ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 613089 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
แซนดี้ พ่อแม่เข้าใจก็ดีแล้วนะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
แม่เข้าใจแล้วนะแซนดี้ ต้องขอบคุณพ่อด้วยนะแซนดี้ที่เข้าใจ :กอด1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
กลับบ้านไปแสนดีต้องพูดถึงแต่พี่วินแน่ๆ
นเองพิงค์จะรู้ใจตัวเองเพราะแสนดีชงชัวร์ๆ

ออฟไลน์ Fujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
แหม ก็คนมันเคยๆอะเนอะ อะไรๆก็ชินๆคิดถึงเป็นเรื่องปกติ
แต่คิดว่าอีกสักพักไม่ใครก็ใครก็จะไม่ปกติละ

รู้ตัวช้ากินจริงเชียว พี่น้องสลอต

ออฟไลน์ yokibear

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตลกตรงทะเลาะกับหมาเนี่ยแหละค่ะ555555555555

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เฝ้ารอทุกวันเลย อิอิ พี่หมอดีขึ้นทุกวันเพราะมีน้องพิงค์อยู่ข้างๆ55555

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
สองวันลงทีหนึ่งได้ใหมครับ...มันอยากอ่านแรง

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
โถ่ แซนดี้ ตอนนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพ่อแม่แล้วนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แซนดี้ ฮามาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
กลัวจะออกไปแวนซ์ แล้วเกิดอะไรร้ายๆ
ที่ไหนได้ ไปทะเลาะกับหมาวัดซะนี่
จบลงด้วยดีแล้วนะแซนดี้
ที่ยังไงก็มีชายในดวงใจเป็นเด็กแวนซ์
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ถึงวันนี้พี่หมอกับน้องพิงค์เป็นตัวประกอบ แต่ก็ทำงานประสานกันจนครอบครัวแซนดี้ลงเอยด้วยดี

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
พิงค์เริ่มชอบพี่หมอรึยังงง ใครจะรู้ตัวก่อนนะว่าตัวติดกันแค่ไหน 555

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
แสนดียังดีที่มีพ่อที่เข้าใจนะ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
คุณพ่อแซนดี้ สุดยอดคุณพ่อเลย รักลูกบนความเข้าใจจริง ๆ
ดีใจกับแซนดี้ด้วย ต่อไปจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นตัวเองเต็มที่สักที
แล้วก็ปรับปรุงตัว ตั้งใจเรียน ให้สมกับความรักความเชื่อใจของพ่อกับแม่น้า

พี่เต้ มีเรื่องเครียดอะไรน้อ ไม่น่าใช่แค่เรื่องที่บ้าน มันต้องมีอะไรอีกแน่ ๆ
เกี่ยวอะไรกับเรื่องแฟนเก่าพี่วินหรือเปล่า

ส่วนพี่วินน้องพิงค์ตอนนี้ แม้จะไม่ได้กระหนุ๋งกระหนิงกันสองต่อสอง
แต่ก็คิดถึงอีกฝ่ายตลอดอ่ะเนอะ พี่วินดูแลแซนดี้ดีขนาดนี้
เพราะเป็นเพื่อนน้องพิงค์ด้วยนั่นแหละนะ
รักกันแบบค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ น่ารักมากเลย ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
FC คุณพ่อของแซนดี้เลยอ่ะ
ชอบความสุขุมความนิ่งของคุณพ่อมาก

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
คุณพ่อน่ารัก ขำแซนดี้ จะฮาไปไหน ถอดชุดทิ้งไว้แล้วยังไปทะเลาะกับหมาอีก :laugh:
พี่หมอนี่ก็สุภาพบุรุษไปอีก น้องตึ๋งก็น่ารัก

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ดีใจกับแซนดี้ ที่พ่อแม่ยอมรับ

ออฟไลน์ Kaamnutt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 แบบว่า หัวเราะทั้งน้ำตา จริงๆๆ ตอนนี้ :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 222
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
พี่หมอก็ได้เรียนรู้เพิ่มอีกหนึ่งอย่างแล้ว ตอนแรกนึกว่าจะเครียดแรงกว่านี้่
โอ๊ย...ฮาตอนไปกัด เอ้ย ทะเลาะกะหมา ชอบความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ น่อ ดีจัง
และก็ถือว่าโชคดีที่พ่อแม่ของแสนดียอมรับเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น  o13
แหมะพี่หมอเขายังไม่กินข้าวเลยน่อน้องพิงค์ อย่าลืมหาอะไรให้พี่เขาละ
 :3123:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คิดภาพเมื่อเจอแซนดี้ข้างทาง

ออฟไลน์ SIRINN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบจัง ปีนี้เพิ่งกลับไปดูน้องขึ้นดอยมาด้วย อ่านแล้วนึกถึง ม เลย   :impress2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ตึ๋ง จะเส้ดแสนดีมั้ย 55555

ออฟไลน์ TheGraosiao

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยยยย น่ารักที่สุดอ่ะเรื่องนี้ ติดตามๆค่ะ
จะเร็วไปมั้ยถ้าจะบอกว่า อยากได้รูปเล่มแล้ว อิอิ
 :L2:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 15 : สะกิดใจ


บ้านเช่ากลับมาสงบสุขอีกครั้ง บิดามารดาของแซนดี้นั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟา ส่วนแซนดี้นั่งพื้นเอนศีรษะซบลงบนตักมารดาของเขา ส่วนหนุ่มวิศวะอีกสี่คนกับเด็กหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในที่นั้นถอยไปนั่งชิดกับแพงเป็นพร็อพประกอบฉาก

“แม่ขอโทษทุกคนด้วยที่พูดจาไม่ดี” เธอหันไปบอกกับเหล่าพร็อพทั้งหลาย “แล้วก็ขอบใจน้องตึ๋งมากนะคะลูก”

“พ่อก็ต้องขอบใจทุกคน ไอ้แสนดีมันโชคดีที่มีเพื่อนดีๆ แบบนี้” บิดาก้มลงเขกศีรษะลูกชายเบาๆ “มีเพื่อนดีนะลูก รักษาไว้ให้ดี”

แซนดี้พยักหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้น “พ่อแม่...” เขาหันไปทางเพื่อนทั้งสี่คนแล้วหันกลับมาที่บิดามารดาอีกครั้ง “ผมสัญญาว่าจะเลิกแรด จะเลิกไล่ฟันเด็กแว้น ผมจะตั้งใจเรียน”

“ทำอะไรที่ลูกมีความสุขเถอะ” มารดาส่ายหน้าไปมา เธอได้รับบทเรียนมาแล้ว ใจนึกกลัวว่าลูกชายจะเตลิดหนีไปอีกเป็นครั้งที่สอง

“ผมจะมีความสุขก็ต่อเมื่อพ่อแม่มีความสุข แต่ผมคงแก้ความเป็นตุ๊ดของผมไม่ได้”

“พ่อก็ไม่ได้หวังจะได้ลูกแก้... พ่อแค่อยากให้แสนดีเป็นเด็กดี มีความสุขที่สุด”

แซนดี้เม้มปากแน่น แล้วปล่อยโฮออกมาอีก

“เราเพิ่งขึ้นปีสามกันเองเว้ย” ภูพิงค์พูดขึ้น “มึงยังมีเวลาอีกตั้งมากมายที่จะทำให้ตัวมึง พ่อแม่มึงมีความสุข”

“ขอบใจเว้ย... กูขอบใจพวกมึงมาก”

“พวกกูเคยด่า เคยว่าให้มึงเลิกยุ่งกับเด็กแว้น เพราะขี่มอไซค์ไปซิ่งมันอันตราย พวกกูขอแค่มึงรักตัวเองให้มากขึ้นเท่านั้น” ดิวพูดเสริม

“กูสัญญาว่าต่อไปนี้กูจะปรับปรุงตัว เออ... แต่กูยังไม่ได้ขอบคุณพี่หมอกับพี่นิ้งเลย”

“ไม่รู้ป่านนี้เป็นลมล้มพับคาเตียงคนไข้ไปรึยังเนี่ยพี่” ตึ๋งเอ่ยอย่างเป็นกังวล

“ปกติพี่วินสายแดกซะด้วย” คิดๆ ไปภูพิงค์ก็ชักจะเป็นห่วง เพราะถึงอีกฝ่ายไม่ค่อยจะใส่ใจอะไรรอบตัว แต่กับคนไข้ดูจะมีความรับผิดชอบสูงมาก คงจะยอมอดไปจนถึงเวลาพักแน่ๆ

“วันนี้พี่หมอได้พักบ่ายโมงถึงบ่ายสาม แล้วทำคลินิกบ่ายสามถึงห้าโมงต่อ สลับกับพี่หมออีกคนน่ะครับ”

“ถ้างั้นเดี๋ยวสั่งอาหารมากินกัน แล้วพิงค์ไปรับคุณหมอกับคุณแม่น้องตึ๋งมาทีได้ไหมลูก เอารถพ่อเขาไป” มารดาของแซนดี้พูดขึ้น

“ได้ครับ”

เมื่อบรรยากาศกลับเป็นปกติ เสียงพูดคุยปะปนเสียงหัวเราะในบ้านก็ดังขึ้น แซนดี้โดนไล่ให้ไปอาบน้ำลบคราบเครื่องสำอางบนใบหน้าออก เขาเปลี่ยนเสื้อแล้วเอาเสื้อผ้าของรวินท์ไปใส่เครื่องซักไว้ก่อนจะเอาไปคืนให้เจ้าของ

ขณะที่จัดการกับเครื่องซักผ้าอยู่ในครัว แซนดี้หันไปเห็นภูพิงค์กับซันกำลังล้านจานกองโต เอาไว้เตรียมต้อนรับแขก เขาจึงเดินเข้าไปสะกิดภูพิงค์แล้วชวนให้ออกไปคุยกันที่ราวตากผ้า “สัสพิงค์ มานี่หน่อย”

“มีไรวะ” เจ้าของชื่อวางผ้าเช็ดจานลง จากนั้นจึงก้าวตามอีกฝ่ายออกไปยืนตากแดดกันที่ตรงราวตากผ้า “มึงเลือกที่คุยได้ร้อนรุ่มมาก อีห่า ชวนกูมาฝึกลงนรกเหรอ”

“แบบนี้จะได้ไม่มีใครตามมาแอบฟังไง” แซนดี้เงยหน้าขึ้นท้าไอแดด ซึ่งทำให้หน้าเขาแทบจะเปลี่ยนเป็นสีเทาทันควัน “ไอ้พิงค์ กูถามหน่อยเหอะ ที่มึงสนิทกับพี่หมอเนี่ย เขาเรียกทีไรก็ห้อแรดไป แถมยังหายหัวไปนอนค้างกับเขา มึงคิดไรกับเขาป่ะวะ”

ภูพิงค์เบิกตาโพลง “อีเหี้ย จู่ๆ ถามแบบนี้ทำไมเนี่ย! กูกับพี่วินเคยเจอกันไม่กี่ครั้งเองนะ ก็แค่คนรู้จักกันโว้ย!”

“เออ ถ้ามึงไม่คิดอะไรก็แล้วไป กูก็แค่ถามดู”

“แล้วมึงจะถามทำไม สัส ทำให้กูอยากรู้เลย”

แซนดี้หันไปสะบัดผ้าพึ่บๆ แล้ววางพาดบนราว “ถ้ามึงคิดจะจีบพี่หมอ กูจะได้เตือนมึงไง”

“ฮะ!?”

“พี่หมอเป็นคนมีเสน่ห์ หน้าตาก็โคตรดี รวยอีก นิสัยเจนเทิลแมนแบบนั้น มันดูเพียบพร้อมไปหมด คนน่าจะแย่งกันจีบเป็นล้าน มึงคงมีคู่แข่งมหาศาล”

“มึงก็เว่อร์ไปว่ะ”

“อีกอย่าง กูว่าพี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีเกิน ถ้าเขาดีแบบนี้กับทุกคน แถวบ้านกูจะเรียกว่าขี้อ่อยแบบธรรมชาติ ชวนให้เข้าใจผิดได้ง่าย”

“อือ แถวบ้านมึงกับบ้านกูน่าจะอยู่ใกล้กัน... แต่มึงนี่เก่งนะ เจอแค่แวบเดียวยังอ่านออกเป็นฉากๆ ไวไปเปล่าวะ”

แซนดี้ไม่ใส่ใจคนที่พยายามกวนตีนและพูดขัด เขาเดินหน้าท้าแดดพูดตามที่ใจคิดต่อไปเรื่อยๆ “แต่ถึงขี้อ่อยกูก็คิดว่าลึกลงไปเขาเป็นคนดีนั่นแหละ”

“สรุปว่าดีหรือไม่ดีเนี่ยอีหอย” ภูพิงค์หัวเราะ

“พูดง่ายๆ ก็คือ ถึงตอนนี้ปากมึงบอกไม่คิดอะไร แต่ถ้าได้ใกล้ชิดกับพี่หมอต่อไปอีกหน่อยมึงคิดแน่ และถ้ามึงคิดจะคบกับเขา มึงต้องใช้เวลา ต้องอดทนให้มากๆ ต้องค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน แต่กูว่าตอนนี้มึงเดินมาถูกทางแล้วแหละ”

“อะไรที่ทำให้มึงมโนเป็นฉากๆ ไปได้แบบนี้วะ กูไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาเล้ย กูไม่เคยคิดจะชอบผู้ชาย พี่วินก็เหมือนกันโว้ย”

“อีห่า อย่ามาตอแหล กูไม่ได้มโน... แต่กูเจอเด็กแว้นมาเยอะ ผู้ชายผ่านมือกูมาเป็นร้อย กูบอกเลยว่ากูดูออกแทบทุกคน”

“เด็กแว้นเกี่ยวไรด้วยวะเนี่ย”

“มันดูกันที่แววตาออกเว้ย”

“ดูออกแล้วทำไมโดนหลอกโดนทิ้งบ่อยๆ วะ”

“นั่นกูก็จงใจป่ะวะ มันเป็นความสุขของกูโว้ย” แซนดี้ม้วนผ้าในมือแล้วฟาดลงไปที่ตูดคนยืนข้างกัน “แต่ที่กูว่าพี่หมอเขาดี ก็เพราะพี่เขา...ไม่รังเกียจกู เขาปฏิบัติกับกูเหมือนคนคนหนึ่ง เหมือนพวกมึงไง”

ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมา “ทำไมมึงชอบพูดเรื่องรังเกียจไม่รังเกียจจังวะ มึงให้ค่าตัวเองน้อยไปป่ะวะ”

“ไอ้พิงค์ สมัยอยู่โรงเรียนกูโดนมาเยอะ ทั้งแกล้งทั้งด่าแรงๆ สารพัด มีพวกมึงนี่แหละ เป็นกลุ่มแรกที่ดีกับกู พี่หมอ น้องตึ๋ง พี่นิ้งก็เหมือนกัน”

“เพราะงี้มึงถึงไม่สนิทกับใครในคณะสินะ มึงปิดใจตัวเองมากไปรึเปล่า คิดอยู่แต่ว่าคนอื่นมองมึงแปลกแยกออกไป ลองเปิดใจให้เพื่อนในคณะมึง ให้คนรอบตัวมึงบ้าง มึงอาจจะได้เจอคนดีๆ ที่เขาจริงใจกับมึงอีกหลายๆ คน”

แซนดี้ยิ้มบาง “เออเนอะ กูเพิ่งขึ้นปีสาม มันคงยังไม่สายไป”

“ไม่มีอะไรสายไปหรอกเว้ย” ภูพิงค์เอื้อมมือไปขยี้ศีรษะอีกฝ่าย ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินกลับเข้าบ้าน เขาร้อนจะละลายอยู่แล้ว

“ไอ้พิงค์”

“อะไรอีกวะ”

“กูว่ามึงมีสิทธิ์มากกว่าคนอื่น”

“สิทธิ์เหี้ยไรอีกวะ”

“ถ้าเป็นมึง บางทีพี่หมอเขาอาจจะใจอ่อนก็ได้”

“อีสัส” เด็กหนุ่มหันกลับไปส่งนิ้วกลางให้ แล้วก้าวฉับๆ เข้าบ้านไป

“จ๊าดง่าว ปากแข็งไปเถอะมึง”  แซนดี้เบะปากใส่ ที่จริงเขารู้สึกได้เพราะทั้งไอ้พิงค์และพี่หมอมักจะพูดถึงกันอยู่บ่อยๆ โดยไม่รู้ตัว พอพูดชื่อกันแต่ละครั้ง แววตาก็จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

คนเราน่ะทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกหวั่นไหวในหัวใจ ก็มักจะแสดงออกมาทางแววตานี่แหละ

เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ “คอยดูเหอะ ไม่เกินสามเดือนจากนี้หรอกไอ้พิงค์ เดี๋ยวมึงรู้!”   


เมื่อนาฬิกาบอกเวลาอีกสิบนาทีจะบ่ายโมง ภูพิงค์จึงขับรถออกจากบ้านเช่าไปยังคลินิกอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่หลงเดินเข้าประตูหน้าให้เสียงกรอฟันมาเขย่าโสตประสาทเล่นแล้ว เพราะเขาชิงให้ไอ้น้องตึ๋งโทรศัพท์ไปบอกไว้ก่อนแทน

หากพอรถยนต์เคลื่อนไปเกือบจะถึงทางเข้าที่จอดรถ เขาก็หันเห็นว่าพี่นิ้งกับพี่วินมายืนรออยู่ตรงใต้ที่ร่มในที่จอดรถแล้ว ทว่าไม่ได้ยืนอยู่แค่สองคน มีหญิงสาวสวยอีกคนยืนคุยกับพี่วินอยู่ด้วย

ภูพิงค์หยุดรถข้างนอกก่อน เขาเอนตัวพิงกับพวงมาลัยพลางมองผ่านกระจกรถออกไป

พี่วินก็เหมือนเคย ยิ้มหน้าบานอ่อยเรี่ยราด ปล่อยให้ผู้หญิงเกาะแขนบ้าง เกาะไหล่บ้าง ไม่ได้หวงตัวเลยสักนิด ทำตัวเป็นมิตรกับชาวบ้านไปทั่วเลยจริงๆ

ไอ้ที่พี่วินดูสนิทกับเขามากกว่าใคร เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม เพราะเขาเข้ามารู้จักกับพี่วินตอนที่อีกฝ่ายอยู่ในช่วงอกหักพอดีน่ะสิ เด็กหนุ่มถอนหายใจยาว จากนั้นจึงเคลื่อนรถเข้าไปในลานจอดรถ

พอทั้งสองคนขึ้นรถมาได้ พี่นิ้งก็บ่นอุบ

“สาวๆ สมัยนี้นี่อะไรกัน รุกเข้าหาผู้ชายไม่พอ ยังหาเศษหาเลยแต๊ะอั๋งผู้ชายอีก” เธอเอื้อมมือไปตีทันตแพทย์หนุ่มเบาๆ “หมอวินไม่ควรให้เบอร์ใครไปทั่วแบบนี้”

รวินท์หัวเราะ “โธ่ พี่นิ้ง แค่เบอร์โทรเอง แล้วปกติผมก็ไม่ได้รับสายสักเท่าไหร่หรอก” หากพอหันไปทางภูพิงค์ เห็นอีกฝ่ายทำหน้านิ่งๆ ก็หุบยิ้มทันควัน เขารีบพูดต่อ “แต่เฟซกับไลน์ผมไม่ได้แอ๊ดนะ”

ภูพิงค์ตอบเสียงเรียบ “ถึงแอ๊ดผมก็ไม่แปลกใจหรอก ระดับพี่อะ จะให้ที่อยู่บ้านไปถึงที่ตั้งฮวยซุ้ยบรรพบุรุษก็คงไม่แปลกว่ะ”

บรรยากาศภายในรถดูจะอึมครึมทันควัน แต่โชคดีที่บ้านเช่าอยู่ไม่ไกล เมื่อไปถึงก็ต่างคนต่างลงจากรถแล้วพากันเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

บิดามารดาของแซนดี้ปราดเข้ามาขอบคุณรวินท์กับพี่นิ้งทันทีที่หันมาเจอ จากนั้นจึงชวนให้นั่งกินข้าวร่วมกัน

ภายในห้องนั่งเล่นเปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นฉ่ำ กลิ่นอาหารสารพัดอย่างลอยกรุ่น บิดามารดา ทันตแพทย์หนุ่มและพี่นิ้งนั่งกินข้าวกันบนโต๊ะ ส่วนที่เหลือก็นั่งบนพื้นประปราย

หลังจากกินไปสักพัก พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกัน

“โห แสนดีเอ๊ย ทำไมไม่จีบคุณหมอล่ะลูก หล่อขนาดนี้ แม่อนุญาต”

รวินท์ยิ้มรับตามปกติ แต่นั่นยังไม่พอ เขาหันไปยิ้มอ่อยแซนดี้อีกด้วย

“ไม่เอาหรอกแม่ ผมไม่อยากแย่งใคร”

“หือ แย่งใคร? คุณหมอยังโสดอยู่ไม่ใช่รึ” บิดาถามบ้าง

“ก็อย่างพี่หมอน่ะ คนจีบเยอะแน่ๆ”

“จริงค่ะ!” พี่นิ้งกระโจนเข้ามาร่วมวงด้วย “ให้หมอวินอยู่เป็นโสดไปแบบนี้แหละ อย่ามีแฟนเลย สงสารแฟนหมอค่ะ”

“อ้าว พี่นิ้ง ไหงงั้น!” ทันตแพทย์หนุ่มขมวดคิ้ว

ในขณะเดียวกัน สี่หนุ่มวิศวะกลับนั่งนิ่งกินอาหารกันไปเงียบๆ แต่ก็ชำเลืองมองกันไปมาเป็นพักๆ

“ผมได้เห็นรูปพี่ๆ แบกเสลี่ยงแล้วนะ เท่ฉิบหายวายวอด” เด็กหนุ่มอ่อนวัยที่สุดในห้องผู้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรพูดขึ้น ความไร้เดียงสาของเขาดูจะช่วยให้บรรยากาศภายในห้องดีขึ้นบ้างเล็กน้อย

“ฉิบหายวายวอดเลยเหรอวะ ดีหรือไม่ดีเนี่ย!”

“สักวันผมจะต้องได้แบกเสลี่ยงบ้าง” ตึ๋งขยับเข้าไปกระแซะว่าที่รุ่นพี่ “ปีหน้ารับน้องเบาๆ น้า~ เอ็นดูผมด้วย”

“แล้วมีหนังสือเตรียมสอบรึยังเนี่ย เดี๋ยวผมถามน้องรหัสให้นะ ถ้าเขายังมีจะขอมาให้”

เด็กหนุ่มรีบยกมือไหว้ “จริงเหรอพี่ ขอบคุณครับ!”

“เออ ตึ๋ง...” แซนดี้หันไปทางเด็กหนุ่ม

“ครับพี่แซนดี้”

“พี่อยากเจอเพื่อนตึ๋งคนนั้น เอาไว้นัดให้หน่อยนะ”

ตึ๋งยิ้มกว้าง “ได้สิครับพี่ ผมว่ามันต้องดีใจมากแน่ๆ”

ในระหว่างที่ทุกคนพูดคุยกันไป ภูพิงค์ก็ชำเลืองมองทันตแพทย์หนุ่มเป็นระยะๆ

มีเสน่ห์ หน้าตาโคตรดี รวย นิสัยเจนเทิลแมน... เออ ดูเผินๆ พี่วินก็เป็นอย่างที่อีแซนดี้ว่าจริงๆ นั่นล่ะ

ภูพิงค์ยกมือขึ้นเกาไรหนวด พลางถอนหายใจยืดยาว

เพราะอีแซนดี้แท้ๆ ทำให้เขาคิดฟุ้งซ่าน คนอย่างพี่วินน่ะเหรอ จะมาใจอ่อนกับเขา ผู้ชายเหมือนๆ กันเนี่ยนะ มันไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหนวะ

...แล้วนั่นมันหมายความว่าเขาต้องจีบพี่วินก่อน พี่วินถึงจะใจอ่อน หรือไม่ต้องจีบก็อ่อนวะ

แต่พี่วินจะคิดสั้น มาสนผู้ชายหน้าหนวดแทนสาวๆ สวยๆ หน้าอกบึ้มๆ ที่มีเข้ามาให้เลือกเป็นร้อยเนี่ยนะ อีแซนดี้คงมโนจริงๆ นั่นล่ะ

ขณะที่กำลังบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่ในใจ รวินท์ก็หันมาประสานสายตากับเขาพอดี เป็นผลให้ภูพิงค์สะดุ้งตัวเบาๆ แล้วรีบพูดอะไรแก้เก้อ “จะบ่ายสามละพี่ กลับคลินิกไปได้แล้ว”

“หืม? ยังมีเวลาอีกตั้งสิบห้านาทีกว่าๆ”

“กว่าจะขับรถไปอีก มันเป็นเวลางานพี่ไม่ใช่รึไง รับผิดชอบหน่อยสิวะ นี่พวกผมเสียเวลากับอีแซนดี้มาทั้งวันแล้วยังต้องมาเสียเวลากับพี่อีกเนี่ย พวกผมก็มีงานอย่างอื่นต้องทำเหมือนกันนะเว้ย”

“ไอ้พิงค์! ทำไมพูดแบบนี้ บอกพี่หมอเขาดีๆ ไม่ได้เหรอวะ” ซันยื่นขาไปเขี่ยเพื่อนรักทันควัน

“นั่นสิเนอะ งั้น...พี่นิ้งเรากลับกันเถอะ” รวินท์ยิ้มเจื่อนๆ พลางหันไปมองนาฬิกา เขาลุกขึ้นช้าๆ แล้วหันไปยกมือไหว้บิดามารดาของแซนดี้ “ขอบคุณสำหรับอาหารครับ อิ่มอร่อยเลย”

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับพี่หมอ เออ เสื้อผ้าพี่ผมซักตากไว้แล้ว เดี๋ยวแห้งจะเอาไปคืนนะครับ” แซนดี้ยกมือไหว้

ทันตแพทย์หนุ่มพยักหน้า เขาเดินไปตบไหล่อีกฝ่ายสองสามครั้ง “ดีใจด้วยนะที่เข้าใจกันกับทุกคนดีแล้ว”

“ครับพี่หมอ”

“งั้นเดี๋ยวพ่อขับไปส่งให้เอง พ่อกับแม่จะไปธุระที่เซนทรัลสักหน่อย” บิดาของแซนดี้ยิ้ม เขาลุกขึ้นจูงมารดาเดินนำออกจากห้องไป โดยที่รวินท์เดินตามไปติดๆ

“ไปตึ๋ง รบกวนพี่ๆ เขามากแล้ว กลับไปอ่านหนังสือบ้าง”

เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อเบ้ปาก เขาหันไปยกมือไหว้ลาทุกคน ก่อนจะถูกมารดากึ่งลากกึ่งจูงเดินตามหลังทันตแพทย์หนุ่มออกไป


หลังจากเก็บจานชามไปล้างและเช็ดทำความสะอาดห้องแล้ว ห้าหนุ่มก็จัดการเปิดประตูหน้าต่าง เปิดพัดลมไล่กลิ่นอาหาร จากนั้นก็ปิดทั้งหมดแล้วเปิดเครื่องปรับอากาศใหม่อีกครั้ง

ในตอนแรกพวกเขาตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือไว้เตรียมสอบ อุตส่าห์ไปขนลงมาจากห้องชั้นบนกันเรียบร้อย หากพอท้องตึงหนังตาก็หย่อนยาน แถมเมื่อเช้าพวกเขาตื่นมาผจญภัยกันแต่เช้าด้วย เมื่อรู้สึกสบายตัว ไม่นานก็พากันหลับกรนคร่อกๆ ไป

ขณะที่ภูพิงค์กำลังฝันหวานเห็นหมูทอดเจียงฮายในกระทะบนเตาขนาดใหญ่ ที่บนเตาข้างกันมีซึ้งนึ่งข้าวเหนียว เขาเร่งคลานตรงเข้าไปหาอาหารกลิ่นหอมนั้นพร้อมกับยื่นมือออกไปไขว่คว้า หากจู่ๆ ซึ้งนั้นก็ล้มลงทับตัวเขา มันหนักเสียจนขยับไม่ได้ ทั้งที่อีกนิดก็จะได้กินหมูทอดเจียงฮายแล้วแท้ๆ

“โอย...”

นัยน์ตาคมกริบลืมขึ้นช้าๆ ก่อนจะเห็นใบหน้าปะแป้งของแซนดี้ลอยอยู่ใกล้ๆ อีนังเพื่อนเวรมันนั่งทับอยู่บนอกเขา

“ว้าก! อี...อื้อ!” เขาอ้าปากจะด่า ทว่าอีกฝ่ายรีบเอาไข่ไก่ยัดใส่ปากเขาไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กดแขนเขาไว้กับพื้น

“มึงอย่าส่งเสียงดัง เดี๋ยวไข่ในปากแตกไหลลงคอกูไม่รู้ด้วยนะ”

อีแซนดี้ อีฉิบหาย! เช็ดขี้ไก่ก่อนรึเปล่าวะ! แล้วจู่ๆ เอาไข่มายัดปากกูทำไมเนี่ย! ภูพิงค์ด่ารัวๆ อยู่ในใจ

แซนดี้หันไปทางเสื้อกับกางเกงที่วางอยู่ข้างศีรษะคนที่ตนนั่งทับอยู่ “นั่นเสื้อผ้าพี่หมอ เอาไปคืนให้กูด้วย”

“แอ้วอำไออ้องเองอูอะ!” (แล้วทำไมต้องเป็นกูวะ!) พอทำเสียงอู้อี้เถียง น้ำลายที่ไม่กล้ากลืนลงคอก็ไหลออกมาจากมุมปากทั้งสองข้าง

“น่าเกลียดฉิบหาย ถ้ามือกูว่างจะถ่ายรูปไว้ประจานมึงที่หน้ามอ”

“อีเอี้ย อูไออำอะไอไอ้อึงเอี้ย!” (อีเหี้ย กูไปทำอะไรให้มึงเนี่ย!)

“มึงฟังกูนะ ที่มึงพูดกับพี่หมอเมื่อตอนบ่ายแม่งเหี้ยมาก พี่หมอเขาช่วยกูไว้นะมึง”

ภูพิงค์เสตาหลบ “เอ๊าะอึงแอะ” (เพราะมึงแหละ)

“กูเกี่ยวไรด้วยวะ”

“เออ อ๋อโอ้ด อูไอ้ไอ้อั้งอัย” (เออ ขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ)

“เพราะงั้นมึงต้องเอาเสื้อผ้านั่นไปคืน แล้วหาโอกาสขอโทษพี่หมอซะ พี่เขาก็ช่วยมึงไว้หลายเรื่องไม่ใช่รึไง”

ภูพิงค์ยอมจนด้วยเหตุผล เขาหยุดดิ้นพล่านแล้วถอนหายใจหนักๆ “เออ”

“ดีมาก” แซนดี้ลุกขึ้นช้าๆ พอเขาปล่อยมือ อีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นงัดไข่ออกจากปากทันที

เด็กหนุ่มวิ่งพรวดไปอ่างล้างจานแล้วบ้วนน้ำหลายๆ รอบ ส่งเสียงดังโอ้กอ้ากให้เพื่อนๆ ตื่นขึ้นมามองอย่างสงสัย

“ไอ้พิงค์แม่งแพ้ท้องเหรอวะ”

“แพ้ท้องพ่องส์” เจ้าของชื่อแจกนิ้วกลางให้ทุกคน จากนั้นก็เอาไข่ปาใส่แซนดี้ทันที “มึงเอาไข่มึงคืนไปเลยอีแซนดี้”

ไข่ตกลงบนพื้นดังแปะ มันไม่ใช่ไข่สดอย่างที่แซนดี้ขู่ แต่ต้มไว้เรียบร้อย จึงแค่เปลือกร้าวเท่านั้น

“แหม อมไข่กูไว้ตั้งนาน ไม่ผูกพันกันบ้างเหรอ” แซนดี้หัวเราะร่วน

“ฝากไว้ก่อนเหอะมึง”

“ใกล้จะห้าโมงแล้วโว้ย”

ภูพิงค์ทำท่าอ้ำอึ้ง “กูไปเอากุญแจมอไซค์ก่อน” เขาเดินขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะเดินกลับลงมา หยิบเสื้อกับกางเกงที่แซนดี้วางไว้ให้แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเช่าไป

“ไอ้พิงค์ไปหาพี่หมอเหรอ อาบน้ำแต่งตัวซะเป็นผู้เป็นคนเชียว”

“ทำไมพวกมึงรู้วะ” แซนดี้หันขวับ

“ก็ช่วงนี้มันออกไปไหนก็เห็นมีแต่ไปหาพี่หมอตลอด” ดิวสอดมือเข้าไปในเสื้อแล้วเกาพุง พลางอ้าปากหาว “พ่อแม่มึงจะกลับมากี่โมงวะ”

“เออ พ่อแม่บอกว่าถ้าเดี๋ยวพวกมึงตื่นแล้วให้ไปหา จะได้ไปกินมื้อเย็นกัน”

“โห งั้นพวกกูต้องรีบแล้วเว้ย” สามหนุ่มสายแดกวิ่งปรู๊ดขึ้นชั้นสองของบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอย่างรวดเร็ว


ท้องฟ้ายามบ่ายแก่ๆ ยังคงเป็นสีน้ำเงินสดใส ภายในที่จอดรถยังมีรถของพี่วินจอดอยู่ อีกคันคงเป็นของทันตแพทย์อีกคน และอีกคันคงเป็นของคนไข้

ภูพิงค์ยืนเก้ๆ กังๆ จากนั้นจึงเดินไปด้อมๆ มองๆ ที่ตรงประตูหลัง เขาจะโทรศัพท์ไปเรียกพี่วินดีไหมวะ เห็นบอกไม่ค่อยรับโทรศัพท์ด้วยสิ หรือจะส่งข้อความ... แต่พี่วินจะอ่านไหมอะ

ทำไมเขาต้องรู้สึกเหมือนคนทำผิดด้วยวะ ปกติเขาก็พูดจาแบบนี้กับพี่วินอยู่แล้วไม่ใช่หรือ

อีแซนดี้ เพราะมึงแน่ๆ

เด็กหนุ่มเริ่มพาล อยากจะฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว เขาจึงเดินไปเขี่ยถังขยะหลังร้านเบาๆ ด้วยความหงุดหงิด ใจอยากเตะไปแรงๆ แต่ก็เสือกกลัวจะทำเสียงดัง

จู่ๆ ประตูทางด้านหลังก็เปิดออกผาง ก่อนทันตแพทย์คนหนึ่งกับคนไข้จะก้าวออกมา

ฉิบหาย! จะหนีก็ไม่ทันแล้ว!

สิงหาสบสายตากับเด็กหนุ่ม “มีธุระอะไรรึเปล่าครับ”

“เอ่อ... อ่า... ผมมาหาพี่วิน... ครับ”

“อ่อ เดี๋ยวนะ” ชายหนุ่มหันขวับกลับไปด้านหลังแล้วตะโกนเสียงดัง “หมอวิน มีคนมาหาครับ”

“ครับพี่” เจ้าของชื่อเรียกกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาทันที พอเห็นคนที่ยืนรออยู่ก็ยิ้มกว้าง แบบที่เขายิ้มให้กับคนไข้เป็นประจำ “ว่าไงพิงค์”

ภูพิงค์ชะงัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตรอยยิ้มของอีกฝ่าย มันเป็นรอยยิ้มที่ดู...ผิวเผิน เสแสร้งยังไงชอบกล

“อีแซนดี้มันสั่งให้ผมเอาเสื้อผ้ามาคืน ซักรีดแล้วครับ” เขาตอบพลางยื่นเสื้อผ้าให้

รวินท์เอื้อมมือออกไปรับ ปลายนิ้วของพวกเขาสัมผัสกันเล็กน้อย หากก็พอที่จะทำให้รู้สึกได้ว่าปลายนิ้วของคนอ่อนวัยกว่าเย็นเฉียบ ทันตแพทย์หนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับอีกฝ่าย

เด็กหนุ่มเม้มปาก... เขาไม่รู้ควรจะพูดอะไรต่อดี ธุระอะไรก็ไม่มีแล้ว จู่ๆ จะให้ขอโทษเรื่องเมื่อบ่าย... ก็ยอมรับตรงๆ ว่าปอดแหก “ผมไปล่ะ” เขาก้าวฉับๆ ออกไปสองสามก้าวก็หยุด ก่อนจะหันกลับไปทางด้านหลัง

รวินท์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ถือเสื้อผ้าซึ่งเขาคืนให้เมื่อกี้อยู่ในมือ หากสีหน้าดูเศร้าสลด ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้มการค้าหลงเหลืออีกแล้ว
ภูพิงค์ถอนหายใจยาว เขาได้ยินเสียงรถจึงหันไปดู ก็เห็นว่าทันตแพทย์อีกคนเคลื่อนรถออกไปแล้ว ถ้างั้นพี่วินก็คงอยู่คนเดียว... เพราะงั้นถึงได้เศร้าอย่างนั้นสินะ

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเกาศีรษะ “จะไปกินมื้อเย็นด้วยกันมั้ยล่ะ”

ฉิบหาย หลุดปาก! เขารีบยกมือขึ้นปิดปากไว้ “เอ่อ...”

“ไป”

“ฮะ!” ภูพิงค์เลิกคิ้วขึ้น ทว่ารอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้งนั่น... มันต่างออกไปจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง

แปลว่าดีใจที่เขาชวนงั้นเหรอ ดีใจจริงๆ เหรอวะ?

“ไปกินไหนดีอ่ะ เดี๋ยวผมไปเอากุญแจรถก่อน”

“เดี๋ยวพี่วิน”

“หือ?”

เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง แล้วพูดต่อ “อยากลองขี่บิ๊กไบค์ป่ะ เดี๋ยวผมไปยืมหมวกกันน็อกไอ้พวกนั้นให้”

“เอาสิ!”

“งั้นเดี๋ยวผมมา” ท่าทางกระตือรือร้นกับรอยยิ้มของอีกฝ่ายเป็นผลให้ภูพิงค์ยิ้มออกมาได้ เขาขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านเช่าไป ซึ่งพอไปถึงที่นั่นก็ไม่มีใครอยู่แล้ว รถของอีแซนดี้หายไป พวกมันคงออกไปหาอะไรกิน แต่มอเตอร์ไซค์ยังอยู่ เขาจึงหยิบหมวกกันน็อกมาดู ถอดของตนเองออกใส่ของเพื่อนแทนแล้วรีบขี่กลับไปยังคลินิก เมื่อไปถึงก็เห็นว่าอีกฝ่ายยืนรออยู่ตรงที่เดิม

“เอ้า ใส่หมวก อันนี้หมวกผมเอง ใหม่หน่อย ของไอ้พวกนั้นซกมกชะมัด”

“ไม่มีเหาใช่ป่ะ”

“มีแต่เห็บอะ” ภูพิงค์พูดกลั้วหัวเราะ พอเห็นอีกฝ่ายหยิบหมวกใส่อย่างงงๆ เขาจึงเอื้อมมือไปช่วยใส่ให้ “เคยนั่งมอไซค์บ้างเปล่าวะพี่”

“เคยนั่งมอไซค์ตึ๋งครั้งนึง แต่อย่าขี่เร็วนักละกัน เดี๋ยวร่วง”

เมื่อใส่หมวกกันน็อกให้เสร็จ เด็กหนุ่มจึงหันไปตบๆ ลงบนเบาะ “มาๆ ขึ้นมานั่ง”

รวินท์ก้าวขึ้นไปนั่งซ้อนด้านหลัง เขาเอามือเกาะเสื้ออีกฝ่ายไว้ “โอเค ออกไปช้าๆ ก่อนนะ”

“อือ” ภูพิงค์ขี่ออกไปแล้วเบรกเอี๊ยด ขี่ออกไปอีกแล้วก็เบรกอีก ทำแบบนี้สามสี่ครั้งจนคนที่นั่งข้างหลังถลาเข้ามาชนหลังเขาหลายต่อหลายครั้ง และในที่สุดก็เขยิบเข้ามาจนชิด สองแขนเอื้อมมากอดลำตัวเขาไว้

“เล่นอะไรวะคุณ!”

เด็กหนุ่มหัวเราะลั่น “เนี่ยคือประโยชน์ของมอไซค์ รู้ยัง”

“ไม่รู้เว้ย” รวินท์โวย

“เวลาสาวๆ ซ้อนท้าย หน้าอกจะได้กระแทกเข้ามารัวๆ ไง”

“โว้ย! แล้วผมมีหน้าอกมั้ยวะ! เอาไว้ไปเล่นกับสาวๆ นู่น กระแทกถี่ๆ แบบนี้ ไข่ผมแบนหมดพอดี”

เด็กหนุ่มหัวเราะต่อไปอีกสักพัก เขาขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปบนถนนใหญ่ แล้วก็ขี่ตรงไปเรื่อยๆ ไปในทิศทางไกลออกไปจากใจกลางตัวเมือง

“จะไปไหนอะพิงค์”

“จะพาพี่ไปกินอาหารเหนือร้านอร่อย”

“เฮ้ย จริงอะ ดีๆ” รวินท์หันมองซ้ายขวาตามทางไปเรื่อยๆ เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี ท้องฟ้าเบื้องบนเริ่มสีหม่นลงบ้าง ทว่าก็ยังมองเห็นสองข้างทางได้อย่างชัดเจน ระยะห่างระหว่างบ้านคนและร้านค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีต้นไม้สีเขียวชอุ่มขึ้นแทรกมากมาย


*TBC*


แล้วก็ไปเดตกันได้แบบงงๆ อะไรกันเนี่ยคู่นี้  :laugh:

ค่ำคืนของสองหนุ่มยังอีกยาวไกลนะคะ สองคนนี้เขาชอบจีบกันดึกๆ 55555555 ยังไงติดตามต่อตอนหน้านะค้าาา~

ตอนนี้ฮัสกี้เอามาลงอย่างไวเลยน้าาา~ แต่ตอนหน้าอาจจะช้านิดนึง เพราะฮัสกี้หนีเที่ยวค่ะ อิอิอิ๊

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 15 : สะกิดใจ][021217]
«ตอบ #507 เมื่อ02-12-2017 17:43:21 »

จีบกันแบบงงๆ เดตก็ยังงงๆ แล้วจะรักกันแบบงงๆ ด้วยป่าวเนี้ย
น้องแสนดีทำดีมากหย่อนระเบิดให้น้องมันคิด ส่วนพี่ก็คนเหงาๆ นึงเน๊าะ
รอลุ้นว่าจะจีบกันแบบไหน
 :3123:  :pig4:  :3123:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 15 : สะกิดใจ][021217]
«ตอบ #508 เมื่อ02-12-2017 18:01:58 »

ชอบตอนคู่นี้อยู่ด้วยกันมาก ตอนคุยกันเถียงกันนี่ชอบมาก

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 15 : สะกิดใจ][021217]
«ตอบ #509 เมื่อ02-12-2017 18:07:13 »

คนน้องเริ่มคิดแล้วคนพี่คิดได้หรือยังเนี่ย สรุปเป็นแสนดีที่มองทะลุ เหอๆ พี่หมอใจดีกับทุกคนเรี่ยราดไปหมดแล้วจะมีคนพิเศษไปทำไมล่ะคับ ระวังน้องพิงค์จะเคืองอีก :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด