>ตอนที่ 13 [100%]<<
“พี่บ้า รถเคนเท่านั้นแหละที่เอาพี่ขึ้นได้อะ”
“พี่บ้าเราก็เวอร์แหละ อะ...” เย้ ในที่สุดหมูก็มาอยู่ในมือผม
ผมเดินหลบเข้ามาตรงคนไม่ค่อยเดินผ่าน แล้วก็ฟัดความรักเหมือนตายอดตายอยากมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ จนความรักมันร้องโอดโอยจะเป็นจะตาย อะไรกัน แค่ฟัดเองนะ แค่ฟัดไม่ได้จับเชือดเสียหน่อย ผมขยับจ้องตาขวางๆ ของความรัก ส่งยิ้มเหี้ยมให้แล้วงับไปตามตัวของมันจนมันดิ้นหนี
“ฮ่าๆ...ฮ่าๆ ฮ่าๆ” ตั้ลลั้กกกกกก จุ้บๆ ชอบอะ...มันน่ารักดี มีความสุขเวลาได้เล่นกับมัน แต่มันคงมีความทุกข์ที่ได้เล่นกับผม
“สงสารความรักวะ ต้องมีป่าป๊าแบบมึงเนี่ยคงสยองไปทั้งชีวิตความเป็นหมูของมัน” วิ่งเดินเอาชานมมาวางที่โต๊ะ ตามด้วยพีชถือ...อะไรวะ กาแฟมั้ง
“มาความรัก...โผเข้ามาซบที่อกเรา เราจะปกป้องความรักเอง” แหวะ ไม่เคยเข้าใจไอ้พีชที่มาเต๊าะหมูชาวบ้านเขาแบบนี้
“หยุดเลย ถ้ามึงไป...กูกัด” เห็นความรักเตรียมโผหาคนโรคจิตอย่างพีช ผมก็ขู่ทันที
“ความรักอย่าไปสนใจป๊าแบบนั้น ป๊าอย่างนั้นไม่รักความรักจริงหรอก เราต่างหากที่รักความรักจริง...มาหาเราเถอะความรัก” คือ...มันก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมอะ แต่เล่นใหญ่เหมือนอยู่กันคนละฟากโลก
“ปัญญาอ่อน” คำนี้พูดเบาๆ ก็เจ็บ...ฉึก เอื้อะ...ซะเมื่อไหร่
“มึงสติดีตายอะ” ผมจุ้บแหม่งความรักอีกทีถึงได้ปล่อยให้มันวิ่งไปหาพีช
เล่นกับพีชมากๆ ระวังประตูหลังไว้นะลูกนะ...ให้มันใส่ถุงยางด้วย ไม่ว่ายังไงก็ต้องใส่ ไม่งั้นเราอาจจะติดเชื้อบ้าจากมันได้ แถมเชื้อจากพีชนี่ก็ไม่รู้เป็นเชื้อตัวไหน...รักษาลำบากแน่นอนถ้าเกิดไปติดขึ้นมา แล้วก็ห้ามใช้ปาก ใช้ลิ้น ใช้จุ้กกรู้กับมันด้วย ห้ามแลกน้ำลาย...ห้ามสัมผสของเหลว ห้าม ห้าม ห้าม...กูเนี่ยห้ามคิดอะไรพิเรนถ์ได้แล้วปั๊ดโถ่ว
“ไงหลานรัก เต้นบีบอยวันแรกเป็นไงมั้ง” ผมนั่งลงที่เคาน์เตอร์ปุ้บ น้าบอยก็ถามปั้บ เมื่อกี้นี่ยังคุยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับพี่มะเดี่ยวอยู่เลย
“เจ็บครับ” ตอบละยิ้มหวาน...ยิ้มให้เห็นถึงความออดอ้อนขอน้ำหวานกินฟรี
“สามโคตรด๋อยเลยพี่บอย” อ่าว พี่มะเดี่ยว มึงอย่าฟ้องน้าผมแบบนั้นสิวะ
“ฮ่าๆ ด๋อยสิ...อยู่บ้านอย่างกับคุณชาย ที่บ้านทำฟาร์มแต่ไม่เคยช่วยเลย เอาแต่เล่นเกม กิน แล้วก็นอน มีดีอย่างเดียวคือเรื่องเรียน นอกนั้น...ห่วยมาก” จู่ๆ ก็เหมือนโดนค้อนทุบลงกลางกะบาล มันมึนอย่าบอกใครเชียวครับ เล่นเผากันต่อหน้าต่อตา
“น้าบอยอ่า...”
“ตอนอยากได้ความรักนะ กอดขาพ่อ พร่ำพรรณนาอะไรก็ไม่รู้ อย่างกับบทสวด พ่อเลยซื้อให้ ไม่งั้นไม่ยอมหรอก” มานั่งให้เขานินทาโดยแท้เหลา พี่มะเดี่ยวก็มารยาทดีนะ หัวเราะไม่ไว้หน้ากูเลยอะ
“พอแล้ว...”
“ฉายาตัวเองอะไร...เดอะสามผู้หน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมา ฮ่าๆ” จบกันชีวิตนี้ แม้แต่น้าภูมที่เดินเข้ามาพร้อมกาแฟของพี่มะเดี่ยวก็ขำครืน อยากมีความสามารถพิเศษในการมุดดินหนีไม่ก็ลบความทรงจำของผู้คน จะได้ลบความจำพี่มะเดี่ยวซะ เดี๋ยวแกต้องเอาเรื่องพวกนี้มาแกล้งผมหรือมาล้อผมแน่ๆ เลยอ่า...
อ๊ากกกกก กรีดร้อง พ่นไฟ เกี้วกราดและฉุนเฉียว ฮึ่มๆ...ทุกอย่างล้วนอยู่แค่ในใจ สีหน้าเหรอ ซีดเจื่อน...ไม่น่ามองเลยตอนนี้ คิดในแง่ดี ผมก็เป็นคนที่ดีมากๆ คนหนึ่ง สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้คนได้ดีขนาดนี้ โอ้โห...ภูมิใจขึ้นมาเลย ถุ้ย!
“อยากเห็นอะ ทำให้ดูหน่อยดิ...กอดขาอ้อนวอนอะ” พี่มะเดี่ยวเอาศอกมาสะกิด แต่สะกิดอีท่าไหนไม่รู้กูเกือบตกเก้าอี้
“เหวอ!” ตัวนี่เอียงจะหล่น ดีที่มือปริศนาของบุคคลไม่ปริศนารับเอวเอาไว้เสียก่อน นั่นคือคนที่สะกิดผมด้วยความรุนแรงประหนึ่งผมเป็นหุ่นยนต์ เบาๆ ไม่ได้ เดี๋ยวไม่รู้ตัว
“ฮ่าๆ อะไร...สะกิดแค่นี้ทิ้งดิ่งเลยเหรอ” ใช่ ทิ้งดิ่ง เอาหัวทิ่มพื้นเผื่อจะหลับไป ตื่นมาวันใหม่แสนสดใส ทุกคนลืมเรื่องในนี้ไปแล้ว อ่า...สบายใจ
ได้ที่ไหนล่ะ!
“พี่อะสะกิดแรง คนอะไรแรงควายชิบ” บ่นงุบงิบคนเดียว แต่คนข้างๆ มันได้ยิน เลยเสนอหน้าเข้ามาใกล้...ทิ่มพรวดเข้ามา เล่นเอาผมผงะจะตกเก้าอี้ทรงสูงอีกรอบ
“ว่าพี่เหรอครับ...” กรี๊ดดดดดด อย่านะ อย่าฆ่ากระผม
“ปะ...เปล่าครับ” ซีดกว่าหน้าผมก็กระดาเอสี่อะครับตอนนี้
“แล้วเมื่อกี้อะไรควายๆ”
“ความๆ...ผมพูดถึงความ” แถด้วยความไวแสง ไม่ได้คิดไว้เลยว่ารูปประโยคนั้นควรแถเต็มๆ ว่าอะไร เปลี่ยนควายเป็นความก่อนเพื่อชีวิตตัวเอง
“โกหกตกนรก...” น้าบอยพูดลอยๆ เป็นอีกครั้งหลังจากเรื่องเล่นเกมโต้รุ่ง ฮื่อ...ทำไมทุกคนรักผมขนาดนี้ล่ะครับ
“ขอโทษครับ” คิดอะไรไม่ออก ยกมือไหว้ขอโทษน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่คิดว่าพี่มะเดี่ยวจะยอมง่ายๆ เดอะสามออกจะน่าสงสารขนาดนี้แล้วแท้ๆ พี่เขาใช้มือที่ว่างจากการโอบเอวผมมาบี้จมูกอย่างแรง!
“โอ้ยยยย เจ็บๆ สามเจ็บครับ” น้ำตาคลอไปเป็นที่เรียบร้อย เจ็บมาก...เจ็บเหมือนจมูกหลุดติดมือพี่ท่านไปแล้ว
“ดีครับ สมน้ำหน้า” สมใจอยากแล้วจากไป ผมขยับนั่งดีๆ สองมือกุมจมูกตัวเองเอาไว้ ตอนนี้มันต้องแดงมาก แดงเหมือนลูกมะเขือเทศแน่เลย
“ฮ่าๆ ดูสนิทกันดีเนอะ เหมือนคู่เราแรกๆ เลยอะ” น้าภูมโอบเอวน้าบอย ถึงอยู่หลังเคาน์เตอร์แต่ผมมองออก แล้วการบอกว่าเหมือนคู่เราแรกๆ นี่มันอะไร...มีมองตากันอีก ปิ๊งเลยไหม ปิ๊งปั๊งเสร็จก็ตั้ม!
“ถ้าเหมือนจริง น้าบอยต้องโรคจิตแน่ๆ” ผมบ่นงุบงิบ โดนแกล้งขนาดนี้ยังไปรักอีก...
“ใช่ บอยโรคจิต...ชอบแกล้งน้า” อ่าว ไหงมันสลับกันล่ะ หน้าเหวอๆ ของผมทำเอาทุกคนขำครืน เห่อๆ...ไม่เหวออย่างผมบ้างก็แล้วไป
ผมหยิบโกโก้ที่น้าภูมเอามาวางเมื่อกี้ขึ้นมาดูด แล้วลงจากเก้าอี้ ตรงไปที่ไอ้พีชและไอ้วิ่ง พวกมันนั่งหัวเราะผมอยู่ก่อนแล้ว…หัวเราะเยาะเย้ยกันมาตั้งแต่ผมโดนเผาอะ ด้วยความที่โต๊ะมันไม่ไกล มันเลยได้ยินทุกช็อตเลย อยากจะงอนมันทุกคน...แต่งอนไปพวกมันก็ไม่ง้อเหมือนพี่ๆ ผม ก็เลยไม่งอนดีกว่าเปลืองพลังงาน
พี่มะเดี่ยวคุยกับน้าผมอีกสักพักถึงได้เดินออกมาบอกพวกเราที่กำลังคุยเรื่องเกมว่าจะไปแล้ว ผมเลยจะเอาความรักใส่กระเป๋า แต่ความรักดันเดินไปที่ขอบโต๊ะ เงยหน้ามองพี่มะเดี่ยว อ้อนกันเข้าไป...ออเซาะกันไม่ไว้หน้าเจ้าของอย่างกูเล้ยยยย ความรักหนอความรัก
“ขี้อ้อนดีวะหมูมึง” เขาอุ้มความรักมาอย่างที่เจ้าหมูทรยศต้องการ
“จะกูจะมึงหรือจะพี่จะน้องก็สักอย่างอะพี่” บางทีกูสับสนไง เดี๋ยวเพราะ เดี๋ยวหยาบ
“ชอบแบบไหนละ...” พี่มะเดี่ยวเงยหน้าจากความรักมาสบตา
“กูมึงกับมันได้เต็มที่พี่ ผมอนุญาต” เดี๋ยวนะวิ่ง...มึงมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจเรื่องนี้วะ
“เอาเพราะๆ สิ” คนเราชอบคนพูดเพราะถูกไหมล่ะ ผมก็ชอบนะเอ้อ
“หึ…ครับน้องสาม” ทำไมมันเพราะแบบประชดวะครับ
พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักออกจากร้าน ทิ้งกระเป๋าตัวเองไว้ที่โต๊ะ พีช วิ่ง คว้าของตัวเองแล้วรีบตามพี่มะเดี่ยวไป เห็นไหม...ใครๆ ก็รักผม สนใจใยดีผมมากกกกก สึด! แล้วไง ผมก็ต้องเอากระเป๋าพี่มันไปด้วยไง สะพายของตัวเองไว้ข้างหลัง และเอาของพี่มะเดี่ยวไว้ข้างหน้า
ความรักประจำที่หน้ารถ คนขับสุดหล่อพร้อมคนซ้อนที่หล่อกว่าก็พร้อม เดินทางสิครับ รออะไร ไม่มีใครมาผูกริบบิ้นให้ตัดนะเอ้อ พี่มะเดี่ยวปั่นนำไปทางจักรยาน ตามด้วยวิ่งและพีชปิดท้าย ห้างอยู่ไม่ไกลากมหาลัยเรานัก ปั่นแค่สิบนาทีก็มาถึง เขามีที่จัดเอาไว้ให้นักศึกษาเอาจักรยานมาจอด ผมชอบตรงนี้แหละ ด้วยความมันใกล้มหาลัย มันเลยมีนักศึกษาสายปั่นเยอะ ยิ่งพวกใช้ชีวิสโลว์ไลฟ์นะ ปั่นแต่ฟิกเกียร์ทั้งนั้น
บางทีนะ...มันก็สโลว์ไปอะ
ผมสายปั่น ผมไม่เดือดร้อนห้องอยู่ใกล้ แต่บางคนนะห้องอยู่ไกลแต่เสือกปั่นมาเรียน เข้าเรียนเก้าโมงมาถึงสิบโมง พออาจารย์ถามทำไมมาสาย มันบอกปั่นจักรยานมา คิดว่าอาจารย์เห็นใจไหมล่ะ ก็ไม่อะสิ...คนเราอะต้องมีความรับผิดชอบเว้ย ชอบปั่นอะเข้าใจ แค่มาให้ทันเข้าเรียนหน่อยสิวะ
“โห...คนเยอะแหะ” ไม่เคยเดินมาที่เปิดท้ายหลังห้าง ไม่รู้ว่ามันมีลานเต้นบีบอยและคนเยอะแบบนี้
“เออ คนเยอะเป็นปกติ มึงหิวไรปะ...พวกกูว่าจะไปหาอะไรกิน” วิ่งเดินมาถาม ผมส่ายหัว...ข้าวกับปลากระป๋องยังทำกูอิ่มอยู่เลยเพื่อน
“มึงไปกินกันเหอะ กูยังอิ่มอยู่เลย เออ แต่ซื้อลูกชิ้นมาฝากบ้าง เอาลูกชิ้นหมูอะ”
“ได้ๆ เงินมา” แบมือขอตังเชียว นึกว่าจะเลี้ยงโถ่
ผมให้เงินวิ่งไปห้าสิบบาทสำหรับลูกชิ้นหมูล้วนที่ผมอยากกิน มันรับไปก็กอดคอพีชเดินลิ่วมุ่งหน้าสู่โซนของกิน ผมมองไปรอบๆ สำรวจที่ที่ไม่เคยมา ตื่นตาตื่นใจนิดหน่อย อยู่แถวบ้านผมชอบเดินที่ถนนคนเดินมาก ของถูกและเปิดตอนเย็น แดดไม่ร้อน ทว่าพอหันมาข้างตัวอีกทีกลับพบกับสายตาของพี่มะเดียวและความรักที่จ้องมองมาอย่างอาฆาตแค้น
“อะ...อะไรครับ” เห็นแล้วตกใจอะ ผมทำอะไรผิดเหรอ?
“น้องกินเพื่อนความรักได้ไง…” สีหน้าพี่มึงเหมือนจะเรียกจะผมว่ามึงอะ แล้ว...ผมไม่ได้กินเพื่อนความรักนะ ผมแค่กินลูกชิ้นหมู
“เปล่าซะหน่อยพี่”
“เปล่าอะไร น้องสั่งลูกชิ้นหมู น้องไม่คิดบ้างเหรอว่าหมูที่ถูกเอามาทำลูกชิ้นอาจจะเป็นเพื่อนของความรักก็ได้ แทนที่เพื่อนของความรักจะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงหมูปุถุชนธรรมดาตัวหนึ่ง กลับต้องมาตายเพราะน้องสั่งลูกชิ้นหมู...” กูว่ากูเพ้อเจ้อละนะ ลืมไปได้ยังไงว่าพี่มันก็เพ้อเจ้อและคิดอะไรเป็นตุเป็นตะบ้าบอเหมือนกัน
ที่สำคัญ...หมูที่ผมกินไม่มีทางเป็นเพื่อนความรักแน่ๆ เพราะหมูสายพันธุ์เดียวกับความรักเขามีเอาไว้เลี้ยงเป็นหมูบ้าน ไม่ได้มีไว้ทำเป็นอาหาร ตัวก็เล็ก แพงก็แพง ใครที่จะลงทุนหมูพันธุ์นี้มาทำอาหาร บ้าไปแล้ว!
“คืองี้นะพี่...ความรักมันหมูแคระ”
“น้องจะบอกว่าคนเขาไม่เอาหมูแคระมาทำอาหารใช่ไหม แล้วไม่คิดเหรอว่าเพื่อนของความรักมันจะไม่ใช่หมูแคระ” แล้วถ้ามันไม่ใช่หมูแคระแล้วมันจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไงละวะ ก็มันถูกเลี้ยงมาในฟาร์ม
“แต่ว่า...”
“น้องเลี้ยงหมู น้องน่าจะเข้าใจความรู้สึกของหมู ดูมันสิ...ไม่สงสารมันเหรอ” ก้มมองความรัก แหมะ ทำตาปรือ...สงสารดีไหมอะ
“ก็...สงสาร”
“สงสารแล้วทำไมต้องกิน” เหมือนกูทำผิดมหันต์อะ เหมือนการกินหมูทำให้คนตายไปหลายร้อยคนทั้งที่ผมก็แค่กินลูกชิ้นหมูอะ
“เคๆ ผมไม่กินแล้ว โอเคไหมครับ” จากหน้าเหี้ยมดุดันก็แปรเปลี่ยน ยิ้มออกแล้วเหรอครับ
“โอเค” ว่าจบก็ก็เดินอาดๆ เข้าฟลอไปเลย ทิ้งผมไว้ท่ามกลางความสับสนอลม่าน คือพี่มึงไม่กินหมูไง...แต่ผมกิน แล้วยังไงอะ…คนละกระเพาะกันนะโว้ยยย
พี่มะเดี่ยวเอาความรักไปอวดทุกๆ คนในฟลอ แล้วพวกเขาก็ชอบมันด้วยนะ ชื่อความรัก เป็นที่รักของทุกคน แหม...มันน่าเอ็นดูขนาดนั้นนี่นะ แต่ผมไม่เดินเข้าไปหรอก ผมตัดสินใจโทรหาวิ่ง ถามว่ามันอยู่ไหนจะตามมันไป
ในเมื่อไม่ให้ผมกิน...ให้พี่เห็น
ผมก็จะไม่กิน...ให้พี่เห็น!
ลั้นลาไปสิ เดินฮัมเพลงเข้าตลาดเปิดท้าย ผมไม่ห่วงความรักหรอก พี่มะเดี่ยวดูรักดูหวงมัน ผมเลยวางใจฝากความรักเอาไว้ที่พี่เขา เดินตามหาวิ่งไม่นานก็เจอ มันซื้อลูกชิ้นหมูล้วนเอาไว้ให้เรียบร้อย ห้าสิบบาทหมดห้าสิบบาทนั่นแหละ
“ทำไมมาวะ...” พีชกอดคอแย่งลูกชิ้นกิน
“พี่มะเดี่ยวไม่ให้กินลูกชิ้นหมู” บอกแม่งตรงๆ นี่แหละ
“มึงเลยแอบกิน” พยักหน้ารับคำวิ่ง
“ฮ่าๆ อย่างกับแอบผัวมาทำผิดเลยมึง....” ผัวพ่องงงงง แค่ส่อง ยังไม่ใช่ผัว อุ้ยยยย!
.....100%....
ทำลับๆ ล่อๆ แบบนี้เหมือนแอบแฟนมาทำผิดเลยอะเนาะ...แต่สามไม่ได้แอบแฟนมาทำผิดสักหน่อยอะเนาะ~ ย่องไปฟ้องพี่มะเดี่ยวแพร่บ!