ทำไงดี ลูกผมเป็นเกย์ [ตอนพิเศษ 1] P.13 [16/09/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไงดี ลูกผมเป็นเกย์ [ตอนพิเศษ 1] P.13 [16/09/2018]  (อ่าน 64916 ครั้ง)

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
เคยสับสนนะสโนไวท์มีรองเท้าแก้ว ไม่คิดจะได้อ่านในเนื้อเรื่องด้วย  อิอิ พ่อดลเจอคู่ก็คราวนี้ล่ะ เจ้าของทุนการศึกษาอะเนอะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ทุนน่าสงสัยมากจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ ผ้าห่มอุ่นๆ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รู้สึกทะแม่งๆกับทุน :hao4:
พ่อกะลูกนี่จะได้ยังไง ลุ้นมาก :hao6:
ชอบมากเลย สู้ๆนะ :3123:

ออฟไลน์ Airiณ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 8




“เอ้า ทุกคน ไอ้ปันมันจะทิ้งพวกเราไปต่างประเทศแล้วนะเว้ย มากรวดน้ำคว่ำขันขอให้ไม่เจอหน้ามันกันอีกเร็ว”

“เฮ้!”

“เฮ้ย เดี๋ยวๆๆ ไอ้ปากหมาเบนซ์ หุบปากเลยมึง” ปัญญาที่นั่งอยู่ท่ามกลางวงของเพื่อนๆ แสร้งโวยวายขึ้นมาเรียกเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ รวมทั้งคนที่โดนด่าด้วย เบนซ์หันกลับมายิ้มให้พร้อมกับรินน้ำสีอำพันใส่แก้วของเพื่อนข้างตัว ปัญญายกมันขึ้นมาถือและได้กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาแตะจมูก เขาไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้บ่อยเท่าไร แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนและทุกคนกินกันเขาก็ไม่เกี่ยง

“ล้อเล่นน่าเพื่อนรัก จะได้ไปต่างประเทศทั้งทียังไงเราก็ดีใจด้วยอยู่แล้ว”

“เออ แต่แกได้ทุนต่างหากด้วยใช่ไหม” จูนที่ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่กินเหล้าและถือแก้วน้ำพันช์แทนเอ่ยถามขึ้น ตอนนี้พวกเขานั่งกันอยู่บนพื้นบ้านของเบนซ์ที่ค่อนข้างกว้างขวาง มีเพื่อนคนอื่นๆ มาร่วมวงด้วยไม่ต่ำกว่าสิบคน และของกินมากมายที่แต่ละคนเอามาก็เรียงรายเต็มโต๊ะ ใครอยากจะกินอะไรก็ไปบริการตัวเองได้ “โคตรน่าอิจฉาอ้ะ ทำไมกูไม่ฉลาดให้ได้แบบมันบ้างวะ จะได้ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศบ้าง”

“มึงอยากได้ทุนก็รอสมัครตอนจะเข้ามหาลัยสิ” ปันว่าขณะจิ้มไส้กรอกในจานเข้าปากเคี้ยวหงุบหงับ “กูเคยลองหาข้อมูล มีให้เลือกออกเยอะแยะ มึงอยากไปยุ่นไม่ใช่เหรอ ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นไง”

“เออ กูรู้จักพี่คนที่ได้ทุนที่ว่าด้วย” เพื่อนอีกคนหนึ่งของเขาว่า “แต่เห็นเขาบอกว่าโหดอยู่ ถ้ามึงอยากได้ต้องรีบอ่านหนังสือติวตั้งแต่ม.4 ม.5 แล้ว”

“ห่า ทุนเหี้ยอะไรวะ ถ้าจะยากขนาดนั้นก็ไม่ต้องมีใครเอาแล้ว” อีกคนตอบโต้

“สัส อย่าว่าแต่จะเอาทุน แค่เข้ามหาลัยธรรมดายังไม่รู้จะเข้าได้ไหม ว่าแต่พวกมึงอยากเข้าอะไรกันวะ”

“กูอยากเรียนทันตะว่ะ”

ปัญญาละสายตาจากเพื่อนๆ ในกลุ่มเมื่อเห็นเด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้กำลังก้าวเท้าเดินลงจากบันไดมา บัน น้องชายของเบนซ์ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอมือถือในมือ และเมื่อเดินลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้ายเจ้าตัวก็ยกมือไหว้สวัสดีรุ่นพี่ทุกคนพร้อมกับเดินไปที่โต๊ะเตรียมหาอะไรกิน ปันเดินตามอีกฝ่ายไปเพราะตั้งใจจะไปตักอะไรมาเพิ่มด้วยเลยถือโอกาสชวนอีกฝ่ายคุย

“ไง บัน”

“สวัสดีฮะ พี่ปัน ช่วงนี้ไม่ค่อยมาเลยนะครับ”

“ยุ่งๆ น่ะ แต่เดี๋ยวอาจจะต้องมาตอนทำรายงานอีก แล้วนี่บันเป็นไง ช่วงนี้เรียนหนักไหม”

“เหมือนเดิมแหละครับ เรื่อยๆ ถ้าผมมีอะไรไม่เข้าใจอาจจะต้องให้พี่ปันช่วยสอนอีก”

“พี่ชายตัวเองก็มี” เขาพูดกลั้วหัวเราะ

“โหย รายนั้นเอาตัวเองยังไม่รอดเลย”

“ไอ้ห่าบันนินทาอะไรกู” คนเป็นพี่ตะโกนมาจากอีกฟากของห้อง แหม หูมันดีจริงๆ

“เออ พี่ปัน”

“หืม ว่าไงครับ” ถามทั้งๆ ที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากการเลือกสรรอาหารใส่จานกระดาษ ใช้จานแบบนี้น้าแหม่ม แม่ของไอ้เบนซ์จะได้ไม่ต้องลำบากล้างจานเก็บกวาดให้ยุ่งยาก

“ผมชวนไอ้โดนัทมานี่ด้วยนะ”

“อ้อ เหรอ อืม… เฮ้ย!”

ปัญญาหันกลับไปมองน้องชายเพื่อนที่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ชูมือถือที่ค้างหน้าจอไลน์ขึ้นมาให้ดู “มันบอกมันจะมาถึงเร็วๆ นี้แล้ว ดีใจไหมพี่”

“ดีใจเหี้ยอะไร” ลนลานจัดจนเผลอหลุดคำหยาบออกมาจนได้ เขาไม่ค่อยอยากใช้คำไม่สุภาพกับรุ่นน้อง แต่ตัวเองก็สนิทกับบันพอๆ กับที่สนิทกับเบนซ์จึงมีเผลอหลุดบ้าง “ทำอะไรของเอ็งเนี่ย ไอ้บัน แล้วนี่ก็มีแต่พวกรุ่นพี่ทั้งนั้น โดมาเขาจะไม่อึดอัดเหรอ”

“อึดอัดอะไรพี่ ผมก็อยู่ พี่ก็อยู่”

“...มันก็ใช่หรอก” พอได้ยินว่าโดนัทจะมาปัญญาก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานิดๆ เหมือนกัน ถึงจะกังวลนิดหน่อยว่าเจ้าตัวจะไม่ชินกับเพื่อนๆ เขาเท่าไรก็เถอะ



ไม่ถึงสิบนาทีต่อมาเด็กหนุ่มหน้าหวานก็มาอยู่ที่หน้าบ้านเบนซ์จริงๆ บันเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายที่พอก้าวขาเข้ามาก็รีบยกมือไหว้รุ่นพี่อย่างรวดเร็ว จูนเริ่มหันไปเจ้ากี้เจ้าการบอกให้คนอื่นๆ ขยับขยายพื้นที่เตรียมให้ผู้มาใหม่เข้ามาร่วมวง แถมยังรู้งานให้เป็นที่ข้างๆ ปัญญาอีกด้วย จะว่าซึ้งใจก็ซึ้งใจนะ แต่ไม่ต้องชัดขนาดนี้ก็ได้มั้ง แค่นี้คนก็แซวกันฉิบหายวายป่วงล่ะ

“เฮ้ย เมียไอ้ปันมาได้ไงเนี่ย มาคุมผัวไม่ให้ดื่มหนักเหรอจ๊ะ” คิว เพื่อนเขาคนหนึ่งที่ดื่มจนหน้าดำหน้าแดงเริ่มแผลงฤทธิ์ ปัญญาเลยหันไปถลึงตาใส่คนพูดขณะที่คนโดนแซวเริ่มก้มหน้างุดๆ

“หุบปากเลยไอ้คิว ห่า อย่าแกล้งน้องได้ไหม เดี๋ยวปั๊ดถีบออกนอกวง”

“อุ๊ย มีปกป้องกันด้วยนะ”

“พอแล้วน่าคิว น้องเพิ่งมาเดี๋ยวก็หนีกันหมดพอดี” จูนเข้ามากอบกู้สถานการณ์ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้อีกฝ่าย “อยากกินอะไรก็ไปตักได้เลยนะครับ แล้วนี่ใครเอาแก้วให้น้องหรือยัง”

“ดื่มเบียร์ไหมนัท” เบนซ์ผู้เป็นเจ้าบ้านหันมาถาม ปัญญารีบออกหน้าทันที

“น้องยังเด็ก ดื่มไม่ได้ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ”

“ห่า ยังกะมึงบรรลุแล้ว ดื่มไปกี่แก้วแล้วนั่น”

“ไม่ได้ๆๆ” ส่ายหน้ารัวๆ ขณะรินน้ำส้มใส่แก้วให้โดนัทแทน “โดดื่มนี่นะ อย่าไปฟังพวกแม่ง”

“ให้น้องกินน้ำนางเอกเหรอมึง”

“ไอ้ปัน มึงถามน้องเขาหรือยังว่าเขาโอเคไหม โคตรมัดมือชก ถ้าเขาอยากกินเบียร์ก็ให้แดกๆ แม่งไปเหอะ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ชอบกินเบียร์เท่าไร” เจ้าตัวรีบว่า “น้ำส้มก็ได้แล้วครับ”

“พูดแบบนี้แปลว่าเคยกินเหรอ”

“เคยสิครับ” เจ้าตัวทำหน้ายู่ “ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนะ”

“ลองอะไรไม่เข้าท่า” ปัญญาที่ซัดเหล้าเข้าไปจนกรึ่มได้ที่เอื้อมมือไปหยิกแก้มรุ่นน้องข้างตัวอย่างมันเขี้ยว “เป็นเด็กเป็นเล็ก รอให้อายุถึงก่อนค่อยกินก็ได้ เหล้าเนี่ย ไม่ต้องรีบผิดศีลข้อที่ห้าเร็วนัก”

“โง้ย…” โดนัทครวญขณะที่อีกฝ่ายยืดแก้มเขาเรื่อยๆ และเมื่อปันปล่อย เจ้าตัวก็ยกมือลูบแก้มเบาๆ “หูย พี่ปันก็พูดเกินไปครับ ผมอ่อนกว่าพี่ปีเดียวเอง”

“อ่อนกว่าก็ต้องเชื่อฟังสิ”

“เอ้า เอาเข้าไป มึงเป็นพ่อน้องเขาเหรอวะ” เบนซ์ว่าขณะเริ่มลงมือผสมเหล้าให้ตัวเองและคนอื่นๆ เพื่อนเขาที่มาเที่ยวบ้านบ่อยกำลังหากิจกรรมทำกันอย่างอิสระ ไอ้สามตัวนั่นเริ่มไปเปิดเครื่องคาราโอเกะและยึดไมค์กันแล้ว บางคนตรงเข้าไปห้องเล็กที่แยกไว้อีกห้องซึ่งมีสารพัดเครื่องเกมที่เชื่อมต่อกับทีวี อีกกลุ่มเดินออกไปสวนหน้าบ้านเขาแล้วเม้ามอยเรื่องนั่นนี่อย่างออกรส นี่เป็นเรื่องปกติเวลาจัดปาร์ตี้ย่อมๆ ที่บ้านเขาล่ะนะ ปัญญาเคยคิดเหมือนกันว่าน้าแหม่มแม่เบนซ์ช่างใจดีเหลือเกินที่เปิดบ้านแบบนี้ ถ้าเป็นพ่อเขานี่… อืม เอาเป็นว่าไม่ใจดีแบบนี้แน่ล่ะ

 หลังจากที่เริ่มกระจายตัวกันไปครู่ใหญ่ เสียงกีต้าร์ที่เจ้าบ้านนำมากรีด ร้องเพลงสลับก็เริ่มดึงคนให้กลับมารวมกลุ่มกันได้อีกครั้งแม้จะไม่ครบจำนวนก็ตาม เบนซ์ส่งกีต้าร์โปร่งให้จูนที่เอ่ยปากขอเล่นเพลงต่อไปบ้าง ปัญญาที่คุยกับเพื่อนอีกคนอย่างออกรสเรื่องผลฟุตบอลก็หันกลับมาให้ความสนใจกับรุ่นน้องที่ผละออกจากบันมาได้ในที่สุด เมื่อเห็นหน้ารุ่นพี่ โดนัทถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที

“พี่ปัน! ทำไมหน้าพี่แดงขนาดนั้น ดื่มหนักขนาดนั้นเลยเหรอ พี่โอเคไหมครับเนี่ย”

“หา?” เจ้าตัวยกมือแตะหน้าของตัวเอง ก็ไม่ได้ร้อนขนาดนั้นสักหน่อย “หน้าพี่แดงเหรอ มากไหม”

“มากครับ” พูดด้วยสีหน้าที่ยังตกใจไม่หายก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นยิ้มขัน “พี่ปัน บอกห้ามคนอื่นไม่ให้กินแต่ตัวเองกินซะ… กลิ่นเหล้าหึ่งเลยเนี่ย ดื่มมากไปก็ไม่ดีนะพี่”

“อะไร เข้าใจผิดเปล่า แน่ใจนะว่ากลิ่นมาจากพี่” พูดพลางดึงตัวอีกฝ่ายมากอดแนบอก โดนัทเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ ใบหน้าขึ้นสีอย่างรวดเร็วราวกับมีใครเอาสีแดงมาสาด หัวใจเต้นแรงจนแทบจะระเบิด และเพราะเห็นสายตาของเพื่อนจับจ้องมาอย่างล้อเลียนเจ้าตัวก็เริ่มดิ้นตัวพร้อมกับพูดอึกอัก

"จะกลัวทำม้าย" เจ้าตัวหัวเราะร่วนแต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนออกอย่างว่าง่าย "คนอื่นเขาก็รู้กันหมดแล้วอยู่ดี แต่เอาเถอะ ครั้งนี้ยอมปล่อยไปก่อนก็ได้"

"ครั้งนี้เหรอครับ..." โดนัทพูดอย่างไม่ไว้ใจ ปัญญาเริ่มหันไปให้ความสนใจกับการแสดงของเพื่อนที่คนกลุ่มใหญ่กำลังรุมล้อม เจ้าตัวตะโกนบอกให้จูนเปลี่ยนเพลงที่กำลังเล่นเพราะอยากร้อง เด็กสาวสวนกลับมาว่าเล่นเพลงดังกล่าวไม่เป็นพร้อมกับท้าให้ปันเล่นเอง ทำเอาคนอื่นๆ หันมาร้องห้ามแทบไม่ทัน

"อย่าให้ไอ้บ้านี่ได้แตะกีต้าร์หรือเปล่งเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียวนะมึง"

"ไจแอนท์กลับชาติมาเกิดชัดๆ"

"เสียงหลงยังกับควายออกลูก"

"สัส! พวกมึงแม่งปรักปรำกู" คนที่มีสติครึ่งๆ กลางๆ โวย "เสียงกูไม่ได้แย่ขนาดนั้นโว้ย"

"ไม่จริงอ้ะ!" บรรดาเพื่อนร่วมห้องที่อยู่ด้วยกันมานานสวนกลับมาแทบจะทันที เรียกเสียงหัวเราะรอบตัวอีกครืนใหญ่

"ไอ้ห่านี่แม่งทำอะไรก็ดีไปหมด ยกเว้นทางด้านดนตรีนี่แหละ โคตรดับ"

"สาด พวกมึงอย่าเผากูต่อหน้าโดสิวะ"

"โห่" ตามมาด้วยเสียงโห่แซวกันอีกยก พูดเล่นกันจนพอใจแล้วคนกลุ่มใหญ่ถึงกลับไปให้ความสนใจกับการแสดงดนตรีสดตรงหน้าต่อ ในขณะที่ปัญญาเริ่มตาปรือลงเรื่อยๆ เพราะเหล้าเริ่มออกฤทธิ์ รู้ตัวอีกทีเขาก็เลื้อยไปแถวๆ บ่าของรุ่นน้องข้างตัวแล้ว โดนัทเอื้อมมือมาลูบผมเขาก่อนจะกระซิบที่ข้างหูเสียงนุ่ม

"ง่วงแล้วเหรอครับ พี่ปัน หลบเข้าไปนอนพักหน่อยไหม"

เขาพึมพำตอบรับไปโดยไม่รู้ตัว โดนัทพาเขามาหลบที่ห้องเล็กที่พวกเพื่อนๆ ใช้เล่นเกมจนถึงเมื่อกี้ แต่ตอนนี้มันว่างเปล่าไร้ผู้คน ปัญญานั่งลงบนโซฟา ยกมือขยี้ตางงๆ ขณะโดนัทหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง

"ผมอยากจะพูดแบบนี้กับพี่ก่อน แต่เดาว่าเพื่อนๆ พี่คงชิงตัดหน้าพูดไปก่อนแล้ว ยินดีด้วยนะครับที่จะได้ไปแลกเปลี่ยน นี่ของขวัญจากผม"

ปัญญามองสร้อยข้อมือสีเงินที่อีกฝ่ายคล้องรอบข้อมือข้างขวาของเขาด้วยหัวใจที่พองฟูขึ้นเรื่อยๆ และทันทีที่เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานให้ ปัญญาก็คว้าไหล่ของรุ่นน้องแน่นพร้อมกับก้มหน้าลงไปเบียดริมฝีปากของตัวเองลงบนกลีบปากของอีกฝ่าย

โดนัทเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ พยายามดิ้นหนีจากสัมผัสนั้นในครั้งแรกเพราะไม่ทันตั้งตัว หากวินาทีต่อมาเขากลับปล่อยให้อีกฝ่ายจูบลงมาแบบนั้น อะไรบางอย่างบอกเขาว่านี่เองก็เป็นจูบแรกของรุ่นพี่ตรงหน้าเหมือนกัน เพราะมันดูเรียบง่าย ไม่มีประสบการณ์ เขาเองก็เหมือนกัน

เขาปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้ความหวานอุ่นซ่านขึ้นในโพรงปากตามที่อีกฝ่ายค่อยๆ แตะลิ้นลงมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ มือที่บีบไหล่เขาแน่นค่อยๆ คลายลง กลายเป็นเขาเองที่จิกแขนปันแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อจากนั้น เสียงเปิดประตูบานเลื่อนอย่างรวดเร็วก็ทำให้โดนัทที่มีสติมากกว่าผลักไหล่รุ่นพี่ออก เขาหันกลับไปมองบันที่จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าอึ้งๆ

"เอ่อ คือ พี่ปัน พ่อพี่มารับแล้วครับ"

"อะ อื้อ ขอบใจนะบัน" ปัญญาว่าด้วยสีหน้าที่แดงก่ำไปจนถึงหู เขาลุกขึ้นพรวดออกจากโซฟา หันมาล่ำลารุ่นน้องอีกคนที่เพิ่งขโมยจูบไป "งั้น... ไปก่อนนะ โด แล้วคุยกัน"

"อื้อ สวัสดีครับพี่ ฝันดีฮะ"

นั่นแหละปัญญาถึงได้รีบเผ่นไปหาพ่อที่รออยู่หน้าบ้านได้

โว้ย... นี่เขาเมาหนักจนทำอะไรขาดสติขนาดนั้นลงไปได้ยังไงโว้ย!



บันเหลือบมองเพื่อนข้างตัวหลังจากที่รุ่นพี่อีกคนกลับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว เห็นใบหน้าที่ยังติดแดงระเรื่อ นัยน์ตากลมโตหลบลงต่ำแบบนั้นลงแล้วอดไม่ได้ ต้องถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

"มึงกับพี่ปันคบกันแล้วเหรอวะ"

"เปล่า ก็... ยัง"

"มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้กำลังโดนเขาปั่นหัวอยู่"

"พี่ปันไม่ใช่คนแบบนั้น"

"เออ เท่าที่กูรู้จักพี่ปันมา เขาก็ดูไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก แต่อะไรที่มันไม่ชัดเจนน่ะ อันตรายนะมึง ไปคุยกับเขาตรงๆ เลยไหมว่าเรื่องระหว่างเขากับมึงมันยังไง"

"พี่ปันไม่ชอบอะไรรวบรัดหรอก"

"เออ ก็คงงั้น แต่เขากำลังจะไปแลกเปลี่ยนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า กลับมาก็เตรียมเข้ามหาลัย จบม. ปลายแล้วก็แยกย้ายกันไป มึงแน่ใจนะว่าทุกอย่างจะยังโอเคเมื่อถึงตอนนั้น"

"ห่าบัน หุบปากเลย"

"กูพูดจริงๆ นะ โดนัท ไม่อยากให้มึงเจ็บทีหลัง มึงเองก็รอพี่เขามานานแล้วไม่ใช่รึไง ถึงเวลาต้องทำอะไรเองบ้างแล้วม้าง"

โดนัทไม่ตอบ หากในหัวคิดตามสิ่งที่เพื่อนพูดและพยักหน้าเห็นด้วยในใจเงียบๆ เขารู้อยู่แก่ใจมาก่อนแล้วว่าคนอย่างปัญญาคงไม่ยอมสารภาพรักหรือขอเขาคบง่ายๆ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ว่าเขาจะตอบรับ แต่ในเมื่อเขาแสดงออกชัดเจนและยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้ แถมยังไอ้จูบที่ดูเหมือนข้ามขั้นตอนเมื่อกี้นั่นอีก บางทีเขาควรเริ่มลงมือทำอะไรตามที่บันบอกจริงๆ นั่นแหละ







"ไอ้ปัน เอ็งเดินให้มันตรงทางหน่อยได้ไหมวะ แล้วนี่ใครสั่งใครสอนให้แดกเหล้าเยอะแบบนี้ นี่กินหรือลงไปอาบ"

"อือ พ่อ เงียบหน่อยได้ไหม" พ่อตัวดีที่ยกแขนพาดบ่านพดลอยู่งึมงำขณะก้าวเท้าขึ้นบันไดบ้านที่อีกฝ่ายพยายามลากขึ้นไป "ปันปวดหัวนะ"

"สมควรให้ปวดหัวตายไปเลย นี่ ก้าวเท้าสิไอ้ปัน แกคิดว่าตัวเองเบานักเหรอ รีบๆ เดินหน่อยได้ไหมจะได้ถึงห้องสักที"

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง นพดลก็กึ่งลากกึ่งเหวี่ยงลูกชายตัวแสบไปนอนแผ่บนฟูกเตียงพร้อมกับถอนหายใจเฮือกอย่างเหนื่อยอ่อน ปันน้ำหนักตัวเยอะกว่าเขา แถมยังสูงเก้งก้างทำเอาปวดบ่าไปหมด ชายหนุ่มมองคนที่นอนแผ่บนเตียงแล้วเตรียมจะผละออกจากห้อง แม้จะไม่อยากให้เจ้าตัวนอนทั้งๆ ที่ยังไม่อาบน้ำ แต่ก็รู้ว่าคงไม่สามารถลากมันไปอาบได้แน่ ทันใดนั้นเองคนบนเตียงก็คว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อเขา ดลหันกลับไปมองงงๆ

"พ่อ... ปันจะไปเมกาแล้วนะ"

"เออ รู้แล้ว แกบอกแล้วนี่ว่ายื่นใบตอบรับไปแล้วน่ะ"

"ปันไปแล้วพ่อจะเหงาไหมฮะ"

อารมณ์ไหนของมันเนี่ย มาอ้อนแบบนี้ "แกไปแค่สิบเดือนเอง ไอ้ปัน อย่ามาดราม่า"

"มันก็ใช่ฮะที่ผมจะไปแค่แป๊บเดียว แต่..." เจ้าตัวพึมพำ "เราไม่เคยแยกกันนานๆ เลยนี่นา ผมว่าผมต้องคิดถึงพ่อมากแน่เลย"

โอ๊ย เด็กบ้าเอ๊ย โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วยังจะมาอ้อนอยู่อีก ...ถึงจะน่ารักดีก็เถอะ

"เอาน่า คิดถึงก็คอลไลน์มาหาได้ สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวกระโดดจะตาย เลิกอ้อนแล้วก็นอนได้แล้ว พรุ่งนี้หัวดับแน่แกเอ๊ย แดกเหล้าจนหมดสภาพขนาดนี้"

"พ่อ... เตรียมยาให้ปันด้วยนะ" ก็ยังทำเสียงอ้อนไม่เลิก เออ หรือว่าลูกเขาพอเมาแล้วจะชอบทำตัวงุ้งงิ้ง?

"ฝันดีนะปัน พ่อจะไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน" ชายหนุ่มพูดทิ้งท้าย และคราวนี้ไม่มีอะไรตอบกลับมาเพราะเจ้าตัวแสบสลบไปแล้ว

นพดลเอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมสีดำสนิทที่ปรกหน้าผากของลูกชายอย่างรักใคร่ จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้องเงียบๆ





หลังจากจัดการเอาลูกชายที่เมาแทบไม่ได้สติกลับบ้านและส่งขึ้นเตียงได้ นพดลก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวกลับมาที่ห้องนอนที่มีเตียงใหญ่ที่มีเตียงสำหรับสองคน มันยังเป็นเตียงหลังเดิมที่เขาเคยใช้นอนกับมิ้นต์ ภรรยาที่เสียไปแล้วของเขา ไม่คิดจะเปลี่ยนใหม่ด้วยเพราะไม่เห็นความจำเป็น และถึงเขาจะอยู่คนเดียวแต่การได้นอนเตียงกว้างๆ ก็สบายดี

ดลเปิดโน้ตบุ๊คของตัวเองขณะกางเอกสารเกี่ยวกับทุนที่ปัญญาได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขากวาดตาอ่านสัญญาที่อยู่ในนั้นอีกครั้งอย่างละเอียดทุกแผ่น โดยเฉพาะเจ้าทุนตัวใหม่ที่ลูกชายของเขากำลังจะได้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่เจอจุดโหว่ตรงไหนที่จะย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้ในตอนหลังเลย

รายละเอียดทุกอย่างรัดกุม และคนที่ได้ประโยชน์ก็คือลูกชายเขาเต็มๆ

นพดลควรจะสบายใจกับเรื่องนั้น แต่ไม่รู้ทำไม เขากลับรู้สึกว่าทุกอย่างนี่มันง่ายไปหน่อย และมันทำให้เขารู้สึกไม่ดีเลย

หรือว่าเขาจะคิดมากไป?

ชายหนุ่มเริ่มลงมือหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับทุนตัวนี้และบริษัทที่เป็นผู้ให้ทุน แต่เขาแทบไม่เจออะไรที่มีประโยชน์เลย หน้าโฮมเพจของตัวบริษัทเองก็โล่งโจ้งจนแทบไม่มีอะไร อาจจะเป็นเรื่องปกติของบริษัทเล็กๆ แต่แบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยอธิบายอะไรให้เขาเลย

สงสัยคงต้องหาตัวช่วย… เขาเองก็ไม่เก่งกับการขุดหาข้อมูลหรืออะไรแบบนี้เหมือนกัน และแล้วเขาก็นึกถึงใครที่น่าจะพอช่วยได้ขึ้นมา

ชายหนุ่มต่อสายโทรศัพท์ไปยังเพื่อนสมัยเรียน ปลายสายรับในกริ่งที่สามขณะกรอกเสียงเข้ามาทักทายอย่างร่าเริง

“ฮัลโหล สวัสดีดล ไม่ได้คุยกันตั้งนาน เป็นไงบ้าง”

“ไง เกรซ” เขายกยิ้มขึ้นนิดๆ เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนสาวที่เขาเพิ่งไปงานแต่งมาเมื่อห้าปีก่อน จะว่าไป เขาก็ห่างหายเพื่อนๆ ไปนานเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าไม่ใช่ว่ามีงานสำคัญๆ อย่างงานแต่งหรืองานเลี้ยงรุ่น เขาก็แทบไม่เจอใครเลย “โทษทีนะที่อยู่ๆ ก็โทรมา ว่าแต่เธอกับสามีเธอ… คุณสนน่ะ ยังทำงานเป็นนักสืบเอกชนอยู่ไหม”

“ทำสิ ไม่ทำแล้วจะเอาอะไรกิน” หล่อนหัวเราะเสียงใส มีเสียงแว่วๆ ของชายหนุ่มอีกคนดังลอดมาจากโทรศัพท์ ดลเดาว่าคงเป็นสามีคนที่เขากำลังพูดถึงนั่นแหละ “ทำไมจ๊ะ อยากให้ช่วยอะไร ตามหาแมวหาย หมาหาย เมียมีชู้… แต่นายยังไม่ได้แต่งงานใหม่นี่หว่า ถูกมะ?”

“เอ่อ เปล่า ไม่ได้แต่ง”

“ก็ว่างั้น… นี่ นายจะมัวแต่อาวรณ์อดีตไม่ได้นะ เพื่อน ไปหาสาวใหม่มาได้แล้ว ปันจะได้มีแม่ใหม่ด้วยไง” ก็ไอ้แบบนั้นน่ะสิที่จะทำให้บ้านแตก “เออ แล้วนี่น้องปันลูกนายอายุเท่าไรแล้วเนี่ย ป่านนี้คงโตเป็นหนุ่มแล้วสิ”

“ปีนี้ 17 แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน ช่วยฟังหน่อยได้ไหม ฉันมีเรื่องอยากให้เธอกับคุณสนช่วยตามดูให้หน่อย”

“อ้อ เอาสิคะ ว่ารายละเอียดมาเลย เดี๋ยวจะคิดค่าบริการให้เป็นพิเศษ”

นพดลจึงจัดแจงเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เพื่อนฟังก่อนจะตบท้ายว่า “แค่อยากให้ช่วยดูหน่อยว่าตกลงทุนนี้มันยังไงกันแน่ แล้วมีคนอื่นได้อีกไหม ทางนั้นจะไม่ตุกติกอะไรแน่ๆ รึเปล่า”

“อืม โอเค งั้นพรุ่งนี้นายส่งรูปถ่ายเอกสารพวกนั้นมาหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวเราช่วยดูให้”

“ขอบใจนะ”

“แต่นายนี่ก็แปลกนะ ทั้งๆ ที่มั่นใจว่าสัญญามันรัดกุม เงินก็ได้มาฟรีๆ ยังจะระแวงอีก”

นพดลลอบถอนหายใจนิดหนึ่งก่อนจะพูดอย่างคนที่มองโลกตามความเป็นจริง “ก็เพราะฉันรู้ดีไงว่าในโลกนี้มันไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ น่ะ”





-----------------------------------------------
Talk: ก็ยังจะอุตส่าห์มีปมสืบสวนเนอะ ชอบเหลือเกินเล่นเป็นนักสืบเนี่ย 5555555 เนื้อเรื่องซีเรียสขึ้นตามลำดับค่ะ ใครยังสู้ไหวก็ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ อิอิ >3<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2017 19:58:50 โดย Airiณ »

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เริ่มละ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ก็น่าระแวงอยู่หรอก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ไอ้เว็บเพจโล่งโจ้งนี่น่ากลัวมากค่ะ

ออฟไลน์ b2uty_pang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ลุ้นนน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดูๆ ไม่น่ามีอะไรตุกติกนะ
แต่อย่างว่าเพื่อความสบายใจ
สืบไว้ก่อน เป็นการไม่ประมาท

ปัน โด ก็ยังไม่คบกัน
แต่อย่างบันว่า คบกันก็บอกกันให้ชัดเจนดีกว่า
แต่เหมือน มันจะมีดราม่านะคู่นี้
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อยากรู้เหมือนกันนะว่า ใครใจดีให้ทุนแบบนี้ หรือจะเป็นเนื้อคู่ของคุณพ่อ 555

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
โคนันสายย่อยนะ คุณดล

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ใครคือคนให้ทุนนน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ลุ้นตัวโก่ง
เป็นเรื่องที่เดาพล๊อตไม่ถูกจริงๆ เยี่ยมมากครับ

ออฟไลน์ qunchamiin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ลุ้นมากกก ใครจะได้คู่กับใครยังเดาไม่ออก5555555555

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากก รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ chuxm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกดีค่ะ ติดตามนะคะ :katai2-1:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
เป็นทุนที่น่ากลัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เจ้าของทุนมาคู่กับคุณพ่อไหมคะ ชอบความสัมพันธ์พ่อลูกตรงนี้มาก ไม่อยากให้มีอะไรมาพังตรงนี้เลย อย่า incest เลยนะคะ  :ling1:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เพิ่งเข้ามาอ่าน เนื้อเรื่องสนุกดี คู่ของพ่อคือเจ้าของทุนสินะ :hao3:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เพิ่งมาอ่านสนุกมาก อ่านไปเรื่อยๆถึงรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาด รออ่านต่อ

ออฟไลน์ Airiณ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 9




ปัญญามองหน้าจอโทรศัพท์ขณะที่นั่งอยู่ในรถสองแถวที่จะพาเขาไปส่งหน้าปากซอยของโรงเรียน แรงสะเทือนน่าเวียนหัวไม่เป็นอุปสรรคกับเขาเท่าไรนัก เพราะตอนนี้เขากำลังจมดิ่งลงไปในห้องความคิดหลังจากอ่านคอมเม้นท์ในเชิงลบใต้รูปคู่ของเขากับโดนัทที่ถูกแอบถ่าย


'เดี๋ยวนี้เป็นเกย์แม่งเป็นกระแสไปแล้วเหรอวะ กูไม่เห็นจะเข้าใจว่าน่าชื่นชมตรงไหน'


แน่นอนว่าคอมเม้นท์ในแง่ลบแบบนี้เป็นส่วนน้อย และส่วนมากก็จะโดนสาววายทั้งหลายด่าและรุมประณามแบบเสียลูกเสียคนไปข้าง แต่ก็บางส่วนที่เข้ามาแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และถ้าให้พูดกันตามตรง ปัญญาไม่แปลกใจหรอกถ้าจะมีคนไม่ชอบใจ ดูคนใกล้ตัวอย่างพ่อเขาเป็นไง ถ้าพ่อเข้ามาร่วมวงตรงนี้ เขาเชื่อว่าพ่อเขาจะต้องอยู่ในกลุ่มของคนที่ไม่ชอบใจด้วยแน่

อืม... มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะมั้ง เขาเองก็ทำใจไว้ก่อนแล้วกับเรื่องแบบนี้ จะเก็บมาคิดมากไปก็ใช่เรื่อง

ปัญญาเดินลากเท้าไปตามพื้นคอนกรีต เดินผ่านรั้วโรงเรียนและยกมือไหว้ครูที่ประจำอยู่ตรงจุดนั้น เดินผ่านเข้าไปมีศาลาที่วางพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เขายกมือไหว้พระอย่างที่ทำเป็นประจำแล้วจึงเดินตัดพื้นที่จอดรถสำหรับบรรดาอาจารย์และบุคลากรในโรงเรียน ก้าวเท้าลงเดินทางที่ทอดยาวไปถึงตึกเรียนขนาดใหญ่ตรงหน้าก่อนจะต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อใครบางคนกระแทกตัวพร้อมกับฉุดแขนเขาไป จากนั้นจึงมาด้วยเสียงทักทายอย่างร่าเริง

"สวัสดีครับ พี่ปัน วันนี้มาเช้าจังนะฮะ"

"โด!" ปันพูดขึ้นอย่างแปลกใจระคนโล่งอก "ตกใจหมดเลย อยู่ๆ โผล่มางี้ เดี๋ยวพี่หัวใจวายไปจะทำไง"

"โธ่ เรื่องแค่นี้เอง พี่ปันไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกน่า" พูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานหยดให้ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตมองเขานิ่ง "ขนาดเมื่อวันเสาร์ เมาขนาดนั้นยังผ่านมาได้"

คำพูดนั้นทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งตัวเฮือก นึกถึงริมฝีปากนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายเขาที่เขาก้มลงไปจูบอย่างถือวิสาสะ ผนวกกับสายตาวิบวับของโดนัทแล้ว ยิ่งทำเอาปัญญาเหงื่อตก

จูบแรกของเขา... และอาจจะเป็นจูบแรกของอีกฝ่ายด้วย เขากลับทำมันตอนที่เมาจนสติแทบไม่อยู่กับร่องกับรอยแบบนั้น... บ้าเอ๊ย! เขาทำลงไปได้ยังไงเนี่ย จะฉวยโอกาสคนอื่นเขายังไม่พอ ยังจะทำลงไปในสถานการณ์ที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดอีก

“พี่คงไม่ได้กำลังจะบอกผมหรอกใช่ไหมครับว่าลืมเรื่องวันเสาร์ไปหมดแล้ว” โดนัทที่ปล่อยมือออกจากแขนไปตั้งแต่ตอนไม่รู้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงท้าทายเล็กน้อย อันที่จริงก็คือเด็กหนุ่มรู้ดีว่าปัญญาไม่ชอบให้แตะเนื้อต้องตัวในที่สาธารณะมากเกินไป และเขาก็ระมัดระวังตัวมากพอที่จะไม่ทำอะไรก็ตามที่อีกฝ่ายจะไม่ชอบ

“เปล่า พี่… พี่ไม่ได้ลืม” เจ้าตัวก้มหน้างุดๆ ตอบในตอนแรก แต่เมื่อรู้สึกถึงสายตากลมโตที่จับจ้องอยู่ เขาก็เงยหน้าสบตาอีกฝ่ายตรงๆ รู้สึกได้ถึงความคาดหวังและการรอคอยจากเด็กหนุ่มตรงหน้า น้ำเสียงของปัญญาจึงหนักแน่นขึ้นขณะว่า “พี่จำได้ทุกอย่าง… จำได้ละเอียดด้วย”

น้ำเสียงมั่นคงนั่นทำเอาโดนัทที่ตั้งใจจะคาดคั้นอีกฝ่ายจนถึงที่สุดหน้าร้อนวูบขึ้นมา สังเกตเห็นว่าใบหน้าของรุ่นพี่เองก็แดงระเรื่อเล็กน้อยเหมือนกัน และมันทำให้ใจเขาฟูฟ่องอย่างเป็นสุขและมีความหวัง

เรื่องของพวกเขาสองคนมันชัดเจน… ชัดเจนมาตั้งแต่วันแรกที่ปัญญาเข้ามาถามเขาในวันรับน้องแล้ว

เขารู้ดีว่าความรู้สึกนี้คืออะไร และเขาก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาแบบไหน แต่ไม่รู้ทำไมทุกอย่างมันถึงได้เชื่องช้าและไม่ไปต่อข้างหน้าสักที

‘พี่ปันกำลังรอโอกาส…’ โดนัทลอบคิดในใจอย่างเข้ารู้ดี ‘เขาอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมั่นคง เขาคงอยากจะสารภาพและขอคบเป็นในบรรยากาศโรแมนติกหรืออะไรแบบนั้น แต่ผมรออะไรแบบนั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว’

“พี่ปัน…” เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอขณะรวบรวมความกล้า มือกำหมัดแน่นขึ้นและรู้สึกถึงเหงื่อที่ชื้นเต็มฝ่ามือ เขาไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด เวลาจะมีเรื่องกับใครเขาก็ไม่เคยหวั่นเกรง กับคิตตี้ก็เหมือนกัน ถ้าเรื่องที่หล่อนหยิบยกขึ้นมาพูดไม่ใช่เรื่องของปัญญาแล้ว เขาเองก็คงไม่ยอมลงให้หล่อนง่ายๆ ขนาดนั้น

แต่พอเป็นเรื่องของรุ่นพี่คนนี้ทีไร… ทุกอย่างมันไม่เคยง่ายเลยจริงๆ

“หือ? อะไรเหรอครับ โดนัท”

“เมื่อไหร่พี่ปัน… จะบอกชอบผมเหรอครับ”

หลุดคำถามออกมาแล้วเสียงทุกอย่างรวบตัวก็เหมือนจะถูกความมืดกลืนกินไป ปัญญาอ้าปากค้าง มองใบหน้าที่แดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ ของรุ่นน้องแล้วรู้สึกว่าหน้าร้อนตามไปด้วย

ทีแรกโดนัทหลุบตาต่ำมองพื้น หากเจ้าตัวค่อยๆ ช้อนสายตากลมโตที่เต็มไปด้วยร่องรอยน้อยใจและตัดพ้อที่เขาไม่ยอมทำให้ทุกอย่างมันชัดเจนเสียที ท่าทางแบบนั้นทำเอาปันทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกอยากจะกดอีกฝ่ายเข้าฝาผนังของโรงเรียนไปพร้อมๆ กัน ไม่สิ ความรู้สึกอยากฟัดเจ้าตัวน่าจะรุนแรงกว่า แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดหรือทำอะไร โดนัทก็กลับมายืนหลังตรง หันหน้าหนีเขานิดหนึ่งเหมือนจะสื่อให้คนเป็นรุ่นพี่เห็นว่า เขากำลัง ‘งอน’

“งั้น… ผมพูดเรื่องที่ผมอยากจะพูดจบแล้ว ขอขึ้นห้องเรียนก่อนนะครับพี่ นัดเพื่อนไว้จะลอกการบ้าน”

ถ้าเป็นตามปกติ ปันคงเอ็ดรุ่นน้องไปแล้วว่าไม่ควรลอก แต่นี่เขายังอึ้งเกินกว่าจะทำแบบนั้น

โดนัทหยุดฝีเท้าลงหลังจากเดินต่อไปได้สามก้าว หันหน้ากลับมา แก้มเนียนยังคงแดงระเรื่อค้างจากเมื่อครู่

“ผมรออยู่นะครับ พี่ปัน และผมไม่ชอบรอนาน”

ทิ้งท้ายเสร็จเด็กหนุ่มก็หมุนตัวแล้ววิ่งแจ้นขึ้นตึกเรียนไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ปัญญายืนมองแผ่นหลังของร่างเล็กค้างอยู่อย่างนั้น

ให้ตายสิ… รู้สึกเหมือนหัวใจจะกระดอนหลุดออกมาจากอกได้เลย!






“เหย จริงเหรอ โดนัทพูดกับแกแบบนั้นเลยเหรอ” เบนซ์กระซิบถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นหลังจากที่ปัญญาเล่าเรื่องที่เพิ่งเจอสดๆ เมื่อเช้าให้อีกฝ่ายฟัง “ไอ้ห่านจิก สุดยอดเลยว่ะ น้องเขาแม่งแมนกว่ามึงอีก”

“อ้าว ไอ้สัส พูดแบบนี้อยากมีเรื่องเหรอ”

“เฮ้ย ใจเย็นเพื่อน กูแค่พูดตามความจริง ถึงยังไงกูก็เพื่อนมึง”

“ให้มันจริงเหอะ”

เบนซ์ดึงเก้าอี้ฝั่งที่มีพนักพิงให้อยู่ตรงหน้าปันแล้วยกขาขึ้นพาดไปอีกฝั่ง วางคางลงบนขอบพนักเก้าอี้ที่ควรจะหันไปอีกทางหากเทียบกับทิศทางที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่ เจ้าตัวมีใบหน้ายิ้มกริ่มอย่างคนนึกสนุก

“แล้วมึงจะว่าไง”

“ว่าอะไร”

“ที่น้องเขาพูดมานี่ก็เท่ากับสารภาพรักกลายๆ แล้วนะ”

“ไม่มีการบอกรักสักคำ”

“ขอทีเหอะน่า ไอ้ปัน เอ็งไม่ใช่คนโง่นะ”

ปัญญานิ่งไปนิดหนึ่งเหมือนไม่ยอมรับ แต่แล้วก็ถอนหายใจเบาๆ “เออ กูก็รู้หรอกว่าน้องเขาคิดยังไงกับกู”

“และมึงก็คิดแบบนั้นกับน้องเขา”

“ใช่”

เบนซ์แบมือสองข้างออกข้างลำตัว “แล้วปัญหาอยู่ตรงไหนครับ?”

“ปัญหาอะไร”

“เลิกแกล้งโง่เหอะน่ะ ก็ปัญหาที่มึงไม่ขอน้องเขาคบเป็นเรื่องเป็นราวอยู่นี่ไง”

“กู…” พูดแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง พูดอุบอิบ “กูแค่อยากให้มันค่อยเป็นค่อยไป”

“บางทีนี่ก็ค่อยไป… สปีดเต่าทากอาจจะเร็วกว่านี้ มึงคั่วน้องเขามาเป็นเดือนๆ แล้วนะ”

“มึงจะพูดว่าหอยทากรึเปล่า”

“เปล่า กูจะพูดเต่าทากนั่นแหละ เป็นส่วนผสมของเต่าและหอยทาก แถมยังช้ากว่าไอ้สองตัวนี้รวมกันซะอีก”

“สร้างสรรค์ดี”

“อย่าเปลี่ยนเรื่อง!” ตีโต๊ะปันดังปัง! “มึงจะเอายังไง ขอน้องเขาคบหรือปล่อยไว้เป็นแบบนี้ต่อไป”

“ทำไมมึงขี้เสือกอะ เบนซ์”

“สัส ไหนใครบอกเป็นเพื่อนกูวะ”

“เออๆๆ” ปันว่าพร้อมกับมองขึ้นบนเพดานอย่างครุ่นคิด “กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ะ”

“อะไรคือปัญหาของมึงกันแน่วะเนี่ย”

“คืออย่างนี้” ปัญญาโน้มหน้าเข้ามาใกล้เพื่อนมากขึ้นขณะอธิบาย “มึงก็รู้ว่าเดี๋ยวกูก็ต้องไปแลกเปลี่ยนอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี่แล้ว ถูกไหม”

“อ่าฮะ”

“แล้วกูจะไม่อยู่ไทยตั้งสิบเดือน แถมพอกลับมา กูก็ต้องเริ่มเตรียมเข้ามหาลัย แล้วพอเข้ามหาลัย--”

“โอเค กูเข้าใจล่ะ มึงเป็นห่วงเรื่องอนาคต”

เจ้าตัวพยักหน้าหงึกหงัก

“มึงไม่คิดมากไปหน่อยเหรอวะ บางทีคบกันระยะไกลมันอาจจะไม่แย่ขนาดนั้นก็ได้นะเว้ย ญาติกูก็มีแฟนที่ไปเรียนมหาลัยที่ญี่ปุ่นตั้งสี่ปี เขาก็ยังรักกันดี”

“กูไม่อยากปิดโอกาสน้องโด”

“และตัวมึงด้วย?”

“กูไม่ห่วงตัวเองหรอก กูไม่ใช่คนที่จะชอบใครง่ายๆ”

เรื่องนั้นเบนซ์ไม่เถียงเลย เขาคบกับอีกฝ่ายมาตั้งแต่ชั้นประถมตอนปลายและรู้จักเจ้าตัวดีว่าเป็นคนยังไง

“แต่กูอยากให้เวลาที่มันต้องห่างกันแบบนี้ปล่อยๆ กันไปก่อน ถ้าเขาอยากจะไปมีคนใหม่จะได้ไม่ต้องอึดอัดใจเพราะมีกูเป็นบ่วงรัดคอไว้ กูก็ไม่ต้องคิดมากตอนอยู่นู่นด้วยเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ต้องคาดหวัง แบบนั้นมันสบายกว่าอีก”

“และถ้ามึงกลับมาแล้วน้องเขามีแฟน?”

เบนซ์สังเกตเห็นร่องรอยความเจ็บปวดเบาๆ ที่พาดผ่านลงบนนัยน์ตาของเพื่อน

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้ กูก็ได้แต่ร่วมยินดีด้วย”

“กูว่ามึงแม่งดูหนังมากไปว่ะ ปัน” ส่ายหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยกับความเป็นพระเอกไม่เข้าเรื่องของอีกฝ่ายก่อนจะเริ่มสั่งสอนด้วยความคิดของตัวเอง “คนเราเนี่ยนะ ถ้ารักกันมันก็รักกันปะวะ รักกันก็คบกัน ก็แค่นั้นเอง ละถ้าเขาจะไปมีคนใหม่อะไรก็ให้เขามาบอกเลิกมึงไปตอนนั้น จบ แบบนั้นแม่งไม่ดีกว่าเหรอ อย่างน้อยก็ได้ลองพยายามแล้ว จะไปรอดหรือไม่รอดก็จะได้รู้กันไป ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย”

“กูไม่เห็นด้วยกับมึงว่ะ”

“ก็ตามใจ” เพื่อนรักเขาว่าพร้อมกับหันกลับไปนั่งดีๆ เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน “แต่มึงลองคิดดูดีๆ ว่าปล่อยให้น้องเขารอมานานแค่ไหนแล้ว ถึงขนาดต้องมาพูดแบบนั้น… กูไม่รู้ล่ะ มึงเป็นคนฉลาดนี่ ไปคิดเอาเองแล้วกัน”

ขุดหลุมฝังระเบิดเสร็จก็หยิบสมุดปากกาขึ้นมา… ไม่ใช่เตรียมจดเนื้อหาการเรียนนะ เตรียมมาวาดรูปเล่นนี่แหละ

ที่เหลือก็แค่… รอเวลาให้ระระเบิดที่เขาฝังไว้ทำงานก็เท่านั้น








“ฟู่ว… ให้ตายสิ ร้อนชะมัด” ผมพูดหลังจากที่รื้อสารพัดกล่องซึ่งหมกตัวอยู่ในห้องเก็บของมายาวนานเป็นสิบๆ ปีมาวางเรียงอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อเตรียมทำ “5ส” ในบ้านที่ตั้งปณิธานไว้กับตัวเองว่าจะทำมาเป็นตลอดระยะเวลา… เอ่อ หลายปีแล้วล่ะ แต่เหมือนวันนี้จะเป็นวันที่ฤกษ์งามยามดี ท้องฟ้าเป็นใจ อากาศแจ่มใส ผมถึงได้ปัดเป่าตัวขี้เกียจออกจากร่างและลงมือทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ได้

“อ้าว พ่อ” ไอ้ปันที่เดินถือกระเป๋าสำหรับนอนค้างคืนที่อื่นออกมาด้วยหันมามองอย่างงุนงง “ทำอะไรน่ะ จะทิ้งของเหรอ? ห้ามทิ้งพวกกันดั้มแล้วก็ฟิกเกอร์เก่าๆ ของผมนะ หนังสือการ์ตูนด้วย”

“ถ้าไม่อยากให้ทิ้งเอ็งก็มาช่วยแยก… แล้วนี่จะไปไหน ไม่เห็นบอกเลยนี่ว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะออกไปค้างที่ไหน?”

“เฮ้ย” ปัญญาสะดุ้งตัว สีหน้าเหลอหลาไม่แพ้ผมเช่นกัน “ผมบอกแล้วไงพ่อว่าลุงจุ้ยพ่อไอ้เบนซ์ชวนไปตีกอล์ฟด้วยกันที่บ้านตากอากาศของแก ไหนจะยังเทนนิสกับว่ายน้ำอีก ผมสัญญากับไอ้เบนซ์ไว้แล้วนะ”

จริงๆ ที่ไอ้ปันจะไปค้างบ้านตากอากาศแล้วก็ทำกิจกรรมมากมายแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ปันสนิทกับบ้านของเบนซ์จนเหมือนเป็นลูกชายอีกคนของบ้านนั้นไปแล้ว ผมแค่งงๆ เพราะจำไม่ได้ว่ามันบอกผมตอนไหนว่าจะไปก็เท่านั้นเอง

“แล้วเรียนพิเศษวันอาทิตย์ล่ะ?”

“เดี๋ยวไปชดเชยเอาวันอื่นครับ ยังไงมันก็เป็นเทปอยู่แล้ว”

“แล้ววันอาทิตย์จะกลับมากี่โมง” ไม่ได้ครับ ต้องนัดแนะกันให้ดี ขืนกลับมาดึกมากแล้ววันจันทร์ไปเรียนไม่ไหวนี่ผมไม่ยอมแน่ๆ

“อืม... คงสักห้าโมงมั้งพ่อ คงกลับมากินข้าวเย็นบ้าน”

“โอเค แล้วนี่แกจะไปยังไง”

“พ่อไอ้เบนซ์บอกจะขับรถมารับที่หน้าปากซอย… นี่ว่าใกล้จะถึงแล้ว ผมไปก่อนนะพ่อ ไม่อยากให้ลุงจุ้ยรอนาน”

“เออๆ เดี๋ยว ไอ้ปัน แกไปรบกวนเขาแล้วมีอะไรติดไม้ติดมือไปด้วยรึเปล่า รบกวนพ่อเบนซ์ทุกรอบ”

ปัญญาชูถุงขนมไทยที่ผมซื้อมาวางแหมะไว้เมื่อวันก่อนขึ้นมา แหม รู้หน้าที่นะ ถึงนั่นจะเป็นของที่ผมอยากกินก็เถอะ แต่เอาวะ ค่อยไปซื้อใหม่ก็ได้

“ผมรู้อยู่แล้วล่ะน่า ไปก่อนนะครับพ่อ ขอโทษนะที่อยู่ช่วยไม่ได้”

“เดินทางดีๆ แล้วกัน แล้วอย่าไปรบกวนเขามาก รู้ไหม รู้จักเกรงใจบ้าง”

“รู้แล้วคร้าบ” ปัญญาเดินมาประชิดตัวพร้อมกับก้มหน้าลงมาหอมแก้มผมทีหนึ่ง เป็นอีกอย่างที่ไอ้ตัวแสบชอบทำเวลาอยากให้ผมเลิกบ่นมัน

...นี่โตเป็นควายขนาดนี้แล้วยังจะ…

“ไปแล้วนะครับ พ่อ หวัดดีครับ” ไอ้ตัวแสบยิ้มเผล่อย่างได้ใจก่อนจะโบกมือหยอยๆ แล้วก้าวเท้าออกจากรั้วบ้านไป

เออ… ก็ได้ คือต่อให้ลูกผมโตจนเท่าหมีควายขนาดนี้อยู่ แต่ผมก็ยังอดคิดว่ามันน่ารักไม่ได้ โอเคไหม? มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่ใช่รึไง!?

แต่… อ๊าก! เด็กผู้ชายวัยมัธยมธรรมดาที่ไหนเขายังหอมแก้มพ่อแม่แบบนี้กันอยู่อีก!? นี่คงไม่เกี่ยวกับเรื่องที่มันเป็นเกย์ด้วยหรอกใช่ไหม!?




วันนั้นทั้งวันผมเฝ้าแต่นั่งเคลียร์สิ่งของ เริ่มจากการแยกประเภทว่าอันไหนเอาอันไหนทิ้ง เคล็ดลับของมันอยู่ที่คุณจะต้องตัดสินใจภายใน 3 วินาทีแรกว่าจะโยนมันใส่ถุงไหน ถ้าช้ากว่านั้นถือว่าไม่ผ่าน และคุณจะต้องทำใจแข็งให้ได้มากกว่าในของชิ้นต่อไป แต่เรื่องแบบนี้มักไม่ค่อยเป็นปัญหากับผู้ชายแบบเราหรอกครับ ถ้าเป็นผู้หญิงแบบมิ้นต์… รายนั้นต้องทำใจแล้วทำใจอีก คิดแล้วคิดอีกกว่าจะโยนแต่ละชิ้นลงในถุงขยะได้ แต่ส่วนมากข้าวของมากมายของเจ้าหล่อนก็จะกลับไปกองอยู่ที่เดิมแทบทั้งหมดเสียมากกว่า คือพวกหล่อนจะไม่สามารถตัดใจจากของที่ตัวเองเคยรักมาก่อนได้ แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆ จากมันแล้วก็ตาม

นึกถึงเรื่องมิ้นต์ขึ้นมา ผมก็อดยิ้มที่มุมปากน้อยๆ ไปด้วยไม่ได้

มิ้นต์เป็นหญิงสาวที่ร่าเริงและอ่อนหวาน แม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอ แต่หล่อนแทบไม่เคยทำตัวเหมือนเป็นโรคร้ายแรงใดๆ เลย

ผมคิดถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน มันเป็นสิ่งที่มีค่า… และปัญญาก็เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เจ้าหล่อนมอบมาให้

ลูกของพวกเรา… สัญลักษณ์ของพวกเราสองคน

ผมนึกถึงคำพูดของเกรซที่คุยด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหล่อนบอกผมว่าผมควรจะเลิกอาวรณ์และหาผู้หญิงใหม่มาอยู่เคียงข้าง อันที่จริงแล้วยัยนั่นพูดผิด ผมไม่ได้อาวรณ์อะไร ความเสียใจพวกนั้นมันหายไปตามกาลเวลา แต่ผมคิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีมากพออยู่แล้ว  ไม่จำเป็นต้องเอาใครเข้ามาให้ปวดหัวเพิ่มอีก หรือไม่... อาจจะเป็นเพราะผมแก่เกินไปจนไม่นึกอยากคบหาใครแล้ว

ผมพักยกจากการแยกของเก็บกับของทิ้งเมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน สั่งข่าวจากร้านอาหารหน้าปากซอยให้เอามาส่งแล้วลงมือนั่งกินข้าวพร้อมกับดูข่าวในทีวีไปด้วย ในรายการข่าวบันเทิง ผมได้เห็นนักแสดงชั้นนำสองคนที่ไอ้ปันเคยเอามาเล่าให้ผมฟัง อย่างบูม บดิศรกับดี ศศิกรที่ถึงแม้จะเป็นคนละข่าวกันแต่ผมก็อดนึกถึงสิ่งที่ไอ้ตัวแสบเคยเล่าให้ฟังไม่ได้

'ผมเอารูปที่ถ่ายคู่กับพ่อให้ดูแล้วเพื่อนมันทักว่าผมหล่อเหมือนบูมส่วนพ่อหล่อเหมือนดี' ไอ้ตัวแสบเล่ายิ้มๆ ในขณะที่ผมหันไปมองหน้ามันเหมือนไม่อยากเชื่อ 'จริงๆ นะพ่อ แต่ผมว่าผมหล่อกว่าบูมอะไรนี่อีก ส่วนพ่อกับดี... เอ่อ ถ้าพ่ออ่อนกว่านี้สักสิบปีน่าจะพอสูสีได้'

นั่นทำเอาผมแทบจะประเคนฝ่าเท้ากลางหลังคนพูดมาก หนอย กล้าพูดมาได้ นี่พ่อนะเว้ย ถ้าผมไม่หล่อกว่ามันจะเป็นพ่อมันได้ไง (อ้าว ไม่ใช่เหรอ)

จัดการมื้อกลางวันเสร็จผมก็กลับไปทำงานต่อ แยกของที่เอาออกมาจากห้องเก็บของได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง เซ็งจริงๆ ที่วันนี้ไอ้ปันดันไม่อยู่ช่วยทำ ไม่งั้นคงเสร็จเร็วกว่านี้ กล่องที่อยู่ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เริ่มเต็มไปด้วยข้าวของของมิ้นต์ที่ทำให้ผมนึกถึงความหลังและโหวงๆ ในหัวใจเล็กน้อย สร้อยคอที่ผมเคยซื้อให้เจ้าหล่อนตอนที่เราเดทกันครั้งแรก จากนั้นก็มีนาฬิกาข้อมือ เสื้อผ้า กระเป๋า แน่นอนว่าผมไม่ได้ซื้อให้มิ้นต์เองทั้งหมดนี่เพราะตัวเองไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น และบ้านมิ้นต์เองก็ไม่ได้ขัดสนอะไร

ผมเริ่มขุดเจอไดอารี่ของเจ้าหล่อน พลิกมันขึ้นมาอ่าน เนื้อความด้านในไม่ได้มีข้อความซึ้งกินใจหรือบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตอะไรมากนัก หล่อนเขียนไปได้จริงๆ จังๆ แค่สามวันเกี่ยวกับการไปเที่ยวกับเพื่อนร่วมชั้น ไปเดทกับผม แล้วก็เรื่องครอบครัวอีกเล็กน้อย จากนั้นก็ดูเหมือนจะเบื่อจนเลิกเขียนไปแล้ว หน้าหลังๆ เต็มไปด้วยรูปที่มิ้นต์วาดเอาไว้จากนั้นก็รูปถ่ายเก่าๆ ที่ชวนให้คะนึงหา

ผมยกยิ้มเศร้าเมื่อนึกถึงช่วงเวลาสุดท้ายของหญิงสาวผู้เป็นที่รัก หล่อนจากไปอย่างไม่ทรมานมากก็จริง แต่กว่าจะถึงจุดนั้นหล่อนต้องพบเจอกับความยากลำบากของโรคแทรกซ้อนพวกนั้นแค่ไหน ทำไมผมจะไม่รู้ ผมกรีดนิ้วลงบนหน้าสมุดเก่าๆ เล่มนั้นราวกับกลัวว่ามันจะเสียหายหากผมสัมผัสแรงเกินไป แม้ไม่มีอะไรเขียนอยู่ในนี้มากเท่าไร แต่ผมก็รู้สึกอัดแน่นไปด้วยความคิดถึงและโหยหาอีกฝ่ายอย่างท่วมท้น

เศษกระดาษเก่าๆ แผ่นหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากไดอารี่เล่มนั้น ตกลงกับพื้น

ผมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างแปลกใจขณะก้มลงไปหยิบมันขึ้นดู มีข้อความสั้นๆ ประโยคเดียวเขียนอยู่ในกระดาษแผ่นนั้น


'เราหนีไปด้วยกันเถอะ'


ไม่มีการลงชื่อ ไม่ได้ถูกลงวันที่ หนำซ้ำมันยังเก่าซีดแห้งกรอบจนเหมือนจะหลุดออกจากกันได้ตลอดเวลา หนำซ้ำยังมีร่องรอยยับย่นราวกับว่ามันถูกขยำทิ้งไปแล้วและถูกเก็บขึ้นมาคลี่ใหม่อีกครั้ง

เราหนีไปด้วยกันเถอะ…

สิ่งที่ทำให้ผมตัวชาและเย็นวาบไปทั่วทั้งสันหลังก็คือ... นั่นไม่ใช่ลายมือผม ไม่ใช่ลายมือมิ้นต์ ไม่ใช่ลายมือของใครที่ผมพอจะคุ้นเลย

แล้ว... ทำไมมิ้นต์ถึงได้มีกระดาษแผ่นนี้อยู่ในไดอารี่ของตัวเองล่ะ?






“กลับมาแล้วครับ” เสียงสดใสของลูกชายผมดังขึ้นตามมาด้วยร่างของเจ้าตัวที่ผ่านประตูบ้านมา

ผมหลุดออกจากห้วงภวังค์ของตัวเองเพราะเสียงนั้น ปัญญาหอบหิ้วของฝากที่มักจะติดมาด้วยเสมอเวลาไปเที่ยวกับครอบครัวเบนซ์แบบนี้ พวกเบเกอร์รี่ทำมือ ข้าวโพด นมสารพัดรส แล้วก็อะไรต่อมิอะไรที่เจ้าตัวเห็นว่าผมชอบ ผมรู้ดีว่าปันคิดถึงผมเสมอ และผมก็รู้ดีด้วยว่าหมอนี่น่ารักแค่ไหน แต่ผมกลับรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างด้านในมันแปลกไปเมื่อได้เห็นหน้ามันวันนี้

“ปัน” ผมรีบยิ้มให้มันแม้ว่าจะเป็นยิ้มที่ฝืนก็ตาม กลัวว่าจะโดนอีกฝ่ายจับได้ “พ่อทำไข่พะโล้ไว้ให้ในหม้อน่ะ แล้วก็กับข้าวที่ซื้อมาจากหน้าปากซอย 2-3 อย่าง”

“พ่อทำไข่พะโล้เหรอ” ปัญญาว่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ของโปรดตลอดกาลของมัน “เยี่ยมเลยฮะ ผมไม่ได้กินฝีมือมานานล่ะ แล้วก็นี่ ของฝาก เอามาแบ่งกันนะ แต่โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี่นี่ของผมนะพ่อ อย่างอื่นพออนุโลมได้”

“เออๆ ไปจัดการเก็บของอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวเย็นได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นไปโรงเรียนแต่เช้าอีก”

“คร้าบ พ่อ แหม บ่นสมเป็นพ่อจริงๆ เลย”

ทิ้งระเบิดไว้จากนั้นก็เผ่นขึ้นห้องไป แต่ผมไม่มีความรู้สึกอยากจะเฉ่งมันสักนิดในรอบนี้

ความคิดที่น่ากลัวบางอย่างมันรบกวนจิตใจผมจนไม่มีแก่ใจจะนึกถึงอะไรอย่างอื่นแม้แต่นิดเดียว






---------------------------------------------------

Talk: ขอพื้นที่โฆษณาให้นิยายที่เรากำลังเปิดจองอยู่นิสนึงนะคะ ตอนนี้เราเปิดจองนิยายเรื่อง 'Twinless Twin แฝดหนึ่งร่าง' อยู่ค่ะ พรุ่งนี้ (24 ก.ย.) ก็ปิดจองแล้ว แต่ยังโอนได้ถึงวันที่ 30 ก.ย. นะ! เผื่อใครสนใจก็เข้าไปจับจองกันได้ ตามลิงนี้เลยนะคะ >>https://goo.gl/aSaJzv

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านมากค่า^^ ทุกคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้เราเสมอน้า <3

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
... เริ่มมาแล้วคลื่นใหญ่

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
จริงดิ ไม่เอา ต้องไม่เป็นอย่างนั้น

55 ระบายเล่นๆ ครับ แล้วแต่คนเขียนเลย แค่แอบหวังว่ามันจะไม่จริง

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มีเงื่อนงำ

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น่าสงสัย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด