ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 613548 ครั้ง)

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
น่ารักขึ้นทุกทีที่เจอกันเลยอะคู่นี้

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
จงอัพจงอัพ :oni3: :oni3: :oni3:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ถ้ามีรูปหลุดว่ามาเที่ยวตอนกลางคืนด้วยกัน ดังกว่าเดิมอีกแน่ๆ คราวนี้คิดว่าคู่เรียลแน่นอน ฟินนนนนน o18

ออฟไลน์ somuch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
โง้ยยยยยยย ชอบมากกกกกก งื้อๆๆๆๆๆ

//ดิ้นพราดๆ

นี่นั่งครุ่นคิดค่ะ อย่างเรื่องก่อน เหนือเมฆ คุณคนเขียนก็มี hint ให้จากชื่อเรื่องว่าอปป้าน้ำเมะ (เราเดาโพสิชั่นออกตั้งกะอ่านชื่อเรื่อง)

แต่เรื่องนี้ อะแฮ่ม ถามตรงๆนะคะ ภูสอยเดือนแล้ว...จะเสียบด้วยไหมคะ? //ปิดหน้าเขิน

คือบั่น ค้างคาใจอ่ะค่ะ ตอนแรกว่าพี่วินเมะ อ่านๆไป เอ๊ะ ชักสับสน

ลงเรือไม่ถูก มันเลยมึนๆ งงๆ ตอนแรกเราขึ้นเรือหนุ่มวิศวะเมะนะคะ แต่พี่วินทำเราเซ พอเราปีนขึ้นเรือวินพิง ตอนล่าสุดเรือเราก็เริ่มเป๋ๆ โฮวววววววว บอกโพสิชั่นหน่อยสิค้าาาา //กอดขา

รอติดตามค่ะ ♡♡♡

ปอลุง. แก้ไขชื่อค่ะ เราเมาๆ จำชื่อพี่วินผิด แงงงง :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2017 18:25:55 โดย somuch »

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
น้องพิงค์พัฒนาความรักเร็วแฮะ ส่วนหมอวินจะตามทันมั๊ยล่ะ

ออฟไลน์ Panamapaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านไปยิ้มไป ลุ้นด้วย ไม่อยากให้จบตอน 5555  :katai5:

ออฟไลน์ Cuddlemoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Chapter 17 : งานเข้าแบบแพ็กคู่


เช้าตรู่ของวันจันทร์ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆสีเทาลอยต่ำ สายฝนพรั่งพรูลงมาตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากที่รวินท์และเตชิตกลับมาจากเชียงใหม่ได้สักพัก

รวินท์ทอดหมูยอที่พี่นิ้งให้มากินกับข้าวเป็นอาหารมื้อเช้า เขาเสียเวลาแกะห่อใบตองไปนานโข ได้หมูยอมาตุ้มใหญ่กว่าหัวนิ้วโป้งนิดเดียว ถึงว่าสิ พี่นิ้งให้มาถุงเบ้อเริ่ม เขาก็หลงดีใจคิดว่าจะกินได้หลายวัน แต่นี่แค่วันแรกเขาก็แกะมากินไปเสียครึ่งถุงแล้ว

มันก็อร่อยดีนะ แต่ถ้าเขาอยากซื้อมาไว้ทอดกินสักอาทิตย์ คงต้องเอารถบรรทุกไปขน

ขณะที่นั่งกินข้าวมื้อเช้า ทันตแพทย์หนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถือค้างไว้ในมือ พลางนึกไปถึงคนที่ไม่ได้พบกันมาเป็นสัปดาห์แล้ว เนื่องจากเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่๋ผ่านมาภูพิงค์หายหัวไปอ่านหนังสือสอบมิดเทอม ทั้งที่พวกเขาก็เพิ่งเจอกันไปไม่นานแท้ๆ แต่เขากลับรู้สึกว่ามันนานมาก เหงาด้วย คงเพราะไม่มีใครมากวนประสาท เขาถอนหายใจ ลังเลอยู่สักพักจึงกดเปิดเฟซบุ๊กขึ้นมาดู

รวินท์ไม่ค่อยสนใจโซเชียลเน็ตเวิร์คสักเท่าไหร่ แต่ที่มีไว้ก็เพราะเมื่อก่อนใช้เช็กเรตติ้งของตัวเอง หากตั้งแต่เรียนจบ เลิกกับขวัญข้าวและมาใช้ทุน เขาก็ไม่ค่อยได้เข้าไปทำอะไรมากมายนัก นานๆ จะอัปรูปสักที ดูไทม์ไลน์ไปเพลินๆ บ้าง ถ้าไม่ขี้เกียจ

ทว่าครั้งนี้เขาตั้งใจจะเข้ามาดูเฟซบุ๊กของภูพิงค์ พอกดเข้าไปดูก็เห็นว่ามีคนแท็กรูปเด็กหนุ่มมาบ่อยๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่วนใหญ่ก็เป็นคนในคณะนั่นล่ะ และหลายรูปที่ถูกแท็กมานั้นก็มีรูปพวกเขาวันที่ไปร้านอาหารพื้นเมืองเมื่อวันก่อนด้วย

ทางร้านแต่งรูปซะสวยเลย มีคนเข้ามาทั้งไลค์และให้หัวใจเพียบ คอมเมนต์ใต้ภาพมีคำว่าน่ารักเรียงเป็นตับ แต่ไม่มีใครพูดถึงของกินบนโต๊ะกันเลย

ปกติแล้วเขาจะอ่านคอมเมนต์ผ่านๆ หากวันนี้ตื่นเช้าและมีเวลาว่างเยอะ เขาเลยไถอ่านข้อความไปเรื่อยๆ เพลินดีเหมือนกัน

ชายหนุ่มอ่านไปหัวเราะไป จนกระทั่งไปเจอคอมเมนต์จากคนในคณะเดียวกันกับอีกฝ่าย ซึ่งเป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่

“ไอ้พิงค์แม่งปีนเกลียว หวังของสูง”

ของสูงไหนวะ เพดานเหรอ

“สมกันดี จีบให้ติดนะมึง”

จีบ?

ทันตแพทย์หนุ่มขมวดคิ้ว เขาไม่แน่ใจว่าคอมเมนต์พวกนั้นหมายถึงใคร พนักงานคนที่จัดโต๊ะ คนที่ถ่ายรูป หรือว่า... เขา?

“กิ่งทองใบหยกว่ะ ต่อไปจะได้ทำฟันฟรีแล้วไอ้พิงค์”

“ไปเดตกับพี่วินด้วยอ่ะ ร้ายว่ะมึง~”

ชัวร์แล้วเว้ย! นี่หมายถึงตัวเขาแน่ๆ ล่ะ!

รวินท์หัวเราะร่วน แบบภูพิงค์อะนะ ปล่อยหมาใส่เขาทุกทีที่เจอกันแบบนั้น พจนานุกรมฉบับไหนแปลว่าจีบวะ คงเพราะเด็กหนุ่มไปไหนมาไหนกับเขาสองคนบ่อยๆ เพื่อนเลยเอาไปแซวกันเล่น

ที่สำคัญน่ะพวกเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่นะเว้ย

แต่เมื่อสมัยเรียนเขาก็เคยมีผู้ชายมาจีบเหมือนกันนะ แล้วตอนนั้นเขาทำยังไงวะ?

รวินท์ยกแขนขึ้นกอดอก พลางขมวดคิ้ว... จำไม่ได้ว่ะ เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรรอบตัวเลยจริงๆ แม่งเอ๊ย

หากแวบหนึ่งก็คิดว่าถ้าหากเป็นจริงอย่างที่ทุกคนแซ็วก็คงดีเหมือนกัน เพราะเวลาอยู่ด้วยกันกับภูพิงค์ก็สนุกดี

ถ้าสมมติว่าเด็กหนุ่มจีบเขาจริงๆ... เขาจะทำยังไงวะ

ก็อาจจะดีนะ จากที่เคยลองกอดดูก็เต็มไม้เต็มมือดี น่าจะฟัดได้เต็มที่แบบไม่ต้องกล้วอะไรจะหัก

ทันตแพทย์หนุ่มส่ายหน้าไปมาอย่างงงๆ กับความคิดของตัวเอง “กูเป็นบ้าไปแล้วเหรอวะเนี่ย จู่ๆ เสือกอยากให้ผู้ชายมาชอบ”

รวินท์ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองดังป้าบ แล้วส่ายหน้าไปมา นี่เขาอกหักจากขวัญข้าวหนักจนเสียศูนย์ เลยจะหักมุมไปสนใจผู้ชายแทนเหรอวะ เขาถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างอ่อนใจ

“นั่งพึมพำอะไรอยู่คนเดียววะ คุยกับกุมารทองหรือแม่ซื้อรึไง” เสียงของเตชิตดังมาก่อนเสียงเคาะประตูห้อง เขายืนมองเพื่อนรักอยู่ตรงบานหน้าต่างมุ้งลวดฝั่งที่ติดกับทางเดิน “กินเสร็จยัง วันนี้กูตื่นเช้าว่ะ เลยว่าจะเดินไปโรงบาลพร้อมมึงด้วย”

“เสร็จแล้วๆ รอแป๊บเว้ย” เจ้าของห้องลุกไปเปิดประตูให้ เขารีบยกจานที่กินเสร็จแล้วไปวางในอ่างล้างจาน จากนั้นจึงวิ่งเข้าห้องนอนไปเอาของ

พอเตชิตเดินมาถึงโต๊ะ เขาก็ก้มหน้าลงมองภาพที่ค้างอยู่บนหน้าจอก่อนที่โทรศัพท์จะดับลง “ภูพิงค์?”

..

....

..

ฝนตกหนัก...ห่าใหญ่แล้วใหญ่อีก ตกๆ หยุดๆ แบบนี้มาจะเป็นสัปดาห์แล้ว ท้องฟ้ามืดครึ้ม เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังมาฮึ่มๆ เป็นพักๆ ทั้งกลางวันกลางคืน เสื้อผ้าที่ซักแขวนเอาไว้บนราวใต้ร่ม ตากเท่าไหร่ก็ไม่แห้ง เพราะอากาศชื้นมาก และตากไปไม่นานฝนก็สาดเข้ามาให้เปียกอีกรอบ กางเกงในจวนเจียนจะขึ้นราอยู่รอมร่อ หนำซ้ำยังเป็นช่วงสอบมิดเทอมอีก ทำให้บรรยากาศเหมือนมีผู้คุมวิญญาณอยู่ด้วยทุกหนแห่ง

ภูพิงค์สอบมิดเทอมวันนี้เป็นวันสุดท้าย ส่วนวันพรุ่งนี้ได้หยุดเพราะปีหนึ่งกับปีสองบางภาคยังเหลือสอบอีกหนึ่งวัน ทันทีที่สอบเสร็จเขากับเพื่อนๆ ก็เก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้านเช่า เนื่องจากจะรีบกลับไปเก็บผ้าเอาเข้าห้องไปตากกับพัดลม

ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกจากตึกเรียน เขากับเพื่อนรักก็ถูกเรียกไว้เสียก่อน

“ไอ้ซัน ไอ้พิงค์ มีเรื่องด่วนเว้ย” นายกสโมฯ ของคณะวิ่งกางร่มเข้ามาหาจากตึกข้างๆ กัน

สองหนุ่มง้างเท้าเตรียมวิ่งหนี แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเหตุผล

“หมู่บ้านกับโรงเรียนน้องถูกดินโคลนถล่มว่ะ!” โรงเรียนน้องกับหมู่บ้านที่ว่าคือโรงเรียนบนดอยที่นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์มีกิจกรรมค่ายอาสาไปช่วยเหลือดูแลเป็นประจำทุกปี

“ฮะ! ถล่มได้ไงวะพี่!”

“ฝนตกหนักติดกันหลายวันเกิน ดินอุ้มน้ำไม่ไหวกลายเป็นโคลน ไหลจากบนเขาเข้าหมู่บ้านกับโรงเรียน”

“แล้วเป็นไงบ้าง”

“ไปห้องประชุมก่อนเว้ย” นายกสโมฯ สั่งเสร็จก็รีบวิ่งออกไปตามจิกสมาชิกสโมฯ คนอื่นที่สอบเสร็จแล้วต่อ งานนี้ภูพิงค์ไม่เกี่ยว แต่มีเอี่ยวเพราะเสือกเป็นประธานรุ่น สองหนุ่มจึงลากเพื่อนอีกสองคนที่เหลือไปรอกันที่ห้องประชุมด้วย งานนี้คนเยอะ หลายหัวคิดจะได้เปรียบ

ภายในห้องมีอาจารย์จากหลายภาควิชา รุ่นพี่และเพื่อนพ้องซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกสโมสรนักศึกษานั่งรวมกับเหล่าสมาชิกสโมฯ อยู่หลายสิบชีวิต บนจอฉายสไลด์มีภาพที่ถูกส่งมาจากบนดอยเปิดทิ้งไว้ สภาพของโรงเรียนในตอนแรกถูกโคลนทับถมเสียหาย แต่ก็มีการนำกระสอบทรายมากั้นและตักโคลนออก ใต้หลังคาสนามกีฬาเล็กๆ ที่พวกนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เคยออกทุนลงแรงสร้างไว้ ตอนนี้กลายเป็นที่หลบภัยของชาวบ้านหลายครอบครัว

“โรงเรียนตอนนี้มีคนเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ให้คนที่บ้านเสียหายย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนชั่วคราว ตอนนี้ขาดเสื้อผ้า ยากับอาหาร แล้วก็เงินทุนปรับปรุงโรงเรียน ทางมหาลัยได้นำเงินบริจาคส่วนหนึ่งซื้อของส่งไปช่วยบ้างแล้ว แต่คงไม่พอ เราจึงต้องหาทางช่วยระดมทุนเพิ่ม”

“คณะเราจะไม่เปิดรับบริจาคเฉยๆ แต่จะจัดกิจกรรมเพื่อรวบรวมเงินด้วย ไหนๆ พรุ่งนี้ก็สอบเสร็จกันแล้ว มีเวลาอีกอาทิตย์กว่าๆ ให้เตรียมตัว วันเสาร์ถัดไปเราจะจัดงานไนต์กัน ตอนนี้มีสปอนเซอร์สนใจเข้าร่วมบ้าง ทางอาจารย์ก็พูดคุยกับทางมหาลัยไว้แล้วนิดหน่อย ไม่น่ามีปัญหา”

“งานไนต์ของเรามีคอนเสิร์ตด้วย ได้ศิษย์เก่าที่จบไปแล้วมาช่วยเป็นนักร้องนักดนตรีให้”

“จัดเพิงขายน้ำ ขายขนมและของจากที่สปอนเซอร์ให้มา”

“มีขายตั๋วสำหรับเข้างาน”

ภูพิงค์กับเพื่อนอีกสองคนยืนมองทุกคนในห้องปรึกษากันไปมาอย่างเงียบๆ งานนี้พวกเขาต้องใช้แรงงานกันหนักอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไร คณะเขาคนเยอะ เรื่องแสดงสปิริตขอให้บอก

“พวกรุ่นพี่ที่จะมาเป็นนักร้องให้ คงจะพอเรียกแขกได้อยู่ใช่มั้ยครับจารย์ ไม่งั้นในงานหลอนแน่ๆ” สมาชิกสโมฯ คนหนึ่งพูดขึ้น

“เฮ้ย งานแบบนี้เขาก็มาด้วยใจอยากทำกุศล ฟังเพลงชิลๆ ป่ะวะ” หนึ่งในสมาชิกเอ่ยขัด

“หนุ่มๆ สาวๆ ในคณะเราก็...” อาจารย์พูดพลางกวาดสายตามองหน้าแต่ละคนในห้อง หยุดทำใจสักพักจึงพูดต่อ “...ก็หน้าตาดีๆ กันทั้งนั้น คงพอเรียกแขกได้เหมือนกัน”

แล้วจู่ๆ ทั้งห้องก็เงียบสงัด จนได้ยินเสียงฝนตกเปาะแปะและกบเขียดร้องชัดเจน

พวกอาจารย์พากันถอนหายใจ ก่อนอาจารย์คนหนึ่งจะเอ่ยขึ้น “เสาร์นี้มีงานวิ่งมาราธอนนี่ ก็โฆษณางานไนต์ในงานวิ่งไปด้วยเลย”

ซันเลิกคิ้วขึ้นเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันขวับไปทางภูพิงค์ “เออ จริงสิ คลิปพี่หมอที่มึงเอามาครั้งนั้น พี่หมอบอกจะมางานมาราธอนด้วยนี่”

“หมอไหน” อาจารย์บางคนยังไม่รู้เรื่องของรวินท์จึงหันไปถาม

“คนที่หน้าหล่อโคตรๆ ในคลิปกับรูปที่แปะอยู่ในเพจวิดวะเชิงดอยไงจารย์ ที่คนเข้ามาดูกันเยอะๆ อะครับ”

“อ้อ คนนั้นน่ะเอง เป็นหมอเหรอเนี่ย”

“เป็นหมอฟันอะจารย์ ไอ้พิงค์มันซี้” ซันรีบรายงานอาจารย์เสร็จสรรพ

“โอ้...” อาจารย์หรี่ตามอง จากนั้นจึงหันไปส่งสัญญาณให้ตากล้องสโมฯ ตัวดี

ว่าแล้วตากล้องสโมฯ ตัวหัวหอกก็กวักมือเรียกสมาชิกสโมฯ ทุกคนเข้าไปสุมหัวปรึกษากัน ก่อนจะขยับไปรายงานอาจารย์ จากนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันหันไปทางภูพิงค์กันเป็นตาเดียว

เด็กหนุ่มหัวใจร่วงไปอยู่ใต้ตาตุ่ม เพียงแค่สบสายตากับทุกคนปราดเดียวเท่านั้น เขาก็มองเห็นชะตากรรมของตนเองรำไร “เดี๊ยว~”

“ไอ้พิงค์ ชวนพี่หมอเขามาวิ่งมาราธอนแป๊บดิ เอาแค่วิ่งไปวิ่งกลับกิโลฯ แรกก็พอ”

“เดี๋ยวพี่! จู่ๆ จะให้พี่เขามาวิ่งกับคณะเราคนเดียวโด่ๆ เนี่ยนะ”

“ไม่ได้ให้วิ่งคนเดียวเว้ย”

“ฮะ”

“วิ่งกับมึงนี่ไง”

กูว่าแล้ว!

ภูพิงค์ยังไม่ทันได้โต้เถียงอะไร อาจารย์ก็พูดขึ้นเสียงขรึม

“ภูพิงค์ ในฐานะประธานรุ่นเธอต้องทำอะไรให้เป็นตัวอย่างกับนักศึกษาคนอื่นๆ หน่อยนะ”

นั่น ลูกแรกมาแล้ว

นายกสโมฯ รับช่วงต่อจากอาจารย์อย่างรู้งาน “พวกเราเกิดมาโชคดี มีโอกาสได้เล่าเรียนสูงๆ แต่ต้องอย่าลืมว่าพวกเราชาววิศวะคือฟันเฟืองของชุมชน ไอ้พิงค์ มึงแหกตาดูหน้าน้องๆ ดูสภาพน้องๆ สิ มีอะไรที่มึงพอจะทำได้ มึงจะไม่ลงมือเชียวเหรอ”

เหรัญญิกสโมฯ เอื้อมมือไปเปิดเพลงดอกไม้จะบานคลอ

ไอ้พวกนี้แม่ง... รู้จุดอ่อนเขาจริงๆ โว้ย

เด็กหนุ่มถอนหายใจยาวๆ อย่างอ่อนใจ เขาไม่ได้เจอพี่วินมาจะสองอาทิตย์ได้แล้วเพราะติดสอบ ถ้าให้โทรไปชวนมากินข้าวน่ะเขาคงชิลๆ แต่จะให้โทรไปชวนมาวิ่งมาราธอนเนี่ย... “ผมจะลองคุยกับพี่เขาดูนะครับ แต่ไม่สัญญานะว่าจะได้” ...ไอ้พี่วินแม่งยิ่งขี้เกียจอยู่ด้วย ให้มางานยังพอลุ้น แต่ให้มาวิ่งด้วยนี่... ฆ่ากูเถอะ!


ภายในห้องครัวจุ๋มจิ๋มของทันตแพทย์หนุ่ม เจ้าของห้องยืนทอดหมูยออยู่ที่ในครัว หลายวันที่ผ่านมานี่เขากินแต่หมูยอทุกวัน เนื่องจากดันไปเปรยกับเหล่าพยาบาล คนไข้และผู้ช่วยฯ ไว้ว่าอร่อย หลังจากนั้นก็มีคนเอามาให้เพียบ เขาเอาใส่ช่องแช่แข็งไว้จนเต็มหมดแล้ว ส่วนที่ยัดใส่ช่องแช่แข็งไม่ได้ เขาก็พยายามเอามาทอดกิน แจกให้หมอข้างห้อง พี่สิงหากับไอ้เต้ไปกินด้วย หากก็ยังเหลืออีกตั้งมากมาย

หลังจากทอดเสร็จ ตักหมูยอโปะข้าวแล้วรวินท์ก็เดินมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูไปกินไป เฟซบุ๊กของภูพิงค์ยังคงนิ่งกริบ แต่ถ้าเขาจำไม่ผิด เด็กหนุ่มน่าจะสอบเสร็จวันนี้นี่ล่ะ

ขณะที่กดๆ โทรศัพท์ไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี

“อ้าว ตายยากแฮะ”

“แหม ทักกันดีๆ ก็ได้พี่ คิดถึงผมอยู่ก็บอก”

“ใครคิดถึงใครกันแน่วะ สอบเสร็จปุ๊บก็โทรหากันปั๊บเลยน้า~”

“เขินว่ะพี่ อย่าพูดตรงๆ สิคร้าบ แล้ว... พี่วินสบายดีรึเปล่า ไม่ได้เจอกันน้านนาน~”

รวินท์ยิ้มมุมปาก ถ้าอีกฝ่ายมาแนวนี้ล่ะก็ ใช่เลย... “มีอะไรจะให้ช่วยก็ว่ามา”

“เว้ย~ พี่รู้ได้ไงอะ!”

“นั่นไง เดาไว้ไม่มีผิด ทำเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้น่ะ ชัวร์!”

“โห... หล่อด้วย แสนรู้ด้วยนะพี่วินเนี่ย คือ... เสาร์นี้มีงานวิ่งมาราธอน...”

“อือ รู้แล้ว ผมจะไปดูนะ”

“แหะๆ คือไม่แค่ดูได้มั้ยวะพี่ มาวิ่งกับผมหน่อย”

ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะ ส่งผลให้คนที่อยู่ปลายสายหัวเราะไปพร้อมๆ กันด้วย

“ไม่เว้ย!”

“โธ่ วิ่งแค่นิดเดียว กิโลเดียว ไปกลับสองโล”

“ตกลงวิ่งกี่โลกันแน่วะ!”

“ก็ขาไปโลนึง กลับอีกโลไงพี่ เรียนจบหมอมาได้ไงวะ แค่คิดเลขง่ายๆ”

“นี่จะมาขอร้องหรือจะมาหาเรื่องผมวะ”

“วิ่งเพื่อการกุศลนะพี่ เพื่ออิสรภาพทางการบุญ คือพี่หล่ออยู่แล้ว รวยด้วย ขาดแต่บุญนะตอนนี้ ถ้าผมไม่หวังดีนี่จะไม่โทรมาถามเลย แต่นี่เห็นว่าเป็นพี่วิน มีของดีเลยต้องบอกต่อ”

“นี่จะมาชวนไปทำบุญหรือไปขายตรงวะเนี่ย”

“นั่นแหละๆ คือแบบ... พี่... อาทิตย์ที่ผ่านมาฝนมันตกบ่อย ตกหนักด้วย โรงเรียนบนดอยที่คณะเราดูแล โดนดินโคลนถล่มทับเสียหาย พวกผมเลยจะจัดงานไนต์กันเสาร์ถัดจากเสาร์มาราธอนเนี่ย เพื่อหาเงินซื้อของให้โรงเรียนน้องกับชาวบ้านไง ทีนี้ก็จะถือโอกาสประชาสัมพันธ์งานไนท์ในงานมาราธอนไปด้วย ก็เลยอยากรบกวนพี่เอาหน้ามาเรียกแขกให้หน่อย”

“คือผมก็รู้อะนะว่าผมหน้าตาโคตรดี แต่แบบ... โห พูดตรงมากๆ”

“ผมคนจริงใจ”

“แต่ทำไมฟังดูตอแหล”

“พี่วินอ่า นะๆ น้า~ เดี๋ยวผมพาเที่ยวอีก พี่อยากไปไหนขอให้บอก ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดก็พาไปด้าย~”

“เดี๋ยวนะ จะให้ผมเรียกแขกในงานมาราธอนให้ไปงานไนต์ ก็หมายความว่า...”

“ใช่เลย พี่ตอบโอเคครั้งเดียว เหมาทั้งสองงานเลยคร้าบ งานนี้วิ่งก็จริง แต่อีกงานแค่มาเที่ยวฟังเพลงชิลๆ เองพี่”

รวินท์ถอนหายใจยาว ไอ้ไปงานเฉยๆ น่ะ โอเคอยู่ แต่เขาไม่ได้อยากวิ่งเลย หากก็ไม่รู้เพราะเป็นเรื่องงานทำบุญ หรือเพราะภูพิงค์เป็นคนขอร้อง เขาจึงปฏิเสธไม่ลง “กี่โมงถึงกี่โมง ถ้าไม่ชนกับทำคลินิก...”

“ไม่ชนหรอกพี่ วิ่งเจ็ดโมง สองกิโลยังไม่ถึงชั่วโมงเลย เสร็จแล้วก็มีสัมภาษณ์นิดหน่อย พี่ก็โฆษณางานไนต์ให้ผม แค่นี้เอง”

“อือ ก็ได้ แล้วต้องแต่งตัวยังไง”

“เดี๋ยวผมเตรียมเสื้อไว้ให้เปลี่ยน พี่ใส่กางเกงวอร์มมาก็พอ มีกางเกงวอร์มใช่ป่ะ”

“ไม่มีอ่ะ มีแต่สแล็กซ์กับยีน”

“โว้ย~ งั้นเดี๋ยวผมเตรียมไว้ให้ก็ได้วะ งั้นวันเสาร์หกโมงเช้า ผมไปรับพี่ที่คลินิกนะ”

“เช้าฉิบหาย...”

“แล้วเจอกันนะพี่~” ภูพิงค์ทำหูทวนลมพลางกดวางสายทันที วินาทีนี้เขาถือว่าอีกฝ่ายตกลงแล้ว ถ้าหกโมงไม่ออกมาจากคลินิก เขาจะพังประตูเข้าไปอุ้มออกมาเลยแม่ง

ทันตแพทย์หนุ่มลดโทรศัพท์มือถือในมือลง จากนั้นจึงหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา

“สำลักบุญแน่ๆ เลยกู”

..

.....

..

(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


เช้าตรู่ของวันเสาร์ ท้องฟ้ายังสลัวๆ มีลมเย็นพัดมาเป็นระยะๆ หากโชคดีที่ฝนไม่ตก ไม่อย่างนั้นเหล่านักศึกษาและอาจารย์ที่จะเข้าร่วมวิ่งมาราธอนคงต้องเปียกปอนเป็นลูกนกตกน้ำกันหมดแน่ๆ

รวินท์ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นแค่เข่าซึ่งเป็นชุดที่เขาใส่นอนมานั่งรอเด็กหนุ่มอยู่ที่หน้าร้าน อีกฝ่ายมาตรงเวลาเผง พอนาฬิกาบอกเวลาหกโมงรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ก็มาจอดเอี๊ยดที่ด้านหน้าคลินิกพอดี

“พี่วินจ๋า~”

ทันตแพทย์หนุ่มอดอมยิ้มกับท่าทางออดอ้อนของอีกฝ่ายไม่ได้ “ขนลุกเว้ย”

“แหม ผมอุตส่าห์ทำตัวน่ารัก เอ้านี่พี่ เสื้องานมาราธอน ส่วนกางเกงวอร์มของผมเอง เก่านิดหน่อย แต่ใส่ๆ ไปเหอะ”

“เออ รอแป๊บ”

รวินท์รีบวิ่งกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อหลังร้าน เขาโยนเสื้อผ้าตัวเองไว้ที่ตีนบันได จากนั้นก็รีบวิ่งกลับออกมา

หากเนื่องจากภูพิงค์เป็นคนขายาวมาก พอรวินท์ใส่กางเกงของเขา ชายขาจึงลงมากองอยู่บนข้อเท้าเล็กน้อย เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นก็รีบก้าวลงจากมอเตอร์ไซค์ เขาย่อตัวลงนั่งบนเข่าแล้วพับขากางเกงให้อีกฝ่าย

ทันตแพทย์หนุ่มก้มลงมองคนอ่อนวัยกว่าค่อยๆ พับขากางเกงให้เขาทั้งสองข้าง มีการวัดดูให้เท่ากันด้วยเสร็จสรรพ “บริการดีโคตร”

“ก็จะพาพี่ไปใช้แรงงาน ก็ต้องเอาใจกันหน่อย ไปกันเหอะพี่ ขึ้นมอไซค์มามะ” ภูพิงค์ลุกขึ้น หันไปหยิบหมวกกันน็อกโยนให้ ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนมอเตอร์ไซค์แล้วติดเครื่องรอ

หลังจากรวินท์ขึ้นไปนั่งแล้ว เด็กหนุ่มก็พาบึ่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปยังจุดเริ่มต้นการวิ่งมาราธอนที่ลานเกียร์ข้างหน้าตึกวิศวกรรมศาสตร์

ที่ในลานมีผู้คนมากมาย ส่วนใหญ่จะใส่เสื้อของงานมาราธอนกัน มีป้ายโฆษณาจากสปอนเซอร์เรียงเป็นแถบ มีเวทีเล็กๆ จัดไว้สำหรับพิธีกรในงาน เสียงดนตรีดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ

แต่เสียงดนตรีที่ว่าดังแล้วก็ยังเบาไปเมื่อเทียบกับเสียงวี้ดว้ายเซ็งแซ่เมื่อสองหนุ่มที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดและถอดหมวกกันน็อกออก

“คนเยอะมากเลยแฮะ” ทันตแพทย์หนุ่มเปรย

ส่วนภูพิงค์กำลังเหงื่อตก เขาก็สงสัยอยู่แล้วเชียวว่าทำไมไอ้พวกสโมฯ บอกให้เขาเอามอเตอร์ไซค์มาจอดตรงที่ใกล้ๆ เวที ไอ้ตอนแรกก็คิดว่าเพราะสะดวกดี แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่

สัส ถ้าจะทำแบบนี้ไม่ให้เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดบนเวทีแม่งเลยล่ะ!

“พี่วิน ไปเตรียมตัววิ่งก่อน” เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปคว้าแขนคนที่มัวแต่หันมองไปรอบๆ อย่างงงๆ เนื่องจากรวินท์เข้ามาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งนี้เป็นครั้งแรก แถมวันนี้มีงาน คนมหาศาลอีกต่างหาก

“อื้อหือ งานใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย มีงานติดกันสองเสาร์ แล้วเสาร์หน้าจะมีคนมามั้ยอ่ะ”

“โห แทงใจดำดังฉึกเลยพี่ พวกผมก็กลัวอยู่นี่แหละ แต่ก็ต้องทำไง เพื่อช่วยโรงเรียนน้อง”

“พี่วิน พี่วินค้า~”

“ครับ” เจ้าของชื่อเรียกหันขวับ แต่พอเขาหันไปเท่านั้น เสียงกรีดร้องก็ดังสนั่นกลบเสียงเพลงในงาน พวกสาวๆ กำลังจะกรูกันเข้ามารุมล้อมในไม่ช้า หากภูพิงค์ไวกว่า

เด็กหนุ่มรีบคว้าตัวรวินท์ไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะโดนสาวๆ ฉุดไป เขาต้องลำบากออกตามหาอีก “เดี๋ยวๆ ให้พี่วินไปวิ่งก่อน เสร็จงานค่อยมารุมนะ”

รวินท์หันขวับไปทางเด็กหนุ่ม “เสร็จงานแล้วผมก็ยังต้องไปทำงานต่อนะเว้ย”

“เออ น่า เอาชีวิตจากตรงนี้ให้รอดก่อนเหอะพี่ แล้วค่อยคิดเรื่องงาน”

“นี่คุณพาผมมาวิ่งหรือพามาให้รุมประชาทัณฑ์กันแน่วะ”

สองหนุ่มเถียงกันไป โดยที่แขนของคนอ่อนวัยกว่าโอบเอวรวินท์ไว้ รอบๆ ตัวพวกเขาเริ่มมีคนเข้ามามุงเยอะขึ้น เสียงชัตเตอร์ดังรัวยิ่งกว่าปืนกล ทว่าโชคดีที่พี่ๆ ชาวสโมฯ มาช่วยพาตัวสองหนุ่มไปยังจุดรวมตัวได้ ก่อนที่ภูพิงค์จะโดนเหยียบตายด้วยความหมั่นไส้ปนอิจฉา

จากนั้นสมาชิกสโมฯ ก็มารวมตัวกันเพื่อขอบคุณทันตแพทย์หนุ่ม พวกเขาพร้อมใจกันยกมือไหว้ แต่ที่จริงแล้วเพราะอยากเห็นตัวจริงใกล้ๆ มากกว่า

“ขอบคุณพี่หมอมากคร้าบ”

“ไม่เป็นไรๆ นิดหน่อยเองครับ”

“เดี๋ยวไอ้พิงค์กับพวกผมนี่จะวิ่งไปพร้อมๆ พี่หมอนะ พอวิ่งกลับมาแล้วเดี๋ยวขึ้นเวทีไปให้สัมฯ นิดนึงนะครับ”

“จะสัมฯ ว่าอะไรบ้างครับ บอกให้ผมเตรียมตัวหน่อย”

ภูพิงค์ขยับเข้ามากระซิบ “สัมฯ เกี่ยวกับงานอาทิตย์หน้าน่ะพี่ เดี๋ยวผมบอกรายละเอียดให้อีกทีตอนวิ่งนะ”

“อ่อๆ โอเค”

“อีกสักพักประธานจะขึ้นไปเปิดงานบนเวที ระหว่างนี้ก็วอร์มอัปไปก่อน โอเคนะครับพี่”

“อือๆ ได้ครับ”

“ก่อนเริ่มงานขอถ่ายรูปหน่อยนะครับพี่หมอ เอ้า ไอ้พิงค์ ขยับเข้าไปยืนชิดๆ” ตากล้องสโมฯ วิ่งถือกล้องเข้ามาขวาง

เด็กหนุ่มยิ้มแหยๆ ไอ้ห่าพี่ต่าย นี่แม่ง จงใจเกินไปมะ สมาชิกสโมฯ ยืนอยู่เป็นสิบ เสือกให้พี่วินถ่ายกับเขาสองคน

“โอบไหล่หน่อยๆ”

ขณะที่ภูพิงค์กำลังด่าในใจ ทันตแพทย์หนุ่มกลับเป็นคนยกแขนขึ้นโอบอีกฝ่ายแทนซะอย่างนั้น ตามด้วยรอยยิ้มเพื่อการค้าอย่างที่เคยชิน

หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ บนเวทีก็เริ่มต้นด้วยการนำวอร์มร่างกาย จากนั้นประธานก็ก้าวขึ้นไปกล่าวเปิดงาน แล้วการวิ่งมาราธอนก็เริ่มต้นขึ้น

ช่วงแรกๆ ของการวิ่ง รวินท์ก็วิ่งตามกลุ่มไปช้าๆ ฟังภูพิงค์บอกบทสำหรับการสัมภาษณ์บนเวทีที่จะมีขึ้นหลังจากวิ่งเสร็จไปพลางๆ หากวิ่งไปได้ครึ่งทางก็เริ่มหอบ

“ทำไมเหนื่อยไวจังวะพี่ อายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย”

“ผมไม่ได้ฝึกวิ่งขึ้นดอยมาเหมือนคุณนะเว้ย”

“สองโลนี่จะไหวป่ะเนี่ย”

“ถ้าไม่ไหวจะให้ขี่หลังมั้ยล่ะ”

“เอางี้ดิ ถ้าจับผมทันให้ขี่คอเลย” พูดจบเด็กหนุ่มก็สปีดออกไป

“เฮ้ย! ไอ้ขี้โกง!” รวินท์เร่งสปีดตามไปแบบไม่เจียมสังขาร ทว่าวิ่งไปได้ไม่นานก็หยุดหอบแฮ่กๆ ภูพิงค์จึงชะลอความเร็วลง

“โห ลุงเอ๊ย! ที่จริงโกงอายุมาใช่มะ!”

“ลุงพ่องส์” ทันตแพทย์หนุ่มวิ่งต่อ พลางยกขาไล่เตะคนช่างกวนประสาทที่วิ่งอยู่ใกล้ๆ กันไปด้วย

กว่าจะไปถึงจุดที่กำหนดไว้ รวินท์ก็เหงื่อโซมกาย เขาได้หยุดพักชั่วครู่ ก่อนตัวเขา ภูพิงค์ และกลุ่มสมาชิกสโมฯ บางส่วนจะวกกลับไปยังจุดเริ่มต้น ปล่อยให้สมาชิกที่เหลือกับคนอื่นๆ วิ่งกันต่อไป ส่วนพวกเขาจะกลับไปโฆษณางานไนต์กันต่อ

เมื่อพวกเขาวิ่งกลับเข้ามาถึงในงาน เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอีกครั้ง ภูพิงค์พาทันตแพทย์หนุ่มไปยืนหอบหมดสภาพอยู่ที่ข้างเวที เตรียมขึ้นไปให้สัมภาษณ์ต่อ

“พี่หายเหนื่อยไวๆ หน่อยดิ”

“คนนะเว้ย ไม่ได้เปิดปิดสวิตช์ได้”

เด็กหนุ่มหันไปหยิบแผ่นพับมาช่วยพัดให้ “เอายาดมมั้ยลุง”

“เรียกแบบไม่ดูหน้าตัวเองเลยว่ะ  กระดากปากบ้างมั้ยถามจริง”

ภูพิงค์หัวเราะ “เหนื่อยจะตายยังมีอารมณ์เถียงอีกเนอะ คนเรา” นัยน์ตาจับจ้องใบหน้าที่มีเม็ดเหงื่อผุดพราย ริมฝีปากที่เผยอหอบเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ผมยุ่งและเปียกชื้น หมดมาดคุณหมอสุดหล่อไปเลย

“พี่หมอพร้อมยังครับ” หนึ่งในสตาฟฟ์ก้าวเข้ามาถาม “ขึ้นไปรอข้างบนเลยพี่”

ทว่าเมื่อก้าวขึ้นบันไดไป พอหันกลับมาก็เห็นว่าคนอ่อนวัยกว่ายังยืนอยู่ที่เดิม “เฮ้ย เดี๋ยวๆ สัมฯ ผมคนเดียวเหรอ”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือให้ “ผมรออยู่ข้างเวทีเนี่ยพี่ สู้ๆ นะ” จากนั้นก็พยักหน้าหงึกหงักส่งสัญญาณกับสตาฟฟ์ที่ข้างบนเวที

“พี่หมอออกไปได้แล้วครับ” สตาฟฟ์คนเดิมผลักทันตแพทย์หนุ่มออกไปเบาๆ

โชคดีที่รวินท์เคยมีประสบการณ์ต่อหน้าคนมากมายมาก่อน เขาจึงไม่ได้ประหม่าอะไรมาก อีกอย่าง ไหนๆ ก็รับปากกับพิงค์มาแล้วด้วย เขาก็คงต้องช่วยให้เต็มที่

พิธีกรบนเวทีมีสองคน เป็นคู่ชายหญิง พวกเขายืนประกบทันตแพทย์หนุ่มไว้คนละข้าง

“แนะนำตัวหน่อยครับพี่หมอ”

“สวัสดีครับ รวินท์ กิจโสภณ เป็นทันตแพทย์ครับ”

“พี่หมอบอกหน่อยสิคะ ว่าเป็นไงมาไงถึงมาวิ่งมาราธอนกับพวกเราได้คะเนี่ย”

รวินท์ยิ้มละมุน พลางชี้ไปที่ข้างเวที “พิงค์ชวนมาครับ” เรียกเสียงหวีดร้องได้ดังก้อง

“งานนี้ต้องขอบคุณไอ้คุณพิงค์นะครับเนี่ย สาวๆ เลยมากันเต็มงานเลย แต่ไหนๆ พี่หมอก็อยู่กับพวกเราที่ตรงนี้แล้ว ขอถามคำถามที่หลายๆ คนอยากรู้สักหน่อยนะครับ”

“คะ...ครับ”

“พี่หมอยังโสดหรือเปล่า”

คราวนี้ทั้งภูพิงค์และรวินท์ชะงักกึก เพราะคำถามนี้ไม่มีตอนเตี๊ยมกันนี่หว่า!

“เฮ้ย! อย่าถามนอก...!” เด็กหนุ่มโวยวาย หากถูกไอ้ซันเพื่อนรักเอามือปิดปากไว้เสียก่อน “อื้อๆ!”

“เอ่อ... จะว่าโสดก็ได้ ไม่โสดก็ได้ แล้วแต่จะคิดก็แล้วกันนะครับ” ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มเจื่อนๆ

“อ้าว พี่หมอตอบแบบนี้ หมายความว่ายังไงน้อ~ งั้นถามใหม่นะคะ สเป็กของพี่หมอเป็นแบบไหน ชอบผู้หญิงแบบไหนค้า”

“ชอบคนใจดีน่ารักครับ”

“บรรยายหน้าตาตามสเป็กหน่อยสิคะ”

“เอ่อ แบ๊วๆ ตาคมๆ โตๆ มั้งครับ”

“แล้ว... งานไนต์เสาร์หน้า พี่หมอจะมามั้ยเอ่ย มีสาวๆ หน้าตาแบ๊วๆ ใจดีน่ารักๆ เพียบเลยน้า”

รวินท์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะเขาไม่ค่อยอยากพูดเรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่ ดีที่ไม่โดนถามอะไรมาก ในที่สุดก็วกกลับมาเข้าเรื่องสักที “มาสิครับ นัดกับพิงค์ไว้แล้ว” ทันตแพทย์หนุ่มกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่ยืนล้อมเวทีกันอยู่ “เสาร์หน้าเจอกันนะครับ”

เสียงตอบรับดังลั่น ขณะเดียวกันพิธีกรก็พูดขึ้นแทรก “เสาร์หน้ามีเซอร์ไพรส์ใช่มั้ยคะพี่หมอ”

“ฮะ!?” อะไรอีกวะ!

รวินท์กับภูพิงค์หันไปสบสายตากันอีกรอบ

“ถ้าพิงค์เป็นพิธีกรงานไนต์เสาร์หน้า พี่หมอจะมาเป็นพิธีกรคู่กับพิงค์ได้มั้ยค้า~”

โอ้โห พวกกูนี่แหละเซอร์ไพรส์!

“เอี๋ยวอ่อน อูออกออนไอ๋เอี้ยอ้าอะเองอิ๊อีออน!” (เดี๋ยวก่อน กูบอกตอนไหนเนี่ยว่าจะเป็นพิธีกร) เด็กหนุ่มโวยผ่านฝ่ามือเค็มๆ ที่ปิดปากตัวเองไว้ “ไอ้อัน อ่อยอู๊” (ไอ้ซัน ปล่อยกู๊)

“เอ่อ ขอผมคิดดูก่อนแล้วกัน”

“ได้ครับ พี่หมอคิดไวๆ นะครับ เอาล่ะ ตอนนี้เรามาดู VTR จุดประสงค์ของงานไนต์กันสักนิดดีกว่า เชิญพี่หมอถอยมาทางนี้นิดนึงครับ จะได้เห็นชัดๆ”

หลังจากคลิปถูกฉายขึ้นบนจอ VTR พร้อมกับเพลงบรรเลงสุดเศร้า เสียงอื้ออึงของผู้คนในบริเวณนั้นก็เบาบางลง ภาพของบ้านเรือนที่ถูกดินโคลนทำลาย ผู้คนมากมายไม่มีเสื้อผ้า อาหารและยา ทุกครั้งที่ฝนตกลงมาก็ได้แต่นั่งรอเวลาอย่างสิ้นหวัง เด็กๆ ที่ตัวเปียกโชกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้านั่งกอดกันที่หน้ากองไฟเพื่อความอบอุ่น ในชามข้าวมีเพียงข้าวต้มใสๆ คนสูงวัยยืนน้ำตาคลอเบ้า มองบ้านที่ถูกดินโคลนทำลายไปเสียครึ่งหลัง ภาพเหล่านั้นทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในลำคอ รวมทั้งรวินท์ด้วย

เมื่อฉายจบในส่วนของเรื่องเล่าบนดอย ก็เป็นการโฆษณาและบอกเล่ารายละเอียดของงานไนต์ การแสดงบนเวทีและสินค้าจากสปอนเซอร์ที่จะนำมาขายทั้งหลาย

แน่นอนว่าต้องเปิดเพลงดอกไม้จะบานคลอไปด้วย

“ตั๋วเข้างานใบละสามสิบบาท วันนี้ซื้อได้ที่โต๊ะข้างเวทีทางนั้นนะคะ ส่วนวันอื่นๆ มาซื้อได้ที่ใต้ตึกคณะวิศวะด้านหน้าสุดค่ะ เงินกำไรทั้งหมดจะนำไปซื้อเสื้อผ้า อาหารและยาให้กับน้องๆ และครอบครัวบนดอยของเราค่ะ”

“เอาล่ะ กลับมาที่พี่หมอของเรากันครับ อาทิตย์หน้าเจอกันนะครับพี่ วันนี้ขอบคุณมากครับ”

รวินท์ยิ้มบาง ถ้าหากเขาปฏิเสธก็คงเป็นคนโคตรใจร้าย เขาหันไปมองภูพิงค์ซึ่งก็กำลังมองมาทางเขาเช่นกัน ก่อนจะพยักหน้า “ครับ แล้วเจอกัน”

พอหลุดจากเวทีออกมาได้ เด็กหนุ่มก็รีบขอโทษขอโพยอีกฝ่ายเป็นการใหญ่ “พี่วิน ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเตี๊ยมอะไรกันไว้ ขอโทษนะครับ”

“เออๆ ไม่เป็นไรหรอกน่ะ ผมแค่ตกใจนิดหน่อย”

“แล้ว... อาทิตย์หน้า...”

“ก็สัญญาว่าจะมาแล้วนี่”

“คือผมยังไม่รู้เลยว่าต้องเป็นพิธีกรด้วย ไอ้พวกนั้นมันพูดเองเออเองชัดๆ”

“เอาเถอะ มันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไร”

“ผมขอโทษจริงๆ นะพี่”

“ไม่ต้องขอโทษแล้ว ไปเหอะ พาผมกลับคลินิกก่อน เดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน” รวินท์เดินนำไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่

“งั้นเดี๋ยวตอนเย็นผมมารับพี่ไปกินข้าวนะ ถือว่าผมขอโทษก็แล้วกัน”

“ดีๆ ทั้งเย็นวันนี้แล้วก็พรุ่งนี้ด้วยนะเว้ย”

“คร้าบ~ เอาให้คุ้มเลยคร้าบเพ่~”

ในระหว่างที่ยืนเถียงกันอยู่ในลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ก็มีสาวๆ กลุ่มใหญ่ก้าวเข้ามาหา พร้อมกับนำขนมและของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ติดมือมาด้วย พวกเธอเรียกทันตแพทย์หนุ่มด้วยเสียงสอง แบบที่เรียกว่าบีบให้แบ๊วกันสุดๆ “พี่วินค้า รับขนมหน่อยน้า”

เจ้าของชื่อเรียกหันไปมอง ใจหนึ่งที่เห็นแก่กินก็อยากจะรับให้หมด แต่อีกใจ อยู่ต่อหน้าพิงค์แบบนี้ เดี๋ยวเขาจะโดนมองว่าใจง่ายขี้อ่อยอีก

ส่วนภูพิงค์ก้าวขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปสตาร์ตรถรอแล้ว เขากะว่าถ้าคราวนี้รวินท์โดนรุมเพราะความขี้อ่อย เขาจะปล่อยอีกฝ่ายทิ้งไว้ตรงนี้นี่แหละ

รวินท์หันมองซ้ายขวา ก่อนจะบอกกับสาวๆ ที่มารอ “ขอโทษนะ ผมรับของใครไม่ได้หรอก เขาไม่ชอบ” แล้วชี้ไปที่เด็กหนุ่มบนมอเตอร์ไซค์เสร็จสรรพ เรียกเสียงหวีดร้องดังแว่วมาเป็นระลอกๆ

“ว้าย พี่พิงค์ขี้หวงอ้ะ หวงมากก็เอาไปกินด้วยกันสิค้า~”

“ขอบคุณทุกคนมากนะครับ แต่ผมต้องขอโทษจริงๆ คราวหน้ามาเจอกันเฉยๆ ก็พอนะ เสาร์หน้าทุกคนจะมาอยู่แล้วใช่มั้ย”

“ค่า~” สาวๆ ตอบรับอย่างพร้อมเพรียง แล้วพวกเธอก็หวีดร้องอีกครั้งเมื่อรวินท์ขึ้นนั่งซ้อนท้ายเด็กหนุ่ม หวีดครางหงุงหงิงกันจนกระทั่งสองหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปลับสายตา


*TBC*

/เปิดเพลงดอกไม้จะบานกล่อมทุกคน

พี่วินดูท่าจะหนีไปไม่พ้นคณะวิดวะแร้ววววว สงสัยต้องได้แฟนคณะนี้แหงๆ

บอกเลยว่าตอนงานไนท์ฟินแน่ๆ รอติดตามกันนะค้า

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่า รักน้า เยิฟๆ  :mew1:


ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ขายของเก่งต้องพี่หมอช่ะม่ะ  อ่อยยยยยยย    ดีต่อใจ จังค่าพี่วินนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คนพี่ก็เริ่มคิดแล้วว้อยยย วิ่งไปจุดพลุแปบ 555555 รอฉากฟินๆ ค้าบบบบบ ~  :hao7:

ออฟไลน์ baibuabuaz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักกกกกกก รอนะค้า
ปล. อยากให้พี่วินแทนตัวเองว่าพี่กับพิงค์ :o8:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
แหมะ น้องพิงค์ดูแลพี่วินดีขนาดนี้  :-[

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่วินอ่อยแบบไม่รู้ตัวเลยยย พ่อหนุ่มไร่อ้อย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
น้องพิงค์ดูแลพี่วินดีๆ นะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เราว๊าปปปปไปงานไนท์เลยได้ไหม
เราพร้อมฟินแล้ววววววววว

 :L2: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ฮรืออ น่ารักก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ตั้งแต่พี่วินมาเจอน้องภูได้ทำบุญเยอะน่าดู ดีแล้วถือซะว่าทำบุญร่วมชาติเหลือตักบาตรร่วมขันนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
พี่วินแคร์ความรู้สึกของน้องพิงค์ล่ะสิ แหมๆๆๆๆๆๆ :haun5:
มีทิ้งระเบิดปิดท้ายด้วยการโบ้ยว่า "เขาไม่ชอบ" เขินวุ้ยยยยย

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยยย ทำไมดูหวานกันจังงง ระทวยไปหมดแล้วว

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คู่นี้น่ารักอ่ะ  :L2:

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โธ่~~~พี่หมอ อยากกินก็อยากกิน แต่กลัวน้องไม่พอใจมากกว่าาา ~~~~~ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
งื้อออออออออออ
อะไรคือรับขนมไม่ได้ เค้าไม่ชอบคะคุณหมอ
โอยยยยยย ทำอย่างกับรับขนมสาวๆแล้วแฟนหึงอย่างงั้นล่ะ
 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่ารักทั้งคู่เลยค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :sad4: รอจนถึงงานไนต์ไม่ไหวแล้ววววว  :hao5:

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ๊ายยยยยยยย ไร่อ้อยกระจาย  :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ hereg407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อะไรคือ เขาไม่ชอบ ล่ะพี่หมอออ หวีดดดมากค่ะพี่!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด