CHAPTER 10
วันนี้เป็นวันที่ราชันย์กับแฟร์ต้องออกเดินทางเพื่อติดตามงานไปยังสถานที่ถ่ายทำโฆษณาตัวใหม่ในจังหวัดภูเก็ต ร่างสูงเดินขึ้นเครื่องด้วยท่าทางสบายใจก่อนร่างบางจะตามขึ้นไปด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“เป็นไร” ราชันย์ถามเมื่อเห็นใบหน้าของอีกคนซีดเผือด
“เปล่า” แฟร์ตอบก่อนจะเก็บสัมภาระของตัวเอง
“เป็นอะไรบอกมา” ราชันย์ถามย้ำอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายนั่งลงยังที่นั่งของตัวเองทั้งใบหน้าเหยเกอย่างนั้น
“ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” แฟร์ตอบแต่นั่นก็ไม่อาจทำให้ร่างสูงเชื่อได้เขาจึงขู่เสียงเย็นกลับ
“ฉันไม่อยากทำอะไรนายบนนี้หรอกนะถ้าไม่จำเป็นเพราะฉะนั้นบอกฉันมาซะ” เมื่อร่างบางได้ยินดังนั้นก็ได้แต่มองค้อน
“ผมแค่เมาเครื่อง” แฟร์พูดพลางเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาจากขมับทั้งสองข้างออก
“แล้วทำไมไม่บอก”
“ไม่เป็นไรเดินทางแป๊ปเดียวผมทนได้”
“แน่ใจนะ” ร่างสูงมองมาด้วยแววตาราบเรียบหากแต่ภายใต้คำพูดธรรมดาๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง
แฟร์พยักหน้าตอบเขาทำตัวลำบากขึ้นทุกทีหลังจากที่วันนั้นคนตรงหน้าได้ตัดสินใจเอ่ยความในใจออกมาในขณะที่ตัวเขายังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิดดังเช่นวันนี้ที่อีกคนคะยั้นคะยอให้เขามากับตัวเองทั้งที่แฟร์จะไปกับพนักงานคนอื่นๆ ก็ยังได้ แต่ราชันย์เหนือชั้นกว่าเพราะเขาได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินให้กับแฟร์เป็นที่เรียบร้อยโดยที่ร่างสูงแอบขโมยบัตรประชาชนของแฟร์ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเข้าห้องน้ำแถมยังขู่อีกด้วยว่าถ้าร่างบางไม่ยอมไปด้วยราคาตั๋วที่ซื้อไว้จะถูกหักออกจากเงินเดือนเขาถึงห้าเท่า!
“งั้นถ้ารู้สึกไม่ดีจนทนไม่ได้เมื่อไหร่นายต้องบอกฉัน” ร่างสูงว่าพลางดึงผ้าปิดตาที่คาดมันไว้บนหัวตั้งแต่เก็บสัมภาระเสร็จลงมาปิดก่อนที่เขาจะทำทีเข้าสู่ห้วงนิทรา
แฟร์มองการกระทำของคนที่หลายวันมานี้เขาไม่ดุด่าว่าร้ายหรืออารมณ์เสียใส่ด้วยเหตุผลบ้าๆ อย่างรู้สึกดีขึ้นมานิด ร่างบางพินิจดูดวงหน้าของคนข้างๆ พลางอมยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ความจริงแล้วราชันย์เป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาหล่อเหลาเอามากๆ ร่างสูงมีใบหน้าคมคายอย่างไร้ที่ติบวกกับสีหน้าและแววตาเรียบเฉยนั่นที่อีกคนชอบใช้ยิ่งทำให้บางเวลาราชันย์ก็ดูเหมือนกับราชสีห์ที่ยากจะเข้าถึงหากทว่าบางเวลาเขาก็ดูเหมือนกระต่ายน้อยที่ไร้ซึ่งกรงเล็บและฟันที่แหลมคม
“จะจ้องฉันอีกนานมั้ยถ้านานกว่านี้ฉันจะเก็บเงินนาย” ราชันย์ว่าก่อนที่ร่างบางจะชักหน้าตัวเองที่โน้มลงไปหาอีกฝ่ายกลับ
“ในหัวของคุณมีแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ หรือไง” แฟร์ว่าพลางหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่างด้วยท่าทีขวยเขิน
“แน่นอนสิเพราะฉันเป็นนักธุรกิจ” พูดเพียงเท่านั้นก่อนรางสูงจะฉวยมืออีกคนมากำไว้ แฟร์มองไปยังมือของเขาที่ถูกอีกฝ่ายจับก่อนจะพยายามชักกลับแต่อีกคนกลับไม่ยอมเพราะเขายิ่งบีบมันแน่นยิ่งกว่าเดิม
ร่างบางหมดแรงจะขัดขืน เขายังไม่ชินกับราชันย์ที่เปลี่ยนไป แม้ว่าในวันนั้นหลังจากที่อีกคนบอกความรู้สึกกับเขา แฟร์ต้องทนนั่งทานข้าวร่วมกับราชันย์อีกเป็นชั่วโมงกว่าจะได้กลับก็ปาไปเกือบสองทุ่ม แต่ก็ยังดีที่วันนั้นอีกฝ่ายไม่ทำอะไรอีกนอกเสียจากนั่งมองเขาราวกับกลัวจะหายไปไหนเสียเท่านั้น
รถของโรงแรมที่ไปรอรับทั้งคู่จากสนามบินจอดเทียบท่ายังที่หมายเป็นที่เรียบร้อย ราชันย์เปิดประตูเดินลงจากรถก่อนที่ร่างสูงจะทำการติดต่อกับทางโรงแรมและเดินนำแฟร์ไปยังห้องพักทันที
ร่างสูงเปิดห้องด้วยกุญแจที่ถือมาพลางเดินเข้าไปก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน แฟร์มองการกระทำของอีกฝ่ายอย่างสงสัย ร่างบางเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเตียงที่ราชันย์นอนอยู่ก่อนจะพูดกับอีกคนเสียงนิ่ง
“ขอกุญแจห้องของผมด้วย” แฟร์ว่าพลางแบมือ
“ห้องนาย?”
“ใช่ห้องของผม”
“ห้องนายก็ห้องนี้แหละ” ร่างสูงตอบหน้าตาย
“แต่นี่มันห้องของคุณ!”
“ไม่ถูกสินายต้องพูดว่ามันคือห้องของเราต่างหากล่ะ” ร่างสูงเอ่ยแกมหยอกก่อนที่ร่างบางจะหน้าขึ้นสี
“คุณราชันย์ผมไม่นอนกับคุณหรอกนะ!”
“มันไม่มีห้องว่างหรือนายอยากจะนอนทางเท้า?” ราชันย์ถามพลางลุกขึ้นจ้องไปยังอีกคน
“ถ้ายังงั้นผมก็จะไปพักที่โรงแรมอื่น”
“ฉันติดต่อโรงแรมในระแวกนี้มาหมดแล้วไม่มีที่ไหนว่างเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น”
“คุณต้องล้อผมเล่นแน่ๆ”
“คิดว่าฉันมีเวลามานั่งล้อเล่นกับนายหรือไง” ราชันย์ตอบก่อนจะลุกเดินไปยังกระเป๋าเสื้อผ้าที่พนักงานของทางโรงแรมขนขึ้นมาให้
“จัดของกันเถอะ” ร่างสูงบอกก่อนที่เสียงเคาะจะดังมาจากทางประตูห้อง พวกเขาทั้งคู่หันมาสบตากันสุดท้ายก็เป็นแฟร์ที่ต้องเดินไปเปิด
ร่างบางเดินไปยังประตูก่อนจะเปิดมันออกเผยให้เห็นร่างเล็กของใครบางคนเดินเข้ามาพลางทักเจ้าของห้องด้วยความสนิทสนม
“พี่ราชันย์มาแล้วจริงๆ ด้วย” ชานนท์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง
ร่างบางมองตามหลังผู้มาใหม่ที่ไม่คิดจะสนใจเขาสักนิดเนื่องจากประตูเมื่อกี้บังร่างของเขาเอาไว้ก่อนที่แฟร์จะตะโกนชื่ออีกคนออกมาด้วยความตกใจ
“นนท์!”
“อ้าว! พี่แฟร์” นนท์หันมาหาแฟร์เมื่อถูกเรียก “ทำไมพี่แฟร์ถึงอยู่กับพี่ราชันย์ได้ล่ะ?”
“แฟร์เป็นเลขาฯ ของผม” ราชันย์ตอบเมื่อนนท์ถามอีกฝ่ายกลับแต่แฟร์ก็ไม่กล้าบอกความจริงออกไป
“แต่พี่นัทบอกว่าพี่แฟร์จะไปช่วยงานเพื่อนไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ…” แฟร์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกร่างบางชำเลืองไปทางราชันย์อย่างคาดโทษเขาต่อว่าอีกคนผ่านแววตาเพราะร่างสูงไม่เคยบอกเขาสักคำว่านนท์เองก็มาที่นี้ด้วย
“เพื่อนของเขาคนนั้นก็คือผม” ราชันย์ชิงตอบ
“แต่…”
“ไว้พี่จะเล่าให้ฟังนะแล้วนนท์ล่ะมาที่นี่ได้ไง” แฟร์เอ่ยตัดบทนนท์ที่ดูเหมือนจะมีเรื่องถามออกมาอีก
“ก็ผมเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าตัวนี้ให้พี่ราชันย์ไงล่ะครับพี่ลืมไปแล้วเหรอ” ร่างเล็กตอบพลางมองหน้าอีกคนด้วยความสงสัย
แฟร์เผลอสบตานนท์เข้าร่างบางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีอะไรภายใต้แววตานั้นแต่เขากลับคิดอะไรดีๆ ออกในที่สุด
“ถ้ายังงั้นผมขอไปนอนกับนนท์นะ” ร่างบางว่าก่อนจะหันไปมองราชันย์ที่หยิบเสื้อผ้าของตัวเองออกมาเก็บ
“แค่ต้องถ่ายโฆษณาเขาก็เหนื่อยมากพอแล้วนายยังจะไปแย่งที่นอนเขาอีกทำไมนอนกับฉันนี่แหละจัดของของนายเข้าตู้ซะ” ร่างสูงพยายามยื้อจนนนท์ที่มองทั้งคู่อยู่รู้สึกได้ถึงความต้องการบางอย่างของราชันย์
“ให้พี่แฟร์ไปนอนกับผมก็ได้พวกเราน่ะนอนด้วยกันบ่อยจะตายไม่รบกวนหรอกครับ” ร่างเล็กของดาราหนุ่มเอ่ยก่อนที่แฟร์จะหันไปยิ้มราวกับกำลังถูกเขาช่วยชีวิต
“ผมต้องคุยและเคลียร์เอกสารกับแฟร์อีกเยอะ” ราชันย์ว่าพลางจ้องแฟร์กลับ
“เรื่องงานเดี๋ยวผมมาทำงานกับคุณเองเพียงแต่เวลานอนผมจะไปนอนกับนนท์” แฟร์บอกก่อนร่างสูงจะถอนหายใจเมื่อทักท้วงมากกว่านี้ไม่ได้
“ตามใจนายแล้วกัน” ว่าเสร็จราชันย์ก็ทำทีจะเดินเข้าไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองในตู้แต่กลับถูกเสียงหนึ่งที่ดังจากประตูฉุดไว้เสียก่อน
“แหมๆ มาแล้วเหรอคะชันย์แพรคิดถึงคุณจังเลย”
“!!”
แพรวาเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ ร่างสูงมองตามต้นตอของเสียงก่อนใบหน้านิ่งจะขมวดคิ้วมุ่นพลางถามอีกคนกลับ
“มาที่นี่ได้ยังไง”
“นี่คุณไม่รู้เหรอว่าแพรคือพรีเซนเตอร์ผู้หญิงของคุณ” เสียงแหลมเอ่ยขึ้นอย่างถือดีก่อนที่แพรวาจะแสยะยิ้มและพูดขึ้นอีก
“หรือว่ามัวแต่ทำอย่างอื่นกับใครแถวนี้ล่ะถึงได้เป็นเหมือนผู้บริหารที่ไม่ติดตามงานแบบนี้” ร่างสูงได้ยินคำปรามาสก็เหยียดยิ้ม
“หึ! เผอิญเรื่องของคุณมันไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมน่ะสิผมถึงไม่สนว่าคุณจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ หรือกับผู้ชายคนไหน!!”
เพี้ยะ!!
“ชักจะมากไปแล้วนะคุณคิดว่าคุณเป็นใครถึงได้มาพูดจาดูถูกแพรแบบนี้ได้!” แพรวาฟาดมือเล็กลงบนหน้าของราชันย์อย่างจัง
แฟร์และนนท์ที่ยืนดูอยู่ด้วยถึงกับตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร่างเล็กของนนท์ทำท่าว่าจะเข้าไปช่วยแต่กลับถูกแฟร์ยื้อเอาไว้ก่อนที่คนแก่กว่าจะส่ายหน้าให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่ควรเข้าไปยุ่ง
“แล้วคุณล่ะแพรวาคุณเป็นใครถึงได้กล้าตบหน้าผม” ราชันย์เอ่ยเสียงเย็นเยียบ
“แพรก็เป็นคนที่เคยทำให้คุณรักยังไงล่ะคะ! รักจนโงหัวไม่ขึ้นซะด้วย!!” หญิงสาวตะโกนลั่นก่อนราชันย์จะหันไปสบตากับแฟร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลในขณะที่แพรวายังพูดออกมาไม่หยุด
“แพรรู้สึกผิดมากเลยนะชันย์ที่ทำให้คุณผิดหวังจนต้องเปลี่ยนรสนิยมไปคั่วกับผู้ชายด้วยกันเอง!”
“หุบปากซะแพรวา!!” ร่างสูงตวาดก้อง
ราชันย์มองใบหน้าของแพรวาราวกับอยากจะฉีกเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ร่างสูงขบกรามแน่นเพื่อข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้จนขมับปูดเป็นเส้น
แฟร์เห็นท่าไม่ดีจึงพยายามจะพาร่างเล็กของคนข้างๆ เดินออกจากห้องนี้ไปแต่แล้วก็ถูกแพรวาตวัดคำพูดว่าร้ายมาจนได้
“จะไปไหนไอ้ลักกินขโมยกิน!” ร่างโปร่งของดารานางแบบสาวที่สูงกว่าร้อยเจ็ดสี่เซนต์ฯ ย่างกรายเข้าไปหาทั้งคู่ก่อนที่ราชันย์จะกระชากแขนเล็กให้กลับมาหาตัวเอง
“หยุดพล่ามแล้วออกไปจากห้องผมซะก่อนที่ผมจะหมดความอดทน!” ร่างสูงบีบแขนของแพรวาจนอีกฝ่ายร้อง
“โอ้ย! แพรเจ็บนะชันย์!!”
“บุญแค่ไหนแล้วที่คุณได้งานนี้เห็นว่าเดือดร้อนเรื่องเงินอยู่?”
“กรี๊ดดดด!!!”
ร่างสูงเค้นเสียงเอ่ยความจริงจนแพรวาหน้าชาขึ้นทันใด หญิงสาวโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงก่อนที่เธอจะเอาแต่กรีดร้องออกมา
“ความอดทนของผมมันต่ำขืนเธอก้าวก่ายไม่เข้าเรื่องก็รอรับผลเอาไว้ได้เลยออกไป!!”
“แพรไปแน่! คิดว่าแพรกลัวยังงั้นเหรอ คุณยังรักแพรอยู่แพรรู้คุณไม่กล้าทำแบบนั้นกับแพรหรอก!! แต่แพรยังจะรังควานคุณอยู่แบบนี้ไม่ปล่อยดูสิว่าใครจะเป็นคนชนะ!!” ร่างโปร่งของดาราสาวเอ่ยเน้นหนักก่อนที่ 'แนน' ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ของนนท์จะเข้ามายุติศึกน้ำลายในครั้งนี้
“ขอโทษนะคะทีมงานพร้อมแล้วค่ะน้องนนท์…คุณแพรวา” นนท์ พยักหน้ารับ ร่างเล็กหันไปมองราชันย์ทีแพรวาทีก่อนจะยอมเดินออกไปเช่นเดียวกับแพรวาที่สะบัดหน้าจ้ำอ้าวตามออกไปด้วยอีกคน
ราชันย์มองหน้าแฟร์ราวกับอยากจะบอกอะไรบางอย่าง ร่างบางมอง อีกคนกลับก่อนจะถอนหายใจออกมาและทำท่าว่าจะเดินออกจากห้องนี้ไปด้วย
“นายจะไปไหน” ร่างสูงถาม
“ผมว่าคุณคงอยากอยู่คนเดียว” แฟร์ตอบพลางมองไปยังใบหน้าของอีกคนนิ่ง
“คิดเองเออเอง”
“อยากทำอะไรก็ทำเถอะผมรู้ว่าคุณเหนื่อยผมจะออกไปดูนนท์สักหน่อยแล้วจะกลับมา” ว่าเสร็จแฟร์ก็แบกสัมภาระของตัวเองไปเก็บไว้ในห้องของนนท์ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องของราชันย์นักในขณะที่ผู้จัดการส่วนตัวของอีกฝ่ายกำลังจะปิดประตูห้องนั้นอยู่พอดี
“เหนื่อยมั้ย” แฟร์ถามนนท์ทันทีที่อีกฝ่ายเดินกลับมาใต้เต็นท์พักด้วยใบหน้าอิดโรย
“มากอะพี่แฟร์ร้อนก็ร้อนคุณแพรวาก็ไม่ช่วยอะไรเลยถูกสั่งคัทเพราะเธอเป็นสิบกว่าเที่ยว” นนท์บ่นก่อนจะนั่งลงดูดน้ำอัดลมในแก้วลงคอไปอึกใหญ่
“เธอคงไม่ค่อยมีสมาธิน่ะ”
“คงจะใช่ล่ะมั้งแล้วพี่แนนล่ะครับ”
“ไปเข้าห้องน้ำน่ะ” แฟร์ตอบก่อนที่คนตรงหน้าจะมองไปยังเต็นท์ของดาราสาวพร้อมกับพูดขึ้น
“นนท์ว่าเธอต้องโกรธนนท์แหงๆ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็พี่ราชันย์ดันจูบนนท์ต่อหน้าเธอน่ะสิ ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะจำนนท์ได้มั้ยแต่คำพูดเมื่อกี้ของเธอมันเหมือนต่อว่านนท์เลยนะ” ร่างเล็กเอ่ยออกไปอย่างไม่หมกเม็ดชานนท์รู้ดีว่าแฟร์เก็บความลับได้ดีกว่าใครแถมพวกเขายังสนิทกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรด้วย
“อะไรนะนนท์!” ร่างบางแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“ตกใจอะไรกันพี่แฟร์”
“นนท์บอกว่าคุณราชันย์เขาทำอะไรนะ!?” แฟร์ถามย้ำ
“พี่ราชันย์เขาจูบนนท์ต่อหน้าคุณแพรวาเรื่องนี้นนท์ยังไม่ได้บอกใครเลยนะพี่เป็นคนแรกที่รู้” นนท์พูดไปพลางลอบยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น
“เมื่อไหร่” แฟร์ถามเมื่อเริ่มมีน้ำโห ร่างบางไม่คิดเลยว่าในขณะที่เขาต้องห่วงคนตรงหน้าเป็นบ้าเป็นหลังราชันย์กลับตลบตะแลงคำสัญญาที่เคยให้ไว้
“ไม่กี่วันที่ผ่านมาเนี่ยแหละนนท์นัดพี่ราชันย์ไปผับ KT”
“แล้วเขาก็ไป?”
“แหงสิ! แล้วก็บังเอิญไปเจอคุณแพรวาที่นั่นพอดี พี่ราชันย์เขาเลยทำแบบนั้นกับนนท์…ตกลงพวกเขาเคยเป็นแฟนกันมาก่อนเหรอ?” ร่างเล็กถามออกไปอย่างคนไม่รู้ก่อนที่คนตรงหน้าจะเอาแต่ขยำบทพูดของนนท์ที่หยิบมาอ่านรออีกฝ่ายถ่ายทำเมื่อกี้จนมันยับไปหมด
“พี่แฟร์เป็นอะไรหรือเปล่า” นนท์ถามก่อนจะเอื้อมมือของตัวเองจับมือของแฟร์ที่กำลังสั่นเทาเพราะความโกรธ
“เปล่าๆ แนนมาแล้วงั้นพี่ขอตัวก่อนนะ” แฟร์ที่เห็นหญิงสาวร่างอวบเดินมาแต่ไกลออกปากขอตัวทันที
“พี่แฟร์ไม่อยู่กับนนท์ต่อเหรอเหลือถ่ายอีกแค่ซีนเดียวเองแล้วเราค่อยไปหาพี่ราชันย์พร้อมกัน” ร่างเล็กคะยั้นคะยอหากทว่าแฟร์กลับร้อนรุ่มอยากรู้ความจริงจากปากใครบางคนเสียมากกว่า
“พอดีพี่นึกขึ้นได้ว่าต้องรายงานเรื่องงบประมาณของงานนี้ให้เขารู้น่ะพี่ขอกลับก่อนแล้วกัน” แฟร์บอกพลางลุกขึ้นยืน
“งั้นก็ได้ครับแล้วเจอกันนะ” นนท์โบกมือให้คนเป็นพี่ที่เดินออกไปก่อนร่างเล็กจะมองตามแผ่นหลังของแฟร์อย่างสงสัย
ชานนท์รู้สึกได้ว่าระหว่างแฟร์กับราชันย์ต้องมีอะไรมากกว่าที่เขาเห็น ร่างเล็กรับรู้ได้จากสายตาของราชันย์ที่มองมายังแฟร์ในคราวที่เขาเจอทั้งคู่อยู่ในห้องด้วยกันเมื่อเช้าเพียงแต่นนท์ไม่อยากตัดสินใจอะไรไปก่อนที่จะเห็นด้วยตาของตัวเองเพียงเท่านั้น!
“กลับมาแล้วเหรอว่าจะลงไปตามพอดี” ราชันย์เอ่ยทักเมื่อแฟร์เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องของเขา
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ
“เรื่องอะไร”
“เรื่องนนท์”
“ฉันไม่อยากคุยเรื่องของใครตอนนี้มาแล้วก็ดีชงกาแฟให้กินหน่อย”
“ผมไม่ทำอะไรทั้งนั้น!”
“เป็นบ้าอะไร!” ราชันย์มองแฟร์นิ่ง ร่างสูงกัดฟันกรอดก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกคนแต่แฟร์กลับถอยหนี
“คุณผิดสัญญา! คุณบอกว่าจะไม่ยุ่งกับนนท์ถ้าหากผมยอมเป็นเลขาฯ ให้ แต่นี่คุณกลับไปเที่ยวด้วยกันแถมยังจูบนนท์ด้วย!” แฟร์ตะโกนออกไปจนราชันย์ชะงักร่างสูงหยุดฝีเท้าที่ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะสบตาอีกคนกลับ
“ผมไม่น่าไว้ใจเชื่อคุณเลยคุณมันร้ายกาจกว่าที่ผมคิด”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะแฟร์!”
“ทำไม! เพราะผมรู้เข้าคุณเลยจะสำนึกงั้นเหรอ!!”
“ไม่มีการสำนึกอะไรทั้งนั้น! เขาเป็นคนโทรมานัดฉันเองไม่ใช่ฉันที่ติดต่อไปเพราะฉะนั้นเรื่องนี้ฉันไม่ผิด!” ร่างสูงสวนกลับ ราชันย์ไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้นเพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เริ่มขึ้นจากตัวเขาเอง!
“คุณนี่มัน!…” แฟร์เค้นเสียงเอ่ยออกมาอย่างเหลืออดก่อนที่ร่างบางจะหันหลังกลับเพราะไม่อยากพูดกับคนตรงหน้าอีก
“จะไปไหน!”
“ผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว! ปล่อยผมนะ!!” แฟร์ร้องห้ามเมื่อราชันย์กระชากแขนของเขาเข้าหาตัวเองแน่น
“มาคุยกันให้รู้เรื่อง! นี่นายกำลังปั่นหัวฉันอยู่ใช่มั้ย!”
“คุณต่างหากที่ปั่นหัวผม! คนโกหก หลอกลวง ปลิ้นปล้อน ปล่อย! ปล่อยเดี๋ยวนี้! โอ้ย!!” ร่างบางหลุดร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อราชันย์เหวี่ยงตัวเขาลงบนเตียงก่อนจะตามขึ้นมาคร่อมเอาไว้ไม่ให้หนี
“จะเงียบได้หรือยังวันนี้กูเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้มามากกูไม่อยากรับเอาอะไรเข้ามาอีกเข้าใจมั้ย?” คนด้านบนเอ่ยเสียงเรียบหากทว่าคนด้านล่างกลับฟังว่าคำพูดเมื่อกี้มันช่างเห็นแก่ตัวเสียเหลือเกิน
“ถ้างั้นคุณก็ปล่อยผมซะเพราะผมเองก็ไม่อยากรับรู้เรื่องพวกนี้อีกต่อไปแล้ว!” แฟร์พยายามดิ้นให้หลุด
“ผมจะลาออกคุณเตรียมหาคนใหม่มาทำหน้าที่นี้ได้เลย!!” เสียงใสพ่นออกไปจนคนที่รับฟังถึงกลับเลือดขึ้นหน้า
“กูไม่ให้มึงออก!”
“แต่ผมจะออก! อ่ะ!!” ราชันย์ก้มลงกดจูบคนด้านล่างอย่างป่าเถื่อนก่อนจะผละออกและตะโกนกลับไป
“ก็ลองดูสิ! ขืนมึงออกตอนนี้น้องชายของคนที่มึงรักเจอกูเอาไปขายแน่!!”
แฟร์มองราชันย์ด้วยแววตาโกรธเคือง ร่างบางไม่คิดเลยว่าราชันย์ที่อุตส่าห์ดีขึ้นหลายวันที่ผ่านมาจะหมกเม็ดเรื่องร้ายๆ และนิสัยร้ายๆ ที่เขาไม่รู้เอาไว้อีกมาก
“สารเลว!! อื้อออ!!” ร่างบางก่นด่าก่อนราชันย์จะกลืนกินคำพูดเหล่านั้นด้วยริมฝีปากของตัวเอง
แฟร์พยายามดิ้นหนีจนสุดแรงแต่แรงของเขากลับสู้แรงของอีกคนไม่ได้เลยสักนิด ร่างสูงทั้งกัดทั้งจูบซับย้ำๆ หลายครั้งจนปากร่างบางบวมเจ่อไปหมด
“กูทำจริงอย่าคิดว่ากูไม่กล้า!” ราชันย์เอ่ยหลังจากปล่อยริมฝีปากที่เริ่มแดงช้ำของอีกคนให้เป็นอิสระ ดวงตาสีดำเข้มจ้องมองเข้าไปยังดวงตาสีน้ำตาลอย่างนึกโกรธ ร่างสูงไม่ชอบเลยเวลาที่อีกคนหาทางไปจากเขาแบบนี้
“ผมรู้ว่าคุณกล้าฉะนั้นก็ปล่อยผมออกจากวังวนนี้ซะ!!”
“กูไม่ปล่อย! ปล่อยมึงให้ไปสานสัมพันธ์กับพี่ชายไอ้เด็กนั่นก็โง่น่ะสิ!!”
“คุณราชันย์!!”
“มึงยังต้องอยู่กับกูไปอีกนาน” ว่าเสร็จร่างสูงก็จัดการล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตของคนข้างใต้ มือหนาลูบไล้สัมผัสอีกคนจนทั่วก่อนจะวาดลงมายัง หน้าท้องของแฟร์อย่างเย้าหยอก
“ฮึก! อ๊า!! อย่านะ! ปล่อยผม!!” ร่างบางพยายามดิ้นให้หลุด แววตาและท่าทางของราชันย์ตอนนี้ไม่มีทีว่าว่าจะล้อเล่นเขาเลยสักนิด
ร่างสูงเอาจริง! คือสิ่งที่สะท้อนเข้ามาในหัวของแฟร์อย่างจัง!!
ราชันย์ก้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย ริมฝีปากสีคล้ำดูดดึงสร้างรอยให้กับร่างบางจนแฟร์สะดุ้งโหยงเมื่อถูกฟันของอีกฝ่ายขบเม้มตามอารมณ์จนเกิดรอย
“ซี๊ดดดด”
แฟร์ส่งเสียงออกมาในขณะที่ร่างสูงจูบซับไปยังรอยที่สร้างเอาไว้ก่อนที่แฟร์จะบิดกายพร้อมกับรวบรวมแรงทั้งหมดเมื่อราชันย์พยายามจะรูดซิปกางเกงของเขาลง
“อยากร้องให้ใครช่วยมั้ยกูจะได้ไม่ต้องออมมือ สภาพมึงตอนไม่มีเสื้อผ้าไม่ได้ทำให้กูอายที่ทำเรื่องแบบนี้กับมึงเลยสักนิด! ร้องสิ! ร้องออกมา!” ราชันย์เอ่ยทับเมื่อเห็นว่าแฟร์กำลังจะตะโกนให้คนช่วยก่อนเขาจะใช้มือหนาเคลื่อนลงไปกอบกุมกลางกายของคนตัวเล็กเอาไว้และบีบคลึงมันจนแฟร์เริ่มรู้สึกเสียวซ่าน
“อ๊า! ฮึก อ่ะ! ยะ…อย่าทำแบบนี้กับผม อ่ะ!” แฟร์ร้องห้ามในขณะที่เรี่ยวแรงเริ่มจะไม่เหลือ คนด้านบนมีชั้นเชิงสูงจนเขาตามไม่ทันก่อนราชันย์จะกระชากเสื้อของแฟร์ออกและก้มลงดูดตุ่มไตเล็กบนหน้าอกของคนข้างใต้ราวกับหิวกระหาย
“คุณ! อ๊า!!” ร่างบางเชิดใบหน้าขึ้นตามแรงอารมณ์ที่ก่อเกิด แฟร์ไม่รู้เลยว่าตอนนี้รู้สึกยังไงเพียงแต่ใจของเขากลับสั่นสะท้านไปกับสัมผัสที่อีกฝ่ายกำลังมอบให้เสียจนสติเริ่มพล่าเลือนลงไปทุกที
ราชันย์จูบซับไปตามส่วนต่างๆ ของร่างบาง ทั้งหน้าท้อง หน้าอก เรื่อยขึ้นไปยังใบหู หน้าผาก ปลายจมูกก่อนจะปิดท้ายด้วยริมฝีปากสีระเรื่อที่ร่างสูงยากจะอดใจทุกทีที่เห็น
“พี่ราชันย์ครับ…!!”
“นนท์!!”
เสียงของคนมาใหม่ที่ดังมาจากทางประตูฉุดให้ความหวาบหวามที่กำลังก่อตัวขึ้นของทั้งสองชะงักงัน แฟร์รีบผลักราชันย์จนล้มลงไปบนเตียงก่อนที่เขาจะลุกขึ้นพลางคว้าเอาชายเสื้อที่เลิกขึ้นลงและรูดซิปกางเกงของตัวเอง
“พี่แฟร์!! นี่มันเรื่องอะไรกัน!!” นนท์มองพวกเขาด้วยสายตาอึ้ง ร่างเล็กตวาดถามกลับก่อนที่แฟร์จะเอาแต่มองไปด้วยแววตารู้สึกผิด
“พี่แฟร์! ทำไมพี่ถึงได้!...” นนท์ชะงักคำพูดมากมายเอาไว้ก่อนที่ร่างเล็กจะหันหลังเดินออกไป
“ฟังพี่อธิบายก่อนนะนนท์!” แฟร์วิ่งเข้าไปคว้าข้อมือของนนท์เอาไว้ก่อนเสียงของแพรวาที่เดินตามชานนท์เข้ามาจะสะกดความสนใจของทุกคนไปยังตัวเธอทันที
“โอ้ย! เอะอะอะไรกันไม่อายคนอื่นเขาบ้างเหรอ!” แพรวามองเข้ามาในห้องพลางเคลื่อนดวงตาเฉี่ยวมาปะทะกับร่างของแฟร์ที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยก่อนจะแสยะยิ้มสมเพชคนถูกมองขึ้นมา
“อดทนกันไม่ได้จนต้องลงมือนอกสถานที่แบบนี้เลยเหรอจ้ะ” เสียงแหลมเอ่ยขึ้นอย่างยียวนก่อนหญิงสาวจะชำเลืองไปทางราชันย์พร้อมกับเค้นยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย
ร่างสูงมองแพรวาสลับกับแฟร์ที่ทำหน้ารู้สึกผิดก่อนที่ร่างเล็กของนนท์จะสังเกตเห็นแววตานั้นพร้อมกับออกแรงสลัดแขนออกจากการเกาะกุมของ ร่างบางและเดินออกจากห้องไปในที่สุด
“นนท์ฟังพี่ก่อนนะเรื่องนี้พี่อธิบายได้! นนท์! เดี๋ยวนนท์!” แฟร์พยายามยื้อร่างเล็กของดาราหนุ่มเอาไว้แต่ร่างสูงของราชันย์กลับก้าวเข้ามาคว้าแขนของเขาและกระชากให้กลับมาแทน
เพี้ยะ!!
“ผมเกลียดคุณ!!” แฟร์ตบราชันย์จนหน้าหันก่อนจะตะคอกเขากลับและวิ่งตามชานนท์ออกไปทันที
“เป็นไงคะชันย์ยังอยากจะเปลี่ยนรสนิยมอีกมั้ยดูถ้าไม่ง่ายเลยนะ!” แพรวาได้ทีเหยียบย่ำร่างสูงด้วยคำพูด
“ออกไป” ราชันย์เอ่ยเสียงเรียบ แรงตบและคำพูดจากร่างบางเมื่อกี้ทำให้ร่างสูงชะงักด้วยหัวใจที่กระตุกวูบอย่างบอกไม่ถูกก่อนแพรวาจะนึกย่ามใจหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางนิ่งอึ้งของคนตรงหน้า
“หึ! โมโหมากเลยเหรอคะ ไม่เอาน่าคุณก็น่าจะรู้ว่าสิ่งมีชีวิตประเภทนี้เขาก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นไม่มีใครเป็นตัวจริง ส่ำส่อนไปทั่ว ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นแค่คนฆ่าเวลาของมันกะ…”
“กูบอกให้มึงออกไป!!”
“ชันย์!!” แพรวาถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างนิ่งอึ้ง สรรพนามที่ราชันย์ไม่เคยเอ่ยขึ้นกับเธอกลับถูกเขาเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางใบหน้าดุดัน
“ออกไปจากชีวิตกูซะที! อยากไปตายที่ไหนก็ไป!!” ราชันย์ตวาดกลับก่อนที่แพรวาจะตรงเข้าเขย่าร่างสูงที่ยืนนิ่งด้วยแรงโทสะ
“ชันย์กล้าพูดแบบนี้กับแพรเหรอคะ!!”
“กูกล้าอยู่แล้ว! ถ้ามึงไม่อยากเดือดร้อนไปมากกว่านี้อย่าเกะกะชีวิตกูอีก!!” ราชันย์ผลักร่างโปร่งของอดีตคนรักลงไปนอนกองกับพื้นก่อนที่เธอจะเอาแต่กรี๊ดลั่น
“กรี๊ดดด!!”
“คุณแหม่มผมขอยกเลิกจ้างนางเอกพรีเซนเตอร์คนนี้!...ผมเกลียดผู้หญิงคนนี้!...ใช่!…ดิสเครดิตด้วยไม่อย่างงั้นคนแบบนี้จะแว้งกัดเราไม่ปล่อย!”
“กรี๊ดดดด!!! ไอ้บ้า! มึงกล้าทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง!!” แพรวากรีดร้องราวกับเจ้าเขาเมื่อราชันย์โทรหาทีมงานที่จัดการเรื่องถ่ายโฆษณาในครั้งนี้
“กูเหนื่อยกับมึงมามากตั้งแต่ตอนคบกันจนมาถึงตอนนี้!…ไปซะ! กูไม่อยากขึ้นชื่อว่าลงมือทำร้ายผู้หญิง!!” ร่างสูงพูดก่อนทำทีจะเดินเข้าห้องน้ำไปแต่แล้วราชันย์กลับคิดเรื่องหนึ่งออกเขาจึงเอ่ยขึ้นมาเพื่อดักคออสรพิษในคราบมนุษย์คนนี้ก่อนที่คนตรงหน้าจะหาเรื่องมาให้เขาอีก
“อ่อ! แล้วถ้าอยากเอาคืนกูล่ะก็เห็นทีคงต้องคิดใหม่เพราะหลักฐานที่กูมีเรื่องยักยอกเงินบริษัทเมื่อสามปีก่อนคงพอเอาผิดให้มึงติดคุกไปหลายปี” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างถือไพ่เหนือกว่าก่อนร่างสูงจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทิ้งให้ แพรวานั่งกรีดร้องอย่างเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง
TBC..........-------------------------------------------------
#พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก!!
เกือบจะดีอยู่ละต้องมีเรื่องให้ทั้งสองคนผิดใจกันทุกทีแหละน่าาา
ตอนนี้แอบเอา NC ไม่จริงมาฝากพอให้กรุ้มกริ้ม
เป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยการเม้นท์หน่อยนะ
#แล้วอย่าลืมเป็นกำลังใจให้น้องแฟร์กับเฮียชันย์ด้วยยยย ^^