{นิยาย} ...เสร็จกูแน่ ไอ้หน้าหล่อ!!...
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {นิยาย} ...เสร็จกูแน่ ไอ้หน้าหล่อ!!...  (อ่าน 2642412 ครั้ง)

ออฟไลน์ kanata55

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาเป็นรอบที่.....


ทำให้ติดเรื่องนี้แล้ว


รับผิดชอบด้วย


ฮือๆ

AcHii3acHoTheR

  • บุคคลทั่วไป
พี่พากษ์ รอจนไปอ่านน้องมิกกี้ กับ ฮ แดนจบแล้วนา,, 5 555

มายังอ้ะ มายังอ้ะ หนีเที่ยวละซิ่ ฮี่ฮี่ๆ !

ยังรออยู่เน้อ อ  รอหลอกล่อตอน 5 !

มาหลอกให้อยากแล้วจากไป,,  :z3:

PeeraDHa

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้อ่าน น้องมิคกี้ กะ พี่แดน จนจาลืม นายมาร์ช กะ นายซัน แล้วอ่ะดิ

EyesOnMe

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงซันกะมาร์ชจังเลยอ่า

คิดถึงคนแต่งแล้วก็แฟนคนแต่งด้วย :impress2:

 :กอด1:

teenza

  • บุคคลทั่วไป
หวัดดีคับคุณพากย์ ตามอ่านจนจบภาคแรกแล้ว ตอนนี้ถึงภาค2 part8 ชอบมากครับสนุกมาก
เข้ามากระทู้คุณพากย์นี่นอกจากติดตามเรื่องแล้ว ยังตามอ่านมุขเทพของกูลิโกะ และรอเรื่องน่ารักๆของกูลิโกะที่คุณพากย์เอามาเผาอีก
ฮามาก :m20: จะตามเก็บให้ทันคับ  :กอด1:คุณพากย์ถึงกูลิโกะ :bye2:

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3

teenza

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านยิ่งรักซันกับมาร์ซ :กอด1:
ปล ตามเก็บใกล้ทันแระ อันนี้ให้คุณพากย์ :L2:

loveorlike

  • บุคคลทั่วไป
 :impress3:หายไปอีกแล้ววววววววววว

ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



 :impress3: :impress3:

topsupparit

  • บุคคลทั่วไป
มารอๆๆๆๆๆ วันเปิดฝายาดอง :-[

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เพิ่งอ่าน มิกกี้จบ

เดี๋ยวมาต่อเรื่องนี้

จองไว้ก่อนค่ะ

 :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ทำไมฝายาดองยังมะเปิดอีก :z3:

teenza

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านทันแล้วคับ ขอบคุณ คุณพากย์คับทีเขียนเรื่องดีๆมาให้ได้อ่านกัน อ่านเรื่องนี้แล้วมึความสุขมาก
ฉากหวานๆก็น่ารัก ฉากเศร้าก็เขียนได้ดี ส่วนNC นี่หุหุคงไม่ต้องให้พูดอะไรมาก :z1:
ปลนอกจากมีความสุขกับการได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ยังมีความสุขในการเข้ามาในกระทู้นี้เพราะครึกครื้น เฮฮา อบอุ่นดีคับ :กอด1:
ปลอีก กำลังตามเก็บกูละเซ็งจิตอยู่อีกเรือง อันนั้นก็สนุกไม่แพ้กัน  :L1: :bye2:

Haney

  • บุคคลทั่วไป

THE END






สุดท้าย…ผมกับมาร์ชก็มาลงเอยกันที่คอนโด   เรากอดก่ายนัวเนียหลายรอบจนแทบจะหมดแรง  แม้ร่างกายจะเหนื่อยล้า  แต่ภายในใจ…กลับรู้สึกว่าเท่าไหร่ก็ไม่พอ 


ผมอยากกอด  อยากจูบ  อยากสัมผัสเรือนร่างนี้  อยากจะอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาไม่ห่างไปไหน…


จึงอยากจะกักเก็บความรู้สึกที่แสนพิเศษนี้เอาไว้ให้มากที่สุด  ผมนอนให้อีกฝ่ายหนุนแขน…เฝ้ามองใบหน้าขาวชื้นเหงื่อที่ไม่ว่ากี่ครั้งก็ดูไม่รู้จักเบื่อ  ขนตาหนาเป็นแพชื้น  จมูกโด่ง  และริมฝีปากสีสดที่มักจะเชิดรั้นตลอดเวลา  หน้าอกผายหายใจหอบขึ้นลงเป็นจังหวะ 



“…มองทำไม  อยากโดนอีกรอบรึไง”   คำพูดท้าทายนั่นทำเอาผมถึงกับหัวเราะออกมา  ใครกันแน่ที่อยากโดนอีกรอบ  พูดมาไม่รู้จักอายเลยนะหมอนี่  หึหึ

“มองคนน่ารัก  รักคนน่ามอง”  ผมแซวไป  ยิ้มไป  แล้วดึงเป้าหมายเข้ามาหอมแก้มแรงๆ จนมันหน้าแหย  รีบยกมือผลักหน้าผมออก

“ไอ้บ้า” 


และแล้วก็ต้องหัวเราะยกใหญ่อีกรอบด้วยความชอบใจเมื่อเห็นไอ้มาร์ชมันอายแบบโหดๆ  นี่แหล่ะครับคนน่ารักของผม  อายแล้วต้องทำร้ายร่างกายแฟนตัวเอง  แต่ผมไม่ถือหรอก…แบบนี้ยอมให้ทำร้ายบ่อยๆ เลยก็ได้





“มาร์ช….”  ผมกระซิบเรียกเบาๆ หลังจากที่เราเงียบไปสักพักจนเกือบจะผล็อยหลับไป

“…อะไร” 

“ขอบคุณนะ”    หลังจากที่ผมพูดออกไป  มาร์ชก็หันหน้ามามองอย่างงุนงง

“ขอบคุณเรื่อง?”

“ทุกๆ อย่าง…ขอบคุณที่เชื่อใจ  ขอบคุณที่ยอมรับ  ขอบคุณที่…รัก” 



ผมนอนลูบหัวมันอยู่อย่างนั้น…ท่ามกลางความเงียบ  ไม่มีปฏิกิริยาจากอีกฝ่าย  แต่ผมก็รู้…รู้ว่ามาร์ชเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากกัน  เพราะมันเองก็ลูบมือผมตอบ 

แต่อยู่ๆ มันก็ค่อยพยุงตัวเองลุกขึ้น…นั่งชันเข่าอยู่พักใหญ่  และหันมาทางผม 


“ซัน…มานี่สิ”  ไอ้ตัวแสบดึงแขนผมให้ลุกขึ้นตามโดยที่ไม่บอกว่าจะให้ทำอะไร  แต่ก็ไม่ได้ถาม  เพียงแค่รู้สึกว่า  ณ ตอนนั้น… วินาทีนั้น  เหมือนราวกับต้องมนต์สะกด  มือสากแต่ไม่ถึงกับหยาบกร้านจูงมือผมให้เดินตามเข้าไปในมุมห้องนั่งเล่นที่ติดกับห้องแต่งตัว 


เราทั้งสองเนื้อตัวเปลือยเปล่า  หยุดยืนอยู่ที่ผ้าผืนใหญ่คลุมเครื่องเรือนชิ้นหนึ่งเอาไว้… ผมสังเกตมาตั้งแต่แรกแล้วว่ามันอยู่ตรงนี้ของห้อง  แต่เพราะมันอยู่มุมในมากและถูกคลุมไว้ด้วยผ้าผืนขาวตลอดเวลา  ด้วยความที่ไม่ได้สนใจจึงไม่เคยถามว่าคืออะไร 


แต่ดูจากรูปร่างแล้ว… พอเดาได้ไม่ยาก  ว่านั่นคือ  ‘เปียโน’


และก็ไม่ผิด…เมื่อมาร์ชเข้าไปดึงผ้าคลุมออก  ฝุ่นละอองที่เคลือบด้านบนจากการไม่ได้ทำความสะอาดมานานทำเอาแอบสำลักเล็กน้อย  ถึงอย่างนั้น..สภาพข้างในยังแทบจะเรียกได้ว่าดีมากๆ  ราวกับถูกดูแลอย่างดีมาตลอด 


มันเป็นเปียโนติดผนังขนาดพอดี  เรือนไม่เล็ก  และไม่ใหญ่  ลายไม้ทั้งหลัง…เรียบ  แต่กลับรู้สึกว่ามีพลังอย่างประหลาด



“รู้มั้ย…เมื่อก่อนกูอยากเรียนเปียโนมาก”   ไอ้มาร์ชพูด  ก่อนที่จะก้มลงไปปัดเก้าอี้เปียโนตัวเกลี้ยงสองสามที  และนั่งลง  ส่วนผมก็ยืนชันแขนกับตัวเปียโนเพื่อฟังมัน

“…จริงน่ะ” 

“อือหึ  ตอนเด็กจำได้ว่าทุกๆ 5 โมงเย็น  จะได้ยินเสียงเปียโนบรรเลงมาจากข้างบ้าน  ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าดังมาจากไหน  กูกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่…ทันทีที่ได้ยินก็รู้สึกชอบมากๆ  มันทำให้ใจกูสงบได้” 


ผมท้าวคางตัวเอง  ฟังไปด้วย  มองดูนิ้วมือขาวๆ ของมาร์ชไล้ไปตามเนื้อไม้และคอร์ดสีขาวนั่น…


“มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ยืนอยู่หน้าบ้านเค้า  แอบมองเข้าไปตรงหน้าต่าง  เห็นเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังเล่นเปียโนอยู่  เธอใส่ชุดสีขาวยาวถึงเข่า  สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข  เธอเล่นไปยิ้มไป  จนอดสงสัยไม่ได้ว่าไอ้เครื่องดนตรีนี้มันมีดีอะไรนักนะ”

“…หึหึ  แล้วก็แอบชอบเค้าล่ะสิ”  ผมอดเอ่ยแซวไม่ได้  ยิ่งมองหน้ามันตอนเล่าแล้วท่าทางอิ่มเอมซะเหลือเกิน

“อืม  ใช่”  อีกฝ่ายตอบรับอย่างไม่อายและไม่เกรงใจผม    “กูชอบเค้ามาก  แต่ก็เป็นความชอบแบบเด็กๆ อ่ะนะ  ไม่ได้อะไร…ตอนนั้นเลยรีบกลับไปบ้าน  ขอแม่เรียนเปียโนกับเค้าบ้าง  เผื่อจะได้เอามาเล่นกับผู้หญิงคนนั้น”


ผมลอบยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูในวัยเด็กของไอ้มาร์ช…เป็นเรื่องปกติที่เราทุกคนจะมีความรักใสๆ ที่บางครั้งพอย้อนกลับไปดูก็รู้สึกน่าอาย  แต่กลับแฝงไว้ด้วยความหลังอันน่าจดจำ


“แม่หัวเราะ…ถามว่าจะเรียนไปทำไม  เลยบอกไปตามตรงว่า  จะเล่นให้ผู้หญิงคนนั้น  แม่ยิ่งชอบใจใหญ่…บอกว่าตัวแค่นี้ริอาจจะจีบผู้หญิงแล้วเหรอ”  มาร์ชเล่าไป  เม้มปากแน่นไป…เมื่อย้อนนึกถึงอดีตอันแสนสวยงาม

“…แล้วตกลงก็เลยได้เรียนเปียโน?” 

“เปล่า  พ่อไม่ให้  เพราะบอกว่ามันเป็นเครื่องดนตรีผู้หญิง  ผู้ชายที่ไหนเค้าเล่นกัน  หึหึ” 


คนเล่ายิ้มอย่างขมขื่น…แต่ผมก็รู้ว่ามันคงไม่ได้รู้สึกเศร้าเหมือนครั้งแรกที่โดนพ่อตัวเองปฏิเสธ  เพียงแต่รู้สึกผิดหวังเท่านั้น


“แต่รู้เปล่า…กูแอบไปเรียนมาล่ะ  โดดเรียนพิเศษทุกวันพุธตอนเย็น  แล้วเจียดเงินเดือนตัวเองไปซื้อคอร์สเรียนเปียโน  ทุกวันนี้พ่อก็ยังไม่รู้  คิดว่าไปเรียนเลขกับไอ้จารย์สุดโหดจริงๆ  ฮ่าๆๆ”  เจ้าตัวยิ้มจนตาหยีเมื่อเล่าจนจบ  นิ้วมือก็กดลงบนเส้นเสียงเปียโนนั่นดังเป็นตัวโน้ตเสียงต่ำไล่ไปเรื่อยๆ

“…ให้ตายเถอะ  ดื้อแต่เด็กเลยวุ้ย”  ผมหัวเราะแล้วส่ายหัวอย่างระอา

“ไม่ได้ดื้อ  เค้าเรียกทะเยอะทะยานเว้ย”   อีกฝ่ายเถียง  ยักคิ้วกวนๆ ใส่

“เออๆ  แล้วตกลงเป็นไง  จีบติดมั้ย?” 

“…กูเรียนไม่ถึงเดือน  เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ย้ายบ้านไป” 



ผมถอนหายใจเล็กน้อยให้กับจุดจบของความรักในวัยเยาว์ของไอ้มาร์ช…สุดท้ายก็ไม่ได้แม้แต่จะบอกรัก  ไม่ได้แม้แต่จะเริ่มต้น  ทุกอย่างก็จบลงซะแล้ว  แต่ในขณะที่ผมกำลังไว้อาลัยให้ความทรงจำส่วนลึกของอีกฝ่ายอยู่นั้น …เจ้าของเรื่องกับนั่งจ้องหน้าผมตาแป๋ว   ปากสีชมพูดสดขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้าต่อ…


“แต่ถึงยังไงกูก็ยังเรียนเปียโนต่อ  และ…สัญญากับตัวเองว่า  จะไม่เล่นเปียโนให้ใครอีกเพราะหวังว่าสักวันกูจะได้เล่นให้กับผู้หญิงคนนั้น… คนที่เป็นรักแรก” 
















“แต่ในเมื่อไม่มีโอกาสได้เล่นให้กับรักแรกแล้ว….เลยอยากจะเล่นให้รักครั้งสุดท้ายแทน” 

ผมยืนนิ่ง…จังงังไปชั่วขณะ

“ซัน…ฟังกูนะ” 


http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2AECD7PD&Autoplay=0

You Raise Me up


When I am down and, oh my soul, so weary;
When troubles come and my heart burdened be;
Then, I am still and wait here in the silence,
Until you come and sit a while with me.

You raise me up, so I can stand on mountains;
You raise me up, to walk on stormy seas;
I am strong, when I am on your shoulders;
You raise me up: To more than I can be.

You raise me up, so I can stand on mountains;
You raise me up, to walk on stormy seas;
I am strong, when I am on your shoulders;
You raise me up: To more than I can be.

You raise me up, so I can stand on mountains;
You raise me up, to walk on stormy seas;
I am strong, when I am on your shoulders;
You raise me up: To more than I can be.

You raise me up, so I can stand on mountains;
You raise me up, to walk on stormy seas;
I am strong, when I am on your shoulders;
You raise me up: To more than I can be.

You raise me up: To more than I can be.




เพียงแค่ครึ่งเพลง…ไม่รู้ทำไม  ถึงได้รู้สึกว่าดวงตาร้อนผ่าว  น้ำอุ่นไหลลงอาบข้างแก้ม…ไม่มาก  แต่เพียงพอที่ทำให้อุ่นวาบเข้าไปถึงขั้วหัวใจ 


ผมไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา… กลัว  กลัวว่าจะพลาดทุกการเคลื่อนไหว  ทุกการกระทำ  ทุกตัวโน้ต  ทุกเสียงดนตรี  ทุกจังหวะการหายใจของอีกฝ่าย  เสียงเปียโนนั่นเล่นไปเรื่อยอย่างไม่ติดขัดราวกับฝึกหัดเป็นประจำ  บวกกับเสียงนุ่มทุ้มที่แสนคุ้นเคย

แต่ในวันนี้… ตอนนี้  มันกลับไพเราะอย่างประหลาด  เพราะกว่าทุกเพลงที่ผมเคยฟัง  จับใจกว่าทุกเสียงที่เคยได้ยินบนโลกใบนี้   จนไม่อยากจะให้จบลง

สิ่งเดียวที่ทำได้… คือการยิ้ม  ยิ้มทั้งน้ำตาเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังกดปลายนิ้วเข้ากับแป้นเปียโน  ผมเห็นว่ามาร์ชเองก็ยิ้มไปร้องไปเช่นกัน  ปากน้อยนั่นสั่นนิดๆ เหมือนพยายามกลั้นความรู้สึกท่วมท้นภายใน



ในที่สุด…โน้ตตัวสุดท้ายก็จบลง  พร้อมกับความเงียบ  แต่ภายในหัวผมบทเพลงนั้นยังคงก้องกังวาน


“ซัน…ขอบคุณเหมือนกันนะ”   ไอ้มาร์ชเงยหน้าขึ้นมายิ้ม  มันลุกขึ้นมาพร้อมกับหยิบของบางอย่างที่วางไว้บนหัวเปียโนมาด้วย 

“อืม…”   ผมตอบกลับ  ดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้  และเอาหน้าผากชนกัน

“ถ้ากูไม่มีมึง  ก็ไม่มีกูในวันนี้…คงเป็นไอ้บ้าที่ไม่ได้เรื่อง  เอาแต่เมา  เที่ยว  แดรกเหล้า  ใช้ชีวิตห่าเหวไปวันๆ” 


ผมได้แต่หัวเราะเสียงแหบเป็นการตอบรับรู้…และลูบแก้มมันเบาๆ


“เพราะมึงนะซัน…เพราะมึงดึงกูขึ้นมาจากนรกนั่น  เพราะมึงทำให้ชีวิตกูเปลี่ยนไป  เพราะมึง…”  มันเงียบไปชั่วขณะเพราะต้องกลั้นเสียงสะอื้นที่แอบเอาไว้












“ขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนนึงในชีวิต…  ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันในเวลาที่ไม่มีใคร…ขอบคุณอยู่ข้างกันเสมอมา…ขอบคุณ  ขอบคุณ”





“ขอบคุณที่รักกัน…”   



ผมไม่ทันให้มันได้พูดไปมากกว่านี้  มือรีบคว้าท้ายทอยสั่นระริกนั่นเข้ามาใกล้  และบรรจงมอบจูบอ่อนหวานให้แทน  มันไม่หวือหวา  ไม่เร่าร้อน…แต่เป็นการจูบที่ค่อยเป็นค่อยไป  ริมฝีปากเราแนบเข้าหากันครั้งแล้วครั้งเล่า  ซ้ำเล่าซ้ำเล่า…จนแทบจะหลอมเป็นหนึ่งเดียว 


และแล้ว…มันก็ทำผมประหลาดใจอีกครั้ง



“ซัน…..








แต่งงานกับกูนะ” 



ในที่สุดผมก็ไม่ได้เห็นเจ้าของที่มาร์ชแอบหยิบมาเมื่อครู่  มันเป็นแหวนทองคำขาวเกลี้ยงเกลาเล็กๆ  เพียงแค่นั้นผมก็ต้องระเบิดหัวเราะออกมาทำลายบรรยากาศหวานๆ ที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาเมื่อครู่นี้เสียสนิท   เลยโดนไอ้มาร์ชมันเขม่นดุๆ จึงค่อยเงียบเสียงลง  แต่รอยยิ้มยังคงเด่นหลาอยู่บนใบหน้า 


“คุณจะแต่งงานกับผมมั้ยครับ  คุณสหรัฐ…อย่ามัวแต่ขำ  เดี๋ยวเจ้าบ่าวจับโบก”  ไม่ให้ขำได้ไงล่ะ  ขนาดคำขอแต่งงานยังฮาได้ขนาดนี้  แต่ผมก็ไม่ขัดศรัทธาหรอกครับ  เรื่องอะไรล่ะ…ในเมื่อรอคำๆ นี้มานาน

“หึหึ  ไหงมันกลับตาลปัตรแบบนี้ล่ะ…”

“รับไม่รับ”  คนถือแหวนเก้อเริ่มมองผมตาเขียว  ไอ้คราบน้ำตาเมื่อสักครู่นี้เหือดหายไปไหนหมดแล้วไม่รู้ 

“…ใจเย็นๆ  รับสิครับ  ไม่รับก็โง่แล้ว” 


ไอ้มาร์ชทำหน้าทำตาหมั่นไส้ใส่ผมเล็กน้อย  ก่อนที่จะบรรจงสวมแหวนนั่นเข้าที่นิ้วนาง…ไม่รู้ว่าแอบไปวัดขนาดมาตอนไหนถึงได้ใส่พอดีขนาดนี้  แม้จะว่าแอบหลวมไปนิดนึงก็ตาม 


ผมชื่นชมแหวนแต่งงานของตัวเองเล็กน้อย…ก่อนที่จะรีบถอยหน้าออก  เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยื่นเข้ามาเหมือนจะจูบสาบาน


“จุ๊ๆ  เดี๋ยวก่อนสิครับคุณเจ้าบ่าว  เจ้าสาวยังไม่ได้สวมแหวนให้เลย” ผมเล่นไปตามบท  ตอนนี้ให้เป็นเจ้าสาวก็ยอมแหล่ะวะ


ว่าแล้วก็รีบวิ่งไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองท่ามกลางความงุนงงของไอ้มาร์ช…มือเปิดลิ้นชักดึงของข้างในออกมาโกยทิ้งอย่างไม่ใยดี  และล้วงเค้าไปส่วนลึกด้านในสุด…เพื่อหากล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน


ผมรีบเดินกลับมาหาไอ้มาร์ช…ที่กำลังมองผมแบบทึ่งๆ อึ้งๆ


“แย่เลยเนอะ…ดันใจตรงกันซะได้”  ผมค่อยๆ เปิดฝากล่องนั่นขึ้น  ข้างในเป็นแหวนทองคำขาวเกลี้ยงที่ใหญ่กว่าวงที่สวมอยู่บนนิ้วผมเล็กน้อย 


สองเข่าลดลงต่ำ…ตั้งชันกับพื้น  และเงยหน้าขึ้นเพื่อมองคนที่ผมกำลังจะขอแต่งงาน  มันยืนมองนิ่งด้วยความตะลึงงัน


“ที่รักครับ…คุณจะรับผมเป็นเจ้าสาวมั้ย?”  ทันที่ที่ผมพูดจบ  ไอ้มาร์ชก็ยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตาตัวเอง  ไม่ใช่เพราะความเขินอาย…แต่เป็นเพราะหัวเราะออกมาจนหน้าแดงหูแดงต่างหาก

“ฮ่าๆๆๆ  โอ๊ยยย…ไอ้บ้า  ไอ้ทุเรศ  หึหึ  ไม่รับไม่ได้แล้วล่ะ…เจ้าสาวพิลึกขนาดนี้”  มันพูดไปหัวเราะไปจนผมอยากจะทำหน้างอนบ้าง  แต่มาคิดดูแล้วมันคงไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่ -*-

“…งั้นแต่งงานกับผมนะ” 



เมื่อพูดประโยคนี้…บรรยากาศเฮฮาเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นทางการทันที  ไอ้มาร์ชเม้มปากแน่นเมื่อเห็นผมลุกขึ้นยืน  หน้าตาจริงจัง  แหวนทองคำขาววงนั้นถูกดึงออกจากกล่อง  และบรรจงสวมเข้ากับนิ้วนางอีกฝ่ายอย่างบางเบา 


“…เหมือนกันเลย”  ที่รักของผมพึมพำเสียงเบาเมื่อก้มลงมองดูแหวนในนิ้วมือตัวเอง

“ใครว่า…”   

“หืม?” 

“ดูดีๆ สิ….”    ผมกระซิบบอก  และดึงมือมันขึ้นมาจูบ  นั่นทำให้แหวนเข้ามาในระยะสายตา  และเมื่อมองใกล้ๆ แล้วจึงได้เห็นว่ารอบแหวนวงนั้นมีรอยสลักจางๆ อยู่ด้านหน้า


และรอยนั้นถูกสลักเป็นภาษาอังกฤษตัวเขียน  ลายมือตวัด…

‘I’m your Sun’





มือที่สวมแหวนนั้นสั่นระริก…มันรีบดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น  พร่ำกระซิบคำว่า ‘รัก’ เป็นล้านๆ ครั้ง  แม้ว่าจะได้ยินบ่อยแล้วแต่ผมก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ฟัง  เพราะเราต่างรู้ว่ามันไม่ใช่คำลอยๆ ที่พูดเพื่อจะปลอบประโลมหรือหลอกลวง  แต่ออกมาจากข้างในอย่างแท้จริง 


เรายืนกอดกันอยู่อย่างนั้น…ปากก็นัวเนียไม่ห่าง  จนกระทั่งมาร์ชค่อยๆ ผละออกมา


“ซัน…กูไม่รู้ว่าอนาคตของเราจะเป็นยังไง  ไม่รู้ว่าเราจะรักกันไปอีกนานแค่ไหน  แต่กูสัญญา…สัญญาว่าจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด  และจะรักมึงให้มากที่สุด”  ไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดนี้จะออกมาจากปากมาร์ช…ผมได้แต่ยืนยิ้มไม่หุบอยู่อย่างนั้น 

“เหมือนกันครับ…รักมากๆ  และจะรักมากขึ้นทุกวัน   แต่…”

“หืม?”  อีกฝ่ายขึ้นเสียงสูงในลำคอเป็นเชิงถาม

“แต่ทำไมกูนึกอนาคตออกวะ”  ผมยิ้มกว้าง

“หา  ยังไง?” 

“ก็พอแก่ตัวลง  เราสองคนก็จะไปหาบ้านเล็กๆ อยู่ด้วยกัน  อาจจะเป็นในชนบท  ภูเขา  ไม่ก็ริมทะเล…ใช้ชีวิตแบบพอเพียง  ตอนเช้าก็ลุกขึ้นมาทำสวน  ทำอาหารง่ายๆ กิน  ตกบ่ายก็นั่งอ่านหนังสือข้างกันที่โซฟาตัวยาว มองดูหลานตัวน้อยเล่นของเล่นที่ซื้อมาให้ในวันเกิด  พอตกเย็นก็ออกมานั่งม้าโยกริมระเบียงคู่กัน  มองดูวิวรับลมเย็น…และจับมือกัน  เป็นคุณปู่ กับ คุณปู่  แก่ด้วยกัน  อยู่ด้วยกันตลอดไป…”   ผมอธิบายความฝันสูงสุดในชีวิตให้ไอ้มาร์ชฟังอย่างตั้งใจ

“…ฮะๆ คุณปู่ กับ คุณปู่งั้นเรอะ…ไหนเมื่อกี้บอกว่าเป็นเจ้าสาว  จะเป็นคุณปู่ได้ยังไง” 

“เอาน่า…เจ้าสาวเจอจุมพิตของเจ้าบ่าว  เลยกลายเป็นเจ้าชายกบไงล่ะ” 


ไม่ได้พูดเปล่า..แต่ยื่นหน้ายื่นปากเข้าไปราวกับจะขอจุมพิตจากเจ้าชายตรงหน้านี่จริงๆ   เรียกเสียงหัวเราะจากไอ้มาร์ชได้เยอะทีเดียว 


“งั้นสัญญานะ…ว่าจะเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่จนเฒ่า  และจะรักกันตลอดไป”  ผมรีบแย้ง  ก่อนจะจุ๊บลงที่ปากนิ่มของอีกฝ่าย

“อืม…สัญญา…” 


เราสองคนกอดกันแนบแน่นท่ามกลางความมืดมิดที่มีเพียงแสงของดวงจันทร์วันเพ็ญส่องแสงลอดผ่านบานกระจกผืนใหญ่เข้ามาในห้อง  แม้ว่าลมเย็นจะโชยพัดเข้ามาจากช่องเล็กที่เปิดทิ้งไว้  แต่ภายในหัวใจสองดวงนี้…กลับอบอุ่น  เร่าร้อนจนแทบจะกลืนเป็นดวงเดียวกัน 

ผมรักมัน… และมันรักผม  เพียงเท่านี้

ขอเพียงเท่านี้…

ก็พอแล้ว





***


Haney

  • บุคคลทั่วไป

บทส่งท้าย….






แสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วท่ามกลางภูเขาสูงเขียวขจี  เสียงนกร้องระงมดังไปทั่วสลับเสียงสูงต่ำเป็นจังหวะราวกับกำลังบรรเลงเสียงเพลงจากธรรมชาติอันแสนจะไพเราะ  ในหมู่บ้านเล็กๆ นั่นมีคนอาศัยอยู่เพียงไม่กี่หลังคาเรือน  ส่วนใหญ่จะเป็นเศรษฐีที่มาสร้างรีสอร์ทพักผ่อนยามว่าง  ไม่ก็เกษียรตัวเองมาอยู่ท่ามกลางความสวยงามของป่าไม้  เพราะเนื้อที่บนนี้ราคาค่อนข้างสูงขนาดซื้อบ้านหลังใหญ่ใจกลางเมืองหลวงได้หลายหลังทีเดียว


และหนึ่งในหมู่บ้านนั้นก็มีบ้านหลังน้อย…ที่สร้างขึ้นมาอย่างเรียบง่าย  แต่ตั้งอยู่บนจุดชมวิวที่สวยที่สุด  โดยเฉพาะตรงมุมระเบียง…ที่สามารถมองเห็นสีเขียวขจีสดชื่นของภูเขาได้ทั้งลูกแผ่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา



“แม่…ผมหิวแล้วอ่ะ  ข้าวเสร็จยัง?”  เด็กผู้ชายตัวน้อย  หน้าตาน่ารักส่อแววคมเข้มเอ่ยถามผู้เป็นแม่ที่กำลังง่วนอยู่กับเตาเครื่องครัว  และผักนานาชนิดตรงหน้า 

“ใกล้แล้วจ๊ะ  ไปตามคุณปู่ก่อนเร็ว  จะได้พร้อมหน้าพร้อมตากัน”


เด็กน้อยพยักหน้ารับคำสั่ง…แล้วรีบวิ่งจากห้องครัว  อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบเปียโนติดผนังลายไม้ตัวเก่าที่ตั้งไว้หน้าห้องนอนเล่น  ก่อนที่จะวิ่งไปที่ระเบียงไม้  ที่ตรงนั้นถูกสร้างอย่างดีด้วยไม้สัก  ยื่นออกไปเพื่อให้ได้วิวอย่างดีที่สุดและมั่งคงที่สุด 


บนระเบียง…มีเก้าอี้ไม้โยกสองตัวตั้งไว้ข้างกัน  แต่มีเพียงตัวเดียวที่ถูกใช้งานอยู่



“ปู่ครับ…คุณปู่  ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ”  เด็กชายส่งเสียงเรียกปู่ตนเอง  พร้อมกับเข้ามาเขย่ามืออันเหี่ยวย่นที่วางไว้บนที่วางแขนของเก้าอี้ 

วูบหนึ่ง…ที่เด็กน้อยแอบลอบมองแหวนสีขาวหม่นสองวงที่สวมอยู่บนนิ้วนางของปู่ตนเอง  วงนึงมีขนาดเล็กพอดีกับนิ้ว  ส่วนอีกวงที่สวมอยู่ด้านในมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย  สงสัยที่ใส่ไว้ด้านในเพราะเพื่อไม่ให้มันไหลหลุดออกมาจากนิ้วซะล่ะมั้ง….เขาคิด 

แม้มองเผินๆ ทั้งสองวงจะเหมือนกัน  แต่เมื่อจ้องดีๆ ก็พบว่า…ที่แหวนวงนอกนั้นเป็นรอยอะไรบางอย่างขยุกขยิกที่เขาอ่านไม่ออก 



“คุณปู่มายังจ๊ะ?”  เสียงแม่ดังขึ้นมาจากในครัวเรียกให้เขาตื่นจากภวังค์  เด็กชายรีบเงยหน้าขึ้นและมองคุณปู่ที่นั่งหลับตานิ่ง  ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแบบที่เค้าเคยเห็นเป็นประจำ

“ปู่ครับ  คุณปู่ครับ….คุณ…” 


เสียงทุกอย่างเงียบลง…ทิ้งไว้เพียงเสียงตะโกนดังลั่นของเด็กน้อยเพื่อร้องเรียกแม่ 

เหลือเพียงเท่านั้น…












สิ่งที่เหลือคือร่างไร้วิญญาณของชายชรา…มือข้างหนึ่งของเขาจับอยู่กับพนักวางแขนที่เก้าอี้โยกตัวข้างๆ ราวกับกำลังกอบกุมมือของใครบางคนอยู่   ใบหน้าไร้ซึ่งความทุกข์ทรมาน  มีเพียงรอยยิ้มอันเหี่ยวย่นแต่อบอุ่น 

ในที่สุด…ชายคนนี้ก็ได้โผบินไปในท้องฟ้าตามที่เคยปรารถนา 

แตกต่างกันตรงที่…บนฟ้านั้น  มีใครบางคนที่เขารักอ้าแขนรอรับอยู่พร้อมรอยยิ้ม   
 





E N D



Haney

  • บุคคลทั่วไป

สวัสดีครับ  มิตรรักแฟนนิยายทุกท่าน
ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบอย่างจริงจังแล้ว...  ขอขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาจนถึงตอนนี้
ดีใจ และ ซาบซึ้งกับทุกคอมเม้นต์  ทุกคนที่ได้รู้จักจากที่นี่  และทุกความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน
ถ้าผมทำให้ใครขุ่นเคือง ขับข้องใจก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้  และขอแจ้งว่าไม่ได้ตั้งใจแต่ประการใด


อยากจะบอกว่า ที่นี่ให้ความรู้สึกดีๆ หลายอย่างที่แปลกใหม่...
รัก และ ผูกพัน  คือคำที่อธิบายความรู้สึกต่อเล้าได้เป็นอย่างดีครับ 
ขอบคุณผู้เขียนนิยายทุกๆ เรื่องที่ผมได้อ่าน  และ  ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ทำให้ผมได้เขียนนิยาย
ไม่คิดจริงๆ ว่าจะมีคนติดตามมากมายขนาดนี้...


ขอโทษที่ผมมาต่อบ้าง ไม่ต่อบ้าง 
แต่ยังไงเสีย... ก็ต่อได้จนจบ 555
และเป็นตอนจบที่คิดว่าลงตัวที่สุดแล้ว
เพราะนี่มาจากสิ่งที่ผมคิดจริงๆ  และจะทำจริงๆ ในอนาคต... คุณปู่ กับ คุณปู่  ผมมั่นใจว่าหลายๆ คนก็คิดกับแฟนตัวเองแบบนี้เหมือนกัน ^_^
เพราะฉะนั้นไม่ต้องรีเควสตอนพิเศษอีกแล้วนะครับ  เพราะเรื่องนี้ได้จบอย่างบริบูรณ์ที่สุด
ถ้ามีต่ออีก  คาดว่าคงกลายเป็นหนังสยองขวัญมากกว่า 555



ชอบไม่ชอบอย่างไร  แล้วแต่ใจปรารถนา...
(แต่ชอบๆ กันเต๊อะ 555)


ต่อจากนี้ก็หวังว่า  ซัน มาร์ช จะอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป...
ผมเองก็ยอมรับว่าผูกพันกับสองคนนี้มากอยู่เหมือนกัน... เพราะเหมือนฝ่าฝันอะไรมาด้วยกัน (ราวกับเป็นตัวเอง -*-)
ทุกคนอย่าทิ้งพวกเขาทั้งสองนะครับ  ให้อยู่ในใจพวกเราตราบนานเท่านาน



เรื่องจบ... แต่พวกเขาไม่จบ 
เพราะทั้งสองจะยังคงรักกันในชีวิตนิรันด์


ขอบคุณครับ
รักที่นี่  และ  ทุกคนเสมอ

Pa[R]K

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
^
^
^
^

เย้ๆๆ ได้จิ้มครั้งแรกเลย

สนุกมากๆตามทุกเรื่องเลย

 o13 :-[

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ขอบคุณพี่พากเช่นกัน
กับเรื่องราวความรักที่แสนอบอุ่น
ทำให้เชื่อว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามและควรค่าแก่การค้นหาเสมอ
เพราะแม้สุดท้ายในปลายทางที่คนนึงนั้นจากไป
ก็ยังมีหวังว่าสักวันจะได้กลับมาเคียงคู่กัน


อ่านตอนจบ ใจหวิวนิดๆ เหมือนอยากจะร้องไห้
แต่เป็นความเศร้าอมสุขที่อบอุ่นมากมายจริงๆ


ขอบคุณอีกครั้ง
และขอเป็นกำลังใจให้พี่ได้ทำตามฝันที่วางไว้กับคนที่ตัวเองรักได้สำเร็จ

โชคดีค่ะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ pdolphin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
ขอบคุณที่ทำให้ น้ำตาไหลตอนเช้าก่อนไปทำงาน


kuraki

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้งจังเลยอ่ะพี่พากย์  :m15:

ขอบคุณที่มาต่อจนจบบริบูรณ์นะคะ

(จริงๆยังอ่านไม่จบ แค่ไล่๋ๆดู ออกไปทำงานก่อน เดี๋ยวมาอ่านต่อ อิอิ)

ขอให้พี่มีความสุขในรักแบบซันมาร์ชตลอดไปนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ faire

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบได้สุดยอดมากพี่พากษ์  o13

สองคนนี้เริ่มต้นกันไม่สวยเท่าไหร่ แต่จบลงอย่างสวยงามมากจริงๆค่ะ

ความรักนี่ดีจริงๆ



ขอบคุณพี่พากษ์ด้วยที่มาต่อจนจบ ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่านค่ะ  :L2:

มีโครงการเรื่องต่อไปหรือยังเฮีย รอเรื่องดีๆจากเฮียอยู่นะคะ


:กอด1: (พี่โกะ) ด้วยฟามรักและคิดถึง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
เป็นตอนจบที่อ่านแล้วรู้สึกมีความสุขมากๆเลยค่ะ

แต่ก็แอบรู้สึกใจหายที่จะไม่ได้อ่านตอนพิเศษของเรื่องนี้อีกแล้ว

ถ้าเป็นไปได้ เอาตอนพิเศษของ มาร์ช กะ ซัน ไปลงในเรื่องของหนูมิกกี้ได้รึเปล่าเอ่ย?? แบบว่าอดคิดถึงสองคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆค่ะ เพราะยังไงบทส่งท้ายมันก็คงเป็นเหตุการณ์ในอีกหลายสิบปีนับตั้งแต่วันที่ทั้งสองคนตกลงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน........ และมันก็ทำให้ทุกคนรู้ว่าทั้งสองคนนั้นทำตามฝันได้แล้ว

อ่านไปแล้วดีใจจนเกือบร้องไห้เลยค่ะ :m15: :m15:

ขอบคุณ คุณ พากย์มากๆนะคะ

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
 :give2: จบลงอย่างซาบซึ้งมากกก

สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดด

สมกะการรอคอย

ปูเสื่อรอเรื่องต่อไปฮะ..

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ขอบคุณที่สำหรับนิยายสนุก ๆ อ่านตอนจบเล่นเอาน้ำตาคลอเลย  o13

หวังว่าคงมีโอกาสได้อ่านนิยายของคุณพากย์อีกนะ

ถึงนิยายจบไปแล้วแต่ก็มาส่งข่าวคราวทักทายแฟนๆ กันบ้างนะคะ  :L2:

 :pig4:

ออฟไลน์ ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰

  • นู๋ รัก BoYs' lOvE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 721
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ขอบคุณ น่ะคับ


สำหรับเรื่องราวดีดี ที่ มาแบ่งปัน


น่ารัก  ดั้ยอีก....คู่นี้




mime

  • บุคคลทั่วไป
 o13 ในที่สุดก็จบแล้วอย่างอบอุ่นใจ
ชอบมากๆเลย อ่านตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย นานเหมือนกันนะเนี่ย
บางช่วงที่อ่านแล้วยิ้ม บางวันก็ซึม
บางตอนช่วงลุ้นๆเข้ามาดูทุ๊กวันแทบจะลงแดง
แต่ถ้าเขียนอีกก็จะรออ่านอีก (ไม่เข็ด)

ขอบคุณมากค่า

CYPINUS

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ ชอบเรื่องนี้มากครับ ตอนจบซึ้งจังครับ   :pig4:

patz

  • บุคคลทั่วไป
ตอนก่อนจบ หวานกันได้อีก

ส่วนตอนจบ ก็จบได้อิ่มในความรู้สึกจริงๆครับ

 :L2:

alterlyx

  • บุคคลทั่วไป
“แต่ในเมื่อไม่มีโอกาสได้เล่นให้กับรักแรกแล้ว….เลยอยากจะเล่นให้รักครั้งสุดท้ายแทน”  
“คุณจะแต่งงานกับผมมั้ยครับ  คุณสหรัฐ…อย่ามัวแต่ขำ  เดี๋ยวเจ้าบ่าวจับโบก”

"I’m your Sun"

ได้อีกก
ได้อีกกก
น่าร๊ากกก ได้อีกกกก ....  :o8:

จบได้รู้สึกอบอุ่นมากๆเลยค่ะ
(แต่จะดีกว่า ถ้าไม่จบ อิอิ)
ทิ้งท้ายซึ้งมาก ... ประทับใจได้อีก
บนฟ้านั้น  มีใครบางคนที่เขารัก อ้าแขนรอรับอยู่พร้อมรอยยิ้ม       :กอด1:

PeeraDHa

  • บุคคลทั่วไป
เป็นตอนจบที่ทำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างยิ่ง....เพื่อพบพานและเจอะเจอกับ...รักแท้ที่มีอยู่จริง
 o13
ขอบคุณนะสำหรับเรื่อง ดี ดี ที่มีหั้ยกันเสมอมา...


ปอลอ..แล้วอีกเรื่องนึงอ่ะ...ใกล้ยังอ้า.. :impress2:

ออฟไลน์ MurasakiLove

  • そばにいるね
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
อึ้งไปหลายนาทีกับบทส่งท้าย  :monkeysad:
เป็นตอนจบที่กะชากอารมณ์ซึ้งให้รู้สึกเต็มตื้อได้ดีจริงๆ (เยี่ยมมากค่ะคนแต่ง  o13)
นิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจและจะเก็บอยู่ในใจเราตรอดไปค่ะ

ขอบคุณคนแต่งเช่นกันที่มาช่วยสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้พวกเราชาวเล้าได้มีความสุขร่วมกัน
หวังว่าคงไม่ทิ้งกัน และมีผลงานเรื่องอื่นๆ มาให้ได้ชื่นชมกันอีกนะคะ 
  :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด