15
เหี่ยวแห้ง...
เป็นคำเดียวที่จำกัดความของผมตอนนี้ได้ ความเป็นไอ้คุณตากแห้ง แห้งยิ่งกว่ามุกที่เล่น แห้งยิ่งกว่าสุกี้บิดน้ำสองรอบ เหี่ยวแห้งสุดๆ แห้งจนกรอบตายคาโต๊ะเรียน
“ไอ้แทน มึงทำอะไรสักอย่างกับซากจิ้งจกตากแห้งนี่ทีเถอะ” เสียงนินิวแทรกรูหูเข้ามา
“แม่งแห้งมาเป็นอาทิตย์แล้ว ไอ้คุณณณณณ มึงอย่าแห้งดิวะ กูไม่ชินเลย”
“เออไอ้คุณ มึงเป็นอะไรมึงบอกเพื่อนได้นะเว้ย”
“เป็นห่วงมัน?”
“หึ กูอยากเสือก ไม่ไหวแล้ว อยากรู้มาก” มองมาจากดาวเนบิลยังรู้ว่าขี้เสือกอ่ะ ผมมองหน้าไอ้มิตรปริบๆอยากจะด่าแต่ก็ไม่มีอารมณ์
ผมทะเลาะกับพี่ปลัด...
แล้วผมก็ผิดเต็มประตูด้วย ถึงจะจำไม่ได้ว่าผิดเพราะคำไหนก็เถอะ แต่พี่มันดูโกรธจริงโกรธจังมาก ถึงกับไล่ผมออกจากห้องเลยนะ ฮืออออ อยากจะงอแง จะโกรธกันใบ้ให้หน่อยก็ไม่ได้ว่าเพราะคำไหนจะได้ขอโทษถูก นอกจากพี่ปลัดจะโกรธผมแล้วพี่มันยังหลบหน้าผมอีกต่างหาก อุตส่าห์ลงทุนหอบหิ้วหมอนไปนอนรอหน้าห้องพี่มัน ปรากฏพี่แม่งไม่กลับห้องเลย คิดแล้วก็น้ำตาคลอ นอนพื้นมาเป็นอาทิตย์ ใจร้ายโคตรๆ
“เพราะมึงเลยนินิว กูบอกแล้วว่าวิธีกระตุ้นแบบนั้นมันไม่ได้ผล”
“อ่ะ โยนขี้เก่ง”
“ไอ้คุณ ถามจริง ที่มึงบอกว่าพี่ปลัดโกรธมึงเนี่ย มึงไปทำอะไรวะ” ไอ้แทนถามพร้อมกับเอามือมาลูบหัวผม
“กูก็อยากรู้เหมือนกัน”
“มึงก็เล่าดิวะ”
“ไม่ได้ เรื่องนี้มันเป็นความลับ” ผมได้ถอนหายใจ ถึงพี่มันจะเล่นซีรี่ส์เกย์แต่พี่มันก็ไม่ได้เปิดตัวว่าเป็นเกย์ ถ้าผมเล่าไปเดี๋ยวความแตกพี่มันได้โกรธผมนานขึ้นไปอีก ฮื่อ อึดอัดอ่ะ อยากเล่า อยากปรึกษา ไม่รู้จะทำไงแล้วเนี่ย ยิ่งโง่ๆอยู่นิดหน่อยแต่หล่อมากกว่า
“เห้อ กูคิดว่าจะไปห้องพี่เขาแล้วเคลียร์กัน แม่งพล็อตทวิสกลับมาร้องไห้โฮ ไม่ไหวแล้ว!!!”
“สงสารเพื่อนไม่ไหวแล้วแน่ๆ!!!”
“อยากเสือก!!! คุณ มึงเล่าเถอะ กูขอร้อง กูนอนไม่หลับ” ถ้าออสการ์มีสาขาขี้เสือกมึงวินไปแล้วเนี่ยมิตร ได้แต่เหยียดด้วยตาดำใส่ ไม่รู้ระหว่างหน้ามันกับคำว่าเสือกฟ้อนต์สารบัญพีเอสเคไซส์สองร้อยอะไรจะเด่นชัดกว่ากัน
“ไม่มีไรหรอก”
“อีดอก คำตอบนางเอกสุด มึงคืออีคุณป่ะไม่ใช่แพตตี้อัง ลำไยทั้งสวน” อยู่คณะนี้บางทีก็แยกเพื่อนกะเทยกับผู้หญิงไม่ออก พูดจาสำเนียงเดียวกันเลย ผมมองนินิวแล้วได้แต่นึกสงสัยในเพศมัน
“กูยังเล่าไม่ได้ ตอนนี้ขอโฟกัสการเรียนก่อนนะครับพี่สื่อมวลชน”
“อ่ะ ถึงกายหยาบจะเศร้าแต่จิตวิญญาณยังกวนส้นตีน”
“กูไม่ได้เศร้า”
“เรอะ”
“แต่กูอาทิ้ต ส่วนมึงจั๊นกับพู้ด”
“เดี้ยวมึ้งเจ้อตี้นกู๊ ไอ้สั้ด” ไอ้แทนขยี้ผมด้วยเอ็นดู มันอาจจะไม่เอ็นดู แต่ผมคิดเอาเองว่ามันคงเอ็นดู พอโดนขยี้หัวแล้วก็อดนึกถึงอุ้งตีนหมีของพี่ปลัดที่ชอบขยี้มาไม่ได้ ฮือ ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูไลน์ที่ส่งไปตั้งแต่เมื่อวานซืน
‘ขอโทษครับ’
‘หายโกรธผมนะพี่ปลัดดด’
‘โกรธเรื่องอะไรอ่ะ แงๆๆๆ’
‘sent สติ๊กเกอร์แย่แล้วปวดขี้ ’
‘ส่งผิดดดดดดดดดด’
‘sent สติ๊กเกอร์ขอร้อง’
‘ไม่รู้ว่าโกรธอะไร’
‘แต่ขอโทษครับ งับงับ’
อ่านไม่ตอบ...
อยากจะเหี่ยวจนแห้งตายคาโต๊ะ นี่หรือคือความรู้สึกโดนอ่านไม่ตอบ มันเป็นแบบนี้นี่เอง อยากส่งไลน์ไปถามว่าอ่านแล้วตายเลยหรอก็ลืมว่าโดนพี่มันโกรธอยู่ ทำไมต้องโกรธขนาดนี้อ่ะ แค่กดส่งสติ๊กเกอร์ตอบสักตัวก็ไม่ได้หรอ ส่งสติ๊กเกอร์ด่าไปสักตัวแล้วบอกว่าส่งผิดดีไหมเนี่ย ฮึ
“มึงก็โทรไปขอโทษพี่เขาสิวะคุณ”
“ไม่รับสายกู” ยี่สิบมิสคอลแล้วมั้งถ้าให้พี่มันนับ
“มึงก็เอาโทรศัพท์สาธารณะโทรดิ”
เห้ย!!
จริงด้วย!!!
ทำไมเราคิดไม่ได้วะ!!!
โห จีเนียสมาก ทำไมหนังไม่ทาบทามมันไปเล่นฉลาดแกมโกงเนี่ย ผมมองซ้ายมองขวาหาตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญก็พบหนึ่งอันในตึกไข่เจียว ตอนแรกดูไม่ออกว่าเป็นโทรศัพท์ คิดว่าเป็นเศษเหล็กเตรียมย้ายเข้าพิพิธภัณฑ์ ผมหายใจเขาหนึ่งฟึด ยกหู หยอดเหรียญ หยิบมือถือมาดูเบอร์ก่อนจะกดแป้นจึ้กๆ
ตู๊ด...
ตู๊ด....
[ฮัลโหลครับ]
เสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินเป็นอาทิตย์ดังขึ้น ทำเอาผมต้องกลั้นหายใจ ฮุบบ ตั้งใจไม่รับสายกันจริงๆด้วย!!!
“...”
[นั่นใครครับ]
“พี่...”
[…]
“...”
[…]เสียงลมหายใจพี่ปลัดยังคงดังอยู่ในสายแต่ไร้การตอบกลับ ผมโคตรน้อยใจเลยที่พี่มันตั้งใจไม่รับสายผม แต่ก็ได้แต่กลืนความน้อยใจลงคอแล้วพูดในสิ่งที่ผมคงเลือกที่จะพูดออกไปหากย้อนเวลากลับไปได้
“ขอโทษครับ”
กริ๊ก..
เหรียญหมด!!!
ตัดสายไปแล้วด้วย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ผมตบกระเป๋ากางเกงกับกระเป๋าเสื้อนิสิตก็พบว่าไม่มีเหรียญอยู่กับตัวเลยสักบาท อยากจะร้องไห้เป็นภาษาตากาล็อกติดที่ว่าไม่รู้ว่าร้องยังไง ผมได้แต่เดินหูตกหางตกกลับโต๊ะที่เพื่อนๆนั่งอยู่
“เอ้า มึง พี่เขาพูดว่าไรบ้าง”
“ฮัลโหล นั่นใครครับ”
“แล้วไงต่อ”
“กริ๊ก”
“พี่มันบอกว่ากริ๊กหรอวะ” ไอ้มิตรหันไปถามไอ้แทน
“เชี่ย โค้ดลับอะไรป่ะวะ มึงเสิร์ชเกิ้ลดิ๊” ไอ้แทนหันไปถามนินิว
“หรือพี่เขาคบอยู่กับคนที่ชื่อกริ๊กวะ!!” ไอ้นินิวหันไปถามไอ้มิก
“หรือกริ๊กหมายถึงพี่มันกำลังคุยกับกิ๊ก” ไอ้มิกหันมาถามผม
“คือกริ๊กตัดสายอ่ะ เหรียญหมดพอดี”
ได้รับสายตาเป็นคำด่ามาสี่คู่พอดิบพอดี ผมได้แต่ขำแห้งๆแต่ก็นึกภูมิใจในความสามารถเพื่อนๆ แค่คำว่ากริ๊กมโนอะไรไปได้ไกลขนาดนั้นวะ
“กูจะอยากจะด่ามึงเป็นภาษาสวิตซ์เลย”
“ยังไงวะมิตร”
“เปิด! ปิด! เปิด! ปิด!”
“โอ้โห พูดแล้วกูนึกถึงตอนกูไปสวิตซ์เลย”
“ไปเที่ยว?”
“ไปปิดไฟ!! แอ่แฮ่!!”
“โอ๊ย กูเบื่อพวกมึง ถามจริงสอบนี่พวกมึงตั้งใจเหมือนเล่นมุกไหม” ถามไม่ให้เกียรติเกรดซีในใบเกรดเลยอ่ะ ผมหันไปหัวเราะเบาๆใส่ความไร้สาระของพวกมันเตรียมจะยิงมุกเล่นอีก แต่ก็มือถือก็สั่นครืดเรียกความสนใจไปเสียก่อน ผมหยิบขึ้นมาดูเพื่อพบกับแจ้งเตือนว่าพี่ปลัดตอบไลน์
เห้ย!!
เห้ยยยย!!
พี่ปลัดส่งสติ๊กเกอร์ตอบกลับมาเป็นรูปหมีแบ๊วงุงิพูดว่าโอเค แบบว่าพี่แกใช้สติ๊กเกอร์ได้โคตรโนเนะ อยากจะขำแต่ติดว่าดีใจอยู่ เก็บไว้ขำวันหลังก็ได้
“อ่ะเพื่อนกู เดี๋ยวก็ซึมเดี๋ยวก็ยิ้ม” ไอ้มิกผลักหัวผมจนเซแท่ดๆ
“มึงพี่ปลัดตอบไลน์แล้วววว”
“เห้ยๆๆ ไหนๆๆ ตอบว่าไร” ไอ้มิตรเสนอหน้าเข้ามาทันที
“โหมิตร มึงดูขี้เสือกมากอ่ะบอกตรงๆ เดี๋ยวกูจะเอาหน้ามึงไปแปะวิกิพีเดียความว่าเสือก” มีความเสือกest แต่ทำเป็นว่าไอ้มิตร นินิวเองก็ยื่นหน้ามาเหมือนกัน วุ้ย ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วทำหน้าหยิ่งยโส
“กูไม่ได้ขี้เสือก กูเป็นคนขี้ใส่ใจ”
“แปลว่า”
“เคๆ กูเสือก ไหนๆคุณเอามาดู” โว้!! ผมดึงมือถือมาแนบอก ทำสายขู่เป็นสิงโตใส่พวกมันทั้งหมด เป็นไงน่ากลัวหล่ะเซ่!!
“มึงทำหน้าเหมือนคันจมูกทำไมคุณ”
“กูขู่พวกมึงอยู่ ด้วยความโหดเหี้ยมของสิงโต อย่าจุ้นจ้านกับมือถือกู” แยกเขี้ยวเป็นออพชั่นเสริม แฮว่!!
“อีเวร คิดว่าโง่แต่หน้า กูปวดหัวเลย” ไม่รู้ไม่สน ถึงจะด่ากว่าจมูกผมโง่ก็ตาม ผมคว้ากระเป๋าเรียนแล้วก็เดินดุ่มๆออกมาท่ามกลางเสียงตะโกนไล่ด่ามาจากด้านหลัง ผมรีบวิ่งกลับหอด้วยความรวดเร็วพร้อมกับไปยืนอยู่หน้าห้องพี่ปลัด
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆ
คราวนี้เป็นจังหวะริงดิงดองวงชายนี่
บอกเลยซับนรกลิงคิงคองไปพาต้าผมยังร้องได้ทั้งเพลง
เคาะจนเกือบจบเพลงพี่ปลัดก็ยังไม่เปิด อ้าว สงสัยยังไม่กลับแฮะ หงอยเลย ผมได้แต่หูลู่หันหลังกลับห้องตัวเอง กว่าจะกลับก็คงดึกๆนอนรอไปก่อนแล้วกัน คิดได้ดังนั้นผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเอื้อมนิ้วตีนไปเปิดพัดลมเบอร์สามแล้วก็นอนตากแห้งอยู่บนเตียงรอเวลา วันนี้ก็กลับดึกอีกแล้ว อะไรมันจะฮอตขนาดนั้นนะ
เออ พูดถึงความฮอตแล้ว ไอ้แทคไทมีนอะไรนั่นดูเหมือนจะติดเทรนด์บ่อยมาก ออกอีเว้นท์ด้วยกันก็บ่อยมาก เห็นว่ามีบ้านแฟนคลับคู่จิ้นเปิดขึ้นมาเลยยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ เพื่อนผมนี่แชร์กันเต็มเฟสแม้กระทั่งเฟสแม่ก็ยังแชร์ ไปไหนก็เจอ ต้องยอมรับครับว่าเคมีมันได้จริงๆ แต่ยิ่งเห็นปอดยิ่งฟีบ เห้อ ไม่เข้าใจตัวเองเลยอ่ะ คิดแล้วก็หงุดหงิดนอนดีกว่า
“คุณๆ ไอ้คุณ!!”
หือ?
ผมสลึมสลือตื่นขึ้นเมื่อโดนเขย่าตัว อะไรวะ แผ่นดินไหวหรอ
“ที่นี่ที่ไหน..”
“สวรรค์” ผมหรี่ตามองหน้าไอ้มิตร
“ถ้ามีมึงอยู่มันน่าจะเป็นนรกนะ”
“ปากดีไอ้สัด ตื่นขึ้นมาเร็วๆ มึงซวยแล้ว” อะไรซวยวะ กูนอนอยู่ดีๆก็ซวยได้หรอ ผมขยี้เอาขี้ตาออกแล้วลุกขึ้นนั่งแบบงงๆ ฟ้ามืดแล้วแฮะ ผมนอนไปนานขนาดไหนเนี่ย
“อะไรกันวะพวกมึง” ผมถามไอ้แทน ไอ้มิตรแล้วก็ไอ้มิกที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ตรงขอบเตียง จริงจังขนาดไหนไอ้มิกถึงกลับห้งได้วะเนี่ย
“นินิวส่งข่าวมาให้กูดู มึงต้องทำใจดีๆนะ”
“ไอ้เชี่ย กูกลัวแล้วเนี่ย มึงเป็นมะเร็งหรอมิตร”
“ไอ้เหี้ยไม่ใช่กู”
“มึงหรอแทน” ผมหันไปมองไอ้แทน
“ไม่ใช่กู”
“มึงหรอมิก” ต่อด้วยหันไปมองไอ้มิก
“มึงนั่นแหล่ะคุณ”
“ห๊ะ!! กูเป็นราเม็งหรอ!!”
“มะเร็งคุณมะเร็ง ไม่ใช่ หมายถึงไม่ใช่ทั้งราเม็งแล้วก็มะเร็ง มึงอ่านเองดีกว่า” ผมหยิบมือถือของไอ้แทนมาดู ขึ้นเพจกอสซิปชื่ดังที่นินิวชอบมาอ่านให้ฟังในห้อง ปรากฏข่าวที่มีคนแชร์หลักหมื่น ผมข้ามเนื้อหาในข่าวไปที่รูปแทน
เห้ย..
รูปพี่ปลัดอุ้มผมจากร้านเหล้า
เลื่อนดูอีกรูป
เป็นรูปพี่ปลัดเหมือนจะค่อมตัวทับผมในรถ ดูจากมุมกล้องแล้วเหมือนคนกำลังทำอะไรสักอย่างที่ไม่น่าใช่เปลี่ยนเกียร์หรือปรับแอร์ เห้ย!! พี่มันทำอะไรผมวะนั่น!!
“อ่า กูบอกได้รูปนี้พี่มันใส่เบลท์ให้มึงเฉยๆ กูยืนอยู่ข้างรถ” ไอ้แทนชี้ไปที่มุมมืดข้างๆรถปรากฏที่มีมันกับมิตรยืนอยู่ เลื่อนรูปต่อไปก็มีไปจนถึงพี่มันอุ้มผมขึ้นหอ
“เชี่ย!!”
“มึงตกใจใช่ไหม”
“ตกใจดิ ทำไมหน้ากูทุเรศขนาดนั้นวะ ตาเหลือกด้วย” โอ้มายกู้ดเนส โซรับไม่ได้ ผมซูมหน้าตัวเองแล้วอยากจะร้องไห้ ตาเหลือกตาปลิ้น ได้ลงเพจกี่เพจก็หน้าไม่ปกติสักรูป อยากจะร้องไห้
“โหไอ้เหี้ย ก่อนหน้านั่นมึงเลื่อนดูคอมเม้นต์ก่อนว่าสถานการณ์มันแย่ขนาดไหน” อะไรวะ มันจะแย่อะไรกับอีแค่อุ้มรุ่นน้องที่เมากลับหอ
ปรากฏว่า...
มันแย่จริงๆด้วย...
‘รับไม่ได้ ทำลายทีมไทมีนหมดแล้ว ฮือออออออ’
‘เปลี่ยนนักแสดงเถอะค่ะ แบบนี้จิ้นไม่ออกแล้ว เอาคนอื่นมาเล่นแทนเถอะ’
‘อมกกกก พี่ไทสเป๊กต่ำมากกกกก เรือไทมีนจะล่มทั้งทีขอดีกว่านี้ได้ไหม ผู้จัดเปลี่ยนคนแสดงเถอะ’
‘ถ้าพี่ไทยังเล่นก็ไม่ดูแล้วอ่ะค่ะ รูปมาขนาดนี้จิ้นไม่ออก บาย’
‘ตกลงพี่ไทเป็นเกย์จริงหรอ รับไม่ได้เลยอ่ะ เสียดายประชากรผู้ชายหล่อ’
‘พี่ไทไม่เลือกหน่อยหรอวะมึง หรือพี่แกคลำหางได้ก็เอาหมด @ehereishere naja’
อีกหลากหลายคอมเม้นต์ที่ผมอ่านแล้วรับไม่ได้จนต้องโยนมือถือไอ้แทนทิ้ง ถึงจะมีคอมเม้นต์เข้ามาเชียร์พี่ปลัดแต่ก็นับเป็นแค่สิบเปอร์เซ็นต์ได้ ผมอึ้งจนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะตกใจที่ตัวเองโดนด่าหรือเรื่องที่พี่ปลัดกำลังจะถูกปลดออกจากซีรี่ส์ก่อนดี
“มึงใจเย็นนะเว่ย เชี่ยกูไม่รู้จะพูดไงดีว่ะ ตอนนินิวส่งมาให้ก็ตกใจเหมือนกัน เดี๋ยวพวกกูจะโพสต์แก้ข่าวให้” ไอ้แทนเอื้อมมือมาลูบหัวผม
“มึงอย่าไปสนใจ พวกเขาไม่รู้จักมึงด้วยซ้ำ” ไอ้มิกพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม
“พวกมึง กูว่ากูอ่ะไม่เท่าไหร่หรอก กูไม่ใช่ดารามันคงไม่กระทบอะไรมาก ในรูปก็เห็นหน้าไม่ค่อยชัดแต่พี่ปลัดนี่ดิ”
“ซวยหน่อยมึง ตอนนี้เหมือนทางซีรี่ส์ยังเงียบอยู่นะ แต่กระแสแม่งโคตรแย่ กูว่าพี่เขาโดนถอดแน่ๆ” ผมหยิบมือถือตัวเองที่วางไว้ข้างหมอนขึ้นมาดู หน้าจอขึ้นแจ้งเตือนไลน์จากเพื่อนเต็มไปหมดแต่ผมสนใจแค่เวลา ห้าทุ่มกว่าแล้ว พี่ปลัดน่าจะกลับมาแล้ว
ผมสลัดผ้าห่มออกก่อนจะวิ่งไปเปิดประตูห้องตรงข้ามโดยที่ไม่เคาะ ซึ่งมันก็เปิดได้ทันทีแสดงว่าเจ้าของห้องกลับมาแล้วตามที่ผมคาดไว้ พอมองเข้าไปก็เห็นพี่ปลัดยืนพิงโต๊ะจับมือถืออยู่ พี่มันทำหน้าตกใจครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา
“มาง้อถึงที่เลยหรอ” ยังจะมายิ้มอะไรอีกวะ ผมงอคิ้ว
“พี่...”
“หือ?”
“เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะผมรึเปล่าอ่ะ ผมว่าผมควรออกมาพูดอะไรสักอย่างมันจะได้ดีขึ้น” พี่ปลัดถอนหายใจเฮือกใหญ่
“มึงเห็นแล้วหรอ”
“พี่ ผมไม่โอเค ผมทำให้พี่ซวย”
“ช่างมันเถอะคุณ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นมึงอย่าเพิ่งออกมาพูดอะไรมาก เดี๋ยวจะซวยหนักกว่าเดิม พรุ่งนี้กูเข้าบริษัทเดี๋ยวเขาก็จัดการทุกอย่างเอง อย่าคิดมาก” พี่ปลัดยังคงยิ้มเหมือนเดิมพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้หัวผม
“พี่ถ้าพี่โดนถอดจากซีรี่ส์จะทำยังไงอ่ะ”
“อืม ก็คงทำใจ”
พี่แม่งทำตลกไปหมดทุกอย่าง ผมมองหน้าพี่ปลัดที่ไม่ได้เจอมาตั้งแต่หลายวัน ผมสัมผัสได้ว่าเรื่องมันค่อนข้างใหญ่อยู่พอสมควร แต่พี่ปลัดก้ยังจะทำหน้าอบอุ่นการค้าใส่ผมอยู่ได้ คิดว่าผมไม่รู้หรอไงวะว่ามันเป็นหน้ากากอบอุ่นที่เอามาใส่บังหน้า
“พี่อย่าแบบนี้ดิวะ”
“คุณ ทุกอย่างจะโอเค มึงไม่ต้องโทษตัวเอง”
“แต่ถ้าพี่โดนถอดจากซีรี่ส์เพราะผมมันไม่โอเคนะพี่” พี่ปลัดกระดกคิ้วแล้วถอนหายใจยาวเหยียด
“ถ้าจะโดนถอดเพราะกูเป็นเกย์จริงๆก็ปล่อยมันเถอะ”
“มันจะปล่อยได้ยังไงอ่ะ พี่ดูเศร้าอ่ะ” ผมก้มหน้ามองเท้าตัวเอง แม่งโคตรรู้สึกแย่เลย ผมจ้องถุงเท้าลายเป็ดของตัวเองที่กระดุกกระดิ๊กแก้เก้อก่อนจะโดนมืหนาๆของพี่ปลัดมาดันหน้าขึ้นแล้วบีบแก้มผมจนปากจู๋
“กูเศร้าได้ แต่มึงห้ามเศร้า ยิ้มก่อน” จากบีบแก้ม มืออีกข้างพี่มันก็วางมือถือลงแล้วยกขึ้นมาบีบแก้มผม
“อื้อ ไม่ยิ้ม ยิ้มไม่ออก พี่ดิ เศร้าก็เศร้าจะยิ้มทำไม เริ่มรำคาญแล้วเนี่ย” พูดจบพี่มันก็หัวเราะออกมาอีก เวร เข้าใจที่พูดป่ะวะเนี่ย หรือจะเข้าโครงการหล่อแต่โง่อีกคน
“มึงเข้าห้องมากูก็ไม่เศร้าแล้ว”
“ทำไมอ่ะ”
“หน้ามึงโง่ เห็นแล้วตลก” แบบนี้ก็ได้หรอ
“พี่แม่ง”
“ไม่เห็นหน้าหลายวันเลย” พี่ปลัดยังคงหยิกแก้มผมไปเรื่อย ดูท่าทางจะสนุกพี่มัน
“อื้อ พี่ขี้งอนอ่ะ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ โทรก็ไม่รับ”
“เลยได้รู้ว่ามึงก็ขี้ง้อ คุ้มดีออก” อ๋อออออออออออ ทำเป็นเล่นตัวเพราะแบบนี้ก็ได้หรอ!! ผมยื่นมือไปต่อยอกพี่มันเบาๆ เจ้าของอกแทนที่จะเจ็บดันหัวเราะล่าออกมา
“ฮึ่ยไม่ต้องหัวเราะเลย ข่าวนี่อาจจะทำผมเรทติ้งตกก็ได้ป่ะ หน้าผมในรูป โคตรรรรร แย่”
“หือ มันยังตกไปได้มากกว่านีอีกหรอ” มือพี่ปลัดยังคงป้วนเปี้ยนอยู่กับแก้มกับหูผม รำคาญจนชิน เป็นอะไรนักหนากับหน้าผมวะ อยากจะถอดให้พี่มันเอากลับไปลูบเล่นที่บ้านเลย
“พี่แม่ง ถ้าสาวเมินผมจะทำไง”
“ดีใจมั้ง” ตอบยิ้มๆพร้อมกับจิ้มแก้มผมอีกสองสามที
“รูปออกมาขนาดนี้ผมจีบน้องอายไม่ติดแน่เลย”
“...”
“นี่ผมกะจะทักสาวสังคมไปอีกคนถ้าไม่เวิร์คทำไงเนี่ย”
“...”
“ถ้าผมจีบสาวไม่ติดพี่จะรับผิดชอบยะ อื้อ!!“
ผมยังพูดไม่ทันจบอยู่ดีๆมือที่จับแก้มของผมอยู่ก็เปลี่ยนที่ไปรั้งตรงคอพร้อมกับหน้าพี่ปลัดที่ก้มลงมาใกล้จนผมเผลอหลับตาปี๋ ลมหายใจเราห่างกันนิดเดียว
...แต่ริมฝีปากเราติดกันผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนสมองมันว่างเปล่ากลายเป็นสีขาว รู้ตัวว่าจู่ๆหลังผมก็กระแทกเข้ากับผนังแต่ก็ประมวลผลไม่ทันว่าทำไมเพราะมัวแต่ตกใจกับสัมผัสที่แทรกเข้ามา ผมจับเสื้อเชิ้ตบริเวณไหล่พี่ปลัดแน่นทำอะไรไม่ถูก จับสัมผัสอะไรก็ไม่ทัน รู้แต่ว่าเหมือนจะหายใจไม่ออก ผมฮึบแรงเฮือกสุดท้ายออกมาผลักพี่ปลัดออก
ผมหอบหนักระหว่างที่พี่ปลัดหายใจธรรมดา แต่หน้าพี่ปลัดนั้นนิ่งมาก นิ่งแบบที่ผมไม่เคยเห็น ผมยกมือขึ้นปาดปากตัวเองเพราะรู้สึกเหมือนมันเปียกไปด้วยน้ำลาย ให้ตาย...
...พี่ปลัดจูบผม “พี่... พี่ทำบ้าอะไรวะ!!!” ผมจ้องหน้าพี่ปลัดอย่างไม่เข้าใจ
“จูบ”
“พี่...”
“จะหนีก็หนีไปซะคุณ”
“พี่...”
“แต่กูจะไม่ขอโทษ เพราะกูตั้งใจที่จะจูบมึง”
ผมงงไปหมด มันสับสนจนทำอะไรไม่ถูก ทำไมพี่มันถึงจูบผม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมผมถึงจูบกับผู้ชาย
“พี่... พี่เป็นบ้าอะไร ทำไมพี่ ฮึก”
“กูเป็นเกย์คุณ จำได้ใช่ไหม”
“ฮึก”
“แล้วกูก็...”
“...”
“ชอบมึง”
ทุกอย่างเงียบสงบ ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนอกจากหันหลังแล้ววิ่งออกมาจากห้องพี่ปลัด พอเข้าห้องตัวเองไปก็พบพวกเพื่อนผมที่นั่งทำหน้าตกใจกันอยู่หน้าทีวี พวกมันรีบวิ่งเข้ามาถามผมทันทีว่าผมร้องไห้ทำไมซึ่งเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบเพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าร้องไห้ทำไม รู้แต่ว่าผมปล่อยโฮออกมาดังลั่นห้องนอน
ผมร้องไห้เพราะอะไรไม่รู้
...และผมก็ใจเต้นเพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน --
น้องแค่ตกใจ โอ๋ๆ ลูบหัวน้า