❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀❀❀คุณชาย2017❀❀❀ ระเบียบที่ 20 : ห้าม...เลิกนะ ขอร้องงง p.12 [14-03-20]  (อ่าน 55321 ครั้ง)

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อ่านแล้วชอบอ่ะ
ฮามากเลย ฮาพี่เสกเนี่ยแหละ พี่เสกจำไม 555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เป็นตัวมอมแมมที่คุณชายเปย์ให้  :hao7:

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
ระเบียบที่ 5 : ห้ามไม่ได้หรอกเจ้าสุกร


                “อีเขาาาาาาาาาาาา ตื่นเดี๋ยวนี้”


                “อือออออออ คนจะนอน เบาๆ ดิ๊”


                “ตื่นโว้ยยยย กูไม่ให้มึงนอนนนนนน” เสียงมหากัมปนาทดังตรงหูซ้ายของผม มันมาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนขนาดยี่สิบสี่ริกเตอร์ ผมปรือตามองก็พบกับสิ่งมหัศจรรย์ที่คงจะมีต้นกำเนิดจากยุคหินในซอกเขาอันระมันตรัย สิ่งมหัศจรรย์นั้นมีริมฝีปากกว้างเกือบจะกินหัวผมทันทีที่มันอ้าปาก


                “โว้ยยยยย อีแจ็ค! มึงรักอะไรกูหนักหนา” ผมดีดตัวเองขึ้นมามองอีแจ็คนี่ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ผม ผมพบว่าตัวเองนอนกอดหมอนรูปปลาทูอยู่บนโซฟากลางบ้านส่วนอีแจ็คยืนอยู่ข้างหลังโซฟา ยื่นหน้าอันน่าสะพรึงกลัวมาใกล้ๆ ผม


                “กูเกลียดมึงมาก”


                “บ้านตัวเองไม่มีไง๊ ต้องมาเล่นบ้านกูเนี่ย ไม่มีแมลงวันให้กินนะ”


                “ไม่มีได้ไงกูกินไปแล้วสองตัว ถุ้ย! อีเขาโง่แล้วยังขี้ลืมอีก พ่อมึงโทรมาบอกกูว่าจะขี่มอไซค์ไปประจวบกับแกงค์ บอกให้กูลากมึงไปแดกข้าวด้วย บ้าบออออ”


                “อ๋ออออออออออ”


                “จำได้?”


                “อ๋อไปงั้น”


                 “นี่มึงเปลี่ยนเรื่องหรอ บอกกูมาเดี๋ยวนี้ มึงเอาเสื้อพรมน้ำมนต์ไปปาใส่บ้านคุณชายใช่มั้ย เค้าถึงมาส่งมึงเนี่ยยย”


                “อะไรของมึงวะ พึ่งตื่นมึนอยู่”


                “เอ๊ะ....เดี๋ยว” อีแจ็คยื่นมือมาจับๆ ปัดๆ ที่หัวผม “นี่มึงไปตัดผมหรอ อีเขา........มึงจะแย่งผู้ชายทั้งโลกหรอวะ อีเหี้ย”


                “นี่หรอ คุณชายพาไปตัดผมมา คงไม่เคยเห็นใครสกปรกเท่ากูมาก่อน โคตรลงทุนเลยอะมึง สงสัยความสกปรกมันขัดตาพี่แก เห็นเพี้ยนๆ แต่ก็ใจดีมากเลยว่ะ” ผมกลิ้งลูกตาไปมองปลายผมก่อนจะมองหน้าอีแจ็ค “เฮ้ย มึงเป็นอะไร อีแจ็ค ตาค้างเห็นผีหรอ กูกลัวนะ”


                “มึง...ตบกู...ที”


                เพี้ยะ!


                “อีเขา ตบหาพ่อมึงแรงขนาดนี้”


                “ก็มึงบอกให้ตบอะ...” ผมมองหน้ามันเหลอหลา กูผิดตรงไหน เขางง


                “มึงรู้มั้ยกูมายืนตบยุงรอมึงตั้งนาน ไม่คิดว่าคุณชายที่คนอยากคุยด้วยทั้งมหาลัยจะแบกปลาพะยูนอย่างมึงมาส่งที่บ้าน กูจะบ้าาาาาาาา  นี่เค้ายังพามึงไปตัดผมมาอีกหรอ ทำม๊ายยยยยยยยยย กูเรียนคณะเดียวกับคุณชายนะคะ อีดรกกกก ชายตาจนลูกตาจะไหลมารวมกันคุณชายยังไม่มองกูเลยยยย สต๊อป...แล้วคุณชายรู้จักบ้านมึงได้ยังไง”


                เอ่อ....รู้จักเพราะความโง่ของกูเอง แต่ต้องเปลี่ยนเรื่องเดี๋ยวเพื่อนรู้ว่าโง่


                “อีแจ็คมึงจะวี้ดว้ายทำไมเสียงแหลมเหมือนม้าน้ำเลย”


                “นี่...คุณชายชอบมึงรึเปล่า” จู่ๆ มันก็ดับสวิตซ์แล้วกระโดดมานั่งข้างผม แถมยังจ้องตาไม่กระพริบ


                “จะบ้าหรอ...”


                “ไหนมึงบอกไม่ชอบเค้าแล้วมึงไปอะไรยังไงเนี่ย กูงงไปหมดแล้วบ้าบอออออออ”


                “ตอนแรกก็ไม่ชอบอะแหละ แต่มึงกูเข้าใจมึงแล้วพี่เค้าแม่งใจดีอะ...ไม่เห็นเหมือนที่ไอ้หมูพูดเลย ดูดิพาไปตัดผมเพราะเห็นกูไม่เรียบร้อย แถมยังพากูไปกินข้าวด้วย กูเอาน้ำแกงไปราดเค้านะเว้ยยย ไอ้เขาประทับใจสุดๆ เลยว่ะ”


                “พาไป...อะไรนะ”


                “กินข้าวอะ ไม่ใช่ดิก๋วยเตี๋ยวร้านตรงที่ลงทางด่วนอะมึง โหพี่เค้ากินลูกชิ้นลูกเดียวเอง กินไม่หมดกูเลยช่วยกินถึงว่ากูหลับมาจนถึงบ้านเลย เนี่ย แน่นพุงไม่หาย ดูพุงกูดิใหญ่ เอ๊ะ ว่าแต่พี่เค้าแบกกูมาเลยหรอวะ” หลังไม่หักใช่มั้ยครับพี่


                “คุณชายกิน...ก๋วยเตี๋ยว...ข้างทางด้วย....” อีแจ็คพูด เหลือบมองตามันลอยไปไหนก็ไม่รู้


                “แจ็ค มึงเป็นไร แจ็ค!” ผมโบกมือไปด้านหน้ามัน


                “อีเขา กูจะเป็นลม....”


                “เฮ้ยยย มึงอย่า ฮืออออออออออ”


                “มึงร้องทำไม” อีแจ็คที่กำลังจะปรือตาเตรียมตัวเป็นลมก็สะดุ้งพุ่งพรวดมาด้วยความตกใจ


                “มึงอย่าเป็นลม กูหนาวอะตอนนี้”


                “อีเหี้ยเขา!!!”
 





                หลังจากที่อีแจ็คกลับไปด้วยอาการช็อค ผมก็เดินไปล็อคประตูบ้าน กลับเข้ามาอาบน้ำอาบท่าแล้วก็รู้สึกว่าผมขาดอะไรไป เดินมานั่งหน้าทีวีก็ยังคิดไม่ออก หรือว่าคิดถึงเฮียทิว ไม่นะ พ่อผมชอบออกไปกับแกงค์มอไซค์แบบนี้ประจำ ผมทำอะไรไม่ค่อยเป็นโดยเฉพาะกับข้าวพ่อเลยมักจะฝากให้ผมไปฝากท้องไว้กับลุงเจียมกับป้าแจงแทน แต่ก่อนพ่อแม่อีแจ็คเคยเปิดร้านอาหารน่ะครับ แต่โดนพายุเศรษฐกิจโจมตีก็เลยเลิกไป


                ถ้าไม่ใช่เรื่องพ่อแล้วผมลืมอะไรวะครับ ผมเดินวนไปวนมาจนสะดุดกับกระเป๋าย่าม ผมค้นๆ   กระเป๋าแล้วก็พบเศษซากอารยธรรมขยะตั้งแต่ยุคเมโสโปเตเมียและมือถือสองจีเครื่องเก่าที่แบตเหลือขีดเดียวเก๋ๆ เออ ช่างแม่ง มองไปรอบๆ บ้านก็เจอกับลูกชายเบอร์สองน้องบูมของผม เฮ้ยแล้ว...


                ถ้านั่นน้องบูม!


                แล้วน้องบีมอยู่ไหน!!!


                “น้องบีมมมมมมมมมมมมมม!!” ผมร้องลั่นใจจะขาดรอนๆ ลูกหาย ลูกรักหายไปไหน ลูกรักผมอยู่....


                “คุณชาย!”


                ผมคว้าโทรศัพท์รุ่นเดอะออกมาตั้งใจไว้ว่าจะโทรหาอีแจ็คให้มันช่วยหาเบอร์คุณชายแต่พอกดปลดล็อคแล้วก็พบว่ามีข้อความใหญ่ยังไม่ได้อ่าน  รูปจดหมายโชว์เด่นหราตรงหน้าจอขาวดำ


                “ถึงภูเขา บรรจงภักดี เชี่ยยย เชยๆ แบบนี้ต้องคุณชายแน่นอน ลืมเอากีตาร์ลงจากรถให้ ขอโทษที ส่งมากี่โมงวะ...สามทุ่มสามสิบหก” ตอนนี้กี่โมงแล้วหว่า ห้าทุ่ม หวังว่าคงยังไม่นอนนะครับพี่ พรุ่งนี้ผมต้องใช้เรียนด้วย แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ขาดไม่ได้ ผมขาดน้องบีมไม่ได้ แต่จิตสำนึกของคนดีของไอ้เขายังมีอยู่ ไม่กล้าโทรไปผมจึงจะส่งข้อความกลับไป


                “พี่ ผมต้องใช้น้องบีมเรียนพรุ่งนี้สิบโมง ผมไปเอาน้องบีมที่บ้านพี่ได้มั้ยครับ ขอโทษที่รบกวนครับพี่ ถ้าพี่ยังไม่นอนตอบผมด้วยนะครับ ถ้าพี่นอนแล้วก็นอนไปเถอะเพราะพี่จะอ่านข้อความผมไม่ได้ พี่...ผมคิดถึงน้องบีมจริงๆ นะพี่ จาล้องงงง ไม่ได้ๆๆ พิมพ์แบบนี้ไม่ได้ อะไรดีวะกู” ผมมองหน้าจอมือถือที่พิมพ์ค้างไว้แบบนั้น เอาไงดีวะเนี่ย พรุ่งนี้ค่อยใช้น้องบูมก่อนก็ได้วะแล้วค่อยโทรไปหาคุณชาย นิ้วชี้ข้างขวากำลังจะกดยกเลิกข้อความทั้งหมดแต่ความซวยของผมดันเผลอกดส่งซะงั้น


                คุณส่งข้อความแล้ว แล้วลูกศรก็พุ่งตรงไปที่รูปจดหมายด้านขวามือแบบลั้นลา


                ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


                [พี่ ผมต้องใช้น้องบีมเรียนพรุ่งนี้สิบโมง ผมไปเอาน้องบีมที่บ้านพี่ได้มั้ยครับ ขอโทษที่รบกวนครับพี่ ถ้าพี่ยังไม่นอนตอบผมด้วยนะครับ ถ้าพี่นอนแล้วก็นอนไปเถอะเพราะพี่จะอ่านข้อความผมไม่ได้ พี่...ผมคิดถึงน้องบีมจริงๆ นะพี่ จาล้องงงง]


                ผมตาเหลือกด้วยความตกใจ เอสเอ็มเอสนี่ดันลบไม่ได้ด้วย ตีหัวตัวเองแม่ง ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วเอาหมอนมาอุดปากตัวเองก่อนจะกระโดดข้ามโซฟาไปหยิบน้องบูมมาระบายความอับอายพร้อมหยิบสายมาเสียบตู้แอมป์อย่างรวดเร็ว


https://www.youtube.com/embed/2Omj-JHAI7A


                ดีดแม่งเลยอารมณ์มา เคยเป็นมั้ยครับ ทำอะไรก็ได้ให้ลืมความจังไรของตัวเอง จัดมา!


                พี่สิงโตผมเถอะ เอ๊ย พี่โตได้โปรดสิงผมเถอะ! เงยหน้าแหงนคอรับพลังจากเทพพี่โต


                มะ ปรบมือกันได้ครับทุกคน! พ่อไม่อยู่กูเต็มที่ได้!


                “แกล้งทิ้งตัวลงนอนได้ไหม แกล้งจับมือฉัน...ไว้ เหมือนเคย
                แกล้งบอกว่าเธอรักมากมาย...อาย แม้ไม่ให้ความหมายกับฉันเลย”


                น้องบีมของพี่เขา เราจะไม่ได้เจอกันแล้ว.....ฮือออออ ผมดีดกีตาร์และทิ้งตัวลงนอนทับโทรศัพท์บนโซฟา


                “จดจำวันคืนที่รัก...ช่างสดใส โปรดลืมจงลืมเขาไปเสียก่อน...อ่อน
                อย่ารีบบอกลา อย่าจากฉันไปก่อน
                จะให้ฉันทำตัวเช่นไร หากว่าใจยังทำไม่หวายยยยยยยยยยย
                แม้...น้ำตาจะรินและไหล แผลหัวใจจะลึกสักเพียงเท่าใด
                และแม้ฉันไม่อาจหยุดเธอไว้ แต่ก่อนจะจากไป
                ช่วยแกล้งบอกรักช้าน...หน่อย”

                *แกล้ง – Silly Fools


                อุแว้! อุแว้!


                Rrrrrrr Rrrrrrr


                ความสั่นมันโจมตีหลังผมครับ ผมชะงักแล้ววางกีตาร์ไว้บนอกก่อนจะควานมือไปด้านหลังที่ตัวเองนอนอยู่


                เฮ้ย เบอร์คุณชายนี่หว่า! จำเบอร์ที่พึ่งส่งมาได้ ผมรีบกดอ่านข้อความทันที ในใจคิดไปแล้วว่าพี่แม่งต้องด่ากลับมาแน่นอน


                [ถึง ภูเขา บรรจงภักดี พรุ่งนี้เช้าจะเอาไปให้ที่บ้าน ไม่ต้องโวยวาย ทนคิดถึงไปก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ก็เจอ]


                โธ่...พี่เข้าใจความรู้สึกผมขนาดนี้เลยหรอ น้องบีมอยู่กับคุณชายทำตัวดีๆ นะ คุณชายโคตรคนดีเลย ขอโทษที่เคยมองพี่ไม่ดีครับ ผมกอดกีตาร์แล้วนึกขอโทษคุณชายในใจอีกหลายสิบครั้ง เพลงพี่โตยังคงวนเวียนอยู่ในสมองแล้วผมก็เผลอหลับไป...เฮ้อ ไม่ได้อาบน้ำโทษทีนะร่างกาย






                เพราะไม่รู้ว่าคุณชายจะมากี่โมง ไอ้ภูเขาแห่งดุริยางค์เลยสะดุ้งตื่นเจ็ดโมงเช้า ด้วยสภาพสกปรกโสมมต้อนรับทรงผมใหม่ ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพราะเมื่อคืนนอนไปทั้งอย่างนั้น แปรงฟัน อาบน้ำ สระผมสะบัดพอให้หมาดๆ เพราะเดี๋ยวก็แห้งเอง เสร็จแล้วก็มานั่งแหมะที่โซฟาเหมือนเดิม คอก็ชะโงกดูตรงประตูรั้วว่าคุณชายจะมารึยัง คนดีอะไรเบอร์นี้ ให้ผมไปเอาเองก็ได้นะครับคุณชาย ทำเอาผมรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ นะครับพี่




                ปริ้น!


                ผมรีบวิ่งออกไปหน้าประตูรั้วแล้วก็เห็นรถเต่าคลาสสิคสีเขียวนวลมาจอดหน้าบ้าน หยิกตัวเองแป๊บ เจอรถเต่าแล้วต้องหยิกครับ ใครสอนไม่รู้แต่เห็นทีไรเนื้อเขียวทุกที


                “เฮ้ย รถพี่หรอ”


                ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นคุณชายนั่งอยู่ฝั่งคนขับ แต่งตัวแบบนี้กับรถคลาสสิคแบบนี้พาลให้นึกถึงคุณชายสมัยก่อนจริงๆ ซะอย่างงั้น นี่พี่แม่งอวดรวยกับผมหรอครับ เหลือบไปมองโรงรถตัวเอง ไอ้เชี่ย มีแต่มอเตอร์ไซค์ เห็นแล้วมันอิจฉา


                “น้องบีมมมมมมมมม” ผมร้องพร้อมกับวิ่งไปเกาะกระจกเมื่อเห็นน้องบีมนอนอยู่เบาะหลัง เห็นน้องนอนสบายใจแล้วผมก็หายคิดถึง


                “ร้องเป็นโทรโข่งอยู่ได้ ขึ้นรถสิ”


                “ขึ้นรถอะไรครับ” ผมยืนงงทำไมคุณชายมันไม่เอาน้องบีมมาให้ผมซักที อย่าว่างั้นงี้เลยครับ เปิดรถแบบนี้ไม่ค่อยถนัด


                “คราวหลังก็กินปลาบ้างนะ จะไปมหาลัยเหมือนกันรีบเก็บของ” คุณชายถอนหายใจแล้วออกคำสั่ง “ช้าจะเอาน้องบีมไปฌาปนกิจ” คุณชายเรียกกีตาร์ผมว่าน้องบีมอ่า...เคลิ้มเลย น้องผมมีคนเพี้ยนๆ อย่างคุณชายมาเอ็นดู


                “สิบ เก้า แปด”


                “เฮ้ยยย พี่แป๊บนึงงงงงงงงงงงง”


                ให้ไปด้วยก็พูดมาตรงๆ สิครับบบ ผมวิ่งไม่คิดชีวิตคว้าย่ามและล็อคประตูบ้านวิ่งมาที่รถเต่าสุดสวยทันที ถามว่าใครหลอกผมไปไหนผมไปหมด


                ถึงผมหน้าจะซื่อ แต่ผมบื้อและโง่ครับ







                “นี่รถพี่หรอ” ผมถามระหว่างคาดเข็มขัด อันที่จริงผมไม่ชอบคาดเข็มขัดเพราะมันอึดอัดลูกน้อย(พุง) แต่เพราะสายตาอาฆาตของคุณชายเจ้าระเบียบทำให้ผมต้องจำใจ


                “อืม”


                “รถของพี่จริงๆ อะนะ”


                “เออ”


                “แล้วคันเมื่อวานอะ”


                “ของคุณแม่”


                “แล้วทำไงถึงได้มาอะพี่”


                “เก็บเงิน ซื้อเอง”


                “รถสวยว่ะพี่ ผมอยากได้มั่งอะ แต่ขับรถไม่เป็น ขี่มอไซค์เป็นทุกรุ่นเลยพี่ ผมเจ๋งป้ะ”


                “...” ได้สายตาคมปราดมามองแทนคำตอบ มันจะรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าพี่มันคุยกับผมมาตั้งแต่ออกรถแล้ว


                “อย่าบอกนะว่าพี่ขี่ไม่เป็นอะ” ผมพูดเสียงสูง


                “...”


                “พี่ขี่มอไซค์ไม่เป็นจริงๆ หรอ โคตรคุณชายเลย จะว่าไปรถคันนี้ก็เหมาะกับพี่กว่าคันเหมือนวานอีก เหมือนคุณชายย้อนยุคอะพี่”


                “นายภูเขาช่วยรูดซิบปากซักสามนาทีได้มั้ย” ชะอุ้ย


                “ก็พี่ขับรถเงียบๆ แบบนี้ได้ไงวะ” ผมไม่เข้าใจพลางขยี้หัวที่หมาดๆ ของตัวเอง คุณชายเหลือบมองผมก่อนจะส่งเสียงนิ่งๆ มา


                “แล้วผมเนี่ยตัดมาซะดิบดีทำไมไม่จัดทรงให้มันดีๆ หน่อย ไม่ทันไรก็กระเซิงเหมือนวานรไม่ได้หวีขนเหมือนเดิม” ผมมองหน้าคนขับรถด้วยความแปลกใจเมื่อคนที่พึ่งจะรู้จักกันไม่กี่วันหัดบ่นผมซะแล้ว หรือพี่แม่งเป็นกับทุกคนที่เลอะเทอะแบบผมวะเนี่ย


                “ก็รีบอะ” ผมเถียง


                “ถ้าตื่นเป็นเวลาจะทำอะไรก็ไม่ต้องรีบ คนเรามันต้องมีวินัย” ยกมือแคะหูได้มั้ยครับคุณชายเจ้าระเบียบจะเทศน์ผมแล้ว ผมเบนสายตาไปมองนอกรถตอนนี้เรากำลังอยู่ในซอยบ้าน ไม่ได้ผมต้องเปลี่ยนเรื่อง


                “เฮ้ยๆๆ พี่ดูไอ้นั่นดิแม่งเปรี้ยวอะ ตัดหน้ารถพี่แม่ง ไม่ได้ๆ ผมต้องด่า”


                ผมถือวิสาสะหมุนกระจกรถคุณชายลง ไม่ได้เว้ยเลือดพ่อมันแรง ทำไม่ถูกกฎแบบนี้มีด่าให้รู้สำนึกกันไปข้างนึง นั่นมันไอ้บอยเด็กท้ายซอยครับ


                “เฮ้ย ขับรถดีดิวะไอ้บอย ตัดหน้ารถคนอื่นเค้าแบบนี้ได้ไง ตัดแล้วไม่ต่องี้รถก็ขาดดิวะ”


                “กริ๊งๆ” มันไม่ตอบได้แต่ส่งเสียงกริ่งมาให้ผมรำคาญแทนก่อนจะเร่งตัวไปข้างหน้ารถเต่า สองเท้าของมันทะยานถีบไปข้างหน้าอย่าไม่ลดละ


                “พี่รถเต่ามันขับเร็วกว่านี้ไม่ได้หรอ เด็กแม่งปั่นแซงแล้วเนี่ย” ผมหันมาเร่งคนข้างๆ ที่ใจเย็นเหมือนแป้งเย็นตางูผมรู้คุณก็ใช้


                “จักรยานยี่ห้อไรวะกูจะเอาไปเผาทิ้ง” ผมตะโกนไล่หลัง ไอ้บอยยกตูดขึ้นมาจากเบาะแล้วส่ายตูดกวนตีนผมทันที


                “พี่! เร็วเลย ไอ้เด็กบ้านี่” มันต้องเจอซักที รถเต่าวิ่งเร็วนะครับ เร็วกว่าเต่าตัวจริงนิดนึง ไอ้บอยเดี๋ยวกูจะฟ้องพ่อว่ามึงแซงกู


                “เด็กอะไรทำไมมันพูดมากแบบนี้” คุณชายบอกอย่างหงุดหงิดแล้วเอามือซ้ายมาปิดปากผม “ปิดกระจกก่อนจะโดนปล่อยลงกลางทาง”


                คุณชายส่งสายตาคาดโทษมาให้ผม ไอ้บอยที่หันมามองหัวเราะผมใหญ่


                “พี่...” ผมเรียกคุณชายอู้อี้ จะบอกว่าไม่โวยวายแล้วแต่... “มือหอมอะ”


                เข้ คุณชายปล่อยมือแทบไม่ทัน แถมยังเอามือไปเช็ดขากางเกงด้วย มือคุณชายมีกลิ่นใบเตยจางๆ ครับ ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแน่ๆ


                “แหะ” ผมหลุดหัวเราะก่อนจะหมุนกระจกขึ้นเหมือนเดิม สายตาคุณชายบอกเลยว่ากลัวผมแหงๆ ผมเลยส่ายหน้าคอแทบหลุด “เปล่าโรคจิตนะ มือหอมจริงๆ อะ”


                “ไอ้เด็กน่ากลัว”









                “ลงไปได้แล้ว”


                “เอ๊ะ...หือ...อือ...”


                “นี่...”


                ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้สะดุ้งเพราะแรงเขย่าที่ไหล่ อยู่ในรถแล้วทำไมหลับตลอด งงใจ


                “เฮ้ย!” ผมร้องดีดตัวขึ้นมาเหมือนผีเข้า “นี่ที่ไหน! นี่กี่โมง! นี่วันอะไร!”


                “หน้าคณะดุริยางค์ อีกสิบนาทีสิบโมง” ผมหันไปตามเสียงเรียบๆ นิ่งๆ ของคุณชายแล้วค่อยๆ เบิกตากว้าง


                “พี่! ทำไมไม่ปลุกผมอะ” ผมว่าพลางจับกระเป๋าย่าม คุณชายมองผมด้วยสายตาเย็นเฉียบจนผมหนาวไปทั้งตัว สติผมกลับเข้าร่างผมจึงยกมือไหว้สารถี อุอุ แอบพูดในใจเกิดมาไม่เคยมีใครขับรถให้นั่ง


                “ยังไงก็ขอบคุณพี่มากนะครับ พี่..” หรือเสียงผมไม่จริงใจ คุณชายเลยปรายตามองด้วยความรำคาญ


                “...”


                “ผมขอโทษจริงๆ นะเรื่องวันก่อนน่ะ แล้วก็ขอบคุณเรื่องผมกับกีตาร์ด้วยจริงๆ นะ พี่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเล่นเอาผมรู้สึกผิดกว่าเดิมอีก ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกผมได้นะพี่..” ผมพูดไปด้วยแล้วก็ยกมือไหว้ไปด้วย ไอ้เขาไม่เคยกลัวใครแต่ไอ้เขาก็เป็นเด็กดีนะครับ เราคงไม่เจอกันอีกแล้วแต่ไอ้ภูเขาคนนี้ก็อยากแสดงความขอบพระคุณ พี่คุณชายเนี่ยโคตรคนดีเลย มาส่งคนที่ราดข้าวแกงใส่ตัวพี่แกถึงคณะ เอากีตาร์มาให้ถึงบ้าน พาไปตัดผมไม่คิดตังค์อีก ไอดอลเรื่องคนดีของผมเลย แต่เรื่องระเบียบจัดปล่อยให้พี่เป็นคนเดียวเถอะครับ


                คุณชายมองผมด้วยสายตาที่ต้องบอกว่าใช้ความคิดเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่จนแล้วจนรอดคุณชายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ผมก้มหัวให้อีกครั้งแล้วลงจากรถแบกน้องบีมออกมาด้วยก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคุณชายเพื่อเดิมข้ามถนนไปที่ตึก แต่แล้วคุณชายแห่งโลกใบนี้หมุนกระจกลงแล้วเรียกไว้ซะก่อน ผมกำลังมีความสุขเนื่องจากได้เจอคนดีๆ พี่แกจึงรีบหันมายิ้มประจบทันที


                “มีอะไรหรอครับพี่”


                “ใครบอกว่าพาไปตัดผมให้ฟรี”


                “เห...” รู้สึกหางคิ้วขวากระตุกถี่


                “สองพันค่าเสื้อก็หายกันแต่อีกสองพันเก้า มึงติดหนี้กูอยู่ เพราะฉะนั้นเรียกเมื่อไหร่ต้องมา”


                “เห...”


                “เข้าใจมั้ย สุกรลูกหนี้”


                เหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห


                “ดะ...เดี๋ยวดิพี่”


                บรืนนนนนนนนนนนนน!!!


                ที่กูชมมึงเมื่อกี้กูขอคืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


                ไอ้คุณชายผีบ้า มึงหลอกขายคอร์สเป็นหนี้ให้กูใช่มั้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


___________
-ที่บอกว่าให้ทนคิดถึงไปก่อน คือกีตาร์หรือคนอะคุณชายย-
คุณชายของโลกใบนี้ เเรกๆ มันจะเรื่อยๆ หน่อยเน้อ
ติชมได้เลยไม่ว่ากัน ♡
ขอบคุณทุกคนค่ะ
#คุณชาย2017
คิดถึงเทพพี่โตผู้เป็นตำนาน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2017 16:43:33 โดย jaevin »

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
นี่คือวิธี จีบของคุนชายซึนป่ะคะ อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อร๊ายยย อิจฉาอีเขามากๆ บอกเลย อิอิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เอ๊.......คุณชาย คิดไรกับภูเขาป่ะเนี่ย
ที่บอกว่าให้ทนคิดถึงไปก่อน อะจ๊ากกกกก
แถมยังมารับพาไปคณะเรียนอีก

ถ้าไม่อยากมีเวรมีกรรมต่อ กับภูเขา
ก็น่าจะไม่ชายตาแลนะ.....คุณชาย
แต่นี่คุณชายทำให้แจ๊ค มึนไปหลายยยยย
เพราะไหนจะไม่โกรธที่ทำข้าวแกงหกราดตัว
พาไปตัดผม พาไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง
ก็น่ามึนนะ มันไม่ใช่อ่ะ.....มันไม่ใช่คุณชายเลย อ่ะ
อยากอ่านพาร์ทคุณชายแล้วอ่ะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
คุณชายคนซึน2017 :hao7:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
คนเกรียน 2017 ไปดมมือเขาเฉย น่ากลัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อยากรู้ความในใจของคุณชาย  :hao5:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
คุณชายซึนอยู่ป่ะเนี่ยยยย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ปกติเป็นคนอ่านหนังสือเร็วนะ
แต่เรื่องนี้ต้องค่อยๆ เพราะอ่านไปสำลักมุกไป 55

ออฟไลน์ KS.F

  • มือใหม่หัดแต่งนิยาย ช่วยแนะนำด้วยน่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ cocoagx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยน้องเขาาาา ทำบุญด้วยอะไรคะลูกกก พี่จะไปทำบ้าง หยั่กดั้ยบ้าง งิงิ
ในส่วนของคุณชายเคอะ พี่ทำบาปมาเยอะหรอม

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
ระเบียบที่ 6 : ห้ามความซวยยังไงไหว



                ตึกตึก ตึกตึก



                ผมเดินกระแทกเท้าเข้ามาในตัวอาคารหลังจากได้ยินประโยคสุดช็อกจากคุณชาย มือขวาจับสายกระเป๋ากีตาร์เเน่นแล้วเดินไปต่อคิวรอลิฟท์ ไม่ได้สังเกตว่าจะมีสายตานักศึกษานับสิบมองอยู่พร้อมกับเสียงกระซิบกระซาบที่ผมไม่ใส่ใจนัก เพราะไอ้เขากำลังสาปแช่งคุณชาย  รันจกุล ในดงผู้ดีอยู่ คุณชายที่ผมชื่นชมเมื่อกี้มันตายไปแล้วครับพี่น้อง



                “เฮ้ย นี่พี่เขาหรอเนี่ย ผมทรงใหม่แบบ...ดีอะ ดีเลยอะแม่มึงงง”



                “พี่เขาลงจากรถคุณชายด้วยว่ะ”



                ทั้งหมดนี้คนดีที่ผมชมมันภาพลวงตา ที่มาส่ง ทำตัวใจดีก็เพราะมันร้ายเงียบ มันกำลังก่อแผนการในใจมันสินะ ถ้าเปรียบเรื่องนี้เป็นนิยายละก็ชื่อนิยายจะต้องเป็น...คุณชายตัวร้ายกับนายควายน้อยในโคลนตมแน่นอน



                “พี่สาวฉันเรียนเอกเดียวกับคุณชายนะ วันนี้ไม่มีเรียนนี่”



                ...ฉายาเทพตีนหนักไม่จริงหรอก มันต้องหน้าหนักต่างหาก หึ กูจะหาเงินไปฟาดหน้าพี่มึงเข้าใจมะ...



                “จริงหรอ ได้ยินว่าถ้าไม่มีเรียนคุณชายจะไม่เจอในมอเลยนะ หรือว่า...กรี๊ดดดดดดดดด”



                ...จะได้ไม่ต้องมาเจอกันอีก สองพันเก้าแค่นี้จิ๊บๆ จำไว้ไอ้คุณชาย...



                ผมบ่นในใจขยับเท้าไปข้างหน้าเมื่อเริ่มเดินเข้าลิฟท์ เชี่ย พอเงยหน้าก็เห็นตัวเองที่ประตูลิฟท์ ยิ่งเห็นผมที่เป็นหลักฐานเรื่องตัดผมแบบนี้ยิ่งหงุดหงิด โกนหัวแม่งจะได้ไม่ต้องนึกถึงหน้าคุณชายอีก ไม่มีผมทรงนี้แล้วค่าตัดผมเจ๊ากัน โว้ย ผมขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด รุ่นน้องที่มักจะเห็นผมยิ้มแย้มไม่กล้าทักทายซักคน ดีพี่ไม่มีรมณ์



                ออกจากลิฟท์แล้วผมก็เดินลากเท้าเข้าห้องเรียน ห้องเรียนของผมปกติจะเป็นห้องโล่งๆ ครับจะมีพวกขาตั้งโน้ตเพลง ตู้แอมป์ เก้าอี้เล็กน้อยแล้วก็สายไฟครับ มีความระเกะระกะ มันเซอร์จริงจริ๊งงงพ่อคุณเอ๊ยยย



                แกร๊ก!



                แต่วันนี้ผมเปิดผ่างเข้าไปด้วยความรู้สึกคันปาก อยากจะเล่าให้เพื่อนฟังตั้งแต่รูขุมขนที่หนึ่งถึงรูขุมขนที่สามพันเจ็ดสิบแปดแต่...ทั้งห้องเงียบสนิท ไม่มีเสียงผู้คน แต่บนไวท์บอร์ดนั้น กลับมีตัวหนังสือเอียงๆ ตัวใหญ่ๆ แปะอยู่เต็มกระดาน แบบว่าเวลากวาดสายตาอ่านเหมือนมีเสียงดังออกมาด้วย



                อาจารย์ยกคลาสจ้ะ ไอ้เขาควายยยยยยย



            วันนี้มันวันซวยอะไรของกูวะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

               







                ผมกระแทกส้นเท้าเข้าห้องกิจกรรมและแน่นอนเพื่อนรักผมก็นั่งสลอนอยู่ตรงนั้น พอผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะพวกมันก็โหยหวนทันที



                “เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดด หล่อเว่อร์เพื่อนกู”



                “คิดยังไงไปตัดเนี่ยไอ้เหี้ยเขา เมื่อก่อนใครลากก็ไม่ไปบอกอยากเท่ๆ”



                “คิดว่าอากาศดีจังเลยตัดผมดีกว่า ถุ้ย! ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ทำไมพวกมึงไม่บอกกูเลยวะ” พอเห็นว่าผมไม่เล่นด้วยเฮียดุกและไอ้หมูเลยขยับตัวยืดหลังตรงเหมือนกำลังโดนสอบสวน



                “เค้าบอกในไลน์กันหมดแล้วไอ้ห่า” ไอ้หมูบอกหลังจากที่เงยหน้าจากมือถือมามองหน้าหล่อๆ ของผม



                “น้องสองจีมึงอะไม่เปิดอ่านไลน์ล่ะ” เฮียดุกแซะ ทำไมต้องว่ามือถือผม มันไม่ดีตรงไหนครับ



                “แล้วทำไมไม่โทรมาวะ”



                “เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆ วันนี้ใครทำอะไรให้ไอ้เขาหงุดหงิดวะ”



                “เออได้ข่าวว่ามีราชรถมารับเมื่อวาน วันนี้คุณชายก็มาส่งยังจะอารมณ์บูดอีก ลือกันแซร่ดดดดดด” ร เรือนี่ชัดไม่ดูเวลาเลยนะไอ้เชี่ยหมู



                “มึงอย่าพูดถึงคุณชายไรนี่ได้ป้ะ แล้วกูยังไม่ได้คิดบัญชีแค้นที่พวกมึงหักหลังกูนะ”



                “ชะอุ้ยเมื่อวานผีตัวไหนไม่รู้เข้าสิงพวกกูอะ ไม่ได้ตั้งใจหักหลังเพื่อนเลย...แต่จริงๆ อย่างมึงหักเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรหรอก”



                “ทำไมวะไอ้หมู” เฮียดุกยื่นหน้าไปถามด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น



                “สันหลังมันแม่งยาว!”



                “ผ่าม!” เสือกรับมุกกันอีก



                “ไอ้เหี้ยหมู ไอ้เฮี๊ยดุก พวกเพื่อนเวงงงงง”



                “ฮ่าๆๆ เออๆ โทษๆ แล้วเป็นไงๆๆๆ คุณชายพามึงไปกระทืบด้วยฟามรักหรอถึงมาส่งมึงได้”



                ผมหรี่ตามองมันสองคน จะเกรี้ยวกราดมากก็ไม่ได้ ต้องขอยืมตังค์พวกมันก่อนเพื่อเอาไปคืนคุณชาย แม้ว่าค่าเสื้อยังจะไม่ได้คืนไอ้หมู ผมคิดและไม่ทันได้ตอบอะไรไอ้เฮียดุกก็โพล่งขึ้น



                “ก็อีแจ็คบอกกูว่าเมื่อวานคุณชายมาส่งมึงที่บ้านแบบอเมซิ่งดิ้งด่องเลยนี่หว่า แล้วมึงปลื้มคุณชายชิบหายเลยนี่ เอาน่าๆๆ อย่าซีเรียสเพื่อน เค้าไม่มีกระทืบมึงก็ดีแล้ว นี่ๆ กูมีอะไรจะเล่าให้มึงฟัง”



                ชิบหายละ ไม่ต้องสงสัย สปายหมายเลขหนึ่งคืออีแจ็ค ตกลงมึงเป็นเพื่อนใคร มันเป็นเพื่อนผมนะครับแต่สนิทกับเฮียดุกกับไอ้หมูโคตรๆ อีแจ็คเพื่อนรักดันเอาเรื่องคุณชายมาฝอยต่อ ผมข่มความหงุดหงิดไว้ในกายตัวเองพร้อมกับปล่อยให้เฮียดุกเกี่ยวคอผมลงไปนั่งที่เก้าอี้ ฟังมันไปก่อนค่อยหาจังหวะเหมาะๆ เล่นละครเรียกคะแนนสงสาร



                “อะไรอีก”



                “มึงอยากฟังเรื่องไหนก่อน มีเรื่องดีกับเรื่องรว้ายๆ”



                “เฮียดุก...”



                “มึงเลือกได้แล้วหรอ”



                “เปล่า มึงไปถุยลิ้นทิ้งก่อนไป”



                “ไอ้สัด เออๆ เลือกมาจะฟังเรื่องไหนก่อนน้องเพื่อนรัก”



                “เรื่องดี” พอกูตอบเท่านั้นแหละดี๊ด๊าเหมือนเหี้ยเจอไก่



                “คืองี้เว้ย เมื่อคืนกูคุยกับอีแจ็คแล้วไอ้เฟมมันก็ทักมา” พี่เฟมแกเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมของคณะครับ  เฮียดุกหยุดแล้วกลืนน้ำลาย ลีลาจริงนะมึง “เออ มันทักมาแล้วมันก็บอกว่าวงที่ให้จะโชว์งานเฟรชชี่ไนท์แคนเซิลไปวงนึง เพราะฉะนั้นนนนนนนนนน...”



                “เพราะฉะนั้นไรวะ ลีลาอะเฮียดุก”



                “เพราะฉะนั้นไอ้เหี้ยเฟมเลยส่งวงมึงไปเล่นเปิดแทน ได้ข่าวว่าเดอะริชแมนทอยกับ25hoursมานะครับบบ”



                “เฮ้ยยยยยยยยย จริงหรอวะ ไอ้เชี่ยจริงดิ” ผมร้องด้วยความดีใจลืมเรื่องคุณชายที่สุมในอกไปจนหมด เด้งตัวไปกอดเฮียดุก ผมฟอร์มวงกับไอ้หมู ไอ้แต้งคีย์บอร์ด แล้วก็ไอ้ยิมร้องนำครับ ส่วนเฮียดุกไม่สันทัดเรื่องสไตล์เพลงของผม มันเลยเป็นผู้ช่วยแบกสายไฟแทน การได้เล่นในงานมหาลัยเป็นความฝันของผม อยากให้วัยรุ่นรักเพลงพี่โตครับ ยิ่งได้เล่นเปิดให้ศิลปินที่มาวันเฟรชชี่นี่แบบอยากจะกรีดร้อง



                “มึงใจเย็น อย่ารัดคอกู พร้อมฟังเรื่องร้ายยัง” เฮียดุกจับมือที่ผมที่รัดคอออก



                “เรื่องร้ายคือไรวะ”



                “เรื่องร้ายก็คือไอ้ยิมมันถอนตัว” ไอ้หมูหนึ่งในสมาชิกวงบอกผมสีหน้ามันเศร้ามาก ผมได้ยินเสียงเพลงธรณีกรรแสงลอยมาทันที



                “ทำไม...ทำไมมันไปเร็วแบบนี้ แล้วมันไปไม่บอกลาซักคำ ไม่ทันได้เตรียมใจ” ผมเบะปาก โธ่เพื่อนยิม



                “มันกินมันนอนไม่ได้ น้ำตาลยังขมปาก” ไอ้หมูพูดต่อ



                “ฮืออออออออออออออ ไอ้หมูเราจะทำยังไงกันดีล่ะเพื่อน”



                ผลัวะ!



                “เล่นใหญ่หาพ่อมึงหรอ” ไอ้หมูยื่นมือมาตบหัวผมพร้อมกับด่าไปด้วย แหม ได้ข่าวมึงก็เล่นกับกูด้วยนะไอ้หมู แล้วผอมๆ แบบนี้แรงเยอะชิบเป๋ง



                “ไอ้ยิมมันโดนรถเฉี่ยว ขาเดี้ยงยังนอนอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย” เฮียลากเราเข้าเรื่อง



                “ทำไงดีวะ ขาดคนร้องก็เหมือนปลาขาดน้ำ”



                “กูหาทางออกให้มึงแล้ว”



                “เฮียยยยยยยยยยยยยยย ทำไมมึงดีกับกูขนาดนี้ ไอ้หมูมึงดูไว้ เฮียหมูเป็นแค่คนแบกสายไฟของวงยังจัดการให้ขนาดนี้เลย”



                “เออๆ ฟังก่อนแต่ทางออกเนี่ยมึงเป็นคนเดียวที่จะทำได้” เฮียดุกดันหัวผมออกอีกครั้งแล้วชี้นิ้วใส่ผมประกอบคำพูด



                “เฮียดุก เฮียก็รู้กูรักวงยิ่งชีพ ให้ทำไรไอ้เขาทำได้หมดทุกอย่าง จะบุกน้ำลุยไฟ ไปขึ้นเขาเอเวอร์เรส ชิงเปรตที่พัทลุง ตกกุ้งที่บางปะกง สรงน้ำพระที่พระธาตุจอมทอง ล่องแพที่แก่งกระจาน สานตะกร้าที่กาฬสินธุ์ กินทุเรียนที่จันทบุรี แฮ่กๆ พวกมึงไม่เบรกหน่อยหรอวะ”



                “ไม่ เดี๋ยวเหนื่อยมึงก็หยุดเอง”



                “แฮ่มๆ เออนั่นแหละ จะให้ทำอะไรให้กับวง ไอ้เขาไม่มีบ่นแน่นอน เฮีย ไอ้หมู บอกมาเถอะ”



                “มึงสัญญาแล้วนะ” ไอ้หมูถามแล้วก็หันไปสบตาเฮียดุก เดี๋ยวพวกมึงมีไรกัน “มึงท่องคำสาบานสามจบดิ๊”



                ไอ้พวกนี้ ไร้สาระชิบหาย สาบงสาบานอะไรวะ



                “กูจะทำเพื่อวง! กูจะทำเพื่อวง! กูจะเพื่อวง!” ผมพูดทุบกำปั้นกับอกตัวเองเบาๆ



                “ดี! ก็นั่นแหละ พอกูบอกไอ้เฟมว่าวงมึงขาดนักร้องอยู่ มันก็เลยเสนอนักร้องมาคนนึงแต่กลัวเค้าไม่มาร้องให้ คือเค้ามาร้องให้วงมึงต้องดังเป็นพลุแตกระเบิดบึ้ม ไอ้เฟมมันยังบอกอีกว่าวงในอยากให้คนนี้มาร้องมากๆ ปีนี้คนจะได้มางานเยอะขึ้นแต่เพราะเป็นเพื่อนสนิทประธานสโมฯ เลยไม่มีใครกล้าไปคุย...”



                “อาฮะ แล้วไงต่อ...” ใจมันเต้นระรัว พอนึกถึงความสำเร็จของวงดนตรีของไอ้เขา



                “เนี่ยพอกูคุยกับไอ้เฟมเสร็จก็แบบ...เข้าทางเลยวุ้ย คนๆ นั้นเป็นคนที่มึงกำลังปลื้มอยู่ด้วย กูไม่คิดเลยว่าแม่งจะร้องเพลงได้ หน้าตาดูถนัดร้องโขนมากกว่า”



                เดี๋ยวนะ หางตากระตุกยิกๆ คืออะไร



                “แต่พออีแจ็คบอกกูว่ามึงปลื้มคุณชายแถมคุณชายยังมาส่งถึงบ้านอีก กูก็เลยตอบไอ้เฟมไปว่าไอ้เขารู้จัก เรื่องคุณชายไม่มีปัญหาเดี๋ยวไอ้เขาจัดการ รับรองได้ชัวร์ ไอ้เฟมดีใจใหญ่ มันเลยรีบส่งชื่อคุณชายแทนไอ้ยิมทันที”



                “...”



                วิญญาณผมเหมือนหลุดออกจากร่างไปแล้ว



                “สุดๆ ไปเลยว่ะ ได้คุณชายมาร้องนะมึงงงงง วงวารชีวิตของมึงต้องเป็นที่รู้จักทั่วมอแน่ๆ” เฮียตบบ่าผมปุๆ พลางยิ้มเหมือนภูมิใจที่ลูกชายบวชก่อนจะพูดต่อ “อึ้งๆ อึ้งเลยดิ หน้าสั่นๆ ขอบคุณกูซะไอ้เขา เฮียดุกทำเพื่อมึงโดยเฉพาะ”



                “ไงล่ะ เฮียดุกทำเพื่อวงพวกเราขนาดนี้ มึงต้องไปลากตัวคุณชายมาซ้อมกับวงเราให้ได้นะเว้ย งานเฟรชชี่ครั้งนี้อะต้องเป็นที่จดจำแน่นอน ทุกคนในมหาลัยจะต้องจำว่าวงวารชีวิตของเราว่าครั้งหนึ่งคุณชายเป็นนักร้องนำ แค่คิดก็สุดยอดไปเลยว่ะ”



                “พวกมึง...คือกู” ผมพยายามอ้าปากคัดค้านแต่ไอ้หมูก็พูดแทรกพร้อมกับทำท่าเพ้อฝัน



                “โธ่ นี่มึงดีใจจนพูดไม่ออกเลยล่ะสิเพื่อนเขา วงเราได้ขึ้นเวทีใหญ่ครั้งแรกทั้งที อยากซ้อมกลองไม่ไหวแล้วว่ะ”



                “คือว่ากูกับไอ้คุณชาย...คือ”



                “อ๊ะ...อ๊ะ...มึงจะมาอ้ำอึ้งไม่ได้ เพราะมึงสัญญาแล้ว มึงบอกว่าจะบุกน้ำลุยไฟ ไปกินขี้ที่บุรีไหนซักที่ไม่ใช่หรอ” ไอ้หมูส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงจุ๊ๆ



                “เดี๋ยวดิพวกมึง...” ผมตัดสินใจโพล่งขึ้นและในขณะเดียวกันไอ้หมูลุกขึ้นยืน



                 “ไอ้เขา วงเราฝากความหวังไว้ที่มึงนะ เออกูต้องไปละ บอสส่งข้อความมาเรียกแล้ว เร่งกูจังเลย กูต้องไปดูปีหนึ่งซ้อมกลองโชว์วันงานด้วย ปะเฮีย...”



                “ส่วนกูต้องไปส่องสาวปีหนึ่งวัยขบเผาะกับไอ้หมูน้องรัก”



                มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือฝันไป ผมนั่งนิ่ง สมองประมวลผลช้าๆ อ้าปากพะงาบและยกมือค้างประหนึ่งรั้งเพื่อนทั้งสองไว้ ได้โปรด...อย่าทิ้งกูไป...ฟังกูพูดซักคำนึงได้มั้ย...มันสองคนเดินกอดคอกันไปที่ประตูแล้วก็หันมาหาผมพร้อมกับเปิดอะไรบางอย่างในโทรศัพท์


            “มึงสัญญาแล้วนะ”



            “มึงท่องคำสาบานสามจบดิ๊”



            “กูจะทำเพื่อวง กูจะทำเพื่อวง กูจะเพื่อวง!”




                 เหี้ย...



                พวกมันยิ้มทำท่าสู้ๆ ให้กับผมก่อนจะทิ้งท้ายด้วยคำที่น่ารัก



                “รีบๆ ไปคุยกับคุณชายล่ะ พวกกูรู้มึงทำได้ไอ้เขา มอมอ”

               

                ปัง!



                “มอมอ” ผมทวนคำสุดท้ายอยู่ในหัว



                มอ



                มอ?



                ควาย



                ควาย?



                กู?



                ไอ้เขาควายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 







                “อ้าวเขามาพอดีเลยเฮียทิว”



                “มาก็ดีเลย มึงมาดูข่าวนี้ไอ้เขา จำไว้ แจ็คด้วยเหมือนกัน ลูกผู้ชายอกสามศอกกล้าพูดก็ต้องกล้าทำเข้าใจมั้ย ไปโกหกหลอกลวงให้ความหวังคนอื่นเกิดมาแม่งเสียชาติเกิด”



                เอื๊อก...



                ในเวลาห้าโมงกว่าๆ ผมแบกน้องบีมกลับมาถึงบ้านด้วยความเอื่อยเฉื่อย ในสมองกำลังคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้นถึงกับสะดุ้งเมื่อคำพูดของเฮียทิวกระทบโสตประสาทเข้าอย่างจัง ฮืออออ ทำไมชีวิตผมถึงต้องเจออะไรแบบเน้ ติดหนี้ไอ้คุณชายนี่ยังไม่พอ นี่ผมจะต้องไปขอร้องให้มันมาเป็นนักร้องนำวงผมจริงๆ หรอวะเนี่ย ไอ้คนที่ฟังสุนทราภรณ์มันจะร้องได้ยังไงวะ แล้วทำไมกูถึงซวยอะไรขนาดนี้ ไอ้เฮียดุกมึงก็ทำอะไรไม่ปรึกษากูเล้ยยย



                “เขายืนหาเห็บอะไรตรงนั้น มากินข้าวเร็ว กูเอากับข้าวมาให้มึงกับเฮียทิว” กูทึ้งหัวตัวเองอยู่ อีแจ็ค!



                “ไม่หิว”



                “ทำไมทำเสียงเป็นผีดิบงั้นอะ เออ ไปตัดผมมาด้วยนี่หว่าลูกกู ทีเมื่อก่อนกูแทบจะกราบมึงให้ไปตัดก็ไม่ยอมตัด” เฮียทิวพูดขึ้น ผมเลยหันคอไปมองช้าๆ พร้อมกับยกมือไหว้พ่อตัวเองเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง เจอคำว่าลูกผู้ชายเมื่อกี้เข้าไป กูเหมือนตุ๊ดขึ้นมาทันที



                “เฮียทิวหวัดดี”



                “เอ้า...ไอ้นี่ กูเป็นพ่อนะไม่ใช่ยามหน้าหมู่บ้าน แจ็คไปลากตัวมันมานั่งกินข้าว”



                “ได้ค่ะเฮียทิว”



                “เขาไม่หิว ไม่กินอะไรทั้งนั้น”



                อีแจ็คไม่ฟังเสียงผมเพราะมันฟังแต่คำสั่งของเฮียทิวคนเดียวเท่านั้น มันวิ่งตึงตังมาลากแขนผมให้เดินไปทางห้องครัวก่อนจะกดตัวผมให้นั่งเก้าอี้ตรงข้ามมันโดยที่มีเฮียทิวนั่งอยู่หัวโต๊ะ เสียงข่าวจากทีวีเครื่องเล็กในห้องครัวยังดังมาเป็นระยะๆ



                และพอผมนั่งปุ๊บเฮียทิวก็เอ่ยปากถามผมทันที “เป็นอะไร”   



                “เขา...เครียด”



                “คุณพระ!” อีแจ็คร้องออกมาเสียงดังจนเฮียทิวตวัดสายตาไปมองด้วยความตกใจ มันยิ้มแห้งๆ แล้วยกมือไหว้ขอโทษ



                “หนูแค่ตกใจค่ะเฮียทิว ก็อีเขาเนี่ยๆ วันๆ มันเครียดอะไรกับเขาเป็นด้วย ไหนมึงเป็นไรเล่าดิ ไม่ได้กินสไปร์ทหรอวันนี้”



                “ก็จริงนะ...ว่าไงมึง ไม่ได้กินสไปร์ทหรือไม่ได้ฟังเพลงพี่โต” เฮียทิวพยักหน้าเห็นด้วย



                “ไม่มีอะไรทั้งนั้นอะ” ผมเลี่ยง เบนสายตามองอาหารบนโต๊ะอย่างผิดปกติ



                “เออไม่มีอะไรก็แดก คิดมากทำไม ชีวิตมีแค่นี้จะคิดอะไรมาก”



                ผมเงยหน้ามองเฮียทิวผู้เป็นไอดอลของเด็กทั้งซอย แววตาที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาหลายอย่างสะท้อนใบหน้าผม เหมือนได้รับพลังมาโดยไม่รู้ตัวยังไงอย่างนั้น งือออ...เฮียติวววง่า ลิ้นเปลี้ยแป๊บ แต่เดี๋ยวก่อน บรรยากาศพ่อลูกมันมีอะไรแปลกๆ



                อะไรงั้นหรอ?



                ก็มีอีแจ็คที่นั่งเท้าคางมองหน้าพ่อกูตาเยิ้มนี่ไง



                “อีแจ็ค!” หวงพ่อนะ



                “อะ...อะไรของมึงเนี่ยยยย บ้าบออออออออ”



                “จะมองพ่อกูอีกนานมั้ย”



                “ทำไม พ่อมึงเป็นวัตถุโบราณร้อยปีหรึอไงกูถึงมองไม่ได้”



                “พ่อกูไม่ใช่วัตถุโบราณ พ่อกูคือสิ่งมีค่าที่ทหารพม่าไม่ได้เผา”



                “อะแฮ่มๆ เถียงกันซะจนกูยกมือปิดผมหงอกไม่ทัน”



                “แฮ่ๆ ขอโทษค่ะเฮียทิว”



                “อีแจ็คมันเริ่มก่อนอะเฮียทิว”



                “เออๆ พวกมึงกินข้าวซะกูจะออกไปดูร้านหน่อย”



                “อ้าวร้านยังไม่เจ๊งหรอเฮีย”



                “เดี๋ยวกูเหนี่ยวด้วยหลังแหวน เมื่อกี้ยังซึมกะทือทื่อเป็นเสาคอนกรีต ตอนนี้กวนตีนกูได้แล้วคงไม่เป็นไรแล้วมั้ง”



                “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เฮียทิว ถ้ามันเป็นเดี๋ยวหนูดูให้เอง วัดหมู่บ้านเรามีโปรโมชั่นอยู่พอดีเลยค่ะ ศาลาเจ็ดจองก่อนตายก่อน”



                “อีแจ็ค!!!!”



                “ทำมะ มึงทำไรกู?”



                “โปรโมชั่นนี่ใช้ได้ถึงเมื่อไหร่วะ”



                “โอ๊ย อยู่กับพวกมึงแล้วปวดหัว”



                เฮียทิวร้องขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้น พอเสียงรถมอเตอร์ไซค์ของเฮียทิวแล่นออกจากบ้าน อีแจ็คก็รีบเดินมานั่งข้างผมทันที



                “ตกลงเป็นอะไร”



                “ก็มึง...” ผมกำลังจะอ้าปากด่ามันเรื่องที่มันไปเม้าธ์มอยกับเฮียดุก แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่ผมต้องมาพัวพันกับคุณชายเนี่ย เป็นเพราะผมทำตัวเองทั้งนั้น



                “อะไร ก็มึงอะไร แหมๆๆๆ เมื่อเช้าเห็นนะ มีคลมาลับ(มีคนมารับ)อะ” มันหันนิ้วชี้ทั้งสองข้างมาจิ้มๆ กัน



                “แซวหาพ่อมึงหรอ”



                “อีเขา! ป่านนี้พ่อกูสะดุ้งพุงชนกำแพงแล้ว แหนะๆ ทำเป็นเกรี้ยวกราดกลบเกลื่อน มีคนหล่อมารับถึงบ้าน ตอนแรกกูก็อิจฉานะ แต่ไม่เป็นไรมึงอยู่ใกล้คุณชายไว้ เผื่อกูจะได้ตอดเล็กตอดน้อย ว้าย แค่คิดก็บ้าบอแล้วอะ”



                “อีแจ็ค มึงรักกูมั้ย” ผมรีบพูดขัดอีแจ็คที่เรียนอักษรศาสตร์ เอกคิดไปไกล โทใจจินตนาการ ก่อนที่มันจะมโนไปไกลถึงดาวอังคาร และดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเอะใจแล้วเหมือนกัน



                “เดี๋ยวๆ กูว่าถามแบบนี้ไม่น่าจะดีกับตัวกู”



                “ถ้ามึงเป็นเพื่อนกูและรักกู มึงจะแซว จะด่าอะไรกูก็ได้ กูขออย่างเดียว” ผมจ้องหน้ามันจริงจังจนอีแจ็คกลืนน้ำลายอึกใหญ่  เรื่องที่ผมจะพูดกับมันคือเรื่องคอขาดบาดตาย



                “อะ...อะไร”



                ผมสูดลมหายใจก่อนจะตัดสินใจพูด



                “ขอยืมตังค์สามพันดิ”



                อีแจ็คหน้าเหวอแล้วก็ลุกพรวดขึ้นมาจนเก้าอี้ไม้ส่งเสียงครืดไปด้านหลัง เพื่อนผมปากคอสั่น มือขวามันล้วงหยิบมือถือออกมาแนบหูก่อนจะพูดเสียงดัง ทั้งๆ ที่ไม่มีสายโทรเข้า



                “ฮัลโหล แม่! เอาไรนะ น้ำตาลโตนดเพชรบุรี”



                “อีแจ็ค...” มันหันมาโบกไม้โบกมือเบะปากคล้ายกับว่าแม่โทรมาขัดจังหวะการพูดคุยของเรา



                “แป๊บนึง แม่อะมึง ไม่ไหวเลย โหลแม่...เพชรบุรีเลยหรอ เดี๋ยวไปซื้อให้ ไม่ต้องร้องๆ เพชรบุรีแค่นี้เองเดี๋ยวปั่นจักรยานไปซื้อให้”



                “แจ็ค” แหลไม่เนียนไปเรียนมาใหม่



                “เฮ้ยมึง... ไว้คุยกันใหม่ ต้องไปซื้อเพชรบุรี เอ๊ย ซื้อน้ำตาลด่วนว่ะมึง เดี๋ยวแกงแม่ไม่เข้มข้น เจอกันเว้ย”



                “อีแจ็ค!!!!”



                เพื่อนไม่เพื่อนมันก็ดูกันตรงนี้แหละเว้ย



                และจากตรงนี้กูว่ากูไม่มีเพื่อนนนนน



                สิ่งที่ผมทำ ผมต้องรับผิดชอบเองสินะ



                ระหว่างที่นั่งคิดอะไรเงียบนั้น...



                อุแว้ อุแว้



                เสียงข้อความเขาทำเอาผมแทบสะดุ้ง ผมมองหาต้นตอของเสียงแล้วก็พบว่ามันอยู่ในถุงย่ามใต้เก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น ผมกดเปิดอ่านข้อความ mms ที่เข้ามาแล้วด้วยความเชื่องช้าเป็นเต่าในยุคหินอินเดียนาโจนแต่แล้ว...ก็มีเหตุให้ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด



                [ถึง นายภูเขา  บรรจงภักดี

                มาบ้านกูภายในสิบห้านาที

                *แนบรูป]



                ส่งอะไรมาวะ...



                นั่นมัน...รูปไอ้เขาตอนกำลังเพลียแดดเมื่อตอนม.สามนี่!!



                บัตรประชาชนที่มีหน้าคนเหมือนพึ่งอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายของผมไปอยู่ในกำมือมันได้ยังง๊ายยยยยยยยยยยยยย



                ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่คิดว่าจะมีตัวประกันอยู่ในมือมัน บัตรประชาชนที่ผมต้องใช้เข้างานอีเว้นท์วันอาทิตย์นี้ ไอ้เชี่ยเอ๊ย ลืมไปได้ยังไง ผมลืมกลับไปเอาเมื่อวันก่อนที่ป้อมยามหมู่บ้านของคุณชาย



                แต่เดี๋ยวก่อน คุณพระ! ยืมอีแจ็คมาแป๊บนึงเดี๋ยวคืน ไอ้คุณชายมันบอกเมื่อตอนเช้าว่าเรียกต้องมา แต่นี่คุณชายท่านเรียกผมไปหาที่บ้านเลยหรอครับ ในหัวผมนึกถึงฉากหนังอีโรติคขึ้นมาได้ฉากหนึ่งทันที



                หรือว่า....



                เขา....เอาน้ำแข็งมาถูหลังฉันสิ



                เฮ้ย เป็นไปไม่ได้ บ้าบอออออออออออออออออ



__________

-ค่าตัวคุณชายเเพงเว่อร์-
คุณชายคงทำกรรมหนักจริงๆ

วงดนตรีน้องเขาชื่อวงวารชีวิต
ส่วนพี่อยากจะวงวารชีวิตมึงจริงๆ เขาเอ๊ย

เพราะตัดให้มันเป็นตอนสั้นๆ คุณชายมันเลยจะเอื่อยหน่อยๆ อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมาเเสดงความคิดเห็นค่ะ
ใครที่หลงเข้ามาอ่านเรื่องนี้ก่อนสามารถย้อนกลับไปอ่านเรื่องคนกลางกันนะคะ (ขายของ55)
เเล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
 :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2017 17:08:37 โดย jaevin »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ตาหลกเขาอะ 55555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ปีนี้ปีชงนังเขาหรอ 555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เครียดกับเขา  :hao7:

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
วงวารเขาเนอะ 5555555
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
ระเบียบที่ 7 : ห้ามสั่ง



                “อ้าวน้องเขาจะไปไหน?”



                เสียงคุ้นๆ ดังมาจากหน้าบ้าน พี่เสกที่หลอกกูเขียนชื่อที่อยู่เมื่อวานขี่สกู้ปปี้ไอรถมาจอดตรงประตูรั้วแล้วถามประโยคข้างต้น ในขณะที่ผมกำลังถอยรถเวสป้าสีเหลืองออกจากโรงจอดรถ อีพี่เสกก็มาเสนอหน้าให้ผมคิดถึงเหตุการณ์โง่ๆ ของตัวเองขึ้นมา ผมจะไปใช้หนี้ไงไอ้พี่เสก ให้กูไปถูน้ำแข็งอะไรรึเปล่ายังไม่แน่ใจ



                “เรื่องของผม”



                “โห ไอ้เราก็ถามดีๆ” พี่เสกทำหน้างอนพลางกอดคอรถตัวเองด้วยสีหน้าบ้องแบ๊วแบบไร้ฟันหน้า สยอง



                “มีไรพี่ พอดีมีธุระ” ผมก้มมองนาฬิกาคุยกับมึงก็เสียเวลาไปสองนาทีแล้ว ไม่ได้กลัวคุณชายเลยเอาจริงๆ



                “จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกอยากมาทัก แต่พอเห็นน้องเขาแล้วก็อยากให้ช่วยอะไรหน่อย”



                “ไรพี่ ผมรีบนะ”



                “แป๊บเดียวววนะๆ ถ้าช่วยพี่ ครั้งหน้าขึ้นฟรีไม่ถามคำถามด้วย”



                “แน่นะ...” ตัวเลือกที่น่าสนใจดี วินาทีนั้นผมลืมชื่อไอ้คุณชายไปชั่วขณะ



                “แน่ดิ” ว่าแล้วแกก็ฉีกยิ้มเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเข็นรถออกมาตรงหน้าประตูรั้วข้างรถแกพอดี “พอดีพี่อยากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กใหม่อะ เขาช่วยถ่ายให้หน่อยดิ ไปขอให้พวกวินช่วยถ่ายก็ถ่ายไม่เป็นเลยต้องมาขอให้วัยรุ่นช่วยถ่ายหน่อย”



                “แบบไหนอะพี่” ผมยื่นมือไปรับมือถือของพี่เสกที่แกยื่นให้โดยที่พี่เสกยังคร่อมรถไม่ลงมาซักที



                “เอาแบบแนวนอนนะ ฮิปเตอร์ๆ” แหมะ มีฮิปตงฮิปเตอร์ด้วย



                “โอเคๆ” โอ้โห มือถือรุ่นใหม่กว่าผมอีก ผมพลิกโทรศัพท์แล้วเดินถอยออกมาเพื่อถ่ายรูปแนวนอนให้พี่เสก



                “พี่จะถ่ายกับรถหรอ”



                “พี่จะถ่ายแนวนอน”



                “ก็นี่ไงผมก็ถ่ายแนวนอนอยู่นี่ไง” พี่เสกทำเสียงฮึดฮัดในลำคอก่อนจะขยับตัวนอนคว่ำ เหยียดขาไปด้านหลังบนเบาะสกู้ปปี้ไอของแก



                “เฮ้ยพี่ทำไรเดี๋ยวก็ตกหรอก”



                “ฮึบ เขาถ่ายเลย”



                “อะไรของพี่วะ” ผมบ่นแต่พอมองจอถึงกับร้องอ้อด้วยความบรรลุ ผู้ชายที่นอนคว่ำ ยืดแขนกำแฮนด์มอเตอร์ไซค์อยู่ตอนนี้คือคนที่เป็นผู้บุกเบิกการถ่ายรูปแนวนอนของแท้



                พ่อเจ้าประคุณรุณช่อง



                ไอ้พี่เสก แนวนอนบนเบาะรถเลยไอ้เหี้ย



                ถึงว่าไม่มีใครถ่ายให้



                อุแว้!



                ผมกดถ่ายรัวๆ ไปจู่ก็มีแรงสั่นมาจากกระเป๋ากางเกง ผมล้วงมือซ้ายเข้าไปกดอ่านข้อความแล้วก็ต้องสะดุ้ง



                [ถึง นายภูเขา  บรรจงภักดี

                ผ่านไปแล้วแปดนาที]




               เขรรรรรร้ ผมร้องลั่นอยู่ในใจก่อนจะรีบยัดมือถือคืนพี่เสก



                “ถ่ายไปนิดเดียวอยู่เลยน้องเขา พี่มีท่าแนวนอนหงายด้วยนะ”



                “พี่เสกมึงไปเล่นจั๊กกะแร้ตัวเองก่อนไป ผมรีบบบบ”



                “ก็ได้ เอ๊ะ รูปนี้ก็ดีนะเดี๋ยวไปแต่งรูปในแอพก่อนดีกว่า” พี่เสกดูรูปในมือถือด้วยความพอใจ ผมจึงวาดขาคร่อมรถแล้วสตาร์ทรถทันที



                “น้องเขา ขอบใจมา...เฮ้ยยังพูดไม่จบเลย”



                บรืนนนนน!



                ใครฟังมึงพูดจบก็บ้าแล้วพี่เสก



                เอ๊ะ กูเองนี่

 




                แท่ด แท่ด แท่ด



                ผมจอดรถหน้าบ้านคุณชาย เห็นตัวเองในกระจกรถต้องบอกเลยว่าทรงผมตั้งท้าลมแบบไม่ต้องเซ็ท นี่ผมรีบบิดมา 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยนะบอกตรง หมวกกันน็อคก็ไม่ได้ใส่ ขี่เข้ามาโดยไม่ต้องวางบัตร พี่ยามก็ให้ผ่านพร้อมกับหน้าตาตกใจ คนในหมู่บ้านผู้ดีออกมายืนมองกันตรึม ผมเท่? เปล่า ท่อรถเวสป้ามันดังคนเลยออกมาดู เออนั่นแหละ...พอลงมาจากรถก็มาด้อมๆ มองๆ แถวซี่ประตูรั้วไม้สีขาวที่มีไม้เลื้อยแซมมากับรั้ว



                นี่พี่มันเรียกผมมาทำอะไรครับ คิดแล้วก็ขนลุก



                จะเข้าไปดีมั้ยวะ หรือว่าหนีก่อนแล้วค่อยเอาเงินมาให้ทีหลัง



                หรือมึงจะทำตามพี่แกไปก่อนไม่งั้นจะเอาบัตรคืนได้ยังไง



                เออ ความคิดดี ค่อยหลอกให้มันตายใจก่อนแล้วก็ใช้ความจังไรหลอกให้คุณชายมาร้องเพลงอีกที           



                คุณชายอาจจะร้องไม่ดีก็ได้ พวกมันไม่เคยฟังเสียงนี่ ถ้าไม่เข้ากับวงยังไงพวกมันก็ต้องยอมรับ



                โห วันนี้มีความคิดมากกู สมัครนายกดีมั้ยวะ วันก่อนพึ่งไปเมกามา ไม่ดีกว่า กูไม่อยากเป่าทรัมป์? โดนัลด์ ทรัมป์?  เปล่าทรัมป์...เป็ต



                ผ่าม!



                ไอ้เขา มึงเป็นหัวหน้าวงที่ดีจริงๆ



                “จะทำตัวเป็นคนไร้สติ เด็ดใบไม้ไปเคี้ยวอีกนานมั้ย”



                คุณชายโผล่มาจากช่องว่างของรั้วจนผมสะดุ้งตกใจ



                “เฮ้ยพี่! ถ้าผมหัวใจวายทำไงวะ!” เผลอเช็ดมุมปากทั้งๆ ที่ยังไม่แดกอะไรเลย



                “มาช้าสี่นาที” คุณชายหน้านิ่งยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองมาดู ชะอุ้ย ลืมไปได้ยังไง คุณชายเป็นคนระเบียบจัด



                “ก็...บ้านพี่ผมไม่เคยมานี่ ผมขี่วนไปวนมา วนมาวนไปก็ยังไม่เจ...”



                “โกหก ถ้าไม่เคยมาแล้วไปรษณีย์ที่ไหนจะมาส่งพัสดุแสตมป์เซเว่นแบบนี้”



                มันเก็บรายละเอียดวุ้ย “เอ่อ...อ๋อเคยมาแล้วนี่เราจำได้แล้ว ขี้ลืมจริงๆ เลยเรา ว้าแย่จัง” ทำท่าเอากำปั้นทุบหัวแบบแบ๊วๆ หวังว่าคุณชายจะให้อภัย



                “ตามมานี่” แล้วคุณชายก็หันหลังเดินทันที



                เฮ้ยเดี๋ยวๆๆ



                “พี่เปิดประตูให้ผมก่อนสิ”



                “ตาไม่มีหรอ ประตูเปิดอยู่แล้วดันมามองตรงรั้วอยู่ได้” คุณชายปรายตามองแล้วออกเดินต่อทันที



                เพล้ง!



                เออว่ะ เปิดอยู่จริงด้วย ผมเข็นรถเวสป้าเข้ามาในบริเวณบ้าน บ้านคุณชายไม่ได้มีพื้นที่กว้างเหมือนวังจุฑาเทพหรอกครับ ตรงหน้าบ้านมีสนามหญ้าขนาดเล็ก มองไปทางไหนก็เขียวชอุ่มเย็นตาไปหมด



                ทันทีที่ผมจอดรถตรงโรงรถคุณชายเสร็จ คุณชายที่เดินนำมาก่อนก็มายืนใกล้ๆ ผมจึงตัดสินใจพูดก่อนเลย



                “พี่ เรื่องหนี้...คือว่า”



                “มาทำงานใช้หนี้ทุกเย็น”



                แล้วบัตร...



                “เป็นระยะเวลาสองอาทิตย์”



                ไม่...



                “เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”



                ไม่เคยจะฟังอะไรกูเล้ยยยยยย



                ผมกำลังจะอ้าปากต่อรองกับพี่แกด้วยอาการมีน้ำโห แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงหวานๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง



                “ตาณ หายไปไหนมา แม่ทำบัวลอยเผือกเสร็จแล้วจะให้ลูกชิมซะหน่อย เอ๊ะแล้วนี่ลูกใครล่ะเนี่ย”



                โหหห โคตรสวยเลย



                นี่ผมอยู่บนสวรรค์ใช่มั้ยเนี่ย



                “ใช่จ้ะ นี่แหละสวรรค์บนดิน” นางฟ้าตอบพร้อมกับรอยยิ้ม



                ”เอ่อ ผมไม่ได้พูดในใจหรอครับ”



                “ในใจบ้าอะไรล่ะ” ได้ยินคุณชายบ่นผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง งง เขางงจริงๆ



                “เอ่อ....สะ...สวัสดีครับ คุณเอ่อ คุณ”



                “สวัสดีจ้ะ เรียกคุณน้าก็ได้จ้ะ”



                คนที่อยู่ตรงหน้าผมคือคุณน้าที่ต้องบอกว่าสวยมากกกก สวยแบบไทย สวยจนบรรยายไม่ถูกเลยครับ ยิ่งใส่ผ้าซิ่นแบบผ้าโบราณ เกล้าผมแบบนี้ ไอ้เขาเหมือนหลงยุคเลย



                “น้ำลาย”



                คุณชายกระแอม หรี่ตามองผมอย่างน่ากลัว



                “ชะอุ้ย แฮ่ๆ ผมชื่อภูเขาครับเป็น...”



                “เป็นรุ่นน้องที่หางานพาร์ทไทม์ทำอยู่ครับคุณแม่”



                คุณแม่...พระเจ้าช่วยกล้วยไข่ คุณแม่หรอเนี่ย ผมตาโตมองไปทางคุณชายทีสลับกับคุณน้าที คุณน้าทีคุณชายที ไม่มีใครห้ามเลยต้องหยุดเอง เอ่อ...แล้วผมไปหางานพาร์ทไทม์ตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมตัวผมถึงไม่รู้           



                “..ภูเขาหรอ แม่คุ้นๆ หน้...”



                “ลูกเห็นเค้าอยู่บ้านใกล้เราเลยชวนมาทำงานแทนพี่แววที่ลากลับบ้านสองอาทิตย์น่ะครับ” คุณชายพูดต่อไม่สนหน้าตาเด๋อด๋าของผม



                “เอ๊ะ จะดีหรอคะลูก” คุณน้ายกมือทาบอกพร้อมกับเบิกตาโตขึ้นเล็กน้อย



                “บ้านเราก็จะมีงานเลี้ยงด้วย แววลากลับไปแบบนี้ไม่มีใครเป็นลูกมือนมด้วยครับ ลูกกลัวนมเหนื่อย อีกอย่างเด็กคนนี้ก็เต็มใจมากๆ ด้วย จริงมั้ย”



                คุณชายเอื้อมมือมาตบไหล่ผม แน่นอนว่ามือหนักเหมือนภูเขาสันกาคีรี 



                อั่ก!



                เจ็บ...



                “จริงมั้ย?” เน้นเสียงเข้มมาอีก



                “เต็มใจสุดๆ เลยครับ เอ่อ ว่าแต่ให้ผมเป็นลูกมือนมมันจะลามกไปมั้ยครับ”



                “....!!! หนูเขานี่ตลกจังเลยนะ ฮะๆๆๆ ปะๆ เข้าบ้านน้าทำบัวลอยไว้ไปชิมกันก่อน”



                ตลกอะไรกันอะครับ ลูกชายคุณน้าพูดจาลามกไม่ตลกเลยนะครับ ผมทำหน้าก่งก๊งแต่ก็ตอบรับกลับไปตามประสาเด็กดี



                เมื่อคุณน้าเดินเข้าไปด้านใน ผมเลยจับมือคุณชายที่จับไหล่ผมไว้พร้อมกับยิ้มเหี้ยม



                หมับ!



                คุณชายทำหน้าตลกๆ มองมือผมสลับกับหน้าผมไปด้วย หึ ไม่ปล่อยหรอก



                “พี่! หมายความว่าไง”



                “ก็ตามนั้น” มันออกแรงสะบัดมือออกจากอุ้งมือผมได้พอดี คุณชายจัดเสื้อเชิ้ตตัวเองแล้วขยับห่างจากผมไปสองก้าว โทษนะพี่มึง ถามหน่อย กูเป็นหนอนในกะหล่ำปลีหรอเห็นกลัวจัง



                “อย่าทำตัวมีปัญหาล่ะลูกหนี้” คุณชายปรายตามองก่อนจะเดินหลังตรงเข้าไปในตัวบ้าน



                ทำไม มีปัญหาไม่ได้ไง๊



                อะไรเอ่ย จะมีไม่ได้หรอ



                แม่งเอ๊ยยยย



                ไอ้เขายอมแค่วันนี้เท่านั้นแหละโว้ย



                ไม่มีอะไรมาต้านทานความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของผมได้หรอก!



                ไม่มี!



                บอกเลยตรงนี้!

 




                “อื้อหือออ อร่อยมากๆ เลยครับคุณน้า”



                 “ยอรึเปล่าเนี่ย”



                ลูกยอหรอ? ผมไม่ชอบกิน



                “ไม่ใช่นะครับ อร่อยจริงๆ”



                “อีกถ้วยมั้ยจ๊ะ”



                “ได้หรอครับ”



                “ได้สิ...เดี๋ยวน้าตักให้”



                “คุณแม่ไม่ต้องลุกหรอกครับ เดี๋ยวลูกตักให้เอง”



                “ขอบใจจ๊ะตาณ เอ๊ะ น้องเขามองหาอะไรหรอลูก”



                “ตาณนี่คือใครหรอครับคุณน้า ที่โต๊ะอาหารมีกันอยู่แค่สามคนเอง”



                “ฮะๆๆๆ เขานี่ตลกอีกแล้วนะ ตาณเป็นรุ่นพี่ของตัวเองแท้ๆ ยังจะมาเล่นมุก”



                “ตาณ? รุ่นพี่? คุณชาย?” คุณน้าหันหน้าไปทางคุณชายที่กำลังตักบัวลอยด้วยความบรรจง หรือว่า...



                “คุณชายไม่ได้ชื่อคุณชายหรอครับ”



                คุณน้าหัวเราะตาหยอง เอ๊ย ตาหยี “ฉายาของลูกยังเป็นคุณชายอยู่อีกหรอเนี่ยตาณ”



                ชัดเลย!



                “ลูกก็ไม่รู้ว่าทำไมมันไม่หายไปซักที” คุณชายวางถ้วยบัวลอยตรงหน้าผมก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตัวเอง บริการประทับใจ



                “พี่นี่ความรู้ใหม่เลยอะ”



                “จำเป็นต้องรู้?” คุณชายมันหน้านิ่งไปไหนครับ



                “จำเป็นไม่จำเป็นผมก็รู้แล้ว”



                “แล้วยังไง”



                “ก็มัน...”



                ระหว่างที่ไอ้คนตรงหน้าต่อปากต่อคำกับผมไม่หยุด คุณน้าที่นั่งมองเราสองคนก็พูดขึ้นมา



                “หือ? ตาณนี่สนิทกับเขาจังเลยน้า...”



                คุณชายกระแอม “เปล่าหรอกครับ”



                “ไม่สนิทได้ยังไง แม่ว่าลูกพูดกับเขามากกว่าพูดกับเจ้าติเพื่อนสนิทเราซะอีก” คุณชายมองหน้าแม่ตัวเองด้วยความแปลกใจแล้วหันมามองผมคาบช้อนตักบัวลอยไว้อยู่



                “โอ๋เอ๋ แต่ช้าแต่เค้าแห่ยายมา พี่เป็นคนไม่มีเพื่อนนี่เอง”



                “คนสติไม่สมประกอบแบบนี้ผมไม่สนิทด้วยหรอกครับ” หูยยย ถึงจะพูดแบบนั้นแต่สายตาพี่มึงอา...มาก อาฆาต? อ้า...น่าจัวจัง



                “เอ๊ะ แล้วนมแจ่มไปไหนล่ะเนี่ย” คุณน้าส่ายหน้ามองลูกชายตัวเองขำๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น



                ผมขมวดคิ้วตามคุณน้า เคยเป็นมั้ยครับ ปฏิกิริยาทำตามคนอื่นโดยไม่รู้ตัว นี่ทุกคนพูดจาลามกกันจริงๆ มานมจงนมแจ่มอะไร ผมเขินนะ



                “นมแจ่มจ๊ะ”



                “ขาคุณดา”



                “ออกมารู้จักรุ่นน้องตาณเร็ว เค้าจะมาเป็นลูกมือนมแทนแววน่ะ”



                ผมกำลังตั้งหน้าตั้งตารอนมแจ่มที่ว่า คุณน้ามองไปทางด้านข้าง ไอ้เขาก็มองไปกับคุณน้า ลุ้นมากนมจะแจ่มจริงมั้ย สาวสวยหมวยเอ๊กซ์มั้ย...เพี้ยะ! ตบหน้าตัวเองเรียกสติ ไม่ใช่ๆ มึงต้องโฟกัส



                “หึหึ”



                หัวเราะไรฟะ บ้าปะเนี่ยคุณชาย



                “มาแล้วค่ะ”



                เสียงเดินเร่งรีบดังออกมา พอคนๆ นั้นพ้นมุมมาที่โต๊ะอาหารแล้ว ไอ้เขาก็ลุกพรวดอย่างตกใจ! จนเก้าอี้จนเสียงครืด



                “น้องเขานี่นมแจ่ม นมแจ่มนี่น้องเขาจ้ะ”



                ...คุณป้า...



                “สวัสดีค่ะน้องเขา”



                “นมที่เลี้ยงตาณมาน่ะจ้ะ”



                “นมเลี้ยงคุณตาณเธอมาตั้งแต่เกิดเลยล่ะค่ะ” 



                ...ตั้งแต่เกิดด้วย...



                “อ้อ! สวัสดีครับนม! ผมชื่อภูเขานะครับ! อายุ 21 ปีครับ! ”



                ผมยื่นมือไปเช็ดแฮนด์ท่ามกลางความงงงวยของทุกคน เฮ้ย กูจะเช็คแฮนด์ทำไม ผมรีบเก็บมือแล้วยกมือไหว้ แล้วกูจะพูดเสียงดังทำพรื่อออออ



                พอไหว้เสร็จ คุณนมก็เหมือนก็รับไหว้พร้อมกับคลี่ยิ้ม แต่ผมเหมือนยังมีคำถาม



                “น้องเขา เป็นอะไรไปจ๊ะ” คุณน้าเอียงหน้าถามผม กำลังจะอ้าปากตอบว่าไม่ แต่เหลือบไปเห็นคุณชายที่ไม่มีบท ยิ้มมุมปากเล็กๆ ยิ้ม?!!! คุณชายยิ้มแอคแทคผมจนหน้าสั่น เป็นยิ้มที่ผมเผลอมองตาค้าง ชัดดาวน์สติตัวเองไปครู่หนึ่ง



                “ว่าไงพ่อหนุ่มอยากถามอะไรนมมั้ย”



                เอ่อ



                “นมแจ่ม...”



                “...”



                “แจ่มจริงมั้ยครับ”



                โป้ก!



                “โอ๊ยยยยย”

               





                ผมลูบหน้าผากป้อยๆ บนเก้าอี้ไม้ในห้องนั่งเล่นหลังจากโดนนมเขกหัว คุณน้าตกใจนิดหน่อยแต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร ส่วนคุณชายนั้นแทบจะหัวเราะมากกว่าเดิม ที่ต้องบอกว่าแทบเพราะคุณชายได้แต่กลั้นหัวเราะไว้ สงสาร อยากจะหัวเราะก็เอาเล้ยตามสบาย



                “เกิดมาไม่เคยหัวเราะหรอพี่”             



                “เจ้าเด็กคนนี้นี่!” คุณนมเอ็ดที่ผมแซะคุณชาย เมื่อกี้ยังเรียกน้องเขา หึ ผู้หญิงนี่นะ แน่นอนว่าหลังเหตุการณ์เมื่อกี้นมแจ่มก็มองผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป



                “หึหึ นมครับ เด็กคนนี้จะมาช่วยนมช่วงเย็นหลังเลิกเรียนแล้วก็อยากฝึกตัวเองที่บ้านเราครับ”



                “ฝึกอะไรพี่” ผมถาม ทุกคนในห้องนี้ดูจะมีเครื่องหมายคำถามติดที่หน้ากันหมด



                “ฝึกให้เป็นคนมีระเบียบไง”



                “อ๋ออออ อย่างนี้นี่เอง ตาณไปถูกอะใจอะไรเข้าล่ะ” คุณน้าหัวเราะ



                “คงเป็นความสกปรกมั้งครับคุณแม่”



                พูดอะไรกันวะ ผมไม่เข้าใจ แถมไม่มีช่องให้ผมพูดอะไรด้วย



                “ฝากนมดูแลด้วยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ ดื้อก็ทำโทษได้ ใช้ได้เต็มที่”



                “ฮึ นมแจ่มแก่ๆ คนนี้จะดูแลให้หนักเลยค่ะ”



                “เห็นเขาแล้วนึกถึงเจ้าปีใหม่ของนมเลยนะ” คุณน้าปิดปากหัวเราะพลางเหม่อมองไปที่กรอบรูปไม่ไกลนัก พลันบรรยากาศก็เศร้าขึ้นมาซะอย่างนั้น



                “ค่ะ กระโดกกระเดกแบบนี้เลย”



                “ถ้าเค้ายังอยู่คงจะมาเล่นกับเขาเนี่ยแหละ ปีใหม่ชอบเล่นกับเด็กร่าเริง” นมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคุณน้า



                “หลานหรอครับนม” ผมถาม



                “สุนัขเนี่ยแหละ”



                ชะอุ้ย!

               

                ที่บอกว่าให้เริ่มงานวันแรก เอาเข้าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ เพราะคุณน้าให้คุณชายพาผมไปชมบ้าน แล้วก็ไปดูห้องครัวที่ผมจะต้องสิงสถิตอยู่ที่นั่น ห้องครัวที่นี่จะเป็นเรือนแยกมาอยู่ด้านนอกที่มีทุกอย่างครบครัน งานวันเกิดของคุณน้าท่านอยากจัดอะไรที่เป็นไทยๆ แล้วฝีมือของนมแจ่มก็หาใครเทียบไม่ได้อีกแล้ว แน่นอนว่าคุณน้าบอกผมไว้ หึ คุณชายน่ะหรอ พาชมบ้านก็พาชมอย่างเดียว ไม่พูดอะไรเลย ผมเหนื่อย



                เหนื่อยพูดอยู่คนเดียวนี่แหละ อยากกินน้องไปร์ท...



                พอเดินไปทางหลังบ้านก็จะมีลุงชัยเป็นคนขับรถกำลังเดินสำรวจเก้าอี้นับสิบที่จัดวางให้เข้ากับงานพร้อมกับผ้าตกแต่งที่เหมือนจะสมบูรณ์แล้ว จ้างออแกไนซ์ไหนเนี่ย ผ้าลายลูกไม้ตรงเวทีนี่ดูคุ้นๆ



                หลังจากเดินดูคร่าวๆ แล้วคุณชายก็พาผมมาที่ห้องครัวอีกครั้งหนึ่ง คุณนมแจ่มกำลังลองทำขนมไทยสูตรโบราณที่ไม่ได้ทำนานแล้ว ผมกับคุณชายมายืนดูอยู่ตรงหน้าประตู กลิ่นกะทิลอยมาแต่ไกล พอเห็นนมแจ่มตักน้ำตาลขึ้นมาผมที่เกาะขอบประตูอยู่เลยเงยหน้าขึ้นไปถามคุณชาย



                “คุณชาย”



                “...” พี่ปรายตามอง ผมเลยถือว่านั่นคือคำตอบรับ



                “พี่ชื่อตาลจริงๆ หรอ หวานเว่อร์อะ”



                “เคยชิมแล้วหรือไง”



                “เฮ้ย จะบ้าหรอ คนเราจะชิมชื่อได้ยังไง”



                “โง่” คุณชายมองเหยียด



                อะไรวะ



                “ชื่อตาณ ตาณ ณ เณร”



                “งื้ออออ น่ารักอะพี่ตาณ ณ เณร”



                “โง่จริงๆ ด้วย”



                อะไรของแม่ง น่าสงสัย



                แต่เอ๊ะ



                “เพื่อนพี่รู้มั้ยว่าพี่ชื่อตาณ ณ เณร”



                ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ “รู้”



                “โธ่ อดรู้เป็นคนแรกเลย”



                “...”



                “ทำไมยังเรียกพี่ว่าคุณชายล่ะ”



                “กวนเท้ามั้ง” คุณชายยักไหล่



                สุภาพจริงๆ เลยครับพรี่ ผมทำปากขมุบขมิบบ่นอยู่คนเดียว



                “แล้วนายต่อไปนี้อย่าเรียกคุณชายอีก” แหน่ะ สรรพนามเปลี่ยน นายเนยอะไร ตอนอยู่นอกบ้านหลอกด่ากูจนพรุน คุณชายก้มมองผมเล็กน้อย ใบหน้าห่างกันแค่คืบ



                “แล้วจะให้ผมพี่ว่าเรียกอะไร”



                “เรียกเหมือนคนที่บ้านนี้ นายรู้ชื่อจริงแล้วนี่”



                “ผมไม่ล้อหรอกน่า เรียกแบบเดิมก็ได้” คุณชายมีแววตาแปลกๆ ขึ้นแวบนึง ดูเหมือนการที่ผมเล่นตัวจะทำให้คุณชายท่านอารมณ์แปรปรวน



                “เรียกซะ! ลดหนี้ให้สามร้อย เอาไม่เอา” ถือว่าการเล่นตัวของผมประสบผลสำเร็จ



                “ก็ด้ายยยยยยยยยไม่ได้เห็นแก่เงินนะขอบอก พี่ก็เหมือนกัน ต่อไปนี้พี่ก็ห้ามเรียกผมว่ามึงอีก” ผมกอดอกเชิดหน้า เหมือนนางพญาหนังจีน หึหึ



                ไงล่ะๆๆๆ คุณชายมองผมนิ่งๆ ก่อนจะพ่นเสียงหึๆ มาสองสามที

 




               .
               .
               .

                “เป็นเมียหรอมาสั่งอะ”





----------------------
คุณชายท่านหลุดพูดคำไม่สุภาพค่ะ5555
เมียเมออะร๊ายยยย
กวนมากวนกลับไม่โกง
ขอบคุณทุกคนค่ะ
ปล.เปลี่ยนหัวเรื่องใหม่เวลารีจะได้สั้นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2017 16:11:21 โดย jaevin »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
คุณชายไปถูกใจอะไรนังนี่คะ บ้าบอมาก  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด