รักแล้วบอก ชอบแล้วจีบ
ตอนที่ 20
อ้อนแล้วดี...ดีต่อใจ
ในที่สุดวันเสาร์ก็มาถึง ผม ‘เสือดุ’ ตอนนี้ได้กำลังทำสิ่งที่มีค่าที่สุดในเช้าวันเสาร์อย่างการนอนเอื่อยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบ่ายโมง และมันจะเป็นอย่างนี้ทุกวันถ้าไม่ติดว่ามันมีปัญหาบางอย่างเข้ามาขัดซะก่อน
ไอ้อ้อนรัก !
แม่งนัดกูไปดูหนังเว้ยเฮ้ยยยย !
แล้วไหนเวลานอนกูล่ะ กระซิก...
{พี่เสือ}
“แป๊บนะอ้อนรัก ขอสิบนาที”
{ได้...}
“...”
{ผมรออยู่หน้าหอนะ}
พรึ่บ !
“เดี๋ยว !”
ผมที่ตอนแรกตั้งใจจะนอนเอื่อยต่อก็ต้องดีดตัวลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อฟังคำของไอ้อ้อนรักจบ มันเลยพูดย้ำ
{รอได้}
“เดี๋ยวไอ้หมี มึงจะรีบมาทำไมวะ”
{อยากเจอ}
ไอ้ห่านนนนน !
ถามกูก่อนน กูจะนอนนนน !
“โอ๊ยยย กูยังไม่อาบน้ำแต่งตัวเลย”
{...}
“ขี้ตายังไม่หายมัวเลยเนี่ย”
{ไม่เป็นไร... / หือ...อ้อนรักป้ะเนี่ย...}
เสียงผู้หญิงที่แทรกเข้ามาในโทรศัพท์ทำให้ผมต้องกุมขมับก่อนจะฟังความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากด้านนอก
{น่ารักกว่าในรูปอีกอ่า...เราชื่อเหมยนะ มาทำอะไรที่นี่เหรอ / ยืน...}
คำตอบของไอ้อ้อนรักทำให้ผมอยากจะร้องไห้แทนคนฟัง ก่อนที่ตัวเองจะพูดขึ้นเพื่อช่วยไอ้เด็กเด๋อที่คาดว่าตอนนี้คงจะทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ
“มึงเข้ามาในหอก่อนมา เดี๋ยวลงไปรับ”
{ได้}
คำตอบเพียงแค่นั้นก็ทำให้ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นด้วยสภาพชุดนอนผมเพร่ายุ่งเหยิงเพื่อลงไปรับไอ้อ้อนรักที่หน้าประตูทางเข้า และลงมาก็เห็นว่าไอ้เด็กหมีมันคงยังยืนคุยอยู่กับผู้หญิงที่คาดว่าน่าจะอยู่หอหญิงข้างๆ
“มาหาเพื่อนเหรอ แนะนำให้เรารู้จักบ้างดิ”
“ไม่ใช่”
“อ้าว งั้นมาหาใครล่ะ”
“คน...”
“...”
“ที่ชอบ”
ผมที่กำลังเดินเข้าไปหาก็ต้องชะงักกึกอยากจะถอยตัวกลับขึ้นไปบนห้องซะให้ได้ เมื่อได้ยินคำว่ามาหา ‘คนที่ชอบ’ ของมัน และที่สำคัญอย่าลืมว่านี่คือหอชาย และไม่ต้องบอกตอนนี้น้องเหมยสาวสวยคนนั้นอ้าปากเหวอไปเรียบร้อยแล้ว
“พี่เสือ”
ยังไม่ทันที่ผมจะหายตกใจหรือวิ่งหนีไอ้อ้อนรักมันก็หันมาเห็นซะก่อน ก่อนที่มันจะเดินเข้ามาใกล้แล้วมองร่างกายผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยกมือขึ้นปิดบังใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีเรื่อของตัวเองไว้
“น่ารัก...”
นั่นล่ะครับ หนุ่มหล่อมาดแมนแฮนซั่มก็ต้องโดนชมว่า ‘น่ารัก’ ไปอย่างช่วยไม่ได้
เออดี
“ขึ้นไปข้างบนได้แล้วเว้ย”
ผมพูดโดยพยายามไม่สนใจคนที่ตอนนี้ยืนหน้าเหวอเป็นตัวประกอบไปเรียบร้อยก่อนจะเดินนำไอ้อ้อนรักขึ้นไปบนห้องที่อยู่ชั้นสามของตัวเอง ไม่นานพวกเราทั้งคู่ก็เข้ามาอยู่ในห้องเรียบๆ ง่ายๆ ไม่ได้สวยหรูของผม ซึ่งไอ้อ้อนรักมันก็มองรอบๆ อย่างตื่นเต้น แล้วหันมามองผมที่ตอนนี้เดินไปพับผ้าห่มที่ใช้ไว้อย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะหมกตัวอยู่ในนั้นจนถึงบ่าย
เศร้าเลย
“เลือกนั่งตามสบายเลย” ผมหันไปบอกไอ้คนที่แต่งตัวดูดีมาเรียบร้อยจนเหลือแค่ผมที่ยังอยู่ในชุดเสือยืดกางเกงขาสั้นกากๆ ผมเพร่าก็ยุ่งเหยิงจนไม่เป็นทรง นี่ถ้าไม่ติดว่าสงสารไอ้อ้อนรักนะ อย่างหวังว่าใครจะได้เห็นผมสภาพนี้
“พี่เสือ”
เสียงเรียกจากคนที่ยืนทื่ออยู่กลางห้องทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเห็นว่ามันเดินเข้ามาใกล้ ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วมองไปอย่างสงสัย
หมับ...
เดี๋ยวๆ !
มือหนาของคนตรงหน้ายกขึ้นมาขยี้ผมยุ่งๆ ของผมเบาๆ ไอ้อ้อนรักมันหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อยในขณะที่ทำ ส่วนผมก็อ้าปากเหวอไปแล้ว จนสุดท้ายแรงที่ขยี้ในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นลูบเบาๆ
อ่า...
มันก็จะรู้สึกดีหน่อยๆ อ่านะ...
“ชอบ”
“อะ...เออเว้ย พอเลยมึง !”
ผมจับมือที่อยู่บนหัวผมออกก่อนจะทำหน้าบึ้งมองไอ้เด็กหมีตรงหน้า ซึ่งมันอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองจะหันหลังแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อเตรียมไปอาบน้ำ
“มึงรออยู่นี่ล่ะ นั่งได้เลยทุกที่ กูอาบน้ำแป๊บ”
“อืม”
ผมหันมองไอ้อ้อนรักอีกครั้งก็เห็นว่ามันเดินไปนั่งรอที่ปลายเตียง เพราะห้องผมไม่ได้กว้างมากนัก บนเก้าอี้ที่พอจะนั่งได้ก็วางของไปเรียบร้อย ก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าห้องน้ำไป เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องยกมือขึ้นจับหัวตัวเองอีกครั้งโดยยากที่จะลืมสัมผัสเมื่อซักครู่
ผิดมั้ย ถ้าอยากได้แบบนั้นอีกครั้ง...
โคตรรู้สึกดีเลยว่ะ
“พี่เสือทำอะไร...”
“ชู่ว ~”
ผมยกนิ้วชู่วเสียงใส่มันเบาๆ ในขณะที่กำลังยักถุงขนมหลากหลายที่ซื้อจากเซเว่นเข้ากระเป๋าทำให้ไอ้อ้อนรักที่เพิ่งจะไปซื้อป็อบคอร์นกับแป๊บซี่ชุดใหญ่มาต้องทำหน้างงๆ ผมเลยยักคิ้วไปให้
“ขนมที่นี่ไม่อร่อยเท่าของกูหรอกเว้ย”
แล้วมันก็เอียงคอ
หึหึ เขาเรียกตุนเสบียง
“เข้าไปในโรงเลยมั้ย”
ไอ้อ้อนรักมันไม่ได้ตอบได้แต่พยักหน้า ผมเลยเป็นฝ่ายเดินนำคนที่พามาที่นี่หลังจากเรานั่งรอเวลามาได้ซักพัก ซึ่งหนังที่พวกเราเลือกดูวันนี้คือหนังฮีโร่ใหม่ที่ทำให้ผมที่ติดตามมาตลอดต้องตื่นเต้นไม่น้อย ส่วนไอ้คนข้างๆ ที่ตอนแรกตั้งใจจะมาดูอนิเมชั่นที่กำลังกระแสแรงใช้ได้ก็ต้องหน้าหงอไปพักใหญ่ๆ เมื่อผมไม่ยอมดู และสุดท้ายมันก็เลือกเรื่องเดียวกับผมจนได้
ต้องงี้ดิ
“พี่เสือ”
“หืม...”
ผมหยุดชะงักแล้วหันไปมองทางไอ้อ้อนรักที่เรียกชื่อไว้หลังจากที่พวกเราผ่านคนตรวจตั๋วมาแล้ว ก่อนที่มันจะถอดเสื้อคลุมสีทึบตัวเท่ของมันมาแล้วเอามาคลุมไหล่ของผมไว้
“ป่านบอกว่าหนาว”
“ห๊ะ...”
“กันหนาว”
ไอ้อ้อนรักมันพูดซ้ำจนผมต้องอ้าปากเหวองงๆ มันเลยยกมือขึ้นมาเกาแก้มตัวเองเล็กน้อย ส่วนผมก็ได้แต่จับเสื้อคลุมแขนยาวที่ว่าไว้ ก่อนจะจับมันมาสวมใส่ดีๆ ไอ้อ้อนรักที่มองมามันเลยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ามาใกล้แล้วจับมือผมไว้ ตัวเองที่ใจกระตุกขึ้นมาเลยต้องเงยหน้ามองมันอีกครั้ง
“อะไรวะ”
“เข้าไปกัน”
ไอ้อ้อนรักมันไม่ตอบได้แต่ดึงมือผมเข้าไปโดยที่นิ้วของเราสอดประสานกัน ซึ่งพอเข้ามาข้างในก็มืดสนิท สิ่งที่ผมรับรู้ได้ตอนนี้คือใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเอง กับมืออุ่นๆ ที่จับมือของผมไว้ และเสียงหัวใจตัวเองที่ตอนนี้เต้นเป็นจังหวะสามช่าไปแล้ว
เออดี
ผมที่ตอนนี้สมองเบลอๆ ไปเรียบร้อยก็โดนไอ้อ้อนรักพามาถึงที่นั่งเรียบร้อย ตัวเองที่เกิดอาการประหม่าไปแล้วเลยได้แต่ขอบคุณความมืดในโรงหนังเท่านั้นที่ทำให้ไอ้อ้อนรักมันไม่ต้องมาเห็นใบหน้าตอนนี้ของผม และก็เพิ่งจะรู้ตัวด้วยว่ามืออุ่นของคนข้างๆ ยังคงจับมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย
“อ้อนรัก...”
“จับมือได้มั้ย”
จะขอทำไมวะ มึงจับไปแล้ววววว !
และใจกูก็เต้นแรงไปแล้วด้วย กระซิก...
โอ๋ลูกพ่อ อย่าเพิ่งวายไปตอนนี้นะ
“พี่เสือ”
“เออ อยากทำอะไรก็ทำ”
“จริงดิ”
“เอออออออออ !”
ผมขานกลับยาวๆ ก่อนจะหันมาตบตีกับหัวใจตัวเองต่อ ซึ่งไอ้คนขอตอนนี้มันก็เงียบไปแล้ว ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง...ไม่ใช่ละ มือของไอ้คนข้างๆ นี่ล่ะ ที่กำลังจับหัวผมให้หันไปทางมัน ก่อนที่สัมผัสอุ่นๆ ที่ริมฝีปากจะเกิดขึ้นทำให้ผมต้องลืมตาโพลงแม้ที่นี่ตอนนี้จะมืดขนาดไหนแต่ผมก็ไม่ได้ซื่อบื้อถึงขนาดไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือ ‘จูบ’
เดี๋ยววววววว !
กลีบปากของผมโดนเม้มเบาๆ อย่างเป็นจังหวะ ทำให้รู้ได้ว่าคนที่ทำมันคงจะช่ำชองเรื่องการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีไม่น้อย ตัวเองที่ตอนแรกตกใจก็ได้แต่ยอมหลับตาลงและรับสัมผัสที่ไม่ได้จาบจ้วงมากมายนั่น มือของไอ้อ้อนรักมันยังคงจับมือของผมอยู่ ก่อนที่สัมผัสที่ว่าจะค่อยๆ ละถอยออกไป ผมที่ยังคงหลับตาอยู่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะต้องตกใจเมื่อตอนนี้เห็นหน้าไอ้อ้อนรักได้อย่างชัดเจนจากแสงสว่างที่เกิดขึ้นจากจอยักษ์ ซึ่งมันเองก็ไม่ต่างกันมันมองมาทางผมด้วยท่าทางอึ้งๆ โดยใบหน้าของพวกเราตอนนี้ห่างกันไม่ถึงคืบ
“พี่เสือ...”
“อะ...อ้อนรักเดี๋ยว อย่าเพิ่งพูดอะไร...”
ผมพูดเสียงเบาก่อนจะพยายามเอามือออกจากมันด้วยความประหม่าแต่ก็โดนอีกคนจับไว่แน่นผมเลยได้แต่ยอมแพ้ปล่อยให้มันจับไว้แบบนั้นจนพวกเราได้ยืนขึ้นก่อนที่หนังจะเล่นท่ามกลางเสียงหัวใจที่ยังคงเต้นดังคึกโคมข้างในของผม
ใจพัง...
ใจพังไปแล้วกู
“สนุก”
“เออ กูบอกแล้วเห็นมั้ย !”
“อืม”
“ไว้คราวหน้ามาดูอีกเนอะ”
“ได้เหรอ”
“ก็...”
ผมที่กำลังอ้าปากพูดอย่างอารมณ์ดีในตอนแรกหลังจากหนังจบก็ต้องหุบปากฉับเมื่อตัวเองดันเผลอพูดบางอย่างออกไปแล้ว ซึ่งไอ้อ้อนรักที่รอคำตอบอยู่ก็ได้มองมาอย่างคาดหวังผมเลยได้แต่หันหน้าหนีแล้วแสร้างทำมองหาร้านของกินที่อยู่ใกล้ๆ
“อยากกินสเวนเซ่นอ่ะ”
“ได้”
“...”
“แต่คราวหน้า...”
“อ้อนรัก !”
ผมที่กำลังมองร้านสเวนเซ่นด้วยสายตาที่แสดงออกว่า ‘อยากกิน’ เต็มที่กับไอ้อ้อนรักก็ต้องหันไปมองทางต้นเสียงหวานๆ ที่ตะโกนเรียกชื่อคนข้างๆ และพอหันไปผมก็ต้องทำตาโตเมื่อเห็นว่ามีสาวสวยหุ่นดีหน้าตาน่าดึงดูดเดินเข้ามาหาด้วยท่าทียิ้มแย้มซึ่งทำให้ผมแอบเผลอลืมดาวคณะอย่างยี่หวาไปชั่วขณะ
เข้...ทำไมคนที่มาพัวพันกับไอ้อ้อนรักมันถึงได้งานดีทุกคนเลยวะ...
“นาว”
หือ...
“อ้อนรักจริงๆ ด้วยอ่ะ เฮ้ย พี่โคตรคิดถึงเลย ทำไมถึงติดต่อไม่ได้เลยล่ะ”
“ไม่ค่อยว่าง”
“จริงเหรอ แล้วนี่มาเที่ยวกับใครห๊ะ ไหนบอกไม่ว่างไง” ผู้หญิงสวยตรงหน้าชะเง้อมามองผมที่ยืนทำหน้างงอยู่ด้านหลังซึ่งไอ้อ้อนรักมันก็หันมามองทางผมเช่นกันก่อนจะหันไปตอบคนตรงหน้า
“รุ่นพี่”
...
“ท่าทางจะสนิทกันเนอะ ไม่แนะนำให้พี่รู้จักบ้างเหรอ”
“พี่เสือดุ”
“โหย ชื่อน่ารัก”
คนที่ยืนคุยกับไอ้อ้อนรักชะเง้อมามองทางผมอีกครั้งแล้วยิ้มมาให้ ตัวเองเลยต้องตอบกลับยิ้มสวยนั่นไป
จะละลายแล้วกู
“ไม่เจอกันนานเลยอ่ะ ไปคุยกันหน่อยได้มั้ย พี่คิดถึงจริงๆ นะเนี่ย”
“ได้”
คำตอบที่ไม่ต้องคิดของไอ้อ้อนรักทำให้ผมที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ก็เริ่มรู้ชะตากรรมตัวเองขึ้นมา เพราะเริ่มรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ตอนแรกที่ได้ยินชื่อที่มันเรียกแล้ว
นาว มะนาว ?
แฟนเก่ามันคนนั้นใช่มั้ย
“พี่เสือ”
“ว่าไงวะ” ผมตอบกลับคนที่เรียกผมตรงหน้าแล้วมองหน้ามันกลับไปในใจก็หวังจะได้ยินว่ามันคงจะบอกว่า ‘ไปกินไอติมกัน’ หรือ ‘ไปจากตรงนี้กันเถอะ’
“เดี๋ยวผมมานะ”
แต่แม่งก็ไม่ใช่ไง
“เออ ได้ดิ งั้นกูไปกินไอติมรอนะ”
“อืม”
ผมที่หันหลังเตรียมเดินเข้าร้านไอติมด้วยอารมณ์เซ็งๆ ก็ต้องได้ยินเสียงจากข้างหลังที่พูดขึ้นมากับคนที่ยืนอยู่ด้วย
“ไปกันอ้อนรัก พี่มีร้านดีๆ ที่เราชอบอยู่”
“ยัง”
“อ้าว”
“ไปส่งพี่เสือก่อน”
สิ้นเสียงนั้นข้างกายผมก็มีไอ้หมีตัวสูงเดินเข้ามาขนาบข้าง ซึ่งผมต้องหันไปมองทางมันงงๆ ไอ้อ้อนรักเองก็มองกลับมาจนกระทั่งมาถึงหน้าร้าน อีกฝ่ายเลยพูดกับผมอีกครั้ง
“เดี๋ยวผมมานะ”
“อืม”
“ห้ามหนีกลับ”
“รู้แล้ว กินรออยู่นี่แหละ รอมึงมาจ่าย”
“ได้”
“เออ”
“งั้นผมไปนะ”
“อืม”
ผมมองคนที่มองมาอย่างห่วงๆ ตัวเองเลยได้แต่โบกมือไล่มันไอ้อ้อนรักมันเลยกลับหลังหันและเดินออกไปโดยหันกลับมามองทางผมบ้างเป็นครั้งคราว จนสุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวเลยเรียกมันที่อยู่ห่างออกไปเสียงดัง
“อ้อนรัก !”
“หะ...”
“รีบมานะ”
“ได้”
“...”
“รอผมที่นี่นะ”
ไอ้อ้อนรักมันพูดแค่นั้นแล้วยิ้มมาให้ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไปโดยเหลือแค่ผมที่ยืนอยู่หน้าร้านสเวนเซ่นเท่านั้น
เอาล่ะ...
ได้เวลาแดกกก !
เคยได้ยินมั้ยว่าสัจจะไม่มีในหมู่โจร...
แต่นี่ไม่ใช่โจรแต่เป็นไอ้หมีเด๋อ !
ผมที่ตอนนี้นั่งกินไอ้ติมไปกว่าสามถ้วยจนปวดท้องในระหว่างรอมันก็ต้องตัดใจยอมแพ้แล้วเลือกที่จะเดินออกมาจากร้านสเวนเซ่นด้วยสภาพที่ไม่สมประกอบนัก จนตอนนี้อยากจะให้ถึงบ้านให้ไวที่สุด แต่คงจะเป็นไปได้ยากเพราะคนที่พามาตอนนี้มันกลับหายสาบสูญไปแล้ว
เออดี
คราวหน้าถ้าจะหายก็บอกกูไว้ก่อนก็ได้ จะได้ไม่ต้องรอ !
“โอ๊ย...”
ผมที่ร้องออกมาพลางกุมท้องตัวเองก็น้ำตาแถบเล็ดเมื่อไอติมสามถ้วยที่ตะบี้ตะบันยัดเข้าไปเพราะรสชาติที่หลากหลาย ตอนนี้มันได้กลับมาเล่นงานท้องน้อยๆ ของผมแล้ว
ฮื่อออ เสือทรมานนนนน !
ผมที่กุมท้องตัวเองที่ทรุดลงนั่งไปแล้วก็ต้องค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา ก่อนจะต้องตกใจเมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามาฉุดร่างผมช่วยให้ลุกขึ้น เมื่อหันไปก็เห็นผู้ชายหน้าตาดีที่คุ้นสุดๆ กำลังมองมาซึ่งเจ้าตัวก็ขมวดคิ้วราวกับกำลังจะถามว่า ‘มึงเป็นใคร’
กูนี่ที่ต้องถามเว้ย !
“นี่มันเด็กไอ้อ้อนรักนี่หว่า”
“เด็กพ่อง...โอ๊ย...”
กูพี่มันเว้ย !
“เป็นอะไรล่ะ”
“ปวดท้องๆ” ผมพูดออกไปตามความจริงตอนนี้ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นใครแต่ร่างกายกำลังขอความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
“เอ้า ไม่ไปเข้าห้องน้ำวะ หรือขมิบแล้วเดินไม่เป็น”
ขมิบพ่องงง !
“ไม่ได้ปวดขี้เว้ยยยย !”
มึงเป็นใครเนี่ย บอกกูมาเดี๋ยวนะไอ้หน้าคุ้นแต่กูจำไม่ได้ !
“อ้าวเหรอ งั้นทำไมไม่โทรตามแฟนมึงล่ะ อ้อนรักน่ะ”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่แฟน...”
“อ้าวเหรอ ว้า เสียดาย รู้งี้กูจีบ”
“เลิกบ่นดิมึง กูปวดท้อง ยิ่งฟังมึงยิ่งปวดท้อง ถ้าไม่ช่วยก็ไปใกลๆ ไป !” ผมที่ทนฟังคำว่า ‘อ้าวเหรอ’ ของมันอยู่หลายหนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ก่อนที่คนตรงหน้ามันจะหัวเราะออกมา
“โอ๋ๆ ช่วยก็ได้”
“เออ !”
“อ้าว สงสัยไม่ต้องช่วยแล้วว่ะ นู้น ใครมา” อยู่ๆ ไอ้หน้าหล่อที่มาช่วยพยุงร่างของผมก็พยักเพยิดไปด้านหลังรผมทำให้ตัวเองต้องหันไปมอง ก็เห็นว่าไอ้อ้อนรักมันเดินมาพร้อมกับผู้หญิงคนเดิมเมื่อมันเห็นผมมันก็ทำท่าตกใจแล้วรีบวิ่งมาหาทันที ส่วนอีกคนก็ทำหน้าไม่ต่างกันแต่กลับเป็นฝ่ายเดินหนีไป “ว้าว มากับพี่มะนาวสุดสวยซะด้วย”
“พี่เสือ !”
“อะ...อ้อนรัก”
“ไอ้ธัน พี่เสือเป็นอะไร”
“ปวดขี้มั้ง”
ไอ้ห่านี่ !
“พี่เสือไปห้องน้ำ”
“มะ...ไม่ได้ปวดขี้เว้ย ปวดท้อง !”
“...”
“เพราะมึงแหละไอ้อ้อนรัก ทิ้งกูให้รอ กูก็เลยกินไอติมไปหลายถ้วย เพราะมึงเลย !”
ผมเบะปากน้ำตาจะไหลออกมาซะให้ได้ มือก็กุมท้องตัวเองอยู่อย่างปวดร้าว ไม่น่าเลย ไม่น่ากินเยอะเลย ฮื่อออ !
“ขอโทษ”
“ไม่ให้อภัยเว้ย มึงทำร้ายกู ฮื่อ...”
“เดี๋ยวพาไปหาหมอ”
“...”
“ไปฉีดยา”
“ไม่ไปปปป ~”
“โอ๋...”
“กระซิก...”
“หายนะ”
คำพูดเบาๆ พร้อมกับมือหนาที่ยกขึ้นมาลูบหัวของผมราวกับปลอบประโลมทำให้ตัวเองที่กำลังแหกปากโวยวายกับความปวดร้าวที่เกิดขึ้นต้องปิดปากสนิทพร้อมกับกลั้นน้ำตาไว้
อึ๊บ...
“เบื่อพวกแม่งมีคู่ กูไปละ”
“ฮือ...”
ผมครางเบาๆ โดยไม่สนใจตัวประกอบที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่ไอ้อ้อนรักมันจะยิ่งลูบหัวผมเข้าไปใหญ่โดยตัวเองก็ส่งสายตาไปราวกับกำลังประท้วงว่า ‘เออ ลูบหัวกูอีก ต้องการแบบนั้นแหละ’ จนสุดท้ายไอ้เด็กหมีมันก็พาผมบึ่งรถไปหาหมอจนได้
ว่าแต่...
ลูบหัวอีกได้มั้ยอ่ะ...
อ้อน แล้วรัก
มีคนให้ลูบหัวมันก็ดี...ดีต่อใจ ❤
2 นาทีที่แล้ว
เสือ ไม่ดุ
มีคนคอยลูบหัวให้มันก็ดี...ดีเหมือนกัน : )
เมื่อซักครู่
------------------------------------------------
พี่เสือน้องอ้อนมาแล้วจ้า ช่วงนี้มาช้าหน่อยเนอะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ