*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 633557 ครั้ง)

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ฮือออ นี่อ่านไปก็หลอนๆไปด้วย

แต่ก็ดีแล้ว ทำให้สองคนได้คุยกันจริงจังบ้างสักที

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หลอนนิด ๆ เป็นการกระตุ้นการเต็นของหัวใจ  :m23:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เกลียดที่คนเขียนบอกว่าจะอัพแต่ก็กลัวผี >< นิมันอารายยยยย คนอ่านก็กลัวเหมือนกันค่ะ 555555
คนเขียนกลัวแต่ก็ช่างแต่งออกมาได้เนาะ


รออ่านต่อค่ะ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เนี่ยชอบเเนวนี้เหมือนกันมันซึนๆเนียนๆไปดี ดูธรรมชาติของความสัมพันธ์ที่น่าจะเป็น จนถึงตอนนี้การที่ตัวละครเค้าอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีโมเม้นกันบ้าง มีมุมท่ีคิดต่อกันโน่นนี่บ้าง ความมนุษย์เนอะต้องรู้สึกบ้างแหละไม่มากก็น้อย ชอบความธรรมชาติที่ไม่ได้ดูคู่รักจนเกินไปที่นายเอกท้อง ช้าๆเรื่อยๆแต่เนี่ยชอบแบบนี้เลยค่าา

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
'เขา'อยากให้พวกนายอยู่ด้วยกันงายยย นี้แหละแม่สื่อที่แท้จริง ฮ่าๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
หลอนที่มาเคาะห้องนี้แหละ

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คุงผีมาอิกล้าวววว
ทำไมผีหลอกทั้งคู่เลยหื้มมมมม

เขามีความกระวนกระวายต่อกันแล้วข่ะคุ๊ณ

นิยายเรื่องนี้น่ารักมาก
แต่ก็หลอนมากกกกกกก
ขนาดผีไม่มาให้เห็นเป็นตัวๆ
แต่ทำไมเรารู้สึกหลอนก็ไม่รู้

ขอบคุณมากที่มาต่อนะคะ
ดีใจมากๆ ที่คนเขียนไม่ทิ้งเรื่องนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
ขนาดอ่านตอนเช้ายังหลอนเลยแฮะ

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
รอลุ้นนะคะ นางฟ้าแม่สื่อจัดให้แน่ๆ ซึนกันนักบังคับให้นอนห้องเดียวกันซะเลย ชอบบุคลิก​ของทุกตัวละครเลยค่ะ ดูจริงไม่เลี่ยนดี

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เราชอบเรื่องนี้นะ เข้าใจด้วยแหละ

ทุกสิ่งมันดูงงๆเบลอไปหมด จะท้องได้ไงวะ ถ้าท้องแล้วยังไง ห่วงเด็กนะ แต่เราไม่ได้รักกันนิ


ก็คงต้องดูแลกันในระดับนึง  สักพักจะเกิดความพูกพัน

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เริ่มจะชอบหมอเพลิงแล้ว
และชอบคนเขียนที่ทักทายท้ายเรื่องไม่เกริ่นถึงเรื่องล่วงหน้า
ทำให้ไม่เสียอรรถรสในการอ่านในครั้งต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2018 07:28:53 โดย Yarkrak »

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ hereg407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านรวดเดียว ตามทันแล้ววว  สนุกก ตามมมม

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
คิดภาพไม่ออกเลยว่าจะรักกันยังไง ยิ่งมีผีเข้ามาอีกแล้วเนี่ย โอ้ย ยากไปอีก
เหมือนจะมีคนหวั่นไหวนะ แต่ก็ไม่ได้มากอะไรขนาดนั้นอะ หรือจะยังไม่รู้ตัวกัน

ออฟไลน์ VICTORY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 787
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
อ่านไปขนลุกไป

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Internal Love

ตอนที่ 12

Sometimes you need to let things go.

 

 

 

 

 

 

 

            “เสร็จหรือยัง”

            เพลิงกัลป์เดินมาถามเขาถึงที่วอร์ด  คนถูกถามเงยหน้าขึ้นจากชาร์ตคนไข้  เหลือบมองนาฬิกาที่แขวนติดข้างฝาในวอร์ด

            “เพิ่งสิบโมง  จะรีบไปไหน”

            “เดี๋ยวไม่ทันเพล”

            “ไปรอที่แฟลตก่อนเลย  เดี๋ยวตามไป”  เมืองแมนไม่ชอบให้ใครมาเร่งในเวลาที่เขากำลังทำงานอยู่

            “ไปรอที่รถนะ  ได้ไม่ต้องเดิน”  ฝ่ายนั้นตอบกลับมาแล้วรีบก้าวออกจากวอร์ดไปอย่างรวดเร็วจนเมืองแมนแปลกใจ  แต่แล้วคนที่เดินเนิบๆเข้ามาในวอร์ดก็ทำให้เขาเข้าใจ

            “แมน...เห็นเพลิงมั้ย  ตุ๊กตาเดินตามหาครบทุกชั้นแล้วเนี่ย  โทรไปก็ไม่รับ”

            “เอ่อ...”  ชายหนุ่มอึกอัก  เขาไม่อยากโกหกแต่ก็ไม่อยากบอกเธอให้วุ่นวาย

            “ไม่เห็นล่ะสิ  ไม่เป็นไรค่ะ  เดี๋ยวตุ๊กตาไปรอที่แฟลตก็ได้”  หญิงสาวบอก  ก้มลงกดโทรศัพท์มือถือในมือแล้วเดินออกไปจากวอร์ดอีกคน

            เมืองแมนถอนหายใจเฮือก 

            คุณหมอหนุ่มใช้เวลาในการทำงานบนวอร์ดอยู่อีกเกือบครึ่งชั่วโมงจนทุกอย่างเรียบร้อยถึงได้ลงมาจากตึกผู้ป่วย  เดินเรื่อยๆอ้อมมายังที่จอดรถด้านหลัง  เห็นรถของรูมเมทจอดเด่นเป็นสง่าอยู่แล้ว

            “ทำไมช้าจัง”  พอก้าวขึ้นมานั่ง  คนที่นั่งประจำที่คนขับก็พูดขึ้นทันที

            “ก็เพิ่งเสร็จ”  เมืองแมนตอบ  “เมื่อกี้ตุ๊กตามาถามหามึงที่วอร์ด  โทรกลับเธอหรือยัง”

            “อ๋อ”  อีกคนอุทานแล้วเงียบไป  “ยังไม่ได้โทร”

            “เห็นเธอว่าจะไปรอที่แฟลต”

            “จริงดิ”  อีกฝ่ายหันมามองหน้าเขา   “มึงจะกลับไปทำอะไรที่แฟลตนะ”

            “จะไปเปลี่ยนเสื้อ”  เสื้อที่เมืองแมนสวมอยู่ยังเป็นกาวน์สั้นที่ไม่เหมาะออกไปข้างนอกโรงพยาบาลเท่าไหร่  “เก็บของด้วย”

            “แวะซื้อเอาใหม่ดีมั้ย”  เพลิงกัลป์เสนอ

            “ทำไมมึงต้องหลบหน้าเธอด้วย”  เขาถามตรงๆ  “จริงๆแล้ว...กูก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องความรักของมึงหรอกนะ  แต่ทำแบบนี้ มันเสียเวลา...มีอะไรทำไมไม่พูดกันตามตรง” 

            “ใครจะแมนเหมือนมึงล่ะครับคุณเมืองแมน”  เพลิงกัลป์ตอบแกมประชด  “ถ้ากูพูดตรงๆแล้วเธอเข้าใจง่ายๆ กูพูดไปแล้ว”

            “แล้วลองพูดหรือยังล่ะ”

            “ลองแล้ว”  คนขับตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด  “เธอไม่ยอมฟังเลย”

            “อ้อ”    คนฟังไม่รู้จะตอบว่าอะไร   อันที่จริงแล้วเขายังไม่รู้เลยว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องอะไรด้วยซ้ำ  “จริงๆก็โตๆกันแล้ว  ทะเลาะเรื่องอะไรกันก็น่าจะให้อภัยกันได้นะ”  เขาพยายามพูดอย่างเป็นกลาง

            “กูไม่ได้ทะเลาะกับเค้า”   เพลิงกัลป์พูดเสียงห้วน  เหลือบตามองคนนั่งข้างๆผ่านกระจอกมองหลังแวบหนึ่ง  “กูจะขอเลิกกับเค้า”

            เกิดความเงียบขึ้นอึดใจหนึ่งภายในรถ

            “เพราะกูหรือเปล่า”  เมืองแมนถามขึ้นในที่สุด  ...เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น  เขาก็คงจะรู้สึกผิดต่อหญิงสาวมาก

            “ก็มีส่วน...อย่าทำหน้างั้นสิ   กูกับเค้าก็ทะเลาะกันบ่อยอยู่แล้ว  ตุ๊กตาเป็นคนเอาแต่ใจ  แล้วกูก็เป็นพวกโปรโมชั่นหมดไว  ไม่ชอบเอาใจใครด้วย”  ชายหนุ่มตอบง่ายๆ

            “มึงได้เธอแล้วก็เบื่อใช่มั้ย”  เมืองแมนถามขึ้นเรียบๆ

            “มีคำถามอื่นที่สะเทือนใจน้อยกว่านี้มั้ยวะ”  เพลิงกัลป์อุทาน

            “จะถามยังไง  ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ”

            “ในสายตามึงนี่  กูดูเป็นคนเลวมากเลยสินะ”   คุณหมอหนุ่มพูดเสียงห้วน  เลี้ยวรถเข้าไปจอดด้านหน้าแฟลต คนที่นั่งอยู่ข้างคนขับไม่ตอบ  พอรถจอดสนิทก็เปิดประตูก้าวลงไปจากรถทันที   “แมน...เมืองแมน”  เขาตะโกนเรียก

          อีกฝ่ายไม่หันมามอง  เพลิงกัลป์โคลงศีรษะแล้วเดินตามหลังอีกฝ่ายไป

            ร่างอรชรของตุ๊กตายืนรอเขาอยู่ก่อนแล้วที่หน้าห้องพัก  เธอกำลังเจรจาอะไรสักอย่างกับรูมเมทของเขา   พอเห็นเขาเดินเข้ามา  เธอก็เปลี่ยนเป้าหมาย ตรงรี่มาหาเขาแทน

            “เพลิง...ตุ๊กตาตามหาตั้งนาน  โทรศัพท์แบตหมดหรอคะ  โทรไม่ติดเลย”

            ชายหนุ่มเหลือบมองรูมเมท  เห็นแค่หลังไวๆหายลับเข้าไปในห้องพัก  เขาลอบระบายลมหายใจอย่างอึดอัด  หันมาสบตาหญิงสาวตรงหน้า

            “ผมเพิ่งชาร์ตแบตไปครับ”

            “อ้าว..แล้วทำไม..”  หญิงสาวชะงัก  เธอดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจได้เอง  “เพลิงจงใจไม่รับโทรศัพท์ของตุ๊กตาหรอคะ”  เสียงใสๆเริ่มสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาปริ่มขอบตา  “ทำไมเพลิงใจร้ายจังคะ”           

            ใจร้าย...คำที่เขาได้ยินจากสาวๆมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง

            “ผมไม่ได้ใจร้าย  แต่ผมไม่อยากทำให้คุณเสียใจและก็เสียเวลาไปมากกว่านี้”  ชายหนุ่มพูด  “พักหลังมานี้คุณเองก็คงรู้สึกได้ว่าเราทะเลาะกันบ่อยแค่ไหน”

            “แต่เราก็ดีกันได้ทุกครั้ง”  เธอแย้ง  เอื้อมมือมาแตะที่ท่อนแขนของเขา  “เราปรับความเข้าใจกันได้นี่คะ  เพลิงโกรธอะไรตุ๊กตา  บอกมาเลยค่ะ  ตุ๊กตาจะได้ปรับปรุงตัว”

            “มันไม่มีทางแล้วครับ”

            “เพลิง!”  น้ำตาร้อนๆไหลอาบแก้มของหญิงสาว  “เพลิงมีคนใหม่ใช่มั้ย  บอกตุ๊กตามาสิ  ไม่ต้องมาแกล้งตอบโยกโย้แบบนี้  คิดว่าตุ๊กตาเดาไม่ออกหรือไง  พูดออกมาสิคะว่าเพลิงมีคนใหม่  คุณนอกใจตุ๊กตา”  เธอกรีดเสียงดังลั่น

            “ผม..”  ชายหนุ่มอึกอัก  ถึงจะตัดสินใจตั้งแต่อยู่ในรถว่าคงต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง  แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ  มันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด   จะว่าไปแล้ว หญิงสาวก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย  ผิดที่เขาเองเต็มๆ   “ใช่...ผมนอกใจคุณ”  เขาโพล่งออกไป  ถ้าการทำให้ใครสักคนตั้งท้องเรียกว่านอกกายนอกใจ  เขาก็ต้องยอมรับ

            “เลวที่สุด”  ตุ๊กตากระซิบ  แล้วตวัดมือขึ้นฟาดที่ใบหน้าซีกซ้ายของเขาเต็มแรงจนรู้สึกใบหน้าซีกนั้นชาวาบ   หญิงสาวหมุนตัวเดินแกมวิ่งออกไปจากแฟลต   ทิ้งรอยน้ำตาและเสียงสะอื้นเอาไว้ให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดคนเดียว

            เพลิงกัลป์ไม่ได้เดินตามเธอไป

            เขาเปิดประตูห้องพักแล้วก้าวเข้าไปข้างใน  ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากห้องของรูมเมท  เลยเดินไปหยุดที่หน้าห้องแล้วยกมือขึ้นเคาะประตู

            “แมน”

            “คุยเสร็จแล้วเหรอ”  ฝ่ายนั้นถามกลับมาจากในห้อง

            “อืม....แล้วมึงเสร็จหรือยัง”

            ประตูห้องเปิดออกแทนคำตอบ  ร่างโปร่งบางอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวแบบสุภาพพร้อมไปทำบุญ เมืองแมนกวาดตามองอีกฝ่าย  ทำเป็นมองไม่เห็นรอยนิ้วแดงก่ำบนใบหน้าของรูมเมท

            “ไปวันหลังก็ได้นะ”  เขาพูด  ...เผื่อว่าอีกคนจะไม่อยู่ในอารมณ์เข้าวัดตอนนี้

            “ไปวันนี้ล่ะ  ไม่งั้นคืนนี้จะนอนกันยังไง”  ฝ่ายนั้นตอบกลับมาพลางถอดเสื้อกาวน์ตัวนอกออกให้เห็นเสื้อสีฟ้าอ่อนข้างใน  เพลิงกัลป์โยนเสื้อกาวน์เอาไว้บนเตียงของตัวเองแล้วก็หยิบกุญแจรถขึ้นมาถือเอาไว้   “แวะร้านในตลาด  ซื้อของไปถวายสังฆทานก่อน  ได้หาอะไรกินด้วยเที่ยงแล้ว”

            เมืองแมนเดินตามอีกฝ่ายมาขึ้นรถเงียบๆ  ไม่ได้ออกความเห็นอะไร

            หลังจากแวะทานข้าวในตัวเมือง  คนขับก็เป็นคนลงจากรถวิ่งข้ามถนนไปซื้อสังฆทานที่ร้านอีกฝั่งมาให้  ส่วนเขาก็มีหน้าที่ลงไปซื้อขนมปังแถวมาเตรียมเอาไว้  ทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจเหตุผลเท่าไหร่

            “เราจะซื้อขนมปังไปถวายพระเหรอ”  เด็กเมืองหลวงถามขึ้นลอยๆ  เอื้อมมือไปหรี่เสียงเพลงในรถลง  ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากคนขับ   ท่าทางของเพลิงกัลป์ดูผ่อนคลายลง  ไม่ตึงเครียดเท่าตอนที่ออกมาจากแฟลต

            “พระที่กรุงเทพฯฉันขนมปังกันเหรอ”  ฝ่ายนั้นย้อนถาม

            “เอ่อ...ก็ไม่เคยเห็นนะ   คือกูไม่ค่อยได้เข้าวัดหรอก  มีแต่แม่ที่ไป”  เขาสารภาพเสียงอ่อย

            “แม่ของมึงคงใจดีมาก”

            “ไม่ล่ะ  แต่ก็ใจดีกว่าพ่อ”   ...เมื่อสมัยที่พ่อยังมีชีวิตอยู่น่ะนะ   ชายหนุ่มลอบถอนหายใจยาวแต่ก็ไม่พ้นสายตาคมที่มองผ่านกระจก

            “เหมือนกัน  พ่อกูก็โคตรดุ  ดุสุดในเชียงใหม่เลยมั้ง”   คนขับพูดแกมหัวเราะ   “ไม่ได้กลับบ้านสองเดือนแล้ว  ชักคิดถึง   มึงได้โทรคุยกับพ่อแม่บ้างมั้ย”

            “โทรคุยสิ  แม่กูอยู่กับน้องแค่สองคนเอง”  เมืองแมนหลุดปากออกไป  เป็นเพราะบรรยากาศสบายๆที่เกิดขึ้นชั่วขณะจากบทสนทนาที่ไม่หาเรื่องกันเหมือนเคย

            “อ้าว...แล้วพ่อของมึง”

            “เสียแล้ว  เป็นมะเร็ง”  เมืองแมนขยายความเมื่อเห็นคำถามในสายตาคู่นั้น  “กูทำใจได้นานแล้ว  ไม่ต้องทำหน้างั้นหรอก”

            “เสียใจด้วยนะ”

            “อืม”

            รถเงียบไปครู่จนเพลิงกัลป์รู้สึกอึดอัด

            “มึงจะลงไปกรุงเทพฯเมื่อไหร่”  เขาทำลายความเงียบด้วยคำถาม  อีกฝ่ายมีท่าทางครุ่นคิด

            “ตั้งใจว่าจะไปบ้านตอนรับปริญญา   อีกสองเดือนพอดี  ตอนนั้นกูคงอยู่วอร์ดสูติ...”  คนพูดนิ่งไปอีก

            “ก็ดีแล้วนี่  วอร์ดสูติมีเวลาว่างมากกว่าวอร์ดอื่นๆ  มึงกลับได้สบายๆ”   เพลิงกัลป์มองเห็นแววกังวลแกมหนักใจปรากฏขึ้นในดวงตากลมโต  “ทำไม..มีเรื่องอะไร”

            “ตอนนั้นก็คง...สี่เดือนกว่า”  คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เขานึกขึ้นมาได้  ชายหนุ่มขมวดคิ้วคิดตาม

            “จริงสิ...งั้นเดี๋ยวกูขับรถไปส่งมึงที่กรุงเทพฯ  จะได้ไม่ต้องขับรถเองนานๆ”  เพลิงกัลป์คิดไปอีกทาง  “หรือกูลาด้วยดีมั้ย  งานรับปริญญาต้องใช้แรงเยอะนะ...”

            “ไม่ใช่อย่างนั้น  กูหมายถึงขนาดท้องกูเนี่ย  แม่กูคงตกใจ”  เมืองแมนเม้มปาก

            คนเป็นพ่อเด็กเงียบไป

            รถเลี้ยวเข้าไปในซอยที่มีป้ายติดชื่อวัดเอาไว้เรียบๆ   เมืองแมนไม่ได้มาวัดนานแล้ว  จะว่าไปก็ตั้งแต่งานของพ่อ  จากนั้นก็มีแต่แม่กับน้องสาวที่เข้าวัดทำบุญบ่อย  ส่วนเขาก็มัวยุ่งอยู่กับการเรียนและการสอบไม่ได้พัก

            “เราต้องไปที่ไหนก่อน”  เมืองแมนถามขึ้นเบาๆ  รอจนคนขับล็อครถเรียบร้อย

            “ไปหาเจ้าอาวาส  มึงลงไปรอที่ศาลาก่อนก็ได้  เดี๋ยวเอาของหลังรถลงก่อนแล้วจะตามไป”  เพลิงกัลป์บอก  เปิดประตูก้าวลงมาจากรถ

            เมืองแมนเลยเดินเนิบๆไปทางศาลาวัดที่เห็นอยู่ใกล้ๆ  เขานึกชอบความเงียบสงบของวัดแห่งนี้ขึ้นมาทันที  บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายด้วยร่มไม้ใหญ่และลมที่พัดมาคลายร้อนเป็นระยะ  เขาเห็นลูกของชาวบ้านสองสามคนวิ่งเล่นกันกับสุนัข  มีพระสงฆ์รูปหนึ่งยืนกวาดลานวัดอยู่ไม่ไกล

            เพลิงกัลป์หิ้วถังสังฆทานเดินตามหลังเข้ามาจนทันกัน  เขาพยักพเยิดให้เมืองแมนเดินเข้าไปหาพระสงฆ์รูปนั้นเพื่อถามหาเจ้าอาวาส

            ท่านตอบว่าเจ้าอาวาสกำลังติดสนทนาธรรมอยู่ให้รอก่อน  เขากับเมืองแมนเลยเข้าไปไหว้พระประธานในอุโบสถ  กลิ่นธูปเทียนทำให้เมืองแมนจามออกมาหลายครั้งจนอีกคนหันมามอง

            “ไหวหรือเปล่า”

            “ไหวๆ  น้ำมูกไหลเฉยๆ”

            อีกฝ่ายเลยไม่ได้ถามอะไรอีก  เมืองแมนเห็นฝ่ายนั้นก้มลงกราบพระด้วยท่าทางสวยงามคล่องแคล่ว  แลดูคุ้นเคยไม่น่าเชื่อ   แถมยังหลับตาลงพึมพำสวดมนต์ขมุบขมิบยาวจนขนาดเมืองแมนก้มลงกราบครั้งสุดท้าย  ฝ่ายนั้นก็ยังสวดไม่เสร็จสักที

            เขาถอยมานั่งพับเพียบรออยู่ข้างๆ  นึกสงสัยว่าฝ่ายนั้นสวดอะไรนักหนา

            “มองอะไร”  เพลิงกัลป์ก้มลงกราบพระอีกสามทีแล้วเงยหน้าขึ้นถามรูมเมทที่จ้องเขาอยู่ก่อนนานแล้ว

            “เสร็จแล้วเหรอ  นานจัง  หรือว่าอธิษฐานอะไรอยู่หรือไง”   เมืองแมนถาม  “สงสัยขอหวยงวดหน้าแหงๆ  ไม่ก็ขอแฟนใหม่สวยๆล่ะสิ”

            “กูขอให้มึงกับลูกสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย”  คุณหมอหนุ่มตอบเรียบๆ  คนฟังอ้าปากค้าง  รู้สึกวาบตรงท้องน้อยเหมือนเวลานั่งรถลงสะพานโดยไม่ทันตั้งตัว   

            ยังไม่ได้ตอบอะไรกลับไป  เมืองแมนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้  พอเหลียวไปดูก็เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งท่าทางสำรวมเดินเข้ามานั่งตรงที่นั่งที่เตรียมไว้  ท่าทางน่าเลื่อมใสทีเดียวในความคิดของเมืองแมน

            เพลิงกัลป์ขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วก้มลงกราบ

            ทั้งคู่ถวายสังฆทาน  กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย  จากนั้นก็รีบศีลรับพรจากเจ้าอาวาส  น้ำมนต์ที่กระเด็นมาใส่ศีรษะและแขนขาของคุณหมอหนุ่มทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นในตอนแรกสงบลงมาก

            “เพิ่งมาอยู่ที่นี่หรือโยม  ไม่เคยเห็น”  หลวงพ่อถาม

            “ครับ  พวกผมเป็นแพทย์  จับฉลากมาใช้ทุนที่นี่ครับ”  เพลิงกัลป์เป็นคนตอบ

            “ดีแล้ว   แล้วมาวันนี้มีเรื่องทุกข์ร้อนล่ะสิ”

            ชายหนุ่มเหลือบมองหน้ากัน

            “ครับ  มีเรื่องเดือดร้อนมากครับ  คือแฟลตแพทย์ที่พวกผมพักอยู่ตอนนี้มันเกิดเรื่องประหลาดๆขึ้นครับ  ผมคิดว่ามันไม่ใช่ปรากฎการณ์ที่อธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์”  เมืองแมนเกริ่น  จากนั้นเพลิงกัลป์ก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แฟลตทั้งหมดให้หลวงพ่อฟัง

            เจ้าอาวาสฟังจบก็มองหน้าเขาแล้วยิ้มตอบอย่างมีเมตตา

            “ทุกอย่างอธิบายได้ด้วยธรรมมะ  สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้  หมายความว่าใครทำอะไรก็ย่อมได้อย่างนั้น   เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร  ความพยาบาทรังแต่จะทำให้วิญญาณไม่สงบสุขและมัวหมอง”  วูบหนึ่งที่เมืองแมนรู้สึกคล้ายกับว่าท่านไม่ได้พูดกับเขา  แต่จงใจพูดให้ ‘ใคร’ คนหนึ่งฟังมากกว่า

            จู่ๆขนที่แขนก็ลุกเกรียว  ชายหนุ่มพยายามตั้งสติเอาไว้ไม่ให้ฟุ้งซ่าน

            “หมายความว่าอย่างไรครับ”  ดูท่าคนข้างๆเขาก็คงไม่เข้าใจเช่นกัน   “หมายถึงผีในแฟลตเราจองเวรเราหรอครับ”

            “ทั้งใช่และไม่ใช่  เขามีความผูกพันกันอยู่แต่หนหลังถึงได้วนเวียนคอยอยู่ไม่ยอมไปไหน  แต่ว่าพวกโยมเป็นคนที่มาใหม่  หากแต่มีดวงชะตาคล้องกันถึงได้เกิดกรรมขึ้น”

            “ดวงชะตาคล้องกัน  คืออะไรครับ”

            “อธิบายตอนนี้พวกโยมก็จะยังไม่เข้าใจหรอก”  ท่านหยุดพูด  แล้วตวัดมองที่ท้องของเมืองแมนแวบหนึ่ง  “เอาเป็นว่า   ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากกรรมของพวกโยม  เกี่ยวเนื่องกันมา  ดวงวิญญาณที่มาจุติใหม่ก็เช่นกัน  เขาเคยมีกรรมกับพวกโยมมาก่อน  ถึงได้มาเกิด”

            “ท่านรู้?”  เพลิงกัลป์อุทาน  ส่วนคนข้างๆได้แต่นิ่งอึ้ง  พูดไม่ออก  “แล้วพวกผมจะต้องทำยังไงครับ  ถึงจะตัดกรรมนี้ได้เสียที”  เขารีบถามต่อ

            เจ้าอาวาสหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วก็ลืมตาขึ้นมาใหม่

            “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร   พึงระงับกรรมชั่วด้วยกรรมดี  กรรมคือการกระทำ   สรรพสิ่งเกิดขึ้น  ตั้งอยู่แล้วดับไปไม่จีรัง  ถ้าเลิกยึดติดเสียได้  จิตใจก็จะเป็นสุข”

            “ผมไม่เข้าใจเลยครับ”  ชายหนุ่มคราง

            “อาตมาพูดได้แค่นี้   โยมทั้งคู่ถือว่าได้ทำกรรมร่วมกันมาแล้ว  ก็ขอให้รักษาไว้ซึ่งกรรมดี  หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ขอให้มีสติอยู่ตลอด”

            “แล้วผีที่แฟลตของพวกผมล่ะครับ”

            ท่านล้วงมือเข้าไปในย่ามที่วางเอาไว้ข้างตัว  แล้วก็หยิบเอาขวดอะไรสักอย่างเล็กๆข้างในบรรจุน้ำใสออกมาส่งให้เพลิงกัลป์กับเมืองแมนรับเอาไว้คนละขวด

            “พกติดตัวเอาไว้ก่อนในช่วงนี้”  ท่านพูดแค่สั้นๆ  “อาตมามีธุระต่อ  ต้องขอตัวก่อน”

            “ขอบคุณครับ”  พวกเขาก้มลงกราบลา

            หลวงพ่อทำท่าจะเดินผ่านทั้งสองคนไปแต่ก็ชะงักนิดหนึ่ง  หันมามองเมืองแมน

            “อย่าอยู่ใกล้น้ำ  ให้อยู่ใกล้ไฟ”

            “ครับ?”

            ท่านไม่ได้พูดอะไรอีก

            เพลิงกัลป์เปลี่ยนท่านั่งเป็นขัดสมาธิ  เขาเท้าคางมองหน้าคนที่นั่งข้างๆอย่างครุ่นคิด

            “ที่หลวงพ่อพูดหมายความว่าอะไรกันแน่  ทำไมมันดูเป็นปริศนาไปหมด  ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเพิ่มเลย”  เขายกขวดแก้วเล็กๆขึ้นส่องดู  “ใสแจ๋ว  คงจะเป็นน้ำมนต์ล่ะมั้ง”

            “ท่านหมายความว่าอะไร...ให้อยู่ห่างจากน้ำเหรอ  หมายความว่ากูมีโอกาสจมน้ำตายอะไรแบบนี้หรือไง”  เมืองแมนทวนคำ  “ให้อยู่ใกล้ไฟ...ให้อยู่ใกล้ไฟ  รู้แล้ว...ที่นี่เริ่มหนาว  หรือว่ากูอาจจะหนาวตายท่านเลยเตือนเอาไว้”  เขาขมวดคิ้ว 

            “ใช่หรอ”  เพลิงกัลป์ชักทึ่งกับสกิลเชื่อมโยงของอีกฝ่าย  “ท่านก็คงเตือนทั่วๆไป”  เขาขยับตัวลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือส่งให้อีกฝ่ายจับเพื่อดึงตัวลุก  “ไปให้อาหารปลากันดีกว่า  เผื่อจะคิดอะไรออก”

            เมืองแมนลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือออกจากมือของอีกฝ่าย   เพลิงกัลป์ไม่ได้พูดอะไร  เขาเดินตามหลังรูมเมทออกมายังด้านนอกโบสถ์

            “เห็นเด็กวัดบอกให้อาหารปลาข้างหลัง  ลองไปดูกัน”




ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk








            ข้างหลังวัดเป็นสระน้ำค่อนข้างใหญ่  มีศาลายื่นออกไปให้คนมานั่งเล่นให้อาหารปลากัน  วันนี้แทบไม่มีคนเลย  รอบบริเวณมีแค่เขาทั้งคู่กับคุณลุงคนหนึ่งที่กวาดใบไม้อยู่อีกด้านหนึ่งของสระ

            เพลิงกัลป์หยิบห่อขนมปังขึ้นมา

            “ทีนี้รู้ยังว่าเอามาทำไม”   เขาพูดลอยๆ  ส่งขนมปังให้เพื่อนสองสามแผ่น  แล้วก้าวเข้าไปนั่งในศาลาแล้วฉีกขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ โปรยลงไปข้างล่าง  เมืองแมนได้ยินเสียงน้ำกระจายเลยชะโงกดู  เห็นฝูงปลาอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จักกำลังรุมแย่งกินขนมปังกันอย่างดุเดือด

            “เขาไม่มีอาหารปลาให้เหรอ”

            “ลองเดินดูสิ”

            เมืองแมนเดินสำรวจรอบๆศาลา   เขาเห็นมีประป๋องที่มีเศษอาหารปลาเป็นเม็ดๆหลงเหลือติดก้นกระป๋องเล็กน้อย  ข้างกันนั้นเป็นกล่องสำหรับบริจาค

            “ขอบ้าง”  เขากลับไปนั่งข้างๆรูมเมทที่กำลังโปรยขนมปังในมืออย่างเมามัน   อีกฝ่ายส่งขนมปังให้เขาทั้งห่อ  เมืองแมนเห็นอีกคนมัวแต่สนใจปลาตรงหน้าเลยหยิบขึ้นมาหนึ่งแผ่นแล้วกัดคำนึง

            “เห้ย...ให้ปลาไม่ได้ให้กินเอง”  เพลิงกัลป์หันมาเห็นเข้าพอดี

            คนหิวหน้าแดง  พูดงึมงำ

            “มันเป็นอาหารคน  ไม่ใช่อาหารปลาสักหน่อย”  เจ้าตัวกินขนมปังเข้าไปจนหมดแผ่น  ตามด้วยแผ่นที่สอง  พอแผ่นที่สามนั่นแหละถึงได้เริ่มฉีกออกแบ่งให้ปลาข้างล่างกินบ้าง

            “นึกว่าจะซัดคนเดียวหมดห่อซะอีก”  เพลิงกัลป์พูดล้อๆ  “อิ่มแล้วเหรอ”

            “อืม...ให้อาหารปลาไปเถอะน่า”  เมืองแมนสะบัดเสียงโดยไม่รู้ตัว  เขาเพลิดเพลินกับการฉีกขนมปังเป็นชิ้นๆแล้วก็ขว้างให้ออกไปไกลๆ  มองดูปลาตัวใหญ่ว่ายขึ้นมาฮุบขนมปังทั้งชิ้นหายลงน้ำไปเรื่อยๆ  รู้สึกตัวอีกที  คนที่ยืนอยู่ข้างๆก็เปลี่ยนเป็นนอนเหยียดยาวบนม้านั่งศาลาเสียแล้ว

            “อ้าว....หลับซะงั้น”  เขาเดินเอาถุงขนมปังเปล่าไปทิ้งขยะแล้วเดินกลับมา   อีกฝ่ายยังไม่มีท่าทางว่าจะตื่นขึ้น  ร่างสูงใหญ่นอนเอามือรองศีรษะเอาไว้  มีเสียงกรนเบาๆลอดออกมาด้วย

            ...เหนื่อยอะไรเบอร์นั้น  เขาคิดอย่างหมั่นไส้นิดๆ  ทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งข้างๆ  พิศดูใบหน้าคมเข้มที่ยังมีรอยแดงที่ข้างแก้มจากฤทธิ์ฝ่ามือของหญิงสาวค้างอยู่....คงเจ็บน่าดู

เขาได้ยินตลอดทุกคำพูดของคนทั้งคู่   อดรู้สึกแย่ไม่ได้เมื่อได้ยินเหตุผลที่เพลิงกัลป์บอกกับตุ๊กตา...มีคนใหม่   เหอะ...คนใหม่ที่ไม่ได้รักกัน   ก็แค่ความผิดพลาดที่ยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรเท่านั้น

เมืองแมนรู้สึกเหมือนเขาทำผิดต่อตุ๊กตา  มันปนกับความรู้สึกหน่วงๆในใจยากจะอธิบาย

ชายหนุ่มพยายามเปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นที่สบายใจขึ้นแทน  เขามองนู่นมองนี่ไปเรื่อยฆ่าเวลาระหว่างรอให้อีกคนพักเอาแรง   เพิ่งสังเกตเห็นกระรอกตัวน้อยวิ่งไต่อยู่บนกิ่งต้นมะม่วง  มันวิ่งแล้วก็หยุด  วิ่งแล้วก็หยุดอีกสลับไปมาอยู่อย่างนั้นจนเขาสงสัยว่ามันต้องการอะไรกันแน่

            พอเหลือบไปเห็นมะม่วงสุกพวงใหญ่ที่อยู่ปลายกิ่งอีกด้านก็พอจะเข้าใจ  เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ขอบศาลาอีกด้านเพื่อจะได้เห็นได้ชัดขึ้น   ไม่ได้สังเกตเลยว่ารั้วไม้ฝั่งนั้นเริ่มผุพังแล้ว

            “จุ๊ๆ”  เมืองแมนส่งเสียงเรียกความสนใจจากกระรอกแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเล็งพลางขยับเข้าไปใกล้  “อยู่นิ่งๆก่อนนะ”  เขาพึมพำ  เอนตัวพิงกับรั้วไม้

            เกิดเสียงดังออดแอดพร้อมกับความรู้สึกที่ว่ารั้วไม้ที่เขาพิงอยู่นั้นกลับโอนเอนแล้วร่วงลงไปยังผืนน้ำเบื้องล่าง  เมืองแมนใจหายวาบ ปล่อยโทรศัพท์มือถือในมือแล้วเอื้อมไปเกาะเสาใกล้ๆได้ทันฉิวเฉียด  พยายามขืนตัวฝืนแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างยากลำบาก  แรงกระแทกทำให้ทั้งศาลาไหวโยน  ปลุกคนหลับให้สะดุ้งตื่นขึ้น

            เพลิงกัลป์ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าตัวเองกระโจนจากม้านั่งมาคว้าตัวเมืองแมนเอาไว้ได้ยังไง  ท่อนแขนแข็งแรงโอบรัดรอบเอวแน่น  ลากให้เข้ามาข้างใน  เสียงลมหอบหายใจดังพร้อมกับเนื้อตัวที่สั่นสะท้านของคนในวงแขนทำให้เขายกมือขึ้นลูบหลังไหล่ของอีกคนเบาๆ

            “ไม่เป็นไรๆ  ไม่เป็นไรแล้ว”   เขาพูดคำเดิมซ้ำๆ หวังปลอบใจรูมเมทและใจตัวเองให้สงบลงด้วย  “ไม่มีอะไร”

            “.............”  อีกฝ่ายยังพูดไม่ออก  เมืองแมนซบหน้าลงกับซอกไหล่ของเขา

            เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่  เมืองแมนถึงได้ดันตัวออกห่าง  ใบหน้ารูปหัวใจที่เงยขึ้นมานั้นแดงจัดพอๆกับขอบตา  เจ้าตัวเม้มปากแน่นไม่ยอมสบตาเขา

            “หายตกใจแล้วเหรอ”   เพลิงกัลป์พูดขึ้น

            “ไม่เป็นอะไรแล้ว”  ฝ่ายนั้นตอบกลับมา

            “นึกว่าจะโดดลงไปเป็นอาหารปลาซะแล้ว”  เขาพูดยิ้มๆ  ทั้งที่ความรู้สึกข้างในใจยังไม่เข้าที่เท่าไหร่  ...มันเป็นความรู้สึกแปลกเหมือนหัวใจแทบหยุดเต้น  ตอนที่ลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นร่างผอมบางจวนเจียนจะตกลงไปในน้ำแบบนั้น  “อยากเสียสละตัวเองก็ไม่บอก”  เขาพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยโดยการทำเป็นเรื่องตลกซะ           

            “รั้วมันพัง  แย่ชะมัด”  เมืองแมนอุบอิบ  ความรู้สึกแรกคือตกใจ  ตามมาด้วยความโล่งใจแทบจะร้องไห้ที่อีกฝ่ายมาช่วยได้ทันเหมือนเล่นกล  “มือถือตกน้ำไปแล้ว  ทำไงดี”   เขาเบี่ยงเบนอาการร้อนๆที่ใบหน้าไปที่ความรู้สึกเสียดายโทรศัพท์มือถือแทน

            “โดดลงไปงมหามั้ย”

            “ไม่เอาอ่ะ  ช่างมันเถอะ  นึกซะว่าฟาดเคราะห์”  ...ถ้าไม่ใช่มันก็คงจะต้องเป็นเขานี่แหละที่ลงไปลอยคออยู่ในน้ำ  พอคิดถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นมาได้  เขามองหน้าอีกฝ่ายก็พบว่าฝ่ายนั้นคงกำลังคิดถึงเรื่องเดียวกัน

            “อย่าใกล้น้ำ!”  พวกเขาพูดออกมาพร้อมกัน 

            “ให้อยู่ใกล้ไฟ...เพลิงกัลป์  ชื่อกูไงแมน  กูก็คือไฟที่หลวงพ่อบอก  ถูกมั้ย”  ไม่รู้ทำไมพอพูดออกไปแล้ว  เขาก็รู้สึกดีใจพิกล

            “มันอาจจะบังเอิญหรือเปล่า”  เมืองแมนแย้ง  แต่ในใจก็เริ่มเห็นด้วยกับอีกฝ่ายไม่น้อย

            “อืม...ก็เป็นได้”   เพลิงกัลป์เอามือลูบคาง   ....ถ้าสมมตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่หลวงพ่อทักจริงๆ  ก็แปลว่าเขาคือไฟตามที่ท่านบอก   แต่ถ้ามันไม่ใช่ล่ะ...ถ้าน้ำไม่ได้หมายถึงเหตุการณ์นี้  และไฟไม่ได้หมายถึงเขา

            หรือมันจะแปลว่าอีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในอันตราย  รวมถึง...ลูก

            “เรากลับกันดีมั้ย”  เมืองแมนเสนอขึ้น  เพราะเห็นอีกคนเงียบไป  ตาคมเหลือบมองเขาด้วยแววตาที่ทำให้เมืองแมนเผลอขมวดคิ้ว...แววบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนปรากฏขึ้นในแก้วตาดำเข้มคู่นั้น  มันให้ความรู้สึกจริงจังและทำให้ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม   “กูไปรอที่รถนะ”  เขาพูดห้วนๆ  รีบเดินหนีออกมาจากศาลาแห่งนั้น

            พวกเขากลับออกมาจากวัดเกือบสี่โมงเย็น  กลับเข้าไปจนถึงตัวเมืองก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว  ชายหนุ่มตกลงกันว่าจะแวะหาอะไรกินง่ายๆก่อนกลับแฟลต

            “ตรงนั้นมีงานอะไรน่ะ”  เมืองแมนเป็นคนทักขึ้นก่อน   เขาเห็นร้านรวงรถเข็นมาจอดเรียงรายกันเต็มถนนที่มีรั้วเหล็กกั้นเอาไว้  “เหมือนตลาดนัด”

            “ตลาดคนเดินไง  มีทุกเสาร์อาทิตย์  ไม่เคยมาเดินเหรอ”  เพลิงกัลป์ตอบ  คนฟังส่ายหน้า

            “เคยได้ยินแต่ไม่เคยมาเดิน”  พูดจบก็มองหน้าคนขับ

            เพลิงกัลป์จุ๊ปาก  ปฏิเสธทันที

            “คนเยอะ  เดี๋ยวก็เดินเบียดกัน...อันตราย”  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงใคร  ไม่ใช่เขาแน่ๆ  แต่เป็นเด็กในท้องของเขาต่างหาก...เมืองแมนย่นจมูก นั่งเงียบ

            “ก็ได้  เดินนิดเดียวพอนะ”  สุดท้ายคนขับก็พูดออกมา  เลี้ยวรถเข้าไปจอดใกล้ๆตรงที่จอด  “รีบซื้อรีบกลับ  เข้าใจหรือเปล่า”

            “เข้าใจแล้วครับ  สั่งเป็นพ่อไปได้”

            “ก็เป็นพ่อจริงๆนี่ไง”  เพลิงกัลป์สวน

            ทำเอาอีกฝ่ายเงียบกริบ  ได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจ

            ...........................................................................................

           

            มาอัพต่อแล้วนะ  ช่วงนี้คนดีมะ  อัพบ่อยเวอร์ๆ55555

            ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ         

            ใครเล่นทวิต #แฟนหมอแมน  นะ มาพูดคุยเม้ามอยกันได้

            วันนี้คอแห้ง  ไม่ทอล์คล่ะ555

  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SM_day

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
แปลก ... อัพบ่อย

ปล.แต่ดีแล้วมาทุกวันเลยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เริ่มมีสัญญาณดี ๆ ให้เห็นรำไร ๆ  :mew3:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ  :L2:

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
บ๊ายบาย ตุ๊กตา

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
มีแววยอมเมียอยู่มากนะจ๊ะ :katai3:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เริ่มจะอ่อนไหวมานิดๆ ละนะหมอแมน
ว่าแต่ห้ามใกล้น้ำนี่ ต้องกลับไปอ่านใหม่แล้วละ
ว่าเพื่อนๆ หรือคนใกล้ตัวคนไหนที่ชื่อหมายถึงน้ำ
แต่คนที่ชื่อหมายถึงไฟนี่ ยิ้มx2 ไปเลยนิ
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
นอกจากน้ำที่หมายถึงแม่น้ำแล้ว นี่ก็พยายามคิดอยู่ว่ามีใครที่ชื่อแปลว่าน้ำอีกมั้ย ส่วนไฟนี่ก็ตาหมอเพลิงแน่ๆล่ะ แต่ก็งงกับคำหลวงพ่อนะ เหมือนจะคลายปมแต่ก็ไม่ใช่ ยุ่งเหยิงเว่อ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
มาทุกวันเลยน่ะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ไม่รู้ว่าน้ำที่ห้ามอยู่ใกล้คืออะไรแต่เพลิงต้องคอยตามคิดยิ่งกว่าเก่าให้มั่นเลยนะ ดูแลลูกเมียให้ดี

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อ่านไปก็นึกไป คนใกล้ตัวแถวนั้นมีใครชื่อแปลว่าน้ำบ้างหรือเปล่าหว่า แต่ไฟนี่คิดว่าเป็นเพลิงแน่แล้ว
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
นับวันเมืองแมนยิ่งน่าเป็นห่วง  :katai1: :katai1: :katai1: จะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองแมนอีกไหม กลัวใจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด