•:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบหัวใจ ღ•:*´¨`*:• แจ้งเลขพัสดุ หน้า51
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: •:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบหัวใจ ღ•:*´¨`*:• แจ้งเลขพัสดุ หน้า51  (อ่าน 384237 ครั้ง)

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4


ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
น้องกิฟสูงมากครับ เรียกว่าหุ่นนางงามก็คงจะได้  ผมยังพินิจพิจารณาน้องอยู่สักครู่  แล้วประเมินผลว่า ผมน่าจะเจอศึกหนักซะแล้วผมจะไปสู้อะไรกับเด็กได้ ตอนนี้ใครๆก็นิยมกินเด็กกันทั้งนั้น
^
^
^
เด็กๆ เค้าก็ชอบบบ  แต่คนนี้คงกินไม่ลง :oak:









เด็กซกม่ก  :laugh:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3

kakoku_kin

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:  อ่านแล้วต้อนสอง อิอิอิ น้องกิฟ  เป็น...พี่ล้อเล้น


อ่านแล้วต้อนสอง ดีใจจังขอรับพี่ฟาง


มาต่อไวๆๆๆๆๆ :กอด1:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมเดินทางไปด้วยกัน ไปกันแบบชิวๆไม่มีอะไรต้องห่วงเพราะอ่านอย่างเดียวได้เที่ยวแบบไม่ต้องเสียเงินนะคะ บอกแล้วว่ามีหรือไม่มีคนอ่านก็เขียน ถ้ายังไม่หมดมุกเสียก่อน :laugh:
ความเดิมตอนที่แล้วค่ะ
#1มาได้อีกรอบ

#2เพื่อนร่วมทาง


*******************************
#3 วัดร่องขุน

ผมไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ  น้องกิฟสุดสวยที่ผมคิดกังวลมานานเกือบครึ่งชั่วโมงที่แล้วว่าฟังจากชื่อน่าจะเป็นผู้หญิงมากกว่า พอเจอหน้าก็ยังคิดว่าทำไมหน้าหวานจัง แต่ตัวสูงมากราวๆ180น่าจะได้   แถมก็หุ่นนางแบบขนาดนี้ผอมบางสูงชะลูด แต่พอน้องพูดออกมาเท่านั้นเสียงห้าวๆแบบผู้ชายก็ทำให้รู้ทันทีว่าน้องเป็นผู้ชายแน่ๆ  แต่เป็นแบบไหนต้องดูกันต่อไปครับ ผมยังตัดสินใจไม่ได้อยู่ดีว่าระหว่างเพื่อนร่วมเดินทางของผมที่เป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงจะน่ากังวลกว่ากันแน่

“พี่โอมหิวไม๊ครับ เดี๋ยวผมพาไปทานข้าวกันก่อน นะพี่ต่ายนะ” น้องกิฟยังคงชวนผมคุยทั้งที่ผมก็เสียมารยาทไม่ตอบน้องซักคำ
“เออๆจะพาไปไหนก็พาไปเลย แต่ทำไมกิฟดูหน้ายุ่งๆจัง เพิ่งตื่นเหรอ”
พี่ต่ายกับกิฟช่วยกันยกกระเป๋าใส่รถ ผมก็ขึ้นไปนั่งข้างหลังทันที ยังอึ้งๆไม่หาย ไม่รู้ควรสบายใจหรือควรหนักใจกว่าเดิมที่น้องเป็นผู้ชาย เฮ้อๆๆๆ ได้ยินเสียงกระซิบที่ดังพอจนผมได้ยินว่า “พี่โอมเป็นอะไร โกรธอะไรกิฟหรือเปล่า ไม่พูดด้วยน่ะ”
“ไม่เป็นอะไรหรอก กำลังตกตะลึงในความงามของกิฟ ฮ่าๆๆๆ”
“พี่ต่ายอ่ะ อย่าแซวซิ ผมเขินนะ พระเจ้า....”  ดูครับหยอกล้อกันไม่เกรงใจผมบ้างเลยนะ พระเจ้า.....

สักพักทุกคนก็ขึ้นรถครับ เนื่องจากเป็นเช้าวันเสาร์รถราก็เลยไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ แต่อากาศก็ยังเย็นๆอยู่ดี  ตอนนี้แปดโมงกว่าแล้วครับ  ผมเริ่มตั้งสติได้แล้วก็รู้ว่าตัวเองเสียมารยาทไปหลายครั้งที่น้องชวนคุยแต่ผมไม่ได้ตอบ ทั้งที่น้องก็ดูอัธยาศัยดี “น้องกิฟยังเรียนอยู่รึเปล่าครับ” ถามไปแล้วก็รู้สึกว่าตรูช่างถามอะไรโง่ๆน้องเค้าเด็กขนาดนี้ก็ต้องเรียนอยู่ซิ

“เรียนครับ ผมเรียนปี1”น้องกิฟท่าทางดีใจที่ผมคุยด้วย พี่ต่ายก็ยิ้มอยู่ได้ไม่รู้ขำอะไรนักหนา
“แล้วจะไปเที่ยวกับพวกพี่ไม่ต้องเรียนเหรอครับ จะขาดเรียนหรือเปล่าพี่เกรงใจ” เรื่องนี้คิดแบบนั้นจริงๆนะครับ ไม่ได้จะกีดกัน หรือมีแผนสกัดดาวรุ่งแต่อย่างใดจริงๆ สาบานได้
แล้วพี่ต่ายจะยิ้มรู้ทันต่อไปอีกนานไม๊เนี่ย อยากจะหยิกให้จริงๆเลยครับ กวนประสาท

“อ๋อ...ผมก็ว่าจะโดดนะครับ ช่วงนี้เพิ่งสอบเสร็จ พอมีเวลานิดหน่อย"เจริญแล้วซิ!!พวกผมมาพาน้องโดดเรียน
" แต่เดี๋ยวผมพาพวกพี่ไปทานข้าว แล้วไปเอารถเช่า แล้วสงสัยต้องให้พวกพี่รอผมแป๊ปนะครับจะไปเตรียมเสื้อผ้าที่บ้าน แหะๆเมื่อคืนเที่ยวหนักไปหน่อยยังไม่ได้เตรียมกระเป๋าเลย อีกอย่างนึงขอไปอาบน้ำก่อนไม่ได้อาบมาตั้งแต่เมือวาน หุหุ” มิน่าหัวเป็นปึกเลยครับ กร๊ากกก แต่ก็ยังหน้าหวานอยู่ดีถึงแม้จะซกมกเล็กน้อย

น้องก็ดูธรรมชาติดีครับ ก็เด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งบังเอิญมีหน้าหวานเท่านั้นเอง(มั๊ง) ใช้เวลาทานข้าวไม่นานครับ เราก็ซัดข้าวสวยกับต้มเลือดหมูหมดกันไปคนละจาน  ร้านนี้อยู่ตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เป็นอาหารเช้ามื้อแรกที่เชียงใหม่ของเรา แล้วพร้อมๆกันที่ความสัมพันธ์ของผมกับน้องกิฟก็เสมือนรู้จักกันมาสองชาติครึ่งแล้ว น้องพูดเก่งมากครับ มากถึงมากที่สุด  แล้วก็เข้ากับคนง่ายมาก จนไม่เหลือความขัดเขินระหว่างเราอีกต่อไป แต่ผมก็ยังกังวลใจอยู่ว่าน้องจะรู้ความสัมพันธ์ของผมกับพี่ต่ายแล้วน้องจะอึดอัดใจหรือเปล่า  ก็ได้แต่หวังว่าน้องจะเข้าใจเรา

กิฟพาไปเช่ารถที่บริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งที่น้องเคยใช้บริการ นัยว่าเจ้าของอัธยาศัยดีและไม่สตริกเรื่องเวลาคืนรถเท่าไหร่  เราขับรถวนอยู่สองรอบกว่าจะหาที่จอดรถได้ เนื่องจากร้านอยู่ที่ริมถนนใหญ่ทำให้ไม่มีที่จอดรถ เราเลยต้องไปจอดขวางปิดทางซอยคนเดินเข้าออก ข้างๆวัดดอกคำ   มีลุงคนหนึ่งนั่งเฝ้าบริษัทเช่ารถอีกบริษัทหนึ่งที่อยู่ข้างๆแกเขม้นมองพวกเราราวกับว่าทำผิดกฎหมายกันอยู่  (แค่จอดปิดซอยนะลุง...หุหุทำผิดแล้วยังไม่สำนึก)

“นี่คุณ!!!ทำไมไปจอดรถปิดทางเข้าออกแบบนั้นเล่า”แกชี้มาที่พี่ต่ายหน้าตาเอาจริงเอาจัง ดีที่แกไม่ได้เอาผ้าคาดตาแล้วพี่ต่ายไม่ได้เอาผ้าคลุมหน้า  ไม่งั้นผมต้องคิดว่าพี่ต่ายไปทำอะไรลุงไว้แน่นอน  ลุงแกดูเคร่งเครียดขมวดคิ้วใส่พวกเรา

“ขอโทษครับลุง พอดีเรามาติดต่อตรงนี้ไม่นานครับ มีน้องรออยู่ที่รถถ้ามีคนออกเดี๋ยวขยับรถให้”พี่ต่ายตอบไปอย่างสุภาพที่สุด แล้วทิ้งผมไว้กับลุงหน้าบึ้งคนนั้นไว้เพียงลำพังแล้วก็เดินไปติดต่อรถกับน้องกิฟ

(ป้ายปากซอยที่เราไปปิดซอยกัน อภินันทนาการภาพจากคุณน้อง life_fracture)

  ผมก็มองนู่นนี่ถ่ายรูปวัดไปเรื่อย พอหันหน้ามาคราใด ก็สบสายตาแกทุกที  ผมได้แต่หลบด้วยความเขินอาย....เอ๊ยยยยไม่ใช่แระ ผมได้แต่หลบสายตาแกที่มองระแวดระวังผมตลอด ผมอยากจะเดินตรงเข้าไปถามว่าทำไมมันผิดนักหรือที่ไม่เช่ารถบริษัทลุง  ได้โปรดอย่ามองผมแบบนั้นได้ไม๊ขอร้องงงง

สักพักพี่ต่ายกับน้องกิฟก็ออกมาครับผมเลยโล่งอกรอดจากลุงไปซักที  เราขับรถไปเอารถครับ รถที่เช่าเป็นรถฮอนด้าแจ๊ซสีบรอนซ์เทา เช่าในอัตราวันละหนึ่งพันบาทเรากะว่าจะเช่าจนวันกลับเลยครับพี่ต่ายเลยรูดการ์ดชำระค่าเช่าไว้เรียบร้อย เจ้าของบริษัทใจดีเราเช่าสี่วันแต่เค้าคิดแค่สามวัน  วันสุดท้ายเราสามารถคืนเลทได้จนถึงสี่โมงเย็น แต่จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยครับว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ใช้ชีวิตแบบไม่รู้จุดหมายมันเป็นแบบนี้นี่เอง

“ขำมากเลยนะพี่ต่าย ที่พี่เค้าถามว่าเราจะขึ้นเขากันรึปล่า ผมละกลัวพี่จะตอบไปตรงๆว่าเราจะไปนอนภูชี้ฟ้ากัน”พี่ต่ายกับกิฟขำกันใหญ่ แต่ผมไม่ขำเพราะไม่รู้เรื่องที่เพิ่งรู้ว่าก็คืออย่างน้อยเราจะไปภูชี้ฟ้ากัน แต่ก็สงสัยอยู่ดี “ทำไมเหรอกิฟขึ้นเขาแล้วทำไม”

กิฟกับพี่ต่ายหัวเราะเบาๆ “ก็พี่เค้าบอกว่าถ้าขึ้นเขาให้ใช้เกียร์ต่ำ ถ้าคนขับรถไม่เป็นเหยียบแต่เบรก  ผ้าเบรกก็ไหม้หมด คนกรุงเทพขับขึ้นเขาลงเขากันไม่ค่อยเป็นหรอพี่โอม  พี่เค้ากลัวรถพังน่ะครับ”
“อ๋อแสดงว่าที่เราจะไปนี่ขึ้นเขาลงเขาล้วนๆเลยซิ หึหึ” ผมชักสงสัยว่าจะไปกันรอดไม๊   ขนาดเขาใหญ่ยังนานๆทีพี่ต่ายถึงจะได้ขับขึ้นเลย ความชำนาญนี่ไม่สามารถระบุได้ ส่วนผมก็พอได้แต่ทางราบ ส่วนกิฟนี่เพิ่งรู้จักเลยไม่รู้ว่าฝีมือเป็นยังไง

“แล้วภูชี้ฟ้าเคยขับกันไปไม๊เนี่ยกิฟ พี่ต่าย”
“ไม่เคยครับ”สองคนพี่น้องประสานเสียงกันอย่างไพเราะครับ เจริญแล้ว!! ไปเสี่ยงเอาดาบหน้าจริงๆ แต่ดูสองคนเค้าไม่เดือดร้อนกันเลยครับ 

กิฟแยกไปที่บ้านเพื่อเก็บเสื้อผ้าและอาบน้ำ  ส่วนผมกับพี่ต่ายไปรอกิฟในมช.ที่หอของมหาวิทยาลัย  เรานั่งกันอยู่ที่ใต้ตึกหอคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีน้องๆนักศึกษานั่งกันเป็นกลุ่มๆอ่านหนังสือ  คุยกันปรึกษาหารือมากมายบรรยากาศรอบๆหอก็สวยงามเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณหลากสีสัน  เนื่องมาจากช่วงก่อนมีงานรับปริญญา   ดูแล้วก็เป็นมหาวิทยาลัยที่น่ามาเรียนมากเลยครับ  พวกผมนั่งคุยกันไม่กล้ามองซอกแซกมากกลัวความใสของเด็กๆครับได้แต่นั่งหันหลังให้พวกน้องๆ 

ในที่สุดน้องกิฟขี่มอเตอร์ไซด์มาถึงด้วยผมกระเซอะกระเซิง  น้องบอกว่าบิดมาจนช่วงล่างรวนไปหมดแล้วถ้าเร็วกว่านี้เกรงว่าจะเป็นหมัน  เพราะ เกรงใจที่ให้เรารอนาน  แต่ได้ข่าวว่าพวกผมรอไปเกือบสองชั่วโมง จนผมนึกว่าน้องไปทำสปามาก่อนที่จะมาหาพวกผม หน้าผ่องมากครับ เอิกซ์ซซซ 

  เราแวะซื้อน้ำ ขนมขบเคี้ยว เสบียงกรัง ติดรถไปนิดหน่อยที่สหกรณ์ของมหาวิทยาลัย  แล้วเราก็เริ่มออกเดินทางไปเชียงรายกันโดยมีจุดหมายคือนอนค้างที่ภูชี้ฟ้าในคืนวันวาเลนไทน์ครับ

 เราออกจากเชียงใหม่โดยมุ่งหน้าไปทางเส้นทางสาย เชียงใหม่ ดอยสะเก็ด เวียงป่าเป้า แม่ขะจาน แม่เจดีย์ แม่สรวย เชียงราย ระยะทางประมาณ190กม. เส้นทางจากเชียงใหม่ไปจังหวัดเชียงรายค่อนข้างคดเคี้ยว น้องกิฟเป็นคนขับเพราะชำนาญทางมากกว่า แต่ผมว่าพี่ต่ายกินแรงเด็กมากกว่า หึหึ ส่วนผมก็กินแรงทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพราะทริปนี้ผมเป็นพระราชา สบายครับลอยตัวยังไงพี่ต่ายก็ไม่ให้ผมต้องลำบากอยู่แล้ว หุหุ

น้องกิฟขับรถค่อนข้างเร็วถึงแม้จะเข้าโค้งไปตลอดทาง แต่ก็ดูปลอดภัยดีครับเพราะมีความชำนาญ (เป็นข้ออ้างของคนที่ขับไม่เก่งอย่างผมนะครับ แหะๆ)  เรามาถึงแม่ขะจานก็ใกล้เที่ยงพอดี เราเลยแวะทานข้าวขาหมูที่น้ำพุร้อนแม่ขะจาน  กิฟบอกว่าเป็นข้าวขาหมูภูเก็ตแต่มาทำขายที่เชียงราย




ร้านข้าวขาหมูตั้งอยู่บริเวณที่เป็นจุดหยุดพักรถของนักท่องเที่ยว มีร้านค้าขายของเรียงรายอยู่หลายร้าน แต่น่าเสียดายที่มันเงียบเหงามากเลยครับ นักท่องเที่ยวน้อยมากจนน่าใจหาย  ของที่ขายก็มีตั้งแต่ของที่ระลึก เพชร พลอย เครื่องเงิน เสื้อผ้า ด้านหน้าของจุดพักรถข้างๆร้านข้าวขาหมูมีน้ำพุร้อนธรรมชาติที่พุ่งขึ้นมาสูงมากราวๆสองเมตร เสียงของแรงดันน้ำดังฟู่ๆจากแรงอัดมาจากใต้ดินดังจนเราตกใจ

“บางครั้งสูงกว่านี้อีกนะพี่ วันนี้ยังนับว่าไม่สูงเท่าไหร่  พี่โอมจะแช่เท้าก็ได้นะครับ หรือจะต้มไข่ก็ได้ หรือพี่ต่ายจะต้มไข่ ก็ลงไปแช่ทั้งตัวเลยก็ได้พี่ ไข่พี่สุกแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ” น้องกิฟแซวพี่ต่ายครับ ผมได้แต่หัวเราะตามน้ำไปว่าน้องเข้าใจแซว   

แต่พี่ต่ายก็คงไม่รู้สึกครับพูดแค่ว่า “ถ้าพี่ต้มไข่ไปแล้วน้องโอมจะเอาที่ไหนใช้ละครับกิฟ เค้าก็โกรธพี่แย่ซิ หึหึ”ผมเลยต้องรีบหยุดหัวเราะแทบไม่ทันเลยครับ  หน้าแดงอายเด็กกิฟที่หัวเราะคิกๆอยู่
“พี่ต่ายจะกินไม๊ข้าวขาหมู  หรือว่าจะกินขาอย่างอื่นแทน ผมจะได้จัดให้ ฮึ”ผมแกล้งตวัดขาแกว่งไปมา พี่ต่ายไม่พูดอะไรอีกได้แต่หัวเราะขำ   ผมลากแขนพี่ต่ายดึงเข้าร้านด้วยความอายน้อง เดี๋ยวนี้พี่ต่ายพูดจาล่อแหลมตลอด ไม่รู้ไปเรียนรู้มาจากไหน 

ข้าวขาหมูวันนี้จานละร้อยบาทครับ แม่ค้าบอกว่าราคาเนื้อหมูแพงขึ้น เราผู้ชายสามคนกินกันไปสองจาน กับแกงจืดเต้าหู้  ผัดเห็ดรวมมิตร ผักผัก ปาเข้าไปสี่ร้อยบาท   พอเค้ามาคิดเงินผมนึกว่าอยู่กรุงเทพฯถัวเฉลี่ยหัวละร้อยกว่าบาท ขาหมูเหลืออยู่ครึ่งจานกว่าๆเราเลยตัดสินใจห่อมาไว้ก่อนครับ จะได้กินยังไงที่ไหนค่อยว่ากันอีกที ยุคนี้ยุคประหยัดจะกินทิ้งๆขว้างๆไม่ได้อีกแล้ว แล้วผมก็ไม่ลืมขอน้ำจิ้มมาด้วย ฮ่าๆๆๆ หมาที่บ้านชอบน้ำจิ้มครับ ก่อนออกมาเราก็แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันนิดหน่อย ผมลองเอามือไปจิ้มๆน้ำพุดูร้อนเหมือนน้ำต้มเลยครับถ้าพี่ต่ายจะลงไปจริงๆผมเป็นไม่มีไข่ใช้จริงๆด้วย 

จากน้ำพุร้อนแม่ขะจาน เราเดินทางต่อเข้าสู่เมืองเชียงราย  โดยจะเที่ยวตามสถานที่ๆอยู่ในเมืองก่อน  สถานที่แรกที่เราจะไปคือ  วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือคุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่ และมีพระกิตติพงษ์ กัลยาโณ รักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน    อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างวัดมาจาก 3 สิ่งต่อไปนี้คือ
1.   ชาติ : ด้วยความรักบ้านเมือง รักงานศิลป์ จึงหวังสร้างงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน
2.   ศาสนา : ธรรมะได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากจิตที่ร้อนกลายเป็นเย็น จึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา
3.   พระมหากษัตริย์ : จากการเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก จากการพบเห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะและพระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงปรารถนาที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ถวายเป็นงานศิลปะประจำรัชกาลพระองค์ท่าน
•   ความหมายของอุโบสถ
•   สีขาว : พระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า
•   สะพาน : การเดินข้ามจากวัฎสงสารสู่พุทธภูมิ
•   เขี้ยว หรือ ปากพญามาร : กิเลสในใจ
•   สันของสะพาน : มีอสูรอมกัน ข้างละ 8 ตัว 2 ข้าง รวมกันแทนอุปกิเลส 16
•   กึ่งกลางของสะพาน : เขาพระสุเมรุ
•   ดอกบัวทิพย์ : มี 4 ดอกใหญ่ตรงทางขึ้นด้านข้างอุโบสถแทนซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์ คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
•   บันไดทางขึ้น : มี 3 ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
(ขอบคุณข้อมูลจาก วีกิพีเดีย)



ตอนที่เราเอารถเข้าไปจอดในบริเวณวัด ขนาดว่าอยู่ไกลๆยังเห็นถึงความงามของศิลปะและรัศมีที่ส่องประกายออกมาของศาสนสถานแห่งนี้  ถ้าพูดตามศัพท์ของอ.เฉลิมชัย ก็ต้องบอกว่ามันมีพลังงงง!!!!ครับ มันช่างงดงามวิจิตรพิสดาร แฝงไว้ด้วยความอ่อนช้อย  งามไปด้วยศิลปะแบบไทยๆ เส้นสายที่พลิ้วไหวไปราวกับภาพวาด มิใช่ปูนปั้น  แสงของกระจกที่ติดเป็นเส้นริ้วๆตามขอบปูนสะท้อนกับแสงอาทิตย์ส่องประกายราวกับมีแสงออกมาจากวัดจริงๆ แดดที่ร้อนในเวลาบ่ายกลับยิ่งทำให้วัดร่องขุนที่มีสีขาวสะท้อนล้อกับแสงแดดได้อย่างสวยงาม ผมถ่ายรูปไปด้วยความเพลิดเพลินทั้งที่แสดงแดดเผาแขนผมจนแทบจะไหม้

ด้านหน้าของวัดมีน้ำล้อมรอบมีสะพานให้เราข้ามไป ในน้ำมีปลาเงินสีขาวว่ายวนไปมาอยู่มากมายเป็นฝูง ตัดกับสีของตะไคร่น้ำสีเขียวๆกลับ สวยดีไปอีกแบบ
“สวยเนอะพี่ต่าย เคยเห็นแต่ในรูปก็ว่าสวยมากแล้วนะ พอมาดูของจริงทึ่งไปเลย ไม่เหมือนวัดอื่นๆจริงๆ”
“ใช่ สวยมาก กิฟมาบ่อยไม๊ครับ”พี่ต่ายหันไปถามน้องกิฟที่กำลังเพลินกับการถ่ายรูปวัดและรูปตัวเองอยู่ หึหึ  สงสัยจะเอาไปรวมรุปทำอัลบั้มเดี่ยว

“ก็มาไม่บ่อยครับ แต่เคยมาแล้ว มาทีไรมันก็สวยทุกทีนะพี่ โอ้....พระเจ้า”น้องกิฟยังคงสนุกสนานกับการถ่ายรูป เราสองคนเลยเข้าไปชมด้านในซึ่งมีภาพวาดของอาจารย์เฉลิมชัยที่ยังไม่เสร็จอยู่   ภาพวาดที่ริมฝาผนังเสร็จไปเพียงด้านเดียว อีกด้านหนึ่งมีเป็นภาพร่าง เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา แต่ผมไม่รู้จะบรรยายอย่างไรเพราะความรู้กับความจำของผมก็แค่หางอึ่ง แหะๆ และด้านในไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูป

เราเข้าไปกราบพระประธาน  แล้วก็เดินชมความงามของภาพวาด  “โอมมาดูนี่ซิ”พี่ต่ายกวักมือเรียกผมไปดูที่ภาพวาด ผมมองตามที่พี่ต่ายชักชวนให้ผมชม    เป็นรูปของนาฬิกาข้อมือแบบสมัยใหม่ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ายี่ห้อแท็คฮอยเออร์รึเปล่า
 “หูยยย..สุดยอดเลยมีซุปเปอร์แมนกับ เดอะเมทริคด้วย ฮ่าๆๆๆ คีนูรีฟก็มาด้วย”
“เข้าใจทำจริงๆ อีกหน่อยพอคนรุ่นหลังมาดูก็จะรู้ว่ายุคเรามีอะไรบ้าง นี่ไงโอมมียานอวกาศด้วย”
“ดีนะพี่ แปลกสุดๆเลย แต่ผมว่าคนรุ่นเก่ามาดูคงงงว่า นี่มันอะไรกัน หุหุ”

 นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ชมผลงานภาพวาดของอาจารย์เฉลิมชัยของแท้ๆครับ  ผมรู้สึกทึ่งในฝีมือครับ เรื่องของศิลปะนี่เป็นพรสวรรค์ของใครของมันจริงๆ  ให้ผมวาดก็คงได้แค่พระจันทร์ยิ้มเท่านั้นเองครับ แหะๆ  เพราะฉะนั้นก็ดูของคนอื่นไปดีกว่า ไม่ควรไปพยายามอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้

วันนี้เป็นวันเสาร์ก็เลยมีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควรครับ แต่ก็ไม่มากมายจนถ่ายรูปไม่ได้เหมือนช่วงเทศกาล  เราเดินออกมาด้านนอกแล้วเดินอ้อมไปด้านข้างเพื่อออกไปข้างหลัง เนื่องจากทางเดินจะเป็นเข้าทางด้านหน้าออกทางด้านหลัง 





อากาศถึงแม้จะร้อนด้วยแดด แต่ก็ยังมีลมเย็นๆพัดมาพอให้เราชื่นใจ เดินลงบันไดมาด้านหลังพี่ต่ายถ่ายรูปอีกครั้งแล้วเข้าสู่อาคารที่แสดงภาพวาดของอาจารย์เฉลิมชัยที่จำหน่ายเพื่อเอาเงินมาก่อสร้างวัดในส่วนที่ยังไม่เสร็จต่อไปราคาไม่แพงมากพอซื้อหาได้    ออกมาจากส่วนที่ขายภาพวาดมีอาคารสีทอง ทีแรกผมก็สงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ เห็นคนกลุ่มหนึ่งนั่งชมกันอยู่ผมเลยชะโงกไปดู อ้าว “ห้องน้ำนี่นา...พี่ต่ายเข้าไม๊ครับ ห้องน้ำสวยนะเนี่ย”


“ยังครับ หิวน้ำจังโอมทานน้ำไม๊เดี๋ยวพี่ซื้อให้”
“ดีครับพี่แต่เดี๋ยวออกไปพร้อมๆกันก็ได้  กิฟเดินออกทางไหนครับ”ผมหันไปดูกิฟยังคงส่องกล้องถ่ายดอกไม้อย่างตั้งใจ แล้วก็เอาหน้าตัวเองไปถ่ายคู่กับดอกไม้ด้วย



 ผมไม่รู้ว่าผมคิดผิดรึเปล่าที่มาตั้งป้อมระแวงน้อง ดูๆแล้วกิฟก็เด็กผู้ชายที่ยังเป็นเด็กธรรมดาๆนี่เอง ยังชอบสนุก ไม่คิดอะไรมากมาย  ถึงแม้ว่าน้องจะหน้าหวานกว่าผม สูงกว่าผม ขาวกว่าผม แล้วก็......เด็กกว่าผมเท่านั้นเอง เฮ้อ ผมนี่เทียบอะไรกับน้องไม่ได้เลย


จะดีก็อย่างเดียวที่พี่ต่ายรักผม ฮิ้ววววว...... :m3:
****************************************
ขอบคุณภาพถ่ายของน้องเบ็ตตี้สุดสวย  ขอบคุณนางแบบที่มีเพียงเบื้องหลัง ขอบคุณความงดงามของวัดร่องขุนที่ให้เราเข้าเยี่ยมชมกัน และสุดท้ายขอบคุณผู้หลงเข้ามาอ่านทุกท่านค่ะ.....พูดเหมือนจะจบ...แต่....ก็ยังไม่จบ :laugh:
อ่านมาแล้วต้องอ่านต่อจนจบด้วยไม่งั้นมีงอนนนนน.... :jul3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2009 22:37:01 โดย M@nfaNG »

gateau

  • บุคคลทั่วไป
จะพยายามเข้ามาอ่านต่อจนจบค่ะ

แต่ไปเที่ยวอะไม่มีชวนเลยยย

ฟางใจร้ายยยยย   :serius2:


ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เย้ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :mc4:

ได้อ่านตั้งสองตอน  :z1:

ต้องมาต่อให้จบนะจ๊ะ

ไม่งั้นมีงอนเหมือนกัน  :z2:

kakoku_kin

  • บุคคลทั่วไป
หวัดดีพี่ฟางขอรับ และ ราตรีสวัสดิ์
ข้าน้อยก็หาอยู่ว่าอีกคนในทริป ใครอิอิอิ รู้แล้วถ้าไม่ผิดนะ เลยไม่ได้ทักแต่ต้นพี่อย่าเคืองนะขอรับ ดีใจที่รู้แล้วเดี๋ยวจะรอจิ้มพี่อีกคนนะขอรับ  :sad4:
ชอบตอนนี้จัง
มีวัดร่องขุนด้วย คินก็ไปบ่อยๆอิอิอิ มันมีศิลปะและมีพลังงงง ของท่านอาจารย์เฉลิมชัย  เลยดึงดูด
พี่กระต่ายกับน้องโอมก็น่ารักเหมือนเดิม
ตอนนี้คินมาพักยก อ่านหนังสือไปอีกบทห้าห้า
เวลาอ่านเรื่องนี้ที่ไรรู้สึกดีทุกที  ชอบขอรับ
คิดถึงนะพี่ฟาง   :กอด1:   :L2:
ปล.มาต่อๆๆๆๆๆ  ดีใจขอรับ
ตอนที่อ่านเรื่องนี้เพราะเป็นนิยายที่โพสต์จบแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าสักวันจะได้รับการตอบกลับจากนักเขียนที่ตนชอบ
และวันหนึ่งพี่สาวใจดี นักเขียนในดวงใจ ก็บอกข้าน้อยซึ่งเป็นเด็กใหม่ให้รู้ว่ามีตอนพิเศษ ตอนนั้นดีใจมากขอรับ หัวใจพองโต
หลังจากนั้นก็รออีกขอรับ
ในใจคิดหวังว่าจะได้มีโอกาสสักครั้งที่ข้าน้อยจะได้เม้ม ในช่วงที่ยังไม่จบ อยากเป็นส่วนหนึ่งในกำลังใจให้นักเขียนที่ชอบขอรับ
การได้รอตอนที่นักเขียนที่เราชอบมาต่อ มันจะรู้สึกไง
วันนี้ได้มีความรู้แบบนั้นแล้ว ดีใจขอรับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
เพิ่งเห็น....อ๊ากกกกกกก

พี่ต่ายสามารถมาก...รถไฟเตียงบนแคบจะตายอุตสาห์เบียดมานอนได้อีก...

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
แหม่ ดีจิงๆที่เข้ามาห้องนี้

ได้อ่านตอนพิเศษ3ตอนรวด 555

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
gateau :ไม่บอกที่ไหนกันเล่า ไม่เจอกันเลยนะจ๊ะ  :กอด1:
GajonG :ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ จะพยายามเขียนต่อไปค่ะ สู้เค้าทาเคชิ :a2:
aa_mm :พยายามดันให้จบแน่นอนค่ะ แต่คงหายไปเป็นช่วงๆถ้าสต็อคที่เขียนไว้หมด แหะๆ :z3:
kakoku_kin :ไหนๆน้องคินก็ไม่ได้ไปกะพี่ อ่านแล้วก็เหมือนได้ไปนะคะ แล้วสอบเสร็จแล้วเหรอ :m12:
jannie : มาเห็นแล้วก็ต้องจับไว้เป็นตัวประกัน ให้อ่านต่อไปนะคะ  :m21:
life_fracture :เนอะ  ลุงแกเป็นผู้ตรวจการซอยรึเปล่าเนี่ย ดูจริงๆ
PoP~Pu :ยังไงก็ขอบคุณค่ะ ที่ได้มาอ่าน ถือว่าไปเที่ยวด้วยกันแล้วกันนะคะ
mist :ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้เสมอมาค่ะ
สำหรับคนอื่นๆที่อ่านแต่ไม่ได้มารีก็ขอบคุณนะคะ สำหรับกำลังใจ ไม่พูดมากแล้วไปอ่านต่อกันดีกว่า  :m7:
 ความเดิมตอนที่แล้วค่ะ
#1มาได้อีกรอบ
#2เพื่อนร่วมทาง
#3ชมวัดร่องขุน
****************************************************************
#4 ไปภู....

“ทางนี้พี่โอมพี่ต่าย.....พวกพี่จะซื้อของที่ระลึกอะไรไม๊ครับ”กิฟเดินนำพวกผมสู่ทางออก 
 ทางเดินออกมีร้านขายของที่ระลึกเรียงรายอยู่สองข้างทางครับ บางคนอาจจะคิดว่านี่เป็นการดักขายกันเหมือนที่ต่างประเทศมักจะทำกัน  คือบังคับให้ต้องเดินผ่านร้านค้า แต่ผมกลับคิดว่าเป็นการช่วยชาวบ้านให้มีช่องทางทำมาหากินดีครับ เราพอใจซื้อเราก็ซื้อ ไม่พอใจก็ผ่านไป แต่ชาวบ้านก็จะได้มีรายได้จากนักท่องเที่ยว เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นได้ดีทีเดียว

เราแวะดื่มน้ำกันแล้วออกเดินทางต่อไปยังเส้นทางอำเภอเทิงเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ภูชี้ฟ้าจุดหมายของเราคืนนี้
เมื่อเราออกเดินทางไปได้สักพักก็แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มปตท.ระหว่างทางและซื้อน้ำในเซเว่นที่กิฟบอกว่า....คนขายน่ารักมากกก ผมก็อยากรู้เลยลงไปดูก็พบว่าน่ารักจริงครับ

แต่.......เป็นผู้ชาย..ไอ้เราก็นึกว่าเป็นผู้หญิงเฮ้อ....
สรุปว่าผมต้องมาระวังพี่ต่ายจากกิฟ ต่ออีกรอบใช่ไม๊ครับเนี่ย....
“พี่ต่ายจองที่พักรึยังครับ”กิฟเอ่ยถามขึ้นมา

“ยังเลย..แต่พี่ว่าน่าจะมีเยอะนะวอร์คอินเข้าไปหาก็ได้มั๊ง”พี่ต่ายยังใจเย็นครับ
“พี่ต่าย!!!..วางใจได้ยังไงมันไกลนะพี่ เต็นท์เราก็ไม่มี เกิดหาที่พักไม่ได้มิต้องนอนในรถเหรอ ผมว่าหาก่อนเถอะพี่”ผมที่ไม่ช่วยอะไรนอกจากโวยวายครับเริ่มเป็นกังวล แต่พี่ต่ายก็ไม่ได้ว่าอะไรคงจะชินกับผมแล้ว

พี่ต่ายกดเบอร์โทรตามที่พรินท์รายชื่อที่พักออกมา “เต็มหรือครับ แล้วคิดราคาเท่าไหร่ครับ อ๋อ500บาทต่อหัวรวมค่าอาหารด้วย แล้วมีว่างไม๊ครับ...คืนนี้ครับ...3คน....ไม่ว่างเหรอครับ”ผมฟังไปก็เครียดไป แล้วจะเปลี่ยนแผนไม๊เนี่ย หรือว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีแผน มีแค่แผนที่ก็บุญแล้ว

“อะไรนะครับ..อย่าขึ้นไปเพราะภูจะแตกแล้ว มีงานอะไรนะครับ...วันดอกเสี้ยวบาน???”พี่ต่ายเริ่มทำตาโตขมวดคิ้ว  มองหน้าพวกผม ดูก็รู้เลยว่ามีปัญหาแน่ๆ
“ดอกเสี้ยวอะไรเหรอกิฟ พี่ไม่รู้จัก”ผมหันไปถามน้องกิฟที่ยังคงยืนแอบดูคนขายของเซเว่นอยู่  ดวงตาเป็นประกาย
“หา..อะไรนะพี่ ดอกเสี้ยวเหรอผมก็ไม่รู้จักน่ะพี่ เป็นไงไม่รู้..น่ารักนะพี่โอมดูซิ เมื่อกี้เค้ายิ้มให้กิฟด้วย เค้าถามด้วยว่าจะรับซาละเปาไม๊ครับ”ผมละงงเพ้อไปแล้วน้องกรู จะกู่กลับไม๊เนี่ย ปกติเค้าก็ถามทุกคนไม่ใช่เหรอ

พี่ต่ายวางสายแล้วหันมาปรึกษาเราอีกครั้ง “จะไปไม๊โอม...เค้าว่าบนภูมีงานวันดอกเสี้ยวบาน พี่ก็ไม่รู้มาก่อนเลย นึกแต่ว่าไม่ใช่เทศกาลแล้วคนคงไม่มาก กิฟว่าไง โอมว่าไง”
พี่ต่ายเอ่ยชื่อกิฟก่อนครับ เห็นผมสำคัญน้อยกว่ารึไงกัน แอบที่จะเคืองนิดหน่อยไม่ได้ แต่พยายามไม่คิดอะไรมาก ผมหันไปมองหน้ากิฟที่ยังคงมองแต่คนขายของเซเว่น จนผมอยากจะเขกกะโหลกน้องให้ตื่นซะที  แล้วไล่ให้เอาพาสปอร์ทการท่องเที่ยวเชียงราย(เป็นสมุดเล่มเล็กๆที่เวลาเราไปเที่ยวตามสถานที่ๆเค้าแนะนำก็ไปประทับตราครับ จะได้รู้ว่าไปไหนมาบ้างครบหรือไม่)ไปให้น้องคนขายเซเว่นปั๊มตาประทับให้ซะเลย จะได้รู้ว่ามาเซเว่นนี้แล้ว  ไม่ยักรู้ว่าน้องเป็นผู้ตรวจการพนักงานขายของเซเว่น

“ผมว่าอย่าไปเลยพี่   เดี๋ยวไม่มีที่นอน แต่แล้วแต่พี่นะผมเอาไงก็ได้”น้องกิฟออกความเห็นไปครับ ส่วนผมไม่เคยไปภูชี้ฟ้าก็อยากไปครับ ต่อให้ต้องนอนในรถก็ขอให้ได้ไป
“ไปเถอะพี่ต่าย ไหนๆก็มาแล้วไปเสี่ยงดวงเอาอย่างมากก็ตีรถกลับมานอนเชียงราย(บ่ไจ้รถตรู ตรูบ่ได้ขับเน้อ ฮ่าๆๆ)” พอผมพูดแบบนี้ไป

พี่ต่ายก็พยักหน้าครับ “งั้นไปกันเลย ไม่มีที่นอนก็เลยไปนอนผาตั้งที่อยู่เลยไปหน่อย ก็ดีลุ้นดี ไหนๆก็มาแล้วนี่นะ” น้องกิฟก็ยิ้มรับผงกหัวครับ ว่าไงว่าตามกัน ชิวๆจริงๆครับทริปนี้

จากปั๊มปตท.เราผ่าน4 แยกเทิง เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1020 ระยะทางจากจุดนี้ถึงภูชีฟ้า 113 กม.
 ถึงอำเภอเทิง ที่ สามแยกอำเภอเทิง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1020  ไปอำเภอเชียงของ สามารถแยกไปภูชี้ฟ้าได้เช่นกัน เส้นทางที่ไปถึงแม้จะถนนดี แต่ค่อนข้างแคบและคดเคี้ยวไปมา ทำให้เราขับรถเร็วมากไม่ได้ ข้างทางเป็นบ้านของชาวบ้าน  บ้างก็เป็นหุบเขา เพราะเรากำลังไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่าหูอื้อนิดหน่อยแต่โชคดีที่ไม่มีอาการเมารถทั้งที่ถนนโค้งชันไปตลอดทาง

มีเสียงน้องกิฟร้องกรี๊ดบ้างเป็นระยะเวลาที่มีแม่ไก่ลูกไก่เดินเกะกะอยู่ริมถนน  ทำเอาผมกับพี่ต่ายสะดุ้งนึกว่าผีเข้าน้อง น้องกิฟบ่นพึมพำๆ “เดี๋ยวเหอะกว่าจะรู้ตัวเดี๋ยวได้ไปเป็นดาวลูกไก่ไม่รู้ตัวนะพวกเมิง เดินสบายกันเหลือเกิน”
ผมก็แปลกใจคนเราทะเลาะได้กระทั่งกับครอบครัวไก่ มันก็เดินอยู่บ้านมันดีๆแท้ๆ  มีแต่เราที่ขับรถไปยุ่งกะมัน กิฟก็บีบแตรไล่นะครับแต่ผมนึกสงสัยว่าถ้าเราบีบแตรมันจะได้ยินหรือเปล่า ใครไม่รู้เคยบอกว่ามันไม่มีหู หรือไก่หูหนวก

“โอม เมารถไม๊ครับ”พี่ต่ายหันมาถามผมเมื่อเห็นผมเงียบๆไปที่จริงแล้วคือง่วงนอนครับ ใกล้จะหลับแล้ว
“ไม่ๆพี่ แค่เคลิ้มๆ น้องกิฟขับรถดีนะ พี่ไม่เมารถเลย”ชมหน่อยครับน้องจะได้มีกำลังใจ “พี่ต่ายซิไม่ช่วยน้องขับรถเลย  กิฟเหนื่อยแย่เลย”
“นั่นซิกิฟให้พี่ช่วยขับไม๊  เหนื่อยก็บอกพี่นะ”พี่ต่ายหันมาถามกิฟ แต่กิฟหันหน้าไปมองพี่ต่ายแล้วอมยิ้มครับ ไม่ยอมตอบ เอาแต่หัวเราะคนเดียว  “คริ คริ”

ผมกับพี่ต่ายก็สงสัยมองหน้ากันว่าน้องขำอะไร “ขำอะไรกิฟ มีเรื่องไรดีๆเหรอ”ผมจับไหล่กิฟเขย่าเบาๆ กิฟก็ยังเอาแต่หัวเราะ จนพี่ต่ายก็ชักสงสัย “พี่พูดอะไรผิดไปเหรอกิฟ มีอะไรน่ะ  งงเลย”
“จะให้ผมพูดตรงๆไม๊ล่ะ ผมกลัวโดนพี่โอมทำร้ายก่อน หุหุ”ผมเลยยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม
“พูดมาเลยพี่ไม่ว่าเราหรอก บอกมาเลยไม่งั้นเอ็งโดนตื๊บแน่กิฟ”เริ่มสนิทสนมตบหัวเตะตูดได้แล้วครับหลังจากเจอกันผ่านมาหกชั่วโมงเอง (เร็วไปไม๊เนี่ย ฮ่าๆๆ)

“ก็พี่ต่ายบอกว่าให้พี่ช่วยขับไม๊ แถมพี่โอมก็ยังเป็นคนเสนอก่อนคนแรก ผมก็เลยงงว่าตกลงพี่โอมอนุญาตให้พี่ต่ายขับผมแล้วเหรอ กร๊ากกกกกก”ดูน้องมันครับ คิดไปเรื่อยๆเลย พี่ต่ายขำจนหัวเราะออกมาดังๆ ผมเองก็ขำแต่ก็ตบหัวมันไปทีนึงครับโทษฐานล้อเลียน เวลานี้ไม่มีอายแล้วครับ เปิดเผยกันเต็มที่ใครเป็นยังไง แต่พี่ต่ายข้าใครอย่าแตะ

“กิฟ อย่ามาแทะโลมพี่ต่าย เดี๋ยวเจอดีนะ น้องก็น้องเถอะพี่ไม่มียั้ง”รู้จักผมน้อยไปซะแล้ว ผมเคยเจอแต่พี่คมที่มาทำท่าจะแย่งพี่ต่ายไป แต่ก็ดูมีชั้นเชิง แต่ทีเล่นทีจริงแบบกิฟนี่เพิ่งเคยเจอ เลยยังรับมือไม่ถูก
“พี่โม่สน3P เหรอ ฮ่าๆๆๆๆ”มันยังไม่เลิกครับไอ้น้องกิฟ
ปั๊กกกกก!!!! “โอ๊ยยย!!!!” ไม่ใช่ผมครับที่ตบหัวกิฟ พี่ต่ายเองครับ สงสัยแกจะเขินหน้าแดงเชียวครับ “ไอ้กิฟมากไปแล้วนะเมิง เดี๋ยวพี่งานเข้า พอๆๆๆ”

“หูยยย ทำร้ายน้องอ่ะ พี่ต่ายกลัวพี่โอมหงอเชียว กร๊ากกกก”ผมว่ากิฟมันกินยาบ้ามารึเปล่าไม่รู้ครับ ยียวนกวนส้นจริงๆ
“ฮ่าๆๆๆ ฝากไว้ก่อนนะไอ้กิฟ”พี่ต่ายแค่หัวเราะครับ ชี้หน้ากิฟแล้วยิ้มอายๆ แสดงว่ายอมรับเหรอว่ากลัวผม เหอๆๆ  แต่ผมนะพูดไปต่อไม่ถูกเลย  ทั้งปลื้มทั้งดีใจ บอกไม่ถูกเลยครับ

ถนนเริ่มชันขึ้นไปทุกที รถสวนฝั่งตรงข้ามมีไม่มากครับ รถเลยวิ่งได้สบาย จนเราเห็นป้ายภูชี้ฟ้าอีก 19กม. เริ่มเห็นรถขนคนลงมาแล้วครับ ส่วนใหญ่เป็นรถปิคอัฟมีชาวบ้านนั่งอยู่คันหนึ่งอย่างน้อย7-8คน
“พี่ต่ายหรือว่าเค้าขึ้นไปแล้วไม่มีที่นอนนะพี่ ลงมากันหมดเลย  เยอะแล้วนะเนี่ย”ผมเริ่มกังวลทั้งที่เป็นคนเสนอให้ลุยขึ้นภูมาเลย  ถ้าเกิดไม่มีที่นอนผมจะเป็นคนที่รู้สึกผิดมากที่สุดที่พาคนอื่นมาลำบาก

“แต่พี่ดูหน้าแล้วเหมือนเป็นชาวบ้านมากกว่านักท่องเที่ยวนะโอม เดี๋ยวลองขับขึ้นไปค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”
รถไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงสามแยก ขวาไปภูชี้ฟ้า ซ้ายไปภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ผมละงงตกลงไปได้สองทาง  หรือว่าคนทำป้ายสับสนกันแน่
“พี่ต่าย กิฟ แล้วเราต้องไปซ้ายหรือขวาล่ะ ทำไมป้ายบอกสองข้างเลยเนี่ย” ผมสังเกตุว่าตรงสามแยกมีป้ายชี้บอกชื่อรีสอร์ทที่พักบนภูอยู่มากมายล้วนแล้วแต่ชี้ไปทางขวาเป็นส่วนใหญ่
“น่านดิพี่ กิฟก็งงอยู่เนี่ย โอ...พระเจ้า” กิฟเป็นคนขับเลยลังเลว่าจะเลี้ยวไหนดี ได้แต่มองซ้ายทีขวาที

“แต่รถส่วนใหญ่เลี้ยวไปขวานี่ เราตามไปแล้วกัน แต่พี่ว่าท่าทางภูจะแตกจริงๆนะเนี่ย ทำไมคนมากมายอย่างนี้ล่ะ” มีรถชาวบ้านสวนกลับออกมามากเลยครับ บ้างก็จอดข้างทาง รถขาขึ้นเริ่มจอดนิ่งสนิท เพราะไปไม่ได้ ถนนที่แคบอยู่แล้วเมื่อมีรถจอดสองข้างทาง ทำให้ถนนเดินรถได้ทางเดียว ต้องคอยหลบหลีกกัน
“เอางี้แล้วกัน ไปข้างหน้าก็ไม่ได้ กิฟจอดรอตรงนี้ก่อน พี่เดินไปดูหน่อยดีกว่า ว่าเราจะไปได้ไม๊”
กิฟพยักหน้าแล้วเลื่อนรถจอดริมถนน พี่ต่ายเปิดประตูจะลงไปดู  พี่ต่ายเดินลงไปแล้ว กิฟก็นั่งฟังเพลงโยกหัวอย่างสนุกสนาน แล้วจะให้ผมนั่งมองพี่ต่ายเดินไปคนเดียวได้ยังไง ผมไม่ชอบที่จะเห็นพี่ต่ายเดินห่างผมออกไปทีละนิด

“พี่ตามพี่ต่ายไปนะกิฟ  กิฟรอนี่แล้วกัน”ผมตัดสินใจวิ่งตามพี่ต่ายออกไป   โดยไม่สนใจเสียงที่กิฟตะโกนเรียกเอาไว้
พี่ต่ายค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆผ่านรถที่ยังคงติดอยู่บนถนนไปทีละคัน  ผมเดินตามพี่ต่ายไปอย่างเงียบๆอย่างไม่มีเหตุผลขอเพียงพี่ต่ายอยู่ในสายตา  ผมก็มีความสุขมากๆแล้ว   พี่ต่ายมองไปข้างหน้าชะโงกศรีษะซ้ายขวาไปมาเพื่อสังเกตว่าทำไมรถไม่ขยับ  มีรถขนคนขับลงมาเป็นระยะๆ  ผมเห็นพี่ต่ายสอบถามคนที่เดินสวนลงมา แต่ไม่ได้ยินว่าพูดอะไรกัน แล้วอยู่ดีๆพี่ต่ายก็หันหน้ามามองด้านหลังทันที   ผมอยากจะหลบก็ไม่ทัน  พี่ต่ายทำหน้างงๆ แล้วก็ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ผม  ผมได้แต่ยิ้มเขินๆกลับไปอยากจะสะกดรอยตามแต่ก็ทำไปไม่ตลอดรอดฝั่ง

 พี่ต่ายยื่นมือมาให้ผมแล้วหยุดรอ  ผมค่อยๆเดินไปหาพี่ต่ายอย่างช้าๆแล้วส่งมือให้พี่ต่าย  มือของเราจับกันไว้แน่น เป็นการแสดงออกว่าเราจะเดินไปด้วยกัน แขนของผมเกี่ยวแขนพี่ต่ายไว้
“ทำไมเดินตามมาก็บอกพี่  แล้วเดินมาเงียบๆละโอม”พี่ต่ายถามผมอย่างอารมณ์ดี ทั้งที่บรรยากาศโดยรอบดูสับสนวุ่นวาย มีรถเคลื่อนไปด้านหน้าบ้าง แต่บางคันเริ่มกลับรถเพื่อถอยออก เมื่อเห็นว่าไม่สามารถไปต่อได้อีกแล้ว
“ก็ผมมีความสุขที่ได้เดินตามหลังพี่”ผมตอบพี่ต่ายพลางบีบมือแน่นเข้า  ผมรู้สึกดีที่ได้พูดไปแบบนี้

พี่ต่ายเอื้อมเอามือมาขยี้หัวผมแล้วหัวเราะ “เด็กโง่ ไม่ต้องตามหลังพี่ เราต้องเดินไปด้วยกันซิ  เพราะเราคู่กัน”แววตาของพี่ต่ายที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้ม  ทำให้หัวใจของผมเหมือนไม่อยู่กับตัว มันลอยๆฝันๆบอกไม่ถูก รู้แต่ว่าผมมีความสุขทั้งที่สถานการณ์เรื่องที่นอนของเราในคืนนี้ยังไม่แน่นอน ผมยิ้มเป็นบ้าไปคนเดียวอย่างไม่รู้ตัว มือผมทั้งสองข้างกอดแขนพี่ต่ายไปตอนไหนก็ไม่รู้  ผมเอนหัวเอียงเข้าแนบกับไหล่ของพี่ต่ายขณะที่เรากำลังเดินไปด้วยกัน

“เฮ้ยย.....” เสียงห้าวๆของผู้ชายที่ไหนไม่รู้ครับทำเอาผมสะดุ้ง จิ๊กโก๋ที่ไหนมาแซวว่ะ  ต้องหันไปดู ก็เห็นหน้ายิ้มเผล่ของหนุ่มน้อยน่ารักครับเสนอหน้ามากวนประสาท
“พี่ๆ  พี่ทั้งสองจะเดินจู๋จี๋กันเสมือนโลกนี้มีเราสองคนไปถึงภูเลยไม๊     ลืมอะไรไปรึเปล่าพี่...ว่ามีน้องกาฝากมาด้วยอีกหนึ่งคนนะครับบบบ”

ไอ้น้องกิฟขับรถตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ กำลังทำหน้าทะเล้นล้อเลียนพวกผมอยู่  ไม่รู้ว่าขับตามมานานรึยังด้วย นี่เห็นหมดทุกฉากเลยไม๊ก็ไม่รู้  ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไงอายเด็กครับ  เลยได้แต่แกล้งทำเป็นโมโห
 “อะไรว้า ขับตามมาแล้วก็ไม่บอกปล่อยให้พี่เดินเมื่อยอยู่ได้ตั้งนาน” ผมปล่อยมือพี่ต่ายแล้ววิ่งขึ้นรถ พี่ต่ายก็เดินอมยิ้มตามขึ้นรถมาเหมือนกัน

“กิฟกลับรถเถอะ สงสัยเราขึ้นภูไม่ได้แล้ว ข้างบนเค้าจัดงานคนเยอะมาก คงไม่มีที่นอน และที่สำคัญเราจะขึ้นไปไม่ได้นะซิ”
******************************************************
 :oni1: วันนี้ไม่มีรูปเพราะไปไม่ถึงภูชี้ฟ้า วิ่งเล่นแถวๆตีนภูไปก่อนนะคะ









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2009 23:27:19 โดย M@nfaNG »

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ไปสถานที่ท่องเที่ยวแล้วคนเยอะนี่...บางทีก็ต้องทำใจอย่างแรงนะคะ....

พี่ต่ายกับโอมเหมือนมาฮันนีมูนกันช่ายม๊ายย? อิอิ

GajonG

  • บุคคลทั่วไป
"เราต้องเดินไปด้วยกันสิ เพราะเราคู่กัน"  :o8:

อบอุ่นดีโนะ

 :pig4:

kakoku_kin

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวมาอ่านนะขอรับพี่ฟาง

คิดถึงนะ อยากอ่านๆๆ

แต่ต้องนอน

ขอบคุณขอรับพี่ฟางที่เป็นห่วง  :กอด1:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
น่ารักจิง ๆ มาต่อแล้ว

ขอบคุณจ๊ะฟาง  :กอด1:

น้องกิ๊ฟน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย

น้องโอมมีคู่แข่งซะแล้ว :laugh:


ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
"เราต้องเดินไปด้วยกันสิ เพราะเราคู่กัน"  :o8:

อบอุ่นดีโนะ

 :pig4:


ช่ายยยเลยยย เห็นด้วยอย่างยิ่ง   :m1:

kakoku_kin

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มพี่นนนี้รีบน  :z13:

ขอรับคินจะมาอ่านแน่คืนนี้ อิอิอิ

คิดถึงขอรับ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






nartch

  • บุคคลทั่วไป
ดีๆๆๆ เข้ามาเก็บข้อมูล จะบินไปเชียงฮายบ้างงงงง
พี่ต่ายน่ารักตลอดดดด อิจฉาโอมวุ้ยยย  :o8:

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจัง  เพิ่งเห็นว่าพี่ฟางมาลงพี่ต่ายกะโอม

 :-[

ออฟไลน์ tawada_j

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
"เราต้องเดินไปด้วยกันสิ เพราะเราคู่กัน"  :o8:

อบอุ่นดีโนะ

 :pig4:


ช่ายยยเลยยย เห็นด้วยอย่างยิ่ง   :m1:

ช่ายยยย ชอบประโยคนี้จัง

ขอบคุณพี่ฟางค่ะ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆตอนพิเศษ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
เจี๊ยกกกกกกกกกกกกกกกก    o22

พึ่งเห็นอ่ะ

แถมตอนแรกก็นึกว่าเล่าเรื่องเฉยๆ

แต่มีแถมฉากเบื้องหลังด้วย     :o8:


จะมาคอยผลักๆดันๆให้พี่ฟางเล่าจนจบทริปให้ได้

สู้ๆค่ะพี่ฟาง

 :L2:


ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เป็นอีกเรื่องที่น่ารักจัง :-[ :-[
ภาคแรกก็ว่าหวานแล้วนะ :o8: :o8:
แต่มาอ่านภาคต่อของเรื่องนี้ ก็ต้องอ่านไปยิ้มไปอยู่คนเดียว น่ารักดี :-[ :-[
ชอบพี่กระต่ายน่ารักที่ซู้ดดดดดดดดด :m1: :m1:
ส่วนน้องโอมก็น่ารัก รั่ว ติงต๊องดีอ่ะ :m3: :m3:
ยังงัยคุณฟางก็มาต่อภาคต่อให้จบนะคร้าบบบบบบ :bye2: :bye2:
ยังรออยู่นะคร้าบบบบบบ

kakoku_kin

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Novel)•:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบ&
«ตอบ #866 เมื่อ01-03-2009 10:01:33 »

ชอบเหมือนกัน ไม่ได้ลอกการบ้านหรือข้อสอบนะขอรับ

พี่กระต่ายกับน้องโอมน่ารัก
 :man1:

ฮิ้วๆๆๆๆๆ

อ่านทีไรก็มีแรงฮิ้วๆๆๆๆ

กอดพี่ฟางอีกหนึ่ง  :กอด1:


ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
อ่านเพลินเลย
อย่างกะอ่านรีวิว พาเที่ยวเหนือแหน่ะ
 :man1: น้องฟาง จัง

ปล.อากาศแปลก ๆ มะสาย ฝนตกด้วย รักษาสุขภาพกันด้วยน้า


ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
มาคุยกับมิตรรักนักอ่านกันนิดนึงก่อนดีกว่า :really2:

kakoku_kin  อ่านทีไรก็มีแรงฮิ้วๆๆๆๆ>>หวังว่าจะมีแรงอ่านไปจนจบนะคะ ได้ข่าวว่าจะยาวและอาจมีดอง :z3:
kungyung  ยังงัยคุณฟางก็มาต่อภาคต่อให้จบนะคร้าบบบบบบ >> นั่นแหล่ะคือปัญหาค่ะ เอิกซ์ซซซซซ
@BUA@  แต่มีแถมฉากเบื้องหลังด้วย   >> อาจจะมีอีกหลายเบื้องหลังเลยคะน้องบัว รอดูนะคะ
pongsj เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆตอนพิเศษ >>อยากเรียกว่าตอนพล่ามเพ้อมากกว่าค่ะ ดีใจที่ตามมาค่ะ
tawada_j ขอบคุณพี่ฟางค่ะ >> ไว้เราไปเดินคู่กันมั่งดีไม๊ค่ะ
maabbdo  เพิ่งเห็นว่าพี่ฟางมาลงพี่ต่ายกะโอม >>แอบมาลงค่ะต้นอ้อ แต่พี่ก็แอบไปอ่านที่ต้นอ้อไปลงให้อาร์ด้วยนะ
nartch ดีๆๆๆ เข้ามาเก็บข้อมูล จะบินไปเชียงฮายบ้างงงงง >>เอ่อคือแบบว่า...ทริปเราเอาสาระไม่ได้ ควรให้ผู้ปกครองชี้แนะนะคะพี่นารท
nOn†ღ ช่ายยยเลยยย เห็นด้วยอย่างยิ่ง   >> เชื่อคนง่ายนะเนี่ย คอนเฟิร์ม!!!
aa_mm น้องกิ๊ฟน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย>>สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้นะคะ แต่ยังไงก็ฝากน้องกิฟไว้ในอ้อมใจของแฟนๆด้วยค่ะ :impress2:
GajonG อบอุ่นดีโนะ >> พยายามไม่ให้อุ่นจนร้อนเกินไปค่ะ
 โน๊อา อย่างกะอ่านรีวิว พาเที่ยวเหนือแหน่ะ >> อ่านพอเพลินๆนะคะ ไปเที่ยวด้วยกัน

ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามอ่านอีกครั้งค่ะ ขอออกตัวก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเสมือนบันทึกการเดินทาง อาจจะมีรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวเยอะบ้างเพราะอยากให้ได้ทราบที่มาที่ไปของแต่ละสถานที่ๆไปมาพอสังเขป  เพื่อรณรงค์ให้คนไปเที่ยวไทยทั่วไทยแบบที่พี่เบิร์ดกำลังทำอยู่ อิอิ จะพยายามไม่ลงยาวมากเพราะอาจจะตาลายกับรายละเอียด แต่ส่วนไหนที่มีรูปก็จะหามาให้ชมกันค่ะ เชิญอ่านกันต่อเลยค่ะ :pig4:
ความเดิมตอนที่แล้ว

#1มาอีกรอบ
#2เพื่อนร่วมทาง
#3ชมวัดร่องขุน
#4ขึ้นภู..
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

“กิฟกลับรถเถอะ สงสัยเราขึ้นภูไม่ได้แล้ว ข้างบนเค้าจัดงานคนเยอะมาก คงไม่มีที่นอน และที่สำคัญเราจะขึ้นไปไม่ได้นะซิ”

#5 ขึ้นภูชี้ฟ้า

“อ้าว..เหรอ โอเช ไม่มีปัญหาพี่”
กิฟกลับรถแล้วออกมาตามทางเดิมทันที เราขับรถมาอีกฝั่งที่ป้ายบอกว่าไปภูชี้ฟ้าเหมือนกัน   เส้นทางนี้แทบจะไม่มีรถคันอื่นวิ่งอยู่เลย   ผมดูนาฬิกาก็เกือบสี่โมงแล้วถึงแม้ผาตั้งจะอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไม่มาก แต่ดูจากเส้นทางที่ผ่านมาคงไปด้วยความยากลำบากถ้าจะต้องขับรถต่อไป ผมเริ่มเป็นห่วงว่าเราอาจจะต้องขับรถกลับไปนอนในเมืองเชียงราย

“พี่ต่ายว่าเราจะไปไหวเหรอพี่ ดูไม่มีอนาคตยังไงไม่รู้”ในที่สุดผมก็ถามพี่ต่ายขึ้นมา  พี่ต่ายหันมาหาผมแล้วบอกว่า
“ก็ลองไปทางนี้ดู ยังไงเราก็ต้องหาที่นอนจนได้ละน่าโอม อย่ากลัวไปเลย”

“พี่ๆนี่ป้ายนี้เค้าชี้ว่าภูชี้ฟ้า ลองเลี้ยวขึ้นไปไม๊”กิฟชี้ให้เราดูป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาขึ้นไป  เราเหมือนกำลังพบเส้นทางใหม่ที่ไม่มีใครรู้ น่าตื่นเต้นดีครับ(ถ้าไม่หลงนะ แหะๆ)
“ไปเลย เลี้ยวไปลองดูกิฟ” อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ลอง  เราลุ้นกันมากครับ ถนนที่ขึ้นเป็นทางชั้นขึ้นเขา  สองข้างทางมีบ้านที่เป็นรีสอร์ทให้เช่าอยู่เรียงรายลดหลั่นกันไปเป็นระดับ  มองเห็นวิวยามเย็นในเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินของบรรยากาศแบบภูเขา  ตอนนี้กิฟเปิดกระจกหน้าต่างรถแล้ว   อากาศเย็นๆภายนอกพัดผ่านเข้าสู่ภายใน เป็นอากาศที่สดชื่นและใสสะอาด เหมือนกับเรากำลังมาทำดีท๊อกซ์ปอดกันอยู่เลยครับ

  “เราจะแวะถามบ้านพักเลยไม๊พี่ต่าย หรือว่าลองขึ้นไปดูก่อน”ผมกลัวว่าถ้าเราลงมาจะไม่มีที่พักแล้วซิครับ
“ลองขึ้นไปดูดีกว่าพี่ เผื่อข้างบนๆมีที่พักอีก”กิฟเสนอแนะให้ขับขึ้นเขากันต่อไป

ไม่มีรถคันอื่นเลยครับ สภาพถนนดีมากราดยางมะตอยอย่างดีไปตลอดทาง เราขับรถไต่เขาขึ้นไปเรื่อยๆ ผมว่าระดับมันเริ่มชันสูงไปทีละนิด แต่ประสิทธิภาพของแจ๊ซยังคงดีเยี่ยม ไม่มีอาการท้อแท้ให้เราเห็น สองข้างทางเริ่มถูกแทนที่ด้วยแนวต้นไม้สูงใหญ่  ผ่านพ้นช่วงที่เป็นรีสอร์ทไปแล้ว  เหมือนกับเป็นอุทยานแห่งชาติแล้วครับ  เราขับรถผ่านนักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์อยู่ระหว่างทาง พวกเขาชี้ชวนให้ดูรถคันเล็กๆที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน แต่ดันทุรังขับขึ้นมาอย่างไม่เจียม

พอขับพ้นช่วงที่มีคนกางเต็นท์และบ้านพักของอุทยานขึ้นมาระยะหนึ่ง  ถนนเริ่มเป็นดินครับทางเริ่มชันมากขึ้น ในที่สุดแจ๊ซก็ยอมถอย แต่ถอยก็ไม่บอกครับไสลด์ถอยหลังลงมาพอให้เราตกใจว่าจะมาตายหมู่อยู่ที่นี่หรือเปล่าผมเริ่มคลำพระที่คอกะว่าจะยกขึ้นมาสวดมนต์ขอพรให้ท่านคุ้มครอง  แล้วก็พบว่าผมเลิกใส่พระมาหลายปีแล้วตั้งแต่สร้อยขาดไป ผมเลยต้องหันมาพึ่งพี่ต่ายแทนถึงแม้จะต่างกับพระที่ยังไม่ได้ปลุกเสก  แต่พี่ต่ายก็ทำให้ผมอุ่นใจเสมอ ผมเอื้อมมือไปจับมือพี่ต่ายที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้า มือพี่ต่ายเย็นกว่าผมอีกครับ เวรแล้วซิ เหอๆๆ  ผมว่าพี่ต่ายหน้าซีดด้วย  ฝุ่นดินฟุ้งกระจายจนเราต้องรีบปิดหน้าต่างไม่ให้สำลักฝุ่นไปก่อน

กิฟหันมามองพวกผมแล้วยิ้มๆ“พวกพี่เป็นอะไรกัน ผมแค่ถอยหลังนิดหน่อยเอง”ผมค้านในใจว่าเมิงอย่ามาโกหกกู กูรู้ว่ามึงขึ้นไปไม่รอด รถมันไหลลงมาเอง ไม่ต้องมาหลอกเลยไอ้น้องกิฟ

แต่ในที่สุดเราก็ต้องถอยมาตั้งหลักแล้วยอมลงจากภูครับ ขึ้นไม่ได้แน่นอนรถแรงไม่ถึง  เราผ่านลงมาทางเก่าอีกครั้งผ่านนักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมซึ่งคงรอดูพวกเราอยู่ว่าจะรอดกลับมาไม๊  พวกเขาคงไม่รู้หรอกว่าเราพยายามเต็มที่แล้วแต่น้องแจ๊ซกลับยอมแพ้ เฮ้อ...... ไม่ใช่เราเลยนะที่ไม่สู้

“กิฟจอดตรงนี้ก่อนแวะถามบ้านพักดู”พี่ต่ายบอกให้กิฟจอดรถ เราลงไปเดินถามบ้านที่อยู่ข้างทาง เจ้าของบ้านเดินผ่านมาพอดี
“มีที่พักเหลือไม๊ครับ เราจะอยากจะค้างคืนนี้”
“น้องโชคดีมากเลยนะ มีบ้านเหลือหลังหนึ่งพอดีมากันกี่คนคะ”ผมต้องสะกดใจไม่ร้องออกมาดังๆ   เยสๆๆๆ ผมดีใจมากเลยครับ มีที่ซุกหัวนอนแล้วคืนนี้นึกว่าต้องเร่ร่อนไปต่อซะแล้ว แอบคิดนิดหน่อยว่าพี่เค้าคงบอกทุกคนแบบนี้แหล่ะว่าเหลือหลังสุดท้าย

บริเวณบ้านพัก เฮือนดอกเสี้ยว
พี่เค้าคิดเราราคาต่อหัว250บาท ไม่รวมอาหารเย็น มีทีวี น้ำอุ่นให้ด้วย เราเดินเข้าไปดูสภาพในบ้านพักมีสองชั้น มีสองห้องน้ำ  ห้องนอนด้านบนเป็นโถงโล่งปูเป็นฟูกนอนได้ห้าหกคนเลยครับ  ด้านล่างก็มีห้องนอนอีกห้องหนึ่งต่างหาก เสียก็แต่บันไดขึ้นชั้นสองแคบมากครับวางฝ่าเท้าได้ครึ่งเดียวต้องเป็นผู้ดีตะแคงตีนเดิน ไม่อย่างนั้นเป็นได้ตกบันไดกันแน่นอน ในที่สุดเราตกลงนอนที่บ้านนี้(เพราะขี้เกียจหาแล้ว ฮ่าๆๆๆ) กว่าจะตกลงกันได้ก็เย็นมากแล้วครับเกือบห้าโมงเย็น อากาศเริ่มหนาวแต่เวลาแบบนี้กลางป่าเขาลำเนาไพร จะให้นอนเลยก็เบื่อแย่ครับ

“ไปเดินเที่ยวกันพี่โอม เราเดินขึ้นไปทางที่รถขึ้นไม่ได้มะกี้ดีไม๊”น้องกิฟมาดึงมือผมให้ไปเดินเล่น ถ่ายรูปกัน ในขณะที่พี่ต่ายขนกระเป๋าเข้าบ้านไป   ข้างๆบ้านมีต้นไม้สูงดอกสีขาวบานกระจายไปทั่วเต็มต้นเลยครับ ถามพี่เจ้าของบ้านก็เลยรู้ว่านี่เองคือดอกเสี้ยวที่เค้าจัดงานขึ้นมา  มิน่าตลอดทางจึงเห็นต้นไม้แบบนี้อยู่มากมายตามไหล่เขาเห็นดอกสีขาวบานสะพรั่งอยู่ทั่วไปหมด ถ้ามาวันที่บานมากกว่านี้คงจะสวยน่าชมทีเดียว

รูปดอกเสี้ยว

น้องกิฟยังคงมีความสุขจากการถ่ายรูปถึงแม้ว่าแสงอาทิตย์จะเริ่มลดน้อยลงไปทุกที  เห็นเพียงแสงสีส้มเรืองๆอยู่ที่ริมขอบฟ้าตัดกับวิวภูเขาและหลังคาบ้านของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้   อากาศที่เริ่มเย็นลงทำให้บรรยากาศชวนเหงามากขึ้นไปอีก ริมถนนที่เราเดินเล่นมีต้นไม้ออกดอกสวยงามอยู่มากมายทั้งดอกเสี้ยว ดอกคริสมาสต์สีแดงสด  ดอกลำโพง  และอีกมากที่ผมไม่รู้จักชื่อ  ผมเริ่มหนาวจนต้องเดินกอดอก

ดอกลำโพง
 น้องกิฟวิ่งเล่นไปไหนไม่รู้แล้วครับผมค่อยๆเดินเล่นไปอย่างช้าๆสูดอากาศบริสุทธ์ที่ธรรมชาติสร้างมาให้เรา  พอได้กลิ่นอากาศสะอาดๆแบบนี้ผมก็แอบคิดถึงอากาศที่เขาใหญ่ ก็ไม่แพ้ที่ภูชี้ฟ้านะครับ  คิดถึงบ้านขึ้นมาตะหงิดๆไม่รู้ว่าแม่จะว่ายังไงที่ผมทิ้งงานมาดื้อๆ    “คิดอะไรอยู่ครับโอม” เสื้อแจคเก็ตของพี่ต่ายคลุมลงมาบนไหล่ผมพร้อมกับอ้อมแขนของพี่ต่ายที่โอบเอวผมไว้หลวมๆ

“ก็คิดว่าที่บ้านจะว่าไงที่ผมมาเที่ยวยาวแบบนี้”
“ไม่ต้องห่วงหรอกโอมพี่บอกที่บ้านแล้ว ว่าขอเที่ยวก่อนที่จะต้องลุยงานหนัก แม่ไม่ว่าอะไรนี่บอกให้มาเลย”
“เหรอแล้วแม่เงียบเลยไม่บอกผมซักคำ บอกแต่ว่าเอาเสื้อหนาวไปด้วยก็ยังงงๆว่าร้อนจะตายเอามาทำไม”
“หึหึ นานๆได้มาเที่ยวไกลๆแบบนี้มั่งก็ดีนะโอม ได้ใช้เวลากันในที่แปลกๆบ้าง เราไม่ได้ไปไหนแบบนี้นานแล้วนะ”
“ช่าย อือ ผมว่าจะถามพี่ต่ายพี่ไปรู้จักกิฟได้ยังไงน่ะ ดูสนิทสนมกันจัง”ไม่ได้คาดคั้นนะครับ แค่อยากรู้ที่มาที่ไปแค่นั้นเอง ไม่ได้หึง สาบานได้จะไปหึงทำไมแค่เด็กๆ

“ก็กิฟเค้าเป็นเพื่อนของน้องที่ทำงาน ไม่ใช่ซิน้องของเพื่อนที่ทำงาน พี่ก็งงเอง” พี่ต่ายหัวเราะ ผมก็เริ่มงงด้วย
“แล้วเคยเจอกันเหรอ” พี่ต่ายส่ายหัว แล้วขำๆ
“ไม่เคยเจอเลยเชื่อไม๊   เคยคุยโทรศัพท์ไม่กี่ครั้งเอง ตอนที่พี่จะมาแล้วเพื่อนบอกให้คุยกะน้องเค้า พี่ก็ยังมึนๆนะเนี่ย” น่านซิน้องกิฟช่างเข้ากับคนง่ายขนาดนี้ น่าจะไปเป็นประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดเลยนะเนี่ย

“พี่ๆครับมาถ่ายรูปกัน”เสียงกิฟตะโกนเรียกให้พวกผมไปถ่ายรูปกับป้ายยินดีต้อนรับสู่ภูชี้ฟ้า เราใช้เวลาถ่ายรูปกันพักใหญ่ แล้วก็ลงมาทานข้าวกันก็เป็นร้านของชาวบ้านแถวๆนั้นที่พอฤดูกาลท่องเที่ยวก็จะขึ้นมาทำอาหารขาย พอหมดเทศกาลก็ลงไปอยู่ข้างล่างครับ  อาหารมื้อนี้อร่อยกว่าที่เราคิด เป็นอาหารง่ายๆเช่นไข่เจียว ต้มยำไก่ ผัดผักรวม ผมเลยเอาขาหมูที่เหลือเมื่อกลางวันมาให้ป้าแกช่วยอุ่นให้ ก็กินกันเต็มที่ครับหมดไปไม่ถึง2ร้อย   แถมป้ายังไงใจดีทำลาบไข่ปลามาแถมให้จานใหญ่แต่พวกผมลองทานแล้วมันเผ็ดและไม่ถูกปากพวกเราครับเลยได้แต่ขอบคุณป้าในความมีน้ำใจของแกไป

ดอกเสี้ยวข้างๆบ้านในยามพระอาทิตย์กำลังจะตก

 เราตกลงกับเจ้าของบ้านว่าพรุ่งนี้ให้เอารถมารับเราขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า  ตกลงพรุ่งนี้ต้องตื่นตี5ครับ เอิกซ์ซซซ ผมจะตื่นไหวไม๊เนี่ย  
 อากาศหนาวจัดๆ ท้องฟ้ามืดสนิท ผมลืมไปเลยว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ แต่อะไรๆก็ดูไม่สำคัญสำหรับผมแล้ว ยังไงพี่ต่ายก็อยู่กับผม คิดไปคิดมาก็ไม่น่าเชื่อนะครับว่าตั้งแต่คบกันมาเราไม่เคยได้อยู่ด้วยกันในวันวาเลนไทน์เลย
เพราะต่างคนก็ต่างทำงานกัน  แต่วันนี้เราได้อยู่ด้วยกันในอากาศหนาวๆ ท่ามกลางขุนเขา บ้านกลางป่า


และ น้องกิฟ !!$@$^%*&(TUF%#@!%^

อยากจะเอาหัวโหม่งพื้น จะกำจัดน้องออกไปชั่วคราวได้ยังไง ผมเริ่มคิดถึงละครทีวีที่แม่ชอบดู นางร้ายจะจัดการกับนางเอกที่มากีดขวางทางรักได้ยังไง  หน้าตาใสซื่อของกิฟลอยเข้ามาในภวังค์ของผม  เราสามคนกำลังเดินกลับบ้านกันอย่างสบายๆ
“กิฟสบายดีไม๊ครับ อิ่มไม๊ ขับรถมาเหนื่อยไม๊ ง่วงรึยัง” เริ่มแล้วครับลองเกริ่นๆดูก่อน หึหึ ลองสวมบทพี่ชายที่แสนดีดูสักหน่อย
“เหนื่อยมากเลยพี่โอม อิ่มมากด้วย”เข้าแผนเราแล้วซิ สงสัยไม่ต้องทำอะไรหรอก เด็กวัยกำลังกินกำลังนอน เดี๋ยวก็หลับคร่อก ฮ่าๆๆ
“แต่...ตาสว่างมากเลยพี่โอมไม่ง่วงเลย”เวรแล้ว....กินอิ่มต้องง่วงซิ ตาสว่างได้ยังไง

“แต่พี่ว่ากิฟไปนอนเถอะถึงไม่ง่วงก็เหอะ  วันนี้ขับรถมาทั้งวัน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก เดี๋ยวจะลุกไม่ไหว”
“อึอื๋อ...ตอนนี้นะพี่3ทุ่มกว่าเอง นอนไม่หลับหรอก ดูทีวีดีกว่าเนอะ”กิฟวิ่งนำไปก่อนเลยครับ แล้วคงนึกขึ้นมาได้ว่าบ้านล็อคเลยตะโกนถามมาว่า “กุญแจอยู่ไหนพี่??”
“อยู่กับพี่”พี่ต่ายตะโกนตอบ กิฟวิ่งกลับมาเอากุญแจอีกครั้ง แต่ “ไปเร็วๆซิพี่ต่ายเดินเป็นลุงอยู่ได้ เร้ววว”ฉุดพี่ต่ายไปแล้วครับ ลากพี่ต่ายของผมไปเลย ฉกกันต่อหน้าต่อตา  ผมอยากจะบอกว่าเฮ้ย....เอาไปแต่กุญแจซิ ต้องเอาคนไขกุญแจด้วยรึไงว่ะ

พอเริ่มเอ็นดูน้องทีไร มันก็ชอบมาทำให้เราระแวงอีกจนได้   ความระแวงนี่มันไม่ดีเลยนะครับ หรือว่านี่เองที่เรียกว่าหึงหวง ผมเพิ่งรู้ว่าผมก็เป็นนะ แล้วเป็นมากซะด้วย ก็อย่างที่บอก น้องกิฟมันขาวสวยหมวยเซ็กส์ขนาดนี้แล้วผมขาวตี๋ตี่แห้งกร๋อยจะเอาอะไรไปสู้  ผมได้แต่เดินคอตกคิดไม่ออก ทำใจให้ไม่คิดก็ยากจริงๆครับ

พอเข้าบ้านไปปรากฏว่ากิฟกำลังอาบน้ำอยู่ห้องข่างล่างครับได้ยินเสียงบ่นว่าน้ำไม่ร้อนเลยพี่โวยวายออกมา   พี่ต่ายคงจะอยู่ข้างบนผมเลยเดินขึ้นไปข้างบน กระเป๋าเรากองอยู่ห้องข้างล่างหมด เพราะถ้าขนขึ้นไปคงจะได้ตกลงมากันก่อน แค่ประคองตัวเองให้เดินขึ้นยังยากลำบาก

“พี่ต่ายนอนทำไรอยู่ครับ”ถามไปแล้วก็โง่ได้อีก ก็เห็นอยู่ว่าพี่ต่ายนอนพังพาบอยู่บนฟูกเปิดดูเลือกทีวีอย่างเพลิดเพลิน
“โอมมานี่ซิ  จะดูอะไรดีล่ะ ปกติพี่ไม่ค่อยได้ดูทีวีเลย”ผมเข้าไปนอนคางเกยหมอนข้างๆพี่ต่าย แอบเอาตัวไปกระแซะข้างๆพี่ต่ายขอความอบอุ่นหน่อย   พี่ต่ายกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆครับยังคงให้สมาธิกับรายการทีวี เหมือนเพิ่งเคยมีทีวีเป็นครั้งแรกในชีวิต  ผมก็ไม่ค่อยได้ดูทีวีเหมือนกันเลยไม่รู้ว่าจะดูอะไรดี  แต่มีโฆษณาบิ๊กซีนีม่าวันนี้ฉายเรื่องBrokeback mountain ซึ่งผมไม่เคยดูครับ
“เรื่องนี้นะดีมากเลยนะโอมดูรึยัง”
“ผมยังไม่เคยดูเลยพี่ มันเป็นยังไงเหรอ”ตอบไม่ทันครับ ไอ้น้องกิฟอาบน้ำเสร็จแล้วตัวหอมกรุ่น ขาวจั๊วะมาเชียวทำหน้าใสเอาผ้าเช็ดผมที่เปียกๆอยู่

 “กิฟอยากดูม๊ากกกเลยพี่ต่าย เล่าให้ฟังคร่าวๆหน่อยซิ”ขโมยซีนอ้อนของผมไปได้อีก ไอ้น้องแสบ
“ผมก็ไม่เคยดูพี่  แต่ผมว่าเราไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่าพี่ เดี๋ยวยิ่งดึกยิ่งหนาว”ผมไม่ควรเปิดโอกาสครับถึงแม้ว่าพี่ต่ายดูไม่คิดอะไร กิฟก็ดูไม่คิดอะไร แต่ผมซิคิดอะไรๆ  คิดไปมากมายก่ายกอง นึกแล้วก็ทั้งขำทั้งสมเพชตัวเองจริงๆ  ท่าจะบ้าไปแล้ว
พี่ต่ายก็ไม่ว่าอะไรครับตามผมมาอาบน้ำแต่โดยดี

ได้ยินแต่เสียงกิฟตะโกนมา “พี่โอมน้ำไม่อุ่นเลยพี่ อุ่นตอนเปิดแป๊ปเดียวเอง ไม่มีราวแขวนผ้าด้วย พี่โอมเอาถุงไปใส่เสื้อด้วยนะคร๊าบบบ”น้องมันน่ารักนะครับ แล้วทำไมผมถึงคิดเลวๆไปได้อีก อาบน้ำเสร็จผมจะล้างความคิดไม่ดีออกไปเกี่ยวกับกิฟให้หมดดีกว่า ผมควรมองโลกในแง่ดี

เราแยกกันอาบคนละห้องใช้เวลาไม่นานก็อาบเสร็จตามๆกันครับ จะอาบนานๆได้ยังไงหนาวขนาดนี้  
“ในห้องพี่เหม็นกลิ่นแก๊สมากเลย น้ำก็เย็นเฉียบไม่ได้อุ่นเลย  หนาวน่าดูเลย บรื๋ออออ”พี่ต่ายปากซีดมากเลยครับคงจะหนาวจริงๆ  ตอนที่เราขึ้นไปข้างบนน้องกิฟนอนเล่นโทรศัพท์กับเปิดดูรูปในกล้องอยู่ครับ

“พี่ต่ายมาเล่าเรื่องBrokebackก่อน กิฟรออยู่นะ” กิฟตบฟูกตรงข้างๆตัวให้พี่ต่ายไปนอน พี่ต่ายก็ไปครับเห็นเด็กเรียกแล้วไปเลยครับ ลืมผมไปเลย  ผมก็ได้แต่คลานตามไปเงียบๆ ตกลงพี่ต่ายจะนอนกลางระหว่างผมกับกิฟใช่ไหมเนี่ย  ตะเภาแก้วตะเภาทองซ้ายขวาเลยนะพี่  เหอๆๆ พี่ต่ายนั่งพิงเสาตั้งใจเล่าเรื่องให้กิฟฟัง กิฟก็นอนฟังตาแป๋ว ผมเลยนอนฟังตาแป๋วมั่ง ประมาณว่าเด็กๆรอฟังพี่เล่านิทาน
“ก็เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนงานที่เค้าจ้างไปเฝ้าแกะในหุบเขาไง แล้วเฝ้าไปเฝ้ามาเค้าหลงรักกัน แต่ตอนหลังต่างคนก็ต่างต้องแยกจากกันไปแต่งงาน”

“แล้วมีบทอย่างว่าไม๊พี่ต่าย”กิฟถามครับผมไม่ได้ถาม ผมหื่นแต่ไม่แสดงออก(ไม๊)
“มีนิดเดียวนะ แต่ในทีวีมันคงตัดนะ”
“ว้า...”ผมกับกิฟร้องขึ้นมาพร้อมๆกันเลยครับ
 “งั้นรอดูก่อน ว่าจะตัดไม๊ เนอะพี่โอมเนอะ”ผมพยักหน้ากับกิฟนี่คง เป็นครั้งแรกที่ผมคิดตรงกับกิฟอย่างบริสุทธิใจ
ผมเริ่มง่วงแล้วครับหนังที่คิดว่าจะดู ก็เริ่มฉายแล้วแต่ตาก็ปรือจะหลับเสียให้ได้ ปรากฎว่ามีพี่ต่ายที่ดูแล้วแต่ยังคงนั่งดูอีกครั้ง ส่วนน้องกิฟเลื้อยนอนไปแล้วครับ

“นี่ไงฉากนี้ที่หลบฝนเข้าไปในเต็นท์ เอ๊ยยย ทำไมมันเช้าแล้วละ”เสียงพี่ต่ายปลุกผมสองคนให้ตื่นมาอีกครั้ง
กิฟรีบสลัดหัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมก็งัวๆเงียๆลืมตาดู “ไหนๆๆไม่เห็นมีอะไรเลย ไหนล่ะ”ฉากนี้ที่รอคอย

“ก็มันคงตัดไง นี่ไงใส่กางเกงแล้ว แสดงว่าตัดไปหมดแล้วล่ะ”ผมกับกิฟเลยทิ้งตัวลงนอนต่อเหมือนเดิม
“งั้นก็ไม่ดูแล้วนอนดีกว่า สู้เพื่อนกรูรักมึงก็ไม่ได้”กิฟบ่นๆแล้วทำท่าให้ดู   ผมได้แต่ขำท่าทางของกิฟที่โยกตัวหัวสั่นหัวคลอน  เพราะผมก็ไม่ได้ดูเรื่องนั้น พี่ต่ายกับผมหัวเราะกับความบ้าของน้อง ผมว่าผมไม่รู้จะไปหึงน้องทำไม  แกล้งน้องยังจะน่าสนุกกว่าอีก  
“ผมนอนแล้วนะครับพี่ ง่วงนอนเหมือนโดนยาสั่ง ”กิฟปิดปากหาวก่อนที่จะลาไปนอนก่อน โดยที่พี่ต่ายยังคงนั่งดูหนังต่อเพียงลำพัง  ผมก็ไม่ไหวแล้ว

“พี่ต่ายผมนอนแล้วนะครับ”ผมก็จะลานอนไปตามน้อง แอบคิดนิดเดียวจริงๆ วันนี้วันวาเลนไทน์ไม่ใช่เหรอ ทำไมมันเหมือนวันอื่นๆเลยล่ะ ไม่มีอะไรแตกต่างให้หัวใจมันกระชุ่มกระชวยเลย  กำลังจะเลื้อยตัวไปนอนหลับให้สบาย พี่ต่ายก็ดึงแขนผมไว้ “โอมมานอนนี่มา” พี่ต่ายตบที่ต้นขาพี่ต่ายแล้วพยักหน้าเรียกผมอีกครั้ง เป็นทำนองว่าให้มานอนที่ตักของแก ผมส่ายหัวยื้อดึงแขนตัวเองกลับขืนตัวเองไว้

 “เดี๋ยวพี่เมื่อยขา จะดูหนังก็ดูไปซิ จะไปทรมานเมื่อยทำไม”
พี่ต่ายก็ยังจับมือผมไว้ไม่ปล่อย  ทำส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ผม “อยากอยู่ใกล้ๆ วันนี้ก็นั่งห่างกันทั้งวัน  มานอนบนตักให้พี่ได้มองหน้าหน่อยนะครับโอม” อ้อนกันขนาดนี้ไม่ตามใจก็ใจแข็งไปแล้วครับ เหลียวไปดูกิฟ ก็นอนหลับคร่อกไปแล้วเป็นใจเปิดทางดีมากน้อง  ให้พี่ได้อยู่กันสองคนมั่งเถอะ  ผมขยับศรีษะดึงผ้าห่มมาห่มแล้ววางหัวบนขาพี่ต่าย เงยหน้าขึ้นไปมองพี่ต่ายยิ้มส่งมาให้

“กู๊ดไนท์ครับโอม รักนะ”แล้วก้มลงมาจูบผมที่ริมฝีปากผมเบาๆ  แค่นี้ผมก็อิ่มใจแล้วครับ  ต่อให้วันนี้จะเป็นวันอะไรมันก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป มือพี่ต่ายลูบหัวผมเบาๆแล้วใช้เวลาไม่นานผมก็หลับไปอย่างง่ายดาย
******************************************************************************

ว่าจะลงไม่ยาวไหงยาวได้หว่า  :z3:

ปลล.รูปที่ลงมาจากฝีมือของหลายๆคนทั้งน้องเบ็ตตี้ นนท์  กิฟ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :pig4:
แถมรูปเบื้องหลังอีกรูปค่ะ กำลังคิดไม่ตกกันหมดทุกคน อิอิ





  


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2009 23:55:30 โดย M@nfaNG »

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
 :z13:

บ้านพักนี้ เครื่องทำน้ำอุ่นเย็นมาก

คอนเฟิร์ม   :jul3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด