[จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14  (อ่าน 69616 ครั้ง)

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อะไรอยู่ข้างในนะ

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 47

ความรักจากแม่

 

“อะไรหว่า?”

อวกาศเปิดกล่องที่ได้รับมาออกดู  ลุ้นว่าสิ่งที่แม่ฝากไว้ให้คืออะไร…

แกร๊ก…

เขานิ่งไปนานเมื่อเห็นสิ่งที่ถูกบรรจุเอาไว้ในกล่อง  อัลบั้มรูปถูกใส่เอาไว้พร้อมกับเสื้อผ้าเด็กอ่อนที่ถูกซักรีดจนหอมเก็บเอาไว้อย่างดี  เมื่อเปิดอัลบั้มดูก็พบว่าเป็นรูปของเขาตั้งแต่คลอดที่โรงพยาบาลมาจนถึงตอนช่วงอายุแปดขวบก่อนจะเกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่กับครอบครัวอหังสา

เสื้อผ้าเด็กอ่อนที่อยู่ในกล่องตรงกับเสื้อผ้าที่เขาใส่ในรูปตอนเกิดที่โรงพยาบาล…

“คุณแม่…”

มือหนาลูบเสื้อขนาดเล็กที่ใหญ่กว่าฝ่ามือเขาไม่เท่าไหร่แผ่วเบา  น้ำใสๆเอ่อล้นขึ้นมารอบดวงตาก่อนจะสังเกตเห็นว่าที่ด้านใต้สุดมีซองจดหมายถูกแปะสก๊อตเทปติดเอาไว้  อวกาศรีบแกะมันออกมาเปิดอ่านด้วยรู้ว่าต้องเป็นจดหมายจากคุณแม่ของเขาแน่ๆ

 

‘ถึงอวกาศลูกรัก…

ในวันที่ลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้  ลูกของแม่จะมีอายุเท่าไหร่กันนะ  น่าเสียดายที่แม่ไม่มีโอกาสได้เห็นลูกเติบโตมาเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว  แต่ถึงอย่างนั้น  แม่ก็มั่นใจว่าอวกาศจะต้องเลือกเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้องเหมือนคุณพ่อและพี่จักรวาลแน่นอน  แม่ขอโทษนะ  ที่ทำหน้าที่แม่ให้ลูกได้แค่แปดปีเท่านั้น  ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ  แต่แม่มีความสุขมากเหลือเกินกับการได้เป็นแม่ของลูก  การที่ลูกเกิดมาเป็นลูกของแม่  ไม่ต่างอะไรกับของขวัญที่พระเจ้าทรงประทานมาให้  ลูกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของแม่  ความรักของแม่จะคงอยู่ตลอดไป  แม่รักลูกนะคะ  ถ้าทำได้…แม่เองก็อยากจะมีชีวิตอยู่ให้นานกว่านี้เหมือนกัน  อยากจะเป็นคนเตรียมเค้กวันเกิดให้ลูกทุกๆปี  ถึงรสชาติเค้กที่แม่ทำคุณพ่อของลูกจะบอกว่า ‘ห้ามทำอีกเป็นครั้งที่สอง’ ก็เถอะ  สุดท้ายนี้…อวกาศ…ในฐานะที่ลูกเป็นลูกชายคนกลาง  เป็นคนที่มีทั้งพี่ชายและน้องชาย  แม่อยากให้ลูกรักและเคารพพี่จักรวาล  ปกป้องและดูแลน้องกาลเวลา  ทำหน้าที่ของพี่ชายและน้องชายในเวลาเดียวกัน แม่เชื่อว่าตราบใดที่มีลูกอยู่  ความรักความผูกพันของพวกลูกสามคนจะไม่มีวันจางหายไป  เหมือนที่แม่เองจะไม่มีวันจากลูกไปไหน  ขอให้ระลึกเอาไว้เสมอ  ว่าแม่…จะอยู่ตรงนี้  สถิตอยู่ในหัวใจของลูก  ความตายพรากแม่ไปได้แค่ร่างกายเท่านั้น  แต่ไม่อาจพรากความรักที่แม่มีต่อลูกไปได้เลย  แม่รักลูกนะคะ  เด็กดีของแม่’

 

“ผมก็รักคุณแม่ครับ”

อวกาศเอาจดหมายขึ้นมาแนบอก  เรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับเขาไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้เป็นแม่เลย  ทุกอย่างในกล่องใบนี้อัดแน่นไปด้วยความรักและความห่วงใยที่เสียงพิณมีให้กับเขาตลอดมา

และมันจะมีอยู่ตลอดไป…

 

จักรวาลค่อยๆเปิดกล่องออกดูสิ่งที่อยู่ข้างใน  รอยเท้าและรอยมือของเด็กแรกเกิดที่ถูกทำใส่กรอบไว้อย่างดีถูกใส่ไว้นั้น  ที่กรอบเขียนชื่อเอาไว้ว่า ‘จักรวาลผู้เป็นที่รักยิ่ง’ ร่างสูงหยิบมันขึ้นมาดู  นัยน์ตาสั่นระริกคิดย้อนถึงความทรงจำเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก

 

‘คุณแม่ครับ  นี่อะไรเหรอครับ  เหมือนมือกับเท้าเลย’

จักรวาลสมัยอนุบาลตะโกนถามเสียงพิณที่กำลังปอกผลไม้เตรียมของว่างให้อยู่ในครัว  เธอรีบละจากสิ่งที่ทำวิ่งออกมาหาลูกชายที่กำลังให้ความสนใจกับรอยปั๊มเท้าและมือของตัวเองในวัยแรกเกิดอยู่

‘รอยเท้ากับรอยมือของจักรวาลไงคะ  แม่กับคุณพ่อทำเอาไว้ให้เอง’

‘แต่มันเล็กกว่ามือกับเท้าผมตั้งเยอะเลยนะครับ’

เด็กน้อยยังคงไม่เข้าใจ  แนบฝ่ามือของตัวเองลงบนฝ่ามือตรงรอยปั๊ม  ทว่ามันกลับเล็กกว่าขนาดจริงในตอนนี้หลายเท่า  เสียงพิณเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มเอ็นดู  ทิ้งตัวนั่งยองๆลงข้างลูกชายแล้วอธิบายให้ฟัง

‘เพราะตอนนั้นจักรวาลเพิ่งเกิดยังไงล่ะคะ  ลูกตัวเล็กกว่าแขนของแม่อีกนะ  แต่พอวันเวลาผ่านไป  จักรวาลตัวน้อยของแม่ก็เติบใหญ่  ไม่แปลกทีขนาดมือและเท้าของลูกจะไม่เท่าเดิมค่ะ’

‘งั้นผมจะมีโอกาสมือใหญ่เท่าของคุณแม่ไหมครับ’

เด็กน้อยถามต่อพร้อมกับเอามือของเสียงพิณขึ้นมาทาบกับมือของตนเอง  แน่นอนว่ามือของจักรวาลย่อมเล็กกว่าอยู่แล้ว

‘มีสิคะ  แต่ว่า…ไม่ว่าสักวันมือนี้จะใหญ่กว่ามือของแม่หรือไม่ก็ตาม  สองมือคู่นี้ของแม่  ก็จะคอยดูแลและปกป้องจักรวาลตลอดไปนะคะ’

‘ครับ!’

 

“ยังอยู่อีกเหรอเนี่ย…”

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองฟ้าเพื่อกลั้นน้ำตาก่อนจะหยิบอีกสิ่งที่ถูกเก็บไว้ในกล่องออกมาดูต่อ  มีสมุดพกรายงานผลการเรียนของเขาตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงม.6 เทอมหนึ่ง  ทุกเล่มถูกเก็บไว้ถุงพลาสติกเอาไว้อย่างดี   นอกจากนั้นก็ยังมีสมุดบันทึกเล่มใหญ่แต่เริ่มเก่าไปตามวันเวลาคืออีกสิ่งที่ถูกเก็บเอาไว้อีกด้วย  เขาหยิบมันขึ้นมาเปิดออกดู

“นี่มัน…”

จักรวาลยกมือขึ้นอุดปากพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นทาง  สมุดบันทึกเล่มใหญ่มีรูปของเขาตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนอนุบาลติดเอาไว้มากมาย  พร้อมทั้งวันเวลาที่รูปนี้ถูกถ่ายและข้อความเล็กๆน้อยๆจากเสียงพิณ  แต่ละรูปเป็นรูปถูกแอบถ่ายทั้งสิ้น  เขาเปิดไล่ไปทีละหน้าจนถึงรูปสุดท้าย  เป็นรูปที่เขากำลังเดินกลับบ้านกับกวินทร์ในช่วงไม่กี่วันก่อนจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น

พรึ่บ…

เปิดมาจนถึงหน้าสุดท้ายของสมุดบันทึก  มีจดหมายถึงจักรวาลถูกเขียนเอาไว้ในหน้าที่สุดท้ายพอดี

 

‘ถึงจักรวาลลูกรัก

ที่ผ่านมาลูกคงเจ็บปวดและเสียใจมาตลอดเรื่องที่ต้องปิดบังความจริงที่ตัวเองไม่ใช่ลูกของแม่เอาไว้ใช่ไหมคะ?’

 

จักวาลเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่ออ่านประโยคแรกจบ  หมายความว่าเสียงพิณรู้มาตลอดว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของเธอ!

 

‘แม่เองก็ต้องขอโทษลูกด้วยที่ไม่เคยบอกเรื่องที่แม่รู้มาตลอดว่าจักรวาลไม่ใช่ลูกแท้ๆ  แต่ทั้งหมดเป็นเพราะว่าแม่กลัว  แม่กลัวว่าถ้าแม่บอกไปว่ารู้เรื่องแล้วลูกจะทิ้งแม่ไป  สำหรับแม่…วินาทีแรกที่ลูกรับเอาน้ำนมจากอกไป  วินาทีนั้นลูกคือลูกของแม่  แม่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะรักและดูแลลูกอย่างดีที่สุด  แม่ถึงต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องทั้งที่ความจริงแม่รู้ว่าตัวเองแท้งตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว  ไม่มีหมอคนไหนปิดบังความจริงกับคนไข้ได้ทั้งนั้น  แต่เพราะคุณพ่อพยายามเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้แม่ต้องเสียใจ  แม่ถึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ต่อไป  จนเมื่อคุณพ่ออุ้มเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังเข้ามาหาแม่เพื่อให้แม่ให้นมเขา  แม่บอกกับตัวเองว่าแม่จะเป็นแม่ให้เด็กคนนี้  ไม่ว่ายังไงเด็กคนนี้ก็คือลูกของแม่  นี่จะเป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง’

 

“คุณแม่…”

น้ำตาหยดแล้วหยดเล่ารินไหลออกมา  เขาหลงคิดมาตลอดว่าความรักที่ได้รับจากเสียงพิณนั้นเป็นเพราะเธอคิดว่าเขาคือลูกแท้ๆ  หากวันใดที่เธอรู้ความจริง  ความรักที่เขาเคยได้รับคงจะสลายหายไปในพริบตา  มันคือความเจ็บปวดและความหวาดกลัวที่เกาะกินจิตใจของเขามาตลอดสามสิบห้าปี…  ไม่เคยคิดเลยว่าเสียงพิณจะรู้ความจริงทั้งหมดอยู่ก่อนแล้ว  หมายความว่าความรักความใส่ใจทั้งหมดที่เขาได้รับมาตลอดเป็นความรักจากหัวใจของเธอที่ตั้งใจมอบมันให้กับเขาจริงๆ

เขาได้รับความรักจากเธอในฐานะแม่จริงๆไม่ใช่เพียงภาพลวงตาที่เขาเฝ้าฝันถึง…

 

‘แต่เมื่อลูกโตมา  จากเด็กที่คอยอ้อนมาตลอดก็เลยห่างเหิน  นั่นคงเป็นเพราะลูกได้รู้ความจริงเรื่องสายเลือดของตัวเองแล้วเลยเกิดความรู้สึกต้อยต่ำขึ้นมา  จักรวาลไม่เคยให้แม่ไปหาที่โรงเรียนอีกเลยเวลามีกิจกรรมอะไร  แม่เลยต้องแอบไปแล้วถ่ายรูปลูกเก็บเอาไว้  แม้จะอยู่กันคนละที่แม่ก็ยังจ้างนักสืบให้คอยแอบถ่ายรูปลูกส่งมาให้  เพราะสำหรับแม่  ไม่ว่ายังไงจักรวาลก็คือลูกชายคนแรกอยู่ดี  ขอให้จำเรื่องนี้เอาไว้  ลูกไม่เคยเป็นคนอื่นสำหรับแม่  ไม่ใช่สายเลือดข้ารับใช้อะไรทั้งนั้น  แต่ลูกคือลูกของแม่เสียงพิณกับพ่อไกรเทพ  คือจักรวาล  อสังหา  ทายาทคนแรกของตระกูล  มันคือความจริงที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงนะคะ

เมื่อลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้แปลว่าเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดคงจบลงไปแล้ว  ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนแม่ก็หวังว่ามันจะมาจากความร่วมมือของพวกลูกสามคนพี่น้อง  อวกาศ…กาลเวลา  ทั้งสองคนคือน้องชายของลูกนะ  แม่ขอฝากน้องๆด้วย  ถึงยังไงแม่ก็เชื่อว่าจักรวาลจะเป็นพี่ชายที่ดีและชี้นำสิ่งที่ถูกต้องให้กับพวกเขาได้  อย่าจมปลักอยู่กับคำว่าสายเลือดที่แท้จริงอีกต่อไป  จำเอาไว้ว่าลูกคือ…จักรวาล  อสังหา  ลูกชายคนโตสุดที่รักของแม่ค่ะ’

 

รอยยิ้มจากหัวใจของจักรวาลปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก  ราวกับว่าหินก้อนใหญ่ที่เคยถ่วงหัวใจของเขาเอาไว้ถูกยกออก  เขามองเลยไปทางอวกาศที่กำลังอ่านอะไรบางอย่างคล้ายจดหมายอยู่ตรงบันได  ก่อนจะเลื่อนสายตาต่อไปทางไทม์ที่กำลังเปิดกล่องของตัวเองออกดูเช่นกัน

“น้องชายเหรอครับ  เจ้าอวกาศก็พอจะใช่อยู่หรอก  แต่ว่าอีกคน…”

เขาอมยิ้มกับตัวเอง  จู่ๆก็รู้สึกเคอะเขินขึ้นมาเมื่อต้องพูดกับจดหมายของแม่แบบนี้

“ดูท่าผมคงทำตามสิ่งที่คุณแม่ต้องการไม่ได้ทั้งหมดแน่ๆ  เพราะกับเด็กคนนั้น…ให้เป็นแค่น้องชายคงไม่ได้จริงๆ  ที่อดทนอยู่ทุกวันนี้ก็แทบตายแล้วล่ะครับ”

จะให้กลับไปเป็นแค่พี่ชายคอยปกป้องน้องชายงั้นเหรอ…

เขาไม่มีความอดทนสูงถึงขั้นจะย้อนเวลากลับไปอยู่ในฐานะนั้นอีกแล้ว

 

ผมเปิดกล่องของตัวเองออกด้วยความลุ้นระทึก  แม่เสียงพิณฝากอะไรไว้ให้ผมกันนะ  หรือจะเป็นสมุดบัญชีเงินฝากมูลค้าหลายร้อยล้าน?

ไม่สิ  ผมไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้นสักหน่อย

“หือ?”

ข้างในมีเพียงไดอารี่สีฟ้าอ่อนเล่มเดียวเท่านั้น  ที่หน้าปกเขียนเอาไว้ว่า ‘ไดอารี่ลูกรัก’  พอเปิดหน้าแรกออกมาน้ำตาผมแทบร่วง  มันคือรูปถ่ายที่มีผู้หญิงหน้าตาสวยหวานคนหนึ่งที่ผมคิดว่าจะต้องเป็นแม่เสียงพิณแน่ๆ  และที่กอดแม่เสียงพิณอยู่ก็คงจะเป็นพ่อไกรเทพ  ข้างๆก็คือพี่อวกาศในวัยเด็ก  และคุณจักรวาลที่น่าจะเรียนอยู่มัธยมปลาย  โดยที่ท้องของแม่นูนขึ้นจากการตั้งครรภ์  อีกทั้งในมือของแม่ยังมี…

“ผลอัลตราซาวด์?”

ระ…หรือว่า…รูปของผม!

น้ำตาค่อยๆไหลออกมา  เพราะพ่อกับแม่เสียไปโดยที่ผมไม่เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกับพวกท่านเลยสักคน  เลยคิดว่าคงไม่มีวันได้มีรูปถ่ายร่วมกับพวกท่านแน่ๆ  แต่ว่ารูปนี้…แม้ว่าผมจะไม่เกิดมาแต่รูปของเด็กที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างจากผลอัลตราซาวด์นั้นคือผมไม่ผิดแน่ๆ

รูปถ่ายครอบครัวของผม…

ผมเองก็เคยได้ถ่ายรูปกับพ่อและแม่เหมือนกันสินะ

“ฮึก…”

ไล่เปิดหน้าต่อไป  เป็นรูปแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ที่มีผลออกมาว่ากำลังท้อง  แม่เสียงพิณใช้สก๊อตเทปอย่างดีแปะยึดมันเอาไว้กับไดอารี่พร้อมข้อความประกอบที่เขียนว่า ‘ยินดีต้อนรับลูกรักของแม่  แม่รอที่จะเห็นหน้าลูกไม่ไหวแล้วนะคะ’

หน้าต่อๆไปยังคงเป็นรูปของแม่เสียงพิณขณะตั้งท้องผมในอิริยาบถต่างๆ  มีรูปที่พี่อวกาศกำลังเอาหูแนบกับท้องของแม่เพื่อฟังเสียงผมที่อยู่ในท้องด้วย  แถมยังมีรูปตอนพ่อไกรเทพไม่สบาย  แม่เขียนข้อความบรรยายไว้ว่าพ่อแพ้ท้องแทนแม่เลยอาเจียนจนหมดแรง  แต่ละรูปที่ถูกติดเอาไว้ประกอบไดอารี่มีแต่รูปที่ทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุขทั้งนั้น

 

‘ทุกคนต่างก็มีความสุขเพราะรู้ว่าอีกไม่นานจะได้พบหน้าลูกแล้ว’

 

ประโยคหนึ่งใต้รูปที่ทั้งสี่คนถ่ายด้วยกันอย่างยิ้มแย้มสร้างความสุขให้เกิดขึ้นมาในใจ  ผมเคยคิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของอสังหาเพราะไม่เคยได้ใช้ชีวิตกับใครมาก่อนเลย  แต่พอได้มาเห็นรูปภาพพวกนี้  แม่เสียงพิณที่มีผมอยู่ในท้องทำกิจกรรมหลายอย่างร่วมกับทุกคน  มันให้ความรู้สึกเหมือนตัวผมเองก็ได้ทำสิ่งนั้นกับทุกคนเช่นกัน

ความรักที่แม่เสียงพิณมีให้ถูกถ่ายทอดออกมเป็นเรื่องราวผ่านไดอารี่เล่มนี้  อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่เคยคิดว่าถึงจะมีคนอื่นเป็นแม่แทนแม่เสียงพิณก็ไม่เป็นไร  เพราะผมไม่เคยมีโอกาสได้อยู่กับท่าน  เลยคิดเอาเองว่าคงไม่ผิด  แต่มันไม่ใช่เลย…  ความจริงแล้วผมมีโอกาสได้อยู่กับแม่ตั้งเก้าเดือน  เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้องและเอาใจใส่ผมด้วยความรัก

ผมขอโทษ…

ผมขอโทษที่เคยมองข้ามความรักข้อนี้ของแม่ไป  ขอโทษที่เอาแต่จมอยู่กับแม่ที่เลี้ยงผมจนโตเท่านั้น  ทั้งที่แม่เสียงพิณให้ชีวิตกับผม  และเฝ้ารอที่จะได้เห็นผมมาตลอดเก้าเดือน…

 

‘กาลเวลา…รู้ไหมคะว่าทำไมแม่ถึงตั้งชื่อลูกว่ากาลเวลา  เพราะแม่เชื่อมั่น  ว่าลูกจะต้องเป็นคนที่พัดเอาช่วงเวลาเลวร้ายออกไปจากทุกคน  และนำเอาช่วงเวลาที่แสนวิเศษกลับคืนมาอีกครั้ง  เก้าเดือนที่แม่รอคอยที่จะได้พบหน้าลูก  เป็นเก้าเดือนที่มหัศจรรย์ที่สุดสำหรับทุกคน  ทั้งคุณพ่อ  ทั้งแม่  พี่จักรวาล  และพี่อวกาศ   ทุกคนรอการมาของลูกอยู่นะคะ

สุดท้ายนี้…แม่อยากให้ลูกจำเอาไว้อย่างหนึ่งว่า  ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน  ครอบครัวก็คือครอบครัว  ความรักที่ทุกคนมีให้กับลูกจะเป็นเหมือนเกราะคอยปกป้องและคุ้มครองลูกให้ปลอดภัย  ขอให้เชื่อในความรักที่พวกเรามีให้กับลูกด้วยนะคะ  ชาตินี้แม่อาจจะบุญน้อยที่มีโอกาสเพียงแค่อุ้มท้องและคลอดลูกออกมาเท่านั้น  แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม  กาลเวลา…แม่จะรักและดูแลลูกต่อไป  แม้ร่างกายจะสลาย  แต่ความรักที่แม่กับคุณพ่อมีให้ลูกจะทำหน้าที่ดูแลลูกตลอดไป

ขอบคุณนะคะที่เกิดมา…

ขอบคุณที่ให้โอกาสแม่ได้เป็นแม่ของลูก…

วันที่ลูกเกิดมา…คือวันที่มีค่ามากที่สุดในโลกใบนี้

รัก…แม่เสียงพิณ

 

“วันที่มีค่าที่สุด   งั้นเหรอ…”

ผมเชื่อแล้วครับ  เชื่อในความรักของทุกคนในอสังหาที่มีให้กับผมแล้ว  เชื่อโดยไม่มีข้อแม้ใด…

“ผมจะไม่หนีจากอสังหาอีกแล้ว  จะไม่หนีจากสายเลือดของตัวเองและทุกคนในอสังหาอีก  ขอบคุณมากนะครับที่ทำให้ผมรู้ว่าผมมีค่ากับคนที่นี่มากแค่ไหน”

ของฝากจากแม่เสียงพิณ…

ของขวัญที่ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าจากนี้จะมีชีวิตต่อไปเพื่อใคร…

ผม  พี่อวกาศ  และคุณจักรวาลต่างก็เงยหน้ามองกันจากจุดที่นั่งของตัวเอง  ใบหน้าที่ผ่านการร้องไห้มาจองแต่ละคนมันดูออกได้ไม่ยากเลยว่าสิ่งที่ได้รับจากแม่เสียงพิณวิเศษแค่ไหน

พวกเรามองหน้ากันไปมาก่อนจะค่อยๆยิ้มให้กัน

ยิ้ม…จากหัวใจ

 

“ในที่สุดผมก็นึกออก  ตอนเห็นรูปแม่ในไดอารี่ก็คิดอยู่นานว่าคุ้นๆ  ที่แท้ก็คือคนๆเดียวกับรูปของผู้หญิงที่ผมเห็นในบ้านหลังนั้นคืนวันที่คุณจักรวาลพาผมไปตอนรู้ข่าวเรื่องอาจารย์มารีอาเสียชีวิต  จำได้หรือเปล่าครับ?”

หันไปถามร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ  มิน่าล่ะวันนั้นผมถึงน้ำตาไหลออกมา  คงเพราะสายสัมพันธ์แม่ลูกที่มีทำให้ผมรู้สึกโหยหาผู้หญิงที่อยู่ในรูปจนร้องไห้

“นายเห็นรูปนั้นด้วยเหรอ?”

“ต้องขอโทษนะครับที่ถือวิสาสะค้นนู้นคนนี้  แต่ผมไม่รู้จำอะไรจริงๆเพราะตอนนั้นคุณเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องอย่างเดียวเลย”

“ช่างเถอะ  ยังไงสักวันนายก็ต้องรู้อยู่แล้ว  จะช้าหรือเร็วก็ต้องเห็นอยู่ดี”

“นั่นสินะครับ”

ผมและคุณจักรวาลยกมือไหว้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะหันมายิ้มให้กันอย่างมีความสุข

“พี่!  ไทม์!  ถ้าชักช้าเดี๋ยวจะทิ้งไว้จริงๆแล้วนะ”

พี่อวกาศตะโกนเรียกจากตรงทางเข้า  ไอ้เฟี้ยวที่ยืนอยู่ข้างๆเขารีบพุ่งเข้าไปอุดปากเอาไว้เพราะสถานที่นี้ไม่สมจะใช้เสียงดัง

“ไปกันเถอะครับ”

ยื่นมือไปทางร่างสูง  เขาก้มมองมือของผมเล็กน้อยก่อนจะส่งมือมาให้  เราเดินจับมือกันไปหาพี่อวกาศที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของไอ้เฟี้ยวอย่างน่าสงสาร

 

ภายในวัดสำหรับที่เก็บโกศอันเงียบสงบ  ตรงมุมที่เคยมีเพียงโกศของ ‘นายไกรเทพ อสังหา’  บัดนี้มีโกศของ ‘นางเสียงพิณ  อสังหา’  ‘นางสายทอง  อสังหา’  ‘นายกวินทร์  อสังหา’  และ ‘นางสาวมารีอา  อสังหา’  เพิ่มเข้ามาอีก…

 

‘พ่อ  แม่  คุณอาสายทอง  คุณกวินทร์  และอาจารย์มารีอา  หวังว่าคงจะได้พบกันแล้วนะครับ  ช่วยมองดูพวกเราจากบนฟ้าตลอดไปด้วยนะ  ถ้าทุกคนได้พบกันแล้วยิ้มให้กันได้เหมือนในวันวานคงจะดีไม่น้อยเลย  ผมเอง…ก็จะพยายามนะครับ  ขอบคุณมากๆที่ให้ผมได้เกิดมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลอสังหา  สักวันเราคงได้พบกัน  พบกันในที่ที่ไกลแสนไกล…’

 

“มัวยืนเหม่ออะไรอีกวะไอ้ไทม์  ไปเร็วเข้า!”

“อื้อๆ”

ผมหันไปตอบรับไอ้เฟี้ยวที่เปิดกระจกรถออกมาตะโกนเรียกผมอีกครั้ง

“ไว้ผมจะมาหาใหม่นะครับ…ทุกคน”

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพแล้วจ้า  ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่เสมอจริงๆ  เรื่องไดอารี่ลูกรักที่เอามาเขียนนั้นเพราะส่วนตัวบิวทำไว้ให้ลูกชายเหมือนกันค่ะ 555+  เริ่มตั้งแต่แผ่นตรวจการตั้งครรภ์หน้าแรกเหมือนของน้องไทม์เลย =///////=  กะว่าจะให้เขาตอนอายุสิบแปดแหละ!  ในที่สุดอสังหาที่ลาลับไปแล้วทุกคนก็ได้มาอยู่รวมกันสักที  ถ้าพวกเขาได้พบและยิ้มให้กันเหมือนที่น้องไทม์หวังเอาไว้คงจะดีเนอะ  ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายก่อนจะบทส่งท้ายแล้วนะคะ  จักรวาลจะมาพบกับนักอ่านเองเลยนะบอกก่อน!  ซึ่งหลังจากบทส่งท้ายจบลงจะมีตอนพิเศษให้ 1 ตอน คือ “วันจบการศึกษา” ของน้องไทม์กับเฟี้ยวนะคะ  จะเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นต้องตามอ่านค่า

ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดน้า  ใจหายจริงๆนั่นแหละ  จะจบแล้วววว TT^TT

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนนี้อ่านแล้ว น้ำตาไหล :sad4:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 48

หมาน้อยยั่วสวาท?

 

“โย่! มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียววะ”

ผมเดินเข้าไปตบบ่าไอ้เฟี้ยวที่กำลังนั่งจ๋องเหม่ออยู่แถวๆจุดที่ขุดไทม์แคปซูลขึ้นมา  มันหันมามองเล็กน้อยก่อนจะขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไร

“กูกำลังสงสัยว่า…ทำไมกูถึงเอารูปไอ้อวกาศฝังลงไปในไทม์แคปซูล”

“นั่นไม่ใช่เพราะมึงชอบพี่กูหรือไง”

“มึงจะบ้าเรอะ  กูเพิ่งอายุกี่ขวบเองฟะ  จะไปมีความรู้สึกรักชอบแบบนั้นได้ยังไง  อีกอย่าง…เหมือนกูลืมอะไรบางอย่างไป  แต่นึกเท่าไหร่แม่งก็นึกไม่ออก!”

“ลืมอะไรวะ”

“ถ้ากูรู้ว่าลืมอะไรแล้วมันจะเรียกว่าลืมเหรอฮะ”

มันมองค้อน  ก่อนจะนั่งจ้วงถอนหญ้าในสนามต่อไป  อีกไม่กี่วันพวกผมก็จะสอบปลายภาคกันแล้ว  นั่นหมายความว่าพวกเราทั้งสองคนกำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย  ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำความฝันของตัวเองที่ตั้งใจไว้

“ว่าแต่  มึงเลือกมหา’ลัยที่ไหนไว้บ้างวะ”

“เชียงรายน่ะ  กูว่าที่นั่นบรรยากาศดี  เมืองก็น่าอยู่  ถ้าสอบติดก็อยากจะไปเริ่มต้นใหม่ที่นั่นแหละนะ  มึงล่ะ  มั่นใจหรือเปล่าเรื่องสอบชิงทุนไปเยอรมัน”

“ก็ยังเกร็งๆอยู่บ้างล่ะ  แต่กูจะพยายามทำให้เต็มที่  ถ้าได้ทุนนี้  กูก็จะสามารถเรียนจบได้โดยไม่ต้องใช้เงินของตระกูลเลยสักบาท  น่าภูมิใจจะตาย”

ว่าแล้วก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างมัน  อีกไม่นานช่วงเวลาที่จะได้พูดคุยกันอย่างนี้กับไอ้เฟี้ยวก็จะไม่มีอีกแล้ว  เราต่างต้องแยกย้ายกันเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า

พอคิดแบบนั้นแล้ว…มันอดใจหายไม่ได้จริงๆ

“ไอ้ไทม์  ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  เรื่องคำตอบที่กูสารภาพรักกับมึงไป  กู…ขอฟังมันตอนนี้เลยได้ไหม”

“อะ…อะ..อะ,,,อะ…อะ…อะไรวะ!”

“อะมึงจะเยอะไปไหม”

“ทำไมจู่ๆถึงอยากฟังล่ะ!  กูยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ!”

“มึงต้องเตรียมใจเหี้ยอะไร  มันต้องกูสิที่ต้องเตรียมใจโดนมึงปฏิเสธ”

“เรื่องนั้นมันก็ใช่  แต่ว่า…อ๊ะ!”

ยกมือขึ้นอุดปากแทบไม่ทัน  ตอบรับไปแบบนั้นก็แสดงว่าผมตั้งใจจะปฏิเสธมันน่ะสิ!  แม้ว่ามันจะเป็นคำตอบที่คิดไว้แต่แรก  แต่ผมตั้งใจว่าจะค่อยๆตะล่อมตอบมันแบบอ้อมค้อมที่สุดนะ  ไม่ใช่หักดิบตรงประเด็นเลยแบบนี้!

“อ่า…แปลว่ากูอกหักจริงๆแล้วสินะเนี่ย”

“ไอ้เฟี้ยว  คือกู…”

“รู้ไหม  เหตุผลที่กูแกล้งมึงก่อนหน้านี้  ความจริงไอ้จักรวาลก็มีส่วนทำให้กูหมั่นไส้มึงไปด้วยเพราะตอนนั้นกูยังไม่รู้ความจริงว่าทำไมมันถึงถอนหมั้นพี่  แต่ว่า…เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำกูเบนเข็มไปที่มึงแทนก็คือ…กูเกลียดพวกขี้แพ้”

“หา?”

“มึงในตอนนั้น  ทั้งที่ถูกคนอื่นรังเกียจตั้งมากมาย  โดนนินทาว่าร้ายสารพัด  แต่มึงก็ยังนิ่ง  นัยน์ตาที่เหมือนไม่สนใจใครบนโลกนี้เลยทำให้กูรู้สึกว่าถ้าทำให้คนที่มีแววตาแบบนั้นร้องไห้ได้จะสนุกแค่ไหน  หลังจากนั้นกูก็ตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้มึงร้องไห้  แต่ไม่ว่าจะทำอะไร  มึงก็ไม่ยอมร้องไห้หรือ้อนวอนขอให้ใครช่วยเลย  ทั้งที่ไม่ขอให้ใครช่วย  ไม่แสดงความอ่อนแอออกมา  แต่ก็ไม่ยอมสู้กลับเหมือนกัน  นิสัยแบบนั้นคงมึงยิ่งทำให้กูหงุดหงิด  จนกระทั่ง…วันที่มึงฟิวส์ขาดมาประกาศสงครามกับกูนั่นแหละ  ลูกเตะของมึงเหมือนลูกดอกที่ปักเข้ากลางใจกูเลย   รู้ตัวอีกก็เอาแต่ตามมึงต้อยๆจนเรื่องทุกอย่างลงเอยแบบนี้ไปแล้ว”

“อ่า…งั้นเหรอ”

นั่นคือเหตุผลที่ทำให้มันชอบผมเหรอเนี่ย  หลงใหลในลูกเตะอ่ะนะ!

“โอเค!  เท่านี้กูแยกกับมึงได้อย่างสบายใจไม่มีอะไรติดค้างแล้ว  ได้บอกเหตุผลที่รังแกมึง รวมถึงเหตุผลที่ชอบมึง  แล้วยังได้คำตอบจากมึงอีก  เพราะงั้น…ต่อไปจะเป็นคำตอบของกูบ้าง  ที่มึงเคยขอกูเป็นเพื่อนในวันนั้นน่ะ  กูตกลง”

“…”

“เป็นเพื่อนกันเถอะ”

ไอ้เฟี้ยวยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นมือมาให้  ผมพยักหน้ารับด้วยความดีใจ  ยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับมันด้วยความปลาบปลื้ม  แม้จะเป็นมากกว่าเพื่อนไปไม่ได้  แต่สำหรับผม…เพื่อนเบอร์หนึ่งในใจก็มีแค่มันนี่แหละ!

“จะว่าไป…กูขอถามอะไรติดเรทนิดหนึ่งได้ป่ะ?”

“อะ…อะไรวะ…”

“มึงกับไอ้จักรวาล…ได้กันหรือยัง”

“เย้ย!  มึงถามอะไรเนี่ย”

ผละตัวออกห่าง  รับรู้ได้ถึงไอร้อนที่แผ่กระจายออกมาจากใบหน้า

“อย่าบอกนะว่าจนถึงขนาดนั้นแล้วมึงกับมันก็ยังไม่ได้กันน่ะ?”

“อะ…อือ!  คุณจักรวาลบอกว่าจะรออีกสองปี  ให้กูบรรลุนิติภาวะก่อน”

“ไม่อยากจะเชื่อ  แบบนี้ก็น่าสงสารมันแย่”

ไอ้เฟี้ยวส่ายหน้าไปมา  ท่าทางของมันดูราวกับกำลังสงสารคุณจักรวาลจับใจจริงๆ  ดะ…เดี๋ยวสิ  สงสารเรื่องอะไร  คุณจักรวาลของผมเป็นอะไรทำไมมันถึงต้องสงสารล่ะ!

“มึงหมายความว่าไงไอ้เฟี้ยว”

“เห็นแก่ความเป็นเพื่อน  ในฐานะที่กูเองก็มีความรู้สึกติดเรทกับมึงพอสมควรมึงกัน  กูย่อมเข้าใจความรู้สึกของไอ้จักรวาลดีกว่าใคร  มันอายุสามสิบห้าแล้วนะ  แก่จนจะเป็นลุงของมึงกับกูได้เลยด้วย  มึงคิดว่าคนที่อยู่มานานแบบนั้น  ได้มาอยู่ใกล้กับคนที่รักชอบกันอย่างมึงทุกวัน  มีเหรอวะที่มันจะไม่อยากทำเรื่องอย่างว่าด้วย”

“ตะ…แต่ว่าเขาเป็นคนบอกกูเองนะ…”

“เพราะมันให้ความสำคัญกับมึงไง  แล้วทั้งๆที่มันให้ความสำคัญกับมึงขนาดนั้น  มึงเองก็ควรให้ความสำคัญกับมันเหมือนกัน  จะเอาแต่รับอย่างเดียวไม่ได้”

“ยังไงวะ”

“เอาหูมานี่  กูจะบอกให้ว่าต้องทำไง  รับรองว่าไอ้จักรวาลจะโคตรมีความสุข  มันจะรักมึงหลงมึงคนเดียวและไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากมึงแน่นอน  กูฟันธง!”

“จริงเหรอ!”

ผมยิ้มอย่างมีความหวัง  เอียงหูเข้าหาไอ้เฟี้ยวเพื่อฟังคำแนะนำทั้งหมดของมัน  ถะ…ถึงมันจะดูยากและน่าอายไปสักนิด  แต่ถ้าเพื่อคุณจักรวาลล่ะก็…

ไอ้ไทม์สู้ตาย!!!

 

Special part :

“พี่!  พี่รู้หรือยังเรื่องที่เฟี้ยวของผมจะเลือกเรียนต่อที่มหา’ลัยในเชียงรายน่ะ!”

อวกาศพุ่งเข้ามาเขย่าแขนผมอย่างโอดครวญถึงในห้องทำงานเมื่อได้รับข่าวร้ายมาว่าเจ้าเฟี้ยวของมันจะไปเรียนต่อมหา’ลัยที่จังหวัดอื่น

อย่าว่าแต่ของมันเลย  หมาน้อยของผมเองยังเลือกสอบชิงทุนไปถึงเยอรมัน!

ใครกันแน่ที่น่าสงสารมากกว่ากัน

“มันเป็นอนาคตของหมอนั่นนะ  นายเลิกโวยวายแล้วหัดทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่เสียมั่งสิ”

“แต่ผมไม่อยากอยู่ให้เฟี้ยวนี่!  ผมต้องขาดใจแน่ๆถ้าไม่ได้เห็นหน้าตาน่ารักๆของเขา”

“น่ารักงั้นเหรอ  วันๆเห็นเอาแต่ทำตาขวางใส่คนทั้งโลก  นายยังมองว่าน่ารักได้อีกเลย”

“น่ารักสำหรับผมแล้วกัน!  พี่อ่ะ  ช่วยคิดหน่อยสิว่าผมควรทำไงดี  ขืนแยกกันแบบนี้แล้วถ้าเกิดมีคนมาจีบเฟี้ยวล่ะ  ผมจะทำยังไง”

“นายกับหมอนั่นยังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ  ถ้ามีคนมาจีบแล้วเฟี้ยวเกิดชอบพอจนตกลงคบกันจริงๆมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาไม่ใช่หรือไง”

“ไม่มีทาง!  ผมจะส่งมือปืนไปเก็บทุกคนที่คิดจีบเมียผมเลยคอยดู!”

“จะเอาหมอนั่นทำเมียมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ  พยศเสียขนาดนั้น”

“พยศแบบนี้แหละถึงจะมีรสชาติ”

ผมส่ายหน้าระอากับความบ้าอันล้นเหลือของอวกาศ  นับวันมันจะยิ่งหลงเจ้าเฟี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆจนกู่ไม่กลับ  หายใจเข้าออกก็มีแต่เด็กคนนั้น…

ไม่สิ  ผมไม่มีสิทธิ์ไปว่ามัน  ตัวผมเองก็หลงเด็กจนโงหัวไม่ขึ้นอยู่เหมือนกัน

แค่คิดว่าต้องรออีกตั้งสองปีก็แทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว  กลิ่นของหมาน้อยเวลาที่ได้นอนใกล้กันทำเอาผมเกือบขาดสติจับกดทำเมียให้รู้แล้วรู้รอดไปตั้งหลายครั้ง  ดีที่ยังยั้งชั่งใจไว้ได้  ไม่งั้นคงกลายเป็นตาลุงคลั่งเด็กโดยข้อหาพรากผู้เยาว์ชัวร์ๆ

“ฉันมีงานต้องเคลียร์  นายออกไปได้แล้ว  ในเมื่อไม่ได้คิดจะช่วยงานที่บริษัทเลยก็อย่ามาก่อกวนเวลาฉันทำงาน”

“เย็นชาที่สุดเลยอ่ะ  น้องชายสุดหล่อของพี่กำลังจะลงแดงเพราะเมียจะหนีไปที่อื่นนะ!”

ผมทำเป็นไม่สนใจแล้วเริ่มเคลียร์งานต่อทันที  อวกาศบ่นนู่นบนนี่ต่ออีกสักพักก็เดินกระทืบเท้าปึงปังอย่างขัดใจออกไป

ท่าทางจะยังมองโลกได้มากกว้างพอนะหมอนี่…

คงต้องให้เรียนรู้ด้วยตัวเองเสียบ้างแล้ว

 

นั่งทำงานต่ออีกจนมืดค่ำ  มองนาฬิกาอีกทีก็สามทุ่มแล้ว  ผมบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะเก็บเอกสารทั้งหมดเข้าที่เตรียมอาบน้ำพักผ่อน  พรุ่งนี้ที่บริษัทมีประชุมผู้ถือหุ้นแต่เช้า  ผมต้องเตรียมประกาศเรื่องที่จะให้อวกาศเข้ามารับตำแหน่งรองประธานต่อจากกวินทร์  รวมถึงเตรียมตัวเรื่องการเปิดพินัยกรรมที่จะมาถึงในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าด้วย

‘หมาน้อยจะนอนหรือยังนะ?’

คิดในใจก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป  ข้างในมืดสนิทและได้ยินแค่เสียงแอร์  พอชะโงกดูบนเตียงก็เห็นว่าตรงที่นอนฝั่งหมาน้อยเอาผ้าห่มคุมโปงเอาไว้  ผมยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลับสนิทดีแล้ว  เดินเลี่ยงไปทางห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำพักผ่อนบ้าง 

ใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กลับออกมา  ท่อนล่างพันผ้าขนหนูเอาไว้แค่ผืนเดียวส่วนบนหัวก็มีผ้าเช็ดผมผืนเล็กคลุมอยู่  ปกติหมาน้อยจะเอาชุดนอนแขวนไว้ให้นี่นา  วันนี้ไม่เห็นจะมี  หรือว่าลืม?  พอคิดแบบนั้นผมก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อจะหยิบชุดนอนมาใส่  ทว่ายังไม่ทันจะได้หยิบอะไรทั้งนั้น  ร่างกายท่อนบนก็ถูกกอดรัดจากด้านหลัง!

“หมาน้อย?”

ร้องเรียกไปอย่างตกใจเมื่อก้มดูมือของคนที่กำลังลูบไล้ร่างกายผมไปมาแล้วเห็นว่าเป็นมือของคนรัก  ก่อนจะต้องสะดุ้งเพราะแผ่นหลังถูกปลายลิ้นเล็กๆไล่เลีย!

“เดี๋ยวก่อน  นายจะทำ…”

คำถามยังออกจากปากไม่ทันครบ  ร่างเล็กๆที่ผมเฝ้าทะนุถนอมก็ออกแรงดันผมไปที่เตียงก่อนจะขึ้นคร่อมเอาไว้  ทันทีที่ได้เห็นคนตัวเล็กเต็มสองลูกตา  ผมแทบจะพุ่งหลาวออกทางหน้าต่างด้วยคิดว่าที่เห็นคือตัวปลอม!

“ไทม์!  ทำไมแต่งตัวแบบนี้”

เอ่ยถามพลางมองสภาพของหมาน้อยขึ้นลงอย่างตกใจ  ร่างเล็กขึ้นคร่อมนั่งทับเจ้ามังกรของผมเอาไว้แบบพอดิบพอดี  มันจะไม่น่าตกใจเท่าไหร่ถ้าหมาน้อยของผมในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีม่วงผืนเดียว!

ใช่ครับ  ได้ยินไม่ผิดหรอก  ผ้ากันเปื้อนผืนเดียวจริงๆ  หนำซ้ำยังไม่ใส่กางเกงในอีก…

“คุณจักรวาล…มาทำกันเถอะครับ”

“ทำ?  ทำอะไรของ…อุ้ก!”

เสียงขาดเป็นห้วงๆเมื่อเจ้าส่วนนั้นถูกปลุกเร้าด้วยเรือนร่างแสนหวานตรงหน้า  หมาน้อยบดขยี้มันด้วยบั้นท้ายของตัวเองที่นั่งทับเอาไว้  ร่อนเอวส่ายไปมาด้วยใบหน้าแดงก่ำและร่างกายที่สั่นนิดๆ

เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย  ทำไมจู่ๆหมาน้อยที่แสนน่ารักถึงกลายเป็นหมาน้อยยั่วสวาทไปได้!

“ทำให้ผมเป็นของคุณที  ผมอยากเป็นของคุณ”

ดวงตาหวานปรือมองผมอย่างยั่วยวน  สติแห่งผิดชอบชั่วดีเส้นสุดท้ายในใจเกือบจะขาดผึงไปเลยทีเดียว

“อย่ามาพูดบ้าๆนะ  นายตอนนี้ยังไม่สิบแปดเลยด้วยซ้ำ”

พยายามห้ามและดันตัวร่างเล็กออก  แต่อีกฝ่ายไม่ยอม  ทาบทับร่างกายลงมาลากลิ้นเลียไปทั่วแผงอกจนเผลอแอ่นตัวรับความวาบหวามนี้  ส่วนล่างถูกบดเน้นจนเริ่มตื่นตัวดีดผึงเข้ารอยแยกตรงกลางบั้นท้ายของหมาน้อยจนสะดุ้ง

ให้ตายสิ  ไปกินไวอาก้าจากไหนมาหรือไง  ขืนยังไม่เลิกยั่วกันแบบนี้มีหวังผมได้จับทำเมียก่อนอายุยี่สิบแน่ๆ!

“ชอบไหมครับ”

ยังมีหน้ามาถามอีก!

ถ้าไม่ติดว่ารักมากล่ะก็จะจับมาตีก้นแรงๆสักที  ทั้งทีตัวเองกำลังกลับจนตัวสั่นแต่ยังมาทำอวดเก่งยั่วยวนผมอยู่ได้  คิดว่าวัดความอดทนกันด้วยิวธีนี้หรือไง

“ผมน่ะ…โตแล้วนะ  อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะจบมัธยมแล้ว  เมื่อไหร่คุณจักรวาลจะเลิกมองผมเป็นแค่เด็กสักทีล่ะครับ  ที่บอกว่าจะรออีกสองปีเพราะผมในตอนนี้เด็กเกินไปใช่ไหม!”

“ไปกันใหญ่แล้วนะ”

“ถ้างั้นก็ทำสิ!”

“…”

“ทำกับผมแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน”

ผมชักจะโกรธจริงๆแล้วนะ!

หมับ!

ออกแรงแค่นิดเดียวผมก็สามารถพลิกสถานการณ์มาขึ้นคร่อมหมาน้อยได้แทน  ก้มลงมอบจูบที่เร่าร้อนกว่าทุกครั้งให้จนร่างเล็กต้องทุบอกเพื่อขออากาศหายใจ  ผมส่งลิ้นเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากนิ่มและดูดเอาลิ้นเล็กๆนั้นเข้ามาในปากของตัวเอง  บีบขย้ำหน้าอกอย่างรุนแรง  ใช้ปลายนิ้วบดขยี้ปลายยอดสีอ่อนจนคนใต้ร่างเริ่มส่งเสียงคราง

“อ่า…อ๊ะ!”

ถอนจูบออกแล้วสร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้ที่ลำคอขาว  จูบเน้นหนักไล้ไปตามจุดต่างๆของร่างกาย  ส่งฝ่ามือไปช่วยชักนำแกนกลางขนาดเล็กของหมาน้อยจนมันผงาดขึ้นมาสู้  ส่วนปลายชนเข้ากับส่วนปลายของมังกรผมพอดิบพอดี  รูดฝ่ามือขึ้นลงตามขนาดและความยาวที่ไม่มากเท่าไหร่  ครอบครองตุ่มไตสีสวยบนแผงอกเรียบด้วยริมฝีปาก  ระรัวลิ้นสร้างความรัญจวนชวนให้ขาดใจแก่ร่างเล็กนี้อย่างไม่รู้จบ

“อ๊ะ….อ๊า…”

เสียงครางยังคงดังอย่างต่อเนื่องขณะที่ผมเร่งความเร็วของมือ  หมาน้อยเผลอแอ่นสะโพกสวนกลับด้วยใบหน้าทรมาน  บ่งบอกว่าเขาต้องการมากกว่านี้  ต้องการไปถึงจุดสูงสุดในไม่ช้า…

“อื้อ!  คะ…คุณจักรวาล  ผม…ผม…อ๊า!!!”

ธารสีขาวขุ่นพุ่งกระจายออกมาเปื้อนเต็มมือ  ผมไม่รอให้ร่างเล็กได้พักหายใจ  จับหมาน้อยให้พลิกคว่ำลงโดยชันเข่าให้สะโพกโก่งขึ้นมา  สองมือบีบเค้นบั้นท้ายนั้นเต็มแรงก่อนจะใช้นิ้วปาดเอาน้ำแห่งความสุขทีทะลักออกมาจากตัวเขาเมื่อกี้มาลูบไล้ตรงทางเข้าสีหวานซึ่งไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน

“คะ…คุณจักรวาล  จะทำอะไรเหรอครับ!”

อีกฝ่ายถามเสียงสั่นพอๆกับร่างกาย  ผมหัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะตอบ

“จะทำให้นายกลายเป็นของฉันอย่างที่นายต้องการไง  ฉันจะทำมันเดี๋ยวนี้  และจะไม่มีทางหยุดเด็ดขาด”

แอบมองดูอีกฝ่ายที่หน้าเจื่อนไป  ผมใช้ปลายนิ้วชี้ลูบวนตรงปากทางปิดสนิทนั้นอีกครั้งก่อนจะฝังหน้าลงไป  ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก

“อ๊า!  คะ…คุณจักรวาล  อึก!”

การบีบรัดจากด้านในทำเอาเจ็บลิ้นไม่น้อย  ผมสอดมือเข้าไปด้านใต้เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ส่วนนั้นให้เจ้าของร่างนี้อีกครั้ง  เกร็งลิ้นระรัวเข้าออกจนทั่วทั้งห้องดังก้องไปด้วยเสียงครางหวานๆ

“อื้อ…อ๊า  ผม…ผม…”

“ผมอะไรล่ะ  นายต้องการไม่ใช่เหรอ  นี่ไง  ฉันกำลังจะทำตามที่นายต้องการแล้ว  ทำไมถึงได้เสียงสั่นตัวสั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้น”

หยุดการกระทำอันอุกอาจชั่วคราว  จับหมาน้อยที่ตัวสั่นอย่างน่าสงสารให้นอนหงายขึ้น  ใบหน้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา

อ่า…ไม่ได้  จะใจอ่อนไม่ได้!

“ฮึก…กะ…ก็มัน…นะ…น่ากลัวกว่าที่คิด”

ความจริงมันก็ไมได้น่ากลัวเท่าไหร่หรอกถ้าผมแทบแบบค่อยเป็นค่อยไปและอ่อนโยน  แต่เมื่อกี้แค่ทำเพราะอยากจะสั่งสอนเด็กที่คิดว่าตัวเองโตแล้วคนนี้ก็เท่านั้นเอง

“ถ้างั้นนายก็คงจะเข้าใจแล้วสินะ  ว่าตัวนายในตอนนี้  ยังไม่พร้อมที่จะมีเรื่องเซ็กส์เข้ามาข้องเกี่ยว”

“แต่…ไอ้เฟี้ยวบอกว่าถ้าผมทำแบบนี้  คุณจักรวาลจะมีความสุข  มันบอกให้ผมทำตัวเป็นหมาน้อยยั่วสวาทและพลีกายให้คุณดู  คุณจะต้องมีความสุขกว่าใครเพราะว่าคุณเองก็อยากมีอะไรกับผม”

คำสารภาพจากปากหมาน้อยเล่นวะผมอยากจะวิ่งไปห้องอวกาศแล้วลากไอ้จอมแสบอย่างเฟี้ยวออกมากระทืบให้ไส้ไหล  แบบนี้เขาไม่เรียกคำแนะนำเพื่อผมแล้ว!  มันจงใจจะแกล้งให้ผมคลั่งตายชัดๆ  แสบนักนะไอ้หมอนี่  ดีล่ะ  เห็นทีผมคงต้องจัดการสั่งสอนมันเสียบ้างแล้ว

หมับ…

ผมจับขาหมาน้อยข้างหนึ่งแล้วยกขึ้นสูง  จรดริฝีปากไล่จูบตั้งแต่ปลายนิ้วเท้ามาจนถึงต้นขาเรียวเล็กน่ากัดให้จมเขี้ยว

“ฟังนะ  นายน่ะ…ค่อยๆเติบโตไปก็ดีอยู่แล้ว  ไม่ต้องมากังวลว่าฉันจะคิดยังไงหรอก  ไอ้เรื่องอยากมีอะไรกับนายฉันไม่ปฏิเสธ  แม้กระทั่งตอนนี้เองฉันก็อยากมีอะไรกับนายจะแย่  อยากกอดนาย  อยากเข้าไปในตัวนาย  อยากลิ้มรสทุกส่วนในร่างกายของนายว่ามันจะหวานสักแค่ไหน  แต่ว่า…”

“…”

“มันยังไม่ถึงเวลา  ไว้เวลานั้นมาถึงเมื่อไหร่ฉันรับรองเลยว่าจะสอนให้นายได้รู้จักรสชาติของผู้ชายอย่างแท้จริงชนิดที่ในหัวของนายจะไม่มีเรื่องของผู้ชายคนอีกอื่นนอกจากฉัน  เข้าใจไหม”

“ระ…รสชาติของผู้ชาย…เหรอครับ”

“เด็กโง่…”

ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆหมาน้อย  ดึงร่างเล็กให้มานอนซบแผงอกแล้วกอดเอาไว้แน่น

“ไม่ใช่แค่นายที่อดทน  ฉันเองก็อดทนเหมือนกันนะ”

“คุณจักรวาล…”

“อีกสองปี”

“…”

“ฉันรับรองเลยว่าอีกสองปีฉันจะไม่ทนอีกต่อไป”

“ครับ  ผมเองก็จะอดทนเหมือนกัน  อีกสองปี…ผมจะรอวันนั้น”

มาพูดจาน่ารักแบบนี้คิดจะร่นระยะเวลาจากสองปีเป็นตอนนี้แทนหรือไง!  มังกรของผมที่ถูกสะกิดไว้มันยังไม่หลับเลยนะ

“ผมรักคุณ  รักคุณมากที่สุดเลยครับ”

คำบอกรักจากเสียงเล็กๆงุ้งงิ้งเหมือนหมาน้อยทำให้หัวใจพองโตจนเก็บความสุขเอาไว้ไม่ไหว  เชยคางของอีกฝ่ายขึ้นเพื่อส่งมอบจูบแห่งความรักจากใจของผมให้

“ฉันก็รักนายเหมือนกัน  รักจนแทบทนไม่ไหวแล้ว”

“คุณ  อื้อ…”

ถึงตอนนี้จะยังทำได้แค่จูบกับแทะเล็มความหวานอีกนิดหน่อย  แต่เชื่อเถอะว่า  เมื่อช่วงเวลาแห่งการคืนความสุขให้ผมมาถึงเมื่อไหร่…

ผมจัดเต็มแบบไม่ให้นอนแน่!

แต่ก่อนอื่น…ต้องจัดการเจ้าเด็กแสบอย่างไอ้เฟี้ยวสักหน่อย  คิดจะลูบคมผู้ชายอย่างจักรวาบมันยังเร็วไปล้านปี…

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพเพิ่มอีกตอนแล้วจ้า!  ตอนนี้คุณจักรวาลมาเองเลยยยย  ใครอยากรู้ว่าคุณจักรวาลจะเล่นงานเฟี้ยวคืนยังไงต้องมาพลาดตอนพิเศษในเล่ม “ทำไมผมต้องออกเดตกับมัน” 2 ตอนจบ  เป็นตอนพิเศษของคู่ SM อวกาศXเฟี้ยว  นั่นเองค่าาาา  ใบ้ให้ว่าคู่นี้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าคู่หลักก็เพราะการเอาคืนของจักรวาลนั้นมันถึงใจอย่าบอกใคร 5555+  แน่นอนว่าคนที่ได้กับได้ไปเต็มๆก็คืออวกาศแต่เพียงผู้เดียว  เมียดุ  เมียเถื่อน เมียห่าม แค่ไหนก็บ่ยั่นนน  แต่เมียจะหนีไปเชียงรายเนี่ยสิ!  ต้องรอติดตามคู่นี้ในเล่มมินิสเปฯ จำนวนจำกัด 100 เล่ม  จ้า

น้องไทม์ของเรายังใสอยู่  คงอีกนานกว่าจะเปลี่ยนจาก ‘ใส’ มาเป็น ‘ไสย’  แต่มีครูดีอย่างจักรวาล  รับรอบว่าครบสองปีปุ๊บ!  ไสยๆชัวร์ค่า

 

ใครสนใจพรีออเดอร์หนังสือเรื่องนี้  https://writer.dek-d.com/Bb9-/writer/view.php?id=1681164

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โธ่ๆ........คำแนะนำของเฟี้ยว หมดกัน   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :jul1: พูดไม่ออก ความดันขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ น้ำหมากกระฉูด ขอตัวไปเช็คน้ำหมากแป็ป  :pighaun: :jul1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทำไมตบะแข็งแบบนี้เนี่ยคุณจักรวาล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Soda.wine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โท่ นึกว่าจะได้แต่ที่ไหนได้ต้องทนรออีก 2 ปี น่าสงสารพี่จักรวาลจัง

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เฟี้ยวแกล้งพี่สามีเดี๋ยวโดนเอาคืนหนักแน่ :laugh:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


บทส่งท้าย

ไม่มีวันแยกจากกัน

 

เดือนหนึ่งแล้วสินะ  ที่ผมย้ายมาอยู่เยอรมันเพื่อเรียนต่อหลังจากสอบชิงทุนได้สำเร็จ  ส่วนไอ้เฟี้ยวก็ไปอยู่เชียงรายตามที่มันต้องการเพราะสอบติด  พวกเราต่างก็วุ่นวายกับการเป็นนักศึกษาโดยเฉพาะผมที่ต้องเรียนแพทย์  วันๆหนึ่งแทบจะไม่มีเวลาเลยด้วยซ้ำ  ในทุกๆวันทำได้แค่ส่งเมสเสจหาคุณจักรวาลเท่านั้น  ตัวเขาเองก็วุ่นวายเพราะแม้ว่าพี่อวกาศจะตกลงรับตำแหน่งรองประธานแต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วยงานที่บริษัทใหญ่  โดยเลือกจะดูแลธุรกิจในแถบภาคเหนือแทน  งานหนักเลยตกไปอยู่กับเขา

ผมเองก็อยากจะช่วยอยู่หรอกนะเพราะส่วนหนึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัว  แต่…

คนมันอยากเป็นหมอมากกว่านี้นา!

มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไปคือหลังจากวันที่ไอ้เฟี้ยวและพี่อวกาศไปออกเดตกัน ( เหมือนว่าไอ้เฟี้ยวจะพนันอะไรสักอย่างกับคุณจักรวาลเอาไว้  แล้วพอตัวเองแพ้เลยต้องทำตามคำสั่งของคนชนะซึ่งก็คือออกเดตกับพี่ชายผมนั่นเอง ) เอาเป็นว่าหลังจากวันที่ไปออกเดตกัน  พี่อวกาศตามติดไอ้เฟี้ยวนั่งกว่าเดิมเสียอีก  เหาฉลามยังยอมแพ้เลย  ขณะที่ไอ้เฟี้ยวแม้ว่าจะยังปากหมาซึนเดเระคงเส้นคงวา  แต่ผมรู้สึกได้หน่อยหนึ่งว่ามันดูอ่อนลงไปเยอะ

อยากรู้จังว่ามีอะไรเกิดขึ้นในวันเดตของพวกเขากันแน่

ติ๊ง!

เสียงไลน์เด้งทำให้ผมรีบคว้ามือถือมาเปิดดู  พี่อวกาศส่งรูปถ่ายคู่กับไอ้เฟี้ยวมาให้  ลืมบอกไปเลยว่าพี่ชายผมตัดสินใจตามไอ้เฟี้ยวไปเชียงรายล่ะ  วันที่ไอ้เฟี้ยวรู้ว่าพี่อวกาศจะตามมันไปด้วยก็คือวันที่ออกเดินทางนั่นแหละ  ที่นั่งข้างมันบนเครื่องคือที่นั่งของพี่อวกาศ  พอเจอกันบนเครื่องบินก็ทำเอามันแทบจะกระโดดออกทางหน้าต่างยอมเอาหัวโหม่งพื้นโลกตาย  หลังจากนั้นก็โทรมาบ่นใส่ผมอยู่เป็นชั่วโมงเพราะไม่ใช่แค่ตามไป  แต่ยังใช้อำนาจเงินจ้างให้คนที่พักอยู่ข้างห้องมันในตอนแรกย้ายออกไปเพื่อที่ตัวเองจะได้ย้ายเข้ามาอยู่แทน  วันดีคืนดีก็แอบปีนระเบียงหรือไมก็งัดประตูห้องไอ้เฟี้ยวเข้าไปหมายจะปล้ำมัน…

สงสารมันชะมัด  แต่พี่ผมท่าทางจะทั้งรักทั้งหลงมันมากกว่าหลังจากเดตคราวนั้น  ผมเลยไม่รู้จะช่วยยังไงจริงๆ  ได้แต่ภาวนาขอให้ไอ้เฟี้ยวมันรับรักพี่อวกาศแล้วเริ่มคบกันอย่างจริงๆจังๆสักที

“อาทิตย์หนึ่งแล้วสินะ  ไม่เห็นส่งข้อความมาเลย”

หมุนมือถือในมือไปมา  วันนี้ผมได้หยุดพักหนึ่งวันเลยมานั่งเฝ้ารอโทรศัพท์จากคุณจักรวาล  ทว่าอาทิตย์หนึ่งแล้วที่เขาหายไป  ไม่ไลน์  ไม่ส่งข้อความ  ไม่มีมิสคอลอะไรเลย  ผมเองก็ยุ่งๆ  พอว่างขึ้นมาทีก็กังวลกลัวว่าเขาจะยุ่งเหมือนกันเลยไม่กล้าติดต่อไปก่อน  เอายังไงดีล่ะ  คิดถึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว!

“หรือว่าจะมีคนอื่นไปแล้ว!”

พอคิดได้แบบนั้นไมเกรนแทบจะขึ้นสมอง  ในบริษัทมีพนักงานสาวสวยตั้งเยอะ  หรือถ้าเป็นพนักงานผู้ชายก็มีบอบบางร่างน้อยอยู่นับไม่ถ้วนเหมือนกัน  บางทีคุณจักรวาลอาจจะเหงาที่ผมไม่ได้อยู่ใกล้ๆก็เลยเผลอปันใจไปให้คนอื่น!

ไม่นะ!  ถ้าเขาทิ้งผมไปจริงๆแล้วผมจะทำยังไง…

เอาวะ!

ลองติดต่อไปเองก็ได้

ผมกดเลื่อนไปที่เบอร์ของคุณจักรวาลก่อนจะกดโทรออก  ขอร้องล่ะ  รับสายผมหน่อยนะครับ  อย่าทิ้งผมไปเลยนะ…

ครืด…ครืด…ครืด…ครืด…

เสียงโทรศัพท์สั่นดังมาจากที่ไหนสักที  ผมขมวดคิ้วมุ่นแปลกใจ  ในห้องพักนี้มีผมอยู่แค่คนเดียวแล้วมันจะดังมาจากไหนกันล่ะ  มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหูเอาไว้  สองเท้าก้าวเดินไปรอบๆเพื่อหาที่มาของเสียงโทรศัพท์จนมาหยุดอยู่ที่ประตูห้อง

เสียงมันดังมาจากหน้าห้องของผมนี่นา!

ปลายสายที่ผมโทรหายังคงไม่รับ  พอๆกับเสียงโทรศัพท์จากหน้าห้องที่เจ้าของเครื่องไม่ยอมรับสักทีเช่นกัน

ระ…หรือว่า…!

แอ๊ด!!!

“รู้ตัวเร็วกว่าที่คิดแฮะ”

“คะ…คุณจักร…อื้อ!!!”

ร่างสูงไม่รอให้ผมพูดจบ  เขาผลักผมไปในห้อง  ดันจนติดกำแพง  ปิดประตูห้องก่อนจะจู่โจ่มจูบเข้ามาแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว

มะ…ไม่จริง  นี่ต้องเป็นภาพหลอนแน่ๆ  ผมคิดถึงเขามาเกินไปจนสร้างภาพลวงตาขึ้นมาใช่ไหม!

“ขอโทษที่หายไปทั้งอาทิตย์  ฉันเร่งติดต่องานและเคลียร์งานเอกสารทั้งหมดให้เสร็จเพื่อจะได้ลาพักร้อนมาหานายที่นี่ไง”

“ตะ…ตัวจริงเหรอครับ”

น้ำตารื้นขึ้น  ผมยกมือขึ้นสัมผัสแก้มของเขาอย่างโหยหา  พอรู้ว่าเป็นคุณจักรวาบตัวจริงแน่ๆก็โผเข้ากอดเขาแน่นด้วยความคิดถึงจับใจ

“ผมคิดถึงคุณมากเลย  ฮึก…”

“ฉันรู้…ฉันรู้”

“จูบหน่อยสิ”

“…”

“จูบผมหน่อยนะครับ”

“ไม่ต้องอ้อนก็จูบอยู่แล้ว”

คุณจักรวาลอุ้มผมขึ้นพาไปที่โซฟา  รสชาติจูบอันหอมหวานจากชายผู้เป็นที่รักดำเนินไปอย่างอ้อยอิ่งราวกับว่าผมและเขาต้องการให้ช่วงเวลานี้มีอยู่นานที่สุด…

ไม่ว่าพวกเราทุกคนจะอยู่ห่างกันไกลแค่ไหน  หรือแม้แต่อยู่กันคนละซีกโลก

แต่สายสัมพันธ์ของพวกเรา  ความรักที่พวกเรามีให้กัน…

จะเชื่อมโยงพวกเราทั้งสี่คนเอาไว้…ตลอดกัน

 

‘ผมรักคุณครับ  คุณจักรวาล’

 

เรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้

ณ วันที่มารีอามาขุดไทม์แคปซูลขึ้นเพื่อซ่อนจดหมาย

หญิงสาวร่างบางมองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่ามีคนหรือไม่  เมื่อทางสะดวกเธอก็รีบขุดเอาไทม์แคปซูลที่เคยฝังไว้เมื่อสมัยเด็กออกมา  ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันกับจักรวาล  อวกาศ  และเฟี้ยวฉายซ้ำเข้ามาในหัว  มารีอายิ้มอ่อนโยน  ค่อยๆเทของที่อยู่ในถุงออกมาดูด้วยอยากรู้ว่าพวกเขาทั้งสามคนฝังอะไรเอาไว้

ถุงแรกคือของจักรวาล

“เอ๋?  ตาบ้านั่นฝังของแบบนี้เหรอเนี่ย”

หญิงสาวหงุดหงิดขึ้นมาทันที  การฝังไทม์แคปซูลเป็นอะไรที่มีค่ามากๆสำหรับมิตรภาพ  แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเลือกฝังแต่ขยะลงไปล้วนๆ  มารีอาเบ้หน้าก่อนจะเก็บขยะดังกล่าวกลับเข้าไปในถุงตามเดิมแล้วเลือกเปิดของอวกาศเป็นคนถัดไป

“สะ…สมกับเป็นหมอนั่นจริงๆ  ของพวกนี้น่ะเหรอคือของล้ำค่าของนาย”

บรรดาซีดีโป๊และหนังสือโป๊มากมายถูกใช้เป็นของที่เอาฝังในไทม์แคปซูล  หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจแล้วเก็บพวกมันกลับเข้าที่เดิม  เปิดของเฟี้ยวเป็นคนต่อไป

“เอ๊ะ?”

ของที่เฟี้ยวในวัยหกขวบฝังเอาไว้คือรูปถ่ายเดี่ยวของเธอ  จักรวาล  และอวกาศ  พลันในหัวก็จำได้ว่าเธอเป็นคนบอกเขาเองว่าให้ฝังสิ่งที่มีค่าลงไป  แล้วอีกยี่สิบปีต่อมา  สิ่งที่เขาฝังจะออกดอกออกผล  งอกเงยขึ้นมาจากพื้นดิน

“เด็กคนนั้น…คงอยากให้พวกเราสามคนงอกออกมาจากพื้นสินะ  ความคิดเด็กน้อยแบบนี้น่ารักสมหับเป็นน้องชายของฉันจริงๆ”

คิดแล้วมันเขี้ยวขึ้นมา  ตั้งแต่เฟี้ยวเด็กๆ  มารีอาคลั่งไคล้และหลงใหลน้องชายของตัวเองมาก  เธอเป็นพี่สาวจำพวกมองน้องชายว่าน่ารักและเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา  เคยถึงขนาดแอบตามไปดูเฟี้ยวที่โรงเรียนอนุบาลเลยด้วย  แต่เรื่องแบบนี้เธอจะบอกให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดเลย

“โอ๊ะ  นึกอะไรดีๆออกแล้ว”

หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อนึกบางอย่างออกมาได้  เธอเก็บเอารูปของตัวเองและจักรวาลใส่ไว้ในกระเป๋า  เหลือเพียงแค่รูปของอวกาศเอาไว้คนเดียว

“ถ้าเป็นนายจะต้องดูแลน้องชายที่น่ารักของฉันได้แน่ๆ  ฝากด้วยนะ”

แล้วก็ยัดรูปอวกาศใส่ลงไปในไทม์แคปซูลของเฟี้ยวตามเดิม  ถุงสุดท้ายที่เธอเปิดก็คือของตัวเธอเอง

ข้างในเป็นของขวัญวันเกิดปีแรกที่ได้รู้จักกับจักรวาลและอวกาศ  ทั้งสองคนให้กิ๊บรูปดอกไม้กับยางมัดผมลายดวงดาวเป็นของขวัญ  ส่วนของเฟี้ยวเป็นลูกอมเม็ดแรกที่เขาให้กับเธอเมื่อตอนเฟี้ยวอายุได้เพียงขวบกว่าๆ  เธอไม่เคยแกะมันกินเลยเพราะมันมีค่าต่อจิตใจมากเหลือเกิน

“คิดถึงจัง  ช่วงเวลาที่สงบและมีความสุขแบบนั้น”

น้ำใสๆรินไหลออกมา  นึกอยากย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง  ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวเลวร้ายอะไร  ได้เล่นสนุกกับเพื่อนและน้องชายไปวันๆ

“ไม่ได้นะ  จะร้องไห้ไม่ได้  ฉันต้องเข้มแข็ง  เพื่อกวินทร์  เพื่อนายสองคน  แล้วก็เพื่อนน้องชายแสนน่ารักของฉัน  ฮึ่ม!”

หญิงสาวตั้งมั่นกับตัวเอง  เธอยิ้มให้กับความทรงจำอันล้ำค่านั้นอีกครั้งก่อนจะเอาพวกมันใส่กระเป๋าที่ถือมาไปด้วย  เปลี่ยนของข้างในให้เป็นจดหมายสามฉบับแทนแล้วฝังของทุกอย่างลงไปในดินตามเดิม

“ถ้าหาเจอเร็วๆก็คงดีนะ”

มารีอาส่งยิ้มให้กับของพวกนั้นทิ้งท้าย  ก่อนจะกลับออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  แววตาที่เต็มไปด้วยความหวังทอดมองไปยังท้องฟ้าไกล

“เอาล่ะ…ลุยเลยมารีอา  เธอต้องทำได้!”

 

THE  END

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพบทส่งท้ายแล้วจ้า!  ในที่สุดความจริงเรื่องรูปของอวกาศในไทม์แคปซูลของเฟี้ยวก็ถูกเฉลย!  นี่สินะคือสิ่งที่เฟี้ยวคาใจ 5555+  บางทีเฟี้ยวอาจจะจำได้ลางๆว่าฝังรูปของทั้งสามคนเอาไว้  แต่ไหงเหลือรูปของอวกาศแค่คนเดียว  มารีอา…เธอนี่แม่สื่อตัวยงเลย =..=  เหลือตอนพิเศษอีกหนึ่งตอนที่จะมาอัพให้ในวันพรุ่งนี้นะคะ

เอารายละเอียดการพรีออเดอร์มาบอกกันอีกครั้ง…!

หนังสือ 2 เล่มจบ (ในเล่มแถมที่คั่นเล่มละ 1อัน/1ลาย  และโปสการ์ดอีก 1ใบ)

ภายในเล่มมีตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเว็บดังนี้

 รายชื่อตอนพิเศษ

 

     - เมื่อผมต้องมีรักทางไกล 3 ตอนจบ (จักรวาลxไทม์)

     - เมื่อผมกลายเป็นหมอแต่สามีดันขี้หึง!  3 ตอนจบ  (จักรวาลxไทม์)

     - ทำไมผมต้องออกเดตกับมัน 2 ตอนจบ (อวกาศxเฟี้ยว เรื่องราวก่อนเฟี้ยวจะไปเรียนต่อ จุดเริ่มต้นของเล่มมินิสเปฯ)

     - ทิ้งท้ายฟินๆกับ "2ปีที่เฝ้ารอ" คืนวันเกิดอายุครบ 20 ปี ของน้องไทม์!

 

พิเศษสำหรับ 100 ท่านแรกที่โอนเงิน  รับฟรีหนังสือเล่มมินิสเปฯ “จะรุกจนกว่าจะรัก” อวกาศXเฟี้ยว ค่ะ ( มีจำนวนจำกัดแค่ 100 เล่มเท่านั้น )

 

ใครสนใจพรีออเดอร์หนังสือเรื่องนี้คลิกที่ลิงก์นี้แล้วกรอกแบบฟอร์มเลยจ้า

 https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScEYLhiSnY4Cmc5Jn13oevviMUkD1vnD11ZbkJeF6Vphg_SBA/viewform?usp=sf_link

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนพิเศษ

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

 

“ครั้งสุดท้ายแล้วสินะ  ที่กูกับมึงจะได้ยืนมองวิวของโรงเรียนจากบนนี้”

ไอ้เฟี้ยวที่ท้าวคางมองลงข้างล่างเอ่ยถามขึ้น  ผมกับมันพากันขึ้นมาบนดาดฟ้าซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเราชอบมา  วันนี้เป็นวันจบการศึกษาของเด็กม.6 ทุกคน  ทางโรงเรียนจัดงานเลี้ยงให้ในตอนกลางคืนและมีพิธีรับประกาศนียบัตรในช่วงกลางวัน

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหก  ไอ้เฟี้ยวสอบติดมหาวิทยาลัยที่เชียงรายอย่างที่ใฝ่ฝัน  ขณะที่ผมเองก็สอบชิงทุนไปเยอรมันได้เหมือนกัน  อีกหนึ่งเดือนต่างคนต่างต้องแยกย้ายไปเริ่มต้นก้าวแรกสู่ความเป็นผู้ใหญ่  ผมจะไม่ได้เดินผ่านประตูโรงเรียนนี้กับไอ้เฟี้ยวอีกแล้ว  จะไม่ได้แย่งข้างกลางวันกันกิน  และคงไม่ได้มายืนมองดูนักเรียนคนอื่นๆจากบนนี้อีก… 

“ยังดีนะที่ไอ้โชมันเป็นเยาวชน  และพวกมึงเองก็ไม่ได้ติดใจเอาความกับมัน  ถึงมันจะต้องเรียนซ้ำชั้นอีกรอบเพราะก่อนหน้านี้ไม่มาเรียนเป็นเดือนๆ  แต่อย่างน้อยมันก็ยังไม่เสียอนาคตไป  ขอบคุณมากนะที่ยังสงสารเพื่อนเหี้ยๆของกูอยู่”

“ตอนแรกก็คิดว่าจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกันแหละ  แต่พอเห็นมิตรภาพที่มันมีกับมึงอย่างจริงใจแล้ว  กูกลับรู้สึกดีมากกว่า  ที่ยังมีคนอื่นนอกจากพวกกูจริงใจกับมึงจริงๆ  อีกอย่าง…มันเองก็โดนพ่อหลอกเหมือนกัน  ทำทุกอย่างเพราะคิดว่าจะช่วยพ่อได้ทั้งที่จริงพ่อมันแค่ถูกจ้างให้เล่นละครหลอกแลกกับเงินที่จะเอาไปเล่นในบ่อนได้  คิดๆแล้วกูสงสารมันมากกว่า”

“เฮ้อ!  แต่ก็ถือว่าจบด้วยดีล่ะนะ  ช่วงเวลาที่สุขสงบแบบนี้  ทำเอาอดคิดไม่ได้เลยว่าที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝันหรือเปล่า”

“นั่นสิ…”

ผมทอดสายตามองไปข้างล่างบ้าง   ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน  ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย  จากผู้ชายตัวคนเดียวไม่สนใจใคร  ตอนนี้ผมกลับมีคนสำคัญเพิ่มเข้ามาในชีวิตอีกหลาย  เป็นคนสำคัญที่อยากจะปกป้องรอยยิ้มของพวกเขาเอาไว้ให้นานที่สุด

“ไอ้เฟี้ยว  ขอบใจนะที่เป็นเพื่อนกู”

“ไม่ต้องมาทำดราม่าเลยมึง  คนนิสัยแย่อย่างมึง  ถ้าไม่มีกูคอยเป็นเพื่อนเตือนสติมีหวังถูกดักกระทืบทุกวันๆแน่”

“อ๋อเหรอ  ไอ้คนนิสัยดี!”

“อย่างน้อยกูก็ไม่เคยทำสายตาเหมือนทุกคนเป็นเพียงธาตุอากาศแบบมึงก็แล้วกัน!”

“จะว่าไป  เดตะวันนั้นเป็นไงมั่งวะ  หลังจากนั้นก็ยุ่งๆเรื่องสอบปลายภาคกับสองชิงทุนก็เลยไม่มีโอกาสได้คุยเป็นจริงเป็นจังสักที”

ก่อนหน้าที่จะเริ่มสอบปลายภาค  ไอ้เฟี้ยวได้ออกเดตกับพี่อวกาศของผม  แถมยังเป็นเดตแบบค้างคืนอีกด้วย  ไม่รู้ว่าหลังจากเดตคราวนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า  แต่เท่าที่สังเกตพี่อวกาศ…

ผมว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับสองคนนี้แน่ๆ  พี่ผมเล่นตามติดมันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยคิดดู!  ต่อให้ชอบมากแค่ไหนก็ไม่น่าจะตามหึงตามหวงขนาดนั้นเปล่าวะ?

“ไอ้ไทม์  มึงคิดว่าทำไมไอ้อวกาศถึงชอบกู”

คนถูกถามไม่ยอมตอบคำถามแต่กลับตั้งคำถามขึ้นใหม่แทนซะงั้น  แถมยังเป็นคำถามโลกแตกเหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันอีกด้วย

“ทำไมไม่ถามเจ้าตัวเองวะ”

“กูแค่สงสัยว่าคนอย่างกูไปทำอะไรให้มันชอบได้  ปากก็หมา  นิสัยก็ห่าม  ชอบชกต่อยเป็นกิจวัตร  แล้วก็ไม่เคยเคารพมันเลย กูคิดเรื่องนี้หลายครั้งจนแทบจะเอาตีนขึ้นมาก่ายหน้าผากแล้วนะเว้ย  แต่คิดยังก็ไม่ได้คำตอบว่ะ  พอไม่ได้คำตอบ  มันเลยทำให้กูสับสน”

“สับสน?”

“มันชอบกูจริงๆหรือเปล่า  พอมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัว  กูก็กลัวที่จะชอบมันกลับขึ้นมาทันทีเลย”

น้ำเสียงและสีหน้าของไอ้เฟี้ยวเศร้าลงทันตา

ถึงผมจะยังไม่ได้เข้าใจเรื่องความรักดีนักเพราะตัวเองก็เพิ่งเคยมีความรักเป็นครั้งแรกเหมือนกัน  แต่อย่างน้อยตอนนี้มีอย่างหนึ่งล่ะที่ผมบอกได้…

การที่มันเอาแต่คิดถึงเรื่องของพี่อวกาศ  นั่นไม่ได้แปลว่า…

…มันชอบเขามากๆ…ไปแล้วหรือไง?

 

Special  Part :

“ไปไหนของมันวะ  ไหนบอกว่าจะรออยู่หน้าห้องน้ำ”

หันมองซ้ายขวาเพื่อหาไอ้ไทม์   งานเลี้ยงตอนกลางคืนเริ่มแล้ว  และธีมการแต่งตัวคืนนี้ก็คือธีมสวมหน้ากาก  นักเรียนทุกคนที่มาเลยต้องสวมหน้ากากปิดบังใบหน้ามาทั้งนั้น  แต่พอดีผมดันปวดขี้ขึ้นมาก่อนจะเข้างานเลยชวนไอ้ไทม์มาเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อน  และทั้งๆที่มันบอกว่าจะยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ  แต่พอออกมากลับไม่เจอแม้แต่เงา

หรือจะเข้าไปในงานแล้ว?

ให้ตายสิ  เป็นงานเลี้ยงที่น่าเบื่อชะมัดเลย  หน้ากากบ้าบออะไรแบบนี้มันมีแต่ในนิยายรักโรแมนติกเท่านั้นแหละ  ของจริงพอเอามาใส่แม่งคันหน้าฉิบหาย!  แถมยังเกะกะอีกต่างหาก  อย่าให้กูรู้เชียวว่าใครเป็นคนคิดธีม  พ่อจะเอาเท้ายันหน้าให้!

พลั่ก!

“อุ้ก!”

หมับ!

ทันทีที่หันหน้าไปอีกทางเพื่อจะเดินไปยังหอประชุมซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง  ใครบางคนจู่โจ่มต่อยเข้าที่หน้าท้องผมอย่างจังจนจุก  ก่อนที่ร่างกายจะถูกแบกด้วยฝีมือของไอ้คนที่ประทุษร้ายผม  มะ…มันจะพาผมไปไหนเนี่ย

ใครกันวะ!!!

อยากจะขยับร่างกายทว่ามันยังไม่หายจุก  ทั้งที่ต่อยแค่ทีเดียวแต่กลับทำผมจอดสนิทจนไม่มีแรง  คนที่มีพละกำลังมากมายขนาดนี้  นอกจากไอ้จักรวาลแล้วก็…

แอ๊ด…

“ไอ้อวกาศ!”

ตะโกนเรียกชื่อของคนที่กำลังแบกอยู่ทันทีอย่างมั่นใจ  เสียงประตูเปิดออกพอมองไปรอบๆก็พบว่ามันคือดาดฟ้าที่ผมกับไอ้ไทม์ชอบมาเป็นประจำ

ตุ้บ…

มันค่อยๆวางผมลงกับพื้นอย่างเบามือ  ผู้ชายหัวทองสวมชุดสีขาวกับหน้ากากขนนกสีขาวงั้นเหรอ…

“ทำไมถึงรู้ล่ะว่าเป็นฉัน…”

คนถูกจำได้ถอดหน้ากากออกพลางมองผมอย่างผิดหวังที่ถูกจับได้  มึงยังมีหน้ามาถามอีกเรอะ  สีขาวคือสัญลักษณ์ของมึงทั้งตัวขนาดนี้ใครไม่รู้ก็โง่แล้วไอ้ฟาย!

“เล่นบ้าอะไรวะ  ท้ารบเหรอ?”

“ขะ…ขอโทษจ้า  แค่คิดว่าถ้าขอให้มาด้วยกันดีๆคงจะไม่ยอมแน่ๆก็เลยใช้วิธีนี้”

อ่า…จริงด้วย  ตั้งแต่กลับจากเดตคราวนั้นผมก็เลี่ยงมันตลอดเลย  แถมยังย้ายออกมาจากบ้านอสังหาและกลับไปอยู่ห้องเช่ารูหนูของตัวเองเหมือนเดิมอีก  มันโทรมาก็ไม่รับสาย  ไลน์ก็ไม่อ่านไม่ตอบ  การกระทำของผมคงทำให้มันปวดใจมากเลยสินะ

“ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมนายถึงต้องหลบหน้าฉันขนาดนี้ด้วย  ฉันก็แค่…อยากเจอ  อยากได้ยินเสียงบ้างก็เท่านั้น”

ไม่ไหว  ใบหน้าเศร้าตอนกำลังพูดของมันทำเอาใจอ่อนยวบยาบเลย  อุตส่าห์คิดว่าหัวใจแกร่งมากพอที่จะไม่เอนอ่อนให้มันอีกต่อไปแล้วเชียว

แบบนี้ก็เท่ากับว่า…แพ้ทางผู้ชายคนนี้หมดรูปเลยสิเรา

“กูแค่ยุ่งๆ  มึงมีอะไร”

“ของขวัญวันจบการศึกษา”

“หา?”

“หลับตาสิ  ฉันมีของขวัญจะให้”

ร่างสูงยิ้มแป้น  พอเห็นรอยยิ้มแบบนี้ทีไรปฏิเสธไม่ลงทุกที  ผมจำใจต้องหลับตาตามที่มันขอ  รู้สึกได้ว่าไอ้อวกาศเดินไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง  ผมเกร็งตูดหลบอัตโนมัติ  นึกถึงเรื่องราวในคืนวันออกเดตขึ้นมาทันที

ทุกจุดที่มันสัมผัส…

ทุกคำหวานที่มันบอกกับผม…

ต่อให้โดนรถบรรทุกชนจนสมองเสื่อมก็คงลืมไม่ลง

“เดินไปข้างหน้าสิ”

ผมออกเดินตามที่มันกระซิบบอกข้างหู  ลมเย็นๆจากบนดาดฟ้าเริ่มปะทะเข้ากับใบหน้า  มือหนาที่จับแขนผมไว้เพื่อพยุงให้เดินไปยังนุ่มนวลเหมือนเดิม

นุ่มนวลเหมือนในคืนนั้น…

อ๊ากกกกก  แล้วนี่กูจะคิดถึงเรื่องคืนนั้นอีกทำม๊ายยย!

“โอเค  ตรงนี้แหละ  หยุดเดินได้”

“มึงจะเล่นอะไรกันแน่”

“นับหนึ่งสองสามแล้วลืมตามองลงไปข้างล่างนะ”

“หนึ่งสองสาม”

“เจ๊ย!  ไม่เอาแบบนั้นสิ  ค่อยๆนับ  นับเร็วแบบนั้นมันไม่ตื่นเต้นหรอก”

“เรื่องมากจริงวุ้ย!”

ผมชักเสียงไม่พอใจใส่เล็กน้อยก่อนจะเริ่มนับเลขอย่างช้าๆตามที่มันบอก ( บ่นทุกรอบแต่ไม่เคยปฏิเสธสักครั้ง…)

“หนึ่ง…”

“…”

“สอง…”

“…”

“สาม…”

ค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วมองลงไปข้างล่าง  แสงไฟสีส้มจากเปลวเทียนที่ถูกจุดเรียงกันเป็นรูปตัวอักษรพัดไหวเล็กน้อยตามแรงลม  เหมือนหัวใจจะหยุดเต้นหลังจากที่ค่อยๆไล่มองตัวอักษรไปทีละตัวจนครบและประกอบเป็นคำได้…

ไอ้บ้าเอ๊ย…แอบมาทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย

พรึ่บ…

กุหลาบขาวหนึ่งดอกถูกส่งมาตรงหน้า  ผมมองไล่ตั้งแต่กุหลาบไปเรื่อยๆจนถึงใบหน้าของคนให้  สุดท้ายมึงก็กะจะให้ทุกอย่างเป็นสีขาวไม่เว้นแม้กระทั่งดอกกุหลาบเลยสินะ…

“กุหลาบหนึ่งดอก  หมายถึงฉันจะมีแค่นายคนเดียว  รักนายแค่คนเดียว  ต้องการนายแค่คนเดียว  คิดถึงนายแค่คนเดียว  หลงใหลนายแค่คนเดียว  เฝ้ามองนายแค่คนเดียว  มีชีวิตอยู่เพื่อนายแค่คนเดียว  ทุกสิ่งที่ฉันจะทำต่อจากนี้…จะทำเพื่อนายแค่คนเดียว”

“…”

“ฉันรักนายนะเฟี้ยว  ยิ่งตอนนี้นายเป็นของฉันแล้วฉันก็ยิ่งรักนายมากขึ้น  มีแต่จะมากขึ้นทุกวันๆ  อย่าสงสัยในความรักที่ฉันมีให้นายได้ไหม”

“สงสัย?  หรือว่าไอ้ไทม์…!”

ไอ้เพื่อนทรยศ!  เอาเรื่องที่กูมาปรึกษาบอกมันหมดเลยใช่ไหม!

หมับ…

“เชื่อใจฉันได้ไหม  ทั้งหมดในตัวฉัน  ไม่ว่าจะร่างกายหรือว่าหัวใจ…”

ไอ้อวกาศจับมือผมขึ้นไปทาบตรงหน้าอกข้างซ้าย  สายตาหวานซึ้งจ้องมองลึกเข้ามาจนหัวใจเต้นระส่ำ

“มันจะเป็นของนายแค่คนเดียว”

ใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่ผมเคยเกลียดนักเกลียดหนาเคลื่อนเข้ามาใกล้  น่าแปลกอีกแล้วที่ผมกลับไม่ยอมหันหน้าหนีจนกระทั่ง…

ริมฝีปากของมันทาบทับลงมา

ผมหลับตาลงรับจูบนี้แต่โดยดี  มือข้างหนึ่งดึงเอากุหลาบที่มันให้มาถือไว้

ไม่ใช่ว่าผมจะยอมรับรักมันหรอกนะ  ที่ยอมให้จูบ  ที่ยอมรับกุหลาบ  มันก็แค่…แค่ส่งท้ายที่เรียนจบเท่านั้นแหละโว้ยยยย!  (ซึนเดเระตัวพ่อ…)

Special  Part  End.

 

“จะเรียบร้อยดีไหมนะ  กังวลชะมัด”

ผมเดินวนไปมาเป็นหนูติดจั่นอยู่ในงานเลี้ยง  เป็นห่วงพี่อวกาศที่มาขอให้ช่วยหลบฉากเพื่อขอโอกาสอยู่กับไอ้เฟี้ยวสองคนหลังจากที่ผมเล่าเรื่องความกังวลของมันให้ฟังเมื่อตอนบ่าย  ไม่รู้ป่านนี้พี่ชายผมจะเป็นยังไงบ้าง  โดนไอ้เฟี้ยวซ้อมปางตายไปหรือยังนะ

[เอาล่ะครับ  ต่อไปจะเป็นการเต้นรำเปิดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้  สาวๆหนุ่มๆคนไหนที่อยากจะร่วมกันเปิดฟลอร์ก็เชิญเดินเข้าไปขอคนที่คุณอยากจะเต้นรำด้วยให้มาเต้นรำด้วยกันได้เลยครับ!]

พิธีกรที่สวมหน้ากากไว้เหมือนกันเอ่ยขึ้น  บรรดานักเรียนชายหญิงต่างวิ่งวุ่นเข้าหากันเพื่อจับคู่  แม้ว่าจะไม่เห็นหน้าของอีกฝ่าย  แต่ทุกคนดูมีความสุขและสนุกสนานกับค่ำคืนนี้เอามากๆ

“เอ่อ…ขอโทษนะคะ”

เสียงหวานเอ่ยทัก  พอหันไปก็ผมว่าเป็นสาวน้อยร่างเล็กในชุดราตรีแสนสวย  หัวใจผมเต้นระทึกขึ้นมาทันที  เป็นครั้งที่มีผู้หญิงมาคุยด้วยแบบนี้!

“ถ้าฉันเดาไม่ผิด  เธอคงจะเป็น…กาลเวลาใช่ไหม”

หงึกๆๆๆ

ผมพยักหน้าตอบคำถามทันที  ยะ…อย่าบอกนะว่าเธอคนนี้จะมาขอผม…

ตะ…เต้นรำ…

“ถ้าไม่รังเกียจ  จะช่วยเต้นรำกับฉันได้ไหม”

ไม่จริงน่า!  เธอมาขอผมเต้นรำจริวๆเหรอเนี่ย!  เป็นใคร  ชื่ออะไร  เรียนจบจากห้องไหน!  นี่มันความใฝ่ฝันทั้งชีวิตของชายหนุ่มทุกคนเลยนะ!

หมับ!

“ต้องขอโทษด้วยนะสาวน้อย  แต่ว่าเด็กคนนี้เป็นคู่เต้นรำของฉัน”

“คะ…คะ…คะ…คุณจักรวาล!”

“งะ…งั้นฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ  ฉันไม่รู้ว่าเขาจะพาคู่มาในงานเลี้ยงด้วย”

“เอ๋ เดี๋ยว  ไม่ใช่…”

ผมยื่นมืออกไปข้างหน้าเพื่อจะรั้งเธอเอาไว้จะได้อธิบาย  แต่สาวน้อยคนนั้นก็วิ่งหนีออกไปเสียก่อน  หมดกัน…คิดว่าจะมีช่วงเวลาดีๆแบบชายหนุ่มทั่วไปทิ้งท้ายก่อนจบมัธยมปลายเสียอีก

“นายนี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆเลยนะ  คลาดสายตาเข้าหน่อยก็เตรียมกระดิกหางหาเจ้านายใหม่”

ร่างสูงที่โอบรอคอผมไว้แล้วดึงเข้าหาจนเอนซบกับแผงอกพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างไม่พอใจ  คนที่ควรจะไม่พอใจมันคือผมมากกว่า  ใครใช้ให้มากันล่ะเนี่ย!

“คุณเข้ามาได้ยังไงครับ  แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้”

ดำทั้งชุดทั้งเส้นผมทั้งหน้ากาก  จะเด่นสะดุดตาเกินไปแล้ว!  หนำซ้ำยังมียืนกอดผมเหมือนคู่รักอยู่กลางงานเลี้ยงแบบนี้อีก  คนอื่นเขามองหมดแล้วไม่เห็นหรือไง

“อย่าลืมสิว่าฉันเป็นใคร  คนอย่างจักรวาล…ไม่มีที่ไหนที่เข้าไม่ได้หรอก”

“ครับๆ  ผมลืมไปว่าคุณมันมีอำนาจล้นฟ้า”

“เรื่องนั้นช่างมัน  ดูท่าทางเมื่อกี้นายจะดีใจมากเลยนะที่เธอคนนั้นมาขอเต้นรำด้วย”

“ก็แหงสิครับ  ผมเป็นผู้ชายนะ  มีผู้หญิงมาขอเต้นรำด้วยแบบนั้นใครจะไม่ดีใจบ้าง  อีกอย่าง…อยู่มาจนสิบแปดปีเคยมีผู้หญิงเข้ามาทักผมแบบนั้นที่ไหน”

ว่าแต่…จะยืนกอดท่านี้อีกนานไหมเนี่ย  กลัวคนอื่นเขาไม่รู้เรอะว่าเป็นคู่รักกัน!

“ไม่ปฏิเสธซะด้วย  คิดจะยั่วให้ฉันหึงหรือไง”

“พูดอะไรของคุณครับ  แล้วก็นะ  ปล่อยผมได้แล้ว  คนเขามองมาที่เราเป็นจุดเดียวแล้วเนี่ย”

ถึงจะเขินที่ถูกมอง  แต่ต้องมาอยู่ในอ้อมกอดเขานานๆแถมยังได้กลิ่นตัวหอมๆชัดเจนแบบนี้มันทำให้ผมใจเต้นแทบจะระเบิดอยู่แล้ว  เกิดอดใจไม่ไหวกอดเขากลับหรือดีไม่ดีอาจถึงขั้นดึงเข้ามาจูบขึ้นมาจะว่ายังไง  แบบนั้นคนเขารู้กันทั้งโรงเรียนแน่ๆ!

“ไม่ปล่อย  ท่าทางฉันคงต้องหลงโทษหมาน้อยที่ไม่จงรักภักดีอย่างนายสักหน่อยแล้ว”

“คะ…คุณจะทำอะไร”

“ประกาศให้รู้กันไปเลย  ว่านายเป็นของใคร”

“อะไรนะ!”

พรึ่บ!

สิ้นคำ  คุณจักรวาลก็กระชากหน้ากากของผมออกตามด้วยของตัวเอง  ใบหน้าของเราสองคนปรากฏออกมาให้คนอื่นเห็นเต็มๆ  เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทันใดเมื่อรู้ว่าผู้ชายสองคนที่ยืนกอดกันอยู่กลางงานคือผมกับเขา!

บ้าเอ๊ย!

“คุณคิดจะ  อื้อ!!!”

อึ้งรอบสอง!

ร่างสูงดึงผมเข้าไปจูบเอาดื้อๆ  เขาบีบแก้มผมแน่นจนต้องอ้าปากออกเพื่อรับเอาเรียวลิ้นของเขาเข้ามา  ไม่ไหว… ร่างกายมัน…ไม่มีแรงเลย  จูบของเขามันทั้งดุดันและเร่าร้อนเกินกว่าที่ผมจะต้านทานไว้ได้

หมับ!

“อื้อ!!!”

เคร้งงง!

อาหารบนโต๊ะถูกเขาใช้มือกวาดออกจนเกลี้ยงก่อนจะยกตัวผมให้ขึ้นไปนั่งบนนั้นแล้วระดมจูบต่อ  ไม่ว่าจะดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่อาจสู้แรงมหาศาลของคุณจักรวาลได้เลย  สำคัญกว่านั้น…

ลิ้นของเขามันกำลังดูดวิญญาณของผมออกไป

สติ…

สติหายไปไหนแล้ว  กลับมาหาผมก่อน…

“หึ…”

ร่างสูงถอนจูบออกไปก่อนจะหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ  ทว่าวิญญาณผมยังไม่กลับเข้าร่าง  ไม่เคยโดนเขาจูบร้อนแรงจนร่างกายร้อนวูบวาบขนาดนั้นมาก่อน  เรี่ยวแรงผมไม่เหลือแล้ว…

ตุ้บ…

คุณจักรวาลใช้วงแขนแกร่งรับร่างของผมที่หมดแรงเอาไว้ได้ทันก่อนจะช้อนขึ้นไปอุ้มในท่าเจ้าหญิง  นาทีนี้ทำได้แค่ซุกหน้าเข้าหาอกกว้างเพื่อซ่อนใบหน้าแดงก่ำจากนักเรียนคนอื่นๆเท่านั้น  ถะ…ถูกทุกคนเห็นจนได้!

“เท่านี้คงจะเข้าใจชัดเจนกันแล้วสินะว่าหมอนี่เป็นของใคร”

“…”

“ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย  แต่ถ้าใครหน้าไหนก็เข้ามายุ่งกับเมียของฉัน  ฉันจะทำให้ได้สัมผัสกับคำว่านรกของจริง”

แปะๆๆๆๆๆ

“เยี่ยมไปเลยพี่!  ฉากจูบเมื่อกี้ก็เร่าร้อนเด็ดสะระตี่สุดๆไปเลย”

เสียงของพี่อวกาศดังขึ้นก่อนจะมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้จุดที่ผมกับคุณจักรวาลยืนอยู่  รีบๆออกไปจากงานเลี้ยงกันสักทีจะได้ไหม  ผมอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครเขาแล้ว!

“เกิดมาเคยอายอะไรกันบ้างไหมเนี่ย”

ต่อด้วยเสียงของไอ้เฟี้ยว  ยะ…อยู่กันครบเลยนี่หว่า!

“กลับกันเถอะ”

คุณจักรวาลพูดทิ้งท้ายแล้วเริ่มออกเดิน  ผมค่อยๆเลื่อนวงแขนขึ้นไปโอบรอคอเขาเอาไว้กันตก  เสียงซุบซิบมากมายดังระงมเหมือนเป็นการส่งพวกเราสี่คนออกจากงานเลี้ยง  ไหนๆก็วันสุดท้ายแล้ว  ถือว่าเป็นการจูบทิ้งทวนในโรงเรียนก็แล้วกัน!

“ว่าแต่…เรากลับเข้าไปจูบอย่างดูดดื่มต่อหน้าทุกคนแบบนั้นบ้างดีไหมที่รัก”

“ใครที่รักของมึง  แล้วก็ฝันไปเหอะว่ากูจะยอมจูบกับมึงต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น”

“แปลว่าถ้าอยู่กันสองคนก็จูบได้ใช่ป่ะ!”

“มะ…ไม่ใช่เว้ย!”

ผมลอบยิ้มคนเดียวอย่างมีความสุข  การทะเลาะกันของพี่อวกาศและไอ้เฟี้ยวกลายเป็นสีสันอย่างหนึ่งในชีวิตของผมไปแล้ว

“อ๊ะ…”

ร้องออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆกดลงมาที่หน้าผาก  พอลองเงยหน้าขึ้นดูก็พบกับใบหน้าเรียงตึงเป็นเสือยิ้มยากของคุณจักรวาลอยู่ใกล้ในระยะประชิดแม้ว่าเขาจะกำลังอุ้มผมเดินออกจากโรงเรียนก็ตาม

เมื่อกี้เขา…จูบหน้าผากงั้นเหรอ

“อื้อ…”

จูบที่สองเกิดขึ้นอีกครั้ง  ผมหลับตาลงอย่างมีความสุข   ช่างเป็นวันจบการศึกษาที่น่าจดจำเหลือเกิน!

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนพิเศษแล้วจ้า  ส่งท้ายกันด้วยตอนนี้  จบจริงๆแล้วน้า  ไม่มีอะไรจะมาอัพเพิ่มอีกแล้วนอกจากสปอยตอนพิเศษในเล่มแต่ละตอนจ้า  คุณจักรวาลก็ยังคงเป็นคุณจักรวาล  เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลกเสมอ 5555  หึงแม้กระทั่งกับสาวน้อยตัวเล็กๆ  ขณะที่คุณอวกาศก็ละมุนเหลือเกิ๊นนนนน  ได้เมียซึนเดเระก็งี้แหละค่ะ  ทนไปนะเฮีย =..=

ขอบคุณสำหรับการติตตามมาจนถึงตอนนี้มากๆนะคะ  นิยายเรื่องนี้จะไม่ดำเนินมาถึงจุดนี้เลยถ้าไม่มีแรงสนับสนุนและกำลังใจจากนักอ่านทุกคน  หวังว่าจะมีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยนะคะ  จะพยายามพัฒนาฝีมือต่อไปค่ะ

ติดตามผลงานอีกสองเรื่องของบิวได้นะคะ  มี

SEX(Y) รักโคตรแซ่บ! ( เรื่องนี้อัพไปได้สิบแปดตอนแล้วค่ะ )

Teacher Darling  “เด็กอ่อย”  ( จะเปิดเรื่องในวันพรุ่งนี้  รอติดตามได้จ้า )

 

บอกกันอีกครั้ง…!

หนังสือ 2 เล่มจบ (ในเล่มแถมที่คั่นเล่มละ 1อัน/1ลาย  และโปสการ์ดอีก 1ใบ)

ภายในเล่มมีตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเว็บดังนี้

 รายชื่อตอนพิเศษ

 

     - เมื่อผมต้องมีรักทางไกล 3 ตอนจบ (จักรวาลxไทม์)

     - เมื่อผมกลายเป็นหมอแต่สามีดันขี้หึง!  3 ตอนจบ  (จักรวาลxไทม์)

     - ทำไมผมต้องออกเดตกับมัน 2 ตอนจบ (อวกาศxเฟี้ยว เรื่องราวก่อนเฟี้ยวจะไปเรียนต่อ จุดเริ่มต้นของเล่มมินิสเปฯ)

     - ทิ้งท้ายฟินๆกับ "2ปีที่เฝ้ารอ" คืนวันเกิดอายุครบ 20 ปี ของน้องไทม์!

 

พิเศษสำหรับ 100 ท่านแรกที่โอนเงิน  รับฟรีหนังสือเล่มมินิสเปฯ “จะรุกจนกว่าจะรัก” อวกาศXเฟี้ยว ค่ะ ( มีจำนวนจำกัดแค่ 100 เล่มเท่านั้น )

 

ใครสนใจพรีออเดอร์หนังสือเรื่องนี้คลิกที่ลิงก์นี้แล้วกรอกแบบฟอร์มเลยจ้า https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScEYLhiSnY4Cmc5Jn13oevviMUkD1vnD11ZbkJeF6Vphg_SBA/viewform?usp=sf_link#response=ACYDBNjWprgKpl9NaRRLJEYcihg7KUOdimUmXwsKGYWEWH_wMnidgEs0BeA

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
มาถึงตอนที่ 23 เราคิดว่า อวกาศ กับ ไทม์ เป็นพี่น้องกัน แล้วจักรวาลเป็นลูกบุญธรรมแล้วล่ะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ชีวิตนี้ไทม์เพิ่งมีสาวเข้าหา มาขอเต้นรำแต่ก็โดนมารมาผจญ แต่ต้องให้อภัยพี่จักรวาลเค้านะ เค้าหึงคนรักของเค้า o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จักรวาล ไทม์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
อวกาศ เฟ้ยว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หวานดุจดังรถขนอ้อยคว่ำ  :a5:

ออฟไลน์ silverrain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :a5:คือว่า... เรากำลังสงสัยหรือว่าเราอ่านข้าม? ก็ไม่น่าใช้ ความลับของรหัสผ่านคืออะไร????

รหัสผ่านนนนนน!!!

อย่าเทเราทิ้งเลย :katai1:
เรากล้าพูดเลย ว่าเป็นเรื่องแรกที่เราอ่านในฉากที่มีคนตายได้น่าประทับใจขนาดนี้  :-[

ออฟไลน์ Charmy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
อวดหน้าปกจ้า
«ตอบ #387 เมื่อ24-09-2017 20:12:33 »











สนใจคลิก  https://goo.gl/forms/59wRJVMBTU1q2qh23

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด