ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 613237 ครั้ง)

ออฟไลน์ Panamapaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :-[ หมอออออ  :ling1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ฟินๆๆๆๆๆ
กอดกัน จับมือกัน ความรักนี้มันหวานเนอะๆ
ตกลงหนูพิงค์ยังซิงอ่ะ แบบนี้จะกดพี่วินได้เหรอ
จะเป็นพิงค์วิน มั้ยยยย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :impress2: ปู้จายฟัดกันในน้ำ  :impress2:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หัวนมชมพูคืออะไร :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ให้น้องได้มีครั้งแรกกับพี่วินไหมคะ จะได้มีประสบการณ์ รุกครั้งแรกกับหมอฟัน สอนน้องหน่อยยยย :hao5:

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
รีบครบกันเถอะ พรีดๆๆๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หูยยยยยย เล่นกันยังกับคนเป็นแฟนกันแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
โอ้ยยย หนุ่มๆเล่นน้ำ

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ทีม วินพิงค์

ทำไมนึกถึงปลาโลมาละนึกถึงมุมที่น้องพิงค์มองพี่วินวะ ซื่อๆน่ารัก แต่จริงๆแล้ว หึหึหึหึ


นี้ก็แอบดีใจไช่ไหมละ ที่น้องซิงหนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
มุ้งมิ้งน่ารักดีนะ  :mew1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ทำไมบรรยากาศเป็นสีชมพูอมม่วงฟุ้ง ๆ อยู่รอบ ๆ นะ

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ยังไงเราก็ไม่ชอบที่เต้พูดถึงหมอวินให้ขวัญข้าวฟัง มันฟังดูแปลกๆ จี๊ดๆ เหมือนร่วมนินทากันมานาน ขอให้เรื่องเคลียร์เร็วๆ ถ้านิ้วไหนมันติดโรคจริงๆ ก็อยากให้วินตัดทิ้งไปเลย o18

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่วินไม่เคยหึงใครเลยเหรอเนี่ย แล้วขวัญที่เป็นแฟนก็ไม่เคยด้วยเหรอแปลกนะ
แต่ที่แน่ๆ เรารอดูพี่วินหึงพิงค์อยู่ล่ะงานนี้

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พิงค์กับพี่วินท์เล่นกันแบบนี้เราก็เขินแย่ดิอร้ายยยผู้ชายเค้าหยอกกันค่ะแม่

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อยากเห็นพิงค์ขี้หึง

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
ผู้ชายเล่นกันแบบนี้รู้สึกใจบ่ดีเลยน่อออออ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น่ารัก เค้างอแงกัน เค้าแหย่กัน
ช่วยพี่ได้เยอะเลยพิงค์

สงสารหมอวินท์ คนรู้ตัวช้าไม่รู้จะนอยด์เพื่อนอีกนานไหม

พิงค์เป็นอะไร ชอบพี่แล้วหรอ

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบความมุ้งมิงของคู่นี้จริงๆเลย

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
ง่า...คิดถึงสองหนุ่มแล้ว

รอคอยสองหนุ่มมาโลดแล่น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       บรรยากาศเริ่มกลายเป็นสีชมพูอมม่วงละ
พี่วินนี้นะนิสับทำลายความฝันน้องซะจากสัตว์โลกสุดน่ารักกลายเป็น18+ซะงั้น :hao7:  :hao7:

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านถึงตอนล่าสุดละ เอาเป็นว่าขอเม้นก่อนที่มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
ชอบตัวละครทั้งสองคนมาก ตอนแรกอ่ะนะ ตอนที่สโมยังไม่เยอะสิ่งขนาดนี้
ถ้าเป็นเรื่องจริงเราจะบอกว่าเป็นสโมที่เยอะและเห็นแก่ตัวมาก ยัดเยียด จัดฉากจนน่าเอียน แต่นี่เป็นเรื่องแต่งขึ้นเราอยากจะบอกว่าเอาแต่พอดีๆดีกว่า
เรารู้ว่าอยากให้ฟินกัน เพื่อนๆช่วยลุ้นงี้ แต่มันกลายเป็นอะไรๆก็ พี่วิน พิงค์ งานไหนของคณะที่ต้องการเงิน ต้องการกระแสก็พี่วิน คือคนในคณะคนอื่นไม่สามารถทำอะไรได้แล้วเหรอ ต้องสำนึกอยู่เสมอนะว่า หมอวินเป็นคนนอกคณะ ถึงพี่วินมันจะเป็นงานและขายของเก่งก็ตาม แต่งไปแต่งมามันไม่น่ารักเลย ยอมรับว่าเราอ่านผ่านมากตอนงานวิ่ง งานไนท์ จะจิกหมอน จะแปลงร่าง จะฟินขนาดไหนไม่รู้ รู้แค่มันไม่ไหว เราไม่อยากเอียนกับเรื่องนี้เพราะบทของสโมเลยเลื่อนผ่านดีกว่า มาอ่านสองตอนล่าสุด เริ่มกลับมาโอเคขึ้นเหมือนตอนอ่านพาร์ทแรกๆ
ส่วนตอนที่เค้าอยู่ด้วยกันสองคนเราชอบนะ ดูเป็นผู้ชายดี เพื่อนกัน ผู้ชายสองคนที่ไม่ต้องแบบ คนนึงตัวเล๊กกกก ละมุน อีกคนก็แมน เถื่อนมากอย่างชัดเจนก็ทำให้มันน่ารักได้ คอยเป็นกำลังใจให้กัน น้องมีประสบการด้านการใช้ชีวิต การเลือกของก็บอกพี่วิน มีกวนตีนกันบ้าง ไม่ยัดเยียด โอเคกว่า 

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 22 : ดอยอินทนนท์


หลังจากไปเยี่ยมชมพระมหาธาตุเจดีย์ในยามฝนพรำ รวินท์และภูพิงค์ก็ไปถ่ายรูปกับป้ายจุดสูงสุดในประเทศไทย พวกเขาเดินเที่ยวบริเวณนั้นอีกพักใหญ่ๆ จึงค่อยเดินทางไปหาที่พักกัน

ช่วงนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ จุดกางเต็นท์ของอุทยานมีเต็นท์อยู่เพียงไม่กี่หลัง บ้านพักก็ยังพอมีห้องว่าง สองหนุ่มได้บ้านสำหรับสองคนหลังสุดท้ายพอดี

“โห ฟลุคโคตรๆ ผมมาทีไรก็ได้นอนแต่เต็นท์”

“ผมก็อยากลองนอนเต็นท์เหมือนกันนะ แต่เอาไว้คราวหน้าค่อยนอนเต็นท์กัน ครั้งนี้นอนเตียงดีแล้ว วันนี้เดินเยอะ เมื่อยฉิบหาย”

“ฝนตกเฉอะแฉะด้วยแหละพี่ นอนเต็นท์ตอนนี้คงไม่สนุกเท่าไหร่” จู่ๆ ภูพิงค์ก็ชะงักกึก แล้วหันไปประสานสายตากับทันตแพทย์หนุ่ม

“มีอะไร”

“หรือว่า... มันจะเป็นบ้านหลังที่แบบ...” คนอ่อนวัยกว่าทำหน้าเครียด

“แบบ... ไหน...” รวินท์ชักจะเสียวสันหลังวูบๆ

“มีอย่างว่าไง เลยไม่มีใครเอา”

ทันตแพทย์หนุ่มยกมือขึ้นเขกศีรษะอีกฝ่าย ตอนแรกก็เกือบจะกลัวแล้ว จนกระทั่งเด็กหนุ่มหลุดยิ้มนั่นแหละ “มีอย่างว่าคือมีใครมาเอากันหรือมีผีวะ อยากจะหลอกให้กลัวก็พูดให้ชัดๆ”

“โหย พี่วินอะ” ภูพิงค์ยกมือขึ้นลูบศีรษะป้อยๆ “อันที่จริงผมก็กลัวๆ เหมือนกันนะ พี่ไม่กลัวอ่อ”

“กลัวอะไร ผมเป็นหมอนะเว้ย”

“ทำไมเสียงพี่ฟังดูไม่ค่อยมั่นใจวะ”

“เข้าป่าเขาไม่ให้พูดเรื่องผี ไม่เคยได้ยินรึไง”

“เคยได้ยินแต่ไม่ให้พูดเรื่องเสือเว้ยพี่”

“นั่นแหละๆ เหมือนกันแหละ”

สองหนุ่มเดินผ่านป่าสนไปเรื่อยๆ สักพักก็ไปถึงบ้านพักหลังเล็กๆ ซึ่งโดยรอบก็มีแต่ต้นสนสูงตระหง่าน ข้างหน้าบ้านมีพื้นที่ให้พอนั่งเล่นได้ พื้นบ้านเป็นกระเบื้องเย็นๆ ข้างในบ้านมีเตียงนอนขนาดเล็กสองเตียง คั่นด้วยตู้ตัวเล็กตรงหัวเตียง และมีห้องน้ำให้

“บ้านพักโทรมไปนิด แต่ก็ยังดูดีกว่าห้องพี่วินเลยนะเนี่ย”

รวินท์หันไปเตะเด็กหนุ่มเบาๆ “อย่างน้อยห้องผมก็มีครัวนะเว้ย”

“โห พี่เรียกห้องที่มีแค่กระทะไฟฟ้าว่าครัวเหรอ”

“ตู้เย็นกับกระติกน้ำร้อนก็มีป่ะวะ”

ภูพิงค์หัวเราะ พอเดินเข้าไปในบ้านพักแล้วก็จัดการเลื่อนเตียงสองเตียงมาชิดกันเป็นอย่างแรก

เมื่อทันตแพทย์หนุ่มเห็นก็เดินเข้าไปช่วยเลื่อนพลางอมยิ้ม “จริงๆ ก็กลัวอะดิ๊”

“ผมขี้หนาว ต้องการไออุ่น” ขณะที่รวินท์หลุดหัวเราะเด็กหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก “พี่ก็เคยเรียน...แบบที่เขาเรียกว่า เรียนกับอาจารย์ใหญ่ใช่มะ”

“แหงดิ ตอนแลปกรอสไง เป็นทันตแพทย์ก็ต้องรู้จักส่วนสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะช่วงบนของร่างกายด้วย”

“แล้ว... เป็นไงอะ”

“ก็... ตอนแรกๆ มันก็จะตื่นเต้นแหละ ประหม่ามากด้วย ครั้งแรกที่จับมีดก็จะมือสั่นอยู่หน่อยๆ แล้วกลิ่นฟอร์มาลีนก็แรงมาก จมูกตื้อไปช่วงนึงเลย”

“พี่ไม่กลัวเลยเหรอวะ”

“เอาจริงๆ ก็กลัว แต่ก็เข้าใจว่าท่านเป็นอาจารย์ เป็นผู้เสียสละนะ”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ “แล้วอาจารย์เคยมาหาพี่หรือเพื่อนพี่บ้างมั้ยอะ”

“.....” รวินท์นิ่งคิด

“ผมว่าอย่างพี่วิน อาจจะมาหาเป็นร้อยรอบแล้วแต่พี่ไม่สนใจแหงๆ” ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมา “แล้วเข้าๆ ออกๆ โรงบาลบ่อยๆ เคยเจอผีบ้างมั้ยวะพี่”

“มาถามเรื่องแบบนี้ตอนนี้ทำไมวะ ผมบอกแล้วไง เข้าป่าอย่าพูดเรื่องผี!”

“เรื่องเสือเว้ย!”

รวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก “นี่คุณ เพื่อนผมเคยบอกนะ เคล็ดกันผีเวลาไปต่างจังหวัดอะ เขาให้เอากางเกงในใช้แล้วไปแขวนไว้ที่ลูกบิดประตูเว้ย”

“ทำไมต้องใช้แล้วด้วยวะ พี่จะหลอกดูกางเกงในผมอะดิ”

“จะหลอกดูทำไมวะ ผมก็ไปซื้อกับคุณไง เห็นหมดแล้ว” 

“หวา... พี่วินทะลึ่งว่ะ” ภูพิงค์รีบเอามือไปกุมเป้ากางเกงตัวเอง

“น่าดูตายล่ะ ของผมก็มีป่ะวะ ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย” รวินท์หัวเราะ พลางผลักไหล่เด็กหนุ่มออกไปเบาๆ

คนอ่อนวัยกว่าเดินหัวเราะ เอาโทรศัพท์มือถือไปชาร์จไฟ ก่อนจะหันไปถามอีกฝ่าย “พี่วินจะชาร์จด้วยเปล่า”

“อือ ชาร์จให้ที” ทันตแพทย์หนุ่มก้มลงรื้อในกระเป๋าเป้ แล้วหยิบโทรศัพท์ส่งให้พร้อมกับสายชาร์จ

เมื่อเสียบไฟก็เห็นว่าโทรศัพท์ยังคงไม่เปิดรับสาย ไม่เปิดไวไฟ ไม่เปิดอะไรทั้งสิ้น มีไว้เพื่อเป็นกล้องเท่านั้นจริงๆ เด็กหนุ่มก้มลงมองอย่างแปลกใจ ก่อนจะหันไปถามเจ้าของเครื่อง “พี่วิน... เอ้อ ไม่เปิดมือถือเหรอ” ในที่สุดก็หลุดปากถามออกไปจนได้

รวินท์กระโดดลงนอนบนเตียง จากนั้นจึงหันหน้าไปทางคนถาม “....”

ภูพิงค์วางโทรศัพท์ในมือลง เดินไปนั่งลงบนเตียงข้างกันแล้วก้มลงหาขนมจากในถุงพลาสติกมากินเล่น เขาไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรต่อ “พี่กินหนมมั้ย หือ?” แต่พอหันไปหาอีกฝ่ายก็ขยับเข้ามาคว้าชายเสื้อเขาไว้

“พิงค์ คุณเคยถูกเพื่อนหักหลังมั้ย”

“...ไม่เคยมั้ง...”

“ทำไมต้องมั้งวะ”

“ก็อาจจะเคยไง แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่คบกันแค่ผิวเผินผมก็ไม่แคร์หรอก ถ้าหักหลังกันก็ตัดเพื่อนโลด แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิท อย่างไอ้ขิง ไอ้ดิว ไอ้ซัน อีซินดี้ ผมมั่นใจว่าพวกมันไม่หักหลังผมแน่”

“ต่อให้เห็นว่าเขาไปทำอะไรลับๆ ล่อๆ ลับหลังเราน่ะเหรอ”

“แล้วพี่รู้ได้ไงว่าไอ้ที่ลับๆ ล่อๆ มันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี ถ้าพี่ยังไม่รู้จุดประสงค์ของเขา ก็อย่าเพิ่งตัดสินเขาสิ เพื่อนที่เป็นเพื่อนสนิทน่ะ ก็หมายความว่าคบกันมานาน รู้ใจกันดีไม่ใช่เหรอ”

“นั่นสินะ”

“เพื่อนสนิทเขาไม่หักหลังกันง่ายๆ หรอกพี่ เชื่อมั่นในตัวเพื่อนพี่ก่อนสิวะ เพื่อนสนิทเชียวนะเว้ย”

“อืม ผมก็หวังอย่างนั้น เพราะถ้ามันเป็นเรื่องจริง ผมคงจะเสียใจน่าดู” ทันตแพทย์หนุ่มพูดเสียงเศร้า

เด็กหนุ่มเม้มปากอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะถามออกไป “พี่เต้ทำอะไรเหรอ”

รวินท์ชะงักกึก “ทำไมถึงคิดว่าเป็นไอ้เต้”

“ก็เห็นพี่มีเพื่อนอยู่กับเขาคนเดียว”

คำพูดของคนอ่อนวัยกว่าแทงใจอย่างจัง ทันตแพทย์หนุ่มรีบเถียง “นอกเหนือจากไอ้เต้ก็มีเว้ย!”

“ใครอ่ะ”

“คุณไง” รวินท์ตอบเสียงอ่อย

ภูพิงค์หัวเราะร่วน เขาหยิบถุงขนมที่พองลมเพราะความกดอากาศขึ้นมาตบดังปัง ให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก ขนมในถุงหล่นกระจัดกระจาย

“เว้ย! เล่นอะไรอีกแล้วเนี่ย! เลอะเทอะหมด เดี๋ยวมดก็แห่กันมาหามไปทิ้งหน้าผาหรอก!”

“เศษขนมแค่ปัดๆ ก็ออกแล้วน่ะ” เด็กหนุ่มหยิบขนมไปจ่อปากอีกฝ่าย “โวยวายเป็นลุงแบบนี้เหมาะกับพี่วินมากกว่า ทำหน้าหงิกงอมากเดี๋ยวก็เหี่ยวหมดหรอก เอ้า กินหนมๆ”

รวินท์อ้าปากรับขนมพลางปัดเศษขนมออกจากเตียงไปด้วย

“ใส่เสื้อหนาวก่อนพี่ เดี๋ยวออกไปเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกดินกัน แล้วไปกินข้าวก่อนค่อยกลับมาอาบน้ำ ดึกๆ จะได้ออกมานั่งดูดาวกันเนอะ”

“อือ”

“ป่ะ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นพร้อมกับส่งมือให้คนที่นอนอยู่ ซึ่งอีกฝ่ายก็จับมือเขาตอบทันที

ทันตแพทย์หนุ่มก้มลงมองมือของพวกเขาที่สัมผัสกันพลางยิ้มบาง

มือของพิงค์นี่อุ่นดีชะมัด

เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้าไป อุณหภูมิบนดอยก็ลดลงเรื่อยๆ ทำให้สองหนุ่มที่ยืนมองลำแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ค่อยๆ จางหายไปต้องยกมือกอดลำตัว แม้จะใส่เสื้อหนาวไว้แล้วก็ตามที

“ไหวมั้ย จะกลับบ้านพักไปเอาเสื้อเพิ่มอีกสักตัวเปล่าพี่”

“ไม่เป็นไร ขี้เกียจเดินว่ะ”

พวกเขาไปนั่งร้านอาหารซึ่งภายในร้านมีโต๊ะที่มีคนนั่งอยู่เพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น สองหนุ่มสั่งมื้อค่ำกันมาเต็มโต๊ะ กินให้สมกับที่เที่ยวจนเหนื่อยมาตลอดวัน

“บรรยากาศดีๆ นี่ทำให้กินจุชะมัด”

“กินยัดทะนานแบบนี้พี่ต้องกลับไปลำพูนพร้อมพุงแน่ๆ”

รวินท์ไม่ใส่ใจกับการแซะของเด็กหนุ่ม เขาตักอาหารใส่ปากไปเรื่อย จนยัดเข้าไปไม่ลงแล้วนั่นล่ะถึงยอมหยุด หากกินไปกินมาก็ชักเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะถ้าหากเขาลงพุงคงก้มลงทำฟันให้คนไข้ลำบาก

“พี่วินเดินกลับไหวมั้ยเนี่ย หรือต้องกลิ้ง”

“ไหวน่ะ นานๆ จะเจอของอร่อยก็ต้องกินตุนให้คุ้ม”

“ผมเห็นพี่ไปกินที่ไหนก็อร่อยไปหมดอ่ะ” ภูพิงค์ยิ้มมุมปาก “อร่อยเพราะไปกินกับผมใช่ม้า~”

ทันตแพทย์หนุ่มขมวดคิ้วพลางนึกย้อนกลับไป ที่อีกฝ่ายพูดก็มีส่วนถูกนะ เพราะทุกที่ที่ไปกินด้วยกัน เขาฟาดแหลกทั้งนั้นเลย “ก็คุณพาไปกินแต่ของอร่อยทั้งนั้น ถ้าผมก้มทำฟันคนไข้ไม่ไหว ก็ต้องโทษคุณนี่แหละ”

“ถ้าก้มไม่ได้ก็หงายสิวะ”

“ไว้รอทำฟันให้คุณเถอะ ผมจะหงายทำให้เป็นคนแรกเลย”

“โห ปลื้มใจจัง เป็นเกียรติของผมมากเลยคร้าบ”

รวินท์หันไปเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ก่อนที่เขาจะอดใจไม่ไหวแล้วลุกขึ้นวิ่งไล่เตะเด็กหนุ่มกลับบ้านพักให้เปลืองพลังเปล่าๆ ปลี้ๆ

หลังจากนั้นสองหนุ่มก็เดินคู่เคียงกันในความมืดกลับไปยังบ้านพัก พวกเขาใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือช่วยส่องทาง ระหว่างที่เดินไปก็หันมองรอบๆ ไปด้วย บ้านพักแต่ละหลังตั้งห่างกันเหลือเกิน ระหว่างทางเดินไม่มีไฟเลยแม้แต่น้อย มืดสนิทไปทุกหนแห่ง พวกเขาเร่งสาวเท้าฉับๆ จนกระทั่งถึงบ้านพักกันได้ในที่สุด

เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ออกมายืนดูดาวกันตามแผน พวกเขานั่งไม่ลงเพราะอากาศที่หนาวเย็น จึงต้องยืนเต้นแร้งเต้นกาไปมา

ใบหน้าหล่อเหลาแหงนมองขึ้นไปบนท้องนภาแห่งยามรัตติกาล จันทร์เสี้ยวลอยเด่น มีดวงดาวน้อยใหญ่กะพริบระยิบระยับสวยงาม “ที่นี่สงบดี บรรยากาศก็ดี น่าเสียดายนะที่ได้มาค้างแค่คืนเดียว ผมอยากจะเที่ยวให้นานกว่านี้”

“บนดอยนี่ยังมีที่เที่ยวอีกเพียบ น้ำตกอีกหลายแห่ง พี่ยังมาได้อีกหลายรอบเลยล่ะ”

“เรามาด้วยกันอีกได้มั้ยอะ”

ภูพิงค์หันไปยิ้มรับ “ถูกใจผมอะดิ ใช้งานง่ายใช่มะ สะดวกเหมือนมีกูเกิลแม็ปติดตัว”

รวินท์หัวเราะเบาๆ “เออ รู้ตัวก็ดี”

คนอ่อนวัยกว่าหันกลับไปมองเบื้องหน้า แต่ก็ชำเลืองมองทันตแพทย์หนุ่มเป็นระยะๆ ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่อีกฝ่าย “เฮ้อ~”

“เป็นไร”

“เวลาผ่านไปเร็วเนอะ แป๊บๆ เดี๋ยวก็จะสอบอีกแล้ว ขี้เกียจอ่านหนังสือชะมัด”

“จะสอบอีกเมื่อไหร่น่ะ”

“เรียนจบมาไม่นานลืมแล้วเหรอวะ ต้นธันวาฯ ครับพี่”

“ตอบกันดีๆ สักครั้งฟันคุณมันจะร่วงรึไงวะ” ทันตแพทย์หนุ่มส่งสายตาขุ่นๆ ให้ “อย่าลืมไปผ่า...”

“ฟันคุด รู้แล้วพี่ ย้ำจัง”

“ระวังปวดช่วงสอบนะเว้ย จะเก็บไว้ในปากนานๆ ทำไมก็ไม่รู้ ผ่าๆ ออกไปให้เสร็จก็หมดเรื่อง”

“ก็มันไม่ปวดแล้วอะ ผมจะรีบไปผ่าให้เจ็บตัวทำไมวะ” เด็กหนุ่มเถียง

“มันอักเสบมาครั้งนึงแล้วนะเว้ย ระวังเถอะ เดี๋ยวมันไปเบียดฟันซี่อื่น พากันผุทั้งแถบ คราวนี้ปากเน่าของแท้แน่ เดี๋ยวได้รื้อทั้งปาก”

“หมอฟันขู่คนไข้แบบนี้ได้ด้วยเหรอวะ”

“ตอนนี้คุณไม่ใช่คนไข้ผมนี่หว่า ถือว่าขู่ได้”

ภูพิงค์ทำหน้าเบ้ใส่ เพราะคุยกันเรื่องฟันนี่สะเทือนใจเขาเหลือเกิน “แต่ก่อนสอบยังมีงานใหญ่อีก เสาร์อาทิตย์หน้าผมคงไม่ว่างมาทะเลาะกับพี่นะ แล้วจะคิดถึง”

“ทำไมอะ คุณจะไปไหน”

“เปล่า ติดธุระเฉยๆ”

“ธุระอะไร”

“ธุระเรื่องงานยี่เป็ง”

“ยี่เป็ง? ที่ลอยโคมขึ้นไปบนฟ้าอะเหรอ”

“ใช่พี่ ทางเหนือนี่ นอกจากจะมีลอยกระทงในแม่น้ำแล้วเขาก็มีลอยโคมยี่เป็งด้วยไง แล้วทางคณะก็จะส่งขบวนไปร่วมในขบวนแห่กระทงใหญ่ของจังหวัด พวกผมเลยต้องช่วยเขาทำงาน”

“ไม่ว่างทั้งวันเลยเหรอ”

“อือ คงต้องซ้อมกันยันเที่ยงคืนแหงๆ เพราะอีกสองอาทิตย์ก็จะมีงานแล้ว”

ทันตแพทย์หนุ่มยื่นหน้าเข้าไปถามอย่างสงสัย “ซ้อมอะไรอะ”

“เอ๊ย! ผมหมายถึงต้องเร่งทำกระทงน่ะพี่” เด็กหนุ่มยังไม่กล้าบอกรวินท์เรื่องกลองสะบัดชัย เพราะที่ฝึกซ้อมไปรู้สึกว่ายังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่ พูดง่ายๆ ก็คือยังไม่เท่ เอาไว้ใกล้ๆ ค่อยบอกแล้วชวนอีกฝ่ายมาดูดีกว่า เขาจึงรีบตัดบท “เข้าข้างในกันเหอะ หนาวฉิบหาย”

“อือ ดีเหมือนกัน ผมก็ง่วงแล้ว”

ภูพิงค์เปิดประตูบ้านพักเดินเข้าไปก่อน โดยที่รวินท์เดินตามไปติดๆ พอปิดประตูบ้านลงเขาก็ชะงัก ก้มลงมองลูกบิดประตูซึ่งมีกางเกงในสองตัวแขวนอยู่แล้วก็เบิกตากว้าง

“เฮ้ย!”

คล้องไว้ด้วยกันเป็นกางเกงในคู่รักเลยแม่ง นี่ซีรีส์เกาหลีเหรอวะ!

เดี๋ยวก่อน ไอ้ที่เขาใช้คล้องกันนั่นมันกุญแจคู่รักเว้ย!

รวินท์หันขวับไปทางคนอ่อนวัยกว่า “นี่คุณเอากางเกงในผมมาแขวนด้วยเรอะ!”

เด็กหนุ่มคลานขึ้นไปนั่งบนเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมเรียบร้อย “ก็เห็นพี่โยนไว้ข้างๆ กางเกงในผม ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมเลยเอามาห้อยคู่กับผมไง สองคนแรงกำลังสอง ผีที่ไหนก็ไม่กล้าเข้ามาแน่ๆ”

รวินท์อยากจะบ้า ไอ้เด็กนี่ก็ดันเชื่อเคล็ดที่เขาพูดถึงจริงๆ ด้วย แต่ก็ช่างแม่งเถอะ บางทีอาจจะช่วยได้จริงๆ ก็ได้ ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อน เขาหัวเราะออกมาเบาๆ

“แน่ะ ยืนยิ้มอะไร ตื้นตันใจที่ได้เห็นกางเกงในผมคู่กับกางเกงในพี่เหรอวะ”

“เออ ปลื้มฉิบหาย” ทันตแพทย์หนุ่มเดินไปปิดไฟ พอล้มตัวลงนอนแล้วจึงค่อยเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรนคร่อกๆ มาจากคนที่นอนอยู่ข้างกัน “หลับแล้วเหรอ ทำไมหลับง่ายจังวะ”

หากไม่มีเสียงตอบกลับมา รวินท์จึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รอบกายเงียบและมืดเสียจนมองไม่เห็นอะไร ทำให้ตัวเขารู้สึกโหวงๆ เขาควรจะนอนให้หลับๆ ไปจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่ก็ยังคงลืมตาอยู่ในความมืดค้างอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงซ่อกแซ่ก และผืนเตียงของเขายุบลงเล็กน้อย เมื่อหันไปมองดูก็เห็นว่าคนที่นอนข้างๆ กันกระเถิบเข้ามาใกล้ๆ

“หลับไปแล้วไม่ใช่รึไง”

พอเด็กหนุ่มไม่ตอบ รวินท์จึงเอื้อมมือไปลูบๆ คลำๆ เหนือผ้าห่มที่คลุมตัวอีกฝ่ายอยู่ จากนั้นจึงค่อยๆ สอดมือเข้าไปข้างใน พอจับโดนหน้าท้องเข้าเด็กหนุ่มก็สะดุ้งโหยง

“เว้ย~ คลำหาอะไรวะพี่!”

“อ้าว นึกว่าหลับอยู่”

“ก็ตื่นเพราะพี่จะแต๊ะอั๋งผมอะ”

“เปล่าแต๊ะอั๋งเว้ย ผมแค่คลำดูให้แน่ใจว่าคนหรือผีต่างหาก”

“รู้แล้วก็เอามือออกไปได้แล้วโว้ย”

“ทำไมวะ แขม่วไม่ทัน กลัวผมจับเจอพุงเรอะ”

“กลัวอนาคอนด้ามันกัดมือพี่”

รวินท์หัวเราะลั่น “อนาคอนด้าบ้านคุณตัวเท่าหนอนแก้วเหรอวะ” เขายกศีรษะขึ้นมองดูตรงที่คนอ่อนวัยกว่านอน แล้วเอื้อมมือไปสะกิด “นอนตรงรอยแยกพอดีจะสบายเหรอวะ ขยับมาอีกดิ” ก่อนจะเขยิบตัวไปให้อีกฝ่ายมานอนเบียดบนเตียงเดียวกัน

ภูพิงค์ขยับตามที่ทันตแพทย์หนุ่มบอกทันที “นอนเบียดกันจะได้อุ่นๆ”

“ไม่ใช่เพราะกลัวผีใช่มั้ย”

“โห กลัวอะไร แขวนกางเกงในไว้ตั้งสองตัวแล้ว นอนกันเหอะพี่ พรุ่งนี้จะตื่นเช้าไปดูทะเลหมอกนี่”

“เออๆ อย่าเบียดผมตกเตียงก็แล้วกัน”

หลังจากสองหนุ่มนอนเบียดกันไปสักพัก ต่างคนต่างก็หลับไปอย่างง่ายดาย อากาศในยามค่ำคืนเย็นสบายแบบไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเลย บรรยากาศรอบๆ ก็เงียบสงบดี พวกเขาหลับสบายจนเช้าตรู่ของวันใหม่จึงรีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกด้วยกัน

รวินท์หาวอ้าปากกว้างจนน้ำตาไหล ไอ้สวยมันก็สวยอยู่นะ แต่เช้ามากเหลือเกิน เมื่อชมวิวกันเสร็จและกินมื้อเช้ากันแล้ว เขาก็เดินสะโหลสะเหลไปยังรถที่จอดอยู่ โดยที่เด็กหนุ่มเดินตามมาติดๆ

“พี่จะขับรถลงเขาไหวมั้ยวะเนี่ย” ภูพิงค์มองอย่างหวาดๆ

“จะขับให้ผมได้มั้ยล่ะ” ทันตแพทย์หนุ่มหันไปถามพร้อมกับส่งกุญแจรถให้

“เอาจริงอ่ะ”

“อือ อากาศเย็นสบายน่านอนเกินไป”

“ก็ได้” คนอ่อนวัยกว่ารับกุญแจรถมา พอเอาของใส่รถเรียบร้อยแล้วเขาก็ขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ ขณะที่ปรับเบาะปรับกระจก คนที่นั่งข้างกันก็เอนหลังนอนไปเรียบร้อย ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้พี่วิน!

ภูพิงค์ขับรถลงดอยไปช้าๆ ไม่นานก็ปลุกเจ้าของรถขึ้นมาเที่ยวต่อที่ตลาดม้ง แวะเติมพลังมื้อเที่ยงกันแล้วไปต่อที่สถานีเกษตรหลวง

ตอนแรกรวินท์คิดว่าหลังกินมื้อเที่ยงเข้าไปเขาคงจะเดินต่อไม่ไหวแล้ว หากเมื่อได้เห็นต้นไม้ดอกไม้สวยงามของสถานีเกษตรหลวง เขาก็เริ่มจะคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาเป็นประกายวิบวับ ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายภาพไม่หยุด

“ใจเย็นๆ เดี๋ยวความดันขึ้นหรอกพี่”

“เก็บปากไว้ผ่าฟันคุดเถอะน่ะ” ทันตแพทย์หนุ่มพูดพลางดึงอีกฝ่ายให้มาถ่ายรูปด้วยกัน จากนั้นก็เดินเล่นกันต่อ แล้วก็ไปนั่งพักดูหงส์กัน

รวินท์เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา “เวลาผ่านไปเร็วชะมัด”

“พรุ่งนี้ก็ต้องเรียนอีกแล้ว เฮ้อ~”

“คืนนี้จะค้างกับผมอีกคืนมั้ย หรือจะกลับเลย”

คนอ่อนวัยกว่าหันไปถาม “อยากให้ผมค้างด้วยมั้ยล่ะ”

“อยาก”

“งั้นค้างก็ได้”

“ใจง่ายดี”

“ติดมาจากพี่วินมั้ง”

รวินท์เตะขาคนที่นั่งอยู่ด้วยกันไปหนึ่งที “ผมไม่ได้ใจง่ายนะเว้ย”

ภูพิงค์หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรต่อ เขาวางมือลงข้างตัวแล้วมองตรงออกไป มองหงส์ว่ายน้ำผ่านหน้าไปมา หากอีกฝ่ายไม่ยอมจบด้วย

ทันตแพทย์หนุ่มจับแขนคนอ่อนวัยกว่าเขย่ารัวเป็นอังกะลุง “ทำไมคุณชอบว่าผมจังวะ ผมไม่ได้ใจง่ายนะ”

“อือๆ ครับๆ” เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก

รวินท์คิ้วกระตุก “แฟนผมก็เคยมีกับเขาแค่คนเดียวเองนะเว้ย”

“แต่กิ๊กเป็นแผงใช่มั้ยวะพี่”

“.....”

“มีแฟนแต่ตัวกับใจเสือกไม่อยู่กับแฟน ไปกับคนนู้นทีคนนี้ที สรุปว่าก็ใจง่ายมะ”

คราวนี้ชายหนุ่มเถียงไม่ออก เขาได้แต่อ้ำอึ้ง บางทีก็นึกเกลียดตัวเองในอดีตเหมือนกัน ทำไมตอนนั้นไม่มีใครคิดจะต่อว่าเขาแรงๆ ให้สำนึกบ้างวะ ปล่อยให้ทำตัวแย่ๆ อยู่ได้ เขาลดสายตาลงต่ำพลางทอดถอนใจ

ขวัญข้าวก็คงคิดแบบเดียวกันกับที่ภูพิงค์พูดนั่นล่ะ แต่เธอก็ไม่เคยเปิดปากพูดอะไรเลยเช่นกัน

ภูพิงค์หันไปหาทันตแพทย์หนุ่ม พลางเอื้อมมือออกไปหยิบเศษใบไม้ที่ติดเส้นผมอยู่ออกให้อย่างเบามือ สัมผัสของเขาทำให้อีกฝ่ายหันมาสบสายตาด้วยช้าๆ นัยน์ตาเรียวฉายแววขุ่นเคืองอยู่เล็กน้อย พอเด็กหนุ่มเห็นเข้าก็อมยิ้ม คิดว่าอีกฝ่ายทำท่างอนน่ารักดีเหมือนกัน

“ยิ้มทำบ้าอะไร”

“ขำลุง ทำหน้างอนเป็นเด็กๆ”

“ไม่ต้องมาเรียกลุง ผมไม่นับญาติด้วยหรอกเว้ย”

คนอ่อนวัยกว่าหัวเราะ พร้อมกับลูบศีรษะอีกฝ่าย “โอ๋ๆ เดี๋ยวผมพาไปซื้อผักสดๆ เอาไว้ทำกินเย็นนี้กัน รับรองอร่อยไม่แพ้ที่ร้านเลย”

“ให้มันจริงเถอะ” รวินท์ทำหน้ายุ่ง    


(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


หลังจากซื้อผักผลไม้จากโครงการหลวงเสร็จ ภูพิงค์ก็รับหน้าที่เป็นโชเฟอร์ต่อ เขาขับรถลงดอย พาทันตแพทย์หนุ่มมุ่งหน้ากลับไปยังโรงพยาบาลลำพูน

สองหนุ่มกลับมาถึงหอพักแพทย์ในตอนบ่ายแก่ๆ เมื่อมาถึงก็ช่วยกันหอบเสื้อผ้ากับของที่ซื้อมาขึ้นไปบนห้อง นั่งพักกันสักพักแล้วก็เริ่มต้นทำอาหาร

ภูพิงค์หุงข้าวไว้ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงหยิบห่อยอดฟักแม้วขึ้นมาล้างน้ำ จัดการเด็ดเฉพาะตรงที่อ่อนๆ ใส่จานไว้ แล้วเอาผลฟักแม้วมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ต่อ ส่วนรวินท์ก็หั่นหมูยอเตรียมไว้ทอด

“นี่พิงค์ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาหมูยอกลับไปกินที่บ้านเช่ากับเพื่อนๆ ด้วยนะ ผมมีเยอะว่ะ กินไม่ไหวแล้ว”

เด็กหนุ่มยิ้มรับ “เออ ดีพี่ หมูยอทำกินง่ายดีด้วย ขอบคุณครับ”

ใช้เวลาไม่นานสองหนุ่มก็ยกกับข้าวมาตั้งโต๊ะกินกับข้าวที่เพิ่งสุกใหม่ๆ พวกเขาเคี้ยวแก้มตุ่ย กินไปยิ้มไปตามประสาสายแดกทั้งคู่

“ผักนี่อร่อยดี เห็นในซูเปอร์ฯ ขายประจำแต่ไม่เคยซื้อเลย เพิ่งรู้ว่าผัดง่ายขนาดนี้”

“ยังมีเหลือนะพี่ ผมเอาใส่ช่องกระบะไว้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผัดกินได้อีกรอบ”

“มีคุณอยู่นี่สะดวกดีจริงๆ มาค้างบ่อยๆ ดิ”

“คิดถึงผมก็ไปหาที่มหาลัยดิ๊”

“เออ...” รวินท์กินข้าวหมดจานพอดี เขารวบช้อนส้อมไว้แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

“เออ อะไรวะพี่”

“อยากไปเดินดูในมหาลัย ตอนงานไนต์ไม่ทันได้เห็นอะไรเลย มืดแล้ว เดินเข้าเดินออกตึกแบบเร่งๆ ด้วย”

“แหม ไม่ต้องหาเหตุผลสารพัดหรอก อยากมาหาผมก็มาเหอะ มาเมื่อไหร่ก็ได้”

ทันตแพทย์หยุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก “ก็อยากไปหา แต่จะโดนสโมฯ ของคุณจับไว้ขายอะไรอีกมะ”

“โดนแน่ ผมบอกเลย ไอ้พวกนั้นแม่งกล่อมเก่งฉิบหาย ผมไม่เคยปฏิเสธอะไรแม่งได้เลย”

รวินท์พยักหน้าหงึกหงัก เขาเองก็เคยเจอไปครั้งนึง เข้าใจอย่างสุดซึ้งเลย

ระหว่างที่คุยกันไปก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงของลูกบิดประตู จากนั้นบานประตูก็เปิดออกผาง

เตชิตเดินเข้ามาด้วยสีหน้าหงุดหงิด ยิ่งเห็นสีหน้ายิ้มแย้มของเพื่อนรักอยู่กับคนอื่นก็ยิ่งอารมณ์เสีย เขากระแทกถุงใส่ชีสเค้กลงบนโต๊ะ

“อ้าว กลับมาแล้วเรอะ” เจ้าของห้องเอ่ยทักทาย

“โทรศัพท์เป็นอะไร ทำไมมึงไม่รับโทรศัพท์กู”

“ไปเที่ยว อยู่บนดอย ไม่มีสัญญาณ” รวินท์ตอบเสียงเรียบ

“ดอยเหี้ยอะไร กันดารมากเลยรึไงวะ”

“แล้วมึงมีธุระอะไรสำคัญมากรึไง”

โอ้โห คุยกันแบบไม่เห็นหัวกูเล้ย!

เวลานี้ภูพิงค์อยากมุดโต๊ะหนีแล้ว เขาชำเลืองมองสีหน้านิ่งของพี่วิน สลับกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของเตชิต ขนาดนี้แล้วไอ้พี่วินยังเฉยได้ เขานับถือจริงจริ๊ง~

“เอ่อ ผมไปล้างจานให้นะ” เด็กหนุ่มรีบตัดช่องน้อยแต่พอตัว เขารีบเก็บจานวางซ้อนๆ กันแล้วหอบเข้าครัว

เตชิตนั่งลงแทนที่ภูพิงค์ ระหว่างทั้งสองคนเงียบกริบไปสักพักใหญ่ จนกระทั่งอารมณ์เย็นลงเขาจึงพูดขึ้น “หิว”

“เดี๋ยวโทรสั่งพิซซ่าให้ จะแดกหน้าไร”

“เอาเหมือนมึง”

“กูแดกแล้วเมื่อกี้ อิ่มจะตายห่า”

“อ้าว แล้วมึงจะให้กูนั่งแดกคนเดียวเนี่ยนะ”

รวินท์หันมองไปในครัว พลางถอนหายใจเบาๆ “ยังมีข้าวเหลือ แดกหมูยอมั้ยล่ะ”

“อือ”

เจ้าของห้องลุกขึ้นเดินเข้าครัว ซึ่งภูพิงค์ยืนเช็ดจานที่ล้างไว้จนวาววับมันทุกใบแล้ว

“พี่วินไปนั่งเหอะ เดี๋ยวผมทอดให้” เด็กหนุ่มกระซิบ

“ไม่ล่ะ ผมทอดเอง คุณหั่นให้ทีละกัน”

ภูพิงค์เดินตัวลีบไปเปิดตู้เย็นหยิบหมูยอออกมา ก่อนจะหั่นเป็นแว่นๆ ให้อย่างรวดเร็ว “ใส่ลงกระทะเลยนะพี่ เดี๋ยวผมตักข้าวรอให้”

“อือ คุณจะไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ ไปรื้อเอาเสื้อผ้าในห้องนอนเลย ผมขอโทษแทนไอ้เต้มันด้วย ไม่รู้แม่งไปแดกต่อแตนที่ไหนมาว่ะ”

“พี่ก็ใจเย็นๆ หน่อยละกัน อย่าตีกันตายนะ เมืองไทยยังขาดหมอฟันนะรู้ป่ะ”

รวินท์หัวเราะ เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ตั้งแต่เตชิตโผล่มา “เออ รู้แล้วน่ะ” เมื่อทอดหมูยอเสร็จก็ตักใส่จาน เอาไปเสิร์ฟให้คนที่นั่งรออยู่

ฝ่ายภูพิงค์ พอเจ้าของห้องเดินออกไปจากครัว เขาก็วิ่งปรู๊ดไปรื้อหาเสื้อผ้าในห้องนอน แล้วโอ้เอ้อยู่ในห้องสักพัก

เตชิตมองตามเด็กหนุ่ม หากยังไม่พูดอะไร เขาตักข้าวในจานกินไปสองสามคำจึงค่อยถาม “ไอ้หมอนั่นใคร”

“ไอ้หมอนั่น?”

“ก็ไอ้คนที่นั่งกับมึงน่ะใคร”

“พิงค์ไง กูไปเที่ยวกับพิงค์มา ไปขึ้นดอยอินทนนท์ เพิ่งกลับมาก่อนมึงไม่นานหรอก”

เตชิตหลุบตาลงต่ำ ตักข้าวกินต่อไปเรื่อยๆ พอท้องอิ่มก็เริ่มสำนึกผิดเล็กน้อย “เออ โทรหามึงไม่ได้ก็นึกว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า เป็นห่วง”

“ขอบใจเว้ย แต่กูไม่ได้อายุสามขวบนะเว้ย ไม่ต้องห่วงอะไรให้มันเว่อร์นัก” รวินท์ส่ายหน้าไปมา เขาหันมองไปทางห้องนอน  เห็นว่าเด็กหนุ่มแอบมองออกมาจากทางช่องประตูที่เปิดค้างไว้แล้วก็อมยิ้ม “แต่ก็ขอบใจเว้ย แล้วพ่อกับน้องมึงเป็นไงบ้าง”

“ทำกายภาพอยู่ตอนนี้ พอลุกเองได้แล้ว แต่ก็ยังงอแงกันทั้งคู่”

“ถ้างั้นมึงก็ยังต้องเดินทางไปมาบ่อยๆ สินะ”

“อือ จะทำไงได้” เตชิตเงยหน้าขึ้น เห็นภูพิงค์ย่องออกมาจากห้องนอนของเพื่อนรักพอดี เขาจึงเอ่ยขึ้น “หวัดดีพิงค์ เมื่อกี้ผมจำไม่ได้ โทษทีนะ”

เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ “หวัดดีครับพี่ ตั้งแต่โดนจับตัดผมโกนหนวดมาก็ไม่ค่อยมีใครจำหน้าผมได้หรอกพี่ เดี๋ยวผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” พูดจบก็สาวเท้าฉับๆ เข้าห้องอาบน้ำไป

“วันนี้พิงค์ค้างด้วยเหรอ”

“อืม”

“ตัดผมซะจำไม่ได้เลยว่ะ”

“น่ารักดีใช่มะ” รวินท์ยิ้มน้อยๆ

เตชิตจ้องใบหน้าของเพื่อนรักเขม็ง หากก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาก้มลงกินข้าวในจานต่อไปเงียบๆ

ระหว่างที่รออีกฝ่ายกินข้าว รวินท์จึงพูดถึงทริปบนดอยของเขาฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ “กูเพิ่งเคยไปดอยอินทนน์ครั้งแรก แต่ขับรถขึ้นดอยสนุกดี น้ำตกก็สวย ต้นไม้ดอกไม้เยอะมาก”

“แล้วไปค้างที่ไหนวะ”

“ที่บ้านพักบนดอยเลยเว้ย กลางคืนหนาวฉิบหาย มืดมาก หลอนนิดๆ ด้วย แต่ตอนเช้าได้เห็นทะเลหมอกจึ๋งนึง” เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักกินเสร็จแล้วก็พูดต่อ “สนุกแต่เหนื่อยเหี้ยๆ เดินจนขาลาก นี่ขนาดกูหลับมาแทบตลอดทาง ยังเพลียๆ อยู่เลย มึงเองกลับมาเหนื่อยๆ รีบไปอาบน้ำนอนซะนะเว้ย เดี๋ยวกูจะอาบน้ำนอนแล้วเหมือนกัน” เป็นเชิงไล่อีกฝ่ายกลายๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นบิดตัวไปมา

เตชิตยังไม่อยากกลับห้องสักเท่าไหร่ แต่เพราะคิดว่ารวินท์คงจะเหนื่อยจริงๆ และตัวเขาเองก็เช่นกัน “เออ มึงพักเยอะๆ ก็แล้วกัน พรุ่งนี้จะได้มีแรงทำงาน”

“มึงก็เหมือนกัน” เมื่อทันตแพทย์ทั้งสองลุกขึ้น รวินท์ก็หยิบถุงชีสเค้กขึ้นมาพลางยิ้มบาง “ขอบใจนะเว้ย ฝันดี”

“อือ ฝันดีเว้ย อย่าลืมล็อกห้องด้วยล่ะ”

“เออๆ ไม่ลืมหรอก ใครจะกล้าขึ้นมาปล้นหอพักแพทย์วะ”

รวินท์เดินถือจานเข้าไปในครัว ล้างจานเสร็จจึงเดินไปล็อกกลอนประตู และปิดผ้าม่านหน้าต่างให้เรียบร้อย เมื่อหันหน้ากลับมาก็เห็นว่าเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องอาบน้ำพอดี คงจะรอให้เตชิตกลับไปก่อนค่อยออกมา เขาอมยิ้ม เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเด็กหนุ่มแล้วก็ต้องแซ็วสักหน่อย

“อาบน้ำนานชะมัด ขัดหนอนเหรอวะ”

“ไอ้พี่วิน! ใครจะมีอารมณ์ขัดตอนนี้วะ!”

“แปลว่าถ้าเป็นตอนอื่นขัดได้?”

“เออๆ ปกติก็ได้หมดแหละ ผมยังหนุ่มอยู่เว้ย” ภูพิงค์ขี้เกียจจะเถียง เขาเดินฉับๆ เข้าห้องนอนไป แต่แล้วก็โผล่หน้าออกมาอีกครั้งพร้อมกับส่งผ้าเช็ดตัวและชุดนอนให้เจ้าของห้อง “พี่ไปอาบน้ำเร็วๆ ดิ ผมจะนอนขัดหนอนรอพี่ไปพลางๆ”

ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะ เขาเดินไปรับผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนมาถือไว้ “ไปขัดที่ระเบียงเลยเว้ย ไม่ขึ้นเงาไม่ต้องกลับเข้ามานะ”

“ไม่เอาอะ หนาวตูด” เมื่อพูดจบก็ผลุบกลับเข้าไปในห้องนอน

รวินท์ส่ายหน้าไปมา หากก็คงรอยยิ้มไว้เช่นนั้นจนกระทั่งอาบน้ำเสร็จ


*~TBC~*


พี่น้องกำลังสวีต หมอเต้มาทีวงแตกเลยน้าาา 555555

ใครไปเที่ยวต่างจังหวัด อย่าลืมลองเคล็ดกันผีของพี่วินนะคะ ได้ผลเป็นไงมาเล่าให้ฮัสกี้ฟังบ้างน้า 55555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ แล้วก็สุขสันต์วันเด็กนะคะ (อยากแจก porn แต่ตอนที่ว่ายังอยู่อีกไกล 55555)



ปล.​ขอพูดถึงเรื่องกิจกรรมของสโมฯ ที่อาจจะทำให้หลายๆ คนไม่พอใจนะคะ จุดนี้ฮัสกี้จะรีไรต์ในต้นฉบับให้ซ็อฟต์ลงเล็กน้อย ให้ดูเป็นการขอร้องของทางสโมฯ มากกว่ายัดเยียดให้ค่ะ แต่อย่างหนึ่งที่คงเปลี่ยนไม่ได้ คือการที่ทางสโมฯ ขอแรงจากพี่วินมาช่วยเหลือในกิจกรรมต่างๆ (กิจกรรมคณะตามมหาลัยทั่วไปก็มีการขอให้คนดังๆ หรือดารานักร้องมาร่วมทำกิจกรรมการกุศลนะคะ ขอร้องว่าอย่ามองว่าคนในคณะทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ฮัสกี้ว่ามันเป็นไอเดียอย่างหนึ่งของการเรียกคนให้มาร่วมงานมากกว่านะคะ) และในมุมมองของฮัสกี้ จุดที่อยากเน้นตั้งแต่ในตอนแรกๆ ก็คือการที่พี่วินได้มาร่วมวิ่งขึ้นดอยกับน้องๆ วิศวะค่ะ นั่นทำให้พี่วินได้พบกับน้องพิงค์ ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะวิศวะ และน้องๆ ในคณะเองก็คิดว่าพี่วินเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาเช่นกัน แรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้มาจากการรับน้องขึ้นดอยของวิศวะมชค่ะ

ตัวพี่วินในเรื่องเอง ถึงแม้ตอนแรกจะตกกระไดพลอยโจนมาเข็นรถเข็นให้น้องวิศวะขึ้นดอยพร้อมกับเพื่อนๆ ได้ ที่จริงตรงนี้ไม่ใช่เพียงแค่เด็กๆ วิศวะในเรื่องที่ได้ประโยชน์ แต่พี่วินก็เช่นกัน พี่วินได้เห็นความสามัคคี ได้เห็นความรักกันของน้องๆ เป็นประสบการณ์ที่พี่วินเองก็ไม่เคยมีมาก่อน และจากการได้มาร่วมกิจกรรมหลายๆ อย่างของคณะ นั่นทำให้พี่วินได้ประสบการณ์ดีๆ (รวมถึงน้องพิงค์)กลับไปด้วยเช่นกัน อยากให้เปิดใจมองที่ตรงจุดนี้ด้วยค่ะ

สุดท้ายสิ่งที่สำคัญสุด การวิ่งขึ้นดอย กิจกรรมเพื่อชุมชนของคณะวิศวะ เป็นสิ่งที่ทำให้พี่วินและน้องพิงค์ค่อยๆ เข้ามาใกล้ชิดกัน ผูกพันกัน และจะมีกิจกรรมต่อไปอีกเรื่อยๆ ค่ะ จนเขารักกันนั่นล่ะ รักกันแล้วก็ยังมี เพราะมันเป็นจุดที่ฮัสกี้ใช้ดำเนินเรื่องค่ะ 555555

ปล.อีกที ฮัสกี้ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ ขอบคุณที่บอกกล่าวในส่วนที่ชอบหรือไม่ชอบในนิยายนะคะ ฮัสกี้รับฟังความคิดเห็นของทุกคนเสมอและจะพยายามปรับปรุงแก้ไขค่ะ แต่บางข้อความอ่านแล้วก็รู้สึกเจ็บและท้อได้เหมือนกันนะคะ ขอให้นึกถึงใจคนเขียนสักนิดนึง ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจเสมอมาค่ะ  :hao5:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2018 10:28:55 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
รู้สึกว่าความรักของสองคนนี้ มันค่อย ๆ โตอะ แต่รู้สึกว่าเรื่องเต วินต้องรีบ ๆ เคลียร์ เด้อ สงสารอะ

เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งค่ะ สู้ ๆ

ออฟไลน์ xkoxko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
งืออ ดีงามมากเลยค่ะ ทุกอย่างเลย อ่านไปยิ้มไป ฟินนนนน :katai2-1: อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าไวๆ อยากอ่านต่อแล้วง่าา :hao5:

ปล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ อย่าให้การคอมเม้นใดๆมาเปลี่ยนแปลงจุดมุ่งหมายแรกของการแต่งนิยายเลยค่ะ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนพึงพอใจได้ทั้งหมดหรอก เราชอบนิยายของคุณนะคะ ภาษา ไอเดีย การแต่ง มันเจ๋งมากเลยย สนุกมากกก สู้ๆนะคะ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2018 10:59:49 โดย xkoxko »

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
พัฒนา ไปแบบเรื่อย ๆ สินะ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ทำไมขำสองคนนี้คลอด  :m20:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
สองคนนี้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีค่ะ ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ ส่วนเรื่องเต้ ดูๆแล้วคงไม่น่าจะเป็นเพื่อรักหักเหลี่ยมโหด ถ้าหักหลังกันจริงคงไม่มาห่วงวินแบบนี้หรอกมั้ง

รอตอนต่อไปค่า



ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
มากกว่าความฟินเวลาที่อ่านหมอวินและพิ้งค์อยู่ด้วยกัน คืออยากรู้เรื่องหมอเต้กับหมอขวัญข้าว สรุปอะไรยังไง เก๊าไม่อยากให้หมอวินเสียใจเน้ออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด