^
^
^
เอ้า จิ้มเจให้ทะลุถึงรีบนๆ เจ็บมั้ยล่ะ (ลูกศร)ยาวก็เงี้ย 
มาแล้วววว ขอโทษคร้าบ กู้ไฟล์ในคอมนานมากกก บวกกับมึนๆ เอ๋อๆ เพราะไม่สบาย
เอาเป็นว่าให้ยาวๆ ไปเลยยยยยยย(เหรออออ)
ตอนแรกว่าจะลงตอนพิเศษหลงรักนายฯ แต่กลัวงงๆ สับสนกัน
เลยยกไปไว้คราวหน้า คราวไหนไม่รู้ กร๊ากกก
อ่านต่อเลยครับ***
Round 09... จะหนีไปไหนพ้น ไอ้ตัวแสบ
เมื่อวาน…
“นั่นใครครับ” เสียงนุ่มทุ้มกรอกมาตามสาย
“…กูเอง ซัน”
“มึงรู้เบอร์กูได้ไงเนี่ย” เสียงมันตกใจระคนระแวง แล้วทำท่าจะกดตัดสัญญาณเพราะเสียงที่ห่างออกไปเรื่อย
“เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งวาง….”
ตืดด ตืดด ตืดด
“เวรเอ้ย!” ผมทุบพวงมาลัยรถอย่างอารมณ์เสีย ตอนนี้ผมจอดรถอยู่หน้าโรงแรมที่เกิดเหตุนี่แหล่ะ แต่เข็ดจากเมื่อวานที่โดนลากออกมา เลยได้แต่นั่งรออยู่ในรถ รอว่าไอ้ตัวแสบนั่นจะออกมาเมื่อไหร่
ในระหว่างที่รอและลังเลไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ผมก็หยิบแฟ้มสีน้ำตาลที่วางอยู่เบาะข้างๆ ขึ้นมาแง้มดูอีกรอบ กระดาษสีขาว 5-6 แผ่นที่บรรจุไปด้วยข้อมูลแน่นเอี๊ยดของผู้ชายที่ชื่อ ภุชิสสะ ไหลเทออกมาบนหน้าตัก พร้อมกับรูปอีกไม่กี่ใบ …เฮ้ออ ดันไปเห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็นซะแล้วไอ้ซันเอ้ย
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง หมายมั่นว่าจะตามไอ้เจ้าของประวัติใบข้างๆ นี่อีกสักที แต่เมื่อก้มลงมองหน้าจอ กลับเห็นสามสายไม่ได้รับ คงเพราะปิดเสียงอยู่เลยทำให้ไม่ได้ยิน …แก้ว ตายห่ะ ลืมไปเลย
“ครับแก้ว โทษทีเมื่อกี้ปิดเสียงอยู่” ผมพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด แต่สายตาก็ยังสอดส่องทางเข้าออกโรงแรมเพื่อไม่ให้คลาดแม้แต่วินาทีเดียว
“เงียบหายไปเชียวนะ…”
“อืม โทษทีๆ ก็ยุ่งนิดหน่อยน่ะ” ผมหัวเราะแหะๆ เป็นเชิงขอโทษ
“…จ๊ะ ไม่เป็นไร…เอ่อ”
“แก้วมีธุระอะไรรึเปล่า”
“….ซัน…เรื่องวันนั้นน่ะ…” น้ำเสียงเธอดูกระอักกระอ่วนและอ้อมแอ้มในลำคอ ผมสังเกตจากน้ำเสียงแล้วท่าทางแก้วจะคิดหนักกับเรื่องที่ผมดันไปบอกเธอว่าผมเป็นเกย์แน่ๆ ด้วยความลืมตัวเพราะเลือดขึ้นหน้าเลยดันทำอะไรลงไปแบบไม่ยั้งคิด ทำไมถึงเป็นแบบนี้เรื่อยเลยวะกู ทำไงดีวะ ทำไงดีวะ รึจะบอกไปว่าโกหก ล้อเล่น ขำๆ และหัวเราะ ฮ่าๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดี O_o
“แก้ว ผมขอโทษ คือความจริงผม…”
“ไม่ๆ ซันไม่ต้องพูดอะไร แก้วเข้าใจ เรื่องแบบนี้ คือที่แก้วหายไปเนี่ยแก้วเอาไปนั่งคิดทบทวนดูแล้ว ซันไม่ต้องคิดมากนะ เราไม่ได้โกรธซันเรื่องที่ปิดบัง หรืออะไรๆ ก็ตามแต่ เรื่องแบบนี้จะให้ป่าวประกาศมันก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ”
“แก้ว เดี๋ยวๆ คือผมจะบอกว่า….”
“ไม่เป็นไรซัน ไม่เป็นไรจริงๆ แก้วไม่รังเกียจคนกลุ่มนี้เลยสักนิด แล้วแก้วสัญญาว่าจะไม่ปากโป้งเรื่องนี้กับใคร เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลนะ เรายังเป็นเพื่อนกันเสมอจ๊ะ”
เฮ้ออออ ผมได้แต่ลอบถอนหายใจ ทำไมเรื่องมันถึงมาเป็นแบบนี้ได้วะ ไม่น่าไปผูกปมให้มันยุ่งยากเล้ยยย แล้วดันเป็นปมที่ดูวุ่นวายจะแก้ยังไงก็แก้ไม่ออก ก็คิดดูสิครับ มีแต่คนยัดเยียดให้ผมเป็นเกย์กันไปหมด (แม้แต่ตัวผมเอง…เวรกรรม เคยเห็นมั้ย คนที่ยัดเยียดให้ตัวเองเป็นเกย์ งั้นก็ดูซะ ตูนี่แหล่ะ) ผมถึงบอกว่าปมนี้ท่าทางจะแก้ไม่ออกซะแล้ว ก็พอจะหลุดมันก็ดันมีคนมาผูกใหม่ให้ด้วยความเห็นใจ ขอบคุณมาก…ทำไมไม่เปลี่ยนมาแก้เชือกแล้วผูกคอตูให้ตายไปเลยดีกว่ามั้ยยยย
“เงียบทำไมล่ะซัน…ยังไม่สบายใจอีกเหรอ” แก้วถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ถ้าเป็นปกติผมคงระริกระรี้ดีใจออดอ้อนเธอไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอยากหัวเราะให้ฟันร่วง เหอๆ
“…ขอบคุณนะแก้ว” ขอบคุณมากที่ช่วยเข้าใจคนพยายามเป็นเกย์คนนี้ ไอ้ซันเอ้ย สงสัยแกต้องจำใจเป็นซะละมั้งเนี่ย เอาวะ ฟันหญิงมามากละ จะลองฟันดาบซักหน่อยเป็นไร (ประชดนะเนี่ย ประชด)
“ด้วยความยินดีจ๊ะ คิกคิก” แน่ะ หัวเราะอีก มันน่าหยิกแก้มให้แดงแปร๊ดจริงๆ
ผมก้มหน้าลงพิงกับพวงมาลัยรถ สมองกำลังประมวลผลอย่างหนัก แล้วสายตาก็พลันไปเห็นรูปของไอ้หล่อในอิริยาบถตอนเผลอบนตักตัวเอง พร้อมกับกระดาษที่มีไฮไลท์สีเขียวคาดอยู่โดยฝีมือผม เลยฉุกคิดขึ้นมาได้
“เอ่อ…แก้ว แก้วรู้จักกับมาร์ชมานานแล้วเหรอ”
“แหมๆ ไม่ทันไรถามเรื่องมาร์ชเลยเหรอ” น่านนน ผมอึ้งสิครับ นานๆ ทีแก้วจะแซวแบบเป็นกันเอง แต่มันน่าดีใจที่ไหนกันเล่า เล่นมาแซวผู้ชายกับผู้ชายแบบนี้
“…….”
“เขินขนาดเงียบเชียว ดีใจจัง นานๆ ทีเห็นซันเขินเป็นกับเค้าด้วย ปกติเพลย์บอยหลีสาวๆ ซะเชี่ยว”
“พอๆ พอเลยแก้ว เลิกแซวซักที เฮ้อออ” ผมเอาหัวโขกพวงมาลัยเบาๆ สองสามที กรูอยากจะบ้า
ในที่สุด แก้วก็เล่าเรื่องของมาร์ชให้ผมฟังว่าพ่อของเธอกับพ่อของแก้วเป็นเพื่อนสนิทกัน ท่านก็เลยหมายมั่นว่าจะให้ลูกๆ มาเป็นโซ่ทองคล้องใจอย่างที่ในหนังเค้าชอบทำ หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปทำธุรกิจของตัวเองเป็นเวลานานจนสร้างสมฐานะเงินทองได้มั่นคง จึงกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง และเมื่อได้รู้ว่าอีกฝ่ายมีลูกชาย และฝ่ายพ่อแก้วมีลูกสาว ทุกอย่างจึงลงตัว ทั้งคู่โดนหมายหมั้นให้เป็นคู่ตุนาหงัน แต่เพราะความที่ทั้งคู่ต่างเป็นคนรักอิสระ ไม่ยอมรับการคลุมถุงชนแบบเก่าๆ จึงปฏิเสธและต่อต้านความคิดนี้ของบิดามาตลอด
“แก้วน่ะไม่เป็นไรหรอก เพราะซันก็รู้ว่าพ่อแก้วเค้าตามใจแก้วขนาดไหน ท่านก็แค่ผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นบังคับขู่เข็ญ แต่มาร์ชนี่สิ…”
“หืม?..”
“ถ้าซันเจอพ่อมาร์ชก็จะรู้ทันทีเลยล่ะว่าเป็นยังไง ท่านเป็นคนเข้มงวดและจริงจังมาก”
ผมเอนหลังพิงเบาะรถอย่างเต็มตัว หัวอิงกับพนักแต่สายตาเหลือบไปยังรูปที่คว้ามาจากก้นเบาะอีกฝั่ง ยกขึ้นดู…ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชายวัยกลางคน ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาคมกริบกำลังจ้องมองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น เดาได้ไม่ยากว่าชายคนนี้คงมองเห็นเพียงแต่อนาคตอันรุ่งโรจน์และไม่ชอบการพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เพราะปากที่เชิดรั้นและหยิ่งผยองนี้…ถ้ามองอย่างถี่ถ้วนจะเห็นว่าโครงหน้าคล้ายกับลูกชายเขามากจริงๆ ไม่สิ…ต้องพูดว่าลูกเหมือนพ่อถึงจะถูก
“แล้วเป็นยังไงต่อ…”
“ก็แย่น่ะสิ ยิ่งรายนั้นเป็นลูกชายคนเดียวที่พ่อเค้าฝากความหวังไว้ด้วย เลยถูกคาดหวังไว้สูงว่าจะต้องสืบทอดกิจการทั้งหมด แก้วน่ะสงสารเค้ามากๆ เพื่อนก็แทบไม่มีเพราะโดนเข้มงวดเรื่องเรียนมาตั้งแต่เล็ก ตอนแรกแก้วถึงอยากให้ซันเป็นเพื่อนกับมาร์ชไงล่ะ…”
“อืม…”
ผมนั่งฟังแก้วบรรยายเรื่องของไอ้คุณชายมาร์ช พร้อมทั้งไล่ดูกระดาษสีขาวที่ปริ้นท์ออกมาไปด้วย ข้อมูลก็แทบจะตรงกันเกือบทั้งหมด เพราะในนั้นก็บอกประวัติการศึกษาตั้งแต่เล็กจนปัจจุบัน มีแต่สถาบันหรูหราไฮโซระดับผู้ดีแนวหน้าเรียนกันทั้งนั้น แถมล่าสุดก็เพิ่งจบจาก Harvard สาขาบริหารธุรกิจ…เส้นทางชีวิตของผู้ชายคนนี้ท่าจะถูกปูมาด้วยพรมแดง แต่เป็นพรมแดงที่มีรั้วกั้นและมีคนเดินนำว่าตอนนี้ เวลานี้ จะต้องก้าวเดินไปทางไหน จะออกนอกลู่หรือจะถอยหลังก็คงไม่ได้เพราะท่าทางจะมีกำแพงหนาขวางกั้นไว้ตลอด
“เอ…รึเพื่อนเราไม่อยากเป็นแค่เพื่อนกับเค้าน้า ฮิฮิ” เวรรรรของกรรม กูอยากเอาหัวโขกวุ้นให้แตก จบเสียทีได้มั้ยครับหัวข้อนี้ = =
“เฮ้ออ ไม่อยากเป็นอะไรทั้งนั้นน่ะตอนนี้ ” ผมพึมพำกับตัวเอง ทำหน้าเซ็ง
“ซันพูดว่าไรนะ?”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
“ที่จริงแก้วไม่อยากเอาเรื่องทางบ้านเค้ามาพูดมาก เพราะยังไงเค้าก็เป็นเพื่อนกับคุณพ่อ แต่ที่แก้วเล่าให้ซันฟังเนี่ย เพราะแก้วไม่อยากให้เธอไปพูดอะไรจี้ใจดำเค้า ริอาจจะจีบก็ต้องรู้เรื่องอีกฝ่ายให้มาก รู้ไว้ซะ” เอาแล้วไอ้เสือซัน เจอสาวน้อยสั่งสอนให้จีบ..ผู้ชายซะแล้วเว้ยเฮ้ย เรื่องมันชักเตลิดเปิดเปิงไปถึงลำปางละ จะขอตีตั๋วนั่งรถทัวร์กลับทันมั้ยวะเนี่ย
“แล้ว…วันนี้แก้วจะเข้ามาหาไอ้…มาร์ชรึเปล่า”
“คงไม่ล่ะ วันนี้แก้วต้องไปสิงคโปร์ไฟลท์บ่ายสาม ทำไมเหรอ”
“คือ…ไม่มีอะไร” ใครจะไปบอกได้ล่ะครับว่าอยากเจอไอ้หมอนั่น แล้วทำไมต้องอยากเจอด้วยวะ…อ้อ ก็เพราะบอกไปแล้วไงว่าจะตามติดมันตลอดสองสัปดาห์นี้ ไม่คืนคำเว้ย ดูประวัติมันแล้วก็ท่าทางน่าสนไม่น้อย แม้จะติดใจอยู่บ้างกับบางอย่าง และรูปใบนั้น..
เอาเถอะ เพียงแค่นึกถึงปฏิกิริยาตอนโทรไปหายิ่งน่าสนุก ไม่อยากจะคิดว่าถ้ามันเห็นหน้าผมคงจะฮาไม่ใช่น้อย
“แต่เมื่อคืนมาร์ชบอกว่าวันนี้จะไป 19th Club นะ”
ผมได้ยินอย่างนั้นก็หูตั้งทันที แต่ก็ทำเป็นอ้อมแอ้ม เหรอๆ กับแก้วไปจนวางสาย ไม่รู้หรอกว่ามันจะไปจริงมั้ย แต่ก็ดีกว่ามานั่งเฝ้าที่หน้าฐานทัพการ์ดแข็งของมันแบบนี้ วันๆ ไม่เป็นอันทำมาหากิน เอาเป็นว่าไปนั่งดริงก์รอที่ถิ่นเก่าเราดีกว่า (แล้วนี่มันทำมาหากินตรงไหนวะ)
ไอ้มาร์ชเอ้ยยย จะหนีก็หนีไม่พ้นล่ะวะ สงสัยชะตาเราจะถูกกัน ไม่อยากจะบอก คลับนี้เป็นของเพื่อนผมเองครับ ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ หึหึหึ
…..
ตอนค่ำ
“เฮ้ยซัน คนที่มึงตามหามาแล้วว่ะ” เพื่อนคนนึงในกลุ่มเดินแหวกม่านหลากสี ยื่นหัวเข้ามาบอกผม
“เออๆ ขอบใจเว้ย”
ผมยิ้มกริ่มพร้อมกับมึนนิดๆ กำลังได้ที่ บวกกับเสียงดนตรีดังเร้าใจทำให้ผมรู้สึกคึกเป็นพิเศษ หลังจากที่เครียดนั่งหลังคดหลังแข็งรอไอ้ตัวการมาหลายชั่วโมง คราวนี้กูไม่ให้มึงหนีอีกแน่
หลังจากที่เบียดเสียดกลุ่มฝูงคนเข้าไปใกล้โต๊ะเป้าหมาย ผมก็เห็นร่างของไอ้มาร์ชเด่นมาแต่ไกลภายในกลุ่มเพื่อนชายและหญิงรอบข้าง วันนี้มันดูดีมากครับผมถึงขั้นยอมรับ เสื้อเชิ้ตสีดำ กลัดกระดุมต่ำลงมาจากคอถึงสองเม็ดเผยหน้าอกเรียบเนียน มีแว่นกันแดดคาดอยู่ตรงคอวีนั่น ส่วนกางเกงยีนส์ก็เข้ารูปพอดีไม่รัดจนน่าเกลียดแต่กลับเผยให้เห็นถึงสัดส่วนอันพอเหมาะ แล้วนั่น…ใบหน้าขาวเรียวได้รูปตัดกับเส้นผมสีดำขลับ ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้แสงสลัวแต่กลับขับให้เขาคนนั้นดูสง่าไปอีกแบบ แล้วยังพวงแก้มและริมฝีปากแดงสดจากฤทธิ์กระตุ้นของแอลกอฮอลล์ยิ่งเพิ่มสเน่ห์ให้กับคนๆ นี้อย่างประหลาด…ไม่แปลกที่ทั้งชายและหญิงเกือบทั้งผับผลัดกันมองไปที่ไอ้หมอนี่อย่างไม่ละสายตา
ผมเดินอ้อมเข้าไปทางด้านหลังของโต๊ะนั่นโดยที่มีคนรู้จักทักมาตลอดรายทาง ผมสังเกตเห็นแล้วล่ะว่าเพื่อนสาวของโต๊ะไอ้มาร์ชเริ่มจับกลุ่มหันมามองผมเป็นระยะแล้วยิ้มซุบซิบกัน แต่เจ้าตัวการยังไม่ทันได้มองมา ผมเร่งฝีเท้าจนเข้าไปแนบชิดทางด้านหลังของเจ้าหมอนั่น เอื้อมมือไปแตะที่เอวแล้วคล้องเข้ามาหาตัว กระซิบแนบข้างใบหู
“จับได้แล้วนะ”***TBC

ปล. สรุป นายมาร์ชของเรา นำแสดงโดย
ลี จุนกินะครับ

ขอบคุณภาพงามๆ สนับสนุนและนำเสนอโดยคุณ ยูโด่ เอ้ย ยูโน่
(uno) อ่านถูกป่าวหว่า แหะๆ
ส่วนซันยังหาถูกใจไม่ได้ เอาไอ้พากย์ เอ้ย ในรูปอิลลัสตอนที่แล้วจิ้นไปก่อนครับ
จิ้มน้องดาวคืน ริอาจมาจิ้มพี่พากย์ คืนนี้อย่ามาสะกิดให้เมื่อยนะ กร๊ากกV
V
V
V