❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]  (อ่าน 57634 ครั้ง)

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
คิดถึงมอมแมมของคุณชายแล้ว :monkeysad:

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
ก่อนอ่าน ฮือฮือ น้องขอโทษที่มาช้า

ระเบียบที่ 10 : ห้ามใจไม่ให้โพตอง (พองโต)



                งานเริ่มแล้วครับ ผมประจำที่ของตัวเองอยู่ตรงกลางเวที แอบเห็นคุณชายยืนรับแขกอยู่ตรงโน้น คุณน้าก็มาแล้ว ใส่ชุดผ้าไทยสีฟ้าอ่อนสวยมาก ไอ้หมูกับเฮียดุกมองตาค้างเลยครับ ตอนนี้ทีมของผมสามหนุ่มสามมุมก็อยู่บนเวที เฮียดุกเปิดเพลงไทยอย่างลาวดวงเดือน นกขมิ้น แสนแสบ เวอร์ชั่นขิมไปเรื่อยๆ บรรดาแขกเหรื่อที่มาก็สมฐานะของแต่ละคนมากครับ นมแจ่มงี้ยิ้มหน้าบานเพราะทุกคนชมขนมไทยกันหมด



                “ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อกี้ละ มึงไปเอาเสื้อผ้าใครมาใส่” เฮียดุกที่ผมเรียบแปล้ปิดหัวล้านได้พูดขึ้นเล่นเอาผมแทบสะดุ้ง



                “เอ่อ...”



                “พี่แซนหรอ”



                “เปล่าของ...คุณชายอะ”



                “กูว่าแล้ว” เฮียดุกตบหัวไอ้หมูดังป้าบ “เห็นมั้ยไอ้หมู ชุดนี้อะของคุณชาย มึงก็บอกของพี่แซนๆ อยู่ได้”



                “มึงตบหัวกูขนาดนี้เอาสมองกูไปต้มกินเลยมั้ย” ไอ้หมูโมโหที่โดนกระทำชำเลา มันพูดเสียงงอนๆ



                “เอามาดิๆๆๆๆ” แล้วพวกมันก็เถียงกัน ไม่นานก็หันมาหาผมที่ยืนเหมือนส่วนเกินของคู่ผัวตัวเมียอยู่ตรงนี้



                “เฮียรู้ได้ไงว่าของคุณชาย” ไอ้หมูเอ่ยขึ้น พลิกกลับมาประเด็นเดิม กูอยู่เงียบๆ นะบอกเลย



                “เอ้าไม่รู้ก็บ้าแล้วป้ะ?”



                ชิบหาย กูคิดว่าไม่มีใครรู้นะเนี่ย เฮียดุกและไอ้หมูส่งสายตามีคำถามมาให้ ผมเลยรีบตอบอย่างไม่ลนลาน



                “คุณชายท่านมีชุดเก่าอะ เค้าเห็นกูใส่ชุดยาวเลยสงเคราะห์มาให้”



                “เชี่ยเขา!”  ไอ้หมูเอ็ด ผมหน้าซีด หรือว่าผมจะไม่เนียน รางวัลออสการ์ครั้งนี้จะตกเป็นของลีโอนาโดงั้นหรอ “อะ...อะไรวะ”



                “มึงรู้จักคำว่าสงเคราะห์ด้วยหรอ”



                ผมเกาหัวแกรกๆ แอบถอนหายใจเบาๆ เพื่อนกูนี่โง่เหมือนกูจริงๆ ดีแล้วๆ ผมเปลี่ยนเรื่องทันที



                “รู้ดิ คำนี้อะนะ เฮียดุกสอนกูเอง ตอนปี 1 ที่เรียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสารอะ กูได้ยินเฮียดุกใช้แล้วดูมีสมอง กูเลยไปเรียนรู้จากเฮียดุก” พอว่าแบบนั้นเฮียดุกที่หรี่ตาจับผิดผมตลอดเวลาเริ่มอมยิ้ม ยอเก่ง...



                ไอ้เขา มึงนี่ฉลาดล้ำโลกจริงๆ



                “คุยไรกันหนักหนา อยู่นิ่งๆ บ้างไอ้ห่า คุณตาณยืนมองตาเขียวแล้ว ยุกยิกๆ เหมือนมดกัดไข่” พี่แซนเดินมาข้างเวทีกระซิบบอกด้วยคำภาษาพ่อขุน พวกผมเลยหันไปขอโทษพร้อมกับตั้งสติทำงานต่อไป



                “พี่รัก อย่ามาไอ้ห่งไอ้ห่าแถวนี้ คุณชายท่านไม่ชอบ” ผมรีบเตือนก่อนที่พี่แซนจะเดินจากไป



                “เออ โทษทีเห็นพวกมึงแล้วอดไม่ได้ คุณหญิงคุณนายเต็มงานอย่ามาสถุลนะเว้ย” มึงไม่สถุลเลยพี่รัก



                “ไรวะ ออกจะมีสกุลขนาดนี้” เฮียดุกบ่นไล่หลัง ผมเลยรีบถามต่อ



                “สกุลอะไร”



                “ศกุลตลา”



                “เอ่อะ...”



                “เอ่โด๋ นะจ๊ะ เอ่โด๋”



                “เกลียดการเคลื่อนคอของมึงจริงๆ เลยเฮียดุก!!”



                ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องดีดกีตาร์ ผมเลยได้นั่งว่างๆ มองสาวสวยในงานเลี้ยงของคุณน้า ตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว เหล่าเด็กเสิร์ฟก็เดินเข้าออกเสิร์ฟอาหารกันมาพักใหญ่ๆ เอ๊ะ...แล้วคุณชายหายไปแล้วเนี่ย เมื่อกี้ยังอยู่แถวนี้นี่นา ผมเนียนมองหา ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นะ นั่นไง...คนที่หล่อที่สุดในงาน...



                “คุณชายอยู่กับใครวะนั่น สวยชิบหาย” ไอ้หมูมือกลองส่งเสียงมาด้านหลัง ส่วนผมก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นคุณชายอยู่กับผู้หญิงคนไหนเลย เฮ้ยๆ แล้วหน้าอกผมเป็นอะไร มันอึดอัดเหมือนมีอะไรมาข่วน



                “เฮ้ย นั่นพี่เรนนี่” จู่ๆ ไอ้หมูก็ร้องออกมาเบาๆ



                “จริงด้วยว่ะ แต่กูว่าเค้าอยู่ไกลขนาดนั้น ต้องเป็นเรนนั่นแล้วล่ะ”



                “เฮียเวง พี่เค้าชื่อเรนนี่ ปีสี่ หมอยามอเราอะ”



                “อ๋ออ เออมองจากตรงนี้แล้วช่างเหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งหยกใบทอง”



                “กิ่งทองใบหยก!”



                ยิ่งเห็นคุณชายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับพี่เรนโน่น ไอ้เขายิ่งคันยิบๆ แมลงอะไรกัดผม! ทำไมผมรู้สึกไม่ดีแบบนี้ แล้วผมจะตายมั้ยครับพี่โต ถ้าผมตาย...ผมขอ...



                “ไอ้เขา มึงเป็นไร”



                ผมขอ... ผมโน้มกายไปด้านหน้า ไม่คิดว่าเล่นใหญ่แล้วมันจะ...



                ปั่ก! วี๊ด!



                หัวโขกไมค์ดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงไมค์หอน เฮียดุกรีบไปเฟดเสียงไมค์ลงทันที คนทั้งงานหันมามองบนเวทีที่จุดเดียว หนึ่งในนั้นมีคุณชายตาณด้วย พี่ท่านทำท่าจะเดินเข้ามาแต่สาวสวยก็รั้งแขนไว้ ผมเลยหันไปด้านอื่น ไม่อยากมองให้แมลงกัด พี่แซนที่ยืนอยู่ไม่ไกลทำหน้ายักษ์พร้อมกับชี้ที่นาฬิกา



                “มึง กูไม่มีสมาธิ” ผมรีบหันหลังไปหาเพื่อน ทั้งๆ ที่หน้าของคุณชายลอยอยู่ในหัว เอสโอเอสขั้นเร่งด่วน นี่เป็นโค้ดลับของผมกับไอ้หมูเวลาอยู่บนเวที



                “สูดหายใจเข้าลึกๆ ตอบกูนะ” ไอ้หมูเดินมาข้างๆ พร้อมกับจับหน้าผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เดี๋ยวนะเพื่อนหมู นี่มือหรือตีนเนี่ยหนักชิบหาย เอาล่ะ ไม่ได้ๆ ผมต้องมีสมาธิ



                “น้ำมาปลากินมด...น้ำลด!”



                “...ตอ...ตอผุด”



                “เอาใหม่มึงยังไม่มีสติและสมาธิ” ไอ้หมูส่ายหน้า พึมพำว่าใช้ไม่ได้ๆ แล้วมันก็เริ่มจู่โจมทันที



                “หัวล้านได้!...”



                “แชมพู!”



                “ปลาหมอตายเพราะ!”



                “ถูกจับ!”



                “คนดีชอบแก้ไข!”



                “คนจังไรหน้าเหมือนมึง!”



                “ฮรุก ไอ้สัส ด่ากูได้ขนาดนี้มีสมาธิแล้วล่ะ” มันเป่ากระหม่อมผมหนึ่งที แล้วพิธีกรของงานก็สแตนบายด์ที่โพเดียมข้างเวทีแล้วครับ เฮียดุกเฟดเสียงเพลงให้ดังคลอแล้วเพิ่มเสียงไมค์พิธีกร เป็นอันเริ่มงานได้



                “กราบสวัสดีแขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมนายชมร  กระถินงาม รับหน้าที่เป็นพิธีกรในวันนี้ครับ... วันนี้คุณหญิงคงจะได้ยินคำนี้มานักต่อนักแล้ว กระผมก็อยากจะเรียนอีกครั้งหนึ่งว่า สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะครับ...ครั้งแรกที่ผมคุณหญิงนั้น เอ่อ...ต้องบอกว่าผมเป็นรุ่นพี่ที่ซ้ำชั้นน่ะครับ... ผม...”



                พิธีกรที่น่าจะเป็นเพื่อนของคุณน้ากล่าวต้อนรับและทักทายทุกคนในงาน ไอ้เขาที่เรียกสติคืนมาได้ไม่ถึงห้านาที ก็ต้องมือเย็นเพราะทุกสายตาจับจ้องมาทางเวทีกันหมด คุณน้าตั้งใจฟัง แถมยังโบกมือให้ผมอยู่ที่โต๊ะกลางงาน ผมเลยยิ้มตอบ พอมองเลยไปอีกนิดผมก็พบว่าสายตาของคุณชายที่นั่งข้างๆ คุณน้ากำลังมองมาเช่นเดียวกัน แต่ไม่นานผู้หญิงที่ชื่อเรนนี่ก็สะกิดคุณชาย



                เรียกคุณชายทำไมนักหนา แล้วต้องกระซิบด้วยหรอ เป็นไรมากป้ะครับ



                เป็นไร?



                กูเนี่ยเปงไรรร โอ๊ย โมะโหะแล้ว ผมเบือนหน้าหนี สะกดจิตตัวเองให้ท่องคอร์ดอยู่ในใจ



                “...ทุกท่านที่มางานในวันนี้คงจะได้รอยยิ้มความอิ่มเอมใจกลับไปถ้วนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่กำลังรับประทานอาหารสุดแสนจะอร่อย ท่านจะได้รับฟังการแสดงที่บุตรชายของคุณหญิงเตรียมมาให้ อย่ารอช้าให้เสียเวลา เชิญรับฟังได้เลยครับ”



                ไฟบนเวทีหรี่ลงเหลือเพียงดวงที่ส่องมาทางผมทำให้ผมเด่นอยู่กลางเวที ผม...นายเขาควายรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้ขึ้นไปเล่นที่บิ๊กเม้าเท่น และยิ่งตื่นเต้นเมื่อประสานสายตาเข้ากับคุณชายที่ตั้งใจมองเสียเหลือเกิน แต่ก็นั่นแหละ ไม่รู้ทำไม ผมถึงลืมความหงุดหงิดเมื่อกี้ไปซะหมด กลายเป็นไอ้เขาที่...ใจมันสะต้านนนจนสั่น แถมมือก็ยังแข็งด้วย มือนะครับมือ



                อยากจิร้องงงง ไหนบอกว่าอยากเล่นกีตาร์ไงวะ



                “ไอ้เขา ดีดได้แล้ว” ไอ้หมูที่หลบสปอร์ตไลท์ส่งเสียงกระซิบมา หางตาผมเห็นพี่แซนถลึงตามองที่ปล่อยให้บรรยากาศเงียบมาเกือบสามนาที เหมือนว่าโลกใบนี้ผมเคลื่อนไหวอยู่เพียงคนเดียว ทุกคนดูลุ้นไปกับผม



                ไอ้เขาควายทำไมมึงเป็นแบบนี้ ไม่รู้ตัวว่าผมเบะปาก มองไปด้านหน้าอีกทีก็ไม่เห็นคุณชายแล้วใจมันแป้วแปลกๆ ไปไหนแล้วอะพี่... ผมเลิกมองหา ตัดสินใจก้มมองกีตาร์แล้วจับคอร์ดด้วยมือสั่นๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ มือขวาก็เริ่มเกากีตาร์ เสียงปรบมือดังมาแผ่วเบาตามมาด้วยความเงียบ



                ไอ้เขาต้องรอด! ผมพยายามปล่อยใจให้สบาย หลับตาลงแล้วทำตามที่ซ้อมมา เชี่ยเมื่อกี้ดีดพลาด ผมลนลาน



                และทันทีที่จบอินโทรแล้วจะขึ้นท่อนแรก... เสียงทุ้มคุ้นหูก็ดังมาจากด้านหลัง



                ”นวล....เจ้าพี่เอย

                คำน้อง เอ่ยล้ำ คร่ำครวญ

                ถ้อยคำ เหมือนจะชวน

                ใจพี่หวล ครวญคร่ำอาลัย

                น้ำตา อาบแก้ม

                เพียงแซม ด้วยเพชรไสว

                แวววับ จับหัวใจ

                เคล้าแสงไต้ งามจับตา”



                เสียงนุ่มเพราะจนผมแทบจะหยุดหายใจ ไอ้เขาเหมือนเจอเสียงที่ตามหามานาน ผมได้ยินเสียงแมลงดังตึกตักสะท้อนอยู่ในอก เหมือนทุกอย่างลอยฟุ้งอยู่ในความฝัน คุณชายที่เดินออกมาด้านหน้าดึงดูดสายตาทุกคนไปจนหมด ไม่มีใครสนใจผมที่ประหม่าอยู่ตรงนี้ ยิ่งยิ้มที่มุมปาก และแววตาสงบนิ่งที่สบกับผมนั้นเหมือนกำลังบอกผมว่าทำได้สิ ผมทำได้ และนั่นทำให้ผมที่เริ่มต้นแสดงด้วยความไม่มั่นใจทำได้ดีกว่าเดิม ทั้งๆ ที่ไม่เคยซ้อมด้วยกันมาก่อน แต่เสียงกีตาร์เเละจังหวะที่ผมดีดเข้ากับคำที่คุณชายเปล่งออกมา



                ผีเข้าผมแน่ๆ แค่คิดว่าไม่อยากทำลายเสียงเพราะๆ ของคุณชายด้วยเสียงกีตาร์ที่ไม่ได้เรื่อง ผมจึงเริ่มดีดอย่างมั่นใจ ผ่อนความกังวลลง เล่นไปก็เผลอแอบมองด้านข้างคุณชายแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว



                “นวลแสงเพชร เกล็ดแก้ว อันล้ำค่า

                ครา...เมื่อต้องแสงไฟ ส่องมา

                แวววาวชวนชื่นชม..

                น้ำตา แสงไต้

                ดื่มใจ พี่ร้าวระบม

                ไม่อยาก พรากขวัญ ภิรมย์

                จำใจข่ม ใจไปจากนวล

                นวล....เจ้าพี่เอย   นวล....เจ้าพี่เอย”



                แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ขอเสียงปรบมือดังให้กับคุณตาณอีกครั้งครับ”



                แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

               “เพราะมากเลยลูก!”



                “เยี่ยมมากๆ”



                เดี๋ยวนะทุกคน!



                เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับผม การแสดงจบลง ไอ้เขาที่วิญญาณล่องลอยกลับเข้าร่างด้วยเสียงปรบมือดังกว่าตอนเริ่มหลายเท่า แผ่นหลังคุณชายตรงหน้าผมบอกให้รู้ว่าเมื่อกี้คือเรื่องจริง คนตรงหน้าก็คือคุณชายจริงๆ ไม่ใช่ตัวแสดงแทน คุณชายร้องเพลง? บนเวทีนี้? กับเสียงกีตาร์ของผม?



                “ตาณลูก”



                ไม่ทันได้คิดอะไร คุณน้าก็เดินตรงมาที่หน้าเวที  หางตาของคุณน้ามีน้ำตาซึม คุณชายรีบลงไปหาทันที พร้อมกับพิธีกรที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แขกด้านล่างก็ประทับใจจนส่งเสียงเอ็นดูออกมา ส่วนไอ้ภูเขาที่เกือบทำการแสดงพังยังอึ้งไม่หาย ผมมองคุณชายอย่างไม่เชื่อสายตา



                “คุณหญิงมีอะไรจะพูดกับคุณตาณมั้ยครับ”



                “ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตาณจะร้องเพลงที่แม่ชอบที่สุดในวันเกิดแม่ แม่ตื้นตันมากเลย ขอบคุณนะคะลูก”



                “สุขสันต์วันเกิดครับคุณแม่” คุณชายกราบไปที่อกของคุณน้า เสียงปรบมือเกรียวกราว



                “จ้ะลูก ไม่คิดว่าลูกจะมีเซอร์ไพรส์ ตาณไม่เคยร้องเพลงต่อหน้าคนเยอะนี้มานานแล้วล่ะค่ะ” คุณน้าหันไปตอบพิธีกร



                “อะไรที่ทำให้คุณตาณให้ของขวัญชิ้นนี้ครับ” พิธีกรส่งไมค์มาให้คุณชายอีกครั้ง พี่ท่านรับมาพร้อมกับเอียงตัวมาทางเวทีเล็กน้อย



                “แค่คิดว่ามีแต่เสียงกีตาร์คงจะเหงาไปนะครับ”

 

             

.

.

                “ทีมงานคุณแซน นมให้เด็กๆ ตั้งโต๊ะแล้วนะคะ ทานกันให้เต็มที่เลยไม่ต้องเกรงใจ”



                “ขอบคุณคร้าบบบ”



                พวกผมประสานเสียงหลังจากงานเลี้ยงเลิก ทีมงานพี่แซนดีใจกันใหญ่เพราะเจ้าภาพใจดีมากๆ หลังจากคุณชายร้องเพลง ก็มีการเปิดวิดีโออวยพรจากคนที่ไม่ได้ร่วมงาน แล้วผมก็ดีดกีตาร์เป็นเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ โดยมีไอ้หมูตีคาฮองสร้างสีสัน เมื่อคุณน้าเป่าเค้กแล้ว เหล่าคุณหญิงคุณนายก็เดินมาขอเพลงกันหลายคน บรรยากาศหลังจากนั้นเลยผ่อนคลายขึ้นมาก และผมดีดกีตาร์แบบมีความสุข

                ส่วนตอนนี้ไอ้เขาได้กินข้าวแล้วครับโผมมม

               “นมครับ ผมขอน้องไปร์ทด้วยได้มั้ยง่า” ตักข้าวผัดปูมาคำนึง แล้วรีบหันไปหานม เมื่อวานที่คุณชายลากมาทำงาน ผมแอบหยิบสไปร์ทติดกระเป๋ามาด้วย แอบกินจนคุณชายเอ็ด นมที่สอนงานผมอยู่เลยเอ็ดผมไปด้วย



                “เชี่ยเขา ไปสั่งนมแจ่มเค้าได้ไง ไม่ต้องครับ คุณนม” เขร้ ลืมตัวอีกแล้ว ผมรีบยกมือปิดปาก ก้มหน้าหลบสายตาจากทีมงาน โดยเฉพาะสายตาไอ้หมูและเฮียดุกเนี่ยน่ากลัวสุดแล้ว



                “นายภูเขาจะกินยังจะมาใช้คนแก่” นมเดินมาเอ็ดผมพร้อมกับบิดติ่งหูผมเบาๆ นมครับบบบ เจ็บติ่งง่ะ



                “ขอโทษครับนม”



                “อยากกินก็มาเอาเอง!”



                “ขอบคูมคร้าบบบบบ นมแจ่มใจดีที่ฝุดเบยยยยย เอ่อ...กินๆ ทุกคนกินๆ อร่อยว่ะ มึง สุดยอดเลย” กูรีบเปลี่ยนเรื่องเลย อะ ตักกับข้าวให้ด้วยเลยเพื่อน เฮียดุกปรายตามองหนึ่งที ที่มันไม่ค่อยพูดกูว่าหิวแน่ๆ



                “ไอ้เขา มึงเกือบทำงานล่มแล้วนะ ดีที่คุณตาณมีเซอไพร์สกระทันหัน ไม่งั้นมึงตายหยั่งเขียดแน่ มีอย่างที่ไหน หน้าเอ๋ออยู่กลางเวทีตั้งนานสองนาน ดีดพลาดด้วยไอ้ห่าน” พี่รักดุผมเสียงดัง พี่แซนกลายร่างเป็นเจ้านายดุผมใหญ่ แถมยังเอาช้อนชี้หน้าผมด้วย

                “ฮือฮือ น้องขอโทษ”                                                                   



                “มึงไม่มีสมาธิเลยวันนี้เป็นอะไร” พี่รักทำเสียงเข้ม ผมไม่กล้าหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทั้งสอง เพราะตั้งแต่ทีคุณชายร้องเพลงบนเวทีกับผม พวกมันก็จับตาดูผมทุกวินาที ไม่ได้ๆ ต้องเอาความลิ้นเปลี้ยเข้าสู้



                “เป็นไรตอบ!”



                “เปงบ้า”



                “กูไม่ตลก”



                “ง่ะ”



                “ไม่ต้องง่ะเหงอะอะไรทั้งนั้น”



                “เอาน่าเหี้ยแซนอย่าไปดุมันมากเลย เงี่ยแล้วหนอย” พี่บีช่วยปกป้องผม



                “ภาษาไรวะไอ้บี”



                “หงอยแล้วเนี่ย”



                “ถุ้ย!”



                “สัด เต็มหน้ากูเลย ยังไงคุณหญิงท่านก็ชอบนะ แถมคุณตาณยังไม่ติอะไรด้วย ตอนร้องเเล้วหันมามองไอ้เขา กูนึกว่างานเวดดิ้ง เงียบกันทำไมวะ เออๆ จะว่าไปคุณเค้าก็เรียนมอเดียวกับพวกมึงนี่ เสียงเทพสัดๆ” เชี่บพี่บีหันไปถามไอ้หมู ถึงแม้มันจะเขมือบอาหารอยู่แต่มันก็สามารถแซะผมได้



                “ใช่พี่ เรียนมอเดียวกันแล้วเหมือนจะมีซัมติงกับตัวอะไรแถวนี้ด้วย ชุดสูทนี่ก็เอามาให้ ขนาดนมที่บ้านนี้ยังรู้จักชื่อมันเลย” พอไอ้หมูพูดจบปุ๊บพี่แซนก็หันขวับมาพอดี แถมยังใช้สายตากวาดมองไปทั่วตัวผม ไอ้เขาตาเหลือก รีบปิดนมตัวเองทันที



                “พี่รัก มองอะไร ลามก”



                “กูมองชุด!” ทำไมต้องกลอกตาใส่ ไม่เข้าใจ “แล้วมึงกับคุณชายนี่ยังไง กูชักจะตงิดๆ ละ”         



                ช้ะ...



                “เออ ทุกคน...ปวดชิ้งฉ่องว่ะ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ไม่ไหวละ เดี๋ยวไหลออกปาก”



                “ไอ้เหี้ยเขา แดกข้าวอยู่!!!”



                ต้องชิ่งบอกเลย



                ตุ้งชิ่ง ตุ้งชิ่ง

               
[ต่อด้านล่างค่ะ]

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
[ต่ออีกนิดค่ะ]
.

.

                ผมเดินลัดเลาะจากหลังเวทีมาแอบอยู่ข้างห้องครัวนมแจ่ม เอาเข้าจริงๆ ไม่ได้ปวดมาก แต่ส่วนหนึ่งอยากมาตามหาคุณชาย ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว คุณน้าและเพื่อนอีกสองสามคนที่ยังไม่กลับเปลี่ยนสถานที่ เข้าไปนั่งคุยกันในบ้าน ด้านนอกเลยมีแต่คนที่ต้องเก็บโต๊ะ กับทีมงานพี่รัก คุณชายอยู่ไหนนะ...หรือว่าจะอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ขณะตีกับตัวเองอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงคนคุยกันแว่วๆ ลอยมาตามลม หรือว่านั่นคุณชายในสายลมหนาว! ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไอ้เขารีบเดินขาขวิดไปทันที



                “มาช้านะคุณติ”



                “ผมได้ยินคุณร้องเพลงนี่ถือว่าไม่ช้านะ”



                “หึ...”



                “คิดไงถึงไปร้อง จำได้ว่าคุณบอกว่าจะร้องในบ้าน ไม่ได้ร้องต่อหน้าคนเป็นสิบยี่สิบนี่”



                “ก็อย่างที่บอก มีแต่เสียงกีตาร์เดี๋ยวเหงา”



                “กีตาร์เหงา หรือคนดีดล่ะ ผมเห็น...”



                อั่ก!



                ไม่ทันอ้าปากร้องอย่างแท้จริง



                เพราะรีบเกินไป ความซวยจึงบังเกิด และความซวยนั้นคือผมสะดุดหินจนหน้าทิ่มลงไปกับสนามหญ้า ทำให้คนที่อยู่บนศาลาหันขวับมาในทันทีอย่างกับหนังตลก



                “เอ่อ...” ผมหยิบหญ้าออกจากปากแล้วลุกขึ้นอย่างสโลว์โมชั่น “คือว่า..ผม...สวัสดีครับพี่...ศาลาสวยนะครับเนี่ย  ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แหะๆ”



                “หึ เค้ามาตามคุณหรอ” คนที่ยืนอยู่กับคุณชายนั้นอยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเหลือบมองผมสองวิแล้วหันไปถามคุณชาย พวกเค้าตัวสูงพอๆ กัน แถมยังใส่แว่นไร้กรอบ เอ...หน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผมเอียงหน้ามองในขณะเดียวกันผู้ชายคนนี้ก็เอียงหน้ามองผมเช่นเดียวกัน



                “มองผมแบบนี้ ผมขอคิดเงินนะครับ”



                พรึ่บ!



                จบประโยคนั้นโลกชองผมก็มืดทันใด ผมมองไม่เห็นอะไรเลย!



                “ไฟดับ! พี่ตาณ! พี่ ไฟดับ!” ผมโวยวาย จับหน้าตัวเองแล้วก็พบว่ามีใครบางคนปิดตาผมอยู่ หอมๆ ใบเตยแบบนี้  “เฮ้ย พี่ปิดตาผมทำไม ปล่อยโผมม” คุณชายไม่ตอบ แถมยังดูเหมือนรำคาญเสียงผมอีกด้วย มืออีกข้างถึงได้มาปิดปากผมอีก ผมดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวก จนแผ่นหลังไปชนกับหน้าอกของคุณชาย กลายเป็นว่าผมโดนล็อกตัวเหมือนผู้ก่อการร้าย



                “หึหึ”



                “พี่แกล้งไรผมครับ พี่แว่นช่วยผมด้วย” หัวเราะทำไมฟะ หรือแม่งดูโชว์เปลือยแล้วไม่แบ่งผม โกรธนะ



                “แหม คุณตาณนี่ ผมมองนิดหน่อยเอง”



                “...” คุณชายพูดเสียงเบาและผมไม่แน่ใจว่าคืออะไรเพราะไอ้พี่แว่นหัวเราะดังกว่าเดิม



                “อี้ อุยอะไออันนนน อ่อยอ๋มมมมม อ่อกก” ผมพยายามพูดแทรก แต่คนที่ล็อกตัวผมไว้ยังคงนิ่ง มีจริงๆ สินะ ของเด็ดๆ ที่รู้กันอยู่สองคน



                “ไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนขี้หวงขนาดนี้ หึหึ เอาเถอะ ผมไปก่อนก็ได้ ได้เวลาไปส่งเรนนี่ที่คุณไม่สนใจแล้วล่ะ”



                ฮ้า ผมเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คุณชายค่อยๆ มือทั้งสองข้างออกช้าๆ ผมหรี่ตามองข้างหน้าอย่างมึนๆ จะหันไปต่อว่าคุณชายก็ไม่กล้า เดี๋ยวผมก็โดนดุอีก เลยได้แต่มองเหตุการณ์ข้างหน้าอย่างไม่มีสติพร้อมกับพึมพำตามสไตล์เด็กปากมาก



                “หวังว่าผมจะได้เห็นคุณขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีในเร็วๆ นี้ แบบว่าแน่นอนเลยล่ะ” อีกคนว่าก่อนจะตบไหล่คุณชายปุๆ แล้วเดินไปในตัวบ้าน ไม่มองผมแม้แต่เสี้ยววิ คนนี้เป็นเพื่อนคุณชายหรอเนี่ย พวกมึงเลือกคบคนที่ความเพี้ยนหรือยังไง คนปกติอย่างผมไม่เห็นเข้าใจ



                “พี่...ปิดตา..” ละสายตาจากคนแปลกๆ แล้วหันกลับมามอง ชะอุ้ย คุณชายทำตาดุทำไมเนี่ย



                “มีอะไรบือ” คุณชายปรายตามองผมแวบนึงก่อนจะกอดอกแล้วทิ้งตัวลงที่ศาลา เฉยเมยเก่งงง ได้ข่าวว่าเกือบจะฆ่าผมแล้วนะ! แล้วอะไร จากกระบือ เป็นบือ ย่อมากมั้งงง



                “เรียกผมงี้อีกละ สรรหาคำเก่งจริงจริ๊งงง” ผมบ่นและเดินไปกระแทกตัวนั่งห่างๆ แหะ! ตัวผมสกปรกอะ กลิ้งมากับหญ้าเลยเมื่อกี้ พอดีเป็นคนรักธรรมชาติ



                “แล้วมีอะไร มาที่นี่เพื่อนรักนายไม่ว่าเอาหรอ”



                “พี่หมายถึงใครอะ” ผมมองอย่างไม่เข้าใจ ขณะเริ่มคันๆ ตามแขน



                “เพื่อนรักที่ลูบหัวลูบเขาลูบหางนายน่ะ ทำไมหรือว่ามีหลายคน”



                “หือ พี่โกรธไรผมป้ะเนี่ย แล้วทำไมผมได้ยินเสียงงอนๆ” พูดเองก็ตาเหลือกด้วยความงง งอนหรอ?คุณชายเนี่ยนะทำเสียงงอน แล้วผมมาหาคุณชายเรื่องอะไร ทำไมผมถึงอยากมากันนะ พอผมเกาหัวมองตาคุณชายด้วยความไม่เข้าใจ พี่ท่านเลยส่ายหน้ายิ้มๆ แถมยังผลักหัวผมหนึ่งที



                “มอมแมมเอ๊ย...”



                ผมนึกออกแล้ว! ผมยืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนคุณชายชะงัก



                “พี่...ผมอยากจะบอกพี่ว่า พี่ร้องเพลงโคตรเพราะ เพราะโคตรๆ เนื้อเสียงพี่เจ๋งสุดๆ จริงอย่างที่เค้าว่ากัน ถ้าผมไม่ได้ยินกับหู ผมก็ไม่เชื่อ” ไอ้เขาโหมดดราม่า แถมยังคิดไปว่าการที่คุณชายขึ้นมาร้องเพลงคือการช่วยผม ตอนที่คุณชายอยู่ข้างๆ ผมอุ่นใจเป็นไหนๆ คนที่ปากร้ายแต่ใจดีทุกครั้ง และ...ไม่ว่าผมจะคิดไปเองหรืออะไรก็ตาม นายภูเขาทับใจมาก และผมไม่อยากเสียคุณชายไป อันที่จริงผมอยากจะล้มเลิก ตั้งใจจะสารภาพกับเพื่อนว่าผมทำไม่ได้ ผมชวนคุณชายมาร้องให้วงไม่ได้ แต่พอได้ยินเสียงคุณชายเท่านั้นแหละ! โอ้ฮะโอฮะโอ้ฮะโอ



                ไอ้เขาลุกขึ้นยอมทำสิ่งที่โลกต้องจารึก! ผมทิ้งตัวลงคุกเข่ากอดขาคุณชายไว้ พนมสองมือขึ้นกราบกรานเธอ...พร้อมครวญคราง



                “พี่ชายตาณคร้าบบบบบบบบบบบ พี่มาร้องเพลงให้วงผมเถอะ ให้ผมทำอะไรก็ยอมมมมม”



                “ทำอะไรน่ะ มอมแมม ปล่อย!” คุณชายพยายามจับมือ ดันหน้าผมออกจากขา ท่าทางหลุดมาดโคตรๆ แต่ไอ้เขาจะไม่ยอม ผมจะเกาะแบบนี้ถ้าพี่ไม่ตอบรับ



                “จะให้ผมมาทำงานต่ออีกก็ได้ ผมยอมมมมมมมมมมมมมมมมม ผมชอบเสียงพี่ พี่โคตรไอดอลเลย มาร้องให้ผมเถอะ”



                “จะปล่อยไม่ปล่อย” คุณชายพูดเสียงนิ่ง ผมเลยหยุดดิ้นคร่ำครวญ เงยหน้ามองคุณชายที่ก้มมาพอดี



                “พี่ตอบมาก่อนสิ ถ้าพี่ไม่ตอบ ผมจะเกาะเป็นปลิงแบบนี้ตลอดไป” แววตามุ่งมั่นที่คุณชายต้องหวั่นไหว



                “ทำแล้วได้อะไร” แหน่ะ เริ่มเอนเอียงแล้วใช่มั้ย



                “ถ้าพี่ช่วยผม พี่จะได้...ตัวมอมแมมมาป้วนเปี้ยนกวนติงในชีวิตพี่”



                “หึ...ข้อเสนอไม่ผ่าน” ไม่ผ่านแล้วทำไมยิ้มอ๊ะ!



                “ผมจะมาทำงานที่บ้านพี่ทุกๆ เย็นเลย”



                “นายต้องทำอยู่แล้วนี่ หนี้ยังไม่หมด”



                “อะไรอะพี่ ทำยังไงพี่ถึงจะยอมมม พี่บอกผมมาเถอะ จาล้องแล้วว” ผมแนบแก้มกับเข่าคุณชาย กอดขาคนพี่แน่นเหมือนกับว่าเป็นหมอนข้าง คุณชายเลิกดิ้นมาซักพัก พี่ท่านดีดหน้าผากผมเบาๆ แต่ขอโทษเจ้าประคุณรุณช่อง เจ็บสรึดด



                “...”



                “พี่บอกผมเถอะ ร้องให้วงผมเดือนหน้านี้ แล้วพี่จะได้สิทธิประโยชน์จากผมมากมาย”



                “ขายตรง?”



                “ล้อเล่น ว่าไงล่ะพี่”



                “ค่าตัวฉันแพงนะ”



                “แพงเท่าไหร่ ผมมันคนจน แต่ผมจะฝากตัวรับใช้นาย เป่าหูผู้ขวางทางเดินนาย”



                “เป่าหัว...”



                “นั่นแหละพี่ ฟังเพลงนี้เหมือนกันหรอ เพราะเนอะ เฮ้ยพี่ตกลงยังไง” คุณชายนี่หลอกผมหรอ แต่ดีนะที่ไอ้เขาฉลาดไม่หลงกล เกือบร้องเพลงออกไปแล้ว คุณชายทำท่าคิด มองไปที่สระน้ำซึ่งตอนนี้สะท้อนแสงไฟประดับเป็นดวงๆ



                “พูดคำสัญญาตามนี้สิ”



                “หมายควายว่าพี่จะร้องเพลงให้ผมใช่มั้ย” ผมเด้งตัวออกมานิดนึง รีบถามอย่างกระตือรือร้น คุณชายที่มองมานิ่งๆ ไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะชูสามนิ้วขึ้นมา



                “พูดตามสิ”



                “ถ้าพูดตามแล้วพี่จะ...”



                “หนึ่ง นายต้องให้ฉันไปรับไปส่งทุกวัน” ผมเอียงหัว พยายามคิด แต่คุณชายก็ยกเข่าที่ผมกอดไว้ขึ้นเป็นเชิงเร่ง



                “หนึ่ง ผมจะต้องให้พี่ชายตาณไปรับไปส่งทุกวัน”



                “สอง นายต้องรับโทรศัพท์ทุกสายของฉัน”



                “สะ...สอง ผมต้องรับโทรศัพท์ทุกสายของพี่”



                “ข้อนี้สำคัญ สาม ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ”



                “สาม พี่ต้องมาที่หนึ่งเสมอ เอ่อพี่หมายความว่าไงอะ”



                “สี่ ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ” คุณชายก้มหน้ามาใกล้อีก จนผมหดคอหนี กวนนี่หว่า



                ไม่ถามก็ได้



                “มีอีกมั้ยพี่ สามข้อนี่มันจิ๊บๆ แถมปรนนิบัติพัดวีตลอดการซ้อมเลยเอ้า!”



                “หึหึ ทำให้ได้ก่อนเถอะ ถ้าไม่ได้ข้อใดข้อหนึ่ง ฉันสามารถยกเลิกการร้องเพลงบ้าบออะไรนี่ได้ทุกเวลา”



                “โอ๊ะพี่ จริงๆ นะ พี่ช่วยผมแล้วนะ ผมจองพี่ ผมทำสัญญาพวกนี้ได้แน่ รับรองด้วยเกียรติของไอ้เขาเลย” ผมผละแขนที่กอดขาคุณชาย ชูมือแบบลูกเสือสามัญ ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะกราบแทบเท้าคุณชาย ฝันของผมจะเป็นจริงแล้วใช่มั้ย ได้ขึ้นเวที เล่นเปิดให้ศิลปิน แถมยังได้คุณชาย เสียงเทพมาเป็นนักร้อง ดีใจที่สุดเลยครับทุกท่านนน



                “ดีใจอะไรขนาดนั้น”



                ผมรีบปิดแก้มตัวเองทันที ผมยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้วสังคม ใจมันเหมือนลูกโป่งที่ถูกเป่าจนคับศาลาไปหมดแล้ว



                “ต้องดีใจสิ ถ้าเราได้อยู่บนเวทีเดียวกันนะมันต้องดีแน่ๆ เลยพี่”



                “ไปซ้อมให้ดีก่อนมั้ย แค่วันนี้ยังตื่นเวทีเป็นหมีกลัวไม้ไผ่” คุณชายใช้นิ้วชี้มาเคาะกระหม่อมผมสองสามที จนป่านนี้ผมยังนั่งกับพื้นเหมือนทาสในเรือนเบี้ย



                “พี่ว่าอะไรนะ”



                “ไปซ้อมให้ดีก่อนเถอะมอมแมม” คุณชายว่าแบบนั้น แล้วก็ขยี้หัวผมแรงๆ



                “ผมจะซ้อมให้ดี! เชื่อสิพี่ ถึงวันนี้ผมจะเล่นไม่ดี แต่ถ้ามีพี่อยู่กับผมนะ ผมต้องเล่นได้ดีแน่ๆ เลย” ผมยิ้มกว้าง โคตรดีใจเลย



                “...”



                “พี่ตาณ ผมบอกยังขอบคุณนะพี่ เฮ้ย! พี่เป็นอะไร? ทำไมมองผมแบบนั้น? พี่ไปสบายหรอ ไม่ได้นะ เดี๋ยวทาสเขาจะดูแลพี่เอง นมครับ! พี่ตาณไม่สบาย หน้าแดงไปหมดเลย คอก็แดง หูก็แดง นมคร้าบช่วยด้วยยยย!!”





_______

ตอนนี้ทาสคุณชายได้ปรากฏตัวขึ้นเเล้ว
ช่วยเด็กมันหน่อย ความฝันมัน
ภูเขาเด็กอ๊องๆ
เเละคูมชายคนขี้หวง2017 เเละคงจะเข้าสู่2018ด้วย 5555

ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ นอกจากขอโต๊ดดด
ขอโทษทุกคนที่ยังรอคุณชายเเละมอมเเมม
หลังจากนี้จะพยายามอัพให้เร็วขึ้นนะคะ
ช่วงที่ผ่านมาชีวิตสาหัสมาก ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน เข้ามาคอมเม้นต์ เข้ามาเยี่ยมชม
เราไม่ใช่คนเขียนเก่งเเต่หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนยิ้มได้บ้างนะก๊ะ
เริฟฟฟฟฟฟ
ขอบคุณมากค่ะ  :L2: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2017 22:14:35 โดย jaevin »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Choompoo reangkarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบน้องเขาสนุกมากๆๆค่ะติดตามนะคะ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เห็นคุณชายตอนใหม่นึกว่าตาฝาด ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

แหมมมม คุณชายนี่ขี้หึงมากๆเลยสินะคะ เห็นเขาเล่นกัยเพื่อนก็หึงซะแล้วถึงกับต้องทำสัญญากันเลยทีเดียว น้องเขาก็มัวแต่ดีใจไม่ได้เอะใจอะไรเล้ยยยยย

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
คิดถึงน้องเขากับคุณชาย มารอที่ท่าน้ำทุกวันเลย
นังเขาเด็กเอ๋อๆ คุณชายสายซึนเหมือนเดิม

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :impress2: แหมคุณชาย เขินมอมแมมหรอจ๊ะ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
แหมๆๆๆๆนังน้องเขา มาคงมาคันยิบๆ หึงที่คุณชายอยู่กับชะนีก็บอกมาเหอะ คุณชายก็ออกจะหึงชัดเจนขนาดนั้น :haun5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
มอมแมมคนขี้หึง หวายยย ไม่รู้ตัว ได้คุณชายมาช่วยด้วนความรักไปอีก
ข้อเสนอของคุณชายแบบ………… โคตรแฟน ถ้าเป็นคนอื่นอาจรู้ตัวแล้วว่าเขาชอบ แต่นี่ภูเขาไง 5555 น้องน่ารัก
คุณชายหน้าอ่า มีคสามแพ้ทางในตัวทาส น่ารักมากเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณชาย ขึ้นมาร้องเพลง
เพราะเห็นเขา ดีดกีตาร์ ทำท่าจะล่ม
แล้วได้ผล เพลงก็เพราะ เขาก็ได้ความมั่นใจคืนมา

ข้อต่อรองที่เขาทำแล้วคุณชายจะยอมไปเป็นนักร้อง
เหมือนมีแต่เขาได้ประโยชน์นะ
“หนึ่ง นายต้องให้ฉันไปรับไปส่งทุกวัน”
 “สอง นายต้องรับโทรศัพท์ทุกสายของฉัน
 “ข้อนี้สำคัญ สาม ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ”
 “สี่ ฉันต้องมาที่หนึ่งเสมอ”
คุณชาย ขอเป็นที่หนึ่งของเขา ยอดมาก เขาให้ได้แน่นอน  :mew1:
คุณชาย ภูเขา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
คุณชายกลับมาแล้วววว

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1

ออฟไลน์ Jintajam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาแล้วว นังเขาาาาาาา กรี๊ดดดด คช. เขิน ฟหกดอิ

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
พี่เขาไม่ได้ไม่สบายลูก ภูเขาาาาาา
5555555555555
อ่านไปขำไปทั้งตอนเลยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
ทุกคนคือกำลังใจของเราาเเละคุณตาไม่ฝาด HNY 2018 ค่ะ



ระเบียบที่ 11 : ห้ามไม่มีฉัน



                “พวกมึง คุณชายจะมาซ้อมกับวงเย็นนี้นะ”



                ผมบอกเหมือนเรื่องปกติทั่วไปก่อนจะวางกระเป๋ากีตาร์ลงบนโต๊ะที่ลานดนตรี กูทำตัวเป็นปกติเพื่อกลบเกลื่อนสายตาพวกมึงเลยนะครับเพื่อน พวกมันที่นั่งกดโทรศัพท์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาทีละคน เป็นลำดับดังนี้...



                “เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ไอ้หมูร้องเรียกวิญญาณในชาติเก่าดังลั่น



                “เชรดดดดดดดดดดดดดดดด” ตามมาด้วยไอ้แต้งมือคีย์บอร์ดของวงผม



                “นี่ แม่งคือเรื่องจริงหรอวะ” และนี่สมาชิกใหม่...ไอ้บาสเล่นกีตาร์ ตัวเทพของคลาสกีตาร์แล็บตอนปีหนึ่ง



                “โอ้มายก้อดยอดผักบุ้งไฟแดงงงง” ตบท้ายด้วยเฮียดุก ฝ่ายแบกสายไฟ



                “ไอ้พวกนี้ มึงเบาๆ ดิวะ คนมองหมดแล้วไอ้ห่าน” ผมว่าก่อนจะเบียดตูดนั่งลงข้างๆ ไอ้แต้ง



                “ไอ้เขามึงไปพูดท่าไหน คุณชายถึงยอมวะ” ไอ้แต้งหันมาถามผม ดูเหมือนว่าทุกคนจะอยากรู้



                “กูทำท่านี้” ว่าแล้วก็ทำท่าเหมือนมาดอนน่า ปิดกระโปรงทั้งๆ ที่กูใส่เดฟ



                “ถรุ้ย แต่ยังไงแหล่วแต้”



                “แล้วแต่!”



                “เออไอ้สัดนั่นแหละ พวกเราควรจะไปฉลองนักร้องคนใหม่เลยดีมั้ยวะ คืนนี้เป็นไง” เฮียดุกพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เลียนแบบท่าไหล่สั่นของไอ้หมูจนน่าเตะ



                “หึหึ ร้านประจำเลยมะ รับน้องหน่อยเว้ยพวกเรา” ไอ้หมูหรี่มองมาทางไอ้บาสและ...ผม เดี๋ยวกูต้องรับน้องอีกหรอ หรือกูหน้าเด็ก โทษที และระหว่างนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง พวกผมทั้งหมดหันไปมองช้าๆ



                “พวกมึงจะไปไหนกันหรอ” คนมาใหม่ยื่นหน้ามากลางวง พวกผมแทบจะแตกฮือทันทีแต่ติดที่ว่ามือของใครบางคนยึดคอผมแน่น พอหันไปแทบผงะ นี่คนหรือผีครับสังคมมม



                “ปล่อยนะเว้ย ไปไหนก็เรื่องของพวกผม พวกพี่มึงเปงใคร อย่ามาเจ๋อ” เป็นผมเองที่พูดขึ้น เมื่อผมยาวพันเป็นสายไหมของตัวบอสพาดผ่านหน้าผมไป



                “กูเป็นใคร? แนะนำตัวให้น้องมันหน่อยดิ๊พรรคพวก...กู..ฟั่น สววรรค์รำไรตัวบอส ชอบตอดตูด” พูดเองเออเองไปอิ๊กกก



                “กู...แจ้ มือขวาแห่งสวรรค์รำไร น่ารักไสยไสยยังไงล่ะไอ้สัด”



                “ไอ้เหี้ยยาวไปอีก กูต้องยาวกว่าสินะ ส่วนกู...ป้อน สมุนมือซ้าย ร่ายยาวก็ไม่หมด เพราะชอบตดในที่มืด หืดขึ้นคอละมึงเอ๊ยยยย”



                “ไอ้สัดเหนื่อยมั้ย ตามึงละไอ้สิงห์เมียบอส อย่ายอมเพื่อนมึงล่ะ”



                “กูชื่อ...สิงห์”



                “ผ่าม!”



                “สั้นเป็นจู๋ไอ้เหี้ยฟั่นเลย”



                “ผลัวะ! ไอ้ป้อนกูเพื่อนมึง!”



                “แฮ่ๆ โทษทีครับเพื่อนนนนน”



                “พี่ พวกมึงเป็นอะไร มาเปิดตัวไรแถวนี้ รุ่นน้องไม่เคารพหมดแล้วเนี่ย” ผมถามขึ้นหลังจากที่รุ่นพี่ที่ไม่น่าเคารพพยายามเบียดสะโพกมานั่งที่ม้าหินอ่อนด้วยซึ่งแต่ละคนตัวใหญ่เหมือนน้องชายแฮกริด



                “ก็เพราะพวกมึงไม่เคารพพวกกู กูเลยมาเปิดตัว แต่! อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง พวกมึงจะไปแดกเหล้าโดยไม่ชวนสวรรค์รำไรไม่ได้ แล้วอีกอย่างพวกกูเสี้ยนไม่ได้ไปนาน” พี่ฟั่นพูดแล้วปรายตามามองพวกผม สายตาเลเซอร์ได้อีก



                “โห่ พี่ ไอ้หมูบอกว่าเห็นพี่เช็คอินที่ร้านนั้นประจำ เข้าบ่อยกว่าเซเว่นอีกพวกพี่อะ” 



                “ไอ้เขา มึงจะกันซีนกูหรอ ห้องซ้อมมึงวันนี้กูขีดฆ่านะ”



                “เฮ้ยๆๆๆ เชี่ยเขา ได้ครับพี่ครับ อยากไปก็ไปครับพี่” ไอ้หมูรีบฉอเลาะทันที “ไอ้เขา ห้องซ้อมได้ลดครึ่งราคาเลยนะเว้ย ไปเลยครับพี่ อยากไปก็ไป”



                “เออก็แค่เนี้ย เลี้ยงพวกกูด้วย ไปจ้ะที่รัก วันนี้เรียนเมเจอร์เหนื๊อยเหนื่อยยังต้องมาเบื่อหน้าพวกมันอีก” พี่ฟั่นลุกออกไปคนแรก แต่ไม่ไปมือเปล่า พี่แกเกี่ยวคอพี่สิงห์ พี่ชายสุดที่รักของผมไปด้วย



                “กูก็เบื่อ”



                “เนอะๆ เบื่อมันใช่มั้ยจ๊ะ”



                “เบื่อมึงนี่แหละไอ้เหี้ย ชาติที่แล้วเกิดเป็นปลาหมึกไงวะ ลูบเอาลูบเอา”



                “ก็ลูบไปด้วย‘เอา’ไปด้วยไงจ๊ะ”



                ผลัวะ! ฝ่ามืออรหันต์ลงกลางกบาล พี่สิงห์สะบัดหน้าเดินจ้ำอ้าวไปด้วยความรำคาญ หรือว่าเขินวะ ผมมองตามอย่างสงสัย ก่อนที่พี่ฟั่นจะร้องตะโกนออกมา



                “ไอ้ป้อน ไอ้แจ้ไปกักตัวเมียกูไว้! ทำซาดิสต์งี้ต้องเอาคืนนนนน ไปนะพวกมึง ดึกๆ แจกัน” พวกพี่ๆ โบกมือลา มาเร็วไปเร็วเหมือนดั่งพายุ



                “สงสารพี่สิงห์ว่ะ” ไอ้หมูเปิดประเด็น มันหยิบทาโร่มาเคี้ยว



                “สงสารเหี้ยไร เมื่อกี้มึงหัวเราะคนแรก” เฮียดุกเบิ๊ดกะโหลกจนทาโร่พุ่ง “ว่าแต่ พวกมันแม่งไม่เหนื่อยหรอวะ วันนี้มีเรียนเมเจอร์กูคงจะตายห่าหน้าห้องแล้ว”



                “งั้นแสดงว่าคืนนี้เฮียไม่ไป?” ไอ้บาสถาม นั่งเงียบเป็นเป่าสากเชียวมึง



                “ไม่ไปกับผีอะดิ ไอ้บาสไม่ต้องมายิ้ม กูต้องรับน้องใหม่อย่างมึงกับคุณชายของไอ้เขาด้วย”



                “คุณชายไม่ไปที่แบบนั้นหรอกเว้ย มึงอย่าหวังเลย แต่ เฮ้ยๆๆ คุณชายไม่ใช่ของกู”



                “เอ้า งั้นคุณชายของกูละกัน ไอดอลเลยกูชอบ” ไอ้แต้งยกมือขอ



                “ไม่ได้โว้ย!” ผมตบโต๊ะดังปึง  ไอ้สัด เจ็บมือด้วย



                “หวงไรเนี่ย ไหนบอกไม่ใช่ของมึง” ไอ้หมูยิ้มกรุ้มกริ่ม



                “หุบตูดไปเลยไอ้หมู”



                “ไอ้นี่ งอนกูอีก เออๆๆ ไม่ใช่ของไอ้แต้งก็ได้”



                “พวกมึงนี่ยังไงวะ” ไอ้แต้งถามขึ้นมาอีก



                “ไม่ยังไงเว้ย ไปเรียนได้แล้ว” พอผมว่าแบบนั้น ไอ้บาสตัวท็อปก็เห็นดีเห็นงามด้วย ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วครับ



                “เออตอนเลิกเรียนเสร็จ กูไปหาคุณชายก่อนนะ เจอกันที่ห้องซ้อมเลย” ผมพูดแล้วรีบชิ่งขึ้นตึก แต่ก็ได้ยินเสียงไล่หลังมาตามลม



                “เชี่ยนี่ ไหนบอกไม่ใช่ไง คุณชายของมึงชัดๆ ไอ้เขาควายยยย”

 





                เวลาผ่านไปผมพาร่างอันสะบักสะบอมจากการเรียนเครื่องเอกวันนี้ ปีสามนี่ยิ่งเพิ่มระดับความยากเข้าไปอีก เทอมๆ นึงสามสี่เพลง มือผมระบมไปหมดล้าววววว ผมมองนาฬิกาแล้วพบว่าใกล้ได้เวลาไปรับคุณชายแล้วครับ ออกเดินทาง แบบคูลๆ นั่นคือรถรางของมอนั่นเอง



                โคตรเท่



                คุณชายท่านบอกผมตอนเช้าว่าไปห้องซ้อมไม่เป็น ลำบากไอ้เขาต้องไปหาอีก เฮ้อ ขี้เกียจนิดๆ ผมต้องลงป้ายที่โรงอาหารแล้วเดินลัดเลาะไปยังจุดนัดพบ



                เฮ้ย นั่นแซนวิชลุงปลาเจ้าเด็ดนี่หว่า แวะซื้อไปฝากคุณชายดีมั้ยวะ  เผื่อหิว



                คุณชายให้ผมไปรับที่ใต้ตึกอักษรครับ เห็นบอกว่ามีคุยงานกลุ่มที่นั่น ไอ้เขาที่ไม่ได้ย่างกรายเข้าสู่ตึกอักษรมานาน ก็จะเกร็งหน่อยๆ อู้ววว สาวสวยโคตรเยอะ ดุริยางค์แม่งมีแต่ชายถึก ผมอยากเห็นดอกไม้ ผมแบกน้องบีมเข้ามา ชิบหาย คนมองไมวะ หรือว่าผมลืมรูดซิป พอสายตาคนมองเริ่มเยอะ ผมเริ่มไม่มีความมั่นใจ นั่นไง...ผมต้องรีบไปหาที่กำบัง



                “พี่ชายตาณณณณณ”



                เชี่ย ลืมตัว แหกปากเหมือนทั้งโลกนี้มีกูคนเดียว



                คนหันมามองยิ่งกว่าเดิม ผมรีบวิ่งไปหาคุณชายที่นั่งคุยกับเพื่อนสองสามคนอยู่ กระเป๋ากีตาร์กระแทกหลังอั่กๆ แหะ วิ่งแรงไปหน่อย ทุกคนอยู่ใต้ตึกเลยเงยหน้ามามองผมกันหมด ผมเด๋ออยู่ไม่นานก็มีผู้ชายหน้าตาตี๋ๆ ผมยาวรากไทรเอ่ยทัก



                “คุณชายนี่เด็กที่เอาข้าวแกงราดมึงไม่ใช่หรอวะ” พี่แกลุกขึ้นเดินมายืนข้างๆ ผมที่ยืนอยู่หัวโต๊ะ



                “เออ ไอ้เชี่ย หน้าตาแสบใช้ได้ หนีตีนพวกกูไปแล้วกลายมาเป็นทาสคุณชายหรอเนี่ย” พี่อีกคนพูดอีกพร้อมกับท้าวคางมอผมไปด้วย



                เอ่อ...



                “ผมไปรอด้านนอกนะพี่” คุณชายเหลือบมองมาไม่ได้ตอบอะไร ทึกทักว่าอนุญาตแล้วนะ ผมหาทางชิ่งก่อน เดี๋ยวโดนตีนไม่คุ้มครับ แต่ไม่ทันจะหันหลัง พี่ทรงผมรากไทรแม่งเกี่ยวคอผมไว้อีก กูไม่ใช่เพื่อนเล่นเมิงงงงงง



                “เฮ้ยๆ มานี่ก่อนนนน”



                “จะรีบไปไหนน้อง คราวก่อนให้พวกพี่วิ่งตามจนเหนื่อยเลยนะ”



                ผมหันกลับมาแล้วพบว่าไอ้หน้าเกาหลีนี่ยื่นหน้ามาใกล้จนผมหดคอหนีแทบไม่ทัน งือ พี่ตาณ ช่วยด้วย จะคว้าแขนทิ้งก็ไม่กล้า นี่ไม่ใช่ถิ่นผม เดี๋ยวศพไม่จ๋วย ขณะที่ผมกำลังอ้อนวอนคุณชายในใจนั้น พระเจ้าก็เห็นแก่เด็กน้อยอย่างผม



                ปึง!



                เสียงปากกากระทบโต๊ะดังลั่น คุณชายลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหาผมทันที ในขณะที่เพื่อนคุณชายก็มองตามอึ้งๆ แต่ที่อึ้งกว่าคือคุณชายสอดมือมาจับเอวผม แล้วดึงไปชิดตัวเองแทน มือของไอ้รากไทรที่วางบนไหล่ผมตกลงข้างตัวบวกกับหน้าเหวอๆ ของพี่แก ทำให้ผมแทบจะหลุดหัวเราะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะคุณชายส่งไอสังหารมารอบตัว ผมสัมผัสได้



                “งานอีกส่วนไปทำเองแล้วกัน ขอตัวนะ” ว่าแล้วคุณชายก็ออกเดินทันที ผมที่ถูกคุณชายคว้าเอวก็เดินตามไปแบบก่งก๊ง พอหันไปมองก็เห็นเพื่อนคุณชายลุกมาตบหัวไอ้หน้าเกาหลีนั่นใหญ่



                “เฮ้ย คุณชายเดี๋ยวดิ! เชี่ยกานต์ มึงไปทำมันโกรธแล้วเนี่ย”



                “เอ้าก็เด็กมันน่ารัก”



                “ยังไม่หยุดอีก ไอ้นี่”



                “คุณชาย กูหยอกเด็กมึงเล่นเองนะเพื่อนนนนน”

 





                “เอ่อ...พี่ งานพี่เสร็จแล้วหรอ” เอ่อ เดินดุ่มๆ ไม่พูดไม่จาเลยง่า คุณชายพาผมมาที่จอดรถก่อนจะแย่งเอากระเป๋ากีตาร์ผมไปวางไว้เบาะหลัง แล้วก็เปิดประตูข้างคนขับยัดตัวผมเข้าไป ส่วนตัวเองก็วางแขนไว้กับประตู แบบว่าทำไมโซฮอตจัง คุณชายก้มมองผมที่เลิ่กลั่ก เหงื่อแตกพลั่กๆ เพราะไม่เคยเห็นคุณชายเงียบแบบนี้มาก่อน



                “มอมแมม เคยบอกว่าไง” คำแรกก็เรียกกูเหมือนหมาเลย



                “บอกอะไรพี่” คุณชายเสมองที่ไหล่ขวาเป็นคำตอบ ผมถึงกับบางอ้อทีเดียว “เฮ้ย เพื่อนพี่มือเปื้อนหรอ”



                “ใช่ เมื่อกี้มันไปเข้าห้องน้ำไม่ล้างมือด้วย”



                “เชี่ยยยยยยยยยยย”



                “อย่าให้ใครมาจับตัวอีกเป็นครั้งที่สามล่ะ”



                “ทำไมพี่ไม่บอกผมเร็วๆ” ผมอ้อมแอ้มบอก หลบสายตาพิฆาตของคุณชาย “ก็...เพื่อนพี่น่ากลัว เดี๋ยวผมโดนตื๊บทำไงอะ”



                “คนปากเก่งไปไหนแล้ว”



                “ใครปากเก่ง ไม่มี๊ ผมเรียบร้อยจะตาย”



                “หึ” คุณชายหัวเราะในลำคอมาคำเดียวแล้วก็ยื่นนิ้วชี้มาจิ้มหัวผม “อยู่กับฉัน ไม่มีใครทำอะไรนายหรอก”



                เอ่อ นี่มัน…



                ตึกตัก ตึกตัก



                คณะอักษรมีแมลงเยอะจังครับ



                “พี่...” ผมมองคุณชายเบลอๆ เหมือนกล้องที่โฟกัสผิดจุด



                “แล้วอีกอย่าง...กะโหลกหนาเป็นปูนซีเมนต์แบบนี้ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก”



                กึก!



                แม่ง



                ที่นี่ไม่มีแมลงอะไรทั้งนั้นอะ!

                 







                เหอะ ผมเคืองห้านาที



                “กินอะไรก่อนมั้ย”



                “ผมยังไม่หิว แต่ถ้าพี่หิว ผมมีแซนวิช ซื้อมาให้พี่ด้วย”



                “หึหึ”



                นี่เห็นผมเป็นตลกหรือไงครับคุณชาย



                “แล้วนี่ ห้องซ้อมนายอยู่ไกลมั้ย”



                “ไม่ไกลพี่ อยู่ในกรุงเทพนี่แหละ”



                “กวนเท้าหรอสุกร”



                “แฮ่ อยู่หลังมอซอยแปดอะพี่ ตรงไปก็ถึงแล้ว”



                “อืม”



                “พี่...” ผมหันไปมองคุณชาย “ถ้าพวกมันชวนคุยให้พี่อึดอัด พี่บอกผมนะ”



                “นายจะทำอะไร”



                “ก็ผมชวนพี่มา ไม่อยากให้อึดอัดหรอก แต่ถ้าพี่อึดอัด ผมจะไปอยู่ใกล้ๆ เอง”



                “อยู่ใกล้แล้วช่วยอะไรได้”



                “ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยู่ใกล้กันดีกว่าแน่นอน ผมคือผู้พิทักษ์ของคูมชายไงชื่อว่าเขาฟาย”



                คุณชายส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เชื่อผมหรอ” ผมพูดเสียงสูง คุณชายที่ขับรถอยู่ปรายตามามองนิ่งๆ



                “เชื่อ ก็มีอยู่ตัวเดียวจะให้ไปเชื่อใคร”



                ทำไมทะแม่งๆ วะ แต่ฟังแล้วรู้สึกดี ยิ้มก็ได้!


[ต่อด้านล่างค่ะ]

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
[ต่ออีกนิดด]


                “เอ่อ ทุกคนนี่คุณชาย...” ผมเดินนำคุณชายขึ้นมายังห้องซ้อมชั้นสองเมื่อไม่กี่นาทีก่อน พอขึ้นมาแล้วก็พบว่าเพื่อนในวงอยู่กันครบแล้ว และตอนนี้พวกมันมองมายังคนที่ถือกีตาร์ตามหลังผมด้วยแววตาอึ้งๆ



                “...นักร้องนำชั่วคราวแทนไอ้ยิม”



                กว่าสิบวิที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย ผมหันไปหาคุณชายที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงแสล็คนิ่งๆ หน้าตาเรียบเฉย ไม่บอกความรู้สึกใดๆ มีแต่ผมเองที่ทนต่อความเงียบไม่ไหว



                “พวกมึง...”



                “เฮ้ๆๆๆ วู้วววว ไอ้เขาทำได้แล้วเว้ยยยยยยยย!!! ไอ้หมูรัวกลองงง”



                “เชี่ย ตอนมันบอกกูยังคิดว่าโม้ ตึงตึงตึงเซี้ยบเซี้ยบ”



                “เจอตัวเป็นๆ ผมใจเต้นเลยว่ะพี่ ผมชื่อแต้งครับพี่ ตอนเฮียดุกแอบถ่ายคลิปตอนพี่ร้องเพลง เสียงพี่เจ๋งโคตร พี่โชคดีแล้วที่อยู่วงเรา”



                พวกมันทำท่าจะกรูเข้ามาหาคุณชาย ไอ้เขา ผู้พิทักษ์คุณชายเลยเคลื่อนตัวไปบังโดยอัติโนมัติ “พวกมึงใจเย็นๆๆ”



                “วงเราต้องเป็นที่โจษอังคาร”



                “โจษจัน!”



                ตึง โป๊ะ แหน่ะ ตีกลองตบมุกให้อีกนะไอ้หมู



                “มาๆ ผมจะแนะนำอย่างเป็นทางการ มือกลองชื่อหมู พี่คงเคยเห็นหน้าแล้ว นี่ก็เฮียดุกไม่มีตำแหน่งแข่งกับสัมภเวสี”



                “เชี่ยนี่” เฮียดุกยื่นมาหมายจะตบกบาลผม แต่พอเหลือบตามองด้านหลัง มันเลยทำเป็นยกมือทักทายแทน



                “สวัสดีอย่างเป็นทางการครับคุณชาย อาหารบ้านคุณชายอร่อยสั...อร่อยมากๆ ครับ”



                “แล้วนี่ไอ้แต้ง คีย์บอร์ด แล้วนู่นไอ้บาส กีตาร์เหมือนกับผม”



                “หวัดดีคร้าบ”       



                “หวัดดีครับ”



                คุณชายพยักหน้าลงทีนึง แต่สีหน้าผ่อนคลายขึ้นมาก     



                “เอ่อพวกเรามาแนะนำให้สมาชิกใหม่รู้จักวงของเรามากขึ้นดีมั้ย” เฮียหมูเปิดประเด็น พร้อมกับชวนทุกคนมานั่งล้อมวงกันที่พื้นพรม



                ผมกระตุกมือคุณชายที่ยืนอยู่ให้นั่งลง พอคุณชายนั่ง ก็หันมาหาเพื่อนๆ ...เช็ดเขร้ มองกูตะไม



                “แฮ่มๆ วงเราเน้นเพลงร็อคนะครับ”



                “ถนัดเลย” ไอ้บาสตอบก่อนจะหันไปถามคุณชาย “แล้วคุณชายล่ะชอบเพลงร็อคมั้ยครับ”



                “พี่ พี่เคยฟังเพลงร็อคบ้างป้ะเนี่ยถามจริง” เห็นไม่ตอบผมก็เลยถามไปอีก คุณชายปรายตามองนิดๆ พร้อมกับยักคิ้วกวนหน่อยๆ ไม่ได้ตอบอะไรแต่ถามกลับมาแทน



                “วงพวกนายชื่อวงอะไร”



                “ชื่อว่า วารชีวิต พอรวมกับคำว่าวง”



                “กลายเป็น”



                “วงวารชีวิต!!” สามหนุ่มสามมุมอย่างผม ไอ้หมู แล้วก็เฮียดุก ประสานเสียงกันอย่างเฮฮา แท็กมือกันด้วยเพราะชื่อแม่งคูลที่สุดในจักรวาล ไงล่ะพี่



                “ขอโทษด้วย ร้องให้ไม่ได้ละ”



                “เฮ้ยๆๆๆ พี่ขอร้องงงงงง” ผมคว้าแขนคุณชายที่ทำท่าจะลุก ไอ้แต้งกับไอ้บาสหัวเราะกันใหญ่ 



                “ชื่อวงพวกมึงนี่กวนตีนชะมัด” ไอ้บาสว่า มันหัวเราะจนไหล่สั่น



                “พี่ มันไม่ดีตรงไหน คูลจะตาย”



                “ไปเปลี่ยนชื่อวงไป ไม่งั้นไม่ร้อง”



                “ไม่ได้ครับ ส่งไปแล้วง่า” ผมครวญคราง เฮียดุกกับไอ้หมูมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ฤทธิ์คุณชายระเบียบจัดไม่ได้มีแค่นี้นะเมิงงง



                “พวกผมเคยคิดจะเปลี่ยนชื่อวงแล้ว มีหลายชื่อแต่ก็ได้ชื่อนี้อะ”



                “ชื่ออะไรบ้าง”



                “ไอ้เขา มึงเล่าให้คุณชายฟังสิ คุณชายอยู่อักษรจะได้ช่วยคิด” เฮียดุกแปรพรรคเรียบร้อย มันคงกลัวคุณชายจะไม่ร้องเพลงให้แหงๆ เมื่อกี้มึงยังค่อดคูลกับกูอยู่เลย



                “เราเคยตั้งกันแล้ว ชื่อที่ได้รับการโหวตสูงสุดห้าชื่อคือ...” ทั้งห้องเงียบกริบ พยายามส่งสายตาให้เพื่อนรักช่วยพูดแต่พวกมันเม้มปากเน้น



                “คือ?” คุณชายถามย้ำ



                “คือชื่อวงกลม วงเวียนใหญ่ วงกบ วงใน แล้วก็วงวารชีวิต เลือกกันไปเลือกกันมาได้ชื่อสุดท้ายเนี่ยอะพี่”



                “อุ๊บ ฮ่าๆๆๆ”



                “เชี่ยบาส หยุดหัวเราะ”



                คุณชายถอนหายไปแล้วสบตาผม “หาคนร้องใหม่เถอะ”



                ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย







 

                ผมหน้ามุ่ย เดินลงมาซื้อของกินด้านล่าง เมื่อกี้ผมเล่นคอร์ดผิดเลยโดนลงโทษ คุณชายนะคุณชายไม่ช่วยผมเลย ไม่ให้ผมพิทักษ์พี่แล้วหรือไงวะ



                แต่...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คุณชายเข้ากับเพื่อนผมได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ(และผมเหมือนถูกลืมไปชั่วขณะด้วย) สุดท้ายพี่ท่านก็แกล้งเรื่องชื่อวงเฉยๆ ครับ  แถมคุณชายที่ผมรู้จักไม่เคยร้องเพลงร็อคของไทยแต่วันนี้ลองร้องให้ฟังท่อนนึง ผมใจพองโตออกไปนอกโลก โคตรดีเลยจริงๆ ครับ คิดไม่ผิดที่ผมเลือกคุณชายยย หลังจากนี้คุณชายต้องไปฝึกเพลงที่พวกเราจะเล่น ไม่นานวงผมต้องระเบิดระเบ้ออออ ติดอยู่อย่างเดียวหน้านิ่งไปนิดนึง ไม่เป็นไร ไอ้เขาจะช่วยให้คุณชายมีเสน่ห์บนเวทีเองงงง



                คิดอย่างสุขใจแล้วผมก็เดินลั้นลามาที่ห้องซ้อม



                “พี่ ไอ้เขาแม่งเรื้อนของจริง ตอนไปรับน้องนะพี่ เปิดตู้เสื้อผ้าเยี่ยวเฉย”



                “หึหึ”



                “ผมกับเฮียดุกถึงกับตาสว่าง ไม่ได้อึ้งนะเหม็นเยี่ยวอะพี่”



                “จ้อจี้ชิบหายยยย ไอ้เขาเนี่ย”



                “เผาไรกูวะ!”



                ผมเดินกระแทกเท้าเข้ามาในห้อง แอบไม่พอใจที่คุณชายคุยกับไอ้พวกนี้มากกว่าผม พอผมวางเครื่องดื่มกับขนมดังโครม แล้วฝูงคนกระหายหิวก็เข้ามาหยิบจนเหลือแค่น้ำขวดเดียว ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งคุยกันที่โซฟามุมห้อง ทิ้งผมให้บ่นกระปอดกระแปดอยู่กับคุณชายสองคน



                “พี่ ไม่ต้องไปฟังมันมากนะ พวกนี้แม่งโม้”



                “อืม”



                อืม แล้วหัวเราะทำไมมม หงุดหงิด ผมหน้าก็ทิ่มตาอยู่ได้ เสลดเป็ด แล้วน้ำส้มนี่เปิดยากอีก เหนียวมือไปหมดแล้ว!



                “ใจเย็นๆ” คุณชายยื่นมือมาลูบหัวผมสองสามที ผมกลัวเพื่อนเห็นเลยรีบหันไปมองทันที แต่พวกมันก็คุยกันไม่สนใจผม ผมเลยหันไปหาคุณชายอีกครั้ง



                “ผมมันยาวแล้วอะพี่ ก้มหน้าดีดกีตาร์แล้วทิ่มตาอยู่เรื่อย”



                “อ้อน?”



                “ไม่ได้อ้อนซะหน่อยบอกเฉยๆ มือก็เหนียวน้ำส้มไปหมดเลย มัดไม่ได้”



                “หึ” คุณชายอมยิ้มซึ่งวันนี้ยิ้มบ่อยไปแล้วนะ พอเห็นผมไม่สบอารมณ์คุณชายเลยคว้าหนังยางรัดแกงตรงพื้นมามัดผมให้



                คุณชายโคตรใจดีเลย เผื่อใครไม่รู้ มัดเสร็จก็ดีดหน้าผากผมไปที



                “เจอแล้วๆ คุณชาย Rock bottom ที่พี่บอก โคตรน่าเล่นเลยว่ะพี่ ไม่น่าเชื่อคุณชายจะรู้จักด้วย” ไอ้หมูตะโกนขึ้นมา



                “ลองฟังดูเจ๋งดีพี่”



                “อะไรอะ” ผมหันไปมองหน้าเหรอหรา พูดเรื่องไรกันฟะ



                “เห็นทีผมต้องหาทั้งอัลบั้มมาฟังมั่งแล้ว ไลน์กีตาร์สุดมากเลยพี่” ไอ้บาสด้วยอีกคน มันใส่หูฟังแล้วโยกหัวไปด้วย ฟังด้วยดิเฮ้ย



                “ชอบบบบเว้ยพี่ โคตรดี วู้วววว” พวกมันเหมือนมันส์ในอารมณ์แล้วผมอะ ไม่รู้เรื่องด้วยเลย



                “เฮ้ย มีคนหน้างอว่ะ” เฮียดุกเดินมานั่งยองๆ ข้างผม “เออ...มัดผมแบบนี้มึงช่วยพี่ตูนได้นะไอ้เขา”



                “อะไร”



                “หัวล้านถึงแม่สายขนาดนี้ พี่ตูนคงวิ่งได้หลายพันล้าน ฮ่าๆๆๆๆ” หัวเราะเสร็จก็เดินไปนั่งสุมหัวกับไอ้พวกนั้น



                “ไอ้เหี้ยดุก พี่ดูมันดิ มันหัวล้านกว่าผมอีก ชอบเอาผมตรงท้ายทอยมาปิดหน้าผากกูยังไม่ว่าอะไรมึงเลย”



                “กูเกลียดมึง ไอ้สัดเขา” ว่าแล้วมันก็ขว้างโน้ตเพลงมาแทน หูดีจริงจริ๊งงงง



                “แต่...พี่ตาณ พี่ว่าผมหัวล้านมั้ยอะ” เครียดจริงจัง นี่แอบเห็นเฮียทิวเริ่มผมร่วงแล้ว



                “หึ” คุณชายส่ายหน้าพลางลูบหน้าผากผม



                “เหม่งเอ๊ย”



                หมายความว่าไง คนโง่ไม่เข้าจรัยส์







 

                “กลับเลยมั้ย”



                คุณชายเอ่ยถามหลังจากที่พวกเราเริ่มเก็บอุปกรณ์ พอถามปุ๊บ ไอ้หมูก็โพล่งมาปั๊บ



                “ไอ้เขานี่มึงไม่ได้บอกคุณชายหรอว่าเราจะไปต่อ”



                “ไปต่อ? ไปไหน”



                ชะอุ้ย สายตาคมกริบ



                “กูลืมบอกไง” ผมกัดฟันตอบก่อนจะฉีกยิ้มให้คุณชาย



                “อ้าวเวร งั้นคุยกันไปนะครับ พวกเรา ปะ! ไปรอข้างล่าง โชคดีเว้ยเพื่อน” เพื่อนรักอย่างเฮียดุกหาทางชิ่งทันที มันลากทุกคนไปหมด



                “เฮ้ย รอกูก่อนดิ” ผมทำท่าจะเดินตามไปด้วยแต่ก็ถูกคว้าคอเสื้อไว้ซะก่อน



                “จะไปไหน?”



                “เอ่อ คือว่า...วันนี้พวกเราจะไปดริ๊งกันที่ร้านประจำอะพี่ซอยถัดไปนี่เอง แต่มันคงดึก พี่กลับก่อนเลยก็ได้”



                “หมายความว่านายจะอยู่ต่อจนดึก ไม่กลับบ้าน?” คุณชายปล่อยคอเสื้อผมแล้วกอดอก หรี่ตามองไอ้เขา



                “ดึกแล้วรถหมด ผมก็นอนหอเพื่อนแถวนี้ก็ได้ อีกอย่างพรุ่งนี้วันเสาร์ ไม่มีเรียนด้วย”



                “จำสัญญาที่นายมาขอร้องให้ไปร้องเพลงได้มั้ย ข้อแรกน่ะ” จู่ๆ คุณชายก็เปลี่ยนเรื่องเร็วจนผมตามไม่ทัน แต่เนื่องจากสมองน้อยๆ ได้ประมวลผลแล้วผมจึงทวนคำสัญญาเมื่อสายันห์ออกไป



                “ข้อแรกก็...ผมต้องให้พี่ไปรับไปส่งทุกวัน”



                “อืม...ถ้าคืนนี้นายจะไม่กลับ ก็แสดงว่าฉันไม่ได้ไปส่ง งั้นก็ร้องเพลงอะไรนี่ก็เป็นโมฆะแล้วกัน”



                “พี่ๆๆๆ เดี๋ยวก้อนนนน พี่จะไม่ให้ผมไปกับเพื่อนหรอ” สลดเลยกู อยากแดกไม่ใช่อะไร อาทิตย์นี้คุณชายมาคุมตลอด มาส่งผมที่บ้านไม่เกินหกโมงทุกวัน ใจมันโหยหาง่ะ



                “...แล้วผมรับปากเพื่อนไว้แล้วนะ จริงๆ พวกมันดื่มเพราะจะรับน้องใหม่เข้าวง แล้วก็นัดรุ่นพี่ไว้แล้วด้วยอะพี่”



                “นายอยากดื่มก็ดื่มไปสิ ฉันมีหน้าที่ส่งนายกลับบ้านตามสัญญา”



                “แต่ว่า...” ผมไม่อยากให้คุณชายไปเจอความอัปปรีย์ของแกงค์สวรรค์รำไร คุณชายดีเกินไปถ้าจะมาพัวพันกับพวกมัน แล้วคุณชายก็ต้องกลับบ้านดึกด้วย อันตรายจะตายไป ข้อนี้ขีดเส้นใต้ไว้เลย



                “ถ้านายไม่อยากให้ไปก็โอเค งั้นจบกันแค่นี้” ทำไมคุณชายพูดแค่นี้ ผมถึงรู้สึกว่าใจหล่นไปกองอยู่ตรงเท้า หน้าหงอยยิ่งกว่าเดิม แต่เพราะมือเร็วกว่าสมอง ผมจึงรีบคว้าเสื้อเชิ้ตด้านหลังคุณชายก่อนที่คุณชายจะเดินออกไป



                “ไม่ใช่ไม่อยากให้ไปนะพี่ ผมอะนอนไหนก็ได้ แต่ว่าพี่...กลับดึกๆ มันอันตราย เเล้วถ้าผมเมาแล้วใครจะช่วยดูทางล่ะพี่ ผมเป็นห่วงนะ” ผมรีบพูด ขยุ้มเสื้อเรียบกริบของคุณชายแน่น



                “...” คุณชายเงียบไปจนผมชักจะใจเสีย ยิ่งได้ยินเสียงถอนหายใจ ผมก็ยิ่งก้มหน้าลงอีก



                คุณชายจับมือผมจากด้านหลังก่อนหันมาทั้งตัว เเละเพราะเสียงเรียกเบาๆ นั้นทำให้ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้น



                “มอมแมม...”



                “ฮื่อ ครับ”



                “จะให้นายอยู่นี่โดยที่ไม่มีฉันน่ะ...ไม่ได้หรอก”



                “ทะ...ทำไมล่ะพี่...”



                “เด็กโง่  ก็เพราะฉันเป็นห่วงนายเหมือนกันไง...”





________________
มาเเล้วค่า สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า
รักเเละคิดถึงทุกคนเสมอ รวมถึงคิดถึงนังเขาเด็กโง่ด้วย
ติดเเท็ก #คุณชาย2017 (ที่อาจจะต้องเปลี่ยนเป็น2018เเล้ว 55)
หรือมาคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์ @jaevin3
ขอบคุณทุกวิว ทุกคอมเม้นต์ ทุกกำลังใจเลย
ขอให้ทุกคนมีจิตใจที่เข้มเเข็งมากยิ่งขึ้นในปี2018นะคะ
เจอกันใหม่ปีหน้าเลยค่ะ เลิฟ
 :3123: :L2: :L2:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ฮือออ ใจบางไปหมดแล้วว มันดีต่อใจจริงๆๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ hibatsumoe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แพ้ความละมุนของพี่ตาณ จริงๆพี่ตาณไม่ใช่คนเนียน
แต่เพราะน้องเขาเป็นคนซื่อเลยตามพี่ตาณไม่ทัน
ปักธงรอพี่ตาณด้วยคนค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เขินนนนนนนนนนนนน คุณชายไม่ซึนแล้ว
อยากเป็นเด็กโง่ของคุณชายจังเลย

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คุณชาย :ling1: ละมุนเฟ่อ  :o8:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ๊ย.............เขาเอ๊ยยยยยย..........
อย่าชื่อภูเขาเล้ย  ชื่อหลังเขาเฮอะ

คุณชาย ทั้งหลง ทั้งหวงมอมแมมมาก แต่ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อยากอ่านพาร์ทคุณชายแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด