-จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑  (อ่าน 168841 ครั้ง)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ้าวป้า ป้าจะกลับมาทำไมเนี่ยืไม่มีใครเขาต้อนรับแล้วนะ

ออฟไลน์ Maneemantra7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๓

มุจลินท์เห็นคนรักยืนคุยโทรศัพท์อยู่จึงไม่ได้เดินเข้าไปใกล้มากนัก รอจังหวะที่ชลธีว่างเขาจึงเดินเข้าไปหา “พี่ฉลามมาทานขนมสิครับ” เด็กหนุ่มยกถ้วยแกงบวดฟักทองที่เพิ่งไปอุ่นร้อนๆมาให้ “เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะ”

“จ้ะ เดี๋ยวพี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ชลธีจุดยิ้มเดินเข้ามาในตัวบ้านก่อนจะรับถ้วยขนมมาจากคนรัก ในใจยังครุ่นคิดถึงภรรยาเก่าที่ติดต่อมาเมื่อสักครู่ เขาเคยตัดสินใจที่จะไม่ไปเจอเกศราอีกแล้วนับตั้งแต่วันที่แยกทางกัน แต่อีกใจก็อดสงสารหัวอกคนเป็นแม่ไม่ได้ เกศราคงอยากจะเจอลูกบ้าง เขาคงไม่ใจไม้ไส้ระกำเกินไปใช่ไหม

“เกอร์ก็อยากกินบ้างอ่า” เด็กชายชี้ไปที่ถ้วยในมือคุณพ่อ กระพริบตาปริบๆเหมือนตอนอ้อนขอของเล่น มุจลินท์กำลังให้ลูกชายงดทานขนมอยู่ เพราะเจ้าตัวเริ่มจะอ้วนมากเกินไปแล้ว

“หนูกินเยอะแล้วนะครับ” ใช้นิ้วชี้จิ้มพุงป่องๆที่ล้นทะลักจนเสื้อยืดที่ใส่ให้แทบจะปริแตก “อ้วนมากเดี๋ยววิ่งไม่ไหวแล้วล้มอีก แม่เป็นห่วงนะครับ”

“ฮื่อ จุนแม่”เด็กชายวิ่งเข้าไปกอดก่อนจะเอาแก้มย้วยถูไปมา“เกอร์กินนิดเดียวเอง นะๆ”

“เมื่อกี้เราทานข้าวเหนียวมะม่วงไปตั้งเยอะแล้วนะลูก”

“แม่ลินท์...งะ” เบะปากเตรียมจะงอแง ชลธีเห็นเลยตักให้ลูกชายชิมหนึ่งคำ “หย่อย..”

“พี่ฉลามตามใจลูกอีกแล้ว” เขาอยากจะมัดสองพ่อลูกไว้ด้วยกันจริงๆ ทั้งดื้อทั้งยังชอบตีมึน “เกอร์อยู่กับคุณพ่อนะครับ เดี๋ยวแม่ลินท์ไปช่วยคุณยายในครัวต่อ”

“เอ้อ ลินท์” สมุทธร้องทักก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือให้ “เล่นอินสตราแกรมมั้ยเรา?”

“ไม่ได้เล่นหรอกพี่ปลา” ขนาดเฟซบุ๊กเขายังเล่นไม่เป็นเลย แล้วนับประสาอะไรกับแอปพลิเคชั่นชื่อแปลกๆแบบนั้น “ลินท์เล่นแค่ไลน์อย่างเดียวจ้ะ”

“พี่ฉลามไม่รู้จักสอนแฟนเลยหรือไง”หันไปมองพี่ชายที่กำลังป้อนขนมลูกชายอยู่ด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“ลินท์ลองเล่นดูนะ พี่จะได้แท็กเราได้” เด็กหนุ่มเพิ่งรู้ว่าสมุทธเป็นผู้ชายที่ทันสมัยพอตัวดูจากการแต่งกาย ขนาดอยู่บ้านยังสวมเชิ้ตกับกางเกงผ้าพร้อมออกข้างนอกได้ทุกเวลา

“พี่ลงรูปหรือจ้ะ”เขาได้ยินเพื่อนพูดถึงมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้เล่นเหมือนคนอื่นเขาสักที “ไหนๆลินท์ขอดูหน่อย” เขาเห็นรูปตอนที่ชลธีกุมมือเขาไว้หลังจากสวมแหวนให้เรียบร้อยแล้วพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวก็อดตกใจไม่ได้ แถมคนยังกดไลค์หลายร้อยอีก เขาอยากจะบ้าตาย

“มีแต่คนอยากเห็นแฟนพี่ฉลามใจจะขาด” สมุทธขยิบตาหนึ่งทีท่าทางยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด

“ตลกละไอ้ปลา แฟนกู!”

“ผมอยากอวดพี่สะใภ้นี่” ชายหนุ่มแค่นยิ้ม เห็นเกศรามากดไลค์แล้วรู้สึกสะใจ เขารังเกียจผู้หญิงมักมากหลายใจอย่างนี้ที่สุด ทำพี่ชายเขาเสียใจไม่พอยังจะทำร้ายลูกชายตัวเองได้ลงคอ คิดหรือว่าเขาไม่รู้ว่าเกศราสร้างกระแสเพื่อจะเรียกร้องความสนใจจากพี่ชายเขาขนาดไหน

เรื่องอะไรเขาจะซ่อนมุจลินท์เอาไว้ล่ะ..

“หยุดความคิดของมึง แล้วรีบไปหาเมียของตัวเองได้แล้ว” ชลธีที่อุ้มลูกไว้บนตักตะโกนเรียกสมุทธที่แกล้งทำเป็นโอบมุจลินท์แล้วเดินหลบไปหลังบ้าน “ไอ้ปลา! ไอ้!”

“พี่ฉลามโคตรขี้หวงเลย”ทนายหนุ่มป้องปากกระซิบ “ลินท์คงเบื่อแย่”

“ไม่หรอกจ้ะ”เด็กหนุ่มชินแล้วกับความขี้หวงของคนรัก“ปกติพี่เขาก็เป็นอย่างนี้แหละ” เห็นพวงแก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ สมุทธก็เริ่มเข้าใจว่าพี่ชายเสือยิ้มยากของเขาตกหลุมพรางเด็กเพราะอะไร ก็เด็กอายุสิบเก้าที่ไหนมันจะใสซื่อได้ขนาดนี้วะ

“ลินท์อย่าไปยอมพี่ฉลามมากนะรู้มั้ย.. ต้องคุมให้อยู่หมัด”

“จ้ะพี่ปลา” เขาพยักหน้าเก็บจำคำสอนเอาไว้ สมุทธแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อคิดว่าได้แกล้งชลธีซะแล้ว “ไหนพี่ปลาจะสมัครให้ลินท์ใช่ไหมจ้ะ” เขายื่นโทรศัพท์ให้ชายหนุ่ม รู้สึกตื่นเต้นดีใจ อยากเห็นรูปอื่นๆของคนรักตัวเองบ้าง เวลาทำงานชลธีไม่ค่อยจะส่งรูปมาให้เขาดูสักเท่าไหร่

“ได้ๆ เดี๋ยวพี่ทำให้” สมุทธจัดการสมัครให้เด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งกดฟอลโล่วสมาชิกในบ้านไว้แทบทุกคน

“คุณแม่ก็เล่นหรือจ้ะพี่ปลา”

“เขาก็เล่นกันหมดนั่นแหละ” ยิ้มเอ็นดูให้มุจลินท์ที่กำลังตื่นเต้น “ลองอัพรูปดูสิ อย่าลืมตั้งค่าส่วนตัวนะ”

“จ้ะ เดี๋ยวลินท์จะลองเล่นดู”

“ไว้อัพรูปไทเกอร์ลงบ่อยๆ พี่คิดถึงหลาน”

“ได้เลยพี่ปลา ลินท์มีรูปไทเกอร์เยอะมากกก” เด็กหนุ่มลากเสียงยาว ดวงตากลมโตสีสวยเบิกกว้าง ก่อนจะหัวเราะคิก ลักยิ้มที่แก้มขาวบุ๋มลึกลงไปเล่นเอาเขามองเพลิน “กดตรงนี้ใช่ไหมจ้ะ ลินท์อยากเปลี่ยนสี”

“ใช่ๆตรงนี้ไว้เปลี่ยนฟีลเตอร์”

“ทำอะไรกัน”

ทนายหนุ่มสะดุ้งโหยง เงยหน้าขึ้นไปก็เจอชลธีกำลังอุ้มลูกชายตัวอ้วนหน้าทะมึนมาทางเขา โอ้โห ดุยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อีกมั้งเนี่ย!


“ลินท์ให้พี่ปลาสมัครอินสตราแกรมให้ครับ”เด็กหนุ่มโชว์โทรศัพท์ให้ชายหนุ่มดู “ลินท์จะเอาไว้อัพรูปลูก” เห็นคนรักมีความสุข มีหรือชลธีจะกล้าขัด เขาแค่ไม่ชอบใจที่เห็นสมุทธเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มเพื่อยั่วประสาทเขามากกว่า ไอ้น้องสารเลว!

“ไหน เอารูปไหนลงดี” เขาเดินมายืนข้างๆคนรัก มองรูปลูกชายในคลังภาพที่เด็กหนุ่มๆค่อยเปิดขึ้นไปเรื่อยๆ “มีรูปตัวเองบ้างไหมเนี่ยลินท์” เขาก็อยากพกรูปเจ้าลูกเป็ดไว้เหมือนกันนะ

“ลินท์ไม่ชอบถ่ายรูปน่ะครับ” มือขวาค่อยๆเลื่อนขึ้นไปดูรูปภาพช่วงที่เขากับชลธีไปเที่ยวทะเลที่ประจวบด้วยกัน ตอนนั้นเขาไปค่ายเก็บตัวดาวเดือนของมหาลัยพอดิบพอดีจึงมีโอกาสได้แว๊บไปเที่ยวบ้าง เขาอยากได้รูปลูกชายใส่ห่วงยางนั่งปั้นทรายที่ริมชายหาดมาลงในอินสตราแกรมเป็นรูปแรก แต่ยังไม่ทันที่จะได้เจอรูปที่ตั้งใจหา รูปเด็กหนุ่มในชุดว่ายน้ำbody suitแนบเนื้อสีดำสนิทตัดกับผิวขาวจัด รูดซิบลงมาจนสุดโชว์หน้าท้องขาวเนียนก็ปรากฏแก่สายตา เด็กหนุ่มริมฝีปากแดงสีเชอรี่เผยอเล็กน้อย ดวงตากลมโตปรือฉ่ำหลบแสงแดด หากใครเห็นก็คงตะลึงกับกริยา’ยั่วยวน’ของคนในภาพเป็นแน่

“ไหนบอกไม่ชอบถ่ายรูป” ชลธีถามเสียงต่ำ รู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นภาพเจ้าลูกเป็ดที่ใส่ชุดวาบหวิวขนาดนั้น ที่สำคัญ.. ไปถ่ายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเขาไม่รู้!

“อะเอ่อ” เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่ามีรูปนี้อยู่ในเครื่องด้วย “รูปตั้งนานแล้วครับ ตั้งแต่ตอนที่ไปเก็บตัวค่ายดาวเดือนที่ประจวบฯครั้งนั้น”

“อืม.. แล้วลินท์ไม่คิดจะบอกพี่มั่งหรือ” ชลธีอดจะน้อยใจไม่ได้ เรื่องที่เด็กหนุ่มไปไหนมาไหนไม่ค่อยอยากจะบอก หรือทำอะไรเกินตัวแล้วไม่เคยจะขอความช่วยเหลือจากเขา ถึงแม้ว่าเขาและมุจลินท์เพิ่งจะตกลงคบหากันฉันท์คนรักอย่างจริงจัง แต่เขาก็อยากให้เด็กหนุ่มเปิดใจและพูดคุยกับเขาทุกเรื่องมากกว่านี้ คนอื่นอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ในการใช้ชีวิตคู่การพูดคุยกันตรงๆมันช่วยทำให้เราเข้าใจกันและกันมากขึ้น เขาเชื่อมั่นอย่างนั้น.. 

“ลินท์ลืมไปเลย ไม่ได้สนใจจริงๆนะครับ” เด็กหนุ่มมองคนรักที่ไม่ยอมสบตา เขารู้ว่าชลธีไม่ชอบให้เขาแต่งตัวโชว์เนื้อหนัง แค่เขาใส่กางเกงขาสั้นยังบ่นเขาไปสามวันเจ็ดวัน แล้วนับประสาอะไรกับชุดที่แทบจะเปลือยท่อนบนของเขาอย่างนี้

เฮ้อ.. มีงานเข้า... 

“ไปคุยกับพี่เขาดีๆเถอะลินท์.. ลุงเขาขี้งอน” สมุทธตบบ่าเด็กหนุ่มเบาๆก่อนจะพยักเพยิดไปทางที่ชลธีเดินออกไป เขาอยากจะขำกับมุกพี่ปลาอยู่หรอกนะ แต่เวลานี้ให้หัวเราะคงไม่ไหว

รู้สึกผิดชะมัด..

ช่วงเย็นเขาช่วยคุณแม่จัดโต๊ะอาหาร มีต้มยำรวมมิตรและไข่เจียว เจ้าตัวเล็กชอบทานไข่เจียวที่สุด อ้อนขอให้เขาตักให้อยู่หลายครั้ง ส่วนคุณยายชอบทานแกงจืดหมูสับกับข้าวสวยร้อนๆ คุณแม่และพี่ๆดูแลเขา หยิบของกินอร่อยๆใส่จานเขาไม่หยุด จนเขาต้องบอกพอ บรรยากาศพูดคุยเสียงหัวเราะมาจากพี่ช้างที่ชอบเล่นมุกแป้กตลอดจนพี่นัสยังเอือม ส่วนชลธีก้มตาหน้าก้มตาทานข้าวไม่ยอมมองหน้าเขาสักนิด สมุทรคอยชวนเขาคุยให้เขาไม่กังวลจนเกินไป หลังจากทานของหวานกันเสร็จคเชนทร์ก็ขอตัวไปนอนบ้านแฟน เขาจึงพาลูกชายเข้านอน และช่วยคุณยายจัดการเรื่องทานยา เด็กหนุ่มเปิดประตูห้องเข้าไปเบาๆ โคมไฟตั้งโต๊ะเปิดไฟสีเหลืองนวลสลัวทำให้เห็นเงาคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขาตั้งใจจะเข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวพักผ่อน แต่คนรักที่ยังมึนตึงกับเขาอยู่ มันก็อดที่จะรู้สึกอึดอัดไม่ได้

“พี่ฉลามอาบน้ำแล้วหรือครับ” เขานั่งลงบนเตียงใช้ผ้าขนหนูซับผมที่เปียกให้แห้ง “ดึกแล้วรีบนอนกันเถอะครับ”

“อืม”

“พี่ยังโกรธลินท์อยู่หรือ”ตัดสินใจพูดออกไปเสียงอ่อน“ลินท์ขอโทษ พี่คุยกับลินท์หน่อยเถอะนะ” เขาไม่ชอบที่คนรักเฉยชาไม่สนที่สุด หยดน้ำตาใสคลอหน่วยจะไหลอยู่รอมร่อ

“พี่ไม่ชอบที่ลินท์ทำอะไรอยู่คนเดียว ไม่เห็นพี่อยู่ในสายตา”ชายหนุ่มพูดโดยไม่หันมามองด้วยซ้ำ ทำเอาหัวใจเจ้าลูกเป็ดกระตุก“เราเป็นแฟนกันไม่ใช่หรือ”

“ลินท์..”สอดมือเข้าที่ช่วงเอวนายทหารหนุ่ม“ลินท์ผิดไปแล้ว”

“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นใส่พี่เลย”เขาพูดแค่นี้มุจลินท์ก็แทบจะร้องไห้อยู่แล้ว อย่างนี้ใครจะไปกล้าดุกันเล่า“พี่ใจอ่อนพอดี”

“ง่า” ลูกเป็ดร้องเสียงหลงรู้ว่าชลธีหายโกรธแล้วก็ยิ้มกว้างก่อนจะโผเข้าซุกอกคนรัก “คืนนี้ขอกอดหน่อยนะครับ”

“แค่กอดอย่างเดียวหรือ”

“ทะลึ่ง!”

“ไม่มีใครว่าข้าวใหม่ปลามันหรอกน่า”ชายหนุ่มกดจมูกลงแก้มขาวเนียน ดมกลิ่นแป้งเด็กหอมกรุ่น“พี่ต้องลงโทษคุณภรรยาที่ดื้อสุดๆ”

“ลินท์ดื้อมากเลยหรือ”

“ดื้อมากกกกกก”

“โหย”

“มีอะไรต้องบอกพี่นะรู้ไหม เราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว”คว้าเอวเจ้าลูกเป็ดเข้ามาแนบชิด เส้นผมบางสีน้ำตาลอ่อนยังเปียกชื้น จนเขาต้องช่วยเกลี่ยออก “ลินท์พึงพาพี่ได้เต็มที่ ให้พี่ได้ดูแลแฟนพี่บ้างเถอะ เรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเก็บกับข้าวมากินข้ามวันแล้ว”

“พี่รู้ได้ยังไง!”

“คุณยายบอก”

“โถ่”
“ไม่ต้องมาร้อง จะประหยัดอะไรขนาดนี้ เกิดท้องเสียขึ้นมาจะทำยังไง รถพี่ก็มีให้ใช้ ทำไมยังต้องโหนรถเมล์ไปเรียนอีก”

“มันเปลืองนะ”

“ไม่เปลือง”

“เอ๊ะ พี่ฉลาม!”

“ไม่เอาแล้วนะลินท์” เขาหันหัวเจ้าลุกเป็ดให้ตรงกับเขา มองสบเข้าไปในดวงตากลมคู่สวยที่กำลังจ้องตอบเขาอยู่ “พี่ดูแลลินท์ยังไม่ดีหรือไง”

“เปล่าครับ” เด็กหนุ่มหลุบตาหนี ไม่กล้าสบสายตาคมที่เหมือนจะจ้องทะลุร่างเขา

“อยู่กับพี่ไม่ต้องเข้มแข็ง ไม่ต้องอดทนอะไรทั้งนั้น” เขาประคองใบหน้าหวานด้วยสองมือ แก้มขาวพองติดมือเขาเมื่อเจ้าลูกเป็ดยิ้มเขิน “ลินท์เหนื่อยมาเยอะแล้ว พักบ้างเถอะนะ”

“ลินท์จะได้พักถ้าพี่ไม่.. ไม่” เขาพยายามขืนตัวออกจากการเกาะกุมแต่ก็ดิ้นไม่หลุด สายตาแพรวพรายของนายทหารหนุ่มทำเขารู้สึกแปลกพิกล

“ไม่อะไรครับ”

“ฮื่อ อย่า..” มือที่ว่างสอดเข้าไปในชุดนอนของเด็กหนุ่ม ลูบไล้จุดอ่อนไหวที่เขารู้จักดี มุจลินท์ครางเครือไม่ได้ศัพท์ซุกหน้าเข้ากับอกเขา “ลินท์ง่วงแล้วครับ”

“งั้นนอนดีๆซิ” เขาจับเด็กหนุ่มพลิกหงายก่อนจะขึ้นคร่อม ฝังจูบลงซอกคอเบาๆ “พี่ให้ลินท์นอนแล้ว”

“แล้วพี่ล่ะ”

“พี่ยังไม่ง่วงเลย” ชลธียังไม่ทันได้ชิมเจ้าลูกเป็ดเลยจะให้เขารีบนอนไปทำไม ดวงตาคมมองไล่ตั้งแต่วงหน้าหวานเรื่อยลงมาถึงกระดุมชุดนอนที่เขาแอบปลดเมื่อครู่ทำให้เสื้อนอนผ้าซาตินทิ้งตัวลงโชว์ไหล่ขาวเนียน กลุ่มผมแผ่สยายเต็มหมอนส่งกลิ่นหอมของแชมพูยี่ห้อที่เขาใช้ประจำ “ลินท์ก็นอนเฉยๆ.. พักผ่อนไงครับ”

“เฮ้.. เดี๋ยวก่อน อื้อ..” เขาจูบเบาๆที่หัวไหล่มนกลมก่อนจะพรมจูบเรื่อยลงมาตามแอ่งชีพจรแล้วขึ้นไปหยุดที่ริมฝีปากหวาน เด็กหนุ่มปรือตามองคนรักที่กำลังบรรจงจูบแผ่วเบา หลับตาซึมซับความอบอุ่นจากร่างกายร้อนที่กำลังทาบทับลงมา

Rrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังพร้อมแรงสั่นสะเทือน ทำให้เจ้าลูกเป็ดเอื้อมมือไปหาต้นตอเสียง มือขาวพยายามคว้าสะเปะสะปะแต่ก็ถูกชายหนุ่มดึงรั้งเอาไว้จนโทรศัพท์หล่นตุบอยู่ข้างเตียง

“ใครโทรมา..” ลูกเป็ดถามเสียงพร่าก่อนจะถูกจูบอีกรอบ มุจลินท์คิดว่าปากเขาต้องเปื่อยแน่ถ้าชลธียังไม่หยุดจูบเขาพร่ำเพรื่อแบบนี้ “พี่จะไม่รับหรือ..”

“ไม่.. ช่างสิ มาขัดจังหวะพี่ทำไม” ไม่ว่าจะโทรมาเรื่องสำคัญเกี่ยวกับภารกิจหรือเรื่องคอขาดบาดตายอะไรเขาก็ไม่สนใจแล้ว ตอนนี้เขาสนอยู่อย่างเดียวคือการได้ใช้ภาษากายบอกรักกับคนตรงหน้าเท่านั้น

“แต่ว่า..”

“ไม่มีแต่..” ก้มลงดูดดึงริมฝีปากบนเจ้าลูกเป็ดจนเจ้าตัวหน้ามุ่ยทุบไหล่เขาดังอัก ก่อนจะสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปชิมความหวานที่เขารู้สึกว่าเสพติดเหลือเกิน..

“ฮื่อ.. อ๊ะ” เสียงครวญครางหวานรัญจวนสลับกับเสียงกระทบร่างกายยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ความเป็นชายของนายทหารหนุ่มให้ลุกโชนและปรารถนาครอบครองคนตรงหน้าให้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว..

หญิงสาวกำโทรศัพท์ในมือแน่น ริมฝีปากสีแดงสดบดกัน คิ้วขมวดเป็นปมจนใบหน้าบิดเบี้ยว เกศราใช้ความกล้าโทรหาคนรักเก่าอีกครั้งและหวังว่าจะได้เจอกับนายทหารหนุ่มในวันพรุ่งนี้ แต่สิ่งที่เธอได้รับคือเสียงพร่ำบอกรักของชายหนุ่มที่มีให้กับคนอื่น และเธอก็ฉลาดพอจะเข้าใจว่าอีกฝั่งกำลังเกิดเหตุการณ์อะไร ความโกรธพรั่งพรูจนเธออยากจะกรีดร้องและเต้นเร่าๆ แต่เธอไม่มีสิทธิ์จะไปเรียกร้องอะไรกับชลธีได้อีกแล้ว มือบางกดโทรศัพท์อย่างรวดเร็วต่อสายหาคนที่จะสามารถให้คำตอบของเธอได้

มุจลินท์.. คือใครกัน..
.
.
 “ลูกเป็ดหน้าบูด” ชายหนุ่มแกล้งเขี่ยแก้มคนรักที่กำลังพองลม อาการงอนของคนตรงหน้าที่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มองว่ามันน่าเอ็นดูทุกที

   “ไม่ต้องมายุ่งกับลินท์เลย” เด็กหนุ่มสะบัดหน้าหนีพลางใช้กำปั้นมือทุบไปตามแนวสะโพก อาการปวดแปรบหลังจากทานยาไปได้สักครู่แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น โซฟาตัวยาวกลายเป็นที่นอนพักประจำเพราะอยู่ในห้องรับแขกที่สามารถมองเห็นและดูแลลูกชายไปด้วยได้ เขามองค้อนตัวการตาเขียวปั๊ด ขนาดอยู่ที่บ้านคุณแม่แท้ๆชลธียังไม่ยอมให้เขาได้นอนหลับสบายๆ แถมต้องทนสายตาหยอกล้อของสมุทธตลอดช่วงเช้า คงไม่ต้องบอกว่าเมื่อคืนเสียงเขาเล็ดลอดไปถึงไหนต่อไหน ชลธีพาเขากลับคอนโดมาตอนช่วงบ่าย เขาจึงได้เวลาพาไทเกอร์นอนกลางวันกับคุณยายในห้อง

“ไม่ให้พี่ยุ่งกับลินท์แล้วจะให้ไปยุ่งกับใคร”

“ไม่ต้องมาใช้ไม้นี้กับลินท์.. ลินท์ไม่ได้อึดเหมือนพี่นะ” มุจลินท์ตัดพ้อ เขาไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายทุกวัน ถึงแม้จะพอมีกล้ามเนื้อจากการทำงานรับจ้างขนของอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้แข็งแรงมากพออย่างชลธี หากเทียบกับนายทหารหนุ่มแล้ว เขาเหมือนคนขี้ก้างไปเสียด้วยซ้ำ

“บ่อยๆเดี๋ยวก็ชิน”

“งดไปซะเถอะ”

“ใจร้าย..”

   มุจลินท์เอื้อมมือไปหยิกแก้มคนรักอย่างที่เขาชอบทำ นายทหารหนุ่มตวัดก่อนจะงับนิ้วมือเด็กหนุ่มเข้าโพรงปากอุ่นร้อน จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอมเทาคู่สวยของเด็กหนุ่ม ความรู้สึกเสียวแปรบแล่นลามจากปลายนิ้ว ลิ้นอุ่นชื้นเล้าเลียเย้ายวนจนลูกเป็ดต้องชักนิ้วหนี

“หึๆ”

“พี่นี่อันตรายสุดๆ” อันตรายต่อการเต้นของหัวใจเขาเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวแรงเหมือนจะกระเด็นกระดอนออกมาจากอก ขนแขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“อยู่กับลินท์พี่ก็เพิ่งรู้ตัวว่าควบคุมตัวเองไม่ค่อยจะได้” 

“งั้นไปตรงนู้นเลย” เขาชี้ไปที่โซฟาอีกตัวที่อยู่อีกฝั่ง ก่อนจะตวัดผ้าห่มคลุมโปงหนีสายตาร้อนแรงที่นายทหารหนุ่มเพียรส่งสัญญาณบางอย่างให้เขาไม่ขาด

เมื่อคืนยังไม่พออีกหรือไง คนบ้า!


ร้านอาหารกึ่งผับย่านสถานบันเทิงคราคล่ำไปด้วยผู้คนในช่วงเย็น โต๊ะไพรเวทในสุดของร้านอาหารถูกจองไว้ตั้งแต่วันที่เธอนัดชลธีมาเจอได้สำเร็จ ช่อดอกกุหลาบที่ประดับประดาอยู่รอบข้างทำให้บรรยากาศราวกับอยู่ในช่วงเวลาอันแสนพิเศษ เกศราสั่งอาหารเมนูโปรดที่ชายหนุ่มชอบมาเตรียมรอไว้สองสามอย่าง ไวน์องุ่นชั้นดี ยี่ห้อโปรดที่หล่อนโปรดปรานถูกรินใส่แก้วทรงสูง ดวงตากลมโตสีดำขลับฉายแววระยิบระยับ ขนตายาวเป็นแพงอนสวย เครื่องหน้าสวยหวานทำให้เกศราจัดว่าเป็นผู้หญิงที่หน้าสะสวยคนหนึ่ง หล่อนใส่ชุดเดรสสีหวานกระโปรงระบายเย็บด้วยลูกไม้ดูน่าทะนุถนอม

หล่อนมองไปยังอดีตคนรักที่กำลังเดินตรงเข้ามาทางเธอ ชลธีสวมเชิ้ตและกางเกงสแล็คสีพื้น ช่วงไหล่กว้างและกล้ามเนื้อหนั่นแน่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูดีเป็นที่สะดุดตาของสาวน้อยสาวใหญ่ เกศราฉีกยิ้มกว้างทอดมองบรรยากาศที่ราวกับย้อนอดีตไปช่วงที่เธอและชลธียังคบหากัน

“ทานอะไรมาหรือยังคะ เกศสั่งไว้ให้พี่แล้ว”

“พี่ทานมาแล้วครับ” เขาเหลือบมองเมนูอาหารก่อนจะยิ้มอ่อนให้หญิงสาว เมื่อเย็นมุจลินท์ทำข้าวผัดต้มยำให้เขาทานเสียจนอิ่มแปล้ ใจจริงเขาอยากจะเจอเกศราช่วงเวลากลางวันมากกว่า แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่สะดวกและยืนยันที่จะนัดเจอช่วงค่ำเขาก็ไม่อยากบังคับอะไร คิดถึงคนรักที่งอแงหาว่าเขาหนีเที่ยวก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก เขาไม่ได้บอกเจ้าลูกเป็ดเรื่องที่มาเจอคนรักเก่าในวันนี้ ใจหนึ่งเขาไม่อยากให้คนรักคิดมาก สองเขาและเกศราเป็นเพียงเพื่อนกันและจะไม่มีทางกลับไปใช้ความสัมพันธ์แบบเดิมอย่างแน่นอน

“เกศก็สั่งมาเสียเยอะเลย พี่ฉลามช่วยทานหน่อยนะคะ” หล่อนเห็นท่าทางเลิกลั่กชอบมองนาฬิกาของชลธีก็รู้สึกไม่พอใจ “พี่ฉลามคะ”

“ครับ”

“ลองทานดูสิคะ.. อร่อยมากเลย” หล่อนตักอาหารวางบนจานให้ชายหนุ่ม ก่อนจะรินไวน์ส่งให้ ชลธีหยักหน้าขอบคุณแต่ไม่แตะต้องอาหารเลยสักนิด

“เกศอยากเจอพี่.. มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” นายทหารหนุ่มเลือกที่จะถามไปตรงๆ หญิงสาวชะงักไปครู่ก็คลี่ยิ้มหวานให้ เขาอยากคุยธุระกับเกศราให้เสร็จโดยเร็ว อยากกลับไปบ้านไปนอนกอดลูกกอดเมียจะแย่อยู่แล้ว

“เกศอยากเจอลูก..” หล่อนสบตากับชายหนุ่ม ดวงตากลมโตสั่นระริกสกัดน้ำตาที่จะไหลอยู่รอมร่อ ดูน่าสงสารและน่าทะนุถนอม “เกศว่า.. เราลองกลับมาอยู่ด้วยกันดีไหมคะ”

“พี่ว่าเราคุยกันจบไปนานแล้วนะเกศ”

“เกศรู้ว่าเกศผิด แต่เกศก็พร้อมจะปรับปรุงตัว” มือเรียวบางเลื่อนไปกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้ “กลับไปอยู่กับลูก.. เราจะได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ไงคะ”

“พี่ให้โอกาสเกศมานานมากแล้ว” ทั้งๆที่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าทรยศและสวมเขาให้เขาตลอด ทอดทิ้งลูกชายเพียงคนเดียวของเขา ถึงอย่างนั้นก็ยังให้โอกาสนับครั้งไม่ถ้วน แต่หล่อนก็ยังเลือกที่จะทำร้ายครอบครัวได้ลงคอ

“เกศยอมรับไม่ได้ ไทเกอร์ต้องมีแม่ และเกศก็เป็นแม่ของลูก”

“ไม่เป็นจำเสมอไป”

“พี่หมายความว่ายังไง” หล่อนเริ่มไม่พอใจ ขึ้นเสียงสูงใส่ชายหนุ่ม “คิดจะเอาใครมาแทนที่เกศงั้นหรือ”

“ไม่มีใครแทนที่ใครได้ทั้งนั้นเกศ พี่ก็มีชีวิตของพี่” ชลธียืนยันน้ำเสียงหนักแน่น “เกศก็มีชีวิตของเกศ.. และเกศยังเป็นแม่ของไทเกอร์”

“แต่เกศไม่ยอมให้พี่ยกใครขึ้นมาแทนเกศ”

“เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะเกศ เมื่อไหร่เกศจะเลิกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพี่เสียที”

“ทำไมคะ” หยาดน้ำตาไหลรินลงแก้มนวล “เพราะไอ้เด็กผู้ชายที่ชื่อลินท์นั่นใช่ไหม!”

“เกศ!”

“ทำไม? ทำไมเกศจะพูดถึงมันไม่ได้ !?”

“เกศไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องคนของพี่”

“พี่ฉลาม!”

หล่อนคว้ารูปจากในกระเป๋าสะพายขึ้นมาปาใส่หน้าชลธี เป็นรูปมุจลินท์ที่ถูกแอบถ่ายในบริบทต่างๆ ทั้งที่มหาวิทยาลัย และที่โรงเรียนของลูกชาย ชายหนุ่มเบิกตากว้างจ้องมองหญิงที่ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาเก็บรูปทุกใบของคนรักขึ้นมา มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ

“พี่ไปคว้ามันมาได้ยังไง ไอ้เด็กสลัมเหลือขอพรรค์นั้น” หล่อนร้องตะโกน  “เกศรับไม่ได้! คนอย่างมันก็เป็นได้แค่นายบำเรอในซ่องเท่านั้นแหละ”

“เกศ! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ” ได้ยินใครมาต่อว่าคนรัก จะมีสักกี่คนที่ทนฟังได้ เขาคว้าข้อมือบางมาบีบ รั้งหญิงสาวที่กำลังอารมณ์คุกรุ่นให้เข้ามาหา หล่อนใช้มือทุบชลธีไม่หยุด ปากก็ร้องตะโกน

“ไม่ ไม่ ไม่!” ใบหน้าสวยส่ายสะบัดไปมา

“เลิกยุ่งวุ่นวายกับชีวิตพี่ได้แล้ว” เขาพยายามสกัดกลั้นอารมณ์โกรธ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อยากทำร้ายผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิงที่เขาเคยรัก “พี่รักลินท์ พี่ไม่ได้รักเกศแล้ว ฟังนะ.. ความรักของพี่ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมายอมรับ พี่มีความสุขกับครอบครัวทุกวันนี้พอแล้ว”

“ฮึก.. ฮือ”

“ พี่ไม่เคยห้ามไม่ให้เกศเจอลูกเลย แต่สิ่งที่เกศทำมันทำให้ลูกไม่กล้าเจอหน้าเกศแล้ว พี่ขอร้องล่ะนะ.. เราอย่าเจอกันเลยจะดีกว่า”

“พี่ฉลาม..ฮึก” สองมือกระพุ่มไหว้ชายหนุ่ม “อย่าเพิ่งไป เกศขอร้อง เกศผิดไปแล้ว..นะ”

“มันสายไปแล้ว” เขารวบมือของเกศราลง ไม่ต้องการให้ถึงกับต้องไหว้เขาขนาดนี้ เพราะเรื่องทุกอย่างหล่อนเป็นคนจบเองกับมือ “เกศยังมีใครอีกมากมายที่พร้อมจะดูแล.. ไม่จำเป็นต้องเป็นพี่”

ในวันที่เหลือตัวคนเดียว ความสัมพันธ์ครอบครัวที่เธอทิ้งขว้างกลายเป็นสิ่งที่เธอโหยมามากที่สุด ความรักฉาบฉวยที่ผ่านเข้ามาในแต่ละคืนไม่อาจทำให้เธอมีความสุขได้สักครั้ง เกศราต้องการครอบครัวของเธอกลับคืนมา ครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเดิม

“ฮึก ฮือ” เสียงร้องอย่างน่าสงสารทำเอาชลธีอดจะเห็นใจภรรยาเก่าไม่ได้ เขายื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอใช้ซับน้ำตา ไหล่บางสั่นน้อยๆตามแรงสะอื้น หล่อนปัดผ้าเช็ดออก ดวงตาแดงก่ำจ้องมองดวงตาสีดำขลับของชายหนุ่ม ไร้แววตาของความรักความอบอุ่นที่เธอเคยได้รับ ไม่มีวันที่เธอจะได้ความรักจากผู้ชายคนนี้แล้วใช่ไหม

“พี่ไม่อยากให้เกศยึดติดพี่.. เรายังเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันได้นะ”

ไม่.. หล่อนตอบชายหนุ่มในใจ

“ค่ะ” ช้อนตามองชายหนุ่มก่อนร่างบอบบางจะโอนเอนล้มลง ชลธีช้อนตัวเข้าไปรับได้ทัน หล่อนหอบหายใจถี่ ซุกอกอุ่นของชลธี “เกศเวียนหัวมากเลย.. พี่ไปส่งเกศหน่อยได้ไหมคะ” 

ชลธีพยักหน้าก่อนจะเรียกบริกรมาคิดเงิน ชายหนุ่มค่อยๆประคองหญิงสาวขึ้นรถ เขารู้ว่าเกศราร่างกายไม่ได้แข็งแรงมากนัก เมื่อเห็นอาการป่วยก็พร้อมที่เข้าไปช่วยเหลือโดยไม่คิดอะไร ดวงหน้าซีดขาวอิงแอบแนบชิดชายหนุ่มไม่ห่าง ริมฝีปากสีสวยคลี่ยิ้มบาง


หากไม่มีมันสักคน ยังไงชลธีก็ต้องกลับมาหาหล่อนแน่.. 

   เธอไม่ยอมแพ้หรอก..




TBC


ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อ่านจบแล้วบอกเลย ตอนหน้าอยากให้น้องลินทร์มาตบอีเกศมาก

หน้าด้านมากคนเขาไม่เอายังไปประกาศปาวๆๆว่าเป็แฟนพี่หลามอีก

ลงตอน14เร็วๆนะ ค้างมากกกกกกกก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เกศนี่คงจะขุดไม่ขึ้นแล้วล่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พระเอกเรื่องนี้ต้องไม่โง่นะบอกไว้เลย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
โอ๊ยยยย อยากตบนังเกศ
น้องลินท์อย่าไปยอมนะลูก

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โอ่ยยยน้องลินทร์ระวังตัวด้วยนะ พี่ฉลามดูน้องด้วยยย

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอยยย ไม่เอาฉากมอมยาแล้วตื่นมาจะให้รับผิดชอบ หรือยั่วแล้วโดนแอบถ่ายรูปไปให้อีกคนเห็นน้าา เจอเยอะแล้ว ฮือออ

ปล.ตัวร้ายดันชื่อเดียวกับคนที่เกลียดพอดี อิเกศราาาาาาาาา  :fire: :fire:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๔

   เด็กหนุ่มพลิกตัวไปมากระสับกระส่ายนอนไม่หลับทั้งที่เหนื่อยมาทั้งวัน กลอกตามองเพดานห้องอย่างคนใช้ความคิด เหลือบมองไปด้านข้างเตียงที่ใช้พักผ่อนทุกวันกลับดูกว้างเหลือเกินเมื่อไม่มีชลธี พื้นที่ด้านข้างเย็นเฉียบ เขากระชับผ้านวมผืนหนาให้รั้งเข้ามาหาตัวมากขึ้น แม้จะไม่เคยชินกับการนอนในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศแต่เขาก็ได้คนรักนอนกอดทุกวันจนเคยชินไปแล้ว นาฬิกาบนหัวเตียงแสดงเวลาสี่นาฬิกาของเช้าวันใหม่ เขาข่มตาพยายามให้หลับอยู่นานสองนานแต่ด้วยความเป็นห่วงชลธีทำให้เขาไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจได้ เมื่อชลธีจะไปสังสรรค์กับเพื่อนเขาก็ควรใจกว้างและให้ความเป็นส่วนตัวกับคนรักบ้าง ถึงกระนั้นก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี

   สองขาวยาวก้าวลงจากเตียง ดิ่งออกไปห้องครัว เปิดตู้เย็นดูของสดเพื่อเตรียมทำอาหารในมื้อต่อไป เขาติดนิสัยตื่นเช้ามาช่วยยายทำขนมตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว โดยเฉพาะการไปตลาดตั้งแต่เช้ามืดเป็นกิจวัตรที่มุจลินท์ชื่นชอบมาก โทรศัพท์ส่งเสียงร้องตั้งปลุกเขาจึงหยิบมาปิด ทำให้เห็นข้อความจากเพื่อนในกลุ่มส่งมามากมาย โดยเฉพาะหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มที่กำลังโวยวายใส่เขาไม่หยุด

‘ลินท์’

‘มึงๆๆๆๆ’

‘โอ้ย มันหายไปไหนเนี่ย’

กัญญาส่งข้อความมารัวเร็วพร้อมส่งสติ๊กเกอร์หมีบราวน์หน้าตาตื่นมาเกือบสิบตัว

‘มีอะไรวะ’ เขาส่งข้อความตอบกลับไป

‘ไม่ตอบกูปีหน้าเลยวะ’ ดูจากประโยคสั้นห้วนเพื่อนเขาคงต้องอารมณ์เสียอยู่แน่ๆ ‘เบื่อคนมีความรักโว้ย’

‘กวนตีน’

‘กูจะบอกว่า กูขอยืมชีทเรียนคาบที่แล้วไปซีร็อกซ์หน่อยดิ” แก้วพิมตอบกลับมาพร้อมสติ๊กเกอร์รูปกระต่ายโคนี่น้ำตาไหลพราก “ไอ้ชีต้าฉี่รด เหม็นฉิบหาย” ชีต้าคือแมวเปอร์เซียที่เพื่อนเขาเลี้ยงไว้ที่ห้อง นี่คงไปทะเลาะกับแมวมาอีกล่ะสิถึงได้มาหงุดหงิดใส่เขาขนาดนี้

‘เดี๋ยวกูเอาไปให้ วันนี้กูเข้ามอมีเรียนบ่าย’

‘เออ ช่วยโผล่หน้ามาทีเหอะ มัวแต่อยู่กับแฟนนะมึงอะ’

‘อย่าบ่นๆ เดี๋ยวกูไปให้เจอ’

‘เออๆแล้วไม่หลับไม่นอน อย่าบอกนะว่ามานั่งอ่านหนังสือ’

‘เปล่า กูนอนไม่หลับ’

‘รีบนอนรีบมาเรียนเร็วๆ มีคนตามหาตัวมึงให้ควั่ก.. นี่มึงลืมงานประกวดดาวเดือนหรือวะ’

‘เชี้ย’ เขาเผลออุทานออกมาเสียงดัง ‘อาทิตย์หน้าแล้วนี่หว่า’

‘รีบตามไปซ้อมการแสดงเลย สมงสมองไปหมดละมึงอะ’

‘เออๆเดี๋ยวกูรีบไป’

คุยกับกัญญาเสร็จเขาจึงรีบกดเลื่อนหาชื่อรุ่นพี่จากแอปพลิเคชั่นสีเขียว ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนที่เล่นโซเชี่ยลอะไรนัก ต่อให้มีไลน์ก็เถอะ เขาก็ไม่ได้ตอบใครสักเท่าไหร่ เลื่อนไปด้านล่างจนเจอไลน์รุ่นพี่คณะที่ทักมาเมื่อวันก่อน เขารีบกดพิมหาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งขอโทษขอโพยที่ลืมเสียสนิท มองนาฬิกาเกือบจะตีห้าแล้วเขาจึงตัดสินอาบน้ำแต่งตัวขี่จักรยานไปตลาด

ขากลับมุจลินท์ไม่ลืมที่จะแวะซื้อน้ำเต้าหู้มาฝากลุงยามพร้อมปาท่องโก๋อีกสองตัว เจ้าด่างหมาจรจัดตัวน้อยที่เขาชอบให้อาหารมันตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ จนตอนนี้ตัวมันขยายใหญ่เกือบสูงเท่าเข่าเขาอยู่แล้ว เจ้าด่างกระดิกหางใส่เขาไม่หยุด เขาจึงหยิบหมูย่างที่ซื้อมาเผื่อให้มันกินไปสองไม้

“คุณลินท์ตื่นเช้าจังเลยครับ”

“มาใส่บาตรน่ะครับ อีกอย่างตลาดตอนเช้าของถูกมากเลย” ลุงพรยิ้มให้เด็กหนุ่ม เขาทำงานเป็นยามรักษาความปลอดภัยกะดึกของที่นี่มาก็หลายปี ยังไม่เคยเห็นใครขี่จักรยานออกไปตลาดสดที่อยู่ถัดจากคอนโดไปตั้งสองซอยเลยสักครั้ง เพราะตรงข้ามคอนโดก็มีซุปเปอร์มาเก็ตเปิดตลอด24ชม.อยู่แล้ว แถมเด็กหนุ่มยังมีน้ำใจซื้อขนมมาฝากเขาทุกครั้ง เขาจึงเอ็นดูและให้เกียรติเด็กหนุ่มมากเป็นพิเศษ

“ยังไงก็ระวังหน่อยนะครับ แถวนี้รถวิ่งเร็ว ยิ่งตอนเช้าๆด้วย”

“ขอบคุณนะครับลุงพร” เด็กหนุ่มกระพุ่มมือไหว้รับคำเตือนจากผู้ใหญ่ ไม่ถือตัวเลยสักนิด “ผมฝากอาหารเม็ดไว้ให้เจ้าด่างมันหน่อยนะครับ”

“โอ๊ย คุณลินท์ไม่ต้องหรอกครับ มันกินอะไรก็ได้ ไม่ต้องถึงขนาดกินอาหารเม็ดไฮโซโก้เก๋หรอกครับ เปลืองแย่เลย” เขาเห็นเจ้าด่างกระดิกหางไปมา ก็รู้สึกเอ็นดู ลูบหัวมันแผ่วเบาจนมันเลียมือเขาไม่หยุด

“ให้มันได้กินอะไรดีๆบ้างเถอะครับลุงพร” เขาลูบหัวจนมันครางหงิงนอนหงายท้องโชว์ท้องที่แห้งจนเห็นกระดูกโผล่ “มันจะได้ตัวอ้วนๆน่ารัก จะได้มีคนมาเอาไปเลี้ยงเร็วๆ” เห็นมันครางหงิงๆวิ่งหาคนเพื่อขออาหาร โดนตีบ้างโดนเตะบ้างมันก็ยังสู้เพื่อจะมีชีวิตอยู่

แล้วจะไม่ให้เขาช่วยเหลือมันได้อย่างไร..

“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับคุณลินท์เดี๋ยวลุงจะช่วยดูให้”

“ขอบคุณมากเลยนะครับลุงพร เดี๋ยวลินท์จะลองหาบ้านให้มันดู” เขานึกถึงลูกชายที่อยากเลี้ยงสุนัขคู่กับเจ้ากะทิ และเห็นว่าที่บ้านของคุณแม่ก็มีพื้นที่กว้างขวางมากพอที่จะเลี้ยงสุนัขได้อีกสักตัว อย่างไรก็ตามเขาก็อยากลองขอคนรักเสียก่อน รถยนต์นิสสันสีขาวแล่นผ่านหน้าเขาไป เห็นปราดเดียวเขาก็จำทะเบียนได้แม่นจึงรู้ว่าคนรักมาถึงแล้ว เด็กหนุ่มโบกมือลาเจ้าด่างก่อนจะเข็นรถจักรยานเก่าๆเข้าที่จอดค่อยๆหอบหิ้วของสดที่ซื้อมาจากตลาดขึ้นไป

“ไปตลาดมาอีกแล้วหรือ” ชลธีร้องทักเมื่อเห็นเด็กหนุ่ม เขายังอยู่ในชุดเดิมเหมือนเมื่อวาน หน้าตาอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืน เด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปลูบแก้มแผ่วเบา ก่อนจะดุนหลังคนรักให้เข้าไปอาบน้ำ

“ครับ แครอทหมดพอดี จะทำไข่ตุ๋นแครอทให้ลูกชาย”

“พี่ก็อยากทานเหมือนกัน”

“ไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะครับ” ดุนหลังไม่ค่อยจะไหว เขาสู้แรงชลธีไม่เคยได้จริงๆ “เหม็นกลิ่นน้ำหอม.. ฉุนจมูกมากเลย”

“จริงหรือ” เขายกแขนขึ้นมาดมได้กลิ่นน้ำหอมจริงๆอย่างที่มุจลินท์บอก คิ้วหนาขมวดมุ่นนึกไม่ออกว่ากลิ่นมาได้อย่างไร พลางมองคนรักที่กำลังง่วนเข้าครัวจัดแจงแยกของใส่ตู้เย็น “จริงๆด้วยแหะ”

“นั่นไง รีบไปอาบน้ำเลย”

“จะไม่ถามพี่หน่อยหรือว่าพี่ไปไหน ทำไมกลับเอาป่านนี้” เดินเข้ามาประชิดเด็กหนุ่มที่กำลังหันหลังให้เขา เสื้อยืดสีขาวบางเฉียบแถมปลายเสื้อยังลุ่ยจนเห็นเส้นด้าย ชายหนุ่มพูดจนปากเปียกปากแฉะว่าให้เลิกใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ทั้งย้วยทั้งขาดวิ่นได้แล้วแต่คนรักก็ไม่ยอมท่าเดียว “ปล่อยให้พี่หึงลินท์อยู่คนเดียว.. ไม่หึงพี่หน่อยหรือ”


“ก็พี่ฉลามไปกับเพื่อนนี่ครับ” เด็กหนุ่มหันมายิ้มหวาน รู้สึกขำคนรักที่งอแงเหมือนเด็ก “ทำไมลินท์ต้องหึงด้วยเล่า ปล่อยลินท์เลยนะครับ”

“เมียไม่สนใจ พี่เสียใจอะ” กอดเอวเด็กหนุ่มแน่นก่อนจะซุกหน้าลงไหล่ลาดบาง กลิ่นตัวหอมที่เขาคุ้นเคยเริ่มทำให้เขาเคลิ้มหลับและอยากนอนกอดหมอนข้างประจำตัวเขาไว้ตลอดคืน

“ฮื่อ.. อย่าครับ เดี๋ยวลินท์ไปส่งลูกเสร็จจะไปเรียนต่อเลย เย็นนี้ฝากพี่ไปรับลูกด้วยนะครับ”
“ให้พี่ไปรับที่มหา’ลัยไหม?”

“ลินท์อาจจะค้างที่ห้องเพื่อนนะครับ” เขาหันไปทำแก้มป่องใส่คนรัก รู้อยู่แก่ใจว่าชลธีได้เวลามาพักผ่อนกับครอบครัวก่อนไปออกราชการสนามที่เชียงรายเขาก็อยากใช้เวลาให้มีค่าที่สุด แต่เรื่องนี้มันก็จำเป็นที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ “ลินท์ต้องเตรียมตัวไปประกวดเดือนที่มหาวิทยาลัยครับ”

“ประกวดอะไร?” นายทหารหนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง จากที่จะเคลิ้มหลับเมื่อครู่กลับมาตื่นเต็มตาและพร้อมจะแยกเขี้ยวใส่หากมีใครมายุ่มย่ามกับคนของเขา “ยังไม่จบอีกหรือ”

“เอ่อ.. ยังครับ”

“พี่จะไปรับส่งลินท์เอง ไม่ต้องห่วง ไม่อย่างนั้นก็เก็บของย้ายไปอยู่บ้านคุณแม่เลย ไม่ไกลจากมหา’ลัยด้วย  พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

“เอางั้นเลยหรือครับ” เด็กหนุ่มย้ำเสียงอ่อน ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปแต่เขายังไม่คุ้นชินต่างหาก “เก็บของคงใช้เวลาอีกหลายวันเลยนะครับ”

“ไม่เป็นไร.. เดี๋ยวพี่ให้คนมาช่วยขนเอง” ชลธีว่าพลางก้มลงจูบแก้มขาว เด็กหนุ่มสะดุ้งจนแครอทที่กำลังล้างอยู่จะหล่นจากซิงค์

“ไปอาบน้ำเลยครับ” หันไปดุคนรักที่ชอบแทะโลมเขา ไม่รู้ทำไมถึงได้ดื้อขนาดนี้ “ไม่อย่างนั้น.. งด!”

“ดุจังเลยเจ้าลูกเป็ด” ชลธีหัวเราะร่าก้มลงโฉบงับแก้มเด็กหนุ่มเร็วๆก่อนจะเผ่นแผล็วไปอีกทาง มุจลินท์กุมแก้มที่ร้อนผ่าวมองแผ่นหลังกว้างของคนรัก หลังจากเตรียมของทำอาหารแล้วเขาเดินเข้าไปปลุกลูกชายที่นอนดูดนิ้วอยู่ให้ลุกไปอาบน้ำ ต้มน้ำอุ่นให้คุณยายจิบยามเช้า ก่อนจะรีบมาเตรียมอาหารใส่กล่องให้ลูกชายไปทานที่โรงเรียน ถึงชีวิตตอนเช้าเขาจะดูวุ่นวายขนาดไหน มุจลินท์ก็รู้สึกว่ามีความสุขเหลือเกิน

Rrrr

เสียงโทรศัพท์บ้านในห้องรับแขกดังช่วงเวลาเกือบเจ็ดโมง เขาออกมาจากห้องนอนหลังจากเข้าไปดูว่าชลธีพักผ่อนเรียบร้อยแล้วจึงวิ่งออกมารับโทรศัพท์ เหลือบมองลูกชายที่กำลังตักไข่ตุ๋นเข้าปากก็อดจะยกยิ้มไม่ได้

“สวัสดีครับ”

“พี่ฉลามอยู่ไหม?” น้ำเสียงเย่อหยิ่งของผู้หญิงที่เขาไม่คุ้นเคยดังขึ้นมา “เรียกเขามาคุยกับชั้นหน่อย”

“พี่ฉลามกำลังพักผ่อนอยู่ครับคงไม่สะดวกคุยตอนนี้ ถ้ายังไงฝากเรื่อง..”

“ฝากบอกเขาด้วยแล้วกันว่าขอบคุณมากที่ช่วยอยู่ดูแลชั้นทั้งคืน” เสียงหัวเราะคิกคักดังลอดออกมาจากสาย ตัวเขาชาวาบหัวใจกระตุกวูบ “พี่ฉลามคงจะเพลียมากๆเลย” มุจลินท์ไล่เลียงเหตุการณ์และคาดเดาเรื่องราวในหัวประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด

อยู่ด้วยกันทั้งคืน.. นี่มันเรื่องอะไรกันแน่

“ไม่ต้องตกใจหรอกนะ เพราะปกติพี่ฉลามเขาก็ดูแลชั้นมาตั้งนานแล้ว.. อ้อ แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกชายชั้นด้วย..”

“คุณคือ..?”

“ใช่ ชั้นเป็นเมียพี่ฉลามและเป็นแม่ของไทเกอร์ ส่วนแก ไอ้เด็กสลัม รีบไสหัวออกไปได้แล้ว!” เสียงหวานแผดขึ้นสูงจนเขาต้องเอาหูโทรศัพท์ออกห่าง มือที่ว่างอีกข้างคอยประคองโทรศัพท์เอาไว้ มือขาวสั่นระริกและไม่มีแรง ก้อนสะอึกจุกอยู่ที่ลำคอจนไม่อาจจะเปล่งเสียงอะไรออกมาได้ “จำเอาไว้ว่าคนอย่างแกมันก็แค่ตัวบำบัดความใคร่เท่านั้น อย่าได้สะเออะสำคัญตัวผิด.. ไม่งั้นเขาจะมาหาชั้นเพราะอะไร”

เขาถือโทรศัพท์แข็งค้างเอาไว้อย่างนั้น ไม่รู้เกศราวางไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ริมฝีปากบางสั่นน้อยๆอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ รู้สึกปวดหนึบที่อกข้างซ้ายจนร้าวไปหมด มือขาวยกขึ้นปาดน้ำตา เขาแทบจะล้มลงตั้งแต่ได้ยินประโยคนั้น ตอนนี้เด็กหนุ่มอยากจะคุยกับชลธีให้รู้เรื่อง แต่ก็กลัวว่าหากเรื่องที่หญิงสาวพูดเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง ความฝันอันหอมหวานที่เขากำลังมีความสุขมันจะเป็นแค่เพียงภาพลวงตาตลอดไป..

เขาจะทำอย่างไรดี...



เด็กหนุ่มส่งลูกชายเข้าโรงเรียนเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย หัวใจเขายังเต้นรัวแรงมือสั่นไปหมดจนไม่ได้เดินเข้าไปบอกชลธีที่กำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง คุณยายถามว่าเขาว่าเป็นอะไรทำไมหน้าซีด เขาส่ายหัวดิกไม่กล้าสบตาผู้บังเกิดเกล้า ขณะยืนรอรถก็ยกมือขึ้นนวดขมับที่รู้สึกเวียนหัวไปหมด คิดทบทวนประโยคที่ได้ยินมาจากหญิงสาว เขาควรจะถามชลธีให้รู้เรื่อง พูดกันตรงๆว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อีกใจก็ไม่กล้าถาม คิดวนเวียนจนกระทั่งถึงห้องเรียน คาบวิชาการให้คำปรึกษาผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วพร้อมการบ้านอีกหลายชิ้น หญิงสาวทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้ใต้ตึกคณะ มุจลินท์นั่งลงพร้อมกับนนท์และปิงเพื่อนในกลุ่ม

“ไอ้ลินท์ เป็นอะไรวะ” นนท์ทัก เขาเห็นเพื่อนนั่งเรียนในคาบมัวแต่เหม่อลอยเหมือนคนคิดอะไรอยู่ “นั่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยมึง”

“กูปวดหัวนิดหน่อย”

“งั้นรีบไปหาข้าว กินยาเลย เร็วๆ ไอ้แก้วพาลูกมึงไปโรงอาหารที” ชายหนุ่มหันไปบอกกัญญาที่กำลังกดเล่นเกมโทรศัพท์อย่างเมามันส์ เจ้าตัวเงยหน้าหันมามองมุจลินท์ที่หน้าซีดจริงๆจึงยอมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า

“โอเค” กัญญาลุกขึ้นจับจูงเด็กหนุ่มที่หน้าตาซีดเซียวไปโรงอาหารตามที่ต้องการ หล่อนคาดคั้นเอาตั้งแต่ในคาบเรียนแล้วจึงรู้ว่าเพื่อนไม่ยอมกินข้าว ใบหน้าขาวยิ่งซีดหนักเข้าไปอีก แถมยังทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรตลอดเวลา หล่อนไม่ได้อยากจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อนนัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม.. ลองเป็นเรื่องที่มุจลินท์ไม่สบายใจมันจะมีเรื่องอะไรไปได้

“แก้วส่งตรงนี้แหละ” เด็กหนุ่มพยายามประคองตัวเองให้ยืนมั่นคง “โรงอาหารคนมันเยอะ ร้อนด้วย”

“ก็ซื้อมากินตรงนี้” หลอนนั่งหย่อนก้นลงม้าหินอ่อนข้างโรงอาหาร บรรยากาศร่มรื่นมีต้นไม้ขึ้นประปรายทำให้นักศึกษาบางคนที่ไม่มีที่นั่งเลือกที่จะมาทานตรงนี้กัน

“อือ งั้นรอตรงนี้นะ” เจ้าของหน้าซีดหันมาบอกก่อนจะพาตัวเองที่เหมือนร่างไร้วิญญาณเข้าไปฝ่าสงครามในช่วงเวลาพักเที่ยง หล่อนมองจนลับตาจึงคิดอะไรเพลินๆระหว่างรอ ชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆเฉียดผ่านหน้าเธอไปอย่างหวุดหวิวพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งลง

ใครวะ..

 เมื่อครู่เธอยังเห็นเพื่อนของเธอเดินไปคงจะไม่เสร็จเร็วขนาดนี้แน่ พอเงยหน้าขึ้นเธอก็จำได้ทันทีว่าเป็นใคร ชายหนุ่มร่างสูงในชุดนักศึกษา เชิ้ตสีขาวแขนสั้นที่ปลดกระดุมลงสองเม็ดและกางเกงยีนส์ขาดวิ่นที่เหมือนไปฟัดกับหมาที่ไหนมา เดือนคณะรัฐศาสตร์...

“นี่นายตรงนี้มีคนนั่งแล้ว”

“รู้” เขาตอบโดยไม่มองหน้า “ชั้นมารอเจอเพื่อนเธอ” พูดได้แค่นั้นก็ตั้งอกตั้งใจกินอาหารตรงหน้าไม่สนใจเธอสักนิด ถึงจะอยู่คนละคณะกันก็จริงแต่เธอก็เจอเจ้าเดือนคณะรัฐศาสตร์คนนี้บ่อยเพราะตึกคณะที่เชื่อมติดกันทำให้ต้องเดินผ่านหน้าห้องเรียนกันอยู่เสมอ จะว่าไปหมอนี่ก็เหมาะจะเป็นอิมเมจพระรองนิยายเธอเหมือนกันนะ

“มองอะไร” เธอชะงัก เหมือนคนทำผิดที่ถูกจำได้เลยกระแอมไอแก้เก้อ กะอีแค่มองจะอะไรนักหนายะ “มองกันขนาดนี้ อุ้มกลับบ้านเลยมั้ย”

“ใครมันจะไปอุ้มนาย ประสาท” พูดแล้วก็หันหน้าหนี ในใจนับหนึ่งถึงร้อยรอให้มุจลินท์มาถึงเร็วๆเพราะหล่อนไม่เคยต่อปากต่อคำหมอนี่ชนะเลยสักครั้ง

“อ้าว เกี๊ยม” มุจลินท์เดินมาหน้าตาเหรอหราเมื่อเห็นใครบางคนนั่งโต๊ะเดียวกับเพื่อนเขา “ไม่เจอกันตั้งนานเลย”

“ก็ใครมันหายหัวไปล่ะ ไอ้เปี๊ยก”

“ห้ามเรียกเปี๊ยกนะ”

“ไอ้เตี้ย” 

“เออ” เด็กหนุ่มขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับมนุษย์ผู้มีสกิลกวนบาทาคนทั่วราชอาณาจักรอย่างหมอนี่เหมือนกัน จึงลงมือทานข้าวผัดที่ตัวเองซื้อมา

“ไม่สบายหรือ” กรวิชญ์มองหน้าเด็กหนุ่ม “หน้าซีดๆ”

“ใช่ ลินท์มันไม่สบาย”

“เฮ้ย ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวทานยาก็หายแล้ว” เขาโบกมือเป็นพัลวันเห็นคนอื่นเป็นห่วงก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย แต่ข้างในยังรู้สึกปวดหนึบจนแทบหายใจไม่ออกเหมือนเคย “ขอบใจที่เป็นห่วงนะ”

“กูกลัวจะไม่มีคนเต้นคู่กับกูต่างหาก”

“หา” เด็กหนุ่มอ้าปากหวอพร้อมกับช้อนและส้อมที่ร่วงลงกระทบจานดังเคร้ง เขารู้จากรุ่นพี่ว่าจะต้องมีการแสดงร่วมกับคณะต่างๆแต่ไม่ได้บอกว่าเขาจะเต้นคู่กับเดือนคณะรัฐศาสตร์สักหน่อย “เต้นคู่กับมึงเนี่ยนะ?”

“จริงๆ กูไม่ได้โกหก เย็นนี้เจอกันที่หอประชุมเหมือนเดิม” กรวิชญ์ลุกขึ้นก่อนจะขยี้กลุ่มผมของลูกเป็ดจนยุ่งเหยิงไปหมด เขาจะอ้าปากด่าแต่ก็ไม่ทัน เจ้าคนกวนประสาทเดินหายไปทางโรงอาหารซะแล้ว

“ไปสนิทกันตอนไหนวะ มึงกับไอ้เดือนนั่น”

“รู้จักกันตอนไปค่ายนั่นแหละ ไม่มีอะไร”

“อ้อ แล้วไป.. เห็นมันมาชอบวอแวมึง หรือว่ามันจะชอบมึงวะ” เขาแทบจะสำลักเม็ดข้าวออกมาใส่หน้าเพื่อน พูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ

“มันมีแฟนอยู่แล้ว”

“จริงดิ”

“แต่เหมือนทะเลาะกันอยู่มั้ง” เขาจำกรอบรูปไม้ข้างหัวเตียงนั่นได้แม่น คนที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์อย่างกรวิชญ์น่ะหรือจะเอารูปคู่มาตั้งถ้าไม่ใช่รูปคนสำคัญ “กูไม่ได้ถามซะด้วยสิ”

“เซ็งเลย”

“เลิกจับกูไปจิ้นกับคนโน้นคนนี้ได้แล้วไอ้แก้ว”

“กลัวตัวจริงมึงจะโกรธหรือยังไงจ้ะ” พอกัญญาสะกิดแผลทันใดนั้น มุจลินท์สะดุดกึกขอบตาก็เริ่มร้อนผ่าว หยดน้ำอุ่นทำท่าจะไหลจนเขาต้องกลั้นก้อนสะอึกลงคอ “ลินท์ มึงเป็นอะไรวะ”

ทุกประโยคที่เกศราเน้นย้ำทิ่มแทงลงไปในส่วนลึกของเขาไม่หยุด เป็นความจริงที่เขาเป็นแค่เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า เติบโตมาในสลัม ไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่น ต้องช่วยคุณยายขายของหาเงินไว้ใช้ไปโรงเรียน ตกเย็นต้องเอาพวงมาลัยที่ร้อยไปเร่ขายตามถนน เงินจะเอาไว้ซื้อขนมหรือของเล่นสักชิ้นยังไม่กล้าเลยด้วยซ้ำ มีชีวิตเติบโตมาอย่างขาดๆเกินๆ แล้วจะมีอะไรไปเทียบเคียงกับอดีตภรรยาของคนรักที่พรั่งพร้อมทุกอย่างและยังเป็นแม่บังเกิดเกล้าของไทเกอร์ลูกชายที่เขารักมากที่สุด คำที่ว่าเขาเป็นได้แค่นายบำเรอสะท้อนก้องในหัว นึกถึงสิ่งที่ทุกคนเคยปรามาสแม่เขาเอาไว้

“แม่มึงคงไปขายตัวที่พัทยาสบายไปแล้วน่ะซี”

“แม่อย่างมึงเรียนจบแค่นั้นคงเป็นได้แค่ผู้หญิงกลางคืนนั่นแหละ”

“นี่มึงยังคาดหวังให้แม่มารับมึงไปอยู่ด้วยอีกหรือ มาพามึงไปหาเงินสินะ หน้าตาดีอย่างมึงคงหาแขกได้ไม่ยากหรอกมีเงินก็ลืมข้านะว้อย ไอ้ลินท์”


เขาไม่ชอบให้ใครมาว่าแม่อย่างนั้น แม้จะพยายามปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีใครฟัง เขาต้องทนฟังเสียงล้อเลียนแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก คำพูดของคนมันทำให้เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งเกิดบาดแผลในใจจนสะสมนานวันเข้ากลายเป็นแผลใหญ่โต และวันนี้แผลนั้นมันเปิดอีกครั้ง แม่เขาไม่ใช่อย่างที่ใครพูด เขาอยากตะโกนออกไปอย่างนั้น เขาไม่ใช่อย่างที่เกศราเอ่ยสักนิด เขาและชลธี เรารักกัน 

รักคืออะไร.. รักคือการที่คนสองคนแชร์ชีวิตและดูแลกันและกันใช่หรือไม่ มีได้เพียงแค่คนสองคนเท่านั้น และเขาก็เป็นคนที่มาทีหลัง.. หากชลธีเห็นเขาเป็นคนรักจริง ทำไมยังกลับไปหาภรรยาเก่าที่เลิกรากันไปแล้ว จนเขาต้องมาทวงคืน เป็นเขาเองที่เข้ามาทำให้ครอบครัวของคนอื่นร้าวฉานหรือเปล่า แบบนั้นเขาไม่ชอบเลย เขาอยากให้ชลธีพูดกับเขาตรงๆมากกว่าจะให้เกศรามาพูดกับเขาแบบนี้

(ต่อด้านล่างค่ะ)

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


กัญญาเอื้อมไปแตะไหล่ที่สั่นเทิ้มของเพื่อน เสียงสะอึกสะอื้นแผ่วเบาที่หล่อนได้ยินทำเอาใจกระตุบวูบ เธอรู้มาตลอดว่าเพื่อนเป็นคนที่เข้มแข็งแค่ไหน ทัศนคติที่มองโลกในแง่ดีและให้กำลังใจตนเองทำให้เธออดจะชื่นชมมุจลินท์ไม่ได้ เธอไม่ได้ครึ่งนึงของเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยซ้ำ นิ้วมือขาวแต่หยาบกร้าน ทำให้รู้ได้ทันทีว่ามุจลินท์ผ่านอะไรมามากเหลือเกิน เธอสวมกอดลูกเป็ดที่พยายามกลั้นเสียงร้อง

“ชู่ว ไม่เอาไม่ร้อง”

“ฮึก..แก้ว กูไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว”

“กูไม่ชอบเห็นมึงร้องไห้เลย” หล่อนลูบหัวเจ้าเด็กขี้แย นับวันเพื่อนคนนี้ยิ่งเหมือนลูกเธอไปทุกที

“ฮึก.. แฟนเก่าพี่ฉลามเขาบอกให้คืนของของเขากลับไป..” เสียงสะอึกสะอื้นทำเอากัญญาใจไม่ดีรีบหาทิชชู่มาช่วยเช็ดหยดน้ำตา

“หา เมียเก่าเขามาทวงคืนเลยหรือวะ กูนึกว่าจะมีแต่ละครหลังข่าว” กัญญาลองแตะผิวขาวของคนตรงหน้า เธอก็ต้องตกใจเมื่ออุณหภูมิร่างกายขึ้นสูงจนร้อนจี๋  “โอ๊ย แล้วทำไมตัวมึงร้อนแบบนี้เนี่ย” หล่อนจับใบหน้าลูกเป็ดพลิกไปมา “มากินยาเลย เดี๋ยวกูพาไปนอนพัก” หล่อนหยิบยาจากกระเป๋า เทน้ำเปล่าใส่แก้วพลาสติกแล้วยื่นให้เพื่อน เด็กหนุ่มรับมาไว้ในมือก่อนจะกระดกเข้าปาก อาการเครียดส่งผลให้เขาปวดหัวจนไข้ขึ้น ดวงตากลมโตแดงก่ำเมื่อยล้าจนอยากจะปิดตา กัญญารีบพยุงเพื่อนขึ้นยืนแต่ตัวที่ใหญ่กว่าทำให้เธอประคองได้ไม่ถนัดนัก

เธอโทรให้เพื่อนสองคนมารับมุจลินท์ไปนอนที่หอพักก่อน หอชายที่มหาวิทยาลัยผู้หญิงขึ้นไม่ได้เสียด้วย ก่อนที่เธอจะส่งมุจลินท์ขึ้นหอพัก เธอแอบเอาโทรศัพท์เพื่อนมาไล่หาเบอร์ชลธี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เขาควรจะรับรู้ว่าทำให้เพื่อนหล่อนเครียดจนไม่สบายขนาดนี้

“ใช่พี่ฉลามหรือเปล่าคะ.. หนูชื่อแก้วนะคะ เป็นเพื่อนลินท์”

“ลินท์.. ลินท์ทำไมหรือ”

“จู่ๆลินท์ก็ไม่สบายค่ะ ไข้ขึ้นตัวร้อน แก้วเลยให้นอนพักอยู่ที่หอของนนท์” กัญญามองซ้ายขวา หาที่หลบเพื่อคุยกับนายทหารหนุ่ม “ลินท์ดูเครียดตั้งแต่เช้าแล้ว เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ พี่ทะเลาะอะไรกับลินท์หรือเปล่าคะ”

“ไม่มีนะ” ชายหนุ่มครุ่นคิดก่อนที่เขาจะเข้าห้องไปพักผ่อน ยังหยอกล้อกับมุจลินท์อยู่เลย ก็ไม่เห็นคนรักจะโกรธเคืองอะไร “เดี๋ยวพี่จะไปรับลินท์เดี๋ยวนี้”

“พี่ฉลามแน่ใจนะคะ” หล่อนคันปากอยากจะบริภาษแฟนของเพื่อนเสียเหลือเกิน แต่ก็ปล่อยให้เพื่อนของเธอเป็นคนจัดการเองดีกว่า เรื่องนี้เธอเป็นคนนอก เธอก็จะคอยเฝ้าดูและจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเพื่อนเธอแน่ “เดี๋ยวแก้วจะรออยู่ที่หน้าหอพักชาย แล้วเจอกันค่ะ”

เขาลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า ในใจอดจะกังวลกับอาการป่วยของคนรักไม่ได้ มุจลินท์ไม่เคยป่วยกระทั่งล้มหมอนนอนเสื่อมาก่อน หรือว่าจะทำงานบ้านหนักเกินไป ยังไม่ทันที่เขาจะออกจากคอนโด เสียงโทรศัพท์ก็แผดขึ้นมาอีกรอบ มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเกศราที่โทรมาหาเขาแต่เช้า เขาเลือกที่ไม่สนใจอยู่หลายครั้ง จึงรับเพื่อตัดความรำคาญ

“มีอะไร” เขากรอกเสียงลงไปอย่างเหนื่อยหน่าย เกศราทำทุกวิถีทางให้เขากลับไป ทำไมเขาจะไม่รู้ โดยเฉพาะเมื่อคืนเกศราแกล้งป่วยให้เขาช่วยดูแล เขาจึงส่งเธอเข้าโรงพยาบาลทันทีและไม่ยอมไปส่งที่บ้านเด็ดขาด โชคดีที่เขาได้คเชนทร์มาช่วยจึงรอดไปได้อย่างหวุดหวิด เขายอมเฝ้าเธอนอนให้น้ำเกลือทั้งคืนจึงกลับบ้านเกือบเช้า คเชนทร์บ่นอุบว่าเขายอมเกศรามากไปอีกแล้ว เขาสัญญากับตัวเองว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย

“พี่พูดกับเกศห้วนๆอย่างนี้ได้ไง” เสียงหวานแหลมหวีดขึ้นจนชลธีต้องยกโทรศัพท์ออกจากหู “เกศเป็นเมียพี่นะ”

“แค่เคยเท่านั้นเกศ เกศก็รู้ว่าตอนนี้พี่มีคนที่ต้องดูแลแล้ว หรือว่า.. ที่เกศทำเป็นเข้าใจพี่ ก็เพื่อจะได้อยู่ก่อกวนพี่ไปนานๆ?”

“พี่ฉลาม!” เสียงกระเง้ากระงอดของหญิงสาวที่เขาเคยหลงกลมันใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว “เกศไม่เคยก่อกวนนะคะ”

“พี่ขอตัวนะครับ” เขาหมดอารมณ์จะคุยเต็มที

“เดี๋ยวก่อน! พี่ฉลาม..” กดตัดสายก่อนจะโยนโทรศัพท์มือถือลงบนที่นอน ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเป็นชุดลำลองธรรมดา ก่อนออกไปเขาบอกคุณยายว่าเขาจะไปรับมุจลินท์และไทเกอร์อาจจะกลับมาค่ำเสียหน่อย ช่วงกลางวันคุณยายจะนอนพักผ่อนเขาจึงแจ้งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดและทำกับข้าวอ่อนๆให้คุณยายทาน รถมักติดในช่วงเวลาเลิกเรียนกว่าเขาจะวนเข้าไปรับลูกชายได้ใช้เวลาเกือบชั่วโมงครึ่ง เด็กชายสะพายกระเป๋าเป้การ์ตูนวิ่งทั่กๆเข้ามาหาพร้อมทั้งมองซ้ายมองขวา

“ป๊า” กระตุกปลายเสื้อคุณพ่อเบาๆ “แม่ลินท์ล่ะ” ในมือเด็กชายมีกระดาษที่ระบายสีเสร็จแล้วอยู่หนึ่งใบ ไทเกอร์ค่อยๆบรรจงเปิดกระเป๋าเป้และใส่กระดาษเข้าแฟ้ม

“เดี๋ยวเราจะไปรับคุณแม่กันนะครับ” ไทเกอร์พยักหน้าดีใจ เขายกลูกชายขึ้นอุ้ม เจ้าตัวกอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตก “หิวข้าวแล้วหรือยังครับ?”

“หิวแย้วววววว ป๊าๆๆรีบไปหาแม่” ลูกชายดิ้นคลุกคลักจนเขาต้องรีบหย่อนเข้ารถ ชลธีขับรถไม่เร็วเหมือนทุกครั้งตามที่คนรักเคยร้องขอเอาไว้ โดยเฉพาะยิ่งมีลูกชายนั่งมาด้วยกันแล้ว เขาจะต้องยิ่งระมัดระวังมากขึ้น กว่าชลธีจะถึงมหาวิทยาลัยก็เกือบหกโมงเย็น เขาจอดรถที่หน้าหอพัก เจอกัญญาที่กำลังนั่งรออยู่จึงเดินเข้าไปหา

“สวัสดีคุณน้าสิครับ”

“ซาหวาดดีคร้าบ” เด็กชายยกมือไหว้อย่างเรียบร้อย “หนูชื่อไทเกอร์ ลูกแม่ลินท์ กับพ่อหลามฮะ”

“อุ๊ย” กัญญาตาโตมองเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักที่กำลังกระพุ่มมือไม้หล่อน ผมหยักศกสีดำเข้ม ดวงตากลมโตเป็นประกาย ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่ารัก ไม่ว่าดูอย่างไรก็... โตขึ้นจะต้องหล่อถอดแบบคุณพ่อมาอย่างแน่นอน “น้าแก้วนะจ้ะ เป็นเพื่อนแม่ลินท์” เรียกเพื่อนเขาว่าแม่อย่างนี้น่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย

“อายุเท่าไหร่แล้วจ้ะ”

“ฉี่ขวบ” เด็กชายพูดพร้อมกับชูนิ้วสี่นิ้วให้กัญญาดู ยิ้มแฉ่งโชว์ฟันหน้าที่หายไปสามซี่ น่ารักน่าเอ็นดูจนเธออยากจะจับมาฟัดเสียจริงๆ

“เดี๋ยวแก้วโทรตามนนท์ให้พาลินท์ลงมานะคะ เห็นว่าไข้ลดแล้วแต่ยังสะลึมสะลืออยู่”

“ครับ เดี๋ยวพี่รอตรงนี้นะ” เขาตอบ ตอนนี้ชลธีอยากเจอเด็กหนุ่มเร็วๆแล้ว ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นเขาจะได้พาไปหาหมอ แต่นิสัยประหยัดของคนรักจะยอมไปหาหมอกับเขาหรือไม่นี่สิ

“อะไรนะ ไอ้ลินท์ไม่ยอมลงมา” เธอขึ้นเสียงสูง เห็นเค้าลางของความยุ่งยากที่กำลังจะตามมา “มึงบังคับมันเป็นไหมล่ะ ยังไงก็เอามันลงมาให้ได้” เสียงโวยวายนนท์ดังลอดออกมาจากโทรศัพท์พร้อมกับเสียงของตัวปัญหา หล่อนใช้ความคิดตัดสินใจก่อนจะหันไปมองคนรักของเพื่อนที่กำลังเฝ้ารออย่างเป็นห่วง

“มันป่วยจริงหรือเปล่าวะ แรงเยอะฉิบหาย”

“มึงไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวลงมาข้างล่าง กูได้คนไปอุ้มมันละ” หล่อนกรีดยิ้มเจ้าเล่ห์ หันไปทางชลธี “รบกวนพี่ฉลามขึ้นไปรับลินท์หน่อยนะคะ” กัญญายิ้มหวานและอาสาจะดูแลไทเกอร์ให้ เธอจึงส่งชลธีเข้าไปในหอพักพร้อมกับนนท์ สภาพหอพักเป็นตึกสูงเกือบสิบชั้นเก่าแก่สีที่ทาตามตัวอาหารหลุดลอกไปตามกาลเวลา นักศึกษาส่วนใหญ่จะอยู่หอพักในเพราะราคาถูกและสะดวกในการมาเรียนมากกว่า ชลธีขึ้นลิฟต์ไปชั้นเจ็ด ห้องพักด้านในเป็นห้องแฝดมีห้องรับแขกขนาดไม่กว้างมาก นนท์เปิดประตูก่อนจะหันมามองเขา

“ลินท์อยู่ข้างในครับ” เขาเดินเข้าไปในห้องที่ไม่ได้เปิดไฟ ผ้าม่านเปิดอยู่ครึ่งหนึ่งทำให้ในห้องพอจะมีแสงสว่างอยู่บ้าง เขาเจอก้อนกลมๆที่กำลังคลุมโปงอยู่ที่เตียง ทันทีที่เอื้อมมือไปแตะก็โดนเสียงตวาดขึ้นมาดังลั่น

“ไม่ต้องมายุ่ง กูไม่กลับ” เสียงครางเครือไม่ได้ศัพท์ดังออกมาอู้อี้จนเขาต้องเงี่ยหูฟัง “บอกไอ้แก้วด้วยว่ากูจะนอนค้างกับมึง” นนท์ยืนหน้าซีดเผือดก่อนจะเผ่นแผล็วออกมาให้คู่รักเคลียร์กันเอาเอง ชลธีขมวดคิ้วมุ่นไม่รู้เจ้าลูกเป็ดโมโหอะไรเขาถึงขนาดไม่ยอมกลับบ้าน เขานั่งลงก่อนจะค่อยๆแตะไปส่วนร่างกายที่โผล่พ้นมาจากผ้าห่ม

ตัวยังรุมๆ ยังร้อนอยู่เลย   

เห็นอาการคนรักเป็นอย่างนี้ ความเป็นห่วงก็ยิ่งเพิ่มขึ้นสูง เขาค่อยๆแงะผ้าห่มออกจากคนที่กำลังนอนทับ อยากจะอุ้มลงไปทั้งอย่างนี้แต่เจ้าลูกเป็ดคงจะไม่ยอมแน่

“ลินท์ครับ” เขากระซิบข้างหูคนที่นอนไม่สนใจ เจ้าตัวขยับเล็กน้อยเหมือนยังได้ยินไม่ค่อยชัด “พี่มารับลินท์แล้วนะ” จบประโยคก้อนกลมๆที่กำลังม้วนตัวอยู่ก็ดีดผึงขึ้นมา วงหน้าขาวซีดแต่ช่วงแก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำปรือและไออุ่นร้อนจนเขาสัมผัสได้

“พี่มาได้ยังไง”

“พี่มารับเรากลับบ้าน”

“ลินท์ไม่กลับ”

“ทำไมไม่กลับ” เขาเริ่มขมวดคิ้ว เวลาคนรักไม่สบายพยศยิ่งกว่าเวลาปกติถึงสามเท่าจริงๆ “ถ้าลินท์ไม่กลับพี่จะอุ้มเราลงไปทั้งอย่างนี้เนี่ยแหละ” ตั้งท่าจะอุ้ม เจ้าตัวส่ายหน้าพรืดรีบพลิกตัวไปอีกด้านของเตียง

“โอ๊ย” กุมหัวแล้วร้องออกมาจนเขาต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปหา “ลินท์ปวดหัว”

“ไข้ขึ้นสูงขนาดนี้ยังจะดื้ออีกนะ”

“ฮึก.. ใช่ลินท์ดื้อ ดื้อมากด้วย” สองแขนผลักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็ไม่ได้สะกิดตัวเขาเลยสักนิด “ดื้อก็ไม่ต้องมารัก ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปเลยนะ”

“ไปกันใหญ่แล้ว เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลย ไหนบอกพี่สิ.. ลินท์เป็นอะไร”

“ฮึก.. พี่หลอกลินท์ พี่มีคุณเกศอยู่แล้ว พี่จะกลับไปหาเขาแล้วพี่จะมาคบกับลินท์ทำไม” ดวงตาแดงก่ำจ้องมองเขาอย่างเจ็บปวด เขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

“อะไรนะ” ชลธีนึกว่าเขาหูฝาด เห็นลูกเป็ดงอแงร้องไห้นึกว่าเป็นเพราะพิษไข้เพียงอย่างเดียว “ลินท์เอามาจากไหน มันไม่เป็นเรื่องจริงเลย พี่มีลินท์คนเดียวนะครับ” รวบลูกเป็ดเข้ามากอดใช้นิ้วมือหนาเกลี่ยหยดน้ำตา

“ก็.. ฮึก คุณเกศโทรมาหาพี่แต่เช้า เขาบอกลินท์ว่าพี่ไปอยู่กับเขาทั้งคืน” ชลธีโกรธจนขบกรามแน่น ก้มลงจูบหน้าผากเนียนที่ร้อนผ่าว ชายหนุ่มไม่คิดว่าเกศราจะเล่นไม้นี้เข้าทางมุจลินท์ให้เข้าใจผิดเขา ให้ทะเลาะกันเองแล้วคิดว่าเขาจะเลิกกับลูกเป็ดแล้วกลับไปหางั้นหรือ

ไม่มีทาง!

จากความรู้สึกเฉยชากลับกลายเป็นไม่พอใจจนใกล้เข้าสู่รังเกียจมากขึ้นทุกที เขากระซิบข้างหูเด็กหนุ่มที่กำลังจมอกเขาร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงแผ่ว “ใช่ เขาอยากให้พี่กลับไป”

“ฮึก.. ฮือ.. พี่ฉลามใจร้าย” ได้ยินอย่างนั้นเสียงร้องก็ยิ่งดังมากขึ้น “พี่ทำให้ลินท์รักแล้ว พี่จะทิ้งลินท์หรือ ไอ้คนใจร้าย ลินท์เป็นของพี่แล้วนะ ฮือ.. ฮึก” เห็นเด็กหนุ่มต่อว่าเขาด้วยริมฝีปากแดงก่ำ ดวงตากลมโตที่เคยสุกใสบัดนี้บวมช้ำ เนื้อตัวร้อนผ่าวแทบไม่มีแรงแต่ก็ยังยกมือมาทุบเขาได้ตั้งหลายที เขารวบตัวมากอดแน่น ยิ่งเห็นน้ำตาคนรักเขาก็ยิ่งรับรู้ว่ามุจลินท์รักเขามากขนาดไหน

“ใช่ ลินท์เป็นของพี่แล้ว ของพี่คนเดียวด้วย”

“ฮึก...”

“แล้วพี่ล่ะ ไม่ได้เป็นของลินท์หรอกหรือ” เขาย้อนถามเด็กหนุ่ม

“เป็นสิ..”

“เป็นแล้วทำไม ลินท์ถึงไม่แสดงความเป็นเจ้าของพี่ให้มากกว่านี้ บอกเขาไปสิว่าพี่ก็เป็นของลินท์” เด็กหนุ่มช้อนดวงตาแดงก่ำมองคนรัก “หรือว่าลินท์ไม่กล้าบอกใครๆว่าลินท์เป็นแฟนพี่”

“มะไม่ใช่”

“รังเกียจที่เป็นแฟนพี่หรือ”

“ปะเปล่านะ” มุจลินท์ตอบเสียงสั่น พยายามสูดน้ำมูกกลับเข้าไป “ลินท์ไม่เคยรังเกียจพี่เลย.. ลินท์รักพี่” ได้ยินอย่างนั้นเขาก็กดจูบลงแก้มอุ่น ใช้นิ้วทัดผมสีน้ำตาลอ่อนเข้าข้างหู

“พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น นอกจากลินท์จะไม่ต้องการพี่ ไล่พี่ให้ไปหาคนอื่น”

“ไม่เอา...” มุจลินท์ตอบเสียงเบาหวิวรีบโผเข้ากอดคนรัก

“ว่าไง อยากให้พี่ไปไหม”

“ไม่อยาก”

“ไม่อยากแล้วต้องทำยังไง” นิ้วมือเกลี่ยไปที่ริมฝีปากแดงก่ำนุ่มนิ่มจนอยากจะฝังจูบลงไป “หื้ม.. ทำยังไง”

“ก็.. ก็ รักพี่มากๆ”

“อะไรอีก”

“ไม่ดื้อกับพี่ เป็นเด็กดี.. เป็นแฟนที่ดี แล้วก็ เอ่อ แสดงความเป็นเจ้าของพี่บ้าง”

“แสดงยังไง”

“บอกคนอื่นๆว่าเราเป็นแฟนกัน”

“แค่แฟนเองหรือ?”

“เป็น.. เป็นครอบครัว”

“เป็นแม่ของลูกชายพี่ด้วย”

“ฮื่อ.. จริงด้วย”

“แล้วต้องบอกใครบ้าง”

“เอ่อ..”

“แล้วคนที่โทรมาบอกลินท์ว่าพี่จะกลับไปหาเขาเนี่ย ลินท์บอกเขาไหมว่าลินท์เป็นอะไรกับพี่”

“ไม่ได้บอก..”

“ไม่บอกเขาก็ไม่รู้น่ะสิ” ชลธีสบดวงตาคนรัก “แล้วลินท์คิดว่าถ้าพี่จะกลับไปหาเขา พี่จะพาลินท์เข้าบ้านไปไหว้คุณพ่อคุณแม่ทำไม”

“ก็.. ก็”

“ลินท์หวงพี่ให้มากกว่านี้ได้ไหม ทำไมชอบคิดว่าตัวเองไม่มีค่าอยู่เรื่อย”

“ไม่รู้ ลินท์ไม่มั่นใจในตัวเองเลย”

“งั้นคราวนี้ลินท์ต้องมั่นใจในตัวเองแล้ว เพราะอะไรรู้ไหม” เขาวางมือลงบนอกข้างซ้ายของคนรัก รู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจดวงน้อยๆที่อยู่ข้างใน “ลินท์มีหัวใจที่สวยงาม ลินท์ของพี่มองโลกในแง่ดี ไม่เคยคิดร้ายกับใคร แต่ว่า.. บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรขาวบริสุทธิ์ไปทั้งหมด ลินท์ต้องปรับตัวเองให้เป็นสีเทา”

“สีเทา?”

“หัดเห็นแก่ตัวเสียบ้าง พี่เป็นของลินท์ ลินท์ก็ต้องเห็นแก่ตัวไม่ให้ใครมายุ่งกับพี่สิครับ”

“จะดีหรือ”

“ดีไม่ดีไม่รู้แหละ จะได้ไม่มีใครมายุ่งกับพี่ ไม่ชอบไม่ใช่หรือ”

“ไม่ชอบ ไม่ชอบมากๆ” เจ้าลูกเป็ดน้ำตาคลอเบ้าอีกแล้ว ดูท่าเขาจะไปกระตุ้นต่อมขี้หึงของคนรักให้เกิดขึ้น ก็ดีเหมือนกัน “แล้วพี่ไปอยู่ทำไมกับเขาทั้งคืน” มุจลินท์หันมาจ้องเขาเขม็ง กำแขนเสื้อเขาจะยับไปหมด

“เขาบอกพี่ ว่าเขาไม่สบายให้ไปส่งที่ห้อง” มุจลินท์เบิกตาโพลง ในหัวคงคิดไปไหนถึงไหน เขาเอามือแตะริมฝีปากเด็กหนุ่มส่ายหัวเบาๆ “พี่พาเขาไปหาที่รพ.ไอ้ช้าง มันเลยให้เกศแอดมิท นอนแบ๊บให้น้ำเกลือทั้งคืน พี่ก็เลยไปนั่งเฝ้ากลัวเขาจะทำอะไรเรียกร้องความสนใจจากพี่อีก”

“จริงหรือ”

“ไม่เชื่อโทรไปถามไอ้ช้างหรือจะไปโรงพยาบาลก็ได้นะ พยานพี่มีเยอะแยะ”

“ฮื่อ” ลองพูดมาขนาดนี้แล้วเขาจะไม่เชื่อได้อย่างไร พิงหัวเข้ากับอกกว้างของชลธี “ลินท์ขอโทษ”

“ขอโทษเรื่องอะไรหรือครับ”

“ลินท์งี่เง่า”

“ต่อให้จะงี่เง่า ขี้งอน ขี้หึง พี่ก็ยังรักลินท์เหมือนเดิม ลินท์อาจจะคิดว่าตัวเองไม่มีค่าในสายตาใครๆ แต่ลินท์มีค่ามากที่สุดสำหรับพี่ สำหรับไทเกอร์ ไหนจะคุณยายอีก เห็นไหมมีอีกตั้งหลายคนที่เขารักลินท์”

“ฮึก..”

“ไม่ว่าจะลินท์จะเป็นใครมาจากไหน.. ไม่สำคัญ” เขาช้อนต้นคอเด็กหนุ่มที่ยังร้อนระอุให้แหงนขึ้น ก่อนจะบรรจงแตะริมฝีปากลงไปบางเบา “วันนี้เรารักกัน.. มันก็เพียงพอแล้ว”

“ฮื่อ.. เดี๋ยวติดไข้” มุจลินท์ไม่รู้เลยว่าใบหน้าที่กำลังร้อนผ่าวนั้นมาจากฤทธิ์ไข้หรืออาการเขินจากคนตรงหน้ากันแน่ หัวใจดวงน้อยกลับมาชื่นฉ่ำอีกครั้ง หมอกควันแห่งความไม่เข้าใจสลายออกไปอย่างรวดเร็วหากเราพูดคุยกัน คงจะจริงอย่างที่ชลธีบอก หากคู่ชีวิตที่ตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตด้วยกันปิดกั้นกันไปเสียทุกเรื่องไม่เคยพูดคุยความรู้สึกกันเลย สักวันก็คงจะต้องแยกทางกันไปด้วยความไม่เข้าใจ

“ไม่ติดหรอก เพราะพี่แข็งแรง” ชลธีกระซิบข้างหูคนรัก “ทั้งแข็งแล้วก็มีแรง”

“โอ้ย ไปไกลๆเลย!” เด็กหนุ่มผลักคนตรงหน้าให้ออกห่างแต่ยิ่งผลักก็เหมือนแรงกอดจะยิ่งแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เขามีแฟนเป็นคนหื่นกามขนาดนี้เลยหรือ

“รอลินท์หายก่อน พี่จะคิดทบต้นทบดอกเลย”

“ฮื่อ ไม่เอา”

เสียงหยอกล้อของคู่รักดังออกมาให้ได้ยินเป็นระลอก คนรอหน้าห้องยืนชะเง้อคอยว่าเมื่อไหร่จะปรับความเข้าใจกันแล้วรีบพาออกมาเสียที นนท์เดินไปเดินมาวนอยู่หน้าห้องเหมือนหนูติดจั่น ใจอยากจะเคาะก็กลัวจะเสียมารยาท แต่ตอนนี้เขาไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ

“ออกมาจู๋จี๋กันข้างนอกได้ไหม ผมปวดขี้!”




TBC
เรื่องนี้ฟีลกู้ดนะคะ เพราะฉะนั้นดราม่าจะไม่นาน
และพระเอกเราก็ไม่โง่ด้วย 555555
เอาเป็นว่าสถานการณ์สงบสุข ทุกคนได้โปรดวางเปลือกทุเรียนในมือลงด้วย
ไรท์กลัวแล้ว555555555
ตอนหน้าเราจะพาดูเขาจู๋จี๋กันค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2017 22:25:57 โดย Palupu »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ moosawvans

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao7: พี่ฉลามอยากให้เมียหวง อิอิ กลัวเมียไม่รักหราาา

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
อย่าไปยอมนะลินท์
พี่ฉลามอย่าใจอ่อนอีกนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เพิ่งมาอ่าน หลงน้องลินท์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kkookai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบๆชอบตรงพระเอกไม่โง่นี่แหละ..นางเอกก็งอนแต่พอดี..จิกไว้ลูกสะมีหนูก็ต้องเป็นของหนูสิ..

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๕

เด็กหนุ่มรู้สึกตัวเบาหวิวเหมือนลอยได้อยู่กลางอากาศราวกับมีปีกงอกสยายขึ้นมากลางหลัง เขาโผบินท่ามกลางแสงตะวันยามเย็นที่อาบไล้ไปทั่วผิวกาย จู่ๆเมฆดำทะมึนก็ปรากฏขึ้นห้อมล้อมตัวเขาแน่นจนหายใจแทบไม่ออก สองมือและสองขาพยายามตะเกียกตะกายออกจากหมอกสีดำนั่นแต่ทำอย่างไรก็ไม่หลุด

“ลินท์..” เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้เขาสะดุ้งตื่น ดวงตากลมโตกระพริบตาปริบๆมองไปรอบห้อง หน้าต่างบานใหญ่มีแสงแดดลอดเข้ามาจนเขาเริ่มแสบตา ด้านข้างคือชลธีที่กำลังนอนกอดเขาแน่น แน่นเสียจนเขากระดิกตัวไม่ได้เลยสักนิด เจ้าตัวใช้สายตาแปลกๆจ้องมอง จนเขาต้องยกผ้านวมขึ้นมาปิดจนถึงต้นคอ “ฝันร้ายหรือ”

“ก็พี่กอดลินท์ซะแน่น นึกว่าจะหายใจไม่ออกแล้ว” เจ้าตัวบ่นอุบพลางใช้สายตาค้อนไปที่ชายหนุ่ม เวลานอนนายทหารหนุ่มจะไม่ชอบใส่เสื้อเว้นเสียแต่กางเกงผ้าแพรที่ชอบใส่ติดตัวเท่านั้น

“พี่ขอโทษ ก็ลินท์ตัวหอมนี่นา”

“คราวหลังลินท์จะไปนอนกับลูก แล้วให้พี่นอนคนเดียวแล้ว”

“โถ่ เมียจ๋า.. พอหายไข้แล้วเอาใหญ่ ทีเมื่อคืนยังอ้อนพี่อย่างนั้นอย่างนี้”

“โอ๊ย” ชายหนุ่มสูดปากด้วยความเจ็บเมื่อโดนคนรักทุบเข้าให้ “ตีพี่ทำไมครับเนี่ย”

“ชอบล้อลินท์ดีนัก”

เมื่อวานเขาไข้ขึ้งสูงจนชลธีต้องไปรับถึงมหาวิทยาลัย เพราะไม่ยอมไปโรงพยาบาลจึงโดนคนรักบังคับกินยาและเช็ดตัวให้จนเขาอาการดีขึ้น ส่วนไทเกอร์ถูกคุณยายสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้เพราะกลัวจะไข้จากเขา ทำให้เจ้าตัวเล็กร้องงอแงไม่หยุด จนต้องให้คุณยายพาเข้านอนแทน เห็นลูกร้องแล้วก็อดจะสงสารไม่ได้ เขาเลยตั้งใจว่าหากอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาจะไปทำขนมให้ลูกชายทานเป็นของปลอบใจที่คุณแม่ไม่ไปเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนหนึ่งคืน ขณะที่กำลังจะลุกออกจากเตียงแต่ชลธีก็รั้งเอวเขาเอาไว้   

“เดือนหน้าพี่ก็ต้องไปแล้ว” ใบหน้าคมคร้ามซุกเข้าที่หน้าท้องเขา นายทหารหนุ่มสูดดมกรุ่นกลิ่นคนรักที่ตัวเองชอบทำ ยิ่งรู้ว่าเมื่อตนเองจะต้องไปทำงานไกลก็อดจะคิดถึงคนรักไม่ได้

“เวลาผ่านไปไวจังเลยนะครับ”

“นั่นสิ” เขารั้งให้มุจลินท์ลงมานอนข้างๆ “ไม่ได้กอดเมียพี่คงเหงาแย่”

“กอดต้นไม้ไปก่อนนะครับ หึหึ” เจ้าลูกเป็ดหัวเราะเสียงใส อาการตัวร้อนไม่มีแล้วแม้จะยังตัวอุ่นๆอยู่บ้างก็เถอะ แต่พูดเสียงใสแจ๋วได้ขนาดนี้คงจะไม่เป็นอะไรมาก ชลธีคิดในใจหากเขาไม่อยู่สักคนใครจะดูแลครอบครัว จะฝากฝังใครที่ไว้ใจได้บ้าง

“ลินท์ไม่คิดถึงพี่เลยหรือ”

“คิดถึงสิครับ มีแฟนหื่นๆอยู่คนเดียว”

“รู้ได้ยังไงว่าพี่หื่น ยังไม่ทันได้พิสูจน์เลย” ชลธีไม่พูดเปล่าส่งนิ้วมือหนาเข้าไปในกางเกงผ้ายืดที่เจ้าลูกเป็ดชอบใส่นอน สะกิดปลายจุดอ่อนไหวที่กำลังแข็งตัวชูชันสู้มือเขา ร่างกายของคนเพิ่งหายป่วยไข้ยังคงอุ่นทำให้ส่วนนั้นร้อนผ่าว เขาลูบไล้จนน้ำสีใสไหลออกชื่นฉ่ำ

“ฮื่อ พี่ฉลาม..” เจ้าตัวมองสบตาเขา เม้มปากแน่นพยายามสกัดกลั้นอารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นสูง ชลธียิ่งได้ใจรูดรั้งขึ้นลงเป็นจังหวะมากขึ้นจนลูกเป็ดต้องอ้าปากหอบครางแล้วยึดไหล่เขาไว้เป็นที่พึ่ง วงหน้าขาวซุกเข้ามาที่ไหล่หนาของเขาพร้อมทั้งใช้ลิ้นเลียดูดดึงผิวเนื้อเขาจนเป็นรอยแดง เขาช้อนร่างคนรักขึ้นมานอนทับตัวเอง ปลดกางเกงผ้าให้ลงไปกองที่ข้อเท้า มือที่ว่างใช้น้ำหล่อลื่นเมื่อสักครู่ทาให้ชุ่มนิ้วก่อนจะกดเข้าไปในรอยจีบสีชมพูที่กำลังเชิญชวนเขา มุจลินท์ร้องเสียงพร่า “เบาๆ..อ๊ะ พี่”

“เบาพอไหม” เขากดเข้าไปแค่หนึ่งนิ้วแช่แล้วหมุนควงจนมุจลินท์แหงนหน้าเริ่ดด้วยความเสียว นิ้วหนาผลุบเข้าออกเป็นจังหวะและรู้สึกได้ถึงแรงรัดถี่ที่กำลังบีบโอบนิ้วมือเขาอยู่ เขาค่อยๆถอนออกนิ้วออกอย่างเชื่องช้าแล้วสอดเข้าไปทีเดียวสองนิ้ว เด็กหนุ่มกระตุกเฮือกกัดริมฝีปากแน่นไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา “อย่ากัดสิ” เขาใช้นิ้วมือแทรกเข้าโพรงปากนิ่มให้เจ้าตัวเผยอรับก่อนจะดูดดึงจนเขาเองเริ่มจะรู้สึกปวดหนึบที่ช่วงล่างเหมือนกัน ลองได้เห็นเรือนร่างของคนรักที่กำลังคร่อมตัวเขาแถมยังส่งสายตาเชิญชวนอย่างนี้เป็นใครก็ไม่อาจจะทนไหว

มือขาวกอบกุมแก่นกายคนรักที่ดันนูนออกมาทิ่มจนรู้สึกได้ เจ้าตัวใช้สะโพกอวบถูไถเสียดสีจนชายหนุ่มต้องขบกรามแน่นบังคับตัวเองไม่ให้ลุกขึ้นไปจับลูกเป็ดกดลงกับเตียงแล้วฝังร่างเข้าไปเดี๋ยวนั้น

“อื๊อ...” เสียงครวญครางยั่วยวนพร้อมตุ่มไตสีสวยที่กำลังแข็งตึงเชิญชวนให้เขาขบกัด “จะออก..” เขามองคนรักที่กำลังสุขสมเพียงแค่ได้สัมผัสทางด้านหลัง เขาหยุดนิ้วก่อนจะดุนดันแก่นกายที่กำลังร้อนสวนเข้าไป “อ๊า..พี่.. เบาๆ.. อื๊อ” ลูกเป็ดแอ่นรับและดูดกลืนของเขาไปจนหมด ทิ้งตัวลงบนอกเขาพลางหอบหายใจถี่ กำมือทุบเข้ามาที่ไหล่เขาเบาๆพร้อมทั้งทำแก้มพองลมน่าเอ็นดู เขายิ้มแล้วกดจูบลงข้างแก้มซับเหงื่อข้างขมับให้มุจลินท์ก่อจะสวนตัวตนขึ้นไปจนสุด คนที่อยู่ด้านบนจิกไหล่เขาแน่น

“เบาๆหน่อยไม่ได้หรือ..อ๊า” ลูกเป็ดตอบเสียงพร่าพร้อมทั้งช่วยขยับสะโพกให้เข้าจังหวะ ยามที่ปลายแก่นกระแทกโดนส่วนที่ไวต่อความรู้สึก เด็กหนุ่มจะยิ่งโผเข้ากอดเขาแน่น “ฮื่อ ลินท์เสียว” ยิ่งได้ยินเสียงเมียร้องครวญครางยิ่งทำให้อารมณ์นายทหารฮึกเหิมปรับความเร็วจนร่างบางสั่นสะท้านและเสร็จสมทั้งๆที่ไม่ได้สัมผัสด้านหน้าเลยสักนิด 

“เมียพี่น่ารักที่สุด” เจ้าลูกเป็ดหน้าแดงตัวแดงไปหมดแล้วทันทีที่สบตากับเขา “รักลินท์ที่สุดเลย”

“ฮื่อ.. คนบ้ากาม” เด็กหนุ่มก้มลงไปรับจูบหวานจากชลธี ยิ่งจูบดุดันมากเท่าไหร่ช่วงล่างก็ยิ่งสวนขึ้นมามากเท่านั้น นี่ชลธีจะฆ่าเขาให้ตายคาเตียงหรือไง

“บ้ากามแล้วรักไหมล่ะ” นายทหารหนุ่มมองคนรักไม่วางตา ดุนดันแก่นกายที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกตรงเข้าจุดอ่อนไหวทำให้เจ้าลูกเป็ดสั่นสะท้าน

“รักสิครับ” ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากที่แวววาวจากการจูบ ลูกเป็ดกัดงับเข้าที่ใบหูคนรักแล้วกระซิบเสียงเบา “ก็มีอยู่คนเดียว”

“ลองมีหลายคนสิ.. พี่จะเล่นให้เดินไม่ได้เลย” พูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ เห็นมุจลินท์เหงื่อไหลหยดเป็นทางก็เอื้อมไปเช็ดให้ “เหนื่อยมั้ย”

“เหนื่อยสิ มีแรงเท่าไหร่พี่เล่นใส่มาไม่ยั้ง” ตวัดดวงตากลมโตมองเขาอย่างคาดโทษ แต่ก็ครวญครางอยู่ร่างกายเขาด้วยความเต็มใจ

เมียใคร.. น่ารักเป็นบ้า..


“ฮ่าๆ ก็เมียพี่น่าฟัดเสียขนาดนี้”

“ฮื่อ” อดไม่ไหวก้มลงไปจูบอีกรอบ คราวนี้เรียวลิ้นกระหวัดดูดดึงจนเกิดเสียงดัง ชายหนุ่มอยากจะฝากรอยเอาไว้ทั่วร่างขาวที่เขาเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ชลธีตวัดคนรักให้นอนพักบนเตียงบ้าง มองร่างขาวนวลที่นอนเปลือยกายตรงหน้าเจ้าฉลามน้อยก็ยิ่งแข็งแกร่งจนปวดหนึบ เขาก้มลงจูบต้นขาด้านใน ขบเม้มจนเป็นรอยแดงไปทั่ว มุจลินท์เขินอายจนอยากจะเอาหน้ามุดหมอนแต่ก็ละสายตาไปจากตรงหน้าไม่ได้เลย แก่นกายของเด็กหนุ่มที่เพิ่งเสร็จสมไปเริ่มแน่นตึงเป็นสัญญาณพร้อมบรรเลงเพลงรักอีกครั้ง ชลธียกยิ้มที่มุมปาก 

ปัง ปัง ปัง

“แม๊!! แม่อยู่ไหน” เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องทำให้มุจลินท์หันขวับไปตามเสียง ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกชายพลันทำให้อารมณ์ที่มีหดหายไปทันที “เกอร์จะหาแม่ ฮืออออ แม่จ๋า-----”

“ไทเกอร์ แม่อยู่นี่ลูก” มุจลินท์กระเด้งตัวขึ้นมารีบควานหาเสื้อผ้าที่เมื่อครู่ถอดทิ้งออกไปอย่างไม่ไยดี ตอนนี้สภาพห้องเหมือนเพิ่งเกิดสงครามขนาดย่อม เสื้อและกางเกงกระจัดกระจายไปทั่วจนไม่รู้ของใครเป็นของใคร “พอแค่นี้ก่อนนะพี่”

“เดี๋ยวลินท์!”

“พี่ไปทำเองในห้องน้ำแล้วกันนะ” เขาสวมเสื้อและกางเกงอย่างรวดเร็ว แล้วโยนกางเกงผ้าแพรขึ้นไปบนเตียงให้ชลธีใส่ “ลินท์ขอไปดูลูกก่อน ไม่งอนนะ”

ชลธีมองคนรักที่กุลีกุจอรีบเปิดประตูไปอุ้มลูกชายที่กำลังเบะปากร้องไห้โยเยขึ้นมาอุ้ม

“ไหนๆลูกชายแม่ลินท์ร้องไห้ทำไมครับ” ลูกชายโผเข้ากอดเขาแน่น น้ำหูน้ำตาไหลมารวมกันหมด “ไม่ร้องนะลูก เดี๋ยวให้คุณป๊าพาไปเที่ยวกันเนอะ”

“เกอร์ ฮึก.. เกอร์”

“ไม่ร้องนะครับคนดีของแม่” กดจูบลงแก้มป่องที่กำลังสะอึกสะอื้น “เช้านี้อยากกินอะไรครับ”

“กินข่ายยยยยย” เด็กชายกลั้นก้อนสะอึกแล้วตอบเสียงดัง  “คุณไข่แดงแบบไม่สุกได้ไหมฮะแม่”

“ปะ เดี๋ยวแม่พาไปทำคุณไข่นะครับ เกอร์ต้องช่วยคุณแม่ปอกไข่ด้วย ดีไหมครับ”

“เย้ คูนแม่---”

เขามองเมียและลูกชายกำลังเดินออกจากห้องไปอย่างมีความสุข.. ส่วนเขากำลังค้างเติ่งกับฉลามน้อยเดียวดายแต่เพียงผู้เดียว

ยศสูงแค่ไหน.. เมียก็ใหญ่กว่าอยู่ดี

ชลธีหอบตะกร้าผ้าเปียกที่เพิ่งเอาขึ้นจากเครื่องซักผ้าวางแหมะตรงระเบียงด้านนอกที่มีราวตากผ้ายาวออกไป ลูกชายตัวกลมที่เดินตามเขามากำลังเล่นกิ๊ฟท์หนีบผ้าแล้วหันมายิ้มแฉ่งให้คุณพ่อที่วันนี้ต้องแปลงร่างเป็นพ่อบ้านหนึ่งวันเพราะคนรักไปเรียนที่มหา’ลัยแต่เช้า เขาต้องรับหน้าที่ดูแลบ้านทุกอย่างโดยมีคำสั่งจากลูกเป็ดว่าห้ามเรียกแม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดเด็ดขาด

“นี่แน่ะ นี่แน่ะ” ไทเกอร์เอากิ๊ฟท์สำหรับหนีบผ้ามาหนีบขากางเกงคุณพ่อแล้วหัวเราะคิกคัก “หูยย เหมือนเม่นเยย”

“ไปนอนเล่นกับคุณยายก่อนนะครับลูก”

“ม่ายยย เกอร์อยากเล่นเครื่องบิน” เด็กชายตัวน้อยยกมือขึ้นสูง สองแขนป้อมอ้ากว้างส่งสายตาออดอ้อนให้คุณพ่ออุ้ม เด็กชายชอบที่คุณพ่ออุ้มขึ้นสูงๆโยกไปมาเหมือนนั่งเครื่องบิน

“งั้นรอคุณพ่อตากผ้า แปบนะลูก ถ้าป๊าทำงานบ้านไม่เสร็จเดี๋ยวโดนคุณแม่บ่น”

“คูนแม่ไม่บ่นหรอกฮะ คูนแม่ใจดีจะตาย” เด็กตัวกลมกระโดดโลดเต้น วิ่งไปหยิบกระดาษปั๊มดาวที่คุณแม่ให้เจ้าตัวเล็กปั๊มไว้แลกของเล่น อีกสองดวงไทเกอร์จะได้กันดั้มตัวใหม่ วันนี้จะต้องช่วยคุณพ่อทำงานบ้านแล้วให้คุณแม่ปั๊มดาวให้ได้

“ครับลูก งั้นนั่งรอคุณพ่อตรงนี้นะ พื้นมันเปียกเดี๋ยวหนูจะลื่นเอา”

“คับ!!” ตะเบ๊ะเลียนแบบรูปคุณพ่อที่ติดฝาผนัง ก่อนจะนั่งจุ้มปุ๊กตรงหน้าประตู “เกอร์รอนะ”

“ดีมากครับ”

“เกอร์รออออออนะป๊า” เด็กชายนั่งรอได้สักพักก็วิ่งเข้าไปในห้องแล้วออกมาเกาะประตูใหม่ “ป๊าค้าบ.. เสร็จยังอะคับ”

“แปบนะลูก เหลืออีกครึ่งตะกร้าแล้ว”

“ค้าบบบบบ” วิ่งหายเข้าไปในห้องอีกสามนาที“ป๊าคร้าบบบ เสร็จยังอะ” 

“ครับๆ.. เดี๋ยวพ่อเก็บของก่อน” นายทหารหนุ่มรีบวางตะกร้าเก็บไม้แขวนเสื้อเสร็จก็อุ้มลูกชายขึ้นแนบอก หอมแก้มป่องของลูกชายทั้งซ้ายและขวาจนไทเกอร์ร้องจ๊ากเอาหน้าหนีเป็นพัลวันจนเขาตกใจ

“เป็นอะไรลูก”

“หนวดป๊าทิ่มแก้ม เกอร์จั๊กจี๋ คิๆ” เด็กชายย่นคอเอามือสั้นป้อมจับแก้มตัวเองก่อนจะหัวเราะคิกคัก

“เดี๋ยวเกอร์โตก็จะมีหนวดป๊ะป๋า” ชลธีหลุดหัวเราะมองลูกชายตัวแสบ “หล่อเหมือนป๊าไง”

“ทำไมคูนแม่ไม่มีหนวดมั่งอะ” ไทเกอร์จับแก้มคุณพ่อแล้วดึงไปมา “คูนแม่ตัวข๊าวขาว ไม่เห็นเหมือนป๊าเลย” จะว่าไปเมียเขาขาวเนียนไปทั้งตัวจริงๆ อยากได้ไปนอนกอดที่ค่ายทุกคืน..

“ป๊าทำงานไงลูก ต้องตากแดดทุกวัน”

“ทอทหารอดท๊น! ใช่ไหมฮะ” ตะเบ๊ะใส่คุณพ่ออีกรอบก่อนจะหันมากอด “เกอร์ชอบกอดคูนแม่ คูนแม่ตัวห๊อมหอม” พูดไม่ทันจบประโยคนิ้วสั้นก็ทิ่มเข้ามาตรงคอเขา “ตรงนี้ๆๆ คุณแม่ชอบโดนยุงกัดฮะ เกอร์จะตียุงให้ตายเลยมากัดแม่ลินท์” เขาสะอึกเบาๆ

“คูนพ่อต้องซื้อยามาฉีดนะฮะ เกอร์เห็นที่โรงเรียนเขามาฉีดยุง ยุงตายหมดเลยฮะ”

“ครับลูก” ชลธียิ้มแห้ง รู้สึกว่าลูกชายเขาจะตาดีเสียเหลือเกิน “เดี๋ยวป๊าจัดการให้นะครับ” อุ้มลูกชายวางที่โซฟา คุณยายกำลังนั่งเด็ดผักคะน้าเตรียมทำกับข้าวตอนเย็น

“ฝากเกอร์หน่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปถูบ้านแปบเดียว” เขาวางแก้วน้ำอุ่นลงบนโต๊ะให้คุณยายได้จิบระหว่างวัน ส่วนลูกชายผุดลุกผุดนั่งทำท่าจะปีนลงมาจากโซฟา

“ไม่ต้องหรอกลูก เดี๋ยวลินท์ก็มา” คุณยายเงยหน้าขึ้นมาตอบ 

“ไม่เป็นไรครับ ลินท์กลับมาเหนื่อยๆจะได้ไม่ต้องทำอีก”

“เกอร์ช่วยนะฮะ!” เด็กชายวิ่งมาเกาะขาเขาไว้หนึบเวลาเขาเดินก็เกาะไปด้วย ไทเกอร์หัวเราะเสียงใสชอบเล่นกับคุณพ่อเป็นที่สุด ยิ่งรู้ว่าคุณพ่อจะไปทำงานเด็กชายจะร้องไห้ไม่หยุด ชลธีรู้ว่าตัวเองไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกก็อยากจะดูแลลูกชายให้ดีที่สุด

“ช่วยอยู่เฉยๆสักสิบนาที ป๊าจะดีใจมากเลย”

“ให้เกอร์ช่วยเถอะน้า เกอร์ทำเป็น ”

“ถูพื้นเนี่ยนะลูก”

“เกอร์เห็นแม่ลินท์ทำบ่อยๆ แค่เอามาจุ่มน้ำแล้วก็ถูๆๆๆๆๆ” เจ้าตัวเล็กหัวเราะคิกคัก วิ่งเข้าไปหยิบไม้ถูที่ยังแห้งมาถูพื้นให้คุณพ่อดู ชลธีกุมขมับไม่รู้ว่ามุจลินท์เลี้ยงยังไงถึงทำให้ไทเกอร์อยู่เฉยๆได้

เขาและลูกชายช่วยกันถูพื้นอยู่ร่วมชั่วโมงกว่าจะเสร็จโดยให้เจ้าตัวเล็กเกาะหลังเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะลื่นเอาได้ เด็กชายชอบใจเมื่อเห็นคุณพ่อถูบ้าน ชลธีอุ้มลูกชายที่มอมแมมเพราะลงไปกลิ้งกับพื้นหลังจากถูเสร็จจนต้องจับอาบน้ำ วิ่งไล่จับกันอีกครึ่งชั่วโมงเพราะไทเกอร์ไม่ยอมถอดชุดเก่งที่แม่ลินท์ซื้อมาให้ แถมยังชอบใจที่ได้วิ่งเล่นกับคุณพ่อ ชลธีไม่คิดว่าเลี้ยงเด็กจะยากขนาดนี้ เหลือบมองนาฬิกาเห็นเวลาเพิ่งจะบ่ายโมง ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกคิดถึงคนรักมากเป็นพิเศษ

“แม่บอกว่าผู้ชายจะมีช้างน้อย”

“หรอครับลูก”

“ช้าง ช้าง ช้างน้องเคยเห็นช้างหรือป่าววววว” เด็กชายตีฟองสบู่อยู่ในอ่างอาบน้ำโดยมีเขานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง “ช้างมันตัวโตไม่เบา ตะหมูกยาวยาวววววววว”

“ดีๆลูก ฟองเข้าปากพ่อหมดแล้ว”

“มีหูมีงาหางยาววววววววววววว”

“ป๊าว่าเกอร์มีช้างน้อยไหมฮะ”

“มีสิครับ ผู้ชายทุกคนก็มีนั่นแหละ”

“แล้วป๊ามีไหมฮะ”

“มีสิ”

“ขอดูหน่อยฮะ!” เด็กชายลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังไปหาคุณพ่อ “หูวววววว ช้างน้อยตรงไหนฮะ แม่โกหก”

“ไม่ได้โกหกลูก เพราะว่าป๊าโตแล้วไงครับ”

“ถ้าเกอร์โต ช้างก็จะโตด้วยใช่ไหมฮะ” เด็กชายถามเจื้อยแจ้วพลางใช้มือจับช้างน้อยของตัวเองไปด้วย คนรักบอกเขาว่าเด็กวัยนี้เริ่มรู้ว่าตัวเองเพศอะไร เริ่มทำความรู้จักกับร่างกายของตัวเอง และจะสังเกตบทบาทของผู้เป็นพ่อเพื่อเลียนแบบพฤติกรรม เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ปิดกั้นหรือปิดบังแต่เราจะเรียนรู้กับลูกไปพร้อมๆกัน

“ใช่แล้วครับ ลูกชายป๊าเก่งมาก” เขาวักน้ำขึ้นมาลูบหน้าที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ ก่อนจะใช้น้ำล้างตัวลูกชายที่กระโดดโลดเต้นไปด้วยร้องเพลงช้างไปด้วย กว่าจะจับอาบน้ำแต่งตัวใส่เสื้อผ้าเขาต้องเสียเวลาไปอีกสองชั่วโมงเต็ม ตอนนี้เขารู้สึกล้าเหลือเกิน..

เมื่อไหร่เมียจะกลับมา ....

มุจลินท์ถอดรองเท้าถุงเท้ายังไม่ทันเสร็จดีลูกชายสุดที่รักก็วิ่งมารับถึงหน้าประตู กว่าเขาจะถึงคอนโดก็เกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว เพราะมีงานที่มหาวิทยาลัยทำให้เขาต้องซ้อมการแสดงจนถึงเย็นทุกวัน ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนแต่กลับมาเจอลูกชาย เจอคนรักเขาก็มีแรงฮึดได้ทุกครั้ง เด็กหนุ่มกวาดสายตามองรอบห้อง วันนี้ห้องดูสะอาดกว่าปกติแถมยังเงียบกริบ ปกติชลธีจะนั่งดูสารคดีอยู่ที่โถงรับแขกจนกว่าเขาจะมาถึง ส่วนคุณยายคงเข้านอนไปเรียบร้อยแล้ว

   “แม่! แม่ลีนนนนนน”

“จุ๊บ คนเก่ง ไหนคุณพ่อละครับ” หอมแก้มลูกชายดมกลิ่นแป้งหอมกรุ่น ใบหน้ากลมเต็มไปด้วยคราบแป้งเต็มไปหมด นี่คนรักเขาเอาลูกไปชุบแป้งทอดมาหรือ...

“ป๊าบอกว่าให้บอกแม่ว่าป๊าเหนื่อยมากเลยนอนหลับฮะ”

“หะ?” เขาชะงัก “อะไรนะครับลูก”

“ป๊านอนหลับฮะ”

“งั้นแม่ลินท์ไปเรียกป๊ามาทานข้าวก่อน หนูไปอยู่กับคุณยายนะครับ”

“ได้ฮะ!” เด็กชายรับคำเสียงใสมองคุณแม่ที่กำลังเดินเข้าห้องนอนไปพลางลูบท้องกลมที่เต็มไปด้วยข้าวผัดกุ้งจานโปรดที่คุณพ่อสั่งมาจากร้านอาหาร คุณพ่อกำชับว่าหากคุณแม่มาแล้วให้บอกว่าอะไรบ้าง คุณพ่อบอกว่าคุณพ่อจะทำน้องให้เกอร์ “ป๊า เร็วๆนะเกอร์อยากได้น้องแล้ววววววววววววววว”

   คืนนั้น มุจลินท์ไม่ได้ออกมาจากห้องอีกเลย...

มุจลินท์ใช้ทุกวันศุกร์ที่มีคาบเรียนแค่ช่วงเช้าเดินทางมาโรงเรียนของลูกชายหลังจากเรียนเสร็จ เป็นอันรู้กันในกลุ่มว่าเด็กหนุ่มได้เปลี่ยนสถานะจากพี่เลี้ยงเด็กมาเป็นคุณนายอย่างเป็นทางการเสียที ลูกเป็ดในชุดนักศึกษาถูกระเบียบค่อยๆเปิดประตูห้องเรียนชั้นอนุบาลเข้าไป ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีกระดานไวท์บอร์ดสีขาวและโต๊ะยาวสีสันสดใสสำหรับให้เด็กๆนั่งเรียน ตอนนี้สมาชิกในห้องกำลังปรบมือร้องเพลงเสียงดังโดยมีคุณครูช่วยนำ เด็กน้อยในชุดนักเรียนกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกน่าเอ็นดู มุจลินท์มองหาลูกชายที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่กลางวง วันนี้ไทเกอร์ร้องเพลงเสียงดังพร้อมเต้นประกอบท่าทางเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มหน้าขาวแต่เจ้าตัวเล็กก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เก้าอี้ไม้สีครีมหลังห้องคือที่ประจำที่เขามักจะมาใช้นั่งมองลูกชายเสมอจนเหมือนเป็นกิจวัตรไปแล้ว พัฒนาการเด็กชายในวัยสี่ขวบสมวัยดี เริ่มหยิบจับดินสอวาดรูป จับช้อนเอง ติดกระดุมเอง ใส่รองเท้าเอง มันรู้สึกดีจริงๆที่เห็นลูกค่อยๆเติบโตขึ้น เขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นมันเป็นอย่างไร เขาเติบโตมากับยายผู้ที่สั่งสอนเขาจนมาได้ขนาดนี้ จะเรียกได้ว่ายายเป็นทั้งพ่อและแม่ของเขาเลยก็ว่าได้

“สัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์น้ำ” ทุกคนปรบมือร้องเพลงเข้าจังหวะ เขาแอบเผลอพึมพำขยับปากตามอยู่บ้างส่วนสายตาจดจ้องไปที่ลูกชายที่กำลังตั้งใจเล่นเกมทายชื่อสัตว์ เด็กๆหัวเราะกันสนุกสนาน เขามองแล้วอดจะยิ้มให้กับภาพตรงหน้าไม่ได้ เด็กช่างเป็นผ้าขาวสะอาด และบริสุทธิ์เสียจริงๆ

“สัตว์ปีก!” คุณครูพูดจบเป็นอันว่าทุกคนหยุดร้องเพลง ลูกชายเขายกมือขึ้นสูงก่อนจะตะโกนตอบด้วยความมั่นใจ

“ปลาท๊องงงงงงงงงงงงงง”

พรืดดดดดดด

เขาแทบกลั้นขำไม่อยู่ แต่ไม่อยากให้ลูกชายเสียกำลังใจ “ตอบใหม่สิครับ สัตว์ที่อยู่บนพื้นดินมีอะไรบ้าง” เจ้าตัวเล็กหันมามองเขา ดวงตาสีดำกลมโตส่องประกายวิบวับเมื่อเห็นแม่ ปากจิ้มลิ้มสีสดฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเกาหัวอย่างใช้ความคิด มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่าเวลาลูกชายเขากำลังทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่างช่างเหมือนคุณพ่อเสียเหลือเกิน

“แมววววววววววว”

“เย่ๆๆ” เมื่อคุณครูเฉลยว่าคำตอบถูกต้อง เพื่อนๆทุกคนก็ปรบมือกันเกรียวกราว ส่วนเจ้าลูกชายยิ้มโชว์กำแพงฟันที่หายไปสามซี่ไม่หยุด

“เก่งมากครับ” เขาปรบมือให้ลูกชายที่กำลังวิ่งมาหาเขา

“แม่ลินท์” เด็กชายวิ่งมากอดหมับส่วนอีกมือนั้นกำกล่องข้าวที่เขาใส่ข้าวผัดกุ้งไว้ให้เมื่อเช้า แต่ตอนนี้ในกล่องว่างเปล่าเสียแล้ว ไม่เสียแรงที่เขาตื่นมาทำให้ลูกชายทานทุกวัน

“หูย วันนี้ก็กินหมดอีกแล้วนะครับ” เขาชมเปาะพร้อมกับก้มลงไปฟัดแก้มยุ้ยที่กำลังแดงก่ำ

“แบ่งทอฟฟี่กินฮะ” ไทเกอร์หันไปชี้เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักผูกผมเปียที่กำลังมองมาทางนี้ “ทอฟฟี่บอกว่าข้าวผัดอาหย่อยม๊ากมาก”

“น่ารักที่สุดเลยคนเก่งของแม่” เขาจำเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้นได้เมื่อครั้งที่มางานกีฬาสีของลูกชายคราวก่อน “มองแต่สาวอยู่นั่น ไม่สนใจแม่เลย” เจ้าลูกชายมัวแต่หันไปส่งยิ้มให้ก่อนกวักมือเรียกสาวน้อยขี้อายให้เข้ามาหาเขา

“ฮิๆ ทอฟฟี่ ๆ นี่แม่เรา” เด็กหญิงยกมือไหว้ก่อนจะปิดตัวเขินอายไม่ยอมมองหน้าเขา เอ.. หรือว่านี่จะแฟนของลูกชายเขาล่ะเนี่ย

“หนู.. ชะชื่อ ทอฟฟี่ค่ะ”

“พี่ลินท์นะครับ”

“เรียกแม่ลินท์ก็ได้” ไทเกอร์บอกเสียงดังอย่างภาคภูมิใจแล้ววิ่งเข้ามากอดเขาแน่น ทอฟฟี่ที่เขินอายยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ก่อนจะเดินมากอดเขาบ้าง

เด็กๆน่ารักจริงๆ

“เกอร์ ทำไมแม่เกอร์เป็นผู้ชายล่ะ” เด็กผู้ชายตัวอ้วนกลมและสูงกว่าลูกชายเขามากกว่าคืบที่อยู่แถวนั้นปรี่เข้ามาพร้อมกับถามอย่างใสซื่อ ไทเกอร์ที่กำลังกอดเขาหันไปมองขวับ

“ทำไมล่ะม่อน นายมายุ่งอะไรกับแม่เรา” เด็กชายหันไปบอกเสียงดัง “อย่ามายุ่งกับแม่เรานะ!”

“ม่อนถามเกอร์ดีๆนะ ทำไมต้องเสียงดัง เกอร์มีแม่เป็นผู้ชายจริงๆด้วย เกอร์มีแม่เป็นตุ๊ด เป็นตุ๊ด เป็นตุ๊ด” เด็กชายตัวอ้วนตะโกนเสียงดังจนเด็กๆในบริเวณหันมามองกันเป็นตาเดียว

“ตุ๊ดคืออะไร” เขากุมขมับกำลังจะรั้งเด็กชายให้เข้ามาหา แต่สองคนที่กำลังต่อล้อต่อเถียงไม่ได้ยินเสียงเขาที่กำลังห้ามเลยสักนิด

“ตุ๊ดคือผู้ชายที่อยากเป็นผู้หญิงไง”

“แม่เรามีช้างน้อย แม่เราไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย”

“เป็นผู้ชายแล้วจะเรียกว่าแม่ได้ไง ไอ้ตุ๊ด ไอ้ตุ๊ด”

ผลัวะ!!

ไทเกอร์กระโจนใส่ฝ่ายตรงข้ามทันทีและเหตุการณ์เริ่มชุลมุนวุ่นวายหนักกว่าเดิมเพราะลูกชายของเขาใช้เท้าสั้นป้อมถีบเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามอย่างแรงแล้วตามด้วยหมัดคนละตุ้บสองตุ้บแลกกันแบบไม่ยั้ง จนเขาปรี่เข้าไปรีบคว้าลูกชายออกมาแทบไม่ทัน ไทเกอร์ตัวสั่นกำหมัดแน่นจนเขาต้องพาไปนั่งคุยในที่ส่วนตัว

“เกอร์.. ”

“มันมาว่าแม่” เด็กชายน้ำตาคลอเบ้าตัวสั่นไม่หยุด

“ฟังแม่นะครับ แม่รู้ว่าหนูกำลังโกรธ หนูกำลังเสียใจใช่ไหมครับ”

“…” ไทเกอร์พยักหน้าพร้อมกับเม็ดน้ำที่กลิ้งมาบนผิวแก้ม เจ้าตัวรีบปาดมันทิ้งหนำซ้ำยังไม่ยอมส่งเสียงสะอื้นจนเขาอยากจะดึงเข้ามากอดเสียเดี๋ยวนั้น

“ถึงแม้เราจะเป็นผู้ชาย ต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน แต่เราไม่ควรใช้ความรุนแรงกับคนอื่นนะลูก” อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะให้เด็กสี่ขวบหัดควบคุมอารมณ์ แต่เขาจะต้องอธิบายให้ลูกได้เข้าใจ

“ฮึก แม่”

“แม่รู้ว่าเกอร์ไม่ชอบ และเกอร์กำลังรู้สึกไม่ดี” เขาลูบผิวแก้มแดงของลูกชายแก้มซ้ายมีรอยถลอกเล็กน้อย ก่อนจะช่วยจัดเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยให้เข้าที่ “แล้วแม่ก็รู้ว่าหนูรักแม่มาก”

“ฮึก ฮือ”

“ใช่ไหมครับ”

“ระรัก.. ฮึก”

“ถ้าแม่โกรธที่เกอร์ดื้อแล้วแม่ตีหนู หนูจะชอบไหม”

“มะไม่.. ฮึก แม่อย่าตี” เสียงร้องเริ่มดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาพูดจริงจังและไม่ยอมกอดเหมือนทุกที แค่เห็นน้ำตาลูกไหลเขาก็แทบจะทำใจไม่ได้ ไม่อยากจะมองให้ตัวเองใจอ่อนโอ๋ลูก โอบอุ้มลูกอยู่เรื่อยไป

“เกอร์โกรธเพื่อนแล้วเกอร์ไปตีเพื่อนเขาแบบนั้น เพื่อนเขาก็คงไม่ชอบเหมือนกันนะครับ”

“เกอร์ ฮึก จะไม่ตีเพื่อนอีก” เด็กชายชูนิ้วก้อยเป็นเครื่องหมายสัญญาระหว่างเขา เขายื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวก่อนที่ลูกจะโผเข้ามากอดเขาแน่น ซุกซบไออุ่นร้องไห้จนเสื้อเขาชื้นแฉะเป็นวง น้อยครั้งมากที่เขาจะดุไทเกอร์และเลือกที่จะใช้วิธีพูดกับลูกด้วยความเข้าใจ ไทเกอร์เข้าใจที่เขาพูดในบางครั้งทำได้บ้างและทำไม่ได้บ้าง ไม่เป็นไร ตราบใดที่เขาได้มีโอกาสดูแล เขาจะทุ่มเททั้งกายและใจ หล่อเลี้ยงต้นกล้าหน่อเล็กต้นนี้ให้แข็งแรงเอง

“แม่รักหนูนะครับ” เขากดจูบลงกระหม่อมบางของลูกชายเบาๆ ดวงตากลมโตยังแดงก่ำเพราะร้องไห้ไปเมื่อครู่ “อยากให้หนูรู้เอาไว้”

“เกอร์รู้ฮะ”

“น่ารักจังคนดีของแม่” เขาจูงมือลูกชายเข้าไปเอากระเป๋านักเรียนในห้องเรียนหลังจากนั้นจึงพาไปขอโทษเพื่อนตัวโตกว่าที่กำลังร้องไห้จ้าเพราะเจ็บแก้มที่ลูกชายเขาไปต่อยจนฟันน้ำนมที่กำลังโยกนั้นหลุดออกมา เห็นตัวน้อยๆแต่แรงไม่น้อยเลยจริงๆ มุจลินท์พาลูกชายกลับบ้านทันทีไม่ได้แวะซื้อของเหมือนอย่างเคย จนกระทั่งเมื่อเจ้าตัวเล็กกำลังถอดเสื้อผ้าใส่ลงตะกร้าเตรียมอาบน้ำนั่นแหละ คุณพ่อตัวโตถึงได้เห็นรอยถลอกตามตัวลูกชายเต็มตา คิ้วเข้มถึงได้ขมวดเป็นปมแน่น คล้ายกำลังมีคำถาม

“เกอร์.. ไปทำอะไรมาครับ”

“ฮะป๊า” ตัวแสบถอดกางเกงลิงที่ม้วนขดเป็นเลขแปดแล้วเดินต้วมเตี้ยมไปหย่อนใส่ตะกร้า เขาเห็นแล้วอมยิ้มเบาๆดูสองพ่อลูกกำลังคุยกัน “เกอร์เป็นนักรบฮะ”

“หือ?”

“เป็นนักรบก็ต้องมีบาดแผลไงฮะ” เด็กชายชูแขนขวาขึ้นทำท่าเบ่งกล้ามเหมือนซุปเปอร์แมน “เกอร์จะปกป้องแม่ลินท์เอ๊งงงงงง”

“เก่งมากครับลูกชายป๊า” ชลธีอุ้มลูกชายแนบอกหัวเราะคิกคักกันสองคนไม่หยุด

เขารู้แล้วว่าตัวแสบได้นิสัยมาจากใคร…



TBC

มุ้งมิ้งๆ //เอาความหวานมาฝากค่ะ <3

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
เอ็นดูน้องเกอร์

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ไม่ได้มาอ่านสองตอนแล้วรู้สึกว่า
 
ตอนที่14อารมณ์เดือดมาก ทำไมกล้าทำกับลินแบบนี้ เกศเป็นแค่เมียเก่าพี่หลามเองนะ

พอเจอตอนที่15 เข้าลืมความโกรธที่มีต่อเกศเลยอะไรจะละมุนปานนี้ ชอบความน่ารักของน้องเกอร์ ดูซนตามวัย

มาต่อไวไวนะ กำลังตามจบอยู่


ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เข้าใจคำว่าฟ้าหลังฝนเลย หลังเรื่องร้ายจะมีเรื่องดีๆเข้ามาเสมอ

แต่เหมือนเกศยังร้ายไม่สุดแต่ไม่สน ตอนหน้ามาให้น้องลินจัดการ

เอาพี่มะนาวมาช่วยด้วยน้าน้องลินมีพี่สะใภ้กี่ขนมาให้หมดเลย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๖

   มุจลินท์ไม่กลับมานอนที่คอนโดหนึ่งอาทิตย์แล้ว.. เจ้าตัวบอกเขาแค่ว่าต้องไปซ้อมการแสดงที่มหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมประกวดแข่งขันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ชายหนุ่มยิ่งฟุ้งซ่านไม่ได้นอนกอดคนรักแค่วันเดียวเขาก็รู้สึกแย่จะตายอยู่แล้ว นี่ไม่ได้เจอหน้ามาเป็นอาทิตย์เขาแทบจะทนไม่ไหวอยากจะไปอุ้มเมียกลับมานอนกกให้มันรู้แล้วรู้รอด! แต่ก็ทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้ มีหวังเจ้าลูกเป็ดได้โกรธเขาพาลไม่ให้เขาเข้าใกล้ไปอีกหลายวันแน่ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเขาเรียนรู้อยู่อย่างหนึ่ง ห้ามทำให้ลูกเป็ดโกรธ เพราะเขาจะอดทุกสิ่งทุกอย่าง

แค่คิดก็แทบจะขาดใจ..

ชายหนุ่มได้แต่ใช้แม่นางทั้งห้าจินตนาการถึงร่างขาวนวลเนียนที่คิดถึงนักคิดถึงหนา อดใจรอถึงเวลาที่สมควร คอยดูเถอะเขาจะคิดทบต้นทบดอกเอาให้สาสมกับที่เขาต้องอดทน!

ชลธีจอดรถยนต์นิสสันสีขาวที่ลาดจอดรถตรงข้ามตึกบรรยายเรียนรวม ขณะที่นั่งรออยู่ในรถเขาส่องกระจกหันซ้ายหันขวาเช็คความเรียบร้อยของทรงผมที่เขาอุตส่าห์ยอมลงทุนเข้าร้าน ส่วนที่นั่งด้านข้างเป็นหนุ่มตี๋ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คสีดำเรียบไปกับช่วงขาเพรียว กำลังนั่งไขว่ห้างโดยบนตักมีเด็กชายผมหยักศกดวงตากลมโตกำลังจิ้มไอแพดอยู่

“วัตร มึงอย่าให้ลูกกูเล่นไอแพด” ชลธีหันไปบอกเพื่อนที่กำลังสอนลูกชายเขาเล่นเกม “เกอร์ครับ คืนคุณลุงเขาไปนะลูกนะ”

“เกอร์อยากเล่นเกม เกมแข่งรถ ปู้น ปู้น” เด็กชายโยกไปตามเกมรถ ดวงตาทอประกายที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ “สนุกอะป๊า”

“แม่ลินท์บอกยังไง ไม่ให้หนูเล่นเกินวันละ1ชั่วโมงไม่ใช่หรือครับ” พักหลังเขาจะต้องอ้างชื่อมุจลินท์ตลอด เพราะลูกชายเขาติดและเชื่อฟังเจ้าลูกเป็ดมาก เรียกแม่เจื้อยแจ้วอย่างกับว่าเป็นแม่ลูกกันจริงๆ

“เกินแล้วหรอฮะป๊า” ไทเกอร์ทำปากยู่ใบหน้าฉายแววสลดจนคุณลุงวัตรสงสาร

“ไม่เกินลูก ไอ้หลามให้ลูกเล่นๆไปเหอะน่า”

“ตามใจเด็ก ระวังไว้เหอะมึง” นายทหารหนุ่มยิ้มร้ายมองเพื่อนตัวดีที่ติดรถเขามาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ชัยวัตรตวัดสายตามองกลับพลางขบเม้มริมฝีปากแน่นราวกับพยายามควบคุมอารมณ์ เขาติดรถเพื่อนมาที่มหาวิทยาลัยของมุจลินท์เพราะไอ้เด็กตัวแสบที่ชอบมาพัวพันอยู่ใกล้ๆเขามีแข่งกีฬาบาสที่นี่พอดี

“ดะเด็กอะไร” เขาหลบสายตา “มึงก็พูดไปเรื่อยนะ”

“ไม่มาหาเด็กแล้วมึงจะติดรถกูมาทำไม”

“กูว่างต่างหาก”

“อ่อหรือ” ชลธีกลอกตา “ไม่ใช่ว่าเขามีแข่งกีฬากันที่นี่เรอะ”

“ไอ้หลาม!”

“อย่าตามใจเด็กมากก็แล้วกัน” นายทหารหนุ่มจุดยิ้มมองเพื่อนที่ทำท่าทางเลิกลั่กก็รู้ทันทีว่ามันมีอะไรซ่อนเร้นกับไอ้เด็กนั่นแน่ เขาก็ไม่ใช่คนที่อยากรู้เรื่องของคนอื่นนักหรอก.. ก็แค่อยากจะบอกเอาไว้

“ทำไมวะ”

   จะได้ไม่เกียมัวเหมือนกูไงครับ!

    “กูจะไปหาลินท์แล้ว จะกลับก็มารอกูแถวนี้แล้วกัน” ชลธีบอกเพื่อนที่กำลังอุ้มลูกเขาอยู่ ไทเกอร์ยอมปล่อยไอแพดแล้วเพราะเขาบอกว่าจะพาไปหามุจลินท์ “เกอร์มาหาป๊าเร็วครับ” เขาอุ้มลูกชายส่วนมืออีกข้างมีช่อดอกไม้กุหลาบสีแดงช่อใหญ่ วันนี้แต่งหล่อมาสุดชีวิตเพื่อมาดูเมียประกวดเดือนมหาลัย ขอสลัดคราบหนุ่มในเครื่องแบบมาเป็นป๋าสักวันก็แล้วกัน

“กูละเบื่อไอ้พวกติดเมียจริงๆ”

“มึงพูดไม่ดูตัวเองเลยไอ้วัตร ติดแฟนเด็กยิ่งกว่าอะไรดี”

“ไม่ใช่แฟนโว้ย” ผู้กำกับหวีดเสียงสูงไม่รู้ตัว “ฟังนะไอ้หลาม กูยังโสด และโสดมากด้วย”

“กูรู้แล้วมึงโสด ไม่ต้องเน้นย้ำขนาดนั้นก็ได้” นายทหารหนุ่มหัวเราะ “เฮ้ย เพื่อนพี่ยังโสดว่ะไอ้วี” ชัยวัตรสะดุ้งหันไปมองข้างหลัง เจอเด็กตัวโข่งในชุดนักกีฬากำลังมองมาที่เขาตาละห้อย ชายหนุ่มปั้นหน้าแทบไม่ถูก เขาไม่ได้พูดอะไรผิดเสียหน่อย เขายังโสดจริงๆ แม้จะมีคนช่วยคลายเหงาทุกคืนก็เถอะ

“มาถึงนานแล้วหรือครับคุณวัตร” ปฐวีสวัสดีนายทหารหนุ่มก่อนจะหันมามองหนุ่มตี๋ที่ยืนกอดอก “ทานอะไรมาหรือยังครับ เดี๋ยวผม..”

“พอๆ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรกูขนาดนั้น” เขาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร “มึงล่ะ แข่งเสร็จหรือยังทำไมมาอยู่ตรงนี้”

“ผมกลัวคุณจะหลงทางเลยมารอรับที่นี่ดีกว่า” ปฐวีพูดเสียงเบา แต่สายตาก็แอบลอบมองนายตำรวจหนุ่มไม่วางตา ในใจมีความยินดีวาบผ่านไม่คิดด้วยซ้ำว่าชัยวัตรจะมาจริงๆ

“เห็นกูเป็นเด็กสามขวบหรือไง เอ้า นำไปสิ”

เขาแยกกับชลธีที่จะไปหอประชุมที่จัดงานของมหา’ลัย ส่วนเขาเดินคู่กับปฐวีไปตามทางเดิน ชายหนุ่มไม่คุ้นเคยบรรยากาศมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ เรียนจบมอต้นก็เข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ต้องอยู่โรงเรียนประจำอยู่3ปี พอเข้าโรงเรียนเหล่าก็ฝึกหนักไม่มีเวลาไปหาแฟนที่ไหน คบๆเลิกๆจนแม่เขายังเอือมระอา ไม่เคยได้คบใครจริงๆจังๆ ส่วนใหญ่ก็วันไนท์สแตนด์ จะมีก็ไอ้เด็กข้างละมั้ง..

Friend with Benefit

เพื่อนนอน


จะเรียกอย่างนั้นก็คงไม่ผิดเพราะไอ้เด็กคนนี้มันตื้อที่จะขอมาดูแลเขา เขาก็ผิดเองนั่นแหละที่ให้อารมณ์เบื้องล่างขึ้นมานำจนเผลอไผลไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ยอมรับว่ารู้สึกดีเวลามีใครมาทะนุถนอมยิ่งเวลาบนเตียงมันรู้สึกจั๊กจี้อย่างไรไม่รู้ ทั้งเขาและปฐวีส่วนสูงห่างกันไม่มาก เป็นผู้ชายตัวโตทั้งคู่เวลาเดินคู่กันเหมือนเพื่อนชายในแก๊งค์อะไรสักอย่างมากกว่าจะเป็น เอ่อ แฟน

ปฐวีพยายามบอกเขาว่าความสัมพันธ์ที่เรากำลังมีอยู่นั้นมันมากเกินกว่าคู่นอนทั่วไป.. ใช่ เขารู้ว่ามันกำลังพัฒนาไปมากกว่านั้น แต่เขาไม่ยอมรับง่ายๆหรอกน่า เขามีอิสระมากพอในชีวิตที่จะเลือกคู่รัก และยิ่งเขาเป็นที่จับตามองของสังคม เขาจะไปมีแฟนเป็นผู้ชายได้อย่างไรกันล่ะ ให้เป็นเพื่อนนอนก็ดีแค่ไหนแล้ว.. ได้เข้ามาในโลกส่วนตัวมากขนาดนี้ ไม่เคยมีใครได้เข้ามาหรอกนะ อยากจะบอกเหมือนกัน แต่เดี๋ยวเด็กมันจะได้ใจ

“เป็นอะไรหรือครับคุณวัตร เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” ปฐวีหันมามองคุณตำรวจที่เดินอมยิ้ม เดินมาด้วยกันผ่านกลุ่มนักศึกษาหน้าตาน่ารัก ไม่รู้ไปถูกใจสาวคนไหนหรือเปล่าถึงได้ตาหวานเยิ้มแบบนี้

“กะ.. ก็ดูวิวเพลินๆ มหาลัยที่นี่สวยดีนะ ต้นไม้เยอะดี”

“หรือครับ ไม่ใช่มองสาวๆเพลินหรอกนะ”

“อ่า” เขาชะงัก มองเด็กหนุ่มที่ส่งสายสายตาละห้อยนั่นมาอีกแล้ว เขาไม่ชอบเลย ช่วยเอาสายตาหมาน้อยของเอ็งเก็บไปซะ

“ผมไม่อยากเป็นแบบนี้เลย ผมคงรู้สึกกับคุณมากเกินไป” เด็กหนุ่มหยุดเดินหันมาสบตาคนตัวขาวจริงจัง ชัยวัตรรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอยู่ๆมาคุยอะไรกับตรงนี้ มันใช่เรื่องไหมวะ!

“วี กูถามตรงๆ มึงชอบกูจริงๆหรือ” นายตำรวจหนุ่มตัดสินใจถาม “ไม่ใช่ว่ามึงแค่เสพติด.. เอ่อเซ็กซ์”

“ผมมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณ ได้ดูแลคุณ มันแปลว่าผมแค่อยากจะเอากับคุณแค่นั้นหรือไง” ปฐวีพูดเสียงแข็ง คิ้วหนาขมวดเป็นปมแน่น ในใจรู้สึกไม่พอใจที่คนตรงหน้าคิดอย่างนั้น ถ้าเขาคิดอยากจะมีเซ็กซ์จริงๆเขาไปหาคนอื่นก็ได้ไม่ต้องมาตามตื้อทำตัวน่ารำคาญให้ชัยวัตรมาว่าอย่างนี้หรอก

“ไอ้วี พูดเบาๆสิ”

“อายทำไมครับ คนเยอะแยะ”

“นั่นแหละ กูอาย!”

“รีบไปนั่งเถอะครับ ผมจะแข่งอีกสิบนาทีแล้ว ผมเตรียมที่นั่งไว้ให้คุณแล้วจะได้ดูผมชู๊ตมุมเท่ๆ” เด็กหนุ่มพาเขามานั่งโซนวีไอพี บริเวณนี้ไม่มีคนเข้ามาวุ่นวายและยังเห็นสนามชัดเจน

“เออน่า แข่งเสร็จก็คิดมาแล้วกันว่าจะกินอะไร” เห็นเด็กมันหน้ามุ่ยไม่รู้โมโหอะไร เขาก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน “เดี๋ยวเลี้ยงเอง”

“ผมอยากเลี้ยงคุณวัตรบ้าง”

“เก็บเงินไว้ใช้เถอะมึง จะได้ไม่ต้องไปทำงานที่ผับนั่นแล้ว”

“เป็นห่วงผมหรือครับ ดีใจจัง”

“รีบไปได้แล้วโว้ย!”

มุมที่เขานั่งสามารถเห็นทีมของปฐวีได้ชัดเจนโดยเฉพาะช่วงที่หมอนั่นกำลังเลี้ยงลูกหรือพุ่งเข้าไปแย่งบาสจากฝ่ายตรงข้าม รูปร่างสูงใหญ่ช่วงตัวที่หนาในชุดนักบาสเสื้อกล้ามสีเหลืองอ่อนที่เว้าจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน เออๆ เขา ยอมรับก็ได้ว่ามันหุ่นดีจริงๆ

นี่กูมองอะไรวะ..

ผู้กำกับหนุ่มสะบัดหัวลบภาพหุ่นสุดเอ็กซ์ที่เข้ามารบกวนสายตาเงยหน้ามาอีกทีเขาก็เห็นเด็กหนุ่มมองมาทางเขา ดวงตากลมสีดำสนิทมองเหมือนจะทะลุเข้าไปข้างใน เขารีบเสมองไปทางอื่นรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมากะทันหัน มามองเขาท่ามกลางคนเยอะขนาดนี้เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ...

ปฐวีกำลังอยู่ในสนามแข่งช่วงเวลาควอเตอร์สุดท้าย ทีมของเขามีคะแนนนำฝ่ายตรงข้ามเกินกว่าครึ่ง ช่วงหลังแทบไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อย เลยพอมีเวลามองคนตัวขาวโอโม่ที่นั่งอยู่ข้างสนาม ชายหนุ่มหน้าตี๋สวมเสื้อเชิ้ตสีเทาพอดีตัวยิ่งขับให้ผิวขาวเด่นกว่าเดิม กางเกงสแล็คสีดำพอดีตัวที่แนบเนื้อจนรัดรึงเห็นแก้มก้นขาวอวบที่เขาชอบสัมผัสนั่นอีก ลมร้อนในโรงยิมมันคงจะร้อนมากไปจนนายตำรวจหนุ่มสะบัดคอเสื้อให้เห็นเนื้อขาววับแวม

แม่งเอ๊ย.. โคตรยั่ว

เขาเผลอมองนานไปหน่อยจนเพื่อนเดินเข้ามาสะกิด แค่เห็นคนตัวขาวนั่งมองเขาก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ตั้งแต่มีความสัมพันธ์แบบคู่นอน เขาก็เอาตัวเองไปใกล้ชิดให้นายตำรวจเห็นอยู่เสมอ แทบจะใส่พานเสนอตัวเองอยู่แล้ว ก็ทำอย่างไรได้ เขาหลงรักผู้กำกับปากแข็งคนนั้นตั้งนานแล้วนี่นา

เกมจบลงและทีมเขาชนะอย่างที่คิด แข่งในมหาลัยตัวเองมันก็ดีไปอย่างเพราะเคยชินกับพื้นที่และสไตล์การเล่นของทีมที่ซ้อมกันอย่างหนักหน่วง ถึงแม้จะมีหน้าที่ที่ต้องทำมากมายแต่เขาก็สามารถแบ่งเวลาไปหาคนตัวขาวนั่นได้ทุกวัน ปีแรกของการเรียนมหาลัยเขาปรับตัวได้ค่อนข้างดี อาจจะเป็นเพราะเขาได้เรียนในสิ่งที่ชอบและได้เล่นกีฬาที่รักควบคู่ไปด้วย บางช่วงเขาแบ่งเวลาไปทำงานพิเศษเพื่อเก็บเงินเป็นค่าเทอมให้น้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ม.4 ที่บ้านเขาเปิดร้านอาหารเล็กๆอยู่ย่านฝั่งธน พอเขามาเรียนมหา’ลัยไหนจะค่าเทอม ค่าหอ ค่าครองชีพที่จะใช้ทุกวันอีก ปฐวีไม่อยากรบกวนพ่อและแม่มากไปกว่านี้เลยเลือกที่จะหาเงินใช้เอง

จนเขาได้เจอชัยวัตรอีกครั้ง..
   

เจ้าตัวจำไม่ได้หรอกว่าเคยเจอเขามาก่อน เขายังจำใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ขยี้ผมเขาจนยุ่งเหยิงได้ดี คุณตำรวจที่แวะมาทานอาหารที่ร้านและช่วยแม่เขาที่โดนพวกกู้นอกระบบมาพังร้านได้ทันพอดี ถ้าหากเขาไม่ได้ชัยวัตรมาช่วยเอาไว้ ป่านนี้เขากับแม่ไม่รู้จะเป็นอย่างไร ความรู้สึกเต็มตื้น มันปลาบปลื้มอยู่ในอก จนทำให้เขาอยากเป็นตำรวจเหมือนชัยวัตร แต่แม่ไม่อยากให้เขาไปทำงานเสี่ยงอันตราย อีกทั้งเขายังมีน้องสาวที่ต้องดูแล เขาจึงเลือกที่จะเรียนอย่างอื่นแทน เขามาเจอชัยวัตรอีกครั้งตอนเขาอยู่ม.5ในเพจของเฟซบุ๊คที่มีคนติดตามหลักแสน ห่างจากครั้งแรกเกือบ5ปี ความรู้สึกปลาบปลื้มในครั้งแรกมันเปลี่ยนไป หัวใจมันกลับเต้นแรง และอยากเจออีกสักครั้ง...

“จะไปกันได้หรือยัง” ชายหนุ่มตัวขาวเรียกเขาเสียงดัง ทุกคนในบริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว โดยเฉพาะผู้หญิงที่เริ่มจำหน้าของผู้กำกับหนุ่มไฟแรงคนนี้ได้ รีบควักโทรศัพท์ออกมาเพื่อเก็บภาพทันที ปฐวีรีบก้าวไปถึงตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะลากชายหนุ่มไปอีกทาง เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าชัยวัตรอยู่กับเขา ไม่อยากให้ใครมอง ไม่อยากให้ชายหนุ่มเป็นที่รู้จักของใครมากมายอีกต่อไปแล้ว

“กำลังจะยิ้มให้สาวถ่ายรูปเลย รีบลากออกมาทำไมวะ” เขากำลังจะหันไปยิ้มให้สาวน้อยหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่มาขอถ่ายรูป

“จะโชว์ตัวไปถึงไหนครับ”

“โมโหหิวแล้วหรือไง”

“ใช่ โมโห และอยากกินคุณซะตรงนี้” เด็กหนุ่มประชิดตัวเขาอย่างรวดเร็วและกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหู ชายหนุ่มขนลุกพรึ่บรีบผลักเด็กหนุ่มให้ออกห่าง

“เห้ย ไอ้วี อย่าเพิ่ง มาเสี้ยนอะไรตรงนี้ นี่มันที่สาธารณะนะโว้ย”

“งั้นมานี่” เด็กหนุ่มตัวโตลากคนตัวขาวเข้าไปในห้องน้ำชาย “อยู่กับผมในนี้กับผมสักแปบ ให้คนกลับออกไปให้หมดก่อน”

“หลบทำไมวะ นี่ใคร กูคนของประชาชนนะ”

“เป็นคนของผมคนเดียวได้ไหมครับ”

“เห้ย อื๊อ” มือหนาบีบก้นอวบเต็มไม้เต็มมือจนคนตัวขาวร้องอู้อี้ “ปล่อยกู ไอ้วี ตรงนี้ไม่ได้”

“ไม่มีคนอยู่ ไม่มีใครเห็นแล้วไงครับ หรือคุณยังไม่พอใจ”

“จะบ้าหรือไง มาเอาในห้องน้ำ มันจะเฮนไตเกินไปหน่อยไหม!”

“มันก็เร้าใจดีนะครับ”

“หยุดความคิดเดี๋ยวนี้เลยโว้ย!” 

เขาพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุม คิดว่าแรงตัวเองก็เยอะพอตัวทั้งขนาดตัวก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ทำไมเขาถึงสะบัดตัวไม่หลุดสักทีวะ

“อย่าดิ้นมากเลยครับ ถึงคุณจะฝึกร่างกายมาดีขนาดไหน ก็สู้หนุ่มๆอย่างผมไม่ได้หรอก” เขายิ้มเยาะ ปฐวีเคยแอบแม่ไปเรียนติวเข้าโรงเรียนเตรียมทหารอยู่พักหนึ่ง เรื่องศิลปะป้องกันตัวเขาก็มาเรียนรู้เพิ่มเติม ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้ใช้จริงๆ

“ทำร้ายพนักงานเจ้าหน้าที่ มีโทษทางกฎหมายนะ!”

“ทำร้ายอะไรกันครับ ผมกำลังทำให้คุณมีความสุขแท้ๆ”ปฐวีพูดเสียงแผ่ว ดูเร้าอารมณ์เหลือเกินในความคิดเขา “ดูสิ ขนาดนี้แล้วคุณยังปากแข็งเหมือนเดิมเลยนะครับ” เด็กหนุ่มใช้มือหนาสอดเข้าไปในเสื้อตัวบางเขี่ยตุ่มไตที่กำลังเริ่มแข็งและลูบไล้จุดอ่อนไหวที่เขารู้จักดี

“ฮื๊อ อ๊า อย่า ไอ้วี”

“คุณจะห้ามผมได้หรือเปล่านะ” ละเลียดจูบตามซอกคอขาวที่พรมน้ำหอมกลิ่นประจำ ยิ่งได้กลิ่นอารมณ์เบื้องล่างเขาก็ยิ่งพลุ่งพล่าน “ลองดูกันสักยกก่อนแล้วกันครับ”

ชัยวัตรหน้าเหยเก ไม่รู้ไอ้เด็กบ้าไปโมโหอะไรมาถึงได้มาลงกับเขาแบบนี้ ทั้งที่ทุกทีออกจะอ่อนโยนกับเขาซะขนาดนั้น เป็นคนสองบุคลิกหรือยังไงกันวะไอ้เด็กนี่!!



บรรยากาศในหอประชุมเต็มไปด้วยความคึกคัก นักศึกษาวัยสดใสในชุดนักศึกษาละลานตาจนชลธีรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาทันที เขามองซ้ายมองขวาหาเพื่อนของมุจลินท์ที่ทำการจองที่นั่งให้เขาไว้เรียบร้อยแล้ว ที่นั่งคล้ายโต๊ะเล็คเชอร์แต่เป็นเบาะนวมบุสีแดงมีผนักพิง กะจากสายตาคร่าวๆน่าจะจุคนได้เกือบหนึ่งพันคนเลยทีเดียว มีการแบ่งโซนเป็นคณะต่างๆอย่างชัดเจนป้ายไฟต่างๆป้ายเชียร์สีสันสดใสเต็มไปหมด มองไปทางไหนก็รับรู้ได้ถึงพลังอันแรงกล้าของวัยรุ่นที่กำลังสดใหม่ ส่วนเขาก็อุ้มลูกชายสุดที่รักเข้าไปหาที่นั่งที่จะสามารถมองเห็นคนรักได้ชัด เขาไมได้บอกมุจลินท์ว่าเขาจะมาดูในวันนี้ถึงแม้จะได้รับคำชวนจากเจ้าลูกเป็ดแทบทุกวันก็ตาม ถือโอกาสมาเซอไพร์สแฟนไปในตัว ไทเกอร์มองซ้ายมองขวาขยุกขยิกอยู่ในอ้อมกอดของคุณพ่ออยากจะลงไปวิ่งกับพื้นแทบไม่ไหว เพราะเห็นคนเยอะแยะ เด็กชายรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ยิ่งเห็นเวทีตั้งตระหง่านที่ประดับประดาไปด้วยป้ายไฟสีสันแปลกตาก็ยิ่งร้องเรียกหาแม่

“แม่ลินท์อะป๊า” จ้องไฟวิบวับบนเวทีจนเริ่มจะตาลาย เด็กชายซุกหน้าเข้ากับไหล่คุณพ่อ “เกอร์จะหาแม่.. ฮือ ฮือ”

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับคนดีของป๊า” เขาจูบกลุ่มผมนุ่ม “เดี๋ยวแม่ลินท์ก็มาแล้วครับ”

“ฮือ ฮือ เกอร์จะหาแม่”

“เดี๋ยวแม่จะออกมาทางนู้นไงครับ” ชลธีชี้ไปที่เวที “เดี๋ยวแม่ลินท์เสร็จงาน เราจะได้ไปรับคุณแม่กลับบ้านกันนะครับ”

“ฮื่อ”

“น้องงอแงหรือคะพี่ฉลาม” กัญญานั่งลงข้างๆชายหนุ่ม “สงสัยแกจะง่วงนะคะ”

“ครับ นี่ก็จะได้เวลานอนรอบเย็นแล้ว” เขาจับลูกชายนอนบนตักก่อนจะลูบหัวให้เด็กชายเบาๆ ก่อนออกมาไทเกอร์ไม่ได้ทานนมหรือของว่างมาเลยคงจะหิวเลยงอแง

“คงต้องรออีกสักพักเลยกว่าลินท์จะออกมา” กัญญายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูสลับกับมองไปที่เวที “คิวการแสดงของลินท์ได้ลำดับที่5ค่ะ”

“รอได้ครับ ตั้งใจมาดูตั้งแต่แรกแล้ว”

“ปกติเหมือนพี่จะไม่ค่อยว่างหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถาม นานพอดูกว่าเธอจะได้เจอผู้ชายที่เพื่อนสนิทแอบรักแอบเพ้อ เห็นว่าเป็นนายทหารตำแหน่งใหญ่โต “ไม่ค่อยได้เจอพี่ฉลามเลย มีแต่ลินท์เล่าให้ฟัง”

“อ่อครับ ปกติพี่จะประจำอยู่ที่ค่าย นานๆจะได้กลับบ้านที” เขายิ้มให้กัญญา รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่นึกถึงว่าใครอเขาอยู่ “แต่ช่วงนี้พี่ลามาอยู่กับครอบครัวก่อนไปราชการสนามที่เชียงรายครับ”

“หา ไปไกลจังเลยค่ะ.. พี่จะไปนานไหมคะ”เธอเริ่มจะเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมาเสียแล้วสิ

“พี่จะพยายามไม่ให้เกินครึ่งปี” ชลธีตอบ ถ้าเขาปิดภารกิจได้จบเร็วเมื่อไหร่ก็ได้กลับบ้านเร็วเมื่อนั้น ยิ่งตอนนี้เขาคบหากับมุจลินท์ฉันท์คนรักด้วยแล้ว ยิ่งไม่อยากอยู่ห่างกันเลย “พี่ฝากดูลินท์หน่อยนะน้องแก้ว”

“ไม่มีปัญหาค่ะ จะดูแลยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลย”

“ขอบคุณนะครับ”

“แล้วพี่บอกกับลินท์มันหรือยังว่าพี่จะไปนานขนาดนี้”

“บอกแล้วล่ะ แต่ไม่อยากบอกเวลาที่แน่นอน พี่กลัวจะกลับมาไม่ทันแล้วเขาจะรอเก้อ จริงๆก็อยากพาไปด้วย แต่เขาติดเรียนไหนจะต้องดูแลลูกชายกับคุณยายอีก ที่สำคัญมันอันตรายมากด้วย พี่คงทำงานไม่ได้แน่ๆ”

“เดี๋ยวแก้วจะช่วยดูแลเองค่ะ พี่ฉลามไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จริงจังกับเพื่อนของเธอจริงๆ โอ๊ยเธอก็อยากได้แฟนเป็นหนุ่มในเครื่องแบบหล่อแมนแบบนี้บ้างเหมือนกัน แต่ก็เอาเถอะเห็นผู้ชายรักกันมันก็ฟินดี!

“พิแก้ว”

“จ๋า น้องเกอร์” หันไปสบกับดวงตากลมสีดำใสแจ๋วที่กำลังจ้องเธอเขม็ง “จำชื่อน้าได้ด้วยหรือจ้ะ”

“แม่บอกฮะ”

“คิดถึงคุณแม่ไหมจ้ะ”

“คิดถุงมากกกกกก” เด็กชายลากเสียงยาวพร้อมกับทิ้งตัวที่ตักคุณพ่อ “แม่ลินท์ไม่ได้ทิ้งเกอร์ไปใช่ไหม”

“เปล่าจ้ะ แม่ติดธุระ เดี๋ยวก็มาแล้ว” กัญญาอมยิ้มในความออดอ้อนของเด็กชาย มิน่าล่ะเพื่อนเธอถึงได้รักถึงได้หลงเสียขนาดนี้ “ถ้าเกอร์ง่วงก็นอนพักก่อนเดี๋ยวแม่ลินท์มาน้าแก้วจะปลุกนะจ้ะ”

“ฮะ”


(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5

(ต่อจากด้านบน)


เด็กชายนอนหลับตาบนตักพ่อได้สักพักก็ผล็อยหลับ แม้รอบข้างจะเสียงดังแค่ไหนเด็กชายก็ยังหลับได้สนิทแถมยังดิ้นอีกต่างหาก กัญญาและชลธีนั่งรออยู่อีกราวๆครึ่งชั่วโมงจึงถึงเวลาเปิดงาน พิธีกรเป็นชายและหญิงหน้าตาดีสองคนซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นดาวและเดือนมหาวิทยาลัยจากปีที่แล้ว เริ่มพูดคุยทักทายผู้ชมในหอประชุมและประกาศคะแนนป็อบปูล่าห์โหวตหรือตำแหน่งขวัญใจสื่อมวลชนที่กดไลค์จากเพจโดยคิดเป็น80%และรวมคะแนนในห้องส่งในรอบการแสดงของแต่ละคน ภาพที่ฉายขึ้นทางจอโปรเจคเตอร์เป็นรูปที่ถ่ายในช่วงเข้าค่ายเก็บตัวซึ่งแต่คนละจะมีธีมที่แตกต่างกันออกไปจนกระทั่งถึงรูปของมุจลินท์ในชุดว่ายน้ำที่แทบจะเปลือยแผ่นอกทำเอาชลธีชะงัก

เห้ย…

ตะลึงรูปเมียตัวเองไม่พอ ยังมีรูปคู่ที่ถ่ายกับผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งเขาคุ้นเคยว่าเป็นเพื่อนของคนรัก คิ้วดำเข้มขมวดแน่นอย่างไม่พอใจ ภาพที่เขาเห็นคราวก่อนในมือถือเจ้าลูกเป็ดยังมีมากกว่าที่เห็นอีกหรือ เขาไม่ได้โกรธคนรัก เขาก็แค่หวง ไม่อยากให้ใครเห็นแฟนเขาก็เท่านั้น ไทเกอร์เงยหัวขึ้นมาจากตักคุณพ่อ ดวงตากลมฉ่ำปรือปรอยด้วยความง่วงงุนเมื่อได้ยินเสียงฮือฮาจากรอบข้าง จากที่งัวเงียกลายเป็นตื่นเต็มตาเมื่อเห็นรูปคุณแม่โชว์หราอยู่ในจอโปรเจคเตอร์ มือสั้นป้อมชี้ไปที่จอก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะดิ้นให้หลุดออกจากการเกาะกุมของคุณพ่อ

“จะไปไหนครับเกอร์” ชลธีคว้าลูกชายเอาไว้ได้ทัน “วิ่งในนี้ไม่ได้นะครับ เดี๋ยวหลงนะ”

“เกอร์จะไปหาแม่” ไทเกอร์ทำปากยู่ “แม่อยู่ในนั้น”

“แม่ไมได้อยู่ในนั้นครับ ป๊าก็คิดถึงแม่เหมือนกัน เดี๋ยวเราค่อยไปหาแม่ด้วยกันนะครับ”

“ฮือ พาเกอร์ไปนะ”

“ครับๆ มานั่งนี่ก่อนเร็ว” เขาอุ้มลูกชายนั่งตัก “เดี๋ยวแม่จะขึ้นบนเวทีเราต้องปรบมือให้คุณแม่นะครับ”

“ได้ฮะ”

“ทานน้ำได้นะคะน้องเกอร์” กัญญาลุกออกไปซื้อน้ำและขนมมาเผื่อหลาน เมื่อครู่เห็นเจ้าตัวเล็กงอแงเธอก็อยากจะช่วยชลธีดูไทเกอร์อีกแรง เพราะเพื่อนเธอเคยบอกว่าไทเกอร์ติดมุจลินท์มากและไม่ให้ใครเข้าใกล้ได้ง่ายๆ “เดี๋ยวแม่ลินท์มาจะได้ให้แม่ลินท์พาไปเที่ยวนะคะ”

“ขอบคุงฮะ” กระพุ่มมือไหวก่อนจะรับขนมไปถือไว้แต่ไม่ยอมกิน “เกอร์อยากเจอแม่”

“ดูนู่นครับ แม่จะมาแล้ว” ชลธีชี้ไปที่เวทีที่เริ่มทยอยให้ผู้ประกวดมาแนะนำตัว ไทเกอร์จะยืนขึ้นไปมองคุณแม่ที่อยู่บนเวที เด็กชายร้องกรี๊ดจะวิ่งไปหาแต่เขาตะครุบไว้ได้ทัน บนเวทีเต็มไปด้วยเด็กหนุ่มและเด็กสาวในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเดินโชว์ตัวบนเวทีเรียกเสียงกรี๊ดจากแม่ยกด้านล่าง เขาอุ้มลูกชายเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นคนรักในชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวผูกเนคไทประจำมหาลัยสีกรมท่าและกางเกงสแล็คสีดำพอดีตัว เครื่องหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์อ่อนๆยิ่งทำให้ขับใบหน้าดูโดดเด่น คิดถึงพวงแก้มขาวเลือดฝาดที่เขาชอบงับเล่น ทำเอานายทหารหนุ่มยิ้มกริ่มมองเจ้าลูกเป็ดไม่วางตา

“แม่ แม่ลินนนน” ไทเกอร์โบกไม้โบกมือจะให้แม่หันมามองแต่ก็ไม่ได้ผล เจ้าตัวเริ่มจะเบะจนเขาต้องอุ้มลูกออกมาจากฝูงชนที่กรูกันเข้าไปถ่ายภาพและกองทัพแม่ยกที่ร้องตะโกนชื่อกันเสียงดัง “ป๊า แม่ๆๆแม่อยู่นู่น”

มุจลินท์ยืนฉีกยิ้มให้กล้องที่กำลังจับภาพ เขาติดหมายเลขประดับอก ดวงตากลมโตสีสวยเริ่มล้าเพราะแสงแฟลชเข้าตามากเกินไป กรวิชญ์เห็นจึงกระตุกแขนเสื้อเพื่อน

“มองไปทางอื่นบ้าง”เขากระซิบ “เดี๋ยวตาลายเดินเป๋หรอกมึง”

“เออ ปวดตาเลยว่ะ” เขาหลบสายตาไปมองทางอื่นบ้างจนเห็นใครบางคนหน้าตาคุ้นๆกำลังมองมาทางนี้ และยิ่งคุ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นเด็กชายตากลมแป๋วกำลังเบะปากตั้งท่าจะร้องไห้

ไทเกอร์.. พี่ฉลาม..

ในอกข้างซ้ายหัวใจเต้นระรัวเร็วเมื่อเห็นใครบางคนส่งยิ้มให้ วันนี้ชลธีดูต่างไปจากทุกทีร่างสูงในชุดเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีน้ำเงินพร้อมผมทรงใหม่ที่เขาไม่เตยเห็นมาก่อน ส่วนลูกชายก็กำลังจะงอแงจะมาหาเขาให้ได้ หนึ่งอาทิตย์พอดีที่เขาได้ยินแค่เสียงของอีกฝ่าย เขากลั้นยิ้มจนปวดแก้มมองคนรักที่ส่งยิ้มมาให้ไม่วางตา ไม่ยอมบอกกันก่อนเลยว่าจะมา เด็กหนุ่มส่งยิ้มหวานให้คนรักยิ่งทำให้ถูกจับตามองจากช่างภาพมากยิ่งขึ้น เสียงกดชัตเตอร์ดังต่อเนื่องจนกรวิชญ์รีบมาดึงเพื่อนไปเข้าประจำที่ก่อนที่พิธีกรจะเข้ามาสัมภาษณ์แล้วปล่อยให้ผู้เข้าประกวดเข้าไปเตรียมการแสดงด้านหลังเวที

“แฟนมึงมาดูหรือไง หน้าบานเป็นกระด้งเลยนะ” กรวิชญ์ได้โอกาสก็แซวเขาทันทีที่อยู่ด้วยกันสองคน มันคงจะดูออกว่าเขาเก็บอาการดีใจมาตลอดทาง ตอนนี้เขาแทบจะกำหมัดแล้วร้องเย่ขึ้นมา

“อือ โอ๊ยดีใจว่ะ เขาคงกะมาเซอไพร์สกูแน่ๆ”

“งั้นมึงก็ต้องยิ่งทำให้ดี”

“เออ รู้แล้วล่ะน่า”

เขาผละจากกรวิชญ์เพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องที่เขาใช้แต่งตัวถูกกั้นฉากเพื่อแบ่งให้คณะอื่นร่วมใช้ด้วย ชุดที่เขาใส่เป็นเสื้อยืดสีขาวมีลายสีสันสดใสสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีเหลืองและกางเกงยีนส์ขาดๆวิ่นๆเหมือนไปฟัดกับตัวอะไรมาสักอย่าง ไหนจะรองเท้าผ้าใบสีเจ็บจี๊ดที่พอใส่รวมกันทั้งชุดแล้วเขาก็อยากรู้จริงๆ ..

ใครมันเป็นคอสตูมวะ กูอยากจะร้อง

“เสร็จยังวะ” เกี๊ยมเดินออกมาจากห้องลองชุด มันใส่แจ็คเก็ตสีม่วงอ่อนทับกับเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนส์ฟอกเป็นด่างๆดวงๆกับรองเท้าผ้าใบสีแสบลูกตาเช่นกัน พอมายืนข้างกันแล้ว..เอ่อ เขาคนหนึ่งล่ะที่ไม่กล้าใส่ชุดแบบนี้ออกจากบ้านเลย กลัวหมาเห่าชะมัด

“เสร็จแล้วๆ”

“แต่งขึ้นเหมือนกันนี่หว่า แม่งเหมือนฝรั่งเลยว่ะ”

“ฝรั่งห่าไรล่ะ” หันไปด่าเพื่อนเสร็จเขาก็กลับเช็คเสื้อผ้าหน้าผมอยู่หน้ากระจกต่อ ทำสมาธิอยู่สักพัก พอรู้ว่าคนรักมาดูก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก โอ๊ยยย ขอถอนคำพูดที่ว่าอยากให้มา ตอนนี้ตื่นเต้นจนตัวเกร็งไปหมดแล้ว

“เอ้าๆ หน้าซีดเป็นผักต้มเลยมึง ไหวป่ะเนี่ย”

“กูไหว กูแค่ตื่นเต้นไปหน่อย”

“งั้นก็ไปกันได้แล้ว” เขาพยักหน้ารับก่อนจะผ่อนลมหายใจเดินตามกรวิชญ์ไปที่ทางออก เห็นคู่อื่นกำลังเตรียมตัวกับการแสดงเหมือนกัน รู้สึกเหมือนมีเพื่อนค่อยสงบจิตใจได้นิดหน่อย กติกาในการแข่งรอบนี้คือต้องจับคู่กับเพื่อนต่างคณะเพื่อและทำการแสดงหนึ่งอย่างโดยตัดสินเป็นรายบุคคลจากคะแนนโหวตในหอประชุมผ่านการนับคะแนนจากดอกกุหลาบและทางออนไลน์ที่กำลังliveสดทางเฟซบุ๊คอยู่ตอนนี้

ตื่นเต้นชะมัด!


แสงไฟจากสปอร์ตไลท์ส่องสว่างกลางเวทีเป็นสัญญาณเริ่มต้นการแข่งขัน แต่ละทีมที่จับคู่ออกไปทำการแสดง เขาและกรวิชญ์กำลังเป็นคู่ถัดไปเขาใช้มือเย็นเฉียบถูกันไปมาตั้งสติให้มั่นคงก่อนที่จะออกไป

“ลำดับต่อไปขอเชิญ น้องลินท์จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์และน้องเกี๊ยมคณะรัฐศาสตร์ครับ!” หัวใจเขาเต้นจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอกให้ได้ เกี๊ยมมองหน้าเขาก่อนจะยิ้มให้กันแล้วเดินออกไปยืนกลางเวทีเสียงดนตรีดังขึ้นเป็นจังหวะ เขากระชับไมโครโฟนที่ติดข้างหูแน่น ก่อนจะออกท่าทางไปตามเสียงเพลง

ได้พบกับเธอฉันก็มั่นใจว่าเธอเท่านั้นที่ฉันต้องการ
ทั้งร่างกายและ DNA ที่อยู่ข้างใน มันบอกว่าต้องใช่เธอ
ที่ตามหามานาน เรามาผ่านมันไป เธอกับฉันพร้อมกัน
แค่เธอเท่านั้นที่ต้องการ แค่เธอ come with me
เธอคือคนที่ฟ้าส่งมอบให้ฉัน Like a dream.
When i meet you Take it Take it
ขอเธอช่วยคว้ามือคู่นี้ อย่าไปฝืนโชคชะตา
อย่ากังวลเลย my Love เรื่องระหว่างเราไม่ใช่ความบังเอิญ
ที่จริงคือโชคชะตา Baby ต่างกันแค่ไหน เพราะคือเราคงต้องใช่
ต้องใช้เวลานานเพียงใด เราจึงได้พบ จากทุกนาที ที่ยาวนาน
หลายปีผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไร ไม่ว่าวันไหนแค่เรา
ยืนเคียงกันไปทุกเวลา DNA เรื่องเราไม่ใช่แค่ความบังเอิญ
ที่ทำให้ฉันพบเธอคือโชคชะตา DNA
I want it this love I want it real love
I just look at only your love
เธอ Can control ฉัน Too many เพราะมันคือ DNA
ที่ต้องการเพียงแค่เธอ ไม่มีวันทิ้งกัน
I love us ก็เราสองคือ True lovers**


สิ้นสุดเสียงเพลงเสียงปรบมือดังกระฮึ่มพร้อมพิธีกรที่ประกาศเรียก เขาและกรวิชญ์หอบหายใจแฮ่กแตะมือกันก่อนจะกอดคอกันเดินเข้ามากลางเวที เรื่องเต้นที่เขาไม่ถนัดและกังวลมาหลายอาทิตย์ ในที่สุดเขาก็ผ่านมันมาจนได้ “เป็นที่ถูกใจจากบรรดาแฟนคลับมากๆเลยครับ ตอนนี้คะแนนโหวตจากในแฟนเพจของเราพุ่งสูงมาก”

“เพลงที่จบไปเมื่อครู่ เป็นเพลงที่น้องลินท์และน้องเกี๊ยมได้แปลงมาจากเพลงต้นฉบับนะคะเพราะมากๆเลย” พิธีส่งยิ้มหวานให้พร้อมกับเอ่ยแซว “เกิดคู่จิ้นคู่ใหม่ของมหา’ลัยเราเลยนะคะ”

“เดี๋ยวเราจะให้กองเชียร์เข้ามาให้ดอกกุหลาบนะครับ” ในหอประชุมเริ่มเกิดเสียงฮือฮาอีกครั้ง “มีเวลาแค่5นาทีเท่านั้นนะครับ”

ทุกคนกรูกันเข้ามาส่งดอกกุหลาบให้คนที่ตัวเองเชียร์ มุจลินท์แทบเซเมื่อด้านหน้าเวทีมีการแย่งชิงพื้นที่เพื่อจะเข้ามาถึงตัวเขาให้มากที่สุด เขาหัวเราะเบาๆแต่ก็รับดอกไม้มาอย่างรวดเร็ว

“ระวังกันด้วยนะครับ เดี๋ยวล้ม”

“น้องลินท์น่ารักมากเลยครับ” ชายหนุ่มในชุดนักศึกษายื่นดอกไม้มาให้เขาพร้อมกับส่งยิ้ม เขาเอื้อมมือไปรับก่อนจะบอกขอบคุณ “มีแฟนหรือยังครับ”

“แฟนไม่มี” เสียงดุเข้มดังขึ้น “มีแต่ผัวและลูกชายอีกหนึ่ง”

“แม่!”เสียงร้องเรียกทำให้เขาหันไป เห็นลูกชายกำลังงอแงได้ที่พร้อมจะวิ่งมาหาเขาทันทีถ้าปล่อยมือ “จะหาแม่ลินท์!” คนเมื่อครู่สะดุ้งเฮือกมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไทเกอร์ถือช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ที่จัดไว้อย่างสวยงาม

“ให้แม่หรือครับ”

“ให้แม่ฮะ แม่ลินท์ของเกอร์เท่ที่ฉุด”

“น่ารักจังเลยคนเก่ง ขอบคุณนะครับ” เขาสบตาหวานฉ่ำของคนรัก ที่มองเขาเหมือนจะกลืนกินไปทั้งตัว ก่อนจะหันไปรับดอกไม้อยู่เรื่อยๆแล้วส่งไปด้านหลังส่วนช่อใหญ่ยังคงถือไว้ “ขอบคุณที่มาดูลินท์นะครับ”

“ไม่มาเชียร์เมียคงไม่ได้แล้วล่ะ” ชลธีเห็นเจ้าลูกเป็ดอายม้วนก็ยิ่งหยอดเข้าไปอีก “น่ารักขนาดนี้”

“ค่อยกลับไปคุยที่บ้านนะครับ”

“เดี๋ยวพี่รอนะ”

“แม่ แม่ ไม่เอา จะหาแม่” ไทเกอร์โผออกจากอ้อมอกคุณพ่อ ดิ้นขลุกขลักจะขึ้นไปบนเวทีให้ได้

“เกอร์!!” เห็นลูกร้องไห้เขาก็อดใจไม่ไหว ยิ่งไทเกอร์ทำท่าจะหล่นออกมาจากวงแขนชลธี เขาก็ยิ่งเป็นห่วงเลยส่งมือไปรับเด็กชายขึ้นมาอุ้ม “ทำไมไม่ฟังป๊าล่ะครับลูก”

“จะหาแม่------”

“หมดเวลาแล้วครับ” มุจลินท์กำลังจะถอยกลับเข้าไปด้านในแต่มองหาชลธีไม่เจอ ไทเกอร์ยังอยู่ในอ้อมอกเขา เด็กชายหยุดร้องแล้วจ้องมองไปรอบๆเวที เขาอุ้มลูกข้างนึงอีกข้างถือช่อดอกไม้กระทั่งเดินกลับเข้าไปยืน ทุกคนก็พากันมองเด็กชายที่เขาอุ้มเป็นตาเดียว ไทเกอร์หัวเราะคิกคัก ส่วนเขาเริ่มจะเวียนหัวขึ้นมาดื้อๆ ก่อนจะหันไปสบตากับชลธีกำลังยืนหลบมุมพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เขา

พี่ฉลาม คิดจะให้คนอื่นรู้ว่าเขามีลูกแล้วสินะ

ร้ายจริงๆว้อย!

 

TBC
เฮนไต = การ์ตูนโป๊ *
ดัดแปลงเป็นเวอชั่นภาษาไทยจากเพลง DNA วง BTS**

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด