ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)  (อ่าน 17299 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :z6: แทนการผ่าหมากครั้งที่ 3 มั่ง โทษฐานหลอกหลานเจ็ทนะ ตาลุงที  :m12:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
โล่งใจเรื่องหยาล่ะ ลุงโดนปลดแบน 55555
ลุงงงงงงงงง ว่าแต่หลานโง่ ลุงก็ซื่อบื้อนะ ไม่รู็จริงอะว่าหลานเป็นไร  :angry2:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
เอาพี่ทีให้หนัก
เจ็ทคงทั้งโมโห ทั้งแอบสบายใจแหละ แต่โดนหลอกนะเออ ต้องโกรธเข้าไว้นะ  :fire: :angry2: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ปลดแบนเสร็จก็ตามจีบน้องเต็มตัวเบย
 :hao7:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
โอ้ยลุง หมั่นไส้ไปตั้งหลายตอน :ruready
ความจริงเปิดเผยละ ก็ยังคงเชื่อว่าเจ็ทก็น่าจะไม่คิดว่าตัวเองโดนจีบอยู่ดี 55555555555555 อยากอ่านต่อแล้วววววว  :katai1:

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH18

Natee : อยู่ไหน
Natee : เจ็ท ตอบกูดิ๊

เป็นแบบนี้มาสองสามวันแล้วครับที่ลุงตื้อผมอยู่แบบนี้ ก็ใครใช้ให้แม่งหลอกกันล่ะวะ หลอกให้จีบญาติตัวเองเนี้ยนะ ลุงแม่งใช้อะไรคิดวะเนี้ย เรียนเก่งซะป่าว ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลย

ถามว่าผมโกธรมั้ยอ่ะหรอ คนอย่างไอ้เจ็ทเนี้ยนะ โกธรใครเป็นที่ไหนล่ะครับ ใช้คำศัพท์อื่นที่ผู้หญิงเขาชอบใช้กันดีกว่า ‘งอน’ งอนแม่งทั้งเพื่อนทั้งลุงนั่นแหละ ปิดบังกันดีนัก เห็นผมเป็นคนซื่อหน่อยเอาใหญ่เลยนะ บอกเลยถ้าสองแฝดไม่ออกตัวว่าจะพาไปเลี้ยงบุฟเฟ่ไถ่โทษจ้างให้ผมก็ไม่คุยด้วยหรอก เห็นแก่ความดีและอาหารกลางวันหรอกนะ ถึงยอมดีด้วยน่ะ

“เจ็ท พี่ทีโทรหากูจนสายจะไหม้แล้วเนี้ย คุยกับพี่เขาซักทีสิวะ” หยิมเป็นผู้รับกรรมที่มันก่อด้วยบ้างเล็กน้อยครับ ก็ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ผมยังไม่ยอมคุยกับตาลุงเลย ไปเฝ้าที่ร้านก็ไม่ทำน้ำให้กินเหมือนเก่า มากินข้าวกลางวันด้วยก็ไม่สนไม่มองหน้า หรือแม้กระทั่งโทรหรือไลน์ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากผม เหอะ งอนเว้ย งอนหนัก แน่จริงก็เอาของกินมาล่อแบบสองแฝดสิ ชิ!

“ก็ปล่อยให้แม่งไหม้ไปนั่นแหละ”

“เป็นเหี้ยไรนักหนา ใจตุ้ดจังวะมึง” อ้าว วอนตีนนะครับเพื่อนหยิม

“ไม่รู้ ไม่สน ไม่แคร์ ไปทำงานแล้ว บาย” เดินหนีเสียดื้อๆ

งานที่ว่าคืองานฉากครับ ตอนนี้กำลังเร่งตัดชุดหลีดกันอยู่ งานพวกผู้หญิงน่ะครับ ให้ผมไปเย็บด้วยมีหวังชุดพังแหง ก็ได้แต่ไปช่วยเขาทาสีเหมือนเดิม ตอนแรกโดนเพื่อนใช้ให้ไปทำพรอพประกอบแสตน แต่ด้วยความเก่งกาจของผมนั้น แค่ตัดกระดาษยังเบี้ยวเลยเหอะให้ตาย ไม่พอ ทำกาวหกเลอะพรอพที่เสร็จไปแล้วเกือบครึ่ง จนต้องทำให้หมด โดนบ่นหูชา ไล่มาทาสีแทบไม่ทันแน่ะ

“วินๆ ตรงนี้ใช้สีไรวะ”

“มึงลงสีแดงไปก่อน แล้วพอมันแห้งมีเอาสีดำตัดขอบตรงนี้” วินลากนิ้วตามรอยดินสอที่วาดไว้ให้ดู ผมก็พยักหน้างึกงัก คิดว่าเข้าใจนะครับ มันจะไปยากอะไร แค่ทาแล้วรอสีแห้ง

“กูขอนะครับเจ็ท แค่มึงรอให้สีแห้งก่อน มึงทำได้ใช่ไหม” ทำไมเดี๋ยวนี้มีแต่คนไม่เชื่อใจผม

“เออน่ะ เดี๋ยวกูทาสีแดงให้ดูก่อนเลย” ว่าแล้วก็หยิบแปรงทาสีถึงมาจุ่มสีทันที

“มึงๆ แดงนี้โว้ยยย อันนั้นไม่เรียกแดง นั่นเรียกสีส้ม เชี่ยย กูไว้ใจมึงได้ใช่ไหมวะ” แปรงถูกดึงออกจากมืออย่างไว ดีนะ ยังไม่ทันได้ปาดสีลงไป

“ก็มึงไม่บอกกูก่อนล่ะวะ”

ผมนั่งทาสีตามที่ไอ้วินสั่งไปพลางๆ ก็รู้สึกว่าบรรยากาศตรงนี้มันช่างเงียบเหงาเหลือเกินครับ จะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาเปิดเพลงฟัง มือก็เลอะ จะหันไปตะโกนให้คนอื่นหยิบให้หน่อย ทุกคนก็ยุ่งวุ่นวายกันไปหมด ไม่ใช่วุ่นที่ทำงานนะครับ แม่งนั่งเม้าส์ ขยันกันเหลือเกินนะพวกมึง

“เจ็ท ผัวน้อยมึงมา”

“พ่องมึงสิ” ผัวน้อยผมนี่ใครหรอครับ พวกคุณคุณคิดว่าเป็นลุงล่ะสิ หึ ไม่ได้แอ้มผมหรอก หมายถึงไอ้คอปเตอร์หลานรหัสลุงต่างหากล่ะ แล้วถามว่าทำไมเรียกว่าผัวน้อยผมน่ะหรอ ก็ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้มาคณะผมได้ทุกวี่ทุกวัน มาทำไม มาจีบผมหรอ บอกเลยว่าไม่ใช่ มันแค่มาหา เอาเสบียงมาให้ เดินมานั่งคุย แล้วก็กลับ

เอ้า ผมตกตรงไหนไปรึเปล่า ย้อนกลับไปๆ มันมาหา..คนอื่นที่ไม่ให้ผม เอาเสบียงมาให้..ทั้งผม และทุกคนในคณะ โดนเฉพาะคนบางคน เดินมานั่งคุย..แต่ตาไม่เคยมองหน้าผม แล้วก็กลับ..พร้อมกับบอกว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่ ครับ ทุกอย่างนั่นมันทำเหมือนมาหาผม แต่แม่งมาเต๊าะให้ไอ้วินครับ

ไม่รู้ไปเจอะเจอกันตอนไหน ก็หลังจากที่มันเอาสีมาส่งให้ผมที่คณะวันนั้น วันต่อมาแม่งก็ทักไลน์มาว่า จะจีบไอ้วิน ผมก็เอ๋อแดก ได้แต่บอกส่งๆ ไปว่าจะช่วยดูให้ แต่ไม่คิดว่ามันจะรุกหนักขนาดมาหาเกือบทุกวัน ตอนแรกไอ้วินก็ไม่ได้รับรู้อะไรหรอกครับ หลังๆ เจอหน้าบ่อยเข้าก็เหมือนจะรู้ตัวอยู่กลายๆ แต่เสือกไม่ยอมรับ มโนเรียกว่าเป็นผัวผมอยู่ได้

“วันนี้มีไรให้กูกิน”

“เจอหน้ามึงทักคำอื่นบ้างก็ได้” ไอ้คอปเตอร์ส่งถุงขนมที่มันหิ้วมาให้ผม ไม่ครับ ไม่ได้ให้ผม ฝากผมไปให้ไอ้วินต่างหาก แม่งแค่ใช้ผมบังหน้าเท่านั้นแหละ เอาขนมให้ผมสอง ให้ไอ้วินสิบ เหอะ!

“กูอยากแดกอันนั้นอ่ะ แลกกับของไอ้วินได้ป่ะวะ” เจลลี่หมี อยากเอาไปใส่สตอเบอรี่ให้ลุงกิน.. ไม่ใช่สิ ลุงไม่ได้กินแล้วสิ!

“อันนี้วินชอบกิน มึงเอาโครงกระดูกไปแทนดิ” มึงคิดว่าเจลลี่หมีแบ๊วๆ ทดแทนกับเจลลี่โครงกระดูกได้หรอวะ?

“เออ แกะให้กูด้วย หิวว่ะ ทำไมไม่ซื้อข้าวมาด้วยวะ”

“เอ้า ก็ปกติกูเห็นพี่ทีซื้อมาให้ไม่ใช่หรอวะ เออ ว่าแต่วันนี้พี่ทียังไม่มาหรอ ไม่มีซ้อมนี่หว่า” มันจะมาได้ไงล่ะ ทุกวันนี้ยังไม่ได้คุยกันซักคำ

“ไม่รู้ ไม่ได้ถาม”

“ทะเลาะกันหรอวะ”

“เปล่า” ก็ไม่ได้ทะเลาะจริงๆ นี่หว่า แค่งอนเฉยๆ อ่ะ

“อะไรของมึงวะ เป็นเมียต้องยอมผัวมึงไม่รู้กฎข้อนี้หรอวะ”

“เมียพ่องง”

“โธ่ไอ้โง่เอ๊ย เขามาเฝ้ามึงทุกวัน มึงก็แง่วๆ ร้องจะเอานู่นนี่ พี่ทีแม่งก็ตามใจเหลือเกิน ขนาดกูเพิ่งสนิทกับมึงไม่นาน ยังมองออกเลยว่าพวกมึงไม่ปกติ”

“อะไรไม่ปกติสาส กูนี่คนปกติที่สุดแล้วครัชชชช!”

“นี่แหละที่ไม่ปกติ ไอ้ควาย!” อ้าว เดินหนีไปหาไอ้วินเฉย ขนมยังไม่แกะให้กูเลยอ่ะ กูหิวนะ ไอ้คอปเตอร์กลับมาก่อนนนนน

หลังจากไอ้คอปเตอร์มาป่วนการทำงานของเราได้ไม่นาน มันก็ขอตัวลากลับครับ เพราะต้องไปซื้อข้าวให้หลีดคณะมันเหมือนเดิม ไอ้นี่ก็นะ เขาให้ไปเป็นหลีด เสือกขอเป็นเบ๊หลีดแทน บอกรุ่นพี่ถ้ามันเต้นแล้วจะพาลทำให้คณะขายหน้าเปล่าๆ เลยขอตัวเป็นผู้ช่วยหลีดดีกว่า รุ่นพี่มันก็ยอมด้วยไง พูดดีด้วยหน่อย รุ่นพี่แม่งก็ระทวยแล้วครับ น่าเบื่อ ไอ้คนหล่อ

ความจริงปกติเวลานี้ผมต้องได้กินข้าวแล้วอ่ะ ขนมที่ไอ้วินเอามาให้ไม่เคยพอยาไส้ผมหรอกครับ กินพอร้องท้องกันตายเท่านั้นแหละ ท้องผมก็ร้องประท้วงปาวๆ ว่าให้หาอะไรมาลงท้องเพิ่มได้แล้ว ไม่กินตอนนี้จะไม่มีแรงทาสีต่อแล้วนะ แต่งานตรงหน้ายังเหลือเยอะเลยครับ ก็ตอนนี้นั่งรอให้สีแดงแห้งอ่ะ จะได้เอาสีดำมาทาต่อ เห็นมั้ย บอกแล้วผมทำได้ แค่นั่งรอสีแห้งก่อนลงสีดำผมเข้าใจนะจะบอกก

“นั่งจ้องฉาก ระวังจะท้องนะมึง” มันมาอีกแล้วครับ ก็ไอ้ประธานรุ่นไง หลังจากไอ้คอปเตอร์กลับไปก็มาแสดงอำนาจเหมือนเดิม ตอนไอ้คอปเตอร์อยู่ล่ะยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่ พูดดี ช่วยคนนู่นคนนี้ มึงอ้อยเขาก็บอก พอกันเลยไอ้คู่นี้ คนหนึ่งเทียวส่งน้ำส่งขนม อีกคนก็คอยอ้อยอยู่ใกล้ๆ ประธานกูเสร็จมึงแน่ๆครับไอ้คอปเตอร์

“ท้องไม่ท้องไม่รู้ รู้แค่กูหิวอ่ะ”

“หิวก็ไปกินข้าวสิวะ”

“แต่กูยังทำงานไม่เสร็จอ่ะ”

“...”

“ก็สียังไม่แห้งเลย แล้วจะลงสีดำต่อได้ไง ถ้าไม่ทาสีดำ งานก็ไม่เสร็จดิ”

“เจ็ท กูว่าบางทีมึงควรไปลงครอสเสริมเพื่อพัฒนาอีคิวนะ”

อ้าว ผมผิดอะไรง่ะ? งุยย

...

หลังจากผมทาสีดำเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนไอ้เจ็ท ก็ถูกอัญเชิญให้ไปเข้างานที่ร้านพี่โจ้ได้ พร้อมกับข้าวกล่องในมือหนึ่งกล่อง อภินันทนาการจากไอ้คอปเตอร์เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแย่งของไอ้วินมา 555555555555 ไม่ได้เลวครับ แค่หยิบยืมนิดหน่อย เดี๋ยวเอากล้องโฟมไปคืนนะเพื่อน ฮิฮิ

เดินเข้าร้านแบบหล่อๆ ว่าจะแอบไปนั่งกินข้าวหลังเคาน์เตอร์เสียหน่อย ตอนนี้คงยังไม่มีลูกค้าเยอะหรอกมั้ง ถ้ามาสั่งก็บอกให้พี่โจ้คนโก้รับหน้าที่ไปก่อนแล้วกัน ช่วงนี้เข้าร้านบ่อยเหลือเกิน แอบอู้เดินไปเม้าส์กับสาวโต๊ะอื่นไม่ได้เลย

หากแต่หน้าเคาน์เตอร์กลับมีสิ่งผิดปกติแปะอยู่ที่เก้าอี้ประจำของลุงครับ มันเป็นกล่องกระดาษขนาดใหญ่สีดำ ผูกด้วยโบว์สีทอง โอ้โห น่ารักฟรุ้งฟริ้งเชียว ใครเขาลืมไว้ หรือพี่โจ้แม่งแกล้งเซอร์ไพรส์พี่จีนหรือเปล่า เดินเข้าไปมองใกล้ๆ ก็เห็นการ์ดสีดำเหมือนกล่องเป๊ะแปะอยู่ มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นมีใครสนใจกล่องใบนี้ ทุกคนงวนอยู่กับกิจกรรมตรงหน้าหมด แล้วสรุปแม่งของใครวะ

“เฮ้ยเจ็ท มาพอดีเลย ลูกค้าลืมไว้ว่ะ แต่กูต้องกลับแล้ว ถ้ามีคนมาถามหา มึงก็ให้เขาไปนะ” เพื่อนที่อยู่กะก่อนหน้าสั่งลาก่อนจะเดินออกจากร้านไปทันทีครับ อะไรวะ แล้วไอ้ผู้ชายคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง รูปร่างแบบไหน มึงจะไม่บอกกูก่อนไปหรอครับเพื่อน

กลับมาสนใจที่กล่องเหมือนเดิม ลูกค้าลืมไว้แล้วทำไมมึงไม่เอาเก็บไว้หลังเคาน์เตอร์ล่ะครับเพื่อน เอามาวางงี้ถ้าหายไปแล้วใครจะรับผิดชอบล่ะ ขนาดผมโง่ผมยังคิดออกเลยนะ

หยิบกล่องกระดาษขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เพราะมือข้างหนึ่งถือกล่องข้าวที่ขโมยไอ้วินมาอยู่ มันไม่หนักครับ แต่มันใหญ่ พอถือมือเดียวก็เซกันบ้างล่ะ ทำให้การ์ดที่วางไว้บนกล่องร่วงลงพื้น จะหันกลับไปหยิบก็ลำบากเหลือเกิน จึงตัดสินใจเอากล่องเข้าไปเก็บหลังเคาน์เตอร์ก่อน

เดินกลับมาหยิบการ์ด แต่ด้วยความตอนเด็กถูกสอนมาว่าสงสัยอะไรรีบหาคำตอบทันที และตอนนี้สงสัยมากครับว่าไอ้กล่องใบนั้นอ่ะ แม่งจะเอาไปขอสาวที่ไหนเป็นแฟนวะ อยากรู้จริงๆว่าสวยแค่ไหน ขอแอบอ่านการ์ดหน่อยเถอะ เผื่อมุกจีบสาวเด็ดๆ เอาไปใช้บ้าง อิอิ

‘เจ็ท’ บนการ์ดมีคำสั้นๆ คำเดียวเป็นชื่อของผมแปะอยู่ เดี๋ยวนะ วิ่งกลับไปหลังเคาน์เตอร์ทันที หยิบกล่องขึ้นมาเขย่าๆ รับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เดาไม่ออกว่าเป็นอะไร เปิดแม่งเลย มีชื่อผมก็ต้องเป็นของผมสิวะ ดึงโบว์ที่ผูกชั้นแรกออกก่อน แต่ใครแม่งมัดปมซะแน่นขนาดนี้วะ ปกติมันดึงทีเดียวก็หลุดทั้งยวงแล้วไม่ใช่หรอ?

เสียเวลาไปกับการแกะไอ้โบว์นี่นานมากครับ ไม่กล้ากระชาก กลัวไม่ใช่ของผมจริงแล้วประกอบกลับไปไม่เหมือนเดิม พอแกะโบว์สำเร็จก็เปิดกล่องกระดาษต่อเลย แล้วก็ต้องอึ้งกว่าเก่า เพราะอะไรน่ะหรอครับ ก็ข้างในกล่องแม่งก็มีกล่องที่ถูกผูกโบว์ไว้อีกชั้น เชี่ยเอ๊ยย อย่าให้กูรู้นะว่าใครเป็นคนผูกไอ้โบว์งี่เง่านี่ จะจับเอาไปหัดวิธีผูกโบว์ที่ถูกต้องให้

กล่องแล้วกล่องเล่าที่ถูกซ่อนตัวอยู่ในกล่องใบใหญ่ถูกผมแกะออกจนหมด จนเหลือกล่องใบเล็กที่แม่งโคตรจะเล็ก มึงทำกล่องใหญ่มาหลอกลวงประชาชนเพื่อ? รู้ไหมว่าตอนนี้โลกร้อน ต้องประหยัดการใช้กระดาษน่ะ ต้นไม้จะได้ไม่ถูกตัด!

หยิบกล่องกระดาษที่คาดว่าน่าจะเป็นใบสุดท้ายแล้ว เพราะพอเขย่าก็ไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของกล่องอีกใบด้านใน บรรจงแกะโบว์ที่ผูกอยู่ออก รู้วิธีแล้วครับ เพราะแกะมาหลายใบแล้ว ต้องงัดต้องแงะตรงไหนก่อน ผมได้ทำการวิจัยมาจากใบอื่นๆ ไปแล้ว

เปิดกล่องกระดาษใบสุดท้ายก็พบกระดาษที่ถูกขย้ำเป็นก้อนๆ อยู่ข้างใน คลี่ออกก็พบไอไดร์ทที่ไว้เสียบไอโฟนเพื่อเก็บรูปหรือคลิปต่างๆ ที่มันเกินจำนวนความจำของเครื่อง เลยหยิบไอโฟนห้ากากๆ ของผมขึ้นมาเสียบ ประเด็นคืออะไรรู้ไหมครับ แม่งบอกให้ผมโหลดแอพ เพราะไม่อย่างงั้นจะดูข้อมูลข้างในไม่ได้ โอ้โหชีวิต เน็ตก็ช้าเหลือแสน กว่าจะโหลดแอพเสร็จก็ปาไปเกือบสิบห้านาที นี่ถ้าความอยากรู้ไม่ชนะความขี้เกียจ ผมไม่มีทางมาอยู่ตรงจุดนี้แน่นอน

กดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นก็พบไฟล์อยู่ไฟล์หนึ่ง ในนั้นเขียนชื่อผมเอาไว้เหมือนการ์ดเป๊ะ ระหว่างรอโหลดไฟล์ก็ใจเต้นตุ้มๆต้อมๆ ไม่รู้ว่าข้างในเป็นภาพลับอะไรของผมรึเปล่า

แต่ผิดคาดครับ เพราะข้างในไม่ใช่ไฟล์รูปผม แต่เป็นไฟล์รูปที่ถูกแคปมากจากโน้ตของไอโฟนแทน รูปเดียวโดดๆ ไม่มีรูปอื่นผสม พร้อมกับข้อความข้างในที่เขียนมาคำเดียวสั้นว่า ‘ขอโทษ’

ซึ้งมากครับ..



ซึ้งมากว่ามึงจะให้กูเสียเวลาโหลดแอพทำเหี้ยอะไร เขียนใส่กระดาษมาก็จบไหมวะครับบ! เปลืองเน็ตโว้ยยยยยยย!

“สตอเบอรี่ปั่นแก้วหนึ่ง” เสียงคุ้นเคยที่ไม่ได้ยินมาสองวันดังมาจากด้านหลัง เรียกให้ผมละความสนใจจากหน้าจอโทรศัพท์ไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าแทน

“ลูกค้าสั่งก็รีบทำสิวะไอ้เจ็ท” ไอ้พี่โจ้ที่เพิ่งจะโผล่มาตะโกนมาจากหลังร้าน นี่คือพวกมึงรู้เห็นเป็นใจกันใช่ไหมมมมม

“วันนี้ขอโยเกิร์ตนะ เจลลี่หมีด้วยได้เปล่า?” รู้ทันอีกว่าผมอยากกินเจลลี่หมี ไอ้คอปเตอร์เป็นสายให้ชัวร์ ไอ้เพื่อนไม่รักดี ชิ

“ไม่มี”

“ซื้อมา” โอ้โห พ่อคุณเขาลงทุนซื้อมาเองเลยว่ะ เห็นแบบนั้นก็กระโจนไปคว้าสิครับ แต่ไม่ทันคนตัวโตตรงหน้าชักมือหนีไปเสียก่อน ค้อนให้หนึ่งที หลอกให้กูอยากแล้วจากไปนะ เดี๋ยวก็ไม่ปั่นสตอเบอรี่ให้กินเลยหนิ แม่งง งอนโว้ยยย

“อยากกินก็ยอมคุยกันดีดีก่อน”

“ผมไม่ได้เห็นแก่กิน”

“แต่ตามึงยังไม่ละจากเจลลี่ในมือกูเลยนะ”

“...”

“ไม่กินจริงดิ”

“เหอะ”

“เจ็ทครับ ไม่กินจริงหรอ” ใครแม่งสอนไอ้ลุงทำเสียงอ้อนวะ

“..”

“ดีกันนะ สัญญาว่าจะซื้อเจลลี่ให้กินทุกวันจนเบื่อเลย”

“บุฟเฟ่ด้วย”

“ได้ดิ”

“เสต็ก”

“อืม”

“ผมไม่จ่ายนะ”

“ก็แน่อยู่แล้ว”

“งั้นวันนี้ใส่เจลลี่หมีนะ”

“ไอ้เตี้ยเอ๊ยยย” โยกหัวสองทีแสดงว่าดีกัน แฮ่

...................................................
เขาดีกันแล้วค่าา ดีกันง๊ายง่าย เพราะหนูเจ็ทก็ยังคงความซื่อ(บื้อ) ต่อไป
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเหมือนเดิมน้า จุ้บจุ้บ

ออฟไลน์ xexezero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เย้~! //ปรบมือ o13

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ทำไมเจ็ทเห็นแก่กินแบบนี้อ่ะ555555

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
อยากจะ. แหมมมมมมมม ใส่น้องเจ็ทจนกว่าจะไปถึงดาวอังคาร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ง้อแบบนี้ก็ได้หรอออออ
เจ็ทแม่งเห็นแก่กิน

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ดีกันเเล้ววว   o13

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เฮ้อ..... ยกโทษให้ง่าย ๆ ด้วยนิสัยที่เห็นแก่กินของหลานเจ็ทเนี่ยนะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ต่อไปลุงต้องมีเจลลี่แบร์พกติดตัวตลอดแน่นวนนนนน

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เข้าใจละ ว่าเจ็ทเป็นคนบ้าตามเพื่อนๆ การันตีจริงๆ ="=

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เจ็ท ฮาได้อีกนะ งอนอะไรจะง้อง่ายขนาดนี้ เอาของกินมาล่อ  :laugh:

ออฟไลน์ Velusia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เจ็ททททททท  แพ้เจลลี่หมีของลุงพีง่ายๆเลย โอ้ย น่ารักกกก

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เจ็ทเอ้ยยยยยยย ฮาไปอีก

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สนุกดีครับผม,,,

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH19

งานกีฬามหาวิทยาลัยเดินทางมาจนถึงแค่อาทิตย์สุดท้าย ทำให้ทุกฝ่ายเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ครับ กีฬาบางชนิดเริ่มทำการแข่งขันไปบ้างแล้ว รวมทั้งบาสเก็ตบอลหญิงที่ไอ้คุณส้มมันลงด้วย แข่งชนะมาจนรอบรองชนะเลิศ แต่ดันแพ้ให้กับคณะขึ้นชื่ออย่างวิศวะไปเสียก่อน น่าเสียดายเหมือนกันครับ แต่ผู้หญิงคณะมนุษย์อย่างเราจะอึด ถึก และทนได้เท่าวิศวะคงไม่ไหว

ตัดกลับมาที่ฝ่ายฉากของเราบ้าง ตอนนี้งานเสร็จไปเกินครึ่งแล้วครับ พรอพแสตนและหลีดเสร็จเรียบร้อย เหลือแค่ติดตั้งฉากกับแสตน และแก้งานบางส่วนที่เสียหาย ชุดหลีดนี่แก้แล้วแก้อีกจนพี่หลีดต้องออกคำสั่งให้บรรดาหลีดทุกคนควบคุมน้ำหนักให้คงที่ด่วนๆ เพราะชุดบางคนหลวมไป หรือคับไปจากวันที่วัดตัว ลำบากคนเย็บครับ อยากให้หลีดเห็นใจพวกเราด้วยตรงจุดนี้

ดังนั้นอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์จึงไม่มีการเรียนการสอนใดๆ เพื่อให้ทุกคณะดำเนินกิจกรรมกันได้เต็มที่ ทุกคนเคร่งเครียดกับงานนี้กันมาก เพราะเหมือนเป็นการประกาศศักดาว่า คณะใครเจ๋งกว่ากัน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วจุดประสงค์ของการมีกีฬามหาวิทยาลัยคือเพื่อส่งเสริมความสามัคคีในหมู่คณะแท้ๆ

“ไอ้เจ็ทโว้ยยยยยยยยยยย กูบอกว่าให้ติดตรงนั้นไงวะ เสือกไปติดเหี้ยไรตรงโน่น” เสียงไอ้วินที่หลอกหลอนผมมาหลายวันหลายคืนกับงานฉากที่ไม่จบไม่สิ้น

“อ้าว มึงไม่ได้ให้ดูมาติดอันนี้หรอวะ”

“พ่องมึงสิ ไม่ใช่อันนั้นโว้ย อันนี้ที่ติดตรงโน่น ส่วนไอ้ที่มึงถืออ่ะ ติดตรงนี้ โอ้ยยยย สรุปมึงพึ่งพาอะไรได้บ้างวะ” แง่ววว

“เออๆ บ่นมาก เดี๋ยวไอ้เตอร์เทไม่รู้นะสัส”

“ฆวยครับ” อ้าวเห้ย ไอ้วินหน้าแดงครับ แหม เพื่อนแซวนิดแซวหน่อยเขินอายเลยน้า

“รีบทำครับ จะได้เอาฉากไปติดตั้งเสียที”

สำหรับผมตอนนี้นอกจากร้านพี่โจ้ก็อยู่แต่ลานหลังคณะนี่แหละครับ ประกอบฉากเพื่อจะเอาไปติดที่แสตนกันในวันพรุ่งนี้ เราประกอบกันมาหลายวันแล้ว เพราะลายละเอียดมันเยอะจริงๆ ทั้งตัวโน้ตเอย ทั้งรูปนักร้องเอย คณะผมมันก็เก่งนะครับ วาดรูปเหมือนได้โคตรจะเหมือนอ่ะ เหล่านักร้องที่โด่งดังในยุด 90s ถูกนำมาวาดเป็นรูปล้อเลียนกันให้พรึ่บพรั่บ โดยฝีมือเด็กคณะผมนี่เอง ไม่ต้องไปเรียนถึงศิลปกรรมศาสตร์ ก็วาดรูปเหมือนได้เหมือนกันละวะ

ความจริงเราควรจะเริ่มติดตั้งฉากกันตั้งแต่วันนี้ครับ แต่คนที่ทำให้งานเราล่าช้านั้น ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน ผมเองครัชชช! ทำผิด ทำพลาดได้ทุกวัน จนไอ้วินกุมขมับแล้วกุมขมับอีก ไม่ไล่ผมไปทำงานสวัสดิการก็ดีแค่ไหนแล้ว

“ว่าแต่วันนี้พี่ทีแข่งไม่ใช่หรอวะ” อยู่ดีดีเปลี่ยนเรื่องเฉย

“เป็นแค่ตัวสำรอง” เนื่องจากงานกีฬาเป็นงานของเด็กปี 1 ครับ พวกรุ่นพี่จึงทำได้แค่ลงเป็นตัวสำรองกัน เผื่อน้องไม่ไหวหรือบาดเจ็บก็จะได้ลงเลยแทนครับ แต่ส่วนใหญ่ที่ผมไปดูก็เห็นแม่งนั่งแดกสปอนเซอร์ฟรีข้างสนามบาสนั่นแหละ ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย

ผมเคยไปถามลุงนะครับว่าทำไมต้องเลือกเล่นบาส ผมว่าแม่งเป็นกีฬาที่โคตรจะดุเดือด วิ่งรับส่งลูกบาสไปมา แล้วไอ้ลูกบาสนี่แม่งโคตรจะหนัก โดนกระแทกทีนี่แทบจุกครับ ลุงมันก็บอกว่า เพราะเป็นกีฬาที่สามารถโชว์กล้ามได้ คือมันใส่เสื้อกล้ามเวลาแข่งน่ะครับ

และอีกเหตุผลที่ผมไม่ไปเชียร์ลุงแข่งวันนี้ก็เพราะคณะมันดันแข่งกับคณะผมครับ ไปถึงสนามก็ต้องนั่งแสตนฝั่งตัวเองอยู่ดี และถ้าสมมติลุงมันเสือกฟลุ๊กได้ลงแข่งวันนี้ ก็จะมาตะโกนแง่วๆ เรียกร้องสิทธิ์การเชียร์มัน ซึ่งจะให้ผมไปเชียร์มันออกหน้าออกหน้าก็เกรงใจทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ หนทางสุดท้ายเลยกลายเป็นว่ามานั่งฟังไอ้วินบ่นยังดีเสียกว่า

“ว่าแต่มึงเหอะ ไอ้เตอร์มันก็ลงไม่ใช่หรอวะ” หลังจากที่ไอ้คอปเตอร์ไปเป็นเบ๊หลีดได้สองสามอาทิตย์ก็ถูกดึงตัวไปลงแข่งบาสแทน เพราะพี่หลีดคณะมันเห็นว่ามีมันอยู่ก็ไม่ได้ช่วยให้หลีดเต้นเก่งขึ้น มีแต่จะทำให้หลีดสาวๆ ไม่มีสมาธิซ้อมซะมากกว่า เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งหลีดสาวคณะมันเต้นอยู่ดีดีไม่รู้ไปสะดุดอะไรเข้า ล้มหน้าทิ่มพื้น เกือบเสียโฉมแน่ะ ไอ้คอปเตอร์ก็พระเอกครับ วิ่งไปอุ้มเธอคนนั้นแล้วพาไปส่งโรงพยาบาลให้ ต่อจากนั้นสาวๆ คนอื่นก็ไม่ยอมครับ พากันสะดุดขาตัวเองบ้าง แกล้งปวดท้องบ้าง หนักหน่อยก็แกล้งกระโดดลงจากแสตนแล้วเจ็บขา จนพี่หลีดต้องกุมขมับ ไล่ไอ้คอปเตอร์ไปแข่งกีฬาทันที

“ไม่อ่ะ กลัวโดนไอ้สิงห์ด่า” ไอ้สิงห์ที่ว่าก็กัปตันทีมบาสเราไงครับ หล่อแมนแฮนซั่มบอยดีกรีขาโหดประจำคณะ หมายถึงโหดทางด้านหลอกฟันสาวๆ มาเกือบทุกคณะแล้วน่ะ

“สรุปพวกมึงนี่ถึงขั้นไหนแล้ววะ”

“ขั้นไหนเหี้ยไรล่ะ เพื่อนกัน”

“มันส์ดี”

“เออ ลงเตียงปุ๊บมันส์ปั๊บ ไอ้สัส!”

หลังจากนั่งประกอบฉากกันจนมืดค่ำ ผมก็อาสาเป็นคนไปซื้อข้าวให้เพื่อนๆ เพราะท้องเริ่มร้องประท้วงหนัก ถามว่าทำไมผมไม่ไปทำงานอ่ะหรอ เพราะวันนี้ขอแลกเวรกับเพื่อนกะดึกครับ ฉากประกอบกันไม่เสร็จเสียที ต้องเร่งทำกันหน่อย กลัวไม่ทันวันงาน เพื่อนผมมันก็แสนดีครับ บอกว่าจะเข้ากะควบให้เลย เพราะมันไม่ได้ทำอะไรมาก เป็นแค่สวัสดิการวันงานแข่งเท่านั้น ผมนี่ก็รีบบอกปัดไปทันทีว่า จะเลี้ยงน้ำร้านพี่โจ้คืนค่าเข้ากะแทน 55555555

รายการอาหารยาวเป็นหางว่าว นี่พวกมันแม่งกะยัดห่าตลอดทั้งคืนครับ ไม่ใช่เพียงแค่ข้าวเท่านั้นที่พวกมันสั่ง รวมทั้งของว่างยามดึก และเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ นาๆ กะว่ายังไงคืนนี้งานเราต้องเสร็จ โต้รุ่งได้ก็ต้องทำ

ขับมอไซด์แวะสั่งข้าวร้านอาหารตามสั่งก่อนจะบอกแม่ค้าว่าจะกลับมาเอาแล้วแว๊นต่อไปเซเว่นอีเลเว่นทันที มองลิสขนมที่ต้องซื้อแล้วเครียดเบาๆ เลยครับ กูต้องเป็นบ้าหอบฟางอีกแล้วหรอวะ แม่งสั่งตั้งแต่เกี๊ยวกุ้งซีพียันไปจนถึงเอ็มร้อยห้าสิบ หนักเข้าหน่อยก็มีคาราบาวแดงด้วย แดกจนใจสั่นก็ไม่อาจหยุดยั้งการโต้รุ่งของเราได้เลยครับ

Natee : อยู่ไหน ไปหาที่คณะ วินบอกออกไปข้างนอก

ก้าวขาลงจากรถได้ไม่นานไลน์ก็เด้งฮะ จากบุคคลเดิมที่ทุกวันตัวติดกันอย่างกับปลิง นอกจากเวลานอนกับเรียนแล้วก็ไม่มีวินาทีไหนที่อิตาลุงจะห่างจากผมเลยครับ อ่อ ยกเว้นเวลามันไปนั่งแดกสปอนเซอร์ฟรีข้างสนามด้วย

JetP : เซเว่นหน้ามอ มาซื้อของให้พวกฉาก
Natee : เดี๋ยวไปรับ
JetP : ไม่ต้องๆ ขี่รถมา
Natee : แบกมาไหว?

เหลือบมองรายการอาหารที่อยู่ในมือแล้วถอนหายใจหนึ่งที

JetP : ซื้อของรอนะ

ใช้เวลาหยิบของใส่ตะกร้าได้ไม่นาน ลุงก็โผล่เข้ามาในเซเว่นครับ คว้าหมับเข้าที่ตะกร้าที่ผมถืออยู่โดยไม่พูดไม่จา แล้วเดินตามผมต้อยๆ ความรู้สึกตอนนี้เหมือนมีคนรับใช้เดินตามเจ้านายอย่างไงอย่างงั้นเลย แปลกๆ พิลึก

หลังจากซื้อของจากเซเว่นเสร็จเรียบร้อย ลุงก็อาสาไปเอาข้าวที่สั่งไว้ โดยให้ผมขี่รถกลับไปคณะก่อนได้เลย เป็นเบ๊โดยสมบูรณ์แบบมากครับ ทำให้ทุกอย่าง เหลืออย่างเดียวตอนนี้คือป้อนข้าวผมละล่ะ

“ลุงๆ มากินข้าวก่อน” หลังจากที่แจกจ่ายข้าวจนเสร็จเรียบร้อย คุณลุงผู้ใจดีคนนี้ยังอาสาประกอบฉากให้อีกต่างหาก อยากจะรู้นักเชียวว่าถ้าคณะมันรู้ว่าตาลุงมาช่วยงานคณะผมแทนที่จะทำงานคณะตัวเอง จะโดนด่าแค่ไหน แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะลุงมันตีหน้ามึนใส่ตลอดเวลาโดนเพื่อนแซว

“ผมไม่รู้จะสั่งไรให้อ่ะ ข้าวผัดไปก่อนนะ” เพราะลุงกินเผ็ดไม่ได้ แถมยังไม่กินผัก อาหารรสชาติจืดๆ ไม่กี่อย่างที่ผมนึกออกก็เห็นจะมีแต่ข้าวผัดนี่แหละครับ กินง่าย ไม่เผ็ด ไม่ใส่ผัด บริการเพิ่มหมึกและกุ้งแบบพิเศษอีกด้วย ส่วนผมก็ง่ายๆ สไตล์ไอ้เจ็ทครับ ผัดซีอิ๊วเพิ่มผักเพิ่มเส้นเพิ่มหมูพริกไทยเยอะๆ จนตอนเปิดกล่องมาฉุนพริกไทย จามติดๆ กันไปหลายรอบ

“แดกเหี้ยไรของมึงเนี้ย ฮัดชิ่ว!” ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่นั่งกินข้าวด้วยครับ

“อยากกินเผ็ดๆ ไง เลยบอกให้เขาใส่พริกไทยเยอะๆ” แต่ดูท่ามันจะเยอะไปครับ เพราะตักเขาปากคำแดกความเผ็ดแม่งนำมาก่อนเป็นอย่างแรก แทบไม่รับรู้ถึงรสชาติอื่นๆ เลย

“ลุง ขอน้ำ” ยื่นมือไปตรงหน้ายิกๆ มืออีกข้างพัดรอบปาก ปากก็อ้ารับลมที่พัดเข้ามา น้ำตาเอ่ออยู่รอบขอบตา แต่ถึงจะแสดงท่าทางว่าเผ็ดมากแค่ไหน ตาลุงนั่นก็นั่งหน้าอึ้ง ไม่ส่งน้ำมาให้ซักที

“ลุง เผ็ด จะเอาน้ำ” ยัง ยังไม่หยุดมองหน้าอีก หน้าผมแม่งมีไรติดหรือไงวะ

“ลุงงงงงงงงงงง ขอน้ำ!” เหมือนได้สติหลังจากที่ผมตะโกนใส่เป็นรอบที่สามครับ รีบหยิบขวดน้ำที่อยู่ข้างๆ ตัวมาเปิดทันที

“เชี่ยยย! แค่กๆ น้ำไรวะเนี่ยลุง” หยิบขวดขึ้นมาดู ข้างขวดเขียนว่า ‘น้ำผักผลไม้รวม น้ำตาล 0%’ โอ้โห รสชาติบรรลัยมากครับ แม่งขมและเหม็นเขียวไปอีก รวมๆ กันแล้วไม่ได้มีความอร่อยซักนิด อะไรดลใจให้ลุงแม่งซื้อมาวะ ไหนว่าไม่กินผักไง

“ไม่รู้ว่ะ กูเห็นว่ามันเป็นผักผลไม้ไง กูเลยลองซื้อมากินดู ก็มึงชอบบ่นว่ากูไม่กินผักอ่ะ กูเลยลองเริ่มกินไง” โอ้โห ไม่รู้จะรู้สึกยังไงเลยครับ เพราะตั้งแต่เราเริ่มสนิทกัน ผมกับลุงก็กินข้าวด้วยกันบ่อยขึ้น เรียกว่าทุกวันเลยเถอะ แล้วทุกครั้งที่ผมเห็นมันเขี่ยผักในจานออกแล้วมันหงุดหงิดอ่ะครับ แบบอะไรที่เป็นของกินไอ้เจ็ทคนนี้เสียดายแม่งทุกอย่าง กินแทนให้ตลอด พักหลังนี่ผมขี้ง่ายสบายเหลือเกิน เพราะต้องกินผักแทนตาลุงนี่แทบทุกครั้ง พอบ่นให้ฟังก็พยักหน้าหงิกหงักแต่ก็ยังคงเขี่ยออกเหมือนเดิม แต่พอได้ยินแบบนี้แล้วควรซึ้งดีไหมครับ เพราะอย่างน้อยลุงก็เริ่มมีความอยากจะลองกินผักบ้างแล้ว แม้ตัวเลือกแรกที่ลุงคิดรสชาติมันจะเห้มากก็ตาม

“เอางี้นะ ถ้าลุงอยากลองกินผัก ผมมีตัวเลือกให้ลองชิม ระหว่างแตงกวาที่อยู่ในข้าวกล่องลุง กับผักคะน้าที่อยู่ในข้าวกล่องผม ลองกินอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนไหม ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไอ้น้ำนี่แม่งรวมสารพัดผัก ผมว่ากินคำเดียวลุงอ้วกพุ่งแน่”

ลุงนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเริ่มตักแตงกวาที่อยู่ในข้าวกล่องตัวเองขึ้นมาดม อยากจะบอกเหลือเกินว่าดมไปมึงก็คงได้กลิ่นแต่ข้าวผัดนั่นแหละ ก็เล่นฝั่งตัวอยู่ในข้าวผัดร้อนๆ มาตั้งนานก่อนจะได้เปิดรับอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก กลิ่นจากแตงกวาก็คงหมดสิ้นไปเสียแล้ว

“ลองชิมดู” เห็นว่าไม่กินซักทีเลยคว้าหมับเข้าที่มือของลุงที่ถือช้อนอยู่แล้วเอาช้อนกดๆ ลงไปที่ริมฝีปากลุง เพื่อให้อ้าปากรับแตงกวาเข้าไป

“กัดคำเล็กๆ ก่อน” ลุงทำตามคำสั่งโดนดี อ้าปากกัดแตงกวาเข้าไปเคี้ยวเสียงดังกรุบๆ แต่ตามองตามมือผมที่จับมือลุงอยู่

“เป็นไง”

“หวาน”

“ห้ะ” เพิ่งเคยเจอแตงกวาหวานก็วันนี้แหละครับ หรือข้าวผัดลุงมันจะหวานวะถึงทำให้แตงกวาหวานตาม

“บางที การกินผักก็ไม่ได้แย่เสมอไปนี่หว่า” อ่า ไม่แย่ก็ไม่แย่สิลุง ไม่เห็นต้องทำตาเจ้าชู้ใส่เลยหนิ โว๊ะ >//<

...

1 สัปดาห์ ไวเหมือนโกหกครับ เพราะวันนี้คือวันแข่งแสตนเชียร์ของเราแล้ว เร็วชิบหายเลย เพิ่งติดตั้งฉากกันเสร็จเมื่อคืนตอนตี 4 นี่แหละครับ เพราะนอกจากเราจะต้องแบ่งทีมงานมาติดตั้งฉากแล้ว ยังต้องแบ่งไปซ่อมพรอพประกอบหลีดและแสตน รวมทั้งแก้ชุดหลีดกันอีก แก้จนวันสุดท้าย หัวหมุนหัวปั่นกันทั้งทีม ต้องดึงฝ่ายกีฬาบางคนที่ไม่มีแข่งแล้วมาช่วยกันทำยกใหญ่ ไม่งั้นงานไม่เสร็จแน่นอน

อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงการประชันระหว่างหลีดและแสตนของแต่ละคณะก็จะเริ่มขึ้นแล้วครับ ฝ่ายฉากที่หนีไปนอนพักกันเริ่มกลับมานั่งดูการแข่งขันที่สนามกันแล้ว รวมทั้งผมที่เพิ่งขี่รถกลับไปเอากล้องที่หอเพื่อมาถ่ายรูปบรรยากาศในงานเก็บไว้เป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้ใช้ชีวิตเฟรชชี่ที่นี่ครับ

“น้องคนไหนไม่ไหวรีบแจ้งพี่เลยนะคะ” เสียงพี่ๆ สต๊าฟแสตนตะโกนดังเป็นระยะๆ เพราะสนามกีฬากลางแจ้งแบบนี้ช่วยให้เวียนหัวจริงๆ ครับ แดดก็ร้อนมาก จะทำฉากให้บังแดดคนบนแสตนหน่อยก็ไม่ได้ เพราะเวลามองมาจากที่ไกลๆ จะเห็นแสตนไม่เต็ม เลยต้องเปิดแบบโอเพ่นเลย แสตนทุกคนต้องอดทนกลางแดดเปรี้ยงระหว่างที่แข่งขันไปครับ

“เจ็ท ขอกำลังใจก่อน” ยะหยาที่วันนี้แต่งตัวเป็นสาวยุค 90 ด้วยเสื้อลายดอกตัวใหญ่ และกระโปรงผ้าที่พยายามทำให้เหมือนกระโปรงสียีนส์ซีดๆ แต่เป็นเนื้อผ้าที่เอามาตัดๆ และแปะๆ กันเป็นรูปกระโปรงแทน ส่วนหยิมวันนี้แต่งตัวเป็นด้วยเสื้อสายดอกเช่นกันครับ กางเกงเป็นเนื้อผ้าสียีนส์ที่ทำออกมาในรูปของกางเกงวอร์ม ดูแปลกไปอีกแบบ สรุปนี่ยุค 90 หรือตีมวันสงกรานต์กันแน่วะเนี้ย

ถ่ายรูปกับสองแฝดไปหลายชอตก็ต้องไปเตรียมการแสดงครับ เพราะใกล้ถึงคิวคณะเราแสดงแล้ว ทั้งหลีดและแสตนพากันตื่นเต้นยกใหญ่ ทีมงานทุกคนรีบเช็คความเรียบร้อยก่อนขึ้นแสดงจริง เผื่อผิดพลาดตรงไหนจะได้รีบแก้ไขให้ทัน ผมที่เหมือนจะหมดหน้าที่แต่ยังไม่หมดแบบจริงจัง ก็ต้องไปแสตนบายอยู่หลังฉาก เพราะเมื่อการแสดงเริ่มต้นขึ้น ทีมงานฉากของเรากก็ต้องออกไปเผยความลับของฉากที่เราแอบซ่อนไว้ไม่ให้คณะอื่นรู้

ยกเว้นตาลุงไว้คน ที่แม่งรู้ทุกกลไก แทบยังช่วยประกอบด้วยแน่ะ!

“ต่อไปเป็นการแสดงของคณะมนุษย์นะคะ 5 4 3 2 1 เริ่มจับเวลาค่ะ” สิ้นสุดเสียงประกาศ กลองจากคณะผมก็รัวขึ้นทันที ทั้งแสตนเงียบกริบ ซาวด์ประกอบดนตรีเพลงเริ่มดังขึ้น เราเปิดตัวกันด้วยเพลงบุษบา ของ Moderndog ครับ เหล่าบุษบาทั้งหลายก็วิ่งออกมาหลังแสตนทันที ตามด้วยหนุ่มๆ ที่วิ่งออกมาเกี้ยวพาราสี เป็นเพลงเปิดตัวหลีดครับ หลังจากซาวด์ประกอบเพลงนี้จบลง ทุกคนหยุดนิ่ง หลีดก็รัวมือตามแบบฉบับที่ซ้อมมาจนตั้งท่าเริ่มเพลงถัดไป

เพลงแล้วเพลงเล่าดูแสดงออกมาได้อย่างตื่นตา ไม่ว่าจะหลีดหรือแสตน โดนเพลงแต่ละเพลงที่เราเลือกมาแสดงล้วนเป็นเพลงดังยุค 90 หมดเลย ทีมงานเตรียมตัวมาดีมากครับ นั่งเปิดเพลย์ลิสเพลง 90 กันทั้งวันทั้งคืน พาลมาจนดีเจคณะก็เลือกเปิดเพลงยุคนั้นเพื่อบิ๊วอารมณ์ชาวคณะทุกคนในมีใจแข่งขัน

การแสดงดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมๆ กับความลุ้นของทีมงานทุกคนว่าอย่าให้มีข้อผิดพลาดใดๆ ฝ่ายฉากอย่างเราก็รอเวลาครับ ลูกเล่นของเราใกล้จะได้ออกมาแสดงแล้ว

หลังจากเพลงลิ้นกับฟันของพี่เบิร์ดจบลง หลีดทุกคนก็หยุดนิ่ง แสตนเขวี้ยงพรอพทุกอย่างลงกับพื้นแล้วหันหลังให้คนดู ตัวแทนแสตนคนหนึ่งก้าวขึ้นไปยืนบนแสตนชั้นบนสุด ก่อนจะดึงเชือกที่ห้อยอยู่ตรงแสตนลง หากไม่สังเกตดีดีจะมองไม่เห็นครับ เพราะมันกลืนไปกับสีของฉาก

หลังจากที่เชือกถูกดึง ทีมงานฉากก็เริ่มออกตัวครับ บรรดาตัวโน้ตที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาเริ่มขยับ รูปนักร้องที่เราบรรจงวาดเริ่มเคลื่อนตัวออกด้านข้าง สิ่งที่ฝ่ายฉากอย่างเราต้องทำหลังจากนั้นก็วิ่งไปคว้ารูปเหมือนทั้งหมดไว้ไม่ให้หล่นลงไปด้านล่างครับ

“ขออัญเชิญบทพระราชนิพนธ์”

“พระราชนิพนธ์ 3 4” หลีดเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง พร้อมกับแสตนทุกคนค่อยๆ หันหน้ากลับมา พร้อมกับถือพรอพที่ประกอบเป็นพระบรมรูปของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ 10 ยืนเคียงข้างกัน เพลง Still on my mind ถูกขับร้องโดยแสตนทุกคน รวมทั้งเราฝ่ายฉากด้วย ตัวโน้ตที่ขยับเริ่มเคลื่อนไหวเข้ามาประกอบกันเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวหนังสือคำว่า “ในดวงใจนิรันดร์” ปรากฏขึ้นจากการร้อยเรียงของตัวโน้ต หลีดหยุดเคลื่อนไหว แล้วค่อยๆ ก้มลงกราบพระบรมรูปที่แสตนถืออยู่

หากใครได้เห็นภาพนี้ เชื่อว่าทุกคนจะต้องปลื้มปริ่มกันไปทั่ว เพราะพวกเราชาวคณะมนุษย์ต้องการทำเพื่อบอกว่าพระองค์ยังอยู่ในใจของเราเสมอ ไม่ว่าท่านจะอยู่แห่งหนใดก็ตาม และเราจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ตราบนานเท่านาน

เมื่อเพลงที่ถูกขับร้องจบลง ทั้งสนามก็เงียบสงัด เชื่อว่าทุกคนคงกำลังซาบซึ้งและระลึกถึงพระองค์ผู้ล่วงลับไป และเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพระองค์จะรับรู้ได้ถึงความรัก และความภักดีที่เราส่งไปได้อย่างแน่นอน

...

“จบแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยย” คุณคิดว่านี่คือเสียงผมหรอครับ รีบออกตัวเลยว่าไม่ใช่ นี่คือไอ้คุณส้มครับ ไอ้คุณส้มที่หายหน้าหายตาไปเนิ่นนาน เพราะถึงแม้มันจะแข่งบาสแพ้ไปแล้วก็ตาม มันก็วิ่งดุกๆ ไปเชียร์คนโน้นคนนี้แข่งทุกวี่ทุกวัน ไม่ได้เว้นมาช่วยเพื่อนมันทำงานเลยซักนิด จะมีก็แต่เมื่อวานก็โผล่หน้ามาส่งเสบียงก่อนจะหนีไปเฝ้าสองแฝดซ้อมหลีดแทน มันน่านัก!

“เหนื่อยมากสินะมึงอ่ะ” หมั่นไส้มันครับ

“เหนื่อยดิ มึงรู้มะ กูเนี้ยต้องไปแหกปากตะโกนเชียร์นักกีฬาเราทุกสนามเลยนะเว้ย บางทีก็ไปเต้นอยู่ข้างๆ ไอ้เก๋มือกลองอ่ะ แม่งตีโคตรมันส์ ถ้ากูไม่ได้ชอบผู้ชายกูจีบแม่งไปละ คนเหี้ยไรตอนตีกลองโคตรเท่” เก๋ที่ว่าคือมือกลองของเราครับ เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ดันมีความสามารถด้านการตีกลองซะงั้น ตอนคัดตัวมือกลองของคณะ เก๋ก็ชนะใจรุ่นพี่ทุกคนด้วยความสามารถบวกความเท่เมื่อจับไม้กลอง ทำให้หนุ่มๆ ที่มาคัดเลือกยอมแพ้กันเป็นแถวๆ

“กูไม่รู้จะด่ามึงว่าอะไรเลยเนี้ยไอ้ส้ม พวกกูนี่วิ่งทำฉากกันหัวหมุน มึงไปเชียร์นักกีฬาหรอค้าบบบบบบบ”

“เอ้า ก็เพราะพวกมึงมัวแต่ทำฉากไง เลยไม่รู้ว่านักกีฬาก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน เนี้ย ถ้าไม่มีคนอย่างกูใครจะไปเชียร์ โธ่” ดูมันแก้ตัวครับ เหอะ

“ว่าแต่วันนี้เขานัดฉลองกันกี่โมงวะ กูอยากกลับไปอาบน้ำก่อน” เป็นธรรมเนียมก็ชาวคณะอย่างเราครับ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ฉลองไว้ก่อน ก็เอาเงินที่เหลืออันน้อยนิดจากงบของทางมหาลัยและที่เก็บไล่เลี่ยจากเพื่อนๆ ทุกคนมากินกัน ขาดเล็กผสมน้อยก็ตามแต่ที่มีครับ ขาดนิดหน่อยพอจ่ายได้ ถือว่าไปสนุกกันหลังทำงานมาอย่างหนักทั้งเดือน

“สามทุ่มร้านเดิม ใครไปช้าสุดแดกเพียว”

“อีกแล้วหรอวะ คราวที่แล้วกูนี่เดินเป๋เลยนะเว้ย” รอบที่แล้วที่ฉลองกันก็จบงานรับน้องครับ ไม่รู้พวกรุ่นพี่ทั้งหลายมันฉลองอะไรกัน อยู่ดีดีก็พากันเฮโลชวนน้องไปฉลองเฉย พร้อมกับตบปากรับคำว่าจะเลี้ยงเสร็จสรรพ ไอ้พวกผมที่งบน้อยอะไรฟรีต้องรีบคว้าก็หางสั่นระริกๆ รีบตามไปกันอย่างไว สุดท้ายโดนหลอกครับ แม่งบอกเลี้ยงขวดเดียว ที่เหลือหาร โอ้โห หูตกหางตกกันเป็นแถบๆ

“สองทุ่มครึ่งกูไปรับ รอบนี้ไม่สายแน่”

“เค แยก ทางใครทางมัน” ตกลงกันเสร็จสรรพ ไอ้คุณส้มก็รีบปลีกตัวไปอย่างไว ไม่ใช่ไรครับ มันรีบไปอาบน้ำแต่งหน้า กลัวไม่สวย ถึงมันจะแมนๆ ก็ยังมีความสาวติดตัวมาบ้างละว้า ส่วนสองแฝดก็ขอตัวกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่งานเลิกแล้วครับ

“หิว” เสียงคุ้นเคยพร้อมสัมผัสคุ้นเคยคว้าหมับเข้าที่รอบคอผม กลิ่นอ่อนๆ จากตัวลุงทำให้ผมรู้สึกอยากอ้อนแปลกๆ คุณเคยเป็นไหมครับ เราจะมีใครบางคนที่อยากอ้อนทุกครั้งที่เจอกัน ครับ คนคนนั้นของผมก็คือลุงนี่แหละ

“อยากกินไรอ่ะ” แหงนหน้ามองคนที่สูงกว่าผมไม่น้อยก่อนจะยิ้มให้เบาๆ วันนี้ทั้งวันเจอลุงบ้างแว่บๆ ครับ เพราะลุงดันถูกเรียกไปเป็นสวัสดิการแสตน เลยไม่ได้หยุดคุยกันนานๆ จะมีก็แต่โผล่มาถ่ายรูปกับสองแฝดบ้าง หรือขโมยน้ำจากแสตนตัวเองมาให้ผมกินบ้าง

“ตามใจมึงอ่ะ” ลุงก็ยังคงเป็นลุง เรื่องตามใจคือที่หนึ่ง เพราะตัวเองขี้เกียจคิดครับ มีอยู่ครั้งหนึ่งผมดันอยากกินมาม่าเกาหลี แล้วมันไม่มีใกล้ๆ มอครับ ตาลุงก็พาขับรถเข้าเมืองทันทีทั้งๆ ที่ตอนนั้นมันเป็นเวลาเลิกงานของคนทำงานทั่วไป กว่าจะได้กินก็ปาไปสองทุ่ม แล้วประเด็นคืออะไรรู้ไหมครับ ผมดันพาคนที่กินเผ็ดไม่ได้เลยมากินของที่ลดปริมาณความเผ็ดยังไงแม่งก็ยังเผ็ดไปสำหรับลุงอยู่ดี โอ้โห โค้กถังที่สั่งมากินหมดไป 3 ถังใหญ่ๆ ได้ หลังจากนั้นเวลาอยากกินทีต้องฉุดไอ้คุณส้มหรือสองแฝดไปแทนครับ

“เกี๊ยวกุ้งมะ”

“ไปดิ”

“แต่ก็อยากกินเสต็กอ่ะ”

“ก็ไป”

“เฮ้ยๆ ลุง แต่ผมว่าข้าวหน้าเป็ดหลังหอก็อร่อยนะ”

“อ่าฮะ”

“หรือจะกินข้าวมันไก่ดีวะ”

“...”

“แต่ผมว่าข้าวเหนียวไก่ย่างป้าแจ้วก็อร่อยดีนะ”

“ซื้อทุกอย่าง แล้วไปแดกที่หอ”

แง่ววว ถึงจะตามใจไหน แต่ลุงแม่งก็ยังคงความขี้รำคาญเหมือนเดิมเลยครัชชช!

........................................................................
หายไปหลายวันขอโทษจริงๆ ค่ะ ฮืออออ
สำหรับตอนนี้กล่าวถึงชีวิตประจำวันของลุงและเจ็ทนั่นเอง
เขาอยู่ด้วยกันตลอดเวลาค่ะท่านผู้อ่าน เหลือเวลาเดียวคือย้ายหอมานอนด้วยกันละค่ะ

และสำหรับตอนนี้ แค่อยากระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา
ที่ถึงแม้จะล้วงลับไปแล้ว แต่ท่านยังอยู่ในใจเราตลอดกาล..

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ของกินเยอะขนาดนี้ ถ้ากินไม่หมด ส่งมาให้คนแก่ช่วยกินก็ได้นะ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ๊ยยยยย..........ลุงสุดยอด
พอง้อ คืนดีกันด้วยของกิน ปานปอบลงสิง
ลุง ก็ตัวติดแจกับเจ็ทเลย ตามใจเจ็ทสุดๆ
เจ็ทก็ยังซื่อบื้อ ไม่รู้ไรเล้ยยยยย

ท่าทางที่เจ็ทกินเผ็ด น้ำตาคลอตา
ปากก็อ้า ระบายลมมือก็พัดๆให้ลมเข้าปาก
หน้าตาเจ็ท คงทำให้ลุงนึกถึงฉากอีโรติค
เอ่อ....เจ็ทคงดูเซ็กซี่สุดๆ ลุงตะลึงตาค้างเลย

รอลุงสารภาพรัก ขอคบเจ็ทนะ
เอ่อ.....ส้ม คงไม่เปลี่ยนความชอบจากชายเป็นหญิงนะ
ความเผือก เรื่องส้ม ยังคงมีต่อไป
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
จัดหนักคับลุง เราสายเปย์อยู่แล้นนนนน

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ลุงน่ารักมาก,,,

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ลุงตามใจขนาดหนักละ

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เป็นความสัมพันที่เรื่อยๆดีอะ ว่าแต่ลุงขอเป็นแฟนยัง?  :katai3:
หรือความสัมพันที่ไม่มีชื่อเรียก เรารู้กันแค่สองคนก็พองิ  :hao3:

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH20
ชีวิตประจำวันของไอ้เจ็ทคนนี้กลับมาอีกครั้งครับ ไปเรียน กินข้าว ทำงานร้านพี่โจ้ นอน วนลูปซ้ำไปซ้ำมาไม่จบไม่สิ้น กิจกรรมมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบไปทำให้ผมได้เพื่อนสนิทใหม่ๆ หลายคนเลยครับ โดยเฉพาะได้พวกฝ่ายฉากที่เจอหน้าทั้งด่าทั้งแซวกันทุกวัน งานกีฬาครั้งนี้ได้บรรลุเป้าหมายเรื่องของความสามัคคีจริงๆ

“วันนี้พี่ทีไม่มากินข้าวด้วยอีกแล้วหรอวะ”

“ทำโปรเจคอ่ะ”

“รู้ดีประหนึ่งว่าเป็นเมียเขาเลยนะครับ เอ๊ะ หรือว่าเป็นเมียแล้ววะ”

“เมียบ้านปะป๊ามึงสิครับ”

วันนี้ลุงไม่ได้มากินข้าวกลางวันด้วยกันเหมือนปกติครับ เรียกว่าทั้งอาทิตย์นี้เลยดีกว่าที่ลุงไม่มา เพราะโปรเจคเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้เราเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ แต่บางครั้งก็มีโทรมาหาบ้างเป็นครั้งคราว หรือบางทีก็แวะเข้าไปซื้อน้ำร้านพี่โจ้บ้าง ก่อนจะรีบออกไปทำโปรเจคต่อ เห็นว่ากำลังจะต้องเอางานไปนำเสนอให้อาจารย์ดูก่อนจะออกฝึกงาน

“แล้วสรุปเรื่องมึงกับพี่ทีนี่ยังไงวะ คบกันยัง?”

“ก็เรื่อยๆ”

“เรื่อยๆ คืออะไรวะ พี่ทีไม่ได้ขอมึงเป็นแฟน?”

“แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วป่ะวะ”

ความสัมพันธ์ของผมกับลุงตอนนี้เราไม่ได้พัฒนาไปมากกว่าเก่าครับ มันเหมือนกับว่าเราเป็นชีวิตประจำวันของกันและกันมากกว่า ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ไม่มีเรื่องให้ต้องหนักใจ หรือแม้กระทั่งสถานะเราก็ไม่มีครับ หลายครั้งที่ผมถูกถามบ่อยๆว่าผมกับลุงนี่เป็นอะไรกัน ก็แค่ยิ้มรับไป ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธคำถามใดๆ เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยถามลุงด้วย

“แล้วเจ็ทไม่อยากมีสถานะหรอ” ยะหยาที่นั่งฟังบทสนทนาเงียบๆ มานานเริ่มถามบ้าง

“ก็อยาก แต่ก็ไม่อยากอ่ะ” จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีสถานะนะครับ บางทีผมก็อยาก แต่บางทีผมก็กลัว หากว่าวันหนึ่งสถานะที่เราทั้งสองคนสร้างขึ้นมามันไปแล้วไม่รุ่ง กลัวว่าวันนั้นผมกับลุงจะไม่สนิทใจกันเหมือนเดิม หรือบางทีเราอาจจะทำตัวเหมือนครั้งที่เรายังไม่รู้จักกันก็เป็นได้

“แต่มึงอยู่แบบนี้ไม่เรื่อยๆ ไม่ได้นะเว้ย” ดูท่าไอ้คุณส้มของผมจะเริ่มไม่สบอารมณ์แล้วล่ะครับ

“ทำไมจะไม่ได้วะ”

“สมมติถ้ามีใครอีกคนเข้ามาคั่นกลางระหว่างพวกมึง นั่นเท่ากับว่ามึงไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวพี่ทีเลยนะ มึงอยากเป็นแบบนั้นหรอวะ”

“เดี๋ยวนะ ร้อยวันพันปีพวกมึงไม่เคยพูดเรื่องนี้กับกูนี่หว่า พวกมึงไปรู้อะไรมา” ผิดปกติมากครับ เพราะผมกับลุงถึงแม้เราจะไม่เคยพูดเรื่องสถานะกันก็จริง แต่เหมือนเราให้เกียรติกันและกันเสมอ ไม่เคยมีซักครั้งที่ลุงทำให้ผมไม่สบายใจ หรือผมทำให้ลุงไม่สบายใจ

เหล่าเพื่อนที่น่ารักของผมเงียบลงทันทีหลังจากที่ผมพูดประโยคนั้นจบ ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอีกเรื่องครับ เพราะนานครั้งที่เพื่อนผมจะจมคำพูดกันขนาดนี้ ปกติไอ้คุณส้มจะเป็นผู้ต่อบทสนทนาได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะอยากคุยหรือไม่อยากคุยกับมันก็ตาม เพียงแต่วันนี้มันเงียบครับ และเลือกที่จะหันไปขอความช่วยเหลือทางสายตากับยะหยาแทน

“ว่าไงหยา” หลังจากที่ทนความเงียบได้ไม่นานก็เริ่มหันไปเล่นงานยะหยาแทน เพราะผมรู้ว่ายะหยาไม่สามารถทนความกดดันจากบุคคลหลายๆ คนพร้อมกันได้ ไม่นานความลับที่เก็บซ่อนไว้ก็ต้องหลุดออกมาแน่นอน

“คืองี้นะเจ็ท” ดูเหมือนยะหยาก็กำลังลำบากใจในการพูดเหมือนกันครับ

“...”

“คือวันก่อนอ่ะ หยาไปซื้อของกับหยิมในห้างมา แล้วหยาก็เจอพี่ที”

“อ่าฮะ” น่าจะเป็นเมื่อสองวันก่อนครับ เพราะพี่ทีบอกผมว่าพาเพื่อนไปซื้อของในเมือง แล้วขากลับจะแวะมาหาผมที่ร้าน แต่วันนั้นกว่าลุงจะโผล่มาก็ปาไปสี่ทุ่มได้ เห็นว่าในเมืองรถติดมากเลยกลับมาหาผมช้า ประเด็นคืออะไรรู้ไหมครับ เพราะวันนั้นผมหิ้วท้องรอมันกินเคเอฟซีน่ะสิ

“เดินอยู่กับพี่เบลล์ดาวแพทย์”

“..”

คำบอกเล่าของยะหยาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเท่ารูปที่หยิมส่งมาให้ดูจากโทรศัพท์ ภาพลุงที่กำลังลูบหัวผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ มืออีกข้างถือถุงพะรุงพะรัง และรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของทั้งสองคน

ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยแฮะ

...........................................................

สามวันแล้วที่ผมไม่เจอหน้าลุงเลย มีเพียงแค่ข้อความมาสั้นๆ ว่ายังคงมีชีวิตอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ หรือบางครั้งก็ทิ้งข้อความบอกราตรีสวัสดิ์เวลาผมเลิกงานกลับหอ แต่เจ้าตัวก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลย

ดังนั้นวันนี้ผมจึงตัดสินใจมาหาลุงที่คณะ โดยที่ไม่รู้เลยว่าลุงเข้าคณะรึเปล่า ได้แต่ภาวนาในใจว่าให้ลุงแวะมา

แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีวี่แววของบุคคลที่ผมตามหา แชทที่ทิ้งเอาไว้ล่าสุดคือเมื่อคืนว่าฝันดี และถึงแม้ผมจะทักกลับไปว่าวันนี้จะแวะมาหาที่คณะที่ยังไม่มีการตอบกลับหรือแม้แต่อ่านแชทลุงก็ยังไม่ได้ทำ

“ไอ้เจ็ท อะไรดลใจให้มึงเสด็จมาคณะกูวะครับ” เหมือนสวรรค์ยังเห็นใจผมส่งไอ้คอปเตอร์อนาคตเพื่อนเขยมาเลยครับ

“แวะมาให้หมาถามว่ะ”

“อ้าวไอ้นี่ ถิ่นกูอย่าทำซ่าครับ”

“ครับเพื่อนครับ อย่าโผล่ไปคณะกูนะ กูจะจับไอ้วินมาทรมานต่อหน้ามึง”

“ปากดีครับเพื่อน ว่าแต่มาทำไรวะ อ่อ หรือมาหาพี่ที” รู้ใจกูเหมือนเป็นเพื่อนกันมานานเลยนะมึง

“เออ แต่หาพี่มึงไม่เจอไง”

“ลองไปดูที่ห้องแลปดิ กูเห็นพวกพี่ปีสามคลุกอยู่ในนั้นกันตั้งแต่เมื่อวานอ่ะ” หรือบางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ลุงไม่ตอบแชทผมก็เป็นได้นะครับ ว่าแต่ ห้องแลปมันอยู่ตรงไหนวะ

“คอปเตอร์ที่รัก” ส่งสายตาออดอ้อนไปให้เสียหน่อย เวลาผมใช้สายตาแบบนี้กับลุงทีไร ลุงยอมผมทุกทีอ่ะ

“ใครที่รักมึง ขนลุกไอ้สัส แล้วหยุดส่งสายตาแบบนั้น กูสยอง” อ้าว ไม่ใช่ว่าใช้ได้กับทุกคนหรอว้า

“แง่ะ ช่วยอะไรกูหน่อยจิ” เปลี่ยนเป็นใช้น้ำเสียงแบ๊วแทนก็ได้

“พอเถอะ กูกลัวคืนนี้นอนไม่หลับ เดี๋ยวกูพาไป”

“หล่อแล้วยังใจดีอีก ขอให้ไอ้วินรักไอ้วินหลงนะครับเพื่อนยาก”

“อ่ะสาธุ ไปโว้ยยย” เดินตามคอปเตอร์ต้อยๆ ผ่านห้องต่างๆมากมาย สมกับเป็นคณะวิทยาศาสตร์จริงๆ ครับ เพราะบางห้องที่ผมเดินผ่านก็มีพวกสัตว์ต่างๆ ที่ถูกองเป็นโหลๆ ใส่ขวดเอาไว้ บางห้องก็มีโครงกระดูกตั้งอยู่ ถ้าผมเดินมาคนเดียวตอนกลางคืนนี่คงมีหลอนบ้างล่ะ

“อีกไกลไหมวะ” เดินขึ้นบันไดมาหลายชั้นมากแล้วครับ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ใช้ลิฟท์กัน อะไรจะประหยัดไฟขนาดนั้น

“แลปปี 3 อยู่ชั้น 6 ว่ะ ก็อยากพามึงขึ้นลิฟท์หรอกนะ แต่แม่งดันมาเสียเอาเมื่อเช้าเนี้ย ไม่ใช่กูไม่เหนื่อย กูก็เหนื่อยแบบมึงแหละ เพราะฉะนั้น เลิกด่ากูในใจได้แล้วครับเพื่อน” อะไรมันจะรู้ใจกันขนาดนี้ว่ะครับ แหม่

หลังจากใช้เวลาเดินขึ้นมาชั้น 6 อย่างที่ไอ้คอปเตอร์บอก ผมก็หอบจนไม่รู้จะหอบยังไงแล้ว เหนื่อยชิบหายวายปวง ขอล่ะครับ คราวหน้าไอ้เจ็ทคนนี้ขอนั่งรอหล่อๆ หน้าคณะพอ ถ้าไม่มีลิฟท์อย่าหวังเลยว่ากูจะขึ้นมาอีกรอบน่ะ เหอะ!

“ห้องนี้แหละ” หยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง มองภายนอกก็เหมือนห้องที่เคยเรียนแลปวิชาวิทยาศาสตร์ตอนมอปลายเหมือนกันนนะครับ เป็นห้องที่มีกระจกที่สามารถมองผ่านเข้าไปได้ เพราะกระจกอยู่รัดับสายตาผมพอดี ถ้าเตี้ยกว่านี้อีกนิดคงต้องมีการเขย่งกันบ้างล่ะ

มองผ่านกระจกเข้าไปเห็นพวกรุ่นพี่กำลังตั้งใจผสมสารเคมีต่างๆ กันให้พรึ่บพรับ แต่กวาดตามองจนทั่วห้องแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่ผมตามหาเลยครับ หลีกทางให้คอปเตอร์เดินเข้าไปถามรุ่นพี่ที่รู้จักก็ได้ความว่าลุงเพิ่งเดินออกไปเข้าห้องน้ำเมื่อกี้นี้เอง จึงตัดสินใจยืนรอกันอยู่หน้าห้อง รอสิบนาทีผ่านไปแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าลุงจะเดินกลับมาเลยครับ มองหน้าไอ้คนข้างๆ เพื่อขอความเห็นก่อนจะเดินไปตามหาลุงที่ห้องน้ำแทน

แต่ยังไม่ทันได้เดินไปทางห้องน้ำ ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินเคียงคู่กันมาจากอีกฟากของทางเดิน เสียงหัวเราะที่นำมาก่อนตัวพาให้หัวสมองผมโหวงวูบ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นลุงหัวเราะเสียงดังแบบนี้กับใคร แม้จะเป็นกับผมที่ตัวติดกันเสมอก็แทบจะนับครั้งได้ที่จะทำแบบนี้

หรือเรื่องที่พวกเขากำลังคุยกันมันสนุกมากขนาดที่ไม่มองทางเดินเลยหรือไงนะ?

“พี่ที” เหมือนว่าคนข้างๆ ผมจะได้สติก่อน จึงอ้าปากเรียกให้อีกฝ่ายรู้ถึงการมีอยู่ของผม

“หืมม อ้าว เจ็ท จะมาทำไมไม่บอกกูก่อนวะ” ก้าวขาอย่างไวเดินมาหาผม ลุงไม่ได้แสดงท่าทีว่าตกใจกับการที่เห็นผมมากนัก แต่สีหน้าเหมือนว่าแปลกใจมากกว่าที่เห็นผมมากับคอปเตอร์ มองผ่านลุงไปก็เห็นผู้หญิงคนนั้นทำหน้าแปลกใจเหมือนกัน แต่ความหมายต่างจากลุง คงแปลกใจมากกว่าว่าผมเป็นใคร

“ใครหรอที” เสียงหวานดังมาจากด้านหลังก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมายืนขนาบข้างกายลุง สีหน้าแปลกใจเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเป็นมิตรแทน “ เอ้ หรือว่านี่คือน้องเจ็ทนี่ทีพูดถึง” เอียงคอสงสัยได้น่ารักเหลือเกินนะแม่คุณ!

“อ่อ ใช่ๆ นี่เจ็ท ข้างๆคือคอปเตอร์หลานรหัสเรา ส่วนนี่เบลล์เพื่อนกู” ยกมือไหว้ตามมารยามที่คณะผมพร่ำสอนมา แม้ในใจจะไม่ได้ให้ความเคารพมากก็ตาม เป็นพวกไม่ได้ดั่งใจแล้วพาลครับ มันตงิดๆ ในใจแปลกๆ เหมือนจะไม่พอใจอยู่เบาๆ

“ตัวเล็กน่ารักแบบที่ทีบอกจริงๆ ด้วยสิ เห็นทีบอกว่าเจ็ททำงานอยู่ร้านกาแฟข้างมอหรอ”

“อ่าครับ”

“ไว้คราวหน้าพี่ขอไปชิมกาแฟฝีมือเจ็ทหน่อยนะคะ” ละไอ้รอยยิ้มพิมพ์ใจที่ขยันส่งมาให้ก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เหลือเกินครับ ก็ขอให้ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ นี่คือการคิดไปเองแล้วกันนะ

“แค่ไปชิมพอนะเบลล์ อย่าอื่นห้าม”

“แค่นี้หวงหรอ”

“ก็น่าจะรู้นี่”

เหมือนว่าตรงนี้มีพวกเขายืนกันอยู่สองคนเลยครับ ผมกับไอ้คอปเตอร์เป็นแค่ตัวประกอบการสนทนาที่ฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ แล้วสรุปผมมาทำอะไรตรงนี้วะ ไอ้ความตั้งใจที่จะมาหาลุงมันหายไปไหนผม ตาลุงก็เหมือนกัน คนอุตส่าห์มาหาก็ไม่เห็นจะสนใจ เอาแต่คุยกับหญิงอยู่นั่นแหละ เหอะ!

ยิ่งยืนอยู่นานก็เริ่มรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของพวดเขาทั้งสองเสียแล้วสิครับ

“เฮ้ยเจ็ท ไหนว่าวินรออยู่ไหนวะ กลับเลยป่ะ เดี๋ยวกูไปส่งที่รถ” เหมือนว่าคอปเตอร์จะจับความรู้บางอย่างได้จากตัวผมครับ ทำให้สองหนุ่มสาวตรงหน้าหันกลับมาสนใจเราสองคนอีกครั้ง

“เออวะ ลืมเลย ไอ้วินบ่นกูหูชาแน่” รับมุกคนข้างๆ ก่อนจะหันไปหาสองคนข้างหน้า “กลับก่อนนะครับพี่เบลล์ ไปนะลุง”

“เฮ้ยเดี๋ยว” คว้าหมับเข้าที่แขนผมในขณะที่ผมหมุนตัวกลับ หันหน้ากลับไปมองคนรั้งไว้ เห็นแววตาแปลกใจระคนขอโทษ “ทำไมรีบ?” ไม่ใช่ตอนนี้ครับ ยังไม่อยากคุยด้วยเข้าใจไหม

“นัดวินไว้ว่ะลุง ไว้ไงค่อยเจอกันใหม่นะ ไปไอ้เตอร์” สะบัดมือออกก่อนจะจ้ำอ้าวเดินตรงไปที่บันไดอย่างไว นึกดีใจที่ลิฟท์เสียก็ตอนนี้ เพราะจะได้ไม่ต้องยืนรอลิฟท์ให้เสียเวลาอีก อยากไปจากตรงนี้ไวๆ

“เดี๋ยวคืนนี้กูไปหาที่ร้านพี่โจ้นะ” เสียงตะโกนไล่หลังมาขณะที่กำลังก้าวขาลงบันได หากแต่สมองไม่ได้สั่งให้ผมตอบรับข้อความนั้นของลุง มีแค่มือที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกดโทรออกทันที รอฟังเสียงรอสายได้ไม่นานคนในสายก็รับ แต่ยังไม่ทันที่คนในนั้นจะพูดอะไร ก็เอ่ยออกไวๆ

“วันนี้ผมลานะพี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเข้าเลยเวลาแทนนะ”

............................................................
เค้ามาแล้ว มาเป็นงานหยาบด้วย แงง ทำงานติดกันสองอาทิตย์ ยังไม่ได้พักเลยซักวัน
ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาลงวันพฤหัสนี้ค่ะ เพราะเป็นวันหยุด! เลยค่อยๆ คลานออกมาทีละหน่อยๆ
แต่งานแทรกใช้คอมไม่ได้อาทิตย์นึง เลยวาร์ปมาลงก่อน
เพราะเขียนเสร็จเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว ยังไม่ได้ตรวจเลย หากมีคำพิมพ์หรือภาษาแปลกๆ ต้องขอโทษก่อนเลยน้า
เจอกันอีกทีเป็นศุกร์เสาร์หรืออาทิตย์หน้าเลยน้า เพราะเค้าไม่มีคอมใช้ ขอโทษล่วงหน้าอีกครั้งง

ตอนต่อไปสัญญาว่าจะดึงเรื่องให้เข้มข้นขึ้นนะคะ จุ้บ
รักผู้อ่านทุกคนน้าา จ๊วฟฟฟฟ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด