-จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑  (อ่าน 168848 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น่ารักมากกก :-[

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
น้องลินทร์ร้ายน่ารักมากเลย 5555

ออฟไลน์ Maainmint

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao3: ลินท์หื่นน ขอหวานเยอะๆก่อนทั้งสองต้องนะ

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๒๑

   มุจลินท์กลับมาจากไปเที่ยวพักผ่อนได้สามวันแล้ว ได้เวลากลับมาใช้ชีวิตตามปกติตื่นเช้าไปส่งลูกชายที่โรงเรียนแล้วนั่งรถไปเรียนต่อ เลิกเรียนก็กลับมารับลูกชายกลับบ้าน แต่วันนี้เขาขอลาหยุดหนึ่งวันเพราะตั้งใจจะช่วยคนรักจัดของใส่กระเป๋าที่จะต้องเดินทางไปทำงานที่เชียงรายในวันพรุ่งนี้ เด็กหนุ่มวางเสื้อผ้าลงบนเตียงคอยเลือกชุดที่ใหม่และดูสภาพดีก่อนจะทยอยพับใส่ลงกระเป๋า นายทหารหนุ่มมองคนรักด้วยแววตาอบอุ่น เอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมนิ่มก่อนจะฝังจูบลงไปเบาๆ สองมือสอดเข้าที่เอวบาง เด็กหนุ่มย่นคอหนีสัมผัสจั๊กจี๋ ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

   “ฮื่อ ลินท์ยุ่งอยู่”

“สนใจพี่หน่อยสิครับ”

“ลินท์ขอจัดของก่อนได้ไหม เอ..ชุดลำลองต้องเอาไปเพิ่มไหมครับ” เด็กหนุ่มว่าพลางค้นเสื้อผ้าเขาในตู้เพิ่มเติม “ช่วงนี้อากาศหนาวด้วยพี่ควรเอาเสื้อกันหนาวไปด้วยนะ”

“ไม่ต้องเอาไปเยอะหรอกครับ”

“จะดีหรือ” เขาทำหน้ายุ่ง “ลินท์ว่าเอาไปเผื่อดีกว่านะครับ” ว่าแล้วก็พับเสื้อยืดใส่กระเป๋าพร้อมเสื้อกันหนาวอีกสามตัว ชลธีไม่ได้ห้ามอะไร ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเอาไปเขาก็ไม่ได้ใส่เท่าไหร่ หากอยู่ในหน่วยฝึกส่วนใหญ่ก็จะใส่เสื้อฝึกหรือชุดลำลองที่ดูก็รู้ว่าเป็นทหาร แต่ที่บ้านเขาไม่มีชุดแบบนั้นสักตัว เขาแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวชัดเจนและไม่อยากให้คนรักอึดอัดกับสถานะสังคมของเขา

“พี่ว่าพกลินท์ไปด้วยดีกว่า..”

“ถ้าไปได้ลินท์จะรีบยัดตัวเองเข้าไปในกระเป๋าเลย”

“หึๆ” เขาจับหัวคนรักโคลงเคลงไปมาก่อนจะดึงเข้ามากอด “คิดถึงพี่เยอะๆนะครับ”

“คิดถึงทุกเวลานี่เยอะพอไหม”

“ดีมาก เมียพี่น่ารักที่สุด” เขาก้มลงหอมแก้มเด็กหนุ่ม ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาทำได้ไม่รู้เบื่อ

“ถ้าไปอยู่ไกลๆแล้วนอกใจ ลินท์ตามถึงเชียงรายแน่!”

“พี่ไม่มีแน่นอนจ้ะ” เวลานอนยังจะไม่มีพี่จะเอาเวลาที่ไหนไปหาหลีหญิง อยากจะบอกแต่ก็กลัวเมียหาว่าเถียง “ทำไมถึงคิดว่าพี่จะเป็นอย่างนั้นล่ะ”

“ก็ทหารเขาว่าเจ้าชู้.. ไปประจำที่ไหนก็ได้เมียที่นั่น”

“ใครเขาจะเจ้าชู้ก็ช่างเขา แต่พี่ไม่ใช่ ลินท์ไม่เชื่อใจพี่หรือ”

“ลินท์เชื่อ แต่มันก็อดกังวลไม่ได้ พี่อยู่ไกลลินท์ไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรบ้าง”

“ถ้าพี่รายงานลินท์ได้ พี่จะโทรมารายงานทุกวันเลยดีไหม” ป้อนจูบลงกลางหน้าผากขาวของเจ้าลูกเป็ด “ขี้กังวลแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ”

“ฮื่อ ไม่เห็นจะดี ลินท์ไม่อยากฟุ้งซ่าน”

“งั้นก็.. ” เขายกโทรศัพท์เด็กหนุ่มขึ้นมาเปิดกล้องหน้าก่อนจะกดถ่ายรูป “เอ้ายิ้มหน่อย”

“อ้ะ”

“รูปคู่ไว้ตั้งหน้าจอ” ชายหนุ่มกดยุกยิกโทรศัพท์ เขาไม่ทันได้มองว่าทำอะไรบ้าง เรื่องเทคโนโลยีเขาก็ตามไม่ค่อยทันเสียด้วย “ส่วนรูปนี้ไปตั้งโปรไฟล์ไลน์”

“เดี๋ยวๆพี่จะทำอะไรน่ะ!”

“กดตั้งในเฟซบุคด้วย พี่เห็นนะว่าลินท์สมัครเฟซบุคแล้ว”

“เอาไว้ติดต่องานกับเพื่อนเฉยๆเองนะครับ”

“ไม่ได้ ตั้งให้หมด” เขาใช้อำนาจที่ตัวเองมีเพียงน้อยนิดจัดการตั้งรูปโปรไฟล์ของเจ้าลูกเป็ดทุกแอปพลิเคชั่นทุกอันที่นึกได้ “ไอจีก็ด้วย”

“ฮื่อ กลัวใครมาจีบลินท์หรือไง ไม่มีหรอกน่า” เด็กหนุ่มโอดครวญ ไม่รู้ว่าคนรักทำอะไรกับโทรศัพท์เขาบ้าง

“อย่างน้อยก็ไอ้หน้าตี๋นั่น”

“พี่ชุไม่ได้จีบลินท์”

“พี่ไม่เชื่อหรอกนะลินท์ว่ามันจะไม่จีบ ยิ่งพี่ไม่อยู่ด้วยทางสะดวกมันเลย”

“คิดมากนะครับ”

“ก็พี่หวงของพี่ ก็เหมือนกับที่ลินท์หวงพี่ไง” ชลธีส่งโทรศัพท์คืน “ห้ามเอาลงจนกว่าพี่จะกลับมา”

“ไม่เอาลงหรอกครับ” เขาดีใจจะตายที่ได้มีรูปคู่ แต่ตั้งในไลน์เด่นหราขนาดนี้ถ้าเพื่อนเขาเห็นมันคงแซวเป็นเดือนแน่ “ลินท์ชอบ.. ลินท์ก็อยากบอกคนอื่นว่าลินท์มีแฟน”

“จริงหรือ”

“อื้อ”

“ก็เห็นลินท์ไม่ค่อยอยากบอกใคร”

“ตอนนี้อยากบอกแล้ว”

เดี๋ยวนี้ชักทำตัวน่ารักน่าจับฟัดมากขึ้นทุกที..

“พี่ก็ตั้งของพี่ด้วยดีกว่า” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งค่า “อืม เสร็จละ”

“เอาจริงหรือครับ”

“พี่ไม่เคยพูดเล่นอยู่แล้ว” นายทหารหนุ่มยิ้มกริ่มมองคนรักด้วยสายตาพราวระยับ “พูดคำไหนคำนั้น” เขาเห็นหน้าตาตกใจของลูกเป็ดแล้วอยากจะงับแก้มเสียจริงๆ

“ฮื่อ ไม่คิดว่าจะทำจริงๆนี่นา” เขาแทบจะลงไปดิ้นกับพื้นจริงๆให้ตายเถอะ นี่ชลธีทำจริงๆหรือ? เอามือกุมแก้มที่ยิ้มจนปวดไปหมด ชลธีก็สวมกอดเขาจากข้างหลังใช้ริมฝีปากจุ้บหลังคอเขาแผ่วเบา

“ลินท์ พรุ่งนี้พี่ก็ไปแล้วนะ”

“ลินท์ไม่ไปส่งนะ” ลูกเป็ดทำปากบู้ “กลัวทำใจไม่ได้”

“สัญญากับพี่ได้ไหม จะดูแลตัวเองดีๆ” นายทหารหนุ่มพลิกให้คนรักหันมามอง เจ้าลูกเป็ดสบดวงตาสีดำสนิทที่ทอแววอ่อนโยน เขาชอบมองตาของชลธีที่สุด “อะไรที่พี่บ่นไม่ให้ทำ ก็อย่าทำ ห้ามดื้อ ห้ามซน”

“คร้าบๆ” เด็กหนุ่มตอบเสียงแผ่ว “ลินท์คงจะเหงามาก”

“มีไทเกอร์กับคุณยายอยู่ ไหนจะคุณพ่อกับคุณแม่ที่บ้านใหญ่อีก ลินท์มีครอบครัวเคียงข้างเสมอ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”

“อย่าลืมลินท์นะ”

“ไม่ลืม”

“ลินท์รักพี่นะ” เขาช้อนตามองชลธี อยากจะจดจำความรู้สึกที่มีกันและกันให้นานมากกว่านี้จริงๆ มือหนายกขึ้นลูบไล้ไปตามแก้มขาวผ่องของคนรัก

“ครับ รักเหมือนกัน”

ชายหนุ่มจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายโอนเข้าบัญชีให้เด็กหนุ่มทั้งหมดและจะโอนให้ทุกเดือนโดยให้ปานชีวันเป็นคนดูแล และเตรียมย้ายข้าวของไปอยู่บ้านใหญ่ มุจลินท์ไม่ได้ปฏิเสธ เห็นพ้องต้องกันว่าอยู่ที่คอนโดก็รังแต่คิดถึงคนรักเปล่าๆ ไปอยู่บ้านใหญ่มีคุณพ่อและคุณแม่ช่วยดูแลจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เพราะคุณแม่ชอบชวนเขาทำอาหารทุกวัน เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจเก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋าทยอยใส่รถเอาไว้

“ไปอยู่บ้านใหญ่พี่จะไม่ต้องห่วง”

“ฮื่อ ไม่มีอะไรน่าห่วงสักหน่อย”

“พี่ฝากหัวใจพี่ไว้หน่อยนะลินท์” เขากดสัมผัสบางเบาที่ริมฝีปากบาง ก่อนจะแตะลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปชิมความหวานให้ซึมซาบในใจ “ให้แล้วไม่รับคืน” กดจูบอีกครั้งที่ข้างแก้ม มือหนาปาดน้ำตาของคนรักที่ไหลลงมา

“ลินท์ก็ไม่รับคืน” เขาเบื่อตัวเองที่เป็นคนเสียน้ำตาง่ายเสียจริง ลองได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชลธีเขาก็อ่อนไหวได้ทุกครั้ง “มันเป็นจะเป็นของพี่คนเดียว”

“แม่ แม่จ๋า” ไทเกอร์วิ่งปุกเข้ามาหาเขา มือเล็กป้อมยื่นมาช่วยเช็ดน้ำตา “แม่ย้องไห้ โอ๋ๆ ไม่ย้อง”

“ป๊าฝากดูแลคุณแม่ด้วยนะครับ” ชลธีอุ้มลูกชายขึ้นแนบอก หอมแก้มป่องจนชื่นใจ

“ป๊าไปไหน ไปทำงานอีกแล้วหยอ”

“ครับลูก ถ้าป๊าไม่อยู่ เกอร์ต้องทำยังไง หืม?”

“ดูแลคูนแม่ ดูแลคูนยาย”

“ฮึก”

“แม่ ฮึก ไม่ย้อง” เด็กชายดันตัวเองออกจากคุณพ่อพยายามจะไปหาคุณแม่ เขาเลยต้องวางลูกชายลง เด็กชายใช้มือเล็กป้อมเช็ดน้ำตาให้เด็กหนุ่ม “ฮือ ไม่ให้แม่ย้อง ไม่อาว” ชลธีมองสองแม่ลูกที่กอดกันตัวกลม เด็กชายเห็นแม่ร้องก็จะร้องตาม เขาเข้ามาโอบกอดทั้งคู่เอาไว้ทั้งลูบทั้งกอดปลอบ

“แม่ไม่ร้องแล้วครับ” เขาปาดน้ำตาจนแห้ง “เกอร์ก็ไม่ร้องนะลูกนะ”

“ฮึก”

“ป๊ารักเกอร์ รักแม่ลินท์นะครับ รอป๊านะครับ”

 สองแขนโอบกอดคนรักและลูกชายบรรยากาศกรุ่นกลิ่นไปด้วยความรักอันหอมหวน นายทหารหนุ่มใช้ร่างกายเก็บเกี่ยวสัมผัสอบอุ่นและให้หัวใจจดจำความทรงจำให้มากที่สุด เขาไม่รู้อนาคตเลยว่าจะเป็นเช่นไร

หากชาตินี้โชคชะตาได้ลิขิตเอาไว้แล้ว.. เขาก็จะฝืนให้ดู!

- - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - -- - -

แม้จะมีบางอย่างที่แปลกออกไปนั่นก็คือเขาได้ย้ายมาอยู่บ้านใหญ่พร้อมคุณยายและลูกชาย ที่บ้านของชลธีต้อนรับเขาเป็นอย่างดี เขาได้อยู่ห้องของชลธีแม้จะแอบเขินนิดหน่อยแต่ก็ขัดคุณนายใหญ่ของบ้านไม่ได้ คุณยายพักอยู่ห้องริมสุดซึ่งสามารถรับลมได้เหมาะกับการพักผ่อน ส่วนไทเกอร์จะผลัดไปนอนห้องคุณอา คุณย่า และคุณยายแล้วแต่ในแต่ละวัน เด็กชายดีใจที่มีเพื่อนเล่นมากกว่าเดิม แต่เขาก็อดห่วงไม่ได้ว่าทุกคนจะตามใจไทเกอร์จนเกินไป เขายอมรับบางครั้งก็เป็นเขานี่แหละที่ตามใจลูกชาย คงถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกันจริงจังถึงวิธีการเลี้ยง เพื่อให้ไทเกอร์สามารถปรับตัวเมื่อไปอยู่ร่วมกับเพื่อนๆในอนาคตได้

ปานชีวันได้รับมอบหมายให้มาดูแลเขาเป็นการส่วนตัวโดยไม่มีใครรู้ ทุกคนเข้าใจว่าผู้หมวดหนุ่มยศร้อยโทอยู่ที่ชายแดนเช่นเดียวกับคนรักของเขา ชลธีกำชับหนักหนาว่าให้ปานชีวันคอยดูแลและอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่มุจลินท์ไม่ต้องจัดการอะไรมากมายถึงขนาดจะต้องมีคนคอยช่วยเหลือ หน้าที่ของผู้หนวดจึงกลายเป็นพลขับไปโดยปริยาย

“พี่ปานครับ เย็นนี้ไม่ต้องมารับลินท์นะ” เขาง่วนกับการจัดกระเป๋าหนังสือ เมื่อคืนเผลอนอนหลับไปพร้อมกับลูกชายเลยไม่ทันได้จัด วันนี้เขามีนัดกับเพื่อนเสียด้วย

“อ้าว ทำไมล่ะ ให้พี่มารับเถอะมืดค่ำแล้วจะกลับบ้านยังไง”

“ลินท์จะอ่านหนังสือกับเพื่อนน่ะครับ มีการบ้านต้องส่ง” เข้าสู่เทอมที่สองของชีวิตปีหนึ่ง เขาได้เรียนวิชาคณะมากขึ้นและงานก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว “ลินท์นั่งรถตู้กลับเองได้ครับ มันไม่ได้ไกลมาก”

“ตามใจ เสร็จแล้วโทรบอกพี่ด้วยแล้วกัน”

“คร้าบคุณพ่อ”

“ทำเป็นเล่นไป ขืนพี่ไม่บอก พ่อทูนหัวเอ็งเล่นพี่หัวแตกแน่”

“พี่ปานติดต่อพี่ฉลามได้หรือครับ” เขาโทรหาชลธีไม่ติดมาสองอาทิตย์แล้ว ครั้งล่าสุดคือนายทหารหนุ่มกำลังเตรียมขึ้นไปประจำหน่วยในหมู่บ้านบนเขา

   “พี่ก็ฝากพี่นัชไปบอก รายนั้นต้องลงมาส่งข่าวข้างนอกทุกวัน”

“ลินท์เป็นห่วงจัง ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง”

“ได้ข่าวยังไงพี่จะมาบอกแล้วกัน” ปานชีวันจอดรถหน้าคณะ “ไม่ต้องฟุ้งซ่านให้มาก ตั้งใจเรียนไป”

“ขอบคุณครับ” เขากระพุ่มมือไหว้ปานชีวันที่เขานับถือดั่งพี่ชาย ผู้หมวดหนุ่มสอนอะไรเขาหลายอย่างเหลือเกิน เขาได้ข้อคิดและทักษะในการใช้ชีวิตเพิ่มเติมจากประสบการณ์ของตนโตกว่า เขารู้สึกเหมือนได้พี่ชายเพิ่มอีกคน ยังไม่รวมพี่ช้างและพี่ปลาที่คอยแวะเวียนมาหาเขาตลอด

อบอุ่นจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี..

ชีวิตขาดๆเกินๆอย่างเขากลับได้รับความรักได้รับการยอมรับได้โอกาสได้อะไรมากมายที่เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้ เขากระชับกระเป๋าเป้แน่นรีบวิ่งเข้าตึกคณะในช่วงสาย บอร์ดประกาศกิจกรรมที่ตั้งอยู่บริเวณทางเดินเต็มไปด้วยนักศึกษาที่มุงดู เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นจนทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสาวเท้าเข้าไปดูใกล้ๆ

เกิดอะไรขึ้น..

เบื้องหน้าคือเพื่อนของเขา กัญญากำลังขยำกระดาษอะไรบางอย่างพร้อมฉีกทิ้งลงพื้น เสียงก่นด่าดังไปทั่วบริเวณจนเขาต้องสะดุ้งเฮือก เขาไม่เคยเห็นเพื่อนเขาโมโหขนาดนี้มาก่อน นนท์คอยดึงรั้งหญิงสาวที่กระฟัดกระเฟียดเอาไว้ นั่นทำให้เขาต้องรีบถลาเข้าไปในวง แหวกผู้คนที่มุงดูให้เข้าไปถึงตัวเพื่อนให้ได้มากที่สุด

“มองอะไรกันวะ เรื่องของชาวบ้านอย่าทำเป็นสู่รู้”

“ไอ้แก้ว หยุดโวยวายได้แล้ว คนเขาจะมาสนใจก็เพราะมึงแหกปากนี่แหละ”

“กูโมโห! ทำกับเพื่อนกูแบบนี้ได้ยังไง”

“ใจเย็นๆมึง”

“แก้วเป็นอะไร?” เขาเดินเข้าถึงตัวเพื่อน ทุกคนที่มุงล้อมมองหน้าเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด “มีอะไรกันหรือเสียงดังมากเลย”

“ไม่มีอะไรหรอกลินท์ เราไปเรียนกันเถอะ” นนท์รีบดึงกัญญา “ไปเร็วมึง” วงล้อมเริ่มแตกกระจายเมื่อกัญญาส่งสายตาอำมหิตไปทั่ว เศษกระดาษปลิวว่อนเต็มพื้นจนเขาต้องหยิบขึ้นมาดู

“ลินท์อย่าดู!”

ภาพในกระดาษคือรูปเขาไม่ผิดแน่ เด็กหนุ่มสวมเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นเหมือนครั้งที่เขาไปเที่ยวทะเลและภาพผู้ชายที่กำลังกดจูบลงมาคือนายทหารหนุ่มไม่ผิดแน่ จู่ๆหัวใจเต้นรัวแรงมือไม้สั่นไปหมดเมื่ออ่านข้อความที่เขียนใต้ภาพ เขาหรี่ตามองก่อนจะกำกระดาษแน่น

‘เด็กขายตัว’

‘แย่งผัวชาวบ้าน’

‘กะหรี่’


“มันมาได้ยังไง” เขาถามเสียงสั่น

“กูก็ไม่รู้ มาถึงก็เห็นมันติดทั่วคณะแล้ว” กัญญาตอบพลางกำหมัดแน่น

“ไอ้แก้วเห็นเลยโวยวายใหญ่ ลินท์ก็รู้มันไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเพื่อนมันแน่” นนท์เป็นคนคอยห้ามเพื่อนในกลุ่มเสมอ เขาเป็นคนรักสันโดษและไม่ชอบมีเรื่องนะ จะมีก็แต่เพื่อนที่ลากเขาไปเอี่ยวทุกที เขาเลยต้องรับหน้าที่เป็นกรรมการห้ามมวยทุกครั้งไป

“มึงไปมีศัตรูกับใครที่ไหนหรือเปล่า ถึงได้เล่นกันแรงขนาดนี้” กัญญาเผลอสบถออกมาสลัดภาพผู้หญิงเรียบร้อยไปในทันที “กูรู้นะว่ามึงกับพี่เขาเป็นอะไรกัน ไม่ใช่อย่างที่ในถูกกล่าวหาแน่ๆ”

“เห้อ ดีนะที่มีพวกมึง” เขาแทบทรุดลงกับพื้น ได้แต่ถอนหายใจยาวๆ ส่วนมือเขาสั่นระริกจนควบคุมไม่ได้ “ที่คิดไว้ก็มีอยู่คนเดียว”

“เมียเก่า? เห้ย เล่นแรงไปแล้ว มึงแจ้งความได้เลยนะ”

“อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยแก้ว กูไม่อยากให้พี่ฉลามเป็นห่วง” เขาได้แต่ขบกราม ไม่รู้จะทำอย่างไรดี และไม่อยากให้คนรักต้องเป็นกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“เขาจะต้องรู้ว่าการจัดการที่ไม่เด็ดขาดมันทำให้ปัญหาคาราคาซังแบบนี้”

“โถ่ แก้ว”

“มึงอย่าได้ดูถูกผู้หญิงเชียว ลองได้ถูกแย่งของรัก มันก็กลายร่างเป็นนางมารกันได้ทุกคน นางเอกดาวพระศุกร์อย่างมึงไม่รอดแน่”

“ไปกันใหญ่ละ” นนท์กุมขมับไม่รู้จะห้ามเพื่อนอย่างไร แต่ตอนนี้ได้เวลาเรียนแล้วเขาต้องลากเพื่อนไปเข้าห้องให้ได้ก่อน “ไปเรียนก่อนค่อยว่ากัน เร็ว” เขาพยักหน้ารับ กระดาษในมือถูกฉีกทิ้งไม่ไยดีลงถังขยะ

เวลานี้เด็กหนุ่มต้องตั้งสติอย่างมาก เขารู้สึกมึนงงสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไหนจะสายตาแปลกๆของคนอื่นๆที่มองมาอีก เขาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้เขาเหมือนลูกน้องที่ไร้ปีกแม่ปกป้องคุ้มครองและจะต้องดูแลตัวเองให้ได้ ได้แต่หวังว่าเขาจะผ่านมันไปด้วยดี..

“ลินท์มึงไม่ต้องเครียดนะ ถ้าเป็นนังนั่นจริงๆกูจัดการเอง” กัญญาตอบเสียงดังเป็นมั่นเหมาะ ไม่เสียแรงที่มีดีกรีเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวยยักษ์ใหญ่

“แก้ว มันไม่ต้องขนาดนั้น” เขาโบกมือเป็นพัลวัน “แค่ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงได้ตามจองล้างจองผลาญไม่เลิก”
“มึงระวังตัวไว้แล้วกัน” หญิงสาวครุ่นคริดนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายต้องการจะเล่นสกปรก มันจะต้องมีครั้งต่อไปแน่นอน

“เออๆ ขอบใจมากนะ”

“มึงต้องบอกพี่ปาน” กัญญากดเสียงต่ำ เรื่องนี้หล่อนไม่ยอมจริงๆด้วย “เดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่ง”

“เลิกเรียนก็ได้ สัญญาจะบอกพี่ปานจริงๆ” เขาไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตจริงๆ เลยต้องตอบเพื่อนอย่างขอไปที

“พูดแล้วก็โมโหแทน”

“เอาน่า”

“มึงก็เอาน่า ปล่อยเขาไป เดี๋ยวก่อนอยู่นั่น” กัญญาขมวดคิ้วแน่น อัญเชิญวิญญาณนางร้ายเข้าร่าง หล่อนจะไม่ยอมให้เพื่อนถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว “จะทำตัวเป็นนางเอกหรือวะ”

“แค่ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง” เขาตอบ “แค่นี้เขาก็โกรธเกลียดกูมากพอแล้ว”

“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถ้ามึงยังเฉยๆละก็มันหนักกว่านี้แน่”

“ฮื่อ แก้วก็ อย่าไปจองเวรจองกรรมเลย อโหสิกรรมไปเถอะ”

“โอ๊ย พ่อมหาจำเริญ!”

กัญญาอยากจะพุ่งเข้าไปหยิกแก้มขาวของเพื่อนตรงหน้านัก ทั้งๆที่หล่อนเป็นเดือดเป็นร้อนถึงเพียงนี้ เจ้าตัวก็ยังไม่โกรธ ไม่อยากจะเอาเรื่องคู่กรณีเลยสักนิด ไม่รู้เพื่อนเธอไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงได้โดนตามรังควาญไม่หยุดหย่อน เสียงหักนิ้วดังกรอบแกรบจนนนท์ยังสะดุ้งมอง มุจลินท์ส่ายหัวให้เพื่อนก่อนจะรีบลากกันไปเข้าห้องเรียน
สามชั่วโมงในการเรียนภาคเช้าไม่ได้เข้าหูเลยสักนิด อาจารย์ฉายสไลด์ไปเรื่อยพร้อมกับบรรยาย เขาได้ฟังผ่านๆ มันคงพูดไม่ได้เต็มปากว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มขีดๆเขียนๆใช้ปากกาไฮไลท์ไปตามที่อาจารย์บอกแต่ใจกลับลอยไปไหนต่อไหน

คิดถึง..

เขาคิดถึงชลธีเหลือเกิน


ห่างกันแค่ไม่กี่อาทิตย์แต่กลับเนิ่นนานในความรู้สึก ในอกเหมือนมีโพรงอากาศเป็นหลุมลึกที่โหยหาไม่จบสิ้น และเป็นเขาเองที่ไม่สามารถออกมาจากหลุมนั้นได้ ติดกับอยู่ในห้วงแห่งความรักที่มีแต่ความทรมาน

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์

เขาจำไม่ได้แล้วว่าใครเคยบอกเอาไว้หรือได้ยินมาจากที่ไหน บัดนี้เขาเริ่มจะรู้ซึ้งถึงประโยคนั้น.. แม้มีรักแล้วย่อมต้องพานพบกับความเจ็บปวดใจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วางใจให้เขาแล้วเ ขาจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด เด็กหนุ่มทำได้เพียงแค่อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครอง บุญใดที่เขาสั่งสมมาขอช่วยปกปักรักษาคนรักให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วยเถิด

“ลินท์ ไม่อยู่อ่านหนังสือแล้วหรือ”

“วันนี้ขอกลับบ้านก่อนดีกว่าว่ะ รู้สึกปวดหัวยังไงไม่รู้” หลังเลิกเรียนที่นัดกันเอาไว้ว่าจะทำการบ้านเป็นอันต้องยกเลิกเพราะตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจอยากจะทำอะไรทั้งนั้น ได้แต่ขอโทษขอโพยเพื่อนที่เบี้ยวนัดอีกครั้ง

“มึงอย่าเครียดแล้วกัน พวกกูเป็นห่วง”

“เออ ขอบใจนะ”

“แล้วนี่พี่ปานจะมาหรือยัง”

“ก็ เอ่อ ใกล้แล้ว” เขาตอบกัญญา “ไม่ต้องรอๆ กลับไปกันก่อนเลย”

“เออๆ มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน”

“บาย”

หลังจากกลุ่มเพื่อนพากันเดินจนลับสายตาเขาก็ลุกขึ้นจากม้านั่ง แวะเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วจึงเดินเตร็ดเตร่ไปตามทางเพื่อกลับบ้าน วินรถตู้ในมหาลัยอยู่ห่างจากตึกเรียนพอสมควรแต่มันก็ไม่ได้ลำบากมากนักหากจะเดินลากเท้าชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ และมันทำให้เขากลับมาใจลอยอีกแล้ว.. มองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาห้าโมงกว่า ป่านนี้ไทเกอร์คงจะรอเขาอยู่ที่บ้านแล้ว นึกถึงลูกชายก็พลันรู้สึกดีขึ้นมาทันที

รถตู้สีขาวปลอดจอดหน้าเขาขณะกำลังข้ามฝั่งไปอีกฟากของถนน ประตูรถตู้ถูกเปิดอย่างรวดเร็วพร้อมกับแรงกระชาก เด็กหนุ่มกลิ้งเข้าไปด้านในลำตัวกระแทกกับพนักพิงอย่างแรงจนต้องร้องโอดโอย ข้างในรถมืดจนเขาแทบมองไม่เห็นอะไร ใบหน้าเชิ่ดขึ้นตามแรงกระชากที่ผม เสียงตะคอกดังขึ้นพร้อมกับวัตถุเย็นที่จี้เอว

“อย่าส่งเสียงถ้ามึงยังไม่อยากตาย!”



TBC

เตรียมถัง กะลังมัง กันด้วยค่าทุกคน
รองน้ำตากันหน่อย ดราม่ามาแล้ววววววว /วิ่งหนี
ช่วงนี้พายจะยุ่งๆนิดหน่อย ป่วยๆด้วยค่ะ แง
ขอบคุณที่ยังรอกัน คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้น้องลินท์กันด้วยน้า
รัก <3
พายจะเปิดพรี นิยายเรื่องนี้วันที่ 1 มีนาคมนี้ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเพจนะคะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ game6969

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
กัญญาพูดถูก อย่าประมาทแรงอาฆาตของผู้หญิง

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ้าว งานเข้าแล้ว ใครจะมาช่วยได้บ้างเนี่ย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เข้าทางพี่ฉลามเลยสิ

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
น้องลินทำไมดื้ออออ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จะทำอะไรน้องลินท์ ในมือฉันมีเปลือกทุเรียนนะ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
พี่หลามเมียโดนฉุด.. เอาไงดี

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
แง๊  :katai1: ใครจะมาช่วยน้องลินท์ของพี่

ออฟไลน์ Maainmint

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :katai4: สถานการณ์ตอนนี้ไม่โอเคแล้วนะพี่หลาม ช่วยลินท์ด้วยยยยยย

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แบบนี้ใครจะรับรู้  :katai1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
เพิ่งได้อ่านค่ะ สนุกมากกกก
ลินน่ารักกกก น้องเกอร์น่ากอดดด
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ลุ้นมาก น้ำตา ผ้าเช็ดหน้าพร้อม

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :serius2: เกิดอะไรขึ้นลินจะโดนอะไรเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๒๒

   กลิ่นสนิมผสมกับน้ำมันรถส่งกลิ่นฉุนแรงจนเขาต้องย่นจมูก เปลือกตาขยับเชื่องช้าเพื่อปรับให้เข้ากับแสงสลัวเด็กหนุ่มรู้สึกเย็นชื้นไปตามลำตัว พื้นที่เขานอนอยู่เย็นเฉียบ มีแอ่งน้ำขังเป็นหลุมตื้นโดยรอบ ข้อมือขยับไม่ได้เพราะถูกมัดไว้ด้านหลัง เขาปวดช่วงไหล่เรื่อยลงไปกลางหลังเพราะถูกจับให้นอนผิดรูป เสียงครางแผ่วเบาเพราะความเจ็บปวดทำให้เด็กหนุ่มได้สติขึ้นมาบ้าง ลืมตามองไปรอบๆเห็นเศษซากเครื่องยนต์เก่าๆที่ถูกชำแหละแยกส่วน มิน่าถึงได้กลิ่นเหม็นนัก เขาพยายามดันตัวขึ้นแต่ก็ถูกใครบางคนเหยียบยันเอาไว้ไม่ให้ลุกขึ้น เห็นจากหางตามันเป็นรองเท้าส้นสูงสีแดงสด ส้นแหลมเจาะเข้าที่เนื้ออ่อนจนเขาน้ำตาเล็ด

   “เจ็บด้วยหรือไง” น้ำเสียงที่เขาเคยได้ยินเมื่อคราวรับโทรศัพท์ครั้งนั้นเป็นเสียงเดียวกันไม่ผิดแน่ หล่อนย่อตัวแล้วใช้มือรั้งกลุ่มผมจนใบหน้าเขาเชิดขึ้นสบกับดวงตากลมสวยของหญิงสาว เป็นผู้หญิงคนนั้นจริงๆ..

“คุณต้องการอะไรจากผม”

“เพื่อความสะใจที่ได้เห็นชีวิตแกย่อยยับ!”

“ผมไปทำอะไรให้คุณ คุณเกศ.. รา”

“เพราะแกแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของฉันไป จะไม่ให้ฉันเกลียดแกได้ยังไง หา ไอ้พวกวิปริต!” หล่อนใช้นิ้วจิ้มจนหัวเขาโยกโคลงไปอีกทาง เขาขบริมฝีปากแน่น ข่มอารมณ์โกรธที่ตีรวนมาในอก

เขาผิดอะไร.. คนอย่างเขาไม่มีสิทธิ์จะมีความรักเลยหรือไง

“คุณจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่คุณต้องการแน่”

“ฉันต้องได้!” ดวงตากลมโตดูเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินที่เขาพูด หล่อนตวาดเสียงสั่น “ไทเกอร์เป็นลูกฉัน!”

“เขาก็เป็นลูกผมเหมือนกัน”

“แก!”

ฝ่ามือตบเข้าที่แก้มซ้ายจนเขาหน้าหัน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนเด็กหนุ่มต้องบ้วนเลือดทิ้งลงพื้น เชือกไนล่อนมัดรึงแน่นจนแทบขยับไม่ได้ ข้อมือเขาซีดจนรู้สึกชาหนึบ เด็กหนุ่มพยายามตั้งสติ เขาจะต้องหาทางหนีออกไปให้ได้ มองซ้ายมองขวาดูลักษณะแวดล้อมคล้ายกับโรงรถที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ เขาพยายามประคองตัวให้ลุกขึ้นนั่ง

“ระหว่างแกกับชีวิตยายแก แกก็จะเลือกอะไรดีล่ะ” สิ้นประโยคเขาถึงกับหันขวับไปมองเจ้าของเสียง ความรู้สึกกลัวพุ่งวาบขึ้นมาในอก ทำไมเกศราถึงได้รู้เรื่องชีวิตเขาไปเสียทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา

“คุณจะทำอะไร!”

“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน..”

“ผมคิดไม่ถึงจริงๆว่าคนอย่างคุณ จะจิตใจอำมหิตได้ถึงขนาดนี้”

“เพราะแกมันโง่ ฉันเลยไม่ต้องลำบาก” เกศรากดยิ้มที่มุมปาก “เอามันไปขัง”

แรงกระชากทำเอาเขาตัวลอยจากพื้น เชือกที่ยังรัดแน่นยิ่งรัดรึงซ้ำขึ้นไปอีกจนเขาต้องร้องโอดโอย กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งในปากฝาดเฝื่อนจนเขาอยากจะอาเจียนออกมา กลุ่มชายฉกรรจ์เกือบห้าคนตรงเข้ามาลากเขาออกไป ผิวเนื้อครูดกับพื้นปูนสกปรกจนเป็นรอยถลอกไปหมด เขาเจ็บไปหมดจนแทบไม่รู้อะไรแล้ว ในขณะที่สติกำลังจะดับวูบความเจ็บปวดแรงบดที่มือทำให้เขาลืมตาขึ้น เชือกไนล่อนที่มือถูกแก้ออกแต่มันชาจนเขาไม่สามารถจะยกมันขึ้นได้ รองเท้าส้นสูงสีแดงก้าวมายืนหยุดตรงหน้าเขาที่กำลังนอนแผ่ไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะเหยียบเข้าที่มือซ้ายเขา

“โอ๊ย ปล่อย!”

“ไปหลอกล่อยังไงถึงได้มันมาล่ะ” ปลายรองเท้ากดเหยียบเข้าที่นิ้วนางข้างซ้าย แหวนทองคำขาวที่สวมบนนิ้วนางข้างซ้ายถูกบดขยี้แทบจะแหลกคาพื้น เขากลั้นเสียงสะอื้นทั้งๆที่เจ็บจนอยากจะร้อง เขาสบโอกาสถมน้ำลายปนเลือดใส่ทันที

ถุ้ย!

“ไอ้เด็กเหลือขอ! แกอยากตายนักใช่ไหม” เด็กหนุ่มขดตัวงอเป็นกุ้งเมื่อโดนหญิงสาวใช้เท้าเตะเข้าที่ท้องอย่างแรง ก่อนจะยกขึ้นเหยียบซ้ำ เขาพยายามหลบและใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองป้องกันตนเองแต่ก็ไม่เป็นผล

“ต่อให้คุณฆ่าผมให้ตาย คุณก็จะไม่มีวันได้สิ่งที่ต้องการ”

เพราะเขาจะไม่ยอมเสียไปเหมือนกัน!

“เอามันไปไกลๆฉัน!”

“…” เขานอนหอบหายใจอย่างอ่อนแรง แม้เชือกถูกคลายออกแต่ก็ยังขยับไม่ได้ เขานอนนิ่งอยู่ได้ไม่นานก็ถูกหิ้วปีกเข้าไปโยนในห้อง มีฟูกเก่าๆและหมอนที่เหลืองซีดอีกหนึ่งใบ

“คุณนายบอกให้ทำอะไรกับมันก็ได้” คางเขาถูกจับเชิดขึ้น นิ้วมือสากลูบไล้วนบริเวณแก้มจนเขาขนซู่ด้วยความรังเกียจ กลิ่นเหงื่อเหม็นหืนตีขึ้นจมูกจนเวียนหัว

“มึง อย่า!”

“ทำไม?”

“คนของผู้พันเขา หรือมึงจะลองดี?”

“เขาจะมาสนใจอะไรกับอีตัววะ เขาก็มีคุณนายแล้วทั้งคน” มันยิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะมองเข้าไปร่มผ้าเพื่อชื่นชมผิวขาวน้ำนมของเด็กหนุ่ม “เอาน่าสมบัติผลัดกันชม”

“แต่เขาเลิกกับคุณนายไปนานแล้ว ไอ้โง่! คนที่ผู้พันพาไปออกงานคือไอ้เด็กนี่!”

“ท่านๆเขาก็พาอีหนูออกงานกันทั้งนั้น มึงอย่ามาฝ่อ ถ้ากลัวก็หลบไป!”

“เออ กูเตือนมึงแล้วนะ!” อีกคนหลบไปอีกทาง ส่วนที่เหลือคุมเชิงอยู่ด้านนอก เขาพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ก็ไร้เรี่ยวแรง สัมผัสหยาบกร้านแตะเข้าที่เข็มขัดก่อนจะปลดมันออกเนิบช้า

“แม่ง ขาวฉิบหายเลยโว้ย!”

“ปล่อย..อือ” เขารังเกียจสัมผัสที่แตะต้องร่างกายเขาตอนนี้ที่สุด

“ลาภปากกูแล้ววันนี้” มันลูบแก้มเขาอยู่ครู่หนึ่งจนสบโอกาส เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจงับเข้าที่นิ้วมือมันจนได้รสเลือด “โอ๊ย! ไอ้เด็กเหี้ย กัดกูหรือวะ”

“เออ!”

“แม่งเอ๊ย” มันสะบัดมือไปมา สูดปากร้องด้วยความเจ็บปวด เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งสายตาจ้องไปที่มันด้วยความโกรธ เขาก็เจ็บไปทั้งตัวแทบจะขยับไปไหนไม่ได้แต่เขาจะไม่ยอมอยู่เฉยให้ใครมารังแกแน่ “ฤทธิ์เยอะมากใช่ไหมมึง” มันปรี่เข้ามาใกล้คว้าเข้าที่คอเขาก่อนจะออกแรงบีบ

“อึก..”

“ชอบเจ็บตัวก็ไม่บอก! เดี๋ยวกูจัดให้” มันออกแรงบีบมากขึ้นจนเขาต้องใช้มือทุบให้ปล่อย ก่อนจะโยนเขาไปนอนที่พื้นแล้วตามลงมาคร่อม เด็กหนุ่มใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมดดันร่างของมันให้ออกไป “ไหน รับแขกให้มันดีหน่อยๆ”

เสื้อนักศึกษาถูกดึงกระชากจนกระดุมหลุดรุ่ย เขากระเถิบถอยจนหลังติดกำแพง หลบหนีมือสากที่แตะไปทั่วร่างกาย เด็กหนุ่มขบกรามแน่นยกมือขึ้นไหว้ทั้งน้ำตา ทำยังไงก็ได้ให้หนีออกไปให้พ้น เขายอมทุกอย่างแล้วจริงๆ ในใจกระหวัดคิดถึงคนรัก ถ้าหากเขาจะต้องเป็นของคนอื่น เขาคงไม่มีหน้ากลับไปหาชลธีแน่

“อย่าทำลินท์เลย ลินท์ไหว้ล่ะ..”

“อะไรของมึงนักหนา” มันปลดกางเกงของตัวเองลง เขาได้แต่เบือนหน้าหนี “ทำอย่างกับไม่เคย อย่ามาตอแหล!”

“ลินท์ขอร้อง..”

“เออ เดี๋ยวกูจะให้มึงร้องทั้งคืนเลย มานี่!”

“ยะอย่า!”

“แหกปากแบบนี้กูชอบ!”

“มะไม่!” เขาร้องเสียงดังหลับตาปี๋เมื่อเห็นร่างของมันโน้มทับลงมา “ปล่อย!” เขาใช้มือผลักออกร่างของมันหงายหลังตึงแน่นิ่งนอนกับพื้นไป เด็กหนุ่มงุนงงแต่ก็รีบคว้าเสื้อของตัวเองมาปกปิดร่างกาย สายตาเหลือบไปเห็นรองเท้าหนังสีน้ำตาล ในใจเต้นระรัวค่อยๆมองไล่ขึ้นไป

“ลินท์?”

“พะ..พี่” 

“ลินท์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ชวิศตรงเข้าไปประคองเด็กหนุ่มที่เนื้อตัวมอมแมม ไม่ว่าจะพลิกตัวไปทางไหนก็เจอแต่รอยแผลเต็มไปหมดสภาพที่เห็นทำเอาอารมณ์โมโหตีรวนในอก “นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เขากำหมัดแน่นรู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่เอะใจให้มากกว่านี้ เขาบังเอิญเจอมุจลินท์กำลังจะกลับบ้านแต่ก็หายไปกับรถตู้คันหนึ่ง ถ้าเขามาช้ากว่านี้ไม่รู้คนตรงหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง

“ฮึก พี่ชุ.. ช่วยผมด้วย” เด็กหนุ่มโผเข้ากอดรุ่นพี่ ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เขาจะรู้สึกดีมากไปกว่าการรอดพ้นจากเงื้อมือของคนชั่วอีกแล้ว น้ำเสียงสะอึกสะอื้นยิ่งทำให้ชวิศเผลอดึงน้องเข้ามากอดแนบอก ฉวยโอกาสจุมพิตไปตามแนวหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม “ผมกลัว”

“ไม่เป็นไร พี่อยู่นี่แล้ว ไม่เป็นไรนะ ไม่ร้อง”

“ฮึก.. ฮือ”

“ลินท์เล่าให้พี่ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“ดะได้.. ครับ” ชายหนุ่มสอดแขนประคองเด็กหนุ่มที่แทบจะลุกไม่ขึ้น จนกระทั่งต้องอุ้มช้อนท่าเจ้าหญิง เด็กหนุ่มกำลังตกใจขวัญเสียเลยไม่ได้ทักท้วงได้แต่ซุกหน้าเข้ากับอกอุ่น เกลียดตัวเองที่อ่อนแอไม่สามารถพึ่งตัวเองได้ ต้องรอคอยให้คนอื่นมาช่วยเหลือทุกครั้งไป

เขาเกลียด เขาเกลียดตัวเองในตอนนี้จริงๆ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ปานชีวันเดินวนไปวนมาในห้องอย่างหนูติดจั่น มือหนากดสายโทรศัพท์เป็นระวิงจนสายแทบจะไหม้ เขาเร่งติดต่อให้ลูกน้องฝีมือดีตามหาตัวมุจลินท์ที่อยู่ๆก็หายตัวไป เขาไม่น่าไว้ใจเจ้าลูกเป็ดเลยจริงๆ แต่จะไปโทษเด็กหนุ่มอย่างเดียวก็ไม่ถูก เป็นเพราะเกศราที่ไม่ยอมจบเรื่องเสียที เขาถึงได้หัวหมุนขนาดนี้ สบถใส่อากาศได้สักพัก โทรศัพท์ในมือก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง เห็นว่าเป็นเบอร์ธนัชลูกพี่คนสนิทก็ไม่รีรอกดรับอย่างรวดเร็ว

“พี่นัช”

“ลินท์อยู่ไหน?”

“อะ เอ่อ” ปานชีวันยกโทรศัพท์ออกมาจากหูก็ยังเห็นเบอร์ธนัชอยู่ดีแล้วไหงดันเป็นเสียงของชลธีไปเสียได้ งานนี้เขาก็มีแต่ตายกับตายน่ะสิ “พี่ฉลาม..”

“เออ กูเอง”

“ขอโทษครับพี่ ตอนนี้ผมยังหาน้องไม่เจอเลย” เขาพูดเสียงแผ่ว

“หมายความว่าไงวะไอ้ปาน?” เสียงเข้มดังทะลุจนเขาต้องยกโทรศัพท์ออกห่างหูโดยเร็วไม่อยากนั้นอาจจะแก้วหูแตกก็เป็นได้ “กูให้มึงไปดูแลเมียกู มึงก็ยังทำไม่ได้ กลับมาที่ค่ายเลย กูจะส่งไอ้นัชไปแทน!”

“ผมจะรีบหาน้องให้เจอเร็วที่สุดครับพี่”

“อย่าให้กูต้องลงมือไปเอง”

“มะไม่เป็นไรครับ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยครับ” เขาพูดรัวเร็วก่อนอีกฝั่งจะกดวางสาย ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ความเครียดเริ่มเข้ามาเกาะกุม แทนที่จะมานั่งคิดอยู่คนเดียวสู้ไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นดีกว่า หลังจากที่ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรคืบหน้าจากลูกน้อง ปานชีวันเลือกที่ติดต่อผู้กำกับหนุ่มเพื่อขอกำลังเสริม

“มีอะไรวะ”

“เฮียคร้าบบบ”

“น้ำเสียงแบบนี้ กูว่ากูกดวางสายเลยดีไหม?”

“เฮียวัตรอย่าทำแบบนี้ ช่วยผมก่อน ไม่อย่างนั้นผมต้องโดนพี่ฉลามเล่นงานแน่ๆ” ปานชีวันโอดครวญ มือขวาเปิดลิ้นชักหยิบปืนพกคู่ใจสีดำสนิทขึ้นมาตรวจสภาพ เขาเลือกอยู่สักพักก่อนจะเหน็บเข้าที่เอว

“มึงไปทำอะไรอีกล่ะ”

“ทำเมียผู้พันหาย”

“เออดี อะไรนะ มึงว่าอะไรนะไอ้ปาน” ชัยวัตรตบโต๊ะเสียงดัง เสียงตะคอกไม่ได้ต่างจากที่คุยกับชลธีเมื่อครู่เลยสักนิด เขาก็ลืมไปว่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน “มึงเล่ามาเดี๋ยวนี้!”


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

มุจลินท์เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วโดยมีชวิศคอยช่วยทำแผลอยู่ใกล้ๆ ด้วยความดื้อของเด็กหนุ่มที่ไม่ยอมไปโรงพยาบาลทำให้ลำบากเขาต้องมาพามาที่คอนโดช่วยปฐมพยาบาลให้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยฟกฟ้ำจนดูไม่ได้โดยเฉพาะมือซ้ายที่บวมเหมือนจะปริแตก ชายหนุ่มพยายามจะขอดูแต่เด็กหนุ่มไม่ยอม เขาเลยได้แต่ช่วยทายาแค่บริเวณภายนอกที่เป็นแผลถลอกและพวกรอยช้ำ เขาแตะสำลีลงไปบนผิวขาวจัด เสียงร้องสูดปากดังเป็นระยะ เขามองเด็กหนุ่มในชุดเสื้อยืดและกางเกงนอนขาสั้นที่เขาเอามาให้ใส่ เสื้อตัวใหญ่จนไหล่ตกไปอีกข้างโชว์ไหล่ขาวกลมกลึง ชวิศสลัดภาพที่วนเวียนอยู่ในหัวก่อนจะค่อยๆลงมือแผ่วเบาอีกครั้ง

“อูย”

“เจ็บไหมล่ะ”

“เบาๆหน่อยสิพี่” เด็กหนุ่มหน้ายู่ “กดทีแขนผมแทบจะหัก”

“เว่อละมึง” เขาหัวเราะ เผลอใช้มือโยกหัวไปหนึ่งทีจนเด็กมันร้องโอดโอยนั่นแหละถึงได้รู้สึกตัว “ขอโทษๆ กูชินมือไปหน่อย”

“โหย พี่แม่ง!”

“จะกินอะไรไหมล่ะ เดี๋ยวกูทำให้”

“พี่ทำเป็นด้วยหรือ” มุจลินท์ใช้สำลีแตะเบาๆที่หัวเข่าตัวเองแล้วทำหน้ายับยู่ยี่ไปมาจนชวิศอดขำไม่ได้จริงๆ “เอาดิ ผมอยากลองชิมฝีมือพี่ดูเหมือนกัน จะออกมาเป็นยังไงกันล่ะเนี่ย ฮ่าๆ”

“ให้มันน้อยๆหน่อย อย่ามาดูถูกกันนะ”

“เอ้า รอกินเลยครับ”

ชวิศหายตัวไปในครัวได้สักพักก็มาพร้อมกับข้าวต้มหมูสับหอมกรุ่น ถ้วยสีฟ้าควันลอยฉุยจนเจ้าลูกเป็ดต้องอ้าปากร้องว้าว เด็กหนุ่มรีบยกซดแต่ก็ต้องร้องจ๊ากออกมาเสียงดังเพราะข้ามต้มร้อนจนลวกปาก เขาซับทิชชู่ให้เด็กหนุ่มแผ่วเบา ร่องรอยความอบอุ่นฉายชัดในแววตายามได้มองเด็กหนุ่มตรงหน้า เขาเคยคิดอยู่เหมือนกันว่าขอแค่ได้ดูแลเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว 

“ร้อนๆๆ”

“รีบกินทำไมเล่า มานี่เดี๋ยวเป่าให้”

“ไม่เอา ผมกินได้ ผมโตแล้วนะ” เด็กหนุ่มจะแย่งช้อนกลับมาแต่ร่างกายก็ไม่เอื้ออำนวย จะกแขนหรือขยับไปทางไหนก็ปวดไปหมด ได้แต่มองรุ่นพี่กำลังบรรจงเป่าข้าวต้มที่ร้อนให้มันอุ่น

“อ้าปาก”

“ไม่ต้องป้อนก็ได้พี่ เอามานี่!”

“อย่าดื้อสิวะ อย่าให้ต้องบ่นนะมึงเนี่ย”

“ก็ได้!” เขานั่งรอเหมือนลูกนกรอแม่นกป้อนอาหาร ชวิศบรรจงป้อนเขาอย่างนุ่มนวล เด็กหนุ่มค่อยๆเคี้ยวเพราะปวดแผลที่มุมปาก “อื้อหือ อร่อยอะ”

“เป็นไงล่ะ ติดใจล่ะสิ”

“เอาอีกๆ”

“แดกเองเถอะ!” เขาเลื่อนจานไปตรงหน้าเด็กหนุ่มที่ส่งสายตาวิบวับน่าหมั่นไส้ “ค่อยๆแดก เดี๋ยวสำลัก ไม่รู้ไปตายอดตายอยากมาจากไหน”

“อร่อยที่สู้ดดด”

“อ่ะ นี่ยาแก้อักเสบ แล้วที่มือมึงเนี่ยไม่เป็นไรจริงๆหรอ” เขามองมือซ้ายเด็กหนุ่มที่บวมช้ำ “พรุ่งนี้กูจะพาไปหาหมอนะ ห้ามขัดกูด้วย”

“เจ็บดิพี่ โคตรเจ็บเลยอะ” เขาก้มลงมองแหวนทองคำที่ติดนิ้ว สภาพมันยังเหมือนเดิมแม้มือเขาจะพังยับเยินไปแล้วก็ตาม ยิ่งมองเขาก็ยิ่งนึกถึงคนที่สวมใส่ให้ ความรู้สึกอัดแน่นในอกจนเอ่อตื้นออกมาเป็นน้ำตา

คิดถึงเหลือเกิน..

“ร้องไห้ทำไมอีก”

“ฮึก ฮือ” น้ำตาไหลหล่นเปาะเข้าชามข้าวต้มจนชวิศต้องยกหนี เด็กหนุ่มปาดน้ำตาป้อยๆ “คิดถึง”

“คิดถึงใคร คิดถึงมันใช่ไหม”

“พี่เรียกแฟนผมให้มันดีๆหน่อย!”

“จะให้กูเรียกมันดีๆได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นสาเหตุให้มึงถูกยำเละขนาดนี้” ชวิศแทบจะตะคอกใส่ จะให้เขารู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นคนที่เขารักอยู่ตรงหน้าแท้ๆแต่กลับช่วยอะไรไม่ได้ “ลินท์ มึงรู้บ้างไหมว่าถ้ากูไปไม่ทันมันจะเกิดอะไรขึ้น”

“ฮึก ทั้งหมดผมผิดเอง”

“มึงยังจะปกป้องมันอีกหรือไง” เขาขมวดคิ้วแน่น ส่งสายตาตัดพ้อไปที่เด็กหนุ่ม ทั้งๆที่เขามาก่อน ทั้งที่เขาพร้อมจะดูแลมันทุกอย่าง “ทำไมวะ ทำไม..”

“พี่ชุ..”

“ทำไมเป็นกูไม่ได้.. ลินท์ ทำไมถึงเป็นกูไม่ได้”

“ฮึก ลินท์ขอโทษ”

เด็กหนุ่มร้องไห้จนเหนื่อยอ่อนผล็อยหลับไปบนโซฟาทั้งๆที่ใบหน้ายังมีคราบน้ำตา เขานั่งมองคนที่นอนหลับด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งอยากปกป้องดูแลทั้งอยากจะทะนุถนอม แม้กระทั่งอยากจะแย่งมาเป็นของตัวเอง เขารู้ดีว่าสิ่งที่คิดมันไม่ได้เป็นความคิดที่ดีนัก แต่บางครั้งมันก็ยากจะหักห้ามใจ

เวลาล่วงเลยจนดึกดื่น ชวิศลุกไปเปิดสวิตส์กระติกน้ำร้อนเพื่อชงโอวัลติลให้เด็กหนุ่ม พร้อมกับอุ่นข้าวต้มให้ร้อนคงจะพอดีกับที่มุจลินท์จะตื่นขึ้นมา ตระเตรียมยาอีกชุดไว้เผื่อเจ้าตัวยังไม่หายปวดแผล

“อือ.. กี่โมงแล้วอะพี่ชุ”

“จะห้าทุ่มแล้ว”

“ตายห่า.. อูย” เด็กหนุ่มฝืนลุกขึ้นมาทั้งๆที่ยังเจ็บแผล เผลอร้องเสียงหลง “ผมต้องกลับบ้านแล้ว”

“มึงนอนที่นี่สักคืนก็ได้”

“แต่ว่า” เขาหายตัวมาแบบนี้ปานชีวันคงเป็นกังวลจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันพอดี อย่างน้อยถ้าเขากลับไปทุกคนจะได้ไม่เป็นห่วง เขาอยากเจอลูกชาย อยากเจอยายจะแย่อยู่แล้ว

“พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวกูแวะพามึงไปหาหมอเสร็จแล้วจะพาไปส่งที่บ้าน” เขานั่งลงปุบข้างเด็กหนุ่ม “มึงไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น กูอยู่นี่แล้ว”

“อือ” เขาคิดในใจ เอาอย่างนั้นก็ได้ “ขอบคุณนะพี่ชุ” เขากระพุ่มมือไหว้ปลกๆเพราะมือยังปวดหนึบเลยออกมาท่าประหลาดมากกว่าไหว้

“ลินท์ ให้กูช่วยเอาไหม”

“ช่วยอะไรหรือพี่”

“มึงไม่อยากให้ยัยนั่นมายุ่งวุ่นวายกับมึงกับยายมึงใช่ไหม?” เด็กหนุ่มพงกหัวมองรุ่นพี่ตาแป๋ว “เอางี้ดีไหม กูจะช่วย” ชวิศผ่อนลมหายใจเชื่องช้า กดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เขาใช้ท่าทางที่ดูเป็นมิตรแทรกซึมให้เด็กหนุ่มตายใจว่าเป็นรุ่นพี่ที่แสนดีที่พร้อมจะดูแลปกป้องน้องเสมอ เขาเลือกที่จะยื่นข้อเสนอที่ทรมานหัวใจเด็กหนุ่มที่สุด เขาจะใช้การเดิมพันครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ในระหว่างที่ศัตรูหัวใจยังไม่สามารถกลับมาดูแลได้ เขาจะขออาสาทำหน้าที่นี้.. แทนเอง

“อื้อ..”

“ลินท์ คบกับกูเหอะ”

เขายอมมาตลอด แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมอีกต่อไป..

มุจลินท์จะต้องเป็นของเขา!





TBC

นิยายเรื่องนี้เป็นฟีลกู้ดนะจ๊า5555 จริงจัง ยังไม่ได้เกลาเลยค่ะมีคนอยากอ่านเลยรีบลง ตรงไหนแปลกๆจะแก้ให้ตอนรีไรท์นะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ เมื่อวานป่วยด้วยค่ะเลยไม่ได้แวะมาอัพให้ ;-;

จบตอนนี้พายขอแจ้งงดอัพมุจลินท์นะคะ เจอกันต้นเดือนกพ. หรือถ้าเรื่องสั้นที่พายเขียนเสร็จไวจะมาต่อให้ค่ะ ขอคอมเม้นเป็นกำลังใจกันนิดนึงนะคะ รัก<3 :mew2: :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถ้าเป็นพี่ฉลามนี่จะพ่นไฟเลยนะ ไหนจะลูกน้องไม่ได้เรื่องปล่อยให้เมียหาย ไหนจะคนพูดไม่รู้เรื่องพยายามแย่งเมียคนอื่นอีก เฮ้อ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ชวิศ.... ไม่เอานะ... ไม่ทำแบบนี้นะ.. ลินท์มีเจ้าของแล้ว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าววว ซะงั้น

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เหมือนลินท์หนีเสือปะจระเข้ แฮะ หนีเกศ มาเจอชู โอ้ยยย ทำไงดี

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ชวิศไอ้ตัวร้าย ต้องฟ้องพี่ฉลามให้  :z6: แรงๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ้าว คิดว่าจะดี

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
พี่ฉลามกลับมาจัดการเลยนะ

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เข้าใจนะว่าลินเป็นคนดี แต่แบบนี้ดีและโง่ด้วยอ่ะ ทำไมต้องยอมทำไมต้องให้คนอื่นรังแก เป็นผู้ชายคนนึงป่ะ เฮ้ออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด