-จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -จบบริบูรณ์- ★ มุจลินท์ ★ [Special Halloween] หน้าที่๑๗ {๑๐๐%} ๓๐.๑๐.๖๑  (อ่าน 168889 ครั้ง)

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หน่วงชะมัด

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๒๗

เด็กหนุ่มหยิบหมอนและผ้าห่มมาจากอีกห้องก่อนจะพยายามเปิดประตูเข้าไปโดยใช้เสียงให้น้อยที่สุด ค่อยๆ ปูผ้าห่มกับพื้นห้องที่เย็นเฉียบ เขากะระยะไม่ให้ใกล้กับเตียงมากเกินไปและสามารถมองเห็นคนบนเตียงได้ชัดเจน ทิ้งตัวลงนอนแต่ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอมเทาระยิบระยับยามได้เห็นคนรักอยู่ใกล้แค่เอื้อม ชลธีพลิกตัวไปมาและพยายามจะลุกขึ้นนั่ง มือทั้งสองข้างควานหาสะเปะสะปะไปทั่ว เขาจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งจึงเข้าใจว่านายทหารหนุ่มคงอยากจะจิบน้ำ เลยลุกขึ้นไปรินน้ำเปล่าใส่แก้ว ทันทีที่เสียงฝีเท้าดังชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงก็ตวาดเสียงดังจนเขาสะดุ้ง

“ใคร! ใครอยู่ในห้อง!?”

เด็กหนุ่มเหลือบมองก่อนจะค่อยๆ ถือแก้วน้ำเข้าไปหา คิดไม่ตกว่าจะบอกนายทหารหนุ่มอย่างไรดีเพราะปานชีวันไม่ให้เขาบอกความจริงกับชลธีว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว และผู้หมวดหนุ่มยังได้บอกกับชลธีเอาไว้ว่าจะมีคนมาช่วยดูแล แม้ผู้พันจะปฏิเสธอย่างไรแต่รุ่นน้องก็ไม่ยอมปล่อยให้ได้อยู่คนเดียว เด็กหนุ่มเลยได้โอกาสสวมรอยเป็นคนดูแล นี่คืองานที่ปานชีวันบอกให้เขาช่วยสินะ เด็กหนุ่มแอบดัดเสียงเล็กน้อยไม่ให้คนรักจำได้ “เอ่อ คือว่า.. ผมเป็นคนที่จะมาช่วยดูแลคุณครับ” เมื่อชายหนุ่มยังนิ่งเงียบเขาเลยถือโอกาสพูดต่อ “คุณปาน..”

“ไปบอกไอ้ปานมันด้วยว่าผมไม่ต้องการ!” เด็กหนุ่มยังพูดไม่ทันจบประโยค นายทหารหนุ่มก็ตวาดเสียงแข็งจนเขาสะดุ้งอีกรอบ “ผมดูแลตัวเองได้!”

“แต่คุณมองไม่เห็น.. แล้วจะช่วยเหลือตัวเองได้ยังไง”

“ผมบอกให้ออกไป!”

เขานิ่งเงียบมองชลธีที่กำลังสบถอย่างหัวเสีย ชลธีไม่ยอมให้เขาดูแลและไล่เขาออกไปหลายต่อหลายครั้ง เขารู้ว่าการมองไม่เห็นมันเป็นเรื่องที่กวนใจและทรมานมาก ยิ่งคนที่ทำอะไรได้เองทุกอย่างกลับต้องมารอความช่วยเหลือจากคนอื่น เป็นเขาก็คงไม่อาจจะสงบใจไว้ได้ แต่เรื่องอะไรที่เขาจะยอมไปง่ายๆ กัน จะปล่อยให้คนรักอยู่คนเดียวได้อย่างไร เด็กหนุ่มถือแก้วน้ำเข้าไปใกล้โดยจับมือชลธีให้สัมผัสกับแก้ว

“ใจเย็นๆ ดื่มน้ำก่อนนะครับจะได้ทานยา” เขาเตือนความจำของชายหนุ่มที่จะต้องทานยา จึงไม่มีอาการอาละวาดอย่างที่เขานึกกลัว “จะได้หายไวๆ นะครับ” ชลธีไม่พูดอะไรมากและยอมทานแต่โดยดี เขาจัดการเรื่องยาที่จะต้องทานและช่วยทำแผลให้เรียบร้อย ช่วงแรกอาจจะไม่ค่อยคล่องอยู่บ้างแต่เขาก็ตั้งใจมาก แค่เห็นแผลตามตัวของชลธีเขาก็อดสงสารไม่ได้

“ขอบคุณ”

“ไม่เป็นไรครับ.. คุณอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า”

“ไม่.. ไม่เป็นไร” เขาส่ายหัว “คุณออกไปเถอะ”

“มีอะไรก็บอกผมได้นะครับ”

“อืม”

มุจลินท์ไม่ได้ออกจากห้องอย่างที่นายทหารหนุ่มคิด เขานั่งมองคนรักที่กำลังพยายามลุกจากเตียงอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนเขาอดรนทนไม่ไหวต้องเข้าไปช่วยประคองไม่ให้ล้ม นายทหารหนุ่มตัวใหญ่กว่าเขามากจนเขาเกือบเผลอล้มทับไปแล้ว เสียงฮึดฮัดของคนป่วยดังมาอีกรอบ ชลธีหงุดหงิดที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างใจนึก หงุดหงิดกับโลกแห่งความมืดที่เขารู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว หงุดหงิดที่จะต้องร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นทุกครั้งไป.. ชลธีนึกเกลียดตัวเองจับใจ เขากลายเป็นคนไร้ความสามารถไปเสียแล้ว

“ผมอยากเข้าห้องน้ำ”

“ได้ครับ ค่อยๆ เดินนะ” ประคองชายหนุ่มเดินไปตามทาง ชลธีใช้มือสัมผัสไปทั่วพยายามนึกถึงสถานที่ที่ตัวเองเคยอยู่และจดจำให้คุ้นชิน แม้เขาจะมีโอกาสหายแต่ก็ไม่แน่ร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่เป็นสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ชลธีควานหาปุ่มเปิดไฟอย่างเคยชิน จนกระทั่งรู้สึกตัวว่าต่อให้เปิดยังไงเขาก็ไม่มีทางเห็น นายทหารหนุ่มจึงยอมเดินเข้าไปห้องน้ำแต่โดยดี เด็กหนุ่มเห็นอาการแล้วอยากจะเข้าไปกอดปลอบเหลือเกิน “จะอาบน้ำเลยไหมครับ”

“อืม”

การอาบน้ำยังคงทุลักทุเลอยู่บ้างเพราะต้องระวังไม่ให้โดนแผลที่เพิ่งจะผ่าตัด ชายหนุ่มไม่ยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัวแม้แต่ตัวน้อย เขาจึงต้องแอบบังคับถูสบู่ให้ จนเขาพาชลธีเข้าไปนอนที่เตียงและห่มผ้าให้เรียบร้อย ค่อยตรวจเช็คแผลตามตัวว่าไม่มีปริแตกและแผลเย็บไม่ได้อักเสบอะไร เขาจึงได้เบาใจและยอมผละไปนอนที่นอนตัวเอง คอยนอนตะแคงมองชายหนุ่มที่กระสับกระส่ายไปมา

“นอนไม่หลับหรือครับ”

“กี่โมงแล้ว”

“สองทุ่มแล้วครับ”

“เอาโทรศัพท์มาให้ที.. กดโทรหาปานให้หน่อย”

“นี่ครับ” เขาส่งโทรศัพท์มือถือให้ชายหนุ่ม

“ปาน มึงอยู่ไหน? มึงอยู่กับลินท์หรือเปล่า?” เขาใจหายวาบเมื่อชลธีถามหาถึงเขา ถึงแม้ว่าปานชีวันจะบอกเขาแล้ว เขาก็ยังบังคับให้ปานชีวันบอกคนที่บ้านเรื่องอาการป่วยของนายทหารหนุ่มด้วย เขารอเวลาได้จัดการกับคนรักที่ทำให้เขาทรมานแทบตายอยู่หลายวัน

[ไม่ได้อยู่นะพี่ ผมเพิ่งออกมาจากบ้านพี่มาเมื่อกี้นี้เอง]

“ลินท์เป็นยังไงบ้าง ไทเกอร์ล่ะ”

[ยังไม่ยอมกินข้าว..]

“ลินท์เลิกร้องไห้หรือยัง”

[พี่คิดว่าไงล่ะ?]

“กูฝากดูแลลินท์ด้วย..” ชลธีพูดได้แค่นั้นก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวก่อนจะสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มเงียบเชียบ เด็กหนุ่มนอนมองคนรัก จนคิดว่าชลธีคงจะนอนหลับไปแล้วค่อยๆ คลานเข้าไปที่เตียงแตะใบหน้าคมคร้ามที่เขาแสนคิดถึงเบาๆ ยังไม่ทันจะได้ดึงมือออกก็โดนมือหนาคว้าเอาไว้ก่อน

“จะทำอะไร?”

“ปะ.. เปล่า”

“อย่ามายุ่งวุ่นวายกับผมมาก ผมไม่ชอบ” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำ “อย่าให้มีอีก”

“ขะขอโทษครับ” เด็กหนุ่มชักมือกลับหันหลังเดินกลับไปนอนบนที่นอน ตะแคงข้างมองชายหนุ่มจนผล็อยหลับไป ไม่ได้แตะต้อง ไม่ได้กอด ไม่ได้จูบให้หายคิดถึงก็ไม่เป็นไร.. อย่างน้อยพี่ก็ยังอยู่ในสายตาหนู อยู่ใกล้กับหนู…

เพล้ง!

เสียงแตกของแก้วทำให้เขาสะดุ้งตื่น เขาขยี้ตาอยู่สักพักก็เห็นชลธีกำลังจับกรอบรูปที่แขวนอยู่บนผนังแล้วปามันลงกับพื้น เจ้าลูกเป็ดอ้าปากค้างพลิกตัวหลบเศษแก้วที่กระเด็นเกือบจะโดนหน้าแทบไม่ทัน เมื่อวานเขาคงนอนดึกไปถึงได้ไม่ตื่นตามเวลา มารู้สึกตัวก็ตอนที่ชลธีกำลังอาละวาด ไม่รู้โมโหหิวหรือเปล่า

“คุณทำอะไรเนี่ย”

“หลบไป!”

“คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นหรือไง!” เขาคว้ามือหนาของคนรักเอาไว้ แวบหนึ่งเขาลืมดัดเสียงจนต้องยกมือขึ้นปิดปาก “แค่กๆ ทำไมถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้นะ” แกล้งไอกลบเกลื่อนก่อนจะคว้ามือคนป่วยที่กำลังพยศให้เดินมานั่งที่เตียง

“อยู่เฉยๆ เดี๋ยวผมมา”

“ทำไมผมต้องฟังคุณด้วย”

“ก็…” เขาอึกอัก อยากจะตะโกนใส่หน้าด้วยความโมโหว่าตัวเองเป็นใครแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจเอาไว้ “ก็ผมเป็นคนดูแลคุณไงเล่า!” เด็กหนุ่มพูดได้แค่นั้นก็วิ่งลงไปข้างล่าง เข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วรีบก็ไปเตรียมอาหารเช้า เปิดตู้เย็นที่มีของสดที่ปานชีวันเตรียมมาให้จึงลงมือทำอาหารทานง่ายๆ ให้คนป่วย ด้านบนไม่มีเสียงของแตกหรือเสียงโวยเขาถึงได้เบาใจ

“ค่อยๆ ทานนะครับ.. วันนี้มีข้าวต้มกุ้งกับไข่ตุ๋น” ชลธีนิ่งเงียบไม่หือไม่อือไม่ยอมตอบอะไรเขาทั้งนั้น นี่กำลังกวนประสาทเขาอยู่ใช่ไหม? “นี่คุณ!”

“รู้ยังไงว่าผมชอบทานอะไร?”

“ก็ คุณปานชีวันเป็นคนบอก” เขาตอบแล้วเลื่อนถ้วยข้าวต้มเข้าไปใกล้ “ก่อนที่ผมจะมาดูแลคุณ ผมก็ต้องศึกษาข้อมูลก่อนสิ”

“หึ”

“กินสิครับ เดี๋ยวมันเย็นหมดหรอก” เขาจ่อช้อนไว้ที่ปากคนป่วยแล้วบอกกึ่งบังคับ “อ้าปาก”

“ผมไม่ใช่เด็กนะ”

“ยิ่งกว่าเด็กอีก ถ้ายังไม่ยอมทาน!” กว่าชลธีจะยอมทานได้ต้องต่อปากต่อคำกับเขาอีกสักพัก นายทหารหนุ่มทานได้แค่ครึ่งหนึ่งก็ขอทานยา แม้เขาจะคะยั้นคะยอให้ทานเพิ่มอีกสักหน่อยก็ไม่ยอม หลังจากนั้นเขาจึงช่วยคนรักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็พามานั่งที่เตียงเหมือนเคย..

“ไม่เบื่อหรือ มานั่งเฝ้าคนตาบอด”

“ไม่เบื่อครับ” เขาไม่อยากจะบอกว่ายิ่งกว่าเต็มใจด้วยซ้ำ

“แปลกคน” ชายหนุ่มล้มตัวลงนอน “คุณจะไปทำอะไรก็ไปเถอะผมไม่ว่า หรือจะไปเลยก็ได้”

“คุณชลธี!” เขาชักจะเริ่มโมโหกับคนดื้อซะแล้ว ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะหาย ใจคอจะไม่อยากเจอเขาแล้วใช่ไหม

“ผมอยากอยู่คนเดียว”

“ไม่ได้” เขาตอบเสียงแข็ง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมอยู่ห่างจากชลธีอีกแล้ว ต่อให้เอาช้างมาฉุดเขาก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น!

นายทหารหนุ่มไม่ตอบแต่นอนหันหลังให้เขาไม่ยอมคุยกับเขาสักคำจนกระทั่งเกือบหกโมงเย็นปานชีวันเข้ามาเยี่ยมถึงจะยอมเปิดปากพูด ส่วนเขาไม่ได้พูดอะไรมาก ทำหน้าที่ของตัวเอง เตรียมอาหาร เตรียมยา ช่วยทำแผลและพาเดินเพื่อไม่ให้แผลกดทับ

“เป็นยังไงบ้าง” ปานชีวันแอบมาคุยกับเขาส่วนตัว

“ขี้หงุดหงิดชะมัด” เด็กหนุ่มบ่นอุบ “ลินท์เอาแทบไม่อยู่”

“แรกๆ หนักกว่านี้อีก ผู้ช่วยพยาบาลไม่เคยอยู่ได้เกินหนึ่งวัน”

“ขนาดนั้นเลยหรือครับ”

“อาละวาดซะขนาดนั้น” ปานชีวันถอนหายใจเฮือก “กว่าจะพักรักษาตัวเพื่อเข้าผ่าตัดคงอีกหลายเดือน”

“นานจังเลยครับ”

“พี่คงหวังแค่ลินท์ได้คนเดียว” เขาไม่รู้จะไปหาใครที่เอาชลธีอยู่อีกแล้ว ก็หวังพึ่งแต่เด็กหนุ่มคนนี้คนเดียวเป็นถึงคนรักย่อมต้องรู้วิธีจัดการกับชลธีอยู่แล้ว ผู้หมวดหนุ่มอยู่เป็นเพื่อนเขาอีกพักหนึ่งจึงขอตัวกลับก่อน ปานชีวันเข้าไปบอกลารุ่นพี่ที่กำลังนั่งเฉยอยู่บนเตียง

“ผมกลับก่อนนะครับ” ผู้หมวดหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะแวะมาหาใหม่ พี่ก็อย่าไปไล่คนดูแลเขานะ ผมหาให้ไม่ได้แล้ว” ประโยคหลังเขาแอบพูดติดตลกแต่ดูเหมือนผู้พันจะไม่ขำกับเขาด้วย

“อยู่ไม่ได้ก็ออกไป”

“พี่ฉลาม..”

“ส่วนมึงจะไปไหนก็ไป กูอยากอยู่เดียว”

“พี่ไม่อยากจะฟังข่าวลินท์หรือ” ปานชีวันพูดแล้วเงยหน้ามองเขา “พี่แม่งโคตรใจร้ายเลยนะรู้ตัวบ้างไหม”

“…”

“ถ้าลินท์มันมีแฟนใหม่ขึ้นมา ผมจะหัวเราะสมน้ำหน้าพี่ คอยดู”

เพล้ง!

“มึงออกไปเลยไป!” คนป่วยปาดของที่ใกล้ตัวออกระเนระนาดไปหมด แผ่นอกขยับขึ้นลงถี่มือทั้งสองข้างกำแน่น เขาหันไปถลึงตาใส่ผู้หมวด

“ผมเตือนพี่แล้วนะ คิดว่าแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวแล้วเท่หรือ”

“กูอยากอยู่เดียว!” ปานชีวันหันมามองหน้าเขาแล้วตบไหล่เบาๆ เขารีบเข้าไปพยุงชลธีที่กำลังพยายามลุกขึ้นแต่ก็โดนผลักออกมา

“โอ๊ย”

“ออกไป”

“นี่คุณ!”

“นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม คนนอกไม่ต้องมายุ่ง” สิ้นประโยคเด็กหนุ่มกำมือแน่น ขมวดคิ้วเป็นปม รู้สึกโกรธจนต้องหายใจเข้าออกช้าๆ แม้ว่าชลธีจะไม่รู้ว่าเป็นเขาแต่การที่ถูกบอกว่าเป็นคนนอกแล้วต้องมองคนรักใช้ชีวิตด้วยความเจ็บปวด เขาเองก็รู้สึกทรมานไม่ต่างกัน เด็กหนุ่มไม่สนใจคำพูดที่ผลักไล่ไสส่งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเข้าไปประคองชลธีที่ให้นั่งเรียบร้อย มือขาวปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบๆ

“เดี๋ยวทานยานะครับ” เขาส่งยาให้ชายหนุ่มถือไว้ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมทานเสียที

“อืม”

“กินให้หมดสิครับ”

“รู้แล้วน่า”

“อาบน้ำด้วยนะครับ”

“อืม” เขาจัดแจงพาชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำตามเดิม ค่อยๆ ล้างแผลเช็ดแผลให้เรียบร้อย แต่งตัวเรียบร้อยก็ลงมานั่งเปิดทีวีให้ฟังเสียง กิจวัตรเดิมๆ ที่เขาเองไม่เคยเบื่อแต่คนป่วยคงเบื่อหน่ายจนแทบทนไม่ไหวแล้ว เขามองคนรักที่กำลังนั่งฟังข่าว แหวนทองคำขาวที่เขาเคยให้คนรักเอาไว้วางอยู่ไม่ห่าง เขาเลยถือวิสาสะหยิบมาดูสภาพของมันด้วยความคิดถึง..

“ใครใช้ให้มายุ่งกับของๆ ผม!” ชลธีคว้าข้อมือบางแล้วบิดไปอีกทางจนคนตัวเล็กร้องโอดโอย มือเขาจะหักหรือเปล่าเนี่ย ทำไมคนป่วยถึงได้แรงเยอะแบบนี้นะ!

“อย่านะ ผมเจ็บ!”

“บอกมาว่าคุณต้องการอะไรกันแน่!” แรงกระชากจนเขาแทบน้ำตาเล็ด ปวดไปทั้งแขนจนอยากจะร้องไห้
“ลินท์เจ็บ..”

“อะไรอีก.. คราวนี้อะไรอีกล่ะ”

“พี่ฉลาม.. หนูเจ็บ”

“….” ชลธีอึ้งไปชั่วครู่ “ลินท์?”

“ก็ใช่น่ะสิ! พี่ปานไม่ให้บอกพี่ว่าเป็นหนู ก็พี่อยากให้พี่ปานปิดหนูทำไมล่ะ” อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าไม่บอกเขาได้ตายคาบ้านพักชลธีแน่ๆ ฮือ เจ็บชะมัด

“ลินท์จริงๆ หรือ?” เขาถามทวน มือที่จับไว้ค่อยๆ ปล่อยออก “งั้น.. คนที่ทำอาหารให้ทาน”

ข้าวต้มกุ้งของโปรดและไข่ตุ๋นทรงเครื่องรสมือที่คุ้นปาก…

“หนูเอง”

“คนที่ป้อนยาล่ะ”

กลิ่นตัวที่เขาคุ้นเคย ลอยวนเวียนรอบจนเขาต้องไล่ให้ออกไปห่างๆ ..

“หนูเอง”

“คนที่พาไปอาบน้ำ ถูสบู่?”

“ก็หนูเองนั่นแหละ” เด็กหนุ่มเริ่มจะโมโห มีเขาคนเดียวที่อยู่มาตั้งสองวัน “จะเป็นใครไปได้ล่ะ!”

“คนที่แอบหอมแก้มพี่?”

“อืออออ หนูเอง” เขอเผลอตอบก่อนจะร้องลั่น “พี่รู้ได้ไงเนี่ยยยย” เห็นชลธีนิ่งเงียบเขาเลยเข้าไปใกล้ ไม่รู้จะโกรธมากไหม แต่คิดไปคิดมาคนที่ควรจะโกรธต้องเป็นเขาสิ! มือหนาแตะไปตามตัวเขาลูบตั้งแต่หัว ใบหู ใบหน้าที่ค่อยๆ ลูบไล้ตั้งแต่คิ้ว จมูก ริมฝีปาก

“อื๊อ พี่ฉ..ฉลาม” ชายหนุ่มรั้งร่างที่เล็กกว่าให้เข้ามาใกล้ สูดกลิ่นหอมที่เขาคิดถึงเหลือเกิน “ปล่อยหนูก่อนหนูอึดอัด..” ริมฝีปากหนาพรมจูบไปตามใบหน้า เกลี่ยไล้ไปตามซอกคอขาว เด็กหนุ่มใช้มือทั้งสองข้างดันแผ่นอกหนาเอาไว้แต่ก็เอาไม่อยู่ วนเวียนอยู่ข้างแก้มสักพักค่อยๆ เลื่อนมาที่ริมฝีปากของเด็กหนุ่ม ดูดดื่มดึงรั้งด้วยความรุนแรงจนเจ้าลูกเป็ดต้องส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ จะจูบให้ปากเขาหลุดออกมาหรือยังไง เสียงหอบหายใจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ แรงอารมณ์ปะทุขึ้นมาอย่างง่ายดายจนเขาต้องเขยิบตัวหลบออก เมื่อเขายิ่งหนีแรงโอบยิ่งมากขึ้นตามด้วยมือแกร่งที่ช้อนข้อพับที่ขาเขาไว้แล้วช้อนอุ้มในท่าเจ้าหญิง

“พี่..เดี๋ยวหนูตก.. ปล่อยหนูก่อน!” เขาโวยวายพลางกอดรัดคนรักไว้แน่น

“ลินท์”

“หือ?”

“บอกทางพี่ที.. เตียงไปทางไหนครับ”

(ต่อด้านล่างค่ะ)

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


เด็กหนุ่มได้ยินคำพูดจากคนรักก็เบิกตาโพลงใช้กำปั้นทุบเข้าไปที่แผงอกหนา “ปล่อยหนูลงเดี๋ยวนี้นะ!” เจ้าลูกเป็ดดิ้นพล่าน ท่อนแขนแข็งแกร่งก็ยิ่งบีบรัดแน่นขึ้น “พี่ฉลาม!”

“ไม่.. พี่ไม่ปล่อยหนู” นายทหารหนุ่มยืนยันคำเดิม ค่อยๆก้าวเท้าไปข้างหน้าทั้งๆที่มองไม่เห็นอะไร ความมืดที่เขาต้องเผชิญอยู่คนเดียวราวกับชีวิตนี้เขาไม่เหลือใครอีกต่อไปมันช่างทรมาน เขายอมปิดบังคนรักเพราะอยากรักษาอาการป่วยให้หายดี ตอนนี้เขาไม่ต่างจากคนพิการที่แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่ามุจลินท์จะรับเขาได้หรือไม่ มันคือสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด

กลัวเมียทิ้ง…


“อื้อ เดี๋ยวก็ล้มลงไปทั้งคู่หรอก”

“ถ้าพี่ปล่อยหนูลง จะไม่หนีพี่ไปใช่ไหม”

“พูดอะไรของพี่เนี่ย” เขาเหวลั่น “หนูเนี่ยนะจะหนี”

“ก็หนูรู้แล้วว่าพี่…”

“รู้แล้วยังไงครับ” เด็กหนุ่มชักเริ่มโมโห “พี่คิดว่าหนูจะทิ้งพี่หรือ?”

บ้าที่สุด! กล้าคิดว่าเขาจะทิ้งไปได้ยังไง

“พี่ไม่รู้เลย.. มันกังวลไปหมด”

“เลยไม่ให้พี่ปานบอกหนูหรือ? มันน่าทุบไหม!” เด็กหนุ่มน้ำเสียงสั่น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ชลธีรู้ว่าเขาเสียใจขนาดไหน มือขาวปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด “ทำไมพี่ดูถูกความรักของหนูแบบนี้”

“พี่ผิดไปแล้ว” เขาวางคนรักลง แล้วรวบลูกเป็ดเข้ามากอดแน่น สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาชอบนัก “ให้อภัยคนโง่อย่างพี่นะครับ”

“พี่ฉลามบ้า! บ้า บ้า” เขารัวกำปั้นทุบไปอย่างไม่แรงนัก เสียงสะอึกสะอื้นของลูกเป็ดทำให้ชลธีรู้ว่าเขาได้ทำให้คนรักเสียใจขนาดไหน

“พี่ขอโทษ” ชลธีพูดเสียงแผ่ว เขารู้สึกผิดจริงๆที่คิดอะไรไปเองคนเดียว “ขอโทษนะครับคนดี”

“ฮึก ฮือ”

“ไม่ร้องนะครับ พี่อยู่นี่แล้ว”

“ฮึก ฮือ” เด็กหนุ่มพูดทั้งน้ำตา เขาทั้งกลัวทั้งเสียใจความรู้สึกอะไรต่อมิอะไรประดังประเดเข้ามาหาไม่มีหยุด มันทรมานแทบจะขาดใจ “ถ้าพี่หายไปอีก หนูไม่ยอมแน่ๆ”

“จะไม่ไปไหนแล้วครับ”

“อยู่กับหนูนะ”

“ครับ” เห็นคนรักพยักหน้า ลูกเป็ดก็ยิ้มกว้างเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มชายหนุ่มเบาๆ ชลธีเลิกคิ้วเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสข้างแก้ม เขากุมมือคนรักไว้แน่น ยกขึ้นจูบแนบกับริมฝีปากอุ่น “เมียพี่น่ารักที่สุด..”

ชลธียกเด็กหนุ่มขึ้นอุ้มค่อยๆก้าวขาตามที่บอก วงแขนขาวคล้องคอคนรักกลุ่มผมนิ่มซบลงตรงไหล่หนา “ตรงหน้าเป็นบันไดแล้วครับ”

“อ๊ะ” ชลธีเซเล็กน้อย “อีกกี่ขั้นครับ”

“ช้าๆนะครับ อีก7ขั้น”

“เยอะจัง” นายทหารบ่นอุบ “พี่ใจร้อนจะแย่แล้ว”

ถ้าวิ่งได้เขาคงวิ่งไปแล้ว!

“พี่จะรีบทำไมครับ เพิ่งทานยาง่วงแล้วหรือ”

“อะอือ พี่รู้สึกง่วงๆยังไงไม่รู้”

“งั้นปล่อยหนูลง หนูพาพี่ไปง่ายกว่าอีก” เขาเงยหน้าขึ้นมองคนรัก ลูบที่ท่อนแขนแผ่วเบา “ให้หนูลงก่อน”

“ก็ได้ครับ”

เด็กหนุ่มค่อยๆจับจูงคนตัวโตที่เลิกโวยวายขึ้นบันไดด้วยความระมัดระวัง มือสอดประสานแนบแน่นถ่ายทอดความรู้สึกร้อนผ่าวที่แสดงถึงสัญชาตญาณแห่งการมีชีวิต แค่รู้ว่าชลธีปลอดภัยและยังมีชีวิตอยู่เขาแทบจะปลดทุกสิ่งออกทั้งหมด เหมือนก้อนหินที่ถ่วงใจเขาไว้มันหายไป เหมือนได้ต่อลมหายใจอีกครั้ง

“ถึงแล้วครับ” เขาพาชลธีไปนั่งที่เตียง กุลีกุจอจัดแจงหมอนและผ้าห่มให้เรียบร้อย ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นจนเขาต้องเอ่ยปากถาม “เป็นอะไรหรือครับ”

“อย่าบอกนะว่า.. หนูนอนที่พื้นตลอดเลย”

“ก็.. เอ่อ จะให้หนูไปเบียดพี่ได้ไงล่ะ” เขาเกาหัวแกรก “หนูไม่ได้บอกด้วยว่าตัวเองเป็นใคร”

“ไอ้ปานนะ.. ไอ้ปานไอ้น้องเวร” กล้าดียังไงถึงปล่อยให้เมียเขาลำบากขนาดนี้ ยังไม่รวมที่เขาเผลอตวาดขึ้นเสียง แถมยังว่าต่างๆนาๆอีก “พี่ขอโทษนะครับ”

“ไม่ต้องขอโทษแล้ว หนูไม่ได้โกรธ แค่พี่อยู่กับหนู..ก็พอแล้ว หนูไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น”

“จริงหรือ”

“แต่ว่าตอนนี้ พี่ต้องการ..”

“พี่จะเอาอะไรบอกหนูก็ได้ หนูจะหยิบให้” เขาหันไปถามคนรัก เผื่อจะได้ช่วยหยิบจับอะไรในขณะที่คนป่วยยังเงียบกริบแบะกวักมือให้เขาเข้าไปใกล้แทน “เอาอะไรหรือ?”

“ไม่ต้องแล้วล่ะ เพราะพี่หาเจอได้แล้ว” นายทหารหนุ่มคว้าตัวเด็กหนุ่มได้ก็ดึงให้เข้ามาใกล้ เขาผลักลูกเป็ดให้นอนเอนราบไปกับเตียง แม้เขาจะมองไม่เห็นแต่เสียงเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขารู้ว่าร่างกายของเขาและคนรักกำลังเข้าใกล้กันมากขนาดไหน

ร้อน.. จนแทบละลาย

“อื้อ พี่ต้องพักผ่อนนะ!” เขานึกขึ้นได้ก็กระเด้งตัวขึ้น “เดี๋ยวหนูโดนแผลพี่”

“ไกลหัวใจน่า” เขาบอกพลางหัวเราะขำ นิ้วมือไล้ไปตามวงหน้าของลูกเป็ดอย่างรักใคร่ เขาสัมผัสอย่างระมัดระวัง จินตนาการยามได้โอบกอดคนรักในวงแขนใบหน้าหวานมักขึ้นสียามเขาหยอกล้อคลอเคลียไม่ห่างจนเขาอดใจไม่ไหวก้มลงดูดดึงริมฝีปากจิ้มลิ้มนั่นทุกครั้งไป

“อื้อ หนูเจ็บ” คนตัวเล็กกว่าบ่น ไม่รู้คนรักเป็นอะไรถึงได้ชอบเล่นอะไรรุนแรงกับเขาเหลือเกิน เล่นขบกัดขนาดนี้ปากเขาแตกขึ้นมาจะทำยังไง! “อย่ากัดปากหนูสิ”

“ก็ปากหนูหวาน.. พี่ชอบ”

“บ้า!”

ชลธีปลดกระดุมเสื้อของเด็กหนุ่มอย่างคล่องแคล่วไม่นานนักลูกเป็ดก็โดนลอกคราบ คนเจ้าเล่ห์ใช้ท่อนแขนหนากักเขาไว้ไม่ให้ไปไหน ฉกจูบไปทั่วใบหน้าใช้นิ้วเขี่ยยอดอกที่เริ่มแข็งเกร็งเพราะแรงเสียดสัมผัส เขารูดชุดชั้นในของเด็กหนุ่มออกจนไม่เหลืออาภรณ์ใดๆ มุจลินท์ยกมือขึ้นลูบแก้มคนรักไล่ขึ้นไปยังผ้าพันแผลบริเวณดวงตา

“เจ็บไหม”

“เจ็บสิ” เขาจับมือคนรักไว้แล้วดึงมาจูบอย่างที่ชอบทำ “แต่ถ้าไม่ได้อยู่กับหนู.. พี่คงเจ็บมากกว่า”

“หนูก็เจ็บ เจ็บตรงนี้มากเลย” ดึงฝ่ามือชายหนุ่มให้ทาบทับเหนืออกข้างซ้าย หัวใจของเขาเต้นรัวเร็วจนอีกคนยังรู้สึกได้ หากชลธีเป็นอะไรไปมากกว่านี้เขาคงเจ็บมากกว่าเป็นสิบเท่า

“ต่อไปหนูจะไม่เจ็บตรงนั้นแล้ว” กดจูบที่แก้มขาวแรงๆสักที “เพราะน่าจะเจ็บตรงอื่นมากกว่า” ลูกเป็ดเอียงคอมองคนรักที่ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก็ยังไม่เข้าใจ นี่เขาจะยังต้องเจ็บอีกหรอเนี่ย!

ร่างเล็กผวาเฮือกเมื่อสัมผัสแปลกปลอมแตะเข้าที่ช่องทางรักมันบีบรัดแน่นจนนายทหารหนุ่มต้องกัดฟันข่มอารมณ์พลุ่งพล่านไม่ให้ตัวเองเสือกไสตัวตนเข้าไปจนสุด เขาเลือกใช้นิ้วชี้กดเข้าไปในนั้นจนมิดแล้วหมุนควงจนลูกเป็ดบิดเร้าหอบหายใจรวยระริน

“พี่จ๋า อย่าทำแรงนะ”

“พี่ทำแรงไปหรือครับ”

“ก็ไม่ได้แรงอะไรมากหรอก.. แต่หนูไม่ได้ทำนานแล้ว” เขาตอบเสียงเบาก่อนจะหลบหน้าไปอีกทาง ถึงแม้ชลธีจะไม่มองเห็นแต่เขาก็เขินอายเกินกว่าจะพูดในระยะประชิดขนาดนี้ ชายหนุ่มจุดยิ้มแล้วเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปอีก เด็กหนุ่มกระตุกเฮือกผวาเข้ากอดเขา “แกล้งหนูหรือ!”

“เปล่า พี่มองไม่เห็น” เขาปฏิเสธหน้าตาย ลมหายใจที่แผ่กระจายความอุ่นร้อนของคนตรงหน้าทำให้เขารู้สึกปวดหนึบที่กลางกายขึ้นมาอีกรอบ เขาถอนลมหายใจเชื่องช้ากัดฟันแน่น ใช้มือรูดแก่นกายของคนตัวเล็กสลับกับสอดนิ้วเข้าออก

เบาก่อน เบาก่อน..

“อื้ออออออ” เด็กหนุ่มกระตุกก่อนจะปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้อง ตั้งแต่ที่ชลธีไม่อยู่เขาก็ไม่เคยได้ปลดปล่อยด้วยตัวเองเลยสักครั้ง รู้สึกตกใจไม่คิดว่ามันจะออกมาเยอะขนาดนี้

“หื้ม” ชลธีเลิกคิ้วเมื่อเห็นเสียงคนรักเงียบไป “เหนื่อยแล้วหรือ”

“เปล่าพี่.. หนูแค่อาย” เขาเอามือปิดหน้า “ออกมาเยอะมากเลยอะ”

“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวก็ออกมาเยอะกว่านี้” ซับเหงื่อข้างขมับให้คนรัก “เพราะไม่พอแค่นี้หรอก”

“ไม่เอาแล้ว หนูกลัวเจ็บ”

“พี่จะทำเบาๆ สัญญาด้วยเกียรติของทหารเลย”

“หนูไม่เชื่อ!”

“โถ่คนดีตอนนี้พี่ป่วย พี่ไม่มีแรง..” ชายหนุ่มโอดครวญ รู้สึกเหมือนท้องฟ้าถล่มลงมาตรงหน้า อดอยากปากแห้งมาหลายเดือน เรื่องอะไรจะยอมทน “รับรองว่าพี่จะทำเบาๆ”

“ถ้างั้นก็ไม่ต้องทำดีไหม”

อ้าว………

“ถ้าหนูไม่พร้อม.. พี่ก็มะ”

“พี่อยู่เฉยๆเดี๋ยวหนูทำเอง”

เดี๋ยว!

หนู!

ทำ!

เองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ใครสั่งใครสอนให้พูดจาแบบนี้วะ!

ชายหนุ่มก้มลงบดจูบริมฝีปากคนรักอีกรอบ เจ้าตัวพยายามดันตัวให้หลุดออกจากอ้อมกอดเขา คราวนี้เขายอมปล่อยให้เด็กหนุ่มไต่ขึ้นมานั่งบนตัวเขา มุจลินท์นั่งมองเรือนร่างแน่นหนาไปด้วยกล้ามเนื้อพลางพิจารณาว่าไม่ควรโดนแผลตรงไหนบ้าง มือขาวค่อยๆปลดกางเกงผ้าแพรของชายหนุ่มหลุดปลิวออกไป ชลธีเผลอสบถครางออกมา เขามองไม่เห็นเลยไม่รู้ว่าจะโดนทำอะไรบ้าง จนกระทั่งลิ้นอุ่นแตะเข้าที่ส่วนหัวของแกนกายที่ร้อนระอุ นายทหารหนุ่มเกร็งจนหน้าท้องขึ้นกล้ามชัด ใช้มือหนาคว้าเข้าที่หัวของลูกเป็ดที่กำลังโยกขึ้นลง โพรงปากอุ่นและลิ้นร้อนทำเอาเขาอยากจะระเบิดตัวตายซะตอนนี้

“หนู.. พอก่อน”

“ไอ่(ไม่)!!”

“อ๊ะ หนูอย่า.. เดี๋ยวพี่เสร็จ”

“อื้อ”

“ลินท์ พี่ขอ.. นะครับ” เขาพูดเสียงพร่า ลมหายใจขาดห้วงเมื่อคนรักออกแรงห่อปากวนไล้ตรงจุดอ่อนไหวจนเขาเริ่มไม่ไหว ความรู้สึกแล่นปราดไปทั่วท้องน้อย เขาใช้สองมือหนาประคองศีรษะเล็กของคนรักเอาไว้ “อ๊ะ..” เด็กหนุ่มถอนริมฝีปากออก ใช้หลังมือปาดน้ำสีใสที่โยงใยเป็นสาย ดวงตากลมโตเป็นประกายยามได้เห็นนายทหารหนุ่มอดกลั้นด้วยความทรมาน เขาค่อยๆกดตัวลงเบื้องล่างดูดกลืนท่อนเนื้อที่กำลังแข็งขืนเข้าไปช้าๆ ร่างเล็กแอ่นตัวโยนยามถูกครูดโดนจุดอ่อนไหว นายทหารหนุ่มกัดฟันกรอดพยายามไม่ใช้มือของตัวเองกดสะโพกเล็กลงจนสุด

“แฮ่ก..”

“อ๊ะ อืออออ” มือขาววางลงบนไหล่คนรักที่พิงหัวเตียงเอาไว้ ค่อยๆขยับสะโพกขึ้นลง เด็กหนุ่มรู้สึกคับแน่น จุกเสียดจนต้องสูดปากร้อง “อื้ออ หนูจุก.. อ๊า ไม่ไหว”

“ละ.. ลินท์” 

“พี่ฉ.. ฉลาม” เขาประคองใบหน้าคมคร้ามของคนรักที่กำลังบิดเบี้ยวด้วยแรงอารมณ์แล้วกดจูบข้างริมฝีปากแผ่วเบา “หนูรักพี่นะ”

“ฮึ่ม!” ยิ่งดวงตามองไม่เห็นประสาทสัมผัสอย่างอื่นก็ยิ่งไวกว่าปกติ ชายหนุ่มกระชับต้นคอคนรักไว้แน่นแล้วตวัดร่างเล็กให้ลงมานอนแทนเขา ลูบไล้ท่อนขาขาวเนียนแล้วพาดขึ้นบ่า เสียงร้องครางดังถี่เมื่อเขากดแก่นกายแทรกเข้าไปช่องทางรักที่กำลังอ่อนนุ่มทำให้เขาเข้าไปด้านในได้ง่ายดายสำรวจคนรักได้อย่างหมดจดและจับจองทุกพื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว

“อ๊ะ.. อ๊า” เขาสะบัดหน้าไปมาบนหมอน “ละ ลึกไปแล้ว”

“แล้วชอบไหม?” เขากระซิบข้างหูคนรัก เสียงกระทบของผิวเนื้อดังจนน่าอาย สลับกับเสียงเตียงสั่นกึกกัก

ตึง!

ตึง!

ตึง!

“เบาหน่อยพี่.. หนูไม่ไหว.. อ๊ะ”

“ไม่ไหวก็ปล่อยออกมาครับ” เขาจุดยิ้มกว้าง เสียงแหบพร่าของเด็กหนุ่มยิ่งกระตุ้นเขามากขึ้นไปอีก “เด็กน้อยเอ๊ย”

“อะ.. อื้อ หนูไม่เด็กแล้วนะ”

“อายุเท่าไหร่แล้ว” แกล้งถามเด็กที่งอแงก่อนจะหยอกเย้าด้วยจูบหวาน

“สิบเก้า”

“เด็กกว่าพี่แค่สิบสี่ปีเอง” เด็กหนุ่มใช้เล็บจิกเข้าที่ท่อนแขนนายทหารหนุ่มระบายความเสียวซ่านพร้อมกระตุกอีกครั้ง ชายหนุ่มก้มลงจูบลูกเป็ดดังจ๊วบ กดสะโพกถี่รัวก่อนจะฝังหยาดหยดแห่งชีวิตเต็มช่องทางจนเขารู้สึกได้ถึงความเปียกชื้น

“ตาลุงบ้า!”

“พี่รักลินท์ที่สุดเลย..” ชลธีทิ้งตัวลงนอนข้างๆคนรักสอดแขนเข้าที่ช่วงเอว คลอเคลียอยู่บริเวณซอกคอขาวไม่รู้เบื่อ “ถ้าลินท์ท้องได้.. ป่านนี้ไทเกอร์คงมีเพื่อนวิ่งเล่นไปแล้ว..”

“ฮื่อ” เขาเหนื่อยจนตาจะปิด ไม่ทันได้ยินว่าคนรักพูดอะไร

“งั้นพี่ทำน้องให้ไทเกอร์ดีกว่า เผื่อจะติดขึ้นมาจริงๆ” ชลธีพูดติดตลกแต่มือเริ่มซุกซนลูบไล้ไปทั่วตัวเขาอีกแล้ว เด็กหนุ่มหันไปอีกข้างพลิกตัวหนีแต่ก็ไม่ทันความไวของนายทหารหนุ่ม มุจลินท์ถูกจับพลิกจับหงายอยู่หลายชั่วโมงจนแทบไม่มีเสียงร้องห้าม ต้องปล่อยเลยตามเลยให้คนป่วยที่แรงดีกว่าเขาสูบพลังจนเกือบเช้า

เด็กหนุ่มผล็อยหลับไปตั้งแต่รอบที่ห้าหรือหกเขาก็จำไม่ได้แล้ว เสียงครวญครางเงียบสงบไปสักพัก เขาจึงร้องเรียกหาและไม่มีการตอบกลับ เขาจึงหยุดพักและโอบกอดลูกเป็ดไว้แน่น ลูบไล้ไปที่หน้าท้องขาวที่ดูเหมือนจะป่องขึ้นมานิดหน่อยแล้วยิ้มกริ่มดีใจ

ใกล้จะได้ตั้งทีมฟุตบอลแล้ว…


TBC
อิพี่หื่นเกิน น้องแค่อ้วนค่ะ ไม่ได้ท้อง55555
คอมเม้นท์ให้พี่หลามด้วยค่า ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความกามได้ กรั่กกก
รักคนอ่านที่สุดด <3

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ 05th_of_06th

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอยยยยพี่หลามมนี่ขนาดมองไม่เห็นนะะะะ ทำไมไม่อ่อนโยนกับน๊องงง  :-[ :-[

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แอร๊ยยย เขินจัง

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โธ่ คนเขียนทำร้ายน้องอ่ะ ทำไมว่าน้องลินท์อ้วน ฮา

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ว่าน้องได้ไง 55555
อาปานพาไทเกอร์มาหาพ่อด้วย สงสารเด็กน้อยคิดถึงพ่อแม่แย่แล้วแน่ๆ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารักกกกพี่ฉลามหายไวๆๆน้า

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พี่ฉลามจัดหนักอะไรขนาดนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อื้อหือออออ :haun4: :haun4: :haun4: นี่ขนาดมองไม่เห็นนะเนี่ยยยยยยยยยยยยยย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ไม่ได้เข้ามาอ่านแค่แว็บเดียว พี่หลามหลงไปเจอมาม่าซัง ไปเจอพ่อเกศ แถมมาตาบอด

แอบดราม่าจนแบบโอ๊ยไม่ไหวแล้ว แต่พอมาเจอหนูลินทร์บอกมาเดี๊ยวหนูทำเอง

นี่ลืมไปเลยว่าเคยดราม่าอะไรไว้ ๕๕๕๕๕๕๕๕

หวังว่าถ้าพี่หลามหายนางเกศกับพ่อจะไม่รอดคุกนะแบบนี้

ออฟไลน์ lovebear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
พี่หลามกลับมาแล้ว อ่านไปก็ว่าลืมอาราย

ลืมเม้นให้กำลังใจนักเขียนนี่เอง

ตอนหน้าเตียงจะสั่นนอีกไหมครับ๕๕๕๕

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กลัวจะม่านะเนี่ย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่ฉลามคนหื่น

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
พี่ฉลามได้ยาดี... หายไวแน่ๆ... ว่าแต่นู๋ลินท์เค้าให้มาดูแลคนเจ็บป้อนข้าวป้อนยา.. ทำมั้ยโดนฉีดยาซะเองละ... 555

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ยามเจ็บยามไข้ก็ไม่เว้นนะคะพี่หลาม

ออฟไลน์ Darklife

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขนาดมองไม่เห็นก็หยุดตาลุงแกไม่ได้จริงๆ :z1:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ขนาดมองไม่เห็นเล่นซะน้องหมดแรง  :oo1: :jul1: :jul1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ตอนที่ ๒๘

   ความรู้สึกอุ่นจนร้อนทำให้ลินท์รู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา ค่อยๆเปิดเปลือกตาด้วยความง่วงงุนก็เห็นคนตัวโตกำลังสวมกอดเขาเอาไว้ แผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแต่สิ่งที่เขารู้สึกผิดปกติก็คืออุณหภูมิร่างกายของชลธีที่ร้อนผ่าวจนน่ากลัว ลินท์ใช้หลังมืออังไปยังหน้าผาก ซอกคอ และบริเวณช่วงตัว และต้องตกใจกับรอยเล็บเป็นทางลากยาวทั่วแผ่นหลัง เขาเม้มปากแน่นด้วยความขัดเขิน ส่ายหัวไม่ให้ตัวเองมองภาพตรงหน้าแล้วคิดถึงสมรภูมิรบขนาดย่อมบนเตียงเมื่อคืนว่าเป็นเช่นไร เขาถดตัวขึ้นยืนตั้งใจว่าจะไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คนรักเสียหน่อย

   “พี่ฉลาม..”

   “อะอืม” เจ้าตัวครางเครือไม่ได้ศัพท์ มือหนาปะป่ายไปตามตัวเขาจนต้องเอนหลบ ลินท์กระซิบข้างหูคนรัก และแตะไปตามเนื้อตัวให้คนที่ยังนอนหลับรู้สึกตัว

   “พี่ตัวร้อนมากเลย หนูจะเช็ดตัวให้นะ”

   “ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มส่งเสียงแหบแห้งแล้วคว้าข้อมือบางเอาไว้ดึงรั้งให้ลินท์เข้าไปใกล้ แต่เด็กหนุ่มไม่ยอมโอนอ่อนตาม พยายามแกะข้อมือของตัวเองออกจากการเกาะกุม ชายหนุ่มส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ “แค่พี่นอนกอดลินท์ก็หายแล้วครับ”

   “ไม่ได้นะครับ!” เขาดุคนรักที่ออกอาการไม่ยอมเชื่อฟัง “พี่นั่นแหละ หักโหมมากเกินไป ตัวเองป่วยอยู่แท้ๆ”

   “พี่หักโหมอะไรหรือ?”

   “ก็… ก็”

   “ก็อะไรหรือครับ” เป็นเขาเองที่ตอบไม่ถูก มือไม้ไม่รู้จะไปวางไว้ที่ตรงไหนได้ยกมือขึ้นปิดหน้าทั้งๆที่อีกฝ่ายมองไม่เห็นด้วยซ้ำ เขาเขินมากจริงๆ..

   มันเป็นการแนบชิดร่างกายครั้งแรกหลังจากที่ไม่เจอกันเกือบครึ่งปี ชลธีไม่ยอมให้เขาได้หยุดพักหายใจเลยด้วยซ้ำ ทุกตารางนิ้วของร่างกายถูกตีตราจองโดยมีเจ้าของพร่ำบอกรักทั้งคืน กระทั่งเขายังไม่รู้ตัวว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่

“ฮื่อ เช็ดตัวดีกว่าครับ” ลินท์ใช้ผ้าชุบน้ำบิดจนชุ่มแตะลากไปที่ตามแอ่งชีพจร ซอกคอ และแผ่นอกหนาที่เป็นรอยข่วนไปทั่ว เป็นเขาเองที่รู้ว่าชลธีป่วยก็ยังใส่แรงไปเยอะเหมือนกัน

   ชลธีสะดุ้งยามที่คนรักบรรจงเช็ดตัว เนื้อผ้าลากไล้ไปทั่วร่างกายจนเขาเริ่มรู้แปลกๆ จึงใช้มือหนาควานหาเด็กหนุ่มแล้วดึงรั้งเข้ามาใกล้ ใช้ริมฝีปากคลอเคลียไปตามเนื้อขาวเท่าที่จะทำได้ “อือ อย่าจูบ เดี๋ยวหนูติดไข้ไปด้วยก็ไม่มีใครดูแลพี่พอดี”

   “พี่ไข้ขึ้นหรือ”

   “อื้อ ตัวร้อนมากเลยเนี่ย” เขาอังหน้าผากคนรักอีกทีเป็นการยืนยัน

   “สงสัยเมื่อคืนพี่จะปั๊มลูกหนักไปหน่อย”

   “พี่ฉลาม!” เขาเหวใส่ ยกมือขึ้นจะทุบคนป่วยแต่ก็อดใจไว้ คนบ้าอะไรชอบพูดให้เขาเขินจริงๆ

   “เมื่อไหร่จะมีน้องให้พี่น้า”

   “เงียบเลยนะครับ!” เขาตีเบาๆไปที่ฝ่ามือยุบยับที่คอยลูบไล้เขาอยู่ตลอดเวลา

   “หนูไม่รักพี่หรือ” ชลธีทำน้ำเสียงตัดพ้อ ส่วนคนฟังอย่างเขาแทบจะละลายไปกับพื้นแล้ว “มาให้พี่กอดหน่อยเร็ว”

   “มะไม่ต้องอ้อนเลยนะ.. เดี๋ยวหนูเอายามาให้” เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย “รอหนูแปบนะ”

   เขาลงมาที่ห้องครัวจัดเตรียมยาที่ชายหนุ่มต้องทานตามเวลาและน้ำเปล่า ไม่ลืมที่จะทำอาหารอ่อนๆให้คนป่วยทาน หลังจากที่ลองไปรื้อค้นตู้เย็นได้เนื้อหมูและผักมานิดหน่อย วันนี้จึงตั้งใจจะทำข้าวต้มหมูสับให้คนป่วยทาน เขามัวแต่ง่วนอยู่ในครัวไม่ทันสังเกตเสียงรถจอดที่หน้าบ้าน เขาชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นชายหนุ่มกำลังหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามา

   “พี่ปาน ลินท์ช่วยครับ” กำลังจะออกไปช่วยแต่เสียงห้ามของปานชีวันก็ดังขึ้นเสียก่อน

   “ไม่เป็นไรๆ บอกพี่มาละกันว่าเก็บตรงไหนบ้าง” เขาขนพวกผลไม้และของสดมาฝากเด็กหนุ่ม “เหนื่อยน่าดูเลยสิ” มองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูอิดโรยแล้วนึกสงสารในใจ ใครจะไปรองรับอารมณ์ของผู้พันได้ แค่คิดเขาก็ขอส่ายหัว ไอ้ปานคนนึงล่ะที่ขอบาย!

   “ก็.. นิดหน่อยครับ” เขาตอบอ้อมแอ้ม จริงๆแล้วเรื่องดูแลชลธีก็ไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องดูแลบนเตียงก็นักหนาเอาการพอดู ใบหน้าขาวร้อนวูบวาบเมื่อนึกถึงคนรัก ขนาดป่วยก็ยังคึกคักได้ตลอดเวลา ส่วนเขาน่ะหรือแค่พูดเสียงอ่อนเขาก็ใจอ่อนแล้ว

   “วันนี้ทำอะไรกินหรือ” ปานชีวันเดินไปดูที่เคาเตอร์ครัวพลางลูบท้องเบาๆ “พี่กำลังหิวพอดีเลย”

   “ข้าวต้มหมูสับครับ พี่ปานอยู่ทานข้าวกันก่อนนะครับ”

   “เออๆ” ชายหนุ่มมองหามีดแล้วหยิบผลที่ขนมาเมื่อครู่จัดแจงล้างน้ำสะอาดแล้วลงมือปลอก เป็นมะม่วงสีเหลืองสุกกลิ่นหอมหวานเชียว ถ้ามีข้าวเหนียวราดน้ำกะทินะสุดยอดไปเลย

   “ไปหาพี่ฉลามก่อนนะพี่” ลินท์ยกถาดเตรียมขึ้นชั้นบน ปานชีวันกวักมือไล่แถมยังงับมะม่วงโชว์

“รีบไปๆ” เขารีบส่งสายตาให้เด็กหนุ่มรีบไป ขืนชักช้าเดี๋ยวอาละวาดขึ้นมาตัวใครตัวมันนะโว้ย!

   “พี่ฉลามครับ ทานยานะ” เด็กหนุ่มวางถาดลงแล้วค่อยๆประคองชายหนุ่มขึ้นนั่ง เขาอยู่ใกล้ชลธีทีไรเหมือนคนไม่มีกระดูกเข้าไปทุกที ชอบซบเขา ดึงเขาไปกอดอยู่นั่น

“อือ ไม่กินไม่ได้หรือ” คนตัวโตเริ่มงอแง เพราะทานยาทุกวันจนเริ่มจะเอียนแล้ว เขาเองก็แอบเห็นใจแต่ก็ใจอ่อนไม่ได้เพราะนั่นหมายถึงอาการป่วยที่หายช้าของคนรัก

   “ทานนะครับ แล้วเดี๋ยวทานข้าวกัน” รับแก้วน้ำกลับมาแล้วรินน้ำเพิ่มให้คนป่วยได้จิบอีกรอบ “พี่ปานมานะครับ รออยู่ข้างล่างแน่ะ”

   “ไอ้ปาน?”

   “ครับ”

   “ให้มันขึ้นมาหาพี่หน่อยนะครับ”

   “อะ ได้ครับ” ลินท์ให้ชายหนุ่มนอนพักแล้วเดินลงมาเตรียมทำอาหาร เขาเลยถือโอกาสบอกปานชีวันที่กำลังนั่งกินผลไม้อยู่ในครัว “พี่ปานครับ พี่ฉลามเรียกหาแน่ะครับ”

    “หือ เออๆ เดี๋ยวกูไป” เขาเคี้ยวมะม่วงในปากจนหมดยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วเดินขึ้นบันไดชั้นสอง เลี้ยวไปทางห้องนอนของผู้พันหนุ่มที่เปิดแง้มเอาไว้

   “ไงเฮีย” เขาทักทายเสียงร่าเริง สีหน้าของชลธีดูดีขึ้นเยอะมาก เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่ให้เด็กหนุ่มมาช่วยดูแล เขาจะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาคนดูแลอีก

   “มึงเอาเมียกูมา ไม่บอกกู” นายทหารหนุ่มปาหมอนออกไปข้างหน้า “ไอ้..” เขาอยากจะด่ามันเหลือเกินควานหารอบตัวก็ไม่มีอะไรที่จะปามันได้แล้ว

   “โอ๊ยพี่.. รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ปานชีวันโอดครวญ แล่นถลาเข้าไปบีบนวดรุ่นพี่ยกใหญ่ “พี่ไปโดนแมวที่ไหนมันข่วนมาเนี่ย”

   “มึงกวนตีนละ” เขายกมือลูบแผ่นอกที่แสบแปรบๆเพราะรอยเล็บของลูกเป็ด “ข่าวไอ้นารถ ไปถึงไหนละ”

   “ยังไม่เจอเลยครับ” เขาเอ่ยเสียงเครียด ผู้กองหนุ่มเป็นกำลังสำคัญและอนาคตอีกยาวไกล เขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดเรื่องกับคนดีๆแบบนี้ได้ “ทุกหน่วยวิ่งเต้นกันยกใหญ่”

   “แม่งเอ๊ย” ชลธีกัดกรามแน่น นฤนารถเป็นรุ่นน้องที่เสียงเป็นเสี่ยงตายกับเขามา เขาะจะยอมปล่อยให้มันเป็นอะไรได้ยังไง “ไม่วิ่งกันได้ยังไง หม่อมแม่ของไอ้นารถเป็นใครมึงก็รู้” เขาหมายถึงมารดาของนฤนารถที่เป็นถึงราชนิกูลผู้มีหน้ามีตาในสังคม

   “ผมก็ภาวนาให้พี่เขากลับมาปลอดภัย”

แม้มันจะริบหรี่เหลือเกินก็ตาม..

   “มันต้องรอดสิวะ” ชลธียังมีความเชื่อมั่นในตัวของรุ่นน้องอยู่ มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับนายตำรวจหนุ่มสักอย่าง และเขาจะต้องรู้ให้ได้

   “เออพี่.. พี่นัชฝากของเยี่ยมไข้มาให้เยอะแยะเลย เดี๋ยวให้ลินท์เอาขึ้นมาให้นะ” ปานชีวันกำลังจะหันไปเรียกเด็กหนุ่ม แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อเสียงกึกก้องกัมปนาทของรุ่นพี่ดังขึ้น

   “หยุด มึงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งเมียกู ไปทำมาให้กูกินเลย” มันเอาเมียมาให้เขาโขกสับโดยไม่บอก เขายังไม่ได้คิดบัญชี รอให้เขาหายดีก่อนเถอะ

   “พี่แม่งใจร้าย” ชายหนุ่มครวญ “ทำคุณบูชาโทษจริงๆ กระซิกๆ” แกล้งทำเป็นบีบน้ำตาหวังว่ารุ่นพี่จะเห็นใจแต่เปล่าเลย ชลธีกลับโบกมือไล่เขาออกไป

   “ไปไกลๆตีนกู”

   “ทะเลาะอะไรกันหรือครับ” ลินท์ยกถาดที่มีข้าวต้มหมูสับหอมกรุ่น พร้อมน้ำส้มคั้นสีสวยจัดเตรียมให้คนรักได้ทาน “พี่ฉลามมาทานข้าวเร็ว” ชลธีได้ยินเสียงลูกเป็ดก็หูผึ่งรีบกระเด้งตัวขึ้นมาหันหน้าไปตามเสียง

   “จ้ะ ป้อนพี่ด้วยนะที่รัก” เสียงอ่อนเสียงหวานเสมอหากเป็นมุจลินท์

   “อื้อหือ คุยกับน้องกับเมียนี่คนละเรื่อง หน้ามือเป็นหลังส้นตีนแตกเลยนะเฮีย” ปานชีวันแขวะ แอบกัดฟันกรอดมองรุ่นพี่ที่สองมาตรฐาน ใช่สิ เขามันคนไม่มีเมีย เขาไม่เข้าใจหรอก!

   “ไปๆ เมียกูมาละ”

   “ฮื่อ ไปแกล้งพี่ปานอีก” ลินท์อดแอบขำไม่ได้ สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรจะต้องกวนกันตลอด

   “หิวข้าวจังเลยจ้ะ” เขาว่ากันว่าเวลาเราป่วยจะกลับไปเป็นเด็กคงจะจริง เพราะคนตัวโตตรงหน้าเขาช่างขี้อ้อนเหลือเกิน

   “ทานเสร็จแล้วต้องนอนพักนะครับ” เขาตักข้าวต้มแล้วเป่าจนหายร้อน จ่อเข้าที่ปากคนป่วย “ถ้าไม่นอน เดี๋ยวไข้ขึ้นอีก”

   “จ้ะ” ชลธีให้ความร่วมมือผิดกับตอนแรกลิบลับ หน้าตาเริ่มดูดีขึ้นไม่ซีดเผือดเหมือนวันก่อน กินข้าวได้เยอะขึ้น ชวนเขาคุยเรื่องต่างๆ ดูอารมณ์ดีขึ้นเยอะ “ลินท์.. พี่คิดถึงลูก”

“กลับไปอยู่บ้านเรากันดีกว่าครับ” เขาใช้ทิชชู่ซับริมฝีปากให้ชายหนุ่ม ชลธีคว้าข้อมือบางเอาไว้แนบกับแก้มอุ่น ถูใบหน้าไปมากับฝ่ามือเขาสลับกับพรมจูบ

“ลินท์จะอยู่กับพี่ใช่ไหม” เขารู้ว่าคนรักจะไม่จากเขาไปไหน แต่อีกใจหนึ่งมันก็กลัว กลัวว่าสักวันหนึ่งหากเขาไม่กลับไปเหมือนปกติ เด็กหนุ่มคงไม่อดทนกับเขาอีกต่อไป

“อื้อ ไม่ไปไหนหรอก” เขาย้ำซ้ำอีกรอบ กดจูบลงริมฝีปากหยักของคนรัก ฉกจูบเร็วๆจนอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทัน “แน่นะ”

“ลินท์สัญญา”

หัวใจและร่างกายของลินท์มันเป็นของพี่แต่เพียงผู้เดียว..
   
   
- - - - - - - - - - -

สายฝนโปรยปรายเป็นสายไม่หยุดตั้งแต่ช่วงเช้า ก้อนเมฆสีเทาอึมครึมและแรงลมทำให้บรรยากาศด้านนอกไม่น่าย่างกรายออกไปเลยสักนิด ผู้กำกับหนุ่มเดินออกมามองบริเวณหน้าต่าง ส่องหาใครบางคนคุ้นเคยที่มักจะมาหาเขาในเวลานี้ ยิ่งเสียงฟ้าร้องดังสลับแสงวูบวาบบนท้องฟ้า เขายิ่งรู้สึกไม่ดี หงุดหงิด กังวลกับอะไรบางอย่างที่เขาก็ยังไม่เข้าใจ ชัยวัตรเปิดโทรศัพท์ดูตารางสอนที่เด็กหนุ่มส่งมาให้ ปกติวันพุธปฐวีจะเลิกเรียนประมาณสี่โมงเย็นและซ้อมกีฬาจนถึงหกโมงเย็นเป็นประจำ แต่ตอนนี้เกือบสองทุ่มแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว

โทรไปดีไหมวะ..

เขามองนาฬิกาถี่มากขึ้นจนเริ่มจะหงุดหงิด ตัดใจกดเบอร์โทรไปไม่กี่อึดใจเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นตามด้วยเด็กหนุ่มตัวโตในชุดกีฬาบาสโผล่หน้าเข้ามา แถมตัวยังเปียกมะล่อกมะแล่กไปหมด

“ขอโทษที่มาช้านะครับ” เขาวางกระเป๋าลงกับพื้นล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับ “ฝนตกหนักมากเลย ผมรอตั้งนานแล้วก็ไม่หยุดสักที”

“ไม่โทรมาบอกวะ” จะได้ไปรับ..

ประโยคต่อมาเขาพูดอยู่คนเดียวในใจไม่รู้อยู่ๆ ปากมันเป็นอะไรถึงพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น ปฐวีเงยหน้าขึ้นมามองผู้กำกับหนุ่มที่ทำหน้ายับยู่เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไร

หรือจะโกรธที่เขามาช้า?

“ไม่เป็นไรครับ ข้างนอกฝนตกหนัก รถก็ติดด้วย” เขารู้ว่าชัยวัตรเป็นคนชอบขับรถเร็วและมักจะอารมณ์เสียกับรถติดในเมืองหลวงและเป็นเขาทุกครั้งที่อาสาขับรถให้เสมอ “คุณรออยู่นี่ดีแล้วครับ”

ชัยวัตรมองเด็กหนุ่มที่ยิ้มหวานให้เขาก็เริ่มจะชักหมั่นไส้ เป็นเด็กเป็นเล็กแต่บังอาจมาทำให้เขาเหมือนเด็กคิดว่าคนอย่างเขาดูแลตัวเองไม่ได้หรือยังไงกัน ทำไมต้องเป็นห่วงเขาจนรีบตากฝนมาขนาดนั้น เห็นแล้วมันหงุดหงิดชะมัด
“เออ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป” เขาพยักพเยิดไปทางห้องน้ำด้านในห้อง “แล้วก็ไปทานข้าวกัน”

“เอ่อ คือว่าคุณวัตรครับ”

“มีอะไร”

“คืนนี้ผมคงไม่ได้ไปค้างด้วยนะครับ” ปฐวีถือโอกาสอยู่ในห้องเพียงลำพังกับผู้กำกับหนุ่มถอดเสื้อบาสสีเหลืองที่เปียกชุ่มออก อวดร่างกายกำยำสีแทนที่มัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อสวย หยดน้ำเกาะตามผิวเนียนจนอีกฝ่ายมองไม่หยุด

“ทำไม”

“พ่อกับแม่ไปทำบุญที่ต่างจังหวัดครับ ไม่มีใครอยู่ผมเลยต้องไปนอนเป็นพื่อนน้อง” ชัยวัตรพยักหน้ารับรู้ เขาเคยได้ยินเด็กหนุ่มเล่าให้ฟังว่ามีน้องสาวแท้ๆ อยู่คนหนึ่ง “คุณวัตรไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ”

“กูจะไปว่าอะไรมึงล่ะ” เขาส่ายหน้า แม้จะรู้สึกวูบโหวงที่วันนี้เตียงกว้างจะว่างเปล่า “งั้นก็รีบไปแต่งตัว จะได้รีบๆ กลับ” เขาไล่เด็กมันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง ปฐวีลู่ไหล่ลงทำท่าเหมือนหมาถูกเจ้าของทิ้ง

“เอ้า ยังไม่รีบไปอีก”

“คือ” เขาอ้ำอึ้ง คิดชั่งใจอยู่นานสองนานว่าจะพูดดีหรือไม่ “คุณวัตรไปนอนที่บ้านผมไหมครับ”
ผู้กำกับหนุ่มมองหน้าเจ้าเด็กหนุ่มอย่างตกตะลึง ดวงตาเรียวคมสีดำสนิทจากปฐวีมองเขาอย่างมีความหวัง ในใจรู้สึกโลดเต้นจนแทบจะขยับมุมปากไม่ให้ยิ้มไม่ได้ นี่เขาเป็นอะไร หยุดยิ้มไม่ได้!

“ก็.. เอาสิ”

“ขอบคุณนะครับพี่วัตร” ปฐวียิ้มกว้างอวดฟันขาวที่เรียงกัน ดวงตาหยีจนเป็นสระอิก่อนจะรีบขอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชัยวัตรเอามือทาบหน้าอกรู้สึกเหมือนมีใครเอากลองมารัวข้างใน มันเต้นตึกตักจนเขากลัวใครจะมาได้ยินเหลือเกิน

ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องแย่แน่ๆ …

- - - - - - - - - - - - - - -

ชัยวัตรเพิ่งวางสายจากเพื่อนสนิทที่ติดต่อมา ชลธีกำลังเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งและได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากคนรัก ตอนนี้นายทหารหนุ่มกำลังจะย้ายกลับไปพักฟื้นที่บ้าน เขาใจหายใจคว่ำมากขนาดไหนที่รู้ข่าวว่าเพื่อนและรุ่นน้องฝีมือดีหายตัวไปหลังจากเข้าจู่โจมเพื่อจับกุมผู้ร้ายในคดียาเสพติด ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางหน่วยจะยุติการค้นหาตัวนฤนารถแม้ว่าจะไม่พบตัวนายตำรวจหนุ่มก็ตาม เขาก็ได้แต่หวังว่ามันจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“หนูเอาน้ำผลไม้มาให้ค่ะพี่วัตร” เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มในชุดนักเรียนมอปลายโผล่หน้าเข้ามาในห้อง ก่อนจะวางถาดน้ำบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กให้เขา “ทานเยอะๆ นะคะ หนูคั้นน้ำส้มเองกับมือเลย”

“ขอบคุณนะครับน้องหวาน” นายตำรวจหนุ่มยิ้มให้เด็กสาวที่เขินอายม้วนต้วน “เรียนมออะไรแล้วครับ”

“มอห้าแล้วค่ะ ตอนนี้หนูก็เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว”

“ตั้งใจเรียนนะครับ ขอให้สมหวังกับคณะที่อยากได้นะ”

“ขอบคุณค่ะพี่วัตร” เด็กสาวยืนกุมกระโปรงนักเรียนแน่น ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอผู้กำกับหนุ่มคนดังในโซเชี่ยลตัวเป็นๆ แถมยังมานอนค้างที่บ้านของเธออีก ทำไมพี่วีถึงไม่ยอมบอกเธอว่ารู้จักถึงขั้นสนิทสนมกันขนาดนี้ เธออยากจะร้องกรี๊ดแล้ววิ่งไปกดคอลไลน์เม้ากับเพื่อนจะแย่ “หนูขอ.. เซลฟี่กับพี่วัตรได้ไหมคะ”

ชายหนุ่มกดยิ้มที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้สาวเล็กสาวใหญ่ใจละลายมาแล้วทั่วบ้านทั่วเมือง “ได้สิครับ” ชัยวัตรยืนเต็มความสูงก่อนจะย่อตัวให้องศาอยู่ในเฟรมกล้อง เด็กสาวชูสองนิ้วเอียงหัวมาหาเขาเล็กน้อย

“หวานทำอะไรน่ะ!” มือหนากระชากโทรศัพท์ไปติดมือ จนเด็กสาวและนายตำรวจหนุ่มหน้าเหวอ “ออกมานี่”

“พี่วี!” วันหวานกระทืบเท้าเร่าๆ อยากจะกระโดดกัดหูพี่ชายตัวเองให้หลุดคาปากเธอนัก “เอาโทรศัพท์หนูคืนมานะ!”

“พี่ไม่อนุญาตให้เธอถ่ายรูปคุณวัตร”

“ก็หนูปลื้มพี่วัตรนี่นา หนูไม่ได้ไปอวดใครสักหน่อย”

“พี่จะแน่ใจได้อย่างไร ว่ารูปจะไม่หลุดไปไหนต่อไหน” เขาขมวดคิ้วแน่น ขืนให้รูปของผู้กำกับหนุ่มหลุดออกไป ความสัมพันธ์ที่เป็นความลับของเขาเกิดถูกขุดคุ้ยขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร.. กว่าเขาจะมาอยู่ตรงนี้เขาจะต้องใช้เวลามากมายขนาดไหน เรื่องอะไรเขาจะยอมเสียมันไป “กลับห้องไปนอนซะ อย่าดื้อ”

“พี่วี บ้า!” วันหวานสะบัดหน้ากระเง้ากระงอดแล้วออกไปจากห้องทันที เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะนั่งลงบนเตียงขนาดสามฟุตครึ่ง ห้องนอนของเขาไม่ได้ใหญ่โตเหมือนห้องที่คอนโดหรู เป็นเพียงตึกแถวสามชั้นที่อยู่กันสี่คนพ่อแม่ลูก ด้านล่างถูกปรับปรุงให้เป็นร้านอาหารตามสั่งขนาดย่อม มารดาเขาติดแอร์ และปรับเฟอร์นิเจอร์ให้โมเดิร์นขึ้นมาตามยุคสมัยจากคำแนะนำของเขา

“น้องสาวตัวเองแท้ๆ ขี้หวงจังเลยนะ” ชัยวัตรยิ้ม ลงไปนอนกลิ้งบนเตียงแคบที่ไม่รู้ว่าผู้ชายตัวโตจะนอนไปได้ยังไงตั้งสองคน “หวงเจ้าของน่าดู”

“ไม่ให้หวงคุณ แล้วจะให้ผมไปหวงใคร” ปฐวีไม่พูดเปล่า ทิ้งตัวลงทาบทับคนที่นอนอยู่ก่อนแล้ว เสื้อกล้ามตราห่านคู่สีขาวบางและรอยแป้งเย็นที่ทาไปทั่วตัวของชายหนุ่ม ยิ่งทำให้เขาอยากจะเอาหน้าเข้าไปถูไถทักทายให้หายมันเขี้ยว นายตำรวจหนุ่มพลิกตัวหลบไม่ทันเพราะขนาดเตียงไม่เอื้ออำนวยจึงโดนเด็กหนุ่มทับเข้าไปเต็มๆ

“อื้อ ออกไปก่อน มันร้อน!” จริงๆ มันก็ไม่ได้ร้อนอะไรขนาดนั้นหรอก สิ่งที่ทำให้เขาร้อนก็คือคำพูดจากเจ้าเด็กตัวโตนั่นต่างหาก!

“ตัวพี่วัตรเย็นมาก”

“ออกไปปปปปป” เขาดิ้นขลุกขลักเมื่อมือหนาสอดเข้ามาในเสื้อกล้าม “เห้ย อย่าจับ”

“ขอเช็คอุณหภูมิร่างกายหน่อยสิครับ”

“ไอ้วี ไอ้ลามก!”

“อย่าดิ้นสิครับ เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก”

“มึงไปนอนพื้นเลยไปปปปป” เขาหลบลิ้นร้อนที่แตะแล้วเลียวนไล้เข้าไปในใบหู “อื้อออออ อย่าเลียหู!” เขาหดตัวหนีย่นคอส่ายหน้าไปมาก็ไม่สามารถหลบลิ้นร้อนที่ลากเลียไล้ลงมาซอกคอนั่นได้

“หวาน”

“จะบ้าเรอะ!” เขาหอบหายใจหนักเมื่อรู้สึกวูบไหวไปทั่วร่างจากสัมผัสของคนตรงหน้า “กูทาแป้งทั้งตัวขนาดนี้ หยุด.. หยุดเลยนะมึง” เขาพูดเสียงสั่น ยังหอบหายใจไม่หายเมื่อต้องสู้แรงกับไอ้เด็กบ้าพลัง แค่โดนลิ้นชุ่มแตะเข้าที่เนื้ออ่อนเขาก็แทบจะอ่อนปวกเปียกอยู่ภายใต้อ้อมกอดมันแล้ว

“ผมกินได้ทั้งหมดนั่นแหละ” เขากระซิบเสียงแผ่วอยู่ข้างใบหูที่แดงก่ำ “ก็พี่วัตร อร่อยจะตาย” แค่ไม่กี่คำพูดของปฐวีเขาก็รู้สึกปวดหนึบขึ้นมากลางกายซะแล้ว ใช้ท่อนขาหนีบส่วนอ่อนไหวเอาไว้ไม่ให้มันดุนดันกางเกงบอลตัวบางออกมาสวัสดีแฟนคลับ

“วัตร กูไม่เล่น” เขาจะพลิกตัวหนีคว้าหมอนมาได้ก็กอดหมับ เด็กหนุ่มดึงออกจากมือเขาแล้วโยนออกไปอีกทาง นายตำรวจหนุ่มขบกรามแน่น “กูจะนอน!”

“แต่ผมยังไม่ง่วง พี่จะห้ามผมได้ไหมล่ะ” มันกระตุกยิ้มยั่วเย้า ยิ่งดูแล้วก็คันไม้คันมืออยากจะบ้องกะโหลกไอ้เด็กเจ้าเล่ห์สักที “พี่ไม่ต้องห่วง หวานมันนอนไว ไม่เกินสี่ทุ่มก็หลับปุ๋ยแล้ว”

“ไม่โว๊ย” เขาถลึงตาใส่เด็กหนุ่ม “ที่นี่ไม่ใช่คอนโดสักหน่อย” เรื่องอะไรจะมาบ๊ะจ้ำบ๊ะกันในบ้านที่มีคนอื่นอยู่ด้วย เขาไม่ใช่คนที่อดกลั้นไม่ได้ขนาดนั้น

“บ้านผมก็เหมือนบ้านพี่นั่นแหละ” เขาก้มลงหอมแก้มเนียนของชายหนุ่ม “พี่จะย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ ผมจะย้ายไปห้องใหญ่ให้ทันทีเลย” เขาหมายถึงห้องว่างอีกห้องที่ไม่มีคนอยู่ มันกว้างมากพอที่จะนอนกันได้สองคน เขาก็เคยแอบคิดเล็กๆ ว่าหากชัยวัตรยอมมาอยู่กับเขาจริงๆ จะมีความสุขขนาดไหนกัน..

“ตลกละ”

“ผมพูดจริงๆ” เขาย้ำเสียงหนักแน่น

“ไม่รู้ละ นอนๆ” ชายหนุ่มพลิกตัวหนีแล้วข่มตาหลับ จู่ๆก็มีสัมผัสแล่นผ่านช่วงขาจนเขาต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นมา ปรากฏว่ากางเกงบอลเขาถูกรูดลงไปกองที่ข้อเท้าซะแล้ว “ไอ้วี!” เขาพูดได้แค่นั้นก็ถูกปิดด้วยปากอุ่นร้อน ลิ้นซุกซนเข้ามาโรมรันพันตูจนชายหนุ่มมึนเบลอเผลอใช้ลิ้นตัวเองสู้พัวพันจนเด็กหนุ่มส่งเสียงครางต่ำด้วยความพึงพอใจ

“อืมมม” มือหนาเขี่ยตุ่มไตสีชมพูสวยที่แข็งเกร็งขึ้นมาสู้ เขาบดถูไถไปมาแล้วถอนริมฝีปากลงไปขบกัดจนมันเป็นรอยช้ำ จากสีชมพูกลายเป็นสีกุหลาบเข้มสวยแถมยังสู้ปากจนเขาต้องดูดเม้มอยู่นานสองนาน

“อย่า.. กัด!” ชายหนุ่มคว้ากลุ่มผมสีดำแล้วจิกเอาไว้แน่น จากตอนแรกที่ขัดขืนฝืนตัวเองออกจากอ้อมกอด กลับกลายเป็นเขาแอ่นอกบดเบียดเข้าหาเด็กหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว เลือดลมแล่นลงช่วงล่างจนปวดหนึบ อยากจะระบายอารมณ์ออกมาเร็วๆ

“พี่วัตร..” ปฐวีเงยหน้ามองคนใต้ร่างที่สั่นระริกมองแก่นกลางพองตัวเต็มที่พร้อมจะระเบิดออกมา เขาใช้นิ้วแตะน้ำหล่อลื่นที่ปลายหัวหยัก ลูบไล้ไปมาจนชายหนุ่มสั่นกึก

“วี.. พี่เสียว” เสียงครวญครางออกมาจากริมฝีปากสีสวย “จะทำ.. ก็รีบทำ..” เสียงพูดในห้วงอารมณ์ช่างยั่วเย้าหวานฉ่ำ เขาสังเกตเห็นใบหน้าแดงก่ำของชัยวัตร เด็กหนุ่มก็รู้สึกฮึกเหิมอยากจะกระแทกกระทั้นตัวตนแสดงความเป็นเจ้าของร่างกายนายตำรวจหนุ่มซะตอนนี้ นิ้วหนาสอดแทรกเข้าไปในช่องทางเพื่อเตรียมตัวให้รับความใหญ่โตของเขา นิ้วครูดกับผนังเนื้อนุ่มแตะจุดอ่อนไหวจนชายหนุ่มต้องยกสะโพกเข้าหา ปฐวีขบกรามเมื่อเห็นภาพตรงหน้า มันทำให้เขาแทบจะหมดความอดทน!

“อึก” เด็กหนุ่มค่อยๆ ดุนดันแก่นกายที่ร้อนระอุเข้าไปเชื่องช้า หลังจากที่ปรับตัวได้สักพักจนแน่ใจว่าจะไม่ทำให้ชัยวัตรต้องรู้สึกเจ็บ เด็กหนุ่มจึงเริ่มขยับสะโพกหมุนควงจนชายหนุ่มครางไม่ได้ศัพท์ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวกลุ่มผมสั้นสีดำกระจายเต็มหมอน รอยจูบบนแผ่นอกที่เขาขยันหมั่นเติมทุกวันยังคงกระจายเป็นสีแดงระเรื่อให้เขาได้ชื่นชม

“เบาหน่อย เบาก่อน..” นายตำรวจหนุ่มใช้มือดันหน้าท้องของอีกฝ่ายยามที่ทาบทับลงมา เสียงกระทบเนื้อสลับเสียงคำรามด้วยความสุขสมดังไปทั่วห้อง จนลืมนึกไปว่าบ้านนี้ไม่ได้มีเขาอยู่กันเพียงสองคน “ดังเกินไปแล้ว มึง พอก่อน..”

“ไม่!” ปฐวีส่ายหัวก่อนจะกระแทกกายเข้ามาหนักๆ เพื่อลงโทษชายหนุ่ม เรียกร้องให้หยุดทั้งๆ ที่ต้องการจนแทบทนไม่ไหวแล้วแท้ๆ “ถ้าผมหยุด พี่ค้างแน่!”

“อื้อออออออ” ฝ่ามือหนารูดรั้งจุดอ่อนไหวจนแทบจะปลดปล่อยออกมา สุดท้ายเด็กหนุ่มก็หยุดมือ คว้าเอวสอบของชายหนุ่มขึ้นมาพลิกตัวกลับด้านจนเห็นรูรักที่อ้ากว้างตามความอวบของเขา เด็กหนุ่มดันกลับเข้าไปอีกครั้งโดยไม่ได้ผ่อนแรง ชัยวัตรจุกหน่วงและเสียวซ่านจนเกือบปลดปล่อย เขาเอี้ยวตัวหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยังไม่รามือ มือหนาบีบก้นขาวอวบจนเป็นรอยแดง

“อยากเสร็จแล้วหรือครับ”

“อือ.. เบาๆ หน่อย เดี๋ยวน้องได้ยิน” ชายหนุ่มร้องขอ แต่ดูเหมือนคนควบคุมเกมจะไม่ยอมตามใจยังคงเสือกไสตัวตนเข้ามาถี่รัว “อ๊ะ อ๊า” เมื่อห้วงอารมณ์พุ่งจนถึงขีดสุดคนตัวขาวก็กระตุกไปทั้งร่างก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน เด็กหนุ่มยังคงโจนจ้วงอยู่อีกหลายต่อหลายครั้งกว่าจะตามไป

“อื้ออออ” ความรู้สึกอุ่นร้อนภายในร่างทำให้เขาชะงัก มองเด็กตัวโตที่ยิ้มแผล่ก่อนจะขบฟันแน่น ชายหนุ่มยกขาที่ยังสั่นระริกขึ้นก่อนจะถีบโครมจนไอ้ตัวแสบกลิ้งตกเตียง น้ำสีขาวขุ่นไม่รู้ของใครเป็นของใครเลอะเปรอะเปื้อนจนเต็มที่นอน แล้วยังไหลลงมาจากช่องทางสีสดของเขาที่ยังปิดไม่สนิท

“นี่มึงสดอีกแล้วหรือวะ!!!”



TBC. :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :heaven
เอาคู่รองมาเสิร์ฟให้แม่ๆหายคิดถึงจ้า
รอพายแปบน้าาา ช่วงนี้ติดงานตั่งต่างมากมาย T_T
อย่าเพิ่งทิ้งกันไปนะค้าาา ฝากคอมเม้นท์ ขอกำลังใจจากแม่ๆด้วยจ้ะ
รัก <3 :mew1: :กอด1:


   
   



ออฟไลน์ tika17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เอาใจช่วยพี่ฉลาม

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คิดถึงไทเกอร์เหมือนกันนะเนีย เมื่อไรจะได้เจอกันนะ แล้วนฤนารทไม่ตายใช่มั้ย

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
แซ่บทั้งคู่หลักและคู่รอง  :hao6: รอได้จ้า

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
พี่วัตรร้อนแรงงง์ไม่เบา

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :m25: คู่นี้ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
โอ๊ยยยยย พี่จะหื่นขนาดนี้ไม่ได้ ฮ่าาา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คู่รองก็แซ่บ!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด