-จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑  (อ่าน 168875 ครั้ง)

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :katai3: พ่อร้ายกาจมาก ลูกก็จัดเต็ม 5555
ประกาศให้รู้กันทั่วว่าน้องลินไม่ว่างแล้วนะจ๊ะ มีผัวพร้อมลูกอีกหนึ่ง  o13
 :L1:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ Kkookai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
:hao3: พ่อมันร้าย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ๊าก ทำไมวีวัตรต้องตัดเข้าโคมไฟด้วย เขายังไม่ได้กันเลยทำไมทำแบบนี้


กลับมาต่อคู่วีวัตรก่อน นานๆจะโผล่มาที กลับมาก่อน


นักเขียนหายไปไหนกลับมาก่อน

ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เพิ่งเห็นมุมร้ายของพี่หลาม อะไรจะหวงเมียขนาดนั้น

นี่ไม่อยากจะคิดว่าพี่ชุจะเห็นไหม ว่าลูกเป็ดมีลูกแล้ว

อยากให้จนจะจบเรื่องหนูเกศไม่โผล่มาเลย จะดีใจมากก

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ไทเกอร์กับแม่รินทร์น่ารักมากกกก  :L2:

ออฟไลน์ 05th_of_06th

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ฉลามมันร้ายยยยย 555555555

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :hao7: พี่ฉลามเจ้าเล่ห์อ่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
พ่อเจ้าเล่ห์ ลูกน่ารัก ไม่รอดแล้วลินท์ :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
อ่านทันแล้ววววว หวานๆดี
รอตอนต่อไปฮะ

ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
นักเขียนมาต่อได้แล้ว ทำไมหายไปนานแบบนี้ รีบมาต่อเร็วๆ

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตามมาจากหน้าแนะนำ ดีงามจริงๆ รอๆนะคะ^^

ออฟไลน์ moosawvans

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โ้อ้ยคูนนวัตรจะโดนกิน ในห้องน้ำหราาา 555 :hao3:

ส่วนพี่ฉลามนั้นหลงเมียยิ่งกว่าสิ่งใด
น้องเกอร์ของเจ้ 55555

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
พี่ฉลามร้ายจริงๆ ส่งลูกไปยืนด้วยให้รู้ไปเลยว่ามีเจ้าของแล้ว 55555555

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๗

   มุจลินท์ยืนนิ่งอึ้งอยู่บนเวทีโดยมีลูกชายวัยสี่ขวบกำลังถือช่อดอกไม้สีแดงสดให้เขาอยู่ ดวงตากลมสีเทาสวยจ้องไปที่คนรักที่กำลังยกยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี เด็กหนุ่มมองซ้ายมองขวาหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เร็วที่สุดหันไปสบตากับกรวิชญ์ที่กำลังหอบดอกไม้พะรุงพะรัง เจ้าลูกเป็ดรีบปรี่เข้าไปหาเพื่อนส่วนไทเกอร์ที่เขากำลังอุ้มหัวเราะกรี๊ดกร๊าดคิดว่าเขาเล่นด้วย กรวิชญ์เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงสงสัยก่อนจะเอาดอกไม้ฝากให้กับทีมงานของกองประกวด

“เด็กที่ไหนวะ มึงไปเอามาได้ยังไง”

“ลูกกูเอง”

“หา” กรวิชญ์อ้าปากค้างเห็นเพื่อนตัวเองอุ้มเด็กหน้าตาน่ารักมาจากไหนไม่รู้ไม่งอแงแถมยังมองเขาตาเป็นมันอีก เขารีบโบกมือให้สต๊าฟด้านหลังเวทีมาช่วยอุ้มเด็กออกไป “มึงเอาไปฝากพี่ข้างหลังเขาไว้ก่อน”

“เกอร์ครับ โอ๋ๆ ไปรอคุณแม่ที่ข้างหลังก่อนนะครับ”

“ไม่เอา ---เกอร์ไม่ไป” เมื่อเห็นคนแปลกหน้ามารุมมองทำท่าจะอุ้มไปจากแม่ เด็กชายยิ่งเบะปากทำท่าจะร้องขึ้นมาเสียอย่างนั้น เด็กหนุ่มรีบปลอบทั้งโยกทั้งกอดด้วยความคิดถึง

“ไม่งอแงนะลูก เดี๋ยวก็กลับบ้านกันแล้ว” เขาบอกลูกชายที่น้ำตารื้นอยู่ขอบตาทำท่าจะไหลอยู่รอมร่อ เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ให้ตายเถอะ เขาแพ้น้ำตาลูกชายจริงๆ

“เหี้ย ลูกมึงจริงหรอเนี่ย”

“ก็เออสิวะ!”

“เอายังไงดี มึงจะอุ้มลูกไปตอบคำถามเรอะ”

“ถ้าวาง ลูกกูร้องแน่”

“หาไรอุดปากซะ”

“ไอ้เหี้ยเกี๊ยม ลูกกูนะไม่ใช่ตุ๊กตาไขลาน”

“มึงก็เอาไปฝากแฟนมึงสิ” มุจลินท์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้ดีว่าชลธีทำอย่างนี้มีจุดประสงค์อะไร เขามองไปรอบๆเวทีก็ไม่เห็นชลธีแล้ว “เร็วๆเลยยังเหลือเวลาอยู่นิดหน่อย”

“หาไม่เจอแล้ว” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “หายไปไหนก็ไม่รู้”

“แมะ แม่ลินนน” เด็กชายสะอึกสะอื้นสูดน้ำมูกใสที่กำลังไหล “กลับบ้านกัน”

“แปบเดียวนะครับคนเก่ง หนูไปอยู่กับคุณพ่อได้ไหม แม่ขอทำงานก่อน” เขาใช้ทิชชู่บรรจงซับน้ำตาและน้ำมูกให้ลูกชาย ดวงตากลมโตสีดำและจมูกจิ้มลิ้มแดงก่ำเขายิ่งรู้สึกสงสารลูกจับใจ

“งานไย.. ฮึก” ลูกชายเอียงคอถามกระชับช่อดอกไม้แน่น “เกอร์ทำด้วยยยยยยย”

“ฮื่อ ไม่ได้ครับ เห็นไหมครับคนเยอะแยะเลย ให้แม่ทำงานก่อนนะ” เขาไม่อยากทิ้งลูกชายไว้กับใครที่ไม่รู้จักเลยแต่ตอนนี้เขาอยู่บนเวทีไม่มีเครื่องมือติดต่อสื่อสารหาใครทั้งนั้น ริมฝีปากสีชมพูสวยเม้มแน่นอย่างคนใช้ความคิด จะปล่อยลูกชายไว้คนเดียวก็ไม่ได้ด้านหลังเวทีคนผ่านไปผ่านมาเยอะแยะเขาไม่ไว้ใจ แต่ถ้าเขายอมทนให้ลูกร้องจนกว่าเขาจะเสร็จงาน ไทเกอร์ต้องไม่สบายแน่ๆ

“เกอร์อยากอยู่กับแม่นี่ฮะ”

“ไอลินท์ เร็ว!” กรวิชญ์เร่งหนักจนเขาปวดหัวตุบไปหมด

“เออ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”

มุจลินท์ถอนหายใจเฮือกอุ้มลูกชายด้วยแขนขวา เด็กชายตัวน้อยถือช่อดอกไม้สีแดงสด ดวงตากลมโตสีดำเป็นประกายเมื่อเห็นแสงสีบนเวที ผมหยักศกถูกดัดอ่อนๆให้เป็นทรง สวมชุดเอี๊ยมยีนกับเสื้อแขนสั้นสีเขียว กลิ่นดอกไม้อ่อนๆติดตามตัวลูกชายจนเขาอยากจะก้มลงไปงับแก้มป่องนั่น ถ้าไม่ติดว่าเขาจะต้องเข้าประกวดงานของมหาวิทยาลัย เขาก็อยากจะรีบกลับไปนอนกอดลูกชายให้หายคิดถึงจริงๆ ถ้าชลธีเล่นไม่เล่นไม้นี้กับเขา เขาคงจะอารมณ์ดีกว่านี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากจะทุบคนรักหลายๆที คิดได้ยังไงปล่อยลูกมาอยู่กับเขา!

เด็กชายซุกหน้าเข้ากับอกเขาเมื่อแสงสีสวยที่เด็กชายอยากจะวิ่งเข้าไปเล่นมันแสบตาจนเขาต้องใช้ช่อดอกไม้บังแสงเอาไว้ พิธีกรเรียกเชิญแต่ละคณะขึ้นบนเวทีโดยแบ่งเป็นชายและหญิง เขายืนข้างกรวิชญ์ที่กำลังแจกยิ้มหวานไปทั่ว แสงแฟลชยิ่งสาดมาที่เขาหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นไทเกอร์เสียงดังเซ็งแซ่ระงมไปทั่วหอประชุม เด็กหนุ่มตื่นเต้นจัดหัวใจเต้นรัวเร็ว ได้มองหน้าลูกชายความตื่นเต้นที่มีถึงจะลดลงไปบ้าง

“พาใครมาด้วยคะเนี่ยน้องลินท์” พิธีกรผู้หญิงที่เขาจำชื่อไม่ได้ยื่นไมค์มาถามลูกชายเขาที่มองตาแป๋ว “หนูชื่ออะไรจ้ะ”

“ทะ.. ไทเกอร์”

“น่ารักจังเลย น้องชายหรือคะ”

“เอ่อ” เขายิ้มเจื่อน “ครับ”

“แม่”

“คะ”

“แม่หนู” ไทเกอร์มองไมโครโฟนตาวาวก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัด “แม่ลินท์”

“อ่า น้องพูดเก่งจังเลยนะคะ มากับคุณแม่หรือจ้ะ”

“ฮะ มากับแม่ ป๊าด้วย” ไทเกอร์ตอบพร้อมแจกยิ้มหวานเรียกเสียงกร๊ดกร๊าดจากพิธีกรและผู้ชมทั้งหอประชุม “เกอร์อยากอยู่กับแม่ ให้แม่กลับบ้านได้ไหมฮะ”

“เกอร์ ไม่งอแงนะครับ” เขาก้มลงเอ็ดลูกชายที่กำลังจะพยศอีกรอบ สายตาก็มองกวาดหาคนรักที่หาเรื่องแกล้งเขาได้ดีจริงๆ

อย่าให้เขาเจอนะ!

“เดี๋ยวให้คุณแม่มารับเนอะ ให้พี่ลินท์ตอบคำถามก่อนนะจ้ะ” พิธีกรทำท่าจะให้เขาวางลูกชายลงและเข้าร่วมประกวดตามกำหนดการแต่ไทเกอร์ส่ายหัวดิกแล้วซุกเข้ากับอกเขา

“นิไงแม่เกอร์” เด็กชายร้องประท้วงเสียงดังจนเขาใจสั่นไปหมด เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง เขาเม้มปากแน่นไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าทุกคนรู้ว่าเขามีลูกจริงๆจะเป็นยังไง “แม่----” ไทเกอร์ร้องเรียกแล้วซุกเข้ากับไหล่เขา ดูจะงอนที่เขาไม่ยอมบอกว่าเป็นแม่ คิ้วได้รูปสวยขมวดแน่นเมื่อเห็นชลธีกับกัญญาโบกมือให้อยู่ด้านล่าง มุจลินท์มองคนรักด้วยสายตากรุ่นโกรธอยากจะวิ่งลงไปทุบคนหน้าตายที่แกล้งเขานัก

“อ่า” พิธีกรหญิงมองเขาสลับกับไทเกอร์ก่อนจะสลับไปสัมภาษณ์คนอื่นแทน เขาใช้มือที่ว่างกวักมือเรียกชลธีให้มารับลูกกลับไป เห็นคนรักยิ้มหวานใส่เขาก็ยิ่งอารมณ์เสีย แค่นี้รูปเขากับลูกชายก็เด่นหราไปทั่วแฟนเพจแล้ว นายทหารหนุ่มเดินเข้ามาใกล้เวทียังไม่วายยิ้มกริ่ม เขารีบอุ้มลูกไปส่งให้คนรักที่รอรับอยู่

“พี่เล่นบ้าอะไรเนี่ยหะ” เขาก้มหอมแก้มลูกชายก่อนจะส่งลูกชายให้ชลธีอย่างระมัดระวัง ไทเกอร์งอแงอยากอยู่กับเขาต่อแต่ก็ยอมให้คุณพ่ออุ้มแต่โดยดี “เล่นแบบนี้ลินท์ไม่ตลกด้วยนะ”

“ขอโทษครับ” ชลธีพูดเสียงเบาแต่ยิ้มหยีจนดวงตาเป็นเส้นตรง “พี่แค่ฝากลูกไว้แปบเดียวเอง”

“ลินท์โกรธมาก” เขาพูดจริงจัง

“ยกโทษให้สามีคนนี้นะครับ”

“ไม่!”

“โถ่ลินท์” นายทหารหนุ่มหน้าจ๋อยมองหน้าคนรักด้วยสายตาเว้าวอน “จะให้พี่ทำอะไรก็ได้ พี่ยอมหมดเลย ขอแค่อย่างเดียว ไม่โกรธพี่นะครับ”

“หึ..” ได้ฟังแล้วแทนที่จะโกรธเขากลับใจเต้นแรงจนต้องหุบยิ้มจนปวดแก้ม “กลับบ้านไป พี่โดนแน่!”

“แม่ลินนนน” เด็กชายมองแม่ตาละห้อยไม่มีแรงจะร้องได้แต่ยื่นมืออ้วนป้อมออกไปหา “แม่จ๋า..” ได้ยินเสียงลูกเรียกหัวใจก็อ่อนระทวยอยากจะอุ้มแล้วกลับบ้านมันเสียตอนนี้

“ไหนๆแม่ขอหอมแก้มหน่อย”

“จุ๊บ” เด็กชายทำปากจู๋ก่อนจะยื่นไปหาเด็กหนุ่ม เขาประทับริมฝีปากลงแก้มป่องสองฟอด ได้กลิ่นดอกไม้อ่อนๆหอมชื่นใจ กำลังจะลุกขึ้นยืนแต่แรงโฉบที่แก้มขวาของเขาทำเอาคิ้วกระตุก ชลธียิ้มแผล่ก่อนจะถอยออกจากเวที เขากุมแก้มขวาเบาๆ

“ก็เห็นลูกหอม พี่ก็อยากหอมบ้าง..”

มุจลินท์หน้าชาไม่อยากจะลุกขึ้นยืนเลย แสงแฟลชและเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นโดยรอบ ตอนนี้เขาอยากจะตะกุยพื้นแล้วแทรกตัวลงไปในพื้นแล้วไปโผล่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ให้ตายเถอะ นี่มันที่บ้านที่ไหนกันเล่า!

เขา-อยาก-จะ-บ้า!



มือหนาละเลียดไล้ไปตามลาดไหล่หนาของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหนั่นแน่น ผิวขาวจัดดูสว่างแม้จะอยู่ในความมืด ปฐวีอดใจไม่ไหวต้องก้มลงไปขบเม้มแล้วใช้ลิ้นแฉะชื้นแตะไล่ไปตามแอ่งชีพจรของคนตัวขาวก่อนจะเลื่อนขึ้นมาชิมใบหูส่วนที่ไวต่อความรู้สึกมากที่สุด ชัยวัตรย่นคอหลบริมฝีปากเขา ตาเรียวรีแทบจะลืมไม่ขึ้นเมื่อเขาบรรจงบดเบียดริมฝีปากสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปก่อนที่ผู้กำกับจะอ้าปากบริภาษเขาได้ทัน เขาดูดริมฝีปากล่างของอีกคนจนรู้สึกได้ว่ามันเริ่มบวมเป่ง มือที่ว่างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงไปกรอมข้อศอกช่างดูเย้ายวนให้เขาอยากจะกอดชัยวัตรมากขึ้นไปอีก ผู้ชายตัวโตสองคนในห้องน้ำทำให้ห้องดูเล็กลงไปถนัดตาจะขยับหรือพลิกเปลี่ยนท่าทางไม่ได้ดั่งใจเหมือนเตียงนอนสีขาวนุ่มบนคอนโดผู้กำกับเลยสักนิด เสียงครวญครางของคนตัวขาวยามที่เขาใช้มือถูไถไปตามร่างกายที่เริ่มร้อนระอุยิ่งทำให้เด็กหนุ่มได้ใจ ขบเม้มผิวขาวจัดจนเป็นรอยแดงจ้ำ หากใครมาเห็นคงคิดว่าผู้กำกับหนุ่มโดยยุงหามมาแน่ๆ

“ฮื้อ.. อย่าสิวะ โอ๊ยเจ็บ” ชัยวัตรสูดปาดเมื่อความเสียวแล่นปลาบไปทั่วร่างกาย ยิ่งเด็กหนุ่มก้มลงฉกชิมตุ่มไตสีชมพูเข้มเขายิ่งสั่นสะท้าน “มะ ไม่เอาตรงนั้น”

“แล้วพี่วัตรชอบตรงไหนครับ” ปฐวีถาม ดวงตากลมสีดำสนิทส่องประกายวิบวับ เขาชอบความรู้สึกที่ได้เป็นเจ้าของคนตรงหน้ามากที่สุด ยิ่งได้ครอบครองเขายิ่งต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

แค่นี้ยังไม่พอ..

เขาใช้มือปลดกางเกงสแล็คคนตัวขาวอย่างรวดเร็วก่อนจะสอดนิ้วยาวเข้าไปสัมผัสแกนกายที่กำลังชูชัน ชัยวัตรสะดุ้งเฮือกเมื่อเขาใช้นิ้ววนไล้ส่วนหัวที่กำลังฉ่ำเยิ้ม เห็นชายหนุ่มกัดริมฝีปากเพื่อสะกดเสียงครางเขาจึงยื่นนิ้วเข้าไปในโพรงปากอุ่น ชัยวัตรดูดนิ้วเขาตอบเบาๆ ท่าทางตรงหน้ายิ่งทำให้เขาอยากขยี้ให้จมเตียง แต่ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เขาคุ้นเคย ศูนย์กีฬาภายในมหาลัยมีคนพลุกพล่านมากเกินไป

“อ้าขาสิครับ” เขาสอดมือหนาเข้าไปที่สะโพกสอบ

“อื้อ พอแล้ว” ชายหนุ่มส่ายหน้าพยายามถอยหนีแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเขากำลังกอบกุมส่วนอ่อนไหวอยู่

“ยังไม่พอ”

“ที่นี่มันไม่ได้!” ชัยวัตรขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยากจะต่อยหน้าไอ้เด็กบ้ากามสักหมัดสองหมัด แต่จิตใต้สำนึกกลับดันยินยอมปล่อยให้ร่างกายเขาได้รับการเสพสมจากเด็กหนุ่มตรงหน้า ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกอิ่มเอิบจากเพื่อนนอนคนนี้มากนัก

ไม่เข้าใจเลย..

“เจ็บมั้ย” เขาสอดนิ้วเข้าไปที่ช่องทางคับแคบที่ไม่มีสารหล่อลื่นเป็นตัวช่วยใดๆทั้งสิ้น เด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงแรงโอบรัดจนเขาต้องเพิ่มจำนวนนิ้วเพื่อช่วยให้คนตัวขาวไม่เจ็บมากนัก “มองหน้าผมสิ”

“ใครมันจะไปมองกัน” ชัยวัตรก้มหน้าหงุดรู้สึกเกลียดตัวเองที่ดันเคลิ้มไปกับประโยคที่ดูเป็นห่วงเป็นใยนั่น เขาค่อยๆแบะขาขาวของตัวเองออกเพื่อให้เด็กหนุ่มเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น ปฐวีเห็นท่าทางว่าง่ายของผู้กำกับแล้วรู้สึกเอ็นดูจึงก้มลงหอมข้างขมับที่เริ่มมีเหงื่อเปียกชื้น

“ร้อนแย่เลย” เขาซับเหงื่อให้ชัยวัตร

“ก็รีบทำให้มันเสร็จๆสักที กูหิวแล้ว” พูดไม่ทันขาดคำร่างกายผู้กำกับหนุ่มเริ่มกระตุกเมื่อเด็กหนุ่มแตะเข้าไปลึกถึงจุดอ่อนไหว ร่างกายสั่นสะท้านจนเผลอส่งเสียงแปลกๆออกมา “ฮื้อ..”

“จุ๊ๆ เบาสิครับ”

“มันลึกไปแล้ว...”

“ไม่ชอบหรือ” ปฐวีกดจูบแก้มขาวที่เขาชอบแอบมองบ่อยๆ มันไม่นุ่มเหมือนแก้มน้องสาวที่เขาชอบหยิกแต่เนียนลื่นมือกว่าที่คิดเมื่อเทียบกับผิวเขาที่อยู่แต่ในร่มยังหยาบกระด้างกว่าเยอะ “ได้เสียงพี่วัตรคราง ก็นึกว่าพี่ชอบ..”

“ฮื้อ..” เขาซบลงไหล่ของเด็กหนุ่มเมื่อแก่นกายอุ่นร้อนแทรกลึกล้ำเข้ามาในตัว ปฐวีประคองขาขาวให้เกี่ยวรอบเอวเขาไว้ก่อนจะเสือกไสเข้าออกเชื่องช้า “อ๊ะ...”

“พี่วัตร..”

  ได้เสียงแหบพร่าเรียกเขาว่าพี่วัตรอย่างนั้นพี่วัตรอย่างนี้เหมือนเขาหลอกเด็กมาทำมิดีมิร้ายอย่างไรไม่รู้ทั้งๆที่คนโดนล่อลวงจริงๆน่ะมันเขาต่างหาก!

 เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้องน้ำสลับกับเสียงครวญครางดังผะแผ่ว ยิ่งได้ยินเสียงคนเดินเข้าห้องน้ำหรือพูดคุยกันเด็กหนุ่มก็ยิ่งกระแทกกระทั้นเข้าออก จนเขาเกือบจะกลั้นเสียงเอาไว้ไม่อยู่ มือขาวพยายามเอื้อมไปรูดรั้งแก่นกายตัวเองให้ถึงจุดหมายเสียที แต่โดนเด็กตัวโตรวบข้อมือเอาไว้แน่น เขาขบเม้มริมฝีปากดวงตารีเรียวคู่สวยจ้องไปที่ส่วนเชื่อมต่อที่กำลังผลุบเข้าผลุบออก

“มองอะไรครับพี่วัตร” เด็กหนุ่มยิ้มกริ่มใช้ลิ้นเลียมุมริมฝีปากยามดันแก่นกายเข้าไปจนสุดแล้วถอนออกก่อนจะสอดเข้าไปลึกอีกครั้ง “ทะลึ่งจังเลยนะครับ”

“อื๊อออออออ” ชัยวัตรตัวสั่นตัวคลอนตามแรงโยกก่อนจะปลดปล่อยทั้งๆที่ไม่ได้แตะต้องเบื้องล่างเลยสักนิด สมองส่วนคิดวิเคราะห์เขามึนเบลอคิดไม่ออกขึ้นมาเสียดื้อๆ เขารู้เพียงแค่.. เขากลับไปมีเซ็กซ์กับผู้หญิงเหมือนปกติไม่ได้อีกแล้ว


แย่.. นี่มันเข้าขั้นวิกฤติชัดๆ



โซนร้านอาหารหลังมหา’ลัยในช่วงเย็นเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ออกมารับประทานอาหารและจับจ่ายซื้อของใช้ บนถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ในช่วงเวลาเร่งรีบ ชัยวัตรเดินหลบรถมอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นมาขับบนทางเท้าจนตัวเองเซไปชนกับเด็กหนุ่มตัวโตที่เดินขนาบมาไม่ห่าง

“ไหวไหมครับคุณวัตร” ปฐวีแตะช่วงเอวชายหนุ่ม “ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวผมเอามอ’ไซค์ขับออกไปส่--”

“ไม่ต้อง!” คนตัวขาวหันพูดเสียงเข้มพลางทำหน้าดุใส่ จนปฐวีต้องหยุดพูดและได้แต่มองคนข้างหน้าที่เดินกะเผกจนเขาอดสงสารไม่ได้

“อย่าดื้อสิครับ.. ผมเป็นห่วงนะ” แผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินนำเขาชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมามองเขาตาขวาง ถ้าทำได้ผู้กำกับหนุ่มคงจะบีบคอเขาไปแล้ว

 “แล้วใครมันดันทุรังทำในห้องน้ำล่ะ” ชัยวัตรบ่นอุบอิบในขณะที่กำลังเดินกระย่องกระแย่งหมดมาดนายตำรวจหนุ่มหล่อ “โอ้ย เอวกูแม่งปวดไปหมดแล้ว”

“โถ่คุณวัตร”

“อะไร”

“ไปพักที่ห้องผมก่อนแล้วกันครับ” เด็กหนุ่มเชื้อเชิญ “นอนพักสักตื่นแล้วค่อยกลับนะครับ

“ห้องมึง?” คนตัวขาวทวนซ้ำก่อนจะยิ่งขมวดคิ้วแน่น “กู-ไม่-ไป!”

“งั้นก็ไปหาอะไรทานก่อน แล้วค่อยกลับนะครับ” เขาจับจูงมือชัยวัตรไปหาร้านอาหาร ปกติเขาจะได้ศอก เข่า มาเป็นรางวัลตลอดหากรุ่มร่ามกับชัยวัตรในที่สาธารณะแต่คราวนี้ผู้กำกับหนุ่มคงจะไม่ไหวจริงๆถึงไม่มีแรงแม้แต่จะเอาคืนเขา

โคตรรู้สึกผิด..

“พี่เจ็บมากไหม”

“มึงให้กูทำบ้างไหมละ มีแรงเท่าไหร่เล่นใส่ไม่ยั้งเลย” ชัยวัตรบ่นไม่เลิกพร้อมส่งสายตาเขียวปั้ดให้ แต่ก็ยอมเดินตามเด็กหนุ่มแต่โดยดี “หิวข้าวแล้ว เร็วๆเลย”

“ครับๆ ทานอะไรดี”

“อะไรก็ได้ที่ไม่เผ็ด” เห็นท่าทางอิดโรยของชัยวัตร เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เด็กหนุ่มกุลีกุจอหาร้านอาหารจนได้ที่ต้องการ 

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คนตัวขาวเป็นที่ถูกจับจ้องเมื่อเขาพาเดินเข้าไปในร้านอาหาร แต่ผู้กำกับที่กำลังหงุดหงิดไม่ทันได้สังเกต ชายหนุ่มมองหาโต๊ะที่ว่างก่อนจะรีบเดินไปนั่งด้วยสภาพที่เรียกได้ว่าใครมาเห็นคงจะออกปากแซว

เอน็จอนาถ.....

“พี่วัตรอยากทานอะไรดีครับ” ปฐวีที่เดินตามหลังมานั่งลงตามคนตัวขาวที่กำลังนั่งมองเมนู

“สั่งให้หน่อย เอาเมนูที่ขึ้นชื่อที่สุด”

“ได้ครับ งั้นผมขอเป็นผัดพริกไก่“

“เฮ้ย กูบอกไม่เอาเผ็ดไง”

“ลองดูครับร้านนี้อร่อย.. เสร็จแล้วเดี๋ยวแวะไปอาบน้ำที่ห้องผมก่อนกลับแล้วกัน”

“เออๆ กินข้าวก่อนโคตรหิว”

“มื้อนี้ผมเลี้ยงนะ” เขาพูดเสียงเบา “โทษฐานทำคุณเหนื่อย”

“ไม่ต้อง!” ชัยวัตรหันขวับแถมจะแยกเขี้ยวใส่เขา “กูบอกว่าจะเลี้ยงก็คือเลี้ยง ห้ามขัด”

“ก็ได้ครับ”

“ไม่ต้องทำหน้าหงอยเหงาเศร้าซึม กู-ไม่-สง-สาร”

“อ้าวไอ้วี!” เขาหันไปตามเสียงเรียกก็เจอฝูงเพื่อนที่คณะนับสิบคนกำลังเข้ามานั่ง “มึงแข่งบาสเป็นยังไงบ้าง.. โทษทีว่ะไม่ได้ไปเชียร์เลย”

“ก็เหรียญทองว่ะ”

“ไอ้เหี้ยย โคตรเจ๋ง เลี้ยงอะไรพวกกูเนี่ย” พวกมันเข้ามากอดคอตบหัวเขาคนละทีสองที ร้องเย้วๆเสียงดังจนทุกคนในร้านมองกันเป็นตาเดียวไม่เว้นแม้แต่นายตำรวจหนุ่มที่มองเพื่อนเขาไม่วางตา

“เลี้ยงห่าอะไรล่ะ” เขาอยากจะไล่พวกมันออกไปไกลๆจริงๆ “ไว้ค่อยนัดเจอกันที่ร้านเดิม”

“เออๆ รีบไล่พวกกูจัง หนีบใครมากินข้าวหรือ”

“เอ่อ.. นี่คุณวัตร” เขาแนะนำอย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อเห็นหน้าตาของชายหนุ่มชัดๆพวกมันถึงกับตาลุกวาว

“เอ๊ะ พี่คนนี้หน้าคุ้นๆ” ไอ้แอลเป็นคนแรกที่ยื่นหน้าเข้าไปหานายตำรวจที่กำลังงุนงง “นี่มันพี่วัตร ผู้กำกับในเพจนายร้อยใช่ไหมครับเนี่ย ผมขอลายเซ็นไปฝากน้องสาวผมหน่อยได้ไหมครับ” มันรีบล้วงหาเศษกระดาษในกระเป๋าเป้ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอาหาร ชัยวัตรหยิบปากกามาเซ็นชื่อให้ลวกๆ ก่อนจะยื่นคืนให้เด็กหนุ่ม เขาไม่ได้รู้สึกดีใจที่ผู้ชายมาขอลายเซ็นสักนิด แต่ดูเหมือนไอ้แอลจะยังไม่หยุด มันควักโทรศัพท์ไอโฟนขึ้นมาขอเซล์ฟฟี่ยื่นหน้าแนบชิดกับนายตำรวจจนปฐวีเริ่มตากระตุก

ไอ้ห่าแอล มันจะเกินไปไหมวะ

   “ขอบคุณครับพี่ โอ้โหไอ้เหี้ยคนอะไรโคตรหล่อ” ไอ้แอลกระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนถูกหวย “ตัวจริงโคตรขาว แถมตัวหอมสัดๆ”

“ไอ้แอลไปไกลๆเลยมึง”

“มึงไปรู้จักพี่เขาได้ยังไง ไม่บอกกู!”

เรื่องอะไรกูจะบอกมึง!

เขาแค่นยิ้มใส่เพื่อนที่โวยวายใส่เขาเหมือนเด็ก ในใจลิงโลดไปไหนต่อไหนเหมือนได้เปิดตัวแฟนกับเพื่อน

“งั้นกูขอนั่งด้วย” มันหันไปยิ้มหวานเยิ้มให้ชัยวัตรที่กำลังสไลด์มือถือ “ขอนั่งด้วยนะครับพี่วัตร”

“เชิญเลยครับ” เขาตอบก่อนจะไปสนใจข้อความในโทรศัพท์

อาหารบนโต๊ะถูกทยอยนำมาวางส่งกลิ่นหอมจนนายตำรวจหนุ่มต้องหยุดจากการเล่นโทรศัพท์แล้วเริ่มรับประทานอาหารไม่ได้สนใจเด็กหนุ่มสองคนที่กำลังแอบมองอากัปกิริยาที่เป็นธรรมชาติของนายตำรวจหนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยวข้างซ้ายจนแก้มขาวตุ่ยข้างนึงเหมือนหนูแฮมสเตอร์ แถมยังกินท่าทางน่าเอร็ดอร่อยอีก คนเลือกร้านอาหารอย่างเขาก็พลอยยิ้มหน้าบานไปด้วยเมื่อเห็นคนตัวขาวเจริญอาหารขนาดนี้

“พี่วัตรรู้จักกับไอ้วีได้ยังไงหรือครับ”

“เอ่อ ก็รู้จักโดยบังเอิญ”เขาตอบอ้อมแอ้ม ไม่ลงรายละเอียดลึก

“ดีจัง ผมประทับใจพี่วัตรมาก โชคดีจังเลยนะครับที่วันนี้เราได้เจอกัน ผมชื่อแอลนะครับ เป็นเพื่อนกับไอ้วี”

“อ้อ เรียนคณะเดียวกันหรือ” เขาถาม รู้สึกว่าไอ้เด็กคนนี้มันพลังงานสูงเสียเหลือเกิน

“ใช่ครับ สอบติดรับตรงพร้อมกัน แถมยังอยู่หอใกล้กันอีก”

“นี่มึงจะมานั่งซักพี่เขาให้ขาวเลยไหมวะ รีบแดกแล้วรีบไปไหนก็ไปเลย” ปฐวีพูดขึ้นมากลางวงในใจรู้สึกคันยุบยิบเมื่อเห็นชายหนุ่มมัวแต่คุยกับเพื่อนไม่สนใจเขาเลย

“กูไม่รีบ” ไอ้แอลลอยหน้าลอยตาตอบ จนเขาเริ่มหงุดหงิดมันที่เป็นก้างขวางคอ ทั้งๆที่วันนี้ชัยวัตรตั้งใจมาดูเขาแข่งบาสแท้ๆ

“พี่อิ่มแล้วล่ะ” ชัยวัตรตอบ ลุกขึ้นยืนควักกระเป๋าเงินมาจ่ายค่าอาหาร “ไปได้ละ”

“ครับ” ปฐวีลุกขึ้นเดินตามผู้กำกับโดยมีเพื่อนที่มองตาม

“ไว้เจอกันคราวหน้านะครับพี่” มันส่งเสียงเรียก เขาได้แต่หันกลับไปชูนิ้วกลางใส่ เริ่มจะรำคาญไอ้เพื่อนตัวแสบที่ชอบมายุ่งย่ามกับชัยวัตรเต็มทน บ่อยครั้งที่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหึงหวงกับการที่ผู้กำกับหนุ่มเป็นที่รู้จักของใครต่อใครมากมาย มีคนจับจ้องตลอดเวลา เขาอยากจะเก็บ เก็บคนตรงหน้าเอาไว้ให้เป็นของเขาคนเดียว เขารู้ว่าความรู้สึกของเขามันผิด แต่ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งความรู้สึกที่พลุกพล่านในใจได้เลย

“อะไรของมึงวะ กลับแล้วทำไมไม่บอกกู!” เขารีบเดินไปหานายตำรวจหนุ่มที่กำลังโวยวาย “ไอ้คนเห็นเมียสำคัญกว่าเพื่อน!”

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”

“ไอ้หลามแม่งพาลูกเมียกลับไปแล้ว ลืมกูไปได้ยังไง” ชัยวัตรหัวเสีย หากไม่ติดเรื่องรถสปอร์ตสุดหรูของเขาที่เพิ่งเข้าอู่คงไม่ต้องรบกวนติดรถมากับเพื่อนที่ติดเมียยิ่งกว่าอะไรดีมาด้วย จริงๆเขาไม่ควรพึ่งมันตั้งแต่แรก!

“แล้วพี่จะกลับยังไงละครับ”

“เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่เอา พรุ่งนี้มีงานสำคัญ”

“ผมทำให้พี่ลำบากหรือเปล่าที่ต้องมาดูผมแข่ง” ปฐวีหน้าเสีย

“กูไม่ได้ลำบากอะไรทั้งนั้น กูอยากมาก็คือมา” ชัยวัตรตอบก่อนจะมองเด็กหนุ่มที่กำลังคลี่ยิ้มกว้าง “มีคนอยากให้กูมาดูมาก กลัวถ้ากูไม่มาแล้วจะแพ้”

“ขอบคุณนะครับ” เขากระพุ่มมือไหว้คนแก่กว่า ริมฝีปากสวยของชายหนุ่มยกยิ้มจนเขาเผลอมองนาน “ขอบคุณที่ใส่ใจความรู้สึกผม”

คนที่ไม่มีสถานะใดๆควรค่าให้ใส่ใจ

“งั้นกูกลับก่อนนะ”

“เดี๋ยวสิครับพี่วัตร” ปฐวีเรียก รู้สึกเก้ๆกังๆอย่างไรชอบกล “ค้างที่ห้องผมก่อนไหม”

“ห้องมึง?”

“แล้วพรุ่งนี้เช้าผมจะไปส่ง”

เขากดยิ้มที่มุมปากจดจ้องดวงตาเรียวรีของนายตำรวจหนุ่มตรงหน้า เด็กหนุ่มขบกรามแน่น หัวใจเต้นระรัวอยากรู้คำตอบจากคนตัวขาวเต็มทน ปฐวีรู้ตัวดี เขาไม่มีอำนาจมากพอที่จะสั่งห้ามไม่ให้คนตรงหน้าเขาไปทำภารกิจเสี่ยงอันตราย และไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะช่วยอะไรได้ เขาเป็นนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่งที่อยากจะดูแลและปกป้องผู้ชายตรงหน้านี้..

ได้โปรด ขอโอกาสให้ผมด้วย


TBC

เหมือนพายจะลืมลงตอนพิเศษให้ แหะๆ เด่วจะแวะมาลงให้อ่านนะคะ :hao5:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีคนซึนว่ะ

ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ทำไมชอบความเอาแต่ใจปากร้ายแต่ก็รักของวัตร แล้วชอบความอบอุ่นของวีอ่ะ

ถึงจะอ่อนกว่าแต่ก็ตามใจพี่วัตรตลอด

ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ขำพี่หลามอ่ะ ทำไมร้ายแบบนี้ส่งลุกไปหาแม่ ๕๕๕๕๕๕

หวังว่าพี่ชุคงถอยทัพกลับไปนะ อย่าได้มายุ่งกับลูกเป็ดเชียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ koko0540

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีต่อใจจริงๆเลยย   :-[

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๑๘

 “และผู้ที่ได้รับรางวัลป็อบปูล่าโหวตได้แก่.. ”

“...”

“น้องลินท์จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ค่ะ” จบประโยคของพิธีกรเสียงปรบมือพร้อมเสียงร้องเชียร์ก็ดังก้องทั่วทั้งหอประชุม “ขอเสียงปรบมือให้กับน้องลินท์ด้วยนะคะ”

เขามึนงงกับแสงแฟลชและสปอร์ตไลท์ที่สาดผ่านทำให้ดวงตาเขาจับจุดโฟกัสได้ไม่ชัดเจนนัก กรวิชญ์ตบไหล่เขาสองสามทีก่อนจะพยักหน้าให้ เรียวขายาวสั่นน้อยๆยามเดินมายืนกึ่งกลางเวที ทุกคนจับจ้องเขาตามด้วยเสียงกรีดร้องเซ็งแซ่จากผู้ชมที่อยู่ด้านหน้า นี่มันต้องมีเรื่องอะไรผิดพลาดแน่ๆ เขาเนี่ยนะจะได้รางวัลคะแนนโหวตสูงที่สุด พิธีกรที่เห็นเขาทำหน้าไม่เข้าใจพูดถึงคะแนนของเขา ก่อนจะฉายรูปเขาขึ้นโปรเจคเตอร์พร้อมแสดงจำนวนไลค์และจำนวนแชร์หลักหมื่น ใต้คอมเม้นมีรูปเขาที่กำลังอุ้มไทเกอร์หยอกล้อกันบนเวที เขารู้สึกได้ว่าตัวเองมือสั่นและเย็นเยียบไปหมด รูปค่อยๆเลื่อนลงมาจนกระทั่งเจอรูปที่เขากังวลมากที่สุด

รูปที่ฉลามบรรจงหอมแก้มเขาหน้าเวที

หัวใจหล่นวูบแทบจะล้มทั้งยืน เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร จะมองเขาอย่างไร แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เขาต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ รู้สึกปวดหัวตุบๆ คนอย่างเขาชอบที่จะอยู่เงียบๆไม่เป็นที่สนใจของใคร มากกว่าให้มาจับจ้องเขามากนัก เขาไม่ชอบ ไม่ชอบเลยจริงๆ

“ตอนแรกพี่ก็คิดนะคะว่ากระแสคู่จิ้นเกี๊ยมลินท์มาแรงแซงโค้งมากๆ.. กลายเป็นเปิดตัวคู่เรียลไปซะได้” พิธีกรหัวเราะคิกคักก่อนจะหลีกทางให้เขา มีทีมงานคอยช่วยเขาสวมสายสะพาย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเขาไม่ทันตั้งตัว… ผลประกาศรางวัลต่อๆไปผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเดือนมหาลัยก็เป็นของคณะแพทย์ที่เป็นตัวเต็ง ส่วนกรวิชญ์ได้รองอันดับหนึ่งถือว่าคะแนนมาสูสีกันเลยทีเดียว

“แม่!”

“ไทเกอร์”

“แม่จ๋า-----” เด็กชายวิ่งเข้ามาเกาะขาก่อนจะช้อนตามองเขา “กลับบ้านนนนน”

“หิวไหมครับลูก” เขาช้อนรักแร้ลูกชายแล้วยกขึ้นอุ้ม เด็กชายยื่นหน้าจุ๊บแก้มเขาเบาๆ “ฮื่อ จั๊กจี๋นะครับ” ไทเกอร์รวบต้นคอแม่เข้ามาใกล้แล้วซุกเข้าซอกคอก่อนจะหลับตานิ่ง เขาโยกตัวลูกชายไปมา เห็นเจ้าตัวแสบใช้พลังไปเสียเยอะคงจะเหนื่อยอยากจะนอนเต็มที

“ยินดีด้วยนะครับ สำหรับรางวัล”

“..” เขาไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีเมื่อเห็นนายทหารหนุ่มยิ้มหวานให้ ตอนแรกที่เขาอยากจะทุบชลธีให้น่วมแต่พอเข้าจริงๆก็ใจอ่อนจนได้

“ลินท์ คุยกันก่อน”

“พี่มีอะไรกับลินท์ก็พูดมา”

“พี่คิดถึง”

อืม.. ใจอ่อนยวบอย่างกับน้ำผึ้งโดนลนไฟ

“แค่นี้หรอ”

“พี่อยากนอนกอดลินท์”

“แล้วไงต่อ”

“พี่หวงลินท์”

ให้ตายเหอะ เขากลั้นยิ้มจนแก้มเขาจะแตกแล้ว สงบใจไว้..

“อื้อฮึ”

“พี่ไม่ชอบให้ใครเข้ามาใกล้ลินท์ทั้งนั้น พี่ขึ้หึงลินท์ก็รู้”

“ทหารเขาขี้หวงกันทุกคนเลยหรือ”

“คนอื่นพี่ไม่รู้ แต่พี่อะใช่” ชลธีจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมของคนรัก “พี่หวงก็เพราะรัก”

อือ ตายไปเลย….

“ก็เลยอยากให้คนอื่นรู้” เขาอุ้มลูกชายที่กำลังงัวเงียเดินไปทางที่จอดรถ “รู้กันทั้งมหาลัยเลยด้วย”

“แล้วไม่ดีหรือ” นายทหารหนุ่มที่เดินตามมารีบมาเดินขนาบข้างเขาพร้อมทำเสียงตัดพ้อ “หรือไม่ชอบให้พี่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พี่จะได้ไม่ทำอีก”

มันก็ต้องรู้สึกดีอยู่แล้วถ้าหากคนรักแสดงอาการหึงหวงหรือเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเรา มันก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคงจะรักเรามาก เออ ไอ้ลินท์ แก้มเอ็งจะแตกแล้ว

“ก็… ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ” เขาทำเป็นไม่สบตาชลธี “แต่พี่ไม่ห่วงสถานะตัวเองหรือ” ใครจะมองเขาอย่างไรเขาไม่เคยสนใจอยู่แล้ว เด็กสลัมที่ถูกคนอื่นมองด้วยสายตาเวทนา น่าสงสาร ไร้ค่าอย่างเขา เฉยชากับสายตาคนอื่นมาตั้งนานแล้ว แต่ชลธีไม่ใช่ เขามีหน้ามีตาในสังคมมีคนรู้จักมากมาย หากรูปแพร่กระจายไป ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือจะรับได้หรือ ถ้ามันส่งผลกับการทำงานล่ะจะเป็นยังไง แค่คิดเขาก็รู้สึกแย่แล้ว

“พี่ไม่สน” ชายหนุ่มตอบเสียงหนักแน่น “แต่ก่อนพี่แคร์นะ พี่แคร์สายตาคนรอบข้างว่าเขาจะมองพี่ยังไง ลูกน้องพี่จะมองยังไง ผู้บังคับบัญชาเบื้องบนจะรับได้ไหม”

“แล้วพี่ทำแบบนี้ทำไม ถ้ามันทำให้พี่ต้องลำบากใจ”

“ลินท์ ฟังพี่นะ พี่ทำงานพี่ใช้ความสามารถของพี่ล้วนๆ” เขาสบตาคนรัก “พี่ไม่จำเป็นต้องแคร์ คนที่พี่ควรแคร์มากที่สุดคือลินท์และลูก ครอบครัวของเรา”

“พี่แน่ใจนะว่าพี่จะไม่เสียใจทีหลัง” เขายอมรับว่าตัวเองกังวลมากและไม่อยากให้ชลธีต้องมาเดือดร้อนเพราะตัวเอง “ลินท์ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ” ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเรื่องรักร่วมเพศในสังคมทหารมีอยู่อย่างลับๆถึงจะไม่มีการลงโทษอย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็ถูกกีดดันต่างๆนาๆ

“พี่ก็แค่ลาออก”

“จะบ้าหรอ!” เขาเหวใส่ “ลินไม่ยอมแน่ ลินท์ไม่ยอมให้พี่ทิ้งสิ่งที่พี่รักมาหาลินท์หรอก”

“ลินท์ห้ามพี่ได้หรือ.. ลินท์จะใจร้ายทิ้งพี่ได้ลงคอหรือ”

“แต่ลินท์ไม่อยากเห็นพี่ทรมาน มีคนอีกมากที่ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของเราและคอยตั้งคำถาม”

“ก็ให้เขาตั้งไปสิ พี่เหนื่อยกับการทำตามความคาดหวังของสังคมเต็มทน” เขาพยายามอธิบายให้เจ้าลูกเป็ดเข้าใจความรู้สึกของเขาและเลิกปกป้องเขาสักที “ลินท์ พี่ก็คือคนนะ พี่ก็เป็นมนุษย์คนนึงที่มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป ลินท์จะให้พี่เก็บลินท์เอาไว้ข้างหลังไปอีกนานแค่ไหน”

“...”

“พี่จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกคนที่พี่รัก”

“ในเมื่อพี่เลือกแบบนี้ลินท์ก็จะไม่ห้ามอีก”

“อยู่ให้พี่รักก็พอ แค่อย่าทิ้งพี่กับลูกไปได้ไหม”

มันคือคำขอร้องจากผู้ชายคนหนึ่ง

“ลินท์จะไปทิ้งคนที่ลินท์รักได้ยังไง ชีวิตของลินท์สมบูรณ์ได้ก็เพราะพี่และลูกเข้ามา ลินท์ต่างหากที่ต้องบอกพี่ว่าอย่าทิ้งลินท์ไป” ความรู้สึกอัดแน่นที่อยู่ในอกแทบจะทะลักทลายออกมาเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ

“อย่างนั้นลินท์ก็ห้ามดูถูกตัวเองอีกได้ไหม ถือว่าพี่ขอ”

“อื้อ”

“ลินท์มีค่ากับพี่กับลูกมากขนาดไหน ลินท์น่าจะรู้” เขาลูบหัวเด็กหนุ่ม “ชีวิตนี้พี่คงไม่มีเวลาให้ลินท์มากนัก พี่คงทำอะไรที่ลินท์ต้องการไม่ได้มากมาย แต่ลินท์เชื่อพี่เถอะ ถ้าพี่ได้รักใครแล้ว พี่จะขอรักไปจนตาย”

“...”

“แต่ว่าหากพี่กลับมาไม่ได้ ลินท์จะลืมพี่ก็ไม่เป็นไร”

“ฮึก ทำไมพี่ต้องพูดแบบนี้”

“พี่ขอโทษ.. ไม่ร้องนะคนดี” เขาโอบกอดคนตัวเล็กกว่าลูบหลังที่กำลังสั่นน้อยๆเพราะแรงสะอื้น เขาไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรรุนแรงเกินไปหรือเปล่า “ถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากอยู่กับลินท์และลูกให้นานกว่านี้” เวลาของเขามันใกล้จะหมดเต็มที หลังจากนี้เขาต้องกลับไปรับใช้ชาติกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์ที่กำลังรอเขาอยู่ หนทางข้างหน้าดูยาวไกลและมีแต่อุปสรรคเหลือเกิน เขานึกกลัว กลัวจะไม่มีโอกาสได้โอบกอดคนรักเช่นนี้อีก

“พี่จะต้องกลับมาสิ พี่สัญญากับลินท์แล้ว” มุจลินท์พูดทั้งน้ำตา “แค่ครึ่งปีลินท์รอได้ แต่อย่าให้ลินท์เลิกรอพี่เลย.. นะครับ”

“พี่สัญญา พี่จะกลับมาหาลินท์” เขากดจมูกลงกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มก่อนจะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกจากดวงตาคู่สวย เด็กหนุ่มซุกเข้าอกเขาแน่น ชลธีเห็นคนรักร้องไห้ปานจะขาดใจเขาก็ทำได้แค่ปลอบโยนเท่านั้น เรื่องอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และไม่อาจคาดเดา

พี่จะกลับมา.. แม้จะเหลือเพียงร่างที่ไร้ลมหายใจ..
   

   “เดี๋ยวก่อนลินท์” เขาถูกผลักลงบนที่นอนพร้อมกับริมฝีปากเล็กที่ตามมาบดจูบเขาอย่างไร้เดียงสา เขาไม่ได้จูบตอบเจ้าลูกเป็ดที่เริ่มก่อนอย่างรีบร้อน “ฮื่อ ลินท์ มันจะดีหรือ” เขาตอบเสียงพร่ามองคนรักที่กำลังบรรจงแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาออก ผิวขาวเนียนและยอดอกที่เขาคุ้นเคยเปิดเผยต่อสายตา รู้สึกปวดหน่วงตรงท้องน้อยยามที่ริมฝีปากเล็กใช้ลิ้นแตะเบาๆที่แก่นกาย

“ดีสิ” เขานิ่งอึ้งมองริมฝีปากเล็กกำลังกลืนกินจุดอ่อนไหว เขาเกร็งหน้าท้องแน่นบังคับตัวเองไม่ให้ขยับสะโพกผ่านโพรงปากเล็ก

แม่งเอ๊ย.. โคตรเอ็กซ์

“ลินท์ครับ วันนี้พี่ว่าเราพอก่อนไหม” เขาเอื้อมไปแตะศีรษะคนรักก่อนจะเจอสายตาดุที่ส่งมาให้ มุจลินท์ใช้มือขาวปาดน้ำสีใสที่ยืดออกจากริมฝีปากเป็นทางยาว “ลินท์เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะครับ” เขาเห็นท่าทางอิดโรยของคนรักตั้งแต่นั่งรถกลับมาคอนโด ไม่รู้ว่าสาเหตุที่เจ้าตัวลุกขึ้นมาทำแบบนี้เป็นเพราะที่คุยกันก่อนกลับหรือเปล่า เขาอยากให้คนรักพักผ่อน ได้ฟื้นฟูร่างกายที่ผ่านการซ้อมเหนื่อยล้ามาทั้งอาทิตย์

“ลินท์ไม่เหนื่อย” เจ้าตัวพูดพร้อมกับปลดกางเกงสแล็คสีดำเข้ารูปกองลงไปกับพื้น แยกเรียวขาขาวก่อนจะนั่งทับลงบนแกนกายนายทหารหนุ่มที่กำลังโป่งพอง มือขาวลูบไล้ส่วนอ่อนไหวจนจนชลธีกัดฟันกรอด

“ละ ลินท์ ไว้วันหลังเถอะ”

“ไม่!” เด็กหนุ่มตอบเสียงดังก่อนจะกดจูบถูไถไปตามซอกคอนายทหารหนุ่ม ท่าทางเก้ๆกังๆไม่ประสีประสาของเจ้าลูกเป็ดยิ่งทำให้ชลธีแทบคลั่ง

“ลินท์ถือว่าพี่ขอเถอะ วันหลังนะ”

ชลธีไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเดิมทีนายทหารอย่างเขาเวลาทำงานก็ไม่ได้มีเวลาจะปลดปล่อยความสุขให้ตัวเองมากนัก เขาจึงสามารถที่จะสกัดกลั้นอารมณ์ได้พอสมควรแต่พอมาเจอคนรักที่ยั่วยวนเรียกร้องให้เขากอดแบบนี้

ใครมันจะไปอดใจไหว!


ห่างหายกันไปเป็นอาทิตย์เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะรุนแรงกับลูกเป็ดมากขนาดไหน ถึงได้พร่ำบอกมุจลินท์ให้หยุดสักที แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่สนใจเขาเลยสักนิด ใบหน้าสวยเชิ่ดขึ้นเมื่อค่อยๆกดสะโพกลง สอดแกนกายเข้าช่องทางรักที่อุ่นร้อน ชลธีเกร็งจนหน้าท้องแข็งปั๋งมองเจ้าลูกเป็ดที่ตัวแดงไปทั้งตัว สะโพกเล็กค่อยๆขยับขึ้นลงเชื่องช้า มือขาวค่อยๆสอดเข้าที่รอบคอนายทหารหนุ่ม เสียงครวญคราวดังผะแผ่วที่ข้างหู เด็กหนุ่มบดเบียดเข้ากับร่างกายเขา

“ฮื่อ พี่ฉลาม.. พี่ อ๊ะ”

“ลินท์” เขาโอบกอดคนรัก “ไหนบอกพี่ซิเป็นอะไร”

“ลินท์อยากเป็นของพี่”

“ก็เป็นอยู่แล้ว” เขากดจูบข้างแก้มเด็กที่ชื้นเหงื่อ “เป็นของพี่คนเดียว”

“ยะ.. ยังไม่พอ อ๊า” ใช้เล็บจิกเข้าที่ไหล่นายทหารหนุ่มเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่าน “ลินท์อยากให้พี่อยู่ด้วยในตัวลินท์เยอะๆ”

แม่งเอ๊ย... ชักทนไม่ไหว

“ทำไมล่ะ.. ลินท์กลัวอะไร บอกพี่ได้ไหม”

“กลัวพี่ไม่กลับมา.. อ๊ะ กลัวพี่ทิ้งลินท์ไป”

“พี่ไปทำงาน ไม่ได้ไปหาสาวที่ไหนสักหน่อย” เขาสูดปากพยายามอดทนไม่ให้จับคนรักกดลงบนเตียงแล้วเผลอทำอะไรรุนแรง “พี่ไปทำงาน ไปแต่ตัวแต่หัวใจอยู่ตรงนี้” เขากดจูบลงแผ่นอกของเด็กหนุ่มที่ขยับขึ้นลง

“พี่ไปตั้งนาน พี่จะลืมลินท์หรือเปล่า”

“ไม่ลืม พี่ไม่มีวันลืมลินท์เด็ดขาด”

“อ๊ะ อ๊า จริงนะ”

“จริงสิครับ” เจ้าลูกเป็ดที่เรียนรู้ได้ไวจนเขาทึ่งเริ่มจะขยับรัวเร็วจนเขาต้องกัดฟันกรอด “ลินท์สิจะลืมพี่ มีหนุ่มๆมาเกาะแกะตลอด คงไม่อยากรอพี่เข้าสักวัน”

“ไม่มีทาง พี่ไม่รู้หรอว่าลินท์รักพี่แค่ไหน”

“อือ แล้วแค่ไหนละครับ”

“รักมาก อ๊ะ อ๊ะ รักจน.. รักใครไม่ได้อีกแล้ว” เขามองเด็กหนุ่มที่เม้มปากแน่นก่อนจะจูบพรมไปทั่วใบหน้าค่อยๆเกลี่ยน้ำตาที่ไหลลงข้างแก้ม รู้สึกสงสารมุจลินท์จับใจ เขาเข้าใจความรู้สึกที่ไม่อยากสูญเสียนี้ดี

“พี่ก็รักลินท์เหมือนกัน” นายทหารหนุ่มพลิกตัวให้เจ้าลูกเป็ดอยู่ใต้ร่าง ขบกัดตามตัวเด็กหนุ่มจนขึ้นรอยแดงไปทั่ว ขยับเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความดุดัน ฝากฝังความรักอัดแน่น เสียงร้องประสานสลับเสียงกระทบร่างกายพร้อมคำบอกรักที่ผลัดกันพูดอย่างไม่รู้จบ คนสองคนใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขจดจำความรู้สึกผูกพันที่เอ่อล้นเต็มหัวใจตราบนานเท่านาน

จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง..

(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5

(ต่อจากด้านบน)

มุจลินท์ขยับตัวใต้ผ้านวมอย่างเมื่อยล้า บริเวณช่วงสะโพกปวดหนึบไปหมดจนไม่อยากจะลุกไปไหน เมื่อคืนไม่รู้ว่าเขาเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้รุกชลธีอย่างนั้น เขาไม่น่าหาเรื่องหลวมตัวเข้าปากฉลามเลย มีแต่เสียกับเสีย รู้สึกเขินอายจนเอาหน้าซุกเข้ากับหมอนนุ่ม แต่พอนึกได้ว่าจะต้องไปดูลูกชายเขาก็ผุดลุกขึ้นมาทันที

“โอ๊ย” ไม่ทันขาดคำเสียงร้องโอดโอยก็ตามมา ยิ่งเมื่อผ้านวมหลุดลุ่ยออกจากร่างกาย รอยจ้ำแดงทั่วตัวก็ปรากฏแก่สายตาจนเขาอดจะอุทานออกมาไม่ได้ “เห้ย!” พลิกแขนขาว ก้มลงมองแผงอก หน้าท้อง ต้นขาด้านใน ไม่มีตรงไหนที่ไม่มีร่องรอยรัก

“ลินท์” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาคนรักที่กำลังสำรวจร่างกาย นายทหารหนุ่มกดยิ้มตรงมุมปากลึก เห็นเจ้าลูกเป็ดตกใจก็นึกขำ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ “ตื่นแล้วหรือ ลุกไหวไหมครับ?”

“ลูกละครับ”

“กินข้าวเสร็จแล้วตอนนี้นอนดูการ์ตูนกับคุณยายน่ะ” เขาตอบ ก่อนจะหันไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวให้คนรัก เห็นสภาพมุจลินท์แล้วเขาก็คิดว่าตัวเองทำหนักเกินไปจริงๆ ก็ใครใช้ให้เจ้าลูกเป็ดยั่วยวนเขาขนาดนั้นเล่า ชลธีใช้หลังมือแตะหน้าผากไล้ลงมาซอกคอของเด็กหนุ่ม 

ตัวไม่ร้อน โชคดีที่ไข้ไม่ขึ้น…

“อะเอ่อ” เด็กหนุ่มช้อนตามองคนรักก่อนจะรับผ้าขนหนูขึ้นมาถือ “เดี๋ยวลินท์ไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

“ไหวนะ?”

“วะไหวสิ ลินท์ไม่ได้เป็นอะไร”

“ก็เห็นร้องโอดโอย”

“ไม่เห็นมีใครร้องสักหน่อย”

“สงสัยพี่ต้องทำห้องเก็บเสียงแล้วล่ะมั้ง”

“ไม่เห็นจำเป็นเลยครับ” เขาก้มหน้างุดไม่รู้จะเอาหน้าไปที่ไหน รู้เพียงแค่เมื่อคืนเขาปลดปล่อยอารมณ์ไปเต็มที่ไม่ได้กลั้นเสียงเหมือนทุกที ไม่รู้จะมีใครได้ยินหรือเปล่า เขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนจริงๆ

“เย็นนี้พี่จะพาไปเที่ยวนะ” เขากระซิบข้างหูคนรัก “อาบน้ำให้ตัวหอมๆเลยเดี๋ยวพี่มารับ”

“พี่จะไปไหนหรือครับ”

“ไปเอาชุดครับ” ชลธีพูดแค่นั้นก็หายไปจากห้องปล่อยให้เขานั่งสงสัยอยู่อย่างนั้น เด็กหนุ่มค่อยๆขยับตัวกลิ้งลงจากเตียงแข้งขาสั่นไปหมดเมื่อต้องพยุงน้ำหนักพาตัวเองไปห้องน้ำ เขาก้มลงมองต้นขาไม่มีคราบสกปรกเลยสักนิดจึงรู้ทันทีว่าคนรักช่วยกำจัดน้ำรักออกจนหมดแล้ว

อายชะมัด...

ขัดตัวไปก็เขินไปถูอย่างไรรอยแดงก็ไม่หายสักทีจนผิวขาวเขาแดงเถือกไปทั้งตัว จ้องมองตัวเองในกระจก ดวงตาสีน้ำตาลเทาคู่สวยกำลังจ้องตอบ ริมฝีปากบางและจมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าหวาน มือขาวเอื้อมไปแตะตัวเองในกระจกที่ใบหน้าไล่ลงมาที่คอขาวก่อนจะมาหยุดที่รอยจ้ำแดงบนแผงอก เด็กหนุ่มนึกอายอีกรอบเมื่อภาพเมื่อคืนกรอไปมาในหัวไม่หยุด

มุจลินท์รีบอาบน้ำแต่งตัวออกมาหาคุณยายและลูกชายที่ห้องรับแขก เสียงหัวเราะคิกคักของไทเกอร์ดังขึ้นมาเป็นระรอกยิ่งทำให้เขารีบสาวเท้าเข้าไปหาลูกชาย

“ไทเกอร์ครับ ทำอะไรอยู่เอ่ย” เขาชะงักเมื่อเห็นผู้ชายตัวโตผิวเข้มกำลังอุ้มลูกชายเขาอยู่ “อะ เอ่อ พี่หมวดปาน สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับคุณลินท์” ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีขาวแขนยาวเต็มยศ ตัดกับผิวสีเข้มชัดเจน เครื่องหมายเต็มอกทั้งซ้ายและขวาพร้อมแพรแถบ กระบี่ยาวสีเงินถูกวางอยู่ไม่ห่าง “ไม่ต้องตกใจนะครับ ผมมารับคุณลินท์แทนพี่ฉลามเอง”

“ระรับไปไหนหรือครับ” เขาถามละล่ำละลักพลางหันไปมองหน้าคุณยาย “ลินท์ขอคุยกับพี่ฉลามก่อนได้ไหมครับ”

“พี่ฉลามให้ผมมารับคุณลินท์ ถ้าผมไปงานโดยไม่มีคุณลินท์ ผมตายแน่” ชายหนุ่มร้องโอดโอยวางเด็กชายลงบนโซฟาสีครีมก่อนจะหยิบถุงชุดให้เขา ด้านในเป็นสูทสีเทาพร้อมเนคไทครบชุด

“ต้องใส่ด้วยหรือครับ”

“ครับ พี่ฉลามเป็นคนจัดหาและเลือกด้วยตัวเองเลยครับ”

“บอกได้ไหมครับว่างานอะไร”

“งานเลี้ยงธรรมดาทั่วไปครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมยิ้มโชว์ฟันขาวเป็นระเบียบ “รีบไปแต่งตัวเถอะครับ เดี๋ยวเราจะไปไม่ทัน” เขาโดนดุนหลังให้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ส่วนคุณยายกำลังปลี่ยนชุดให้ลูกชายที่กระโดดโลดเต้นดีใจจะได้ไปเที่ยว เขายืนมองชุดอยู่ครู่นึงก่อนจะรูดซิบเอามาทาบกับตัวเอง

เอาก็เอาวะ…

เขาใส่ชุดอย่างทุลักทุเลเพราะชุดขนาดพอดีตัวมากจนแนบไปรูปร่าง หันซ้ายหันขวาอยู่หน้ากระจกก่อนจะออกจากห้องมาเจอลูกชายในชุดสูทขาสั้นสีเทาเหมือนกับเขาและติดหูกะต่าย ช่างน่ารักเหลือเกิน จนเขาอยากจะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายเดี๋ยวนี้

“คุณลินท์..”

“พี่ปานเรียกลินท์เหมือนที่เคยเรียกเถอะ มาเรียกคุณๆแบบนี้ลินท์ไม่ชินเลย” เขาพูดพลางอุ้มลูกชายขึ้นแนบอก มองหน้าชายหนุ่มที่ดูกระอักกระอ่วน

“จะให้พี่เรียกคุณนายเสมอตัวได้ยังไง”

“พี่ปาน!”

“ต่อหน้าพี่ฉลามก็ให้พี่เรียกคุณก็แล้วกัน เดี๋ยวกบาลพี่จะแยกออกเป็นสองส่วน” ปานชีวันหน้างอง้ำโดนเบื้องบนสั่งให้มารับลูกกับเมียไม่พอยังสั่งนั่นสั่งนี่จนเขาจำไม่หวาดไม่ไหว แม้ตอนแรกๆปานชีวันจะตกใจเรื่องความสัมพันธ์ของชลธีและเด็กหนุ่มแต่เขาก็ยอมรับในการตัดสินใจของรุ่นพี่ “คนอะไรโหดชิบหาย! อย่าไปฟ้องนะลินท์ พี่ตายแน่!”

“ตาย แน่ ตาย แน่” ลูกชายร้องตามคุณอาเสียงดังจนเขาแทบจะหลุดหัวเราะออกมา

“อย่าไปแซวคุณอาสิครับ”

“แฮ่ๆ” ไทเกอร์หัวเราะคิกแลบลิ้นใส่คุณอาที่หน้าดำสลับแดง “คูนป๊าจายดี”

“สวัสดีคุณยายก่อนครับ บอกคุณยายหน่อยลูกว่าเราจะไปไหนกัน”

   “หวัดดีคร้าบคูมยาย เกอร์ไปเที่ยวกับแม่ลีนน้า” เด็กชายกระพุ่มมือไหว้คุณยายก่อนจะกันมาถามเขา “คูนยายไม่ไปด้วยหรอครับแม่”

“ไปเที่ยวกันให้สนุกเถอะลูก” คุณยายลูบหัวลูบหางหลานชายตัวเล็ก เด็กหนุ่มรู้ว่าคุณยายติดหลานชายคนใหม่มากแค่ไหน “เดี๋ยวยายรออยู่นี่นะเกอร์ ไปกับแม่ไม่ดื้อไม่ซนนะลูกนะ”

“คร้าบผม”

“ลินท์ไปก่อนนะครับ” โผเข้ากอดคุณยายหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาจนพอใจ เด็กชายโบกมือให้คุณยายพร้อมยิ้มหวานให้ไม่ขาด “ไปกันครับพี่ปาน”

ปานชีวันเป็นพลขับหนึ่งวัน ปกติเขาก็เป็นคนขับรถให้ชลธีอยู่แล้วในวันที่ต้องออกราชการนอกพื้นที่หรือไปประชุมต่างจังหวัด เหลือบมองกระจกรถเห็นเด็กหนุ่มกำลังกล่อมเด็กชายให้นอนบนตัก สายตาอ่อนโยนที่ส่งผ่านนั้นทำเอาเขาตกตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อก่อนเขาเคยมีโอกาสได้ดูแลเกศราและไทเกอร์และรับรู้พฤติกรรมของหญิงสาวมาก่อน รายนั้นหัวสูงเย่อหยิ่งไม่เคยคิดจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ชอบเข้างานสังคมและงานสังสรรค์ยิ่งอยู่ในสังคมคุณหญิงคุณนายด้วยแล้ว มักจะเจอเกศราทุกครั้งไป เขาแอบนึกคิดในใจอยู่เหมือนกันรู้สึกสงสารหลานชายที่จะขาดแม่แต่พอมาเจอเด็กหนุ่มคอยเอาใจใส่ดูแลไทเกอร์ยิ่งกว่าไข่ในหิน เขาก็เบาใจ อดคิดอกุศลไม่ได้ว่าลูกพี่คนเก่งของเขาไปเจอพี่เลี้ยงเด็กคนนี้มาจากไหน

อยากได้บ้างวุ้ย 

เขาไม่เคยนึกรังเกียจเลยสักนิด มันเป็นเรื่องรสนิยมส่วนบุคคล และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่กลับชอบมีคนมาเดือดร้อนแทน เขาก็ได้แต่หวังว่าชลธีจะสามารถปกป้องดูแลเด็กหนุ่มจากคนไม่หวังดีที่จ้องจะทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้

“ไทเกอร์หลับง่ายแฮะ”

“คงเหนื่อยที่เล่นกับพี่ปานน่ะสิครับ” ลักยิ้มแก้มข้างซ้ายบุ๋มลงยามเด็กหนุ่มกดยิ้ม ทำเอาปานชีวันหลบรอยยิ้มพิฆาตแทบไม่ทัน “ที่ที่เราจะไปอยู่ไกลไหมครับ”

“ไม่ไกลหรอกลินท์ โรงแรมอยู่ข้างหน้านี่เอง”

“หรอครับ” เด็กหนุ่มขยับตัวให้ลูกชายได้นอนสบายตัว มือลูบกลุ่มผมหยักศกนุ่มมือของลูกชายแผ่วเบา “ใจคอจะไม่บอกจริงๆหรือครับพี่ปานว่ากำลังจะพาลินท์ไปงานอะไร”

“งานเลี้ยงน่ะ” ปานชีวันตอบก่อนจะหันไปสนใจทางข้างหน้าแทน “งานเข้าสังคมพบปะทั่วไป ไม่ใช่งานใหญ่โตอะไร” มุจลินท์นิ่งฟังรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ที่ชลธีพาเขาออกงานไม่ใช่อยากจะพาไปเปิดตัวกับคนอื่นอย่างที่เขาคิดหรอกใช่ไหม

“…”

“ไม่ต้องกังวลไป ไม่มีอะไรหรอกน่า” เขาไม่ได้บอกมุจลินท์ถึงรายละเอียดงานมากไปกว่านี้เพราะไม่อยากให้เด็กหนุ่มเป็นกังวล หน้าที่นอกเหนือจากการขับรถเขาไม่รู้ด้วยแล้ว!

“จะดีหรือพี่ปาน ลินท์เริ่มไม่อยากไปแล้วนะ”

“เห้ย ไม่ได้” ปานชีวันร้องลั่น เกิดเด็กหนุ่มไม่ยอมไปเขาต้องแย่แน่ งานนี้ตายแบบไม่เห็นศพ “ไปก่อนเถอะ คิดซะว่าพาไทเกอร์ไปเที่ยว”

“แต่ลินท์ไม่เคยไปงานพิธีรีตองแบบนี้” ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยออกงานอย่างคนอื่นเขา วางตัวไม่ถูกเลยจริงๆ แค่คิดว่าจะต้องเป็นจุดสนใจของคนอื่นมือไม้ก็เย็นเฉียบขึ้นมาแล้ว

“ใจเย็นๆก่อน พี่จะอยู่ด้วยไม่ต้องห่วง”

“ครับ”

รถราสัญจรผ่านไปมาบนท้องถนนแน่นขนัดและขยับตัวเชื่องช้า เขานั่งนิ่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนปานชีวันเลี้ยวรถยนต์เข้าโรงแรมหรูใจกลางเมือง ตึกสูงหลายสิบชั้นตั้งตระหง่านท่ามกลางความเจริญของเมืองหลวง ห้อมล้อมไปด้วยตึกสูงเรียงรายขนาบทั้งสองข้าง เขาปลุกลูกชายที่กำลังนอนหลับให้ตื่นแล้วอุ้มลงจากรถ ไทเกอร์ตื่นเต็มตาเมื่อเห็นคนพลุกพล่าน บริเวณด้านในของโรงแรมประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู โคมไฟแชงเดอร์เรียส่องแสงระยิบระยับบนเพดานจนลูกชายต้องแหงนคอมองชี้มือชี้ไม้ใหญ่ ปานชีวันเดินนำเขาขึ้นลิฟต์ ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบขาวแขนยาวถือกระบี่เงินยาวท่วงท่าสง่างามทำเอาสาวๆที่เดินผ่านเหลียวหลังมองจนคอแทบหัก

เขามาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงตามที่ปานชีวันบอก เด็กหนุ่มกวาดตามองอย่างรวดเร็ว เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ที่จุคนได้หลายร้อยคน มีเวทีประดับด้วยช่อดอกไม้สีสันสวยสดใสมีซุ้มถ่ายรูปและโต๊ะลงชื่อ และมีซุ้มอาหารแบบค็อกเทลคอยให้บริการ

งานแต่ง?


“ลินท์รอตรงนี้นะ” ปานชีวันบอก ชายหนุ่มกำลังมองหาชลธี เขาอุตส่าห์พาลูกกับเมียมาส่งแล้วไม่รู้เจ้าตัวไปอยู่ไหน เขาจะต้องไปเตรียมทำซุ้มกระบี่นะ!

“พี่ปาน ไหนบอกจะอยู่กับลินท์ไง” เขาวางลูกชายลงจับจูงมือเล็กไว้แน่น “ลินท์ไม่รู้จักใครเลยนะ” เขาไม่ชอบเลยต้องมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่รู้จักใคร

“พี่ฉลามกำลังมา ส่วนพี่ต้องไปเตรียมทำซุ้มกระบี่ ลินท์รอตรงนี้ โอเค๊?” ปานชีวันพูดรัวเร็วก่อนจะแยกไปอีกทาง เขายืนนงเป็นลูกเป็ดตาแตก

เขาจูงมือลูกชายไปโซนค็อกเทลได้น้ำผลไม้มาหนึ่งแก้ว เป็นน้ำส้มคั้นแก้วเล็กเสียบหลอดให้ลูกชายค่อยๆดื่ม ไทเกอร์ชอบมากร้องขอจะเอาอีก เขาชะงักเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอคนรักในชุดเครื่องแบบสีขาวแขนยาวพอดีตัว ชุดเครื่องแบบแนบไปกับรูปร่างสูงหนา ชลธีจุดยิ้มมองเจ้าลูกเป็ดที่ไม่กล้าสบตาเขา ชุดสูทสีเทาที่เขาเลือกให้เด็กหนุ่มใส่ได้พอดีเป๊ะจนเห็นช่วงขาเพรียวที่เขาชอบมอง สีชุดตัดกับผิวขาวเนียนและเข้ากันกับชุดลูกชายพอดี

“พี่ฉลาม..”

“วันนี้เมียพี่น่ารักจัง”

“มาเรียกอะไรตรงนี้ครับ!” เขาใช้นิ้วชี้แตะปากเป็นเชิงเงียบ “ไม่ได้อยู่ที่บ้านสักหน่อย”

“ป๊าค้าบ”

“ค้าบลูก”

“เกอร์อยากได้” เด็กชายชี้ไปที่เครื่องหมายปีกสีส้มทองบนอก “เกอร์อยากได้”

“ไม่เอาลูกไม่แกะของคุณป๊านะครับ”

“อยากได้โตขึ้นก็เป็นทหารแบบพ่อนะครับ”

“ตะหานนนนนนนน”

“อย่ามาปลูกฝังลูกแบบนั้นนะครับ ไทเกอร์ยังเด็ก”

“เป็นทหารแบบพี่ไม่ดีตรงไหนหรือ” เขาตัดพ้อเมื่อเห็นเด็กหนุ่มทำหน้ามุ่ย “มีศักดิ์ศรีสมเกียรติลูกผู้ชาย”

“จะให้ลินท์พูดตรงนี้ได้ทะเลาะกันเปล่าๆ”

“ลินท์ยังกังวลเรื่องที่พี่ไปทำงานอยู่อีกหรือ” เขาถามคนรัก ไม่เคยคิดอยากจะทะเลาะด้วยเลยสักครั้ง “พี่นึกว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วซะอีก”

“ลินท์ขอโทษ” เด็กหนุ่มพูดเสียงเบา “ลินท์เป็นห่วงพี่มากเกินไป”

“พี่เข้าใจและไม่เคยโกรธลินท์เลย พี่รู้ว่าลินท์รักพี่รักลูกรักครอบครัวมาก” ชลธีเอื้อมมือไปลูบหัวคนรัก “พี่จะชดเชยให้”

“ชดเชย?”

“เป็นภรรยาของพี่ ก็จะต้องได้รับเกียรติเทียบเท่ากับพี่ด้วย”

“จะดีหรือครับ”

“ถ้าลินท์ยังไม่ยอมรับ กลับบ้านไปคราวนี้พี่ได้พิสูจน์ทั้งคืนอีกแน่”

“พี่!” เขาแทบสำลัก “โอเคลินท์ยอมแล้ว”

“แม่จ๋า” เด็กชายกระตุกเสื้อเขาแล้วชี้ไปทางโต๊ะของว่างที่เป็นขนม “แม่ เกอร์อยากกินอะ”

“หิวหรือครับ หนูทานข้าวเลยดีกว่าไหมลูก ทานแต่ขนมจะไม่อิ่มนะครับ”

“กินนนนนนนนนนนนน”

“กินเก่งทั้งแม่ลูกจนตัวกลมแล้ว” ชลธีแซว “แต่ก็ดีนะพี่ชอบแบบพอดีมือ จับตรงไหนก็นุ่มนิ่มไปหมด”

“พี่ฉลาม!” เขาปรามชายหนุ่มด้วยเสียงที่คิดว่าเบาที่สุด ชอบมาหยอดมาแกล้งเขาอยู่เรื่อย ถึงจะยอมรับว่าช่วงนี้น้ำหนักขึ้นก็เถอะ แต่ไม่ได้ตัวกลมอย่างที่ชลธีบอกเสียหน่อย

“คิดยังไงถึงพาลินท์มา ให้พี่ปานไปรับตกอกตกใจหมดเลย”

“งานแต่งรุ่นน้องน่ะ แต่มีรุ่นพี่ที่พี่เคารพมากมาร่วมงานด้วยพี่เลยอยากมาเจอเขาก่อน”

“ใครหรือครับ”

“เขาเป็นนายทหารปกครองสมัยพี่เรียนโรงเรียนนายร้อย เป็นเหมือนต้นแบบในการทำงานของพี่ เป็นคนที่พี่เคารพนับถือไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง”

“ดีจังครับแล้วเจอกันหรือยัง”

“ก็รอลินท์มาก่อน พี่จะพาลินท์ไปเจอ”

“หือ ลินท์เนี่ยนะ”

“ใช่” เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มลูกชายที่กำลังพองลมไม่พอใจที่ไม่ได้กินขนม “ไปหาลุงเทียนก่อนนะลูก เดี๋ยวป๊าให้คุณแม่พามาทานข้าว” นายทหารหนุ่มบอกลูกชายพร้อมทั้งชี้มือไปทางหน้าเวที

“เย่ๆ ป๊าก็มากินด้วยน้า” เด็กชายวิ่งปร๋อนำหน้าเขาแต่ยังอยู่ในระยะสายตา ไทเกอร์วิ่งสลับเดินจนเด็กหนุ่มอดจะเป็นห่วงไม่ได้เผลอก้าวเท้าตาม

“ไม่เป็นไรหรอกลินท์ ปล่อยให้ลูกได้เล่นในแบบของเขาเถอะ” ชลธีตอบพลางคว้ามือขาวที่เย็นเยียบมากุมไว้ ชลธีสั่งกำชับลูกน้องให้คอยดูแลความเรียบร้อยภายในงานและช่วยดูแลลูกชายไว้แล้ว แต่มุจลินท์ไม่รู้ถึงได้กังวลจนออกทางสีหน้าชัดเจน

“พี่ไม่อยากให้เราประคบประหงมลูกจนเกินไป” นายทหารหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตามุจลินท์ “เกอร์ยังเด็กก็จริงแต่พี่อยากให้เขาได้ลองผิดลองถูก ได้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง พี่เข้าใจที่ลินท์เป็นห่วงลูก แต่เชื่อเถอะว่าพี่ก็ห่วงไม่แพ้กัน” เขาบีบมือขาวแน่น

“แต่..”

“พี่ให้ลูกน้องช่วยดูแลแล้ว เบาใจหรือยัง” ก้มลงกระซิบข้างหูเจ้าลูกเป็ด “ต่อไปจะได้ถึงเวลาของเราเสียที”

“ฮื่อ” เด็กหนุ่มลืมตัวเผลอทุบเข้าไปต้นแขนชายหนุ่มหนึ่งที “ชอบพูดจาสองแง่สองง่ามจริงๆ”

“ลินท์นั่นแหละที่คิดไปถึงไหนต่อไหน หึๆ”

หญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดเดรสสีชมพูผ่ายาวพร้อมกระเป๋าคลัชเข้าชุด เดินเข้ามาในห้องประชุมอย่างมั่นใจเธอมองหาคนรู้จักภายในงานก่อนจะสะดุดกับร่างสูงที่คุ้นตา เกศราได้รับคำเชิญจากคุณพ่อที่เป็นผู้บังคับบัญชาให้มาร่วมงานแต่งของรุ่นน้องที่หล่อนรู้จัก หลังจากห่างหายไปจากการเข้าสังคมพักใหญ่ เกศราก็ตัดสินใจมางานแต่งงานของรุ่นน้องในครั้งนี้ ในใจคิดคาดหวังเผื่อว่าจะได้เจอชลธีบ้าง ใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่มที่เธอเมื่อครู่ เธอจำได้แม่นว่าคือคนรักเก่าไม่ผิดแน่ ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปทักทาย นายทหารหนุ่มกลับคว้ามือเด็กหนุ่มที่ยืนใกล้กันเดินไปอีกทาง เธอตกตะลึงกำหมัดแน่น ขบกรามอดกลั้นอารมณ์โกรธที่พวยพุ่งขึ้นมา ความเสียใจ น้อยใจ ประดังประเดเข้ามาจนตัวสั่นไปหมด ทั้งๆที่ชลธีเคยเป็นของเธอมาก่อนทำไมเธอจะเอากลับคืนมาไม่ได้!

ไม่ว่าอย่างไรมันก็ยังเป็นหอกข้างแคร่ทิ่มแทงในใจหล่อนไม่หยุด

 มุจลินท์ ทำไมแกไม่ตายๆไปสักที!



TBC

ขอบพระคุณแม่ยกทุกท่านที่เอ็นดูพิหลามและน้องลินท์นะคะ
ต่อไปจะดราม่าไหมน้า อย่าลืมมาลุ้นไปด้วยกันนะคะ
/กำเปลือกทุเรียนแน่นมาก

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เงาแค้นจริงๆผู้หญิงคนนี้ ตัวเองทิ้งเขาไปก่อนแท้ๆ 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คงไม่ใช่จ้างวานให้ใครมาฆ่าลินหรอกนะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
จบค้างอีกแล้ว (มือกำเปลือกทุเรียน สายตาเล็งไว้ที่เกศรา)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เปลือกทุเรียนในมือพร้อม รอตบ

ออฟไลน์ morningpaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แตะต้องน้องเมื่อไหร่ ฉันต้มน้ำร้อนราดแกจริงๆด้วย เลือกที่จะออกไปแล้วก็ไปอยู่ที่ชอบที่ชอบสิยะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด