ตอนที่17
#เครื่องกลชนโยธา
เช้านี้อารมณ์ดีมากจนถูกเพื่อนถามว่าไปได้ยาชูกำลังมาจากไหน นอกเหนือกว่านั้นไม่ว่าจะเรื่องตลกเล็กน้อยหรือมุกฝืดเพียงใดไทเกอร์ก็หัวเราะออกมาได้จนทอยที่นั่งอยู่ข้างกายต้องขมวดคิ้ว ตามปกติทุกวันไอ้เพื่อนสนิทจะต้องเดินเข้ามาด้วยสภาพใบหน้าหงิกงอพร้อมเสียงบ่นพึมพำว่าโดนไอ้เสือกวนตีนมาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่วันนี้คือแปลก แปลกตรงที่มันเอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์แล้วอมยิ้มกับตัวเอง
“ไอ้เกอร์”
“หืม” ซึ่งตอนนี้ไทเกอร์ยอมละสายตาออกจากมือถือแล้วหันมองทอย
“อารมณ์ดีอะไรมา ตั้งแต่นั่งรถมากับกูเมื่อเช้าละ”
“ก็ปกติไม่ใช่หรอวะ” คำถามนี้ดังออกมาพร้อมคิ้วของไทเกอร์ที่ขมวด เจอแบบนี้สิทอยถึงได้เลิกถามเพราะการที่คิ้วของมันขมวดนี่ตางหากหละที่เรียกว่าปกติซึ่งเมื่อไทเกอร์ไม่ยอมบอกความจริงแล้วดังนั้นทอยถึงได้เลิกสนใจแล้วหันหน้ากลับไปมองอาจารย์ผู้สอนแทน ในขณะนี้คนมีความรักก็กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ด้วยใบหน้าที่แทบจะอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา เอาเข้าจริงก็ไม่ได้คุยอะไรกับไอ้เสือมันหรอกเพราะต่างคนก็ต่างเรียนอยู่จะมีพิมพ์ถามบ้างเล็กน้อยหรือไม่ก็ด่ากันไปมาทั้งที่หน้ายิ้มแบบนี้
//ไม่เรียนหรือไง// ประโยคนี้มาจากคนในแชทอย่างเสือ
...เรียนอยู่...
//แล้วมึงไม่ตั้งใจเรียนหรอ//
...ฉลาดอยู่แล้ว…
//ควาย หลงตัวเอง// ทั้งที่โดนด่าแต่ไทเกอร์กลับยิ้มเพราะเหมือนว่ากวนตีนมันได้สำเร็จเลย ถึงแม้จะญาติดีกันในระดับหนึ่งแล้วกระนั้นทั้งเสือและไทเกอร์ก็ยังผลัดกันกวนไปมาไม่ได้ต่างจากเดิมมากนักจะมีแปลกไปก็แค่ไม่ได้โกรธกันเหมือนเดิมแล้ว นอกเหนือไปกว่านั้นวันนี้ยังถูกเสือบอกให้ไปทานข้าวที่โรงอาหารคณะเพื่อที่จะได้เจอกันซึ่งไทเกอร์ก็เพียงแค่ตอบตกลงไปและเมื่อถึงเวลาพักกลางวันเขาก็แค่บอกเพื่อนว่าวันนี้อยากจะทานข้าวที่โรงอาหารก็เท่านั้น
“จะแดกอะไร” ซึ่งทอยก็เดินกอดคอของเขาพร้อมพูดคุยกันตามปกติ
“กินก๋วยเตี๋ยว”
“ตอนเย็นกลับเองหรือให้กูไปส่ง” กับคำถามนี้ไทเกอร์มีนิ่ง
“กลับเอง”
“แล้วทำไมไม่เอารถมาเลยเดี๋ยวนี้”
“ก็รถมันติด กูขี้เกียจขับ” พูดตอบไปก็เดินไปด้วยโดยที่มือกำลังกดเล่นโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ เมื่อถึงโต๊ะประจำไทเกอร์วางกระเป๋าเป้ของตัวเองลงก่อนใช้มือบีบก้นของไอ้ทอยกวนตีนมันไปทีแล้ววิ่งหนีหัวเราะออกมา ร้านอาหารของวันนี้ยังคงเป็นร้านประจำอย่างร้านที่เคยจะตีกันตอนนั้นกับไอ้เสือ แต่พอพูดถึงไอ้เสือก็ไม่รู้ว่าป่านนี้มัน…
“ไปแดกร้านอื่นดิมึงอะ” และกับไอ้เสียงคุ้นเคยนี้
“กูมาก่อน มึงแหละไปเลย” ไทเกอร์หันไปด่ามันซึ่งไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างเขาอย่างเสือก็ทำเพียงมองกลับมาแล้วอมยิ้มเท่านั้น
“เล็กน้ำตกกับเล็กต้มยำครับป้า” พอเสือสั่งให้แบบนี้คนฟังอย่างไทเกอร์ถึงได้มีแอบจะใจสั่นอยู่บ้างแต่เขายังคงตีมึนยืนกอดอกเพ่อให้แนบเนียนที่สุดว่าเราทั้งคู่ไม่ได้ญาติดีกัน รับรู้ถึงสายตาของทั้งกลุ่มของเสือและของตัวเองที่กำลังมองมาเหมือนกะดูว่าถ้าหากพวกเขาตีกันพวกมันจะได้ลุกเข้ามาช่วยทัน
“เย็นนี้กูต้องซ้อมว่ายน้ำก่อน...จะรอมั้ย” เสือถามขึ้นในขณะที่ยืนปรุงก๋วยเตี๋ยว
“เลิกกี่โมง”
“สามทุ่ม”
“อืม” และคำตอบของไทเกอร์เรียกดวงตาคู่คมของอีกร่างให้แอบเหลือบมองพร้อมรอยยิ้ม
“สองชามเลยป้า” แถมพอปรุงเสร็จเสือยังยื่นเงินจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวให้ก่อนเดินออกไปแบบไม่ได้พูดจาอะไรกัน ไทเกอร์มองตามอีกร่างพลางเม้มปากกลั้นยิ้มกับตัวเองแล้วถือชามอาหารแสนโปรดพร้อมกาแฟเย็นกลับมาหนึ่งแก้ว ทอยมองเพื่อนสนิทที่นั่งกินข้าวไปก็เหมือนแอบคอยมองใครไปด้วยแววตาสงสัย พอลองมองตามสายตาของมันก็พบว่าคนที่ไทเกอร์กำลังแอบมองก็คือไอ้เสือที่นั่งอยู่ตรงนั้น ทอยขมวดคิ้วและทั้งที่เคลือบแคลงใจแต่ก็ไม่พูดอะไร
ขนาดเข้ามาเรียนภาคบ่าย
ไทเกอร์ก็ยังนั่งตอบแชทสีชมพูที่มันตั้งชื่อคนในนั้นว่า ไอ้ควาย
“ไอ้เกอร์” และทอยอดไม่ได้ที่จะเรียก
“ว่า”
“มีอะไรปิดบังกูอยู่หรือเปล่า”
“เปล่า” ซึ่งคนดื้อดึงก็ไม่แปลกที่จะตอบมาแบบนี้ ทอยถึงได้เลิกถามแล้วกลับมานั่งเรียนและปล่อยให้ไทเกอร์ที่ปกติก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรได้นั่งเล่นโทรศัพท์ไปซึ่งการเรียนของวันนี้ผ่านไปโดยที่ตอนเย็นทอยก็ถามย้ำอีกว่าจะให้ไปส่งมั้ยและไทเกอร์ก็ปฏิเสธพร้อมเดินหยิบกระเป๋าออกมาแล้วเดินแยกไปคนเดียวแบบนี้ แต่ที่จริงเมื่อเดินแยกออกมาแล้วก็ใช่ว่าจะไปหาเสือเลยเพราะเขาเลือกที่จะมานั่งยังโต๊ะม้าหินอ่อนหลังคณะเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนคนอื่นกลับไปหมดแล้ว
จนกระทั่งที่พบว่าหกโมงเย็นแล้ว
ไทเกอร์ถึงได้เดินเข้าไปในสระของมหาลัยที่เพิ่งจะเคยมาก็ครั้งแรก
“มาแล้ว” ซึ่งเมื่อเขาพูดคำนี้ออกไปหนึ่งร่างของคนที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในสระหยุดชะงักลงก่อนหันกลับมามองที่เขา เห็นว่าเสือมันรีบว่ายกลับมายังขอบสระพร้อมรั้งแว่นตากันน้ำของตัวเองขึ้นแล้วเงยสายตามองมา
“เลิกเรียนตั้งแต่สี่โมงแล้วไม่ใช่หรอ” หนึ่งคำถามจากอีกคนดังมา
“ก็รอคนกลับหมดก่อน” และไทเกอร์ก็ตอบไปพร้อมเดินลงไปนั่งลงยังริมสระที่ใครอีกคนอยู่ตรงนั้น เขาหย่อนขาลงน้ำจัดการวางเป้ไว้บนเก้าอี้ยาวข้างสระพร้อมมือที่หยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่นฆ่าเวลา เสือยังคงอยู่ที่เดิม ใครอีกคนยังคงท้าวแขนอยู่บนขอบสระและไทเกอร์ก็มองเสือประมาณว่ามีอะไร
“สามทุ่มเลยนะ มึงจะไม่บ่นใช่มั้ย” จนสุดท้ายเสือก็ถามมา
“ก็บอกว่าอืม”
“ตกลงกันแล้วแต่ถ้าบ่นกูตบเลยนะ”
“กูถีบคืนเลยอะสัส” ซึ่งการที่ไทเกอร์สวนมาแบบนี้เรียกเสียงหัวเราะจากคนฟังที่ดังสวนมาแถมก่อนที่จะกลับไปซ้อมเสือยังใช้มือลูบขาของเขาเล่นจนไทเกอร์ต้องเตะส่งว่าให้รีบไปซ้อมได้แล้ว เล่นกันพอหอมปากหอมคอก็ถึงเวลาที่เสือกลับไปซ้อมจริงจังซึ่งไทเกอร์ก็เพียงก็เพียงแค่นั่งเล่นเกมรอเท่านั้น เวลาผ่านไปท่ามกลางความเงียบที่ไม่ได้อึดอัด เข็มของนาฬิกาเดินไปตามระยะเวลาของมันเช่นเดียวกับคนตัวขาวตรงนี้เช่นกันที่เมื่อนั่งนิ่งมานานก็ชักจะมีอาการง่วงอย่างที่เห็น
“ไอ้เสือ!!” จำเป็นต้องเสียงดังเพราะตอนนี้อีกคนอยู่คนละมุมสระแต่พอเขาเรียกเสือมันก็รีบว่ายมาหา
“ว่า”
“กลับบ้านกัน...” พูดไปไม่เสียงดังนักเพราะเหมือนจะแอบมีความผิด
“เพิ่งสองทุ่ม”
“จะไม่แวะกินข้าวก่อนหรอ...กูว่ากูหิวข้าวแล้วก็ง่วง” พยายามจะอธิบายให้สมเหตุสมผลมากที่สุดซึ่งเสือก็ทำหน้าประมาณว่าหรอแล้วพยักหน้ารับพร้อมมองเขาด้วยแววตากวนตีนแบบนี้ สุดท้ายแล้วคนตัวสูงก็ปีนขึ้นจากสระแล้วมานั่งลงข้างกับไทเกอร์ซึ่งคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าก็เนียนขยับตัวให้ห่างเพราะกลัวจะเปียก
“จะขยับไปไหน” แล้วเมื่อเสือถาม
“มันจะเปียก ไม่ต้องมาใกล้กู”
...หมับ...
แต่นอกจากจะไม่ฟังเสือยังใช้มือจับที่แขนของเขาพร้อมออกแรงรั้งให้ไทเกอร์ขยับตัวเข้าหา คนที่ถูกดึงขมวดคิ้วแน่นพลางตวัดสายตามองไอ้มนุษย์ตัวสูงที่กำลังนั่งยิ้มอยู่ บนในหน้าของเสือมีหยดน้ำเกราะพราวอยู่แทบทุกสัดส่วนและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมันว่ายน้ำเหมือนกัน ถึงตอนนี้ก็เลยเริ่มจะเข้าใจละว่าทำไมสาวถึงกรี๊ดมันนัก
“มองหน้าทำไม” คราวนี้เสือถามพร้อมมองตาของเขากลับด้วยระยะห่างของหน้าที่ใกล้กันเพียงคืบ
“มองควาย”
“ปากดีเดี๋ยวก็ได้เดินกลับคนเดียว” จนเมื่อมันงัดไม้เด็ดมาไทเกอร์ถึงทำได้แค่นั่งเงียบแล้วเบ้ปาก ระหว่างนี้เสือลุกยืนขึ้นพร้อมเดินย้อนไปยังโต๊ะตัวยาวด้านหลังที่มีเสื้อผ้าของตัวเองกองอยู่ คนตัวสูงเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาอยู่ในชุดปกติอย่างชุดนักศึกษาที่ใส่มาในตอนเช้า จัดการเก็บอุปกรณ์อื่นลงในกระเป๋าตัวเองแล้วเดินตรงเข้าไปหาร่างของคนที่ยังคงนั่งหย่อนขาเล่นอยู่ในสระน้ำ
“ปะ กลับ”
“ไหนว่าสามทุ่ม” ไทเกอร์ถามพร้อมเงยหน้ามอง
“หมามันหิวข้าวไงจะพามันไปแดกก่อน” ได้ยินแบบนี้ไทเกอร์ไม่ได้แย้งแต่ยิ้มไปพร้อมรีบเอาขาของตัวเองขึ้นจากน้ำ ดึงขากางเกงลงตามเดิมแล้วหยิบเป้ใบโปรดพร้อมลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเสือออกไปด้านนอก ไทเกอร์กำลังมองหารถของอีกคนแต่เหมือนจะไม่มีดังนั้นก็คงหมายความว่ามันไม่ได้เอารถมา
“ไปร้านไหน อยากกินไร” เสียงถามจากเสือดังมาระหว่างทาง
“หน้ามอก็ได้ร้านเดิมอะ”
“แดกข้าวนะ ไม่ต้องแดกก๋วยเตี๋ยว...ตอนกลางวันมึงก็แดก”
“รู้แล้ว” ไทเกอร์ตอบไปแบบนี้แต่พอเข้ามานั่งในร้านเขาก็อยากกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ดี แต่รู้ว่าถ้าสั่งจะต้องโดนมันด่าก็เลยสั่งผัดกระเพราไปแทน แถมยังโดนบังคับกินน้ำเปล่าทั้งที่เสือมันได้กินนมสดของโปรดและพอเขาแย้งไปว่าไม่ยุติธรรมใครอีกคนยังสวนมาว่าเพราะเพิ่งเล่นกีฬาเสียเหงื่อไปเลยต้องเอาน้ำตาลเข้ามาทดแทน
“กูอยากกินกาแฟ” แต่เขายังคงไม่ยอม
“จะสามทุ่มแล้วยังแดกกาแฟ มึงจะไม่นอนหรอ”
“พวกนักกีฬามันต้องพูดมากทุกคนปะวะ” เมื่อเถียงไม่ได้ไทเกอร์บอกไปแบบนี้ก่อนนั่งหน้าหงิกกินข้าวที่มาเสริฟพอดี นั่งกินข้าวแบบไม่พูดกันด้วยเพราะดูเสือก็ไม่ได้สนใจจะอะไรเลยจนก็เป็นไทเกอร์เองนั่นแหละที่ก็หายไม่พอใจไปเอง จนกระทั่งที่ทานจนหมดก็เป็นเสือที่จ่ายเงินให้แล้วลุกเดินนำไปยังสถานีบีทีเอสที่อยู่เยื้องกัน เจอแบบนี้เริ่มพอจะเข้าใจละว่าแม่งต้องงอนที่เขาว่ามันแน่
“ไอ้เสือรอด้วยย!” เลยแกล้งๆจะคุยกับมันก่อน
“.........”
“รอด้วยยๆๆๆๆ!” แต่ขนาดตามขนาดนี้แล้วใครอีกคนก็ยังเงียบจนไทเกอร์เข้าใจละว่ามันอาจจะโกรธจริงก็ได้ เพราะแบบนี้เลยต้องเดินกับมันไปแบบไม่พูดก่อนทั้งที่สายตาก็คอยมองแต่ใบหน้าด้านข้างของเสือตลอด ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดบีทีเอสไทเกอร์ถึงเนียนเดินเบียดแล้วชะโงกหน้าไปดูดน้ำในมือของเสือ
“หิวน้ำ” พอกินเสร็จก็เงยหน้ามองมันพร้อมยิ้มหวานให้ที
“ดื้อ บอกอะไรก็ไม่ฟัง”
“โอ๋” และไทเกอร์ส่งเสียงไปแบบนี้พร้อมแนบมือสองข้างลงบนแก้มขาวของอีกคน พอเห็นว่าเสือมันเริ่มจะหลุดยิ้มออกมาเขาถึงได้ละมือออกแล้วเดินนำขึ้นไปยังด้านบนโดยที่ใครอีกคนเดินตามหลังมาไม่ห่าง กดซื้อบัตรแล้วเรียบร้อยต่อไปก็เดินขึ้นไปยังด้านบนสุดของสถานีเพื่อไปรอรถ
...หมับ..
ระหว่างนี้มือหนาของเสือวางทาบลงบนหัวของคนที่เดินก้มหน้าเล่นเกม ซึ่งพอมาถึงด้านบนไทเกอร์ก็ยังก้มหน้าเล่นเกมโดยที่มีมือของคนข้างกายที่โยกหัวของเขาเล่นบ้างหรือไม่มันก็ยีผมของเขาเล่นเหมือนคนไม่มีอะไรทำ
“ได้เล่นเกมนี้มั้ย” จนกระทั่งที่ไทเกอร์ถามพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้ดู
“ไม่ได้เล่น กูตีแต่ป้อม”
“ว่าจะให้เล่นให้ กูไม่ผ่านด่านนี้ซักที” แต่พอไทเกอร์บอกมาแบบนี้เสือก็เพียงดึงโทรศัพท์ของอีกคนมาแล้วจัดการเล่นเกมที่เพิ่งจะเคยเห็นก็ครั้งแรกเหมือนกัน มันเป็นเกมคล้ายกับเกมแคนดี้ที่เหมือนว่าพอผ่านด้านนี้ไปก็เก็บดาวเอาไปสร้างบ้านอะไรประมาณนั้นตามที่ไทเกอร์อธิบายมา ดูท่าก็ไม่ได้ยากอะไรแถมเขา
“อะ ผ่านละ”
“....!” เจ้าของมือถือกำลังตาโตพร้อมมองหน้าของเสือสลับกับเกมในโทรศัพท์ตัวเอง ซึ่งเมื่อเจอแบบนี้ไทเกอร์เริ่มจะเข้าใจละว่าไอ้เวรที่ยืนข้างเขาแม่งคงจะมีพรสวรรค์ด้านการเล่นเกมเอาการเลย ดังนั้นแล้วตลอดทางเมื่อเล่นด่านไหนไม่ผ่านไทเกอร์ก็จะยื่นโทรศัพท์ให้แก่คนที่อยู่ข้างกัน
“ทำไมผ่านวะ”
“มึงก็ดูดิ เนี่ย...ก็ทำให้มันได้ของวิเศษเดี๋ยวก็ผ่าน เอาอันนี้ลง เอาอันนี้ไปอีกฝั่ง...ก็ได้ลูกบอลรุ้งแล้วเนี่ย” ถึงแม้ว่ามันจะอธิบายยังไงแต่ไทเกอร์ก็”ม่เข้าใจจนต้องเล่นไปหัวร้อนไปอยู่ดี จนพอมาถึงสถานีบีทีเอสปลายทางแล้วนั่นแหละเขาถึงได้ถูกเสือสั่งว่าให้เลิกเล่นแล้วเดินดูทางได้แล้ว ซึ่งไทเกอร์ไม่ได้เถียงอะไรเนื่องด้วยแบตก็จะหมดอยู่พอดี
แต่พอมาบนรถเมล์แล้วได้นั่งข้างกันปุ้บ
เสือก็เริ่มจะวอแวโดยการที่มือของมันทำเนียนจะวางบนขาอ่อนของเขาตลอด
“มึงกวนตีนแล้วนะ”
“ขอจับหน่อยดิ” แต่นอกจากจะไม่สะทกสะท้านยังมีการขอแบบกวนตีนๆมาพร้อมหัวเราะอีก ไทเกอร์มองมันนิ่งพร้อมจิ้มนิ้วชี้ลงไปกลางหน้าผากของอีกร่างอารมณ์ว่าสั่งสอนและให้มันเลิกกวนได้ละ ซึ่งเสือก็เพียงยิ้มกลับมาแล้วกลับไปนั่งนิ่งตามที่ควรเป็นในคราแรก จนสุดท้ายก็มาถึงที่หมายในเวลาที่เกือบจะสี่ทุ่มให้แล้วแถมยังจะต้องเดินเข้าไปในซอยอีก
“จะกลับก่อนมั้ยเดี๋ยวกูเดินเข้าไปเอง มึงจะไม่ทันรถเมล์รอบสุดท้ายนะ” ไทเกอร์ถามขึ้น
“ไม่เป็นไร”
“แล้วจะกลับยังไง”
“เดี๋ยวคนที่บ้านมารับ” พอเสือพูดแบบนี้คนฟังขมวดคิ้ว
“แล้วงั้นทำไมมึงไม่เอารถมาแต่แรก”
“มันจะถึงเร็ว” เป็นประโยคคำตอบที่ดูไม่มีอะไรมากแต่กลับทำคนฟังมีแอบหน้าแดงได้เลย ไทเกอร์เพียงพยักหน้ากลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเองพร้อมเดิมเคียงกับเสือไปในซอยบ้านของตัวเองที่ก็ลึกเอาการ ระหว่างทางยังคงไม่ได้พูดอะไรกันเพราะเหมือนจะคุยกันมาเยอะตลอดทางแล้ว จะมีก็แค่แอบมองหน้ากันบ้างและมีในบางครั้งที่เผลอหันสบตากันพอดี
เมื่อถึงหน้าบ้านของตัวเองแล้ว
เขาก็เพียงแค่เดินเข้าบ้านของตัวเองและยืนมองหน้าของไอ้คนที่อยู่นอกเขตของบ้าน
“ถ้าถึงบ้านแล้ว เด้งแชทมาบอกกูด้วยนะ” ไทเกอร์บอกไปแบบนี้ซึ่งเสือพยักหน้ารับ
“มึงก็ฝันดีนะ”
“อืม” แล้วคนตัวขาวก็ครางรับไปก่อนล็อคประตูหน้าบ้านของตัวเองลงแล้วเดินเข้าไปด้านในของตัวบ้านที่ป๊าและม๊าหลับกันหมดแล้ว เมื่อมาถึงห้องนอนไทเกอร์แง้มผ้าม่านห้องเปิดดูว่าในตอนนี้เสือกำลังทำอะไร เขาจัดการลากเก้าอี้มาวางลงข้างหน้าต่างแล้วนั่งพร้อมแอบมองมันแบบนี้ เห็นว่าใครอีกคนกำลังยืนคุยโทรศัพท์ที่ไม่รู้ว่าคุยกับใครซึ่งนั่นทำให้ไทเกอร์มีแอบหน้าหงอยลงนิดหน่อย จนกระทั่งที่คนถูกแอบมองรู้ตัวแล้วหันมาสบตากับเขานั่นแหละ
...ครืดดครืดดดดดด...
แล้วก็เป็นเสียงโทรศัพท์ที่สั่นเพราะถูกโทรเข้า ไทเกอร์ก้มมองเบอร์ก่อนกดรับ
[ทำไมทำหน้าแบบนั้น] คุยกันผ่านโทรศัพท์แต่มองหน้ากันผ่านหน้าต่าง
“เปล่า แล้ว...มึงยังไม่กลับหรอ”
[ก็เพิ่งโทรไปบอกคนที่บ้านให้มารับเอง] แต่พอได้ยินแบบนี้ไทเกอร์ที่ซึมในคราวแรกกลับยิ้มออก
[คิดว่ากูคุยกับใครหรอ หึงหรือไง]
“อย่าหลงตัวเอง”
[แน่จริงก็อย่าเขิน] การที่ถูกเสือแซวมันทำให้ไทเกอร์ต้องรีบดึงผ้าม่านปิดลงแต่พอผ่านไปซักพักเขาก็ต้องแง้มออกอีกเพื่อจะได้มองหน้าของไอ้คนที่ก็กำลังเงยมองเขาอยู่เหมือนกัน พอหลังจากนั้นไปพวกเราก็ยืนมองหน้าฟังเสียงหายใจของกันและกันผ่านสายโทรศัพท์โดยที่นั่งยิ้มเพราะสาเหตุอะไรก็ไม่รู้จนกระทั่งที่เมื่อวางสายลงแล้วแต่ไทเกอร์ก็ยังไม่ได้ไปไหนและนั่งมองมันอยู่แบบนี้
...บรืนนบรืนน...
เป็นเสียงรถยนต์คุ้นหูที่ไทเกอร์จำได้ดีเลยอะว่าเคยเกลียดเสียงรถคันนี้แค่ไหน คำว่ารอคนที่บ้านมารับของเสือมันไม่ได้ต่างจากคำว่าให้คนที่บ้านเอารถมาให้เลยเพราะในตอนนี้คือมีคนขับรถยนต์คันรักของเสือมาพร้อมกับอีกหนึ่งคนที่ขับมอเตอร์ไซค์สีดำคันใหญ่ตามหลังมาด้วย และเมื่อมาถึงเสือก็แค่เปลี่ยนเข้าไปขับรถของตัวเองและคนที่ขับรถของมันมาในคราแรกก็เปลี่ยนมานั่งซ้อนท้ายลงบนมอเตอร์ไซค์แทน
ซึ่งเมื่อมันขับออกไปแล้ว ไทเกอร์ก็อาบน้ำแต่งตัวก่อนมานอนรอบนเตียง
รอจนกระทั่งที่ไอ้เสือเด้งแชทมาว่าถึงบ้านแล้วพร้อมบอกฝันดีนั่นแหละ
เขาถึง จะนอนได้...
# # # # # # # #
อารมณ์สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักเว่ออะ5555
แต่เรื่องมิ้งหละคะพี่เสือ มึงเนียนเลยยยยยย