-จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑  (อ่าน 168890 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนพิเศษ : วันลอยกระทง

เมื่อมีเวลาว่าง ชลธีมักจะหาเรื่องกลับบ้านอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าเทศกาลลอยกระทงด้วยแล้ว ชลธียิ่งกังวลไปกันใหญ่ว่าลูกเป็ดจะเหงาที่เขาไม่มีเวลาให้เลย จึงปลีกเวลาจากภารกิจงานที่รัดตัว หาเวลาให้กับคนรักและลูกชายบ้าง ลพบุรี-กรุงเทพฯ ไม่ได้ไกลมากนัก เขาอยากจะพาลูกพาเมียมาอยู่ด้วยใจจะขาดแต่ติดเรื่องเรียนของลูกชายและคนรัก ทำให้ชลธีต้องห่อเหี่ยวและกลับมาพักอยู่ที่ค่ายคนเดียวเป็นประจำ

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้มุจลินท์โทรให้เขาช่วยหาต้นกล้วยให้เพื่อที่จะเอามาทำกระทงไปลอยเอง เขาเห็นว่ามันดูจะน่ายุ่งยากสู้ซื้อเองเลยจะดีเสียกว่า แต่ด้วยไม่อยากจะขัดใจคนรัก จึงให้บรรดาลูกน้องไปจัดการหาให้ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเขาก็ลำเลียงต้นกล้วยที่ตัดแล้วลงท้ายรถแล้วมุ่งหน้ากลับบ้านทันที ไทเกอร์เห็นคุณพ่อขนของมาเยอะแยะก็วิ่งเข้าไปมุงดู แต่ก็ถูกคุณยายเรียกไปเล่นอีกทาง

“พี่เอามาให้เสียเยอะเลย” ชลธีวางถุงที่ใส่ฐานกระทงลงบนโต๊ะอาหารที่กลายสภาพมาเป็นโต๊ะวางของ “พอไหมครับ”

“ขอบคุณนะครับ” แก้มขาวนวลขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อเห็นว่าคนรักเอาอกเอาใจไม่เคยเปลี่ยน มุจลินท์ติดนิสัยที่ชอบประดิษฐ์ประดอยเอง เพราะคุณยายหัดให้ทำกระทงไว้ลอยเองมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ในกรุงเทพฯจะหาต้นกล้วยจากที่ไหนเขาก็นึกไม่ออก ไม่เหมือนเมื่อครั้งเขาอยู่บ้านเก่าหลังบ้านจะมีต้นกล้วยขึ้นอยู่บ้างสองสามต้น และเขาก็นำมาทำกระทงขายกับยายทุกปี

“ลินท์จะทำกระทงไปลอยด้วยกันวันนี้นะครับ” มือขาวหยิบเลือกฐานกระทงจากต้นกล้วยที่ตัดมาแล้วเรียบร้อย เขาตั้งใจจะทำให้คุณยาย1ใบ ลูกชาย1ใบ ส่วนเขากับชลธีลอยด้วยกันแค่ใบเดียวก็พอ  “สมัยตอนประถมฯ ลินท์ตัดต้นกล้วยหลังบ้านมาทำกระทงขายได้เงินตั้งหลายร้อยแน่ะ"

“พี่อยากอุดหนุนเลย”

“พี่ให้ลินท์ทำไปขายไหมล่ะ ลินท์ชอบขายของ”

“ไม่ต้องหรอก” ชลธีชะงัก เขาจำได้ว่าเคยเห็นคนรักเร่ขายขนมอยู่ข้างทางจนกระทั่งเจอกันเพราะเขาขับรถชน “เรื่องอะไรพี่จะยอมให้ลินท์ออกไปลำบากอีก”

“ผมไม่ลำบากเสียหน่อย” ลูกเป็ดทำหงิกอัตโนมัติ เขาไม่ชอบงอมืองอเท้าอยู่เฉยๆแล้วรอให้เวลาผ่านไปวันๆ “ไม่ใช่งานหนักอะไรเลย” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อไทเกอร์ก็วิ่งเข้ามาหา

“แม่ลินท์ทำไยยย” เด็กชายมองด้วยดวงตาเป็นประกาย “ลอย ลอย กาโทงงงงง “ ไทเกอร์จะปีนขึ้นมาบนโต๊ะแต่ชลธีรับไปอุ้มได้ทันก่อนจะซนไปมากกว่านี้

“ทำกระทงครับลูก ให้คุณป๊าอุ้มไว้ก่อนนะ เดี๋ยวเข็มจะตำนิ้วเอา” มุจลินท์ตัดใบตองเป็นทางยาววัดขนาดจากรอบวงฐานต้นกล้วย พันรอบเสร็จแล้วใช้เข็มปักลงไปอย่างคล่องแคล่ว ชลธีจดจ้องมองคนรักที่บรรจงพับกลีบใบตองปักด้วยเข็มลงไปรอบๆกระทง แล้วเสียบด้วยดอกบานไม่รู้โรย สีม่วงแซมขาว ประดับด้วยดอกดาวเรือง ดอกกล้วยไม้ ไทเกอร์งอแงอยากจะช่วยบ้าง มุจลินท์จึงส่งธูปและเทียนให้เด็กชายช่วยมัดหนังยางก่อนจะปักลงไปกลางฐาน เด็กชายปรบมือหัวเราะดีใจแล้วถือกระทงใบน้อยไม่ยอมวาง

“ฉวยยย” เด็กชายตื่นตาตื่นใจเห็นแม่ลินท์ทำกระทงใบตองออกมาคล่องแคล่วก็อดจะอยากทำด้วยไม่ได้ ”เกอร์อยากทำอะแม่”

“มาสิลูก” ตบตักสองที เด็กอ้วนก็ปีนขึ้นไปนั่งบนตัก เขาให้ลูกเลือกต้นกล้วยที่จะทำกระทงด้วยตนเอง ไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก “ได้แล้วใช่ไหมลูก” พยักหน้าตอบก่อนเอื้อมไปหยิบใบตองที่ตัดไว้แล้วมารอไว้ มือขาวซ้อนกับมือเล็กบรรจงม้วนกลีบช้าๆ เด็กชายขะมักเขม้นม้วนกลมๆเหมือนนิ้วชี้ จนต้องแก้กันอยู่หลายรอบจนกว่าจะพอใจ ไทเกอร์เลือกดอกไม้สำหรับปักลงบนกระทง ทั้งปักทั้งแซมจนเต็มล้นไปหมด มุจลินท์หยิบเอาออกบ้างแล้วอธิบายให้ฟังว่าหากกระทงหนักเกินไป จะไม่ลอย ไทเกอร์ฟังพยักหน้าเข้าใจแต่โดยดี

“ฮื่อ คุณแม่~ เกอร์ทำฉวยไหม” เด็กชายชูกระทงขึ้นสูง “คุณกาโทงงงงง”

“สวยมากลูก” แม้จะบิดๆเบี้ยวๆแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังถ่ายรูปลูกชายกับกระทงอัพลงอินสตราแกรมอีกแน่ะ ก็ลูกชายเขาออกจะน่ารักขนาดนี้มันก็ต้องอวดเป็นธรรมดา

“ป๊า~กาโทงของเกอร์แหละ~”

“เก่งมากลูก เอาไปอวดคุณยายสิ” ชลธีลูบหัวลูบหางลูกชาย ก่อนจะจูงมือให้เดินไปหาคุณยาย ฝากลูกชายตัวแสบไว้ที่คุณยายเสร็จเขาก็วนกลับไปหาคนรักที่กำลังยุ่งกับกองต้นกล้วยทั้งหลาย “ทำให้ใครอีกหรือ”
“ของเราไงครับ” มุจลินท์เงยหน้าขึ้นตอบ ขนาดนั่งอยู่ในห้องแอร์ แต่เหงื่อก็ยังผุดเต็มวงหน้าขาว เขาล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าซับเบาๆให้คนรัก “อยากลอยด้วยกันสักปี”

“ทุกปีเลยแล้วกัน เพราะพี่อยากลอยกับลินท์แค่คนเดียว” รอยยิ้มอ่อนหวานยามได้สบสายตาพาให้ใจเต้นระรัว มุจลินท์ก้มหน้างุดเมื่อเห็นว่าชลธีจ้องไม่วางตาพาลให้มือไม้วางไม่ถูกเสียอย่างนั้น

“มองอะไรครับ? ว่างก็มาช่วยลินท์ทำก็ได้นะ”

“พี่มองลินท์ทำแล้วเพลินดีครับ” มุจลินท์ชอบดวงตาคมสีดำสนิทของชายหนุ่มเวลามองแล้วราวกับจะถูกดูดเข้าไป “ชอบเวลาลินท์ตั้งใจทำอะไรสักอย่าง จะชอบเม้มปาก แล้วลักยิ้มจะบุ๋มลงไป” ไวเท่าความคิดนิ้วชี้ของเขาก็จิ้มลงไปแก้มขาวซะแล้ว

“ฮื่อ ลักยิ้มลินท์เกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย ลินท์ทำกระทงอยู่ไม่กวนสิครับ”

“ก็ลักหัวใจพี่ไปหมดแล้วนี่.. ลินท์ต้องรับผิดชอบพี่ด้วย”

“อืม.. รับผิดชอบยังไงดี”

“ก็...” ร่างสูงใหญ่ประชิดซ้อนข้างหลังเด็กหนุ่ม กดจูบลงต้นคออย่างที่เขาชอบทำเบาๆ มุจลินท์ตัวเกร็จขนลุกขนชันขึ้นมาเสียอย่างนั้น รู้สึกหวามไหวกับสัมผัสอ่อนโยนที่ชลธีชอบทำให้ แต่ตอนนี้เขาไม่ว่างแล้วมันก็ไม่ใช่เวลามาจู๋จี๋ด้วย “โอ๊ย หยิกพี่ทำไมครับ”

“รุ่มร่ามไม่รู้เวล่ำเวลาก็ต้องโดนนะครับ”

“ใจร้าย..”

ท่าน้ำวัดกัลยาณมิตรดูคนจะพลุกพล่านน้อยกว่าท่าน้ำในแถบนี้มากพอสมควร เพราะคนแห่แหนกันไปลอยกระทงที่สะพานพุทธกันเสียหมด เขาจุดไฟธูปเทียนบนกระทงของลูกชาย ให้ลูกชายอธิษฐานและขอขมาพระแม่คงคา เด็กชายพูดเจื้อยแจ้วน่ารักน่าชังเป็นที่เอ็นดูของคนที่พบเห็น

“เสร็จแล้วใช่ไหมลูก เดี๋ยวเราค่อยๆปล่อยลงแม่น้ำนะครับ” ชลธีช่วยประคองลูกชายโดยมีมุจลินท์คอยจับตัวไว้แน่น ไทเกอร์ปล่อยกระทงลงบนแม่น้ำ แสงเทียนกระทบกับใบหน้าเด็กชาย ดวงตากลมโตสีดำแวววาวมองกระทงนับสิบนับร้อยใบล่องลอยอยู่บนแม่น้ำ

“ฉวยจังเลย” ชี้มือชี้ไม้ไปที่แม่น้ำสีดำสนิทยามค่ำคืน “ฉวยยยยย” อดไม่ได้ก้มลงจุ๊บแก้มป่องของลูกชาย ไทเกอร์หัวเราะคิกคักยื่นปากจะจุ๊บเขากลับ เล่นกันอยู่สักพักคุณยายที่ลอยกระทงเสร็จแล้วจึงจูงมือไทเกอร์ไปอีกทางเพื่อดูเขาจุดดอกไม้ไฟ เด็กชายตื่นเต้นยืนมองร้องเสียงดังอู้หู้ว ส่วนชลธีโอบเอวคนรักไปตรงท่าน้ำ จุดธูปเทียนบนกระทงเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงอธิษฐาน

“ตาลินท์อธิษฐานแล้ว”

“ไวจัง”

“พี่คิดไว้ตั้งนานแล้ว”

“’งั้นรอลินท์แปบนึง” เด็กหนุ่มหลับตาพริ้มอยู่ไม่กี่อึดใจก็ลืมตาขึ้น ก่อนจะค่อยๆพากันปล่อยกระทงลงสู่แม่น้ำ เขาเหม่อมองกระทงใบน้อยล่องลอยตามกระแสน้ำ จนคลื่นลมพัดพาหายลับไป มือหนาเลื่อนมากุมข้อมือคนรักก่อนจะประสานกันแนบแน่น

“พี่อธิษฐานว่าอะไรหรือ”

“ขอให้ลินท์อยู่กับพี่ตลอดไป” ชลธีจ้องดวงตาเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน จนอีกคนยิ้มแก้มแทบจะปริ “แล้วลินท์ล่ะ”

“ก็..” เด็กหนุ่มทำหน้าครุ่นคิด “ลินท์ขอ.. ขอให้ลินท์ตายก่อน เพราะลินท์คงอยู่ไม่ได้.. ถ้าไม่มีพี่” แค่คิดว่าจะต้องสูญเสียคนตรงหน้าไป น้ำตาใสคลอหน่วยปริ่มจะไหล หัวใจเขาก็บีบรัดแน่นจนเจ็บไปหมด ภารกิจของชลธีที่ต้องไปประจำที่ชายแดนมันทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายอาทิตย์แล้ว ทั้งกังวล ทั้งเป็นห่วงไปหมด ชลธีมองคนรักที่น้ำตาคลอแล้วสงสารจับใจ เขาสวมกอดมุจลินท์แน่น บรรจงจูบเบาๆที่ขมับ

“เด็กบ้า แล้วไม่คิดหรือว่าถ้าลินท์เป็นอะไรไป พี่จะอยู่อย่างไร” กดจูบลงแก้มขาวอีกที “ไหนจะลูกชายเราอีก ใครจะช่วยพี่ดูแลลูกล่ะ พี่ไม่หาแม่ให้ไทเกอร์แล้วนะ”

“...”

“พี่สัญญาว่าจะรีบกลับมา.. ไม่ร้องนะ” ใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาเด็กขี้แยจนแห้ง “เห็นลินท์ร้องไห้แล้วพี่ใจคอไม่ดีเลย”

“รักพี่นะ”

“รักเหมือนกันครับ คนดี” ริมฝีปากค่อยๆบรรจงจูบเคล้นคลึงอ่อนหวานเนิ่นนานราวกับอยากจะจดจำความรู้สึกเอาไว้ในใจอีกนานเท่านาน สองมือยกขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่ม เอนเอียงรับจูบให้ถนัดถนี่ ความรู้สึกโหยหาคิดถึงคนรักอัดแน่นเต็มอก แต่เขาจะต้องอดทน เข้มแข็ง เพื่อรอเวลาที่เราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง..

เขาจะต้องทำให้ได้..



 :hao5: :hao5:
วันนี้ใครไปลอยกระทงที่ไหน เดินทางปลอดภัยนะคะ รัก <3

ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ใต้ความหวานยังมีความละมุนซ่อนอยู่ อยากรู้จริงทำไมเกอร์เรียหพี่หลามว่าป๊า

ทำไมไม่เรียกน้องลินทร์ว่าม้าหล่ะ ม่าม้า ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

แต่ลอยกระทงมันต้องมีต่อกว่านี้อีกนิด

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อิจฉคนมีคู่

หวานกันมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มีพ่อแม่ลูก น่ารักเชียว

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อิจฉาน้องลินทร์ :ruready สุขสันต์ลอยกระทงค่ะ

ออฟไลน์ Maneemantra7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เราพลาดตอนลอยกระทงไปได้อย่างไร

น่าจะมีแจ้งเตือยเวลาลงตอนใหม่ๆ

แต่อิจฉาน้องลินทร์จริงๆ และคู่รองเขาไปลอยกันที่ไหนน้า

๕๕๕๕๕+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ครอบครัวนี้ น่ารักมาก ไทเกอร์ยิ่งน่ารักใหญ่

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๑

ชลธียันตัวเองขึ้นมาจากเตียงนอนนุ่ม เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือของเด็กหนุ่มส่งเสียงดังลั่นจนเขาต้องเอื้อมมือไปกดปิด สายตาคมเบนมาจับจ้องเรือนร่างขาวเนียนที่พร่างพรายไปด้วยรอยจูบเต็มแผ่นอก เห็นเด็กหนุ่มนอนหลับสนิทหายใจเข้าออกสม่ำเสมอก็อดไม่ได้สอดแขนเข้าที่เอวบางของมุจลินท์รั้งตัวให้หันมาแนบอก คิ้วได้รูปสวยขมวดน้อยๆเมื่อถูกกระชับเอวแน่นจนรู้สึกสะเทือนช่วงล่างที่ชาหนึบ ลูกเป็ดหนีออกจากการเกาะกุมคว้าหมอนข้างมากอดหมับแล้วนอนนิ่งสนิท คนแอบมองจุดยิ้มบางเบาค่อยๆลุกออกจากเตียง เตรียมตัวพาลูกชายไปโรงเรียนแทนพี่เลี้ยงที่ตื่นขึ้นมาไม่ไหว ก้มลงไปกดจูบแก้มขาวอีกรอบ ไม่อยากไปไหนทั้งที่บรรยากาศในห้องยังอบอวลไปด้วยความสุขเลย

“ป๊า!” ไทเกอร์ผลักประตูเข้ามาพร้อมร้องเรียกเสียงดัง เมื่อเห็นมุจลินท์ยังนอนหลับอยู่ตัวแสบก็จะพุ่งกระโจนกระโดดขึ้นบนเตียง ชลธีช้อนเอวขึ้นมาได้ทันก่อนยกมือแตะปากให้เบาเสียง ไทเกอร์เข้าใจว่าไม่อยากให้ปลุกแม่ลินท์จึงเอามือปิดปากแน่นพยักหน้าเข้าใจแต่โดยดี “แม่ลินท์ยังไม่ตื่นหยอ”

“ใช่ครับ”

หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กให้ลูกชายถือไว้แล้วเดินนำเข้าห้องน้ำ ไทเกอร์ยืดหลังตรงเดินตามคุณพ่อเข้าห้องน้ำไปอย่างว่าง่าย มุจลินท์สอนให้เด็กชายอาบน้ำและแต่งตัวใส่เสื้อผ้าด้วยตนเองมาสักพักแล้ว แม้จะทุลักทุเลตอนสวมกางเกงอยู่บ้าง ต้องเอามือเกาะคุณพ่อเอาไว้แล้วแหย่ขาเข้าทีละข้าง มือเล็กจ้อยค่อยๆหยิบเสื้อจับใส่กระดุมเรียบร้อย แป้งหอมกรุ่นปะเต็มตัวลายพร้อยเป็นตุ๊กแก กลิ่นเดียวกับคนที่เขานอนกกกอดทั้งคืน  มือหนาคว้ากระเป๋านักเรียนลายสไปเดอร์แมนขึ้นมาสวมให้ลูกชาย “ให้แม่ลินท์พักผ่อนนะครับ วันนี้ป๊าจะไปส่งเอง”

“เย่ๆ” เด็กชายกระโดดโลดเต้นไปรอบตัวชลธี “ป๊าไม่ไปทำงานหรอ ป๊าจะอยู่กับเกอร์ใช่ไหม”

“ป๊าอยู่กับเกอร์ครับสิครับ ไม่ไปไหนหรอกลูก”

“เกอร์คิดถึงป๊า” เด็กชายชูมือออดอ้อนให้คุณพ่ออุ้มเหมือนเคย “เกอร์อยากให้ป๊าอยู่กับเกอร์นานๆ ไม่อยากให้ป๊าไปทำงานเลย”

“ป๊าไม่ทำงานจะหาเงินจากไหนมาเลี้ยงลูกหมู”

“เกอร์ไม่ใช่ลูกหมูววววว” เด็กน้อยทำปากจู๋ “ป๊าว่าเกอร์ เกอร์จะฟ้องแม่ลินท์!”

“เอาใหญ่แล้วนะเดี๋ยวนี้” เขามองลูกชายที่ชักจะทโมนขึ้นทุกวัน “ไม่เรียกลูกหมูแล้วครับ ไม่ฟ้องแม่ลินท์นะ”

“ฮิๆ ก็ได้คับ” สองพ่อลูกหัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน เด็กชายเดินไปขึ้นนั่งบนเก้าอี้ บนโต๊ะทานข้าวมีข้าวต้มหมูชามเล็กที่คุณยายต้มไว้ให้ ทานจนเสร็จเรียบร้อยแถมยังเบิ้ลไปอีกชาม ทำเอาคุณยายยิ้มแก้มปริที่เห็นหลานชายคนใหม่เจริญอาหาร เด็กชายนั่งปุกลงกับพื้นหยิบถุงเท้ามาสวมทั้งสองข้าง กระเตงกระเป๋าใบใหญ่ที่สะพายข้างหลังไปเปิดตู้รองเท้า หยิบรองเท้านักเรียนสีดำของตัวเองออกมา ชลธีมองลูกชายที่จัดการตัวเองได้อย่างคล่องแคล่วก็จุดยิ้มอารมณ์ดี ลูบหัวลูกชายคนเก่ง

“ลูกชายป๊า.. เก่งมาก”

“แม่ลินท์สอนมาดีฮะ” ไม่วายอวยคนที่นอนหลับอยู่ในห้องจนคุณพ่อนึกขำ

“เดี๋ยวอาลินท์ไปส่งด้วยครับ” ชลธีและลูกชายหันไปมองคนมาใหม่ มุจลินท์ในชุดลำลองเรียบร้อย เสื้อยืดสีฟ้าอ่อนและกางเกงสามส่วนเหนือเข่า ใบหน้าหวานติดบึ้งเล็กๆไม่ยอมมองหน้าชลธีสักนิด เด็กหนุ่มเตรียมกระติกน้ำและหมวกปีกกว้างสีฟ้าอ่อนให้เด็กชายใส่กระเป๋าเป้ของเขาไว้ก่อนจะจูงมือเด็กชายเดินลิ่วออกไป มุจลินท์ยังเคืองเรื่องเมื่อคืนที่ชลธีไม่ยอมให้เขานอนจนเขาตื่นมาส่งลูกชายไปโรงเรียนไม่ไหว ถ้าหากคุณยายไม่เข้าไปปลุกเขาในห้อง เขาคงอดไปงานกีฬาสีของไทเกอร์แน่ๆ แค่คิดก็รู้สึกอยากจะทุบคนที่ทำให้เขารู้สึกปวดไปทั้งตัวแบบนี้ ชลธีเห็นท่าทางไม่ดีก็นึกในใจว่าแย่แล้ว รีบเดินตามไปแทบจะทันที เดินเบียดไหล่จนเด็กหนุ่มต้องกระเถิบถอยหนี

“ลินท์...”

“มีอะไรหรือครับ”

“เดี๋ยวพี่ไปส่งลูกเอง ลินท์นอนพักดีกว่าไหม” เห็นลูกเป็ดหน้าซีดเซียวเพราะนอนไม่พอ ชลธีเลยรู้สึกผิดขึ้นมาทันที เพราะกว่าเขาจะปล่อยให้เด็กหนุ่มได้นอนก็เกือบ.. ตีห้า

“ผมจะไปดูไทเกอร์แข่งกีฬา” มุจลินท์เอ่ยเสียงแข็ง “ผมบอกพี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ว่าลูกมีกีฬาสี”

“…ก็” เขาได้ยินแว้บๆผ่านหูไปนิดหน่อย ก็ตอนนั้นใครจะมาตั้งใจฟังเล่า มัวแต่ตั้งใจทำอย่างอื่นน่ะสิ มุจลินท์ไม่ตอบและไม่สนใจชายหนุ่มที่เดินตามมาอีก หันไปพูดคุยกับเด็กชายที่กำลังตื่นเต้นดีใจ

“เกอร์วิ่งเปี้ยวกับเก้าอี้โดนตี”

“ดนตรีครับลูก”

“โดนนนนนนตีนนนนนน”

“โถ่ ลูกชายยยยย” เอ็นดูจนอยากไปฟัดแก้มยุ้ยนั่นแรงๆสักที “ค่อยๆหัดพูดให้ชัดๆนะลูก” เด็กวัยนี้กำลังช่างพูดช่างคุย และชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา รวมไปถึงซึมซับพฤติกรรมจากผู้ใหญ่ที่เป็นต้นแบบ เขาจึงต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกชาย

“แม่ลินท์” ไทเกอร์ชี้นิ้วไปที่เด็กหนุ่ม “ยุงกัดหรอครับ.. แดงเต็มเลย”

“พรืดดดดดด” ชลธีที่เดินตามแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อเจ้าลูกชายตัวดีดันทักรอยจูบอ่อนๆช่วงต้นคอที่เขาแอบทำไว้เมื่อคืน มุจลินท์ตะปบต้นคอก่อนจะหันมามองเขาตาเขียวปั้ด

“หัวเราะอะไรครับ” ถ้าสายตาของเจ้าลูกเป็ดเป็นกระบอกปืน ป่านนี้ร่างเขาคงพรุนไปหมดแล้ว “เพราะพี่คนเดียวเลย…  วันนี้นอนคนเดียวไปเลยนะ.. ผมจะนอนกับลูก”

“พี่นอนด้วย”

“ไม่”

“ไม่มีคำว่าไม่ พี่ไม่ยอม” เรื่องอะไรจะยอมนอนกอดหมอนข้างคนเดียวในห้อง มีเมียก็ต้องนอนกอดเมียสิ มุจลินท์ไม่สนใจเขาเลยสักนิด มัวแต่หยอกล้อกับไทเกอร์ไปตลอดทาง ให้ตายเถอะ เขาไม่ชอบให้มุจลินท์เมินเขาแบบนี้เลย
 
“ก็เรื่องของพี่สิครับ..”

“โถ่ ลินท์”

“ผมจะไม่ใจอ่อนกับพี่แล้ว”

“ลินท์ไม่สงสารพี่หรือ ให้พี่นอนเหงาอยู่คนเดียว”

“ถ้าผมสงสารพี่ แล้วผมไม่มีแรงตื่นมาส่งลูก ผมไม่สงสารพี่ดีกว่า”

“ป๊าโดนแม่โกรธแย้วววววววว” เด็กชายหัวเราะร่า วิ่งล้อมหน้าล้อมหลังจนมุจลินท์เวียนหัว จับอุ้มขึ้นแทบจะไม่ไหวเพราะจ้ำม่ำเสียเหลือเกิน เดือดร้อนคุณพ่อต้องรับไปอุ้มแทน

“ไม่เข้าข้างป๊าเลยนะเกอร์!”

“ฮิๆ”

กว่าจะมาถึงโรงเรียนก็เกือบเก้าโมงกว่าเพราะทะเลาะกันมาตลอดทาง มุจลินท์พาไทเกอร์ไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดวอร์มสีเขียวอ่อนในห้องน้ำของโรงเรียน วันนี้ที่โรงเรียนคนเยอะกว่าทุกวันเพราะผู้ปกครองแห่กันมาดูลูกหลานแข่งขันกีฬา เกือบจะหาที่จอดรถไม่ได้จนชลธีต้องปล่อยลงกันหน้าโรงเรียนก่อนแล้วถึงจะตามเข้ามา เขาให้เด็กชายเปลี่ยนเป็นรองเท้าพละสีขาวพอดีกับเท้าเล็กป้อม ตรวจเช็คเครื่องแบบจนเสร็จเรียบร้อย จึงก้มลงจุ๊บแก้มยุ้ยของเด็กชายเบาๆ

“เต็มที่นะครับเกอร์.. อาจะคอยถ่ายรูป เป็นกำลังใจให้นะลูกนะ”

“ขอบคุณครับแม่ลินท์” สองมือเล็กกระพุ่มไหว้นอบน้อม ดวงตากลมโตสีดำเป็นประกายแวววาวเมื่อรู้ว่าตนเองจะได้แข่งกีฬาเล่นกับเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน ไทเกอร์เป็นเด็กรูปร่างสมส่วนยกเว้นแก้มยุ้ยและตาโตกลม ผมหยักศกน้อยๆทำให้ไทเกอร์เหมือนตุ๊กตาน่ารักน่าเอ็นดู และนิสัยมีน้ำใจทำให้เด็กชายเป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนๆ เขามองตามหลังเด็กชายตัวน้อยที่วิ่งไปรวมกลุ่ม ความรักและความผูกพันที่มากขึ้นทุกวันอัดแน่นในอกจนอธิบายไม่ถูก เขาอยากจะอยู่มองดูไทเกอร์เติบโตขึ้นทีละนิด คอยโอบอุ้มค้ำชูดั่งต้นไม้ใหญ่ เป็นร่มเงาและที่กำบังยามลูกชายเหนื่อยล้า..

 ในมือคอยถือกล้องโทรศัพท์เก็บรูปเด็กชายตัวน้อย ลักยิ้มบุ๋มลงแก้มซ้าย ประกอบกับรูปร่างสูงเพรียวโดดเด่นยิ่งทำให้เด็กหนุ่มดูมีเสน่ห์เรียกสายตาจากผู้ปกครองคนอื่นและแขกเหรื่อที่มาเข้าร่วมกิจกรรม

“ โอ๊ะ ขอโทษครับ” เขาถอยหลังไม่ได้ทันมองว่ามีคนยืนอยู่จนชนเข้าอย่างจัง ดีว่าอีกคนคว้ากล้องโทรศัพท์มือถือที่หลุดมือของเขาไว้ได้ทัน หัวใจแทบจะร่วงไปที่ตาตุ่ม เพราะพังขึ้นมาคงซ่อมหลายบาท แค่คิดเงินในบัญชีลดลงเขาก็รู้สึกใจจะขาด 

“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์คืน สบกับดวงตาสีน้ำตาลเทาคู่สวย จนนิ่งชะงักไป “เอ่อ”

“ครับ?” มุจลินท์หยิบโทรศัพท์ที่ชายหนุ่มถือค้างไว้แล้วพงกหัวเป็นเชิงขอบคุณ ลูกชายเขาใกล้จะแข่งเก้าอี้ดนตรีแล้ว จะต้องรีบไปจับจองที่นั่งเพื่อหามุมสวยๆเสียหน่อย แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังจ้องเขาไม่หยุด “มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ตาคุณสวยมากเลย” ชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียว ดวงตารีเรียวสีดำสนิทดูเข้ากันกับคิ้วเข้มและตัดกับผิวขาวจัดอย่างลงตัว ทรงผมซอยสั้นทันสมัยเซ็ททรงอย่างดี ดูๆแล้วอายุน่าจะมากกว่าเขาไม่เท่าไหร่ “เป็นลูกครึ่งหรือครับ”

“เอ่อ..ครับ”

เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขารู้สึกไม่ชอบคำถามประเภทนี้เลยสักนิด หากใครมาถาม เขาก็จะหัวเราะกลบเกลื่อนไป เพราะตัวเขาเองยังไม่เคยเจอหน้าพ่อเลยสักครั้ง แม้รูปร่างภายนอกเขาอาจจะมีส่วนคล้ายคลึงแต่เขาก็ไม่กล้าพูดได้เต็มปากสักที

“ลินท์” ชลธีเข้ามาแทรกระหว่างเขาและชายหนุ่มคนนั้นซึ่งน่าจะเป็นผู้ปกครองของเด็ก “ลูกจะแข่งแล้ว ไปทางโน้นดีกว่าครับ”

“คะครับ..” ท่อนแขนหนาพาดที่ไหล่ลาดบางก่อนจะโอบหลบไปอีกทาง ชลธีหายใจฮึดฮัดไม่พอใจ แค่ห่างจากสายตาชั่วครู่ก็มีคนนั้นคนนี้เข้ามาคุยด้วยตลอด แล้วเวลาเรียนที่มหาลัยล่ะ... ชลธีไม่อยากจะคิดแต่ในหัวสมองคิดฟุ้งซ่านไปไหนต่อไหน.. ไม่ได้การละ เขาคงต้องรีบไปตีสนิทกับเพื่อนของมุจลินท์ซะแล้ว

เห้อ อาการหวงเมียเด็ก.. กำเริบ...

ไม่ทันได้ดับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง เด็กหนุ่มเอาหัวมาพิงไหล่เขาไว้ ชลธียกมือลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆ อยากจะกอดอยากจะหอมให้ชื่นใจกว่านี้แต่ก็ติดว่าอยู่ข้างนอก ขืนทำอะไรลงไปได้โดนเจ้าลูกเป็ดโกรธอีกแน่

“เป็นอะไรครับ.. หืม อ้อนพี่จังนะ”

“ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณเรื่องอะไรครับ?”

“ที่รักลินท์..” มุจลินท์ก้มหน้างุด “รักเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้”

“ไหน มีเด็กขี้แยอยู่แถวนี้หรอ”

“ใครเขาขี้แยกันเล่า”

“คิดมากเกินไปแล้วเจ้าลูกเป็ด”

“ลินท์ไม่ใช่ลูกเป็ดนะครับ!” เมื่อไหร่ชลธีจะเลิกเรียกเขาแบบนี้สักที เขาหน้าเหมือนเป็ดตรงไหนกัน หน้าหวานงอง้ำแต่ทำอย่างไรก็น่าเอ็นดู ชลธีรีบรุนหลังเด็กหนุ่มให้เดินไปดูกิจกรรมที่กำลังจะเริ่มในไม่ช้า ผู้ปกครองที่มาต่างหาพื้นที่จับจองกันจนแน่นขนัด ขืนช้ากว่านี้คงไม่มีที่ดีๆให้เขาดูลูกชายแน่ๆ

“ไปดูลูกก่อนแล้วเดี๋ยวกลับไปคุยกันต่อที่บ้าน”

“ฮื่อ” จูงมือเด็กขี้แยเดินกลับเข้าไปดูไทเกอร์ที่กำลังเตรียมพร้อมแข่งขัน ในใจมุจลินท์ก็อดจะรู้สึกตื่นเต้นแทนไม่ได้และไม่อยากจะพลาดสักวินาทีเดียว ในช่วงเวลาที่ลูกชายกำลังเติบโตตามวัยเขาก็อยากจะเก็บภาพและความทรงจำเอาไว้ให้มากที่สุด

เสียงเพลงดังพร้อมเด็กๆกระโดดโลดเต้นล้อมรอบเก้าอี้ห้าถึงหกตัว เด็กชายตัวน้อยแก้มป่องในชุดวอร์มสีเขียวอ่อน โยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง มุจลินท์อดจะอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นความน่ารักของลูกชาย มือถือถูกยกขึ้นมาถ่ายเก็บภาพความประทับใจเรื่อยๆ เกมเก้าอี้ดนตรีเปิดเพลงวนจนจบ เด็กวิ่งกรูเข้าไปนั่งเก้าอี้กันอย่างสนุกสนาน หลังจากเล่นกันจนพอใจ คุณครูก็เชิญผู้ปกครองเข้าไปเล่นบ้าง เด็กชายวิ่งมาเกาะแขนมุจลินท์พาไปเข้าวงเพื่อเล่นเกม ชลธีเลยรับหน้าที่เป็นช่างภาพแทน ดวงตาคมมองผ่านกล้องเห็นเด็กหนุ่มในชุดกางเกงสามส่วนขาสั้นเหนือเข่าสวมเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน ผมสีน้ำตาลเข้มสะท้อนแสงแดดออกสีน้ำตาลสีสวยชัดเจนยิ่งขับให้ผิวขาวเนียนและร่างสูงโปร่งนั้นดูโดดเด่น เขาอดรู้สึกขัดใจกางเกงตัวนั้นไม่ได้ มันสั้นเกินไปแล้ว...

เพลงแด๊นซ์จังหวะสนุกสนานเปิดคลอพร้อมเด็กน้อยจูงมือผู้ปกครองเดินวนรอบเก้าอี้พลาสติก ข้อเท้าผูกด้วยลูกโป่งสีสดใสที่ข้อเท้าไทเกอร์

“เดินห่างๆคุณอานะลูก เดี๋ยวอาวิ่งแล้วหนูเกาะอยู่จะล้มเอา”

“ฮะแม่”

ได้ยินไทเกอร์เรียกเขาเสียงเจื้อยแจ้วว่าแม่อย่างนั้นแม่อย่างนี้ก็อดจะเก้อเขินไม่ได้ เรียกในบ้านยังพอว่า มาเรียกข้างนอกท่ามกลางผู้ปกครองคนอื่น เขาก็ทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน

ปรี๊ดดดดด

ทันทีที่เพลงจบเขารีบวิ่งไปนั่งลงบนเก้าอี้ทันที แต่ดูเหมือนจะช้ากว่าผู้ปกครองอีกคนที่แทรกตัวมาจากข้างหลัง รู้ตัวอีกทีเขาก็นั่งแหม่ะลงบนตักผู้ปกครองคนนั้นไปแล้ว

“เห้ย” เขาเด้งตัวลุกขึ้นทันทีแต่มือของผู้ชายคนนั้นกักเอวเขาไว้แน่น 

“คุณนั่งเถอะ” ชายหนุ่มคนนั้นดันตัวเองออกมาแล้วให้มุจลินท์นั่งแทนที่ เขาถึงได้เห็นหน้าชัดๆว่าคือคนที่เขาเดินชนเมื่อครู่

“คุณชนะก็นั่งไปสิ แล้วก็ปล่อยมือผมด้วย”

“อ๊ะ ขอโทษครับ”

ชลธีเริ่มขมวดคิ้ว มองสองคนที่กระซิบกระซาบอยู่กลางสนาม กางเกงสามส่วนรั้งขึ้นไปจนเห็นขาเรียวขาวเนียนที่เขาชอบลูบนักหนา ให้ตายเหอะ กลับบ้านไปเขาจะต้องเผากางเกงตัวนี้ทิ้งให้ได้ สังเกตเห็นมือผู้ชายคนนั้นจับมือเด็กหนุ่มแน่น ชลธีหายใจเข้า ยุบ หายใจออก หนอ มือกำโทรศัพท์แน่นและแทบจะเดินไปแยกสองคนนั้นออกจากกัน มุจลินท์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาขอบสนามใบหน้าบึ้งตึงไม่พอใจ ไทเกอร์วิ่งโผเข้าหากอดเอวเด็กหนุ่มไว้แน่น เขาก้มลงกอดปลอบเด็กชายที่น้ำตาจะไหลรอมร่อที่เห็นแม่ลินท์เดินออกมาจากวง

“ไม่ร้องนะลูก อาขอโทษนะครับ เล่นไม่ทันไรก็แพ้ซะแล้ว”

“ฮือ แม่ลินท์ของเกอร์” เด็กชายเริ่มงอแง ปากเบะ “ลุงคนนั้นจะมายุ่งกับแม่ เกอร์ไม่ให้” เขาพอจะเข้าใจเด็กวัยนี้ที่จะหวงหรือติดกับคนที่สนิท คงเข้าใจว่าเขาโดนแกล้งก็เลยร้องไห้ออกมา เด็กหนุ่มกอดปลอบโยกไปโยกมา ชลธีเดินเข้าอุ้มลูกชายแนบอก สายตาตวัดไปมองชายหนุ่มคนนั้นที่กำลังหันมาสบตากันพอดี

“ลุงคนนั้นจะเอาแม่ลินท์ไป” เด็กอ้วนชี้นิ้วไปที่ชายหนุ่มคนนั้นฟ้องพ่อตัวเองใหญ่ “ลุงของทอฟฟี่” ทอฟฟี่คือเพื่อนห้องเดียวกับไทเกอร์ เด็กผู้หญิงมัดแกละสองข้างที่วิ่งไปหาชายหนุ่มคนนั้นหันมาโบกมือให้ไทเกอร์ที่กำลังหน้าบูด

“ใครจะมาเอาอาไปได้ล่ะครับลูก” มุจลินท์อดจะหัวเราะกับความรักของเด็กชายไม่ได้ “เพื่อนเรียกแล้วหนูไปเล่นกับเพื่อนไหมครับ” ไทเกอร์ชั่งใจมองเพื่อนอีกสองสามคนที่กำลังรวมกลุ่มเล่นเกมถัดไป จึงพยักหน้าให้พ่อวางลงพื้น ก่อนจะวิ่งเผ่นแผล็วไป

“แล้วพี่ทำไมต้องหน้าบูดด้วย” หันมาเจอนายทหารหนุ่มเก๊กหน้าขรึมก็อดที่จะถามไม่ได้ “เลียนแบบลูกหรือ ลินท์ไม่โอ๋นะ”

“…”

“พี่ฉลาม..”

“...”

“ไม่พูดกับลินท์หน่อยหรือ” เขาเดินไปยืนตรงหน้าชายหนุ่มที่ดูเหมือนอารมณ์กำลังคุกรุ่น อะไรกัน เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย  “โกรธอะไรหรือครับ”

“ห้ามใส่กางเกงตัวนี้อีก”

“หะ?” เขาก้มลงมองกางเกงสามส่วน “ไม่เอา ตัวนี้ตัวโปรดของลินท์นะ”

“เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่ มันสั้นเกินไป พี่ไม่ชอบ”

“กางเกงที่บ้านมีเยอะแยะ ไม่ต้องเปลืองเงินหรอกครับ”

“พี่หวงไม่ได้หรือ ก็ดี.. จะได้รู้ไว้ว่าไม่มีสิทธิ์”

“พี่.. ไปกันใหญ่แล้ว” ชลธีหน้าบึ้งกว่าเดิมแทบยังหันหน้าหนี งอนตุ๊บป่องไปแล้ว เป็นไทเกอร์เวอชั่นตัวโตชัดๆ มุจลินท์ใช้นิ้วจิ้มแขนหนา กระพริบตาปริบๆ รู้สึกตัวหดลงเหลือนิ้วเดียว ปกติชายหนุ่มจะใจดีกับเขาเสมอ ไม่เคยแสดงออกว่าโกรธหรือไม่พอใจเขาเลยสักครั้ง คงจะไม่ชอบให้เขาใส่กางเกงขาสั้นจริงๆ “ฮื่อ ลินท์ขอโทษ ลินท์จะไม่ใส่กางเกงตัวนี้แล้ว”

“อยู่กับพี่สองคนใส่ได้.. หรือไม่ใส่อะไรเลยก็ได้”

“คนหื่น”

“อะไรนะ”

“เปล่าครับ” คนบ้ากามเอ๊ย!

   บรรยากาศในโรงเรียนเต็มไปด้วยเสียงเพลงและเสียงหัวเราะของเด็กๆ ลูกโป่งสีสันสดใสผูกตามอาคารเรียนพร้อมกับเชือกหลากสีสัน ทำให้เขาคิดถึงสมัยตัวเองเรียนชั้นประถมฯที่โรงเรียนวัดใกล้บ้าน ชอบเข้าแถวรับแจกขนมไปแบ่งกินกับยายเสมอ มุจลินท์ผละออกจากชายหนุ่ม สอดส่ายตาหาลูกชายที่กำลังเล่นวิ่งไล่จับกับเพื่อน อดไม่ได้จะต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพจนเต็มโทรศัพท์ไปหมด กลับบ้านไปเขาจะเอารูปไปอวดคุณยาย แล้วก็อัดรูปใส่อัลบั้มเก็บไว้ดูให้เยอะๆเลย แค่คิดก็รู้สึกมีความสุข มือบางล้วงกระเป๋าเป้หยิบกระติกน้ำเตรียมไว้ให้ลูกชายดื่มก่อนจะแข่งวิ่งเปี้ยว


(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5


(ต่อจากข้างบน)


“แม่!”

“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมครับลูก”

“ฮื่อ ม่ายเหนื่อย” ปากจิ้มลิ้มเจื้อยแจ้วว่าไม่เหนื่อยแต่เหงื่อฉ่ำเต็มหน้าแถมยังหอบแฮ่กอีก “เกอร์แข็งแรงฉุดๆ” ยกแขนขึ้นเบ่งกล้ามให้เขาดูอีกแน่ะ เห็นแต่ไขมันก้อนกลมๆเด้งดึ๋งดั๋ง เจ้าตัวหัวเราะคิก พยายามเบ่งกล้ามให้เขาดูทั้งสองแขน

“ลูกชายเก่งมาก” จูบข้างขมับเด็กชายเบาๆ ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้ พวงแก้มขาวแดงปลั่งเป็นมะเขือเทศดูน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน

“เกอร์จะเอาเหรียญทองมาให้แม่”

“แม่จะคอยดูตรงนี้นะลูก” เด็กหนุ่มพูดเสร็จก็ชะงักกึกเพราะเผลอแทนตัวเองเป็นแม่ซะอย่างนั้น

“ฮือ” เด็กอ้วนวิ่งเข้ามากอดแน่น “แม่จ๋า”

“ขี้แยจังเลยหมูอ้วน”

“เกอร์ ฮึก มั่ย ฮึก อ้วงงงงง มั่ยอ้วงงงงงงงงง”

“โอ๋ๆ แม่ลินท์รักหนูนะลูก ไม่ร้องนะครับ” ปาดน้ำตาที่ไหลลงออกมาจากแก้มป่องเสร็จก้มลงฟัดแก้มยุ้ยๆของลูกชาย “เดี๋ยวแม่พาไปเตรียมตัวนะครับ ไหนๆพร้อมแล้วหรือยัง”

“พ้อมแย้ววววววววว” ฉีกยิ้มโชว์ฟันหลอเสร็จก็จูงมือมุจลินท์ไปสนามโรงเรียนซึ่งคุณครูกำลังจัดสถานที่กันอยู่ เขาล้วงกระติกน้ำแล้วค่อยๆป้อนให้ลูกชาย

“กินน้ำหน่อยครับ”

“ชื่นจายยยยย”

“เอาอีกไหมลูก”

“ม่ายยยยย” ชี้ไปที่พุงป่องๆ “ป๊าไม่ให้กินน้ำก่อนวิ่งเยอะเดี๋ยวจุกคร้าบ” พอพูดถึงชลธีเขาก็ลุกขึ้นกวาดสายตามองหาชายหนุ่ม อีกไม่นานไทเกอร์ก็จะลงแข่งแล้ว ไม่รู้ชลธีไปยืนตรงไหน ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดโทรหาก็ไม่เห็นจะรับ ช่วงนี้เขาเห็นชลธีชอบแอบหลบไปคุยโทรศัพท์คนเดียว คงจะเป็นเรื่องงานเพราะเขาไม่เห็นชลธีกลับค่ายมาหลายวันแล้ว เรื่องที่จะย้ายไปทำงานที่เชียงรายก็ยังไม่ได้คุยกันให้ชัดเจนเลยว่าเป็นอย่างไร ใจหนึ่งเขาก็อยากจะถามให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากรับรู้ว่าจะห่างกันอีกแล้ว แต่เขาไม่อยากทำให้ชลธีลำบากใจที่เห็นเขาไม่สบายใจเลย ร่างสูงโผล่มาซ้อนข้างหลังเขาได้อย่างไรไม่รู้ มือหนาแตะที่เอวบางก้มลงกระซิบแผ่วเบาข้างหู

“โทรหาพี่หรือ” น้ำเสียงติดหัวเราะ “ไปเข้าห้องน้ำมาครับ”

“ฮื่อ ลูกจะวิ่งแข่งแล้ว” เขายู่คอหนีตอหนวดของชายหนุ่มที่ชอบมาสะกิดผิว“ไปจองที่เถอะ ลินท์อยากถ่ายรูป”

“ดูเป็นห่วงจังเลยนะคุณแม่”

“ก็ลูกลินท์ทั้งคนนะ” พูดพร้อมทำหน้าขึงขังจริงจังจนชลธีแทบจะหลุดหัวเราะ ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะน่ารักได้ขนาดนี้ ทั้งดูแลเอาใจใส่เขาและไทเกอร์เป็นอย่างดี ไม่เคยขาดตกบกพร่อง ทั้งยังเอ็นดูไทเกอร์เหมือนลูกแท้ๆ เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกให้มุจลินท์มาช่วยดูแลลูกชายเขา เด็กหนุ่มมีจิตใจดี และทำให้เขาประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เจอ ไม่คิดเหมือนกันว่าเวลาไม่นานจะทำให้เขาตัดสินใจอยากจะดูแลมุจลินท์ไปเรื่อยๆแบบนี้

“ยิ้มอะไรแบบนั้นน่ะครับ”

“คนมันมีความสุข” เขาพูดยิ้มๆ แล้วจับจูงมือลูกชายไปที่สนามโรงเรียน “ค่อยๆวิ่งนะลูก ไม่ต้องรีบมาก เดี๋ยวจะหกล้ม ป๊าไม่ว่าถ้าลูกชายป๊าจะแพ้หรือชนะ” เขาอยากให้ลูกชายรู้จักการแพ้ชนะ ไม่ยึดติดว่าจะต้องชนะเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็จะอยู่เคียงข้างลูกชายเสมอ ไทเกอร์ยืนกัดเล็บมองไปที่สนามด้วยความกังวล หันซ้ายหันขวามองคุณพ่อทีนึง มองแม่ลินท์ทีนึง

“ป๊ากับแม่ลินท์จะรอตรงนี้นะครับ” เด็กชายหยักหน้าก่อนจะหันหลังวิ่งเข้าไปในกลุ่ม

“ช่วงนี้ไทเกอร์ชอบกัดเล็บมาก” เขาเอ่ยช้าๆ สายตาจับจ้องไปที่เด็กชาย “ก่อนที่ลินท์จะมาดูแล ลูกเป็นแบบนี้มานานหรือยังครับ” ชลธีไม่หันมาสบตา เงียบสนิทจนเขาต้องเอื้อมมือไปสัมผัส

“มันเป็นความผิดของพี่เอง” เขาตอบเสียงสั่น “ถ้าพี่มีเวลาดูแลลูกมากกว่านี้..”

“หมายความว่ายังไง?”เขาตกใจจนเผลอขึ้นเสียง “ใครทำอะไรลูก!?”

“ลินท์อยากรู้จริงๆหรือ”

“ก็ต้องอยากรู้อยู่แล้ว” ชลธีเงียบไปสักพักก่อนจะเอื้อมมือมากุมเด็กหนุ่มเอาไว้แน่น เขาไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าหากได้แบ่งปันสิ่งที่เขาได้เจอมา เด็กหนุ่มจะรู้สึกอย่างไร

“ช่วง3ปีก่อน.. พี่ยังเป็นแค่ผู้กองยศร้อยเอก ต้องไปปฏิบัติภารกิจประจำชายแดนเพื่อตามคดียาเสพติด พี่ยอมรับว่าพี่ทุ่มเทเวลาให้กับงานมากจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย เกศต้องเลี้ยงลูกคนเดียว เขาก็คงจะเครียด” ชลธีเอ่ยชื่อถึงภรรยาเก่าเป็นครั้งแรกในรอบเกือบปี ความรู้สึกผิดที่ยังกัดกร่อนในใจ บาดแผลยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลา “เขาขอให้พี่จ้างพี่เลี้ยงเด็กมาช่วยดูแล เพราะเขาเหนื่อยและจะต้องทำงาน ตอนนั้นเกอร์เพิ่งได้สองขวบกว่าๆ แม่เขาก็อยากให้เข้านอร์สเซอรี่”

ชลธีกุมมือเด็กหนุ่มแน่น “ปรากฏว่าเกอร์ถูกพี่เลี้ยงขังอยู่ในห้อง ไม่ได้กินข้าวกินน้ำ กลับมาจากโรงเรียนก็จะอยู่แต่ในห้องนั้น” เด็กหนุ่มตัวชาวาบ เมื่อรู้ว่าไทเกอร์นอนคนเดียวไม่ได้สาเหตุมาจากอะไร

“พี่กลับมาอีกทีลูกก็..” เขาข่มเสียงที่กำลังสั่น “มือช้ำ หัวช้ำ ทั่วตัวช้ำไปหมด พี่เลี้ยงบอกกับพี่ว่าลูกเล่นซนกับเพื่อน มันคงจะเป็นปกติธรรมดาของเด็ก แต่พี่ไม่เชื่อ พี่เลยติดกล้องวงจรปิดที่ห้องนอนลูกชาย กว่าพี่จะกลับมาเจออีกครั้ง เกอร์ก็ป่วยเป็นโรคขาดสารอาหารจนต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาล”

“เกอร์..”

“เกอร์เอามือทุบประตุ เอาหัวโขกกับประตู ร้องหาแต่แม่.. แม่ที่ไม่ดูดำดูดีลูกชายตัวเองเลย”

“ทำไมคุณเกศเขาถึงไม่สนใจลูกล่ะ”

“เกศไม่พอใจที่พี่ไม่มีเวลาให้ เขาเลยประชดพี่ด้วยการไปคบกับคนอื่น ส่วนเรื่องลูกเขาก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ลินท์รู้ไหม ว่าเกศรู้ทุกอย่างว่าลูกเจออะไรบ้าง แต่เขาไม่เคยจะสนใจไยดีเลย”

“วันที่พี่เจอเขานอนกับผู้ชายคนอื่นบนเตียงพี่ พี่ฟ้องหย่า และขอสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกแต่เพียงผู้เดียว” มุจลินท์นิ่งอึ้ง ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าชลธีและไทเกอร์จะเจอเรื่องราวเช่นนี้ ส่วนเขาแม้จะอยู่ในสลัมขายของไปวันๆ แต่ยายสมใจก็ดูแลและเลี้ยงดูอย่างดีเท่าที่จะทำได้

“พี่จะไม่ยอมให้คุณเกศเจอลูกเลยหรือ” มันทรมานเกินไปสำหรับเด็กคนหนึ่งที่จะไม่ได้เจอแม่ แค่คิดเขาก็รู้สึกแย่มากแล้ว เพราะเขาใฝ่ฝันอยากจะเจอพ่อกับแม่มาตลอดชีวิต

“ไม่ใช่ไม่ยอม แต่เขาเจอลูกไม่ได้ลินท์ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามเจอ”ชลธีเม้มปากแน่น “ตอนนั้นเกอร์อาการหนักมาก หมอบอกว่าช็อคและพฤติกรรมถดถอย ลูกถูกabuse** มานานมาก ทำให้พัฒนาการช้า เขาจะชอบดูดนิ้วกัดเล็บตลอดเวลา”

“...”

“พี่ทำใจไม่ได้ที่จะเห็นลูกเป็นแบบนั้น เกือบปีที่พี่ต้องดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ในที่สุดไทเกอร์ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ถึงไม่ได้ดีที่สุด แต่พี่ก็พอใจแล้ว”ดวงตาคมฉายแววเจ็บปวดอย่างที่เด็กหนุ่มไม่เคยเห็นมาก่อน มันช่างอ้างว้างและสิ้นหวังกว่าที่เขาคิดมากนัก ”จนพี่ได้มาเจอลินท์ พี่ก็รู้สึกได้ทันทีว่าลินท์จะดูแลลูกชายของพี่ได้”

“พี่ไม่ต้องห่วง ลินท์จะดูแลลูกให้ดีที่สุด..”

“ขอบคุณนะลินท์ ขอบคุณที่อยู่ข้างๆพี่” ไม่พูดเปล่าพลางใช้ท่อนแขนเกี่ยวเอวเข้ามาแนบชิด เห็นดวงตากลมสวยคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา ก็รับรู้ได้ว่ามุจลินท์รักและเอ็นดูไทเกอร์มากขนาดไหน ส่วนเขาน่ะอยากจะแสดงความรักใจจะขาด

“นี่เราอยู่นอกบ้านกันนะ!” ชลธีหลุดยิ้มออกมา เห็นเจ้าลูกเป็ดหน้าแดงก่ำ ทำหน้าตาโมโหยิ่งน่าแกล้งเข้าไปอีก “ลินท์ไปดูลูกก่อนนะ”

   เด็กหนุ่มเดินหนีไปอีกทาง แทบไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ที่นี่ไม่ใช่ห้องที่อยู่กันสองคนเสียหน่อย ถึงเนื้อถึงตัวกันกลางวันแสกๆคนอื่นเขาจะมองอย่างไร คิดแล้วก็ทั้งโกรธทั้งเขิน เดินไปสงบสติอารมณ์หยุดยืนมองลูกชายตัวน้อยที่กำลังเข้าที่เตรียมออกวิ่ง ในใจรู้สึกปวดหนึบนึกถึงเรื่องที่ชลธีพูดแล้วก็รู้สึกสงสารไทเกอร์จับใจ ไม่ว่าอย่างไรชีวิตคนเราก็ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างจริงๆ...

“ไทเกอร์สู้ๆ” เด็กหนุ่มป้องปากตะโกนออกไปเสียงดัง จนเด็กชายเห็นแล้วยิ้มเขินม้วนต้วน เขาชูสองนิ้วเป็นเชิงสู้ๆให้กำลังใจให้เด็กชายที่กำลังตั้งท่ารอเปลี่ยนวิ่งกับเพื่อน เด็กชายออกวิ่งตัวปลิว เห็นจ้ำม่ำขนาดนั้นแต่วิ่งเร็วเหมือนกัน ในช่วงที่กำลังเอี้ยวตัวอ้อมหลักแล้วต้องวิ่งกลับไป เพื่อนที่วิ่งตามมาข้างหลังชนเอาจนได้ ร่างเล็กกระเด็นไปอีกทาง หัวใจเขาแทบหล่น แข้งขาก้าวไม่ออก คนที่ถึงตัวไทเกอร์คนแรกคือชลธี อุ้มเด็กชายตัวน้อยขึ้นมา หางคิ้วแตกรอยเลือดเป็นทางยาว ไทเกอร์ร้องไห้จ้า เขาตั้งสติได้เสร็จรีบวิ่งเข้าไปหาเด็กชายทันที แค่เห็นเลือดเขาก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

“เกอร์ เกอร์” เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋าหยิบผ้าขนหนูที่เตรียมไว้ซับเลือดไม่ให้เข้าตา เขาไม่ชอบเวลาเด็กชายร้องไห้เสียเลย “คนเก่งของแม่”

“ฮือ เกอร์เจ็บ” สองแขนชูมาทางเขา เขาช้อนตัวลูกชายออกมาจากชลธี ทุกคนในสนามหยุดชะงักตั้งแต่ไทเกอร์ร้องไห้เสียงดัง คุณครูรีบวิ่งกันไปหากล่องปฐมพยาบาลแล้วเข้ามาช่วยทำแผล แต่เด็กชายไม่ยอมได้แต่นอนซบไหล่เขานิ่ง จนกระทั่งผล็อยหลับไป เขาและชลธีตัดสินใจพาไทเกอร์ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

“ลินท์ไหวไหม” นายทหารหนุ่มถามเด็กหนุ่มที่อุ้มลูกชายมาตลอดทาง กว่าจะถึงที่จอดรถมุจลินท์ไม่ยอมปล่อยให้เขาได้ช่วยอุ้มลูกเลย วงหน้าหวานคิ้วขมวดมุ่น หันมามองชายหนุ่มที่เดินตามมา ส่ายหัวว่าไม่เป็นไรแล้วรีบเดินต่อ มุจลินท์ค่อยๆอุ้มไทเกอร์ที่นอนคอพับคออ่อนขึ้นรถ ชลธีรีบขับรถอย่างรวดเร็ว

“เราเลยมาแล้วนี่ครับ”

“ไปที่รพ.x ดีกว่า” เขาจุดยิ้มเอื้อมมือไปกุมมือขาวที่เย็นเฉียบ ตอนนี้หน้าตาเจ้าลุกเป็ดดูไม่ได้เลย ซีดเหมือนจะเป็นลมเสียให้ได้ “น้องชายพี่เป็นหมออยู่ที่นั่น” พอได้ยินอย่างนั้นก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย ก้มลงมองลูกชายที่หลับไปพร้อมคราบน้ำตา

การจราจรติดขัดจนเขาอยากจะลงจากรถแล้ววิ่งไปให้รู้แล้วรู้รอด ความกังวลเกาะกุมจนเขาเริ่มจะปวดตึ้บ ชลธีคอยชวนเขาพูดคุยตลอดเวลาไม่ให้เขาเครียดมากไปกว่าเดิมแล้วพร่ำบอกว่าลูกจะไม่เป็นอะไร ลงจากรถชลธีรีบรับเด็กชายไปจากเขา มือไม้ชาดิกจนแทบไม่รู้สึกอะไรแต่เขาก็ไม่สนรีบสาวเท้าตามนายทหารหนุ่มเข้าไปทันที พยาบาลรับเด็กชายไปทำแผล เขาเห็นชลธียืนคุยกับใครสักคนคน เป็นชายหนุ่มในชุดเสื้อกาวน์ขาวรูปร่างสูงใหญ่ เครื่องหน้าไม่ต่างจากชลธีมากนัก สันกรามชัด ผิวสีแทน แต่ดวงตาคมดูมีประกายความอบอุ่นมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

“หลานเป็นอะไรน่ะพี่”

“วิ่งเปี้ยวแล้วล้มคิ้วแตก”ชลธีถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ตอนนี้ร้องไห้จนหลับไปแล้ว”

“เดี๋ยวรอเกอร์ทำแผลก่อนแล้วกัน”คเชนทร์ดูไม่ตกใจเท่าไหร่นัก สมัยเด็กๆพวกเขาวิ่งเล่นปีนต้นไม้กันหล่นกันมาหัวร้างข้างแตกกันเป็นเรื่องธรรมดา “ลูกหมูเอ๊ย วิ่งอีท่าไหนละเนี่ย”

“ก็วิ่งปกตินี่แหละ แต่เพื่อนดันวิ่งมาชนเสียก่อน” นายทหารหนุ่มไม่อยากจะนึกถึงเมื่อลูกชายตื่นเลย “ตื่นมาแล้วคงไม่อาละวาดมั้งนะ”

“ทำไมอะ”

“จะเอาเหรียญทองไปฝากแม่เขา” แล้วพยักเพยิดมาทางเด็กหนุ่มที่นั่งหน้าซีด “ถ้าไม่ได้เหรียญทองต้องร้องไห้บ้านแตกแน่”

“มีแม่ใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นผมจะรู้เรื่อง” คเชนทร์ขมวดคิ้ว คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอเด็กหนุ่มที่ไหนมาก่อน “นี่ไม่ใช่คนที่พี่พามาหาหมอรอบนั้นหรอ”

“ความจำดีนี่หว่า”

“เอ้า ไหนบอกว่าเด็กที่ไหนไม่รู้ แล้วตอนนี้” คเชนทร์ชี้นิ้วสลับไปมา “เป็นเมี..เอ๊ย เป็นแม่ใหม่ไทเกอร์ไปได้ยังไง”
“ลามปามแล้วมึง ไอ้ช้าง”ชลธีแทบจะง้างมือตบกะโหลก“พี่สะใภ้มึงนะ”

“หวัดดีคร้าบบบ” คเชนทร์แกล้งยกมือไหว มุจลินท์ตัวดีดผึงจากเก้าอี้รับไหว้แทบไม่ทัน ไม่ว่าดูอย่างไรเขาก็เด็กกว่าคเชนทร์อยู่แล้ว นี่คงไม่ได้ไหว้แกล้งไหว้เขาให้เขาอายุสั้นหรอกใช่ไหม “แฟนพี่นี่น่ารักดีเนอะ พี่ชื่อช้างนะครับ เป็นน้องชายพี่ฉลาม”

“ชื่อลินท์ครับ”เขากระพุ่มมือไหว้เหลือบตามองคนตัวโตที่ยิ้มอารมณ์ดี “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“แล้วเมื่อไหร่จะพาไปเปิดตัวที่บ้าน”นายแพทย์หันไปหยอกล้อพี่ชาย “แม่ไม่ว่าหรอกน่า ดูผมกับมะนาวสิ”

“เออ กูพาไปแน่ๆ คนนี้จริงจัง”

“กี่คนๆก็พูดแบบนี้ตลอด ลินท์อย่าไปเชื่อพี่ฉลามนะ รายนี้โคตรเจ้าชู้ประตูดิน”

“ไอ้เหี้ยช้าง” ชายหนุ่มร้องเสียงสูง “ให้กูมีชีวิตสงบสุขบ้างเถอะ” คเชนทร์ขำลั่น มีความสุขที่ได้แกล้งพี่ชายขี้เก๊กที่เขาหมั่นไส้มาตั้งนาน ก็แหงล่ะ นายทหารหนุ่มพี่ชายแท้ๆของเขาคนนี้เป็นศัตรูหัวใจเขามาหลายปีกว่าแฟนเขาจะยอมตัดใจได้ 

“เห็นพี่ปล่อยวางจากเรื่องเก่าๆได้ ผมก็ดีใจแล้ว ไม่อยากเห็นพี่ทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว พ่อกับแม่รอพี่กลับบ้านอยู่นะ” คเชนทร์ตบไหล่พี่ชายสองสามทีก็ขอตัวไปดูไทเกอร์ที่พยาบาลเพิ่งทำแผลให้เสร็จ

“ไปดูลูกกัน” ชลธีเรียกเด็กหนุ่มที่กำลังมึนงงตั้งสติไม่ค่อยจะอยู่ “ไม่ต้องตกใจนะช้างมันไม่ตกใจที่เห็นพี่คบกับลินท์” เขาป้องปากกระซิบ “แฟนมันก็น้องชายข้างบ้านนั้นแหละ”

ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ให้ตายเถอะ ผู้ชายบ้านนี้...

ไทเกอร์นอนอยู่ในอ้อมกอดมุจลินท์นิ่ง ไม่หือไม่อือ ดวงตากลมโตปรือปรอยง่วงนอนเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดที่เขาเพิ่งป้อนไปก่อนออกมาจากโรงพยาบาล ค่อยๆวางลูกชายบนเตียงนุ่ม ไทเกอร์โผเข้ากอดไม่ยอมให้เขาไปไหน มุจลินท์จุดยิ้มก่อนจะสอดตัวเข้าไปนอนข้างๆ “วันนี้ฟังนิทานเรื่องอะไรดีครับ ..”

“กาต่ายกับต่าวว” ฟังเรื่องนี้มาสองเดือนแล้ว ดูเหมือนลูกชายจะติดใจ

“ครับๆ ลูกชาย..” สอดแขนให้เด็กชายเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...”

มุจลินท์สะลึมสะลือจำได้ว่าตัวเองนอนเล่านิทานให้ลูกชายฟัง ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นเงาทาบทับลงมาถึงได้รู้สึกตัวว่ามีคนนั่งอยู่ข้างๆเตียง สัมผัสอบอุ่บจากฝ่ามือหนาลูบหัวเขาไปมา

“ลุกขึ้นมาทานข้าวก่อนสิ”ชลธีถามเสียงเบาเพราะกลัวลูกชายจะตื่น “นอนตอนเย็นระวังจะปวดหัว พี่กลัวเราจะไม่สบาย”

“พี่หิวหรือยัง เดี๋ยวผมทำอะไรให้ทานนะ” ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน ลืมเตรียมอาหารเย็นเสียสนิท คุณยายจะต้องทานยาตรงเวลาเพราะฉะนั้นเขาจะต้องรีบเข้าครัว

“พี่ไปทานข้างนอกกับคุณยายแล้ว ซื้อมาฝากลินท์กับลูกด้วย”ชลธีลูบแก้มขาวไปมา “วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ลุกขึ้นมาอาบน้ำทานข้าวเถอะ เดี๋ยวพี่จะช่วยดูลูกเอง”

“ครับ”

“ทานยาด้วยนะ”มือหนาอังไปที่หน้าผากเนียน“เราหน้าซีดมากเลย”

“ลินท์เป็นห่วงลูก” เห็นลูกเป็ดทำหน้างอง้ำ เขาก็อดใจไม่ไหวก้มลงไปกดจูบที่ริมฝีปากหวาน บดเบียดความร้อนลงไปแผ่วเบา คนกำลังงัวเงียตื่นเต็มตาทันที “ฮื่อ..” ไม่นานคนตัวบางกว่าก็จูบตอบ เค้นคลึงดูดดึงด้วยความรัก สายตาสอด
ประสานหวานฉ่ำ

“สรุปคืนนี้..”

“ลินท์จะนอนกับลูก”

“พี่นอนด้วย” ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถาล่ะวะ...

“ไม่...” ลูกเป็ดพูดเสียงแข็ง “กลับไปนอนห้องตัวเองเลยครับ” นี่เขายังไม่ลืมคดีเมื่อคืนที่ทำเอาเขาปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย ร้ายนักใช่ไหมผู้พัน.. เดี๋ยวเจอ ไอ้ลินท์

“ลินท์...”

“ไม่”

“ลินท์ครับ” อย่ามาทำเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้เชียว อย่างไรก็ไม่ใจอ่อน

“จะงดแค่วันนี้ หรือจะงดไปทั้งอาทิตย์”

“….ก็ได้ครับ”


เก่งมาจากไหนก็แพ้มนุษย์เมีย....



TBC

Child physical abuse** การทำร้ายร่างกายในเด็ก
 
มาเต็มตอนแล้วนะคะ แก้คำผิดแล้วค่ะ ขอโทษจริงๆที่ให้รอนาน
ฝากฟีดแบคด้วยน้า ขอบคุณที่เอ็นดูน้องลินท์ค่ะ :hao6:
เอาร่างปก2 มาอวดด้วยยยยย หวานมว้ากกกกกก

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ที่แท้พี่ฉลามก็เป็นพี่ของพี่ช้างของมะนาวนี่เอง (เคยอ่านเรื่องนั้นค่ะ แต่คนเขียนยังแต่งไม่จบ เลยได้แต่สงสารพี่ช้างวนไป ฮา)
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ว้ายยย

ไม่น่าเลยค่ะ

พีี่ฉลาม

ออฟไลน์ moosawvans

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ผู้ชายในเครื่องแบบ มีความหลงเมีย และกลัวเมียที่แท้ทรู้เด้อ :z2:

ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ่านตอนใหม่แล้วรู้สึกอยากฟัดน้องไทเกอร์ตามเลย

เอ็นดูในความน่ารัก  พี่ช้างโผล่มานิดๆหน่อยๆเองอ่ะ

ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ตอนนี้่อ่านแล้วละมุนมากชอบอ่ะดูหวานกันซะ

ตอนหน้าขอให้พี่ชุกับเกศหายสาปสูจน์ไปเลยนะ

จะดีมาก แบบไม่อยากให้กลับมาเลยสองคนนี้

ถ้ากลับมามีแววดราม่าแน่ๆๆๆ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เอ็นดูน้องไทเกอร์

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Maneemantra7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๒

เด็กหนุ่มหมุนตัวซ้ายขวาหน้ากระจกบานใหญ่ได้เกือบสิบนาทีแล้ว เสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีน้ำตาลตัวเก่งสวมทับเสื้อยืดสีเหลืองอ่อน กางเกงยีนส์สีซีดขายาวแนบไปกับขาเรียวยาว เขาหมุนแล้วหมุนอีกก็ยังไม่พอใจ กลัดกระดุมเสื้อจนถึงต้นคอก็ยังเห็น ไอ้รอยยุงกัดแดงๆระเรื่อเต็มลำคอ เปิดตู้เสื้อผ้าก็เจอแต่เสื้อคอเต่าสีขาวแขนยาวที่ชลธีซื้อไว้ให้แขวนอยู่ในตู้ ซึ่งเขาไม่เคยหยิบมาใส่เลยสักครั้งเพราะมันบางแนบเนื้อเสียขนาดนั้น เสียงเคาะประตูหน้าดังสองสามทีพร้อมกับเจ้ายุ่งตัวเบ้อเร่อที่ทำเอาเขาปวดหัวกับการใส่เสื้อผ้า ยืนพิงประตูห้อง ดวงตาคมมองเขาตั้งหัวไล่ลงมายันปลายเท้า

“มองอะไรครับ?” เขาหันไปถามเสียงขุ่น รอยคิสมาร์คเต็มตัวจนเขาไม่กล้าออกไปไหนมาหลายวันแล้ว มันน่าโมโหจริงๆ

“ทำไมดุจังล่ะ” ชลธีรีบสาวเท้าเข้ามาสวมกอดทางด้านหลัง กดจูบลงต้นคอหอมกรุ่นกลิ่นแป้งเด็กเบาๆ “ตั้งแต่เป็นแฟนกันก็ดุจังเลยนะ”

วงหน้าขาวแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเอ็นดู ตั้งแต่เปิดเผยความรู้สึกต่อกัน ชลธีก็มักจะแสดงความรักอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมาจนบางครั้งเขาก็รู้สึกเขินจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน

“ปล่อยก่อน ลินท์จะแต่งตัว” เขาสะบัดคนตัวโตให้หลุดออก “พี่ออกไปรอข้างนอกนะครับ”

“ไม่เอา ไหนยังไม่เสร็จเดี๋ยวพี่ช่วย” ฉกจูบแก้มขาวนวลไปอีกหนึ่งที “ทีลินท์ยังช่วยพี่แต่งตัวเลย”

“ให้พี่ช่วยแต่งตัวงั้นวันนี้ก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว” เล่นเดี๋ยวจูบเดี๋ยวกอดเดี๋ยวลูบ ไม่พ้นได้ไปเล่นกันบนเตียงอีกแน่ เขาขอยอมแพ้ รับศึกหนักผู้พันทุกวันจนเขาแทบไม่มีแรงตื่นไปเรียน จนเขาต้องออกกฎห้าม แต่ชลธีก็ยังไม่ยอม

“โถ่ เบื่อคนรู้ทัน” ทำปากจู๋คิดว่าน่ารักหรืออย่างไร ขยิบตาแบบนั้นคิดว่าจะยอมหรือ

อือ ยอมก็ได้....

“พี่ช่วยลินท์ที” เด็กหนุ่มหันไปเผชิญหน้า ชลธีหยิบผ้าพันคอมาม้วนรอบคอเขาแล้วจุ๊บแก้มเบาๆหนึ่งที

“แฟนพี่ดูดีอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งอะไรมาก” มือหนาเขี่ยแก้มขาวเบาๆ “แค่ปิดรอยตรงคอก็พอ เดี๋ยวคุณแม่จะตกใจ” เขาเบิกตาโพลงเกือบจะยกกำปั้นขึ้นหมายจะทุบนายทหารหนุ่มสักที แต่ก็ทุบไม่ลง ใช้หัวดันเข้ากับไหล่หนาออดอ้อนขอกำลังใจ ชลธีอยากพาเขาและคุณยายไปพบคุณพ่อและคุณแม่ ครอบครัวของชลธีมีบ้านอยู่ในแถบชานเมืองจังหวัดปทุมธานีไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเขานัก ชลธีมีพี่ชายหนึ่งเป็นวิศกรอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนน้องชายอีกสองคนเป็นหมอและทนายความ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลพันศิยะวัตรก็เป็นเจ้าของภัตราคารหรูชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ แล้วครอบครัวชลธีจะยอมรับคนรักของลูกชายที่เป็นนักศึกษาจนๆมีแต่ตัวได้อย่างไร แค่คิดก็รู้สึกกังวลจนปวดหัวตุบ หัวใจบีบแรงจนอึดอัด

“ลินท์กลัว” วงหน้าขาวซุกเข้าที่อกอุ่นของชายหนุ่ม “กลัวไปหมดทุกอย่างเลย”

“ลินท์มีพี่อยู่ทั้งคน จะกลัวอะไรอีก”

“กลัวสิ กลัวแม่พี่ไม่ชอบลินท์ กลัวที่บ้านพี่จะไม่ยอมรับ.. พวกเรา”

“พาลูกสะใภ้ไปให้ทั้งที จะไม่ยอมรับได้ยังไง” เห็นเจ้าลูกเป็ดทำหน้ายู่ก็อดเอ็นดูไม่ได้

“พี่ฉลาม ลินท์ไม่ตลกนะ” เขาไม่ใช่ผู้หญิง แถมยังเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แล้วพ่อแม่ของชลธีจะไม่ตกใจหรือ อีกอย่างชลธีเป็นนายทหารมีหน้ามีตาจะให้เขาออกตัวเป็นคนรัก แล้วคนอื่นจะคิดยังไง

“ลินท์อย่าเพิ่งไปคิดอะไรที่มันยังไม่เป็นจริงสิ” ลูบกลุ่มผมนุ่มสองสามที “ทำหน้าบึ้งแบบนี้เดี๋ยวหน้าเหี่ยวนะ”
“ชอบแซวอยู่เรื่อย”เขาเบะปาก“ลินท์กลัวจริงๆ”

“ลินท์เชื่อใจพี่ไหม”

“เชื่อสิ”

“ก็ไม่ต้องไปคิดอะไร.. นะครับ” สัมผัสอุ่นแตะหน้าผากขาวเนียน เพียงอึดใจเดียวแต่รู้สึกเนิ่นนานในความรู้สึก ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ มองสบตาของชลธีแล้วเห็นเงาตัวเองในดวงตาคู่นั้น ความไม่มั่นใจที่มีอยู่ค่อยๆจางหายไป มือหนาที่เกาะกุมไม่ยอมปล่อยทำให้เขารู้สึกปลอดภัยเหมือนอยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา คำว่ารักแม้ไม่เอ่ยออกมาแต่สายตาที่มองทอดมาพร้อมรอยยิ้มนั้น

เต็มไปด้วยความรักอัดแน่นเต็มอก…

“ดูไอ้ช้างสิ คบกับมะนาวมาตั้งหลายปี” ชลธีโยกคนตัวเล็กกว่าไปมา “ที่บ้านพี่เปิดกว้างมากกว่าที่ลินท์คิดนะ”
“ฮื่อ ลินท์จะไม่คิดมากแล้ว” ถึงชลธีจะบอกอย่างนั้นแต่มันก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี ในหัวคิดไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่งตัวแบบนี้จะเรียบร้อยหรือยัง แล้วควรจะมีของฝากติดไม้ติดมือไหมนะ เขาไม่รู้จะวางตัวอย่างไรดีเลยกังวลไปหมด

“ลินท์เป็นคนน่ารัก คุณพ่อคุณแม่พี่ต้องเอ็นดูแน่ๆ” เจ้าลูกเป็ดครางในลำคอแถมยังซุกเขาแน่นเข้าไปอีก บดเบียดเนื้อตัวหอมหวานเข้ามาใกล้เขาแบบนี้ ไม่สงสารเขาบ้างเลย “เด็กขี้ยั่วเอ๊ย”

“ลินท์ยั่วพี่ตรงไหนฮะ?” มุจลินท์เงยหน้าขึ้นมาถาม ไม่พูดเปล่าหยิกเข้าที่แขนเขาตั้งหลายที ชลธีหลบเป็นพัลวัน เห็นตัวบางๆแต่มือหนักเป็นบ้า

“โอ๊ย พี่ยอมแล้ว พี่ยอมแล้ว”สองมือยกขึ้นไร้ทางต่อต้าน“ดุแบบนี้เห็นทีพี่จะมีกิ๊กยากแล้ว”

“พี่ฉลาม!”

“พี่ล้อเล่นจ้ะ” แค่พูดเล่นหน่อยเดียวทำเป็นหน้างอเดินหนีเขาไปนอกห้องอีกแล้ว มุจลินท์อุ้มลูกชายและจูงมือคุณยายเดินลิ่วไม่ยอมมองหน้าเขาสักนิด ไทเกอร์หันมาหัวเราะคิกคักใส่เขา ได้แต่รีบกุลีกุจอขนของใส่ท้ายรถ เป็นแกงบวดฟักทองที่คนรักตั้งใจทำเต็มที่อยากให้ที่บ้านเขาได้ชิม มุจลินท์หันมามองค้อนเขาอีกรอบก่อนจะขึ้นรถไป

เขาว่าเมียดุ.. แปลว่าเมียรักใช่ไหม..

รถยนต์นิสสันสีขาวจอดนิ่งสนิทหน้าบ้านเดี่ยวสองชั้น ข้างตัวบ้านมีต้นไม้ใหญ่ขนาบทั้งสองด้านบรรยากาศดูร่มรื่น สบายตา เขาค่อยๆประคองคุณยายลงจากรถ หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวโตขนสีน้ำตาลเป็นเงาวิ่งมาคลอเคลียข้างๆ เด็กหนุ่มแอบสะดุ้งนิดหน่อยที่เจ้าหมาตัวโตเข้ามาใกล้

“กาทิ้!” เด็กชายวิ่งเข้าไปหา “เกอร์มาหากาทิ้แย้ว”

“โฮ่ง!”

“คิดถึงกาทิ้!”

“โฮ่ง!”

“ลินท์เดี๋ยวพี่ช่วยพาคุณยายเข้าบ้านนะ” ชลธีเข้ามาประคองอีกทางแต่เขาส่ายหัวไม่เป็นไร ดวงตากลมโตมองไปโดยรอบแอบใจเต้นเมื่อจะได้เจอครอบครัวของ ‘คนรัก’ ครั้งแรก ตอนที่เขานั่งอยู่บนรถก็ยังกังวลจนหน้าซีด โดนชลธีแซวไปเสียหลายรอบ

“อ๊ะ น้องลินท์?” ทันทีที่ก้าวเข้าไปในตัวบ้าน ก็เห็นคนนั่งอยู่เต็มโซฟา เขาก้มหน้างุดเดินก้มหน้าไม่กล้ามองใครจนได้ยินเสียงร้องทักจึงเงยหน้าขึ้น ชายหนุ่มหน้าหวานที่กำลังนั่งอยู่ที่โซฟาสวมเสื้อยืดสีส้มคนนั้นหน้าคุ้นจริงๆ “พี่นัสเอง!”

“พี่นัสจริงด้วย” มนต์มนัสคือรุ่นพี่สายรหัสของเขาที่เพิ่งเจอกันไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เจ้าตัวเป็นนักสังคมสงเคราะห์ประจำอยู่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ จึงมีโอกาสได้รวมตัวนัดเลี้ยงข้าวกับน้องๆในสายรหัสกันไปเมื่อไม่นานมานี้ แล้วพี่นสมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร.. ยังไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ชลธีก็พาเขาไปนั่งที่โซฟาสีครีมอ่อน เขายิ้มตอบให้คเชนทร์ที่นั่งอยู่ข้างพี่นัส ส่วนชายหนุ่มอีกคนกำลังนั่งไขว่ห้างเปิดหนังสืออยู่ยังเงยหน้าขึ้นมามองเขาเล็กน้อย ไม่นานนักมีหญิงสาวเดินออกมาจากหลังบ้านใบหน้ามีริ้วรอยเริ่มบ่งบอกอายุที่มากขึ้น รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้เขานั้นทำให้เขารู้ทันทีว่าต้องเป็นคุณแม่ของชลธีแน่นอน เขากระพุ่มมือไหว้ผู้ใหญ่นอบน้อม 

“ตามสบายเลยนะลูก เดี๋ยวพ่อเขามา มัวแต่ไปปีนต้นมะม่วงอยู่” ทั้งห้องหัวเราะครืน พี่นัสเดินไปรับจานผลไม้จากมือคุณแม่ เป็นมะม่วงสุกสีเหลืองกับข้าวเหนียวราดกะทิ คเชนทร์รีบจ้วงช้อนตักจากจานคนแรกจนโดนพี่นัสตีมือ

“ตะกละ พี่ช้างรีบหรือ”

“ตีพี่อีกแล้วนะ!”

“ไม่ให้ตีแล้วจะให้ทำอะไร” คเชนทร์ไม่ตอบแต่ทำแก้มป่องใส่ ทุกคนช่วยกันรุมแกล้งคเชนทร์จนหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง บรรยากาศอบอุ่นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขากวาดสายตามองกรอบรูปเรียงรายอยู่ตามผนังบ้านจึงได้มองเห็นสมาชิกคนอื่นๆเต็มตา

“ยินต้อนรับนะคะ” ปัทมายิ้มส่งแก้วน้ำให้คุณยาย “ทานน้ำนะคะคุณแม่”

“ขอบใจจ้ะ”

“คูนย่า” ไทเกอร์โผเข้าหา “คูนย่า”

“หลานย่า.. ไม่เจอกันหลายเดือนเลย คิดถึงย่าไหมจ้ะ” ปัทมาหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาของหลานชาย แก้มยุ้ยนุ่มนิ่มยิ่งทำให้คุณย่าหมั่นเขี้ยวอยากฟัดพุงกลมๆ

“คิดถึงงงงงง” เจ้าตัวพูดเสร็จก็วิ่งไปนั่งบนตักมุจลินท์ “แม่ลินท์ของเกอร์ฮะย่า” ปัทมามองหน้าชลธีแล้วยิ้มกริ่ม ตั้งแต่ที่ชลธีเล่าเรื่องของเด็กหนุ่มให้เธอฟัง เธอก็อยากเจอมุจลินท์มาตลอด และไม่เคยคิดจะรังเกียจแม้แต่น้อย เธอกลับนับถือหัวใจที่เข้มแข็งมากกว่า

“มีอะไรจะบอกแม่ไหม”

“แฟนผมชื่อลินท์ครับแม่” เด็กหนุ่มกระพุ่มมือไหว้อีกรอบ มือสองบีบกันไปมาจนแน่น ชลธีเห็นอย่างนั้นจึงเอื้อมไปกุมมือขาวเอาไว้ “ไม่มีอะไรหรอก”

“ต้องขอโทษคุณแม่ด้วยที่ลูกชายปัททำตัวไม่น่ารักเลย ไม่ทำอะไรให้ถูกต้องเสียก่อน” หล่อนบ่นลูกชายจนหูแฉะไปหลายรอบแล้ว อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแต่ทำตัวเหมือนเด็กๆ ยังไม่นับสามีของเธอที่คาดโทษเจ้าลูกชายคนรองไว้แล้ว

“ฉลามเขามาคุยกับยายแล้ว.. ถ้าเขารักกันยายก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกลูก” มุจลินท์ไม่รู้จะเอาหน้าตัวเองไปไว้ตรงไหนแล้ว คุณยายเล่นพูดต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ เขาเขินมากจริงๆ

“ไม่ได้นะคะคุณแม่”ปัทมาหันไปทำหน้าดุใส่ลูกชาย“ฉลาม.. รู้ใช่ไหมว่าจะต้องทำอย่างไร”

“ผมจะจัดการให้เรียบร้อยก่อนผมไปเชียงราย” เขาวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว อย่างไรก็ไม่ยอมให้คนรักอยู่ตามลำพังแน่นอน

“ไม่! ต้องภายในเดือนนี้.. แม่จะจัดห้องไว้ให้ ลูกต้องพาหนูลินท์กับคุณยายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน”

“อะเอ่อ” เด็กหนุ่มมึนงงเริ่มจะไม่เข้าใจว่าคุณแม่พูดถึงเรื่องอะไรกัน ถ้าฟังไม่ผิดจะให้เขาย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านนี่หรือ “อะไรนะครับ”

“มาอยู่ที่บ้านกับแม่นะลินท์”ปัทมาเอื้อมมือลูบหัวลูบไหล่เจ้าลูกเป็ด“ให้เราได้ดูแลหนูนะจ้ะ อย่างไรเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” เท่าที่เห็นมุจลินท์เป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุยังไม่ถึงยี่สิบเลยด้วยซ้ำ แถมยังมีหน้าที่ที่ต้องดูแลคุณยายอีก ถ้าลูกชายของเธอดูแลได้ไม่ดี เธอไม่ยอมเป็นอันขาด

“แต่ว่า..”

“นะลูกนะ”ปัทมาเชียร์สุดฤทธิ์ ก่อนจะไปเจอสามีกำลังเข้ามาพอดี “อ้าวคุณ.. มาดูลูกชายคนใหม่ของฉันสิ”

“สวัสดีครับคุณแม่”พิพัฒน์ยกมือไหว้คุณยาย ก่อนจะหันมายิ้มให้เด็กหนุ่ม “ไหว้พระเถอะลูก”

“ฉันจะให้หนูลินท์เข้ามาอยู่ภายในเดือนนี้.. คุณว่ายังไง?” ปัทมาหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมากที่จะให้มุจลินท์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้ไปไกลหูไกลตาเหมือนเมื่อครั้งชลธียังคบหากับเกศรา

“ไหนๆก็มาแล้วก็มาอยู่เลยลูก”พิพัฒน์เอ่ยติดตลก ดวงตาคมฉายแววเอ็นดูอย่างปิดไม่มิด มุจลินท์รู้เลยทันทีว่าชลธีถอดแบบมาจากใคร “ช้างมันไม่ยอมกลับบ้านดีนัก ก็เอาห้องมันให้น้องอยู่แทน”

“พ่อ!”คเชนทร์โอดครวญ“ผมก็จะพานาวมาอยู่เหมือนกัน” จบประโยคมนต์มนัสก็ทุบไหล่แฟนตัวเองทันที

“พี่ช้าง! ใครเขาจะมาอยู่ด้วยกัน”

“งั้นพี่ไปอยู่กับนาวก็ได้จ้ะ” คเชนทร์ตอบเสียงอ่อน ทุกคนหัวเราะครืนส่วนพี่นัสหน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว งั้นที่บอกว่าแฟนพี่ช้างที่เป็นน้องชายข้างบ้านก็คือพี่มะนาวหรอกหรือ..

“ยินดีต้อนรับนะลูกนะ.. มาอยู่ด้วยกันนะคะคุณแม่ อย่าได้เกรงใจเลย” ปัทมาเชื้อเชิญด้วยความจริงใจ มุจลินท์รีบกระพุ่มมือไหว้ผู้ใหญ่อีกรอบ

“เอ่อ ขอบคุณครับ.. แม่” ปัทมาสวมกอดเด็กหนุ่มแนบแน่น ลูบหน้าลูบหัวยกใหญ่ เขาน้ำตารื้นอยู่ที่ขอบตา ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเหลือเกิน

“งั้นผมก็เป็นโสดอยู่คนเดียวสิเนี่ย” ชายหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสือเงียบๆมองลอดแว่นขึ้นมา สมุทธ ลูกชายคนที่สามของบ้าน รูปร่างสูงใหญ่ไม่ต่างจากพี่น้องคนอื่น สันกรามชัด คิ้วเข้มดกดำ ดวงตาคมเฉี่ยว แต่ผิวขาวเนียนได้คุณแม่มาเต็มๆ ดูเป็นชลธีเวอชั่นคุณชายชัดๆ 

“จะมีไม่มีก็ไม่แตกต่างกันหรอกครับคุณทนาย” คเชนทร์เอ่ยแซวพี่ชายของตัวเอง “พี่ปลาเล่นอ่านแต่หนังสือตลอดเวลา ผู้หญิงคนไหนเขาจะรับรักครับ”

“เออ ทำไงได้วะ” ทนายหนุ่มทำหน้าเหม็นเบื่อ ส่งหนังสือเล่มบางให้เด็กหนุ่มที่กำลังกกกอดกับมารดาตนอยู่เป็นของขวัญ มุจลินท์ไหว้ก่อนจะรับของจากผู้ใหญ่

“ยินดีต้อนรับนะครับน้องลินท์ พี่ชื่อปลาวาฬเป็นน้องชายพี่ฉลาม” เขามองวงหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่ม มองไปมองมาดูอย่างไรมุจลินท์ก็เหมือนเด็กมัธยมมากกว่า “จะว่าไปน้องลินท์อายุถึง18หรือยัง?”

“19แล้วครับ”เขาเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาตอบ “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ไม่มีอะไรหรอกลินท์ พี่ปลาแค่โล่งใจที่พี่ฉลามไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์มากกว่า ฮ่า” คเชนทร์ตอบแทน ส่วนมุจลินท์หน้าแดงระเรื่อ ไม่กล้าสบตาสายตาแพรวพราวของนายทหารหนุ่มที่ส่งมาเลย

“ได้ทีขยี้จังเลยนะมึง”

“ผมล้อเล่นครับพี่.. ใครจะไปกล้าว่าพี่ชายสุดที่รักได้ลงคอ” ทุกคนหัวเราะกระจาย คุณหมอช้างขี้เล่นแตกต่างจากชลธีจนเขาหัวเราะไปกับมุกตลอด ส่วนพี่นัสที่นั่งข้างพี่ช้างคอยห้ามปรามไม่ให้คนรักป่วนไปมากกว่านี้ ชลธีเอื้อมมือมากุมมือเขาไว้

“ขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพี่นะครับ..” แหวนทองคำขาวค่อยๆเลื่อนเข้านิ้วนางข้างซ้ายเขาเชื่องช้า เด็กหนุ่มทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองคนรักนิ่ง “ถือว่าพี่ตีตราจองลินท์ไว้แล้วนะ.. พี่สัญญาจะดูแลลินท์และลูกให้ดีที่สุด”

“ขอบคุณนะครับ” กระพุ่มมือไหว้คนรักแนบอก ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง.. อิงแอบซุกอกอุ่นซึมซับความรักเข้าสู่หัวใจ แม้จะได้ยินเสียงใครร้องโห่แซวเขาก็ไม่สนแล้วตอนนี้   

ความสุขที่มีคนรักมันอบอุ่นเช่นนี้นี่เอง..
 
“แม่ลีนนนน.. เกอร์อยากกิน” เจ้าตัวเล็กชี้ไปที่ข้าวเหนียวมะม่วงสุกในจาน เขาหยิบช้อนคันเล็กแล้วตักมะม่วงสุกใส่ถ้วยใบเล็กให้ลูกชายถือไว้ ฝึกให้หยิบจับช้อนส้อมด้วยตัวเอง สองมือเล็กป้อมค่อยๆถือช้อนตักเข้าปาก ตักแล้วหล่นอยู่หลายรอบจนไม่นานก็ทานจนหมดถ้วย มุมปากเล็กเต็มไปด้วยคราบเปื้อนจากมะม่วง เขาคอยซับทิชชู่ให้ลูกชาย

“อร่อยมั้ยลูก”

“อาหย่อย”

“อิ่มหรือยังครับ”

“เกอร์อิ่มแย้ว” ลูบท้องป่องของตัวเองก่อนจะหัวเราะคิก ไทเกอร์นอนเล่นบนโซฟาหลังจากไปเปิดศึกชิงรีโมททีวีจากอาช้าง เขาให้เด็กชายหนุนตักนอนดูโปเกม่อนจนหนำใจ

“ทานนมสักหน่อยไหมครับ แม่จะชงใส่แก้วให้ ทานเสร็จแล้วเราไปนอนกัน” ช่วงบ่ายเจ้าตัวเล็กเริ่มตาปรือปรอยได้เวลานอนกลางวัน ผุดลุกมาอ้อนให้เขาอุ้ม

“อาวคับ”เด็กชายขยี้ตา“เกอร์ง่วง” เขายกลูกชายขึ้นอุ้ม ชลธีนำเขาไปห้องนอนด้านบนซึ่งเป็นห้องของชายหนุ่มเอง ด้านในมีเตียงหกฟุตปูด้วยผ้าสีขาวสะอาด ผ้าม่านสีครีม และเฟอร์นิเจอร์ ไม่มากนัก ดูเรียบง่ายแต่อบอุ่น หัวยังไม่แตะหมอนไทเกอร์ก็ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดเขาเสียแล้ว ห่มผ้าให้ลูกชายจนเรียบร้อย เตรียมจะลงไปช่วยคุณแม่กับคุณยายทำขนมหวาน อยู่ๆชลธีก็รวบเขาเข้าไปกอด กดจมูกลงข้างแก้มเขาฟอดใหญ่

“เดี๋ยวพี่ฉลาม” เขาโดนหอมแก้มจนช้ำไปหมดแล้ว “ทำอะไรครับลูกนอนอยู่นะ”

“นอนแล้วก็ยิ่งดีใหญ่เลย”ชายหนุ่มกระซิบ“พี่จะได้ทำน้องให้เกอร์ได้”

“ตลกแล้ว มันใช่เวลามาพูดเล่นหรอครับ”เขาพยายามดันตัวเองให้หลุดออกจากอ้อมกอด แต่เหมือนจะยิ่งตรงกันข้าม ชลธีกอดเขาแน่นมากกว่าเดิมอีก “รีบลงไปดีกว่าพ่อกับแม่รออยู่นะครับ”

“ขึ้นมาแล้วมีหรือพี่จะปล่อยไปง่ายๆ.. เข้าปากฉลามแล้วก็อย่าหวังว่าจะรอด” ชายหนุ่มกดจูบลงริมฝีปากสีสวยเคล้นคลึงยั่วเย้าก่อนจะสอดลิ้นอุ่นชื้นจนลูกเป็ดร้องฮือกำเสื้อของเขาไว้แน่น รสสัมผัสจูบรุนแรงโหยกระหายทำเอาเด็กหนุ่มแทบจะล้มทั้งยืน มือหนาคว้าเอวบางไว้ ค่อยๆผ่อนแรงลงเป็นจูบเนิบช้าอ่อนหวาน

“ฮื่อ”ลูกเป็ดครางเสียงอ่อน หัวสมองขาวโพลนไปหมด “อึก.. อื้อ”

“หวาน”ชลธีถอนจูบเชื่องช้าก่อนจะจ้องมองคนรักที่ดวงตาฉ่ำหวานริมฝีปากบวมเจ่อ“แฟนพี่.. หวานที่สุดเลย”
“คนบ้า!” บริภาษได้แค่นั้น ชายหนุ่มก็โจนจ้วงดูดดึงริมฝีปากบางอีกยก ใช้ลิ้นอุ่นชื้นละเลียดชิมความหวานของอีกฝ่าย ละมุนละไม หวาบไหวในอก จนอดไม่ได้ต้องส่งเสียงครางออกมาด้วยความพึงใจ “อื้อ..”

“ร้องมาอีกเยอะๆเลยสิ.. พี่ชอบฟัง” ผ้าพันคอของลูกเป็ดหลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเขากำลังกดจูบบนซอกคอขาวเนียน ยิ่งเขาเห็นร่องรอยจูบสีชมพูที่ตัวเองทำเอาไว้ก็ยิ่งโหมอารมณ์ให้อยากประทับตีตราจองคนตรงหน้ามากขึ้นเท่านั้น

“พอ..แล้ว” เด็กหนุ่มบอกเสียงพร่า มือบางดันแผงอกหนั่นแน่นของผู้พันไว้ เจ้าลูกเป็ดจูบตอบได้แค่ชั่วครู่ก็ดึงดันถอนจูบออก แต่ชลธีช้อนต้นคอกดเอาไว้ไม่ให้เด็กหนุ่มหนี มุจลินท์แทบจะละลายอยู่ในอ้อมกอด มือหนาฟอนเฟ้นเข้าไปในเสื้อยืดเขาอย่างรวดเร็ว สะกิดตุ่มไตสีอ่อนจนชูชัน “ฮื่อ..” ลูกเป็ดรู้สึกหน่วงบริเวณท้องน้อยยิ่งชลธีบดเบียดลงมายิ่งทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มมากขึ้นไปอีก

“ลินท์.. ลินท์” 

“ฮื่อ.. อึก” มือหนาเคลื่อนเข้าไปในกางเกงผ้ายืดค่อยๆปลดกระดุมก่อนจะดึงรั้งออกจากสะโพกอวบ กอบกุมแก่นกายของเจ้าลูกเป็ดที่กำลังตื่นตัว แค่เขาสะกิดส่วนปลายคนตัวเล็กก็ครางเครือสั่นไปทั้งตัว..

“ป๊าทำแม่ร้องไห้ทำไม!” เด็กหนุ่มชะงักกึกหันไปมองลูกชายที่นอนหลับปุ๋ยเมื่อครู่กลับลืมตาแป๋วคลานเข้ามาดันหน้าของคุณพ่อให้ออกไปจากเขา “แม่ลินท์หายใจมะออกแย้ว”

   “ไทเกอร์!” เขาดันนายทหารหนุ่มออกจากตัว ผุดลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะอุ้มลูกลงจากเตียง ไม่รู้เมื่อกี้ลูกตื่นมาเห็นอะไรหรือเปล่า เขาอยากจะทุบชลธีจริงๆ “ทำไมนอนแป๊บเดียวเองครับ”

“เกอร์อยากเล่นกับกาทิ้” เจ้าตัวเล็กพูดถึงหมาโกลเด้นฯตัวโต “เกอร์อยากเลี้ยงหมา”

“ยังเลี้ยงไม่ได้ครับ”ชลธีมองผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของคนรักกับลูกชายก่อนจะลูบหัวทั้งคู่ “เกอร์เล่นกับกะทิไปก่อนแล้วกันนะลูก”

“ฮื้อ กาทิ้มันอยู่ตัวเดียวมันเหงานะป๊า”ไทเกอร์โผตัวจะพุ่งไปหาคุณพ่อจนเขาประคองไว้แทบไม่ไหว “เกอร์อยากหาเพื่อนให้กาทิ้!”

ชลธีรับไทเกอร์ไปอุ้มแทนเขา พ่อลูกเถียงกันเรื่องเรื่องเลี้ยงสุนัขตัวใหม่โดยมีเขาเดินตามลงไปด้านล่าง ช่วงบ่ายสี่โมงเย็นคุณแม่ชวนเขาเข้าครัวทำกับข้าวง่ายๆทานกันที่บ้าน รวมไปถึงสอนเทคนิคการทำอาหารให้เขาติดตัวเอาไว้ ท่านบ่นว่าไม่มีลูกสาวมาคอยช่วยงานครัวสักที ถ้าเขาได้มาอยู่คงจะเป็นเพื่อนเล่นกับคุณแม่ให้หายเหงาได้บ้าง เขาได้แต่ยิ้มเขินรู้สึกดีเหลือเกินที่คุณแม่ของชลธีเอ็นดูเขาขนาดนี้ ระหว่างที่กำลังง่วนทำแกงเขียวหวานไก่ในครัว ชลธีรับหน้าที่ดูแลลูกชายจอมแสบที่ดูจะอยากรื้อข้าวของออกมาเล่นไปเสียหมดทุกอย่าง จนสุดท้ายอาปลาต้องอุ้มไปเล่นกับกะทิที่สนามหญ้าบริเวณหน้าบ้านแทน

กลิ่นกะทิกับเครื่องแกงผสมกันจนหอมอบอวลไปทั่วห้องครัว เขาจัดเตรียมถ้วยชามสำหรับใส่อาหารคาวและของหวานเป็นแกงบวดฟักทองที่เขาลงมือทำเองกับมือ คุณแม่ชมเปาะว่าทำอร่อยจนต้องให้เขาช่วยสอนทำบ้าง ชลธีเดินเข้ามาดูคุณแม่และคนรักที่กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องครัว แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋าทำให้เขาต้องผละออกมารับ

“สวัสดีครับ”

“พี่.. พี่ฉลาม” เสียงผู้หญิงสั่นเครือจากปลายสายทำเขาขมวดคิ้ว “ช่วยเกศด้วย.. มาหาเกศที เกศไม่ไหวแล้ว”

“เดี๋ยวเกศ.. ใจเย็นๆก่อน” เขาเดินออกมาคุยนอกตัวบ้าน น้ำเสียงสะอึกสะอื้นจากภรรยาเก่าทำเอาเขาอดจะสงสัยไม่ได้ หลังจากที่เลิกรากันไปเขาและเกศราก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย ข่าวในสังคมแวดวงไฮโซลงข่าวครึกโครมว่าเธอคบหากับผู้ชายไปรโฟล์ดีไม่เคยขาด และเขาไม่เคยคิดสนใจเลยสักครั้ง

“ตอนนี้เกศไม่มีใครเลย.. เกศอยากเจอลูก” น้ำเสียงแหบพร่าเหมือนผ่านการร้องไห้อยากหนักทำให้ชลธีรู้สึกเห็นใจอยู่เหมือนกัน “พี่ฉลามออกมาเจอเกศได้ไหมคะ”

“พี่ไม่ว่างหรอก”

“พี่อยู่กับใครหรือคะ”

“อยู่บ้านคุณแม่”ชลธีตอบเสียงห้วน เหลือบมองคนรักที่กำลังยกขนมหวานมาให้ชิม “ถ้าไม่มีธุระอะไรด่วน ไว้เกศค่อยนัดพี่วันหลังนะ”

“เดี๋ยวสิคะ” หญิงสาวรีบเรียกชายหนุ่ม หลังจากคบหากับชลธีมานานหลายปี เกศรารู้นิสัยผู้ชายคนนี้ดี หากได้ลองตัดใจตัดใครออกไปจากชีวิตครึ่งหนึ่ง.. อย่าได้หวังจะได้กลับมาญาติดีกันอีก แต่มีหรือที่หล่อนจะยอมรามือง่ายๆ ถ้าไม่ใช่เพราะรูปภาพที่สมุทธอัพลงในอินสตราแกรมเมื่อครู่แล้วล่ะก็ หล่อนคงไม่ใจร้อนรีบโทรหาชลธีอย่างนี้ “งั้นเป็นวันพรุ่งนี้นะคะ.. เกศคิดถึงลูก” หากหล่อนยกเอาเรื่องลูกขึ้นมาอ้างมีหรือชลธีจะไม่ใจอ่อน

“พี่มีให้เวลาเกศได้ไม่นานนะ”

“แค่พี่ยอมเจอ.. เกศก็ดีใจแล้วค่ะ แล้วเจอกันนะคะ” หล่อนกดวางก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไอโฟนใส่ในกระเป๋าหนังใบใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยออกมาจากช็อป ริมฝีปากสีแดงสดเหยียดยิ้ม เครื่องหน้าสะสวยที่ประทินโฉมด้วยเครื่องสำอางทำให้หล่อนดูเซ็กซี่โดดเด่นเหมือนนางแบบหลุดออกมาจากแม็กกาซีน

“สรุปพี่เขายอมเจอแกไหมเกศ” แพรว เพื่อนสนิทสมัยมัธยมของหล่อนเอ่ยถาม ชีวิตคู่ของเธอและชลธี สังคมทั่วไปรับรู้มาโดยตลอด และยังเป็นคู่รักที่มีแต่คนอิจฉาและให้ความสนใจ แต่เมื่อเรื่องที่หล่อนหย่ากับชลธีถูกเปิดเผยออกมา แม้จะรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย แต่เธอก็ไม่ยอมให้ใครมานินทาได้ เธอยอมคบหากับผู้ชายมากตาหลายตาเพื่อที่จะไม่ให้ใครดูถูกว่าเธอถูกทิ้ง

“พี่ฉลามน่ะหรือจะไม่ใจอ่อน”หญิงสาวเชิ่ดหน้าขึ้นสูง ชุดเดรสพอดีตัวรัดแน่นจนเห็นทรวดทรง “ฉันต้องรู้ให้ได้.. ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่”

“พี่ฉลามคงไม่หน้ามืดคว้าผู้ชายมาคบหรอกมั้งแก เขาเป็นถึงนายทหารยศใหญ่ขนาดนั้น” 

“ก็ให้มันรู้ไป.. ว่าจะกล้าจะหักหน้าฉันได้” เธอก็อยากจะรู้ว่าชลธีจะกล้าเอาผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาออกหน้าออกตาแทนหล่อนได้อย่างไร หล่อนไม่ยอมแน่ นึกถึงรูปภาพครอบครัวที่หล่อนเคยเป็นส่วนหนึ่งก็อดใจหายไมได้ แม้จะรู้ว่าแม่สามีไม่ค่อยชอบพอที่เธอเป็นคนหยิบหย่งทำอะไรไม่เป็นสักอย่างแต่ครอบครัวของชลธีก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี วันนี้กลับมีใครมาแทนที่เธอเสียได้ แหวนทองคำขาวบนนิ้วนางของผู้ชายคนนั้นเหมือนแหวนที่ชลธีเคยให้เธอไว้สมัยยังคบกันก่อนแต่งงาน และหล่อนก็เป็นคนอ้อนขอแหวนเพชรเป็นแหวนแต่งงานแทน ชลธีบอกว่าแหวนนี้เป็นแหวนที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับเขาเป็นอย่างมากเพราะเป็นแหวนที่พ่อกับแม่ใช้หมั้นหมายมาก่อน แม้หล่อนจะไม่ยอมใส่เลยสักครั้ง แต่ชลธีก็ไม่เคยว่าอะไร.. ในเมื่อวันนี้มันกลับกลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว เธอในฐานะภรรยาเก่ากลับอยากได้ของที่เคยเป็นเจ้าของกลับคืน

ในเมื่อหล่อนไม่ได้.. ก็ต้องไม่มีใครได้..




TBC

 :mew1:

ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ไหนบอกจะไม่ดราม่าไง แล้วเกศมาทำไม

ให้เกอร์จัดการ แต่ตัวละครเริ่มโผล่มาเยอะขึ้นแล้วนะ

ออฟไลน์ Fahsaizzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไปแล้วไปลับ ไม่ต้องกลับมาซิยายเกศ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หล่อนมันบ้า

ออฟไลน์ game6969

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่หลามงานงอกแล้ว
จะเป็นไงต่อนะ
รีบมาต่อเร็วๆนะคัฟ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จ้างสามร้อยดักตบนังเกศที

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กำลังขำคุณพ่อที่โดนลูกขัดจังหวะ อดกินเด็กเลย แต่มีเกศมาขัดอารมณ์ซะงั้น แง่งงง

ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ใครรู้จักนักเขียนบ้าง โทรตามมาแก้บทหน่อย ทำไมทำแบบนี้

กำลังละมุนเลย

พอเกศมาบรรยากาศดูหมองๆยังไงไม่รู้ ไม่เข้าใจเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด