#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 224062 ครั้ง)

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
พิธานขี้แกล้ง!!!!

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ้าวเฮ้ยยยยยยยยย ยังไงอะ ช๊อคพร้อมน้อง :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :เฮ้อ: ทำไมพิธานชอบเล่นกับความรู้สึกจัง น้องพระพายเล่นด้วยกับพี่เขาหน่อยซี้...ท่าจะสนุก  :z6:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่า มาต่อแล้วนะคะ เพราะตอนที่แล้วเราทำเรื่องไว้ รู้สึกเสียวสันหลังแทนพิธานชอบกล ฮ่าๆ มาอ่านต่อกันเนอะ อย่าเพิ่งโกรธกัน เพราะที่จริงมันไม่มีอะไรเลยยยย ไปอ่านกันต่อดีกว่าเนอะ และเช่นเคยค่ะ ถ้ามีคำผิดหรือของผิดพลาดประการใดก็ขออภัย ณ ตรงนี้เลยนะคะ และเหมือนเดิม...ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ รัก  :mew1: :bye2:

++++++++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 21 One touch.


My heart stops
หัวใจของฉันหยุดเต้น
When you look at me
เวลาที่เธอมองมาที่ฉัน
Just one touch
แค่เพียงสัมผัสเดียว
Now baby I believe
ที่รัก ฉันเชื่อเลย
This is real
ว่านี่คือความจริง
So take a chance and
มาใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่ากัน
Don’t ever look back,
ไม่ต้องมองย้อนกลับไป
Don’t ever look back
ไม่ต้องมองกลับไปอีก


             พระพายนั่งเงียบ คำพูดของเพลงขวัญยังวนอยู่ในหัว ขณะนี้พิธานเองก็นั่งเงียบไปเช่นกัน เพลงขวัญจ้องมองพระพายราวกับจะกดดันให้ตอบคำถามที่ถามไปก่อนหน้านั้น พระพายจะตอบว่าอย่างไรในเมื่อสถานะตอนนี้เป็นเพียงเรื่องถูกข่มขู่ที่กลับกลายเป็นสมยอม ทุกอย่างดูเละเทะไปเสียหมด แล้วจะเอาอะไรมามาตอบเพลงขวัญได้ อีกอย่าง...ถึงจะตอบไปก็เท่านั้น เพราะอย่างไรเสียพิธานก็มีเพลงขวัญอยู่ทั้งคนแล้ว พระพายเป็นแค่คนคนหนึ่งที่ถูกเลือกเพียงในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อคิดถึงจุดนี้พระพายรู้สึกจุกในอกไม่ใช่น้อย

“คือผมเป็นแค่....” พระพายอ้ำอึ้ง ก้มหน้าลงมองจานข้าวของตัวเอง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาพบว่าตอนนี้เพลงขวัญกำลังกลั้นยิ้มอยู่

“เลิกแกล้งได้แล้วน่า...พี่” พิธานพูดออกมา ทำเอาพระพายงงเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“นิดหน่อยเอง” เพลงขวัญว่า

“ดะ...เดี๋ยว..นี่มันอะไรกัน” พระพายถามออกมาพลางจ้องหน้าทั้งสองคนสลับไปมา

“ดูทำหน้าเข้าสิ ตลกชะมัด” เพลงขวัญพูดพลางหัวเราะ

“พอได้แล้ว...นี่ เพลงขวัญ พี่สาวฉันเอง” พิธานแนะนำ พระพายจ้องหน้าเพลงขวัญอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ขอโทษนะพระพาย แกล้งแรงไปหน่อย แต่ก็น่าแกล้งดีนี่น่า” พิธานเริ่มหน้าบึ้งเมื่อได้ยินพี่สาวของตัวเองพูดเช่นนั้น

“พี่สาว จริงๆเหรอ?” พระพายถามแบบไม่อยากจะเชื่อ

“ใช่ คลานตามกันมาเลยล่ะ” เพลงขวัญว่า

“.....”


        พระพายเงียบไปอย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ระหว่างที่เงียบก็กำลังใช้ความคิดว่าเกิดอะไรขึ้นภายในไม่กี่นาที ที่จู่ๆผู้หญิงคนหนึ่งแสดงท่าทางประหนึ่งเป็นคนรักของพิธาน และกลับกลายมาบอกว่าเป็นพี่สาวเสียได้

“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้ ฉันชอบเล่นมุกแฟนกับน้องชายตลอดแหละ” เพลงขวัญว่า

“ตลอดเลยเหรอครับ?” พระพายถามทั้งที่ยังเสียอาการต่อหน้าทั้งสองพี่น้องอยู่ ยอมรับว่าโกรธเหมือนกันที่โดนแกล้งแบบนี้ แต่คงคิดเสียว่าเป็นการทักทายที่ออกจะไม่น่ารักสักหน่อยก็ตาม

“ก็หน้าตาเราไม่ค่อยเหมือนกัน เลยเล่นมุกนี้ได้ เวลาจะหลอกพวกผู้ชายที่มาตามจีบไง” เพลงขวัญเล่า


        นี่คงเป็นทักษะของสองพี่น้องที่ดูจะน่ากลัวไม่ต่างกัน ถึงหน้าตาจะแตกต่างกันแต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้คือนิสัยแปลกๆที่ทั้งสองคล้ายคลึงกัน คือการแกล้งและปั่นหัวคนอื่นได้อย่างหน้าตาเฉย และพระพายก็ต้องตกเป็นเหยื่อโดนทั้งพี่ทั้งน้องแกล้งอย่างต้องยอมรับชะตากรรม

“แต่คำถามยังไม่ตอบเลยนะ เป็นอะไรกับพิธานกันล่ะ?” เพลงขวัญถามขึ้นมา

“เป็นเพื่อนครับ” พระพายไม่ลังเลที่จะตอบในครั้งนี้

“แค่เพื่อนจริงๆเหรอ?” เพลงขวัญยังคงทู่ซี้ถาม

“ครับ” พระพายยืนยันเช่นนั้น พิธานเหลือบตามองพระพายด้วยสายตาแข็งๆดูไม่ชอบใจนัก

 “ทำไมไม่บอกความจริงไปล่ะ” พิธานเอ่ยขึ้นมา

“ถ้าถึงขั้นพามาที่นี่ คงไม่ใช่แค่เพื่อนหรอกมั้ง” เพลงขวัญว่า

“ความจริงอะไร ไม่มีทั้งนั้นแหละ” พระพายปฏิเสธทันที จะให้พี่สาวของพิธานมารับรู้เรื่องแบบนั้นได้อย่างไร เพลงขวัญหัวเราะในท่าทีของพระพาย รู้สึกตลกและน่าแกล้งในสายตาเธอเป็นที่สุด

“เวลาโดนพิธานตีก้นแล้วรู้สึกยังไงล่ะ?” เพลงขวัญถามขึ้นอีก พระพายหลุดสีหน้าออกมาทันที ใบหน้าแดงก่ำดวงตาตื่นขึ้นอย่างไม่สามารถเก็บอาการได้

“นึกภาพอยู่ใช่ไหม?” เพลงขวัญชี้หน้าอย่างล้อเลียน พระพายถึงก้มหน้างุดซ่อนใบหน้าที่อยากจะปิดไว้ให้มิด

“น่ารักเนอะพิธาน ไปเจอที่ไหนมาเนี่ยะ อย่าบอกนะว่าในผับ” เพลงขวัญหันไปถามพิธานที่กำลังทานข้าว

“ก็ประมาณนั้น” พิธานตอบ

“ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะพระพาย” เพลงขวัญยังคงล้อพระพายอยู่อย่างนั้น

“เลิกแกล้งได้แล้ว” พิธานเอ่ยปาก

“ทำไมล่ะ น่าแกล้งออก” เพลงขวัญว่า

“ก็ดูสภาพสิ จะสิงจานอยู่แล้ว” พิธานว่าพลางมองพระพายที่กำลังก้มหน้าและไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมาให้เพลงขวัญล้ออีก

“หน่าๆ นิดหน่อยเอง เอาล่ะ เดี๋ยวมานะ ไปดูลูกค้าประจำสักหน่อย” เพลงขวัญว่าก่อนจะลุกออกจากโต๊ะและเดินไปยังโต๊ะที่อยู่อีกด้านหนึ่ง

 
        เมื่อเพลงขวัญไปพระพายจึงยอมเงยหน้าขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นคือสายตาของพิธานที่มองมา ดูเหมือนกำลังตลกในท่าทางของพระพายที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ พระพายมองค้อนกลับใส่พิธานอย่างลืมตัว เพราะรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้พิธานเองก็สนุกที่เห็นพี่สาวของตัวเองต้อนเขาจนมุมเช่นนั้น

“สนุกรึไง” พระพายถาม

“ก็ไม่ค่อยชอบหรอก” พิธานว่า

“หมายความว่าไง”

“ไม่ชอบให้นายทำท่าแบบนั้นกับคนอื่น ต้องต่อหน้าฉันคนเดียวเท่านั้น” พิธานว่า

“ท่าแบบไหน?” พระพายถาม

“ก็หน้าแดงๆทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ไง”

“โอ๊ย ช่างเถอะ” พระพายรู้ว่าจะอย่างไรก็แก้ตัวไปก็เท่านั้น มีแต่จะต้องยอมรับเท่านั้น

“พี่สาวฉันก็แบบนั้นแหละ ชอบปั่นหัวคน” พิธานว่า

“พูดอย่างกับตัวเองไม่ทำ” พระพายพึมพำสัพยอกแต่มีหรือที่พิธานจะไม่ได้ยิน

“ฉันไม่ได้ทำกับทุกคนเสียหน่อย”

“จะบอกว่าเลือกทำเหรอ” พระพายถาม

“จะทำกับคนที่สนใจเท่านั้น” คำตอบนั้นทำเอาพระพายเงียบ จะคิดเข้าข้างตัวเองมากไปไหมว่าพิธานนั้นสนใจเขาอย่างที่พูดออกมาจริงๆ

“รีบๆทานเถอะ เย็นหมดแล้ว” พระพายเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะเริ่มจะทำท่าไม่ดีต่อหัวใจที่เต้นตึกตักอยู่ในอกแล้ว

“เปลี่ยนเรื่องตลอดนะ” พิธานว่าก่อนที่จะทานอาหารต่อไป


        ทั้งสองทานอาหารจนหมดแล้ว และจู่ๆก็มีของหวานที่ถูกนำมาเสิร์ฟโดยที่ไม่ได้สั่ง พร้อมๆกับเพลงขวัญที่เดินมาและนั่งลงข้างๆพระพาย

“นี่เมนูใหม่ อยากให้ลอง” เพลงขวัญว่าพร้อมดันจานให้ พระพายที่เห็นหน้าเพลงขวัญก็หวั่นใจว่าจะโดนแกล้งอีกหรือไม่

“อย่าทำท่ากลัวแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็อยากจะแกล้งขึ้นมาอีกหรอก” เพลงขวัญว่า

“ขอโทษครับ” พระพายพูดได้เพียงเท่านั้น

“ลองชิมแล้ววิจารณ์ด้วยว่าเป็นยังไง” เพลงขวัญคะยั้นคะยอให้พระพายชิมให้ได้ พระพายจึงตักมันขึ้นมานิดหน่อยจากนั้นก็เริ่มชิมขนมตรงหน้า

“หวานกำลังดีครับ หอมเนยด้วย” พระพายบอก พิธานมองขนมตรงหน้า พระพายคิดว่าพิธานคงอยากชิมบ้างจึงตักขึ้นมาพร้อมยื่นช้อนให้เพื่อจะได้ชิม

“จะลองไหม?” พระพายถาม พิธานมองนิ่งๆก่อนที่จะอ้าปาก เป็นสัญญาณว่าพระพายต้องป้อน แน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกที่ต้องทำอะไรแบบนี้และยิ่งต่อหน้าพี่สาวสุดขี้แกล้งของพิธานแล้วยิ่งไปกันใหญ่

“เร็วๆสิ” พิธานเร่ง พระพายจึงจำต้องป้อนขนมพิธานอย่างช่วยไม่ได้

“บาดตาบาดใจคนไร้แฟนอย่างฉันเหลือเกิน” เพลงขวัญว่าพลางยิ้มแยะๆ แน่นอนว่าพระพายแทบจะมุดไปอยู่ใต้โต๊ะเลยทีเดียว

“ก็รีบหาซะสิ” พิธานว่าทั้งๆที่กำลังเคี้ยวขนมอยู่ในปาก

“ทำไมต้องรีบ นั่งสวยๆอย่างนี้ไปดีกว่า”

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าบ่น” พิธานพูด

“ว่าแต่ปกติไม่ชอบของหวานนี่ ทำไมยอมกินล่ะ?” เพลงขวัญถาม พระพายหันไปมองพิธานอย่างจะถามว่าจริงอย่างที่เพลงขวัญบอกหรือไม่

“พูดมากน่า” พิธานพูดปัดทันที

“อ๋อ อยากให้พระพายป้อนนี่เอง ร้ายจริงนะ” เพลงขวัญเหล่มองพิธาน แน่นอนว่าการเฉยเมยนั้นคือสิ่งที่แสดงให้เพลงขวัญเห็น แต่ดูเหมือนเพลงขวัญจะรู้ทันน้องชายดี

“หน้านิ่งไปเถอะ ข้างในไม่น่าจะนิ่งนะ” เพลงขวัญว่า

“จะกลับแล้ว” พิธานบอกเช่นนั้นพลางลุกขึ้นและดึงให้พระพายลุกตาม

“เดี๋ยวๆ ยังไม่ได้จ่ายเงิน” พระพายร้องขึ้น

“จ่ายทำไม มานี่เพื่อกินฟรี” พิธานพูดก่อนที่จะจับมือพระพายให้ออกเดิน

“พอถูกจับได้ก็รีบชิ่งเชียวนะ” เพลงขวัญว่าก่อนที่จะลุกตามไปด้วย


        ทั้งสามคนเดินออกมาจากร้านอาหาร โดยที่พิธานกำลังจูงมือพระพายออกมาและมีเพลงขวัญตามมาอีกที พิธานกดรีโมทปลดล็อครถ พระพายใช้จังหวะนี้ดึงมือออกและรีบยกมือไหว้เพลงขวัญทันที

“ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ”

“รอบหน้ามาอีกนะ” เพลงขวัญว่า

“ครับ” พระพายตกลง

“น้องชาย...อย่าหลุดเขินล่ะ” เพลงขวัญทิ้งท้ายให้พิธานที่ตอนนี้หน้าตึงจนถึงขั้นไม่พอใจเลยทีเดียว

“เงียบไปเลย” พิธานว่า จากนั้นก็ขึ้นรถโดยไม่กล่าวอำลาพี่สาวของตัวเองแต่อย่างใดและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เพลงขวัญยืนหัวเราะในอาการหงุดหงิดกลบเกลื่อนของน้องชายตัวเอง


        พระพายนั่งมองคนขับอย่างพิธานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย หรือเพราะเพลงขวัญที่เป็นพี่สาวจะรู้ดีถึงนิสัยของพิธานว่าที่หน้านิ่งและวางมาดนั้นเป็นเพียงสิ่งบังหน้าแต่พระพายไม่เก่งกาจขนาดจะรู้ได้เท่าคนในครอบครัวแน่นอนว่าตอนนี้พิธานคิดอะไรอยู่ จะรู้ได้แค่บางครั้งจากแววตาเวลาที่พิธานแสดงออกมาและไม่บ่อยมากนัก

        และตอนนี้ช่างเป็นอาการที่เดายากจริงๆ มันดูหลากหลายเกินไป แววตาที่ดูจะประกายแปลกๆหน้าที่ตึงขึงเหมือนจะโกรธแต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่พระพายมองไม่ออกและบอกไม่ถูกว่าพิธานกำลังคิดอะไร

“จะไปไหน?” พระพายถามพลางมองนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองแล้ว

“ไปอยู่ห้องนายก็แล้วกัน” พิธานว่า

“ห้องผมไม่น่าอยู่สักหน่อย”

“ใครบอก?” พิธานถาม

“ก็เจ้าของห้องนี่ไง” พระพายยืนยัน

“สำหรับฉันมันน่าอยู่”

“ตรงไหน ขอเหตุผล?”


             พระพายถามอย่างต้องการรู้จริงๆว่าห้องเล็กๆของเขาน่าอยู่มากกว่าตรงไหนเมื่อเทียบกับห้องที่ใหญ่กินพื้นที่ครึ่งชั้นของพิธาน พิธานเงียบไปก่อนที่จะตอบโดยที่ไม่ละสายตามามองพระพายเลย

“เพราะห้องของนาย...มีแต่กลิ่นของนาย” คำตอบที่ทำเอาพระพายเงียบกริบ กว่าจะประมวลผลได้และเริ่มรู้สึกว่ามันน่าเขินอายที่โดนพูดแบบนี้

“พูดอะไรน่ะ”


             พระพายว่าพลางหันหน้าไปมองข้างทาง จะไม่ให้พิธานเห็นว่าตอนนี้พระพายรู้สึกอายจนอยากจะลงจากรถตอนนี้ ทั้งที่ไม่เข้าใจว่าพิธานสื่อถึงอะไรแต่เพราะเหตุใดถึงรู้สึกไปได้ว่ามันเป็นคำพูดที่ทำเอาใจเต้นไม่เป็นส่ำอย่างบอกไม่ถูก
พิธานไม่ได้พูดอะไรอีกและตั้งใจขับรถไปห้องของพระพายซึ่งตอนนี้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลงทำท่าจะเข้าสู่เวลายามเย็นแล้ว พระพายเดินลงจากรถก่อนและเดินนำไปยังห้องของตนเองซึ่งพิธานก็เดินตามไปไม่ห่างนัก

            เมื่อมาถึงห้องพระพายก็เดินเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ได้หันไปมองพิธานว่าจะทำอะไร ราวกับพระพายอยากหลบหน้าพิธานแม้จะเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม เพราะประโยคเมื่อครู่นี้นั้นยังคงวนเวียนในหัว จะคิดได้ไหมว่าพิธานนั้นเริ่มมีใจให้กันแล้วหรือรู้สึกมากกว่าที่ผ่านๆมา

        พระพายใช้เวลาอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะออกมาและพบว่าพิธานกำลังนั่งบนโซฟาดูทีวีอยู่อย่างท่าทีสบายๆ พระพายนั่งลงข้างๆและทิ้งระยะห่างพอสมควร พิธานหันไปมองพระพายที่นั่งดูทีวีโดยไม่ยอมหันไปทางไหนเลย

“มาใกล้ๆหน่อย” พิธานว่า แต่พระพายยังคงนิ่งเฉย

“มาใกล้ๆ” พิธานย้ำคำเดิม แน่นอนว่าน้ำเสียงที่เริ่มเข้มขึ้นทำให้พระพายขยับตัวเข้าไปทันที

“ทำไมต้องให้พูดย้ำ?” พิธานถามก่อนที่จะเอนตัวลงและวางศีรษะลงบนตักของพระพาย พระพายสะดุ้งเมื่อพิธานนอนหนุนตักอยู่เช่นนี้

“ก็....” พระพายไม่รู้จะหาคำไหนมาแย้งดี

“ต่อไปถ้าพูดย้ำจะโดนลงโทษหนักขึ้นนะ” พิธานว่า

“มะ...ไม่เอา” พระพายร้องขึ้นทันที

“ไม่เอาแน่เหรอ...อาจจะชอบกว่าที่ผ่านมาก็ได้”

“หยุดพูดไปเลย” พระพายเบือนหน้าหนี ไม่คิดจะก้มมองคนที่นอนหนุนตักตอนนี้ว่ากำลังแสดงสีหน้าอย่างไรอยู่

“ขาก็นุ่มดีเหมือนกันนะ” พิธานว่าพลางขยี้และกดน้ำหนักลงบนต้นขาของพระพาย

“นี่ เจ็บนะ” พระพานก้มหน้าลงไปว่าพิธานที่ตอนนี้กำลังจ้องมองรออยู่อย่างรู้จังหวะว่าพระพายต้องมองลงมา

“ทำไมวันนี้หลบตาเรื่อยเลย” พิธานถามด้วยสีหน้านิ่งๆ สะกดให้พระพายไม่อาจจะละสายตาไปทางใดได้

“แค่รู้สึกแปลกๆ” พระพายยอมบอกความรู้สึกที่เป็นแค่ส่วนน้อยนิดในเรื่องที่ปิดบังอยู่

“ทำไม จู่ๆก็อายเหรอ?”

“มะ..ไม่ใช่ บอกไม่ถูก” พระพายพูดเช่นนั้น

“นั่นสินะ” พิธานพูดเท่านั้นก่อนที่จะดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วดึงพระพายเข้ามาใกล้ๆ

“จะทำอะไร?” พระพายถาม พิธานไม่พูดอะไรแต่กลับโน้มใบหน้าไปใกล้ๆ ใช้สายตาสบมองเข้าไปในดวงตาของพระพาย

“พอจะบอกได้ไหม ว่าใครกันที่นายแอบชอบ” พิธานถามขึ้น พระพายพาลนึกไปถึงคืนนั้น คืนที่พิธานถามว่ามีใครอยู่ในใจหรือเปล่า

“บอกไม่ได้” พระพายพูดเช่นนั้นพลางเบนสายตาไปมองทางอื่น

“อย่าหลบตา บอกมา”

“บอกไม่ได้จริงๆ” พระพายว่า

“ถึงนายจะชอบใคร ฉันก็จะไม่สน เพราะนายต้องอยู่ตรงนี้ ตรงข้างๆฉัน” พิธานว่าก่อนที่จะก้มลงจูบพระพาย


        สัมผัสที่เต็มไปด้วยการครอบครอง สัมผัสนั้นราวกับจะบอกถึงความคิดในใจว่าแม้พระพายจะชอบใคร พิธานก็จะไม่สนใจใยดีและต้องการแสดงความเป็นเจ้าของในตอนนี้ นาทีนี้และเดี๋ยวนี้ พระพายหลับตาลง รู้สึกถึงความวาบหวิวระคนหน่วงในอก พิธานไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าคนที่ได้ครอบครองหัวใจของพระพายคือเจ้าตัวเอง คือคนที่ตั้งคำถามนี้นี่เอง

        รสจูบที่ปลุกปั่นทุกอย่างให้ลุกโชน ทั้งความรู้สึกในจิตใจและความต้องการภายในร่างกาย พิธานป้อนจูบอย่างไม่ลดละ จนพระพายเริ่มอ่อนแรงและโอนอ่อนตามพิธานในที่สุด แต่แล้วพิธานก็หยุดทุกอย่างลงจนพระพายสะดุ้งตัวอย่างคนสติหายแล้วเพิ่งได้สติกลับคืน

“จะไม่มีใครทำให้นายละลายได้เท่าฉันอีกแล้ว ไม่มีใครทำได้” พิธานว่าก่อนที่จะนอนลงหนุนตักพระพายต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน


        พระพายใช้หลังมือถูริมฝีปากโดยที่หน้ายังคงแดงก่ำอยู่ อย่างที่พิธานพูดไว้ จูบของพิธานปล้นเอาความรู้สึกและความต่อต้านจากภายในใจออกไปหมด จนไม่อาจจะมีแรงต้านทานใดๆได้และต้องยอมจำนนในที่สุด

        พิธานนอนอยู่อย่างนั้นเงียบๆโดยที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกหลังจากที่พูดเรื่องนั้นไป จนในที่สุดโทรศัพท์มือถือของพิธานดังขึ้น

“ว่าไง” พิธานรับสายแล้วพูด จากนั้นก็ฟังเงียบๆก่อนที่จะลุกขึ้นนั่ง

“ได้ๆ เดี๋ยวเจอกัน” พูดเพียงเท่านั้นก่อนที่จะวางสายไป

“ฉันมีธุระด่วน” พิธานพูดเท่านั้นก่อนที่จะลุกขึ้นยืน ทำให้พระพายลุกขึ้นตามไปด้วย

“ไปเลยใช่ไหม?” พระพายว่า ในใจรู้สึกเสียดายไม่น้อย ทั้งๆที่อยากให้อยู่ต่ออีกสักนิดแท้ๆ

“ใช่ ต้องไปตอนนี้เลย เดี๋ยวจะโทรหา”


        พิธานพูดเท่านั้นก่อนที่จะดึงพระพายเข้ามาใกล้ๆและจูบอีกครั้ง จูบครั้งนี้แตกต่างจากจูบก่อนหน้านี้มากนัก เป็นจูบที่อ้อยอิ่งราวกับจะลากเวลาให้อยู่ด้วยกันนานกว่านี้ พระพายบีบแขนของพิธานแน่น รู้สึกได้ถึงการจูบที่เชื่องช้านี้ กว่าจะผละออกก็ทำเอาพระพายแทบหยุดหายใจเพราะความรู้สึกที่เริ่มชัดเจนในอกว่าหลงรักพิธานจนไม่มีโอกาสถอยกลับไปได้แล้ว ซึมซับความรู้สึกนี้ไว้ให้เยอะที่สุด ให้คุ้มค่ากับความรู้สึกของตนเองมากที่สุด เพราะวันหนึ่งมันอาจจะหลุดหายไปจนไม่อาจจะดึงย้อนกลับมาได้อีกแล้ว

“ไปนะ” พิธานบอกเท่านั้นก่อนที่จะเดินออกไป

“เอ่อ...ถ้าถึงแล้ว..บอกหน่อยได้ไหม?” พระพายรวบรวมความกล้าพูดออกไป ทั้งที่แอบคิดว่าพิธานอาจจะไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้

“ได้สิ เดี๋ยวถึงแล้วจะบอก” พิธานว่าจากนั้นก็เดินออกไปจากห้อง


        พระพายมองประตูที่ปิดลง ลมหายใจสูดเข้าออกยาวๆเพื่อจะเรียกสติและความรู้สึกที่กระเจิดกระเจิงให้กลับเข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็กดโทรศัพท์ส่งข้อความหาเก้า ถามว่าเก้าว่างหรือไม่และอยากให้เก้ามาหาที่ห้อง แน่นอนว่าเก้าว่างมาหาจากนั้นพระพายก็นั่งลงดูทีวีอย่างเลื่อนลอยเพื่อรอเก้ามา ต้องหาทางระบายพูดให้เก้าฟังกับความรู้สึกที่เริ่มมากขึ้นทุกที อยากหาคนมารับฟังความรู้สึกที่มากจนเริ่มจะควบคุมไม่ได้แล้ว...

Lyrics: Teenage Dream by Katy Perry

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ที่แท้ก็พี่สาว ถึงหน้าตาจะไม่เหมือนกัน แต่นิสัยนี่ไม่ทิ้งกันไปไหน ขี้แกล้งทั้งพี่ทั้งน้องเลย :o8:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ใจหายหม้ดดดด :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
รอเวลาคนปากหนักเปิดเผยความรู้สึก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เหมือนพี่สาวจะเดาออกว่าพิธานรู้สึกแบบไหนกับพระพาย :z1:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ต่างคนต่างก็ชอบแล้วทำไมถึงไม่เปิดใจคุยกัน

จะได้เอาเวลาไปสวีทหวานกันสักมี

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ครั้งนี้อภัยให้นะพิธาน หวังว่าคงจะไม่มีครั้งหน้านะ  :hao3:

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อร้ายยย เค้าชอบเรื่องนี้

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
รักกันก็พูดออกมาเลย จะได้ไม่ต้องต่างคนต่างคิดมาก

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ปากแข็งจัง

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
ทำไมพิธานไม่บอกพายไปเลยล่ะว่าชอบ =3=

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
รอวันที่เค้าจะพูดความรุ้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายรู้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
รอ  :mew1: รอ นะคะ o13

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
พิธานงานอะไรยุ่งเบอร์นั้น

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
อยากเห็นดราม่าจ้าาาาาา

ออฟไลน์ 。Atlas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เขินนนพิธานน แหม่ พ่อหนุ่มซึนเดเระ
อยากรู้จังว่าทำไมถึงต้องเป็นพระพาย พิธานคงปิ๊งมาก่อนหน้านั้นแล้วหรือเปล่าหว่า

ปล.ตรงที่พี่สาวทักว่า เจอที่ผับอีกหรือเปล่า นี่แสดงว่าพิธานก็ทำบ่อยใช่มั้ย ยังไง   :ruready

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ต่างคนต่างปากแข็ง  :z3:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ ขออภัยที่มาช้ากว่าเวลาปกตินะคะ ทุกครั้งจะอัพตอนเช้าประมาณสิบโมง แต่วันนี้มาอัพค่ำเลย เพราะยุ่งจริงๆค่ะ งานเข้าทั้งวันเลย ขอโทษจริงๆนะคะ และก็มีเรื่องแจ้งค่ะ อาทิตย์หน้างดนะคะ เพราะต้องปั่นเพิ่มบวกกับช่วงนี้งานยุ่งค่ะ เลยปั่นได้ช้ามาก ขออภัยอีกครั้งนะคะ ขอให้คนอ่านทุกท่านอ่านให้สนุกนะคะ  ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยไว้ตรงนี้เลยค่ะ อ่อ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์นะคะ มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ รักนะคะ ไว้เจอกันค่ะ  :bye2:



Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 22 Crazy with love.


Do you ever think when your all alone
เคยคิดบ้างไหมเวลาเธออยู่คนเดียว
All that we can be, where this thing can go?
ว่าเราสองคนจะเป็นอะไรกันได้บ้างและเรื่องมันจะจบลงตรงไหน
Am I crazy or falling in love
ฉันเป็นบ้าไปหรือแค่ตกหลุมรักเธอนะ
Is it really just another crush
นี่ฉันหลงเธอเข้าแล้วจริงๆ



        เก้าที่นั่งแท็กซี่มาเพื่อความรวดเร็วตรงมายังห้องของพระพาย รู้ดีว่าหากพระพายคงต้องมีเรื่องอัดอั้นในใจอย่างแน่นอน เพราะวันนี้ทั้งวันและอาจจะเมื่อคืนเสียด้วยซ้ำที่พระพายอยู่กับพิธานตลอด ตอนนี้พิธานคงกลับไปแล้วและคงมีเรื่องอะไรคืบหน้าแน่นอน ไม่รอช้าเก้าเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้เรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปถึงไหนแล้ว

        พระพายนั่งอยู่ในห้องโดยที่มีเก้าเดินมาถึงหน้าห้องและเคาะประตูทันที พระพายลุกขึ้นไปเปิดให้เพราะรู้อยู่แน่นอนว่าเป็นเก้าที่มาหา

“ไงเพื่อนรัก” เก้าทักทายก่อนที่จะถอดรองเท้าและเดินเข้ามา

“มึงกินอะไรมารึยัง?” พระพายถาม

“เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่มึงเถอะ มีเรื่องอะไรใช่ไหม?” เก้าถามอย่างคนรู้ดี

“มึงก็รู้ดีตลอด”

“พิธานมันทำไมอีกคราวนี้”

“มึง กูไม่ไหวแล้ว กูจะบ้า กู...กูเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้ว” พระพายเริ่มต้นประโยคที่ดูจะสติแตกพอสมควร

“เดี๋ยวๆ จู่ๆก็คลั่งขึ้นมา อะไรของมึงเนี่ยะ” เก้าพูดพลางหัวเราะ

“เริ่มเยอะไปแล้ว กูเริ่มจะวางตัวไม่ถูกแล้ว มันชอบทำให้กูเขินเป็นผู้หญิงเลย กูต้องทำไง กูไม่เป็นตัวของตัวเองเลย”

“มันทำอะไรมึง?”

“มันใช้คำพูดแปลกๆ กูฟังแล้วทำตัวไม่ถูก แถมวันนี้มันพากูไปหาพี่สาวมันด้วย” พระพายว่า

“จริงเหรอ มันมีพี่สาวเหรอ?”

“เออ สวยด้วย หน้าตาไม่เหมือนกันแต่นิสัยดันเหมือนกัน แกล้งกูซะ”

“แกล้งอะไร?” เก้าถาม

“หลอกว่าตัวเองเป็นแฟนน้องชาย กูนี่แทบจะวิ่งหนีออกจากร้าน พอทีหลังมาเฉลย เล่นกับความรู้สึกกูมาก”

“เวรกรรมอะไรของมึงวะพาย โดนทั้งพี่ทั้งน้อง” เก้าส่ายหน้าในความดวงตกของพระพาย

“ใช่ แต่มีประโยคหนึ่งที่กูสะกิดใจ” พระพายพูดพลางนึกขึ้น

“ไหนเล่ามาสิ”

“ก็...กูป้อนขนมมัน แล้วพี่มันพูดว่าอิจฉาบาดตาคนไม่มีแฟน มันก็พูดรีบหาซะสิ” พระพายว่า รู้สึกหน้าร้อนๆขึ้น ไม่อยากคิดไปเองว่าคำพูดนั้นพิธานสื่อว่าเขาเป็นแฟน

“มันพูดแบบนั้นเหรอวะ” เก้าถาม

“ใช่ มึง....กูไม่อยากคิดไปเอง มันพูดแบบนั้นมันแปลว่าอะไรวะ”

“ถ้าฟังแบบไม่คิดเยอะเลย มันก็คงจะบอกพี่มันกลายๆว่ามึงเป็นแฟน” เก้าพูดพลางคิด

“กูก็คิดแบบนั้น แต่กูก็กลัวว่าจะเข้าข้างตัวเองนี่สิ” พระพายว่าอย่างสับสน

“เท่าที่มึงเล่ามา กูว่า ไอ้พิธานก็น่าจะรู้สึกอะไรกับมึงมากกว่าคู่นอนนะ” เก้าพูด

“กูบอกไม่ถูก” พระพายที่ได้ยินอย่างนั้นยิ่งสับสนไปกันใหญ่

“ทำไงดีวะ กูก็อยากรู้ว่ามันคิดอะไรกับมึงกันแน่”

“นี่กูจะเป็นบ้าแล้ว ไม่รู้ทำไมหมู่นี้ทำกูอายตลอดเวลาเลย”

“เพื่อนกู...กลายร่างเป็นสาวเต็มตัว” เก้าว่าพลางหัวเราะ

“มึงก็พูดไปเถอะ ถ้าโดนเองวันไหนแล้วจะรู้สึก”

“คนอย่างกูเหรอ ไม่มีวันเถอะ”

“ใครจะไปรู้ จู่ๆมาวันหนึ่งมึงอาจจะตกสภาพเดียวกับกูก็ได้” พระพายว่า

“ดูปากกูเลย ไม่มีทาง” เก้ายืนยันเสียงหนักแน่น

“กูจะคอยดูวันนั้นก็แล้วกัน”


        พระพายพูดพลางมองเก้าที่ยักไหล่ราวกับว่าเรื่องที่พระพายพูดนั้นจะไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้ พระพายถอนหายใจก่อนที่จะหันไปมองโทรศัพท์มือถือที่ตอนนี้ส่งเสียงร้องขึ้นมา พบว่ามีคนโทรเข้าและไม่ใช่ใครอื่น..เป็นพิธานนั่นเอง

“มึง..มันโทรมาว่ะ” พระพายว่าพลางจ้องเก้า

“ก็รับสิวะ”


        พระพายรีบรับสายทันทีที่เก้าบอก สิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงโหวกเหวกโวยวายของกลุ่มผู้ชายที่เล็ดลอดเข้ามาในสาย ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนๆของพิธานนั่นเอง

“เอ่อ..ว่ายังไง?” นั่นคือคำทักทายแรกของพระพาย

“นายบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าถึงแล้วให้บอก” พิธานว่า

“ที่จริงไม่ต้องโทรมาก็ได้ ส่งข้อความมาก็พอ”

“โทรดีกว่า”

“ถ้าอย่างนั้นจะวางเลยไหม?” พระพายถาม โดยที่ได้แต่เขม่นเก้าที่ทำสีหน้าล้อเลียนเขาอยู่ในขณะนี้

“ทำไมรีบวาง?” พิธานถาม

“ก็..คุณอยู่กับเพื่อนๆไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ วันเกิดเพื่อนน่ะ ดันลืมไปซะได้”

“เพื่อนๆเลยโทรมาตามสินะ” พระพายพูด รู้สึกอายยังไงชอบกลที่มายืนคุยโทรศัพท์กับพิธานที่เพิ่งห่างกันไปไม่กี่ชั่วโมง อีกทั้งคุยต่อหน้าเพื่อนอย่างนี้อีก

“ใช่” จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังเข้ามาในโทรศัพท์

“คุยกับพระพายเหรอวะ?”

“โอ๊ย ไอ้คนติดแฟน”

“ทำไมไม่พามาวะ”

“วันเกิดเพื่อนโว้ย ไม่ใช่มานั่งคุยกับเมีย”


            และอีกสารพัดที่ดังเข้ามา ยิ่งทำให้พระพายรู้สึกอายเข้าไปใหญ่ ยิ่งคำว่า “แฟน” หรือ “เมีย” นั่นยิ่งแล้วไปใหญ่ ยิ่งทำให้พระพายหน้าแดงก่ำเข้าไปเรื่อยๆ

“ไว้คุยกันก็ได้นะ ไปอยู่กับเพื่อนเถอะ” พระพายพูดอย่างเกรงใจ

“ไว้คุยกัน นอนได้แล้ว” พิธานบอก

“อืม เดี๋ยวก็นอนแล้วล่ะ”

“ฝันดีนะ” พิธานพูดซึ่งเสียงเบากว่าปกติมากและได้ยินเสียงเพื่อนๆโห่ร้องกันระนาว

“อืม” พระพายว่าก่อนที่จะวางสาย


        หลังจากวางสาย พระพายได้แต่อมยิ้มจนแก้มจะแตก ทำไมยิ่งนานวันเข้ายิ่งรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นเด็กสาวที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักเหลือเกิน หรือเพราะคำพูดและท่าทีของพิธานหรือเพราะความรู้สึกที่มากขึ้นทุกวันๆของตนเองกันแน่

“มึงจิกชายเสื้อจะขาดแล้วพาย” เก้าพูดขึ้น ทำให้พระพายชะงักทันที ลืมไปเสียสนิทว่าเก้าอยู่ด้วย

“โทษทีๆ” พระพายว่าก่อนที่จะวางโทรศัพท์มือถือลงข้างๆก่อนจะนั่งลง

“มึงไม่ลองถามมันไปตรงๆเลยล่ะพาย นี่ก็เข้าเดือนที่สองแล้ว อีกไม่นานเรื่องมันจะจบแล้วนะ”

“นั่นสิ นี่ใกล้จะครบกำหนดแล้วด้วย” พระพายเพิ่งนึกขึ้นได้

“กูไม่กล้าถามหรอก กูกลัวคำตอบ” พระพายพูดพลางหน้านิ่งไป ความรู้สึกสีชมพูอมม่วงเมื่อครู่นี้ค่อยๆละลายหายไป

“เวลาเจอกัน มันไม่ถามมึงบ้างเลยเหรอ เรื่องพวกความรู้สึกหรืออะไรน่ะ?” เก้าถาม

“มีนะมึง ชอบถามว่ากูชอบใคร เคยถามด้วยว่ากูเคยคิดจะรักมันไหม” พระพายตอบพลางนึกถึงเรื่องที่พิธานเคยถามมากกว่าหนึ่งครั้ง

“กูว่ามันคิดนะ แต่คิดอะไรนั่นอีกเรื่อง”

“ไม่รู้สิมึง กูก็ดูไม่ออกแต่รู้สึกถึงเวลามันมอง สายตาเปลี่ยนไป คำพูด หรือเวลาจับตัวกู มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนตอนแรกๆ” พระพายว่า

“เอาอย่างนี้นะมึงเจอกันรอบหน้า ถามตรงๆไปเลย” เก้าแนะนำ

“จะให้กูถามว่ายังไง?” พระพายถามกลับด้วยสีหน้าที่ดูจะหนักใจ

“ถามว่าคิดกันยังไง รู้สึกยังไง”

“จะบ้ารึไง ยากจะตายชัก ใครจะกล้าถาม” พระพายส่ายหน้าทันที

“ถ้ามึงไม่ถามตอนนี้จะถามชาติหน้ารึไง” เก้าว่า

“มันง่ายเสียที่ไหน นั่นพิธานนะ ไม่ใช่คนปกติที่จะถามตรงๆแบบนั้นได้” พระพายว่าอย่างไม่เห็นด้วย

“มึงต้องถามแล้วพาย ถ้ารอถามตอนครบเวลาตามที่ตกลง มันอาจจะเป็นอีกเรื่องก็ได้นะ”

“โอ๊ยมึง กูทำไม่ได้” พระพายขยี้ผมอย่างหาทางออกไม่ได้

“มึงทำได้ ถ้ามึงคิดจะทำเสียอย่าง ไม่รู้แหละ รอบหน้ากูเจอมึงต้องมีคำตอบของไอ้พิธานให้กูแล้ว” เก้ามัดมือชกโดยไม่เปิดโอกาสให้พระพายปฏิเสธได้

“มึง กูคงทำไม่ได้” พระพายว่าพลางมองหน้าเก้าด้วยสายตาอ้อนวอนว่าไม่อยากทำในสิ่งที่เก้าบอก

“แล้วมึงจะขอบคุณกู ที่กูให้มึงถามมันแบบนั้น” เก้าบอกเท่านั้นก่อนจะตบไหล่พระพาย

“คืนนี้กูนอนนี่ก็แล้วกัน ขี้เกียจกลับห้องแล้ว”

“เอาเสื้อผ้ามาไหม?” พระพายถาม

“เอามาๆ” เก้าว่าก่อนจะชี้ไปยังกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ไม่ไกล

“ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำก่อนเถอะ” พระพายบอก

“ไม่เอา มึงไปอาบก่อน” เก้าว่า

“เออๆ ก็ได้” กลับกลายเป็นพระพายที่ต้องไปอาบน้ำก่อนทั้งๆที่เป็นคนสั่งให้เก้าไปก่อนแท้ๆ


        พระพายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมปิดประตูลง เก้าที่ครุ่นคิดขึ้นได้ว่าเรื่องนี้เขาอาจจะช่วยได้ เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือส่งข้อความหาไคทันที ทักทายไปคำแรกว่าทำอะไรอยู่ และเพียงไม่ถึงสิบวินาทีไคก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่ากำลังอยู่ในปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อน เก้าจึงถามว่าสะดวกคุยไหม เพียงเท่านั้นไคก็โทรเข้ามาทันที

“คิดถึงเหรอ?” คำแรกที่ไคส่งผ่านสายมา เสียงที่ดังรอบๆข้างไคบ่งบอกว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังอยู่ในงานเลี้ยงหรืออะไรสักอย่าง

“คิดถึงพ่อมึงมากกว่า” เก้ากรอกตาอย่างหน่ายใจก่อนพูด

“อ้าว คิดถึงพ่อแฟนก่อนแฟนได้ไง?”

“เลิกเล่นได้แล้วไอ้ไค” เพียงแค่ไม่กี่คำของไคที่ได้ยิน เก้าก็เริ่มหัวเสียแล้ว

“มีอะไรรึเปล่า” ไคเริ่มถามอย่างไม่เป็นเล่น

“กูมีเรื่องจะถามมึง เรื่องไอ้พิธานเพื่อนมึง” ไคที่ได้ยินอย่างนั้นจึงรีบหลบออกจากกลุ่มเพื่อนๆทันทีและเดินออกไปข้างนอกแทน

“พิธาน...มีอะไรเหรอ?” ไคถาม

“มันมีแฟนอยู่รึเปล่า?”

“เอ๊ะ...ไม่นะ” ไคตอบ

“ไม่ได้โกหกหรือปิดบังใช่ไหม?” เก้ายังคงไล่ถาม

“ไม่โกหกหรอก พิธานไม่มีใครทั้งนั้น” ไคเองก็ยืนยันในความจริงนั้น

“แล้ว...มันไปนอนกับคนอื่นนอกเหนือจากเพื่อนกูรึเปล่า?” เก้าค่อยๆถามลึกขึ้นเรื่อยๆ

“ทำไมถึงอยากรู้?” ไคถามกลับบ้าง

“มึงเป็นเพื่อนมัน กูเชื่อว่ามึงรู้ทุกเรื่อง”

“แล้วถ้าตอบคำถามจะได้อะไรตอบแทนล่ะ?” เก้าเงียบหลังจากประโยคนั้นของไค

“มึงจะเอาอะไร?” ในใจนั้นคิดว่าไคคงไม่ขออะไรไปมากกว่าการทำคะแนนในการจีบ

“ไปเดทกัน” ไคบอก

“เดทที่แปลว่าไปกินข้าวดูหนังน่ะเหรอ” เก้าถาม

“ใช่ แต่ตกลงกันก่อนถึงจะตอบคำถาม” ไคไม่ยอมเสียโอกาสนี้เด็ดขาด

“ถ้าอย่างนั้นทุกคำถามของกูต้องได้คำตอบครบแล้วเป็นความจริง กูถึงจะตกลง” เก้าเองก็ใช้โอกาสนี้ให้เต็มที่ไม่ต่างกัน

“สัญญาว่าจะตอบแต่ความจริงและทุกคำถาม” ไคพูด

“ได้ ตอนนี้พิธานมันมีใครนอกเหนือจากเพื่อนกูรึเปล่า?”

“เท่าที่เห็นก็ไม่มี ตอนนี้พิธานมีแต่พระพายคนเดียว” ไคตอบ

“แล้วมึงคิดว่าพิธานมันคิดอะไรกับพายนอกเหนือจากที่ตกลงกันรึเปล่า?”

“ทำไมถามแบบนั้นล่ะ?” ไคถามกลับ

“มึงมีหน้าที่ตอบนะไค” เก้าแหวขึ้น

“แต่มันยากนะ ใช่ว่าจะรู้ความรู้สึกของเพื่อนทุกอย่างนี่”

“แต่ทำไมกูรู้ว่าเพื่อนกูรู้สึกอะไรยังไงกับใครล่ะ?”

“นั่นเพราะพระพายเปิดใจกับนายไง แต่ของฉันพิธานไม่ใช่คนแบบนั้น ทุกอย่างต้องคอยมองแบบตั้งใจหรือเวลาเจ้าตัวเผลอถึงจะรับรู้ได้” ไคบอก

“กูต้องการคำตอบ” เก้ายืนยันพลางมองไปยังประตูห้องน้ำเพราะกลัวพระพายจะเปิดออกมาแล้วได้ยิน

“พระพาย...หลงรักพิธานใช่ไหม?” ไคพูดขึ้นมา เก้าเงียบไปก่อนจะพูดต่อ

“จะเหลือเหรอ เพื่อนกูตกหลุมไปเต็มเปาเลย” เก้าเลือกที่จะพูดกับไคตรงๆ

“เอาจริงๆ เท่าที่เห็นพิธานก็น่าจะรู้สึกอะไรอยู่บ้างนะ เพราะเมื่อกี้ตอนคุยกับพระพาย พิธานดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก” ไคพูดพลางนึกถึงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ที่พิธานโทรหาพระพาย

“กูไม่อยากให้เพื่อนกูเสียใจ แค่เรื่องที่มันต้องเจอก็หนักเกินพอแล้ว”

“จะต้องทำยังไงล่ะ เรื่องความรักเราบังคับใครไม่ได้หรอกนะ”

“กูรู้ไค นี่ก็กำลังคิดไง” เก้าว่า

“อยากเป็นพ่อสื่อให้เพื่อนเหรอ?” ไคถามพลางกลั้วหัวเราะ

“กูไม่ได้อยากเป็นพ่อสื่อ แต่กูอยากให้เพื่อนสมหวังและมึงต้องช่วยกู” เก้าว่า

“จะให้ช่วยยังไง พิธานไม่ใช่คนทั่วไปที่จะตามเกมไม่ทันหรอกนะ” ไคพูดเชิงเตือน

“จะให้ทำยังไงล่ะ ในเมื่อเพื่อนกูชอบเพื่อนมึงไปแล้วและเพื่อนมึงเองก็เหมือนจะรู้สึกอะไรกับเพื่อนกูเหมือนกัน”

“พูดแบบนี้คือต้องช่วยสินะ” ไคว่าอย่างเข้าใจในคำพูดของเก้าที่เริ่มพูดมาตั้งแต่ต้น

“ใช่ มึงต้องช่วยกู” เก้าบอก

“ถ้าอย่างนั้นต้องมากกว่าการไปเดทแล้วละนะ”

“อะไรของมึง นี่ก็เป็นหนึ่งในคำถามที่มึงต้องตอบ กูถามว่าช่วยกูไหมและมึงก็ตอบว่าช่วย” เก้าเริ่มหัวหมอ

“ไม่ต้องมาเล่นตุกติกเลย นี่มันมากกว่าคำถามแต่กลายเป็นการร่วมมือแล้วนะ” ไคดักทาง เก้าเดาะลิ้นที่ไคดันรู้ทันเสียได้

“เออๆ มึงจะเอาอะไรว่ามา แต่ถ้าเกินกำลังกูไม่เอานะ” เก้าว่า

“ไปเที่ยวแบบค้างคืนเป็นไง?” ไคเสนอมา

“ไปค้างคืนกับมึงน่ะเหรอ มึงคิดจะทำอะไรกูสินะ” เก้ากัดฟันพูดอย่างคนของขึ้น

“ไม่ทำหรอก ถ้าไม่สมยอม สรุปจะตกลงไหมล่ะ แค่คืนเดียวเอง อีกอย่างจะได้ชวนพิธานกับพระพายไปด้วยไง จะได้เริ่มแผนไปเลย” ไคเสนอข้อคิดเห็นที่น่าสนใจทีเดียว แต่เก้าก็หวั่นใจว่าไคคิดจะทำอะไรนอกเหนือกว่านี้หรือไม่

“ถ้ามึงเล่นอะไรแผลงๆกับกูล่ะมึงได้เจอตีนกูแน่” เก้ารีบขู่แต่เนิ่นๆ

“บอกแล้วว่าไม่ทำหรอก แต่ถ้านายให้ทำก็อีกเรื่อง” ไคว่า

“ไม่มาทางซะหรอก เออๆ กูตกลงก็ได้” ในที่สุดเก้าก็ต้องตกลง

“ดี เดี๋ยวจะนัดอีกที เพราะอาทิตย์ที่จะถึงนี่ก็วันหยุดนี่ใช่ไหม”

“ใช่ ได้หยุดยาวสองวัน” เก้าพูดพร้อมนึกถึงตารางวันหยุดที่จำได้แม่นตามประสามนุษย์ออฟฟิศ

“เดี๋ยวจะโทรไปล่ะกัน เตรียมตัวไว้ด้วย”

“เออ” เก้าทำท่าจะวางแต่ไคก็รีบส่งเสียงร้องขึ้น

“เดี๋ยวๆอย่าเพิ่งวาง”

“อะไรของมึงอีก นี่พระพายมันอาบน้ำเสร็จแล้วนะ” เก้าพูดเสียงเบาเพราะตอนนี้เสียงฝักบัวหยุดไปแล้ว

“บอกฝันดีก่อนเร็ว” ไคว่า

“ฝันดีบ้านน้ามึงสิ มึงไปกินเหล้าไม่ได้เข้านอนนี่” เก้าว่า ตอนนี้พระพายเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว พลางหรี่ตามองเก้าที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่

“ถ้าอย่างนั้นไม่ยอมวางนะ” ไคว่า เก้าเริ่มหงุดหงิดและพระพายก็เริ่มจ้องมองอย่างอยากรู้ว่าเพื่อนคุยกับใคร

“ฝันดี” เก้าว่า

“ขอเพราะๆ” ไคยังคงไม่ยอม เก้าเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเพราะพระพายเดินมานั่งข้างแล้ว จึงยอมทำตามเพื่อให้เสร็จๆไป

“ฝันดีครับ” เก้าพูดเสียงเบา พระพายที่ยังคงนุ่งผ้าเช็ดตัวและนั่งอยู่ข้างๆถึงกับแอบยิ้ม

“ดีใจจัง ยอมวางแล้วก็ได้” ไคพูด เก้ารีบตัดสายทิ้งทันที เพราะรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องมาพูดจาหวานๆเช่นนี้

“เอ๊ะๆ ฝันดีครับ นี่บอกใคร?” พระพายถามทันทีที่วางสาย

“เพื่อน” เก้าว่าพลางทำทีเปิดทีวีดู

“ใช่เหรอ กูไม่เคยได้ยินมึงพูดกับเพื่อนคนไหนแบบนี่นะ” พระพายยังคงถามด้วยใบหน้าทะเล้น

“โอ๊ย มึงนี่เซ้าซี้จัง” เก้ารีบกลบเกลื่อน

“ทีของกูยังบอกมึงได้เลย แต่ทำไมมึงไม่ยอมบอกกูล่ะ” พระพายว่า

“ก็...ก็มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” เก้าพูด

“แต่ท่าทางมึงไม่ใช่เลยนะเก้า ไอ้ท่าทางลุกลี้ลุกลนของมึงนี่มันแปลกๆ” พระพายยังคงจับสังเกต

“กูดูแปลกๆเหรอ?” เก้าถามอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าตนแสดงท่าทางเช่นนั้นออกไป

“ใช่ มึงไม่รู้ตัวหรอก แต่กูรู้สึกมาพักหนึ่งแล้ว มึงดูเปลี่ยนไป เหมือนเห็นมึงในมุมที่กูไม่เคยเห็นมาก่อน” พระพายอธิบายสิ่งที่รู้เห็นในตัวเก้า

“กูก็เป็นแบบนี้มาตลอดแหละ” เก้าไม่เชื่อในคำพูดของพระพาย

“จริงๆนะ ถึงเมื่อก่อนมึงจะกุ๊กกิ๊กกับหญิงไปเรื่อย แต่มึงไม่เคยทำท่าแบบนี้มาก่อน กูรู้สึกว่ามึงเปลี่ยนไป...คนนี้จริงจังเหรอ?” พระพายถาม

“มะ...ไม่หรอก เขา...เขาบุกหากูก่อน” เก้าอ้อมแอ้มตอบ

“เขารุกมึงเหรอ ว้าว ดูร้อนแรงจัง” พระพายพูดพลางยิ้ม

“แต่ไม่หรอกกูไม่ชอบ” เก้าตอบพลางเบือนหน้าไปมองทางอื่น

“ก็ไม่แน่ โดนรุกหนักๆเข้าอาจจะใจอ่อนก็ได้นะ”

“กูคิดว่าไม่” เก้ายืนยันเสียงแข็ง

“เอาเป็นว่า ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็บอกกูนะ” พระพายสำทับอย่างไม่เซ้าซี้เพื่อนไปมากกว่านี้

“ถ้ามีเมื่อไหร่กูบอกเองแหละ” เก้าบอกพลางมองหน้าพระพาย

“เอาเถอะ พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกกูล่ะกัน อยากรู้สาวไหนมาตกหลุมรักเพื่อนกูนะ” คำพูดของพระพายทำให้เก้าชะงัก...จะบอกได้อย่างไรว่าใครคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิง

“มึงก็ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นทำงานแต่เช้าอีก” พระพายว่า

“เออ รู้แล้ว..นี่มึง วันหยุดสองวันติดที่จะถึงไปเที่ยวกันไหม?” เก้าเริ่มชวน

“เอาสิ ไปไหนดี” พระพายตอบตกลง

“เดี๋ยวกูบอกอีกที แต่กูจองตัวมึงแล้วนะ ห้ามเบี้ยวกูอีกล่ะ” เก้าชี้หน้าเป็นการเตือน

“แน่นอนๆคราวนี้ไม่เบี้ยว” พระพายชูสามนิ้วเป็นการรักษาสัญญา

“ดี กูไปอาบน้ำก่อนล่ะกัน”


         เก้าใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก จากนั้นทั้งสองก็มานอนบนเตียงคุยกันต่ออีกนิดหน่อยก่อนที่จะค่อยๆหลับกันไปเพื่อพักผ่อนเอาแรงพร้อมจะทำงานในวันรุ่งขึ้นต่อไป... 

Lyrics : Crush By David Archuleta
 


 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2018 18:50:02 โดย kimjuy_o »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
รอวันเขาไปเที่ยวกัน  :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
จะสำเร็จมั้ยน้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด