ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 612270 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เล่นอย่างนี้ใจบ่ดีเลย รู้สึกเหมือนจะเป็นโรคหัวใจ เต้นแรงยังกะแผ่นดินไหว เขิลแทน ฟินนนน~~ :-[ แล้วเพลงนี่มันเรียลมากจะบอกอะไรพี่วินป่าวจ๊ะน้องพิงค์

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ใจบ่าดีเจ้า

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ขี้อ่อยทั้งคู่แหละ
 ระวังจะติดใจแก้มหอมๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น้ออออออ ทำไมทำกันแบบนี้ ดีดดิ้นมาก

ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าใครออกตัวแรง
เหมือนกลัวเสียแต้มกันเลยนะ

ละเมอหากันบ้างไหมล่ะ ตอนนอน


ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
ทำไมรัศมีพี่วินมาเคะล่าาาา :katai3:

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องงงงงง

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องพิงค์ รีบไปทวงก่อนเที่ยงคืนเลย เร็วววว   :ling1:
พี่หมอ อยากให้น้องพิงค์คนเดียวที่ร้องเพลงนี้ใส่ หมายความว่าไงคะ
อยากให้น้องจีบก็ไม่พูดตรง ๆ นะ แหมมมมมม   :-[
ตอนนี้พี่วิน เหมือนเคะน้อยมาก ๆ อ่ะ นี่เชียร์น้องพิงค์เป็นเคะมาตลอด 555
แต่ไม่เป็นไร ใครจะเคะจะเมะ ก็รับได้ทั้งนั้น  ยังไงก็รักทั้งคู่อยู่ดี > <

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
วรั้ยยยยย อ่อยทำไมอ่ะพี่หมอ   :-[

ออฟไลน์ มะฮอกกานี

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต่างคนต่างอ่อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่อยยยย

ออฟไลน์ PupleBetterfly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew3: น่ารักอ่ะ รีบมาต่อนะคะ :bye2:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 20 : ความระแวง


งานไนต์จบไปไม่นาน งานใหม่ก็จ่อคิวมารอเรียบร้อยแล้ว

วันนี้ภูพิงค์มีนัดกับอาจารย์ ประธานรุ่นแต่ละรุ่น ตัวแทนจากทุกภาคและไอ้พวกสโมฯ เพื่อประชุมเรื่องขบวนแห่กระทงใหญ่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่จะส่งเข้าร่วมในงานประเพณียี่เป็งของจังหวัด งานนี้เขามีส่วนรับผิดชอบจึงอู้หรือโอดครวญไม่ได้ หลังกินมื้อเที่ยงเสร็จ เด็กหนุ่มจึงต้องควงกันไปเข้าประชุมพร้อมกับไอ้ซันเพื่อนรัก

งานนี้เป็นงานใหญ่พอควร ดังนั้นจำนวนคนที่เข้าประชุมจึงเยอะไปด้วย พวกเขาจึงนัดไปประชุมกันในห้องประชุมใหญ่ของคณะ
อาจารย์และนายกสโมสรนักศึกษากล่าวเปิดประชุมกันอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็พูดถึงแบบขบวนที่พวกรุ่นพี่รุ่นน้องได้ร่วมกันออกแบบไว้เรียบร้อย บรรยายไปพร้อมกับฉายแบบร่างขึ้นจอใหญ่

“ขบวนของเราแบ่งออกเป็นสามท่อน ท่อนแรกถือตุงถือป้ายนำ ท่อนที่สองเป็นการแสดงพื้นบ้าน ส่วนกระทงใหญ่อยู่ท่อนสุดท้ายเพื่อปิดท้ายขบวน”

“ส่วนเรื่องการแสดงปีนี้ต้องหรูหน่อย เพราะคณะเราครบรอบสี่สิบเก้าปี”

ภูพิงค์เบือนหน้าหนีอย่างเซ็งๆ ได้ข่าวว่าปีที่แล้วอาจารย์ก็พูดไดอะล็อกเดียวกันเป๊ะ เปลี่ยนตัวเลขครบรอบเท่านั้นนั่นล่ะ

“จารย์ให้สมาชิกสโมฯ เป็นตัวแทนโหวตว่าจะแสดงอะไร และผลที่ได้ออกมาก็คือ...”

เหล่าสมาชิกสโมฯ ตีมือรัวลงบนโต๊ะพร้อมทำเสียงซาวด์เอฟเฟ็กต์ให้ “แท่นแทนแท้นนนน~”

“การแสดงของเราปีนี้คือการฟ้อนเจิงประกอบตีกลองสะบัดชัย เอ้าทุกคนปรบมือ”

เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้องทั้งที่ไม่รู้ว่าจะปรบมือกันไปทำไม หากสำหรับภูพิงค์นั้น พอได้ยินคำว่าตีกลองสะบัดชัย เขาก็เสียวสันหลังวาบแบบแปลกๆ เนื่องจากตัวเขาเคยเรียนตีกลองสะบัดชัยมาก่อนเมื่อตอนปิดเทอมช่วงอยู่มัธยมต้น บิดามารดาให้เรียนไว้พอให้ได้ฟิลไว้อวดเพื่อนบ้านได้ว่ามีเชื้อสายทางเหนืออะไรประมาณนั้น เคยไปแสดงงานวันเด็กมาแล้วด้วย ไอ้เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากเพื่อนในกลุ่ม แต่เพราะในกลุ่มเขามีไอ้ซัน...

เขาอาจจะคิดมากไปเอง แต่ก็ไม่แน่... “ผมถามนิด ไอ้ที่โหวตมาได้เนี่ย ไอเดียใครครับ”

นายกสโมฯ ตอบอย่างฉะฉาน “ไอ้ต่าย ตากล้องประจำสโมฯ กับไอ้ซันของเราน่ะสิครับ” ต่ายหันไปทางรุ่นน้องแล้วขยิบตา ให้

ส่วนไอ้ซันน่ะเหรอ มันยิ้มกว้างแล้วก็ยกนิ้วโป้งให้เขาด้วย

เด็กหนุ่มแทบหงายหลัง ดูรอยยิ้มนั่น! ไม่ต้องรอฟังดีเทล เขาก็รับรู้ได้ว่า...


กูไม่รอดแน่แล้ว!


ไอ้พี่ต่ายกับไอ้ห่าซันมันไปแค้นเคืองกูมาแต่ชาติปางไหนวะ ชาติที่แล้วกูไปบังคับให้พวกมันขืนใจกันเองเหรอ!

“นักศึกษาหญิงสิบคนที่จะฟ้อนเจิงเริ่มซ้อมท่ากันแล้ว ส่วนทีมตีกลองสะบัดชัย เราจะใช้นักแสดงของพ่อครูบางส่วน ปะปนกับนักศึกษาของเรา ซึ่งก็คัดเลือกไว้เรียบร้อย”

เฮ้ย! หรือจะรอดเว้ย!

“แต่คนตีกลองต้องเป็นของคณะเรา”

อ้าว ไม่รอด!

แล้วทุกสายตาของสมาชิกสโมฯ ก็พุ่งตรงไปที่เด็กหนุ่ม ถ้าเปิดสปอตไลต์ส่องลงมาได้พวกเขาก็คงทำไปแล้ว

“พิงค์ เริ่มซ้อมตั้งแต่เย็นนี้เลยนะ เดี๋ยวจะมีพ่อครูมาช่วยฝึกซ้อมให้”

“ผมอีกแล้วเรอะ!” เด็กหนุ่มลุกขึ้นประท้วง “ผมรับงานกิจกรรมคณะแทบจะทุกงานแล้วนะ ให้ผมทำอย่างอื่นบ้างเซ่!”

“พิงค์เอ๊ย เราน่ะ หน้าตาดี เรียนดี กิจกรรมเด่น เป็นตัวอย่างที่ดีของรุ่นน้องนะ จะหาใครเด่นเหมือนเราน่ะไม่มีอีกแล้ว” อาจารย์ปลอบผสมกล่อมในรวดเดียว “แล้วอีกอย่าง ตีกลองสะบัดชัยคิดว่าจะหาคนตีได้ง่ายๆ เรอะ หาดูก็ยากด้วย จารย์เชื่อว่าเราทำได้ และมันต้องเป็นการแสดงที่เท่สุดๆ ไปเลย”

“อีกอย่างมึงเคยเรียน มีครูแล้ว ฝึกซ้อมอีกนิดหน่อยก็สบาย” ซันพูดแจม

นายกสโมฯ พยักหน้าหงึกหงัก “ใช่แล้ว นักแสดงคนอื่นที่ร่วมตีฆ้องกับฉาบ และฟ้อนเจิงจะอยู่ข้างล่างทั้งหมด บนเวทีรถจะมีน้องพิงค์สุดหล่อกับกลองแล้วก็คนถือกลองเท่านั้น”

โอ้โห ปลื้มฉิบหาย!

“เอาล่ะ เดี๋ยวแยกย้ายไปตามหน้าที่ที่แบ่งไว้เลยนะ ใครดูแลการแสดง ใครดูแลกระทงใหญ่ เสื้อผ้า คุยกันแบ่งงานกันให้เรียบร้อยล่ะ”

ซันเดินมาเกาะแขนเพื่อนรักแล้วทำท่าระริกระรี้ “มึง~ ต้องเท่มากแน่ๆ สาวตรึมๆ”

ภูพิงค์ตบกบาลอีกฝ่ายไปที “มึงจะหาเรื่องให้กูเหนื่อยทำไมนักวะเนี่ย!”

“เอ๊า! ไม่อยากเท่อ่อ”

“ไม่เว้ย!”

“จะได้เรียกเรตติ้งไงมึง”

“เอาไปแลกข้าวแดกได้เหรอวะสัส”

“แต่พี่หมอเห็นต้องทึ่งแหงๆ อะ ปลื้มแบบไม่มีวันลืมเลยนะมึง มึงนึกหน้าพี่หมอตอนเห็นมึงตีกลองสะบัดชัยดิ!”

ภูพิงค์ชะงัก “ไอ้... ไอ้เหี้ย~ พี่วินเกี่ยวไรด้วย” ทว่าดันเถียงกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงยวบๆ ใจหนึ่งก็อยากโชว์ของดีที่บิดามารดาอุตส่าห์เสียเงินส่งไปเรียนกับพ่อครูชื่อดัง แต่อีกใจ... ก็เขินว่ะ ไอ้พี่วินเห็นแล้วจะพูดว่าอะไรบ้างวะเนี่ย

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นลูบท้ายทอย พยายามหาคำตอบให้ตัวเองอย่างงงๆ

พอนึกถึงหน้าตาตื่นเต้นของพี่วินพร้อมกับคำชื่นชมตัวเขาว่าเท่แล้วก็หน้าแดง มโนเองเขินเองเสียอย่างนั้น

แต่เดี๋ยวก่อน! แล้วสรุปว่า...ไอ้พี่วินเกี่ยวอะไรด้วยวะ!

ขณะที่ภูพิงค์มัวแต่มึงงงอยู่กับความคิดของตัวเอง ซันก็ถือโอกาสนั้นสั่งงานซะเลย “เดี๋ยวบ่ายเขาจะขนกลองมาไว้ที่ห้องประชุมแล้ว มึงก็เตรียมตัวคุยกับพ่อครูด้วยนะเว้ย ไม่ต้องกลัวเหงา ในทีมมีคนเพียบ อย่าลืมนัดวันไหว้ครูกันด้วย”

“เอ้า ไอ้สัส! โยนหน้าที่ให้กูหมดเลย” เด็กหนุ่มจำใจต้องยอมรับหน้าที่ไปอย่างอ่อนใจ บอกกับตัวเองว่าก็ในเมื่อทั้งคณะพร้อมใจกันโยนหน้าที่นี้ให้เขาแล้วนี่ ไม่ได้เกี่ยวกับไอ้พี่วินเลยจริงจริ๊ง~

..

...

..

ในช่วงพักกลางวัน หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ รวินท์ก็มานั่งพักในห้องพักทันตแพทย์รอเวลาเริ่มงานเช่นเคย เขาหันมองไปรอบๆ ห้องอย่างงงๆ เพราะเพื่อนสนิทที่เดินตามหลังกันมาดีๆ จู่ๆ ก็เสือกหายหัวไป คนอื่นๆ ก็ยังไม่มา เหลือเขาอยู่คนเดียวในห้องพักแพทย์เสียอย่างนั้น

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ชายหนุ่มจึงหันขวับไปที่บานประตู ทว่าคนที่เปิดเข้ามาไม่ใช่เตชิต

“วิน เสาร์อาทิตย์นี้คลินิกปิดว่ะ แอร์เสียต้องติดตั้งใหม่ แล้วก็จะทำความสะอาดครั้งใหญ่ด้วยน่ะ” สิงหาพูดพลางเดินไปนั่งลงที่่โต๊ะของตน “นานๆ จะได้ว่างวันเสาร์อาทิตย์ ไปเที่ยวสิ”

“โห นี่มันวันศุกร์แล้วนะพี่ ผมจะวางแผนไปไหนทัน ไม่บอกซะพรุ่งนี้เช้าเลยล่ะ

“โทษทีว่ะ มันฉุกละหุกไปหน่อย แอร์เสียเมื่อวาน ช่างมาดูเมื่อเช้าแล้วบอกว่าต้องเปลี่ยนใหม่ วันนี้คลินิกก็ต้องปิด อาจจะยาวถึงวันจันทร์ด้วยน่ะ”

“ครับ” รวินท์พยักหน้าอย่างเข้าใจ “แล้วพี่จะไปไหน”

“พี่ว่าจะลงไปกรุงเทพฯ ไปด้วยกันมั้ยล่ะ ยังไงไอ้เต้ก็ต้องไปอยู่แล้วนี่”

คนอ่อนวัยกว่าถอนหายใจ เขาขมวดคิ้วแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในห้องพักแพทย์ “ไม่อะพี่ ขี้เกียจ” จากนั้นก็ชะเง้อมองไปที่ประตูห้อง “ไอ้เต้ไปไหนของมันวะเนี่ย”

“เห็นมันยืนคุยโทรศัพท์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงทางหนีไฟน่ะ”

“โห หายหัวไปตั้งนาน ไปคุยโทรศัพท์นี่เอง” ทันตแพทย์หนุ่มหันไปมองนาฬิกา ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป “งั้นเดี๋ยวผมมานะพี่”

“อือ บอกไอ้เต้คุยเร็วๆ ใกล้เริ่มงานแล้ว”

รวินท์เดินหน้ามุ่ยไปตามทางเดิน คลินิกปิด เขาก็ว่างน่ะสิ ไม่ได้มีเวลาว่างแบบนี้มาสักพักใหญ่แล้ว เขาจะทำอะไรดีล่ะ จะไปเชียงใหม่ดีไหม แต่ไม่รู้ห้องข้างบนจะนอนได้หรือเปล่า หรืออาจจะต้องระเห็จไปนอนโรงแรม

แล้วทำไมต้องไปเชียงใหม่วะ?

เมื่อไปถึงบันไดหนีไฟ ตอนแรกกะว่าจะเคาะเรียกให้เตชิตออกมา แต่คิดดูอีกที เขาไม่รู้ว่ามันอยู่ข้างในแน่หรือเปล่า อาจจะออกไปแล้วก็ได้ เขาจึงลองแง้มประตูดู

“ขวัญจะเอาอะไรก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวผมรีบจัดการไว้ให้ก่อน”

คำพูดที่ได้ยินเป็นผลให้มือที่จับลูกบิดหยุดกึก เสียงที่ได้ยินเป็นของเตชิตแน่นอน แต่มันกำลังคุยกับใคร? ทำไมมีชื่อขวัญ? รวินท์ยืนนิ่งค้างเป็นก้อนหิน เขากลืนน้ำลายฝืดลงคอ

“ได้ๆ เสาร์เช้านะ พ่อกับไอ้เตยก็บอกอยากเจอเหมือนกัน ผมต้องพาแม่ไปวัดก่อนอะ แต่จะรีบกลับมา”

“อืม วินไม่รู้หรอก มันสบายดี ไม่ต้องห่วง มันก็เหมือนเดิมแหละ อ่อยไปทั่ว” เตชิตพูดกลั้วหัวเราะ “เสาร์อาทิตย์มันไปเชียงใหม่ ต้องทำคลินิกแทนผมด้วย”

“โอเค ถ้ามาเร็วแล้วไม่เจอผมก็บอกพยาบาลนะ ผมจะสั่งไว้ว่าให้พาคุณขวัญข้าวเข้ามาพบพ่อก่อน”

ชัดเลย! ไอ้เต้คุยกับขวัญ! เขาไม่สามารถติดต่อขวัญได้ แต่ไอ้เต้ติดต่อได้อย่างนั้นเหรอ? ไหนมันว่ามันถูกบล็อกโทรศัพท์ไปแล้วไงวะ!

ไอ้เต้โกหกเขา

เพื่อนที่ไว้ใจกัน คบหากันมานาน กับผู้หญิงที่เขาเคยรัก พวกเขานัดพบกัน พูดคุยกันลับหลังเขา

ทำไม? เพื่ออะไร?

ทันตแพทย์หนุ่มอ้าปากค้าง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก หัวใจหนักอึ้งแบบแปลกๆ เขาคิดว่าตัวเองทำใจเรื่องขวัญข้าวได้แล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของขวัญข้าวน่ะสิ

“อือๆ แล้วเจอกัน”

พอได้ยินอีกฝ่ายบอกลากับคนในสาย รวินท์ก็รีบถอยไปหลบในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนเพื่อตั้งหลัก เขายืนงงอย่างไม่เข้าใจอยู่สักพักใหญ่ๆ จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือในมือดังขึ้น และเตชิตเป็นคนโทรศัพท์มาหาเขา

ทันตแพทย์หนุ่มก้มลงมองโทรศัพท์ หากไม่กดรับสาย “....”

บานประตูห้องน้ำเปิดออกผาง ก่อนเตชิตจะชะโงกหน้าเข้ามา “อยู่นี่เอง ไอ้วิน คนไข้มารอแล้วเว้ย”

“อะ เออ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” รวินท์เดินตามอีกฝ่ายออกไป ในศีรษะเต็มไปด้วยคำถามมากมายเสียจนไม่รู้จะเริ่มต้นถามอย่างไรดี แต่ถึงอย่างไรก็คงพูดอะไรตอนนี้ไม่ได้ เขาต้องเก็บความข้องใจเหล่านั้นไว้ภายใน แล้วกลับไปทำหน้าที่ของตนก่อน

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ขณะที่รวินท์กับเตชิตกำลังถอดเสื้อกาวน์ หมวกคลุมศีรษะกับผ้าปิดจมูก สิงหาก็เดินเข้ามาหา

“ว่าไงวะวิน จะกลับกรุงเทพฯ กับไอ้เต้รึเปล่า”

เตชิตเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พลางหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้างกัน “อ้าว ไม่ทำคลินิกเหรอมึง”

“เสาร์อาทิตย์นี้คลินิกปิด” รวินท์ตอบเสียงเรียบ เขาอ้ำอึ้ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วจึงพูดขึ้น “กลับกรุงเทพฯ กับมึงก็น่าจะดี จะได้ไปเยี่ยมพ่อมึงกับเตยด้วย”

“เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ค่อยสะดวกว่ะ กูต้องพาแม่ไปธุระหลายที่ แล้วพ่อก็มีแขกด้วย”

“กูไปเยี่ยมเตยก่อนก็ได้”

“มันนัดเพื่อนมาติวหนังสือ เอาไว้คราวหน้าเหอะมึง รอวันหยุดหลายวันหน่อยค่อยกลับพร้อมกันดีกว่า”

รวินท์จ้องตาเพื่อนรักนิ่ง “มึงไม่อยากให้กูไปด้วยเหรอ”

เตชิตยกแขนขึ้นโอบไหล่อีกฝ่าย “โธ่ อยากสิวะ แต่มึงทำงานเหนื่อยๆ ทำคลินิกแทนกูมาหลายอาทิตย์ มีโอกาสได้พักแค่สองวันก็พักบ้างเหอะว่ะ ถ้ากลัวว่าจะเหงาเดี๋ยวกูโทรหา”

“หวังดีจังว่ะมึงนี่” รวินท์แค่นหัวเราะ ถ้ามันหวังดีกับเขาจริงอย่างที่พูดก็คงดี เขารู้สึกเจ็บหน่วงในอกอีกแล้ว “กูอยู่คนเดียวได้ มึงไม่ต้องห่วง”

“อยากแดกอะไรก็บอก เดี๋ยวหิ้วมาให้ ถ้ามีอะไรก็โทรมาหากูได้ตลอด”

รวินท์ผลักคนที่โอบไหล่อยู่ออกไปเบาๆ “มึงจะไปสองวันหรือสิบปีวะ”

“หน้าตามึงดูอมทุกข์แปลกๆ มีเรื่องอะไรรึเปล่า”

“เปล่าเว้ย แค่เหนื่อยแหละ เอาเถอะ เสาร์อาทิตย์ได้หยุดก็ดีเหมือนกัน กูจะได้นอนยาวเลย”

เตชิตยิ้ม แล้วลูบศีรษะเพื่อนรักอย่างอ่อนโยน “งั้นกูไปนะ พี่สิงหาจะเอารถไปจอดทิ้งไว้ที่สนามบินพอดี”

นัยน์ตาเรียวจับจ้องคนตรงหน้าเขม็ง เขาไม่เชื่อว่าเตชิตจะคิดร้ายอะไรกับเขาแน่ๆ มันคอยอยู่ใกล้ๆ ดูแลและเป็นเพื่อนเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไร รอยยิ้มของมันเขามั่นใจว่าไม่ได้เสแสร้ง แววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย ถ้าทั้งหมดนั่นเป็นการแสดง มันคงต้องได้ออสการ์สิบตัวซ้อน

แต่ทำไม... เรื่องขวัญข้าว...

ไม่หรอก ไอ้เต้เป็นเพื่อนรักคนเดียวของเขานะเว้ย

“เดินทางดีๆ เว้ย ซื้อชีสเค้กมาฝากด้วยละกัน”

“ได้เลย”

รวินท์เก็บความข้องใจไว้ภายใน เขาโบกมือลาอีกฝ่าย จากนั้นก็รีบรุดกลับไปยังห้องพักโดยไม่สนใจใครๆ ไม่มีการหยุดรับไหว้ ทักทายหรือยิ้มให้ใครเหมือนอย่างเคย หากเมื่อไปถึงหอพัก ระหว่างทางที่เดินไปยังห้องของตนเองก็พบนายแพทย์ที่พักอยู่ห้องข้างๆ กันกำลังรดน้ำต้นไม้ในกระถางข้างหน้าห้อง มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือไว้ เมื่อเห็นเขาเข้าก็วางหูพอดี นายแพทย์เพื่อนบ้านจึงยิ้มรับและทักทาย

“ไงครับคุณวิน กินอะไรมารึยัง”

“ยังครับ...” สายตาเขาเคลื่อนไปหยุดอยู่ที่โทรศัพท์มือถือในมืออีกฝ่าย ทันตแพทย์หนุ่มเม้มปาก ก่อนจะพูดขึ้น “ผมขอยืมมือถือแป๊บนึงได้มั้ยครับ”

“หือ ได้สิครับ” นายแพทย์ส่งให้อย่างงงๆ

“ขอบคุณมากนะครับ” รวินท์รับโทรศัพท์มือถือจากนายแพทย์ข้างห้องมา เขาเดินตรงเข้าไปในห้องแล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดดูเบอร์โทรของขวัญข้าว จากนั้นก็กดเบอร์ลงไปในโทรศัพท์มือถือของนายแพทย์หนุ่ม

ทว่าเมื่อจะกดปุ่มโทรออกไป เขากลับชะงัก... เขาจะโทรไปเพื่ออะไรวะ เขาต้องการจะรู้อะไร ขวัญข้าวกับเขาจบกันไปแล้ว เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ โทรไปแล้วจะได้อะไรอย่างนั้นเหรอ

ส่วนเรื่องไอ้เต้... บางทีมันอาจมีความจำเป็นอะไรก็ได้ ไอ้เต้ไม่มีวันทรยศหักหลังเขาแน่ เพราะมันเป็นเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเขามาตลอดเกือบสิบปี

หากลึกลงไปในหัวใจของรวินท์นึกกลัว

ทันตแพทย์หนุ่มกัดริมฝีปากแน่น เขาตัดสินใจลบเบอร์โทรศัพท์ที่กดไว้ออก เอาโทรศัพท์มือถือไปคืน เสร็จแล้วก็ไปนอนนิ่งเหมือนโดนผีอำอยู่ในห้องนอนของตน

รวินท์นึกย้อนกลับไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่ตกลงคบกับขวัญข้าว ทบทวนช่วงเวลาที่สนิทสนมกับเตชิตไปพร้อมกันด้วย ตลอดเวลาที่มีขวัญข้าว ตัวเขาก็มีเตชิตอยู่ข้างกายเสมอ ในยามที่หญิงสาวห่างเหิน เขาก็ได้เตชิตนี่ล่ะ ที่คอยอยู่เป็นเพื่อน คอยเป็นที่พึ่ง เยียวยาหัวใจ

หากยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บหน่วงๆ ชอบกล

หลังจากนอนตกตะกอนความคิดอยู่พักใหญ่ รวินท์ก็ลุกขึ้นหยิบแล็ปท็อปมากดเปิด เขากดเข้าเฟซบุ๊กไปเพื่อจะดูไทม์ไลน์ของเตชิต หากไปชะงักกับรูปของภูพิงค์ที่ถูกแท็กมาเป็นแผงเสียก่อน

ภาพหอมแก้มบนเวทีเมื่อวันเสาร์ที่แล้วเรียงกันมาแบบช็อตต่อช็อต ทุกมุมกล้องเลยทีเดียว เขาหยุดมองแล้วก็หัวเราะลั่น นึกอยากเห็นหน้าภูพิงค์ตอนที่เห็นรูปพวกนี้ซะจริงๆ

รวินท์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรไปหาเด็กหนุ่มทันที โดยไม่มีการหยุดคิดแม้เพียงนิดเดียว เขาอยากพบอีกฝ่าย อยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง อยากให้เด็กหนุ่มเรียกรอยยิ้มของเขากลับคืนมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่กี่ครั้ง ภูพิงค์ก็รับสาย “ว่าไงพี่วินสุดหล่อ วันนี้มาเปล่าคร้าบ ไปกินไรกันดี”

ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ เขาพูดเสียงเศร้าโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเช่นไร “...วันนี้ไม่ไปเชียงใหม่ เสาร์อาทิตย์นี้คลินิกปิดน่ะ”

“อ้าว งี้ก็อดเจอพี่วินดิ แล้วผมจะกวนตีนใคร”

“.....”

“พี่วิน? เป็นไรวะ ทำไมเงียบๆ แปลกๆ ไม่เถียงผมกลับแบบนี้ไม่คุ้นเลย ตัวปลอมเปล่าวะ”

“พิงค์... มาหาผมหน่อยดิ อยากเจอ”

“ฮะ!?”

รวินท์ขมวดคิ้ว งงกับตัวเองไปอีก เขาพูดอะไรออกไปวะเนี่ย “ล้อเล่นๆ ผมแค่จะโทรมาบอกว่าเสาร์อาทิตย์นี้คงไม่ได้...เจอกัน” ทำไมเขาพูดเสียงอ่อยเหมือนหมดแรง เพราะเหนื่อยใจกับเรื่องที่เจอมาวันนี้งั้นเหรอ

ทันตแพทย์หนุ่มส่ายหน้าไปมา “แค่นี้แหละ” เขารีบบอกกับคนในสายแล้วกดวางสายไปทันที จากนั้นก็เอนหลังลงนอนยกมือปิดหน้า วินาทีหนึ่งก็เศร้า อีกวินาทีหนึ่งก็หัวเราะ เขาคงใกล้บ้าแล้วจริงๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาวะเนี่ย

รวินท์นอนนิ่งไปอีกสักพักก็หลับไปทั้งชุดที่ใส่ทำงานและยังไม่ได้กินมื้อเย็นเลยด้วยซ้ำ


เวลาเกือบสองชั่วโมงผ่านไป ทันตแพทย์หนุ่มยังคงหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในห้องนอนของตน หากจู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงจากโทรศัพท์มือถือ เขาผงกศีรษะขึ้น คิดว่าคงเป็นเตชิตโทรมาจากกรุงเทพฯ เหมือนเคยนั่นล่ะ ทว่าพอหยิบโทรศัพท์มาดูกลับต้องแปลกใจ เขารีบกดรับสายทันที “พิงค์?”

“ลงมาเปิดประตูให้หน่อยดิพี่ ข้างล่างนี่ไม่มีใครอยู่เลยอะ”

“ฮะ? คุณอยู่ไหนวะเนี่ย”

“จะอยู่ไหนได้วะ ก็อยู่หน้าหอพี่นี่ไง”

“เฮ้ย!” รวินท์กระเด้งตัวลุกขึ้นพรวด

“ลงมาเร็วๆ นะ รออยู่”

ทันตแพทย์หนุ่มก้มลงมองโทรศัพท์มือถือในมือ เขายังไม่ทันหายงัวเงียเลย แต่ก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปใส่รองเท้า ลงลิฟต์ไปยังชั้นล่างทั้งที่เส้นผมยุ่งเหยิงเป็นรังนก เมื่อบานประตูลิฟต์เปิดออกก็เห็นเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างหน้าจริงๆ

“พี่นอนอยู่เหรอเนี่ย” ภูพิงค์ทักทันทีที่ทันตแพทย์หนุ่มเปิดประตูข้างหน้าหอพักออก เขารีบก้าวฉับๆ เข้าไปหาอีกฝ่ายพลางยิ้มกว้าง “สกปรกว่ะ นอนทั้งชุดทำงานเลยเนี่ยนะ ดูดิ ปากยังมีคราบน้ำลายเลยอะ”

รวินท์รีบยกมือขึ้นเช็ดปาก แล้วก้มลงมองบนมือตน “ไม่ได้ไหลสักหน่อยเว้ย” เขายืนกะพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าอย่างงุนงง “มาไงวะเนี่ย”

“ขับรถอีแซนดี้มาอะดิ” เด็กหนุ่มสาวเท้าตรงไปยังลิฟต์โดยสารราวกับเป็นคนที่อาศัยอยู่ในหอพักนั้นเสียเอง พออีกฝ่ายเดินตามเข้ามาก็กดปิดลิฟต์ “ทำหน้างงอะไร ก็อยากให้มาไม่ใช่เหรอ”

“ก็ไม่นึกว่าจะมาจริง”

“เสียงพี่ฟังดูแย่ๆ อะ ผมเป็นห่...วง” ภูพิงค์ชะงัก เลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆ เมื่ออีกฝ่ายก้มหน้าลงแล้วเอาศีรษะเข้ามาชนไว้กับอกตน เขายกสองมือขึ้น กรีดนิ้วไปมาเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรดี แต่ที่แน่ๆ ไอ้พี่วินคงไปเจอเรื่องแย่ๆ มา อาการคล้ายคลึงกับวันที่เมาตอนนั้น เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นกลอกตาไปมา ก่อนจะใช้สองมือขยี้เส้นผมทันตแพทย์หนุ่ม “ไม่ได้เจอหน้าผมไม่กี่วันนี่จะตายเลยรึไง ลืมความแบ๊วไม่ลงอะดิ นี่ผมอุตส่าห์โกนหนวดก่อนออกมาเลยนะ แก้มเนียนเหมือนตูดเด็กเลยเนี่ย เผื่อว่าพี่อยากจะหอมอีกรอบ”

รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับผลักเด็กหนุ่มออก “ไม่อยากเว้ย” พอดีกับที่ประตูลิฟต์โดยสารเปิดออก เขาจึงเดินนำออกไป เมื่อถึงห้องก็เปิดประตูออกให้คนที่เดินตามมาเข้าไปก่อน

“อะไรเนี่ย ออกจากห้องประตูก็ไม่ล็อกอะ สะเพร่านะพี่นะ แก่จนหมาเขย่งยังเลียตูดไม่ถึงแล้วป่ะวะ” เด็กหนุ่มโวยวาย

“ก็รีบลงไปสอยคุณขึ้นมานี่ไง แล้วกินไรมายัง”

“กินมาแล้วนิดหน่อย พี่ล่ะ”

“ยังอ่ะ หิวด้วย”

“อยากกินไรอ่ะ ในห้องมีไรกินมั้ยเนี่ย” ภูพิงค์พูดพลางเดินไปเปิดตู้เย็นดู “โห ถุงอะไรเนี่ย เต็มไปหมดเลย”

“หมูยออ่ะ มีคนให้มา”

เด็กหนุ่มก้มๆ เงยๆ แล้วเดินเข้าไปเปิดดูหม้อหุงข้าวในครัว จากนั้นก็เดินกลับมาหยิบไข่กับหมูยอจากในตู้เย็น “เดี๋ยวผมทำข้าวผัดให้กิน โอเคมะ”

“อือ” รวินท์ยิ้มกว้าง เขาเดินไปยืนข้างคนอ่อนวัยกว่าเพื่อที่จะได้ดูวิธีทำข้าวผัดไปด้วย ภูพิงค์ทำกับข้าวได้คล่องแคล่ว หยิบหมูยอมาแกะหั่นอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียวทุกอย่างก็ลงไปผสมรวมกันอยู่ในกระทะแล้ว “พิงค์นี่น่ารักจริงๆ เลยน้า”

เด็กหนุ่มที่กำลังใช้ช้อนตักข้าวผัดขึ้นชิมหันขวับไปทางคนชม แล้วเปลี่ยนเป็นเป่าข้าวในช้อนใส่อีกฝ่ายแทน

“เว้ย~ เลอะเทอะหมด”

“โทษทีพี่ ตกใจที่โดนชมเลยเผลอเป่าแรงไปนิด”

“จงใจชัดๆ อย่ามาตอแหล”

ภูพิงค์หัวเราะ เขาตักข้าวผัดในกระทะขึ้นมาใหม่ เป่าเบาๆ แล้วเอาไปจ่อปากคนที่ยืนข้างกัน “เอ้า ชิม”

ทันตแพทย์หนุ่มอ้าปากรับ เคี้ยวหยุบหยับพร้อมพยักหน้า “อือ อร่อยแล้ว แต่ผมกินคนเดียวหมดกระทะนี่ไม่ไหวหรอกนะเว้ย”

“เดี๋ยวผมกินเป็นเพื่อน”

สองหนุ่มนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ต่างคนต่างจัดการอาหารในจานตนไปอย่างเงียบๆ ในช่วงแรก เมื่อเริ่มอิ่มท้องสปีดในการกินก็ลดลง รวินท์เริ่มเขี่ยข้าวในจานไปมาเหมือนเด็กๆ

“อิ่มแล้วก็หยุด ไม่ต้องยัดลงไปหมดจานก็ได้พี่”

“ยังกินไหวอยู่ ว่าแต่คุณเห็นรูปวันงานไนต์ในเฟซรึยัง”

“ที่ผมกับพี่หอมแก้มกันอะเหรอ พี่เพิ่งเห็นรึไง ผมโดนแท็กรูปตั้งแต่คืนวันนั้นจนถึงตอนนี้เขายังไม่เลิกแท็กกันเลย”

“โห ท่าจะรูปเยอะ ผมเพิ่งเข้าไปดูน่ะ”

“เห็นสโมฯ ว่าได้เงินมาหลายแสน ซื้อของส่งไปส่วนนึงแล้ว อาทิตย์หน้าจะส่งไปอีกรอบ”

“อืม ดีๆ”

“อิ่มบุญมั้ยล่ะพี่”

รวินท์หลุบตาลงต่ำ คิ้วย่นเข้าหากันเล็กน้อย “สงสัยผมคงทำกรรมไว้เยอะว่ะ ที่ทำบุญไปคงยังไม่พอ”

คนอ่อนวัยกว่ายกมือขึ้นขยี้เส้นผมคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน “ไม่เศร้านะ โอ๋ๆ เดี๋ยวถ้ามีงานบุญอีก ผมจะรีบเรียกใช้บริการพี่ เอาให้อิ่มบุญท้องแตกตายห่าไปเล้ย”

ปากไอ้เด็กนี่แม่ง! ทันตแพทย์หนุ่มจับมือคนอ่อนวัยกว่าลงมา เขาอมยิ้มมุมปากเล็กน้อย ไม่ได้ถืออะไรที่ถูกเด็กเล่นหัว ออกจะขำกับความพยายามที่จะปลอบใจเขาของเด็กหนุ่มเสียมากกว่า ก่อนจะหยุดมองมืออีกฝ่ายที่เขากุมไว้ “พิงค์ ไปเที่ยวกันเหอะ”

“ฮะ?”

“เสาร์อาทิตย์นี้ว่างมั้ย”

ภูพิงค์อ้ำอึ้ง... ที่จริงควรจะมีซ้อมการแสดงในงานยี่เป็ง ทว่าพ่อครูไม่ว่าง เลยได้งด เขาเห็นเพื่อนๆ นัดกันไปซ้อมตีโหม่งตีฆ้องอยู่นะ แต่ไม่มีใครมาชวนเขาไปด้วยนี่หว่า อีกอย่างตอนนี้ก็ยังไม่ได้ซ้อมร่วมกัน ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเรียกว่าว่าง “เอ่อ ก็ว่างอยู่”

“พาผมเที่ยวหน่อยดิ ไปไหนก็ได้” รวินท์กระตุกมือเด็กหนุ่มเบาๆ “ไปที่วิวสวยๆ คลายเครียดไง สอบมิดเทอมมาคุณก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนไม่ใช่เหรอ”

“ไปกันสองคนเหรอ”

“อือ หรือคุณจะชวนเพื่อนคุณมาด้วยมั้ยล่ะ”

ภูพิงค์ขมวดคิ้ว พวกเพื่อนเขาน่าจะไปทำกระทงใหญ่กัน และถ้าเขาไปชวน พวกมันก็คงไม่ยอมให้เขาไปเที่ยวกับพี่วิน แล้วจับเขาไปช่วยทำกระทงใหญ่หรือฝึกซ้อมตีกลองแทน เด็กหนุ่มคิดหาเหตุผลที่จะไม่ชวนคนอื่นไปให้ตัวเองอยู่สักพักจึงพูดขึ้น “ไปเที่ยวดอยกันมั้ย”

“ดอยสุเทพไม่เอานะเว้ย ไปหลายรอบแล้ว”

“งั้นไปดอยอินทนนท์มั้ยล่ะ พี่เคยไปยัง”

รวินท์ส่ายหน้า “ยัง ไปดอยอินทนนท์ก็ได้”

“อยากค้างคืนมั้ย แต่ฉุกละหุกแบบนี้ ไม่รู้จะมีบ้านพักหรือเปล่า อาจจะต้องนอนเต็นท์นะพี่”

“ค้างสิ นอนบ้านหรือเต็นท์ก็ได้ทั้งนั้น ถนนขึ้นดอยมันไม่ลำบากใช่มั้ยอ่ะ”

“ผมว่ารถพี่ไม่น่ามีปัญหานะ นอกจากแคบไปหน่อยเท่านั้นล่ะ หรือจะให้ผมยืมรถอีซินดี้ไปก็ได้ เดี๋ยวโทรไปถามมันให้”

“ไม่เป็นไร เอารถผมไปนั่นแหละ ผมขับเองถนัดสุด คุณก็คอยช่วยดูทาง แล้วนี่คุณเอาเสื้อผ้ามามั้ยเนี่ย”

“ผมมาแต่ตัวอะดิ ตอนรับโทรศัพท์พี่นั่งอยู่กับอีซินดี้พอดี ผมจะขี่มอไซค์มา แต่มันบอกให้ขับรถมันมาดีกว่า”

รวินท์ยิ้มมุมปาก “โห เป็นห่วงผมมากเลยอะดิ รีบออกมาแบบไม่ทันหยิบอะไรมาเลย”

“อื้อ กลัวพี่ทนคิดถึงผมไม่ไหวไง เดี๋ยวลงแดงซะก่อน ผมยังต้องเก็บหน้าพี่ไว้ใช้อีกหลายงาน”

ทันตแพทย์หนุ่มยกขาถีบเก้าอี้ที่คนอ่อนวัยกว่านั่งอยู่ไปหนึ่งที “งั้นเดี๋ยวใส่เสื้อผมละกัน ส่วนกางเกงในเดี๋ยวออกไปซื้อกัน เราจะได้ไปซื้อขนมไว้กินตอนเที่ยวด้วย”


(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


พวกเขาตกลงกันว่าจะออกเดินทางเช้าตรู่วันเสาร์ กลับเย็นวันอาทิตย์ และค้างที่บนดอยหนึ่งคืน เมื่อสรุปได้ รวินท์ก็พาเด็กหนุ่มขับรถออกไปบิ๊กซี ไปเลือกซื้อกางเกงในให้เด็กหนุ่มใส่ชั่วคราว เสร็จแล้วก็ซื้อขนมกับน้ำดื่มน้ำอัดลมใส่หลังรถไว้

คืนนั้น หลังกลับจากซื้อของ สองหนุ่มก็ผลัดกันไปอาบน้ำ เก็บกระเป๋าและมานอนบนเตียงเคียงข้างกัน ภายในห้องนอนปิดไฟมืดสนิทแล้ว หากดวงตาของทันตแพทย์หนุ่มยังคงลืมอยู่ เขารู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อตอนเย็นมาก พอมีภูพิงค์มาอยู่ใกล้ๆ ก็ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องที่เป็นกังวลอยู่ไปเสียหมด เขาชำเลืองมองเด็กหนุ่มเป็นระยะๆ

“หาโอกาสแต๊ะอั๋งผมอยู่รึไง ไม่หลับไม่นอนสักทีอะ”

“มีส่วนไหนน่าแต๊ะอั๋งบ้างวะ ช่วยแนะนำหน่อยเหอะ”

“ก็แหม... พี่อยากจับส่วนไหนของผมมากสุดล่ะ”

“ปาก”

“จ้องแต่จะถอนฟันผมอะดิ”

“แสนรู้เนอะ” รวินท์หัวเราะพลางพลิกตัวหันหน้าเข้าหาคนที่นอนอยู่ข้างกัน เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มอีกฝ่ายเบาๆ “พิงค์ ขอบใจนะที่มา”

เด็กหนุ่มยิ้มรับ “ไม่เป็นไร ไม่ได้มาฟรี ได้กางเกงในมาตั้งสามตัว” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะคนที่นอนอยู่ข้างกันบ้าง ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือลงมากุมหัวไหล่ไว้ “ผมบอกแล้วไงว่าถ้าพี่มีอะไรให้ช่วย ก็เรียกผมได้เสมอ”

“อือ ซึ้งเลยว่ะ”

“แล้วรู้สึกดีขึ้นบ้างรึยังล่ะ”

ไม่มีคำถามถึงสาเหตุที่ทำให้ตนเองต้องขับรถมาจากเชียงใหม่ เพราะภูพิงค์ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด เขาก็แค่เป็นห่วง เลยมาดูอาการก็เท่านั้น

ทันตแพทย์หนุ่มพยักหน้าหงึกๆ “ดีแล้ว”

“งั้นก็นอนเอาแรงกัน พรุ่งนี้จะได้เที่ยวให้คลานไปเลย”

“ถ้าเอาแรงๆ ก็คงคลานตั้งแต่คืนนี้แล้วแหละว่ะ”

“เว้ย ไอ้พี่วิน!” ภูพิงค์ถีบเจ้าของเตียงไปจนเกือบตกเตียง ต่างคนต่างหัวเราะเสียงดังจนกระทั่งหอบฮั่กๆ แล้วสักพักพวกเขาก็เงียบไป

รวินท์ยังคงนอนหันหน้าเข้าหาเด็กหนุ่ม พยายามข่มตาให้หลับลง หากภายในใจเอาแต่คิดถึงเรื่องของตัวเขากับคนที่นอนข้างกันเสียอย่างนั้น

เมื่อภูพิงค์มาถึงที่นี่ มาอยู่ข้างๆ กัน ความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจก็ดูเหมือนจะทุเลาลงไปได้ เขากลับมายิ้มและหัวเราะได้อีกครั้ง

นึกๆ ไปแล้วถ้าหากภูพิงค์คิดอะไรกับเขาบ้างจริงๆ ก็คงดี เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาแค่รู้สึกดีเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกัน แต่ภูพิงค์คงไม่ได้สนใจเขาแบบนั้น


น่าเสียดาย ที่พวกเขาเป็นได้แค่เพื่อนกัน


คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่นานก็เริ่มจะสะลึมสะลือ แต่พอใกล้จะหลับทันตแพทย์หนุ่มก็รู้สึกว่ามีมืออุ่นๆ ไล้สัมผัสแก้มตนอย่างแผ่วเบา เขาปรือตาขึ้นมอง ทว่าเจ้าของมือนั้นพลิกตัวหันหลังให้เขาไปแล้ว เขาจึงปิดตาลงอีกครั้ง ไม่นานก็หลับสนิทไป


*TBC*


น่ารักบั่บเน้จะไม่ให้พี่ใจอ่อนได้ไงเนี้ยะะะะ  :katai1:

หรือที่จริงพี่หมอก็อ่อนไปหมดแย้วกันน้าาาา 55555555

ส่วนเรื่องของหมอเต้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปนะคะ เราเริ่มต้นปีใหม่กันแบบเจ้มจ้นขึ้นจิ๊ดดดดดนุง (จิ๊ดเดียวเจงๆ) 5555555

ตอนหน้าเราไปเที่ยวน้ำตกกันก่อนดีฝ่า เชิญคนอ่านขึ้นรถแดงตามสองหนุ่มมาเร้ย ชิดในล่วยๆๆๆ ค่า  :jul3:

ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่า  :mew1:

ปล. ฮัสกี้อาจไม่กล่าวถึงการเรียนของเด็กๆ วิดวะมากนัก เน้นแต่กิจกรรม นั่นก็เพราะในเรื่องนี้กิจกรรมเป็นตัวเชื่อมโยงน้องพิงค์กับพี่หมอเข้าหากันน่ะค่ะ ขอให้เข้าใจฮัสกี้นิดนึงน้าาาา


ปล.อีกที ขอแทรกเรื่องกลองสะบัดชัยเล็กน้อยเผื่อมีใครสนใจค่ะ

กลองสะบัดชัยเป็นการแสดงศิลปะพื้นบ้านล้านนา สมัยก่อนใช้ตีปลุกใจก่อนออกรบนะคะ ลักษณะการตีกลองก็เลยเป็นท่าทางที่ใช้ในการต่อสู้ การเตะต่อยจับดาบอะไรแบบนี้ เอามาผสมกับการฟ้อนรำ ดูแล้วแบบว่าทั้งอ่อนช้อยและแข็งขันไปด้วยเลย พอมโนว่าคนที่มีหลายบุคลิคโคตรๆ อย่างน้องพิงค์มาตีแล้ว ฮัสกี้ว่าเท่ดียยยย์ มันฟินค่อดๆ เห็นด้วยมั้ยล่าาา 555555


คลิปตีกลองสะบัดชัยค่ะ


ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #764 เมื่อ02-01-2018 19:39:55 »

ขอบคุณที่มาต่อครับ
ชอบเรื่องน้ีมากเลย

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #765 เมื่อ02-01-2018 19:43:58 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #766 เมื่อ02-01-2018 19:45:56 »

ได้แต่หวังว่าหมอเต้จะไม่เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดนะ

ออฟไลน์ baibuabuaz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #767 เมื่อ02-01-2018 19:59:48 »

หมอเต้นี่ยังงายยยยยย
หวั่นไหวกันแล้วนะ  :-[

ออฟไลน์ somuch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #768 เมื่อ02-01-2018 20:00:12 »

โห ถ้าแย่งแฟนจริง ต่อให้มีเหตุผลหนักหนาแค่ไหน แต่แย่งแฟนคือแย่งแฟน เป็นเรา ชาตินี้ก็ไม่มีทางญาติดีเหมือนเดิม เหมือนถูกทำลายความเชื่อใจอ่ะค่ะ โดนหักหลัง โคตรแย่เหอะ //อิน

เกลียดค่ะ คนแบบนี้ ฮึ่ย

ช่างพวกนี้ค่ะ เราจะไม่สนใจ โฟกัสที่เรือเรา ฮืออออออออ พิงค์วิน เรือแล่นฉิว ดีจรัยยยยยย

รอดูน้องพิงค์ตีกลองสะบัดชัย ประกาศความเป็นสายรุก แค่กๆ หมายถึง ความแมนของน้อง

//ปักธงพิงค์วินพร้อมตอกเสาเข็ม

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #769 เมื่อ02-01-2018 20:04:11 »

เหตุการณ์สื่อให้คิดเยี่ยงนั้น

ว่าแต่...คู่กัดเริ่มมีใจให้กันแล้วเนอะ

 :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
« ตอบ #769 เมื่อ: 02-01-2018 20:04:11 »





ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #770 เมื่อ02-01-2018 20:07:40 »

โอ้ยยยหมออออ รู้ใจตัวเองก่อนน้องอีกอ่ะ  :katai1:

อีหมอเต้  :m16: แค้นแทนว่ะค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #771 เมื่อ02-01-2018 20:08:09 »

เต้กับขวัญจะแอบคบกันลับหลังวินจริงๆเหรอ
 :katai1: :katai1:
แต่ก็ดีพิงค์จะได้มาดูแลวิน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #772 เมื่อ02-01-2018 20:09:03 »

Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ
       
ให้รู้สึกว่าขวัญ กับเต้ คงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแล้ว
ขวัญ กับเต้ คงชอบกัน
ก็เต้ คงปลอบทั้งวินทั้งขวัญ
แล้วก็คงเกิดความรู้สึกดีๆต่อกัน

ในสายตาขวัญ คงไม่เชื่อมั่นในวิน ที่ดูไม่จริงจัง อ่อยไปทั่ว
ถ้าอดีตคนรัก มารักกับเพื่อนสนิท วินจะหน่วงจะเฮิร์ทก็ไม่แปลก
แต่จะให้เขาคบกันเปิดเผย ก็แปลกๆเหมือนทำร้ายวิน
แต่ไม่ว่ายังไง คบกันลับหลังวินมันก็ทำร้ายวินยิ่งกว่า  :fire: :fire: :fire:
 
วิน พิงค์ก็เลยสนิทกันยิ่งขึ้น  เพราะแค่ฟังเสียงวินที่เศร้าๆ
พิงค์ก็เข้าใจอารมณ์ของวิน แล้วรีบมาหาทันที สุดยอดดดดด   :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #773 เมื่อ02-01-2018 20:21:43 »

คิดแล้วเชียวเต้กับขวัญมันคิดไม่ซื่ออ่ะ  :fire: :fire:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #774 เมื่อ02-01-2018 20:37:30 »

เป็นไปได้เหรอที่หมอเต้จะแย่งแฟนหมอวิน

ถ้าใช่นี้เลือดเย็นมากเลยนะนี่นะ

ระหว่างหมอวินกับน้องพิงยังไม่ชัดเจนเท่าไร

หมาหยอกไก่ทั้งคู่ :z13:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2018 21:48:46 โดย พัดลม »

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #775 เมื่อ02-01-2018 20:41:26 »

เราว่าเต้คงกำลังคบกับขวัญข้าวแน่ๆ จุกแทนหมอวินเลย เพื่อนยิ่งรักมากก็ยิ่งเจ็บมากเมื่อถูกหักกลัง :ling2:

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #776 เมื่อ02-01-2018 20:46:29 »

หมอเต้จะตีท้ายครัวพี่วินจริงหรอ ยังไม่อยากปักใจเชื่อเรื่องนี้ซะเท่าไหร่เลยแหะ แต่ถ้าจริงนี่ก็รับไม่ได้อย่างแรง :mew5:
แต่ช่างเหอะ อยู่กับคนไหนสบายใจ ก็คนนั้นแหละพี่วิน แน่นอนว่าเป็นน้องพิงค์อยู่แล้ว 5555 คิดไรมากกก คิดมากหัวล้านนะเอออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2018 20:50:07 โดย utamon »

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #777 เมื่อ02-01-2018 20:51:03 »

หมอเต้นี่คืออะไร!!!

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #778 เมื่อ02-01-2018 20:56:21 »

เต้ พูดลับหลังถึงวินไม่ดีเลย "อ่อยไปทั่ว" พูดแบบนี้เหมือนไม่ใช่เพื่อนดีๆ เลย ดูไม่น่าไว้ใจอย่างแรง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 20 : ความระแวง][020118]
«ตอบ #779 เมื่อ02-01-2018 20:58:29 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด