♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สามสิบ| - 7.6.2017 p.24 |จบ|-รายละเอียดหนังสือ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สามสิบ| - 7.6.2017 p.24 |จบ|-รายละเอียดหนังสือ  (อ่าน 208457 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบสี่| - 10.10.2017 p.8
«ตอบ #240 เมื่อ10-10-2017 22:54:10 »

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบสี่| - 10.10.2017 p.8
«ตอบ #241 เมื่อ10-10-2017 23:03:13 »

ฉาง ทำดีค่ะ กอดไปวันละนิดๆ มอนิ่งคีสวันละหน่อยๆ
เขิน

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบสี่| - 10.10.2017 p.8
«ตอบ #242 เมื่อ10-10-2017 23:27:40 »

ฉางขี้อ้อนมาก,,,

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบสี่| - 10.10.2017 p.8
«ตอบ #243 เมื่อ11-10-2017 12:18:45 »

น่าร๊ากกกกก

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบสี่| - 10.10.2017 p.8
«ตอบ #244 เมื่อ11-10-2017 16:05:42 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบสี่| - 10.10.2017 p.8
«ตอบ #245 เมื่อ11-10-2017 20:15:49 »

จะบอกว่าฉางอ้อนคงไม่ใช่ เรียกคุกคามแบบที่ข้าวบอกล่ะกัน  :hao7:

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #246 เมื่อ18-10-2017 23:00:43 »

15



เสียงปากกาขูดกับกระดาษดังมาไม่ขาดสาย ขยับมือจดโน้ตสั้นๆ จากหนังสือเล่มโต ผมนั่งอ่านหนังสือกับแก๊งเด็กเนิร์ดและพวกในเซคเดียวกันอีกนิดหน่อย ต่างคนต่างอ่าน ไม่เข้าใจก็ค่อยเงยหน้ามาถามกัน ห้องสมุดกลางเงียบเป็นเป่าสาก แม้จะมีคนเดินไปมาอยู่ตลอด แต่ทุกคนล้วนเก็บความเงียบไว้กับตัวได้เป็นอย่างดี



ผมเงยหน้ามามองนาฬิกา จะสามทุ่ม...



พลันมือถือในกระเป๋ากางเกงก็สั่น ภาพหน้าจอปรากฏเป็นไลน์ไอ้ฉางเด้งขึ้นมา



‘ข้าวไหน’



เบื่อที่ต้องมานั่งทำความเข้าใจข้อความมันอยู่เหมือนกัน แต่เอาเถอะ นี่ก็เป็นความชินอย่างหนึ่งไปแล้วเหมือนกัน



ผมพิมพ์ตอบมันไปว่าอยู่หอสมุดกลาง



‘มาคณะผม’



‘ไหม’



ไปทำไมล่ะวะ



‘มานะ’



เพื่อ? เดี๋ยวกูก็กลับหอแล้วมั้ย



‘อยากเจอ’



...ผมนิ่งไปสักพักก่อนพิมพ์ตอบไปว่าไม่มีรถ ขี้เกียจเดิน



‘เดี๋ยวไปรับ’



‘ไม่นาน’



เชื่อเขาเลย…ผมอมยิ้ม ถอนหายใจ พิมพ์ตอบกลับมันไป



เออ จะทำอะไรก็ทำเถอะ



“เดี๋ยวกูกลับละ”



“อ้าว กลับยังไงอ่ะ” ไอ้แว่นถาม เมื่อรู้ว่าระยะทางจากห้องสมุดกลางไปหอผมไม่ได้ใกล้มากเหมือนกับคณะ



“เพื่อนมารับ”



เอ่ยได้ไม่ติดขัด ไอ้เขียนไม่อยู่ที่นี่ให้อึดอัดใจ มันเป็นประเภทอ่านก่อนสอบไม่กี่อาทิตย์ แต่ไอ้เขียนมันเอาตัวรอดได้ แม้คะแนนไม่ได้ดีมากมายแต่ก็ไม่เคยต่ำกว่ามีน จริงๆ มันหัวดีจะตาย แต่ดูไม่ค่อยอยากมาเอาดีด้านนี้เท่าไหร่



ผมเก็บของเสร็จก็รอจนฉางมาถึง ไม่นานไอ้ฉางก็มารอหน้าหอสมุดกลาง มองยานพาหนะที่ไอ้ฉางเอามารับ... มอเตอร์ไซค์ของมัน เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้นั่ง ครั้งแรกคือวันที่มันมาตามผมที่ร้านเหล้า รู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ก็ยอมขึ้นรถไปกับมัน



จนเดินทางมาถึงคณะสถาปัตย์ฯที่เงียบราวกับคณะร้าง คิดว่ายังไงก็คงต้องกลับหอกับมันเลยยอมมาคณะมันด้วย อีกใจก็อยากเจอตามที่มันว่า แต่เพราะเรื่องใกล้สอบที่ติดอยู่ในหัวผมตลอดทำให้กลัวว่ามันจะกลับดึก แล้วผมจะไม่ได้อ่านหนังสือเอา



“มึงอยู่นานป่ะ กูอยากกลับไปอ่านหนังสือ”



“ไม่นานหรอก แค่เอามาให้พวกนั้นเชื่อ”



“...อะไร?”



“ไม่มีใครยอมเชื่อว่าข้าวคบกับผมอ่ะ”



“...” ผมเงียบ เบิกตาโตแทนคำตอบเมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริง ไอ้บ้า มันเอาผมมาอวดเพื่อนมันเนี่ยนะ ไม่เอา กูจะกลับแล้ว



“ข้าว” ฉางเรียกผมเมื่อผมยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนอยู่กลางทางเดิน ไม่ไปแล้ว กูอายเป็นนะ ผมส่ายหน้าให้มัน แทนคำพูดว่าไม่ไปไหนแล้ว



ฉางไม่รอให้ผมหนี มันคว้าข้อมือผม ออกแรงดึงจนเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ที่มีคนเต็มไปหมด... ไอ้เหี้ย พวกนั้นที่มึงว่าคือทั้งรุ่นเลยหรือไง



ไอ้ฉางไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่จ้องมองคนไม่คุ้นตาอย่างผม ผมเดินเกร็ง เสียงคุยจ๊อกแจ๊กดังมาเป็นแบล็กกราวน์ เกิดมาไม่เคยมีใครจ้องเยอะขนาดนี้ อยากมุดดินหนี...



จนมาถึงมุมหนึ่งของห้อง เจอพวกที่คุ้นหน้าอย่างอัลฟ่า ฟิวเจอร์ และเพียวนั่งกองรวมกัน คงเป็นมุมห้องที่โชคดีที่สุดที่มีคนพวกนี้นั่งประดับอยู่ ยืนคิดพร้อมทำท่าเก้ๆ กังๆ ใส่พวกนั้น สองคนที่ตอนนี้เบิกตาโตใส่ผม แน่นอน ฟิวเจอร์ไม่ได้ทำ แค่เหลียวมามองก่อนก้มหน้าก้มตาทำอะไรต่อในคอมฯ



แต่อีกสองคน...เพียวทำหน้าตกใจมาก ส่วนอัลฟ่า ทำหน้าตกใจกว่า



“อ...อะไร” ผมเอ่ยตะกุกตะกักเมื่อพวกนั้นเอาแต่จ้อง ไม่พูดไม่จา



“สรุปเรื่องจริงดิฉาง เอาจริงป่ะเนี่ย จริงจังจริงดิ”



“ไม่เชื่อตรงไหนล่ะ”



“ข้าว..ข้าวโดนฉางบังคับมาใช่ป่ะ แบบ มันหลอกอะไรข้าวถึงยอมมาอ่ะ”



“เอ่อ..”



“ผมบอกว่าจะไปรับเขาก็มา อัลฟ่า หยุดสงสัยเสียที” ไอ้ฉางตอบแทนผม



“สรุปว่า...ข้าว คบกับฉางจริงดิ” ไอ้ฟ่าไม่สนใจไอ้ฉาง หันมาพูดกับผมต่อ ทำหน้าตาคาดคั้นต้องการคำตอบอย่างเปิดเผย ในขณะเดียวกัน เพียวก็จ้องผมไม่วางตา...



“ผมชอบข้าว ข้าวก็ชอบผม คบกันจะแปลกตรงไหน”



“คือ..” จบคำพูดไอ้ฉาง ผมพูดไม่ออก ทำไมมันพูดออกมาได้อย่างหน้าไม่อายขนาดนี้นะ ผมที่ติดจะเขินๆ แต่ไม่คิดจะปิดบัง อย่างไรเสียพวกอัลฟ่าก็ดูไม่ได้รังเกียจเรื่องพวกนี้ 



“ก็ตามนั้นแหละ....”



ถึงจะอายแต่...ไม่มีอะไรให้ต้องปฏิเสธนี่



“”£$%^&!!” อัลฟ่าร้องไม่เป็นภาษา ผมสะดุ้ง ส่วนเพียวเพียงแค่ทำหน้าอึ้งๆ ก่อนหลบตาผม ส่งสายตาวอกแวกเหลือบซ้ายเหลือบขวาแทน



ทำไม มันทำไมวะ!



“งั้นผมกลับละนะ ต้องอยู่กับข้าว”



“...”



“จำไว้เลยนะฉาง!”



เงียบแรกเป็นของเพียวกับฟิวเจอร์ ส่วนเสียงดังตามมาคือของอัลฟ่า ผมไม่รู้มันหมายความว่าไง



“เจอกัน” ไอ้ฉางว่า ยกยิ้มมุมปากก่อนเก็บของตัวเอง หิ้วกระเป๋าพร้อมกับลากผมให้ออกจากห้องนั้นที่รู้ทีหลังว่ามันคือห้องสตูดิโอ



“พวกนั้นไม่ยอมเชื่อว่าผมต้องรีบกลับ เพราะผมคบกับข้าวแล้ว”



“...”



“ครั้งนี้เลยบอกว่าถ้าข้าวยอมมาหาที่สตูดิโอ พวกนั้นจะยอมให้ผมกลับ”



“เอ่อ...”



“ขอโทษที่จู่ๆ ก็ลากข้าวออกมานะ ผมอยากเจอข้าวแล้วนี่นา...ถ้าไม่ยอมเล่นอย่างนี้ คืนนี้ผมคงไม่ได้กลับไปนอนกับข้าว”



“คือ..” ผมพูดไม่ออก ไม่คิดว่าการที่คบกับมันจะทำให้ผมเขินจนเป็นใบ้ได้ขนาดนี้



“ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก...ว่าแต่มึงไม่อายหรือไง”



“อายอะไร”



“ก็เรื่อง...ที่บอกเรื่องของกูหน้าเพื่อนๆ”



“มันเป็นเรื่องหน้าอายตรงไหนเหรอ...?”



“...”



ผมเงียบแทนคำตอบอีกครั้ง สะอึกไปกับคำพูดของมัน ปกติแล้วพูดเรื่องนี้ใครๆ เขาก็อายกันไม่ใช่หรือไง



“ข้าวกินข้าวรึยัง” เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ ไอ้ฉางถามขึ้นมากลางความเงียบ ตัดความคิดก่อนหน้า ผมตอบกลับมันไป



“...กินแล้ว”



“...”



XV



“ไม่ต้องมาทำเป็นงอนเลย สามทุ่มจะสี่ทุ่มแล้วใครมันจะยังไม่กินข้าววะ”



“ผมไง”



“คนปกติเขาไม่เป็นเหมือนมึงไง”



“...ผมอุตสาห์เลิกเร็ว จะได้มากินข้าวพร้อมข้าว”



“มึงจะฝังใจไปทำไมเนี่ยเรื่องนี้”



“ก็มัน...”



ผมครางเสียงหงอยระหว่างนั่งอยู่กลางร้านบะหมี่ ที่มีผมคนเดียวที่กิน เสียใจ...ไม่ได้กินข้าวเย็นกับข้าวอีกแล้ว... อุตสาห์ได้เลิกก่อนเวลาทั้งที



“ไม่ต้องมาหงอยหน่า ยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ”



ผมนั่งเงียบ เคี้ยวเส้นบะหมี่ในปากไป



“แล้วก็กินผักด้วย...”



“...”



“มึงอย่าเลือกกิน”



“ข้าวชอบก็กินสิ” ผมเขี่ยวัตถุสีเขียวในชาม ความผิดผมเองแหละที่ลืมสั่งไม่ผัก... ข้าวถอนหายใจ คว้าช้อนตักน้ำซุปในถ้วยผมไปตักก้านผักมาหนึ่งคำ



“ฉาง อ้าปาก”



“ไม่” ผมตอบแบบแทบไม่คิดพร้อมเบิกตา นึกว่าเขาจะกินเอง ไม่คิดว่าจะเล่นอย่างนี้



“อ้าปาก”



“ข้าวก็กินเองสิ”



“อ้าปาก”



“ข้าว...”



“อ้าปาก”



“ผมไม่...”



“อ้า”



งั่ม



ข้าวชนะ...



เพราะเป็นข้าวหรอกนะ ถึงยอม



ให้รางวัลผมด้วยล่ะ



ผมมองหน้าเขาอย่างคาดโทษ เคี้ยวผักเขียวรสชาติขมในปาก ไม่อร่อยเลยสักนิด ข้าวตักผักมาอีกคำ ยื่นจ่อรอ ผมส่ายหน้าดิกๆ ไม่เอาแล้ว คำเดียวก็มากเกินพอแล้ว



“ฮะๆๆ”



คนน่ารักหัวเราะขึ้นเมื่อผมส่ายหน้าอย่างเอาตาย ฝืนกลืนซากผักในปากก่อนซดน้ำตามอย่างไว



“ข้าว ไม่ตลกเสียหน่อย”



“ฮะๆ มึงตลก”



ผมไม่ใช่คนตลก แต่ถ้าข้าวหัวเราะแบบนี้ จะยอมเป็นตัวตลกให้ข้าวก็ได้



บะหมี่ในถ้วยถูกฟาดหมดยกเว้นผักที่ทิ้งไว้ขอบชาม ผมลุกไปจ่ายเงินก่อนพาข้าวขึ้นมอเตอร์ไซค์กลับหอ พอมีข้าวมาซ้อนท้ายแล้วรู้สึกแปลกๆ ไม่ใช่ในแง่ลบ แค่รู้สึกเหมือนขับมอเตอร์ไซค์แล้วจะบินได้



มาถึงห้อง ข้าวพุ่งไปอาบน้ำทันที ส่วนผมก็เปิดคอมทำงานตามเรื่องราว เพราะพรุ่งนี้ไม่มีเรียนช่วงเช้า พวกนั้นเลยกะทำงานกลุ่มโต้รุ่ง เสียแต่ผมแอบดอดออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากข้าว ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทิ้งให้เพื่อนทำงานกลุ่มกันเอง ผมรับผิดชอบส่วนที่ต้องทำในคอมอยู่แล้วเลยไม่มีปัญหา ทำที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าทำด้วยกันมันจะสะดวกกว่า



แต่ไม่เอาอ่ะ ผมอยากอยู่กับข้าว



ผมเร่งปั่นงานในส่วนของตัวเองให้ไวที่สุด ข้าวอาบน้ำเสร็จแล้วก็มาสถิตอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสืออย่างเคย ผมทำงานไปมองข้าวไป กระชุ่มกระชวยขึ้นมาก มีแรงทำงานได้ทั้งคืนเลย ทว่าพอถึงเวลาที่ข้าวต้องเข้านอนผมก็เข้านอนไปพร้อมเขาด้วย ไม่อยากเปิดไฟไว้ เดี๋ยวข้าวนอนไม่สบายหรอก



เพราะฉะนั้นเรื่องงานก็ให้มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้



ตอนนี้ผมขอนอนกอดข้าวให้สมใจ



ลอบจูบสักนิดเป็นรางวัลให้ตัวเอง





.



สองวันแล้ว ไอ้ฉางหายหัว บอกปั่นงานที่คณะ คราวนี้เพื่อนไม่ยอมให้มันใช้ผมเป็นข้ออ้างกลับก่อนแล้ว ถึงอย่างนั้นผมเองก็ยุ่งกับการอ่านหนังสือสอบเหมือนกัน พอมีเรื่องให้คิดก็เลยทำเป็นละเว้นเรื่องของไอ้ฉางไว้ได้บ้าง



แต่เมื่ออยู่ในห้อง ก็ยังมิวายแอบเหลือบไปยังมุมห้องประจำที่มันชอบไปนั่งบ่อยๆ...



ช่วยไม่ได้นี่ มันชิน



ผมอ่านหนังสือที่ห้องสมุดกลางกับพวกแว่นจนสามทุ่มก็กลับ ให้ไอ้ภัคมาส่ง ชีวิตประจำวันดำเนินไปอย่างน่าเบื่อเล็กน้อย จะว่าไงดี เหมือนขาดสีสัน



ผมกับไอ้ฉางไม่ค่อยได้ติดต่อกันผ่านโทรศัพท์เท่าไหร่ ไม่ว่าจะข้อความหรือโทรคุย ค่อนข้างแตกต่างจากคนที่ผมเคยคบมา แต่ก็เข้าใจ เพราะไอ้ฉางมันไม่ปกติ ผมเองก็ไม่อยากไปฝืนธรรมชาติมัน จึงไม่ได้โทรหา อีกทั้งไม่ใช่คนอ่อนหวานอะไร ให้ส่งข้อความไปเงี้ยวง้าวด้วยเนี่ย ไม่ไหวหรอก



เพราะฉะนั้นสองวันที่ผ่านมาระหว่างผมกับมันจึงมีแต่ความเงียบ



ไม่มีใครได้ติดต่อใคร แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไร...รึเปล่านะ ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไงเหมือนกัน สุดท้ายแล้วผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าการคบกับผู้ชายนั้นต้องทำตัวแบบไหน



ถึงจะเคยชวนไอ้ฉางมาอ่านหนังสือสอบด้วยกันแล้ว ทว่ามันบอกไม่อ่าน ไม่ว่างอ่าน ต้องปั่นงาน สงสัยว่าแล้วไม่สอบหรือไง คำตอบของมันคือ



“คณะผมนิยมพึ่งปรากฏการณ์ one night miracle”



สรุปก็คือมันไม่อ่าน ถ้าไม่ใกล้วันสอบแบบอีกสองสามวันสอบ มันก็จะไม่อ่าน ผมไม่รู้ว่าคณะมันทำไมถึงไม่แคร์เรื่องพวกนี้ได้ขนาดนี้ ถึงต้องส่งงานเป็นหลัก แต่สอบเองก็สำคัญมิใช่หรือไง...สงสัยไปอย่างนั้นแหละ ผมไม่มีโอกาสได้ถามมันอยู่ดี



ผมปล่อยมันไป ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอีก จนตอนนี้ก็ผ่านมาสองวันได้แล้ว ไม่ได้ขี้เหงา คิดว่าอยู่คนเดียวได้ไม่เคยเป็นปัญหา แต่พอมีมันเข้ามาในชีวิตแล้ว ช่วงที่ไม่มีมันกลับดูเป็นเรื่องประหลาด ห้องดูว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูก



ผมปล่อยเหม่อ นั่งอ่านหนังสือในห้องตัวเองไปแบบลอยๆ หกโมงกว่าแล้ว คิดว่าอีกสักพักคงลงไปหาอะไรกิน เสียแต่โทรศัพท์มือถือข้างกายดันสั่นครืด แจ้งเตือนข้อความเข้าเสียก่อน ผมหันไปมองชื่อคนส่ง เมื่อเห็นใจพลันเต้นผิดจังหวะ



เมื่อคนที่ส่งข้อความมาเป็นคนที่ผมไม่เจอเลยตลอดสองวัน



‘ไหนข้าว’



ผมอมยิ้ม พิมพ์ตอบกลับไป



ห้อง



‘กินข้าวไปยัง’



ยัง กำลังจะ



คิดว่าตัวเองเริ่มติดนิสัยการพิมพ์ห้วนๆ ไม่รู้เรื่องแบบไอ้ฉางไปเสียแล้ว



‘อย่าเพิ่งกิน’



...ผมนึกสงสัยว่าทำไม แต่ไม่ได้ตอบกลับ คิดว่ามันคงคร้านจะอธิบายจึงวางมือถือลง ไม่มีข้อความอะไรส่งมาอีกเช่นกันจึงตัดสินใจนั่งรอในห้อง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประตูห้องก็เปิดออก หัวใจกระดอนไปวูบหนึ่งเมื่อรู้ว่าคนที่มาคือใคร



“ข้าว...ผมทำข้าวเย็นมาให้”



ไอ้ฉางโผล่มาพร้อมคำพูด ก่อนจะปรากฏตัวเข้ามาในห้อง ใช้เท้าเขี่ยประตูห้องให้ปิดลง ในมือมันถือกล่องทัพเพอร์แวร์ขนาดใหญ่สองกล่อง ผมมองไม่เห็นของข้างในเลยเอ่ยถาม



“อะไรล่ะ”



“มักกะโรนีชีส”



“...จำได้ว่าครั้งก่อนกูบอกอยากกินต้มข่า”



“มันไม่มีเครื่องอ่ะ ผมขี้เกียจซื้อ เลยเอาวัตถุดิบเท่าที่มีในบ้านก่อน ข้าวกินได้มั้ย”



ผมยิ้มมุมปากให้เป็นคำตอบ



ไอ้ฉางฉีกยิ้มตอบ ก่อนรีบกุลีกุจอมานั่งจัดโต๊ะทานข้าวให้ เอาจริงๆ มันก็แค่เอาโต๊ะพับมากาง เทอาหารจากกล่องใส่จาน เตรียมช้อนส้อมให้เท่านั้น แต่ช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วทำให้ใจมันฟูขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก



กลิ่นหอมจากชีสและเส้นมักกะโรนีลอยฟุ้งออกมา เหมือนว่าเพิ่งทำเสร็จ ไม่รู้ว่ามันรีบบึ่งมาแค่ไหน แต่นั่นก็ทำให้ผมมีความสุขไม่น้อย



ผมขยับตัว ลุกออกจากโต๊ะอ่านหนังสือ ลงมานั่งทานข้าวกับมันที่ทำหน้าทำตายิ้มร่าจนน่าหมั่นไส้



จับช้อนขึ้นมาตักเส้นมักกะโรนีเข้าปาก ไอ้ฉางจ้องตั้งแต่ผมลงมานั่งจนถึงขั้นเคี้ยวอาหารที่มันทำอย่างใจจดใจจ่อ ตั้งใจมองเสียจนอดเกร็งไม่ได้



“อร่อยนี่”



ผมว่าเมื่อกลืนคำแรกลงคอ ปฏิกิริยาของพ่อครัวคือฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็กน้อยได้รับคำชม ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์จนหัวใจเต้นผิดจังหวะไปอีกครั้ง ไม่คิดว่ามันจะทำหน้าอย่างนี้ได้ด้วย ไม่คิดด้วยว่ากะอีแค่คำพูดเพียงคำเดียวของผมจะทำให้มันเป็นได้ขนาดนี้



ไอ้ฉางไม่ได้พูดอะไร ตักมักกะโรนีของตัวเองเข้าปากบ้าง มันลอบอมยิ้ม ก่อนเอ่ย



“ทีนี้ก็ได้กินข้าวเย็นกับข้าวแล้ว”



ยังฝังใจเรื่องนี้อยู่อีก



“ยังไม่เลิกคิดเรื่องนี้อีก”



“อืม...ถ้าเป็นเรื่องข้าวก็คิดอยู่ตลอดนั่นแหละ”



“...”



ผมก้มหน้าก้มตาตักอาหารตรงหน้า ซ่อนหน้าตัวเองไว้ไม่ยอมตอบกลับ รู้สึกเหมือนโดนจีบแบบนี้ไม่ชินเท่าไหร่ ปกติต้องเป็นผมสิที่ต้องเอาใจคนที่คบกัน เป็นหน้าที่ตัวเองเสมอที่ต้องหยอดคำหวาน



ผมเหลือบมองไอ้ฉางที่ก้มหน้ากินต่อไม่ได้สนใจประโยคของตัวเองเมื่อครู่พลางคิดว่านั่นน่าจะเป็นคำพูดจากความคิดไอ้ฉางจริงๆ มากกว่า มันคงไม่ได้คิดว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำอย่างที่ผมคิด





ข้าวเย็นวันนี้รสชาติหวานเป็นพิเศษ





                                                                 
♦  ♦  ♦  ♦  ♦  ♦  ♦




ออฟไลน์ jittrawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #247 เมื่อ18-10-2017 23:14:03 »

ดีจัง กินข้าวด้วยกัน มันเรียบๆ แต่ก็อุ่นๆ อึนๆ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #248 เมื่อ18-10-2017 23:16:33 »

สงสัยเป็นเบาหวานแน่ๆ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #249 เมื่อ18-10-2017 23:24:51 »

หวานกันจัง อิจฉาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
« ตอบ #249 เมื่อ: 18-10-2017 23:24:51 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #250 เมื่อ18-10-2017 23:43:14 »

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #251 เมื่อ19-10-2017 03:37:50 »

โอ้ยยยย เขินไปอีก ความละมุนนี้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #252 เมื่อ19-10-2017 06:14:17 »

ดีจัง ฉาง ข้าว คบกัน
ให้สงสัยที่ว่าเพื่อนๆไม่เชื่อ เพราะอะไรกัน

กับสงสัยท่าทีของอัลฟ่า กับเพียว
อัลฟ่า ที่ถึงกับร้องไม่เป็นภาษา จนข้าวสะดุ้ง
ส่วนเพียว ทำหน้าอึ้งๆ ก่อนหลบตาข้าว
แล้วสายตาก็วอกแวก เหลือบซ้ายเหลือบขวาอีก  :z3:
ใช่.....ทำไมต้องมีท่าทีประหลาดขนาดนี้ !  o22
หรือทั้งสองคนแอบชอบฉาง  :ling1:

ชอบความละมุนละไมของฉางที่ปฏิบัติต่อข้าว
ฉาง อ่านข้าวออกหมดเลย
ฉาง ข้าว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ว้าว!!!!!  มีความเข้ากันของชื่อ ไรท์น่ารักอ่ะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #253 เมื่อ19-10-2017 06:27:35 »

ก็หวานไปอีก จริงๆฉางเป็นผู้ชายอบอุ่น  :o8:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #254 เมื่อ19-10-2017 07:18:10 »

น่ารักเกินไปแล้สคู่นี้ ฉางถึงจะมึน แต่สายเทคแคร์ ฮรื้ออออ ดี

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #255 เมื่อ19-10-2017 08:44:15 »

หวานได้หวานดี ขอให้อย่ามีอะไรมาขัดความหวาน 555555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #256 เมื่อ19-10-2017 18:09:50 »

หวานกันแบบมึนๆ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #257 เมื่อ19-10-2017 19:17:19 »

มีความตะมุตะมิ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #258 เมื่อ19-10-2017 20:06:27 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #259 เมื่อ20-10-2017 01:27:27 »

ชีสก็ชีสเถอะค่ะ หวานจนมดขึ้นนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
« ตอบ #259 เมื่อ: 20-10-2017 01:27:27 »





ออฟไลน์ barbiehateken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #260 เมื่อ20-10-2017 09:41:00 »

หวานมากกกกก ข้าวหวาน รีบเข้าหอกันนะคะ อิอิ :z2:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #261 เมื่อ20-10-2017 16:11:42 »

 :L2: :m31: :L2:

ออฟไลน์ Fonz_Juz19

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #262 เมื่อ20-10-2017 16:20:37 »

น่่ารักมากๆเลย ละมุนสุดๆ
ฉางดูใส่ใจ ข้าวก็น่ารัก

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ only_huswife

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #263 เมื่อ20-10-2017 20:08:23 »

ไม่น่าอ่านตอนนี้เลย อยากกินมักกะโรนีชีสสสสสส
 :katai1: :katai1: :katai1:
เรื่อยๆมาเรียงๆ ค่อยๆรักกันเบาๆ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบห้า| - 18.10.2017 p.9
«ตอบ #264 เมื่อ21-10-2017 19:16:09 »

ข้าวเย็นที่แสนจะธรรมดา แต่มันจะอร่อยมากเมื่อได้กินกับคนที่เรารัก :mew3:

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบหก| - 25.10.2017 p.9
«ตอบ #265 เมื่อ25-10-2017 21:09:13 »

16



ฤดูสอบใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที ผมเร่งอ่านหนังสือเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เลิกเรียนก็ไปสิงห้องสมุดกับพวกเนิร์ดบ้าง กลับมาอ่านหนังสือเองที่หอบ้าง วนเป็นกิจวัตรประจำวันแสนน่าเบื่อ ส่วนไอ้ฉางก็เอาแต่ขลุกอยู่ในคณะ ตอนมันจะนอนคือช่วงที่ผมออกไปเรียน ตอนมันตื่นคือช่วงค่ำๆ ที่ผมอ่านหนังสืออยู่ห้องสมุด



เลยไม่ได้เจอมันเท่าไหร่ อย่างดีก็แค่เห็นมันแวบ ไปแวบมา ต่างคนต่างมีอะไรต้องทำ เป็นอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้เจอมันจริงๆ จังๆ สักที ทั้งที่ตกลงคบกับมันแล้วแต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไหร่เลย ผมไม่รู้ต้องรู้สึกยังไงดี



เรื่องดีก็คือไม่ต้องคอยเอาอกเอาใจมันเหมือนกับผู้หญิงคนก่อนๆ ที่เคยคบ ไม่ต้องคอยบอกว่าอยู่ไหนไปไหนเจอใคร มีเวลาให้ตัวเองเต็มที่



แล้วอย่างนั้นมันต่างจากไม่คบกันยังไงวะ



ถ้าเป็นอย่างนี้ ปล่อยไปให้เหมือนอย่างเคยไม่ดีกว่าเหรอ ทั้งที่มันเคยบอกว่าชอบผม และจะทำให้ดู จนถึงตอนนี้ผมยังไม่เห็นอะไรเปลี่ยนไปตรงไหนเลย สิ่งที่มันทำ ไม่ได้ต่างจากที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก จนผมเริ่มสงสัยว่ามันชอบจริงๆ หรือแค่พูดเอาตัวรอด เห็นว่าผมมีประโยชน์ดีเลยอยากเกาะผมไว้เฉยๆ



ไม่ได้อยากมาคิดเล็กคิดน้อยเลยให้ตาย แต่เป็นมันทั้งนั้นที่ทำให้ผมคิดอย่างนี้



คำพูดใครๆ มันก็พูดได้ แล้วไอ้คนที่บอกจะทำให้ดูแม่งก็ไม่ทำอะไรสักอย่าง เอาแต่ผลุบโผล่เหมือนทุกที ไม่รู้งานมันจะเยอะอะไรขนาดนั้น บอกอีกครั้งว่าไม่อยากมาคิดเรื่องจุกจิกแบบนี้เลยจริงๆ



ถ้าไม่รู้สึกกับมัน ก็คงไม่ต้องมาคิดมากไร้สาระขนาดนี้



ผมถอนหายใจ เตรียมเข้านอน ตีสองแล้ว ไอ้ฉางยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับ ผมที่อ่านหนังสือเสร็จแล้วจึงไม่คิดจะอยู่รอมันต่อ มุดตัวเข้าผ้าห่มก่อนหลับไป…



วันนี้วันศุกร์ ผมมีเรียนเช้า หลังจากที่ตื่นมาอย่างสะลึมสะลือ เตรียมตัวออกไปเรียนเสร็จ ทว่าระหว่างทางลงบันไดหอ ผมกลับเจอใบหน้าคนคุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้า



เป็นไอ้ฉาง…



 มันเดินหน้าง่วงสวนบันไดขึ้นมา เงยหน้าสบตากันพอดี เพิ่งบ่นมันไปไม่ทันไรก็เจอตัว ผมอ้าปากเตรียมจะต่อว่า



ราวกับไอ้ฉางมันจะรู้ตัว มันรีบพุ่งเข้ามาคว้าตัวผมไว้ ยังไม่ทันได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ริมฝีปากผมก็สัมผัสได้ถึงความอุ่นหยุ่นๆ ที่ประกบเข้ามา



จุ๊บ



“อะ…!”



“ข้าวอย่าเพิ่งดุผมนะ ยังไม่ได้นอนเลย ขอนอนก่อนนะ” มันว่า หลังจากที่กระชากตัวผมไปประกบจูบเบาๆ ไอ้บ้า นี่มันใช่ที่มั้ย ผมพูดไม่ออก ได้แต่ยืนหน้าแดงปล่อยให้มันกอดเอาคางเกยกับไหล่ผม ซุกหัวคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอ ก่อนมันจะค่อยๆ ปล่อยตัวผมออก พยุงตัวเองเดินสะโหลสะเหล เข้าห้องไป



ไอ้บ้าเอ๊ย



ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นเอามากขนาดนี้ หน้าร้อนถึงขนาดที่รู้เลยว่าจะต้องแดงมากแน่ๆ เมื่อวานเพิ่งบ่นไป ยังกะมันรู้ตัว พอเจอหน้ากันก็เล่นงี้เลยนะ แล้วกูก็ใจสั่นง่ายไปมั้ย



มึงเป็นเอามากนะข้าว



ผมตั้งสติ ไปเรียนตามปกติ พยายามใช้ชีวิตตามเดิม แต่พอเลิกเรียน ผมไม่ไปห้องสมุดกับชาวแก๊งค์เนิร์ดเหมือนทุกครั้ง ขอตัวตรงกลับหอทันที คิดว่าถึงอยู่อ่านหนังสือกับพวกนี้ต่อก็มีแต่ฟุ้งซ่านเรื่องตอนเช้า ไม่ได้อะไรขึ้นมา เกรงว่าจะแสดงอาการอะไรแปลกๆ ออกไปต่อหน้าพวกนี้ ต้องหาคำแก้ตัวอีก ไม่เอาดีกว่า หนีมาอยู่ในถ้ำเงียบๆ เถอะ



ผมกินข้าวแถวหอก่อนกลับขึ้นห้อง ในห้องมืดสนิท ผมเดาว่าไอ้ฉางนอนตายอยู่ พัดลมก็ไม่เปิด แต่พอกดสวิตช์ให้แสงไฟในห้องได้ทำงาน เตียงที่คิดว่าจะมีร่างที่คุ้นเคยนอนอยู่กลับโล่งว่างเปล่า ผมไม่เจอคนที่คิดว่าจะได้เจอ...



มันไปไหนของมันอีกวะ



ในใจกลับมาว้าวุ่นสับสนอีกครั้ง



หัวใจโล่งว่างเปล่าไปพร้อมๆ กับเตียงที่โล่งร้าง



สุดท้ายก็จบลงที่การถอนหายใจ เอาเถอะ...ก็แบบนี้ทุกที ตอนนี้ทำตามหน้าที่ของตัวเองไปก่อนดีกว่า ผมเข้าไปอาบน้ำ ออกมาอ่านหนังสือ ก่อนเข้านอน ด้วยความรู้สึกเหมือนหัวใจมันโล่งแปลกกว่าเดิม



ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนปกติอย่างไม่ปกติ ผมทำตามตารางชีวิตน่าเบื่อเดิมๆ ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวทานข้าว ออกไปอ่านหนังสือที่หอสมุดกับเพื่อน ก่อนหน้านี้บางวันก็ไปเรียน กลับหอมาอาบน้ำอ่านหนังสือเตรียมสอบต่อ มารทอนต่อเนื่องกันไป ทว่าที่ไม่ปกติเห็นจะเป็นสภาพจิตใจ ไอ้ฉางหายไปแล้วหายไปลับ ไม่โผล่มาหน้ามาสักนิด



ข้อความมือถือก็ว่างเปล่า แต่ก็เป็นผมเองด้วยที่ไม่ได้ส่งอะไรออกไป ผมไม่รู้ต้องส่งว่าอะไรนี่ ไอ้ฉางเป็นผู้ชาย ผมไม่รู้ว่าใช้ชุดข้อความเดียวกับผู้หญิงที่ผมเคยคบได้ไหม



แต่ที่สำคัญกว่าเนื้อหาในข้อความคือ ผมกลัวว่ามันจะไม่ตอบ...



นับวันยิ่งเป็นเอามากนะ ผมหวังอะไรจากมันอยู่เหรอ



ก็แค่คิดว่าถ้าใจตรงกันจริง ก็น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หายหน้าไปมา ผลุบๆ โผล่ๆ แบบนี้ไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย กลับมาคิดวนแต่เรื่องนี้ซ้ำๆ จนเบื่อตัวเองเหมือนกัน



ผมอ่านหนังสือด้วยความคิดสงสัยว่าไอ้ฉางไปไหนทำอะไร ตบตีกับเนื้อหาสอบ ไปจนเช้าวันจันทร์



อาทิตย์หน้าเป็นช่วงสอบแล้ว ช่วงนี้อาจารย์ก็เริ่มทยอยปิดเซคกันไปบ้าง เพราะอย่างนั้นจึงทำให้วันนี้ผมไม่มีเรียน ทว่าเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์กลับดังขึ้นมา ผมตื่นมาสักพักแล้วก็จริง แต่วันนี้ไม่คิดจะออกไปไหนจึงได้แต่นั่งโง่ทำแบบฝึกหัดอยู่ในห้อง ไม่คิดว่าจะมีใครมารบกวน จึงค่อนข้างแปลกใจกับการแจ้งเตือนครั้งนี้ ทว่าระหว่างที่คิดเช่นนี้ มือกลับทำงานเร็วกว่าสมอง เอื้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว



ก่อนพบว่าเป็นเบอร์แปลกโทรมา...



ใจผมแป้วเล็กน้อย แต่ก็กดรับสายไป



“ข้าว!?”



“ครับ...? นั่นใคร”



“ข้าว ข้าว ช่วยด้วย เราอัลฟ่า ข้าวช่วยด้วย”



“อะไร อัลฟ่า พูดดีๆ”



“ข้าว ว่างมั้ย ตอนนี้”



“ก็...ไม่ได้ออกไปไหนนะ”



“อยู่หอใช่มั้ย ลงมาเลยตอนนี้ได้มั้ย เรารออยู่หน้าหอข้าว”



“ห้ะ!”



ผมร้องเสียงดัง ไม่เข้าใจอัลฟ่า มาหาผมถึงหน้าหอทำไม แต่ดูเหมือนไอ้คนร้อนรนนี่จะรู้ถึงความสงสัยของผม อัลฟ่ารีบอธิบายต่อ



“ฉางมันไม่ตื่นเลยข้าว เสาร์อาทิตย์พวกเราทำงานโต้รุ่งมาสองคืน แต่วันนี้ฉางมันต้องพรีเซนท์งานตัวเองตอนบ่าย แต่นี่มันยังไม่ตื่นเลย”



ผมมองเวลา...เกือบเที่ยง



“ห้ะ!!”



“นั่นแหละข้าว ข้าวลงมากับเราหน่อย จะพาไปหาฉาง ไปช่วยปลุกมันหน่อยนะข้าว ถ้ามันขาดพรีเซนท์ได้ติดเอฟแน่เลย”



ไอ้ฟ่าร้องครางผ่านมาทางโทรศัพท์ ส่วนผมพุ่งออกนอกห้องไปทันที นึกด่าไอ้ฉางในใจ ไอ้บ้า พรีเซนท์งานบ่าย นี่จะเที่ยงแล้ว แล้วมันไปอยู่ที่ไหน



ผมมาเจออัลฟ่ารออยู่หน้าหอผมอย่างที่มันว่าจริงๆ ไม่รอช้า อัลฟ่าให้ผมขึ้นรถบีเอ็มสีดำ คงจะตื่นเต้นกว่านี้ที่ได้นั่งรถหรู ถ้าหากไม่มีเรื่องไอ้ฉางมาติดพันให้กังวลล่ะก็นะ



ระหว่างทาง อัลฟ่าเล่าความเป็นมา อันที่จริงโปรเจคมิดเทอมที่เป็นงานในคณะพวกมันจบตั้งแต่วันศุกร์แล้ว คงเป็นตอนที่ผมเห็นไอ้ฉางเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องไปนั่นแหละ และใช่ มันควรจะจบตั้งแต่ตอนนั้น เสียแต่พวกมันเสือกไปจับกลุ่มประกวดแบบอะไรสักอย่าง ที่ต้องส่งภายในวันอาทิตย์ ดังนั้นเลยกลายเป็นว่าหลังจากส่งโปรเจคตัวเองเสร็จก็ต้องมานั่งทำงานประกวดต่อติดๆ กันไป ปั่นงานกันไฟไหม้ ไอ้ฉางเป็นมือคอม ต้องทำงานมารทอนเลยไม่ได้นอน



อันที่จริงพวกมันตั้งใจส่งงานตอนวันอาทิตย์ห้าทุ่มเสร็จก็จะไปทำแผ่นสรุปงานตัวเองเพื่อแจกให้อาจารย์ คงเสร็จประมาณเช้า แล้วจะออกไปคณะเลย ผลัดกันเฝ้าไม่ให้ไอ้ฉางมันนอน เพราะรู้ว่าถ้าได้นอนมันนอนยาวแน่



ทั้งที่พวกมันตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้น ทว่าหลังจากทำไอ้ใบแผ่นสรุปเสร็จ เพียวกับฟิวเจอร์ต่างก็ไปล้างหน้าล้างตาต่อจากฉาง ส่วนอัลฟ่าลงไปซื้อข้าวมาให้ หลังจากอดอยากมาเกือบวัน และพอแต่ละคนต่างมีอะไรให้ต้องทำ เป็นบทสรุปให้ไอ้ฉางอยู่คนเดียวและ เผลอหลับ...ไม่ตื่นในที่สุด



เป็นเดือดเป็นร้อนให้ผมต้องไปปลุกมันถึงที่ เพราะช่วยกันปลุกตั้งแต่เช้าแล้ว จนตอนนี้มันก็ยังไม่ขยับ



สุดยอดเลยจริงๆ



หลังจากฟังไอ้ฟ่าเล่าจบ ผมก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งเหตุผลที่มันหายตัวไปบ่อยๆ ผลุบๆ โผล่ๆ หายหน้าหายตา ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะกองงานขนาดนรกนี่ พอรู้มาว่าสถาปัตย์ทำงานหนักจริง แต่ไม่คิดว่ามันจะนรกขนาดนี้



“จริงๆ ถ้าไม่รับงานประกวดแบบก็คงสบายไปแล้ว”



ไอ้ฟ่าบ่นขึ้นมา แต่ก็บนพึมพำต่อท้ายว่ายังไงก็รับไปแล้ว ช่วยไม่ได้ ก็จริง คนเรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้อยู่แล้ว



นึกงี้แล้วก็โล่งใจที่ไม่โทรไปหาหรือส่งข้อความงี่เง่ารบกวนมัน




คิดว่ายังมีเรื่องที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับมันอีกเยอะ ยังต้องทำความรู้จักมันให้มากกว่านี้ ถึงจะยังไม่เข้าใจมันทั้งหมดก็เถอะ แต่ค่อยๆ เรียนรู้กันไปคงไม่สาย พลันคิดได้อีกเรื่อง



“แล้วทำไมไม่เอาไอ้ฉางไปคณะก่อนล่ะ” ผมว่าเมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้น คิดว่าถ้าช่วยกันแบกไอ้ฉางไปคณะน่าจะทำให้ไม่ต้องเสี่ยงขนาดนี้ อย่างน้อยก็เอาตัวมาถึงที่แล้ว ถึงตอนนั้น จะเรียกให้ผมไปปลุกมันก็คงใช้เวลาน้อยกว่าต้องขับรถไปมาเช่นนี้ แถมหากผมไม่อยู่หอขึ้นมาก็ยุ่งเลยไม่ใช่หรือ



“หรืออันที่จริง...ลองโทรมาให้ปลุก...ไอ้ฉางได้ยินเสียงกูน่าจะพอตื่นอยู่มั้ง...” ผมเสนออีกทางเลือกเมื่อไอ้ฟ่านั่งเงียบ



“...ข้าว...พวกเราไม่ได้นอนมาน่ะ...”



คำตอบของอัลฟ่าทำให้ผมปิดปาก ไม่คิดจะพูดอะไรเสนออะไรออกไปอีก...



“...แล้วขับรถจะรอดมั้ย” ได้แต่บ่นงึมงำอย่างกังวล



“ข้าวก็ต้องชวนผมคุยนะ”



เดือดร้อนกูอีกแล้ว...



อัลฟ่าเร่งความเร็วรถจนมาถึงคอนโดเพียวกับฟิวเจอร์ ที่ที่พวกนั้นใช้กบดาน เป็นฐานทัพสำหรับปั่นงานสองวันที่ผ่านมา แม้จะรู้ว่าความสัมพันธ์ของเพียวกับฟิวเจอร์ไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่คิดว่าจะอยู่ด้วยกัน ถึงอย่างนั้นผมก็พยายามไม่แสดงอาการสงสัยอะไร พอมาถึงประตูห้อง ผมเจอหน้าเพียวเป็นคนแรก



“ข้าว มาพอดีเลย” เสียงหวานว่า



ก่อนส่ายหน้าตอบอัลฟ่าที่ถามหาฉาง เป็นการบอกเงียบๆ ว่า ไอ้ฉางไม่ตื่น



ผมเดินเข้าไปในห้องนอน ระหว่างทางเดินหลบเศษซากขยะ กระดาษ กาว และอะไรอีกมากมายที่เกลื่อนห้องราวกับระเบิดลง เดินกระย่องกระแย่งจนมาถึงห้องนอนในที่สุด



มีฟิวเจอร์ยืนจ้องไอ้ฉางอยู่ ส่วนคนสร้างเรื่องวุ่นกลับหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราว ทว่าใส่ชุดนักศึกษาเสร็จสรรพ



“ไม่ไหว ขนาดเปลี่ยนเสื้อให้ขนาดนี้ก็ยังไม่ตื่น”  เสียงเพียวดังขึ้นจากข้างหลัง “ข้าว ช่วยหน่อยนะ”



“อืม...” ผมหันไปครางตอบเพียว



ก่อนนั่งลงข้างๆ ไอ้ฉาง ไม่รู้จะช่วยได้ไหม แต่ก็เอ่ยคำประจำที่ใช้ปลุกมันทุกที



“ฉางตื่น”



มันไม่ขยับ



“ฉางตื่นได้แล้ว” ว่าพร้อมตบหน้ามันเบาๆ สองแปะ ไอ้ฉางขยับตัว



จนเปลือกตาที่ปิดสนิทเริ่มขยับ ก่อนเปิดออก



“ตื่นแล้วโว้ยยยย!!!” ไอ้ฟ่าร้องลั่นเมื่อเห็นไอ้ฉางเปิดตาเต็มสองตา “มือปลุกฉางอันดับหนึ่งไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ”



“ฟ่า...คุณพูดไม่เพราะ”



ผมไม่สนใจอัลฟ่า นั่งจ้องไอ้ฉางที่กำลังสะลึมสะลือ ทว่าคำแรกของมันคือคำต่อว่าอัลฟ่าเสียอย่างนั้น



 “ เอ้อ...’โทษที คุณก็รีบได้แล้ว จะบ่ายแล้ว ต้องรีบไปพรีเซนท์อีกนะ!”



จบคำของอัลฟ่า ไอ้ฉางสะดุ้งสุดตัว ลุกขึ้นยืนเต็มสองขาก่อนพยายามวิ่งฝ่ากองขยะมรณะ



“ฉาง!” ผมเรียกมัน หวังให้มันตั้งสติก่อน ยังไงก็คงต้องไปรถอัลฟ่า มันวิ่งออกไปอย่างนี้มีแต่จะทำให้เจ็บตัวและเหนื่อยเปล่า



“อ๊ะ ข้าว ขอบคุณนะ” ทว่าสิ่งที่มันตอบแทนคือวิ่งกลับมาหาผมก่อนประกบจูบลงที่ปากเบาๆ



ให้ผมยืนค้างหน้าแดงอยู่กลางห้องนอน



ก่อนที่จะถูกเพียวดึงสติแทน “ข้าว รีบไปกันเถอะ” ไม่ว่าเปล่า มือนุ่มเกินชายคว้าข้อมือผมให้ออกไปจากห้องพร้อมกัน



อัลฟ่าเร่งสปีดสุดชีวิตจนผมหวาดเสียว เสียงคุยในรถมีแต่เสียงอัลฟ่าเป็นส่วนใหญ่ ผมรู้ว่าฟ่าพยายามคุยเพื่อให้ไอ้ฉางมีสติมากขึ้น รวมถึงพยายามให้บทสนทนาเป็นการดึงสติของตัวอัลฟ่าเอง ไอ้ฉางเองก็พยายามให้ความร่วมมือดี



“ฉาง less is more”



“ของแวนเดอโร”



“เพลงผิงไฟ”



“ของอภิรมย์”



 “เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์”



“สุโขทัย เขมร”



“อัตราส่วนคอนกรีตหยาบ”



“1:3:5”



“สองคูณสี่”



“หก”



“แปด!” ผมเถียง มีเพียวนั่งหัวเราะขำอยู่ข้างๆ ส่วนฟิวเจอร์ที่ไม่เคยสนโลกก็นั่งเหม่อมองออกนอกกระจกรถ



นี่พวกมึงติวข้อสอบกันหรอ แม้จะมีเรื่องไร้สาระบ้างมีสาระบ้าง แล้วทำไมไอ้ฉางมันเสือกตอบได้ แต่ตอบสองคูณสี่ไม่ถูกวะ...



เสียงอัลฟ่ากับไอ้ฉางดังสลับกันมาเป็นระยะจนปวดหัว รถเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ จนถึงคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่เป็นจุดหมายปลายทาง ไอ้ฉางเปิดประตูรถก่อนพุ่งออกไป ไม่ทันได้ปิดประตูด้วยซ้ำ ส่วนคนอื่นๆ ไม่ได้รีบเท่าไหร่ กลับใช้การเดินไวแทนการวิ่งไม่คิดชีวิตแบบไอ้ฉาง



“เอ่อ...งั้นเรากลับก่อนนะ” ผมว่าหลังจากที่เดินตามน้ำไปเกือบจะถึงทางเข้าตึก จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ากูจะเข้าไปทำไมวะ หมดหน้าที่แล้ว...



“ข้าวไม่อยู่ดูฉางหน่อยล่ะ” น้ำเสียงทุ้มเย็นของเพียวเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ไม่นานหรอก”



เพียวจ้องหน้าผมเสียใหญ่จนต้องพยักหน้าไปอย่างไม่กล้าปฏิเสธคนตรงหน้า ราวกับมีอำนาจมืดสั่งการให้ผมตอบตกลง อันที่จริง ผมไม่มีปัญหาอะไรนักหรอก แค่เกร็งถ้าจะต้องเข้าไปอยู่ท่ามกลางนักศึกษาสถาปัตย์ และคงจะดีกว่าถ้าได้กลับไปอ่านหนังสือต่อ...



แต่สุดท้าย ผมก็มายืนตัวลีบหลบอยู่หลังเสาท่ามกลางห้องพรีเซนท์งานในบรรยากาศแสนกดดัน...



XVI



พรีเซนท์ผ่านไปได้ด้วยความทุลักทุเล ไม่ได้แย่มากแต่คิดว่าถ้าไม่หลับจนเกือบมาสายน่าจะทำได้ดีกว่านี้



ถึงอย่างนั้นถ้าไม่ได้ข้าวมาปลุก ผมคงไม่มีโอกาสได้มายืนพรีเซนท์อย่างนี้ อาจารย์ตัดเอฟผมแน่ เพราะอย่างนั้น ผมต้องขอบคุณข้าวเป็นที่สุด ข้าวช่วยผมไว้อีกแล้ว แถมยังมายืนฟังผมพรีเซนท์ด้วย กำลังใจดีแบบนี้ทำให้ผมโดนอาจารย์ดุไม่มาก



ผมชอบข้าวจนแทบคลั่งแล้ว



หลังพรีเซนท์เสร็จผมอยากจะพุ่งไปกอดข้าวแล้วอุ้ม ฟัดให้หายเหนื่อย แต่ความจริงคือต้องยกโมเดลกับเพลทไปเก็บมีพวกอัลฟ่ามาช่วย ทำให้เวลาที่ผมจะได้กอดข้าวช้ากว่าเดิม ผมร้อนใจ แทบจะโยนโมเดลที่พรีเซ้นท์เสร็จแล้วไว้ในห้อง พร้อมขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยขนเพลทพรีเซนท์มาเก็บให้



เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จผมวิ่งเข้าไปห้องพรีเซนท์งานอีกครั้ง แต่ไม่เจอข้าวเสียแล้ว...



สบตากับเพียว ไม่รอช้า เพียวเดินมาหาผมทันทีเหมือนรู้ว่าผมมองหาใคร เพราะในห้องใช้เสียงไม่ได้ เพื่อนคนอื่นกำลังพรีเซ้นท์งานอยู่ ทำให้เพียวเดินมาบอกใกล้ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวน



“ข้าวออกไปแล้วน่ะ เมื่อกี้นี้เอง” เพียวบอก ผมพยักหน้ารับรู้  เอ่ยขอบคุณเขาก่อนวิ่งออกห้องไป ข้าวน่าจะไปได้ไม่ไกล และบิงโก ข้าวเพิ่งออกจากตึกไปได้นิดเดียว ร่างโปร่งผอมเดินตัวปลิวลัดเลาะไปตามฟุตบาทของคณะ



ผมวิ่งไปรวบข้าวไว้ในอ้อมกอดจนข้าวร้องเสียงหลง เพราะแรงโถมตัวใส่ข้าวทำให้ข้าวเซเกือบล้ม อยากอุ้มแล้วโยนด้วยซ้ำ แต่ทำไม่ได้ ข้าวไม่ใช่แมว



“ขอบคุณนะข้าว ข้าวช่วยผมอีกแล้ว” กล่าวพร้อมกอดเขาแน่น ซบลงตรงไหล่ สูดดมกลิ่นข้าวให้ชื่นใจ



“เออ รู้แล้ว ปล่อยโว้ย”



ผมตอบแทนเขาโดยการกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เอาหน้าไปถูไถแก้มนิ่มๆ อย่างกล้าหาญ



“ไอ้ฉาง!”



แน่นอนว่าข้าวต้องบ่น ผมเลยหยุดเอาหน้าถูเขา เปลี่ยนเป็นกอดไว้หลวมๆ แทน พอได้กลิ่นข้าวแล้ว ผมไม่อยากปล่อยแขนเลยจริงๆ



“ฉาง ปล่อยเลย นี่คณะมึงนะ”



“ไม่มีใครผ่านมานี่” ผมว่าตามความจริง คณะผมเงียบพอๆ กับป่าช้า ต้องเข้าไปข้างในถึงจะรู้ว่ามีคนอยู่



ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยเมื่อข้าวร้องโวยวายกับคำตอบของผม พร้อมดิ้นไม่หยุด



“ข้าวจะไปไหนต่อเหรอ” ผมถามเมื่อข้าวหลุดจากอ้อมกอดผมแล้วก็แทบวิ่งฉิว ผมเดินตามแทบไม่ทัน



“กลับหอ”



“ผมไปด้วย”



“แล้ว...พรีเซนท์?”



“ก็เสร็จไปแล้วไง ข้าวก็เห็น”



“แล้วก็กลับไปได้ง่ายๆ อย่างนี้เลยเนี่ยนะ”



“อ่าห้ะ”



“...”



“ก็หมดแล้วจริงๆ ผมไม่มีเรียนแล้ว แถมวันนี้ถ้าใครไม่ต้องพรีเซนท์ก็ไม่มากันด้วยซ้ำ อย่างพวกอัลฟ่าก็ไม่ได้พรีฯวันนี้”



“มิน่า ถึงไม่รีบกัน...เสื้อนักศึกษาก็ไม่ใส่...”



“อือ ผมซวยเอง ดันสุ่มโดนเป็นคนพรีเซนท์วันแรก คนแรกๆ”



“ก็ดีแล้วหน่า จะได้จบไวๆ ไง” ข้าวว่า ผมฉีกยิ้มให้กับคำตอบ



“อื้อ ก็จริง จะได้อยู่กับข้าวนานๆ”



♦  ♦  ♦  ♦  ♦  ♦  ♦



ทางยังสะดวก

ยาวไป ยาวไป~~


ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบหก| - 25.10.2017 p.9
«ตอบ #266 เมื่อ25-10-2017 21:32:39 »

ขอบคุณค่ะ  น่ารักมาก

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบหก| - 25.10.2017 p.9
«ตอบ #267 เมื่อ25-10-2017 21:45:27 »

ต้องข้าวปลุก?

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบหก| - 25.10.2017 p.9
«ตอบ #268 เมื่อ25-10-2017 21:54:44 »

น่ารัก :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦ |สิบหก| - 25.10.2017 p.9
«ตอบ #269 เมื่อ25-10-2017 22:20:49 »

แงงงงงพิฉางน่ารักจังเลย ต้องให้ข้าวมาปลุกเท่านั้น ต้องฟินใช่มะ แต่ขำมากกว่า โอ้ยยยยยพ่อพระเอกของเราจะอินดีเกินไปแล้ววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด