ทำไงดี ลูกผมเป็นเกย์ [ตอนพิเศษ 1] P.13 [16/09/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไงดี ลูกผมเป็นเกย์ [ตอนพิเศษ 1] P.13 [16/09/2018]  (อ่าน 64925 ครั้ง)

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
คู่พ่อต้องเป็นเจ้าของบริษัทฯ. ที่ให้ทุนปันชิมิ

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อือหือโดนัทลูก ทำไมหนูโหดงี้ ถ้าพี่ปันเป็นของหนูเมื่อไหร่สงสัยจะได้อยูาสมาคมคนกลัวเมียแน่ๆ 555

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เริ่มออกทะเลละ

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
ห้ามหักมุมให้โดนัทกดนะคะ กลัวใจคนแต่งมาก....
อ่านแหวกแนวมาเยอะแล้ว อยากอ่านแบบธรรมดาๆ ใสๆ บ้างง่ะ
55555+

ออฟไลน์ greenoak004

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
1. หรือคุณพ่อกับปันปันจะไม่ใช่พ่อลูกกันจริงๆ
2. โดดี้เหมือนจะเป็นตัวร้ายของเรื่องนี้เลย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2017 00:28:43 โดย greenoak004 »

ออฟไลน์ Airiณ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 6



ผมว่าวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่กดดันสุดๆ ในชีวิตผม อาจจะรองลงมาจากวันที่ไอ้ปันจะคลอดก็ได้ เหงื่อนี่ไหลซึมเต็มมือไปหมด อุณหภูมิในร่างกายเย็นกว่าที่ควรจะเป็นอย่างน่าอัศจรรย์

ไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันที่ผมนึกกังวลว่าลูกตัวเองจะมีแฟนขึ้นมาจริงๆ จังๆ ตอนที่ผมรู้ว่าตัวเองจะได้ลูกชายยังคิดอยู่เลยว่าโชคดี ไม่ต้องมานั่งห่วงจนปวดกบาลแบบได้ลูกสาว แต่ไอ้สถานการณ์ตอนนี้นี่มันยังไง กังวลจนใจสั่นไม่รู้กี่ริกเตอร์แล้วเนี่ย

แกร๊ก

"เฮ้ย!?"
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อประตูถูกเปิดออกต่อหน้าต่อตาพร้อมกับร่างสูงของลูกชายที่ก้าวออกมา ปัญญาชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม สายตาเหลือบลงมองถาดที่มีเหยือกน้ำเย็น แก้วเปล่าสองใบ แล้วก็ขนมถุงเล็กๆ อีกสามถุงเห็นแบบนั้นแล้วเจ้าตัวดีก็ยิ้มร่าอย่างพึงพอใจทันทีแม้ปากจะว่า

"พ่อไม่น่าลำบากเลยฮะ ผมกำลังจะเดินลงไปเอาพอดี"

"ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่เพื่อนเป็นไง" ต้องเน้นย้ำคำว่าเพื่อนไว้ก่อนครับ ไม่ได้หรอก อีกอย่างยังไงทั้งสองคนก็ยังไม่ได้คบกันเสียหน่อย

"ก็ปกตินี่ครับ น้องเขาเพิ่งจะมาถึงเองนะ แต่เราตั้งใจจะดูเลขกับสังคมก่อนช่วงเช้า แล้วตอนบ่ายค่อยไปวิทย์กับอังกฤษ"

"ดูหนังสือกันแน่นะ?" ผมถามอย่างไม่ไว้ใจ ปัญญาหรี่ตาลงอย่างเซ็งๆ กับท่าทีนั้นของผม ก่อนเจ้าตัวจะเปิดประตูให้

"ถ้าสงสัยขนาดนั้นก็เข้ามาเลยครับ ผมบอกแล้วไงว่าแค่ติวหนังสือให้น้องจริงๆ"

ปัญญาเอาโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กมาเปิดกางบนพื้นแล้ววางชีทเอกสารกับหนังสือกองโตไว้ด้านบน โดนัทเงยหน้าขึ้นมาจากกองงานตัวเองขึ้นมาส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มนั่นทำเอาผมชะงักไปด้วยเหตุผลสองอย่าง หนึ่งคือมันสดใสและอ่อนหวานแบบที่ทำให้ผมเกือบ (แค่เกือบนะ) จะเข้าใจว่าทำไมไอ้ปันถึงได้หลงรักเด็กคนนี้ สองคือเพราะผมตั้งใจจะจับผิดเด็กทั้งสองเต็มที่ แต่เห็นรอยยิ้มนั่นแล้วทำเอารู้สึกผิดขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะดูยังไงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะมาติวหนังสือด้วยกันจริงๆ

"เออ พ่อ โดนัทเขาเอาขนมมาฝาก พอดีพ่อเขาไปญี่ปุ่นมาน่ะ พ่อลองเอาไปชิมก่อนนะ เหลือไว้ให้ผมด้วยล่ะ"

ขนมกล่องสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ A4 ถูกห่อด้วยกระดาษอย่างดี บนหน้ากล่องมีตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่นที่ผมอ่านไม่ออก แต่รูปที่อยู่ติดๆ กันก็พอจะทำให้เดาได้ว่าด้านในคงเป็นขนมจำพวกโมจิสอดไส้ เยี่ยมเลย ผมกับปันชอบทานขนมญี่ปุ่น เวลาที่โยชิดะซังบินกลับบ้านเกิดก็มักจะถือติดมือมาฝากผมกับไอ้ปันด้วย กลายเป็นว่าเราสองคนติดใจกันไปเลย

และเพราะความลิงโลดนั้นเองที่ทำให้ผมลืมตัวขนาดยิ้มตอบกลับไป "ขอบคุณนะครับ โดนัท ฝากขอบคุณคุณพ่อด้วยนะ"

"ครับผม ไม่มีปัญหาฮะ"

เห็นรอยยิ้มหวานๆ นั่นแล้วถึงเพิ่งรู้สึกตัว แว้ก ผมก็แค่ขอบคุณตามมารยาทเจ้าบ้านที่ดีนะ เข้าใจไหม ยังไม่ได้ยอมรับเรื่องของสองคนนี้หรอกนะ!

ผมเดินกลับลงมาทำงานบ้านที่ทำค้างอยู่ต่อจนเสร็จ ชงกาแฟให้ตัวเองแล้วแกะกล่องขนมที่เพิ่งได้มาชิมชิ้นหนึ่ง เปิดดูการ์ตูนสักเรื่องที่ไอ้ปันอัดใส่มาให้ล่าสุด นั่งแช่อยู่แบบนั้นครู่ใหญ่ เดินไปหยิบโน้ตบุ๊คมาเปิดกางแล้วทำงานที่ค้างอยู่อีกนิด เหลือบมองนาฬิกาอีกทีก็เป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว คิดว่าจะพาเด็กทั้งสองไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อยที่ต้องขับรถไปประมาณสิบนาที ไม่รู้ว่าจะโอเคกันไหม

ว่าแล้วผมก็เดินขึ้นชั้นสองไปเคาะประตูห้องไอ้ปัน เปิดเข้าไปกำลังจะอ้าปากถามว่ากลางวันนี้กินก๋วยเตี๋ยวกันไหม หากคำพูดประโยคนั้นก็ต้องค้างอยู่ที่ปลายลิ้นเมื่อร่างกายท่อนบนของเพื่อนรุ่นน้องของไอ้ปันอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เผยให้เห็นผิวขาวเนียนและกล้ามเนื้อหน้าท้องที่มีมากกว่าที่คิดหากเทียบกับตอนที่เจ้าตัวใส่เสื้อปกปิด

แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจยิ่งกว่านั้นคือใบหน้าแดงก่ำของโดนัทที่ก้มหน้างุดๆ หนีลูกชายผม ความคิดที่ว่าไอ้ตัวแสบอาจจะใช้กำลังกับอีกฝ่ายแทบทำให้ผมเป็นลม และก่อนที่ผมจะได้ทันโวยวายอะไรปัญญาก็ส่งเสื้อตัวหนึ่งจากตู้เสื้อผ้าให้เพื่อนรุ่นน้องแล้วลากผมออกมาจากห้อง ดึงมาที่ห้องนอนใหญ่ของผมแทน เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมหาเสียงตัวเองเจอพอดี

"ไอ้ปัน แกคิดจะทำอะไร" ผมว่า ไม่สนท่าทางมันที่พยายามยกมือห้ามให้ผมหยุดพูด "ถึงน้องเขาจะเป็นผู้ชาย แต่เขาก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่นะโว้ย แกจะไปถอดเสื้อผ้าเขาแบบนั้นไม่ได้"

"พ่อ ใจเย็นก่อน" น้ำเสียงเจ้าตัวทั้งฉุนทั้งขำ "ผมไม่ได้ทำอะไรโดนัทเลย แค่น้ำมันหกใส่เสื้อน้องเขา ผมเลยบอกให้เขาถอดออกเท่านั้นเอง"

"น้ำหก?" พูดเป็นการ์ตูนตาหวานไปได้ "แกเลยให้น้องเขาถอดเสื้อเนี่ยนะ?"

"มันเปียกเยอะมากเลยนะ พ่อ ขืนปล่อยไว้งั้นแล้วตากแอร์ต่อเดี๋ยวไม่สบายกันพอดี"

"แล้วทำยังไงให้น้ำหก"

"เอ่อ ก็ ผมทำหกใส่เอง"

“นี่แกตั้งใจรึเปล่าเนี่ย”

“พ่อ” ปัญญาอดกลอกตาขึ้นบนไม่ได้ “ถ้าผมสัปดนขนาดนั้น ผมจับน้องปล้ำเลยไม่ดีกว่าเหรอ มาอยู่ถึงในห้องขนาดนี้แล้ว”

“ไอ้ปัน!” ก็เพราะวิธีการพูดแบบนี้ของมันนี่แหละที่ทำให้กลัวใจ วัยนี้ยิ่งคึกๆ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังอยู่

“รู้แล้วๆๆ ผมล้อเล่นครับพ่อ” เจ้าตัวรีบยกสองมือขึ้นมาเป็นเชิงห้าม “แต่นี่ผมแค่ทำน้ำหกใส่น้องเขาจริงๆ เลยเอาเสื้อให้เขาเปลี่ยนเฉยๆ แล้วนี่พ่อจะพาเราไปกินข้าวกลางวันที่ไหนครับ”

“ว่าจะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวตรงซอยเจ็ด น้องกินได้ไหม”

“เดี๋ยวผมถามให้ แต่น่าจะได้แหละ” พูดพลางหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับ ผมรีบคว้าแขนมันแล้วพูดสำทับทันที

“ปัน… พ่อไม่ได้ล้อเล่นนะ เรื่องแบบนี้น่ะ ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เข้าใจไหม แล้วนี่ถึงจะบอกว่าผู้ชายด้วยกันยังไงก็ไม่ท้องแน่ แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอะไรเลย ยิ่งพวกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่น่ากลัวๆ แล้วก็อันตรายถึงชีวิตน่ะ ถ้าเกิดว่าไม่ศึกษาหาทางป้องกันดีๆ เดี๋ยวจะ--”

“โว้ๆๆ พ่อ ใจเย็น” ปัญญาชูแขนสองข้างขึ้นเหนือหัวเป็นเชิงขอเวลานอก สีหน้าเจ้าตัวแดงระเรื่อขึ้นมานิดหนึ่ง “ผมกับโดนัทยังไม่มีอะไรกันทั้งนั้นแหละ ตกลงไหมครับ จับมือยังไม่เคยเลย เป็นแฟนก็ยังไม่ได้ขอ”

“ฉันจะไปรู้แกเหรอ ท่าทางแบบแกดูทำอะไรน่าไว้ใจที่ไหน”

แล้วผมก็ต้องไหวตัวเมื่อไอ้ตัวแสบเลื่อนแขนมาโอบรอบตัวผม

“พ่อไม่ต้องกังวลหรอกน่า ผมไม่ทำให้พ่อเป็นห่วงหรอก โอเคนะ?”

โอเคบ้านพ่อสิ… เออ แต่พ่อมันก็ผมนี่หว่า

“ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะ”

“ไว้ใจกันหน่อยสิครับ” มันก็พูดง่ายสิ ลองมาเป็นผมที่เพิ่งเปิดประตูเข้าไปเจอลูกชายตัวเองกับคนอีกคนที่เจ้าตัวชอบเปลือยท่อนบนแบบนั้นดูสิ… โอย ตาย สงสัยต้องสั่งให้มันแง้มประตูทิ้งไว้แล้วมั้งเนี่ย เกิดมันมีอะไรเกินเลยขึ้นมาจะทำยังไง… นี่ขนาดแม่งเป็นผู้ชายทั้งคู่นะ! ผมยังกังวลขนาดนี้

ผมพาเด็กหนุ่มทั้งคู่ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ถัดมาไม่กี่ซอย สำรวจโดนัทอย่างถี่ถ้วนกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ของไอ้ปัน แต่ก็ไม่ถึงกับจับผิด ผมว่าผมกำลังจับผิดลูกชายตัวเองมากกว่าที่ชอบไปลูบหัวรุ่นน้องบ้าง แตะไหล่ แตะตัวตอนอีกฝ่ายเผลอ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายก็เถอะ แต่ทำตัวรุ่มร่ามกับคนที่ตัวเองกำลังตามจีบแบบนั้นได้ไง

แต่ อืม… โดนัทเองก็ดูไม่ได้อนาทรร้อนใจอะไรกับเรื่องนั้นเท่าไร เออ หรือผมจะยุ่งไม่เข้าเรื่องเองวะ

“เอ้า นี่ โดนัท พี่เอาลูกชิ้นปิ้งมาเผื่อ ทานเยอะๆ นะ อยากได้อะไรอีกก็บอก”

“ขอบคุณครับ”

“กินเสร็จแล้วโดอยากกินเฉาก๊วยนมสดต่อไหม ร้านตรงนั้นน่ะอร่อยมาก ถ้ากลัวกินไม่หมดจะซื้อมาแบ่งกันกินก็ได้”

เออเว้ย ไอ้นี่ก็ชอบไปเซ้าซี้น้อง โดนัทก็แทบไม่ตอบโต้อะไร แค่ตอบรับสั้นๆ แล้วก็ยิ้มลูกเดียว บ๊ะ มันจะคุยกันรู้เรื่องไหมสองคนนี้

“ว่าแต่โดนัทเล่นกีฬาอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเอ่ยปากถามเพื่อขัดบทสนทนาของเด็กทั้งสองคนบ้าง ยิ่งเห็นไอ้ปันกำลังพาบทสนทนาไปสู่อะไรที่คล้ายๆ กับการจีบหญิงแล้วมันอดไม่อยู่ ถึงผมจะไม่ได้กีดกันหรือเจ้ากี้เจ้าการอะไร แต่มาเห็นลูกชายแสดงความเป็นเกย์ออกมาขนาดนี้ก็ขัดใจเว้ย

“อ้อ ครับ ผมเล่นเทควันโด”

“หืม” หน้าตากับหุ่นไม่ให้เท่าไร แต่ก็อธิบายเรื่องกล้ามเนื้อหน้าท้องของเจ้าตัวได้อยู่

“นี่ พ่อ พ่อไม่รู้หรอกเหรอ” ปัญญาทำตาโต “โดนัทมันเป็นนักกีฬาทีมชาติเลยนะ ผมไม่เคยเล่าให้พ่อฟังหรอกเหรอ”

“หา??” ชิบหาย นี่คนที่ลูกผมคั่วอยู่เก่งขนาดนั้นเลยเรอะ ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน

“ชื่อจริงของโดคือณัฐภัทร เขตผดุง… อย่าบอกนะว่าพ่อไม่เคยเห็นตามข่าว”

“แค่ก…” ถึงกับสำลักเส้นเล็กที่เพิ่งยัดเข้าปากไปเลยครับ เฮ้ย! นั่นมันชื่อนักกีฬาที่ไปคว้าเหรียญเงินมาในการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชียอะไรสักอย่างมาไม่ใช่เหรอนั่น ผมว่าผมก็เคยเห็นเจ้าตัวแว้บๆ ตามข่าวกีฬานะ มันหน้าหวานขนาดนี้เลยเหรอ?

“มันก็ไม่ใช่อะไรใหญ่โตขนาดนั้นหรอกครับ” โดนัทรีบว่าทันทีเมื่อเห็นสายตาชื่นชมของพวกเราสองพ่อลูก “ผมยังต้องฝึกอีกเยอะ นี่เห็นทางผู้ใหญ่คุยกันเหมือนกันว่าปิดเทอมจะให้ไปฝึกที่เกาหลีสักเดือน”

“สุดยอด” ปัญญาคราง จากนั้นก็หันมาทางผมเหมือนจะภูมิใจนำเสนอ… เออ คนที่ตัวเองชอบอย่างออกหน้าออกตา “พ่อว่างั้นไหมฮะ โดสุดยอดจริงๆ เนอะ”

“เออๆ” ไอ้สุดยอดมันก็สุดยอด แต่เรื่องที่มันเป็นผู้ชายและลูกผมก็เป็นผู้ชายนี่อีกเรื่อง เออ แต่อย่างน้อยก็เบาใจไปได้อย่างหนึ่งว่าไอ้ปันคงไม่ทำอะไรบ้าๆ เพราะอีกฝ่ายคงเตะก้านคอลูกชายผมให้ล้มพับไปได้ หรือว่ามันจะเป็นห่วงไปอีกแบบหว่า? “แล้วนี่ต้องคอยไปซ้อมอะไรรึเปล่าครับเนี่ย พวกนักกีฬาพวกนี้น่าจะมีซ้อมเยอะ”

“ครับ ผมมีตารางซ้อมอยู่แล้ว แต่ก็พยายามไม่แบ่งกับเวลาเรียนแล้วก็เวลาส่วนตัวดีๆ จริงสิ ยิมที่ผมใช้ซ้อมบ่อยๆ อยู่แถวๆ นี้เอง ไว้คราวหน้าพี่ปันมาดูผมซ้อมสิครับ หรือจะมาลองเล่นด้วยกันเลยก็ได้นะ”

“พูดจริงน่ะ?” ไอ้ตัวแสบทำหน้าตื่นเต้น ไม่ได้เจียมตัวเล้ยว่าได้กีฬาชนิดนี้แค่พอแตะๆ พื้นฐานเท่านั้น

“อย่าเล้ย ไอ้ปัน แกไปก็ถ่วงน้องเขาเปล่าๆ พื้นฐานที่เคยเรียนมาลืมหมดแล้วมั้งนั่น”

ถึงตรงนี้เด็กหนุ่มก็กระพริบตาปริบๆ “ผมเคยเรียนเทควันโดด้วยเหรอครับ?”

เอ้า เอาเข้าไป แค่เรื่องที่ว่ามันเคยเรียนมันยังจำไม่ได้เลย

“เคย… แต่หลายปีล่ะ ตอนเด็กๆ แกไฮเปอร์จะตาย อยากจะเรียนนั่นเรียนนี่ ตอนนั้นนี่แทบต้องเอาบ้านไปจำนองเพื่อมาจ่ายค่าเรียนให้แก”

“โหย พ่อ ก็ผมชอบลองอะไรใหม่ๆ ไง”

เออ ดูจากรสนิยมเลือกคนที่ชอบก็พอจะรู้

“มาดูเฉยๆ ก็ได้ครับ พี่ปัน มาให้กำลังใจผมไง” พูดพลางส่งยิ้มหวานให้ไอ้ตัวแสบที่ตอนนี้หน้าแดงไปเรียบร้อยแล้ว เอาว่ะเห้ย หรือว่าลูกผมจะจีบเด็กคนนี้ติดจริงๆ วะเนี่ย ชิบหายล่ะ

โดนัทหันมาทางผมต่อด้วยรอยยิ้มที่ยังประดับบนใบหน้า “คุณน้าก็เหมือนกันนะครับ ถ้าอยากแวะมาก็มาได้ ผมจะบอกทางผู้ใหญ่ไว้ให้”

“พี่จะหาเวลาไปแน่” ปัญญาหมายมั่นปั้นมือ “เดี๋ยวลากพ่อไปดูด้วย ไม่ต้องห่วง พ่อพี่จะได้รู้สักทีว่าโดเจ๋งแค่ไหน”

โอ๊ย จะจีบกันก็ช่วยไปจีบให้พ้นๆ สายตาหน่อยเท้อ… นี่ขนาดผมบอกมันว่ายังไม่ยอมรับนะเนี่ย!





หลังจากที่ผมอยู่โยงทำโอทีมาสองชั่วโมงก็ได้เวลาเดินสะโหลสะเหลเตรียมกลับบ้าน ระหว่างที่ใส่รองเท้าที่ดึงออกมาจากชั้นวางส่วนของตัวเอง เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“อ้าว ดล วันนี้งานหนักเหรอครับ หน้าตาดูเหนื่อยเชียว”

“...ก้อง” เพื่อนร่วมงานต่างแผนกของผมนี่เอง เจ้าตัวยังอยู่ในเสื้อผ้าเรียบกริบกับรอยยิ้มสดใสประดับบนใบหน้าทั้งๆ ที่นี่เลยเวลาเลิกงานจริงๆ มาสองชั่วโมงแล้ว บ่งบอกให้เห็นความสดใสและสุขภาพดีของเจ้าตัวจริงๆ ทั้งที่ไอ้หมอนี่อายุพอๆ กับผมแท้ๆ เห็นแล้วน่าอิจฉา

ชายหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับหยิบรองเท้าที่อยู่ชั้นวางข้างๆ กับของผมลงมาสวม ปากก็พูดไม่หยุด

“ว่าไงครับ เจองาน NG หรือว่ายังไงวันนี้ หรือโดนลูกค้าเคลม?”

“ลูกค้าเคลม… โดนโยชิดะซังด่าซะหูดับ” ผมพูดเนือยๆ อย่างรู้ดีว่าประธานของเขาบทจะดีก็แสนดี โกรธขึ้นมาทีก็พินาศวอดวายไปตามๆ กัน

“ว้า แย่จัง วันนี้ผมไม่อยู่ในสำนักงานเลยไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย”

“ไม่อยู่น่ะดีแล้ว” พูดพร้อมกับมองคนข้างตัวอย่างนึกขึ้นได้ “ว่าแต่นี่ทำโอทีกับเขาด้วยเหรอ ทุกทีเห็นกลับบ้านตรงเวลาประจำ”

“โหย  ผมก็มีช่วงที่ต้องทำโอทีบ้างเหมือนกันนะครับ ว่าแต่นี่รีบกลับรึเปล่า ถ้ายังไงแวะทานข้าวด้วยกันหน่อยไหม ผมว่าจะไปร้านสเต๊กที่อยู่ถัดจากปั๊มปตท. ไป”

ผมพยักหน้าอย่างรู้จักร้านที่เจ้าตัวพูดถึงดี จริงๆ แล้วร้านนั้นขายอาหารค่อนข้างหลากหลาย แต่สิ่งที่ดูขึ้นชื่อที่สุดก็เหมือนจะเป็นสเต๊กหลากหลายเมนูนั่นแหละ

“ผมมีบัตรลดครับ เพิ่งได้มาจากที่ไปกินมาคราวก่อน”

โอ้โห แล้วก็ไม่บอกมาแต่แรก ไปสิครับ รออะไรล่ะแบบนี้

ผมขับมาถึงร้านที่ว่าหลังคนชวนประมาณห้านาที เดินเข้ามานั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ในร้านค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยผู้คนเพราะเป็นเวลาที่เหมาะแก่การกินมื้อเย็นพอดี

“เบียร์ไหมครับ?” อีกฝ่ายเอ่ยปากถาม ผมส่ายหน้า ก่อนจะรีบเอ็ดอีกฝ่าย

“ไม่ต้องเลย นายก็เหมือนกัน พรุ่งนี้ต้องทำงานนะ สั่งโค้กไป หรือไม่ก็น้ำผลไม้ปั่นนู่น”

“โห เคี่ยวจัง” พูดเหมือนกล่าวหาแต่ก้องก็หัวเราะ “งั้นผมกินน้ำแตงโมปั่นดีกว่า ดลเอาอะไรดีครับ”

“น้ำเปล่า” เครื่องดื่มชนิดนี้แน่นอนที่สุดแล้วครับ นอกจากจะช่วยให้สดชื่นแล้วยังไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย แถมยังถูกที่สุดอีกต่างหาก

ผมกับก้องคุยกันเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยระหว่างรออาหาร ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ทำงาน เรื่องลูกค้า เรื่องคนในแผนก และเมื่อสเต๊คปลาของผมมาวางลงตรงหน้าผมก็เริ่มจัดการมันทันที ตอนนั้นเองที่ก้องทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้

“เออ ใช่ นี่ ลูกสาวผมส่งนี่มาให้ดูล่ะ”

“หืม? อะไรครับ” ผมถามอย่างแปลกใจก่อนจะรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เจ้าตัวยื่นมาให้ ก่อนจะต้องเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็นอยู่บนจอโทรศัพท์

นั่นมัน… ไม่ผิดแน่ ลูกชายตัวดีของผมกับโดนัทนั่นเอง นั่นเป็นรูปที่ปัญญาก้มตัวลงคุกเข่าเสมือนยอมศิโรราบให้อีกฝ่ายขณะผูกเชือกรองเท้าให้เด็กหนุ่มอีกคนโดยมีผู้คนที่อยู่แถวนั้นเหลือบมองมาอย่างสนใจ

เออ นี่มันคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายแล้วโดนัทเป็นเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าหรืออะไร แถมยังต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้!

“นี่ยังมีอีกตั้งหลายรูปนะครับ ณริบอกว่าถ้ากดหาแฮชแท็กนี้จะมีรูปคู่ของสองคนนี้เต็มเลย”

ผมไม่แน่ใจว่าไอ้แฮชแท็กที่ว่าหมายความว่ายังไง แต่ก้องก็สาธิตให้ผมดูจากนั้นก็โชว์รูปคู่ของปัญญากับโดนัทในมุมต่างๆ ส่วนมากจะเป็นรูปแอบถ่ายทั้งสิ้น ซึ่งถึงแม้ในรูปจะดูไม่มีอะไรเลย แค่ทั้งสองคนดู เอ่อ สนิทสนมกันมากกว่าเพื่อนทั่วๆ ไปนิดหน่อย แต่มุมกล้องกับเทคนิคการแต่งภาพก็ทำให้ทั้งคู่ดูกลายเป็นคู่รักขึ้นมาทันที

...อยากจะเป็นลม

“ทำหน้าแบบนี้แปลว่าดลยังไม่เคยเห็นรูปพวกนี้ล่ะสิ” ก้องพูดพร้อมกับหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี รับโทรศัพท์ที่ผมยื่นกลับไปให้อย่างง่ายดาย “แต่ลูกนายนี่คนดังจริงๆ นะ ดล แค่ขยับตัวนิดหน่อยก็โดนเก็บภาพซะแล้ว ว่าแต่คนในรูปที่คู่กับน้องปันนี่ใครครับ แฟนเขาเหรอ”

“แฟน…?” รู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองซีดลงตอนพูดคำนั้นออกไป ก่อนจะรีบส่ายหน้ารัวๆ “เปล่า… ไม่ สองคนนั้นไม่ใช่แฟนกัน”

“อ้าว เหรอครับ” เจ้าตัวดูดน้ำแตงโมของตัวเอง “ผมนึกว่าใช่แน่ๆ เสียอีก นี่แปลว่าลูกผมก็เข้าใจผิดด้วยเหรอ”

“นี่ เดี๋ยวก่อนนะ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย สีหน้าและน้ำเสียงเป็นจริงเป็นจัง “มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอกับไอ้ความคิดที่ว่าผู้ชายสองคนจะเป็นแฟนกัน บางทีเขาอาจจะแค่สนิทกันมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ก็เท่านั้นไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นต้องคิดไปว่าเป็นแฟนก็ได้นี่”

“อ้าว ก็เห็นจากในรูปแล้วดูสนิทกันเกินเพื่อนไปแล้วนี่ คนเขาก็ต้องคิดเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอครับ”

“คิดเป็นแบบนั้นเนี่ยนะ?” ยกมือกุมหัวอีกรอบแป๊บ ท่าทีแบบนั้นทำให้ก้องเริ่มจะเข้าใจว่าแล้วว่าผมจะสื่อว่ายังไง

“ดล นายรับเรื่องทำนองนี้ไม่ได้เหรอ”

ผมหรี่ตาลง ถอนหายใจเฮือกอย่างยอมแพ้แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ไม่ตอบคำถามอีกฝ่าย ก้องจึงเริ่มรุกต่อ

“ว่าไงครับ สรุปน้องปันนี่… เป็นใช่รึเปล่า แล้วเด็กคนนี้ก็แฟนน้อง?”

“ไม่ใช่แฟน” ตราบใดที่ทั้งสองคนนี้ยังไม่ได้คบกันก็ไม่ใช่เว้ย! “ส่วนเรื่องที่ไอ้ปันเป็น… เอ่อ อืม มันก็เป็นจริงๆ นั่นแหละ อย่างที่นายว่า”

“แล้วนายรู้ได้ไง”

“ก็มันมาบอกผมเอง”

ก้องทำเสียงอุทานเหมือนเหลือเชื่อ พิงหลังลงไปบนพนักเก้าอี้ “น้องปันนี่ใจกล้าจัง แล้วนายว่าไง”

“ผมบอกผมรับไม่ได้”

“พูดตรงๆ แบบนั้นเลยเหรอครับ?”

ผมยักไหล่ “จะเสียเวลาอ้อมค้อมทำไมล่ะ”

“น้องคงเสียใจแย่”

คำพูดง่ายๆ นั่นทำเอาผมจุกขึ้นมานิดหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้หรอกนะว่าปันมันจะเสียใจ… แต่ผมก็เสียใจเป็นเหมือนกันนะ

“ทำไมต้องคิดอะไรให้ยุ่งยากด้วยครับ ดล” ก้องว่า เริ่มหั่นสเต๊กชิ้นต่อไปเข้าปาก กลืนลงคออย่างรวดเร็วก่อนจะว่าต่อ “สมัยนี้แล้ว เรื่องเพศที่สามก็ออกจะยอมรับกันอย่างเปิดกว้าง นายก็น่าจะลองเปิดใจรับเรื่องลูกชายบ้าง”

“นายก็พูดง่ายสิ” ก็ไม่ใช่ลูกตัวเองนี่ที่เป็น “ผมเองก็ไม่ได้รังเกียจเพศที่สามหรืออะไรหรอกนะ แต่กับลูกตัวเองมันก็คนละแบบกัน”

“มันเหมือนกันนั่นแหละครับ นายคิดมากไปเองมากกว่า”

ผมขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาก่อนจะถามกลับอย่างท้าทาย “แล้วถ้าน้องณริ ลูกสาวของนายเดินมาบอกว่าเขาชอบผู้หญิงขึ้นมา นายจะรับได้เหรอ”

“รับได้สิครับ”

เหอะ ก็พูดไป๊

“อ้าว ทำหน้าแบบนั้น ไม่เชื่อกันล่ะสิ ผมจะบอกอะไรให้นะ ถ้ามันเป็นความสุขของลูกน่ะ ผมรับได้หมดนั่นแหละ อีกอย่างเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย ลูกผมก็ยังเป็นคนดี… เป็นเด็กดีได้นะ ต่อให้แกจะไปชอบเพศไหน แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรนอกเหนือจากนั้นนี่”

“หืม” ผมครางในลำคอ นึกไม่ถึงว่าก้องจะพูดออกมามากมายขนาดนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเราสองคนจะเรียกว่าคนแปลกหน้าก็ไม่ใช่ สนิทก็ไม่เชิง ยิ่งเพราะทำงานกันคนละแผนก แต่ผมก็ยอมรับว่าคุยกับหมอนี่แล้วสบายใจดีแหละนะ

ผมมีครอบครัวเหลือแค่คนเดียวคือไอ้ปัน… เพราะงั้นบางทีการได้คนอื่นมารับฟังเรื่องราวของตัวเองบ้างก็เป็นอะไรที่ไม่เลวเหมือนกัน และถึงความเห็นเราสองคนจะต่าง แต่อย่างน้อย… จุดเชื่อมโยงบางอย่างของคนเป็นพ่อก็ทำให้เราคุยกันได้ และบางทีผมน่าจะเก็บเอาเรื่องที่ก้องพูดไปคิดสักนิดหนึ่ง

“เอาล่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว งั้นก็เช็คบิลเลยนะครับ ส่วนนี่บัตรลด ดลเอามาให้ผมแค่ร้อยเดียวก็พอ ที่เหลือผมออกเอง”

“เฮ้ย ได้ไง บัตรลดนั่นก็ของนายแล้วนะ”

“ไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่าคราวหน้านายเลี้ยงผมก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นก็เลี้ยงเบียร์ผมด้วยแล้วกันนะ”

ไอ้หมอนี่นี่มันเหลือเกินจริงๆ






------------------------------------------
Talk: ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านมากๆ เลยนะคะ ทุกคอมเม้นท์เป็นกำลังใจที่ดีมากเลย ^^ ส่วนเรื่องคู่ที่ทุกคนถามกันมา... เอาเป็นว่าเรามาติดตามดูไปพร้อมๆ กันดีกว่าค่ะว่าเรื่องจะไปทิศทางไหน จริงๆ ผ่านมา 6 บทแล้ว หลายๆ คนก็น่าจะเดาได้แล้วแหละ ยังไงก็ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
เราเดาไม่ออกอะ แต่แอบจิ้นคุณพ่อกับโดนัทอะ อร๊ายยยยยยยยยยยย   :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ช่วง คุณพ่อทอร์กกิ้ง

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
บอกตรงๆ ยังเดาไม่ออกเช่นกัน แต่ดูท่าทางโดนัทอาจเป็นรุก 55555

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
มีตัวช่วยเยอะนะปัน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ก้อง จะช่วยพูดให้ดล รับเรื่องลูกเป็นเกย์ ได้มั้ยนะ

แอบคิดว่าก้อง ติดไรๆกับดล
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ greenoak004

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ก้องชวนดลมากินข้าวแบบมีจุดประสงค์แอบแฝง
การเอารูปปันปันกับโดนัทให้ดลดูเราว่าไม่โอเค
คิดดูถ้าดลไม่รู้เรื่องว่าปันปันเป็นเกย์มาก่อน มีหวัง
กลับบ้านไปปันปันตายแน่
ถึงแม้จะเรียกว่าหวังดี แต่เราว่าไม่ควร

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
อืม... เราไม่ค่อยโอเคกะการที่ก้องเอารูปปันมาให้คุณพ่อดูเลย.. นี่คือรู้มาก่อน ถ้าไม่รู้บ้านไม่แตกเหรอคะ?

ออฟไลน์ aommyga40

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ใครคู่ใคร เดาไม่ออก

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
หวังว่า คุณพ่อจะเปิดใจรับได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมนะคะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
จริงๆ ก็เคารพคนแต่งนะครับว่าจะเขียนให้เรื่องนี้ไปในทิศทางแบบไหน แต่พอเห็นบทนี้ให้ความสำคัญกับความคิดของพ่อ ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา ถ้าเรื่องนี้จะต้องไปเป็นแนว incest จริงๆ เรื่องชู้สาวที่เข้ามาเกี่ยวมันจะทำให้เสียนัยยะอันสวยงาม ที่พูดถึงการที่คนเป็นพ่อจะก้าวข้ามผ่านกรอบความคิดตัวเอง เพื่อยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อยากรู้คู่พ่อดลอ่ะ กามเทพ จะส่งเทพบุตรคนใหนมาเปลี่ยนความคิดของพ่อดลน๊อ

ออฟไลน์ greenoak004

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนใหม่มาได้แล้ว รอนานแล้วนา

ออฟไลน์ Airiณ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 7




"โดนัท นี่ พ่อพี่ให้เอามาให้ ตอบแทนเรื่องขนมคราวก่อน"

"ขอบคุณมากครับ" เด็กหนุ่มยิ้มหวานขณะรับถุงที่ใส่กล่องขนมคุกกี้นมสดอย่างดีให้ เจ้าตัวแง้มปากถุงดูข้างในนิดหนึ่ง "จริงๆ น้าดลไม่ต้องลำบากก็ได้ ผมแค่ตั้งใจเอาไปฝากเฉยๆ เอง"

"เถอะน่า พ่อพี่ตั้งใจเอามาให้ ลองชิมดู เจ้านี้น่ะอร่อยมาก ชอบซื้อมาให้กินประจำ"

 "ขอบคุณครับ" เจ้าตัวว่า "พี่ปันนี่สนิทกับคุณพ่อสินะฮะ"

"สนิทไหมเหรอ" เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นนิดหนึ่ง "จะว่ายังไงล่ะ เมื่อก่อนเคยสนิทกว่านี้ แต่ช่วงนี้ห่างๆ ไปบ้าง แต่ก็น่าจะเรียกได้ว่าสนิทอยู่มั้ง ก็มีกันแค่สองคนด้วยนี่นะ"

"แล้ว เอ่อ ขอเสียมารยาทถามได้ไหมฮะว่าแม่พี่ปัน--"

"อ้อ เสียไปตั้งแต่คลอดพี่ได้ไม่กี่เดือนแล้ว ร่างกายอ่อนแอ โรคแทรกซ้อนน่ะ"

"เสียใจด้วยนะครับ"

"เรื่องมันนานแล้ว" ปัญญาฉีกยิ้มกว้างให้รุ่นน้องอย่างอารมณ์ดี "อีกอย่าง... พ่อพี่ทำหน้าที่ดีน่ะ"

"ดีจังเลยนะครับ ถึงจะอยู่กันแค่สองคนแต่ก็ดูอบอุ่นดี"

"แล้วบ้านโดล่ะ? มีกี่คน มีพี่น้องรึเปล่าเนี่ย"

"อืม จะว่ายังไงดีนะ ผมมีพี่สาวที่ไม่ได้เป็นพี่แท้ๆ คนหนึ่งน่ะ"

"ลูกพี่ลูกน้องเหรอ?"

"ไม่ใช่ครับ พี่สาวต่างสายเลือดน่ะ"

ปัญญานิ่งไปนิดหนึ่ง สมองพยายามประมวลผลของคำบอกเล่านั้น

"แบบว่า ป๊าผมแต่งงานใหม่น่ะครับ แล้วพี่สาวก็เป็นลูกติดมากับแม่เลี้ยงผมน่ะ"

"อ้อ" ปันลากเสียงยาวอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี หันมองคนข้างตัวด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน "แล้ว เอ่อ แม่นาย--"

"ม๊าจริงๆ ของผมขอหย่ากับพ่อน่ะครับ ตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แต่ยังสบายดี ไม่ได้เสียแล้วแบบแม่ของพี่ปันหรอก"

"อ้อ" เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปบีบไหล่อีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว "เสียใจด้วยนะ"

"ไม่หรอกครับ เหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วมากกว่า" โดนัทพูดกลั้วหัวเราะอย่างไม่ทุกข์ร้อน "เพื่อนที่ผมรู้จักก็มีตั้งเยอะแยะที่พ่อแม่หย่ากัน ปกติจะตาย"

"มันก็ใช่อยู่หรอก" ปัญญาว่า แต่ด้วยความที่พ่อของเขาแสดงออกชัดเจนว่ารักแม่มาก ขนาดไม่เคยชายตามองหาผู้หญิงคนอื่นแม้ว่าแม่จะเสียไปแล้วเลย เพราะงั้นเขาถึงนึกไม่ออกว่ามันรู้สึกยังไงกับการที่ต้องมารับรู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองต่างไม่ได้รักซึ่งกันและกันแล้ว "แล้วแม่เลี้ยงกับพี่สาวนายใจดีรึเปล่า คงไม่ใช่แบบในการ์ตูนสโนไวท์นะ"

ใบหน้าหวานหันกลับมามองคนพูดด้วยตาที่เบิกกว้างขึ้นอย่างงงๆ "อะไรนะครับ"

"ก็ไอ้การ์ตูนดิสนีย์ไง ที่มีแม่เลี้ยงใจร้ายแล้วก็พี่เลี้ยงใจร้ายอีกสองคน"

"พี่ปัน นั่นมันซินเดอเรลล่ารึเปล่า ที่แม่เลี้ยงมีแมวหน้าดุๆ ชื่อลูซิเฟอร์"

"ใช่ๆๆ ไอ้ที่มีแมวหน้าตาน่าเกลียดๆ"

"นั่นมันซินเดอเรลล่า พี่"

"..." อายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี หน้าแตกหมอไม่รับเย็บสุดๆ

โดนัทสังเกตเห็นเห็นท่าทางนั้นของปัญญาก่อนเจ้าตัวจะระเบิดหัวเราะออกมาท้องแข็ง ทำเอาคนที่อายอยู่แล้วยิ่งอายม้วนเข้าไปอีก โดนัทรู้นะว่าไม่ควรหัวเราะ แต่ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ

"หยุดหัวเราะได้แล้วน่า ขอโทษที่จำผิดได้ไหมล่ะ ปัดโธ่เอ๊ย"

"โอ๊ย พี่ ผมขอโทษ แต่สโนไวท์กับซินเดอเรลล่านี่ห่างกันอยู่พอสมควรนะ จำสลับไปได้ไง"

"หนวกหูน่า พี่เป็นผู้ชายนะ ใครจะไปจำเรื่องเจ้าหญิงของดิสนีย์ที่มีเป็นล้านขนาดนั้นได้ เดี๋ยวเถอะ โด ถ้ายังไม่เลิกหัวเราะพี่จะหนีขึ้นห้องแล้วนะ"

"โอ๋ๆๆ ไม่งอนสิครับ" พูดพลางดึงแขนอีกฝ่ายนิดหนึ่งเป็นเชิงอ้อน ทำเอาปัญญาหน้าร้อนวูบขึ้นมาอีกรอบ แต่คราวนี้มีความยินดีปนมาด้วย "ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ก็พี่ปันเข้าใจผิดตลกอ้ะ"

"เออๆๆ ยอมก็ได้" เห็นแก่ท่าทีอ้อนๆ เมื่อกี้หรอกนะ

"แล้วตกลงพี่ปันจะมาดูผมซ้อมเทควันโดไหมอะ ผมมีซ้อมอีกทีพรุ่งนี้เย็น หลังเลิกเรียน"

"ไปสิ ไปๆ" รีบพูดอย่างรวดเร็ว "ว่าแต่โดจะไปไงอ่ะ พี่ติดไปด้วยได้ไหม"

"ป๊าผมมารับครับ พี่ปันไปด้วยกันก็ได้ งั้นตกลงพรุ่งนี้พี่ไปดูผมซ้อมเนอะ สัญญาแล้วนะครับ"

"ครับๆ สัญญาครับ ไม่เบี้ยวหรอก"

ทั้งคู่เดินผ่านตัดสวน ปัญญายังคงโดนคนนู้นคนนี้ทักอย่างไม่ขาดสายเหมือนเดิม ระหว่างที่เดินไปตามโถงทางเดินของตึกเรียน โดนัทก็เอ่ยถามขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้

"ว่าแต่ที่พี่ปันจะไปแลกเปลี่ยน ตกลงจะไปรึเปล่าครับ ตัดสินใจรึยัง"

"อือ... ยังรอฟังเรื่องทุนอยู่เลย แต่ถ้าไม่รีบๆ ตอบรับไปก็อาจจะโดนสละสิทธิ์เหมือนกัน เดี๋ยววันนี้กลับบ้านไปจะลองโทรถามเรื่องทุนดู"

"พี่ปันเก่งจังเลยนะครับ" โดนัทพูดอย่างชื่นชมแกมอิจฉา "ผมนี่ไม่เคยหวังจะได้อะไรแบบนั้นเลย ทั้งชีวิตมีดีอย่างเดียวคือเทควันโด้"

“เก่งอะไรไปเลยอย่างหนึ่งจนไปถึงระดับโลกได้ก็เจ๋งแล้ว” ปัญญายีหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูเมื่อมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องเรียนของโดนัท ไม่สนใจสายตาของคนอื่นๆ ที่มองมาทางพวกเขาอย่างชัดเจน ไหนๆ เรื่องของพวกเขาทั้งคู่ก็โด่งดังในโลกโซเชียลขนาดนั้นแล้ว… ไม่รู้ว่าจะต้องมาคอยหลบๆ ซ่อนทำไมอีก “งั้นพี่ไปก่อนนะ ตั้งใจเรียนล่ะ แล้วเดี๋ยวคุยกัน”

“โอเคครับ ขอบคุณที่มาส่งฮะ”

เด็กหนุ่มมองตามแผ่นหลังของคนที่จากไปพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ปัญญาจะรู้ไหมนะว่าเจ้าตัวเป็นกำลังใจ… เป็นแรงผลักดันที่มหาศาลขนาดไหนสำหรับเขา



โดนัทกลับมาถึงบ้านหลังเลิกเรียนโดยการขึ้นรถโดยสารประจำทางมาเย็นนี้ ป๊าของเขาติดทำงานโอทีจนดึก ส่วนม๊าเองก็ติดต่อไม่ได้ เขาไม่ค่อยเดือดร้อนกับเรื่องนี้เท่าไรนักเพราะบางครั้งก็ต้องกลับบ้านเองแบบนี้อยู่แล้ว

เขาได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากในครัว เหลือบมองไปก็เห็นร่างของพัชรีหรือคิตตี้ พี่สาวต่างสายเลือดของเขา เจ้าหล่อนกำลังทำอะไรอยู่หน้าเตาพร้อมกับใส่หูฟังฮัมเพลงไปด้วย เขาเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นบน หยุดที่หน้าประตูห้องของตัวเอง กำลังจะหยิบกุญแจออกมาไขห้องก่อนจะต้องเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นไส้ดินสอสีดำหักเป็นท่อนอยู่ที่แทบเท้า

มีใครบางคนแอบเข้าห้องของเขา… และเขาแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่าใคร

“เฮ้อ” โดนัทถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป มือเลื่อนไปกดสวิตช์ไฟ ทันทีที่ห้องสว่างไสวรูปภาพคละขนาดมากมายที่แปะอยู่ทั่วฝาผนังห้องเขาก็เด่นชัดขึ้น รูปพวกนั้นเป็นรูปแอบถ่ายทั้งหมด และทุกรูปจะต้องมีใบหน้าของปัญญา ลิขิตชาญชัยอยู่ในนั้นทั้งจากระยะใกล้และไกล

เด็กหนุ่มจ้องรูปของปันที่มีขนาดเท่าโปสเตอร์หนัง ยกมือไล้รูปใบนั้นอย่างอาวรณ์ เขาชอบที่จะได้เห็นใบหน้านี้ตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง แต่ก็รู้ดีว่าถ้าโดนจับได้คงจะเป็นอะไรที่แย่มากแน่ๆ สงสัยคงถึงเวลาที่ต้องปลดมันออกแล้ว

เด็กหนุ่มเดินกลับมาลงชั้นล่างอีกทีตอนที่คิตตี้ทำข้าวผัดสำหรับกินคนเดียวเสร็จแล้ว เจ้าหล่อนยังคงจ้องหน้าจอมือถือพร้อมกับหัวเราะคิกคักน่ารำคาญ

“พี่ตี้” เขาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเย็น “เข้าไปในห้องผมทำไม”

หญิงสาวผู้มีอายุมากกว่าเขาสี่ปีเงยหน้าขึ้นมาทั้งที่ยังคงยิ้ม “โทดที นัท พอดีกาวของพี่หมด เลยตั้งใจจะเข้าไปขอยืมหน่อย”

“แล้วไปเอากุญแจมาจากห้องป๊าใช่ไหม”

“ใช่ ตอนแรกฉันก็คิดนะว่าแกจะล็อกทำไมวะ ยุ่งยากจะตายชัก แต่พอก้าวเข้าไป… อืม ก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าทำไมนายถึงอยากได้ความเป็นส่วนตัวนัก”

โดนัทกำหมัดแน่นขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มยียวนของอีกฝ่าย เขากับหญิงสาวตรงหน้าไม่เคยเป็นพี่น้องกันจริงๆ ไม่ว่าจะทางสายเลือดหรือความรู้สึก แต่ในด้านของความรู้สึกมันห่างไกลจากคำว่า ‘คนในครอบครัว’ ไปเยอะมาก

“ฉันก็คิดมาก่อนหรอกนะว่าแกหน้าหวาน ไอ้นัท” คิตตี้ยิ้ม อันที่จริงแล้วหล่อนอิจฉาน้องชายต่างสายเลือดคนนี้ไม่น้อยที่หน้าตาดีจนเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคนที่ได้พบเจอ แต่ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นหรอกที่ทำให้พวกเขาไม่ชอบขี้หน้ากัน “แต่ก็ไม่นึกว่าแกจะเป็นแบบว่าจริงๆ ถ้าป๊ากับม๊ารู้เข้าล่ะก็… แกตายแน่ ไอ้นัทเอ๊ย”

“จะเอาเท่าไร” เขาถามเสียงลอดไรฟันอย่างรู้เกมนี้ดี

“ห้าพัน”

“ใครจะบ้าพกเงินเยอะขนาดวะ”

“งั้นก็เอาที่มีมา หรือถ้านายไม่มี นายก็เอารองเท้าคู่ใหม่นั่นไปขายต่อสิ ใช้ไปไม่กี่ครั้งเองนี่ ยังไงก็ได้ราคาดีอยู่แล้ว”

โดนัทหรี่ตาลง โน้มตัวไปหาคิตตี้เล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ “อย่ายุ่งกับรองเท้าคู่นั้น”

“ทำไมเหรอจ๊ะ อุ๊ย หรือว่าผัวซื้อให้?”

เด็กหนุ่มหน้าหวานไม่ตอบ เขาควักกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วกระแทกธนบัตรใบละพันสามใบลงตรงหน้า คิตตี้รับมันมาถือพร้อมกับผิวปากอย่างอารมณ์ดี พูดไล่หลังอีกฝ่ายที่เดินกลับขึ้นห้อง

“นายไปอ่อยผู้ชายแบบไหนเหรอ นัท เขาถึงได้ใจป้ำกับนายขนาดนี้ นี่~ แล้วนายได้กับเขารึยัง?”

ว้อย ยัยพี่จอมปลอมของเขานี่น่ารำคาญจริง!





วันนี้นพดลกลับมาถึงบ้านเร็วกว่าปกติ เจ้าตัวถอดรองเท้าเก็บใส่ตู้ที่หน้าบ้าน เลิกคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นไอ้ตัวแสบนั่งพิมพ์อยู่หน้าโน้ตบุ๊คบนโต๊ะเล็กหน้าทีวี เจ้าตัวหันกลับมามองหน้าดลก่อนจะยกมือไหว้

“สวัสดีครับพ่อ วันนี้กลับเร็วนะครับ”

“นี่ไม่ได้นัดไปเตะบอลหรือเล่นเทนนิสกับพวกเบนซ์เหรอ ปัน”

“วันนี้รีบกลับมาเคลียร์งาน่ะพ่อ หิวน้ำไหม ผมไปเอามาให้”

“ขอบใจ”

เจ้าตัวผลุบขึ้นจากโซฟาแล้วตรงดิ่งเข้าครัว นพดลปลดสายกระเป๋า วางมันลงบนโซฟา มือที่ถือซองจดหมายมากมายคลี่ออกมาดูขณะค่อยๆ หย่อนตัวลงบนโซฟา

“พ่อ นี่ครับ น้ำ”

“ขอบใจนะ” เขาว่า รับมันขึ้นมาดื่มขณะกวาดตามองจดหมายทั้งหลาย

หนี้บัตรเครดิตที่ต้องชำระภายในสิ้นเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟ ประกัน ใบปลิวโฆษณา มีแต่อะไรที่ไม่อยากจะดูทั้งนั้น

“เออ นี่ ปัน”

“หืม? อะไรครับ” เด็กหนุ่มถามขณะที่เริ่มมองหน้าจอคอมแล้วลงมือพิมพ์งานต่อ

“เรื่องรูปของแกกับโดนัทที่อยู่ในเฟสบุ๊คน่ะ”

ปัญญาชะงักไปในทันที รู้สึกกลัววาบขึ้นมา พ่อของเขาไม่ใช่คนที่เล่นโซเชียลมีเดียบ่อยอะไรขนาดนั้น หรือต่อให้เล่นก็จะเล่นพวกไลน์มากกว่า เขาจึงไม่นึกว่าพ่อจะเห็นรูปถ่ายพวกนั้น

“เพลาๆ ลงหน่อยดีไหมลูก”

ปัญญาหน้าร้อนขึ้นมาด้วยความรู้สึกผิดระคนไม่พอใจ แม้ว่าน้ำเสียงที่คนเป็นพ่อจะใช้ออกแนวขอร้องมากกว่าจะตำหนิก็เถอะ

“แล้วพ่อจะให้ผมเพลายังไงล่ะครับ ผมไม่ได้เป็นคนถ่ายภาพพวกนั้นสักหน่อย”

“อืม… ก็ ต่อหน้าคนอื่นลดๆ อาการหน่อยดีไหม ปัน เรื่องแบบนี้มันดูไม่ดี”

“ดูไม่ดี?” คราวนี้อารมณ์โกรธมากกว่าอารมณ์รู้สึกผิดแล้ว “แล้วถ้าเกิดโดนัทเป็นผู้หญิง พ่อจะพูดแบบนั้นรึเปล่า หรือที่พ่อพูดแบบนั้นก็เพราะเราเป็นผู้ชายทั้งคู่”

“ต่อให้โดนัทเป็นผู้หญิงพ่อก็จะพูด” เขาหันไปมองหน้าลูกชายตรงๆ “เรื่องแบบนี้มันดูไม่ดีทั้งนั้นแหละ พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพยายามโพสท์เรื่องส่วนตัวลงในโซเชียลน่ะ ลูกไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งมันอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายลูกได้”

“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้โพสท์!” ถึงตรงนี้ปัญญาก็โกรธแทบเต้น “คนอื่นเขาแอบถ่ายแล้วเอาไปโพสท์ทั้งนั้น แล้วอะไรที่มันจะมาทำร้ายตามที่พ่อพูด หือ? เรื่องที่ผมเป็นเกย์น่ะเหรอ? ป่านนี้คนเขารู้กันทั้งโรงเรียนแล้ว แล้วก็ไม่มีใครงี่เง่าสั่งห้ามไม่ให้ผมเป็นเหมือนพ่อด้วย!”

“ปัน!” เอาล่ะสิ ไอ้ลูกชายคนนี้ นี่ยังเห็นเขาเป็นพ่ออยู่ไหมเนี่ย “นี่พ่อพยายามเตือนอยู่นะ แล้วพวกครูๆ ในโรงเรียนลูกเขาไม่เห็นภาพพวกนี้เหรอ เขาไม่เตือน ไม่ว่าอะไรเลยรึไง?”

“ไม่” ปันตอบเสียงห้วน “ทุกคนเขาก็รับเรื่องนี้กันได้ทั้งนั้นแหละ ไม่เหมือนพ่อหรอก”

“ปัน แยกแยะหน่อยไหม ที่พ่อกำลังพูดเนี่ยไม่ได้เกี่ยวกับที่ลูกเป็นเกย์นะ”

“อ้อ เหรอครับ แล้วพ่อกำลังพูดอะไรล่ะ”

“พ่อกำลังบอกว่าลูกยังเป็นนักเรียน มีหน้าที่เรียนก็ควรตั้งใจเรียนไปก่อน เรื่องความรักน่ะเอาไว้ค่อยเรียนจบ หางานทำแล้วค่อยมีก็ได้ หรือถ้าชอบพอกับโดนัทจริงๆ ก็ห่างๆ กันไปบ้าง บอกน้องเขาว่ารอให้เรียนจบแล้วค่อยสานสัมพันธ์ก็ได้”

“ผมสงสัยจริงๆ ว่าพ่อหมายความตามนั้นจริงๆ หรือแค่เพราะว่าโดนัทเป็นผู้ชายแล้วผมก็เป็นผู้ชาย”

“ปัน--”

“ถ้าเราสักคนหนึ่งเป็นผู้หญิงพ่อจะยังพูดแบบนี้อยู่ไหม”

“พ่อจะพูด--”

“ถ้าพ่อจะอ้างแบบนั้น แล้วทีพ่อกับแม่ล่ะ! แม่ท้องผมตอนที่พ่อยังอยู่แค่ม.5ด้วยซ้ำ! แบบนั้นมันไม่แย่กว่าอีกเหรอครับ”

คนเป็นพ่อรู้สึกเหมือนโดนตีกลางแสกหน้าอย่างจังกับคำพูดนั้น ใบหน้าอ่อนกว่าวัยนั่นร้อนขึ้นมาด้วยความอายก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะสู้หน้าลูกชายไม่ติด

แม่ของเขา… ย่าของปันเคยเตือนเขาเรื่องนี้แล้ว ถ้าเราคิดจะสั่งสอนลูกในสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาดมา… ลูกจะชี้ในจุดนั้นได้และก็จะย้อนกลับมาแบบนี้แหละ

‘ทีพ่อยังทำแบบนั้นได้ ทำไมผมจะทำบ้างไม่ได้...’

เจ็บจนจุกเลยแฮะ แค่จะสั่งสอนลูกตัวเองยังยากลำบากขนาดนี้

“พ่อ…” หลังจากเงียบไปครู่ใหญ่ ปัญญาก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่ถึงอย่างนั้นนพดลก็ยังไม่กล้าสู้หน้าลูกชายตัวเองอยู่ดี “พ่อฮะ ผมขอโทษ… ผมไม่น่าพูดแบบนั้นเลย ผมขอโทษจริงๆ”

ปัญญาได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจยาวเหมือนเหนื่อยอ่อน นั่นทำให้เขาใจหาย รู้ตัวว่าได้ทำร้ายจิตใจบุพการีของตัวเองอย่างจัง สู้ให้พ่อเขาโกรธยังจะดีเสียกว่าถอนหายใจแล้วเงียบแบบนี้ มันทำให้เด็กหนุ่มใจคอไม่ดี

“พ่อ ปันขอโทษครับ ปัน… ปัน…”

“พ่อแค่ไม่อยากให้แกทำพลาดเหมือนพ่อ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาในที่สุดและปัญญาก็พยักหน้ารับทันที

“ผมเข้าใจครับ แต่รูปพวกนั้นมัน--”

“อืม พ่อเข้าใจแล้วล่ะ มันช่วยไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” เขาหันมามองทางนี้จนได้ และนั่นช่วยให้ปันรู้สึกโล่งอก “แต่ถ้าปันทำได้… พ่อก็อยากให้เพลาลงบ้าง พ่อรู้ว่าปันเรียนเก่งและคงไม่ทำให้พ่อผิดหวัง พ่อเชื่อใจปันได้ใช่ไหม”

“...ครับ” ตอบรับเสียงเบา

“งั้นก็ดีแล้ว”

ความเงียบเข้าครอบงำคนทั้งคู่อีกครั้ง ปัญญาสูดลมหายใจเฮือกพร้อมกับจ้องหน้าจอตรงหน้าเขม็ง ทำทีเป็นอ่านเนื้อหาด้านในและเริ่มลงมือทำงานต่อ ต่อให้จริงๆ จะไม่มีอะไรเข้าหัวตอนนี้เลยก็เถอะ

เสียงพิมพ์งานของลูกชายพอจะกอบกู้สถานการณ์ไว้ได้บ้างเล็กน้อย นพดลเดินไปหยิบกรรไกรมาจากชั้นวางของแล้วลงมือตัดขอบซองจดหมายเงียบๆ แต่แล้วเขาก็ต้องเลิกคิ้วให้กับซองสุดท้ายเมื่อเห็นว่ามันจ่าหน้าถึงใครและจากใคร เขายื่นมันให้เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างตัว

“เรื่องทุนของแกแน่ะ”

“จริงเหรอครับ!?” ปัญญาหันกลับมาทันที นัยน์ตาเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นจนน่าขัน เจ้าตัวรับมันมาถือ

“คิดว่านะ ลองเปิดดูก่อน” พูดพลางส่งกรรไกรให้

ปัญญารับมาเล็มที่ขอบด้านหนึ่งออกอย่างระมัดระวัง นพดลเองก็สนใจเหมือนกันว่าเจ้าตัวดีจะได้ทุนตามที่องอาจเคยพูดเปรยๆ ไว้รึเปล่า เพราะถ้าได้จริงก็คงจะดีไม่น้อย

“ดีจังเลย ผมกำลังคิดจะโทรไปถามลุงอาจคืนนี้อยู่พอดี”

“โชคดีนะที่มาพอดี” เขาว่าขณะกวาดตามองเนื้อหาในจดหมายฉบับอื่นๆ ดูหนี้สินที่ต้องชำระ สองพ่อลูกก้มลงมองจดหมายเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนคนลูกจะร้องตะโกนเสียงดังทำเอาคนพ่อสะดุ้งแทบตกจากโซฟาได้

นพดลหันกลับไปมองท่าทีดีอกดีใจเกินเหตุของเจ้าตัวที่แทบจะลุกขึ้นมาเต้นระบำ ยังไม่ทันเอ่ยปากถาม ปัญญาก็ยื่นจดหมายฉบับนั้นมาให้

“พ่อดูนี่! ทุนตัวนี้เขาจะจ่ายให้เป็นรายเดือนระหว่างที่ผมไปที่นู่นแหละ!”

นพดลรับกระดาษมาอ่านดูก่อนจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงไม่แพ้ลูกชาย เขาอ้าปากค้างอย่างไม่รู้ตัวในขณะที่ปัญญาเริ่มกระโดดโลดเต้นเย้วๆ เหมือนเด็กห้าขวบแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาบรรดาเพื่อนๆ ของเจ้าตัว และคนที่เขาบอกคนแรกก็หนีไม่พ้นโดนัท แต่นพดลงุนงงเกินกว่าจะมาจับผิดเรื่องนั้นได้

เขาอ่านเนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ปล่อยให้ตัวหนังสือเล็ดลอดไปจากสายตาสักตัวอักษรเดียว อ่านทวนซ้ำเป็นรอบที่สอง ที่สาม แต่เนื้อหาข้างในนั้นก็ยังไม่เปลี่ยน

สิ่งที่ปัญญาจะได้รับก็คือทุนการศึกษารายเดือนในตัวเลขหลักหมื่นระหว่างที่เจ้าตัวไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศเป็นระยะเวลาสิบเดือน เป็นทุนให้เปล่าเหมือนกับที่ปันเคยได้มาตลอด

ดลเหลือบไปมองลูกชายที่กำลังยิ้มจนปากจะฉีกไปถึงหูแล้วหันกลับมามองจดหมายในมืออีกครั้ง เหงื่อตก ตัวเลขที่จะได้แต่ละเดือนอาจจะไม่มากขนาดคลอบคลุมทุกอย่างให้ปัญญาได้ก็จริง แต่มันก็มากเกินไป… เกินกว่าที่จะมายกให้กันง่ายๆ โดยไม่ทวงคืนในภายหลัง

เขาเคยเห็นทุนหลายรูปแบบจากที่เคยตามหาในอินเตอร์เน็ต แต่ส่วนมากเป็นแบบที่คนได้ทุนไปต้องใช้คืนหลังเรียนจบและเริ่มทำงานแล้วทั้งนั้น ซึ่งเขาก็คิดว่ามันก็ยุติธรรมดีและเข้าใจได้ แต่ไอ้ทุนให้เปล่าทุกเดือนหลักหมื่นนี่มัน…

“พ่อ! งั้นแบบนี้ผมก็ไปอเมริกาโดยไม่ต้องห่วงเรื่องเงินแล้วใช่ไหมครับ? ผมจะส่งจดหมายไปยืนยันกับทางโครงการแล้วนะว่าจะไปจริงๆ”

“อะ… อื้อ” เขาตอบรับ ในใจคิดว่าจะไปถามรายละเอียดเรื่องทุนตัวนี้จากองอาจเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง และถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลและเขาจำเป็นต้องปฏิเสธทุนตัวนี้ เขาก็จะหาทางส่งปันให้ได้จนได้อยู่ดี เพียงแต่เขารู้สึกไม่สบายใจกับเงินที่จะได้มาฟรีๆ นี้อย่างไรพิกล

“งั้นผมไปเขียนใบตอบรับกับเตรียมเอกสารก่อนนะ”

“นี่แกยังไม่ได้เตรียมอีกเรอะ!” นพดลโวยวายไล่หลังคนที่วิ่งขึ้นห้องไปทั้งๆ อย่างนั้น “ก็บอกตั้งแต่คราวนู้นแล้วไงว่าฉันส่งแกได้น่ะ!”

ไอ้ตัวแสบปิดประตูห้องเสียงดัง ดลถอนหายใจออกมาอีกเฮือก ยกมือเกาหัวอย่างคนคิดไม่ตก

บางทีถ้าตัวเขาเองมีเงินมากกว่านี้ เขาคงไม่ต้องมานั่งสองจิตสองใจเรื่องทุนนี่ ไม่ต้องนั่งกังวลว่าลูกชายเขาจะพลอยคิดมากเรื่องเงินเข้าไปด้วย

นพดลเองก็หวังว่าตัวเองจะทำได้ดีกว่านี้… เป็นพ่อที่ดีกว่านี้

เขาสงสัยว่าคนที่มีลูกทุกคนจะคิดเหมือนกันกับเขารึเปล่า





------------------------------------------
Talk: โดนัทเป็นหนุ่มยันค่ะ 5555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
คนให้ทุน กับ ดล น่าจะมีซัมติงรองกันมาก่อนมั้ง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทำไมโดนัท ไม่ตอบปันว่าพี่สาวร้ายหรือเปล่า
โด ไม่น่ายอมเป็นเหยื่อนางมารคิตตี้เลย
ต้องโดนนางมารขูดไปเรื่อยๆแน่

ให้สงสัย ที่ว่าดลพลาดทำสาวท้อง
สาวนั่นท้องกับคนอื่นก่อนที่จะมีอะไรกับดลหรือเปล่า
คนนั้นรู้ และตามติด แล้วคอยช่วยเหลือห่างๆ /มโนแจ่มเอง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เรื่องทุนมันก็ดูจะแปลกๆอยู่ดี

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
มีปมใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เลย
หวังว่าโดนัทคงไม่ถึงกับโรคจิตนะ

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
แปลก

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เรื่องนี้คิดว่ามีคนเล็งพ่ออยู่
จะใครล่ะ คนให้ทุนไงงง

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
ปมเยอะขึ้นเรื่อยๆละ เริ่มกลัวแล้วเนี่ย  :confuse: :confuse:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ greenoak004

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนหน้าเขียนให้ยัยคิตตี้เดินตกคลองตายไปเลยได้มั้ย เกลียดคนแบบนี้อ่ะ

ปล.เราเองยังสับสนระหว่างซินเดอร์เรลล่ากับสโนไวท์เลย เพราะงั้นไม่แปลกถ้าปันจะสับสนด้วย 555

ออฟไลน์ MimoreQ

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ทุนอะไรรร น่าสงสัย ชอบมากค่ะ รอต่อนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด