Cr.Pic [Pinterest]
ติดแฮชแท็ก
#พี่ควอตซ์น้องเหนือ ในทวิตเตอร์
อุ้มรัก’S l “05”“พี่น้ำเหนือครับ... ช่วยผมดูตรงนี้หน่อยได้ไหมครับว่าโอเคหรือยัง” เสียงของทิวดังขึ้นในช่วงบ่ายของวัน
“ไปตรงโต๊ะกลางกัน” น้ำเหนือหันมาบอกก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินมาที่โต๊ะกลางที่พวกเขามักไว้ใช้ประชุมกันหรือไม่ก็มานั่งคุยเล่นกันเวลาพัก
ในแผนกดีไซน์ตอนนี้เหลือเพียงแค่น้ำเหนือกับทิวแค่สองคนเท่านั้น คนอื่นๆ ออกไปข้างนอกกันหมดเพื่อไปหาแนวทางรวมไปถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเลกชั่นที่กำลังทำอยู่
น้ำเหนือก็ตั้งใจจะให้ทิวออกไปข้างนอกด้วยแต่พอดีว่าโม่ บัดดี้ที่ทำงานร่วมกับเขาในคอนเซ็ปขนมไทยนั้นไม่สบายเลยไม่ได้มาทำงาน คุณบีก็มีไปประชุมข้างนอก ทำให้ที่แผนกไม่มีใครอยู่ น้ำเหนือเลยต้องอยู่เพื่อมีคนมาส่งเรื่องต่างๆ อีกทั้งเขาต้องออกไปรับฝาแฝดด้วยเพราะควอตซ์มีประชุมที่เดียวกันกับคุณบีเลยไปรับแฝดไม่ได้ ทิวที่ทำงานอยู่ทีมเดียวกับเขาเลยอดออกไปข้างนอกด้วยเลย แต่ตอนแรกน้ำเหนือรวมไปถึงคุณบีก็อนุญาตให้ทิวออกไปกับคนอื่นๆ แต่เจ้าตัวไม่ไป เพราะจะได้คอยอยู่ช่วยน้ำเหนือที่ออฟฟิศ น้ำเหนือเลยตั้งใจว่าจะพาออกไปวันหลังแทน
“แล้วเราคิดว่ายังไง ผลงานที่ตัวเองออกแบบน่ะ” น้ำเหนือเงยหน้าขึ้นถามหลังจากดูแบบสเก็ตที่อีกฝ่ายเอามาให้ดู
“อือ...” ทิวมีสีหน้าลังเลก่อนจะตอบ “ผมว่า... มันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนมันขาดๆ อะไรไป”
น้ำเหนือพยักหน้ารับกับคำพูดของอีกฝ่าย คลี่กระดาษสเก็ตแบบของทิวออกตรงหน้าเจ้าตัว “ทั้งหมดนี่น่ะ ยังใช้ไม่ได้หรอกนะมันมีสิ่งที่ขาดอยู่ ขาดอยู่อย่างเดียวเท่านั้น”
ทิวหน้าเสียไปนิดตอนที่ได้ยินน้ำเหนือพูดแบบนั้น “ใช้... ไม่ได้เลยเหรอครับ...”
น้ำเหนือพยักหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของน้องฝึกงาน “รู้ไหมว่าขาดอะไร... ขาดความมั่นใจของดีไซน์เนอร์ไง”
“ครับ” ทิวทวนคำอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะดีไซน์เนอร์ขาดความมั่นใจ ไม่มั่นใจว่างานของตัวเองดี มันเลยใช้ไม่ได้ ก็ขนาดคนออกแบบยังไม่มั่นใจเลย แล้วลูกค้าจะมั่นใจในการเลือกของๆ เราไปสวมใส่ได้ยังไง... จริงไหม”
“ดีไซน์เนอร์ต้องมีความมั่นใจในผลงานที่เราออกแบบสิ แต่พี่ก็ไม่ได้จะบอกว่าให้มั่นใจในตัวเองแล้วก็ฝีมือของตัวเองจนมองข้ามสิ่งต่างๆ ไปนะ” น้ำเหนือพูดก่อนจะหันไปหยิบกระดาษมาแล้วเริ่มขีดเขียนลงไปบนกระดาษแผ่นนั้น โดยมีทิวคอยมองด้วยความสนใจ
ใช้เวลาไม่นานน้ำเหนือก็เลื่อนกระดาษแผ่นที่ว่ามาตรงหน้าของทิว “ทิวว่าที่พี่วาดมันดีหรือยัง”
เจ้าของชื่อหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาดู ก่อนจะหยิบของตัวเองมาเทียบดู บนกระดาษสองแผ่นมีภาพสเก็ตที่เหมือนกันแทบจะทุกอย่าง
“ครับ ผมว่ามันดีมากเลย”
“ดีกว่าของที่ทิววาดอีกเหรอ”
ทิวพยักหน้ารับ ไม่ได้ทำเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่หรืออะไร แต่ยอมรับจริงๆ ว่าผลงานที่น้ำเหนือวาดออกมานั้นดูดีมาก จนรู้สึกได้เลยว่าถ้าทำออกมาเป็นชิ้นเป็นอันจะต้องสวยแน่นอน
“ทั้งๆ ที่แบบก็เหมือนของทิวเลยนะ ทั้งๆ ที่พี่ก็ลอกงานของทิวมานั่นแหละ แต่เพราะพี่มั่นใจ ความมั่นใจมันแสดงออกได้จากแบบที่เราสเก็ตนะ เพราะมั่นใจในสิ่งที่เราคิดเราทำ มันก็เลยแสดงออกมาให้เห็น ทั้งลายเส้น ทั้งการลงสี รวมไปถึงการเก็บรายละเอียดในแบบสเก็ต”
“ครับ...”
“ผลงานของทิวน่ะ ดีทุกชิ้นแล้วสำหรับพี่ แค่ต้องมีความมั่นใจในการออกแบบเท่านั้นแหละนะ” น้ำเหนือยิ้มให้
“ครับ... ขอบคุณครับ” ทิวเองก็ยิ้มรับก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อเห็นน้ำเหนือเอากระดาษที่เจ้าตัวเพิ่งวาดเมื่อครู่นี้ไปใส่ในเครื่องทำลายกระดาษ “พี่น้ำเหนือทำอะไรครับนั่น! เอาไปทำลายทำไมละครับ!”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ นี่ไม่ใช่ผลงานของพี่นี่ พี่แค่เลียนแบบเรามาเฉยๆ เอง” น้ำเหนือตอบยิ้มๆ
“แต่เอาไปนำเสนอได้เลยนะครับ”
“ความคิดของทิวก็ต้องใช้ผลงานของทิวไปนำเสนอสิ ยังมีเวลาอีกสู้ๆ เข้านะ ถ้าสงสัยอะไรก็ถามพี่ได้ตลอด”
“ขอบคุณนะครับ” ทิวตอบ มองตามน้ำเหนือที่เดินกลับไปนั่งทำงานของตัวเอง
ทิวทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะกลาง โดยหันหน้าไปทางน้ำเหนือที่นั่งหันหลังให้ ก่อนจะหันไปหยิบกระดาษ อุปกรณ์วาดเขียนต่างๆ มาวางกองเอาไว้แล้วเริ่มลงมือร่างเครื่องประดับขึ้นมาใหม่ บางครั้งที่เผลอตัวทิวก็เอาแต่มองข้างหลังของน้ำเหนืออยู่แบบนั้น
ไม่รู้ว่าเผลอมองนานแค่ไหน แต่มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงของคนที่สามดังขึ้น
“น้ำเหนือ...” เสียงทุ้มของควอตซ์เรียกคนรัก ไม่รู้ว่ามายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะทั้งทิวและน้ำเหนือไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ทิวสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายก่อนจะก้มลงมองที่โต๊ะ เขารีบขยำกระดาษแผ่นบนสุดทันที แล้วจึงยกมือไหว้คนที่อาวุโสกว่า
“พี่ควอตซ์... ทำไมกลับมาเร็วจังครับ ผมนึกว่าจะเย็นกว่านี้เสียอีก” น้ำเหนือหันมาถามอย่างแปลกใจ
“เสร็จเร็วกว่าที่คิด พี่เลยแวะรับแฝดมาแล้ว ปล่อยให้นั่งทำการบ้านอยู่บนห้อง” ควอตซ์ตอบก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง “วันนี้เลยไม่มีคนอยู่เลยสิ”
“ครับ เหลือผมกับทิวแค่สองคน”
ควอตซ์พยักหนั้บกับคำพูดของคนรัก “อย่างนั้นก็กลับเถอะ อยู่กันแค่สองคนเอง เอางานกลับไปทำที่บ้านก็แล้วกัน”
น้ำเหนืออดที่จะแปลกใจไม่ได้เมื่อได้ยินประโยคนั้น ควอตซ์ไม่เคยยอมให้น้ำเหนือเอางานกลับไปที่บ้านเพราะกลัวว่าเขาจะทำงานเพลินจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว แต่คราวนี้กลับพูดว่าให้เอางานกลับไปทำที่บ้านแทนเสียอย่างนั้น
“คุณก็ด้วยนะ กลับได้เลยไม่ต้องรอเลิกงานหรอก ผมอนุญาต” ควอตซ์หันไปบอกกับทิวที่ได้แต่นั่งฟังพวกเขาสองคนคุยกัน
“เอ่อ...” ทิวเงยหน้าขึ้นมอง ลังเลว่าจะตอบอย่างไรดี หันไปมองน้ำเหนือเมื่อเห็นเจ้าตัวพยักหน้ามาให้ก็หันกลับมาตอบรับควอตซ์ “ครับ... ขอบคุณครับ”
“เก็บของสิน้ำเหนือ เดี๋ยวจะได้กลับบ้านกัน” ควอตซ์หันกลับไปพูดกับคนรักที่ยังมองเขาตาปริบๆ ให้น้ำเหนือต้องรีบหันกลับไปเก็บของ ทั้งๆ ที่ในใจยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่เอาไว้ค่อยถามตอนกลับบ้านแล้วก็ได้
น้ำเหนือเดินไปปิดไฟโดยมีทิวเดินสำรวจรอบๆ ว่าทุกอย่างถูกปิดและเก็บเรียบร้อยดีแล้วก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะพากันเดินออกจากห้อง น้ำเหนือจัดการปิดห้องจนเรียบร้อย
“กลับบ้านดีๆ นะทิว เอาไว้เจอกัน” น้ำเหนือพูดกับทิว
“ครับ สวัสดีครับพี่น้ำเหนือ คุณควอตซ์” ทิวยกมือไหว้ทั้งสองคน
น้ำเหนือตอบรับด้วยรอยยิ้ม ผิดกลับควอตซ์ที่พยักหน้ารับเท่านั้น ก่อนที่คุณรองประธานจะโอบเอวคนรักแล้วพาเดินไปขึ้นลิฟต์ โดยมีสายตาของทิวมองตามไปจนกระทั่งทั้งคู่เข้าลิฟต์ไปแล้ว
ทิวถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วจึงเดินไปรอลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่าง วันนี้ได้เลิกงานเร็ว... ไปหาแรงบันดาลใจเสียหน่อยก็คงจะดี...
“เสน่ห์แรงนะ” ควอตซ์พูดกับน้ำเหนือในตอนกลางคืน พวกเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้ว และกำลังดูโทรทัศน์ด้วยกันอยู่บนเตียงนอน ส่วนฝาแฝดก็หลับไปแล้วเรียบร้อยเมื่อตอนหัวค่ำ
“หือ... อะไรเหรอครับ” น้ำเหนือทำหน้างง ไม่เข้าใจในสิ่งที่ควอตซ์พูดว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
จะหมายถึงสิ่งที่กำลังฉายอยู่บนโทรทัศน์ก็คงไม่ใช่ เพราะพวกเขากำลังดูรายการสัตว์โลกตัวน้อยอยู่ แล้วคำว่าเสน่ห์แรงควอตซ์คงไม่เอามาพูดกับสัตว์ตัวน้อยบนจอนั่นแน่นอน นั่นก็หมายความว่าคนที่ควอตซ์พูดถึงอยู่ก็คือ...
“ผมเหรอครับ...” ถามกลับไปอย่างไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินผิด หรือเข้าใจอะไรผิดไปเองหรือเปล่า “อือออ...”
น้ำเหนือยกมือตีมือของควอตซ์เมื่อเจ้าตัวยกมือมาบีบจมูกของเขาอย่างมันเขี้ยว “ก็เรานั่นแหละ ถ้าไม่ใช่เราแล้วจะใครหือ...”
“แล้วผมไปเสน่ห์แรงอะไรที่ไหนละครับ พี่มั่ว” ย่นจมูกใส่อีกรอบ
“ก็เสน่ห์แรงที่ออฟฟิศนี่แหละ” ควอตซ์ว่า มองคนข้างตัวที่ยังทำหน้างงอยู่ก่อนจะถอนหายใจออกมา คนรักของเขาเคยรู้ตัวอะไรบ้างไหมนะ “ไม่รู้หรือยังไงว่าเด็กฝึกงานนั่นคิดอะไรด้วยน่ะ”
“ใครครับ จ๊ะจ๋าเหรอ”
ควอตซ์ถึงกับกรอดตาทันทีที่ได้ยินคำตอบของคนรัก นึกมันเขี้ยวหนักขึ้นไปอีกเมื่ออีกฝ่ายหัวเราะชอบใจกับท่าทางของเขา สุดท้ายก็เลยต้องคว้าเอวเล็กเข้ามากอดแล้วฟัดแก้มขาวๆ นั้นไปชุดใหญ่จนหนำใจถึงได้หยุด
“ผมล้อเล่นหรอก... กลัวผมจะไปสนใจทิวหรือครับ เด็กหนุ่มด้วยนี่เนอะ”
“หึ! พี่ไม่กลัวหรอกว่าเราจะไปสนใจเด็กนั่น เพราะพี่มั่นใจว่าเด็กนั่นไม่มีทางทำให้เรารักได้เท่าพี่ทำหรอก แค่หงุดหงิดนิดหน่อยที่เห็นเด็กนั่นมองเราไม่วางตา เอาจริงๆ ไม่ว่าใครมองก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ”
“โห... พี่หมีอดกินน้ำผึ้งของผมขี้หึงนะเนี่ย” พูดเสียงล้อเลียนไป
จริงๆ ก็ไม่บ่อยหรอกที่ควอตซ์จะแสดงอาการหึงหวงเพราะเจ้าตัวมักจะไม่เคยปล่อยให้น้ำเหนือคลาดสายตา เพียงมีคนมองมาก็หันไปทำตาดุใส่จนคนอื่นต้องถอนสายตาไปหมด
ควอตซ์ยกมือบีบแก้มน้ำเหนือ ทำตาดุแต่แรงบีบที่แก้มนั้นเหมือนหยอกล้อมากกว่าจริงจัง คนรักของเขานับวันทำตัวน่ารักน่ามันเขี้ยวขึ้นเรื่อยๆ จนนึกอยากจะฟัดให้ช้ำจะได้ไม่แก่นเซี้ยวขนาดนี้
แต่ก็เพราะกลัวจะช้ำนี่แหละเขาถึงทำได้แค่คิดไม่เคยได้ทำจริงๆ สักที...
น้ำเหนือหัวเราะชอบใจที่เห็นท่าทางเหมือนอยากจะฟัดเขาให้จมเขี้ยวแต่ก็ไม่ทำ จนควอตซ์ทำตาวาวขึ้นเหมือนจะเริ่มเคืองที่เขาหัวเราะก็ต้องรีบเข้าไปกอดอ้อนทันที ไม่อย่างนั้นได้โดนแกล้งอีกแน่นอน
“โอ๋ๆ นะครับแด๊ดดี๊ มัมมี๊รักแด๊ดดี๊คนเดียวเนอะ ไม่ต้องหึงต้องหวงนะครับ” พูดจบก็จูบหน้าผากของควอตซ์ไปทีอย่างหยอกล้อ
สุดท้ายคนที่ตั้งใจว่าจะไม่ทำให้น้ำเหนือช้ำก็อดทนไม่ไหวคว้าคนที่เพิ่งจูบหน้าผากเขามาแล้วพลิกอีกฝ่ายลงนอนราบบนเตียงทันทีก่อนจะลงมือหอมแก้มขาวๆ นั้นไปฟอดใหญ่
น้ำเหนือได้แต่มองค้อนหลังจากที่ควอตซ์ปล่อยเขาให้เป็นอิสระแล้ว ควอตซ์หัวเราะขำกับท่าทางของคนรักก่อนจะรั้งตัวน้ำเหนือมากอดเอาไว้เหมือนที่ทำอยู่ทุกคืน
ชีวิตในแต่ละวันของเขากับน้ำเหนือแทบไม่ต่างกันในแต่ละวัน เช้าตื่นมาก็เข้าไปดูฝาแฝดพาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมไปเรียน แล้วเขากับน้ำเหนือก็ทำงานกันทั้งวัน เจอกันบ้างในแต่ละช่วงเวลาอย่างตอนกลางวัน หรือตอนประชุม ส่วนบ่ายๆ ไม่เขาก็น้ำเหนือจะสลับกันไปรับฝาแฝดที่โรงเรียน เลิกงานก็กลับมาบ้าน ทานข้าวกับคุณโทมัสแลว้ก็คุณหญิงมรกตที่บ้านใหญ่ สอนแฝดทำการบ้านก่อนจะพาเจ้าตัวแสบทั้งสองคนมาอาบน้ำ พาเข้านอนก่อนที่พวกเขาจะมาพักผ่อนที่ห้องตัวเองบ้าน
ในแต่ละวันก็วนซ้ำๆ อยู่แบบนี้ ที่จริงชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คนก็คงเหมือนกันที่วนซ้ำๆ ในทุกวัน บางคน บางคู่ บางครอบครัวก็คงจะรู้สึกว่ามันธรรมดา มันจืดชืดแล้วก็จำเจ แต่นั่นไม่ใช่ความคิดและความรู้สึกของควอตซ์
ในทุกๆ วันของเขามันไม่มีคำว่าเบื่อหน่าย จืดชืดหรือจำเจ แม้ว่ากิจวัตรประจำวันจะเหมือนเดิมเสมอก็ตาม เพราะในแต่ละวันของเขามีคนคนนี้... มีคนที่เขารักมากอย่างน้ำเหนือ มีฝาแฝดจอมแสบที่เขารัก เขาเลยคิดว่าชีวิตของเขามันดีมาก ดีที่สุด...
❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈
มาแล้วค่า มาแล้ว คู่นี้นี่ยังคงความเป็นคู่ที่น่าอิจฉาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ อะไรจะหวานกันขนาดนี้ หวานไม่เกรงใจใครเลย อีกไม่นานพวกเราต้องได้หลานสาวกันแน่นอนถ้าแด๊ดดี๊กับมัมมี๊จะหวานกันแบบนี้อ่ะเนอะ ฟางยังยืนยันคำเดิมเน้อว่าไม่มีดราม่ามือที่สามจ้า ไม่ต้องห่วงและเป็นกังวลกันไปเนอะ เราไปรอลุ้นลูกสาวกันดีกว่าว่าจะมาเมื่อไหร่ มาตอนไหนเนอะ
ช่วงนี้อาจจะมาไม่ได้ทุกอาทิตย์แต่ก็จะพยายามไม่ทิ้งนานเกินไปนะคะ พอดีเวลาไม่ค่อยมีเท่าไหร่ค่ะ กว่าจะได้กลับห้องทำอะไรเสร็จช่วงนี้ก็ 4-5 ทุ่มตลอด แล้วสมองก็ไม่ค่อยแล่นด้วย รอกันหน่อยเนอะทุกคน
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ ^^
ไม่อยากจะขออะไรมาก แต่ขออย่างเดียวอ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่ควอตซ์น้องเหนือน้อยใจแย่เลย รักพี่ควอตซ์เมนต์ รักน้องเหนือเมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ