vampire kiss ตอนจบ p2 27/11/60 จบแล้วย้ายด้วยจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: vampire kiss ตอนจบ p2 27/11/60 จบแล้วย้ายด้วยจ้า  (อ่าน 9595 ครั้ง)

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: vampire kiss บทที่21 4/11/60
«ตอบ #30 เมื่อ04-11-2017 16:37:43 »

ตอนที่21

“เฮ้...คุณหนูมาขอพบนายแน่ะ” อลันอาจารย์ของเขาแจ้งข่าวให้ทราบ

เรนไม่ประหลาดใจที่ฮินาตะมาขอพบ ทว่ายังคิดไม่ตกเรื่องที่จะเปิดเผยตัวตนออกไปดีหรือปกปิดเอาไว้ แต่แรกเริ่มเดิมทีเพราะไม่อยากให้ฮินะต้องกังวลหรือขัดขวางจึงทำตัวลับลับล่อล่อไม่บอกให้รู้

แต่ก็นั่นแหละเรื่องมันมาขนาดนี้ ป่านนี้ฮินะอาจจะรู้เรื่องของเขาแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นจึงออกไปพบหน้าโดยที่ไม่ได้ปลอมแปลงหน้าตา ถึงจะปิดบังต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

เมื่อไปพบหน้าดวงตาของฮินาตะเบิกกว้าง คนที่เขารักใช้เวลานิ่งอึ้งอยู่หลายอึดใจ แล้วในที่สุดก็ประเคนกำปั้นหนักๆ ลงมาบนแผงอกของเขาแต่ละหมัดหนักหน่วง ทว่าด้วยเพราะการดื่มเลือดของไคยะเข้าไปอย่างสม่ำเสมอเรนจึงทนทานได้โดยไม่เป็นอะไร

“นายจงใจใส่น้ำหอมฉุนๆนั่นหลอกฉันสินะ” ฮินาตะรัวหมัดเข้าใส่สามสี่หมัดสุดท้ายก็เลิกไปเอง

“นายทำไมต้องปลอมตัวด้วย อธิบายมานะ แล้วคุณอลันเป็นญาติของนายหรือต้องเล่าให้หมดนะ” ฮินาตะพูดรัวเร็ว

“ถ้าเรายอมเล่าฮินะมีอะไรมาแลกเปลี่ยนหรือเปล่า”

ฮินาตะอุทานดังอา ในใจเริ่มสับสน นึกสงสัยว่าตนเองมีความกล้าพอที่จะแลกทุกสิ่งเพื่อให้เรนเล่าเรื่องราวทั้งหมดหรือเปล่า

“ถ้าไม่มีข้อแลกเปลี่ยนก็ไม่เล่า” เรนทำทีจะกลับไปผ่าฟืนอีกครั้ง เมื่อฮินาตะไม่ขยับปากพูดเพราะมัวแต่คิด ร่างสูงก็หนีไปจัดการกับงานที่คั่งค้างอยู่ คนตั้งคำถามเดินตามเขามาติดๆแทบจะไม่ต้องใช้เวลาคิด

ปฏิกิริยาร่างกายของฮินาตะไปเร็วกว่าความคิดมาก ทำไงได้เขาทั้งเป็นห่วงทั้งอยากรู้เรื่องราวของเรนทั้งหมด หลายอาทิตย์มานี้การที่ไม่ได้พบหน้าอีกฝ่ายสร้างความกระวนกระวายให้เป็นอย่างยิ่ง

“ตามมาอย่างนี้พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนแล้วหรือฮินะ” เรนเหยียดยิ้มมือข้างหนึ่งกระชับขวานเอาไว้แน่น

“นายอยากได้อะไรล่ะ...คงไม่ใช่จูบหรอก...ใช่ไหม” ฮินาตะลังเลใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย หากเขาเดาผิดมันจะกลายเป็นคนหลงตัวเองอย่างที่สุด

“หึ...อยากจูบอยู่หรอก...แต่อยากรู้เรื่องอื่นมากกว่า....” เรนผ่าฟื้นจนเกิดเสียงดังปึง เขาพูดต่อระหว่างจัดการกับบรรดาไม้ที่กองไว้ไม่หยุด

“ช่วยเล่ามาหน่อยได้ไหมว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮินะกับคุณไคยะไปถึงไหนแล้ว”

ฮินาตะนิ่งงัน พอจะคิดได้อยู่หรอกว่าเรนอาจจะต้องการทราบเรื่องราวทั้งหมด แต่ไม่คิดว่าจะถามตรงๆ แบบนี้ ทำอย่างไรดีนะ ตัวเขาเองไม่สามารถเมินเฉยต่อปริศนาการผลุบโผล่ไปมาของเรนได้ แต่ก็ไม่อยากเปิดเผยความเป็นไประหว่างเขากับไคยะ

“เอาเถอะหากไม่อยากเล่างั้นเอาเป็นตอบคำถามด้วยการส่ายหน้ากับพยักหน้าดีไหม ฮินะได้โปรด เรายอมมากถึงขนาดนี้อย่าปฏิเสธจะได้ไหม” รอยยิ้มเศร้าๆบนใบหน้าของเรนทำให้ฮินาตะใจอ่อน เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบตกลงแต่โดยดี

“ฮินะกับคุณไคยะคบหากันอยู่ใช่ไหม” ฮินาตะส่ายหน้า เรนเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“ถ้าอย่างนั้นคุณไคยะสารภาพรักกับฮินะแล้วใช่หรือเปล่า” ฮินาตะลังเลชั่วครู่แต่ก็พยักหน้ารับ เรนวางขวานลง ร่างสูงยืนกอดอกเริ่มต้นซักอย่างเข้มข้น

“ฮินะรักคุณไคยะหรือเปล่า” ถูกถามถึงประเด็นหลักในเฉียบพลันฮินาตะอ้าปากจะตอบ ทว่าไม่คิดจะโกหกจึงพยักหน้าเบาๆ เรนกระตุกยิ้มหยัน

“ฮินะตัดสินใจจะทำลายการหมั้นหมายของคุณไคยะสินะถึงได้มาที่นี่” ฮินาตะส่ายหน้าไปมาโดยแรง สุดท้ายก็หลุดปากพูดสิ่งที่คิดในใจออกมาจนได้

“ฉันไม่คิดที่แย่งชิงมาหรอกถึงแม้ว่าเราจะมีเยื่อใยต่อกัน ฉันตัดสินใจจะเป็นน้องชายที่ดีมากกว่าและจะเป็นตลอดไป”

“คุณไคยะยอมให้เป็นแบบนั้นหรือ” เรนยิ้มเหยียดเดาว่าคงไม่ยอม การที่ฮินาตะอึกอักทำให้เข้าใจอะไรได้หลายอย่าง

“คนคนนั้นยังคงรุกล้ำฮินะเหมือนกับที่ทำกับคนรักสินะ ฮินะยอมที่จะมีสัมพันธ์ลับๆโดยปล่อยให้พี่ชายแต่งงานไปกับคนอื่นสินะ หึ...” ฮินาตะพูดอะไรไม่ออก อยากจะปฏิเสธแต่ถึงพูดไปก็เป็นการแก้ตัวอยู่ดี

“แล้วเราล่ะฮินะ ฮินะคิดกับเรายังไง ปล่อยให้เราไล่ตามเคว้งคว้างแบบนี้เราเจ็บนะ”

“นายจะเกลียดฉันก็ได้ แต่เพราะว่าไม่สามารถเลือกใครได้ระหว่างนายกับไคยะ ดังนั้นฉันจึงไม่คิดจะเลือกใคร”

ฮินาตะก้มหน้าลงต่ำ ไม่กล้ามองหน้าของเรน แค่เสียงที่เต็มไปด้วยความปวดร้าวของเพื่อนสนิท เขาก็ปวดหนึบที่ใจจนอยากจะบรรยาย

“ฮินะ...” เรนเชยคางฮินาตะด้วยปลายนิ้ว “ตามที่เราเข้าใจ หมายความว่าฮินะมีใจให้เราเหมือนกันใช่ไหม”

“ฉันไม่แน่ใจ”

“ต้องใช่สิ ฮินะลังเลเลือกไม่ได้ระหว่างเรากับคุณไคยะ การที่ไม่เลือกแบบนี้บอกได้คำเดียวว่าเรามีน้ำหนักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณไคยะ” ในที่สุดเรนก็มั่นใจในข้อสันนิษฐานของตนเอง เขาฉีกยิ้มกว้าง เริ่มต้นวางแผนจับฮินาตะให้อยู่มือ

“เพราะอย่างนี้สินะคุณไคยะถึงได้เปิดโอกาสให้เราอยู่ใกล้ฮินะได้ตลอดไป หึหึ ฮินะ การที่เราหลบหน้าฮินะหรือตามมาจนถึงที่นี่ ทั้งหมดเป็นฝีมือคุณไคยะจัดการให้”

“หมายความว่ายังไง”

“คุณไคยะอนุญาตให้เราพัวพันฮินะได้ตลอดไป และยังสนับสนุนให้เรากลายมาเป็นผู้สวามิภักดิ์ เพื่อที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งในโลกที่ฮินะอยู่ ฮินะรู้ไหมว่าทำไมเราถึงยอมทำขนาดนี้”

ฮินาตะประสานสายตากับเรน เด็กหนุ่มรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าผู้สวามิภักดิ์คืออะไร ดังนั้นการที่เรนยอมก้าวเท้าเข้าสู่โลกมืดเพื่อเขา มันยืนยันความตั้งใจของอีกฝ่ายได้ชัดเจนกว่าสิ่งใด

“ฮินะเราอยากอยู่ข้างๆฮินะตลอดไป อยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาลฮินะเข้าใจหรือเปล่า หากว่าฮินะจะไม่เลือกใครเลย อยากจะอยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้ เราก็ยังยอม เรายอมขอเพียงแค่ได้อยู่ข้างๆและรักฮินะตลอดไป”

เป็นคำพูดประหนึ่งสาบานที่ไม่ต่างจากไคยะ ฮินาตะน้ำตาซึมด้วยความรักที่ไคยะและเรนมอบมาให้อย่างหมดใจ ทั้งสองคนทำแบบนี้ยิ่งทำให้เขาเลือกใครไม่ได้ เขาเป็นชายแพศยาหลายใจ น่ารังเกียจจนไม่อาจจะสรรหาคำพูดไหนมาด่าถึงจะสาสม

“นายกับพี่พูดอะไรคล้ายๆกัน รู้ไหมว่ามันทำให้ฉันยิ่งชิงชังตัวเองมากขึ้น” น้าใสใสร่วงหล่นจากขอบตา เรนใช้นิ้วมือปาดซับอย่างเบามือ

“ไม่ใช่ความผิดของฮินะ แต่แรกเดิมทีเราเป็นคนเริ่มรุกไล่ฮินะเอง อีกอย่างเป็นความผิดของคุณไคยะ ทั้งที่ฮินะรักคนคนนั้นมากมายมาก่อน แต่คนคนนั้นก็ยังทิ้งไป ทั้งอย่างนั้นยังกล้าที่จะกลับมาทำให้ฮินะสับสนอีก เราโทษคนคนนั้นทั้งหมด ตามจริงเรื่องของเราสองคนมันน่าจะง่ายกว่านี้ เพราะเรารู้ดีว่าฮินะเองก็มีใจให้เรา”

“เรน....” ฮินาตะอยากจะกล่าวคำขอโทษ แต่ถูกเรนจรดปลายนิ้วบนปากหยุดยั้งเอาไว้ก่อน

“เราพร้อมแล้วที่จะใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตพัวพันสู้รบกับคุณไคยะ ถึงแม้เราจะรู้ดีว่ายังไงเราจะต้องเป็นฝ่ายแพ้ เพราะเราต้องจบชีวิตลงในซักวัน”

ฮินาตะหน้าซีดเผือด ไม่ใช่ว่าไม่คิดถึงข้อเท็จจริงอันนี้ เขาพยายามลืมมันไป ทว่าพอถูกจี้จุดเอาในอกปวดร้าวเกินกว่าจะทน หากว่าสามารถทำให้เรนเป็นพวกเดียวกันได้คงจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่เรนจะกลายเป็นพวกกระหายเลือด ต้องทิ้งโลกแห่งแสงมุดหัวอยู่ในโคลนตมด้วยกัน ไม่สิตอนนี้เรนก็เข้ามาในโลกของเขาแล้ว ทั้งหมดเพื่อเขาเพียงคนเดียวฮินาตะลังเลไปหมด ความคิดที่ทั้งอยากและไม่อยากเปลี่ยนเรนมาเป็นพวกเดียวกันมันทำให้เด็กหนุ่มคิดไม่ตก

“ฮินะเราจะอยู่ข้างๆฮินะตลอดไปนะ จนกว่าเราจะตายจากฮินะไป”

เรนจงใจเน้นย้ำถึงความตายของตัวเอง ร่างสูงเชื่อว่าฮินะต้องเจ็บปวดต่อการจากไปของเขาไม่มากก็น้อย นี่มันเป็นการต่อสู้ระหว่างเขากับไคยะ ฝ่ายนั้นยอมให้เขาป้วนเปี้ยนรอบตัวฮินะได้ นั่นเพราะอย่างไรเขาต้องตายไปซักวัน

อย่าได้หวังว่าเขาจะยอมแพ้ เขาไม่ยอมปล่อยให้ไคยะยึดฮินะไว้เป็นสมบัติส่วนตัว ในเมื่อโอกาสมีเท่าๆกัน เขาจะขอต่อสู้กับฝ่ายนั้นไปตลอดกาล คอยดูสิว่าใครจะแน่กว่ากัน

“ฮินะ...ขอจูบได้ไหม”

“เอ๊ะ”ฮินาตะงุนงงต่อคำขอ

“ที่แก้มก็พอ ถ้าเกิดไม่ทำแบบนี้เราไม่รู้จะสงบใจที่พลุ่งพล่านได้ยังไง” ฮินาตะพยักหน้าอย่างลังเล เรนไม่รอให้ไหวตัวปฏิเสธ เขาประทับจูบลงบนแก้มนิ่ม คลอเคลียสูดดมกลิ่นหอมจากจุดนั้น

“เรารักฮินะนะ อยากให้จดจำข้อนี้เอาไว้”

ฮินาตะถึงแม้ไม่กล่าวออกไปแต่ก็จดจำไว้ขึ้นใจ เขาได้รับความรักจากไคยะและเรนอย่างมากมาย มันเอ่อล้นจนไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร สุดท้ายเพราะความเห็นแก่ตัวทำให้ต้องวางทุกอย่างในจุดที่คาราคาซังแบบนี้ เขานี่มันช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริงๆ



...



งานไม่เสร็จไม่สิ้นซักที ตอนหน้าขอเวลาดาวโหลดซักห้าวันนะ 5555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: vampire kiss บทที่21 p2 4/11/60
«ตอบ #31 เมื่อ05-11-2017 22:08:41 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: vampire kiss บทที่22 p2 9/11/60
«ตอบ #32 เมื่อ09-11-2017 10:01:39 »



บทที่22

คนที่อีธานบูชาประหนึ่งมารดา สนิทสนมราวกับพี่น้อง และรักใคร่ปานลูกสาวนั้นคือคิซาระ ตั้งแต่จำความได้ก็รับรู้เรื่องซึ่งตนเองเป็นคนโปรดของว่าที่นายหญิงคนถัดไปมาโดยตลอด

อีธานได้รับความเมตตาจากคิซาระถูกท่านผู้นั้นรับมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะแถมยังมอบความเอ็นดูให้มากมายยิ่งนัก ดังนั้นถึงแม้ตนเองจะเป็นผู้สวามิภักดิ์ในอาณัติของนายท่านเทเรซ่า ทว่าเขากลับภักดีต่อนายหญิงคิซาระมากกว่า

ปัจจุบันถึงแม้ว่าเขาจะผ่านกาลเวลาไปมาก แต่ผู้สวามิภักดิ์ซึ่งดื่มเลือดแวมไพร์อย่างต่อเนื่องอายุร่างกายจะขยับขึ้นช้ากว่าปกติหรืออาจจะแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมีสภาพร่างกายหนุ่มแน่นเพียงแค่คนอายุ25เท่านั้น

อลันเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ได้รับหน้าที่ปกป้องดูแลบริเวณผืนป่าในสถานะผู้สวามิภักดิ์แบบเดียวกับเขา ทว่าอลันคนนี้ภักดีต่อนายท่านเทเรซ่านักจึงไม่ใช่คนที่อีธานจะเปิดใจพูดเรื่องภายในใจได้

สมัยเมื่อครั้งเขาอายุได้เจ็ดขวบสิ่งแรกที่ตระหนักคือนายหญิงคิซาระนั้นเทิดทูนบูชานายท่านเทเรซ่ามากเกินกว่าปกติ เมื่ออายุได้สิบสองขวบเขาจึงได้รู้ว่านั่นคือความรัก นายหญิงคิซาระรักนายท่านเทเรซ่า

เกี่ยวกับข้อเท็จจริงนี้ นายท่านเทเรซ่ารับรู้ความรู้สึกของนายหญิงคิซาระอย่างชัดแจ้ง ดังนั้นการที่นายท่านยัดเยียดบุตรชายเพียงคนเดียวท่านแฮร์โรลให้เป็นคู่หมั้นของนายหญิงคิซาระ อีธานจึงคิดว่าช่างเป็นการกระทำที่โหดร้าย

ทำไมกันนะ ทั้งที่นายท่านเทเรซ่าเองก็กระทำต่อนายหญิงคิซาระประหนึ่งมีใจให้ แต่กลับผลักไสให้บุตรชาย นายหญิงคิซาระทีแรกตั้งตัวไม่ทัน ซึมเศร้าอยู่นานทีเดียว ทว่าไม่นานนักก็กลับมาร่าเริงอีกครั้ง

"อีธาน หากว่าฉันได้แต่งงานกับแฮร์โรลความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับท่านเทเรซ่าจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การได้เกี่ยวดองเป็นเลือดเนื้อเดียวกันมันทำให้ฉันปลาบปลื้ม ฉันดีใจจริงๆ"

ถึงนายหญิงจะไม่ได้แต่งงานกับท่านแฮร์โรล แต่ความสัมพันธ์ของนายหญิงกับท่านเทเรซ่าก็ใกล้ชิดแนบแน่นกว่าผู้ใดอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ

 อีธานอยากจะเตือนสตินายหญิงของเขา เด็กวัยสิบสองอย่างเขาไม่โง่ เขาเห็นท่านเทเรซ่าแนบจูบบนริมฝีปากของนายหญิงบ่อยครั้ง นายท่านช่างโหดร้ายหว่านเสน่ห์ให้ผู้ไร้เดียงสาไหลหลงแล้วทอดทิ้งผลักไสให้กับลูกชายตนเองอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง

กาลเวลาผ่านไปหลังจากเขาอายุได้สิบแปดปีมนุษย์เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับเลือดจากท่านเทเรซ่าและนายหญิงในฐานะผู้สวามิภักดิ์ เวลานั้นท่านแฮร์โรลหนีความวุ่นวายไปยังเกาะเล็กๆ และได้พบกับคามิชิโระ มินาโกะ ท่านแฮร์โรลไม่ยอมกลับคืนมายังรังลับ

หนึ่งเดือนสองเดือนจนเข้าเดือนที่สาม นายหญิงคิซาระจึงเคลื่อนไหว สำหรับนายหญิงท่านแฮร์โรลมีคุณค่าทางจิตใจในฐานะตัวแทนของนายท่าน และยังถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่นายท่านเทเรซ่ามอบมาให้ ดังนั้นจึงไม่มีความคิดที่จะยกให้คนอื่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านเทเรซ่าเองก็ไม่โปรดปรานว่าที่สะใภ้ชาวมนุษย์คนนั้น ด้วยเหตุนี้ท่านคิซาระจึงลงมือตามใจชอบได้ทุกอย่าง สมัยนั้นคนแรกที่ถูกส่งมาสอดแนมท่านแฮร์โรลก็คือเขา ทว่าเพราะเขายังเยาว์วัยนักจึงถูกล่อหลอกให้สงสาร ความเมตตาที่เขามีต่อคามิชิโระ มินาโกะ แม้เพียงน้อยนิด ก็ทำให้การหมั้นหมายของนายหญิงคิซาระถูกล้มเลิกไป   

สาวน้อยชาวมนุษย์นั้นผ่านการทดสอบจากนายท่านเทเรซ่า บดขยี้ความปรารถนาของนายหญิงคิซาระเป็นผุยผง แม้ว่าเขาจะทำพลาดและไร้ประโยชน์ ทว่านายหญิงก็ไม่ได้ขุ่นเคืองเขา นั่นยิ่งทำให้อีธานรู้สึกว่าตนเองมอบความภักดีให้คนที่ถูกต้อง

หลังจากนายหญิงคิซาระพลาดหวัง นายท่านเทเรซ่าปลอบโยนและอ่อนหวานต่อนายหญิงมากขึ้น จนเรียกได้ว่าเป็นคนรักกันก็ไม่แปลกใจ อีธานเบาใจเป็นเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่านายหญิงสมหวังแล้วหรอกหรือ ดีจริงๆ เขาแอบมองภาพความสุขนั้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

ทว่าเมื่อมีครั้งแรกย่อมต้องมีครั้งที่สอง เมื่อท่านไคยะถือกำเนิด นายหญิงคิซาระถูกวางตัวให้กลายเป็นคู่หมั้นของทายาทเลือดบริสุทธ์ผู้นี้

“เธอคงแปลกใจว่าทำไมฉันถึงยัดเยียดตำแหน่งภรรยาของทั้งบุตรชายและหลานชายมาให้ ที่ฉันทำแบบนี้เพราะว่าฉันเอ็นดูเธอไม่น้อยนะ”

 อีธานเป็นผู้ที่รู้เรื่องราวเกือบทุกสิ่ง สถานะของผู้สวามิภักดิ์คนสนิททำให้เขามีสภาพไม่ต่างกับเครื่องเรือนชิ้นหนึ่ง ถึงแม้จะรับรู้สัมพันธ์ลับๆ ของนายท่านและนายหญิง ทั้งคู่ก็หาได้ถือสาเขาแต่อย่างใด เวลานั้นอีธานรินน้ำชาให้ท่านทั้งสองสีหน้าของเขาเรียบเฉยเช่นทุกครั้ง

“ท่านเทเรซ่าเอ็นดูฉันถึงเพียงนี้เป็นเพราะว่าฉันเป็นหลานของท่านลุงเอมิลใช่หรือเปล่าคะ”

อีธานถอนหายใจ ท่านเอมิลเป็นคนรักซึ่งเป็นมนุษย์ของนายท่าน ท่านเอมิลผู้นั้นป่วยตายไปเสียก่อนที่จะถูกท่านเทเรซ่าเปลี่ยนให้กลายเป็นดาร์คฮาร์ฟ แน่นอนว่าความรักที่นายท่านมีต่อท่านเอมิลยังไม่เสื่อมคลายเห็นได้จากรูปเหมือนที่ถูกวางตามสถานที่ต่างๆ ในคฤหาสน์

นายหญิงที่น่าสงสาร อีธานรู้มาตั้งนานแล้วว่านายท่านใช้นายหญิงซึ่งหน้าเหมือนกันราวกับแกะเป็นเครื่องมือระบายความเหงาและคิดถึง ความต้องการอันบิดเบี้ยวของนายท่าน เขาพอจะเข้าใจอยู่บ้าง แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าใกล้ชิดกันถึงเพียงนี้ ระหว่างนายท่านกับนายหญิงยังไม่เรียกว่าใจตรงกันอีกหรือ

“ฉันชอบเธอมากนะคิซาระ” นายท่านเทเรซ่ายิ้ม เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน แต่สำหรับอีธาน นายท่านช่างเป็นปีศาจที่ไร้ความเมตตา นายท่านใช้นายหญิงเป็นตัวแทน แต่จะไม่ยอมให้ใครมาแทนที่ท่านเอมิลโดยสมบูรณ์

“แกคงคิดว่าฉันโหดร้ายสินะ อีธาน” หลังจากนายหญิงคิซาระจากไป อีธานถูกสั่งให้นำเลือดมาให้ นายท่านถามเขาขณะรินเลือดสีแดงฉาน

“หากนายท่านไม่สามารถลืมท่านเอมิลได้ก็กรุณาอย่าทำร้ายนายหญิงคิซาระอีกเลยขอรับ” เขาขอร้องด้วยความภักดีที่มีต่อนายหญิง แววตามุ่งมั่นประสานเข้ากับดวงตาคมกริบของนายเหนือหัว

“แต่การทำแบบนี้ก็เป็นความรักของฉันเหมือนกันนะ ถึงฉันจะแต่งงานกับคิซาระไม่ได้ แต่การได้เป็นคู่ชีวิตของของไคยะ มันจะช่วยเติมเต็มทุกอย่างให้คิซาระไม่ใช่หรือ เท่านี้ฉันก็จะได้ไม่รู้สึกผิดที่ต้องแบ่งความรักให้คนอื่นนอกจากเอมิล ส่วนคิซาระก็ได้ตำแหน่งสูงสุดในฐานะนายหญิงผู้นำเผ่าแล้วก็ไคยะเองต้องเติบโตเป็นคนมากความสามารถและรูปงามไม่แพ้ฉันแน่ๆ ไม่คิดว่าแบบนี้มันดีต่อฉันกับคิซาระหรอกหรือ”

นายท่านแผ่ไอสังหารออกมา คงไม่ต้องการให้เขากล่าวค้าน อีธานถูกกดดันจนขยับปากพูดไม่ออก ปลายประสาทชาจนแข็งตัว หนาวสะท้านไปทั้งร่างกาย อยากจะพูดเหลือเกินว่าอย่าทำให้นายหญิงบิดเบี้ยวไปมากกว่านี้เลย หากว่าไม่รักช่วยตัดขาดจากนายหญิงให้นายหญิงเจ็บเพียงครั้งเดียวก็น่าจะพอแล้ว

ทว่าผู้ที่กุมชีวิตผู้อื่นไว้อย่างเบ็ดเสร็จมีหรือจะสนใจความคิดของผู้อื่น สุดท้ายงานหมั้นของท่านไคยะกับนายหญิงก็ดำเนินไป นับวันท่านไคยะยิ่งมีรูปโฉมงดงามประดุจภาพเหมือนของนายท่าน

นายหญิงคิซาระหลงใหลความเหมือนทุกกระเบียดที่ท่านไคยะมี แม้ว่าจะไม่อาจลืมรักแรกอย่างนายท่านไปได้ แต่การได้ครอบครองสิ่งที่เหมือนกัน สามารถเติมเติมหัวใจที่เหี่ยวแห้งของนายหญิงให้ชุ่มชื้น

ทว่าทุกอย่างใช่เรียบง่ายดั่งคิด ท่านไคยะเป็นพวกจิตไม่ปกติ รักชอบน้องชายตัวเอง ไม่เพียงท่านคิซาระเท่านั้นที่รู้ อีธานเองก็กระจ่างใจเช่นกัน

แน่นอนว่าการที่ท่านฮินาตะเป็นพวกไม่สมประกอบ ทำให้นายหญิงนิ่งนอนใจ แต่อีธานผู้ภักดีคนนี้จับตาดูอยู่ตลอด วันที่ท่านแฮร์โรลและมินาโกะมายังรังลับ เขาก็รู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องทำให้นายหญิงทุกข์ใจ

แล้วก็เป็นจริงดั่งว่าหลังจากท่านแฮร์โรลกับมินาโกะแจ้งเรื่องที่ฮินาตะเป็นเดมี่แวมไพร์ นายท่านก็วางแผนจะทำอะไรซักอย่างกับท่านฮินาตะ หลังจากนายท่านไปยังเกาะเล็กๆ ท่านไคยะก็มาอาละวาดปึงปังกับเขาที่คฤหาสน์แห่งนี้

นั่นทำให้นายหญิงตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงของท่านไคยะ ดังนั้นจึงไม่รอช้าไล่ตามท่านไคยะไปยังที่นั่น นายท่านกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม ดูสนุกสนานกับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น

“อยากจะรู้นักว่าไคยะมันจะทำยังไง ถึงฮินาตะจะกลายเป็นแวมไพร์เลือดบริสุทธ์แล้วก็ตามเถอะ น่าสนุกจริงๆ”

อีธานเดาทุกอย่างได้ไม่ยาก เขารู้ความสับสนอลมานระหว่างพี่น้องทั้งสองดี เป็นอย่างนี้แล้วท่านคิซาระคงจะต้องผิดหวังอีกครั้ง

แต่คราวนี้เขาจะไม่พลาดแน่นอน อีธานวางแผนกำจัดท่านฮินาตะเอาไว้เป็นอย่างดี แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์เป็นอมตะ ต่างจากแวมไพร์ทั่วไปอย่างท่านคิซาระซึ่งหากทำลายหัวใจทิ้งแล้วเผาร่างไปเสียก็มีสิทธิที่จะตายได้เช่นกัน

ในขณะที่แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ต่อให้ตัดคอทำลายหัวใจหรือเผาร่างก็จะคืนสภาพได้จากพลังปีศาจ ดังนั้นอีธานจึงวางแผนลักพาตัวท่านฮินาตะไปซ่อน ตัดแขนขาคอแยกส่วนเอาไว้คนละที่ทำแบบนี้แล้วก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น

แผนการครั้งแรกนับว่าพลาดไปมาก แต่ครั้งที่สองฮินาตะเป็นคนยื่นให้เขาเอง เด็กนั่นออกคำสั่งให้เขานำเลือดสดๆ มาให้ทุกครั้งแทนที่จะออกล่าเอง

เขาไม่โง่นำเลือดพิษแบบเดิมไปให้ฮินาตะดื่ม แต่เขามีพิษชนิดหนึ่งที่คิดค้นด้วยตัวเองใช้กับแวมไพร์โดยเฉพาะส่วนผสมนั้นมีต้นกำเนิดจากเลือดพิษบางส่วนก็จริง แต่ด้วยความตั้งใจต่อให้ตรวจหาจะไม่พบความผิดปกติใดใดของยาพิษที่เขาจะใช้แน่

และผลที่ได้ถึงแม้จะไม่เทียบเท่ากับการดื่มเลือดพิษ แต่ก็สามารถทำให้ร่างกายเป็นเหน็บชาในระยะเวลาหนึ่ง แค่ห้านาทีเขาก็จัดการเฉือนส่วนต่างๆ แยกออกเป็นชิ้นๆ ได้ไม่ยาก มันช่างง่ายดายเหมือนงานที่เขาทำอยู่ทุกทุกวัน



...



ใกล้จะจบล้าวน้า น่าจะอีกซัก7-8ตอนประมานนี้ละมั้ง5555

ตอนหน้าขอโหลดซักสี่ห้าวันน้า เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างเน้อ

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: vampire kiss บทที่23 p2 13/11/60
«ตอบ #33 เมื่อ13-11-2017 15:02:58 »



บทที่23

ราวกับพระเจ้าจะเข้าข้าง วันนี้นายท่านเทเรซ่าเรียกอลันให้ไปช่วยงานแต่เช้าตรู่ดังนั้นท่านฮินาตะจึงอยู่เพียงลำพังกับผู้สวามิภักดิ์คนใหม่ อีธานนำขนมและเลือดไปส่งให้ตามคำสั่งของท่านไคยะ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนผสมของขนมเจือปนไปด้วยพิษที่ทำให้เกิดอาการเหน็บชา

อีธานมุ่งหมายจะจัดการอย่างรวดเร็วที่สุด ผู้สวามิภักดิ์หน้าใหม่ไม่มีทางคณนามือเขา ยิ่งกับท่านฮินาตะที่จะอยู่ในสภาพอัมพาตเพราะพิษด้วยแล้วทุกอย่างยิ่งง่ายราวกับจับวาง

“ขนมอร่อยมากขอบใจนะอีธานที่เอามาให้” อีธานยิ้มบางๆ ในที่สุดก็ทานเข้าไปจนได้ เขาไม่รอช้าหันไปเล่นงานผู้สวามิภักดิ์หน้าใหม่ในทันที ร่างนั้นกระเด็นกระดอนไปตามแรงถีบ ท่านฮินาตะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ

“...เรน...” เพราะประสบการณ์น้อย ท่านฮินาตะจึงเลือกที่จะสนใจคนเจ็บมากกว่าศัตรูอย่างเขา ทว่ายาพิษออกฤทธิ์แล้ว เด็กหนุ่มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นเนื้อตัวสั่นเทา

“นี่มันอะไรกัน”

“ยอมไปกับผมเสียดีๆ เถอะท่านฮินาตะ การคงอยู่ของท่านจะทำให้ผู้คนมากมายเสียน้ำตา” อีธานโน้มตัวลงหมายจะอุ้มฮินาตะทว่ากลับต้องหลบวูบเพราะถูกดาบที่สร้างขึ้นด้วยพลังจิตฟันวูบลงมาที่ด้านข้าง

โดนหนักขนาดนั้นนึกว่าจะหมดสติในวูบเดียวเสียอีก “อึดจริงนะ” อีธานยิ้ม ในใจรู้ดีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังใจเย็นอยู่ได้ พ่อบ้านหนุ่มสร้างดาบจากพลังจิตขึ้นมาต่อการกับผู้สวามิภักดิ์หนุ่มที่ชื่อเรน

“แกต้องการอะไร” อีธานหัวเราะอย่างเย็นชา รับดาบปัดป้องและสวนกลับ ยอมรับว่าเด็กหนุ่มนี้ไม่ใช่กระจอก หัวไวหรืออลันสอนเก่งกันแน่นะ

“จะรู้ไปทำไมยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว”

“มันจะง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ”

 เรนยกยิ้มมุมปาก หลังจากประมือมาได้ระยะหนึ่งถึงได้รู้สึกว่าตนเองมีเรี่ยวแรงมากกว่าคู่ต่อสู้ ดังนั้นจึงโหมดาบไม่ยั้งจนอีธานเลี่ยงปะทะด้วย เมื่อทิ้งระยะห่างเรนสร้างมวลพลังจากจิตเหวี่ยงดาบออกไปเป็นเส้นริ้ว อีกฝ่ายหลบวูบมวลพลังกระทบถูกสิ่งปลูกสร้างจนเสียหาย

“โฮ่...ถึงกับสร้างคลื่นพลังจิตได้ด้วยรึ”

ถึงจะยิ้มอยู่แต่พ่อบ้านหนุ่มลอบหวั่นใจ ผู้ใดกันนะที่เป็นคนให้เลือดเด็กหนุ่มคนนี้ พลังจิตที่ถูกปลุกขึ้นมาจึงแก่กล้ากว่าเขาที่ได้รับเลือดจากนายหญิงคิซาระเสียอีก ไม่ได้การจะปล่อยให้ยืดเยื้อแบบนี้ไม่ได้

ดังนั้นอีธานจึงเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด จังหวะไม่ดีท่านไคยะปรากฏตัวขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเสียสมาธิแทนที่จะฟันคอของเด็กหนุ่มให้หลุดจากบ่ากลับกลายเป็นแทงวูบเข้าหา ไม่เพียงแค่แทงถูกเท่านั้นตนเองยังถูกแทงเข้าด้วยเช่นกัน

“...เรน...” ฮินาตะลุกขึ้นยืนได้แล้วเวลาคงล่วงเลยไปมากกว่า20นาที อีธานพลาดเองที่คิดว่าเรนจัดการได้ง่ายๆ แถมตอนนี้ยังมีท่านไคยะอีกคน

ฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้ความผิดของเขาแปดเปื้อนนายหญิง อีธานตั้งใจจะใช้ดาบพลังจิตปาดคอตัวเอง ทว่ากลับถูกพลังมืดของไคยะห่อหุ้มเอาไว้จนขยับร่างกายไม่ได้ เวลาของเขาหยุดหมุนไปในบัดดลแม้แต่เลือดซักหยดยังไม่ไหลจากบาดแผล

“เจ้าเด็กแสบเป็นอะไรหรือเปล่า” ไคยะวิ่งไปดูอาการฮินาตะก่อนสิ่งใด ทว่าเด็กหนุ่มกลับไม่สนใจรีบไปหาเรนที่นอนจมกองเลือด

“เรน...เรน...นายเป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่เห็นแผลถนัดตา ฮินาตะก็ระเบิดน้ำตาออกมา

“ฮินะอย่าร้องไห้สิ” เรนไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่ฮินะร้องไห้เพื่อตัวเอง ทว่าตอนนี้เขาชาไปทั้งร่างจนแทบไม่รู้สึกอะไร อา...การเดิมพันของเขาคงจะเริ่มต้นได้ซักที

“ฮินะ เรายังไม่อยากตาย เราอยากอยู่กับฮินะตลอดไป” เรนใช้มืออ่อนแรงลูบไล้เสี้ยวหน้าฮินาตะแผ่วเบา เขาแทบจะไม่มีแรงเหลืออยู่แล้ว

“ไม่.. ต้องมีวิธีสิ...” ฮินาตะนึกออกแค่สองวิธีคือพาไปหาหมอให้ทัน หรือไม่ก็...

เปลี่ยน...เปลี่ยนให้เรนกลายเป็นพวกเดียวกัน อย่างที่คุณย่าเคยสอน

“ไม่ทันหรอกเจ้าตัวแสบ นายก็รู้อยู่” ไคยะวางมือลงบ่นไหล่สั่นเทาทั้งสองข้างของฮินาตะ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำยืนยัน

ตาย จะตายจริงๆ นะหรือ  หมายความว่าจากนี้ไปเขาจะไม่ได้เห็นเรนอีกแล้ว เรนจะไม่ยิ้มหัวเราะอยู่ข้างเขาอีกต่อไป เจ็บ เจ็บอย่างไม่เคยมีมาก่อน....

“ฮินะ...เราอยากให้ฮินะมีความสุขนะ” ถึงแม้จะหวังให้โอกาสนี้คืบหน้ากลายเป็นแผนการอย่างหนึ่ง แต่ร่างกายของเขาค่อยๆ เย็นลงเรื่อยๆ เรนไม่รู้เลยว่าฮินะจะเปลี่ยนตนเองให้เป็นพวกเดียวกันหรือไม่

หรือว่าจะต้องตายไปทั้งแบบนี้กันนะ

“เรน...ฉันจะไม่ยอมให้นายตายจากไปอย่างเด็ดขาด” ฮินาตะปาดน้ำตาก่อนที่กัดเข้าที่ข้อมือของตนเองจนเลือดไหลโชกแล้วนำมาจ่อที่ปากของเขา เรนเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ดื่มเข้าไปสิ...ขอร้องละเรน...ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเห็นแก่ตัว แต่ฉันก็อยากให้นายอยู่ต่อไป”

เรนอยากจะยิ้มกว้างๆ เสียเหลือเกินแต่แค่อ้าปากดื่มเลือดก็สุดกำลังที่มีแล้ว จากนี้ไปเขาจะกลายเป็นแวมไพร์ เท่านี้ก็จะสามารถอยู่เคียงข้างคนที่รักได้ตลอดกาล อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาเยาะหยันให้คุณไคยะ ฝ่ายนั้นส่งสายตาเย็นเยียบตอบกลับมา

“หึ...ร้ายไม่เบานี่”

ไคยะยกยิ้มมุมปาก เรนดื่มเลือดจากข้อมือของฮินาตะเสียงดังอั่กๆ ก่อนที่ฮินาตะจะฝังเขี้ยงลงบนลำคอของคนเจ็บ พิธีกรรมผ่านไปอย่างเรียบง่าย เวลานี้ร่างกายของผู้ถูกเปลี่ยนค่อยๆ เย็นลงจนถึงจุดเยือก สุดท้ายเกิดแสงสีแดงเรืองรองจากร่างนั้น

“แวมไพร์ชั้นสูงกำเนิดขึ้นแล้ว จากนี้ไปหมอนี่จะเป็นเหมือนลูกชายคนหนึ่งของนาย” ไคยะกล่าวเสียงเรียบเรื่อย

ไม่นานนักเรนก็ลืมตาตื่นขึ้นแผลบนร่างกายเลือนหายไป ฮินาตะกุมมือของเรนเอาไว้ลืมไปเสียสนิทว่ามีไคยะอยู่ข้างๆ “เรนขอโทษนะฉันเปลี่ยนนายให้กลายเป็นสิ่งเลวร้ายเสียแล้ว...ฉัน...ฉันแค่....” หยาดน้ำใสร่วงลงจากขอบตาเรนใช้นิ้วปาดซับให้อย่างเบามือ

“ถ้ามันจะทำให้เราได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แม้ว่าต้องกลายเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายกว่านี้เราก็ไม่รังเกียจ...ฮินะ...ขอให้เราได้อยู่เคียงข้างฮินะตลอดไปนะ ในฐานะคนที่รักฮินะมากกว่าใคร” ไคยะหัวเราะเบาๆ ต่อคำกล่าวของเรน คนถูกหัวเราะตวัดสายตาท้าทายไปให้ชายหนุ่ม

“นายพูดอย่างกับว่ามีนายแค่คนเดียวที่รักเจ้าเด็กแสบ” กล่าวจบไคยะก็ใช้มือบิดคางฮินาตะให้หันมาด้านข้างแล้วแนบจูบลงไป ขณะที่รุกไล่ชายหนุ่มส่งสายตายั่วเย้าไปยังเรนที่มองสบมาด้วยแววตาเย็นชา

“พี่ทำบ้าอะไร” ฮินาตะเอ็ดไคยะหลังจากถอนจูบ ทว่าไม่ทันหายใจเต็มปอด เรนก็จู่โจมประทับจูบลงมา ฮินาตะทำอะไรไม่ถูกเพราะคนข้างหลังอย่างไคยะใช้มือโอ้โลมตามเนินเนื้อทั่วร่าง ทั้งยังดูดซับริมฝีปากลงมาบนซอกคอของเขา

“อื้อ..อย่า...” เรนเปลี่ยนมุมประกบปากจูบนับครั้งไม่ถ้วน ดวงตาคมหรี่มองการกระทำเหิมเกริมของคู่แข่งแล้วไม่นึกอยากยอมแพ้ ดังนั้นจึงล้วงมือลงไปที่ด้านล่างลูบคลำเครื่องเพศของฮินาตะผ่านเนื้อผ้า

“หึ...ได้ใจจริงนะ” ไคยะเหยียดยิ้ม เหมือนเป็นการแข่งกันระหว่างชายสองคน ไคยะสอดมือเข้าไปในร่มผ้านวดคลึงยอดอกจนฮินาตะสะท้านวูบ ขณะเดียวกันเรนตัดสนใจล้วงมือเข้าไปจับเนื้อแท้ฟอนเฟ้นเครื่องเพศจนแข็งขืนเต็มมือ

“อื้อ...อือ...” ฮินาตะเอนหลังพิงแผงอกของไคยะ ในหัวคิดอะไรไม่ออกอีกต่อไป มือไม้ของผู้ชายสองคนป่ายปัดปรนเปรอ ด้วยร่างกายที่ไม่เคยต้องมือใคร ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ทางนี้มาก่อนเด็กหนุ่มย่อมไม่อาจต้านทานการเล้าโลมจากทั้งสองคนได้

“เด็กดี”

ไคยะประจูบลงมาแทนที่เรน ส่วนเรนนั้นหรือฉวยโอกาสครอบครองเครื่องเพศของฮินาตะด้วยปาก เด็กหนุ่มผวากอดรัดไคยะแน่น ชายหนุ่มหรี่ตามองดูเรนอย่างไม่พอใจ รังสีฆ่าฟันแผ่ออกมาจากร่าง ทว่าพอผู้เป็นที่รักขยับกอดคล้ายจะออดอ้อนเขาจึงมอบจูบอ่อนหวานปลอบโยนเด็กหนุ่ม

“อื้อ...อ๊ะ”

จูบหนักๆ ทั้งบนและล่างทำให้ฮินาตะแทบจะขึ้นสวรรค์ มือไม้ของพี่ชายที่ลูบไล้เคล้าเค้นแผ่นอกและปากร้อนชื้นของเพื่อนสนิทซึ่งครอบครองเบื้องล่าง การกระทำของชายสองคนเป็นดังคำประกาศว่าถึงเขาไม่เลือกใคร คนพวกนี้ก็มีวิธีจัดการกับเด็กงี่เง่าอย่างเขาด้วยวิธีที่ชัดเจนเช่นกัน

“อึก...” ฮินาตะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ร้องไห้ที่ถูกรวมหัวกันกลั่นแกล้งอย่างนั้นหรือ ทว่าย้อนแย้งเสียเหลือเกินขณะที่คิดว่าโดนรังแก แต่ร่างกายกลับสุขสมจมอยู่ในรสรักของพี่ชายและเพื่อนสนิทจนไม่มีแรงจะต่อต้าน

“อ๊า...” ในที่สุดก็ปลดปล่อยออกมาจนได้ เรนกลืนหยาดพิสุทธิ์เข้าไปจนหมด ฮินาตะแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา

“ของสกปรกแบบนั้นก็กลืนเข้าไปได้ด้วย” เรนฉีกยิ้มกว้างแทนคำตอบ

“ฉันเองก็อยากดื่มเหมือนกันนะ อากาสึกิมาสลับกันบ้างสิ” เรนแค่นเสียงดังเฮอะ ด้วยไม่ทันตั้งตัวฮินาตะถูกจับพลิกเปลี่ยนมุม คราวนี้คนที่ครอบครองเครื่องเพศกลายเป็นพี่ชายส่วนเรนหอมแก้มเขาดังฟอดกล่าวออดอ้อนด้วยเสียงเปี่ยมสุข

“ฮินะหวังว่าจะไม่โกรธเรานะ เราอดใจไม่ไหวจริงๆ เราดีใจนะที่ฮินะเปลี่ยนเราให้เป็นพวกเดียวกัน เพราะอย่างนั้นเราเข้าใจเอาว่าฮินะรับรักเราในที่สุด” ฮินาตะถลึงตาใส่เรน อ้าปากจะต่อว่า แต่ทักษะของไคยะทำเอาเสียงที่ลอดจากริมฝีปากมีแค่เสียงครางเท่านั้น

“เจ้าพวก...อื้อ...บ้า...อี...ธาน...อา...” อยากจะบอกว่าลืมเรื่องอีธานไปแล้วหรือไอ้พวกโจรหื่นกาม เขาไม่น่าไว้ใจเจ้าคนพวกนี้เลย คนหนึ่งเป็นพี่ชายที่รัก อีกคนหนึ่งก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสองคนรวมหัวกันเล่นงานเขาจนสิ้นท่า

“ก่อนอื่นต้องพามันไปหายายเฒ่าก่อน” หลังจากจัดการจนฮินาตะหมดแรง ไคยะกับเรนก็ช่วยกันเช็ดทำความสะอาดร่างของคนที่หมดสติเพราะถึงจุดหลายครั้ง

“คิดออกไหมว่าทำไมหมอนี่ต้องเล่นงานฮินะ” เรนจัดการสวมกางเกงให้ฮินาตะอย่างเบามือ

“ก็มีอยู่คนหนึ่ง แต่ไม่คิดว่ายัยนั่นจะกล้าหาญถึงขนาดนี้ เอาไว้รอไปสอบสวนกันที่คฤหาสน์เสียก่อน นายไปด้วยกันก็ได้” เรนเลิกคิ้ว แทบไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมให้เขาก้าวล่วงพื้นที่ส่วนตัวของฮินาตะได้แบบนี้

“ทำไม การที่ฉันยอมให้นายก้าวก่ายได้มันประหลาดขนาดนั้นเชียวหรือ” ไคยะยกยิ้มมุมปาก

“คุณก็น่าจะรู้ตัวดีนี่นะว่าทำไมผมถึงสงสัย”

“ข้อแรก ต่อให้ฉันไล่นายก็คงไม่ไป ข้อสองเจ้าเด็กแสบคงอยากให้นายอยู่ข้างๆ และไม่ยอมให้นายตายง่ายๆ  ข้อสุดท้ายเพราะคนที่เปลี่ยนนายคือแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์อย่างฮินาตะ นายจึงกลายเป็นแวมไพร์ชั้นสูงที่หาได้ยากดังนั้นฉันกับยัยเฒ่าจึงต้องให้ความเอ็นดูให้มากหน่อย”

“หมายถึงว่าผมมีประโยชน์ในฐานะบุคลากรงั้นสิ”

“จะเข้าใจอย่างนั้นก็ได้ ในรอบหลายพันปีแวมไพร์ชั้นสูงมีแค่สองตนเท่านั้นคือนายกับคิซาระ”

“โฮ่...ผมอยู่ระดับเดียวกับยัยนั่นหรอกหรือ”

“นายกับคิซาระมีพลังเป็นรองแค่ยัยเฒ่า ฉัน แล้วก็เจ้าเด็กแสบเท่านั้น เหมือนถูกหวยละสิ” ไคยะแสยะยิ้ม

“รางวัลสำหรับผมมีแค่เรื่องเดียว คือการที่ได้ใช้ชีวิตอมตะร่วมกับฮินะ คุณเข้าใจให้ถูกหน่อยก็ดีนะ”

กล่าวจบเรนก็ช้อนตัวฮินะขึ้นอุ้มแล้วเดินนำออกไป ไคยะหวานอมขมกลืนในอก นับว่าเดินเกมส์พลาดไปมากทีเดียวที่ปล่อยให้ศัตรูหัวใจเกาะหนึบคนรักของเขาได้ตลอดกาล แต่...หากว่าหมอนี่ตายไป เจ้าเด็กแสบจะมีสภาพแบบไหนกันนะ

ไคยะไม่อยากเห็นทั้งนั้นไม่ว่าจะแบบไหน การยอมรับความจริงที่ว่าตนเองไม่มีแรงดึงดูดพอให้เป็นสิ่งสำคัญเพียงหนึ่งเดียวมันน่าน้อยใจไม่น้อย แต่หากจะไม่เลือกทั้งเขาทั้งเจ้านั่นแล้วล่ะก็ การรุกเข้าหาพร้อมๆ กันแบบนี้มันก็เป็นวิธีที่จะคลี่คลายไปได้อย่างหนึ่งไม่ใช่หรือ

“หึ...จนกว่าจะมีใครเป็นผู้ชนะ ฉันจะยอมให้นายอยู่ข้างๆ เจ้าเด็กแสบไปก่อน”

“ผมขอคืนคำพูดนั้นให้คุณทั้งดุ้น...”

เอากันตามจริงหากว่าไคยะขัดขวางไม่ให้ฮินะเปลี่ยนเขาเป็นแวมไพร์ก็ย่อมต้องทำได้ แต่คนคนนี้กลับปล่อยให้แผนการของเขาสำเร็จ หมายความว่าคุณไคยะรักฮินะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเขา การยอมเสียสละแบบนี้มันจะทำให้ฮินะรู้สึกดีกับคนคนนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก ศัตรูตัวฉกาจจริงๆ ให้ตายสิ



...



จริงๆ อยากจะncเลยนะ แต่โอกาสมันไม่อำนวยหรือเปล่าน้า5555



เลยมาแค่น้ำจิ้ม ตอนหน้ารอซักสี่วันน้า ใกล้จบล้าวววว



แล้วเจอกันน้อ

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: vampire kiss บทที่24 p2 18/11/60
«ตอบ #34 เมื่อ18-11-2017 14:19:48 »

บทที่24

อีธานถูกนำตัวกลับมายังคฤหาสน์ในสภาพกาลเวลาถูกหยุดเอาไว้ วินาทีแรกที่ร่างนั้นลอยตามหลังไคยะเข้ามาในห้องพร้อมกับเรนที่อุ้มฮินาตะเอาไว้ในอ้อมแขน คิซาระสับสนงุนงงเดาไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่คิดว่าคงไม่ดีกับคนสนิทแน่ๆ   

“อีธาน”

คิซาระรีบสาวเท้าไปดูด้วยความเป็นห่วง ทว่าถูกเรนมองด้วยสายตาดุดัน แค่นี้มันไม่ทำให้เธอหวาดกลัวแต่ไคยะนี่สิแววตาเย็นชาที่มองมามันช่างชวนให้หนาวเหน็บ ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวไปยังเบื้องหน้าก็ถูกคู่หมั้นหนุ่มตั้งคำถามจนต้องชะงักงัน

“เธอคงไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับอีธานใช่ไหม” คิซาระงงงันไม่เข้าใจคำถามของไคยะซักนิด

“เฮอะ เล่นละครหรือแม่ตัวอิจฉา ลอบฆ่าฮินะยังกล้าทำไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ” เรนหัวเราะหยามหยัน ไม่สงสัยความคิดของตัวเองเลยแม้แต่นิด เขามั่นใจว่าคิซาระคือผู้บงการ

ไคยะย่างสามขุมเข้าหาคู่หมั้นของตน ท่าทางเย็นชาแต่แฝงไว้ซึ่งความเด็ดขาด น่าหวาดกลัวจนคิซาระต้องก้าวเท้าถอยหลังหากว่าไม่มีท่านเทเรซ่ามาขวางเธอคงต้องตายแน่ๆ ด้วยน้ำมือของไคยะ

“จะทำอะไรไอ้หนู” เทเรซ่ากางปีกปกป้องคิซาระ แวมไพร์สาวอุ่นใจเหลือเกินที่ท่านผู้นี้ยังคงเป็นที่พักพิงของเธอเช่นเดิม

“ถ้าบอกว่าจะฆ่าทิ้งล่ะ” ไคยะยกยิ้มมุมปาก อยากจะรู้นักว่ายัยเฒ่าจะทำอย่างไร

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไคยะรู้ความลับของแม่เฒ่ากับคิซาระ ความสัมพันธ์แบบชู้สาวอันดำมืด ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือสายตาสามารถบ่งชัดได้ว่าคิซาระอยู่ในฐานะไหนและถูกวางตัวอยู่ที่ใดในหัวใจของเทเรซ่า

ยัยเฒ่ารับคิซาระมาเลี้ยงเปลี่ยนให้กลายเป็นแวมไพร์เพราะหญิงสาวมีสายเลือดเดียวกับกับคุณปู่ ด้วยใบหน้าที่เหมือนกัน ไคยะเข้าใจว่าคนเป็นย่าอาจจะใช้คู่หมั้นคนนี้เป็นตัวแทนของผู้ล่วงลับ

จิตใจของแม่เฒ่าช่างซับซ้อนนัก แม้ว่าจะปฏิบัติต่อคิซาระประหนึ่งคนรักแต่กลับผลักไสมาให้ลูกและหลาน หึ...หากว่าไม่ต้องการจะทำลายทิ้งไปก็คงได้สินะ อยากจะรู้จริงๆ ว่าจะเมินเฉยหรือออกมาปกป้องกันแน่

พริบตานั้นไคยะเคลื่อนไหวด้วนความเร็วคว้าลำคอขาวของคิซาระแล้วยกขึ้นแรงบีบหนักหน่วงสร้างความทรมานให้คู่หมั้นสาวจนแทบขาดใจ มั่นใจว่าความเร็วของตนเองนั้นมีมากกว่าเทเรซ่าดังนั้นถึงจะแค่ชั่วเสี้ยวคิซาระก็เกือบจะคอหักไปแล้วจริงๆ

ทว่าเทเรซ่าใช้สันมือซึ่งเคลือบไว้ด้วยพลังมืดอันคมกริบตัดแขนไคยะ ผู้นำสูงสุดแห่งเผ่าแวมไพร์ขจัดท่อนมือซึ่งหลุดออกจากแขนของไคยะให้คลายการบีบรัดลำคอคิซาระก่อนจะทำลายอุ้งมือนั้นทิ้งไปด้วยเปลวไฟสีดำ

“แกคิดจะทำอะไร” เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเทเรซ่ามีสีหน้าดุดันเอาเป็นเอาตาย ไคยะแสยะยิ้มชอบใจ ชายหนุ่มงอกมือใหม่ออกมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่รู้สึกเจ็บซักนิด

“ถ้ามันไม่สำคัญจนถึงกับต้องยกให้ฉัน ในเมื่อมันเป็นของฉันแล้ว ฉันจะลงโทษบดขยี้ยังไงก็ได้นี่”

“แก...” เทเรซ่ากัดฟันกรอด ในสายตาของเรน เขารู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันชักจะยังไง ทว่าคิซาระจมอยู่ภายในอ้อมกอดของคุณย่า ดังนั้นจึงอนุมาณและได้ข้อสรุปว่าคุณย่าคงมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับยัยคิซาระจากคำพูดของไคยะ

“ว่ายังไง ยัยนี่เป็นตัวการทำให้หลานชายคนหนึ่งต้องเกือบตาย จะจัดการยังไง” เทเรซ่าเหลือบมองฮินาตะที่สลบอยู่ในอ้อมแขนเรน แล้วเหลือบมองอีธานที่ลอยเคว้งในอากาศและถูกหยุดเวลาเอาไว้

“คิซาระเธอเป็นคนออกคำสั่งอีธานรึ”

“ไม่นะคะท่านเทเรซ่า ฉันเปล่า ได้โปรดเชื่อฉันเถอะค่ะ อีกอย่างคนอย่างอีธานต้องไม่ทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้แน่ๆ”

คิซาระเชื่ออย่างนั้น แม้ว่าความเป็นจริงจะรู้ดีว่าอีธานอาจทำลงไปเพื่อเธอจริงๆ เลวร้าย เลวร้ายที่สุด สำหรับเธอเรื่องที่เสียใจที่สุดคือหากท่านเทเรซ่าเกลียดชังเพราะเหตุการณ์นี้ขับไล่เธอไปสู้ยอมตายเสียดีกว่า

 “หากว่าท่านเทเรซ่ารังเกียจฉันแล้วก็ได้โปรดฆ่าฉันทิ้งเสียเถอะค่ะ”

คิซาระหลับตา หยาดน้ำใสหลั่งรินจากสองตาจนเปรอะเปื้อนใบหน้า เธอยอมตายดีกว่าถูกเกลียด ไม่มีใครรู้ว่าเทเรซ่าคิดอย่างไร ทว่าผู้นำเผ่าแวมไพร์กอดรัดคิซาระแน่นขึ้นอีก ในดวงตาเต้นระริกบอกชัดว่ากำลังสับสน

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นนี่ไคยะ ท่านแม่” เสียงแหบพร่าคุ้นเคยทำให้ไคยะต้องเดาะลิ้น แฮร์โรลปรากฏตัวขึ้นในสถานการณ์ที่เขาเกือบจะชนะอยู่แล้ว

“ตายแล้วคุณอีธาน” มินาโกะหวีดร้องเบาๆ เมื่อเห็นสภาพอีธาน กับผู้สวามิภักดิ์คนนี้เธอรู้สึกดีด้วยอยู่มากเพราะหลายครั้งที่คนคนนี้ทำดีกับเธอ ดังนั้นเมื่อเห็นสภาพราวกับผ้าขี้ริ้วจึงรีบเข้ามาดูอาการ

“ไคยะนี่มันอะไรกันลูก”

“ถามคิซาระดูสิ” ไคยะสะบัดหน้าไปทางคิซาระที่เนื้อตัวสั่นเทา

“เกิดอะไรขึ้นครับท่านแม่” แฮร์โรลถามเทเรซ่าซึ่งมีท่าทีดุดันผิดปกติ

“ว่าไงแม่เฒ่า ยังอยากยกดวงใจให้เป็นสมบัติของฉันอยู่อีกไหม”

“พูดอะไรน่ะไคยะ” แฮร์โรลถามด้วยความสับสน นี่หรือว่าลูกชายคนโตจะทะเลาะกับคิซาระและท่านแม่

“ถ้าว่ายังอยากยกให้ฉันอยู่ ฉันจะขยี้ซะ เพื่อฮินาตะ จะขยี้ทั้งข้ารับใช้ทั้งเจ้านายให้แม่เฒ่าดู”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะไคยะ กล้าดียังไงถึงพูดจาแย่ๆกับคุณย่าอย่างนี้ กลับขึ้นไปบนห้องเสีย เรื่องไม่ถูกต้องของแกกับคิซาระพ่อกับคุณย่าจะช่วยตัดสินให้เอง...มินาโกะ พาลูกชายตัวดีกลับห้องไปสิ”

“ไคยะกลับห้องพักเถอะลูก” มินาโกะแตะมือเข้าที่แขนของไคยะ ชายหนุ่มแสยะยิ้มส่งไปยังเทเรซ่า

“จะยอมถอยให้ก็ได้ แต่ถือว่าเป็นคำเตือนนะแม่เฒ่า อยากได้อย่างไหนตัดสินใจให้ดี”

เมื่อยอมล่าถอยไคยะเดินไปยังห้องพักส่วนตัวโดยมีเรนที่อุ้มฮินาตะกับมินาโกะตามไป ทันทีที่ไปถึงห้อง ผู้เป็นแม่ก็เริ่มต้นซักถาม

“หนูเรนทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะจ๊ะ”

เรนวางฮินาตะลงบนเตียง เริ่มต้นเล่าเรื่องราวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุด ยิ่งเล่าเรื่องราวยิ่งสลับซับซ้อนมากขึ้น มินาโกะไม่เพียงไม่แปลกใจ แต่ยังเหลือบมองลูกชายคนโตเป็นระยะๆ

“เลยตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันสามคนตลอดไปอย่างนั้นหรือ”

เรนฉีกยิ้มกว้าง ถึงแม้จะเล่าเลี่ยงๆ ไม่ได้บอกทั้งหมด แต่คุณน้าช่างฉลาดเหลือเกิน คงประติดประต่อเรื่องราวได้ ไคยะเลิกคิ้วด้วยท่าทีสนอกสนใจในความเยือกเย็นของแม่

 “คนเป็นแม่จะไม่รู้ได้ยังไง ว่าลูกชายของตนเองสองคนรักใครชอบใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นผู้ใหญ่ผ่านร้อนหนาวมาก่อนมีเด็กมาตกหลุมรักลูกตัวเองก็ต้องรู้อยู่แล้ว” มินาโกะนั่งลงบนเตียงลูบไล้เสี้ยวหน้าฮินาตะเบาๆ

               “คุณน้า/คุณแม่คงไม่ขัดขวางใช่ไหม” เรนกับไคยะพูดขึ้นพร้อมกัน สองหนุ่มมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย มินาโกะส่งยิ้มอ่อนโยนให้เด็กสองคน

               “แม่ก็เลี้ยงได้แต่ตัวเท่านั้น สำคัญคือฮินะต่างหากที่จะยอมพวกหนูไหม หากว่าฮินะไม่ยอมแม่จะขัดขวาง แต่แม่ก็เอาใจช่วยหนูสองคนนะ...เรนน้ารู้ว่าหนูต้องฟันฝ่ามากมายเพื่อฮินะ น้าขอบใจมากนะ ส่วนไคยะ แม่จะไม่พูดว่าความรักของลูกมันผิด อันที่จริงศีลธรรมสำนึกแบบมนุษย์แม่ได้ทิ้งไปตั้งแต่ตัดสินใจจะเป็นภรรยาของแฮร์โรลแล้ว ดังนั้นของแค่พวกลูกมีความสุขแม่ก็มีความสุข”

               เมื่อคนเป็นแม่เปิดทางโล่ง สองหนุ่มก็สบายใจยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าไคยะจะไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไงอยู่แล้วก็ตาม แต่สำหรับเรนการที่คุณน้ายอมรับเขาแบบนี้มันทำให้ดีใจมากๆ เป็นอย่างนี้แล้วก็เหลือแค่คุณอาเท่านั้น

               “หนูเรนแฮร์โรลไม่ใช่คนพูดยาก เขาต้องเข้าใจความรักที่หนูมีต่อฮินะแน่ๆ แต่...” มินาโกะหันไปสบตากับไคยะ เธอรู้สึกสงสารลูกชายคนโตเสียเหลือเกิน

               “แฮร์โรลเป็นพวกหัวดื้อ...ไคยะลูกต้องฝ่าฝันเอาซักหน่อยนะ” ไคยะผงกหัวรับ รอฟังว่ามินาโกะจะพูดอะไรต่อ

               “แล้วก็ คุณอีธาน แม่เข้าใจว่าคนคนนั้นคงทำผิดอะไรซักอย่าง แต่ว่าสมัยแม่ยังเด็กเขาช่วยแม่เอาไว้มาก ดังนั้นแม่ไม่อยากให้เขาต้องตาย....แม่รู้ว่ามันคงไม่สาสมแม่เองใช่ว่าจะรู้เรื่องดี เอาเถอะสำหรับเรื่องนี้แล้วแต่ลูกจะตัดสินใจแม่จะไม่ยุ่ง”

               จากนั้นทั้งสามคนก็สนทนากันต่อด้วยเรื่องราวต่างๆ ในที่สุดฮินาตะก็ตื่นขึ้น การที่ลืมตาแล้วพบว่ามีคนหลายคนอยู่ด้วยทำให้ตกใจอยู่มาก

               “เอ่อ...แม่มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”

               “พึ่งมาถึงเดี๋ยวนี้เองจะ มากับพ่อเราด้วยนะ”

               “อ๋อ...” ฮินาตะอยากจะถามไคยะกับเรนใจแทบขาดว่าแล้วอีธานล่ะ สลบไปไม่เท่าไหร่ทำไมทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ จังหวะนั้นเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ดังขึ้น

               “ไคยะ ฮินาตะ ลงไปคุยกับพ่อที่ด้านล่างหน่อย” แฮร์โรลเยี่ยมหน้าเข้ามา ตอนนี้เองที่นึกขึ้นได้ “เรนด้วยนะอามีเรื่องจะคุยด้วย”

               คนทั้งหมดลงไปยังห้องนั่งเล่นด้านล่าง แฮร์โรลมีสีหน้าอึดอัดใจพักหนึ่งก่อนจะเริ่มพูด

               “อีธานจะถูกเนรเทศและลบความทรงจำทั้งหมด อาจจะคิดว่าไม่สาสมกับการกระทำ แต่ความดีความชอบที่เขาทำมาตลอดทำให้ได้รับการลดหย่อนโทษ” แฮร์โรลดูท่าทีของเหล่าลูกชายทั้งสอง เมื่อทุกคนนิ่งสงบค่อยโล่งใจขึ้น

               “สำหรับคิซาระ คู่หมั้นของลูกไม่ได้ทำผิดอะไร ดังนั้นจึงไม่ใช่เหตุผลที่ลูกจะกล่าวโทษ พ่อรู้ว่าลูกเป็นห่วงน้องชาย แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนเหตุและผล ยังไงเสียไคยะลูกอย่าลืมไปปลอบขวัญคิซาระด้วยนะ” กล่าวจบแฮร์โรลก็หันไปฉีกยิ้มกว้างให้เรน

               “เรนอายินดีด้วยนะที่ได้เรนเข้ามาเป็นพวกเดียวกัน การที่เรนเป็นแวมไพร์ชั้นสูงซึ่งมีเพียงแค่สองตนเท่านั้น อาจจะทำให้ต้องเรียนรู้หนักหน่อย แต่ฝากดูแลฮินะด้วยนะ จากนี้ไปท่านย่าเทเรซ่าอนุญาตให้เรนอาศัยอยู่ที่รังลับทุกแห่งของผู้นำได้ เรื่องของเผ่าเราค่อยๆ เรียนรู้ไปไม่ต้องรีบนะ”

               “ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวนะครับ” ไคยะคว้ามือฮินาตะจูงเดินนำไป ดังนั้นเรนจึงต้องรีบตามติด เลยกลายเป็นว่าสามคนเดินจากไปอย่างสนิทสนม สร้างความประหลาดใจให้แฮร์โรลอย่างยิ่ง

               ระหว่างที่สืบสวนความจริง เหมือนว่าท่านแม่ อีธานและคิซาระจะปิดบังอะไรเขาอยู่ ความไม่รู้ของเขาถูกอีธานเย้ยหยัน เขาไม่ถือสา ทว่าแม้แต่ท่านแม่ยังส่งยิ้มดูแคลนมาให้ด้วยอีกคน

               การตัดสินโทษครั้งนี้ แฮร์โรลเป็นแค่ผู้ฟัง ทว่าเพราะอะไรอีธานถึงต้องลงมือกับฮินาตะด้วย ผู้สวามิภักดิ์คนนี้เอาแต่ยืนกรานว่าตนเองลงมือทำเพราะไม่ชอบใจฮินาตะเป็นการส่วนตัว

               อีธานที่ใจดีและยุติธรรมคนนั้น คนที่เก็บอารมณ์และไม่เคยถือสาใคร เด็กนั่นจะโกรธได้ก็แค่เวลาคิซาระเสียใจเท่านั้น ฮินาตะไปทำร้ายจิตใจคิซาระอย่างนั้นหรือ มันยังไงกันแน่

               แล้วคำพูดประหลาดที่ไคยะพูดล่ะ คำพูดประหนึ่งขู่ท่านแม่ ยกดวงใจให้เป็นสมบัติอย่างนั้นหรือ คิซาระผู้น่าสงสารดูเหมือนว่าทั้งเขาทั้งลูกชายคนโตจะไม่ชอบน้องผู้นี้ แต่จะมีใครอีกที่เหมาะสมจะผูกพันธะนิรันดร์กับไคยะ ไคยะเองก็ไม่ได้มีใครในใจไม่ใช่หรือ

               รู้ตัวอยู่ว่าไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความผิดที่เคยกระทำต่อคิซาระแฮร์โรลก็อยากชดใช้ให้ ยิ่งน้องน้อยมีท่าทีรักใคร่ในตัวไคยะ เขายิ่งไม่อยากให้คิซาระต้องผิดหวังซ้ำสอง

               ดวงใจของท่านแม่อย่างนั้นหรือ คิซาระเป็นดวงใจของท่านแม่ เรื่องนี้ใช่ว่าเขาจะปิดหูปิดตา การที่เขาต้องหนีไปยังบ้านเกิดของมินาโกะ นั่นเป็นเพราะเหตุผลนี้ด้วยเช่นกัน เขาอยากให้คิซาระสมหวังเลยตีจาก

               ทว่ามันก็นานมาแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนคิซาระจะทุ่มเททุกอย่างให้ไคยะไม่ใช่หรือ นั่นก็ถือว่าดีแล้ว หากยังดื้อดึงจะชิงชัยกับท่านพ่อผู้ล่วงลับ คิซาระย่อมไม่มีทางชนะง่ายๆ ท่านแม่ไม่เคยลืมท่านพ่อไปจากใจ เขารู้แต่ก็ยังปล่อยให้ท่านแม่เล่นสนุกกับน้องน้อย ความรู้สึกนี้คงจะลบล้างไปจากใจแฮร์โรลได้เมื่อเธอได้สมหวังกับไคยะที่เป็นรักใหม่ของเธอ



...



เป็นหวัดงอมแงมเลย นี่พยายามเขียนแต่สภาพไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ เศร้ามาก

ตอนหน้าอาจจะช้ากว่าที่ลงปกติซักหน่อยคือรอหวัดหาย



ปวดหัวมึนไปหมดโอ๊ยน้ำมูกนี่จัดเต็มบอกเลยเขียนไปน้ำมูกย้อยไป น่าอนาถสุดๆ



เม้นเป็ฯกำลังใจกันบ้างน้า


ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: vampire kiss บทที่25 p2 22/11/60
«ตอบ #35 เมื่อ22-11-2017 18:08:00 »

บทที่25

เวลานี้เลยกลายเป็นว่าพวกเขาสามคนจับกลุ่มสุมหัวกันอย่างสนิทสนม เนื่องจากว่าคุณย่าไม่มีเวลาว่างจะสอนความรู้เกี่ยวกับการเป็นแวมไพร์อีกต่อไป หนึ่งอาทิตย์มานี้ผู้ที่ให้การศึกษาเขากับเรนจึงเป็นไคยะนั่นเอง

พวกเขารวมตัวกันอยู่ในห้องรับแขกที่สองการที่ไม่ไปแออัดกันในห้องรับแขกประจำนั่นก็เพราะว่าคุณย่ากับคุณพ่อต่างก็ใช้ที่นั่นเป็นที่หย่อนใจ

“ไม่เข้าใจจริงๆ ทั้งที่นายเรียนรู้ล่วงหน้าไปก่อนอากาสึกินานโข แค่เรียกใช้ค้างคาวเงาทำไมถึงทำได้ยากนัก”

 ไคยะขมวดคิ้วเข้าหากัน ว่ากันตามตรงเขาไม่พอใจกับความคืบหน้าได้ช้าของฮินาตะเสียเท่าไหร่

“อย่าเข้มงวดนักเลยน่า หากฮินะทำไม่ได้เดี๋ยวผมจะช่วยฮินะทบทวนเอง...แบบสองต่อสองนะ”

เรนแสยะยิ้มให้ไคยะ ทำเอาคู่แข่งคิ้วกระตุกแผ่รังสีคุกคามออกมาชัดเจน แต่เรนใช่ว่าจะกลัว

“จริงนะนายจะสอนฉันจริงๆ นะเรน” ถ้าให้เลือกระหว่างไคยะที่แผ่รัศมีเยือกเย็นทุกครั้งที่เขาทำพลาด คนใจดีอย่างเรนน่าจะอดทนความเชื่องช้าของเขาได้มากกว่า ทว่า....ผลที่ได้ไม่ต่างกัน

“ฮินะ...ทำไมถึงได้ซื่อบื้อจัง...อุ๊บ” เรนใช้มืออุดปากตัวเอง แน่ใจนะว่าทัน ฮินาตะไหล่ตก ส่วนไคยะหัวเราะชอบใจ

“วันนี้เราพักกันก่อนไหมฮินะ ตามจริงแปลสภาพพลังเวทย์เป็นสัตว์รับใช้มันก็ยากอยู่”

“ไม่ นายยังทำได้ง่ายๆ เลย”

เรนยิ้มกับตัวเอง อดไม่ได้ที่จะหันไปสบตากับไคยะ ฝ่ายนั้นก็ยิ้มเหมือนกัน ต่างคนคงต่างรู้นิสัยมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ของฮินะดี เป็นนิสัยที่น่ายกย่องแต่ก็ชวนให้เป็นห่วงเกรงว่าจะทำเกินตัวเสียจริงๆ ในที่สุดหลังจากผ่านไปอีกชั่วโมงฮินะก็ทำสำเร็จ

“เป็นไง ฉันทำได้แล้วนะ” ฮินาตะยิ้มกว้าง ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ ไม่คาดคิดว่าจู่ๆ ไคยะจะรวบเอาเขาไปกอดแล้วแนบจูบลงมาบนริมฝีปาก

“ให้รางวัล” ไคยะยกยิ้มมุมปาก ฮินาตะอ้าปากพะงาบๆ ทำอะไรไม่ถูก จังหวะที่จะแหกปากโวยวาย เรนบิดคางเขาให้หันไปอีกทางประทับจูบลงมาราวกับจะไม่ยอมแพ้

บ้าเอ๊ย...หลายครั้งแล้วนะถูกสองคนแข่งกันโอ้โลมด้วยจูบและฝ่ามือร้อนผ่าว จริงๆ แล้วเขาควรจะปฏิเสธผลักไส ทว่าไม่รู้ทำไมร่างกายมันไม่ทำตามใจคิดเลยซักครั้ง

“อื้อ...อา....” ฮินาตะสะดุ้งโหยงเมื่อไคยะบดบี้ยอดอกผ่านเสื้อผ้า เรือนกายไม่รักดีตอบสนองมือของพี่ชายด้วยการแอ่นอกตามติดปลายนิ้วมือ เวลานี้ทั้งเรนและไคยะต่างสลับกันมอบจูบให้โดยไม่เว้นว่างกันเลยแม้แต่นาที

“พอ...พอ..แล้ว” ฮินาตะใช้สติสัมปชัญญะที่เหลือน้อยนิด ผลักไสคนสองคนให้ออกจากตัวก่อนจะวิ่งไปหลบที่หลังโซฟาตัวยาว

“ทำไมทั้งสองคนถึงต้องเลือกจู่โจมพร้อมกันด้วย”

เหมือนพูดอะไรไม่ถูกสถานะการณ์ออกไปอยู่นะ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ไคยะกระตุกยิ้มส่วนเรนกล่าววาจาเย้าแหย่ออกมา

“งั้นหมายความว่าถ้าเข้าหากันที่ละคนก็ได้สิ” เรนหัวเราะชอบใจ ฮินาตะตัวแข็งทื่อเป็นหิน

“มาคุณไคยะ มาจับฉลากกันว่าใครจะได้อยู่กับฮินะก่อน เอาเป็นคนละสัปดาห์ดีไหม”

ฮินาตะอยากจะกรีดร้องเสียงดัง แต่คิดอีกทีพี่ชายย่อมไม่มีทางเล่นอะไรบ้าๆ กับเรนแน่นอน ได้ข้อสรุปเช่นนั้นเด็กหนุ่มก็ยิ้มออกมาได้บ้าง แต่ก็ผิดคาด

“ฉันไม่ชอบจับฉลาก เอาเป็นเล่นหมากรุกเป็นไง เงื่อนไขคือคนละหนึ่งเดือน”

“นานขนาดนั้นเชียว คุณจะทนได้เหรอ...” เรนยิ้มหยามหยัน

ฮินาตะเดินไปทรุดนั่งบนโซฟาราวกับร่างไร้วิญญาณ หมดอาลัยตายอยากต่อการกระทำของผู้ชายสองคนที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะเป็นคนแบบนี้ แต่ว่าถึงจะจับฉลากหากเขาไม่ยอมใครจะทำอะไรได้

“ถึงจะจับฉลากแต่ถ้าไม่ยอมเสียอย่างพวกนายสองคนก็บังคับฉันไม่ได้”

ตอนนั้นเองที่ผู้ชายหื่นๆ สองคนหันมาพร้อมกัน ทั้งคู่ก้าวเดินเข้ามาตรงหน้าเขาคนหนึ่งลดตัวนั่งลงข้างๆ อีกคนคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า

“ฮินะ เรารักฮินะจริงๆนะ เพราะฉะนั้นโปรดอย่าผลักไสเรา ฮินะรับรักเราแล้วไม่ใช่หรือ ได้โปรดอย่าเล่นตลกกับความรู้สึกของเราเลยนะ”

 ไม่พูดเปล่ายังซบใบหน้าลงบนไหล่ก่อนจะช้อนสายตาเศร้าซึมคลอน้ำตาขึ้นมาในระยะประชิดสองแขนกอดเอวเขาไว้แน่นราวกับเด็กน้อยที่ออดอ้อนมารดา

ฮินาตะหมั่นไส้อยากจะผลักออกนัก “คนหื่นกามอย่าง....” สะดุ้งตกใจเมื่อพี่ชายที่คุกเข่าเบื้องหน้าจุมพิตลงบนหลังมือของเขา ฮินาตะขนลุกเกรียว ไคยะเป็นบ้าไปแล้ว

“ฉันไม่เหมือนอากาสึกินะ เห็นอย่างนี้ฉันก็ทนุถนอมคนที่รักมาก หากนายยอมเป็นของฉันแล้วล่ะก็ ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายมีความสุข”

“ไม่น้า...” เรนโผเข้ากอดรัดฮินาตะแนบแน่นพร้อมทั้งถูไถใบหน้าเขากับแก้มของเด็กหนุ่มอย่างหนักหน่วง

“เราเองก็ทุ่มเทให้ฮินะได้เหมือนกัน ทั้งบนเตียงทั้งนอกเตียง”

“ผ..ผีเข้าเหรอ..หยุดนะเรน...” พยายามผลักไสเรนออกไป แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพี่ชายจะเอากับเขาด้วย

“ในเมื่อนายอยากจะแข่งกับฉันนักล่ะก็อากาสึกิ ฉันก็มีสิทธิที่จะเข้าร่วมด้วยอย่างเท่าเทียม”

ไคยะขยับเข้าหาฮินาตะ ตอนนี้เลยกลายเป็นถูกบีบอัดตรงกลางเป็นแซนวิช แล้วก็เข้าอีหรอบเดิมทั้งสองคนผลัดกันจูบแย่งอากาศหายใจจากร่างบาง ไม่ไหวรู้สึกดีจนจะล่องลอยเสียให้ได้

“ข้อร้องล่ะ....อื้อ....หยุดก่อน....”

ทั้งสองคนยอมหยุดตามคำขอ ฮินาตะหอบหายใจหนักทั้งร่างกายก็อ่อนระทวยจนต้องเอนหลังพิงอกของไคยะ

“ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่” ไม่เข้าใจเลยทั้งที่ก่อนหน้านั้นเหมือนจะเกลียดกันอยู่ แต่คราวนี้กลับสามัคคีกันรุมเล่นงานเข้าตลอดเวลาที่สบโอกาส

“เข้าเรียกว่าผลประโยชน์ร่วม” ไคยะหอมแก้มฮินาตะแผ่วๆ

“ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจเท่าไหร่ก็เถอะนะ” ครั้งนี้เรนก้มลงมาจูบที่แก้มของเขาบ้างราวกับจะให้เท่าเทียมกัน

สังหรณ์ไม่ดีเลย เวลานี้ทั้งสองคนระดมจูบตามใบหน้าเรือนร่างของเขาไม่หยุด เสียตัว คิดได้เท่านี้ฮินาตะก็หน้าซีดเผือด

“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...” ไม่ทันแล้ว เรนรูดซิปกางเกงเขาลงส่วนไคยะก็เลิกเสื้อของเขาเผยให้เห็นแผ่นอกนวลเนียนและยอดอกสีหวาน

แย่ล่ะ แย่ล่ะสิ

“ที่ทำแบบนี้เพราะทั้งสองคน อื้อ...” ครางฮือเพราะฝ่ามือที่นวดเคล้นทั้งบนและล่าง

“ถ้าทั้งสองคนรักฉันก็ให้เวลาฉันเตรียมใจก่อนไม่ได้หรือไง”

คิดว่ายังไงตนเองก็คงไม่รอดแน่ๆ หากว่าถูกรุกเร้าจากสองคนพร้อมกันแบบนี้ เขาจะหนีไปไหนได้ คนหนึ่งก็พี่ชาย อีกคนก็เพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียว ทั้งสองเป็นเหมือนดวงดาวที่โคจรรอบตัวเขาจนเหมือนกับจะขาดไปไม่ได้

ระยะหลังมานี้ฮินาตะพึ่งมาตระหนักอย่างจริงจัง แม้ว่าจะตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าไม่เลือกใคร แต่กลายเป็นว่าทั้งสองคนไม่สนใจอีกแล้วเรื่องใครจะถูกเลือก การกระทำจากหลายๆ ครั้งทำให้มั่นใจอย่างนั้น

“ฮินะคงจะไม่ได้คิดหนีใช่ไหม” เรนเงยหน้าจากเครื่องเพศของเขาแล้วหรี่ตามองมา แววตาเหมือนสัตว์นักล่าจริงๆ

“คุณไคยะบอกฮินะไปสิ ว่าเราคิดยังไง”

“ฉันคิดว่าทางที่ดียอมเราเสียดีกว่า ฉันนะไม่เท่าไหร่ แต่สัตว์ป่าเลี้ยงไม่เชื่องอย่างอากาสึกิฉันคงคุมไม่ไหวหรอกนะ”

“พวกพี่จะใจร้าย บังคับขืนใจฉันได้จริง นะหรือ” ฮินาตะเสี่ยงสั่น คิดถึงอนาคตข้างหน้า มีแต่คำว่าตกหลุมกับหนีไม่พ้นวนเวียนอยู่ในหัว

“เป็นความผิดของนาย/ฮินะ ที่น่ารักเกินไปนั่นแหละ” ทั้งสองคนยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะแนบจูบลงมาที่แก้มซ้ายขวาคนละจุดพร้อมกัน

“รักนะ” สองเสียงประสานกัน ฮินาตะหลับตาลง คิดปลงคงจะหนีไม่พ้นอีกแล้ว กระนั้นในใจลึกๆ กลับผ่อนคลาย แม้ว่าการถูกรุกเข้าหาสองคนมันออกจะไม่ปกติก็ตามที สุดท้ายเด็กหนุ่มก็ปล่อยให้ทั้งสองทำตามใจชอบ โชคดีที่ทั้งสองคนยังอ่อนโยนและไม่ตามน้ำถึงที่สุด

โดยไม่มีใครรู้ แฮร์โรลผู้เป็นพ่อ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ด้วยค้างคาวตัวแทนที่บินสอดแนมอยู่นอกหน้าต่าง นี่สินะคือเหตุผลที่คิซาระเอาแต่เศร้า ไม่ใช่แค่เรื่องที่อีธานต้องจากไป เรื่องชู้สาวระหว่างพี่น้องเป็นจุดเริ่มต้นความบาดหมางทั้งหมด

               นอกจากนั้นเรื่องที่ประหลาดใจเกินไปกว่าที่คาดคือความสัมพันธ์สามคนของเด็กๆ ฮินาตะรักไคยะอย่างนั้นรึเขาไม่เคยสังเกตมาก่อน แต่ว่าถึงจะรักแค่ไหนก็ยังมีเรนอยู่นี่ ดังนั้นถึงจะพลาดหวังจากไคยะไปก็ยังมีคนคอยปลอบโยนอยู่ไม่ใช่หรือ

               ยังไงก็แล้วแต่ต้องทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ไคยะเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้วควรจะรู้และตัดสินใจได้ว่าอะไรถูกอะไรควร คงต้องหาเวลาพูดกับลูกชายคนนี้ซักครั้ง แล้วก็ต้องปรึกษากับท่านแม่ด้วยเหมือนกัน เรื่องวุ่นวายเช่นนี้ แฮร์โรลคิดไว้แล้วต้องทำเช่นไรจึงจะดีต่อทุกๆ ฝ่าย

...



ขอโทษที่เขียนได้น้อยกว่าโควต้าปกติน้า คือยังไม่หายดีเบย นี่หยุดอยู๋บ้านมาสองวันละ



นึกขึ้นได้ว่าน่าจะถึงเวลาเขียนแล้วอัพ แฮ่ๆๆ



ใกล้จะจบแล้วน้า ฮึบๆๆๆๆ เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: vampire kiss บทที่26 p2 25/11/60
«ตอบ #36 เมื่อ25-11-2017 20:21:47 »



บทที่26

               คนเราจะไม่รู้สึกตัวว่าอะไรคือสิ่งสำคัญจนกว่าจะขาดมันไป สำหรับคิซาระก็คืออีธาน หลังจากคนสนิทถูกลบความทรงจำโดยไม่ลังเลเธอเข้าหาคนที่เคว้งคว้างไร้สิ่งยึดเหนี่ยวด้วยการตีสนิทแล้วเสนองานให้ทำ

               การสูญเสียอีธานไปอย่างกะทันหันทำให้เธอรู้ใจตัวเองจนได้ แม้ว่าท่านเทเรซ่าจะสำคัญแต่คนที่ค้ำจุนจิตใจเธอเสมอมาคือคนสนิทคนนั้นอย่างแน่นอน คราวนี้เธอจะไม่ยอมพลาดอีก เพียงแต่ใช่ว่าจะมีสิทธิตัดสินใจด้วยตัวเอง

               “พี่ขอโทษจริงๆ นะคิซาระ เรื่องของไคยะ”

               แฮร์โรลพูดกับคิซาระด้วยใบหน้าหม่นหมอง นี่คงรู้แล้วละมั้งว่าไคยะกับฮินาตะมีความสัมพันธ์กันแบบไหน

               “ท่านแม่ คิซาระ ไม่ว่าจะยังไงผมจะต้องให้ไคยะผูกพันธะนิรันดิ์กับคิซาระให้ได้”

 สำหรับแฮร์โรลที่ยึดมั่นถือมั่นเช่นนี้เพราะไม่ต้องการให้คิซาระเจ็บปวดอีก นอกจากนั้นเรื่องระหว่างพี่น้องไม่ว่าจะยังไงต้องเป็นการเข้าใจผิดกันไปเองบางอย่าง พี่น้องจะรักกันได้อย่างไร การหลงผิดครั้งนี้คงจะแก้ได้หากไคยะผูกพันธะนิรันด์กับคิซาระ

               ทว่าคิซาระไม่ต้องการอีกแล้ว ขณะที่พยายามจะอ้าปากพูด ท่านเทเรซ่าหัวเราะเสียงกังวานด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์มาดร้ายทำให้เธอไม่กล้าพูดในสิ่งที่คิด ท่านเทเรซ่ามีแผนการหากเธอต่อต้านเรื่องของอีธานอาจจะ....

               “เอานี้ไปผสมให้ไคยะกินพร้อมเลือดของแกแล้วไคยะมันจะเชื่อฟังแกทุกประการ”

ท่านเทเรซ่ายื่นยาสูตรลับชุดหนึ่งให้แฮร์โรล ดวงตาของท่านผู้นั้นวาวโรจน์ บ่งบอกถึงอะไรบางอย่างได้ชัดเจน ท่านเทเรซ่าคงขุ่นเคืองไคยะอย่างมาก จึงต้องการเอาชนะแบบนี้

“ไม่ต้องห่วงนะคิซาระ ฉันจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ” ท่านเทเรซ่าลูบศีรษะของคิซาระแผ่วเบา ความเอ็นดูฉายชัดในแววตา

ขอโทษนะคะท่านเทเรซ่านี่เป็นสิ่งที่ฉันตัดสินใจแล้ว

คิซาระกล่าวคำขอโทษภายในใจ พยายามเก็บซ่อนความคิดรวมทั้งการแสดงออกไม่ให้เผยออกไป สิ่งที่เธอจะทำคงไม่พ้นถูกเกลียด แต่ว่ากับคนที่ค้นพบความสุขที่แท้จริงแล้วไม่แปลกใช่ไหมที่จะไขว่คว้ามันเอาไว้จนสุดกำลัง

ค่ำวันนั้นคิซาระส่งค้างค้าวไปหาไคยะ นัดชายหนุ่มออกไปคุยยังสถานที่ลับตา

“เธอเรียกฉันออกมามีอะไรกันแน่”

 ยังคงยะโสเย็นชาเหมือนเดิม แม้ว่าจะดูหยิ่งลำพองแต่กลับดูดีอยู่เสมอ ถึงจะรู้ใจตัวเองดีแล้วก็ตามทว่าอดไม่ได้ที่จะชื่นชมรูปลักษณ์อันสง่างามของไคยะ เธอไม่เคยถือสาความหยาบคายของคนคนนี้เลยทั้งขณะนี้ยังคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ที่พร้อมพรั่งในทุกอย่างเหมาะสมแล้วที่จะมีอุปนิสัยเช่นนี้

“ฉันไม่อยากผูกพันธะนิรันดิ์กับคุณอีกแล้ว”

ไคยะยกยิ้มมุมปาก เขาติดตามการเคลื่อนไหวของคิซาระมาได้ระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนั้นยังช่วยปกปิดความลับของเธอไม่ให้แม่เฒ่ารู้ด้วย ทีแรกตั้งใจจะยื่นข้อเสนออยู่เหมือนกัน แต่เข้าหาเขาเองแบบนี้ก็ทำให้ลดความยุ่งยากลงไปมากทีเดียว

“คิซาระนอกจากอยากอยู่กับอีธานแล้วยังมีอะไรที่ต้องการอีกหรือเปล่า”

คิซาระถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “นึกอยู่แล้วว่าไคยะต้องรู้” เธอไม่อยากจะคิดว่าท่านเทเรซ่าก็อาจจะรู้เช่นกัน

ด้วยสีหน้าที่แสดงชัดไคยะจึงกล่าวปลอบใจเล็กน้อย “ไม่ต้องกลัวไป ฉันทำทุกวิถีทางปิดบังเรื่องของเธอกับอีธานเอาไว้แล้ว”

“จริงสินะ ถ้าไม่มีคนช่วย การรับอีธานเข้ามาทำงานในกลุ่มอำนาจอีกครั้ง ท่านเทเรซ่าก็ต้องทราบแน่ๆ”

คิซาระส่งแววตาซาบซึ้งมาให้ ไคยะทำเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น

“ที่นัดกันนี่คงไม่ใช่แค่เรื่องนี้สินะ”

“แน่นอน ฉันต้องการแลกเปลี่ยนกับคุณ ขอแค่ให้อีธานปลอดภัยสุขสบายและไม่ต้องผูกพันธะนิรันดิ์กับคุณฉันก็พอใจแล้ว”

“ไหนลองเล่ามาทีสิ”

หลังจากได้ฟังเรื่องราวต่างๆ จากปากของคิซาระ ไคยะก็หัวเราะชอบใจ แม่เฒ่านับว่าเดินเกมส์ผิดพลาดไปมากทีเดียว โดยไม่รู้ตัวหมากของตัวเองก็ตกอยู่ในการควบคุมของเขาเสียแล้ว

                ฮินาตะสะดุ้งกายเฮือกหนึ่ง รู้สึกขนลุกกับเสียงขบขันของพี่ชายตัวเอง มาหัวเราะในเวลาที่นัวเนียกอดจูบเขาแบบนี้ คงไม่ใช่ว่าคิดจะทำถึงขั้นสุดท้ายหรอกใช่ไหม

               “หัวเราะน่าเกลียดจริงๆ คงไม่ใช่ว่าคิดทำอะไรเกินหน้าเกินตาใช่ไหมครับ”

เรนหรี่มองดูไคยะ ระยะหลังมานี้อีกฝ่ายดูอารมณ์ดี คงคิดวางแผนอะไรบางอย่าง จากสัญชาติญาณคงไม่ใช่แค่เรื่องเขี่ยเขาออกไปหรือว่าเผด็จศึกฮินะแน่ๆ ดูท่าจะเป็นความลับสำคัญดังนั้นจึงไม่ปูดออกมาแม้แต่น้อย โชคร้ายหน่อยที่เขาเป็นพวกช่างสังเกต

“นี่พอแค่นี้ก่อนได้ไหม ฉันกลัวจริงๆ นะถ้าพ่อกับแม่มาเห็นล่ะก็”

ฮินาตะลอกแลกลนลาน ระยะหลังมานี้ไม่ปฏิเสธว่าตนเองเป็นฝ่ายยอมให้คนพวกนี้โอ้โลม แต่ว่าลึกๆ แล้วยังมีความคิดต่อต้านอยู่บ้าง สาเหตุความขัดแย้งอันหลากหลายหนึ่งในนั้นมีเรื่องของพ่อกับแม่ เพราะเข้าใจว่าการที่ทำเช่นนี้กับพี่ชายนับเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างหนึ่ง

ในขณะเดียวกันกับเรนที่เป็นเพื่อนกลับมีความรู้สึกผิดอันเบาบาง แต่แทนที่ด้วยความหลายใจมากรักของตนเอง บ่อยครั้งที่ต้องทรมานกับเรื่องนี้ หากทว่าทั้งสองคนก็รับเอาความผิดทั้งหมดไป

ถ้าจะให้พูดกันตามตรงมันเป็นความผิดของเขาเองที่เลือกใครไม่ได้ การที่ผู้ชายสองคนยอมลงให้เขาแบบนี้ ถึงแม้จะคิดว่าการล่วงเกินบ่อยครั้งคือบังคับขืนใจ ทว่าก็ยอมรับได้เพราะมันทำให้บาปในใจลดเลือนลง

ฮินาตะรู้ตัวดีว่าผลักบาปและความผิดไปให้พี่ชายและเพื่อน การไม่เลือกเฟ้นซักคนคือบาปแห่งความแพศยา ดังนั้นเมื่อผู้ชายสองคนเลือกที่จะปรองดองกันเพื่อเขา ฮินาตะจึงไม่มีเหตุผลจะต้องเล่นตัวอีกต่อไป

               “ทำหน้าหดหู่ขมวดคิ้วนี่หมายความว่าไงฮินะ” เรนสังเกตเห็นจนได้

               “เปล่านี่”

               “พูดมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นเราคงอยากทำให้ถึงที่สุด แม้ว่าฮินะจะไม่ต้องการก็ตาม”

               สายตาวาววับทำให้ขนลุกซู่ หมู่นี้เรนเป็นเหมือนสัตว์นักล่า ยิ่งนานยิ่งทวีความป่าเถื่อน ไคยะเองก็ไม่ช่วยห้ามเลยซักนิด กลับเอาแต่สนุกที่จะได้ตามน้ำเล่นกับร่างกายของเขา

               “หึหึหึ นั่นสิหากไม่พูดก็ต้องเค้นความจริงกันล่ะนะ ด้วยการทำให้ถึงที่สุดเป็นการลงโทษ”

               ฮินาตะถอนหายใจเฮือกใหญ่

               “ฉันแค่กังวลเรื่องพ่อกับแม่แล้วก็คุณย่า เพราะว่าเราสามคนเอาแต่ระเริงรักกันแบบนี้ ซักวันหนึ่งใครต่อใครคงรู้ความจริงเข้า”

               ไคยะแค่นเสียง ส่วนเรนหัวเราะเสียงดัง ท่าทางของทั้งสองคนดูแล้วคนหนึ่งไม่ใส่ใจส่วนอีกคนเห็นเป็นเรื่องตลก

               “ฮินะ ต่อให้มีคนคัดค้านเรื่องของเรา เราจะไม่ทิ้งฮินะไปไหนจะฟันฝ่าด้วยกัน ไม่คิดบ้างหรือว่าเราทำทุกอย่างจนถึงขนาดนี้ ยังจะยอมสูญเสียฮินะไปอีกหรือ”

               “ถ้าหากว่าฉันยกเลิกพันธะกับคิซาระไม่ได้ นายจะยอมหนีไปกับฉันสองคนไหม”

               “คุณไคยะคงไม่ลืมผมสินะ” เรนแสร้งยิ้มหวาน ไคยะแค่นเสียงเย็นชา

               “ลืมไปว่ามีนายเป็นขี้ปลาทองอยู่”

               “จะว่าอะไรก็ว่าไปเถอะผมไม่สนใจหรอก” เรนแสยะยิ้มท้าทาย

               “ว่าไงนายจะหนีไปพร้อมกับฉันไหม”

               ไคยะอยากจะรู้คำตอบนี้จริงๆ เขาใช้สายตาจดจ้องค้นหาความจริงจากสีหน้าของฮินาตะ ถึงแม้ว่าเจ้าเด็กแสบจะปฏิเสธ ก็ใช่จะหลีกทางให้อากาสึกิ เขาเองเป็นนักสู้ยิ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักจะไม่ถอยเหมือนกัน ก่อนหน้านั้นยาวนานถึงหกปีเป็นการกระทำที่ผิดพลาดไปมากแล้ว มันเกินพอ

               “ถ้าถึงตอนนั้น...” ฮินาตะหยุดคิดแวบหนึ่ง ตอนนี้คิดจริงๆ ว่าไคยะกับเรนสำคัญกับตนเองที่สุดดังนั้นจึง...

               “เราสามคนจะหนีไปด้วยกัน”

               การประกาศเจตนารมณ์ในครั้งนี้ จุดไฟแห่งการต่อสู้ให้กับชายสองคน เรนกับไคยะมั่นใจในที่สุดว่าฮินาตะจะไม่หลุดมือไปไหนแน่ๆ แม้จะยังมีคู่แข่งตำตาให้ขัดเคืองก็ตามที



...



น่าจะอีกตอนหรือสองตอนก็จะจบจริงๆ ละน้า นี่เตรียมเขียนเรื่องใหม่แล้ว อยากจะสามพีอีกเรื่อง555

เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: vampire kiss ตอนจบ p2 27/11/60
«ตอบ #37 เมื่อ27-11-2017 18:25:16 »



บทที่27

               ดูเหมือนว่าพวกผู้เฒ่าในสภาจะเตรียมงานผูกพันธะนิรันดร์ระหว่างเขากับคิซาระเอาไว้แล้วและมันคงจะเริ่มในคืนนี้ ไคยะยอมทำตามเกมส์ของพ่อกับย่าอย่างไม่อนาทร ท่าทางอันไม่เป็นธรรมชาติของแม่คาดเดาได้ว่าคงจะถูกใครหลายคนบังคับให้เป็นผู้ลงมือทำ

               แน่นอนหากว่าพ่อเอาจริงคงสามารถทำทุกอย่างให้แม่ยอมทำตามได้ ดังนั้นการที่ต้องมารวมตัวกันนั่งดื่มชาฝีมือแม่แบบนี้ถึงจะดูไม่มีอะไร แต่ก็เป็นโอกาสเดียวที่พ่อจะวางยาสูตรลับเขาได้

               “อร่อยจัง” หลังดื่มชากุหลาบฝีมือแม่เข้าไปฮินาตะก็ขอเพิ่มอีก จังหวะนั้นจู่ๆ พ่อก็พูดกับไคยะสั่งให้ตามออกไปที่ด้านนอกด้วยกัน เด็กหนุ่มเข้าใจว่าคงเป็นเรื่องสำคัญดังนั้นจึงไม่ใส่ใจอะไร

               หลังจากผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง มินาโกะก็ทนเล่นละครไม่ไหว เผลอพูดความในใจออกมาก

               “ฮินะแม่ขอโทษ”

               ฮินาตะมึนงงไปหมดทำไมแม่ต้องขอโทษด้วย สังหรณ์ไม่ดีบางอย่างดังนั้นจึงไม่สบายใจขึ้นเรื่อยๆ ขณะพูดคุยกับแม่เพื่อเสาะหาความจริง

               “มันอะไรกันครับแม่”

มินาโกะอึกอักชั่วครู่ เธอถูกหว่านล้อมจากสามีให้ทำตามแผน เธอไม่อยากทำแบบนี้แต่ไคยะบอกว่าจะไม่เป็นไร เธอไม่รู้ว่าสองพ่อลูกวางแผนอะไรแบบไหน ทว่าเธอรักทั้งคู่ เธอเพียงแค่ทำตามในสิ่งที่ทั้งสองคนต้องการอย่างเท่าเทียมในฐานะคนกลาง และเธอจะบอกเรื่องทั้งหมดให้ลูกชายคนเล็กทราบ

               “ไคยะพี่ชายของลูกกำลังถูกบังคับให้ทำพันธะสัญญานิรันดร์กับคิซาระที่โบสถ์ แม่รู้ว่ามันผิดที่ยื้อลูกเอาไว้”

               ฮินาตะนิ่งงันไปทันที พี่ชายจะผูกพันธะกับคิซาระ เขาควรจะปล่อยพี่ชายไป เพราะว่าถ้าทำแบบนี้ทุกอย่างจะอยู่ในจุดที่ถูกต้อง ทว่าในใจกลับร่ำร้องอย่างคนเห็นแก่ตัว จังหวะนั้นเรนกุมมือเขาไว้แน่นก่อนจะสบตากัน

               “ฮินะ ถ้ามันทำให้ต้องเจ็บจนถึงขนาดนั้น เราสองคนไปถล่มงานผูกพันธะบ้าๆ นั่นด้วยกันเถอะ”

               “ขอบคุณนะเรน”

               ดังนั้นพวกเขาสองคนก็พากันวิ่งไปที่โบสถ์ในเมือง ไม่มีใครขัดขวางเขาและแม่ไม่ได้ตามมา เมื่อไปถึงที่นั้นดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสายไปเสียแล้ว พวกผู้อาวุโสส่งเสียงร้องด้วยความยินดีในขณะที่ไคยะกับคิซาระแลกกันดื่มหยาดโลหิตอันเป็นการเสร็จพิธี

               แฮร์โรลตกใจเล็กน้อยที่ฮินาตะกับเรนโผล่มาป่วนงาน ทว่ามันก็สายไปแล้ว จากนี้ต่อให้ไคยะกลับมารู้สึกตัว พันธะนั้นจะผูกพันความเป็นตายระหว่างลูกชายคนโตของเขากับคิซาระเข้าไว้ด้วยกัน แต่....

               โดยไม่มีใครคาดคิด จู่ๆ ทั้งคิซาระและไคยะต่างกระอักเลือดออกมาทั้งคู่ ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะต่อต้านการผูกพันธะ สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้อาวุโส รวมทั้งฮินาตะ เด็กหนุ่มกระโจนเข้าหาพี่ชายเพื่อไปดูอาการอย่างใกล้ชิด

               “ไคยะ พี่เป็นอะไรไป”

ฮินาตะไม่รู้จะทำอย่างไรทั้งไคยะและคิซาระต่างสำรอกเลือดออกมาไม่หยุด สุดท้ายเทเรซ่าซึ่งนิ่งอึ้งอยู่นานก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงหยามหยัน

               “ทั้งสองคนไปผูกพันธะนิรันดร์กับใครมา”

แฮร์โรลตกใจกว่าใคร ทว่าหลังจากที่ทั้งสองหยุดสำรอก ไคยะยืดตัวเต็มความสูง กล่าวเฉลยความจริงโดยไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใด ชายหนุ่มยังจำค่ำคืนนั้นได้ดี เหตุการณ์ที่เขาล่อหลอกฮินาตะให้ทำพันธะนิรันดร์กับตนเอง วันที่เขาบอกรักฮินาตะ

               “ฮินาตะยังจำคืนที่เราทำพิธีสาบานรักกันได้ไหม”

               “นั่นมัน” ฮินาตะลืมไปเลย ทำไมเขาไม่ทันคิดนะว่าการกระทำในคืนนั้นมันคล้ายกับพิธีผูกพันธะนิรันดร์ทั้งหมด

               “ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าฉันกับพี่...”

               “วิญญาณของเราสองคนเป็นหนึ่งเดียวกันตั้งแต่คืนนั้นแล้ว”

               เรนฟังแล้วอดจะแค่นยิ้มไม่ได้ คิดอยู่แล้วว่าคนคนนี้ถึงจะยอมให้เขาอยู่ข้างฮินะในฐานะหนึ่งในคนรักได้ตลอดไป แต่ก็คงไม่ยอมมีสถานะต่ำกว่าเขาแน่ๆ อิจฉาและแค้นเคือง รู้สึกอยากชกหน้าไอ้หมอนี่ซักหมัด

               “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” แฮร์โรลรู้สึกเหมือนยังรับไม่ได้ ปราดเข้าหาลูกชายทั้งสองคน ทว่าเมื่อถูกตั้งตัวเป็นปรปักษ์อย่างชัดแจ้งจากลูกชายคนโต ทำให้เขาต้องหยุดยืนห่างๆ

               “ไม่คิดเลยว่าลูกชายคนโตจะมีท่าทีกับพ่อแบบนี้” แฮร์โรลอยากจะทึ้งหัวตัวเองนัก

               “ช่วยไม่ได้นะทั้งแกทั้งฉันตามไม่ทันพวกเด็กๆ มันเอง ที่สำคัญกว่านั้น” เทเรซ่าเชยคางคิซาระให้หันมาสบตา

               “เด็กน้อย เธอผูกพันธะนิรันดร์กับใคร”

               คิซาระตัวสั่นเทา เนื่องจากหวาดกลัวว่าเทเรซ่าจะโกรธ ทว่าแม้จะหวาดเกรงแค่ไหนเธอก็ยังเลือกจะพูดความจริง

               “คนที่ฉันผูกพันธะด้วยคืออีธานค่ะ” เทเรซ่าเลิกคิ้ว หล่อนไม่ใช่คนโง่เพียงคำตอบเท่านี้ก็เดาออกได้ทั้งหมด ผู้นำเผ่าแวมไพร์หัวเราะขบขันจนตัวโยน

               “ร้ายจริงๆ ร้ายนัก พวกเด็กๆ ช่างกล้าหลอกกันได้นะ..ไคยะแกนี่มันกล้าได้กล้าเสียตลอด...”

               “แม่เฒ่าคงเดาได้แล้วสินะว่าฉันเองที่เป็นคนเปลี่ยนอีธานแถมยังฟื้นความทรงจำให้”

               “ไคยะ” แฮร์โรลครางชื่อลูกชายตัวเอง ยอมรับว่าเขาไม่สามารถจัดการอะไรกับพวกลูกชายได้เลย ทั้งยังสับสนที่คิซาระไปผูกพันธะกับอีธาน

               “หึหึ...จะยังมีใครกล้าเป็นศัตรูกับฉันซึ่งๆ หน้านอกจากแกอีกล่ะ” เทเรซ่าแค่นเสียง วินาทีต่อมาสีหน้าก็พลันอ่อนโยนขึ้นหล่อนหันไปพูดกับคิซาระซึ่งเนื้อตัวสั่นด้วยความกลัว

               “ไม่ต้องกลัวไปเด็กดี...” เทเรซ่าลูบหลังปลอบโยนคิซาระ

               “ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอมีใจให้อีธาน”

               “ท่านเทเรซ่า” คิซาระร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร ถึงแม้เธอจะทรยศแต่ท่านผู้นี้ยังเมตตาต่อเธออย่างที่สุด

               “อา...คงจะรู้ตัวหลังจากสูญเสียไปสินะ ไม่เป็นไร ฉันยอมรับให้อีธานกลับเข้ามาอยู่ในกลุ่มอำนาจ...และวันนี้” เทเรซ่าประกาศเสียงดังต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโสและผู้บริหาร “ฉันจะขอลงจากตำแหน่ง ให้ไคยะเป็นผู้นำเผ่าคนต่อไป นอกจากนั้นยังจะให้คิซาระและฮินาตะหลานชายคนเล็กเป็นผู้ช่วยซ้ายขวาของไคยะ”

               ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวขัดค้าน แม้แต่แฮร์โรลยังต้องเงียบเช่นกัน สำหรับคนเป็นพ่อถึงจะไม่เข้าใจต่อสายสัมพันธ์ซับซ้อนของลูกชายสองคน ทว่าจะทำอย่างไรได้ขนาดแม่ของเขายังหลับหูหลับตาปล่อยให้เป็นไป เขารู้สึกเหมือนตัวเองชราลงไปเป็นหมื่นปี ทั้งที่ไม่มีแก่ตัวลงได้

               หลังจากเหตุการณ์นั้นพ่อก็ขอตัวกลับบ้านก่อนแม่เองก็ตามไปด้วย ฮินาตะเข้าใจว่าคงทำใจได้ยากต่อเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น ทว่าก่อนกลับคำพูดของพ่อทำให้รู้ว่าไม่ได้โกรธเคือง

               “พ่อรู้ว่าความรักมันเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้...” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “หากพวกลูกมั่นใจว่าสามารถประคองต่อไปได้ไหว พ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก พวกลูกเองก็โตแล้ว”

               โตแล้ว เป็นคำจำกัดความที่พ่อกล่าวทิ้งท้าย เมื่อได้รับการยอมรับแบบนี้ฮินาตะโล่งใจสุดๆ ความรู้สึกผิดปลดเปลื้องไปจากใจจนหมด

               “หึ...นึกอยู่แล้วว่าคนอย่างคุณต้องมีลูกไม้อะไรลับหลังแน่ๆ “ เรนไม่พูดเปล่ายังกอดรัดฮินาตะเอาไว้แน่น

               “เฮอะ ยังเคืองอยู่อีกหรือไง ได้อยู่ข้างๆ เจ้าเด็กแสบตลอดไปยังไม่พออีกหรือ” ไคยะไม่ยอมแพ้เช่นกัน แถมยังเข้ามานัวเนียฮินาตะด้วยอีกคน ทั้งสองคนกอดจูบลูบคลำจนสยิวกายคิดอะไรแทบไม่ออก

               “ฮินะนั่นแหละที่ผิด จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้นะ” กล่าวจบก็ประทับจูบลงมา ฮินาตะครางเสียงอู้อี้ ในใจคิดว่ามันไม่ยุติธรรม เรนใช้ข้ออ้างนี้รุกเข้าหาเขาโดยไม่ให้ตั้งตัว ยิ่งไปกว่านั้นไคยะเองก็โดดมาร่วมวงด้วยเหมือนทุกที

               “ฮินะ...ได้ไหม...เราอยากเป็นหนึ่งเดียวกับฮินะ”

               ฮินะกลอกตาไปมา ทำมาเป็นถามทั้งที่ปกติมักจะไม่สนใจช่วยกันลวนลามเขาหลายต่อหลายครั้ง

               “ถ้าให้ทำจะเลิกงี่เง่าไหมละ” เรนยิ้มกว้างทันทีที่ได้ฟัง

               “แน่นอนสิ” เรนจัดการปลดกระดุมเสื้อของฮินาตะออกทีละเม็ดคล่องแคล่วเสียจนน่าตี

               “แล้วฉันล่ะ นายจะใจร้ายให้ฉันนั่งดูภาพบาดตาเชียวหรือฮินาตะ”

               ฮินาตะเบ้ปาก มาคิดๆ ดูแล้ว เขาเองก็ถูกโอ้โลมจนนับไม่ถ้วน ยังซักวันก็ต้องมีวันนี้ มาขอดีดี ย่อมดีกว่าถูกบังคับแน่นอน

               “ตามใจสิยังไงพวกนายก็ชอบทำตามใจชอบอยู่แล้ว”

               ไคยะหัวเราะหึหึ จัดการถอดกางเกงของฮินาตะออก ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็เปลือยเปล่า ฮินาตะหน้าแดงซ่านด้วยความอับอาย

               โดยไม่รอช้าไคยะดูดกลืนเครื่องเพศของฮินาตะ ความช่ำชองของชายหนุ่มแทบพาขึ้นสวรรค์ในทันที   

               “ฮินะอย่าเอาแต่สนใจคุณไคยะสิ” เรนไล้เรียวลิ้นไปบนยอดอกจุ๋มจิ๋มน่ารัก ฮินาตะตาพร่าไปหมดถูกเล่นงานทั้งข้างบนข้างล่างทำให้ไม่นานนักก็ทะยานสู่ฝั่งฝัน

               “เร็วจังนะ” ไคยะหัวเราะชอบใจ ฮินาตะอับอายที่สุด นึกขุ่นเคืองที่ไคยะหยอกล้อแบบนี้จึงยกขาขึ้นจะถีบแต่ถูกคว้าจับเอาไว้

               “พอดีเลย”

 ไคยะยิ้มพร้อมทั้งจัดท่าทางฮินาตะเสียใหม่แล้วจัดการเล้าโลมช่องทางเร้นลับบริเวณบั้นท้ายด้วยลิ้นของตนเอง นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกแตะตรงนั้น เด็กหนุ่มไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่เหมือนสายฟ้าฟาดนี้ได้ยังไง

               “ฮินะ นี่ ช่วยเราหน่อยได้ไหม” เรนไม่รอคำตอบสักนิด กลับนำมือของฮินาตะไปกำรอบความใหญ่โตของตัวเองแล้วจัดการบังคับมือให้ชักรูดของๆ ตน

               “ฮินะ...ขยับมือทีสิครับ...นะ...” ถูกขอร้องด้วยแววตาเซื่องซึมรู้อยู่ว่าเล่นละคร แต่ก็เอาเถอะถึงขนาดนี้แล้วเขาไม่คิดจะเล่นตัวอีก ดังนั้นจึงขยับมือเท่าที่แรงจะอำนวย

               “อ๊ะ...” สะดุ้งเบาๆ เมื่อไคยะชำแรกปลายนิ้วเข้ามา ฮินาตะไม่รู้ว่าต้องพบกับความแปลกใหม่อีกซักกี่ครั้งแต่คราวนี้มันรุนแรงกว่าต้อนโดนเลียมาก เพราะทุกครั้งที่กระแทกโดนจุดร่างกายเหมือนจะหลอมละลาย

               “นายก็ได้มือแล้วถ้าอย่างนั้นฉันขอก่อนนะ” ไคยะหัวเราะในขณะที่เรนคำรามอย่างหงุดหงิด ชายหนุ่มค่อยๆ แทรกกายเข้าไปอย่างช้า มือข้างหนึ่งขยับรูดเครื่องเพศของฮินาตะด้วยต้องการให้ลืมความเจ็บขณะสอดใส่

               “อื้อ...” เสียงครางเบาๆ ของทั้งสามคนคลอกันไป ในที่สุดก็เข้าไปได้จนหมด ไคยะเนิบนาบพักหนึ่งก่อนจะโจนจ้วงอย่างป่าเถื่อนด้วยไม่อาจทัดทานอารมณ์ได้อีก

               หลังจากถึงจุดฮินาตะแทบไม่ได้พักเหนื่อย เรนกระซิบขอความเมตตาด้วยเสียงอ่อนหวาน

               “ให้เราเข้าไปนะ” ช่วยไม่ได้ หากไม่เท่าเทียมกันคงมีคนไม่พอใจ ฮินาตะพยักหน้าปล่อยให้เรนทำตามใจชอบ

               ร่างกายถูกโยกคลอนอีกครั้ง ระหว่างนั้นไคยะก็มัวเมาเขาด้วยจูบ สติสัมปชัญญะถูกหลอมละลาย ฮินาตะถูกชักนำไปสู่สวรรค์หลายต่อหลายครั้ง ด้วยความที่เป็นแวมไพร์ความเหน็ดเหนื่อยจึงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ เพลงรักของทั้งสามคนจึงยาวนานตราบเท่าที่ใจต้องการ

               “นี่ฮินะรักเราไหม รักเราบ้างหรือเปล่า” ถูกถามทั้งที่ร่างกายถูกโยกคลอน คนที่ทำเช่นนั้นอยู่คือคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชาย

               “ยังจะถามอีกหรือ นึกว่ารู้แล้วเสียอีก”

               “อยากได้ยินนี่ ไม่ว่ากี่ครั้งเราก็ยังอยากได้ยิน” ไคยะหัวเราะหึหึ เรนถลึงตาใส่อีกฝ่ายทันที

               “นะ...ช่วยบอกทีสิ”

               “อื้อ...รัก.อ๊ะ...รักสิ...ฉันรักนาย” เรนประกบจูบดูดดื่มทันทีที่ได้รับคำตอบ สำหรับไคยะเขาไม่ต้องการคำตอบมากนัก แค่ยอมให้แนบชิดอยู่ด้วยกันตลอดกาล มันก็มากกว่าคำพูดที่ควรจะได้รับแล้ว

               “ฉันก็รักนายนะฮินาตะ” ไคยะกล่าวคำบอกรักก่อนจะโน้มกายแนบจูบบ้างพร้อมกับสอดแทรกถี่กระชั้นรุนแรงในช่วงสุดท้าย

               “อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ” เรนหอมแก้มฮินาตะแทนคำตอบ

               “มันแน่อยู่แล้วฉันไม่ยอมให้เป็นอย่างอื่นแน่” ไคยะเองก็หอมแก้มฮินาตะเช่นกัน

จากนั้นเวลากลางวันกลายเป็นกลางคืนล่วงไปจนกลางคืนกลายเป็นวัน กว่าทั้งสามคนจะพอใจก็เป็นเวลาเกือบอาทิตย์

อืม....ก็แวมไพร์เขาเป็นอมตะเรี่ยวแรงก็ต้องมากมายอยู่แล้วนี่เนอะ



...



คิดว่าจะทำอีบุ๊คขาย คงต้องขอเวลาซักพัก เขียนตอนพิเศษ หาวิธีการทำอีบุ๊ค ไม่เคยทำเลยอ่ะ5555



ตอนนี้เขียนเรื่องใหม่และ อยากให้ตามไปอ่านกันด้วย



ขอบคุณทุกท่านจริงๆที่ตามอ่านตามเม้น มีความสุข ทุกครั้งที่เขียนจบ



คือการเขียนให้จบเป็นเร ื่องยากสำหรับเรา แบบว่านะ คือเซลล์สมองข้าเจ้ามันน้อย



บางทีก็ตันถี่ๆๆๆๆ เขียนจบทีก็มีเฮ้ จบแว้วววววว โอ้ล่า



อย่าลืมติดตามเรื่องใหม่น้า จุ๊บจุ๊บ

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด