไม่นาน แต่ใช้ในการขี้นี่ก็นานหน่อย ผ่าม!
“ตื่นนานแล้วหรอ”
“อื้ม ว่าแต่มึงตื่นตอนไหน ไปอาบน้ำไม่เรียกกูเลย”
“ทำไมต้องเรียกวะพี่ กูไม่เห็นมึง กูก็ตรงเข้าไปอาบน้ำเลยดิ ปวดขี้”
บอกมันแบบนั้น แล้วเดินเลี่ยงไปตากผ้าเช็ดตัว มันเองที่แต่งตัวในชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้วก็ยังคงเดิมตามมา
“ก็ไม่ต้องบอกทุกเรื่องก็ได้มั้งไอ้น้องฝา แล้วมานี่เลยมึง ทำไมไม่เช็ดผมวะ”
“กูสะดวกแบบนี้อ่ะพี่”
“มานี่เลย กูเช็ดให้”
“เดี๋ยวก่อนก็ได้ หอมอ่ะ มึงเวฟใส่กรอกหรอ หิวววววว”
“เดี๋ยวค่อยแดก มานี่ เดี๋ยวชุดนักศึกษามึงก็เปียก”
“วุ่นวายอ่ะรบ วุ่นวายยยย อยากแดกไส้กรอกเนี่ยยยยยยย”
“พูดมากเดี๋ยวกูเอาไส้กรอกกูยัดปากมึงนะฝา- -“
“อ่ะจ๊ะ เช็ดผมก่อนก็ได้เนอะ พี่ฝาว่าพี่ฝ่าไม่รีบ”
ไม่ได้กลัวจริงๆ กูก็แค่คิดว่าไส้กรอกรอได้ ไม่ต้องมาถลึงตาดุกูจ๊ะ ... เดินเข้าไปนั่งที่หน้ากระจก ไอ้รบก็หยิบไดรท์ขึ้นมาเป่าให้ สบายหัวชะมัดเวลาผมเย็นๆที่พึ่งสระเสร็จมาปะทะไออุ่นๆแบบนี้ ... ฝ่ามืออุ่นๆของพี่มันที่ขยี้ผมให้ยิ่งทำให้รู้สึกดี
“วันนี้มึงมีเรียนบ่ายนี่พี่ ทำไมแต่งชุดนักศึกษาไว้แล้ววะ”
“ก็จะไปส่งมึงไง”
“แล้วยังไง คือมึงจะไปนั่งเล่นที่ม.ครึ่งวันรอเรียนบ่ายงี้เลยหรอ? นานนะนั่น”
“อืม”
“หรอ...นึกว่าจะไปไหน”
พูดออกไปแบบนั้น แล้วเงยหน้ามองหน้ามันผ่านกระจก มันที่ไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมา ไม่ได้สนใจจะมองหน้าผมตอบ มันที่แค่เป่าผมทางด้านหลังให้ ก่อนจะวางไดร์ทลงบนโต๊ะ มันที่มองหน้าผมกลับผ่านกระจกมา คิดว่ามันคงรู้ว่าผมจ้องมันมานานแล้ว ร่างสูงที่ยกยิ้มส่งมาให้ มือแกร่งของมันที่วางมือบนบ่าของผม ขยับตัวเข้ามาใกล้จนรับรู้ถึงไออุ่นที่หลังของตัวเอง ใบหน้าคมของมันที่เอียงเข้ามา จมูกโด่งที่ก้มลงหอมแก้มผมเน้นๆ
“ปะ...กินไส้กรอกมึงได้แล้ว”
มันที่ยิ้มให้อีกครั้ง แล้วจับมือผมดึงให้ลุกขึ้นเดินตามมันออกไปจากห้อง ... ก็เป็นอีกครั้ง ที่มันเลือกที่จะไม่พูด และผมก็เลือกที่จะเงียบ และไม่ถามมันเหมือนกัน...
.
.
.
“อ๊ะๆ มีคนหน้ายุ่งเหมือนตูดมา3อัตราจ๊ะ...เป็นอะไรไหนบอกแม่สิเด็กๆ”
“หุบปากได้ไหมวะเซียร์”
ไอ้ธารที่เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ ก่อนจะบอกมันแบบนั้น ส่วนกูไม่พูดครับ แค่พยักหน้าว่ากูเห็นด้วย ก็แบบมีเรื่องต้องคิด ส่วนไอ้หมอก ผมคิดว่ากายหยาบมันนั่งอยู่ข้างผม แต่กายละเอียดมันน่าจะมุ่งตรงไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ในจุดๆนี้ไม่มีใครสนใจอาจารย์ที่กำลังแพล่มอะไรบนสไลด์นั่นสักนิด ช่างมีความเป็นเด็กเรียน นี่แหล่ะอนาคตของชาติ
“กัดกูตลอด ก็ห่วงไงไอ้พวกเหี้ย”
“ห่วงหรือเสือก”
“ก็เสือกด้วย แต่ก็ห่วง พวกมึงเพื่อนกูไง”
“กูไม่เป็นไร แค่มีเรื่องให้คิด”
“กูก็ไม่เป็นไร” ผมตอบไปบ้าง ไอ้เซียร์นี่เบ้ปากใหญ่เลย
“ส่วนอิหมอก กูจะไม่คาดคั้นมันละ กูว่าแม่งถอดจิตไปแล้วอิเชี่ยเอ๊ย อยากคายความลับเมื่อไหร่ก็บอก กูพร้อมจะรับฟังนะจ๊ะเพิ่นๆ”
“วิบัติเพื่อน”
“วิบัติเพื่อเสียงค่ะอิธาร กัดกูจังอิเชี่ย!”
“คุณ ... ออกมาทำโจรท์ข้อนี้ที”
“หืออออ หนูหรอคะอาจารย์?”
“ครับ เชิญครับ”
“อ๊ายยยย อิเชี่ยอาจารย์เรียกกูๆๆๆ”
ดีดดิ้นอยู่ข้างๆ แต่พวกกูไม่เห็นใจ ใครใช้ให้มึงเสียงดังล่ะ สมน้ำหน้า จะได้หุบปากลงหน่อยครับ
.
.
.
“อิเพื่อนเนรคุณ! กูถามเพราะเป็นห่วงแท้ๆ ทำไมกูต้องโดนเรียกไปทำโจทย์เลขข้อนั้นด้วย กูกลายเป็นคนโง่หน้าห้องเรียนเลย”
“มึงก็โง่ตลอดอยู่แล้วไหมวะเซียร์?”
“กูเป็นคนสวยที่รวยมากก็พอค่ะอิธาร ความฉลาดไม่สำคัญเพราะกูมีเงิน” โอเค กูคิดว่าตรรกะมึงผ่านในจุดๆนี้
“เลิกเรียนแบบนี้ หาไรแดกกันค่ะๆๆๆ กูได้ยินจากไอ้โจ๊ก มันบอกก๋วยเตี๋ยวไก่มะระคณะบริหารเด็ดเวอร์ๆ ไปกันๆๆๆ”
“กูขอผ่าน”
“กูด้วย”
ไอ้ธารกับไอ้หมอกรีบบอกออกมาเหมือนนัดกันไว้ ไอ้เซียร์มองมันสองคนสลับกันไปมา แน่นอนว่าหน้าตาบอกยี่ห้อจนพวกมันรู้ตัว
“พวกกูไม่ได้ไปด้วยกัน กูมีธุระต้องไปทำ” ไอ้ธารบอกออกมาเอง
“ธุระไรวะ กูว่ามึงติดโทรศัพท์แปลกๆนะ หลังจากงานโอ้เพ้นเฮ้าส์มหาลัย มึงหายๆและวุ่นวายกับมือถือ”
“เซียร์....”
“ว่าไงจ๊ะสุดหล่อ”
“ไม่เสือกนะครับ”
“อุ๊บ ฮ่าๆ”
“ขอโทษ กูกลั้นไม่ไหว” ยิ้มแหยๆหันไปหาไอ้เซียร์คือกูเอง ก็กูชอบอ่ะ ไอ้ธารแม่งโคตรเป็นผู้ชายปากร้าย ด่าแบบไม่ไว้หน้า
“ส่วนกูไม่อยากไปคณะนั้นวะเซียร์ ขอบาย”
“เออๆ เข้าใจก็ได้ค่ะ งั้นพวกมึงก็กลับดีๆละกัน...แต่มึงค่ะอิฝา ผัวก็อยู่คณะนั้นอ่ะ ว่างถูกมะ ไปแดกเตี๋ยวไก่มะระเป็นเพื่อนกูนะๆ”
“เออๆ ก็ไปดิ กูหิวพอดี”
“อั๊ย น่ารักจังฝาลูกขุ่นแม่”
แค่พูดก็พออ่ะ ทำไมต้องถลาเอานมฟองน้ำมาถูแขนกูด้วยวะเซียร์ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ไม่กล้าพูดออกไปกลัวมันแดกหัวพี่ฝาครับ
เดินเข้าไปในคณะ กูนี่เป็นจุดเด่นเหี้ยๆ หลายคนจำกูได้ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ถูกขอเป็นแฟนหน้าตึกคณะนี้ มีหลายคนที่ชี้ชวนมองกูเหมือนกูเป็นหมีแพนด้าไปอีก เข้ามาทักเลยก็ได้ ถ้าจะมองมาเบอร์นี้
“คนสนใจมึงเหี้ยๆค่ะอิฝา”
“สนใจก็พอ ไม่ต้องเหี้ยหรอกกูไม่ชอบ”
“แหม ก็เปรียบเทียบไหมอ่ะคะ”
“จ๊ะๆ...ว่าแต่ร้านไหน”
“นู่นนนน คนเยอะชิพหายยังไม่เที่ยงเลยจ๊ะ ของเค้าดังจริงๆ เดี๋ยวกูไปสั่งเอง มึงไปจองโต๊ะนะ เอาเส้นไรว่ามาค่ะ”
“เส้นเล็ก”
“ว๊ายเล็กหรอฝา สงสารจัง แต่พี่รบนี่คงใหญ่ใช่ไหมอ่ะ อิอิ”
“ไม่จังไรได้ไหมอ่ะเซียร์ พี่ฝาว่าไม่คูลเลอ”
“เชอะ”
สะบัดหน้าใส่กูไปอีกครับ แต่นั่นแหล่ะ มันไม่โกรธอยู่แล้ว เดินหาโต๊ะนั่ง ตอนนี้โรงอาหารยังโล่งครับ สงสัยเพราะยังไม่เที่ยง ดีอาจารย์ปล่อยพวกผมก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง สบายใจ ได้โต๊ะนั่งก็นึกขึ้นได้ว่าไอ้รบมีเรียนบ่าย ป่านนี้จะสิงสถิตอยู่ ณ ตรงไหน ไลน์ไปชวนมันมาแดกเตี๋ยวไก่ดีกว่า
[พี่รบ อยู่ไหน..มาแดกเตี๋ยวไก่โรงหารคณะมึงกัน]
ทักมันไปแบบนั้น กูก็จ้องกดดันมองหน้าจอเลย ไม่ขึ้นอ่านเลย ... อะ พี่ฝาถอดใจ ไม่อ่านก็แล้วไป กูนี่วางโทรศัพท์เลยจ๊ะ รอกิน ถือว่ามึงไม่มีบุญได้แดกก๋วยเตี๋ยวไก่ละกัน
“มาทำไมวะหลิน!”
เสียงตะคอกดังๆที่ผมโคตรจะคุ้นหูดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของผม ไม่ได้หันไปมองหรอก โชคดีที่ผมนั่งหันหลังให้ ... แต่ชื่อที่ผมได้ยินก็ทำเอาใจกระตุกแปลกๆ
“ก็อยากมาหาอ่ะ รบบอกว่าจะไปรับ ก็ไม่มาสักที” เสียงหวานที่ติดจะอ้อนๆตอบกลับมาให้ได้ยิน
“ก็มีเรียนไงวะ จะมาทำไม”
“หลินคิดถึงนี่คะ ... ทำไมรบพูดไม่เพราะกับหลินเลยอ่า”
“พูดไม่รู้เรื่องว่ะหลิน กลับไปก่อนเลยไป”
“ทำไมอ่ะ รบลืมเรื่องของเราแล้วหรอ”
“...................”
ได้ยินเสียงถอนหายใจมาจากไอ้รบ
แต่ก็นั่นแหล่ะ เรื่องของเรา...มันคืออะไร ...
ขณะที่ผมกำลังตั้งใจฟัง ทั้งๆที่ไม่อยากฟังเท่าไหร่ แต่จริงๆในใจก็อดที่จะอยากรู้ไม่ได้ ... คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็เป็น ถ้าอยู่เฉยๆไม่พยายามตามหา ชีวิตเราอาจจะมีความสุขมากกว่า แต่ก็นั่น...อะไรที่เราสงสัย สุดท้ายก็ยังอยากรู้
“อิฝา ก๋วยเตี๋ยวไก่มาแล้วจ้า”
ผมถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก เมื่อไอ้เซียร์ที่ถือถ้วยก๋วยเตี๋ยวเข้ามาแบบร่าเริงสุดๆ พร้อมเสียงเรียกชื่อกูที่ดังไปถึงทางเข้ามหาลัย ก็อยากจะรู้อะไรมากกว่านี้อีกหน่อย แต่คงไม่ได้รู้
มีหลายสิ่งที่กูยังไม่รู้ และก็คงจะไม่ได้รู้ต่อไป
ไอ้เซียร์ที่ทำหน้างงๆส่งมาให้ตอนผมที่ลุกขึ้นยืน และหันหลังไป มองเห็นไอ้รบที่หันมามองเหมือนกัน หน้าตาตกใจของมันดูน่าตลก ถ้าเป็นปกติคงจะขำ แต่คงไม่ใช่ในสถานการณ์นี้ มองเลยไปที่แขนของมัน มีฝ่ามือเรียวของผู้หญิงคนนึงที่ผมไม่รู้จักจับอยู่ ผู้หญิงที่ผิวขาว ตาโต ริมฝีปากบาง ตัดผมหน้าม้า ตัวเล็กๆสเป็กแบบที่ไอ้รบเคยควง
“ฝา!”
“แดกไรยังมึง” ผมถามแล้วยิ้มให้ คนข้างๆตัวของมันที่มองมาแบบจิกๆ สายตาแบบนั้นทำเอาไอ้เซียร์วางชามก๋วยเตี๋ยวเดินอ้อมโต๊ะมายืนข้างผม มองกลับไปแบบไม่พอใจสุดๆ
“ฝา ทำไมมึงมาอยู่นี่ คือมัน...” พี่มันที่พูดออกมาตะกุกตะกัก ก่อนจะปัดมือของหญิงสาวออก มันที่พยายามจะเดินเข้ามาใกล้ผม แต่ติดที่อีกฝ่ายเกาะมันไม่ยอมให้เดินมา
“ใครอ่ะคะรบ หน้าตาบ้านมาก”
“อ้าว สวยตายล่ะ อุ๊ยนี่ขอโทษนะคะคิดดังไปหน่อย ก็แค่สงสัยนิดหน่อยว่านี่แต่งหน้าไปไหนหรอ มีงานแสดงงิ้วหรอ ฟาดมาซะเต็มหน้าเลย” ไอ้เซียร์ที่ปากไวด่าออกไปแบบไม่คิดจะเบรด
“อ๊ายย อิบ้า อิปาก”
“อะไร จะด่าอะไรดูมือกูด้วยนะ กูตบหนักนะบอกเลย”
“อ๊าย อิบ้านป่า รบช่วยหลินด้วยสิ! หลินเป็นแฟนรบนะ!”
คำพูดที่ทำเอารอยยิ้มผมค้าง ค้างอยู่บนหน้า พร้อมกับไอ้รบที่มองหน้าผมแบบตกใจยิ่งกว่า
“พูดไรวะหลิน! ฝา ฟังกูก่อน”
“อะ พูดมาสิ กูฟังอยู่เลย”
นั่นสิ กูก็อยากรู้ว่าแบบมึงจะพูดอะไรให้กูฟังได้อีก แต่กูพร้อมฟังนะ กูมีเหตุผลพอ กูคูลมากเลย...ก็แค่พูดมา แค่บอกกูมา มันจะตายหรอไอ้สัด!
---------------------------------
พูดสิเว้ย!พี่รบพูดสิเว้ยยยยย อยากจะพูดแบบนี้ แต่คิดว่าเดี๋ยวคนอ่านก็คงมาเกรี้ยวกราดแทนแน่ๆเลย อิอิ
อยากถามว่า ยังมีคนอ่านอยู่ไหมจ๊ะ ตอนล่าสุดเห็นคนอ่านแล้วน้ำตาไหล แต่ก็ขอบคุณเสมอนะคะสำหรับคนที่
มาอ่านมาเม้นให้กันอยู่ ถือเป็นกำลังใจดีๆของแคทมากๆเลยค่ะ ...
ในตอนนี้กำลังเขียนเล่มสเปเชียลธารจอมอยู่ล่ะ อิอิ แอบเอามาบอก >/////<
หวังว่าคนอ่านจะชอบไม่มากก็น้อย จริงๆแคทชอบน้องฝามากอ่ะ น้องฝาของพี่คูลอ่ะ ส่วนน้องเซียร์ไม่คูล
น้องเซียร์คือคนฮ็อตที่พร้อมจะไฟท์แทนเพื่อนจ้าาาาา จ๊วฟฟฟฟฟฟ
