ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)  (อ่าน 17252 ครั้ง)

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
.
.
คุณเคยรับเบอร์แปลกบ้างไหมครับ
ถ้าคุณเคย ระวังจะเป็นเหมือนผมนะครับ :mew4: :mew3:

ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม!
............................................................................
Intro
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีทำแมวอะไร กวนตีนกูแล้วสัสไม้ มารับกูทีดิ๊ ที่เดิมนะมึง ติ๊ดดด”
ห้ะ ใครคือไม้วะ? ที่เดิมที่ไหน แล้วมันจะรู้ไหมว่ารบกวนเวลานอนอันน้อยนิดของผมอยู่ เออ ช่างมัน ขอนอนต่อครับ อิอิ
zzZZ
.
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
หืมมมมมมมมมมมม ใครอีกวะ คนจะหลับจะนอน อ้าวเบอร์เดิม สงสัยโทรผิด นอนเถอะครับนอน อย่าไปสนใจ ตัดสายแล้วนอนกันเถอะครับ
ปี๊ดด!
ฝันดีครับผู้อ่านทุกท่าน เจอกันพรุ่งนี้นะ zZ
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
ปี๊ดด!
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
ปี๊ดด!
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
โว้ยยยยยยยยยยยยยย โทรมาอยู่นั่นแหละ คนจะหลับจะนอน ปิดเครื่องแม่งงงงงงง
คราวนี้ฝันดีจริงๆ แล้วครับทุกคน อย่าลืมฝันถึงผมนะ แล้วผมจะฝันถึงพวกคุณเอง อิอิ

..............................................................
ลองเขียนดูค่ะ ฝากติดตามด้วยน้าาาา :mew2:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2017 21:24:50 โดย oommmy »

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
บทที่ 1   

สวัสดีอีกครั้งครับคุณผู้อ่านทุกท่าน ผมนายจัตุรัส เอ๊ย จตุรมิตร เอ๊ย จตุภูมิ เอ๊ย ถูกแล้ววว! อย่าครับ อย่าทำหน้าเอือมกันแบบนั้น ถึงผมจะตลกไม่ตลอด แต่ผมก็หล่อลากดินนะคร้าบบบบ อิอิ ถึงเวลาจริงจังรึยัง อ้าว ผมควรจะจริงจังนานแล้วหรอ ฮี่ๆ สวัสดีครับ ผมนายจตุภูมิ ศรีอนันต์เลิศ หรือเรียกสั้นๆ ว่าเจ็ท คิดว่าผมชื่อภูมิล่ะสิ คุณคิดถูกแล้วครับ ตอนเกิดผมชื่อภูมิครับ แต่ให้ตายเถอะ บนโลกนี้คนชื่อภูมิเยอะเหลือเกิน ตอนอนุบาลผมมีเพื่อนชื่อภูมิ 2 คน พอขึ้นประถมนี่มีภูมิทุกห้อง คุณเคยไหมล่ะครับ เวลามีเพื่อนต่างห้องเรียกผม เขาก็จะเรียกชื่อบวกชื่อห้อง แล้วบังเอิ๊ญญญญ ผมมันก็คนฉลาดเสียด้วยสิ ถึงได้อยู่ห้องที่ใครๆก็รักนักรักหนา ไม่ว่าจะอาจารย์ยันยามหน้าโรงเรียน ทุกคนก็พอกับเรียกผมว่า “ไอ้ภูมิห้องเห่ย” ใช่แล้วครับ ผมเป็นคนฉลาดที่ดันสอบติดด้วยคะแนนอันดับแรกของห้องบ๊วย คะแนนห่างจากคนสุดท้ายของห้องรองบ๊วยแค่ 0.5 คะแนนเท่านั้น นี่ถ้าผมทำข้อสอบได้อีก  1 คะแนน ผมก็ไม่ได้อยู่ห้องบ๊วยแล้ว แต่อยู่ห้องรองบ๊วยแทน 55555555555555555

แล้วทำไมผมถึงชื่อเจ็ทน่ะหรอครับ ง่ายๆเลยครับ เพราะผมชอบเครื่องบินเจ็ทน่ะสิ ผมจึงตั้งใจว่าการเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 แห่งนี้นั้น ผมจะเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นเจ็ท ไม่ใช่ไอ้ภูมิห้องเห่ยแล้วโว้ยยยยย

และเพราะต้องการชีวิตใหม่ที่ไม่ใช่ชีวิตที่เห่ยบรมแบบเดิมแล้วนั้น ผมจึงหนีจากที่บ้านมาเรียนไกลถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังแถบภาคกลาง ผู้ซึ่งมีแต่ทุ่งนาและยุง คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เพราะที่นี่มีแต่ทุ่งนาจริงๆ มองซ้ายก็นา มองขวาก็นา มองไปข้างหน้า อ่ะ ตบยุงซะหน่อย ยัง ยังไม่หยุดตลกอี๊กกกกกกก

ผมเป็นหนุ่มเหนือครับ คุณอย่าคิดว่าหนุ่มเหนือทุกคนจะผิวขาวกันทุกคนนะครับ เพราะคุณกำลังคิดผิดครับ ถึงแม้ผมจะเป็นหนุ่มเหนือ แต่เชื้อพ่อมันแรงครับ ผมถึงได้ความคล้ำมาเต็มๆ บวกกับความขี้เกียจออกกำลังกาย หุ่นผมนี่ขี้ก้างดีดีนี่เอง 55555 แต่ไอ้เจ็ทซะอย่าง โนแคร์โนสนครับ คุณอาจสงสัยว่าพ่อผมผู้เป็นคนใต้ทำไมไปพบรักกับแม่ที่เป็นสาวเหนือได้นั้น ทิ้งไลน์ไอดีไว้ เดี๋ยวผมแอดไปตอบนะคร้าบบบบ

ชีวิตมหาลัยของผมกำลังไปได้สวยเลยครับ ผมมีเพื่อนในกลุ่ม 4 คน คือ ส้ม มันเป็นสาวหน้าคมครับ แต่ด้วยสรีระและการตัดผมสั้น บวกกับกิริยาท่าทางที่แมนเกินจะกว่าผู้ชายทุกคนในคณะ ทำให้มีสาวๆเข้ามาจีบมันตรึมครับ แต่ไม่มีใครรู้หรอกครับ ที่มันมาเข้าเรียนที่นี่ เพราะมันตามแฟนมันมาครับ และแฟนมันก็คือเดือนมหาลัยปีที่แล้วน่ะสิครับ คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ เห็นแมนแมนแบบนั้น มันดันคว้าใจเดือนมหาลัยที่ใครๆ ก็ฝันถึง แถมยังคบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมโน่นนนนน

คนต่อไปก็ ยะย๊า กับ หยุมหยิม พวกมันคือฝาแฝดกันครับ ย๊าจะเป็นสาวหวาน ที่มาพร้อมกับหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ทำอะไรก็ดูน่าทะนุถนอมไปหมด ส่วนหยิมมันเป็นชายครับ เห็นชื่อมันน่ารักขนาดนั้น ตัวจริงมันก็น่ารักครับ 5555 มันเป็นหนุ่มน้อยน่ารักที่ครองใจใครหลายๆ คนในมหาลัยเลยละครับ เรียกว่าหัวกระไดคณะนี่ไม่แห้งเลยครับ เพราะฝาแฝดสองคนนี้ก็ฟาดคนเกือบครึ่งค่อนมหาลัยให้มาเกี้ยวแล้วล่ะ ลำบากไอ้ส้มต้องเป็นไม้กันหมาครับ มันขู่ทุกคนที่เข้าใกล้ฝาแฝดสองคนนี้เลยล่ะครับ แต่ถามว่าใครซวย ผมนี่ไงครับผมเอง ในเมื่อทุกคนไม่กล้าเข้าทางไอ้ส้ม ก็เบนความสนใจมาทางผมแทน และด้วยบุคลิกที่มีความเฟรนลี่ของผมนั้น ทุกคนจึงพากันมาฝากขนมนมเนย ตุ๊กตาบลาๆที่ผมหมด แล้วจะไม่รับก็ยังไงอยู่ ก็ช่วยรับไว้ครับ เห็นแก่มิตรภาพที่ดี ทั้งที่ผมลำบ๊ากลำบากใจ อิอิ

“ย๊า มีคนฝากขนมมาให้อ่ะ แต่เรารู้ว่าย๊าไม่กินหรอกเนอะ ย๊าคงกลัวอ้วน เดี๋ยวเราช่วยกินให้นะ” ลาภปากไอ้เจ็ทล่ะครับทีนี้ วันนี้มีคนฝากช็อคโกแลตยี่ห่อดังจากอิตาลีมาให้ยะย๊าครับ ด้วยความหวังดีกลัวเพื่ออ้วนของผม ผมทำหน้าที่จัดการให้เองดีกว่า อิอิ

“พ่องงงงมึงสิไอ้เจ็ท ขนมใส่อะไรมารึเปล่าก็ไม่รู้ เอาไปทิ้งไปสัส กินเข้าไปท้องเสียไม่รู้ตัวนะมึง” คุณคิดว่าเสียงนี้ของใครครับ คิดว่าส้มล่ะสิ ผิดครับ มันคือเสียงหยิมครับ ถึงแม้ว่าหน้าตามันจะน่ารักแค่ไหนก็ตาม แต่เวลาอยู่กับเพื่อน มันก็ฟาร์มหมาดีดีนี่เองแหละครับ ทุกอย่างที่มันทำคือสร้างภาพครับ สร้างให้ตัวเองดูน่าทะนุถนอมเข้าไว้ ตัวจริงมันไซร้ หึหึ

“นิดหน่อยให้เพื่อนไม่ได้หรอวะ เนี้ย จากอิตาลีเลยนะเว้ย มึงดู ของหายากขนาดนี้ไม่กินก็โง่แล้วโว้ยยยย” งับ อร่อยอย่างที่ใครๆ ล่ำลือไว้จริงๆด้วยครับ หวานนิด ติดขมหน่อยๆที่ปลายลิ้น นี่มันสวรรค์ของช็อคโกแลตชัดๆ ทำไมคนให้มันลงทุนจังวะ เห็นว่ากว่าจะหามาได้นี่ต้องบินไปจองถึงอิตาลีแถมต่อแถวยาวเท่าวิ่งรอบอนุสาวรีย์ชัยสามรอบเชียวนะ อย่าหาว่าผมเว่อร์ครับ เพราะผมเว่อร์จริงๆ 555555

“คงไม่มีอะไรหรอกมั้งหยิม ย๊าว่ามันก็น่ากินดีนะ”

“อย่าเชียวนะย๊า หยิมว่าไม่อย่าไม่กินเลย ย๊ากินขนมที่หยิมซื้อมาดีกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะ” ว่าแล้วก็ส่งขนมให้ย๊าครับ สองคนนี้เขารักกันมากครับ เพราะถูกพ่อกับแม่ส่งให้มาเรียนที่เมืองไทยกัน 2 คนครับ จริงๆ แล้วครอบครัวของทั้งสองคนอยู่ต่างประเทศครับ แต่ด้วยความที่สองคนรักคุณย่ามาก เลยขอพ่อกับแม่มาเรียนที่ไทย เพราะท่านอยู่ที่ไทยครับ แต่พอย่าเสีย ทั้งสองคนก็ไม่อยากกลับไปที่นู่นแล้วครับ อยากอยู่บ้านที่เคยอยู่กับย่า จึงขอพ่อกับแม่อยู่ที่ไทยต่อ พ่อกับแม่ก็ตามใจครับ มีบินมาหาที่นี่บ้าง ทั้งสองไปหาที่นู่นมาก ก็ถือว่าน่ารักไปอีกแบบครับ

ป๊าบบบบบ!

มาแล้วครับฝ่ามืออรหันต์ ไม่ต้องสืบเลยครับว่าของใคร ไอ้คุณส้มครับ นั่นคือวิธีการทักทายเพื่อนของมันครับ อย่าเรียกว่าทักทายเพื่อนเลยครับ เรียกว่าทักทายแค่ผมมากว่า เพราะกับสองแฝดมันไม่เคยเลยครับ มันบอกว่าสองคนนั้นเป็นสมบัติของคณะครับ ไม่สามารถทำแบบที่ทำกับผมได้ หรือเรียกง่ายๆว่าสองมาตรฐานดีดีนี่เองครับ

“แดกไม่แบ่งนะมึง” พูดแล้วก็คว้าช็อคโกแลคเข้าปากทันทีครับ หึหึ ไม่รู้อะไรซะแล้วว่านั่นช็อคโกแลตของใคร

“อร่อยไหมมึง”

“เออ อร่อยดี ซื้อจากไหนวะ กูจะได้ไปซื้อบ้าง” เสร็จกูล่ะไอ้ส้ม

“เจ็ทไม่ได้ซื้อหรอกส้ม มีคนฝากมาให้ย๊าอ่ะ แต่หยิมไม่ให้กิน เจ็ทก็เลยเอาไปกินให้” คุณเคยเห็นคนเหวอไหมครับ ถ้าไม่เคยเห็นผมจะบรรยายให้ฟัง ตอนนี้หน้าไอ้ส้มตลกมากครับ มันอ้าปากค้างทั้งๆที่ช็อคโกแลตคาอยู่ในปาก หน้าซีด ตาเบิกโพรง พร้อมกับชี้หน้ามาทางผม

“มึงเอาไรให้กูแดกเนี้ยไอ้เจ็ท เชี่ยยยยยย กูขอไปล้างปากแปป กลับมาเจอกูแน่” 555555555555 สมน้ำหน้าครับ ขโมยคนอื่นแดกก็แบบนี้แหละ ถามว่าทำไมไอ้ส้มมันถึงกลัวการกินขนมแฟนคลับของสองแฝดน่ะหรอครับ จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้แอนตี้อะไรกลุ่มแฟนคลับของสองแฝดหรอกครับ มันแค่คอยดูว่าใครควรคบไม่ควรคบ เหมือนแสกนก่อนที่จะให้เข้าหาสองแฝดมากกว่า แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งครับ มีคนฝากขนมผมมาให้แบบนี้เป๊ะเลย ตามปกติผมจะเป็นคนกินให้ถูกไหมครับ แต่พอดีวันนั้นผมเกิดปวดท้องครับ เลยกินอะไรไม่ค่อยลง เลยกะว่าจะเอาขนมไปให้หมากินแทนครับ กลัวมันเสียของ แล้วบังเอิญว่าวันนั้นไอ้คุณส้มครับ มันดันไม่ได้กินข้าวเช้ามา ด้วยความหวังดีว่าจะให้หมา ผมเลยบอกมันไปว่าขนมแฟนคลับสองแฝดแดกไหม ไม่แดกจะให้หมาแดกแทน มันก็คว้าหมับไปแล้วเอาใส่ปากทันทีครับ ผมเลยสัญญากับหมาว่าเดี๋ยวไปซื้อให้ใหม่ครับ สงสารมัน อย่ามองแบบนั้นครับ ความจริงผมเป็นคนดีนะเอ๊อออออ แล้ววันนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี ซะที่ไหนละครับ 5555555 ตกเย็นไอ้ส้มโทรมาบอกอยู่โรงพยาบาล ผมนี่รีบแว๊นมอไซด์ไปหาทันทีครับ มันท้องเสียครับ หมอบอกว่าอาหารเป็นพิษ ถามพี่เก่งแฟนมันก็ถามว่ามันกินอะไรเข้าไปบ้าง พี่เก่งบอกไม่รู้เหมือนกัน พี่เขาก็งงอยู่เหมือนกัน เพราะทั้งวันพี่เขาเพิ่งเจอส้มตอนส้มโทรบอกว่าท้องเสียหนักมาก พอเข้าไปถามไอ้ส้มหลังจากมันตื่นก็พบว่า นอกจากไอ้ขนมแฟนคลับอันนั้น มันก็ไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวันครับ หลังจากนั้นมันเลยเข็ดขยาดกับขนมแฟนคลับทุกชนิดครับ

“ย๊าว่าย๊าไปดูส้มหน่อยดีกว่า ไม่รู้ป่านนี้ล้วงคอตัวเองไปรึยัง” ยะย๊าคนดีคนเดิมครับ ฝากไอ้คุณเพื่อนด้วยนะครับย๊า อิอิ

“หยุดขำเลยมึง ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ กลับมาไอ้ส้มเอามึงตายแน่”

“ก็ช่วยไม่ได้ อยากแดกไม่ถามก่อนเอง 55555555555555”

“เออ แล้วเมื่อคืนปิดเครื่องทำไมวะ กูว่าจะโทรไปชวนตี ROV ย๊าก็ตีไม่เป็น ไอ้ส้มก็บอกอยู่กับพี่เก่ง กูนี่หมาหงอยเลย โทรหามึงปิดเครื่องอีก”

“อ๋อ ใครไม่รู้โทรหากู บอกให้คนชื่อไม้หรืออะไรนี่แหละไปรับ ละเสือกไม่ฟังอะไรกูเลย พูดจบก็วาง พอกูไม่สนใจ ก็โทรมาอยู่นั่นแหละ กูเลยตัดสินใจปิดเครื่องหนีแม่ง ง่วงก็ง่วง ทำงานร้านพี่โจ้กูก็เหนื่อยจะตายห่าละ เสือกโทรมากวนกูอีก” พูดถึงแล้วก็ขึ้นครับ พวกคุณรู้ไหมหลังจากที่ผมตื่นเช้ามารับอรุณอันแสนสดใสแล้วนั้น ผมก็ได้รับข้อความเสียงจากเบอร์เดิมเลยครับ โทรมาด่าผมสารพัด ยกตัวอย่างเช่น

‘ทำเหี้ยไรนานนักว่ะสัสไม้ กูรอนานแล้วนะโว้ยยย’

‘อยู่ไหนแล้ว หอมึงกับที่นี่แม่งไม่ได้ไกลกันเลยนะโว้ยย’

‘เชี่ยเอ๊ยยย พรุ่งนี้มึงเจอกูแน่’

อันนี้เบาๆ ครับ บางอย่างก็ออกสื่อไม่ได้ จนตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยครับว่ามันเป็นใคร ด่าผมพ่วงด้วยบุพการี เลยเอาผมขึ้นเลยครับ ผมก็เลยส่งข้อความตอกกลับไปเบาๆ ว่า ‘เหี้ย’ แค่นี้ก็สบายไอ้เจ็ทแล้วครับ อิอิ

……………………………………………………………………..

“ไอ้ไม้ ทำไมเมื่อคืนไม่มารับกูวะ ละส่งข้อความมาด่ากูตอนเช้าอีกนะมึง”

“มึงโทรหากูด้วยหรอวะ”


TBC.

..........................................................................
ฝากติดตาม และติชมด้วยนะค้าาา

ออฟไลน์ ท้องฟ้าที่ว่างเปล่า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อย่าลืมโพสกฏของเล้าเป็ดด้วยนะค้าบ

ว่าเเต่ ชอบคนอย่างเจ็ทเเหะ กสต มากอ่ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
โทรผิดเบอร์ แต่ได้คู่ อิอิ

ลืมแปะกฎจ้า

ออฟไลน์ arjanlai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :hao6: อยากโทรผิดแล้วได้คู่มั้ง เอิ๊กๆๆ

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH 2

“เจ็ท คืนนี้พี่เก่งชวนไปแดกหมูกระทะ วันเกิดเพื่อนพี่เก่ง ย๊ากับหยิมก็ไปนะ”

“ฟรีไหม ถ้าฟรีกูไป 55555555555”

“เออออออออฟรี เห็นแก่กินตลอดนะมึง ร้านเดิมนะ ทุ่มนึง บายยย” ลาภปากไอ้เจ็ทมาอีกแล้วครับคุณผู้อ่านทุกท่าน ในเมื่อข้าวเย็นฟรีขนาดนี้ ต้องเตรียมท้องรอแล้วล่ะ กลางวันนี้ก็ขอกินเบาๆ เอาแบบไม่สะเทือนกระเพาะอาหารละกันนะ

ตอนนี้ผมอยู่ที่ใต้หอครับ ไม่ใช่ว่าวันนี้ไม่มีเรียนนะ แต่บังเอิ๊ญเมื่อคืนผมทำงานร้านพี่โจ้ดึกไปหน่อย รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ปาไปเที่ยงกว่าแล้วครับ บวกกับขี้เกียจไปฟังอาจารย์ป้าบ่น เพราะรู้ว่ายังไงก็ไปสายแน่ๆ เลยขอพักผ่อนย่อนกายาอยู่หอดีกว่า สบายกว่าเย๊อะ

ถามว่าพี่โจ้คือใครหรอครับ พี่โจ้คือเจ้าของร้านกาแฟข้างมอครับ ผมทำงานพิเศษเป็นบาลิสต้าร์อยู่ที่นั่น ร้านนี้พี่เขาจะเปิด 24 ชั่วโมงครับ เพราะเห็นใจเด็กมหาลัยนี้ที่ไม่ค่อยจะมีสถานที่เที่ยวนัก ถ้าจะไปไหนก็ต้องขับรถเข้าเมืองกันประมาณครึ่งชั่วโมงได้ เด็กบางคนก็ขี้เกียจครับ แค่คิดว่าต้องออกไปข้างนอกก็เหนื่อยแล้วครับ ยกตัวอย่างเช่นผมเป็นต้น มาช่วงแรกผมก็กระตือรือร้นที่จะออกไปหรอกนะครับ แต่หลังๆ เริ่มคิดว่า การนอนอยู่หอมันสบายกว่าเยอะ บวกกับปีหนึ่งหลังรับน้องเวลาว่างก็มากมายเหลือเกิน วิชาเรียนที่ลงก็มีแต่วิชาเช็คชื่อแล้วออกได้ ผมเลยหาอะไรทำ เป็นค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ แต่แม่ไม่รู้หรอกนะครับ ถ้าแม่รู้ผมก็โดนตัดค่าขนมน่ะสิ เอิ๊กส์ๆ

กลับเข้ามาปัจจุบันดีกว่า ตอนนี้ผมกำลังหาอะไรกินอยู่ร้านข้าวแถวหอครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้องสิ ถึงแม้กินเสร็จแล้วจะกลับไปนอนต่อก็เถอะนะ อิอิ

ว่าแต่วันนี้จะกินอะไรดีครับ ทุกอย่างดูน่ากินไปหมดเลย โธ่ เลือกกินได้อย่างเดียวเสียด้วยสิ เราต้องเก็บท้องไว้กินเต็มที่ต้องเย็นครับ ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำร้านนี้ก็น่ากิน หรือจะเป็นสเต็กดี แต่ผมว่ากระเพราะหมูสับไข่ดาวเพิ่มข้าวก็น่าสนใจดีนะ เลือกยากมากเลยครับ คุณผู้อ่านมีวิธีคิดว่าวันนี้ควรกินอะไรบ้างไหมครับ ถ้ามีอินบล๊อคมาเลยครับ ไม่ว่าจะช่องทางไหนผมตอบหมดนะครับ อิอิ

“ไม้ กูเอาเหมือนเดิมนะ ส่วนมึงก็กินน้ำเหมือนเดิมใช่ไหม เดี๋ยวเจอกันที่โต๊ะนะ” คุณคิดเหมือนผมไหมครับว่าชื่อไม้มันคุ้นๆ มันคุ้นมากครับ แต่ผมนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหน ช่างเถอะครับ บางทีอาจจะเป็นคนเคยรู้จักเมื่อชาติที่แล้วก็เป็นได้

“ป้า เอาสุกี้น้ำไก่ไม่ใส่ผัก ขอไข่เยอะๆ ใส่น้ำจิ้มเด็ก กับกระเพราะไก่เผ็ดๆไข่ดาว โต๊ะเดิมนะป้า” นี่คือเสียงคนชื่อไม้ครับ แต่สั่งอะไรที่ไม่เข้ากันเลยครับ อย่างแรกกินได้เด็กประถมมมาก ส่วนอีกอย่างนี่นึกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยกินเถอะ

แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมว่าผมมายืนตรงนี้ก่อนนะ ทำไมเขาถึงสั่งข้าวก่อนผมล่ะครับ ผมมาก่อนก็ควรได้สั่งก่อนสิ ถูกไหม นี่พวกคุณจะบอกว่าเพราะผมคิดนานหรอครับ ไม่ใช่แล้วครับ ทุกอย่างต้องตามคิวสิ ผมมาก่อนต้องได้ก่อน ผมไม่ยอมหรอกนะครับ

“ป้า ผมมาก่อนนะ ผมยังไม่ได้สั่งเลย ป้าต้องทำให้ผมก่อน”

“อ้าวพ่อหนุ่ม ป้าเห็นยืนอยู่ตั้งนาน ไม่เห็นสั่งซักที นี่ป้าต้มน้ำทำสุกี้แล้วเนี้ย เอาสุกี้เลยไหม ป้าจะได้ทำให้ก่อน”

“แต่ผมไม่อยากกินสุกกี้น้ำ ผมอยากกินสุกกี้แห้งใส่ผักเยอะๆ ไม่เอาน้ำจิ้มเด็ก จะเอาน้ำจิ้มผู้ใหญ่ ไม่ใส่ไข่ด้วย” หึ คนอย่างไอ้เจ็ทมันก็ต้องเรื่องมากเป็นธรรมดาอยู่แล้วววว

“งั้นต้องรอก่อนนะ แก็สป้าหมด นี่ทำได้ทีละอย่าง เดี๋ยวป้าทำสุกี้น้ำเสร็จแล้ว จะทำของพ่อหนุ่มให้”

“ได้ไงอ่ะป้า ผมมาก่อนนะ ผมต้องได้กินก่อนสิ”

“เรื่องมากจังวะ”

ขวับ! ใครครับ ใครบังอาจมาด่าผมลับหลัง พอผมหันกลับไปก็ไม่เห็นจะมีใครในร้าน นอกจากไอ้ไม้คนเดิมที่นั่งอยู่กับเพื่อนมันที่นั่งหันหลังให้ผมอยู่

“ใครเรื่องมาก แน่จริงก็ด่ามาตรงๆ อย่ามาด่าลอยๆ” คนอย่างไอ้เจ็ทครับ ฆ่าได้หยามไม่ได้ ถึงจะผอม แต่ปากผมจะจัดละวะ หึหึ

“กูด่าหมาแถวนี้ เรื่องมาก รอไม่เป็น” ชัดเลยครับ มันคือเสียงเพื่อนไอ้ไม้นั่นเอง

“ก็กูมาก่อน กูต้องได้ก่อน มึงมาทีหลัง มึงก็ต้องได้ทีหลัง หรือมึงไม่รู้จักคำว่าคิว อ๋อ หรือปกติเป็นพวกชอบแซงคิวอยู่แล้ว แม่งพวกมนุษย์ลุงดีดีนี่เอง” ประโยคหลังผมพูดกับตัวเองครับ เบื่อนักเชียงพวกมนุษย์ป้ามนุษย์ลุง เอะอะแซงคิวตลอด เปิดช่องทางให้หน่อยเป็นไม่ได้เลย ต้องหาทางให้ตัวเองได้ก่อนทุกครั้ง คนพวกนี้นี่โดนผมด่ามานักต่อนักแล้วครับ

ครืดดด!

เพื่อนไอ้ไม้ลุกแล้วครับ เชี่ยละ ลืมประเมินคู่ต่อสู้ก่อน ใครจะได้รู้ล่ะว่ามันจะตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ ผมว่าด้วยส่วนสูง 176 ซม. ของผมนั้นสูงแล้วนะ ยักษ์ตัวนี้แม่งสูงกว่าผมไปอี๊ก ประเมินว่า 190 ซม. ต้นเลยๆ ล่ะครับ แค่นั้นยังไม่พอ แม่งเทพบุตรลงมาเกิดชัดๆ หล่อวัวตายควายล้มอะไรขนาดนั้น หล่อเทียบเท่าพี่เก่งแฟนไอ้ส้มเลยครับ มองเลยมาที่กล้ามแขน โอ้โห นี่ขนาดแขนกล้ามแขนที่มองผ่านทะลุเสื้อยังน่าสัมผัสขนาดนี้ แล้วข้างในเสื้อจะน่าจับขนาดไหน โอ๊ยยย ไม่อยากจะคิด

ใครหาว่าผมหื่น ผมก็หื่นจริงๆ นั่นแหละ 55555555555 แต่ผมนี่แมนเต็มร้อยนะครับผู้ชมมมมม

“ใครเป็นมนุษย์ลุง” มันเดินมาแล้วครับ โอ้โห พ่อคุณเอ๊ยยย ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ยิ่งหล่อ นี่ผมควรถ่ายเซลฟี่ด้วยดีไหมครับ เผื่อวันไหนมันเป็นดาราขึ้นมา จะได้เอาไปอวดคนอื่นว่าผมรู้จักมัน แล้วถ้าเขาถามว่ารู้จักกันได้ไง จะได้เอาไปอวดว่า เคยต่อยหน้ามันมาก่อน 555555555555 แม่งใช่เรื่องน่าภูมิใจมั้ยวะนั่น

“ก็มึงไง ไอ้ลุงยักษ์” ครับ ถึงแม้ว่าภายในผมจะชื่นชมมันแค่ไหนก็ตามนั่น แต่ปากผมก็ยังเป็นปากผมครับ ไว้กว่าสมองเสมอ คนด่ามาต้องรีบด่ากลับ ไม่งั้นเดี๋ยวมันโดนผมหักค่าขนาดครับ 5555555555

“ใครเป็นลุงยักษ์ ห้ะ ไอ้เตี้ยแห้ง” โอ้โห ด่าว่าผมเตี้ยไม่พอ ยังด่าว่าแห้งอี๊กกก ถึงแม้มันจะเป็นความจริง แต่ผมยอมไม่ได้ครับ ผมด่าของผมได้คนเดียว คนอื่นจะด่าไม่ได้ ผมไม่ยอมมม

“ใครเตี้ยแห้ง กูนี่สูง 176 นะโว้ยยยยย แล้วถึงกูจะแห้งแล้วหนักกล้ามส่วนไหนของมึงมิทราบวะ”

“หึ นั่นเรียกว่าสูงแล้วหรอวะ คนอย่างมึงรู้จักคำว่าออกกำลังกายไหม เตี้ยก็เตี้ย แห้งก็แห้ง ถามจริง ที่บ้านไม่มีนมให้แดกหรอวะ ถึงตัวแค่ไหน กูแนะนำคลอสต่อกระดูกให้เอาไหม เผื่อมึงจะสูงขึ้นมาอีกนิดนึง” โอ้โห แทงใจดำไปอี๊ก บ้านกูมีนมแดกเว้ย แต่กูหยุดสูงอยู่แค่นี้ ตอนมอต้นกูนี่อยู่ท้ายแถวเลยนะเว้ย แต่เปลี่ยนมาหน้าแถวตอนมอปลายเอง ชิ

“มาว่ากูเตี้ย แล้วคนอย่างมีอะไรดี หึ เล่นกล้ามขนาดนี้ จะเอาซิกแพคไว้อ่อยผู้ชายมากกว่ามั้ง เห็นเดี๋ยวนี้พวกเข้าฟิตเนสฟิตหุ่นก็กินกันเองทุกคน เสียดาย หน้าตาดีซะเปล่า เพราะมีคนแบบมึงไง พวกผู้หญิงถึงไม่มองกู ชิ!” เดี๋ยวนะครับ นี่ผมด่ามันหรือด่าตัวเองวะ

“หึ ที่แท้ก็พวกสาวไม่เอา นอกจากเตี้ยแล้วยังเห่ย”

ผั๊วะ!

ครับ นอกจากปากผมจะไวกว่าสมองแล้วนั่น ทรีนผมก็ไวกว่าด้วยครับ รู้ตัวอีกทีก็ถีบมันที่กางเป้าแล้วครับ

“เชี่ยเตี้ยยยยย!!!!”

“หึ ด่ากูว่าเตี้ยกูไม่โกธร แต่คำว่าเห่ย มันคำต้องห้ามโว้ยยยยยย” บายครับ ชาตินี้ชาติหน้าขออย่าได้เจอไอ้ลุงยักษ์นี่อีกเลย

“เดี๋ยวพ่อหนุ่ม สุกี้ไม่กินแล้วหรอ ป้าทำเสร็จแล้วนะ”

“ขอบคุณครับป้า ผมขอทั้งจานนะ เดี๋ยวตอนเย็นเอาจานมาคืน อ่อ เก็บเงินที่ไอ้ยักษ์นั่นแหละ โทษฐานที่ทำผมโมโห” หึ บอกแล้วครับผมคนปากไว ไวทั้งเรื่องด่าเรื่องกิน เห็นของกินต้องรีบคว้าไว้ก่อน

“เดี๋ยวไอ้เตี้ย อย่าให้กูเจอมึงคราวหน้าจะโว้ยย กูเล่นมึงแน่!!!” บายครับ ชาตินี้ทั้งชาติมึงคงไม่ได้เจอกูอีกแน่

...
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ สนุกไม่สนุกยังไงากติชมด้วยน้าา
แล้วก็ขอบคุณที่เตือนเรื่องใส่กฎด้วยนะคะ พอดีว่าเพิ่งลองลงครั้งแรก
หากมีอะไรที่ควรปฏิบัติอีก แจ้งได้เลยน้าา

ตอนหน้ารับรองได้เปิดศึกระว่างทั้งสองคนแน่นอน :mew4:

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
บทที่ 3

“กูอยู่หน้าร้านแล้ว โต๊ะเดิมป่ะวะมึง” ตอนนี้ผมอยู่หน้าร้านหมูกระทะที่นัดกับไอ้ส้มแล้วครับ ไอ้ส้มก็โทรเร่งยิกๆ บอกว่าทุกคนมาหมดแล้ว เหลือผมคนเดียว โธ่ ก็มางานวันเกิดทั้งที ผมก็เสียเวลาไปตามหาของขวัญวันเกิดให้พี่เก่งอยู่น่ะสิ ถึงผมจะมาเพื่อกินฟรี แต่ผมก็มีจิตสำนึกว่าควรจะหาของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้พี่เก่งบ้าง แม้ของขวัญวันเกิดผมมันจะกิ๊กก๊อกไปหน่อยก็เถอะนะ

“ให้ไวเลยมึง เพื่อนพี่เก่งแม่งจะเต๊าะย๊าอยู่เนี้ย  ไอ้หยิมแม่งอกจะแตกตายอยู่แล้ว กูก็เกรงใจพี่เก่ง ไม่กล้าทำไรมาก มึงมาเป็นไม้กันหมาแทนกูที” ครับ นั่นแหละเหตุผลที่มันโทรจิกผม

“เออออออออ กำลังเดินเข้าไป” เกือบลืมของขวัญแหน่ะ ความจริงแล้วพวกผมกับเพื่อนกลุ่มพี่เก่งก็สนิทกันในระดับหนึ่ง แต่เห็นว่าวันนี้มีพี่น้องสายรหัสของพี่เก่งมาด้วย ไอ้ส้มกับเลยเกรงใจ ไม่กล้าเล่นอะไรมาก มันคงคิดว่าคนเฟรนลี่แบบผม น่าจะช่วยเรื่องแบบนี้ได้มากกว่า

แค่ผมก้าวขาเข้าร้าน ก็เห็นไอ้ส้มโบกมือยิกๆ เรียกให้เดินเข้าไปหาที่โต๊ะทันที ผมค่อยๆ เดินเข้าไปหามัน พร้อมๆกับใช้สายตาประเมินสถานการณ์บนโต๊ะไปด้วย ตอนนี้บนโต๊ะมีคนนั่งอยู่ 10 คน เริ่มจากหัวโต๊ะก็มี พี่แบงค์ พี่เกมส์ พี่เติ้ล พี่มุก พี่เค้ก พี่เก่ง ไอ้ส้ม ย๊า หยิม แล้วก็ผู้ชายอีกคนที่ผมไม่รู้จักนั่งอยู่ ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ว่างๆข้างหยิม พร้อมกับยกมือสวัสดีพี่ๆ ทุกคนบนโต๊ะ

“ช้าจังวะมึง กูรอจนกูจะแดกหัวคนตรงข้ามได้อยู่แล้วเนี้ย แม่งส่งสายตาให้ย๊าอยู่ได้ กูรำคาญ” คนตรงข้ามที่ว่าก็คือผู้ชายที่ผมไม่รู้จักนี่แหละครับ

“เอาน่า มาช้าดีกว่าไม่มานะเว้ย แดกเถอะ เบคอนอันนั้นของใครวะ กูขอนะ อิอิ” ครับ แม้จะรู้ว่าตอนนี้ไอ้หยิมและไอ้ส้มมันร้อนใจแค่ไหนที่ย๊าโดนจีบ แต่สำหรับผม เรื่องกินต้องมาก่อน กินไว้ก่อนพ่อสอนไว้

“เจ็ทใช่มั้ย เบคอนอันนั้นของกูนะ” ไอ้ผู้ชายตรงข้ามหยิมทักผมครับ แต่เสียใจไอ้น้อง กูขอกินก่อนนะ

“แหมม ของกินแบ่งกันได้เนอะ อย่าถือโทษโกธรเคืองกูเลย ว่าแต่มึงเป็นใครวะ งั่มงั่ม” ถึงแม้ผมจะคุยกับมัน  แต่เบคอนทุกชิ้นบนกระทะก็กำลังถูกผมจัดการอย่างรวดเร็วครับ

“ใจเย็นเจ็ท เบคอนมันไม่หายไปไหนหรอก ไม่ต้องรีบกินขนาดนั้น 555555555” เสียงพี่เก่งแทรกมาครับ ผมยิ้มแหยๆ ส่งกลับไปแล้วหันไปหยิบหมูสามชั้นต่อ โหหหห หมูที่นี่มันดีจริงๆ มันเยิ้มเลยครับ พอย่างบนกระทะจนกรอบเอาแล้วเอาใส่ปากนี่ฟินสุดๆ น้ำจิ้มที่นี่ก็อร่อยครับ มันจะหวานปนเปรี้ยวๆ แถมมีพริกกระเทียมให้เติมสำหรับคนที่ชอบ แต่ผมว่ารสชาติของน้ำจิ้มที่ร้านเขาทำเองมันอร่อยลงตัวอยู่แล้ว  พริกกระเทียมไม่จำเป็นเลยครับ

“ของเขาอร่อยจริงๆ พี่เก่ง นี่เจ็ทอยากให้พี่เก่งเกิดบ่อยๆ เลยเนี้ย ได้กินฟรี แถมร้านอร่อย ไอ้เจ็ทชอบบบ 55555  งั่มงั่ม” กุ้งก็ตัวโตมากครับ พอแกะออกมาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดนี่อร่อยที่หนึ่งเลยครับ งั่มงั่ม

“5555555 วันเกิดพี่ก็แค่ปีละครั้งแหละ ไว้รอวันเกิดส้มเดี๋ยวพี่พามาเลี้ยงใหม่นะ”

“โหหหหห จริงหรอครับ งั้นวันเกิดเจ็ท วันเกิดย๊ากับหยิม อย่าลืมพามาเลี้ยงด้วยนะคร้าบบบบบบบบบบ” ลาภปากไอ้เจ็ทโว้ยยย

“ให้มันน้อยๆ หน่อยมึง มึงเป็นญาติฝ่ายไหนของแฟนกูมิทราบ เขาถึงจะเลี้ยงมึงนะ” ไอ้ส้มนี่มันขัดลาภจริงๆ ครับ

“แฟนเพื่อนคือแฟนเรา มึงไม่เคยได้ยินหรอไอ้ส้ม งั่มงั่ม” หื้อออออ หมึกที่นี่สดจริงๆ ครับบบ

“555555555 เอาน่าส้ม ไว้รอให้ถึงวันนั้น เราก็ค่อยไปถล่มร้านกาแฟเจ็ทก็ได้” ครับพี่เก่งครับ นอกจากจะไม่เลี้ยงผมแล้ว ยังเพิ่มงานให้ผมอีกครับ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าวันนี้วันเกิด ไอ้เจ็ทให้อภัยได้ อิอิ

“เอ๊อเจ็ท พี่ยังไม่ได้แนะนำเลย คนที่นั่งตรงข้ามหยิมนั่นน้องรหัสพี่เอง ชื่อคอปเตอร์ เตอร์นั่นเพื่อนส้ม ชื่อเจ็ท รู้จักกันไว้นะ” อ่อ ไอ้นี่ชื่อคอปเตอร์นี่เอง ชื่อยังกะเครื่องบิน โธ่ สู้ชื่อเจ็ทของผมไม่ได้หรอก ห๊ะ อะไรนะครับ อ่อ ของผมก็เครื่องบินเหมือนกันหรอ ลืมๆ

“รู้จักแล้วล่ะพี่ ก็มันเล่นแดกทุกอย่างที่ผมย่างไว้จนหมดขนาดนั้น ไม่รู้จักก็ไม่รู้จะว่าไงละ” มันพูดพร้อมๆ กับเอาเบคอนลงไปย่างใหม่

“เอาน่า มึงกินผักไปแล้วกันนะ กินมันๆ มากเดี๋ยวคอเลสเตอร์รอลเพิ่ม นี่กูหวังดีกับมึงนะเว้ยยย เห็นกูแบบนี้ กูหวังดีกับเพื่อนเสมอ งั่มงั่ม” เมื่อไหร่เบคอนที่ไอ้เตอร์ย่างเมื่อกี้จะสุกวะ นี่ผมต้องจิ้มลูกชิ้นมากินแทนแล้วเนี้ย

“ครับคุณครับ เชิญกินเลยครับ” สุดท้ายทุกคนก็ต้องยอมผม 55555555555

“เอ๊อพี่เก่ง เจ็ทเกือบลืมแน่ะ สุขสันต์วันเกิดนะพี่ ขอให้รักกับไอ้ส้มไปนานๆ แต่ถ้าเจอสาวสวยกว่าจะนอกใจเป็นครั้งคราวไอ้ส้มก็ไม่ว่าอะไรหรอก เชื่อผม 555555555555”

ป๊าบบบบบ

“เสี้ยมจังนะมึง พี่เก่งอย่าไปฟังไอ้เจ็ทมันมาก มันเมาเบคอนละ”

“5555555555 เจ็ทนี่ตลกๆ จริง อย่างพี่ไม่มีหรอกสาวที่ไหน นี่พี่ก็หวั่นอยู่เนี้ย ช่วงนี้มีสาวมาจีบส้มได้ทุกวัน พี่นี่กลัวใจส้มมันจะเบนไปสนใจสาวๆ เหล่านั้นมากกว่า” อย่างที่ผมว่าไหมล่ะ ไอ้ส้มมันฮอตในหมู่สาวๆ

“จะบ้าหรอพี่เก่ง ส้มชอบผู้ชายเหอะ กับสาวๆมันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น 5555555555555” พี่เก่งหน้าเหวอเลยครับ สองคนนี้มันอบเล่นอะไรกันแบบนี้ครับ เรื่องปมที่ไอ้ส้มมีสาวมาจีบเยอะแยะถือว่าเป็นเรื่องสนุกของคู่นี้ครับ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งไอ้ส้มมันเก่งแกล้งพี่เก่งว่ามันชอบย๊าครับ พี่เก่งนี่ช็อกไปเลยครับ ร้องไห้น้ำตาตก ปลอบกันอยู่ตั้งนาน สรุปไอ้ส้มล้อเล่นครับ หลังจากนั้นไอ้ส้มก็เอาเรื่องนี้มาล้อพี่เก่งอยู่ตลอด จนพี่เก่งชิน และเลิกสนใจสาวๆที่เข้ามาจีบไอ้ส้มแล้วครับ บางครั้งยังช่วยสาวๆจีบไอ้ส้มมันด้วยครับ 555555555555

“เดี๋ยวเถอะเรา อย่าให้พี่รู้นะว่าเป็นความจริง” ถึงจะไว้ใจไอ้ส้มมากแค่ไหน ก็ต้องมีหวั่นกันบ้างละน่า 5555555555

“เอ๊อพี่เก่ง เจ็ทมีของขวัญด้วยนะ แต่สงสัยลืมไว้ที่รถ เดี๋ยวเจ็ทไปหยิบแปป เตอร์ ย่างเบคอนไว้ให้กูด้วยนะ เดี๋ยวกูมาแดก” บอกแล้วเรื่องกินเรื่องใหญ่

“เออสัส นี่กูเป็นเบ๊มึงแล้วหรอวะ รีบไปไม่ต้องรีบมา รอกูแดกหมดกระทะก่อนค่อยมา” นี่แหละครับผู้ชาย คุยกัน 2 ประโยค ก็สนิทกันได้ ขึ้นกูมึงกันได้แล้ว

“เอออออออ เดี๋ยวมานะพี่ เดี๋ยวมานะมึง”

ผมนี่สะเพร่าจริงๆ ครับ ดันลืมหยิบของขวัญที่ตั้งใจซื้อมาให้พี่เก่งไว้ที่รถ อุตส่าห์แว๊นมอไซด์ไปซื้อที่เซเว่นหน้าปากซอยหอ ดันเอาใส่ใต้เบาะ แล้วลืมหยิบออกมา ต้องโทษไอ้ส้มที่โทรเร่งผม ทำให้ผมลืมของขวัญไปเลย

ถามว่าผมซื้ออะไรมาน่ะหรอครับ ผมรู้ว่าพี่เก่งนั้นชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เห็นไอ้ส้มบอกว่าตอนมัธยมพี่เก่งมีวงดนตรีของตัวเองครับ ตอนจีบกันใหม่ๆ พี่เก่งเคยร้องเพลงจีบไอ้ส้มกลางเวทีงานประกวดกันเลยทีเดียว เล่นเอาไอ้ส้มเขินไม่กล้าเจอหน้าพี่เก่งไปสองสามวัน แต่หลังจากวันนั้นพวกมันก็เป็นแฟนกันครับ ผมเลยตัดสินใจซื้อไมค์ของเล่นเป็นของขวัญวันเกิดพี่เก่ง คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ นี่แหละของขวัญที่คู้ควรกับนักร้องอย่างพี่เก่ง

ว่าแต่ผมจอดรถไว้ตรงไหนนี่แหละครับ ผมจำได้ว่าผมจอดรถไว้หน้าร้านนี่นา แล้วไหงตอนนี้หน้าร้านมี BM มาจอดแทน ละมอไซด์กิ๊กก๊อกของผมถูกเข็นไปอยู่ตรงไหนล่ะ นี่ผมลืมล็อคคออีกแล้วหรอเขาถึงเข็นไปง่ายขนาดนั้น โธ่ไอ้เจไดลูกพ่อ อย่าเป็นอะไรไปนะลูก

ว่าแต่ไอ้ BM คันนี้ถือสิทธิ์อะไรมาจอดแทนที่ฟีโน่คู่ใจของผม ผมอุตส่าห์จอดใกล้ๆ หน้าร้านจะได้ออกมาหามันง่ายๆ ที่ตั้งกว้างขวางทำไมไม่ไปจอดกันนะ ชิ นี่ถ้าผมแอบขูดรถมันมันจะรู้ไหมว่าผมทำ คงไม่รู้หรอกเนอะ คนในร้านเยอะแยะ มันไม่รู้แน่ว่าใครทำ หึหึ

“ทำไรกับรถกูวะ” เหวออออ เจ้าของรถมันมาแล้วครับ นี่ผมยังไม่ทันทำไรเลยนะ ถึงผมจะคิด แต่ผมไม่ทำอะไรเสี่ยงคุกแบบนั้นหรอกนะคร้าบบบบบบบ แค่จะเข้ามาดูรถใกล้ๆ เองงง

“มึงคิดจะทำอะไรรถกู หันมา กูบอกให้หันมาไง” คุณคิดสภาพผมตอนนี้นะครับ ผมที่กำลังด้อมๆ มองๆ รถมันอยู่ใกล้ มือก็กำลังกำกุญแจมอไซด์ ส่วนมึงอีกข้างกำลังเอื้อมไปจับ BM ของมัน ส่วนไอ้เจ้าของรถยืนอยู่ข้างหลังผมในระยะเกือบประชิด เสียงมันนี่ดังจนคนในร้านได้ยิน หันมามองเกือบทั้งร้าน งานเข้าแล้วไหมล่ะไอ้เจ็ท

“เออ ผมเปล่านะครับ ผมแค่อยากดูรถพี่ใกล้ๆ เฉยๆ เอง เห็นว่ามันสวยดีเท่านั้น” คิดสิไอ้เจ็ทคิด ทำไงถึงจะรอด

“ดูเชี่ยไร กูเห็นมึงกำลังจะขูดรถกูเนี้ย มึงเป็นใคร หันมาให้กูดูหน้าเดี๋ยวนี้” หันไปก็โง่สิวะ โอ้ยยยย เอาไงดีวะไอ้เจ็ท

“เกิดไรขึ้นพี่ที เจ็ท” โอ้ยยย เหมือนสวรรค์มาโปรด นี่มันเสียงพี่เก่งนี่นา เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พี่เก่งเรียกเจ้าของรถว่าพี่ที แสดงว่ารู้จักกันแน่นอน รอดแล้วโว้ยไอ้เจ็ท คนรู้จักกัน มันย่อมเคลียกันง่ายอยู่แล้ว

“ก็ไอ้เด็กนี่มันจะขูดรถกู พอกูให้หันมาก็เสือกไม่หัน มึงรู้จักมันด้วยหรอ บอกให้มันหันมาสารภาพผิดกับกูทีดิ๊” ไอ้คนที่พี่เก่งเรียกว่าพี่ทีหันไปคุยกับพี่เก่งครับ นี่ขนาดขึ้นกูมึงกับพี่เก่งได้นี่ไม่ธรรมดาเลยครับ แสดง่าต้องสนิทกันมากแน่ๆ งี้สบายไอ้เจ็ทละ ยิ่งสนิทยิ่งคุยง่าย เมื่อคิดได้งั้น ผมก็หันไปมองหน้าพี่ทีได้อย่างสบายใจแล้วล่ะครับ

“เจ็ทขอโทษพี่ที เจ็ทแค่อยากดูรถพี่ใกล้ๆ เฉยๆ เชี่ยยยยยยยยยยย ไอ้ลุงยักษ์!!!”

“ไอ้เห่ยเตี้ย!!!!!”

ปิ๊ก!!

อุ้ย ขาผมไวอีกแล้วครับ ก็บอกแล้วไง อย่าเรียกว่าเห่ย นั่นคำต้องห้าม สมน้ำหน้ามึง ไปสู่ที่ชอบที่ชอบเถอะ!


...........................................................................................
มาต่อตอน 3 แล้วววววววว เปิดตัวชื่อพระเอกของเราซะที หลังจากโผล่มาแว่บๆ บ้าง
มาติดตามกันต่อว่าหลังจากนี้ เจ็ทจะโดนคูณลุงยักษ์ทำโทษยังไง อิอิ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
555555
ต้องเรียกว่า เจ็ทตีนไว ใช่มั้ยแบบนี้

 :m20: :m20:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH 4

กลับสู่ชีวิตอันสุขสบายของไอ้เจ็ทอีกครั้ง ถามว่าทำไมเรื่องมันดำเนินมาไวขนาดนี้หรอครับ พวกคุณคงงงว่าเมื่อตอนที่แล้วผมยังกินหมูกระทะแสนอร่อยอยู่เลย แล้วทำไมมันพาสมาวันนี้ได้ ไม่ต้องงงหรอกครับ นี่เรื่องต่อกันเลย จากวันนั้นนั่นแหละ

หลังจากที่ผมเตะผ่าหมากไอ้ลุงยักษ์นั่นเสร็จ ผมก็เดินไปที่เจไดลูกรักของแล้ว แล้วหยิบของขวัญวันเกิดส่งให้พี่เก่ง แล้วก็เดินเข้าไปกินหมูกระทะต่ออย่างสบายใจ ถามว่าแล้วได้ลุงยักษ์นั่นล่ะ มันก็เดินตามผมเข้ามาน่ะสิครับ แถมยังนั่งโต๊ะเดียวกับผมด้วย สรุปมันคือพี่รหัสปีสามของพี่เก่งครับ โลกกลมชะมัด แต่คิดว่าไอ้เจ็ทคนนี้จะกลัวหรอ นอกจากจะไม่ขอโทษแล้ว  ยังนั่งกินต่ออย่างสบายใจด้วย ก็บอกแล้วเรื่องกินเรื่องใหญ่ อะไรก็ขวางกูไม่ได้ทั้งนั้น

แล้วถามต่อว่ามันไม่โกธรผมหรอ หึ นั่งจ้องหน้าผมตลอดเวลาขนาดนั้นไม่โกธรหรอกมั้ง แต่มันคงเห็นแก่พี่เก่ง มันเลยยอมนั่งกินเฉยๆ แต่สายตานี่บอกเลยเฉียดเฉียนชิบหาย แต่คิดหรอครับว่าผมจะกลัว หึหึ ก็พอกินจนอิ่มแล้ว ก็ขอตัวกลับหอทันทีนั่นแหละครับ จังหวะมันลุกไปเข้าห้องน้ำพอ ผมเลยชิ่งสบายยยยย

“เจ็ท รายงายเจ็โหดมึงทำเสร็จยังวะ” ตอนนี้ผมอยู่หน้าคณะกับส้มครับ รอสองแฝดนั่นมา จะได้เข้าเรียนพร้อมกัน

“ยังหาข้อมูลไม่ครบ บ่ายนี้ไม่มีเรียนกูว่าจะเข้าไปห้องสมุดหน่อย มันยังขาดข้อมูลบางส่วน มึงไปกับกูป่ะ”

“เออไปดิ กูว่างพอดี แต่ต้องถามพี่เก่งก่อน เห็นว่าบ่ายนี้ก็ว่างเหมือนกัน เผื่อพี่เก่งไปด้วย” ส้มว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์มากดยิกๆ คงทักไลน์ไปถามพี่เก่ง

“เออมึงจำพี่ทีได้ป่ะ” ส้มเงยหน้าจากโทรศัพท์แล้วมองหน้าผม

“ทีไหนว่ะ กูมีคนรู้จักชื่อทีด้วยหรอ”

“ก็พี่ทีที่มึงเตะผ่าหมากที่ร้านหมูกระทะวันนั้นไง” อ่ออออออออออออ ลุงยักษ์นั่นเอง

“เออ ทำไมวะ” พูดถึงแล้วขนลุกครับ ไม่รู้ป่านนี้มันสาปแช่งผมไปถึงไหนแล้ว ดีนะมามหาลัยสองสามวันมานี้ไม่เจอตัวมันเลย จากหอผมมาคณะ ต้องขี่มอไซด์ผ่านคณะพี่เก่งทุกวัน ทุกครั้งที่ผ่านก็แอบชำเลืองมอง BM คันนั้นที่เคยสัมผัส กลัวเจอเจ้าของรถครับ กลัวขามันจะไวแล้วเตะป๊าบเข้าไปที่เดิมอีก

“ก็วันก่อนกูไปรอพี่เก่งหน้าคณะ แล้วบังเอิญเจอพี่ทีเข้า” ส้มพูดในขณะที่มือยังคงกดโทรศัพท์คุยกับพี่เก่งอยู่ เห็นแล้วผมเลยหยิบโทรศัพท์มากดบ้าง ต้องเร่งสองแฝดครับ นี่ก็ใกล้จะเข้าเรียนแล้ว วิชานี่เช็คชื่อต้นคาบด้วย คราวที่แล้วผมก็โดดไปทีหนึ่งแล้ว ขาดบ่อยๆ เดี๋ยวหมดสิทธิ์สบครับ

“พี่เขาเข้ามาทักกู”

“อ่าฮะ” ย๊าบอกว่ากำลังหยิมกำลังขับรถเลี้ยวเข้าหน้ามอครับ อีกไม่เกิน 5 นาทีคงจะถึง

“เขาถามหามึง” ส้มเงยหน้ามามองผมแว่บนึงแล้วหันไปตอบพี่เก่งต่อ

“....” ผมเห็นรถสองแฝดแล้วครับ กำลังเลี้ยงเข้ามาจอดหน้าคณะ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่ารถที่ขับตามหลังสองแฝดมา ผมว่ารถคันนั้นมันคุ้นๆ นะครับ เหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน

“เขาขอเบอร์มึงจากกู บอกอยากเคลียร์เรื่องวันนั้น” ขวับ! ผมเบนสายตาจากรถคันคุ้นตาคันนั้น แล้วหันมามองหน้าส้ม จังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ผมสั่นพอดี ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

“แต่กูไม่ได้ให้เบอร์มึงไปนะ กูขอเบอร์พี่เขามาแทน เนี้ยกูเลยจะมาถามมึงว่ามึงจะเอาเบอร์พี่เขาไหม”

“เบอร์อะไร” ส้มเงยหน้ามามองผมแว่บนึง แล้วหันไปกดโทรศัพท์ต่อ คงไปค้นเบอร์

“093-578...”

“...6149” ข้างบนน่ะเสียงส้ม แต่ข้างล่างน่ะเสียงผม ถามว่าผมรู้ได้ยังไงน่ะหรอครับ พวกคุณคงแปลกใจ ครับ เพราะส้มก็แปลกใจเลยไม่ต่างจากพวกคุณ

“มึงรู้ได้ไงวะ” ส้มถามจังหวะเดียวกับที่ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาชูให้ส้มดู

‘ออกมาหากูที่รถ เดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!’

...


ตอนนี้ผมอยู่บนรถกับไอ้ลุงยักษ์ครับ ถามว่าทำไมผมมาอยู่ที่นี่ได้น่ะหรอ จริงๆ ตอนนี้ผมต้องอยู่ห้องสมุดกับเพื่อนของผมครับ แต่มันไม่ยอมเลิกรากับผมซักทีครับ

หลังจากที่ผมได้รับข้อความจากมันให้ออกไปหาที่รถ สองแฝดก็เดินมาหาพอดี ผมเลยขึ้นเรียนกับเพื่อนของผมทันที ทำเป็นไม่สนใจข้อความกับรถคันนั้น แต่ให้ตายเถอะครับ ขณะที่ผมเรียนอยู่มันก็ส่งข้อความหาผมทุกๆ 5 นาทีเลยทีเดียว

‘กูบอกให้ออกมาหากูที่รถ’

‘กูจะรออีก 5 นาที ไม่งั้นมึงโดนหนักแน่’

‘มึงอยากลองดีกับกูหรอ’

‘ถ้าไม่ออกมากูบุกไปลากมึงถึงห้องเรียนแน่’

นั่นแหละครับ ไอ้ประโยคที่บอกว่าจะบุกมาหาผมที่ห้องนั่นแหละ ทำให้ผมกดตอบข้อความมันไปว่า ตอนบ่ายว่างค่อยคุยกัน มันถึงยอมล่าถอยไป อย่างน้อยมันก็คงให้ความสำคัญกับการเรียนของผมบ้าง

ความจริงผมตั้งใจว่าจะแอบหนีมันออกมาก่อนเวลาเลิกเรียน แต่ใครจะไปรู้ล่ะครับว่ามันจะมาดักรอผมหน้าห้องเรียนขนาดนี้ แม่งรู้ได้ไงวะว่าผมเรียนห้องไหน สืบตารางชีวิตผมมารึไงกัน รู้ด้วยว่าผมเป็นพวกของหนีออกจากห้องเรียนก่อนเวลา นี่ขนาดหนีออกมาเร็วกว่าปกติแล้วนะ ยังรู้ทันผมอีก

และนั่นก็เป็นเหตุผลทั้งหมดที่ผมมาอยู่บนรถกับมันตอนนี้ ถามว่าเจไดคู่ใจผมอยู่ไหนน่ะหรอครับ ก็จอดอยู่หน้าคณะนั่นแหละ อุตส่าห์บอกมันว่าเอารถมาแล้วนะ มันก็บอกว่าเสร็จธุระแล้วจะพามาส่งที่คณะเอง ให้จอดมอไซด์ไว้นี่ มันคงกลัวผมชิ่งสินะ ชิ ไม่รู้อะไรซะแล้ว คนอย่างไอ้เจ็ทไม่หนีหรอกนะ ถ้าไม่มีช่องทาง ฮาาาาาา

“ว่าแต่มึงมีธุระอะไรกับกูเนี้ย รีบๆ พูดไม่ได้หรอวะ” ตั้งแต่ผมขึ้นรถมันมามันก็ยังไม่ยอมปริปากพูดธุระกับผมซักที นอกจากปราดสายตามามองเล็กน้อยแล้วหันไปขับรถต่อ ผมพยายามถามมันหลายต่อหลายครั้งก็ได้ปฏิกิริยาเดิมกลับมา จนผมเริ่มจะประสาทเสีย

“นอกจากมึงจะส่งข้อความมาก่อกวน ลากกูขึ้นรถ แถมยังจะพากูไปไหนไม่รู้อีกเนี้ยนะ ปากนี่มีไว้แดกอย่างเดียวรึไงวะ ทีตอนนั้นยังด่ากูฉอดๆ อยู่เลย มาตอนนี้เสือกใบ้แดกซะงั้น หรือมึงเป็นไบโพล่าร์ มีสองบุคลิก” ปากไวอีกแล้วกู

“หุบปากซัก 5 นาที ไม่ได้ทำให้ปากมึงเน่าหรอกนะ” โว้วววววว กว่าจะพูดได้ทีนี่ทำผมสะอึกได้เหมือนกันนะครับ ผู้ชายไรวะปากคอเรอะร้ายเหลือเกิน หืมมมม ผู้ชายอย่างผมหรอครับ อ้าว นี่พวกคุณด่าผมปากหมาหรอ

แต่อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยครับ มันพูดมางี้ก็ทำให้ผู้ชายอย่างผมเงียบได้เหมือนกัน เหอะ เห็นว่าบรรยากาศมันน่าอึดอัดหรอก ถึงพูดด้วย ถ้ากูเงียบไปตลอดทางแล้วอย่ามาง้อล่ะกัน ชิ

รถค่อยๆ เคลื่อนไปด้านหน้าด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ไม่รู้มันจะรีบไปไหน บนรถก็เงียบเหลือเกิน เงียบจนผมเริ่มรู้สึกง่วงแล้วนะ เมื่อคืนก็เข้าไปทำงานร้านพี่โจ้จนดึก เพราะมีเด็กลาออกไป เลยต้องเพิ่มเวลางานจนกว่าพี่โจ้จะหาคนมาทำกะดึกได้ใหม่ ไม่ค่อยมีคนอยากทำกะดึกหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่ก็เด็กมหาลัยทั้งนั้น พอกลางวันเรียนกันจนเหนื่อยแล้ว กลางคืนก็อยากพักกัน ผมนี่ก็ทำกะค่ำ เลิกงานตีสอง แต่ถ้าวันไหนมีเรียนบ่ายก็อยู่ได้นานหน่อย แต่ถ้ามีเรียนเช้าก็ออกงานตามเวลา ถึงผมจะโง่และแอบโดดเรียนบ้าง ก็ไม่เกเรหรอกนะครับ อยากเรียนให้จบตมกำหนดเหมือนเด็กคนอื่นๆ นั่นแหละ

ง่วงแล้วครับ ถ้าผมขอตัวไปนอนก่อนแปปนึง ไอ้ลุงยักษ์นี่คงไม่ได้ว่าอะไรหรอกมั้ง เดี๋ยวถึงมันคงปลุก ผมคิดว่างั้นนะ zZ

TBC.

...
มาต่อแล้วจ้าา แฮ่ ฝากติชมด้วยน้าาาา
จริงๆ แล้วเรายังงงเรื่องการตั้งกระทู้หรือการต่อตอนใหม่อยู่เลย มันต้องกด reply ถูกแล้วใช่ไหมคะ
แล้วหัวข้อกระทู้คือมันขึ้นแบบนี้ถูกแล้วใช่ไหม 555555555 มือใหม่ ฝากแนะนำด้วยน้าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถูกแล้วค่ะ แต่แนะนำให้เพิ่มวันที่อัพลงไปที่หัวข้อด้วยเนอะ (บางทีก็จำไม่ได้ว่าอัพถึงบทไหน ถ้าเห็นวันที่จะได้รู้)

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เป็นตัวเอกที่สันดานเลวร้ายดีจริง ปากเปราะ ความคิดแย่ ไร้มารยาท เดี๋ยวมีโอกาสขอหาข้อดีก่อนนะ = =

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
รอดูพี่ีทีจะปลุกน้องเจ็ทแบบไหน
ลักพาตัวกันไปไหน อยากรู้ๆ
 :mew1:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
น่าสนุกดี รออ่านต่อๆ

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH5

ร้อน นั่นเป็นความรู้สึกแรกของผมตอนนี้ ร้อนครับ ร้อนมาก เหมือนอยู่ในเตาอบ รู้สึกถึงเหงื่อตามไรผมและหลัง ผมค่อยๆขยับเปลือกตาเปิดออก

ที่ไหนวะเนี้ย!? นั่นคือความรู้ที่สองครับ ตอนนี้ผมนอนอยู่บนรถ ครับ ก็ไอ้บนรถลุงนั่นแหละ แต่ตัวบนไม่อยู่บนรถ ทิ้งผมนอนเป็นหมาเฝ้ารถอยู่คนเดียว แถมไม่เปิดแอร์หรือเปิดหน้าต่างให้ด้วยนะ ร้องฉิบหายเลยครับ ว่าแต่ที่นี่คือที่ไหนวะ

ผมมองไปรอบๆ ก่อนจะก้าวลงจากรถ ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งครับ เป็นบ้านสองชั้นสีขาว มีต้นไม้อยู่รอบบ้านเต็มไปหมด ประหนึ่งว่าเป็นสวนกล้วยไม้ขนาดย่อมด้วย เดาว่าเจ้าของบ้านคงชอบความร่มรื่นมาก เพราะจากต้นไม้เต็มไปหมดเลยครับ มองเลยเข้าไปในบ้านก็เหมือนมีต้นกระบองเพชรอยู่ภายในบ้านเต็มไปหมดเลย ถามว่าผมมองเห็นได้ยังไงน่ะหรอ ก็ประตูหน้าบ้านดันเป็นกระจกใสน่ะสิ มองเห็นทะลุปรุโปร่งหมดเลยว่ามีอะไรบ้าน ว่าแต่ มันพาผมมาที่นี่ทำไม แล้วตัวมันอยู่ไหน แล้วทิ้งผมไว้คนเดียวอย่างงี้ก็ได้หรอวะ?

เหลือบมาองหน้านาฬิกาที่อยู่ในบ้าน ตอนนี้ก็ปาไปบ่าย 3 โมงแล้วครับ ว่าแล้วก็เริ่มหิวแล้วสิ โดนมันลากออกมาทันทีที่ก้าวออกจากห้องเรียน ข้าวยังไม่ตกถึงท้องซักเม็ด มองซ้ายมองขวาก็เจอแต่ต้นไม้ ทำไงดีล่ะ ท้องผมเริ่มร้องประท้วงเรื่อยๆ แล้วด้วยสิ

ผมตัดสินใจเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูกระจก ชะเง้อคอมองเข้าไปก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีใครอยู่ สองจิตสองใจจะก้าวเข้าไปก็กลัวจะเสียมารยาท จะรออยู่ตรงนี้ก็หิวเหลือเกิน ข้างในอาจจะมีอะไรให้กินบ้างนิดหน่อยก็ยังดี เอาไงดีวะเนี้ยยยย?

“จะขโมยอะไรอีกล่ะ?”

ควับ!

ไอ้ลุงยักษ์ยืนพิงรถมันอยู่ครับ มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี้ย มองลงมาตามมือมัน ก็เห็นถือถุงพลาสติกสีใสอยู่ มันเห็นแบบนั้นจึงมองตามสายตาผม

“หึ!” มันยกยิ้มขึ้นมุมปาก คิดว่าเท่นักหรือไงวะ เออ ก็เท่จริงๆนั่นแหละ ยอมรับเลยว่าไอ้การยืนพิงรถ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า อีกข้างถือถุงพลาสติก แถมยกยิ้มขึ้นข้างหนึ่งมันช่างดูดีเหลือเกิน อย่างกับพรีเซนเตอร์ถุงก๊อบแก๊บ ถ้าเปลี่ยนเป็นผมไปยืนตรงนั้นคงเหมือนเด็กส่งข้าวมากกว่า

“มึงพากูมาที่ไหน?”

“บ้านกู” ห๊ะ? พามาบ้านทำไมวะน่ะ  แต่อีกใจก็แปลกใจมากกว่าครับ ไม่คิดว่าคนลักษณะท่าทางแบบนี้ จะอาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นขนาดนี้ คนเรามองหน้าไม่รู้ใจจริงครับ ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตา ผมก็คิดว่ามันน่าจะเป็นพวกติดหรู อยู่คฤหาสน์หลังใหญ่มหึมามากกว่า

“แล้วพามาทำไม”

มันไม่ตอบ แต่เดินนำผมไปที่หน้าบ้านแทน หยิบกุญแจขึ้นมาแล้วไขกุญแจไขประตูกระจก หันกลับมามองผมแว่บนึง แล้วเดินนำเข้าไปบ้าน ผมคงไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมครับว่านั่นคือการเชิญเข้าบ้าน ถือเดินตามถุงอาหารละกันครับ กระเพาะผมสั่งมา

“สรุปพากูมาทำไม?”

“หิวไม่ใช่หรอ กินก่อนสิ” ลุงนั่นถือถุงกับข้าววางบนโต๊ะในครัว แล้วหันไปหยิบจาน

แปลก นั่นคือความรู้สึกต่อมาหลังจากที่มันชวนผมกินข้าว ผมคิดภาพไอ้คนที่หาเรื่องผมที่ร้านข้าววันนั้น หรือคนที่ขี้โมโหที่ร้านหมูกระทะในวันเดียวกันนั้นไม่ออก หรือตอนที่ผมหลับบนรถมีอะไรที่ผมไม่รู้รึเปล่า ทำไมอยู่ดีดีมาทำตัวดีใส่ ทั้งๆ ที่เมื่อเช้ายังบังคับพาผมมาด้วยอยู่เลย

“มองกูแบบนั้นจะกินหรือไม่กิน กินก็ยกไปโต๊ะอาหารตรงโน่น ถ้าไม่กินก็ไปนั่งรอหน้าทีวีไป” ตอนนี้มันเทอาหารทุกอย่างใส่จานหมดแล้วครับ ต้มจืดวุ้นเส้น กับผัดกระเพราะหมูสับ ต้องเรียกว่าอาการสิ้นคิดดีครับ

ผมมองมันอย่างหวาดระแวง แม่งจะใส่อะไรลงไปรึเปล่าวะ แต่คงไม่หรอกมั้ง ก็ในเมื่อมันไม่ได้ทำเองนี่ คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง คิดได้แบบนั้นก็ยกอาหารไปวางบนโต๊ะอาหารตามที่มันสั่ง นั่งรอที่โต๊ะไม่นาน ข้าวสวยร้อนๆ 2 จาน ก็ถูกวางตามบนโต๊ะ ลุงนั่นนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามผม ปรายตามองผมแว่บนึงแล้วหันไปสนใจอาหารบนโต๊ะ

“นี่ สรุปจะบอกได้รึยังว่าพามาทำไม” กับข้าวก็อร่อยดีครับ ต้มจืดไม่จืดอย่างชื่อ วุ้นเส้นก็อืดพอดี ผมชอบกินแบบกรุบๆ ครับ นิ่มไปแล้วมันแยะๆ ส่วนผีดกระเพรานี่ผมคิดว่าถ้าเผ็ดอีกหน่อยรสชาติคงพอดีกว่านี้ แต่อย่างว่าแหละครับ ครั้งแรกที่เจอกันลุงนี่ก็กินสุกี้ไม่เผ็ด ก็ไม่แปลกใจอะไรที่กับข้าวที่มันเลือกซื้อมาจะติดรสชาติเด็กน้อยเสียหน่อย

“กินก่อนเถอะ พูดตอนกินข้าวมันเสียมารยาท” ด่ากูเลยเถอะครับ ถ้าจะพูดขนาดนี้

...

หลังจากกินข้าวที่นอกจากเสียงช้อนกับส้อมกระทบจานกับเสียงเคี้ยวที่ดังขึ้นบ้างประปรายแล้ว ระหว่างเราสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ผมช่วยลุงนั่นเก็บโต๊ะและล้างจานนิดหน่อย ถือว่าเป็นมารยาท ถึงฝ่ายนั้นจะบอกว่าไม่ต้องก็ตาม เอาน่า คนดีมาก็ดีตอบ ผมไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้น แค่แปลกใจเฉยๆ ที่อยู่ดีดีก็มาทำตัวดีใส่ แถมยังถามคำตอบคำ ไม่โวกแวกโวยวายเหมือนตอนแรกที่เจอ ฟรือมันเป็นไบโพล่าร์วะ? พวกสองบุคลิกงี้หรอ?

“มีอะไรก็พูดมา” หลังจากเก็บล้างจานกันเสร็จแล้ว มันก็พาผมมานั่งที่โซฟาหน้าทีวี

“มึงเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับสองแฝดนั่นใช่ไหม” หืมมมม สองแฝด ย๊ากับหยิม?

“ทุกคนในคณะก็ว่าแบบนั้นนะ”

“ดี” ดี? อะไรดีวะ ยิ่งคุยยิ่งงง

“จีบยะย๊าให้กูหน่อย”

ห๊ะ?

..............................................................
เค้ามาต่อแย้ววว ช่วงนี้ยุ่งๆ ค่ะ
เดินสายสมัครงานตัวเป็นเกลียว เลยโผล่มาแค่สั้นๆ (สั้นมาก แง่ว) ขอโต้ดน้าาา
ยังไงก็ฝากติดตามเน่อ ติชมได้เลย จะได้ปรับปรุงภาษาให้ดีขึ้นน้าา
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เยิฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
WTF!!!!
ใช้น้องไปจีบคนอื่น
สาดดดดดดดดดดดด
ไอ้ๆๆๆๆๆ
เม้นต์ไม่ออก
 :z6:
ปลดจากตำแหน่งพระเอกด่วน

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH6
Natee : วันนี้มึงเรียนกี่โมง
JetP : บ่าย
Natee : เที่ยงกูเข้าไปหา

ผมอ่านแชทของมันแล้ว กดปิดเครื่องมือสื่อสาร โดยที่ไม่ได้ตอบอะไรมันกลับไป หลังจากเรื่องราวที่บ้านของมันวันนั้น ผมกับมันเริ่มสนทนากันอย่างจริงจังได้ 2-3 วันแล้วครับ ถามว่าทำไมถึงคุยกันน่ะหรอ เพราะหลังจากที่มันบอกให้ผมช่วยจีบยะย๊าสาวน้อยประจำกลุ่ม ผมก็ปฎิเสธไปสิครับ ใครจะไปอยากได้เพื่อนสะใภ้เป็นตาแก่นี่แหละ จริงๆ ก็พูดเกินไปครับ ถึงลุงนี่จะอยู่ปีสาม และรูปร่างจะสูงใหญ่ปานนั้น แต่ก็ไม่ได้แก่อะไรขนาดนั้นหรอก แต่ขอเรียกลุงเถอะ ลุงแก่กินหญ้าอ่อน ชิ

แล้วถามว่าทำไมผมกับมึงถึงคุยกันแบบนี้น่ะหรอครับ ก็หลังจากที่ผมปฎิเสธมันไป โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นด้วยเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า หยิบขึ้นมาดูคืออะไรรู้ไหมครับ รูปครับ หลายรูปเลย ถามว่ารูปใครน่ะหรอ หึ รูปผมไง รูปแรกก็แค่รูปผมนอนน้ำลายไหลยืดบนรถมัน รูปที่สองเป็นรูปที่ผมนั่งกินหมูกระทะแล้วทำน้ำจิ้มหกใส่เสื้อหยิมที่นั่งข้างๆ เหตุการณ์นั้นผมจำได้ว่าผมโยนความผิดให้ไอ้ส้มที่บังเอิญเดินมาตักหมูบนกระทะตรงหน้าผมพอดี แล้วก็รูปผมในอิริยาบถต่างๆ ทั้งตอนเรียน ตอนไปทำงาน หรือตอนขี่มอไซด์

‘มึงแอบสืบเรื่องของกูหรอวะ’ มันยิ้มแต่ไม่ได้ตอบกลับมา ผู้ชายคนนี้น่ากลัวครับ ท่าทางใจร้อนที่เคยแสดงให้ผมเห็นในครั้งที่เคยเจอกัน เทียบไม่ได้กับรังสีอำมหิตที่ลอยคลุ้งอยู่รอบตัวมันตอนนี้เลยครับ

‘คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้กูกลัวมึงรึไง’

มันยิ้มอีกแล้วครับ ก้มหน้ากดโทรศัพท์อีกครั้ง ก่อนที่จะมีเสียงเตือนข้อความดังจากโทรศัพท์ผมอีกครั้ง ผมขมวดคิ้วมองภาพในมือ ตากระตุกวูบ แว่บนึงที่แววตาผมตกใจ แต่ก็ต้องรีบซ่อนความรู้สึกที่คงแสดงออกมาจากแววตา ภาพผมกำลังแอบมองผู้ชายคนหนึ่ง คนที่คุณก็รู้จักดี คนที่ใครๆ ก็บอกชื่นชม คนที่ไม่ว่ายังไงก็คงไม่หันกลับมามองผมแน่ๆ

‘มึงคงคิดว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้สินะ’ ท่าทางสบายๆ ที่แสดงออกมาจากตัวมัน กลบรังสีอำมหิตเมื่อกี้ไปจนหมด มันยิ้มอีกครั้ง แล้วกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ

ผมเบนสายตาหันไปมองทีวีตามมัน ผมคิดว่าผมปิดจนมิดแล้ว ผมคิดว่าท่าทางที่แสดงออกไป ทุกครั้งที่คุย ทุกครั้งที่ยิ้ม หรือทุกครั้งที่เข้าเรียนพร้อมๆ กัน ผมพยายามปิด ปิดพยายามไม่สนใจ หรือแม้กระทั่งทำทุกอย่างให้เหมือนว่าเป็นเพื่อน มันเป็นใครวะ เสือกมายุ่งเรื่องอะไรของผม

‘กูสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ถ้ามึงช่วยกูจีบย๊า’ เกลียดรอยยิ้มมันชิบหาย ท่าทางสบายๆ แบบนั้นทำให้ผมหมั่นไส้ มันขู่ผมครับ

‘กูให้เวลามึงคิด แล้วคืนนี้กูจะเอาคำตอบ นั่นคือเบอร์กู เมมไว้ และหวังว่ากูจะได้รับข่าวดี’ มันว่าแล้วก็กดปิดทีวีลง ยืนขึ้นเต็มความสูง เดินนำผมออกไปหน้าบ้าน นั่นคงเป็นสัญญาณว่าถึงเวลากลับของผมสินะ เกลียดคนแบบนี้ชะมัด คนที่ผมสู้ไม่ได้

...................................................................

“ทำไมวันนี้มากับพี่ทีอีกแล้ววะ” ครับ หลังจากวันนั้นมันก็แวะมาหาผมทุกวัน ไม่ใช่ว่าพิศวาสอะไรผมหรอกนะครับ เพราะทุกครั้งที่มันมาหาคือมันอยากเจอยะย๊า ต้องการรู้เรื่องของยะย๊าทุกเรื่อง ผมก็สงสัยเหมือนกันนะครับว่าทำไมไม่สืบเองเหมือนที่ทำกับผม หรือความจริงมันอาจจะสืบแล้ว แต่แค่ต้องการเรื่องส่วนตัวที่ไม่สามารถสืบได้

“เจอกันหน้ามอ มันเลยแวะมาส่ง” เหตุผลปัญญาอ่อนครับ แต่ไอ้คุณส้มที่ดันเชื่อสนิท ช่วงวันแรกๆ ที่มากับลุงนั่น มันก็แปลกใจมากครับ ถึงขั้นเดินวนรอบตัวผมสามรอบ ถกเสื้อถกกางเกงผมใหญ่ว่ามีร่องรอยว่าบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า พอให้เหตุผลไปว่ามอไซด์เสีย แล้วเจอลุงนั่นที่ป้ายรถเมล์มันก็เชื่อครับ เชื่อคนง่ายเหลือเกินพ่อคุณ

แล้วถามว่ามอไซด์ผมเสียจริงๆ น่ะหรอ ตอบเลยครับว่าจริง ชีวิตผมลำบากขึ้นมากโข ก็ไอ้วันนั้นที่จอดไว้คณะนั่นแหละ พอกลับมาเอามันอีกรอบก็ผมว่ามันนอนเอ้งเม้งอยู่บนพื้นเสียแล้ว ถามยามแถวนั้นได้ความว่าเมื่อกี้มีนักศึกษาทะเลาะกันหน้าคณะผม แล้วเผลอหยิบไม้ขึ้นมาฟาดมอไซด์ผม ครับ คุณได้ยินไม่ผิดหรอก ฟาดมอไซด์ผมเพราะแม่งโมโหที่อีกฝ่ายพูดไม่รู้เรื่อง พอเห็นอะไรก็ฟาดหมด นี่มันโคตรซวยบรมเลยครับ โดยขู่ แถมมอไซด์ยังพัง ยังดีหน่อยที่ไอ้นั่นมันได้สติหลังจากที่ฟาดมอไซด์ผมล้มคว่ำไปแล้ว จึงฝากขอโทษแถมให้เบอร์มันไว้กับยาม บอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ไม่งั้นเงินเดือนนี้ไม่พอใช้แน่ๆ เพิ่งถอยอุปกรณ์การเรียนมาใหม่ด้วย

“ช่วงนี้ดูสนิทกันจังนะ ตอนนั้นกูยังเห็นทะเลาะกันจะเป็นจะตาย” เสียงหยิมดังขึ้นด้านหลัง มันส่งแก้วน้ำแดงที่คงไปซื้อมาจากร้านขายของแถวนั้นส่งให้ย๊า และวางนมเปรี้ยวลงตรงหน้าผม ผมเป็นคนติดนมเปรี้ยวครับ ตอนเด็กเป็นคนท้องผูกอย่างหนัก ทำอย่างไรก็ไม่เข้าห้องน้ำซักที ตัดสินใจลองซื้อไอ้นมเปรี้ยวขวดจิ๋วนี่กินก่อนไปเข้าเรียน สรุปว่าวันนั้นวิ่งเข้าห้องน้ำไปหลายรอบ จนค้นพบว่าถ้าอยากเข้าห้องน้ำต้องกินเจ้านมเปรี้ยวขวดนี้ รับรองขับถ่ายคล่องสบายปรื๋อ

หยิมมักจะซื้อนมเปรี้ยวให้ผมกินก่อนเข้าเรียนเสมอ จนแฟนคลับมันคิดว่าหยิมชอบกินนมเปรี้ยวเลยซื้อมาให้กันเป็นประจำ แน่นอนครับว่าเสร็จผมสิครับ

“ไม่หรอก ก็กูรถเสียไง พอเจอกันมันก็รับมา ดีออก ประหยัดค่ารถเมล์กูได้ตั้งหลายบาท” ดีบ้าอะไรล่ะครับ เจอกันที่ก็ด่ากันทุกวัน จะพูดดีกันได้บ้างก็ช่วงที่คุยเรื่องยะย๊า เพราะยะย๊าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนหวานและสดใสเกินว่าจะพูดถึงในแง่ลบได้ เรียกว่าไม่มีเลยดีกว่าครับ

“งั้นหรอ” หยิมตอบรับเบาๆ แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ คงเช็คโซเซียลตามประสาคนดังของมันนั่นแหละครับ มันชอบเข้าไปดูว่ามีใครพูดถึงย๊าในทางที่ไม่ได้ดีบ้าง ส่วนเรื่องของตัวมันมันไม่ค่อยสนใจหรอก ใครด่าก็ด่าไป อย่าให้มาด่าย๊าก็พอ แต่นานๆ จะมีซักทีครับ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนก็จะชื่นชอบพวกมันอยู่แล้ว

“แล้ววันนี้ไปทำงานร้านพี่โจ้รีเปล่า วันก่อนเห็นในเพจร้านว่ามีเค้กตัวใหม่มา ย๊าอยากไปลองชิม” ย๊าหันมาคุยกับผมหลังจากก้มลงไปดูดน้ำแดงที่หยิมซื้อมาให้ ย๊าติดน้ำหวานครับ กินทุกคนจนหยิมมันบ่นให้ผมฟังจนหูชาว่ากลัวย๊าเป็นเบาหวาน แต่ก็เป็นมันอีกนั่นแหละที่เป็นคนซื้อให้ย๊ากินทุกวัน

“อ๋อ เค้กตัวใหม่น่ะหรอ ถ้าย๊าอยากลองชิมก็มาเลย เดี๋ยวเจ็ทเก็บไว้ให้” ย๊ายิ้มจนตาหยี คนแบบนี้น่ะหรอที่จะตกไปอยู่ในน้ำมือของไอ้ลุงนั่น แค่คิดผมก็อดเสียดายคนดีดีแบบย๊าไม่ได้ นี่ถ้าไอ้ลุงนั่นไม่จริงจังกับย๊าล่ะน่าดู ผมนี่แหละจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ชิ

“แล้วเลิกเรียนมึงไปไหนส้ม” เห็นไอ้ส้มนั่งกดโทรศัพท์ยิกๆ หลังจากที่ทักผมตอนแรก วันนี้มันเงียบแปลกๆ แฮะ ปกติพูดน้ำไหลไฟดับ แต่วันนี้กลับปล่อยให้ผมเป็นผู้ผูกขาดบทสนทนา

“ไปกับพวกมึงแหละ” แปลกจริงๆ นะครับ ปกติเลิกเรียนปุ๊บไม่เคยเห็นหน้าไอ้ส้มเลยซักครั้ง นอกจากพี่เก่งจะเลิกเรียนเย็นจริงๆ แต่ส่วนมากมันก็ไปนั่งรอหน้าคณะพี่เก่งตลอด จนมีเพื่อนซี้เป็นเด็กปีหนึ่งคณะนั้นเยอะแยะแหละครับ

“เกิดอะไรขึ้นกับมึงรึเปล่า” ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่จับความผิดปกตินั้นได้ หยิมก็เช่นกัน มองกับไปที่ย๊าก็เลิกดูดน้ำแดงในแก้วแล้วหันกลับมามองหน้าส้มอย่างงงๆ

ส้มถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนจะหันมาสบตาพวกผมทีละคน แววตาสับสนของผมยิ่งทำให้ผมแปลกใจมากกว่าเดิม อะไรกันนะที่ทำให้ส้มสาวห้าวคนเก่งของเรามีความสับสนได้ขนาดนี้

“กูสงสัยว่าพี่เก่งจะนอกใจ”

ห๊ะ?

นี่มันสัปดาห์แห่งความวุ่นวายอะไรกันวะเนี้ยยยย!!   

.............................................................................................

Natee : กูถึงร้านแล้ว กำลังจะเข้าไป

เสียงแจ้งเตือนไลน์ของผมดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่วันนี้ผมไลน์ไปแจ้งมันว่ายะย๊าจ้ะเข้ามากินเค้กที่ร้านผม มันก็บอกว่าจะเข้ามาหาที่ร้าน แต่จนมืดค่ำแล้วมันก็ยังไม่โผล่หัวมาซักที จนย๊ากินเค้กไปเกือบจะหมดก้อนแล้ว ทักไลน์ไปเร่งก็ตอบกลับมาสั้นๆ ว่าหมาเพื่อนคลอดลูก แล้วไงวะ? นี่มึงจะจีบเพื่อนกูจริงๆ ใช่มั้ยเนี้ยยยย!!!

หลังจากที่คิดอะไรวุ่นวายในหัวซักพัก เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านก็ดังขึ้น มันคงไม่น่าสนใจอะไรเลยถ้าหากไอ้กลุ่มที่เดินเข้ามาน่ะจะเป็นชายรูปร่างท่าทางดี 4 คน  ที่ถึงแม้จะอยู่ในชุดนักศึกษาครบองค์ทุกคน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนบอยแบรนด์มาโปรดร้านพี่โจ้มากกว่า

มันจะหล่ออะไรกันขนาดนั้นวะน่ะ!!!

เสียงซุบซิบดังขึ้นลั่นร้านทันทีที่มีการปรากฏตัวของบอยแบรนด์กลุ่มนี้ นำทีมมาด้วยไอ้ลุงนั่น และเพื่อนของมันที่ชื่อว่าไม้ ผมจำได้ว่าเคยเจอมันครั้งหนึ่งตอนที่มีเรื่องกับไอ้ลุงทีร้านข้าววันนั้น ส่วนอีกสองคนไม่เคยเห็นหน้าครับ ก็คงเป็นเพื่อนในกลุ่มมันนั่นแหละ

ผมเห็นอย่างนั้นจึงหยิบเอาเมนูสองสามอันแล้วเดินไปรับออเดอร์ที่โต๊ะมันทันมี ปกติร้านเราจะมีบริการทั้งไปรับเมนูที่โต๊ะแล้วเอามาเสิร์ฟ หรือถ้าบางคนอยากแค่มาซื้อแล้วจากไปก็มาสั่งได้ที่เคาท์เตอร์เลย แต่นักศึกษาที่นี่ส่วนใหญ่ติดสบายจนเคยตัว พอเข้ามาก็เลือกที่จะนั่งรอให้ไปรับเมนูมากกว่าครับ

โต๊ะที่ลุงมันเลือกนั่งคือโต๊ะใกล้ๆ กับที่กลุ่มเพื่อนผมนั่งครับ ถ้าไอ้ส้มเป็นปกติมันคงส่งเสียงทักทายพี่ทีของมันไปแล้ว แต่วันนี้ไม่ใช่ครับ มันนั่งจ้องโทรศัพท์เงียบๆ มาซักพักแล้ว ไม่ว่าสองแฝดจะชี้ชวนให้มันกินหรือคุยอะไรก็แล้วแต่ มันก็แค่ส่งยิ้มมานิดๆ หรือตักเค้กเข้าปากเป็นพิธีบ้าง ชอคโกแลตมิ้นของโปรดมันก็ตั้งให้น้ำแข็งละลายจนน่าเสียดายถ้าหากไม่ได้ลองชิมฝีมือผมที่ตั้งใจชงให้มันเพื่อเอาใจ หมดปัญญาจะทำให้อารมณ์มันดีขึ้น ก็หวังแต่ว่าพี่เก่งจะไม่ได้นอกใจมันจริงๆ

“นึกยังไงมากินนมวะ ปกติชวนมาให้ตายก็เข้าแต่ร้านเหล้าหลังมอโน่นน” เสียงเพื่อนลุงดังขึ้น ดึงผมให้หลุดจากความคิดเรื่องส้ม เห็นลุงนั่นก้มลงไปมองเมนูแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ไม่แปลกใจอะไรครับ ผมที่ทำงานที่นี่มาตั้งแต่เปิดเทอม ไม่เคยเจอลูกค้ากลุ่มนี้มาก่อน คาดว่าคงไม่เคยคิดจะเข้าร้านอะไรอื่นนอกจากร้านเหล้าอย่างที่เพื่อนมันพูดนั่นแหละ

“เรื่องของกูน่า” เสียงที่ติดจะรำคาญนิดๆ ของลุง ทำให้เพื่อนมันยอมเงียบปากลงแล้วก้มลงไปเลือกเครื่องดื่มในเมนูแทน

“ชาเขียวไม่หวานแก้วหนึ่ง โอริโอ้ปั่นใส่วิปครีมด้วย ลาเต้เย็น แล้วก็สตอเบอร์รี่ปั่น” เสียงเพื่อนมันคนเดิมนั่นแหละครับ สั่งโดยที่ไม่ถามความเห็นเพื่อนรอบข้างมึงเลยหรอวะ

“นี่มึงไม่คิดจะถามพวกกูก่อนหรอ” ขอบคุณที่ถามแทนผมครับพี่ไม้ เพราะถึงแม้ผมจะสงสัยแค่ไหนก็เหอะ แต่ไม่มีความกล้าพอจะถามออกไปเองหรอกนะครับ

“ก็เห็นพวกมึงแดกแต่ของแบบเนี้ยทุกกลางวัน กูไม่ถามให้เปลืองน้ำลายกูหรอก เอาเครปเค้กสตอเบอร์รี่กับเค้กช็อคด้วยนะ” ประโยคแรกมันหันไปตอบพี่ไม้ ส่วนประโยคหลังหันมาสั่งเมนูกับผมต่อ

หลังจากทวนเมนูอีกรอบ ผมก็ขอตัวกลับมาส่งออเดอร์ที่เคาท์เตอร์ แต่จังหวะที่เงยหน้าจากกระดาษที่จดเมนูตรงหน้า ก็ชะงัก เพราะเห็นสายตาของไอ้ลุงนั่นมองผ่านตัวผมไปยันโต๊ะที่อยู่ด้านหลังผม คุณคิดถูกแล้วล่ะครับ ด้านหลังก็คือยะย๊าที่กำลังหลอกล่อให้ส้มกินเค้กให้ได้

ไม่ได้เห็นสายตาแบบนั้นนานแล้วครับ สายตาที่ผมพยายามซ่อนเอาไว้เสมอเวลามองหยิม สายตาที่สื่อความหมายได้เป็นอย่างดี อิจฉามันนะครับที่สามารถใช้สายตาแบบนี้มองคนอื่นได้ ผมอยากทำให้ได้อย่างมัน อยากแสดงออกให้ได้แบบมัน มันคงจะชอบยะย๊ามากจริงๆ นั่นแหละ เหมือนๆกับที่ผมชอบหยิม

...........................................................................

เค้ามาต่อแย้วววว ตอนนี้มีเวลาว่างมากกว่าเดิมนิดนุง เลยขอมาต่อก่อน เดี๋ยวจะหาว่าหายไปนอน
วันนี้มาด้วยเจ็ทโหมดจริงจัง 5555555555 บอกแล้วเจ็ทเป็นคนตลกไม่ตลอด แง่วว
ชอบเจ็ทโหมดไหนโหวตกันเข้ามาได้เลยค่าาาา

ส่วนไอ้พี่ทีก็โผล่มาแว่บแว่บ ไม่แสดงตัวตนออกมาชัดเจนเสียที
เดี๋ยวน้องหนูเจ็ทจะโดนคนอื่นเอาไปแซ่บก่อนเด้อออ

แฮ่ ฝากติชม และติดตามกันด้วยน้าา เยิฟฟฟ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2017 15:46:50 โดย oommmy »

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกๆ เราชอบ มีคำผิดตรงส่วนที่ทับศัพท์ภาษาอังกฤษหลายจุด นอกนั้นจะเป็นเหมือนพิมพ์ผิดสลับตำแหน่ง ฝากเช็คด้วยค่ะ

แล้วขอถามนิดนะคะว่า ยะย๊า นี่อ่านออกเสียงว่าอะไรคะ ตั้งใจจะให้อ่านว่า หยา หรือเปล่า ถ้าใช่เราว่า เขียนว่า หยาไปเลยดีกว่า เพราะ ย เป็นอักษรต่ำ ผันได้แค่สามัญ เอก โท หรือถ้าเราเข้าใจผิดประการใดก็โปรดชี้แนะด้วยจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2017 22:37:18 โดย pktherabbit »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เจ็ทกับหยิมเองหรือนี่ โอ้วววววววววววววววว
เชียร์คนแอบชอบรีบๆ อกหักซะ จะได้มารักกันเองเร็วๆ
 :mew3:

ออฟไลน์ iaum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รอๆ น่าสนุก  :mew1:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ลุงแม่งร้าย

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH7

วันดีดีมันเป็นแบบนี้นี่เองครับ จะไม่ดีได้อย่างไรล่ะ ก็วันนี้อาจารย์ยกคลาส ร้านพี่โจ้ก็หยุด เพราะพนักงานขาด พี่โจ้เลยบอกว่าหยุดให้เหล่าพนักงานที่ทำงานกันเกินเวลาได้พักผ่อนกันไป 2 วันเต็มๆ จริงๆ มันก็แค่ข้ออ้างของคนอยากเที่ยวครับ ก็พี่โจ้น่ะแอบไปจองตั๋วไปเชียงใหม่โน่นนนน อยากไปเที่ยวกับแฟนก็บอกเถอะ อย่าเอาพวกผมเป็นของอ้างเลย ชิ

วันนี้ผมเลยตัดสินใจมาดูหนังในห้างกันครับ สมาชิกประกอบไปด้วย ผม หยุมหยิม ยะหยา ส้ม แล้วก็ลุงยักษ์และพี่ไม้ งงล่ะสิ ทำไมมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 2 คน พวกเพื่อนๆ ของผมเข้าใจว่าพวกเราเจอกันโดยบังเอิญครับ บังเอิญเจอกันในห้าง บังเอิญดูหนังเรื่องเดียวกัน บังเอิญที่นั่งห่างใกล้กัน บังเอิญอยากกินอาหารร้านเดียวกัน แหม แต่เรื่องบังเอิญมันมีที่ไหนล่ะ ไอ้คุณเพื่อนส้มนี่ถึงขั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องพรหมลิขิตเลยล่ะครับ พรหมเจ็ทขิตเสียมากกว่า หึหึ

ก็ใครล่ะครับที่เสนอหน้าทักไลน์ไปบอกตาลุงนั่นว่าวันนี้จะไปดูหนังกับบรรดาเพื่อนๆ ที่น่ารัก ตาลุงนั่นก็รีบแจ้นขับรถตามมาทันที แถมพาเพื่อนมาด้วยป้องกันความน่าสงสัยงี้ แผนเจ็ทล้วนๆ ทำถึงขนาดนี้แล้วจีบไม่ติดก็โคตรไก่อ่อนแล้วล่ะลุงเอ๊ยยยยย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตาลุงนั่นก็ไม่เปิดปากพูดกับยะหยาซักคำ ปล่อยให้ไอ้พี่ไม้มันทำคะแนนคุยกับสองแฝดอย่างสนุกปาก จะจีบเขาแล้วไม่กล้สพูดกับเขาซะงั้น แบบนี้ยะหยามันจะไปชอบลุงได้ยังไงเล่า บื้อเอ๊ยยย

“พี่ทีกินอะไรคะ” ส้มที่ร่าเริงขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากวันนั้น เป็นผู้กล้าคนแรกที่เปิดปากพูดกับลุง คงเห็นว่ามันนั่งมองเมนูมาเนิ่นนานมาแล้ว ยังไม่มีเมนูอะไรหลุดออกมาซักที ทั้งๆ ที่พวกผมสั่งกันอย่างยัดห่าทุกอย่างที่มีอยู่บนเมนูไปกันหมดทุกคนแล้ว

นอกจากมันจะไม่ตอบแล้ว ยังหันหน้าไปมองพี่ไม้แทนด้วยครับ “ไม่ต้องห่วงหรอกส้ม พี่สั่งเผื่อมันแล้ว เอาเป็นว่าของน้ำจิ้มเด็กเพิ่มถ้วยหนึ่งแล้วกันนะครับ”

อ่อ นั่นคงเป็นอย่างเดียวที่มันต้องการในเวลานี้สินะ

ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่ในร้านสุกี้ชื่อดังที่ชื่อร้านขึ้นต้นด้วยตัวเอ็ม ลงท้ายด้วยตัวเค แล้วเรื่องดีดีอีกอย่างของวันนี้คือตาลุงนั่นรับปาดว่าจะเลี้ยงน้องๆ เอง เนื่องจากตัวเองเป็นพี่ สบายกระเป๋าพวกเราไปอีกแล้วครับ อิอิ

“แล้ววันนี้พวกพี่ไม่มีเรียนกันหรอครับ” หยุมหยิมเป็นคนที่สองที่หันไปพูดกับลุงที่นั่งอยู่ตรงข้าม ข้างๆหยิมมียะหยาและส้มครับ ส่วนผมนั่งตรงข้ามยะหยา ถัดมาเป็นลุงและพี่ไม้

“อืม”

“เป็นปีสามเรียนหนักแย่เลยนะคะ ขนาดพวกหยาอยู่แค่ปีหนึ่ง งานกลุ่มเยอะมาก แถมมีควิซเกือบทุกวัน นี่ดีหน่อยได้หยุดพักผ่อนกันซักวัน ไม่งั้นร่างหยาพังแน่” ผมแอบเหลือบตามองคนข้างๆ เห็นตามันกระตุกเล็กน้อยหลังจากประโยคชวนคุยแบบไม่เจาะจงของยะหยา รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยที่ขา คิดว่าคงเป็นพี่ไม้ที่สะกิดขาลุงนั่นยิกๆ ให้ตอบหยา

“ก็นิดหน่อยน่ะ” โธ่ ตอบทั้งทีตอบแค่นี้หรอวะ ยังไม่ทันที่ผมจะหันไปสะกิดขามันอีกคน พนักงานก็เอาสารพัดเนื้อต่างๆ มาเสิร์ฟ พวกเราเน้นเนื้อครับ ผักอะไรพวกนั้นให้พวกผู้หญิงกินกัน อย่าเรียกว่าพวกผู้หญิงดีกว่า เรียกว่ายะหยาคนเดียวน่าจะถูก เพราะไอ้คุณส้มมันก็เน้นเนื้อไม่ต่างกัน ดูได้จากทั้งหมูสไลด์เอย หมูชิ้นเอย ตับเอย หรือบรรดาเนื้ออื่นๆที่วางอยู่ตรงหน้ามันได้เลยครับ

พวกเราเททุกอย่างลงในหม้อแล้วรอจนมันสุก จึงเริ่มกินกัน แต่ไม่รู้ผมคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าที่คนข้างๆ ผมนี่แทบจะไม่ตักอะไรเข้าปากเลย หันไปมองที่ถ้วยของคนตรงหน้าแล้วถึงเข้าใจ น้ำจิ้มครับ ก็เล่นเทน้ำจิ้มเด็กจนหมดถ้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่กิน ตอนนี้ก็เลยเหลือแค่น้ำจิ้มผู้ใหญ่ที่คงเผ็ดเกินไปสำหรับคนอย่างลุงนี่

“เอาอะไรเพิ่มหรอมึง” เอิ่บ ไอ้คุณส้มครับ ก่อนจะพูดก็อยากให้เคี้ยวให้หมดก่อนไหมครับ

“เอาหมูสไลด์ 2 ลูกชิ้นรักบี้ 1 เป็ดจานใหญ่ 1 แถมหมูกรอบนิดหน่อยก็ได้นะครับ เกี๊ยวกุ้งอีก 2 แล้วก็เติมน้ำจิ้มเด็กให้ด้วยครับ” คนข้างๆ ผมหันมามองด้วยความสงสัย ยักคิ้วตอบมันไปทีหนึ่งแล้วหันไปตักหมูต่อครับ จะกินไม่ทันไอ้ส้มละครับ ไวเหลือเกิน

...........................................................

โอ้ยอิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ อิอิ เพราะนอกว่าลุงจะเลี้ยงสุกี้พวกเราแล้ว ยังพาไปกินสเวนเซ่นต่ออีกด้วย สบายพุงไอ้เจ็ทมากเลยครับ เย็นนี้ไม่ต้องกินอะไรกันอีกแล้วล่ะ อิอิ

“แล้วนี่กลับกันยังไง” พี่ไม้หันมาถามหลังจากที่พวกเราเดินออกจากร้านไอติมชื่อดัง หยุมหยิมหยิบกุญแจรถขึ้นมาชู เพื่อเป็นการบอกว่าขับรถกลับ ส่วนไอ้คุณส้มของตัวกลับไปก่อนตั้งแต่ยังกินไอติมไม่เสร็จ เพราะพี่เก่งมารับ ก็เหลือแต่ผมที่ตอนนี้กำลังลอยชาย เพราะบ้านของสองแฝดกับหอผมมันไปคนละทาง ถ้าจะไปส่งผมก่อนก็ต้องขับรถอ้อมผ่านไปทางมอ

“เดี๋ยวพวกมึงกลับไปก่อนก็ได้ กูว่าจะไปซื้อของเข้าหอหน่อย เดี๋ยวกูนั่งรถกลับเอง” หันไปพูดกับหยุมหยิม เพราะเห็นว่ายะหยาตากผ้าเอาไว้ แล้วเหมือนว่าเย็นนี้จะมีฝนตก เกรงใจครับ ไม่อยากให้มันขับรถอ้อมไปไกล กลัวเก็บผ้าไม่ทัน

“จะดีหรอเจ็ท หยาว่าเดี๋ยวไปซื้อของด้วยกัน แล้วเดี๋ยวพวกเราไปส่งดีกว่า ฝนก็จะตกด้วย เจ็ทจะเปียกนะ” หยาก็คือหยาครับ ถึงตัวเองจะลำบากก็มักจะยื่นมีเข้ามาช่วยคนอื่นก่อนเสมอ

“ไม่เป็นไรหยา เดี๋ยวเรานั่งแท็คซี่กลับ พวกหยาไปเถอะ เดี๋ยวเก็บผ้าไม่ทันนา”

“แต่หยาว่า..”

“งั้นให้ไอ้ทีไปส่งสิ ยังไงมันก็ต้องไปมอก่อนอยู่แล้ว แวะไปส่งเจ็ทที่หอก่อนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ใช่มั้ยวะมึง?” ตาลุงนั่นไม่ตอบ แต่ปรายตามามองผมเล็กน้อย ดูจากท่าทางคงไม่อยากไปส่งผมเท่าไหร่หรอกน่ะ

“ไม่เป็นไรก็ได้พี่ไม้ เจ็ทกลับได้ สบายมาก หยิมกับหยารีบกลับเถอะ ลากันตรงนี้เนอะ บายมึง สวัสดีครับพี่ไม้ พี่ที” หันไปตอบพี่ไม้ตามมารยาท แล้วรีบตัดบทเดินออกมาก สรุปกันไม่ได้ซักที หันกลับไปเห็นสองแฝดกำลังยกมือไหว้สองคนนั้น แล้วหันกลับมามองผมแว่บหนึ่ง ก่อนเดินจากไป เห็นแบบนั้นผมเลยรีบเดินไปซื้อของอย่างที่บอกสองแฝดไว้ทันที ถ้าไม่รีบเดี๋ยวฝนขึ้นมาจริงๆ ผมลำบากจริงๆ แน่

ว่าจะลองเปลี่ยนยาสระผมตัวใหม่ครับ ขวดเก่าใช้แล้วคันมาก ไม่รู้ว่ามันแรงเกินไปสำหรับผม หรือหนังหัวผมมันบอบบางเกินไปกันแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่ายี่ห้อไหนดีเหมือนกันครับ ปกติผมก็ไม่เคยแพ้อะไรนะ แต่ไหงรอบนี้เกิดแพ้ขึ้นมาก็ไม่รู้

“มึงเป็นคนผมหนา ใช้ตัวนี้น่าจะดีกว่า อันนั้นเหมะกับคนผมน้อยและบาง” เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมๆ กับมือที่ยื่นมาหยิบขวดแชมพูสระผมยี่ห้อดังที่มีพรีเซ็นเตอร์เป็นนายแบบฝรั่งหน้าตาดียื่นยิ้มอยู่

“ผมมึงเริ่มแห้งนิดหน่อยแล้วนะ ใส่ครีมนวดบางรึเปล่าเนี้ย” อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยสิลุง ก็ครีมนวดมันหมดเพิ่งจะได้โอกาสมาซื้อ ปกติผมก็ใส่อยู่หรอกน่า

“ขวดเก่ามันหมดน่ะ เลยว่าจะดูยี่ห้อใหม่ด้วย ขวดเก่าใช้แล้วโคตรคัน” พูดอย่างเดียวไม่พอครับ เกาให้ดูด้วย

ตาลุงนั่นหันกลับมามองเล็กน้อย แล้วยื่นขวดแชมพูที่มันหยิบเมื่อกี้ส่งให้ผม พร้อมกับเลิกคิ้วมองหน้าผม เป็นการบอกกรายๆ ว่าให้เอาขวดนี้ไป ผมเลยหยิบมาดมกลิ่นนิดหน่อยก่อนจะใส่ลงตะกร้าที่ถืออยู่

“แล้วมาซื้ออะไรล่ะ นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก” ระหว่างที่กำลังเดินไปหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็หันไปถามตาลุงที่เดินอยู่ข้างหลัง ซื้อโจ๊กซองไปด้วยก็ดีแฮะ เอาไว้กินเวลาหิวดึกๆ

ตาลุงนั่นไม่ตอบอะไร แต่กลับเดินไปหยิบนมกล่องมาใส่ตะกร้าที่ผมถือแทน

แต่หลังจากที่จ่ายเงินให้แคชเชียร์เรียบร้อยด้วยเงินของลุงนั่น ผมก็หันไปหยิบถุงของผม แล้วยื่นถุงนมกล่องให้ลุง แต่นอกจากมันจะไม่รับของจากมือผมแล้ว ยังเดินหนีกันอีก แล้วไอ้นมถุงนี่ไม่เอาหรอวะครับ

“ลุง นมไม่เอาหรอ” เออเว้ย เรียกลุงก็หันด้วย เชื่องดีจริงๆ

“ตามมา เดี๋ยวไปส่ง” น่านนน นอกจากเชื่องแล้วยังป๋าด้วย เลี้ยงข้าว เลี้ยงขนม จ่ายเงินค่าของไม่พอ ยังเสนอตัวไปส่งอี๊กก ถ้ารู้ว่าญาติดีกับมันแล้วมีแต่เรื่องสบายกระเป๋าไอ้เจ็ทแบบนี้ รีบรู้จักกันมันนานแล้ว อิอิ

“ขอบคุณที่มาส่งนะลุง ถ้าพรุ่งนี้หยาไปไหนอีก เดี๋ยวรายงานใหม่นะ ผมไปล่ะ” ลุงขับมาส่งผมที่หน้าหอที่เคยมารับผมได้ทุกวี่ทุกวัน เพราะหาเรื่องไปยะหยาที่คณะผม

“เดี๋ยว” มันหันมาจับมือผมแล้วยื่นถุงนมกับร่มให้

“ฝนตก มึงเดินเข้าไปเดี๋ยวก็เปียก”

“อ๋อ ครับ แล้วถุงนี่คือ?”

“ให้ ไว้กินแทนมาม่ากับโจ๊ก” แค่พูดไม่พอ ยังหยิบมาม่ากับโจ๊กของผมออกจากถุงที่ถืออยู่ด้วย

“กินมากๆ ไม่ดีหรอก มีแต่ผงชูรส กินนมดีกว่า” จะพยายามเข้าใจแล้วกันนะครับ

จังหวะที่ผมกำลังปิดประตูรถก็ได้ยินเสียงมาจากในรถอีกรอบ

“ขอบคุณสำหรับน้ำจิ้มเด็ก”

หึ ตาลุงนี่ก็น่ารักเหมือนกันแฮะ!

...
มาลุงมาเสิร์ฟแล้ว ได้เห็นโมเม้นต์มุ้งมิ้งๆ ของลุงบ้าง 5555555555
บอกเลย ตาลุงมุ้งมิ้งได้มากกว่านี้แน่นอน อิอิ

ขอบคุณที่เข้ามาติชมนะฮ้าบ
จะเอาไปปรับปรุงแก้ไข ส่วนเรื่องทับศัพท์ขอสารภาพเลยว่าไม่เก่งจริงๆ
เขียนตามแบบที่ตัวเองแชทกับเพื่อนเป๊ะๆ แหะๆ
จะขอเวลาไปเสิร์ชกูเกิ้ลแล้วเอาคำที่ถูกต้องมาแก้ไขนะค๊าา

ขอรับทุกคำคอมเมนท์ไว้แก้ไขผลงานให้ดีขึ้นๆ ไปอีกค่ะ
รักคนอ่านทุกคน จุ้บจุ้บ

ป.ล.ขออนุญาติเปลี่ยนวิธีเขียนชื่อจาก ยะย๊า เป็น ยะหยา นะคะ
เดี๋ยวมีโอกาสจะขึ้นไปแก้ตอนบนๆ เน่อออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2017 21:25:11 โดย oommmy »

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ลุงขายอ้อยน้องเจ็ทโดยไม่รู้ตัว
พี่ไม้ท่าทางจะงานดีกว่าลุงซะอีก
อยากจีบสาวแต่ดันไม่มีบทเจรจากะสาวเจ้าเลย
แถมตอนจบดันมาส่งหนุ่มน้อยเจ็ทของเค้าซะงั้น
 :mew1:
คนแอบชอบรีบรู้ตัวไวๆ
จะได้รักคนที่ใช่เสียที
 :mew3:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เดี๋ยววววว คือนมกับมาม่าแล้วก็โจ๊กเนี่ย มันแทนกันไม่ได้นะ ลุงบังคับแทนกันงี้เลยเหรอ คือมันอิ่มไม่เหมือนกันนะ ความเผด็จการในตัวนี่คืออะไร

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
เอ้ะ สรุปลุงชอบใครแน่นะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH8
สองสามวันมานี้ตาลุงนั่นหายไปครับ อาจเป็นเพราะช่วงสอบใกล้เข้ามาทุกที ทุกคนในมหาลัยจะพกตำราหนังสือกันเต็มไม้เต็มมือไปหมด เดินไปที่ไหนก็เจอแต่คนเดินพูดคนเดียว อาจะเป็นเพราะทุกคนพากันเดินท่องตำราหนังสือกันหมด

ส่วนไอ้ตัวผมนั้นนอกจากจะต้องติวหนังสือกับพวกเพื่อนๆในสาขาแล้ว ยังต้องสละเวลาอันน้อยนิดมาทำงานที่ร้านพี่โจ้อีกด้วย เพราะเนื่องจากหอสมุดที่ถึงแม้จะเปิดกัน 24 ชั่วโมงในช่วงสอบแล้ว แต่พื้นที่สำหรับรองรับนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยนั้นย่อมมีไม่พอครับ นักศึกษาจำนวนหนึ่งจึงถึงขั้นมาอยู่กินกันที่ร้านพี่โจ้กันเลยทีเดียว

ไม่ต่างกับเพื่อนๆ กลุ่มผม ที่มานั่งอ่านหนังสือกันอยู่ในร้าน โดยมียะหยาเป็นผู้ถือไวท์บอร์ดสีขาวติวโจทย์ต่างๆ ให้กับเพื่อนๆ ที่ต้องใช้ไวท์บอร์ดเพราะต้องการให้ผมที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ได้ยินบทเรียนไปพร้อมๆ กัน ในเวลางานไม่สามารถไปติวได้ครับ ถึงแม้จะไม่มีคนมาสั่งอะไรก็ตาม แต่ก็ต้องยืนแสตนบายรอลูกค้าที่ไม่รู้จะมาสั่งตอนไหน เพราะฉะนั้นยะหยาเลยตัดปัญหาโดยการเลือกนั่งโต๊ะที่ใกล้เคาน์เตอร์เพื่อที่ผมจะได้ยืนดูและติวไปด้วย

ถามว่าผมเข้าใจไหมน่ะหรอครับ ไอ้โจทย์ง่ายๆ ที่ไม่ซับซ้อนอะไรมันก็เข้าใจอยู่หรอกนะ แต่พอเริ่มเข้าโจทย์ที่ต้องใช้หลายๆ สูตรมาประยุกต์รวมกันนี่ขอบอกเลยว่าตันครับ หยิมเห็นแบบนั้นเลยเขียนสูตรมาให้ผมท่องให้ได้ก่อน ระหว่างที่ยืนเฝ้าเคาน์เตอร์ เพราะจะได้นำสูตรมาลองทำตอนผมเลิกงาน

“อเมริกาโน่ร้อนแก้วหนึ่ง ขอเข้มๆ เลยนะ คืนนี้ไม่ได้นอนอีกแหงเลยว่ะ” เพื่อนในสาขาผมหันมาตะโกนสั่งกาแฟ พร้อมกับทำหน้าแหยๆ หลังจากที่คิดได้ว่าคืนนี้พวกเราคงโต้รุ่งกันอีกคืน ก่อนจะแยกย้ายไปนอนตอนเช้า สอบตัวแรกของพวกเราคือวันมะรืนนี้ครับ ซึ่งโชคดีที่สอบตัวแรกก็เป็นตัวโหดของคณะแล้ว ทำให้เราทุ่มเทกับวิชานี้ได้หลายวัน จะห่วงก็แต่วิชาอื่นๆ ที่คงไปอ่านอีกทีก่อนสอบวันต่อวันแทน

ผมวางสูตรที่หยิมเขียนใส่กระดาษโน้ตใบเล็กๆ ไว้ เพื่อจะได้ท่องได้ง่ายๆ ไปบดเมล็ดกาแฟ แล้วหันไปเปิดเครื่องกาแฟเพื่อวอร์มให้น้ำร้อนอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ก่อนจะเทผงกาแฟที่บดเสร็จแล้วใส่ชอตกาแฟ กดจนผงกาแฟแน่นพอในขนาดพอดี แล้วสวมชอตเข้ากับเครื่องกาแฟ รอจนน้ำร้อนพร้อม แล้วกดน้ำกาแฟลงมาในแก้วตวง ผมชอบกลิ่นของกาแฟที่เพิ่งออกจากเครื่องครับ มันหอมชวนดม ติดกลิ่นหวานปนขมนิดหน่อย พอได้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมแล้วจึงนำไปเทใส่แก้ว แล้วเสิร์ฟทันที อเมริกาโน่ของร้านเราไม่ใส่อะไรเลยครับ เพื่อให้ลูกค้าได้ชิมรสชาติของเมล็ดกาแฟแท้ๆ ไม่มีเครื่องปรุงผสม ผมเคยไปยืนดูบางร้านจะเติมน้ำตาลลงไปให้ลูกค้าบ้าง ให้ติดหวานหน่อยๆ แต่ผมว่าเสน่ห์ของอเมริกาโน่คือน้ำกาแฟล้วนๆ มากกว่านะ

“ติวถึงไหนแล้ววะ กูยังท่องสูตรไม่ได้เลย” ตอนที่ยกกาแฟไปเสิร์ฟก็แอบเหลียบตามองที่กระดานไวท์บอร์ดนิดหน่อย เห็นยะหยากำลังอธิบายโจทย์ยากๆ ที่ผมไม่มีวันเข้าใจได้ด้วยตัวเองแน่ ผิดกับหยิม ที่เคยมองก็เข้าใจแล้ว ไอ้ความฉลาดนี่มันสืบทอดกันทางดีเอ็นเอรึเปล่าครับ สองแฝดถึงได้เข้าใจโจทย์ยากๆ พวกนี้ แถมยังอธิบายออกมาเป็นคำพูดง่ายๆ ที่ทำให้คนอย่างไอ้คุณส้มเข้าใจได้ ผมว่าผมเรียนไม่เก่งแล้วนะ แต่ไอ้คุณส้มมันยิ่งกว่าครับ มันบอกว่าแอดมามั่วๆ แค่อยากเลือกเรียนมหาลัยเดียวกับพี่เก่งเท่านั้น เวลาเรียนมันเลยไม่เคยจดอะไรลงชีทหรือหนังสือมันเลย ลำบากก็ตอนสอบนี่แหละครับ ที่เอาชีทขาวโพลนแบบนั้นมาอ่าน ยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจได้หรอก

“ก็เหลือพวกโจทย์ที่ต้องประยุกต์มากๆ อ่ะ นี่หยาก็พยายามติวให้ได้เกือบทุกข้อ ก็หวังว่าบุญบารมีของพวกมึงยังถึงอยู่” เพื่อนคนเดิมที่สั่งกาแฟผมหันกลับมาตอบ แล้วยกกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อย แต่มือก็ยังจดตามที่ยะหยาพูดยิกๆ

“มึงเลิกงานกี่โมง” หยิมเป็นคนหันมาถาม ก่อนจะส่งกระดาษเอสี่เปล่าๆ มา ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเล็กน้อย แต่ก็รับกระดาษมาถือไว้ ให้ทำไมวะ

“น่าจะอีกชั่วโมงหนึ่ง” พลิกกระดาษไปมาก็ยังไม่พบตัวหนังสืออะไร

“อืม เขียนความรู้ทั้งหมดที่มึงมีตอนนี้ระหว่างที่ยืนเฝ้าเคาน์เตอร์ กูจะได้รู้ว่าควรเพิ่มเติมความรู้อะไรเข้าสมองมึงเพิ่ม” อ่อ ทุกวินาทีมีค่าสินะ

ผมเห็นแบบนั้นจึงเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์แล้วหยิบกาแฟในเสื้อเอี๊ยมขึ้นมาเตรียมจะเขียนสูตรที่หยิมเพิ่งให้ท่องเมื่อกี้ลงไป นอกจากสูตรแล้ว ความรู้ผมก็ไม่มีเลยครับขอสารภาพ เพราะถึงจะพยายามชะเง้อคอมองที่ไวท์บอร์ดแค่ไหน  ความสามารถของผมก็ไม่อยากเข้าใจได้ด้วยการไม่ท่อง ผมเคยแม้จะกระทั่งจำโจทย์ข้อนั้นเข้าไปสอบเลยล่ะ เพราะเข้าใจยากเหลือเกินแต่ละข้อ จำมันกว่า พอเจอโจทย์คล้ายๆ กัน แต่เปลี่ยนตัวเลขนิดหน่อยถึงจะทำได้

ระหว่างที่กำลังพยายามเขียนสูตรลงกระดาษเอสี่ก็รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์กาแฟ แต่ไม่ยอมสั่งเครื่องดื่มหรือของหวานใดๆ เดาว่าคงเลือกอยู่ ผมจึงเขียนต่อรอเวลาลูกค้าสั่ง

“ไม่คิดจะสนใจลูกค้าเลยหรอ” เสียงที่คุ้นเคย ไม่ได้ยินมาตั้งสองวันได้ ไม่คิดว่าวันนี้จะโผล่มานี่แฮะ

“จะกินอะไรก็สั่งเลยลุง ผมฟังอยู่นะ” แม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ยังไม่เงยหน้าจากกระดาษเอสี่อยู่ดี

“หึ ไม่เจอกันหลายวัน โทรมเชียวนะมึง”

“ก็แหงแหละ งานก็ต้องทำ หนังสือก็ต้องอ่าน ว่าแต่ลุงเหอะ หายไปนาน วันนี้ลมอะไรหอบมาที่นี่ล่ะ” ผมเงยหน้ามองลุงเล็กน้อย แล้วหันไปเขียนต่อ สูตรนี้มันขาดอะไรไปป่ะวะ โอ้ยยยยย คิดไม่ออก

“มีสายรายงานกูว่ายะหยามาติวหนังสือที่นี่ตั้งแต่หัววัน กูสอบเสร็จเลยแวะเข้ามาหน่อย” สายที่ว่าก็คงไม่พ้นเพื่อนคนใดคนหนึ่งในกลุ่มตาลุงนั่นแหละครับ ผมจำได้ว่าเมื่อช่วงหัวค่ำมีเพื่อนในคณะลุงมาติวหนังสือกัน แต่พอดึกหน่อยก็พากันกลับ คิดว่าคงเป็นวิชาที่ไม่ยากอะไร เลยติวกันเสร็จเร็ว

“ได้เจอแล้วไงต่อ ก็ไม่กล้าคุยอยู่ดีป่ะ” อ่า คิดออกแล้ว ขาดตัวนี้นี่เอง ก็ว่าแล้วทำไมสูตรมันแปลกๆ

“มึงก็ทำให้กูได้คุยสิ” ตาลุงท้าวแขนลงกันเคาน์เตอร์แล้วมองกระดาษที่ผมเพิ่งเขียนเสร็จสดๆ ร้อนๆ พร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย

“มึงแน่ใจแล้วหรอว่าที่เขียนน่ะถูกหมด” อ้าวลุง ผมท่องมางี้ก็ต้องถูกสิ

“ถูกดิ เนี้ยดู เขียนตามที่หยิมจดให้เป๊ะ” นอกจากจะไม่หยิบกระดาษโน้ตของหยิมไปแล้ว ยังหันมาคว้าปากกาในมือผมไปขีดฆ่าสูตรที่ผมพยายามเขียนเมื่อกี้ แล้วเขียนสูตรใหม่ลงไปแทน ทำจนพอใจก็หยิบกระดาษโน้ตของหยิมส่งให้ผมเช็คคำตอบ

เอออออออ รู้แล้วว่าเก่ง แค่จำผิดนิดผิดหน่อย ไม่ต้องล้อทางสายตาก็ได้ ชิ

“ละสรุปจะสั่งอะไร” ผมเก็บกระดาษกับปากลงไว้ใต้เคาน์เตอร์ เอาไว้เลิกงานค่อยเอาไปส่งให้หยิม

“เหมือนเดิม”

“สตอเบอรี่ปั่นนะ ใส่โยเกิร์ตด้วยไหม” ผมหันกลับไปเปิดตู้เย็น วันนี้เพิ่งซื้อโยเกิร์ตมาใหม่ คิดว่าคงยังไม่หมดอายุในเร็วๆ นี้แน่

“อืม” ลุงตอบรับในลำคอเบาๆ แล้วเดินไปนั่งบาร์ใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์ นั่งตรงนี้จะมองเลยไปเห็นโต๊ะที่เพื่อนๆ ผมกำลังติวกันพอดีครับ

“เออลุง มันมีไข่มุกมาใหม่อ่ะ เพิ่มเป็นทอปปิ้งมั้ย ผมอยากชิม” หยิบขวดไข่มุกรสสตอเบอรี่ขึ้นมาชู เป็นไข่มุกที่พอเคี้ยวแล้วจะมีน้ำใสๆ รสสตอเบอรี่ไหลออกมาครับ เมื่อก่อนพี่โจ้เคยเอามาให้ชิมแล้วรอบหนึ่ง ตั้งใจว่าจะซื้อมาขาย แต่พอจะไปสั่งสินค้ามันขาดตลาด พวกเราเลยเอามากินกันเล่นๆ ไม่ได้ ต้องให้เฉพาะลูกค้าเท่านั้น

ลุงเหลือบตามองเล็กน้อย แล้วพนักหน้าเบาๆ ถามว่าทำไมถึงยอมให้ใส่ง่ายๆ น่ะหรอครับ ก็เวลาลุงเนี้ยมาทีไรผมก็ชอบเสนอนู่นเสนอนี่ให้มันชิมเป็นประจำ จากที่เคยกินแค่สตอเบอรี่ปั่นธรรมดา ตอนนี้ชอบให้ใส่โยเกิร์ตไปเพิ่มความเปรี้ยวอีกนิด สลับกันว่าวันไหนผมจะเสนออะไร บางวันผมก็อยากลองชิมสูตรใหม่ๆ ก็ปั่นให้ลุงมันชิม แล้วตัวเองก็ชิมเองไปด้วย ลองอะไรแปลกๆ บ้างจะได้ไม่เบื่อครับ

“ว่าแต่ลุงไม่มีสอบแล้วหรอพรุ่งนี้ ผมเห็นพวกเพื่อนลุงมาติวแล้วกลับไปแล้ว” ใส่มุกเข้าไปเยอะๆ ถ้าลุงมันไม่กินผมจะกินเองให้หมด อิอิ

“มีสอบบ่าย แต่ตัวนี้สบายหน่อย ไม่ต้องอ่านมาก ใช้การวิเคราะห์เสียส่วนใหญ่” ปากอะตอบผมครับ แต่ตามองไปทางคนถือกระดานไวท์บอร์ดโน่นน ลุงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปทางโต๊ะที่เพื่อนผมกำลังติวอยู่ ผมมองตามไปเห็นเข้าไปคุยอะไรกับยะหยาซักพัก แล้วหยิบปากกาไวท์บอร์ดขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างยิกๆ บนไวท์บอร์ด หลังจากเขียนเสร็จก็ส่งปากกาคืนให้หยาแล้วหันไปพูดอะไรอีกเล็กน้อย แล้วเดินกลับมาที่เดิม

“ทำไรมาอ่ะลุง” เรื่องของคนอื่นคือเรื่องของไอ้เจ็ทครับ อิอิ

“ก็เปล่า แค่เห็นว่าเหมือนยะหยาจะเขียนวกวนไปหน่อย เลยไปแนะนำวิธีคิดอีกแบบที่น่าจะจำง่ายกว่า” โว้วววว ถือว่าพัฒนา เดี๋ยวนี้กล้าเข้าไปคุยเองแล้วเว้ย หลังจากที่ด้อมๆ มองๆ หน้าคณะผมทุกวัน วันนี้กล้าเดินเข้าไปคุยเองเสียด้วย


“ไม่เบานี่หว่าลุง เดี๋ยวนี้กล้าคุยกับยะหยาแล้วหรอ” เหลือบจังเลยนะตาอ่ะ ระวังจะเหล่เข้าสักวันนะเว้ย

“สตอเบอรี่กูอะได้ยัง” มีขงมีเขินด้วยเว้ย ใครก็ได้เอาตาลุงขี้โมโหกลับมาที ฮ่าๆ

“ได้แล้วว นี่เลย ใส่มุกเยอะเป็นพิเศษ เพราะผมจะกินด้วย ฮิฮิ” ยังไม่ทันที่ลุงจะได้กิน ผมก็คว้าหลอดช้อนมาตัดมุกเข้าปากไปก่อนแล้ว

“ขโมยของกูกิน ยังให้กูจ่ายเต็มราคาอีกนะ”

“โด่วว ของซื้อของขาย ตอนนี้ก็ขอลุงกินไง เดี๋ยวอีกหน่อยมาเป็นเพื่อนเขยแล้วผมจะอดกิน เกิดลุงมัวแต่ไปเลี้ยงหยา ผมก็แห้วดิ ตอนนี้ต้องรีบไขว้คว้าไว้ก่อน” เวลาน้ำสตอเบอรี่ไหลออกมาจากมุกนี่อร่อยจริงๆ นะครับ อยากหยิบขวดในตู้เย็นมากินเสียให้หมด

“กูไม่ทิ้งมึงหรอกน่า” พูดพลางเอื้อมมือมาโบกหัวผมเบาๆ ก่อนจะยื่นแล้วแก้วสตอเบอรี่มาให้ผมกินต่ออย่างสบายใจ

โอ้ยยย อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ อิอิ

.........................................................................................
ลุงสายอ่อย 5555555 ทำตัวแบบนี้เดี๋ยวหนูเจ็ทจะคิดลึกนะลุง
ฝากให้กำลังใจลุงหน่อยว่าจะจีบหยาติดหรือเผลอใจให้เด็กที่เลี้ยงไว้กันแน่

ขอบคุณที่คอมเมนต์เหมือนนะฮ้าบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2017 18:36:21 โดย oommmy »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด