ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)  (อ่าน 17311 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจ๊ท ที่แอบชอบหยิม คงเลิกชอบหยิมแล้ว
แต่ความที่ใกล้ชิดกับลุง ความดีของลุงทำให้หวั่นไหวไปกับลุง

เลยทำให้มีความในใจ คิดมาก สับสน น้อยใจ
พาให้กินเหล้าหนัก
ลุงที่มาห้ามเลยทำให้เจ๊ทสติแตก  ขวดเหล้าเลยแตกไปด้วย
ที่จริงจะว่าที่หยาบาดเจ็บเป็นเพราะเจ๊ท
มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เป็นเพราะลุงผลักเจ๊ท
เจ๊ทไปชนหยา หยาล้ม เลยโดนแก้วบาด

เอาไงล่ะทีนี้ เจ๊ทหนีจากที่พักไปแล้ว
รอตอนใหม่  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เจ็ทททททท :hao5:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ยะหยาก็ชอบลุงหรอ สงสารเจ็ทอยู่ ลุงก็ทำซะเหมือนให้ความหวัง???? เปล่าหรอก แค่ทำปกติแบบสนิทกัน แต่ไอ้คนแอบรักก็คงมองอีกแบบ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เมาแล้วเกเรนะเนี่ย หลานเจ็ท  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ความอ้อยเป็นเหตุล้วนๆ
จะทั้งหยา ทั้งเจ็ทตอนนี้น่าจะหวั่นไหวกับลุงทั้งคู่
แยกมีสองข้าง ทางมีสองแพร่ง รักก็ต้องเลือกล่ะ
 :mew2:

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH14

ผมเป็นบ้า ผมรู้ตัวครับ ผมแค่มีความรู้สึกว่าผมไม่ควรเจอหน้าทั้งสองแฝดและลุง ผมไม่รู้จะสู้หน้าพวกเขาได้ยังไง ผมอยากจะขอโทษที่ทำให้หยาเจ็บ ขอโทษที่พูดจาไม่ดีกับลุง และขอโทษที่ทำให้การมาเที่ยวครั้งนี้ไม่สนุก แถมยังสร้างความลำบากให้คนอื่นอีกด้วย

แต่ผมห้ามตัวเองไม่อยู่ อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอกอฮอลล์ที่ทำให้สติสัมปชัญญะของผมขาดหายไป หรือบางทีอาจจะเป็นแววตาที่ลุงกับหยามองกัน มันน่าตลก ที่ผมรู้สึกแปลกๆ กับภาพนั้น ทั้งๆ ที่ผมควรจะยินดีไปกับลุงด้วยซ้ำ แต่มันไม่ใช่เลย ผมกลับไม่ชอบ และไม่อยากให้มันเกิดขึ้น โง่บรม!

โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสั่นไม่หยุดมาซักพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่ผมได้ยินพี่ไม้คุยโทรศัพท์กับลุงว่ากำลังจะเดินทางกลับมาที่บ้าน และยะหยาไม่เป็นอะไรมาก ผมก็เลี่ยงที่จะเดินออกมาตามชายหาดเพื่อตั้งสติ ทบทวนความคิดตัวเอง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในใจผมตอนนี้คืออะไร

ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามที่ผมตั้งขึ้นมาในหัว และไม่รู้จะพึ่งพาใครสำหรับการหาคำตอบนี้

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบสายที่ไม่ได้รับจากทุกคนที่มาเที่ยวด้วยกันหลายสาย แจ้งเตือนไลน์เด้งขึ้นมาจากในกลุ่มว่ายังไม่มีใครหาผมพบ และผมก็ยังไม่มีกระจิตกระใจจะตอบข้อความของพวกเขาตอนนี้

‘อยู่ไหน’ แต่มันกลับมีข้อความหนึ่งที่สะดุดใจเป็นพิเศษ

เบอร์แปลก เขาเป็นใคร?

ผมจำได้ว่าตอนที่เราแยกกันที่ถนนคนเดินตอนนั้น ทุกคนทิ้งเบอร์เอาไว้ในไลน์กลุ่ม และผมเมมเบอร์ทุกคนไว้ในเครื่องจนหมดแล้ว แล้วเขาคนนี้คือใครกัน

กดเข้าไปในช่องที่แสดงว่ามีข้อความ SMS เข้า แล้วยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม เพราะผมเคยคุยกับคนคนนี้ แต่ในสถานการณ์ที่ต่างออกไป เบอร์เดียวที่ผมส่งข้อความกลับไปด่าในวันนั้นที่ตื่นมาแล้วเจอข้อความมากมาย ผมลืมเขาคนนี้ไปแล้วด้วยครับ จำไม่ได้แม้กระทั่งความรู้สึกรำคาญที่เขาโทรมารบกวนเวลานอนของผม

แล้วเขาเป็นใคร? ความสงสัยไม่ได้ทำให้ผมรู้จักคนคนนี้มากขึ้น

‘มึงเป็นใคร’ และคนอย่างผมไม่ปล่อยให้ความสงสัยเกาะกุมจิตใจนาน อย่างน้อยก็ยังดีกว่านั่งคิดมากเรื่องในบ้านเมื่อกี้ก็แล้วกัน

‘กูถามว่าอยู่ไหน’ ไม่มีคำตอบสำหรับคำถาม มีแต่คำถามที่มากขึ้น หรือว่ามีใครแกล้งผม

‘ขอโทษนะครับ ผมว่าเราคงไม่รู้จักกัน คุณส่งมาผิดคนแล้วล่ะ’ การส่งข้อความคุยกันนี่มันคือการเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ตัดบทตอนนี้ ประหยัดทั้งผมและประหยัดทั้งเขา

ใส่โทรศัพท์ลงกระเป๋าเหมือนเดิม ทะเลตอนกลางคืนสงบมากครับ เสียงคลื่นที่พัดเข้าฝั่งเรื่อยๆ ทำให้ใจผมสงบลงไปมาก เคยได้ยินเพลงเพลงหนึ่งของวัชราวลี ท่อนที่ร้องว่า ‘เมื่อเธอทุกข์ใจให้ลองเอาเท้าจุ่มน้ำ ปล่อยความทุกข์ลอยไปกับทะเลและฟ้าสีคราม’ แม้ท้องฟ้าตอนนี้จะไม่มีสีครามก็เถอะนะ แต่ดาวบนฟ้าที่ส่องสว่างก็ปลอบใจผมได้เหมือนกัน

ปล่อยให้เท้าสัมผัสน้ำเบาๆ ร้องเพลงคลอไปตามสายลมที่ปะทะใบหน้า หลับตาและกางแขนออกเพื่อรับความอบอุ่นจากสายลมที่โอบกอด

“กูเจอมึงแล้ว” เสียงกระซิบที่ดูตื่นตระหนกดังอยู่ข้างหู พร้อมกับแรงโอบรัดรอบตัวเข้ามาแทนที่ลมทะเล ลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ ก็พบว่ามีชายร่างยักษ์โอบกอดผมมาจากด้านหลัง ใบหน้าแนบชิดกับหูซ้ายของผม

เสียงหัวใจที่ดังแข่งกับเสียงลมทะเลเป็นคำตอบของความสงสัยนี้

เราเคยสัมผัสกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่การกอดครั้งนี้ กลับทำให้ผมตอบคำถามของตัวเองได้เสียที

ความรู้สึกแปลๆ นี้ มันเหมือนกำลังได้รับคำตอบแล้ว
...

“หนีมาทำไม” ตอนนี้เรากำลังนั่งกันอยู่บนหาดครับ โดยที่ลุงได้โทรไปรายงานสถานการณ์ว่าเจอผมแล้ว เดี๋ยวอีกซักพักจะพากลับไปที่บ้านพัก เพราะตอนนี้ผมยังไม่อยากกลับ จึงขอลุงนั่งอยู่ตรงนี้ซักพัก

“ผมไม่ได้หนี” มองตามน้ำทะเลออกไป ไม่รู้ว่ามันไกลมากแค่ไหนจากฝั่ง ทะเลในตอนนี้มืดสนิท จนผมคิดว่าหากผมตกน้ำในเวลาแบบนี้ ผมคงไม่มีทางว่ายน้ำขึ้นมาได้แน่ๆ มองไปทางไหนก็มืดไปหมด

“แล้วเดินออกมาทำไม” ลุงหันมามองหน้าผม จากมุมนี้ลุงเห็นได้แค่เสี้ยวหน้าของผม

“เดินเล่น”

“คนเดียว?”

“อืม”

ความเงียบปกคลุมเราสองคนอีกครั้ง ยังไม่อยากต่อบทสนทนาตอนนี้ การที่ผมรู้ตัวว่ากำลังตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ทำให้ผมยิ่งรู้สึกหวั่นใจมากกว่าเดิม

ผมรู้ตัวว่าผมชอบหยิม ชอบมากนาน ตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน เรียกว่ารักแรกพบเลยก็ได้ครับ ผมจึงพยายามเข้าไปทำความรู้จักสองแฝด ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นหยิม ทั้งทั้งที่ยะหยาก็หน้าเหมือนหยิม แต่ผมกลับรู้สึกว่าหยิมดึงดูดสายตาผมได้มากกว่า และนั่นทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่า ผมมีความรู้สึกดีดีให้กับผู้ชาย

แต่ผมรู้ตัวมาตลอดว่าเรื่องระหว่างผมกับหยิมไม่มีทางเป็นไปได้ ผมจึงพยายามวางฐานะของเราสองคนไว้แค่เพื่อน ไม่พยายามเลื่อนเข้าไปใกล้มากกว่านั้น แม้บางครั้งจะรู้สึกเจ็บบ้างที่ต้องเป็นพ่อสื่อให้หยิมกับคนอื่นๆ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่เคยแสดงออกไปเลยว่าผมคิดกับหยิมเกินกว่าเพื่อน ไม่ได้อยากครอบครอง ไม่ได้อยากเป็นเจ้าของ

แต่กลับลุงมันไม่ใช่ เหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมรู้สึกต่างออกไป ผมไม่ชอบ ไม่อยากเห็นพวกเขาสมหวังกัน อยากขัดขวาง อยากเดินไปหยิบกีต้าร์ออกจากมือของลุง อยากวิ่งไปปิดปากลุงที่กำลังร้องเพลง หรืออยากจะเข้าไปกั้นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสอง ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ แม้จะกลับหยิมก็ตาม

เขาว่ากันว่าเวลาที่เรากำลังจะเสียอะไรไป จะทำให้เรารู้ใจตัวเองมากขึ้น ท่าจะจริง เพราะผมกำลังรู้ใจตัวเอง รู้ในตอนที่กำลังจะเสียลุงไปให้ยะหยา

ยะหยาเป็นคนดีครับ ผมรู้ว่าถ้าหยารู้ว่าผมเองก็มีใจให้ลุงเหมือนกัน หยาจะต้องเป็นฝ่ายหลีกทางให้ผมแน่ๆ เพียงประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะลุงไม่ได้ชอบผู้ชาย และลุงไม่ได้ชอบผม นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่มากกว่าเก่า

“ลุง” เสียงที่แทบจะเป็นเสียงกระซิบถูกเปล่งออกมาจากกล่องเสียงของผม

“อืม”

“กับยะหยาตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

ความเงียบเป็นคำตอบอีกครั้ง ลุงเพียงทอดสายตามองไปตามน้ำทะเลเหมือนผม

เราต่างหาคำตอบให้กับคำถามที่ดังขึ้นในใจของกันและกัน

‘แล้วกับผมล่ะ ตอนนี้เป็นยังไงหรอ’ คำถามที่ไม่กล้าถาม และคงไม่ถามออกไป

...

“เชี่ยเจ็ทท หายไปไหนมา รู้มั้ยกูวิ่งหาทั่วหาด” ส้มเป็นคนแรกที่วิ่งมาตบหัวผม แล้วกอดอย่างเต็มรัก “กูเป็นห่วงมึงชิบหาย  อย่าทำแบบนี้อีกนะเว้ย” รู้สึกได้ถึงน้ำที่เปรอะบริเวณบ่าผม ผมสูงกว่าส้มเล็กน้อยครับ

“กูขอโทษ” กอดตอบมัน มองผ่านตัวส้มไปเห็นหยิมยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ หยาที่ส่งยิ้มให้ผม ผละจากตัวส้มเดินไปเข้าหาสองแฝด มองที่ผ้าพันแผลบนมือยะหยาก่อนจะจับขึ้นมาลูบเบาๆ

“ขอโทษนะหยา เจ็บมากไหม” ยะหยาส่ายหน้าเบาๆ ทั้งๆ ที่ปากยังคงยิ้มอยู่ “หยาไม่เป็นไร เจ็ทเถอะ หนีไปแบบนั้นหยาตกใจหมด” น้ำตาไหลออกจากตาผม นี่ผมทำยะหยาเจ็บได้ยังไงกันนะ

รู้สึกถึงมือของอีกคนตบลงบนบ่า หันกลับไปมองก็เห็นหยิมกำลังเม้มปาก แต่หากมองเข้าไปในตาดีดี จะเห็นว่าหยิมเป็นห่วงผมมากแค่ไหน “ขอโทษ” เอ่ยคำพูดเดิมอีกครั้ง พบแรงบีบบนบ่าเป็นการตอบรับ

หลังจากยืนสงบจิตสงบใจกับสองแฝดเสร็จก็หันกลับไปมองบรรดารุ่นพี่ที่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าเงียบๆ “เจ็ทขอโทษที่ทำให้พวกพี่ๆ เป็นห่วงนะครับ” พี่ก๊งกับพี่ติ๊กพยักหน้าให้ผมเบา ส่วนพี่ไม้เดินมาตบบ่า

“แล้วก็ ขอบคุณนะลุงที่ตามหาผมจนเจอ”

“หึ” เสียงตอบรับจากในลำคอเป็นเครื่องยืนยันว่าพรุ่งนี้ทุกคนจะลืมเรื่องวันนี้ไปจนหมด และทุกอย่างจะเหมือนเดิม

..........................................................................................

วันนี้เราต้องเดินทางกลับกันแล้วครับ เพราะถึงกำหนดเวลาที่ผมลางานกับพี่โจ้ไว้แล้ว ทุกคนเก็บของแล้วเดินทางกันตั้งแต่เช้า เนื่องจากต้องนั่งเรือกลับฝั่งกันอีก

สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืน หลังจากพูดคุยปรับความเข้าใจกันก็แยกย้ายกันไปนอนครับ ผมนอนกับหยิมเหมือนเดิม แต่รอบนี้ไม่ต้องนอนชิดกันเหมือนเดิมแล้ว เตียงกว้างทำให้ผมนอนหลับได้สนิท แถมยังตื่นสายเป็นคนสุดท้ายเสียด้วย เลยถูกหยิมแซวว่าวันนี้อากาศน่าจะสดใสเพราะผมตื่นสาย

ขากลับพี่ไม้อาสาเป็นคนขับครับ เพราะเมื่อคืนเป็นคนเดียวที่ดื่มน้อยที่สุด น่าจะมีสติมากที่สุดในการขับรถ ลุงจึงถูกดึงไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถแทน ส่วนคนอื่นๆ ก็นั่งกันที่เดิมครับ

ใช้เวลาไม่นานเราก็เดินทางถึงบ้านสองแฝด ช่วยกันยกของลงจากรถตู้ พี่ก๊งขอตัวกลับ เพราะเอารถไปล้างก่อนเอากลับบ้าน ไม่งั้นโดนที่บ้านบ่นหูชาว่าใช้รถไม่รักษาครับ พี่ติ๊กจึงขอติดรถไปลงแถว BTS ด้วย

ผมเห็นอย่างงั้นจึงเอ่ยปากขอตัวกลับบ้าง กะว่าจะนั่งแท็กซี่กลับให้สบายใจ แต่มีคนไม่ยอมครับ ลุงเป็นคนอาสาไปส่งผมและส้มที่หอ ปฏิเสธก็ไม่ได้เสียด้วย เพราะส้มไม่กล้านั่งรถไปกับลุงสองคน ผมจึงต้องนั่งไปเป็นเพื่อน ตอนนี้ส้มดีขึ้นมากแล้วครับ แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็น เลยบอกไปว่าให้ไปหาพี่โจ้ที่ร้านด้วยกันในวันพรุ่งนี้ เพราะพี่โจ้ถามหา

ลุงไปส่งส้มที่หอก่อน เมื่อเห็นว่าส้มเดินเข้าหอแล้ว ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังหอผมต่อ ความเงียบเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกมา ไม่รู้ว่าความรู้สึกอึดอัดระหว่างเราสองคนเกิดขึ้นมาตอนไหน อาจเป็นเพราะคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบของเราสองคนก็ได้ทำให้สร้างกำแพงขึ้นมาระหว่างเราสองคนแบบนี้

“หิวไหม” ประโยคคำถามสั้นๆ ถูกเปล่งออกมาจากคนขับรถ แต่เจ้าตัวไม่ได้รอฟังคำตอบ ตบไฟเลี้ยวรถเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่อยู่ก่อนถึงหอผม

“ผมอยากกลับหอ”

“งั้นซื้อไปกินที่หอ”

“ห้ะ?” ไม่ทันได้สงสัยไปมากกว่านั้น เจ้าตัวก็เดินออกจากรถเพื่อไปสั่งก๋วยเตี๋ยวใส่ถุง ทิ้งผมให้นั่งรอในรถ

.................................................................

“ห้องมึงแม่งรกจังวะ” นอกจากจะเสียมารยาทเดินตามขึ้นหอมาโดยไม่ได้เชิญแล้ว ยังมาวิจารณ์ห้องอันแสนสุขของผมอีก

“เฮ้ยตู้นี้เจ๋งว่ะ กล้องมึงหมดเลยหรอ” เหล่มองยังไม่สำนึกอีก

“วางเลยลุง อย่ายุ่งกับกล้องของผม เสียหายไปต้องผมคิดเงินนะคร้าบบ”

“กูรวย” โอเคครับลุง จบด้วยคำนี้กูก็ตายสิครับ

ผมเลิกสนใจการเดินสำรวจห้องผมของลุง หันมาหยิบของออกจากกระเป๋าแทน โยนเสื้อผ้าทั้งหมดลงตะกร้า แล้วเดินเอากล้องไปวางที่เดิม ใช้ฟิล์มไป 2 ม้วนครับ พรุ่งนี้ค่อยเอาไปล้าง จริงๆ ก็อยากไปล้างเลย แต่ความเหนื่อยและเพลียจากการตื่นเช้ามันทำให้ผมเลือกที่จะนอนมากกว่า

“ไปอาบน้ำก่อนสิ”

“ผมง่วง ลุงกลับไปเหอะ”

“กูซื้อก๋วยเตี๋ยวมาเผื่อมึงด้วย รีบๆ อาบน้ำจะได้ออกมากินกัน”

“วางไว้ก็ได้ลุง เดี๋ยวผมตื่นแล้วกินเอง” ล้มตัวเองลงนอน

“ไปอาบน้ำ” แรงกระชากมหาศาลดึงให้ผมขึ้นมานั่งทันที พร้อมกับผ้าขนหนูที่ไปหยิบมาตอนไหนก็ไม่รู้ถูกโยนมาให้ แม่งทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าของห้องงั้นแหละ

“เออๆ รีบอาบรีบกิน แล้วรีบกลับไปเลยนะลุง” หยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันที รีบๆ ทำทุกอย่างให้มันเสร็จๆ จะได้นอนสมใจอยาก

ออกจากห้องน้ำมาก็พบก๋วยเตี๋ยวถูกเทใส่ชามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เส้นเล็กน้ำใสใส่ผักหนึ่ง ไม่ใส่ผักหนึ่ง ดูเหมาะสมกับอาหารที่ลุงสั่งมากครับ แค่สั่งใส่ผักมาให้ผมก็ดีใจเหลือเกินแล้วครับ

“ไม่รู้ว่ามึงกินไร เลยสั่งแบบที่กูกินมา”

“อืม ผมกินได้ทุกอย่างแหละ แต่ถ้าเป็นเย็นตาโฟจะชอบเป็นพิเศษ” คีบเส้นเล็กเข้ามา จืดจริงๆ ครับ แต่รสชาติแบบนี้ลุงคงชอบ เพราะเห็นกินอย่างสบายๆ ต่างจากผมที่ขอหยิบพริกมาปรุงให้รสจัดขึ้นอีกหน่อยก็ยังดี

“ไว้คราวหน้ากูจะซื้อมาให้แล้วกัน”

นั่งกินกันเงียบๆ จนหมด ผมก็ขอเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยการหยิบชามไปวางบนอ่าง แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที เรียกเสียงหึในลำคอของอีกคนได้

“กลับไปได้แล้วลุง ผมจะนอน” ไล่กันตรงๆ นี่แหละครับ ไม่มีการอ้อมค้อม

“กรดไหลย้อนแน่มึง”

“ใครสน” หลับตาลงทันที ปิดการรับรู้รอบข้าง ไม่สนใจคนตัวโตที่ยังคงยืนอยู่ในห้อง

ในฝันผมได้ยินเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายร่างสูงคนนั้น กระซิบข้างๆ หูผม “อย่าทำให้กูต้องเป็นบ้าแบบนั้นอีก แค่นี้กูก็ห่วงมึงจนจะแย่อยู่แล้ว”

...................................................................
ฮืออออ หายไปนาน เค้าขอโต้ดดดดด เค้าเริ่มงานแล้วเพิ่งได้หยุด งุยยย
พยายามจะดึงดราม่า แต่ทำไม่เก่งจริงๆ แฮ่

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเหมือนเดิมเลยน้าาาา จุ้บบบบ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ลุงมันยังไงกันแน่ รู้สึกแค่ว่าต่อจากนี้จะไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะเจ็ทรู้ใจตัวเองแต่ก็ต้องห้ามใจแบบคนรักเขาข้างเดียวอีกตามเคย
น่าจะมีคนมาจีบเจ็ทสักนิส เผื่อลุงจะหึงบ้างไรงี้

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :o8: ลุงเป็นห่วงหลานเจ็ท   o18

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
ลุง...จะจีบเจ็ทแต่แรกก็บอกมา

ตอนลุงร้องเพลงนี่หยาเป็นสาววายเปล่า...แบบรู้อยู่แล้วว่าลุงจะจีบเจ็ทงี้ พอลุงร้องเพลงแล้วสบตาเลยเขินแทน

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เอ๊ะ!!! ยังไงอ่ะลุง

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
อ้าว  ไหงเป็นงั้น

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มาอัพได้แล้ว

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH15

เซนทรัลในเวลาเที่ยงรถติดชิบหาย!

การจราจรที่แน่นขนันไปด้วยบรรดารถรา ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวหรือรถเมล์ แน่น และโคตรจะแน่นมากๆ จนทำให้ผมเริ่มจะอารมณ์เสียมากขึ้นทุกขณะ ความจริงเป็นแล้วเราไม่ควรมาติดกันอยู่ตรงนี้เลยถ้าไอ้คุณลุงมันไม่เสนอให้ผมนั่งรถมันมา แทนที่จะให้บริการรถไฟฟ้าอย่างที่ผมใช้เป็นประจำ

วันนี้เรามาล้างฟิล์มกันครับ ผมที่ต้องแหกขี้ตาตื่นมาเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังติดๆ กันหลายครั้ง ใจความสั้นๆ ที่ถูกส่งมาคือให้เปิดประตู พับพ่าสิ! อะไรมันจะขยันตื่นกันขนาดนี้วะ ความตั้งใจที่จะตื่นสายๆ เพื่อออกมาล้างฟิล์มก่อนจะกลับไปทำงานของผมจบลงทันทีที่ลุงก้าวเข้ามาในห้อง พร้อมกันเสนอตัวว่าจะพาผมไปล้างฟิล์มเอง

สุดท้ายมันก็ติดอยู่ตรงนี้ไงละฟระ กว่าจะวนหาที่จอดรถ กว่าจะเดินไปที่ร้าน กว่าจะรอล้างฟิล์มเสร็จ แล้วต้องฝ่ารถติดยามเย็นกลับไปทำงานอีก ถ้าผมเข้างานสายไปแม้แต่นาทีเดียวจะไปเก็บเงินที่โดนหักไปจากไอ้คุณลุงนี่แหละ

“หน้าหงิกหน้างอ เป็นปลาทูหรือไงมึง”

“อะไร อย่าหาเรื่องได้ป่ะ”

“เอาน่า เดี๋ยววันนี้เลี้ยงข้าวเลย อยากแดกไรบอก”

“เออ” หึ เห็นของกินไอ้เจ็ทก็ยอมแล้วคร้าบบบบ

สุดท้ายกว่าจะหลุดจากสี่แยกมาได้ลุงก็ปล่อยผมลงที่หน้าห้างก่อน เพื่อเอาฟิล์มไปล้างทิ้งไว้ครับ ส่วนตัวเองวนไปหาที่จอดรถ แล้วค่อยโทรหากันที่หลัง

พูดถึงโทรศัพท์ เมื่อคืนผมตื่นมากลางดึกแล้วหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา เด็กรุ่นใหม่ครับ โทรศัพท์คือทุกอย่างของชีวิต แต่ก็พบว่ามันแบตหมด เดาว่าหมดตั้งแต่คืนนั้นที่ทะเลาะกับลุงที่หาด เพราะผมไม่ได้ใช้งานมันอีกเลยจนกลับมาถึงหอ คว้าที่ชาร์จแบตมาชาร์จทิ้งเอาไว้ แล้วล้มตัวลงนอนต่อ

มันคงไม่มีอะไรแปลกนักถ้าไม่พบข้อความเข้าจากเบอร์แปลกเบอร์เดิม ส่งมาสั้นว่า “กูเป็นห่วง” มองเวลาที่ส่งก็เป็นทันทีหลังจากที่ผมตอบกลับไปล่าสุด หรือจริงๆแล้วเขาเป็นใครคนใดคนหนึ่งที่ไปเที่ยวกับผมจริงๆ ตัดความน่าจะเป็นว่าไม่ใช่เพื่อนกลุ่มผมแน่ๆ เพราะพอเลื่อนขึ้นไปอ่านข้อความแรกๆ มีคำกล่าวสรรเสริญพี่ไม้เต็มไปหมด นั่นทำให้เดาได้ไม่อยากว่าต้องเป็นใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มลุงที่ไม่ใช่พี่ไม้ แล้วมันเป็นใครวะ

แว่บแรกผมคิดว่าน่าจะเป็นลุงแน่ๆ แต่ก็คิดอีกว่าไม่ใช่ เพราะลุงมันเคยส่งข้อความให้ผมนะครับ ก็วันนั้นไงที่ขู่ผม แถมไม่ใช่เบอร์นี้ด้วย เพราะฉะนั้นต้องเป็นพี่ติ๊กไม่ก็พี่ก๊ง แต่ผมว่าผมก็เมมเบอร์ของทั้งสองคนไว้แล้วนะครับ นั่นยิ่งทำให้ผมสงสัยหนัก แก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการส่งข้อความกลับไปถามอีกครั้งว่า “ใคร พี่ติ๊กหรอ หรือพี่ก๊ง?” แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้รับข้อความตอบกลับมาเลยครับ

ใช้เวลาเดินไปที่ร้านล้างฟิล์มไม่นาน จำได้ว่าครั้งแรกที่มาเอ๋อมากครับ ไม่เคยนั่ง MRT เดินลงมากว่าจะหาร้านเจอใช้เวลาค่อนข้างนานเลยทีเดียว ขนาดผมเปิดหาชื่อร้านจากในอินเตอร์เน็ตก่อนมาแล้วนะ ยังหลงทางได้ จนเริ่มมาบ่อยเข้าพี่เจ้าของร้านก็เริ่มจำผมได้ สะสมแต้มจนจะได้ล้างฟิล์มฟรีเลยล่ะ

เสร็จธุระจากตรงนี้ก็โทรหาลุง นัดเจอกันที่ร้านข้าวเลยจะได้ไม่เสียเวลาเดินหากัน เราต้องรอล้างฟิล์มกัน 1 ชั่วโมงครับ ระหว่างนั้นก็กินข้าวเดินเล่นได้เต็มที่

ร้านที่ผมเลือกวันนี้เป็นบะหมี่หมายเลขแปด ของชอบในห้างไม่กี่อย่างของผม ชอบตั้งแต่วันแรกที่มันมาเปิดสาขาใกล้บ้านแล้วครับ ประทับใจเกี๊ยวซ่าที่เขาใช้การนึ่งแทนการทอด มันทำให้ผมรู้สึกไม่เลี่ยนจนเกินไปนัก

ใช้เวลารอลุงที่หน้าร้านไม่นานก็เราก็เข้าไปสั่งอาหารกัน ต้มยำชาชูเมนเพิ่มเส้นเป็นสิ่งที่ผมเลือก พร้อมด้วยเกี๊ยวซ่าและทาโกยากิของชอบ แต่ตาลุงนี่สิมาร้านราเมงดันสั่งข้าวผัดไม่ใส่ผักมากิน รู้แบบนี้ชวนกินอาหารตามสั่งข้างห้างก็ดีหรอก

“แดกยังไงให้เลอะปากวะ” กระดาษทิชชูถูกส่งมาให้ คว้ามาเช็ดหมับที่ปากทันที

“ขี้บ่นจังวะ”

“ไอ้เด็กบ้า”

“ตาลุงขี้บ่น”

.................................................

ใช้เวลาเดินเล่นฆ่าเวลาซักพัก ก็กลับไปเอารูปที่ร้าน ตอนนี้เราจะยังไม่สามารถดูได้ว่ารูปมันจะออกมาเป็นยังไง เพราะทางร้านจะไลท์ลงแผ่นซีดีมาให้ ทำได้แค่ส่องไปที่ฟิล์มที่ถูกตัดมาเป็นแผ่นๆ แทน ลุงคว้าฟิล์มไปส่องไฟ แล้วขมวดคิ้วมองตามรูปต่างๆ

“ถ่ายอะไรวะ มองไม่เห็นรู้เรื่อง”

“ถ่ายหมา” รูปส่วนใหญ่ที่ผมถ่ายก็เป็นวิวทะเลนั่นแหละครับ แต่ถ่ายหมานี่คือเรื่องจริงนะ เพราะผมชอบหมา เวลาเห็นหมาจรก็ชอบถ่ายรูปเก็บไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หมาแต่ละตัวมันมีสื่อความรู้สึกออกมาต่างกันครับ บางตัวผอมแห้ง สายตากลับดุดันและระแวง หรือบางตัวก็ชอบทำหน้าตาออดอ้อนออเซาะ เหมือนว่าให้ส่งลูกชิ้นให้มือมาให้หน่อย หรือบางทีก็เจอไอ้ตัวอ้วนที่นอนอยู่เฉยๆ ไม่ขยับตัวไปไหนรอคนเอาของมาให้กิน ใช้หมาเล่าเรื่องครับ

“เราถ่อมาถึงที่นี่เพื่อซีดีแผ่นเดียวหรอวะ”

แล้วใครใช้ให้มาด้วยล่ะ ไม่ได้พูดครับ แค่คิด เดินหนีตาลุงที่ยังคงสนใจฟิล์มในมือไม่เลิก ไปยืนหน้าร้านขายไอศกรีมแทน เล็งไว้ตั้งแต่ออกจากร้านข้าวแล้วครับ แต่ตอนนั้นอืดบะหมี่อยู่ เดินย่อยแล้วจึงกินได้ ช็อคโกแลตมิ้นที่ใครๆ ต่างบอกว่าเหมือนยาสีฟันหนักหนานั้นเป็นสิ่งที่ผมโปรดปราณมากที่สุด ยาสีฟันก็แปรงกันทุกวัน ไม่รู้สึกอร่อยกันเลยหรือไง

คว้าไอศกรีมเข้าปากหมับ ไม่ใช่ปากผมครับ ปากไอ้คนที่มากด้วยเนี้ย “ทำไมไม่ซื้อเองวะลุง” ความหงุดหงิดเมื่อตอนเที่ยงกำลังจะกลับอีกครั้ง

“กลัวกินไม่หมด ทำไม งก?” ทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างกูอีกแน่ะ

“เหอะ!” เดินหนีทันที จนไม่ทันสังเกตรอยยิ้มที่มุมปากของคนข้างหลัง

............................................

ลุงขับรถมาส่งผมที่ร้านพี่โจ้ด้วยเวลาอันฉิวเฉียดครับ ก่อนหน้านี้เราแวะไปรับส้มที่หอมาก่อน เพราะพี่โจ้ต้องการพบตัวอย่างด่วนๆ ยังไม่ทันจอดรถสนิท ไอ้คุณส้มก็ถลาลงจากรถวิ่งเข้าไปในร้านทันที

เดินตามเข้าไปเห็นรายนั้นกำลังคลอเคลียกับพี่จีนแฟนพี่โจ้อยู่ มาถูกวันเสียด้วยสิ ยากกว่าการที่พี่โจ้จะเข้าร้านคือพี่จีนครับ เพราะพี่จีนชอบบอกว่ามาบ่อยเดี๋ยวเขาหาว่ามาเฝ้า แซวๆ แหละครับ ใครจะกล้ากล่าวหาว่าที่ภรรยาเจ้านายได้ล่ะ

“อ้อนตีนพี่โจ้อีกแล้วนะมึง พี่จีนหวัดดีครับ” แซวไอ้คุณส้มพอเป็นพิธี ก็ไอ้บุคลิกเกือบแมนของมันเนี้ยแหละที่ทำให้พี่โจ้หมั่นไส้นักหนา ยิ่งวันไหนมันแจ็คพอตมาเจอพี่จีนอย่างวันนี้พี่โจ้ยิ่งตกกระป๋องครับ สองคนนี้เขาสนิทกันอย่างอะไรดี ลูกล่อลูกชนกันเลยล่ะ

“เจ็ทก็แซวไป แล้วเป็นไงล่ะเรา ไหนบอกเจ้สิ”

“โหยเจ้ ไม่อยากพูดถึงว่ะ” ส้มผละออกจากพี่จีนมานั่งบนเก้าอี้ ส่วนผมก็เดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ หยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ โบกมือลาเพื่อนพนักงานอีกคนที่กำลังจะออกจากกะ ส่วนลุงก็นั่งที่ที่เดิม

“เออๆ อยากกินไร วันนี้พี่โจ้เลี้ยง” ไอ้คุณส้มตาวาวขึ้นมาทันทีหลังประโยคนั้น ตอนนี้มันร่าเริงขึ้นมาบ้างแล้วครับ อย่างน้อยก็ไม่นั่งซึมนั่งจ้องโทรศัพท์เหมือนเดิมแล้ว หรือบางทีอาจจะทำในเวลาที่พวกผมไม่ได้อยู่ด้วยก็ได้นะ

“ว่าแต่พ่อหนุ่มที่มาด้วยนี่ใคร” เบนความสนใจไปหาลุงที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่

“รุ่นพี่ที่มอ”

“แฟน?”

“รุ่นพี่จริงๆ พี่ พอดีวันนี้ไปธุระด้วยกันมาเลยมาส่ง” แฟนผมที่ไหนล่ะ ว่าที่แฟนหยิมต่างหาก

“แล้วพี่โจ้อ่ะ” เจ้าของร้านตัวจริงที่เป็นคนเรียกไอ้คุณส้มมาตอนนี้ยังไม่โผล่ร่างมาให้ผมเห็นเลยครับ

“ไปรับเค้ก เดี๋ยวก็มา” พยักหน้างึกงัก แล้วเดินไปหยิบสตอเบอรี่ในตู้เย็นมาปั่น วันนี้ว่าจะเอาปีโป้ลงไปปั่นด้วย เวลาเคี้ยวจะได้ลื่นๆ ผมอยากกินครับ หันไปมองหน้าลุงก็ไม่เห็นสนใจว่าผมจะทำอะไรให้ เพราะยังคงนั่งจิ้มโทรศัพท์ยิกๆ อยู่เหมือนเดิม

นั่งคุยกันอยู่ไม่นาน พี่โจ้ก็ก้าวเข้ามาในร้าน พร้อมกล่องพะรุงพะรัง จนต้องวิ่งไปช่วยถือ เค้กน่าตาแปลกๆ เต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเดือนนี้พี่โจ้จะเลือกเมนูไหนเป็นเมนูแนะนำ เพราะมีเค้กชนิดใหม่หลายแบบ จัดเรียงใส่ตู้เค้กเรียบร้อย ก็กลับมาร่วมวงสนทนาต่อ

“ปอกลอกกูอีกแล้วสิมึง” พี่โจ้ยืนมองไอ้คุณส้มกับจานเปล่าสองสามจานที่เคยมีเค้กวางอยู่บนนั้น แล้วส่งสายตาเอือมระอามามองผม ก่อนจะเบนสายตาไปยังผู้ชายตัวโตที่นั่งอยู่ติดเคาน์เตอร์ แล้วขมวดคิ้วเบาๆ

“โธ่เฮีย นิดหน่อยให้ส้มไม่ได้หรอ เค้กร้านเฮียอร่อย ยิ่งอันไหนที่เจ้ทำนะ ยิ่งโคตรจะอร่อยเลย” ไม่พูดเปล่า ซบหน้าลงบนไหล่พี่จีนประกอบ

“น้อยๆ หน่อยไอ้ส้ม นั่นแฟนกู เดี๋ยวคิดเงินแม่งเลยหนิ” ไอ้ส้มหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ก่อนจะยอมปล่อยมือจากแขนพี่เกาะกุมไว้เมื่อกี้ แล้วหันไปสนใจเค้กตรงหน้าต่อ

“แล้วเป็นไง เที่ยวสนุกไหมวะ”

“ก็ดีอ่ะเฮีย ทะเลสวยดี ว่างๆ พาเจ้ไปเที่ยวดิ”

“บางแสนกูไปบ่อยแล้วว่ะ” เบ้ปากมองบน เหม็นกลิ่นคนรวยครับ เอะอะเที่ยวภูเขา เอะอะลงทะเล เอาเวลาว่างจากไหนมากมายวะ

“แล้วมึงละเจ็ท ไอ้หนุ่มนั่นมาเฝ้าบ่อยนี่หว่า” เหลือบตาขึ้นไปมองตาลุงที่กำลังนั่งดูน้ำจ๊วฟๆ ไม่สนใจจะเข้าร่วมบทสนทนาใดๆ ทั้งสิ้น

“เฝ้าบ้าเฝ้าบอไรล่ะพี่ มาส่งเฉยๆ เดี๋ยวก็กลับ”

“อ่อหรอออ”

“เออครับ” พี่โจ้แม่งกวนตีน ต้องรีบเดินหนี เดี๋ยวงานเข้าตัว ไอ้คุณลุงนี่ก็สบายใจเหลือเกิน ไม่สนใจแยแสใครทั้งนั้น กดโทรศัพท์ไปดูดน้ำไป โคตรสบายใจ ไม่มีการมีงานทำหรือไงวะ อาทิตย์หน้าจะเปิดเทอมแล้ว ไม่มีรายงานต้องส่งอาจารย์บ้างหรือไง

“ลุงกลับก่อนก็ได้นะ”

“แล้วส้มจะกลับยังไง” หันไปมองส้มที่นั่งหัวเราะคิกคักกับเจ้าของร้านก็คิดว่าคงต้องเป็นคนไปส่งมันเอง หวังพึ่งให้พี่เก่งมารับเหมือนอย่างเคยคงไม่ได้ ป่านนี้ไม่รู้แม่งติดสาวไปอยู่ส่วนของโลกแล้ว

“มันอยู่รอผมเลิกนั่นแหละ เดี๋ยวผมไปส่งมันเอง”

“มอไซด์รับจ้าง?” เพราะวันนี้ลุงมาส่งครับ เลยไม่ได้ขี่รถมา คงต้องพึ่งพี่วินหน้าร้านกันล่ะ

“อืม”

“เดี๋ยวกูรอ”

“อีกนานเลยนะลุง นั่งรอไม่เบื่อรึไงวะ” นี่ผมพึ่งเข้างานได้ไม่ถึงชั่วโมงเลยครับ กว่าจะเลิกก็ตีสองตีสามนู่น ไอ้คุณส้มน่ะมันมีพี่โจ้พี่จีนนั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่แล้ว ดีกว่าไปนั่งเหงาๆ ให้ฟุ้งซ่านอยู่หอคนเดียว แต่ตาลุงนี่สิ คนรู้จักก็ไม่มี ไอ้ส้มเรียกไปนั่งด้วยก็ไม่ไป จะนั่งเฝ้าผมหน้าเคาน์เตอร์ท่าเดียว ไอ้การนั่งกดโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ มันจะไปสบายกว่าการนอนที่บ้านตัวเองได้ยังไงล่ะ

“กูรอได้”

“ตามใจ แล้วอย่ามาบ่นให้ฟังนะ”

..................................................................................

สุดท้ายตาลุงนั่นก็รอจนผมเลิกงานจริงๆ ครับ ไอ้คุณส้มเกาะติดพี่จีนไม่ยอมหลุด จนพี่โจ้ไม่ได้ทำการทำงาน ต้องนั่งเฝ้าพี่จีนไม่ให้ห่าง พอถึงเวลาผมเลิกงาน พี่โจ้แทบคุกเข่าบอกให้ไอ้ส้มกลับ ต้องการตัวแฟนคืนครับ ลุงเป็นคนอาสาไปส่งส้มที่หอก่อน แล้วค่อยไปส่งผมทีหลัง

“ถึงหอแล้วบอกกูด้วยนะมึง แล้วก็ส่งรูปมาให้กูดูบ้าง บ้ายบายย หวัดดีค่ะพี่ที ฝากส่งไอ้เจ็ทด้วยนะคะ” ไอ้คุณส้มร่ำลาก่อนจะก้าวออกจากรถแล้วเดินเข้าหอไป เมื่อเห็นว่าส้มเดินเข้าสู่พื้นที่หอเรียบร้อยลุงก็ออกรถทันที

“กูอยากดูรูปบ้าง” คงเห็นส้มทวงรูปผม ตาลุงนี่เลยงอแงอยากจะเอาบ้าง

“ไว้ส่งให้” ต้องกลับไปเปิดคอมที่หอครับ นี่ก็รอเวลาถึงหอไม่ไหวแล้ว อยากดูรูปใจจะขาด

“กูอยากดู”

“ก็ไว้ส่งให้ไง อะไรของลุงเนี้ย”

“กูอยากดูกับมึง”

“ห้ะ?”

“เสือกโง่อีก”

“อ้าว” อะไรวะ แค่นี้ต้องด่าโง่ด้วย

“ที่ห้องมีแปรงสีฟันยังไม่ได้ใช้ไหม”

“ผมอยู่คนเดียว จะมีได้ไงวะครับ” ตาลุงนี่ก็แปลก คนอยู่คนเดียวจะมีแปรงสีฟันสำรองไว้ทำไม ผมใช้คนเดียว บานก็ค่อยไปซื้อใหม่ ไม่ต้องเก็บกักตุนหรอกครับ

“งั้นแวะซื้อ” ตบไฟเข้าเซเว่นข้างทางทันที

“ซื้อไม ที่บ้านหมดหรอ ฝากซื้อขนมด้วยดิ ผมหิวอ่ะ กินได้ทุกอย่าง รอที่รถนะ” ขี้เกียจเดินแล้วครับ ยืนเฝ้าหน้าร้านเหนื่อยจะตาย แต่ท้องก็ร้องประท้วงเหลือเกิน อุตส่าห์ขโมยตาลุงกินน้ำไปตั้งเยอะ ไม่พอยาไส้ไอ้เจ็ทเลยคร้าบบบบบ

ลุงมองหน้าผมก่อนจะส่ายหัว เอือมผมหรอ แล้วไงใครแคร์ คนมันขี้เกียจ เข้าใจไหมคร้าบบบ

นั่งรออยู่ที่รถไม่นาน ลุงก็กลับมาพร้อมถุงเซเว่นถุงใหญ่ โอ้โห ซื้อมาขนาดนี้ ไอ้เจ็ทไม่มีปัญญาจ่ายนะโว้ยยย “โหลุง เยอะจังวะ ผ่อนจ่ายได้ไหมอ่ะ”

“คนบ้าอะไร ผ่อนจ่ายค่าขนม แดกๆ ไปเถอะ กูเลี้ยง อย่าแดกแปรงสีฟันกูก็พอ”

ขับรถออกจากเซเว่นได้ไม่นาน ก็ถึงหอผมครับ รอบๆ หอผมค่อนข้างเจริญ เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ร้านรวงต่างๆ จึงเยอะมาก รวมทั้งหอพักด้วย แถวนี้มีหอพักเยอะมากครับ แต่เวลาค่ำคืนแบบนี้ก็เปลี่ยวน่าดูเหมือนกัน อย่างว่าแหละครับ ชานเมืองที่มีแต่ทุ่งนาแบบนี้ พอดึกๆ ชาวบ้านเขาก็หลับนอนกันหมดแล้ว ถ้าเป็นในตัวเมืองป่านนี้คงเพิ่งกลับจากเที่ยวกลางคืนกันมากกว่า

“แล้วลุงจะลงมาด้วยทำไมวะ” จอดรถหน้าหอเรียบร้อย ล็อครถแล้วเดินตามผมมาหน้าลิฟท์เฉย

“จะดูรูป”

“ห้ะ?” ก้าวขาเข้าลิฟท์อย่างงงๆ

“มึงมันโง่จริงๆ นั่นแหละ”

อะไรวะครับ ทำไมผมไม่เข้าใจ นี่ลุงต้องการอะไรจากผ๊มมมมมม?

.........................................
เค้ามาแล้ว อย่าโกธรเค้าน้าาาา เค้าทำงานเลิก 2 ทุ่ม ทุกวัน ถึงบ้านทำนู่นนี่นั่นรู้ตัวอีกทีสี่ทุ่ม
ยังไม่ทันได้ขยับตัวมาเปิดคอมเลย ล้มตัวลงนอนทันที กำลังเริ่มปรับตัวอยู่เด้อออ
นี่เป็นตอนสำรองตอนสุดท้ายที่แต่งทิ้งเอาไว้ ฮือออออ จะพยายามแต่งเพิ่มไวไวน้า

สำหรับตอนนี้อิตาลุงนี่น่าหมั่นไส้มา ไหนลุงจะเอายังไงพูด
ทำแบบนี้หนูเจ็ทจะเจ็บนะลุงงง 555555

ขอบคุณที่ติดตามนะฮ้าบบ สัญญาจะรีบกลับมาต่อ
ขอเวลาเค้าปรับเวลากินนอนก๊อนนน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใครหว่า เจ้าของข้อความนั้นอ่ะ  :m28:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มารออ่านตาลุงเด้ออออ5555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจ็ทโง่ หรือตาลุงไม่ชัดเจน  :really2:

คงเพราะลุงบอกเจ็ทแต่แรกว่าจะจีบหยา
และสายตาลุงกับหยาคืนนั้น ติดตาเจ็ท
เลยทำให้ประสาทเจ็ทชาไปหมดละม้าง

อยากอ่านพาร์ทของส้ม
น่าให้ส้มเอาคืนซะจริง
แต่ไม่เอามาเป็นแฟนอีก   :z6: :z6: :z6:
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2017 13:23:38 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ลุงเอาไงแน่ ชอบใครกันแน่

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ใครหว่า เจ้าของข้อความนั้นอ่ะ  :m28:
สงสัยเหมือนกัล
ลุงชัดเจนหน่อย จีบหญิงแต่ตามต้อยน้องเจ๊ท มันยังไงกันหว่า
 :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ที จะเอาไงแน่

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH16

เปิดเทอมใหม่ พร้อมกับกิจกรรมปีหนึ่งที่กำลังคืบคลานเข้ามา เดือนหน้าเราจะมีกีฬามหาวิทยาลัยกันครับ สองแฝดนั้นถูกทาบทามให้เป็นหลีดคณะเรียบร้อย ส่วนไอ้คุณส้มลงแข่งกีฬาครับ บาสเก็ตบอลหญิง เป็นกีฬาที่แม่งโคตรจะแมนแฮนซั่มบอยมากๆ เหมาะกับไอ้คุณส้มสุดๆ ตอนนี้เดอะแก็งค์ของผมทุกคนจึงปลีกตัวไปซ้อมกิจกรรมกันทุกเย็น

ส่วนตัวผมนั้นบอกลาทุกกิจกรรมครับ ขอออกตัวเป็นฝ่ายฉากแทน งานใช้แรงงานนี่ไอ้เจ็ทถนัดนักแหละ จะให้ไปวิ่งตามลูกกลมๆ เหมือนไอ้คุณส้ม หรือไปเต้นตามจังหวะเหมือนสองแฝดผมก็คงไม่ไหว ยิ่งถ้าให้ไปขึ้นแสตนก็กลัวจะไปทำให้แสตนเขาล่มเสียเปล่าๆ สู้อยู่ทาสี เลื้อยไม้ ยกฉากยังสบายใจกว่าครับ

“เจ็ท มึงไปซื้อสีเพิ่มให้หน่อยดิ เอาสีตามนี้เลยนะ เงินออกไปก่อน เดี๋ยวเอาบิลไปเบิกกับไอ้ฟ้าทีหลัง” ไอ้วินประธานชั้นปีพ่วงตัวตำแหน่งประธานฝ่ายฉากครับ

“เบิกค่าน้ำมันได้ด้วยเปล่าวะ” ไม่ใช่ไรนะครับ ผมไม่ได้งกขนาดที่จะไปซื้อของให้เพื่อนไม่ได้ แต่ได้โปรดเห็นใจไอ้เจ็ทเถอะ เห็นกูมีมอไซด์หน่อยยืมรถกูจัง แม่งขับไปเซเว่นเอย ซื้อข้าวเอย กลับมาทีน้ำมันไอ้เจ็ทแทบหมดถัง ไอ้พวกฝ่ายฉากแม่งก็ไม่มีความเกรงใจกันเล้ยย ใช้รถกูเสือกไม่เติมน้ำมันให้กูอีก

“บวกเพิ่มในบิลแล้วกันนะมึง โทษทีว่ะ ไว้กูบอกฟ้าให้”

“เออ” รับปากแล้วคว้ากุญแจลูกชายขึ้นแล้ววิ่งไปที่รถทันที

“กูขอภายในครึ่งชั่วโมงนะโว้ยย” ครับ ได้ครับเพื่อนวินครับบบ!

...

จะมีใครซวยเท่าไอ้เจ็ทอีกคงไม่มีครับ ก็แม่งสั่งให้กูมาซื้อสี 5 ถัง ทั้งๆ ที่กูขับมอไซด์เนี้ยนะ เอาไรมาคิดวะเนี้ย ลูกชายกูมันจะไปยัดห่าทุกถังลงไปได้ยังไง แถมยังมาคนเดียวแบบนี้ จะเอาปัญญาที่ไหนไปถือถังสีทั้งหมดได้วะ

นั่งมองถังสีจำนวน 5 สี ที่ได้รับมอบหมายมาแล้วเหนื่อยใจครับ ทำไมแม่งไม่ใช้ไอ้คนที่ขับรถคันใหญ่วะ!

ปริ๊นน!

จะดีกว่านี้ถ้ามึงไม่เปิดไฟสูงใส่กูนะครับ ใครวะเนี้ย!

“ทำเหี้ยไรตรงนี้” คุณจำไอ้คอปเตอร์ได้ไหมครับ ไอ้น้องรหัสปีหนึ่งของพี่เก่งแฟนเก่าไอ้คุณส้มน่ะ ตอนนี้มันกำลังเปิดไฟสูงส่องหน้าผมอยู่

“ไอ้คอปเตอร์ มาโปรดกูแท้ๆ มึงรีบไปไหนป่ะวะ”

“กำลังจะเข้าคณะ กูออกมาเอาข้าวให้หลีด”

“พอดีเลยมึง กูฝากถังสีไปคณะกูด้วยได้ไหมวะ กูแบกคนเดียวไม่ไหว” สวรรค์โปรดไอ้เจ็ทเหลือเกินครับ ส่งไอ้คุณชายมีรถนี่มาเกย ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ล่ะวะ

“เฮ้ยได้ดิ เอาขึ้นรถเลยๆ” ได้ยินเสียงปลดล็อคประตูรถแล้วระริกระรี่ทันที รีบหยิบถังสีทั้งหมดขึ้นรถมัน

“ขอบใจมากมึง ถ้าไปถึงก่อนกูก็เอาวางไว้หน้าคณะก็ได้ เดี๋ยวกูขี่รถตามไป” ว่าเสร็จก็เอารีบวิ่งกลับไปที่รถตัวเองทันที นี่ใกล้ครบครึ่งชั่วโมงที่ไอ้วินมันบอกมาแล้วครับ จริงๆ ก็ไม่ได้กลัวอะไรมันหรอก แต่ไม่อยากให้งานเดินช้าครับ เสร็จเร็วช่วงหลังๆ จะได้ไม่ต้องเร่งงานมากนัก

ขี่รถตามตูดไอ้คอปเตอร์ได้ไม่นานก็ถึงคณะผมครับ แต่ก็ไม่ทันช่วยมันขนถังสีลงจากรถ อย่างว่าแหละครับ ถนนโล่งๆ แบบนี้มอเตอร์ไซด์มันจะไปขับทันรถยนต์คันใหญ่ได้ยังไง ตอนที่ผมจอดรถมันก็กำลังเดินกลับขึ้นรถตัวเองพอดี วิ่งไปขอบคุณมันเรียบร้อย คอปเตอร์ก็ขอตัวกลับเอาข้าวไปส่งหลีดคณะมันทันที

ผมช่วยงานคณะได้ไม่นานก็ต้องรีบไปทำงานครับ งานยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน เพราะยังต้องตกลงกับทั้งพวกหลีดและแสตนอีกว่าต้องการอุปกรณ์อะไรเพิ่ม ของบางชิ้นต้องรีบผลิตให้ทันเขาใช้ซ้อมกันครับ แถมยังต้องทำ 2 ชุด ไว้เพื่อเกิดชำรุดระหว่างซ้อม วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ก็ต้องไปช่วยไอ้วินเลือกซื้อผ้ามาตัดเย็บไห้พวกหลีดด้วย

คอนเซ็ปปีนี้คือ 90s ครับ ก็อย่างว่ายุคนี้กำลังมาแรง เสื้อผ้าชิคๆ แนวๆ หาซื้อกันได้ง่ายๆ แต่มันซ้ำซากและจำเจมากเกินไป พวกหลีดเลยอยากให้ฉากช่วยหาผ้ามาตัดเย็บชุดกันเอง ไอ้วินก็คนดีเหลือเกินครับ รับงานทุกอย่างมาหมด ไม่รู้ว่าฝ่ายฉากหรือฝ่ายเบ็ดเตร็ดกันแน่

ทางไปร้านพี่โจ้จากคณะผมต้องขับรถผ่านโรงยิมมหาวิทยาลัยครับ ไอ้ยินเสียงตะโกนโวกแวกโวยวายดังมากจากในยิมดังสนั่น ได้ยินจากส้มว่าต้องแบ่งเวลากันซ้อมครับ ในหนึ่งวันจะมีแค่ 3 คณะ ที่ได้ซ้อมในโรงยิม ส่วนคณะที่เหลือต้องไปหาที่ซ้อมกันเองครับ สลับหมุนเวียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันงานกีฬา

รถ BMW คันคุ้นตาดันจอดเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าโรงยิม พ่วงด้วยคนขับรถที่กำลังก้าวออกมาจากรถ ไอ้คุณลุงนั่นแหละครับ ในมือถือของพะรุงพะรัง เดาว่าน่าจะเป็นเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ ที่เอามาให้นักกีฬาในโรงยิม วันนี้คงเป็นคิวของคณะลุงที่ได้ซ้อมในยิม

“ลุงงงงงงงงงงง” หันขวับกลับมามองทันที แต่ยังไม่ทันได้ด่าผมกลับ ผมก็ขี่รถผ่านลุงมาก่อน แวะคุยไม่ได้ครับ เดี๋ยวเข้างานสาย

Natee : เรียกไม
Natee : สติกเกอร์หมีหน้างง

ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าร้านพี่โจ้ แจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นสีเขียวเจ้าประจำก็ดังขึ้นมาก่อน หยิบขึ้นมาดูก็ไม่พ้นตาลุงคนเดิม เพิ่มเติมคือมีการส่งสติกเกอร์มาด้วย

JetP : ทักทายเฉยๆ ไม่ได้ไง๊?
JetP : สติกเกอร์หมีมีไฟ
Natee : ทำงาน?
JetP : เออครับ
Natee : อยากกินสตอเบอรี่
JetP : สติกเกอร์หมีหน้างง
Natee : ทำไว้ เดี๋ยวเข้าไป

“ยิ้มเหี้ยไรครับไอ้คุณน้องเจ็ท”

“เชี่ย!!!!” ไอ้พี่โจ้ครับ แม่งโผล่มาตอนไหนไม่รู้ อยู่ดีดีก็มาอยู่ข้างหลังผมแล้วครับ

“ตกใจอะไรขนาดนั้นวะ แล้วคุยกับใคร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หรือน้องกูขายออกแล้ววะ”

“ขายออกไรล่ะพี่ คุยกับรุ่นพี่เฉยๆ มันบอกจะเข้ามาซื้อน้ำไง”

“ผู้หญิง?”

“ผู้ชาย”

“คนเดิม?”

“ครับ” เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วว่าใส่ทอปปิ้งเสริมอะไรให้ลุงดี ยังไม่มีอะไรมาใหม่เลยครับ ฟลุตสลัดก็พอมั้ง โยเกิร์ตด้วยดีกว่า ใส่แม่งเยอะๆ นี่แหละ ผมชอบ ผมจะกิน อิอิ

“กูถามจริงๆ นะเจ็ท”

“ว่ามาเลยพี่” หยิบสตอเบอรี่ใส่เครื่องปั่น ใส่นมด้วยดีไหมวะ จะได้เป็นสตอเบอรี่นมสดปั่นไปเลย แต่ผมก็อยากกินโยเกิร์ตด้วยอ่ะ เอ๊ะ หรือทำสองแก้วเลยดี ยังไงลุงมันก็จ่ายเงินอยู่ละ อิอิ

“มันจีบมึงหรอวะ?” เชี่ย นมหกเลยครับ

“จะบ้าหรอพี่ นั่นผู้ชายนะเว้ย” ผ้าแม่งไปไหนหมด ถอดผ้ากันเปื้อนมาเช็ดก็ได้วะ

“ก็เห็นมาเฝ้ามึงเกือบทุกวัน กูพูดจริงๆ นะ ตอนแรกกูก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก เห็นเป็นรุ่นพี่มึงมานั่งกินเฉยๆ แต่กูเห็นแม่งมาก็แดกน้ำไม่ถึงครึ่งแก้วเลย ทีเหลือก็ให้มึงแดกหมด ทอปปิ้งที่มึงประเคนใส่ให้มันอ่ะ กูไม่เห็นแม่งจะกินเลย มีแต่มึงอ่ะแดกเอาๆ แถมโต๊ะมีตั้งเยอะแยะ ก็นั่งแต่โต๊ะข้าเคาน์เตอร์เนี้ย เป็นใครใครก็คิดวะ” เอิ๊บบบ ไอ้พี่โจ้มันเก็บกดอะไรมาป่ะวะ ร่ายมาซะยาวเหยียด หาจังหวะแทรกไม่ได้เลยครับผม

แต่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อนเหมือนกันครับ เพราะผมทำทุกอย่างปกติกับลุง เรื่องกินน้ำผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลุงมันกินไปขนาดไหน เพราะทุกครั้งที่ลุงมาก็เห็นมันนั่งกดโทรศัพท์ยิกๆ ผมก็เดินไปกินน้ำบ้างตามประสา ส่วนใหญ่ก็ขโมยทอปปิ้งมากินก่อนเสียมากกว่า

“คิดมากน่าพี่ ลุงมันไม่ได้จีบผมหรอก เชื่อดิ” ก็ลุงมันตามจีบหยาอยู่ มันจะมาจีบผมได้ไงวะ

“ก็แล้วแต่มึงนะ” พี่โจ้ทำหน้าเบื่อก่อนจะเดินหนีผมไปหน้าร้านแทน สวนทางกับไอ้คุณลุงที่เปิดประตูก้าวเข้ามาในร้านพอดี

“ไหนสตอเบอรี่กู”

“เอ้อออ ยังไม่เสร็จอ่ะ แปปลุง”

“ช้า” โดนด่าอีกกู ก็มัวแต่คุยกับพี่โจ้เพลินจนทำน้ำให้ลุงไม่เสร็จเลย ใส่นมนี่แหละ ขี้เกียจทำหลายแก้วแล้ว

ลุงเดินไปนั่งทีประจำก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดยิกๆ เหมือนเดิม ไม่รู้มีอะไรในโทรศัพท์นักหนาถึงเล่นตลอดเวลาได้ขนาดนี้ บางทีเล่นตั้งแต่ผมเข้ากะจนผมออกกะเลยครับ สายตาแม่งไม่เสียบ้างรึไงนะ

ใช้เวลาไม่นานสตอเบอรี่นมสดปั่นก็เสิร์ฟตรงหน้าลุงครับ ลุงเหลือบตามองแก้วสตอเบรรี่เล็กน้อยแต่ก็ยังคงกดโทรศัพท์เหมือนเดิม ไอ้ผมที่รอลุงกินก่อนได้แต่ยืนมองแก้วตรงหน้า อยากกินครับ แต่รอเจ้าของตัวจริงเขากินก่อน มีความเกรงใจนิดหน่อย

“อย่าแดกก็แดก ไม่ต้องมากดดันกู” เอ้า รู้ตัวอีกน่ะ ถือว่าอนุญาตแล้วนา ไอ้เจ็ทไม่เกรงใจแล้วนะครับ คว้าแก้วมาดูดจ๊วฟๆ ทันที เฮ้ยอันนี้อร่อยอ่ะ มันจะต่างกันการใส่โยเกิร์ตครับ เพราะมันเป็นสตอเบอรี่รสนม ไม่เปรี้ยวมาก ติดจะหวานๆ รวมทั้งมีกลิ่นนมนิดๆ อร่อยแบบเด็กๆ

แชะ!

ไอ้คนตรงหน้าแม่งลืมปิดเสียงแน่ๆ ก็แม่งทำหน้าเหวอเลยครับจังหวะที่เสียงกดถ่ายรูปดังขึ้น แต่ไม่ใช่ไรนะ แม่งแอบถ่ายรูปผมตอนทำหน้าฟินกับสตอเบอรี่แน่เลยวะ โอ้ยย มันต้องตลกมากแน่ๆ

“แอบถ่ายผมหรอ”

“ถ่ายหมา”

“นั่นคำผม” แบมือขอดูรูปไอ้คนตรงหน้าก็ส่ายหัวลูกเดียว อะไรวะ แอบถ่ายรูปเขายังไม่ให้เขาดูอีกน่ะ

“ขอดู”

“ฝันหรอ”

“แต่นั่นรูปผมนะ อยากถ่ายก็บอกกันดีดีดิวะ แอบถ่ายเพื่อ หน้าพังแน่ๆ”

“ไม่เอาอ่ะ ชอบหน้าเหวอของมึงมากกว่า เก็บไว้ตอนวันเกิดมึงไง”

“หยุดความคิดนั้นไปเลยนะลุง ลบรูปด้วย”

“เรื่องไรล่ะ แดกๆ เข้าไปน้ำกูน่ะ อร่อยอะไรขนาดนั้น”

เอิ่บบ คุณว่ามันอิโรติกแปลกๆ ไหมครับ

“คิดเรื่องเหี้ยๆ อยู่แน่ๆ”

“อะไร” ทำไมแม่งจับได้วะ หรือผมแสดงพิรุธอะไรออกไป

“หึ ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย” โบกหัวผมเบาๆ ก่อนจะหันไปกดโทรศัพท์

Natee : ส่งรูปภาพถึงคุณ
Natee : หมาขอส่วนบุญ

ภาพผมใส่ผ้ากันเปื้อนที่เลอะคราบนมตรงปลายผ้า กำลังดูดสตอเบอรี่นมสดด้วยหน้าตาฟินๆ มีนมติดข้างแก้มเป็นหยดเล็กๆ ตามองขึ้นไปด้านบน มุมปากยิ้มนิดๆ มองเลยไปที่ด้านหลังเป็นเงาส่องจากตู้กระจก เห็นเงาลุงกำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมาปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ปากยกยิ้มพอใจ ตาจ้องมองผมผ่านโทรศัพท์

................................................................................
กระแสตอบรับตาลุงล้นหลามากค่าา คนโลเลก็เงี้ยแหละ ทำอะไรไว้ระวังเจ็ทจะหนีหายไปเด้ออ
ตอนหน้าจะมาใจความข้องใจหลายๆ อย่างแน่นอนจ้า ขอโทษที่มาแบบสั้นๆ รอติดตามกันด้วยน้า
รักคนอ่านทุกคนเหมือนเดิม จ๊วฟๆ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คนแก่ฟินก็ไอ้ย่อหน้าสุดท้ายนี่ล่ะ มีมาบ่อย ๆ นะ  :m5: :m1:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
จีบเจ็ทเถอะ พลีสสสสสส

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
มิสเตอร์ Natee  ครัช กรุณาสร้างฟามชัดเจนด่วลครัช
อย่ามัวแต่แชทกับหญิงหยา
ไม่จิงจังจะขโมยน้องไปซ่อน
 :mew3:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ตาลุงโลเล เหอะ !!!  :z6:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ลุงอาจจะแอบถ่ายเป็นอัลบั้ม แต่เพิ่งพลาดลืมปิดเสียงครั้งนี้ ???

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH17

Natee talk

“ไอ้ไม้ ทำไมเมื่อคืนไม่มารับกูวะ ละส่งข้อความมาด่ากูตอนเช้าอีกนะมึง”

“มึงโทรหากูด้วยหรอวะ”

“เออ รถกูแม่งเสือกโดนตะปูตำเข้าตอนไหนไม่รู้ โทรให้มารับเสือกส่งข้อความมาด่ากูเพื่อ?” ก็จะอะไรน่ะหรอครับ ก็เมื่อคืนไม่รู้ซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรนักหนา ออกไปซื้อของเซเว่น ขากลับรถแม่งยางแบนเฉย จอดรออยู่หน้าร้านข้าวต้มเจ้าประจำที่ชอบไปนั่งกินกันตั้งนาน โทรหาก็แล้ว ส่งข้อความก็แล้ว ไม้เพื่อนยากของผมก็ไม่มีวี่แววจะสนใจใดใด จนต้องลากสังขารเดินกลับไปหาวินมอเตอร์ไซด์หน้าเซเว่นแทน

“โทรผิดป่ะวะ มึงดู ไม่มีเบอร์มึงโทรมาซักนิด” ยื่นโทรศัพท์ส่งมาให้ผมดูเบอร์โทรเข้าโทรออก ไม่พอเปิดข้อความให้ผมดู เออวะ แล้วกูแม่งโทรหาใครวะ

“ไหนเอาโทรศัพท์มึงมาดูดิ๊” หยิบโทรศัพท์เครื่องสำรองขึ้นมาให้มันดู ผมมีโทรศัพท์ 2 เครื่องครับ เครื่องที่ใช้ประจำก็จะมีพวกแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไว้ติดตามโซเซียล ส่วนอีกเครื่องซัมซุมฮีโร่ครับ เครื่องนี้เป็นเติมเงิน ใช้สำหรับโทรฉุกเฉินเท่านั้น เช่นเมื่อคืน ที่ไอโฟนเจ็ดพลัสดับสนิทตายคามือก่อนจะได้โทรหาไอ้ไม้เสียอีก ขี้เกียจพกแบตสำรองครับ มันหนัก

“นี่ใช่เบอร์กูที่ไหนล่ะ กูเปลี่ยนเบอร์นานแล้วโว้ย หัดเมมเบอร์ใหม่กูซะบ้าง” อ้าวไอ้ชิบหาย ก็ปกติเครื่องนี้ไม่ค่อยได้ใช้นี่หว่า

“แล้วก็สมควรโดนเขาด่าอยู่หรอก ก็แม่งเสือกส่งข้อความไปด่าเขาขนาดนั้น เขาไม่โทรมาด่ามึงคืนก็ดีแค่ไหนแล้ว”

“ก็นึกว่าเป็นมึงนี่หว่า” รู้สึกผิดเลยครับ ด่าคนไม่รู้อีโน่อีเน่เข้าให้

“เออช่างแม่ง ขอโทษผ่านเบอร์ตอนนี้เลยล่ะกัน ขอโทษนะโว้ยเจ้าของเบอร์”


...
“เรื่องมากจังวะ” เผลอหลุดปากพูดออกไปด้วยความรำคาญ ก็ไม่เตี้ยที่ไหนไม่รู้ มายืนเถียงกับป้าร้านขายข้าวอยู่ได้ตั้งนานสองนาน มาก่อนเสือกไม่สั่ง พอโดนรัดคิวทำมาโวยวาย

“ใครเรื่องมาก แน่จริงก็ด่ามาตรงๆ อย่ามาด่าลอยๆ” ไอ้เตี้ยหัยขวับมามองทางโต๊ะพวกผมทันทีเลยครับ

“กูด่าหมาแถวนี้ เรื่องมาก รอไม่เป็น”

“ก็กูมาก่อน กูต้องได้ก่อน มึงมาทีหลัง มึงก็ต้องได้ทีหลัง หรือมึงไม่รู้จักคำว่าคิว อ๋อ หรือปกติเป็นพวกชอบแซงคิวอยู่แล้ว แม่งพวกมนุษย์ลุงดีดีนี่เอง”

ครืดดด!

ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่มี หันกลับไปประเมินฝั่งตรงข้าม แม่งโคตรเตี้ย ผอมแห้งดูแรงก็น่าจะน้อย ดีดทีเดียวไม่รู้แม่งจะกระเด็นไปอยู่ส่วนไหนของโลก

“ใครเป็นมนุษย์ลุง” เดินเข้าไปหามันใกล้ๆ เริ่มหน้าซีดแล้วครับ ไอ้ลูกหมาเอ๊ย ตัวเท่าเมี่ยงริอาจจะมาต่อบางต่อคำกับกู ชาติหน้านั่นแหละคงชนะกูล่ะ

“ก็มึงไง ไอ้ลุงยักษ์”

“ใครเป็นลุงยักษ์ ห้ะ ไอ้เตี้ยแห้ง”

“ใครเตี้ยแห้ง กูนี่สูง 176 นะโว้ยยยยย แล้วถึงกูจะแห้งแล้วหนักกล้ามส่วนไหนของมึงมิทราบวะ”

“หึ นั่นเรียกว่าสูงแล้วหรอวะ คนอย่างมึงรู้จักคำว่าออกกำลังกายไหม เตี้ยก็เตี้ย แห้งก็แห้ง ถามจริง ที่บ้านไม่มีนมให้แดกหรอวะ ถึงตัวแค่ไหน กูแนะนำคลอสต่อกระดูกให้เอาไหม เผื่อมึงจะสูงขึ้นมาอีกนิดนึง”
 

“มาว่ากูเตี้ย แล้วคนอย่างมีอะไรดี หึ เล่นกล้ามขนาดนี้ จะเอาซิกแพคไว้อ่อยผู้ชายมากกว่ามั้ง เห็นเดี๋ยวนี้พวกเข้าฟิตเนสฟิตหุ่นก็กินกันเองทุกคน เสียดาย หน้าตาดีซะเปล่า เพราะมีคนแบบมึงไง พวกผู้หญิงถึงไม่มองกู ชิ!” วอนตีนไหมล่ะมึง

“หึ ที่แท้ก็พวกสาวไม่เอา นอกจากเตี้ยแล้วยังเห่ย”

ผั๊วะ!

“เชี่ยเตี้ยยยยย!!!!” จุกครับ ไอ้เหี้ยนี่เตะปาบเข้ามาเต็มรักกูเลย

“หึ ด่ากูว่าเตี้ยกูไม่โกธร แต่คำว่าเห่ย มันคำต้องห้ามโว้ยยยยยย”

“เดี๋ยวพ่อหนุ่ม สุกี้ไม่กินแล้วหรอ ป้าทำเสร็จแล้วนะ”

“ขอบคุณครับป้า ผมขอทั้งจานนะ เดี๋ยวตอนเย็นเอาจานมาคืน อ่อ เก็บเงินที่ไอ้ยักษ์นั่นแหละ โทษฐานที่ทำผมโมโห”

“เดี๋ยวไอ้เตี้ย อย่าให้กูเจอมึงคราวหน้าจะโว้ยย กูเล่นมึงแน่!!!” อย่าให้กูเจอมึงอีกนะ กูจะซัดแม่งให้น่วมเลยคอยดู

...

The Keng : พี่ที วันนี้วันเกิด เลี้ยงร้านหมูทะ ทุ่มนึงนะพี่
Natee : กูติดแลปว่ะ ไปช้านะ
The Keng : ได้พี่ กินรอเรื่อยๆ

เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วหันไปจดเลคเชอร์ตรงหน้าต่อ ไอ้เก่งเป็นน้องสายรหัสปีสองดีกรีเดือนมหาวิทยาลัย หล่อสู้พี่มันจริงๆ ครับ ให้หล่อว่านิดหน่อย เพราะผมแค่เคยได้เข้าประกวดคัดตัวเป็นเดือนคณะ แต่เสือกขี้เกียจตอบคำถาม เลยขอสละสิทธิ์ก่อนรอบตัดสิน

วันนี้วันเกิดไอ้เก่ง คณะเรามีประเพณีมาว่าวันเกิดใครก็ต้องเลี้ยงสายรหัสด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นพี่หรือน้องก็ตาม เพราะถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว แต่ปกติก็มีช่วยๆ รุ่นน้องออกบ้างครับ ถือว่าเป็นการเลี้ยงสายไปด้วยในตัว ตอนนี้สายรหัสผมมีแค่ 3 ชั้นปี เพราะสายขาดไปตอนปีที่แล้ว พี่รหัสผมมันซิ่วก่อนขึ้นปี 3 นี่เอง มันบอกแม่จะส่งให้กลับไปเลี้ยงควายที่บ้านแทน

จดเลคเชอร์หนึ่งชั่วโมงเต็มก็เริ่มทำแลปกันจริงๆ จังๆ จับคู่กันผสมสารเคมีต่างๆ แล้วเอาไปทดลองดูในกล้องจุลทรรศน์ ได้ผมอย่างไรก็เอามาเขียนแลปส่งครับ เคยบอกหรือยังว่าผมเรียนคณะวิทยาศาสตร์ เอกเคมีครับ จุดเริ่มต้นเลยคือผมเกลียดวิชาเคมีมากๆ สอบทีไรตกทุกที โค้งสุดท้ายก่อนขึ้น ม.6 จึงตัดสินใจเรื่องเคมี อ.อุ๊ ครับ ลงมันตั้งแต่ครอสแรกยันครอสสุดท้ายนั่นแหละ เริ่มทำความเข้าใหม่ตั้งแต่ต้น จนกลายเป็นว่าชอบมันขึ้นมาเสียอย่างงั้นแหละ ลงเลือกแอดมิชชั่นคณะนี้ทั้งหมด ติดอันดับหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จนได้

แต่ถึงอย่างงั้น ความชอบไม่ได้ทำให้ผมเก่ง ผมแค่ชอบ ผมจึงต้องพยายามทำ ตั้งใจท่องสูตร ท่องสารประกอบ ทดทวนตำราบ่อยๆ ตั้งใจทำแลปทุกครั้ง เชื่อว่าเกรดนิยมไม่ไกลเกินฝันหรอกครับ

หลังจากเสร็จจากห้องแลปก็ปาไปเกือบสองทุ่มแล้ว เทส่วนผสมผิดครับ แต่ต้องแก้กันยกใหญ่ กว่าจะออกจากคณะมาได้ ก็เลยเวลานัดเลี้ยงหมูกระทะไปนานโข คว้ากุญแจรถออกจากกระเป๋า ตะโกนบอกลาเพื่อนในกลุ่ม แล้วตรงดิ่งไปร้านหมูกระทะทันที

เลี้ยวรถเข้ามาถึงหน้าร้านก็จอดทันทีครับ อยากเข้าห้องน้ำใจจะขาด เมื่อกี้ตอนออกจากคณะก็ลืมแวะเข้าห้องน้ำ เยี่ยวแทบราดแน่ะ

เสร็จธุระจากห้องน้ำก็นึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ทิ้งไว้ในรถ เดินกลับไปเอาก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ผู้ชายคนหนึ่งกำลังด้อมๆ มองๆ อยู่หน้ารถผม ไม่พอแค่นั้น ยังเสือกถือกุญแจรถไว้ในมืออีก แม่งจะขูดรถกูหรอวะ


“ทำไรกับรถกูวะ” ผู้ร้ายสะดุ้งสุดตัวเลยครับ ได้ทีผมเลยเดินเข้าไปยืนช้อนด้านหลังใกล้ๆ ไม่ให้มันหนี จับได้คาหนังคาเขาขนาดนี้ ต้องเอาเรื่องให้สุด

“มึงคิดจะทำอะไรรถกู หันมา กูบอกให้หันมาไง”

“เอ่อ ผมเปล่านะครับ ผมแค่อยากดูรถพี่ใกล้ๆ เฉยๆ เอง เห็นว่ามันสวยดีเท่านั้น”

“ดูเชี่ยไร กูเห็นมึงกำลังจะขูดรถกูเนี้ย มึงเป็นใคร หันมาให้กูดูหน้าเดี๋ยวนี้” ผู้ร้ายยังคงไม่ยอมหันกลับมาครับ เดซิเบลเสียงผมเริ่มดังขึ้น จนคนทั้งร้านเริ่มให้การสนใจ

“เกิดไรขึ้นพี่ที เจ็ท” เจ็ท? เก่งรู้จักไอ้นี่ด้วยหรอวะ

“ก็ไอ้เด็กนี่มันจะขูดรถกู พอกูให้หันมาก็เสือกไม่หัน มึงรู้จักมันด้วยหรอ บอกให้มันหันมาสารภาพผิดกับกูทีดิ๊”

“เจ็ทขอโทษพี่ที เจ็ทแค่อยากดูรถพี่ใกล้ๆ เฉยๆ เชี่ยยยยยยยยยยย ไอ้ลุงยักษ์!!!”

“ไอ้เห่ยเตี้ย!!!!!”

ปิ๊ก!!

ทันทีที่ไอ้เจ็ทหันกลับมาก็ต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน ก็นี่คือไอ้เตี้ย ที่แม่งเตะผ่าหมากกูรอบสองแล้วโว้ยยยยยยยยยยย

...

“ส้ม” วันนี้ผมตั้งใจเข้าคณะมาทำเรื่องไปฝึกงานตอนปิดเทอมใหญ่ครับ ปี 3 ตอนนี้นอกจากตารางแลปไม่กี่ตัว ก็มีแค่โปรเจคนิดๆ หน่อยๆ ก่อนออกฝึกงานจริงเท่านั้น ตารางเรียนเลยค่อนข้างว่าง

“อ้าวพี่ที สวัสดีค่ะ”

“รอไอ้เก่งหรอ”

“ใช่ค่ะ วันนี้ส้มเลิกเรียนเร็ว เลยมารอพี่เก่งไปกินข้าวพร้อมกัน” ส้มนี่ผมเจอบ่อยแล้วครับ เพราะใครๆ ในคณะต่างกูรู้หมดว่าส้มกับเก่งคบกันในฐานะไหน ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วที่เก่งมันออกตัวกับทุกคนว่ามีแฟนแล้ว และรักแฟนมาก แฟนเด็กก็คอยมาเฝ้ามาหาเป็นประจำ จนส้มตามเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็ยังคงรักกันดี

“เออส้ม ไอ้เตี้ยนั่นเพื่อนส้มใช่ไหม” จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทักหรอกครับ แต่บังเอิญว่าเห็นส้มกับไอ้เตี้ยนั่นเดินด้วยกันบ่อยๆ วันก่อนที่ไปกินหมูกระทะ แค่ผมเดินไปเข้าห้องน้ำแปปเดียว ไอ้เตี้ยนั่นก็ชิ่งหนีกลับไปแล้ว ไม่ทันได้ชำระความใดใดเลยที่เตะผ่าหมากผม

“เตี้ย? คนไหน เพื่อนส้มเตี้ยทุกคน 55555” อ่า เรื่องจริงเสียด้วยสิ

“ไอ้เตี้ยที่จะขูดรถพี่น่ะ” ส้มทำท่านึกไม่นานก็ทำท่าเหมือนคิดออก

“ไอ้เจ็ทน่ะหรอ”

“อืม”

“เฮ้ย อย่าบอกนะว่าพี่จะเอาคืนมันอ่ะ”

“..”

“โธ่พี่ที ไอ้เจ็ทมันคนบ้า อย่าถือสามันเลย” ส้มรีบแก้ตัวแทนเพื่อนเป็นการยกใหญ่เลยครับ ก็รู้นะว่าเพื่อนใครใครก็รัก แต่เพื่อนแม่งเสือกมาลองดีกันก่อนไง ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ ยิ่งจ้องจะฆ่าลูกชายกู ยิ่งต้องเอาคืนโว้ยย

“ถือว่าส้มขอนะพี่ ไม่เห็นแก่ส้มก็เห็นแก่พี่เก่งก็ได้”

“เอาเป็นว่า พี่ขอเคลียกับมันก่อน ขอเบอร์มันได้ป่ะ”

“ถ้าส้มให้แล้วพี่จะฆ่ามันไหม เพื่อนส้มจะยังมีชีวิตรอดอยู่ใช่ป่ะ”

“อืม” รับปากส่งๆ ไปก่อน

“เอางี้ เอาเบอร์พี่มาดีกว่า เดี๋ยวส้มให้มันโทรมาขอโทษพี่แทน” บอกเบอร์ไปกับส้ม หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี

...

จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียก ผ่านมา 1 วัน เต็มๆ ที่ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาเลย โดยในระหว่างที่รอผมก็เร่งสืบเสาะหาความเป็นไปของไอ้เตี้ยนี่ไปด้วย โดนการจ้างเด็กในคณะมันนั่นแหละคอยตามสืบเรื่องให้ จนได้ความมาว่า แม่งเป็นคนบ้า ที่แม่งโคตรจะบ้า

รูปถ่ายแล้วรูปถ่ายเล่าที่สายสืบผมส่งมาให้แม่งมีแต่รูปปัญญาอ่อนของมัน ทั้งตอนที่แย่งขนมเพื่อนมากิน แอบเอาพริกเติมในก๋วยเตี๋ยวเพื่อนแฝดของมัน ขี่มอเตอร์ไซด์เก่าๆ ไปทำงาน ยืนชงกาแฟในร้านประจำมอ หรือแม้กระทั่งนั่งส่งสายตาหวานฉ่ำให้หยุมหยิม แม่งเป็นเกย์หรอวะ คนอย่างมันไม่น่าจะชอบผู้ชายได้เลย

น่าสนใจแฮะ!

ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่เกย์ และไม่เคยชอบผู้ชายครับ แต่ไอ้เด็กนี่น่าสนใจแปลกๆ ชีวิตประจำวันดูน่าเบื่อเกินไปป่ะวะ หาอะไรสนุกๆ ทำกันไหมครับ อย่างเช่น ป่วนชีวิตใครบางคนน่ะ

SanI : พี่ที นิได้เบอร์ได้เจ็ทมาแล้วนะ แอบไปขอยะหยามา
Natee : ขอบใจมาก
SanI : ไม่เป็นไรพี่ รอบหน้าอย่าลืมพาไปเลี้ยงเหล้าตอบแทนอีกนะ 555555

ซานิคือน้องของเพื่อนผมนี่แหละครับ เด็กแก่นแก้วที่เห็นมาตั้งแต่เล็กๆ จนป่านนี้โตเป็นสาวแล้วก็ยังสนิทกันอยู่ ไม่รู้ว่าโชคร้ายของไอ้เจ็ทหรือโชคดีของผมที่ซานิดันเลือกเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับผม แล้วดันอยู่คณะเดียวกับไอ้เจ็ทด้วย การจะสืบเรื่องของมันเลยไม่ยากอย่างทีคิดไว้

ได้เบอร์ไอ้เตี้ยมาแล้วรู้สึกมันคุ้นแปลกๆ ครับ เหมือนเคยเห็นเบอร์นี่จากที่ไหนซักแห่ง ผมท่องเบอร์นี้ได้ด้วยนะ เหมือนว่ามันถูกจดจำเอาไว้ในเซลล์สมอง ปกติผมจำเบอร์เก่งครับ โดยเฉพาะเบอร์เพื่อนผมทุกคนผมจำได้หมด เบอร์คนในครอบครัวทุกคนก็จำได้ เพราะไอ้นิสัยไม่พกแบตสำรองไง ถ้าหากซัมซุงฮีโร่ผมมันตายตามอย่างน้อยก็หยอดเหรียญโทรหาคนโน่นคนนี้ได้

และหากคนจำไม่ผิด นี่มันเบอร์ไอ้ไม้ ไม่สิ เบอร์เก่าไอ้ไม้ ที่ถูกเมมไว้ในซัมซุงฮีโร่เครื่องละห้าร้อยของผม

ความบังเอิญแม่งคงมีจริงบนโลกใบนี้ ไอ้บุคคลปริศนานั่นคือไอ้เจ็ทเองหรอวะ

ระดับความน่าสนใจของมึงเพิ่มขึ้นอีกระดับแล้วนะไอ้เตี้ย!

...

“ลุงๆ วันนี้ลองใส่โยเกิร์ตป่ะ ผมว่าลุงน่าจะชอบอ่ะ ผมยังชอบเลย” เสียงเจื้อแจ้วที่ได้ยินเกือบทุกเย็นถูกส่งผ่านออกมาจากปากไอ้เตี้ยตรงหน้า ตั้งแต่ที่มันรับปากว่าจะช่วยผมจีบหยา ผมก็เจอมันบ่อยขึ้น เรียกว่าแทบทุกวันเลยดีกว่าครับ มานั่งกวนตีนมันที่ร้านนี้ก็สนุกไปอีกแบบ บางทีเพื่อนกลุ่มมันก็มาหามันที่ร้านบ้าง แต่ส่วนใหญ่เวลาสองแฝดโผล่มา มันก็จะเร่งให้ผมรีบออกมาหามันที่นี่บ่อยๆ จนติดเป็นนิสัยแทน ได้แวะมากวนมันนิดๆ หน่อยๆ เป็นสีสันชีวิต

ถามว่าผมชอบยะหยาจริงรึเปล่าน่ะหรอครับ จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ นั่นน่ะลูกพี่ลูกน้องผมเอง แต่เราไม่ได้สนิทกันหรอก สองแฝดกับผมไม่ได้ถูกเลี้ยงมาพร้อมกัน เจอกันบ้างประปรายตามงานเลี้ยงรวมตัวญาติ แต่ก็นับครั้งได้ เพราะสองแฝดมักจะคลุกตัวอยู่กับคุณย่า น้ายศพ่อสองแฝดก็อยู่ต่างประเทศ จะติดต่อกันแต่ละทีก็ยากลำบากเหลือเกิน ผมก็พอรู้มาบ้างว่าสองแฝดเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ไม่ได้เจอซักทีจนวันเกิดไอ้เก่งนั่นแหละ

เพียงแต่ เรื่องที่เราเป็นญาติกันไม่ได้บอกใครก็เท่านั้นเอง ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีความจำเป็นต้องบอกใครนี่หว่า

เรื่องที่ผมตามป่วนชีวิตไอ้เตี้ยนี่สองแฝดนั่นก็รู้ครับ เพราะตั้งแต่ที่ผมปรากฏตัวใกล้ๆ เจ็ทบ่อยๆ ทำให้สองแฝดเกิดความกังขาขึ้นมาว่าไปสนิทกันอีท่าไหน ผมเลยยอมเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ให้ฟัง แต่ไม่ได้บอกว่าเตี้ยมันแอบชอบหยิม ความลับของมัน ไม่อยากให้ใครรู้ครับ

ตอนแรกก็โดนหยางอนๆ เหมือนกันที่ผมหาเรื่องแกล้งเจ็ท แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ไอ้เตี้ยมันน่าแกล้ง มันเหมือนเด็ก ที่พอสนิทหน่อยทำดีด้วยหน่อยก็พร้อมจะคล้อยตามไปดื้อๆ อ้อนได้อ้อนดี จะเอานู่นนี่นั่น โดยเฉพาะไอ้น้ำปั่นที่ทำให้ผมกินเนี้ย อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าไอ้การที่มันเสนอตัวใส่ทอปปิ้งให้ผมเยอะๆ เพราะมันอยากกินเองมากกว่าอยากให้ผมกิน

“ตามใจมึง” วันนี้เป็นโยเกิร์ตครับ ตลกดี ปกติผมโคตรจะเกลียดโยเกิร์ตเลยครับ แต่เห็นแววตาตอนมันหันมาถามก็ยอมๆ มันไป เวลาที่มันได้อะไรถูกใจมันตามันเป็นประกายวาวๆ และเดี๋ยวพอมันเอาน้ำมาเสิร์ฟ มันต้องยืนกดดันให้ผมดูดน้ำก่อน มันจะได้ดูดต่อ ถ้าผมไม่ดูดมันก็ไม่เลิกจ้องผมซักที

“ชิมดิลุง” หึ ความอดทนมันไม่นานหรอกครับ

“จบเกมส์นี้ก่อน” แกล้งอีกหน่อยน่า

“โหยลุงชิมก่อน ผมจะได้ชิมบ้าง” สนุก

“เกมส์เดี๋ยวค่อยเล่น ลุงสนใจน้ำผมก่อนดิ” ติดเรทเชียวนะมึง

หยิบหลอดมาดูดน้ำมันเสียหน่อย เปรี้ยวแปลกๆ โยเกิร์ตรสธรรมชาติสินะ กินแล้วจะท้องเสียไหมวะเนี้ย คนยิ่งไม่ค่อยถูกกับโยเกิร์ตอยู่ด้วย กินทีไรวิ่งเข้าห้องน้ำทุกทีสิน่า

“อร่อยอ่ะ คราวหน้าผมทำอีกนะ” วางแก้วน้ำลงตรงหน้า ไอ้เตี้ยก็คว้าไปดูจ๊วฟๆ ทันที หน้าตาดูมีความสุขมาก ดูดจนน้ำหายไปหลายเซนเลยครับ หน้าแม่งตลกชิบหายตอนที่มันดูดน้ำจนเย็นจี๊ดขึ้นสมอง ว่าแล้วก็ถ่ายรูปหน้ามันเก็บไว้หน่อย เก๊กหล่อกันครับ แชะ!

ความลับอีกอย่างของผมคือ โต๊ะที่ผมนั่งประจำมันมีตู้กระจกตั้งอยู่ตรงหน้า เวลากดถ่ายรูปจะเก็บเงาลางๆ ของผมติดไปด้วย แต่ไอ้เตี้ยนี่มันไม่รู้หรอกครับ ทุกครั้งที่มันทำหน้าตลกๆ ผมมักจะแอบถ่ายรูปมันไว้ โดยที่ทุกรูปก็จะติดเงาผมไปด้วย เรียกว่ารูปคู่ได้ป่ะวะ

“ว๊า ลูกค้ามาแล้วอ่ะ ไปทำงานละนะลุง อย่าลืมจ่ายตังค์ก่อนกลับ” วิ่งดุ๊กๆ กลับไปหน้าเคาน์เตอร์ทันที กูนั่งอยู่ข้างเคาน์เตอร์เนี้ย ถ้ากูลุกไปมึงก็ต้องเห็นอยู่แล้วไม่ใช่หรอวะครับ แต่คนอย่างกูเนี้ย ไม่เคยชักดาบโว้ยย

...
หายไปไหน?

คิดสิวะที คนอย่างไอ้เตี้ยมันจะหายไปไหนได้? เราแยกย้ายกันตามหาไอ้เจ็ทครับ โดยที่ให้กลุ่มเพื่อนไอ้เจ็ทอยู่รอที่บ้าน เผื่อว่ามันจะกลับมา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววของมัน โทรหาหลายต่อหลายสายมันก็ไม่รับ โทรจนแบตโทรศัพท์ผมหมด ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากมัน

สิ่งที่คิดได้ตอนนี้คือหยิบซัมซุมฮีโร่คู่ใจมาแทน กดส่ง SMS มาหา ก็ได้รับข้อความตอบกลับมาแค่ว่า ผมส่งหาผิดคน ผิดคนบ้าอะไรล่ะวะ กูนี่แหละตั้งใจส่งหามึง ถามว่าอยู่ไหนก็ตอบสิวะ เสือกเล่นตัวอยู่ได้

วิ่งหาทั่วหาดจนขาเริ่มล้า การวิ่งบนชายหาดไม่ใช่เรื่องสนุกนะครับ มันทั้งเหนื่อยและล้าขามากๆ น้ำหนักของทรายที่ถ่วงให้ก้าวแต่ละก้าวยากมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ใจผมตอนนี้มันร้อยเกินกว่าจะสนขาที่ร้อนประท้วงอยู่ตอนนี้ ต้องหาให้เจอ ต่อให้ต้องว่ายน้ำทะเลตอนนี้ผมก็ต้องหามันให้เจอ

ไม่เคยรู้สึกเหมือนสูญเสียเท่านี้มาก่อน ตลอดมาผมแค่คิดว่าไอ้เตี้ยนี้ก็น่ารักดี หรือบางทีเวลาได้แกล้งให้มันบ่นนิดๆ หน่อยๆ ก็ถือเป็นสีสันชีวิต ให้แต่ละวันของผมไม่น่าเบื่อ จนไม่รู้เลยว่า มันค่อยๆ แทรกเข้ามาให้ความคิดตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือนานแค่ไหนแล้ว

ผมไม่รู้ว่าทำไมวันนี้มันถึงแสดงกิริยาแบบนั้น หากเพียงแค่ว่าผมดีดกีต้าร์แล้วร้องเพลง ผมไม่ได้ร้องให้หยา แต่ที่มันร้องไปมองหน้าหยาไป คือผมเขิน ก็เขินไอ้เตี้ยนั่นแหละ และถ้าคิดไม่ผิดยะหยาก็คงเข้าใจว่าผมกำลังมีบางอย่างกับไอ้เตี้ย ถึงส่งสายตาล้อเลียนผมมาแบบนั้น

เจ็ทไม่เคยงี่เง่า ไม่เคยโกธรใครจริง ถึงแม้บางครั้งมันจะดูใจร้อน ปากหมา ขี้โม้ หรือตะกละ แต่มันใส่ใจคนอื่นเสมอ มันรู้ว่าใครชอบหรือไม่ชอบอะไร เวลาที่ใครอารมณ์ไม่ดีมันก็มักจะพยายามสร้างสีสันต์ให้คนคนนั้นยิ้มอยู่เสมอ ยิ้มที่มันส่งมาให้ผม ผ่านเข้าถึงกลางใจผม

การมีมันใกล้ๆ ทำให้ผมหวั่นไหว เพียงแค่ยังไม่มั่นใจว่ามันคิดเหมือนผมหรือเปล่า

แต่ตอนนี้ วินาทีนี้ ผมไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้น ขอเจอมัน ขอแค่ยังเห็นว่ามันปลอดภัย ขอแค่มีมันยืนอยู่ใกล้ๆ หรืออะไรก็ได้ที่ยังทำให้ผมได้มีมัน ผมยอมทั้งนั้น

แม่งไปอยู่ที่ไหนวะ!!

...

ทะเลเปลี่ยนคน ไม่ใช่เปลี่ยนแค่มัน แต่ผมก็เปลี่ยน ไอ้เจ็ทไม่มาแง่วๆ หรือออดอ้อนผมเหมือนเดิม ไม่งอแงหรือเข้าหาผมเหมือนเก่า มันทำตัวปกติมากเกินไป เหมือนกับตอนที่ได้รู้จักเจ็ทใหม่ๆ

รวมทั้งผมที่เปลี่ยนไป ตามมันมากเกิน ครับ ผมตามมันไปทุกที่ ไม่ว่าจะกินข้าวกลางวันที่คณะมัน แวะไปช่วยมันทำฉากบ้างเวลาไม่ได้ซ้อมกีฬา เฝ้ามันทำงานทุกวัน ตามยิ่งกว่าเหาบนหัวมันอีก แต่เจ็ทก็เหมือนมีกำแพงในใจที่พยายามกั้นผมเอาไว้

“ลุง วันนี้ไม่ได้ไปทำฉากนะ จะไปดูแฝดซ้อม” ข้าวกลางวันคณะมันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือวันนี้ไอ้เพื่อนๆ ผมยกโขยงมากินด้วยกัน รวมทั้งเพื่อนๆ ของเจ็ททุกคนก็มาร่วมวง ไม่ได้เจอสองแฝดนานครับ ปกติเวลามากินข้าวก็เจอแต่ส้ม เห็นว่าสองแฝดโดนเรียกตัวไปซ้อมหลีดตลอดเวลา ไม่รู้คณะมันจะจริงจังอะไรขนาดนั้น คณะผมนี่เคยซ้อมหลีดบ้างรึเปล่าไม่รู้เลย

“ไปดิ”

“ไปด้วย?”

“อืม” เจ็ททำหน้าหงอยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ นี่ก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องครับ เพราะถ้าหากมีเรื่องของยะหยาเข้ามาทีไร เจ็ทจะทำหน้าเศร้าตลอด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

“พี่ทีจะไปดูหรอคะ งี้หยาเกร็งแย่เลย” ลูบหัวน้องสาวเบาๆ ตอนนี้เราสนิทกับมากขึ้นแล้วครับ อาจเพราะไอ้เจ็ททำให้เราเจอกับบ่อยขึ้น การเล่นหัวจับมือถือแขนเลยกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ไอ้ที่ไม่ปกติคือเจ็ทที่เบือนหน้าหนีภาพที่ผมจับหัวหยา

“อิ่มแล้วอ่ะ ไปซื้อน้ำนะ”

“น้ำมึงก็อยู่ตรงหน้าไง”

“อยากกินน้ำแดง เบื่อกาแฟแล้ว” ว่าเสร็จแล้วก็เดินดุมๆ ไปซื้อน้ำแดงของมันทันที หยิมที่เอ่ยปากถามมันเหวอไปเลยครับ ผิดปกติ คนขี้งกอย่างมันเนี้ยนะยอมทิ้งกาแฟแก้วละ 30 บาท เพราะคำว่าเบื่ออยากกินน้ำแดงมากกว่า อะไรของมันวะเนี้ย

“ถามจริงนะพี่ที” ส้มที่มองดูเหตุการณ์มาได้เงียบๆ ตั้งนานหันมามองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง

“จีบไอ้เจ็ทหรอ”

“ผ่างงงงงง”

“เฮ้อออออออออออออ”

“หึ”

“เป็นเหี้ยไรครับพวกมึง” เสียงแรกคือไอ้ก๊งครับ ตามมาด้วย ไอ้ติ๊ก และไอ้ไม้ อะไรของพวกแม่งวะ ซาวด์ประกอบฉากหรือไง

“ตอบน้องมันไปสิ” หันกลับไปมองเพื่อนไอ้เจ็ท ที่จ้องหน้าผมอย่างไม่ลดละ ก็เริ่มคิดครับ นี่ผมจีบมันหรอวะ?

“ไม่รู้ว่ะ ถ้าพวกน้องว่านี่จีบก็จีบมั้ง”

“นั่นไง กูว่าแล้ว จ่ายมาครับไอ้ติ๊ก กูบอกแล้วไอ้ทีจีบเจ็ทชัวร์” ไอ้ก๊งรีบออกตัวทันทีหลังจบประโยคของผม ส่วนไอ้ติ๊กทำหน้าเบื่อๆ ก่อนจะส่งใบสีม่วงจากกระเป๋าตังค์ให้ไอ้ก๊ง นี่พวกมึงเอาเรื่องของกูมาพนันขันต่อกันหรอวะไม่พวกเพื่อนเวร

“แล้วเจ็ทมันรู้ตัวไหม”

“คิดว่าไม่ คนอย่างแม่งซื่อบื้อจะตาย ต่อให้คนทั้งมหาวิทยาลัยจีบมันมันก็ไม่รู้ตัวหรอก” หยิมว่าพลางดูกาแฟที่ไอ้เตี้ยทิ้งไว้ก่อนลุกไป เออ น้องกูก็ฉลาดเหลือเกิน ไม่ลงทุนแถมขโมยของเพื่อนแดกอีก

“แน่ใจแล้วหรอจีบไอ้เจ็ทน่ะ รายนั้นปัญญาอ่อนได้โล่ ความไม่เต็มชนะเลิศ แต่โง่บรมเลยนะพี่” ส้มครับ น้องรักเพื่อนมากเลยครับ
   
“ก็ไม่คิดจะจีบหรอก แต่มันโง่ดีเลยจีบ เลยก็เสือกโง่ชิบหาย ทำเหี้ยไรไปอึนใส่หมด จนกูเริ่มจนปัญญาแล้ว”

“แล้วได้เคยบอกความจริงเรื่องหยาไปหรือยัง?”

“ความจริงไรวะ” ลืมไปว่าส้มและเพื่อนๆ ของผมยังไม่รู้ว่าเราเป็นญาติกันครับ

“ก็หยากับหยิมอ่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่ทีไง”

“ว่าไงนะ?!”

เวรแล้วไงกู ไอ้เตี้ยแม่งกลับมาตอนไหนวะ!

.............................................................................................
พาตาลุงมาแก้ตัวแล้ว อย่าด่าลุงเยอะ ลุงเป็นคนอ่อนไหวง่าย 5555
เอ้า เฉลยความจริงแล้วจ้า ตาลุงก็ยังน่าหมั่นไส้เหมือนเดิม
เพิ่มเติมคือเข้า อยากจะหัวเราะให้ก้องฟ้า วะฮ่าฮ่า

ขอบคุณทุกคนที่ให้การตอบรับอย่างนี้น้า
ตอนนี้แต่งวันต่อวันเลยทีเดียว 3 วันติด แทบน็อค
ต่อไปนี้ก็ขอเวลาไปแต่งเพิ่มเป็นสต็อคก่อนนาจา จ๊วฟๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด