พี่ต่ายหายไป 4 เดือน
ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว
จำนวนเดือน x2 ไปเลย
+1 ด้วยความรัก(มากๆ)
:laugh:ผมว่างานนี้มีฟ้าเหลืองอ่ะ ไม่ใครก็ใครได้คลานลงจากเตียงกันมั่งล่ะ วุ๊ยคิดแล้วเขิลล
คิดแล้วเขิลเหมือนกัน ทำไปได้เนอะ 5555+ มาต่อรอบเช้ากันเลยค่ะ
*********************************
“โอม......ตื่นเหอะต้องเปิดร้านไม่ใช่เหรอ” เสียงกระซิบแว่วๆ และลมแผ่วๆที่ใบหูมันช่างเหมือนจริงจังเลยครับ แล้วใครมาสะกิดจมูกผมเนี่ย มาลูบแขนลูบหน้า.....ยังเช้ามืดอยู่เลย แล้วทำไมมันเมื่อยเนื้อตัวขนาดนี้นะ ผมยังไม่ลืมตา แต่ใจก็คิดๆๆๆเพลียลุกไม่ไหวแล้ว หรือว่าเรานอนฝันมากไปฝันอะไรขนาดนั้นไม่รู้ แล้วนี่มันฝันภาค2รึไง
ใครเอาคางสากๆมาถูที่แขนผมละเนี่ย มันขนลุกนะ เอ๊ยเอามือมาลูบหน้าอกผมทำไมกันเล่นอะไรบ้าๆ ผมเอามือปัดมือซุกซนนั้นออก ขนลุกเว้ย แล้วก็ผลักหน้าของคนที่คลอเคลียอยู่ออกไปด้วย
“ไม่เล่น...ง่วง...คนจะนอน”
“น่านะ....ขอก่อน...มีเวลาก่อนเปิดร้านแป๊ปเดียวเอง...นะ”
“ขออะไร....ไม่มีให้...จะนอน”ผมละเมอตอบงัวเงียไป ใครว่ะมาขออะไรแต่เช้า เช้าๆต้องมีแต่รับๆซิไม่มีหรอกจ่ายน่ะ ไม่เป็นมงคล
ผมว่าคนนั้นคงจะฟังที่ผมพูดไม่เข้าใจยังคงกอดรัดตัวผม มือไม้ก็อยู่ไม่สุข แน่ะมาลูบอะไรสะโพกผม คราวนี้ดันตัวผมให้นอนตะแคงครับ ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ อะไรเย็นวาบๆล่ะ เจ้ยยยย....อาาาา....อืมมมม อีกแระจะไม่ลืมตาก็ไม่ไหวแล้ว ก็หน้าที่คลอเคลียชักอยู่ไม่นิ่ง เริ่มมาไซร้ที่หลังหูผม แล้วไอ้ที่วาบๆนะมันชอนไชเข้ามาในตัวผมแล้ว อืมมมม... แล้วนี่ผมจะบรรยายให้ละเอียดไปทำไมเนี่ย ผมลืมตาเหลียวไปดูพี่ต่ายนี่นา งั้นที่ผมเมื่อยไปทั้งตัวก็คนนี้ละซิ ตัวจริงของจริง
“อืมมม.....โอม....โอม....” เรียกอยู่นั่นแหล่ะพี่ พี่ต่ายเริ่มรุกรานด้านหลังผมแล้วครับ
“อึกก....โอ๊ะพี่ต่ายอ่าเบาๆหน่อยพี่......อา”
“ก็เดี๋ยวโอมก็ว่าเบาไปอีก.....”น่านมีย้อนครับ หรือว่าผมคงเคยบ่นอะไรไว้พี่ต่ายเลยบอกอย่างงี้ หุหุหุ
พี่ต่ายเป็นคนรับผิดชอบครับได้หน้าไม่มีลืมหลัง เอ๊ยได้หลังไม่มีลืมหน้า มือพี่ต่ายยังคงทำงานประสานด้านหน้ากันไปกับด้านหลังอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมแทบจะทนไม่ไหว ต้องร้องขอพี่ต่ายอย่างที่พี่ต่ายบอกไว้จริงๆ
“พี่ต่ายเร็วๆหน่อยครับ อืมมม”
พี่ต่ายไม่พูดอะไรมากครับ ได้แต่ยินเสียงครางงึมงำไปพร้อมๆกับเสียงผมที่ไปด้วยกัน เหมือนคนร้องเพลงประสานเสียงที่ฟังไม่ออกว่าเป็นเพลงอะไร เสียงเนื้อกระทบกันยังคงดังต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่าพี่ต่ายกำลังคิดบัญชีทบต้นทบดอกกับผมอยู่ยังไงยังงั้นเลยครับ หายไป4 เดือนทำอย่างกับเงินฝากประจำเฉพาะกิจมีดอกเบี้ยในอัตราพิเศษยังไงยังงั้นเลย เมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอน เช้านี้มาต่ออีก...เอ่อ...หลายรอบจัง
กรูเหนื่อยยยย......
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจบลงไปเราสองคนได้แต่นอนแผ่หมดแรงครับ ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดู7 โมงพอดีผมทำท่าจะลุกขึ้นไปเปิดร้านตามหน้าที่ของผม แต่พี่ต่ายกดตัวผมลงนอนไป ผมกำลังจะอ้าปากท้วงพี่ว่าผมไม่ไหวแล้วนะพี่ถ้าพี่จะอีกรอบ รบกวนพี่ไปหาเอาข้างหน้าแล้วกัน บ้านผมคงต้องปิดซ่อมแล้วไม่ไหวแล้วพี่ มันจะชำรุดก่อนเวลาอันควรก็เพราะพี่เล่นแบบบัญชีสะสมน่ะพี่คิดบัญชีรวบยอดไปหมด
ตอนนี้ตัวพี่ต่ายก็คร่อมบนตัวผมแล้ว นี่พี่ไปตายอดตายอยากมาจากไหนนี่..... พี่ต่ายโน้มตัวลงมาจูบปิดปากผมครับลิ้นของพี่ต่ายรุกเข้ามาอย่างรวดเร็วเข้ามาล้อเล่นกับผม กัดริมฝีปากผมแรงๆเป็นนานกว่าจะถอนออกไป ผมแทบขาดใจไม่ไหวแล้วไม่มีแรง อยากร้องไห้ฮือๆๆๆ ทำไมแฟนกรูหื่นขนาดนี้
“ผม....ไม่...”จะบอกว่าไม่เอาแล้วววววว
พี่ต่ายก็พูดสวนขึ้นมาก่อนเลยครับ “โอมนอนต่อเถอะพี่ลงไปเปิดร้านให้เองนะครับที่รัก”
พี่ต่ายมองผมยิ้มๆ “จะเดินไหวรึเปล่า....หึหึ”
น่านเอาอีกแล้วครับพี่ต่ายทำผมอายหน้าแดง รู้ดีเสียจริงๆ ก็ใครล่ะครับไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอเลยทำเอาผมระบบไปทั้งตัว ไอ้เรื่องร่องรอยนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ คงต้องใส่เสื้อแขนยาวปิดให้มิดชิดอีกแล้ว
แล้วพี่ต่ายก็ลุกออกไปทั้งอย่างนั้นน่ะครับ มองด้านหลังยังน่ารักขนาดนี้ช่วงไล่กว้าง สะโพกลมมนบั้นท้ายที่เย้ายวน โอ๊ยยยแฟนผมทำไมมันเร้าใจขนาดนี้ ผมเริ่มคิดอะไรไม่รู้จนหน้าร้อนผ่าวไปหมดต้องนอนหันหลังให้พี่ต่าย ก็เล่นไม่ใส่อะไรเลยนี่ครับดีที่เดี๋ยวนี้ห้องนอนผมมีห้องน้ำในตัวแล้ว เลยไม่ต้องกลัวใครจะมาเห็นอะไร ไอ้เรื่องใครจะมาเห็นนี่ไม่ห่วงครับเพราะเป็นห้องส่วนตัว แต่เรื่องอื่นผมไม่แน่ใจครับ ผมว่าเราก็ลืมตัวกันไปทั้งสองคน ป่านนี้เค้าคงรู้กันหมดทั้งบ้านแล้วครับก็นะ เสียงเราสองคนก็ใช่ย่อยซะที่ไหน แต่ผมนอนคิดอะไรไม่นานก็หลับไปครับก็มันเพลียนี่นา
มารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบ9โมงแล้วครับ งานรออยู่มากมายจะมานอนอู้นานๆคงไม่ดี ผมเลยลุกไปอาบน้ำก็แทบแย่เลยครับ ต้องนั่งพักนึงก่อนแล้วค่อยๆลุก แต่ก็ต้องอดทนฝืนสังขารไป ผมลงไปไม่เห็นใครแล้วครับทุกคนไปทำงานกันหมด
ผมรีบทานข้าวที่เค้าวางเตรียมไว้ให้ด้วยอาการหิวเต็มที่ รู้สึกเหมือนต้องการพลังงานทดแทนครับ ตกลงพี่ต่ายมาอยู่นี่ผมกลับเหนื่อยกว่าเดิมไม๊เนี่ย แต่ไม่มีเวลาคิดมากครับ ผมรีบทานจนเสร็จจะได้ไปทำงานต่อ พอเข้าไปห้องทำงานปรากฏว่าพี่ต่ายมานั่งอยู่ที่โต๊ะผมแล้ว กำลังเอางานผมมาดูอยู่
พี่ต่ายเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วส่งยิ้มมาให้ “อ้าวตื่นแล้วเหรอโอมพี่กำลังจะไปปลุกพอดีเลย” ผมอยากบอกว่าไม่มาปลุกดีแล้วปลุกทีไรผมเป็นเสียตัวได้ทุกทีซิน่า
“หูยยยยย.....พี่งานผมเพียบเลย จะมานอนนานๆได้ไง เมื่อคืนก็ดูซิมีเหตุให้ไม่ได้ทำงานเลย ไม่รู้เป็นเพราะใครกัน” ผมเผลอทำตาดุใส่พี่ต่าย
แต่พี่ต่ายไม่ยักโกรธ กลับหัวเราะนิดๆแล้วตอบผมว่า
“ก็พี่จะช่วยโอมทำอยู่นี่ไง ไหนมาบอกพี่ซิว่าทำอะไรไปถึงไหนแล้ว พี่จะได้ช่วย”พอได้ยินแบบนี้มันเหมือพระมาโปรดเลยครับมีพี่ต่ายช่วยนี่ ยิ่งกว่าพระด้วยซ้ำผมว่าเหมือนเทวดามาช่วยจริงๆ มีพี่ต่ายคนนึงเหมือนมีผมสามคน สบายแล้วกรู ฮ่าๆๆๆ
“แล้วงานพี่ต่ายล่ะเรียบร้อยแล้วเหรอ เสร็จหมดไม่ต้องกลับไปทำเหรออีกตั้งสองอาทิตย์นะกว่าจะสิ้นเดือน”เมื่อคืนก็ไม่ได้คุยเลยครับลุยอย่างเดียว แหะๆ เพิ่งจะมาคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวก็ตอนนี้
“งานพี่เสร็จแล้ว แต่อาทิตย์สุดท้ายคงต้องกลับไปดู แต่อาทิตย์นี้พี่ลาพักร้อนแล้วจะมาช่วยโอมไง ดีไม๊ครับ” มันก็ต้องดีซิพี่ ผมกำลังต้องการพี่มากถึงมากที่สุดเลยล่ัะ ผมยิ้มด้วยความดีใจ พี่ต่ายพูดไปก็ก้มหน้าก้มตาดูงานของผม ไม่ได้เหลือบมามองผมซะด้วยซ้ำ พอจับงานทีไรก็เป็นแบบนี้ทุกทีซิน่า
“ดีมากๆเลยพี่ผมกำลังเหนื่อยจนจะขาดใจแล้วล่ะ”ผมก็ยังคงรำพันไม่ได้ ก็มันเหนื่อยจริงๆครับ แต่คงไม่มีเวลามาพูดกันนานนัก ช่วงเวลาหลังจากนั้นก็แบ่งงานกันไปทำของใครของมันครับ กลางวันพักทานข้าวแป๊ปเดียวแล้วก็รีบกลบมาทำงานต่อ จนกระทั่งเย็นกว่าผมจะได้เงยหน้าขึ้นมามองพี่ต่าย
พี่ต่ายนั่งทำงานเงียบๆมาตลอดทั้งวันเลยครับ ผมแอบนั่งมองพักสายตาจากงานชั่วครู่ แล้วก็อดคิดถึงตอนที่ผมทำงานกับพี่ต่ายไม่ได้ นั่งมองไปก็แอบยิ้มไปเพราะคิดถึงเรื่องเปิ่นๆมากมายที่เคยทำเอาไว้ ไม่คิดว่าบรรยากาศของการทำงานด้วยกันจะได้หวนกลับมาอีกครั้ง
“โอมฝันกลางวันเหรอลูก นั่งมองพี่เค้า มองไปยิ้มไป ทำอย่างกับคนบ้าแน่ะ หึหึหึ”เสียงที่ปลุกผมจากพะวังก็เป็นเสียงคุณนายแม่ของผมเองครับ แม่จับหัวผมโยกเบาๆ
“แม่อ่ะมาล้อผม” ผมอายจนหน้าร้อนผ่าวเลยครับได้ยินเสียงพี่ต่ายหัวเราะคิกๆกับแม่ ผมเหลือบไปมองพี่ต่ายเม้มปากกลั้นหัวเราะผมอยู่ หมดกันเลยมองแค่นี้กลายเป็นเรื่องทำผมขายหน้าไปซะได้
“แม่จะมาตามเราสองคนไปกินข้าว ทุ่มนึงแล้วลูกไปกินกันก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาทำงานต่อ หรือจะไปอาบน้ำกันก่อนล่ะลูก”แม่หันไปถามพี่ต่าย ก่อนมามองหน้าผม
“แล้วแต่พี่ต่ายครับเอาไงดี...พี่ต่ายหิวรึยัง”ผมโบ้ยการตัดสินใจไปที่พี่ต่าย
“ผมว่าทานให้เสร็จไปเลยดีกว่าครับจะได้เก็บจานไปเลยทีเดียว แล้วนี่คนอื่นทานกันหมดแล้วเหรอครับ”พี่ต่ายพูดไปเก็บของไปแล้วก็ถามแม่ไปด้วย
“เค้าทานกันครบหมดทุกคนแล้วลูก....ไปๆไปทานกันก่อน...ไปโอม...มาลูก”พอแม่บอกแบบนี้ผมก็เลยเก็บของก่อนชั่วคราวครับ เพื่อที่จะไปทานข้าวเย็น
อาหารเย็นมื้อนี้ก็ง่ายๆครับน้ำพริกปลาทู ชะอมชุบไข่ทอด ผักต้ม วันนี้แม่ตำน้ำพริกกะปิใส่แมงดาด้วย ของโปรดของผมที่เดียวแต่พี่ต่ายซิจะทานได้ไม๊ “พี่ต่ายทานได้ไม๊พี่น้ำพริกแมงดา”
พี่ต่ายมองแล้วส่ายหน้า “พี่ไม่เคยทาน...โอมตามสบายเถอะ พี่กินแต่ปลาทูก็ได้ กับข้าวอื่นก็ตั้งเยอะแยะ” ผมดูอาหารอื่นมีแกงเรียงกุ้งแม่อุ่นให้ร้อนๆ ผัดคะน้าปลาเค็ม น่าทานมากๆเลยครับ พี่ต่ายก็น่าจะพอทานได้
“งั้นก็ทานกันเลยพี่”ผมตักข้าวให้พี่ต่ายแล้วเราก็เริ่มลงมือทานกันสองคน เพราะคนอื่นแยกย้ายกันไปที่ห้องนั่งเล่นกันหมดแล้ว
“พี่ต่ายเดือนหน้าผมจะไปงานแต่งงานเพื่อนที่กรุงเทพฯนะพี่ ซักวันที่7 รู้สึกจะเป็นวันอาทิตย์ แต่ผมว่าจะไปวันเสาร์ค่ำๆ แล้วไงผมจะโทรบอกพี่อีกที พี่จะได้ไม่ต้องลงมาหาผม”
“พี่ไปด้วยได้ไม๊โอม”พี่ต่ายถามผม ผมอดแปลกใจไม่ได้ แต่ก่อนเวลาผมนัดเพื่อนพี่ต่ายไม่เคยคิดจะไปด้วยไม่รู้คราวนี้คิดยังไงซิ
“พี่ต่ายนึกยังไงถึงอยากไปด้วย”ผมขมวดคิ้วสงสัยตะหงิดๆ
“ก็...ก็....แค่อยากรู้จักเพื่อนโอมมั่ง...โอมไม่สะดวกใจให้พี่ไปด้วยเหรอ”พี่ต่าย
มองหน้าถามผม ผมก็ไม่แน่ใจตัวเองซิว่าพี่ต่ายจะไปในฐานะอะไรกันแน่
“เปล่าพี่ผมแค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้นเองแหล่ะ” ในขณะเดียวกันผมก็ถามตัวเองไปด้วยว่าจะให้พี่ต่ายไปด้วยดีไม๊ แล้วพี่ต่ายก็ถามสิ่งที่ผมคิดขึ้นมาพอดี
“แล้วตกลงโอมจะให้พี่ไปด้วยไม๊ล่ะ”ก็นั่นซิเอาไงดีล่ะ ถ้ารู้เลยจะมานั่งคิดอยู่เหรอพี่ต่ายก็นะ
“อืมมมม....ก็ถ้าพี่ต่ายไปผมกลัวพี่ต่ายจะอึดอัดน่ะ”อย่าไปเลยพี่ ผมขี้เกียจคิดว่าจะแนะนำพี่ยังไง อันนี้คิดในใจครับ
“โอมเห็นพี่เป็นคนเข้ากับคนยากเหรอ...พี่น่ะสบายๆที่สุดแล้วนะ”ก็จริงของพี่ต่ายผมว่าพี่ต่ายค่อนข้างเข้ากับคนง่าย อาจจะเป็นเพราะผ่านงานที่ต้องเจอคนมากหน้าหลายตา การพูดคุยก็คล่องมากกว่าผมเสียอีก
“ก็ตามใจพี่แล้วกัน...ไม่รู้คิดยังไง”ประโยคหลังนั่นผมบ่นกับตัวเองครับ แต่คิดว่าพี่ต่ายก็คงได้ยินแต่ไม่เห็นพูดอะไร เอาไงก็เอากันในเมื่อเส้นทางนี้ผมเลือกแล้วนี่ผมก็ต้องเผชิญหน้ากับมันให้ได้
เราก็เลยจบเรื่องไปงานแต่งงานไปโดยปริยาย เราจะเจอกับอะไรก็ค่อยไปคิดเอาตอนนั้นแล้วกัน เราก็ยังคงทานข้าวต่อไปอย่างเงียบๆ ต่างคนต่างใช้ความคิด ผมน่ะคิดเรื่องงานที่กำลังทำอยู่ว่าเหลืออะไรบ้าง แต่พี่ต่ายผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อ้าวข้าวหมดไม่รู้ตัว
อืมวันนี้แม่ตำน้ำพริกอร่อยจังเลย ผมลูกขึ้นไปตักข้าวจานที่สอง สงสัยคงเป็นเพราะเหนื่อยจากการทำงานด้วยเลยทำให้ทานข้าวได้มากกว่าปรกติ
“พี่ต่ายเอาข้าวเพิ่มไม๊ครับ...หรือจะรับขนมจีบ ซะละเปาไม๊ครับ”แหะๆแอบกวนนิดหน่อยครับ แหมก็พี่ต่ายเล่นทานเงียบเลย พี่ต่ายเงยหน้ามองผมยิ้มๆแล้วบอกว่า
“พี่ไม่เอาขนมจีบซะละเปาแต่วันนี้..... ขอของหวานเป็นโอมได้ไม๊ครับ”
“คงไม่ได้ครับพี่...พอดีตอนนี้ของขาดสต๊อคคงต้องรออีกหลายวันเลย มันหมดไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับพี่มีคนมาเหมาไปหมด อิอิ”
“ว้าแย่จัง...งั้นทำไงดีไม่มีของหวานเป็นโอม...พี่ก็ไม่มีแรงทำงานซะด้วยซิ...งั้นพี่กลับกรุงเทพฯดีกว่า”
กรรมแล้วไงกรู ไม่น่าไปหาเรื่องแหย่เลย พี่ต่ายได้ทีเลยเอาเรื่องงานมาขู่ผม ร้ายจริงๆเชียวแฟนใครว่ะไม่สั่งไม่สอน
“พี่ต่ายช่วยผมทำก่อนเถอะนะ ปีนี้ผมเหนื่อยจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
พี่ต่ายเงยหน้าทำตาวิบวับมองผม “ทำอะไรโอมพูดไม่เคลียร์เลย”
“ก็ทำงานน่ะซิ จะให้ทำอะไรล่ะพี่ นี่ผมเครียดจนเส้นเลือดในสมองเต้นแทงโก้แล้วนะ ยังจะมากวนได้อีกนะพี่”มากวนกันไม่รู้เวลาล่ำเวลาจริงๆพี่ต่าย
แต่พี่ต่ายคงกลัวผมจะโกรธไปจริงๆเลยบอกผมว่า
“พี่ก็แค่ล้อเล่นนะโอม เรามารีบทำงานให้เสร็จดีกว่าจะได้สบายกันทั้งคู่แล้วจะได้ไปเที่ยวกัน...ดีไม๊ครับ”
แล้วพี่ต่ายก็ลุกขึ้นเก็บจานข้าวทั้งของพี่ต่ายและของผมที่ทานเรียบร้อยแล้วเข้าไปวางในครัว แล้วก็เดินไปทำงานต่อเลยครับ ผมซิยังยืนงงกับอาการผีขยันของพี่ต่ายที่เข้าสิงอย่างปัจจุบันทันที กว่าจะรู้สึกตัวพี่ต่ายก็เดินไปนู่นแล้ว
“เดี๋ยวซิพี่รอผมด้วย....”ผมต้องรีบวิ่งตามไปเลยครับ เออเอากะพี่ต่ายซิปรับโหมดไม่ทันเลยเว้ย
หลังจากคืนนั้นเราก็ทำกันจนเที่ยงคืนทุกวันครับ ทำงานนะครับอย่าคิดในทางอื่น แหะๆๆ ทำงานแบบนั้นจนอาทิตย์ก่อนสิ้นเดือนพฤษภาคมงานของผมก็เรียบร้อยทันเวลาพอดี ก็ค่อนข้างจะฉิวเฉียดครับแต่ก็ทันแบบสบายๆครับ ผมมีความรู้สึกว่านักบัญชีหลายๆคนก็คงเจอแบบผมมาแล้วครับ ไม่รู้ว่าที่ผ่านๆมาขี้เกียจทำงาน หรือว่าช่วงขยันมันเป็นฤดูแบบมาเป็นช่วงๆเหมือนผลไม้ที่ออกตามฤดูกาลน่ะครับ ฮ่าๆๆๆ ไม่ถึงฤดูขยันก็ยังไม่ออกผลผลิตเป็นงานออกมา ไม่รู้ว่าอาชีพอื่นจะเป็นแบบนี้ไม๊
*************************************************
ไปทำงานต่อดีกว่า อิอิ