ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 612399 ครั้ง)

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #960 เมื่อ21-01-2018 14:54:52 »

นี้ทำไมเรื่องเตเราตะหงิดจัง

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #961 เมื่อ21-01-2018 15:25:54 »

ภูพิงค์เป็นอะไรคะ อาการปกติเนาะ
แค่ไม่ได้เจอ แค่ได้ยินคนเมาท์ แค่คุยกันแล้วพี่วางสายใส่
แค่พี่ยังไม่รู้ว่าน้องมีซ้อมหนัก และโชว์ตัว

แต่พอรู้ว่าพี่ซื้อของกินฝากไว้ให้ คือ อาการของคนบ้าเนาะ 55555

หมอวินน่าสงสาร กะจะรอน้องไปกินข้าวด้วย
หงุดหงิดที่ไปกินคนเดียว เลยกินหนักมาก
และก็ห่วงน้องด้วย กลัวน้องหิว

งงงวยกันต่อไปค่ะ อาการของคนไม่รู้ตัว
ขนาดแซนดี้ยังรู้เลย เพื่อนๆ ยังดูออกเลย

แต่เคืองเต้ทำไม เต้แค่เป็นห่วง 5555
เต้รีบมาเคลียร์นะ จะดีจะร้ายก็รีบมา

ออฟไลน์ Trystan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #962 เมื่อ22-01-2018 23:38:41 »

วินลูกกกก กินเข้าไปได้ไง 4 จาน ไปบ้านแซนดี้ก็กินขนมอีก แซนดี้ไปซื้อของกินก็ตามไปซื้ออีก รู้กกกกกก อ้วนนนนนนนโว้ยยยยยยยยยย :hao7: :laugh:

ออฟไลน์ kiszy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #963 เมื่อ23-01-2018 07:45:01 »

งื่ออออออ พี่วิ๊นนนนนนนนนนนนนน สนใจน้องพิงค์โหน่ยยยยยยยย

น้องดังใหญ่แล้วนะตอนนี้ เดี๋ยวเสียใจซ้ำสองหรอกกก ฮึ...

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #964 เมื่อ23-01-2018 13:32:43 »

แซนดี้ช่วยน้องด้วยยยย

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #965 เมื่อ23-01-2018 17:05:07 »

ชูป้ายไฟ พิงค์วิน ค่าาาาาา
อย่าคว่ำเรือเราาาาา
น้องพิงค์ออกอาการได้น่ารักมากๆอะ
พี่หมอวินก้เริ่มๆอาการออกแล้วว

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #966 เมื่อ23-01-2018 19:35:18 »

แวะมาส่องพี่วินกะพิงค์

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 23 : ซ้อมหนัก][180118]
«ตอบ #967 เมื่อ24-01-2018 10:21:10 »



Chapter 24 : เมื่อใจขาดวิตามิน


เวลาผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ วันเสาร์วนเวียนมาอีกครั้ง และอาทิตย์หน้าจะเป็นวันงานประเพณียี่เป็งแล้ว งานขบวนกระทงใหญ่จะจัดขึ้นในวันอังคารที่กำลังจะมาถึง

รถที่จะใช้เป็นเวทีของภูพิงค์จัดแต่งไว้เสร็จเรียบร้อย มีการจัดการขาตั้งเอาไว้รองใต้เวทีตอนที่มีการแสดงเพื่อให้รับแรงกระแทกได้มากและลดการสั่นสะเทือน ส่วนกระทงใหญ่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็เป็นรูปเป็นร่างสวยงามแล้ว เหลือเพียงแค่ตกแต่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยและนำดอกไม้มาประดับเพิ่มบางส่วน พวกนักศึกษากำลังช่วยกันเย็บกระดาษซึ่งตัดเป็นกลีบดอกไม้ลงบนแบบอย่างขันแข็ง

ในส่วนของการแสดง พอพวกเขานำการฟ้อนเจิงเข้ามาซ้อมร่วมกับการตีกลองด้วยแล้ว ช่วงแรกๆ ก็มั่วกันน่าดู แต่ผ่านไปสักสองสามวันก็ลงตัวมากขึ้น เวลานี้ทุกคนย้ายกันมาฝึกซ้อมที่ลานกว้างของคณะ เพื่อที่จะได้ตั้งแถวแสดงกันอย่างในวันจริง

สำหรับขบวนกระทงใหญ่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่จะเข้าร่วมในวันงานนั้น นักแสดงจะร่วมเดินขบวนโชว์ตัวไปเฉยๆ ก่อน ภูพิงค์กับเพื่อนอีกสองคนบนรถที่ทำหน้าที่ถือกลองก็เช่นกัน จนกระทั่งไปหยุดที่ลานแสดงจึงจะจัดเตรียมเวทีชั่วคราว เริ่มฟ้อนและตีกลองกัน

เด็กหนุ่มมาซ้อมการแสดงกับเพื่อนๆ ในตอนบ่ายแก่ๆ เมื่อแดดร่มลมตกไปบ้าง เนื่องจากพวกเขาต้องแสดงกันข้างนอกอาคาร ซึ่งอากาศร้อนจนยืนเฉยๆ ตัวยังแทบจะลุกเป็นไฟ

พอถึงเวลาพัก แต่ละคนเหงื่อโซมกาย ภูพิงค์เดินอาดๆ ไปหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาซับเหงื่อ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เขาหงุดหงิด กระฟัดกระเฟียดอย่างบอกไม่ถูก วันสองวันมานี่ตีกลองอย่างบ้าคลั่งจนพ่อครูติแล้วติอีก

“ไอ้พิงค์ดูอาการหนักว่ะ ใกล้งานแล้วด้วย มันเครียดอะไรรึเปล่าวะ ตีกลองเหมือนจะนำทัพไปรบกับเกาหลีเหนือ” ดิวพูดขึ้นขณะทากาวเลื่อมติดลงบนกระทงใหญ่ไปด้วย

“มึงทำอะไรสักอย่างสิไอ้ซัน ก่อนไอ้ห่าพิงค์จะน็อกน้ำลายฟูมปากเพราะความบ้าพลังของมัน กูว่ามันเริ่มตาขวางแล้วนะเว้ย เดี๋ยววันจริงไม่มีคนตีกลองนะมึง” ขิงหันไปขู่

“พวกมึงจะให้กูทำไรอีกวะ ทั้งผ้าเย็น น้ำท่าอาหารกูก็เอามาประเคนให้มันแดกตลอด”

“สงสัยมันจะขาดยาใจเว้ย มันไม่ได้เจอพี่หมอมาจะสองอาทิตย์แล้วนี่” ดิวพูดทีเล่นทีจริง พลางหัวเราะร่วน

ซันขมวดคิ้ว งานนี้เขาอุตส่าห์ไม่หาเรื่องไปขอพี่หมอมาใช้งานเพราะเกรงใจ แล้วก็กลัวไอ้พิงค์จะเกรี้ยวกราดอีก แต่สงสัยรับงานคนเดียวจะเครียด เขาจึงจัดการโทรศัพท์ไปปรึกษากับแซนดี้ทันที


“กูว่านอกจากมันจะไม่ได้เจอพี่หมอแล้ว พี่หมอยังไม่สนใจเรื่องที่มันตีกลองด้วยเว้ย นั่นแหละประเด็น”

“อ๋ออออ!” ซันอ๋อเสียงดัง “อีแซนดี้ งั้นมึงช่วยหน่อยเถอะ ไปรับพี่หมอมาหาไอ้พิงค์ที มันทุรนทุราย หงุดหงิดงุ่นง่าน จะตีกลอง
แตกก่อนวันงานละ ตอนนี้พวกกูอยู่ตรงลานคณะเนี่ยแหละ”

“เออ ได้ เดี๋ยวกูไปดักฉุดหน้าคลินิก”

“ฝากเอาคลิปให้พี่หมอดูด้วยเว้ย”

“โอเค เดี๋ยวเจอกัน”

แซนดี้ปิดบ้าน ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปยังคลินิกทันที เมื่อไปถึงรวินท์ยังไม่เลิกงาน แต่เขาก็ถือโอกาสเข้าไปนั่งรอ แล้วคุยกับพี่นิ้งและตึ๋งรอไปพลางๆ

“รอก่อนนะแซนดี้ มีคนไข้อีกสองคนจ้ะ”

“รอได้ค่า”

รวินท์ได้ยินเสียงของแซนดี้แล้ว หากยังติดรักษาคนไข้อยู่ เขารอให้เสร็จก่อนจึงชะโงกหน้าออกมาทักทาย “ว่าไงแซนดี้ มาตรวจฟันเหรอ”

“เปล่าค่า แหม มาถึงพี่หมอก็ชวนทำเรื่องเสียวเลยนะ มาชวนพี่หมอไปดูผู้ชายต่างหากค่า”

ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะ “มีอะไรน่าดูอะ”

“น่าดูจริงๆ ไม่ครางอืออาให้พี่หมอตบเลยเอ้า”

“เออ งั้นเตรียมหน้าไว้ให้พร้อมเลยนะ” รวินท์พูดพร้อมกับถอยกลับเข้าห้องไปเพื่อเตรียมตัวทำการรักษาคนไข้คนใหม่ ระหว่างนั้นก็ฟังเสียงแซนดี้เม้ามอยกับตึ๋งและพี่นิ้งไปด้วย

ตึ๋งก้มหน้าทำการบ้านอยู่สักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้น “วันงานจะต้องไปจองที่รอดูพี่พิงค์รึเปล่าเนี่ย”

“นั่นสิ สาวๆ น่าจะเยอะมากด้วย ถ้าอยากเห็นใกล้ๆ ก็คงต้องไปรอแต่หัววัน แต่มันแสดงกี่โมงพี่ก็ไม่รู้อะ”

พี่นิ้งเข้ามาร่วมวงด้วยอย่างสนใจ “น้องพิงค์แสดงอะไรเหรอจ๊ะ”

“ที่ผมเอาให้แม่ดูไง”

“อ๋อ! ตีกลองสะบัดชัยน่ะเหรอ โหย เท่มากเลยนะ แม่ไปด้วยๆ งานนี้ไม่พลาด”

รวินท์เงี่ยหูฟังการสนทนาไป ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง รู้แต่พิงค์แสดงอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ เพราะเขาต้องใช้สมาธิเวลากรอฟันคนไข้

นั่งรออีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงเวลาเลิกงาน ทันตแพทย์หนุ่มเดินไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงเดินออกมาหาคนที่นั่งรออยู่

ตึ๋งร้องทัก “พี่หมอเห็นคลิปตีกลองของพี่พิงค์ยังครับ”

“หือ? ตีกลองอะไร ยังไม่เห็นเลย”

“มาดูๆ อื้อหือมากๆ” เด็กหนุ่มกวักมือเรียกให้เข้าไปหา พลางส่งโทรศัพท์มือถือให้

รวินท์ก้มหน้าลงมองอย่างสนใจ เมื่อได้เห็นคลิปก็เลิกคิ้วขึ้น สีหน้าสดใสขึ้นทันควัน พร้อมกับมีรอยยิ้มจุดขึ้นตรงมุมปาก “โอ้โห!”

“เท่เนอะ!”

“ไม่น่าเชื่อว่าพิงค์ก็ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย นี่คลิปคนอื่นแล้วเอาหัวพิงค์มาต่อเฉยๆ รึเปล่าเนี่ย!”

“โห มันซ้อมหนักมาสามอาทิตย์แล้วพี่หมอ!” แซนดี้รู้สึกสะเทือนใจแทนเพื่อนจริงๆ

“ไม่เห็นเขาบอกผมเลยอ่ะ”

“คงอยากเซอร์ไพรส์พี่หมอมั้ง พี่หมอเสร็จแล้วใช่มั้ยอะ จะไปกันยัง” แซนดี้ลุกขึ้นพรวด แล้วจูงมือทันตแพทย์หนุ่มให้เดินตามมาด้วย

“จะไปไหนเหรอ” ถึงจะถามเช่นนั้นแต่ก็เดินตามมือที่จูงไปเรื่อยๆ

สองหนุ่มเดินออกจากคลินิก ตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ พอแซนดี้ขึ้นนั่ง เขาจึงหันไปตอบ “ผมก็จะพาพี่หมอไปดูไอ้พิงค์ซ้อมน่ะสิ”

รวินท์ยิ้มกว้าง “จริงอะ ไปดูได้เหรอ!”

“แขกกิตติมศักดิ์ไง”

“ขนาดนั้นเชียว” รวินท์รับหมวกกันน็อกมาใส่ แล้วก้าวขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายอีกฝ่าย จากนั้นมอเตอร์ไซค์ก็เคลื่อนออกไป


เมื่อเข้าใกล้คณะวิศวกรรมศาสตร์ เสียงดนตรีก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลให้ทันตแพทย์หนุ่มตื่นเต้นจนนั่งไม่อยู่สุข เขาจับไหล่คนข้างหน้าเขย่า “ขี่เร็วๆ หน่อยดิ๊แซนดี้”

“โห นี่มันในมหาลัยเว้ยพี่หมอ”

“เดี๋ยวเพลงจบก็อดดูหรอก”

“แหม เขาไม่ได้ซ้อมทีเดียวหรอกน่า”

ในที่สุดแซนดี้ก็ขี่รถเข้าไปจอด จากนั้นเขาก็โทรศัพท์เรียกให้ไอ้ซันมาพาเข้าไป ระดับเขานี่ยิ่งกว่าวีไอพี จะไม่เดินเข้าไปเองเด็ดขาด

สักพักซันก็วิ่งหูตูบออกมาพาทั้งสองคนเดินไปยังสถานที่ซ้อม หากพอไปถึงเสียงเพลงก็จบลงพอดี ตามมาด้วยเสียงเทศน์บทใหญ่ของพ่อครู

“พิงค์เป็นอะไรเนี่ย ทำไมไม่มีสมาธิเลยฮะ ตีกลองผิดจังหวะแล้วยังลืมท่าอีก อีกไม่กี่วันก็จะงานจริงแล้ว ตั้งใจหน่อย!”

“ขอโทษครับ ผมเหนื่อยไปหน่อย อากาศมันร้อน”

พ่อครูพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “ไปนั่งพักก่อนไป สิบนาทีพอนะ”

“ขอบคุณครับ” ภูพิงค์ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเท่าเข่า แต่เพราะอากาศที่ร้อนมากทำให้ตัวเสื้อชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาเดินดุ่มๆ มาดื่มน้ำเย็นๆ ที่ทางสโมฯ เตรียมไว้ให้เพื่อเอาใจ หยิบผ้าขนหนูเดินฉับๆ ไปนั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ตามลำพัง

ระหว่างที่นั่งพักไปก็ทำท่าตีพร้อมท่องจังหวะไปด้วย “หนึ่ง สอง สาม สี่ หนึ่ง สอง สาม สี่... ห้า หก...”


รวินท์ ซันและแซนดี้ยืนมองอยู่ห่างๆ พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่าท่าทางของภูพิงค์ตอนนี้ดูไม่น่าเข้าใกล้สักเท่าไหร่ อาจจะถูกฟาดงวงฟาดงาตามด้วยจระเข้ฟาดหางได้

“พี่หมอไม่ไปหาไอ้พิงค์หน่อยอะครับ” ซันขยับเข้าไปกระแซะ

“เหย จะดีเหรอ เขาดูเครียดว่ะ ถ้าผมเข้าไปหาจะโดนกัดหัวขาดมั้ยวะ”

“พี่ไม่โดนหรอกน่ะ เชื่อผม”

“ไม่เชื่อเว้ย ผมก็กลัวเหมือนกันนะ ไม่เคยเห็นเขาทำท่าทางฮึดฮัดแบบนี้มาก่อนเลยอะ”

“โห พี่หมอ ยังไงไอ้พิงค์มันก็กลัวหมอฟันจะตาย มันไม่กล้าทำอะไรพี่หรอก อีกอย่างนะพี่ สงสารมันเถอะ ตอนนี้มีพี่คนเดียวนี่แหละที่จะช่วยมันได้ นี่ๆ เอาน้ำเย็นๆ กับผ้าเย็นไปให้มันหน่อย”

รวินท์หรี่ตามอง “อย่าเว่อร์ๆ จะถ่ายรูปหรือถ่ายคลิปล่ะคราวนี้”

“ไม่ถ่ายหรอกพี่ ตากล้องไม่อยู่เว้ย นี่พวกผมห่วงมันจริงๆ นะ ถึงได้ส่งอีแซนดี้ไปจกพี่มาจากคลินิกเนี่ย”

แซนดี้ช่วยกล่อม “เชื่อพวกผมดิ ไอ้พิงค์ไม่พาลใส่พี่หรอก แต่เดี๋ยวมันมีแรงตะบี้ตะบันตีกลองแน่นอน ถ้าไม่เป็นอย่างที่พวกผมพูดนะ พวกผมจะยอมเลี้ยงข้าวพี่หมอที่ดาราเทวีสิบมื้อติดเลยเอ้า”

“พูดแล้วนะเว้ย” ด้วยความเห็นแก่กินทันตแพทย์หนุ่มจึงเอื้อมมือไปรับน้ำกับผ้าเย็นจากซันมาถือไว้ เขาหันมองไปทางที่ภูพิงค์นั่งอยู่พลางถอนหายใจ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะเสี่ยงเพื่อของกินไปทำไมกันวะ

รวินท์เดินดุ่มๆ ตรงไปยังม้านั่ง หากยังไม่ทันจะถึงก็ตีโค้งเพราะความป๊อด เข้าข้างหน้ามันยาก เขาเปลี่ยนเป็นเข้าข้างหลังน่าจะดีกว่า ยิ่งเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มมากเท่าไหร่ เสียงฝีเท้าของเขาก็ยิ่งเบาลง จนแทบจะกลายเป็นย่องอยู่แล้ว


“หนึ่ง สอง สาม สี่ หนึ่ง สอง สาม สี่... ห้า หก...” เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ได้สนหินสนแดดใดๆ ทั้งสิ้น ใจเขาจดจ่ออยู่กับการท่องจังหวะและทำท่าทางประกอบ

ทันตแพทย์หนุ่มเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังคนอ่อนวัยกว่าแล้ว ท่าทางตั้งอกตั้งใจของอีกฝ่ายดูน่ารักดี เขาหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย ทว่ายังไม่กล้าทัก ต้องหันไปเรียกกำลังใจจากซันและแซนดี้ก่อน

ทั้งสองคนชูนิ้วโป้งขึ้นทั้งสองมือ พร้อมกับทำปากบอกให้ลุย

เอาวะ! ลุยก็ลุย! อย่างน้อยเขาก็แก่กว่า เป็นหมอฟันด้วย พิงค์คงจะยั้งมือกับเขาบ้างล่ะวะ


“เวลาพักก็พักสิ กินน้ำให้ใจเย็นๆ ก่อน” รวินท์พูดพลางใช้ขวดน้ำเย็นๆ แตะลงบนแก้มคนที่นั่งอยู่อย่างแผ่วเบา

น้ำเสียงคุ้นหูแว่วเข้ามาในโสตประสาท ภูพิงค์หันขวับไปทางด้านหลังทันที “พี่วิน” เขายิ้มกว้างอย่างลืมตัว “มาได้ไงวะเนี่ย”

“แรงคิดถึงไง”

“โห มาถึงก็โปรยเลยว่ะ”

รวินท์หัวเราะ โล่งอกไปนิดที่ไม่โดนด่า “นั่งด้วยได้ป่ะวะ รบกวนรึเปล่า”

“ไม่กวนหรอก นั่งเลย”

ใบหน้าหล่อเหลาของทันตแพทย์หนุ่มยังฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มละมุน เขาหย่อนก้นนั่ง แกะขวดน้ำแล้วส่งให้อีกฝ่าย “เอ้า ดื่มน้ำหน่อย จะได้ใจเย็นๆ”

ภูพิงค์รับขวดน้ำมาพลางทำหน้ายู่ “พี่มาตอนผมโดนพ่อครูเทศน์พอดี ทีไอ้ตอนดีๆ ไม่ยอมดู”

“ตอนดีๆ แบบในคลิปน่ะเหรอ”

ภูพิงค์เลิกคิ้วขึ้น “ดูแล้วเหรอ”

“อือ ดูเมื่อกี้ ช้ากว่าชาวบ้านไปหลายศตวรรษอยู่”

“เออ ช้าจริงๆ นั่นล่ะ ที่โรงบาลอินเทอร์เน็ตยังเข้าไม่ถึงเหรอวะพี่”

“โห ก็ผมต้องทำงานป่ะวะ เย็นๆ ก็เหนื่อยจะตาย พอกลับห้องได้ก็อาบน้ำนอนแล้ว”

“อาบน้ำหรือเสียน้ำวะ เหนื่อยอะไรมากมาย”

รวินท์อมยิ้มพลางส่ายหน้าไปมา เขาเอื้อมมือไปตบไหล่เด็กหนุ่มหนักๆ แทนตบกบาล “ต่อไปจะเข้าเฟซให้บ่อยขึ้นนะ”

คนอ่อนวัยกว่าทำท่างอน เขาหันไปยกขวดน้ำดื่มโดยไม่พูดอะไรต่อ

ทันตแพทย์หนุ่มจึงก้มลงแกะห่อผ้าเย็น จากนั้นก็เอื้อมไปเช็ดเหงื่อให้ “ดูในคลิป ท่าตีกลองยากน่าดู แต่เท่มากๆ ผมไม่เคยเห็นการตีกลองสะบัดชัยของจริงมาก่อนเลย”

“ก็ไม่ยากเท่าไหร่หรอก ผมเคยเรียนมาแล้ว” ภูพิงค์ยกมือขึ้นเกาปลายจมูก ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนมือไปจับมือที่ถือผ้าเย็นซับเหงื่อตัวเองอยู่

“ผ้าเย็นไปรึเปล่าอะ”

“เปล่า” คนอ่อนวัยกว่ายื่นหน้าเข้าไปหาอีกฝ่าย “เช็ดข้างนี้ด้วยดิ”

“เอ้า ง่อยซะละ”

“ก็ใช้พลังแขนไปเยอะอะ เมื่อยไปหมดเลยเนี่ย ไม่อยากขยับเลย”

“เออๆ นั่งนิ่งๆ เดี๋ยวเช็ดให้” รวินท์พลิกผ้าแล้วเอาอีกด้านเช็ดใบหน้าอีกฝั่งให้ “วันนี้ซ้อมถึงกี่โมง”

“คงไม่ดึกหรอกพี่ รอได้ป่ะล่ะ ไปกินข้าวกัน”

“หิวอ่ะ... แต่รอก็ได้”

“กินหนมรองท้องไปก่อนได้ป่ะ”

ภูพิงค์ลุกขึ้นพรวด ทั้งที่ตัวเองเพิ่งพูดเมื่อครู่ว่าเมื่อยแสนเมื่อย เขาวิ่งไปหยิบขนมกับน้ำที่สโมฯ เตรียมไว้ให้ตนเองมาให้ทันตแพทย์หนุ่ม “เอ้า รองท้อง”

“แล้วคุณกินอะไรรึยัง”

“กินไปนิดหน่อยแล้วพี่ เดี๋ยวผมไปซ้อมต่อละ”

“อือ ใจเย็นๆ นะเว้ย อย่าเครียด”

“ไม่เครียดแล้วน่ะ” สีหน้าของเด็กหนุ่มสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาวิ่งตรงเข้าไปในวงซ้อมโดยไม่สนใจสายตาเพื่อนๆ ที่ส่งมาทิ่มแทงด้วยความหมั่นไส้

ฝ่ายรวินท์ก็นั่งกินขนมไปก่อนนิดหน่อย จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาแซนดี้กับซัน “ผมไปดูเขาซ้อมกันใกล้ๆ ได้มั้ย”

“ได้ดิพี่ ปะๆ ผมพาไปเชียร์ขอบสนามเลย”

“จะตีกลองหรือจะต่อยมวยกันแน่เนี่ย”

“ตีกลองสะบัดชัยมันก็รวมๆ การตีกลองไว้กับศิลปะการต่อสู้แหละพี่” ซันอธิบายอย่างเป็นการเป็นงาน “อะ เริ่มแล้ว”

เสียงเครื่องดนตรีให้จังหวะดังขึ้น กลุ่มนักศึกษาสาวที่จะฟ้อนเจิงตั้งท่าเตรียมรอเสียงสัญญาณจากกลอง ภูพิงค์เริ่มต้นด้วยการรำไหว้ครูและทำความเคารพกลองสะบัดชัย จับไม้ตีขึ้นฟ้อนในท่วงท่าคล้ายกับฟ้อนดาบ แล้วจึงสะบัดข้อมือเล็กน้อยให้หัวไม้ตีลงบนแผ่นหนังหน้ากลองเพื่อให้สัญญาณ ก่อนจะเริ่มตีไปตามจังหวะของกลองสะบัดชัย ไปพร้อมๆ กับการฟ้อนรำ

ท่วงท่าการตีของเด็กหนุ่มดูแข็งขัน ทว่าก็มีความอ่อนช้อยของศิลปะแฝงไว้ด้วยเล็กน้อยในคราวเดียวกัน ครั้งนี้เขาทำได้ดีกว่าทุกที ไม่ว่าจะเป็นการขยับร่างกาย การนับจังหวะหรือการขยับข้อมือก็สัมพันธ์กันไปหมดทุกส่วน

รวินท์เบิกตากว้าง “โอ้โห! ไม่น่าเชื่อ! เก่งกว่าที่คิดไว้อีก” สายตาของทันตแพทย์หนุ่มจับจ้องคนอ่อนวัยกว่านิ่ง ใจเขาจดจ่ออยู่กับการแสดงจนไม่ได้สังเกตว่าแซนดี้กำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปตนขณะดูการแสดงของเด็กหนุ่มไว้

ซันยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้แซนดี้ จากนั้นจึงพูดขึ้น “สุดยอดไปเลยเนอะพี่ ไอ้พิงค์แม่งโคตรเท่”

“อืม เท่สุดๆ ไปเลย อย่างกะคนละคน” ทันตแพทย์หนุ่มตอบไปโดยที่สายตาไม่เคลื่อนไปจากภูพิงค์เลยสักนิด

“วันแสดงจริงจะมาดูมั้ยพี่ เนี่ย ใส่ชุดแสดงจริงแล้วจะยิ่งเท่ขึ้นไปอีกสิบเท่าเลยนา”

“มาสิ แสดงวันไหน”

“วันอังคารครับ มานะ”

“อือ”

“สัญญาแล้วนะ”

“อื้อ ต้องมาแน่” บนใบหน้าหล่อเหลายังคงมีรอยยิ้มค้างไว้ การแสดงดำเนินไปจนครึ่งทางแล้วเขาถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ รีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมากดอัดคลิปไว้บ้าง

จังหวะในการตีกลองเร่งเร็วขึ้นเมื่อมาถึงช่วงท้ายของการแสดง ภูพิงค์ต้องใช้สมาธิและพลังในช่วงนี้มากที่สุด เพราะต้องตีกลองด้วยไม้ตีสลับกับใช้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายโดยไม่ให้หลุดจากจังหวะ ทำให้คนที่มองดูอยู่ลุ้นไปด้วยจนมือเย็นเฉียบ เสียงพูดคุยในบริเวณนั้นเงียบกริบลง มีเพียงเสียงกลอง โหม่งและฆ้องดังก้องกังวาน

เมื่อเด็กหนุ่มสะบัดข้อมือตีกลองในจังหวะสุดท้าย รวินท์ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาได้ยินเสียงคนในบริเวณนั้นถอนหายใจไปพร้อมๆ กับตัวเขาหลายคน ก่อนทุกคนจะพร้อมใจกันวางของในมือลงแล้วตบมือกับผิวปากเสียงดังลั่น

“โอ้โห ตั้งแต่ดูมันซ้อมมาก็มีครั้งนี้นี่แหละ ที่แม่งเท่สุดๆ กูลุ้นเยี่ยวแทบเล็ดเลย!” ซันอุทานออกมาอย่างลืมตัว พอหันไปสบสายตากับทันตแพทย์หนุ่มก็หัวเราะแหะๆ “โทษทีครับพี่หมอ ผมหมายถึงลุ้นมากๆ คือเมื่อก่อนก็ลุ้นนะครับ แต่ลุ้นให้แม่งตีได้จนจบเพลงโดยไม่มีจังหวะหลุด หรือโดนพ่อครูว่า”

แซนดี้ขยับเข้ามากระแซะ “ไม่รู้มันได้พลังมาจากที่ไหนเยอะแยะเนอะพี่หมอ”

รวินท์ยังไม่ทันได้พูดอะไร คนที่ถูกกล่าวถึงก็เดินเหงื่อชุ่มตรงเข้ามาหา

“ได้ดูผมตีเมื่อกี้รึเปล่า”

“ดูสิ ดูทั้งเพลงเลย เจ๋งโคตรๆ” ทันตแพทย์หนุ่มยกนิ้วโป้งชี้กลางนางก้อยขึ้นให้หมดทุกนิ้ว ถ้าหากเขายกนิ้วตีนได้ก็คงทำไปแล้วเนี่ย

พอได้ยินคำชมก็ยิ้มหน้าบาน เขาหันไปทางซันกับแซนดี้ “เอาน้ำกับผ้าขนหนูให้หน่อยดิ”

“สัส” ทั้งโดนจิกหัวใช้และไล่ให้พ้นทางเลยพวกกู ทั้งคู่พึมพำเบาๆ

ภูพิงค์ยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า “พ่อครูบอกซ้อมอีกสักสองสามรอบก็พอได้”

“พ่อครูคงกลัวว่าครั้งนี้คุณฟลุ๊คตีดีน่ะสิ” รวินท์ชี้ไปที่ม้านั่งพลางเดินนำออกไป “ไปนั่งกัน”

เด็กหนุ่มเดินตามไปต้อยๆ จากนั้นจึงนั่งลงบนม้านั่งด้วยกันกับอีกฝ่าย เขาชำเลืองมองทันตแพทย์หนุ่มแล้วยกมือขึ้นเกาปลายจมูก “พี่วิน พรุ่งนี้เย็นมีเปิดงานยี่เป็งที่ประตูท่าแพนะ”

“อือ แต่คุณแสดงวันอังคารไม่ใช่เหรอ”

“โวะ รู้ด้วย”

“ซันบอกเมื่อกี้”

“พี่จะมาดูมั้ยอะ”

“มาดิ”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “งั้นเดี๋ยวผมแสดงเสร็จแล้วจะพาไปลอยโคม เอาปะ”

รวินท์เลิกคิ้วขึ้น “ผมนึกว่าเขาไม่ให้ลอยกันแล้วซะอีก”

“ลอยได้พี่ แต่เฉพาะสถานที่ แล้วก็ในช่วงวันและเวลาที่กำหนดเท่านั้น”

“เอาสิ ไปๆ แต่กว่าจะเลิกคงดึกใช่มั้ย ผมคงขับรถกลับลำพูนไม่ไหวแหง”

“มีที่นอนรึเปล่าอ่ะ”

“มีสิ ก็ที่คลินิกไง”

“งั้นก็ดี” คนอ่อนวัยกว่าตบมือลงบนหน้าตักอีกฝ่ายเบาๆ “สัญญาแล้วนะ”

“อือ”


ซันและแซนดี้ยืนเบะปากอยู่ห่างๆ เห็นบรรยากาศกำลังดี๊ดี พวกเขาก็ไม่อยากจะเข้าไปรบกวน แต่เดี๋ยวไอ้พิงค์มันต้องซ้อมต่อ ควรจะดื่มอะไรสักหน่อยก่อนจะน้ำหมดตัวตาย พวกเขาจึงจำใจต้องเดินเข้าไปขัด

“เอ้า น้ำกับผ้าขนหนู”

“ขอบใจเว้ย” ภูพิงค์หันไปรับขวดน้ำมายกขึ้นดื่ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปบนพื้นหญ้า เขายกขวดน้ำขึ้นราดลงบนศีรษะ สะบัดไปมา แล้วจึงใช้ผ้าขนหนูซับทั้งน้ำและเหงื่อไปด้วยกัน

หลังจากนั่งพักไปอีกชั่วครู่ เด็กหนุ่มก็เดินกลับไปซ้อมต่อ ส่วนซันขอตัวไปช่วยดูแลกระทงใหญ่ ที่ตรงนั้นจึงเหลือทันตแพทย์หนุ่มกับแซนดี้เท่านั้น พวกเขายืนมองการฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพ่อครูบอกให้พอได้

เนื้อตัวของภูพิงค์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เส้นผมบนศีรษะลีบลงตามทรงของกรอบหน้า มีเม็ดเหงื่อหยดลงมาเป็นระยะ เขาหอบเบาๆ ขณะที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ “ขอพักแป๊บ”

รวินท์นั่งลงข้างกัน “คนที่มีแรงอย่างกับช้างสารก็เหนื่อยเป็นด้วยแฮะ”

“โห ผมว่าตีกลองขนาดนั้น ถ้าไม่เหนื่อยผมก็ไม่ใช่คนแล้วแหละพี่”

“กลับบ้านไปอาบน้ำก่อนค่อยออกมาหาอะไรกินดีมั้ย”

“พี่หิวไม่ใช่เหรอ”

“ก็กินขนมรองท้องไปแล้ว ผมรอได้ คุณจะได้สบายตัวขึ้นด้วย” ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาหยิบผ้าขนหนูขึ้นเช็ดเหงื่อบนศีรษะคนอ่อนวัยกว่าให้ พลางหันไปถามแซนดี้ “เดี๋ยวไปกินอะไรกันดี”

แซนดี้สบสายตากับภูพิงค์แวบหนึ่ง ไม่ต้องรอให้เพื่อนรักอ้าปากก็เห็นไปถึงไส้อ่อน เขากลอกตามองบน เบ้ปากเล็กน้อยแล้วจึงค่อยตอบ “มอไซค์มีคันเดียวอะพี่ พี่ขี่ไปกับไอ้พิงค์ละกัน เดี๋ยวผมกลับรถกับไอ้ซัน ไอ้ดิว ไอ้ขิง แล้วค่อยไปกินกับพวกมัน”

“ไม่หิวเหรอ”

“เมื่อเย็นกินไปแล้วนิดนึงน่ะพี่”

รวินท์พยักหน้าหงึกหงัก “อือ โอเค”

“ผมไปหาไอ้ซันก่อนนะ” แซนดี้ปลีกตัวไปอย่างรู้หน้าที่ เขาหันไปทางเพื่อนสนิท “เอ้า กุญแจ มอไซค์จอดอยู่หน้าตึก แล้วคืนนี้เจอกันเว้ย”

“เออ ขอบใจ”

แหม ยิ้มหน้าบานกว่าฝาโอ่งหลังบ้านอีก หมั่นไส้เว้ย! เขาล่ะสงสัยจริงๆ ว่าไอ้พี่หมอกับไอ้พิงค์รู้ตัวกันบ้างมั้ยเนี่ย!

หลังจากแซนดี้เดินจากไป สองหนุ่มก็นั่งบนเก้าอี้ต่อไปอีกพักหนึ่ง จากนั้นภูพิงค์จึงลุกขึ้น “เดี๋ยวไปเอาของในห้องสโมฯ แป๊บนะพี่ จะไปด้วยกันป่ะ”

“ไปดิ อยากเห็นข้างในตึกเรียน”

ระหว่างทางที่เดินไป ภูพิงค์ก็ชี้ให้อีกฝ่ายดูไปด้วย “นั่นห้องชอป ขึ้นบันไดไปจะเจอห้องเล็กเชอร์ ห้องที่ผมใช้ประจำอยู่ที่ชั้นสองห้องนึง ชั้นสามอีกห้อง แล้วก็มีที่ตึกข้างๆ...” เมื่อถึงห้องสโมฯ หยิบของแล้วก็พากันเดินลง จากนั้นทั้งสองก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังบ้านเช่าของภูพิงค์

รวินท์นั่งรอให้อีกฝ่ายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่นานเด็กหนุ่มก็ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นแค่เข่าเดินยิ้มแป้นออกมา

“ปะ ไปกินกันให้ท้องแตกเลยพี่ ผมใส่กางเกงเอวยางยืดเลยนะเนี่ย กินได้ไม่อั้น”

“โห ผมใส่ยีนอะ เสียเปรียบว่ะ!” ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะ

พวกเขาไปนั่งกินราดหน้าด้วยกันในร้านแถวๆ หลังมหาวิทยาลัยนั่นล่ะ ทำให้คนอ่อนวัยกว่าได้เห็นว่าทันตแพทย์หนุ่มอดทนหิวรอเวลาที่จะได้ออกมากินอาหารกับเขามากแค่ไหน อีกฝ่ายสั่งก๋วยเตี๋ยวมารัวๆ ทั้งราดหน้า ผัดซีอิ้ว ผัดขี้เมา ลามไปถึงบะหมี่หมูแดงจากร้านข้างๆ

“ท่าพี่วินจะหิวมาก ขนาดนั่งเฉยๆ นะเนี่ย ถ้าต้องมาตีกลองแบบผมพี่คงกินวัวเป็นตัวๆ กับข้าวอีกสักยุ้ง”

“จริงๆ อยากกินข้าวเหนียวหมูทอดด้วย นี่ยังเกรงใจ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ผมชินแล้ว” ภูพิงค์หัวเราะพลางเอื้อมมือไปลูบศีรษะอีกฝ่าย “ไม่ได้เห็นพี่มาสองอาทิตย์ แต่พี่ยังกินได้เหมือนในท้องเป็นหลุมดำแบบนี้ผมก็สบายใจ”

รวินท์ส่งสายตาดุๆ ใส่ “เล่นหัวผู้ใหญ่เหรอวะ ลามปามว่ะ”

“ผู้ใหญ่หรือกำนัน”

“มุกโคตรเชย”

“หมายถึงลุงอะเหรอ”

“เรียกคนอื่นเป็นลุง เวลาส่องกระจกไม่อายตัวเองบ้างเรอะ”

“โห วันก่อนยังชมว่าผมแบ๊วน่ารักอยู่เลยอะ”

“ถ้าไม่เปิดปากก็น่ารักอยู่หรอก”

เสียงโทรศัพท์มือถือของทันตแพทย์หนุ่มดังขึ้น เขาหยิบจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู ปิดเสียงแล้วใส่กลับเข้าไปด้วยสีหน้าเซ็งๆ

“พี่เต้อีกแล้วอะดิ”

“เออ” รวินท์ส่ายหน้าไปมาพลางพ่นลมหายใจออกหนักๆ “จะด่าแม่งก็... มันอุตส่าห์ห่วง” นัยน์ตาของเขาสลดลง ปัญหาของเขากับเตชิตยังคงค้างคาอยู่ในใจ แม้ว่าเขาจะพยายามวางตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตามที

หากการที่เขาต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายทุกวันโดยที่ไม่รู้สึกสนิทใจเหมือนก่อน มันอึดอัดสิ้นดีเลย

คนอ่อนวัยกว่าเลื่อนมือลงไปโอบไหล่ทันตแพทย์หนุ่มแล้วเขย่าเบาๆ “อย่าทำหน้าเหมือนปวดขี้แต่ขี้ไม่ออกแบบนี้ดิพี่ เดี๋ยวหน้า
ยิ่งแก่นะ กินกันต่อดีกว่า กินหนมหวานบ้างดีมะ”

ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มบาง เขายกมือขึ้นกุมมือที่วางอยู่บนหัวไหล่ ภูพิงค์นี่เหมือนเป็นโอเอซิสที่พักใจของเขาจริงๆ นะ แค่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น “กินหวานๆ แล้วไอ้ที่อยู่ในปากคุณจะไม่ยิ่งดุรึไง”

“โห พี่วินจะทำฟาร์มหมาแข่งกับผมละ ไม่ได้ๆ ต้องรีบทำคะแนน”

รวินท์รีบเอามือปิดปากเด็กหนุ่มไว้ทันที “พอๆ ยังไงผมก็ยังห่างคุณหลายขุมเว้ย”

ภูพิงค์หัวเราะ ก่อนจะลุกไปสั่งขนมหวานใส่ถ้วยมานั่งกินด้วยกันต่อ กินไปคุยไปจนจวนเจียนจะเที่ยงคืนอยู่รอมร่อ พวกเขาจึงลุกออกจากร้าน

ขณะที่เดินกลับไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ ทันตแพทย์หนุ่มก็ยืดแขนขึ้นบิดขี้เกียจ “อิ่มชะมัด”

เด็กหนุ่มหันไปมอง เห็นรอยยิ้มสดใสของอีกฝ่ายก็พลอยยิ้มตามไปด้วย เขายืดแขนบิดขี้เกียจบ้าง แล้วเนียนวางแขนลงโอบไหล่ทันตแพทย์หนุ่ม “พี่วิน ผมไปค้างด้วยดิ อยากนอนห้องแอร์อะ”

“หืม คิดถึงผมมากเรอะ ถึงกับไม่อยากกลับบ้านกลับช่องเลยนะเนี่ย”

“อือ คิดถึงม้ากมาก แล้วร้อนมากด้วย” ภูพิงค์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ “นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะได้ไปกินโจ๊กกัน”

รวินท์ชำเลืองมองใบหน้าที่อยู่ห่างออกไปแค่คืบเท่านั้น เขากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เออ”


หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สองหนุ่มก็เอนหลังลงนอนข้างกันบนเตียงที่แคบจนหัวไหล่เกยกัน ใบหน้าของพวกเขาเปื้อนรอยยิ้ม เมื่อปิดไฟ บอกราตรีสวัสดิ์กันแล้วต่างคนก็ต่างนอน

ภายในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นเฉียบ แต่แค่นอนเฉยๆ ข้างกันในผ้าห่มผืนบางผืนเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจได้อย่างน่าประหลาด


*TBC*


/มาแหมมมมมยาวๆ ใส่น้องพิงค์และพี่วินไปพร้อมๆ กันค่ะ

อิเด็กติดพี่!!!

ตอนหน้าน้องพิงค์จะได้ตีกลองออกงานแว้วคร่าาา

พอได้เห็นน้องพิงค์แต่งตัวหล่อออกงานจริงๆ แล้ว พี่วินจะว่ายังไงบ้างน้าาาา~  :o8:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ เยิฟๆ  :mew1:

ปล. เห็นมีหลายคนสงสัย ชื่อของพิงค์ มาจากภูพิงค์ เพราะงั้นอ่านว่า พิง นะก๊ะ ตอนแรกจะให้ชื่อภู แต่มีคนใช้เยอะแล้วอ่าาา 555555


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2018 06:44:53 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
แหมมมมมมมมมมมมม  :pigha2: หมั่นนนนนนนนนน  :เหอะ1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yozz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮือออ ใจหมอวินกับภูพิงค์ขาดวิตามิน แต่ใจอิฉันขาดเลือดค่ะ
โถ่ลูกพอไม่เจอเขาก็หงุดหงิดงุ่นง่าน พอเจอปุ๊บนี่อย่างกับคนละคน
ซัน และแซนดี้ทำดีมากค่ะ ส่วนหมอเต้นั้น.....

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
เมื่อไหร่เขาจะรู้ตัวว

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แหมมมมมมม อยากจะแหมไปนอกจักรวาล พอพี่หมอมาหานี่ร่าเริงเชียวนะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อยากจะแม้ยาวๆ ให้คนน้อง  :hao7:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
กำลังใจมาแล้วหน้าบานเลยนะพิงค์

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อื้อหืออออ อารมณ์ดีขึ้นผิดหูผิดหาเลยนะน้องพิงค์ แค่พี่หมอมาหาแค่นี้ อาการหนักเนาะ555555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ออกอาการขนาดนี้เมื่อไหร่จะรู้ตัวรู้ใจกันซะที

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พิงกับพี่วินกำลังพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ แต่เพื่อนพี่วินนี่แหละที่คาใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ somuch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมม //เบะปากมองบนตามแซนดี้

เยอะจริงๆค่ะน้องพิงค์ แต่เนื่องจากน้องเป็นความหวังฝ่ายรุกของหมู่บ้าน พี่จะไม่เบะปากรัวๆ แค่จะแอบๆเอานะคะ

น่ารักค่ะน่ารัก พี่วินไม่เท่าไหร่ แต่อาการน้องพิงค์นี่ออกสุด มองมาจากดาวอังคารยังรู้อ่ะ!

รอตอนหน้าค่ะ~~

//ปักธงพิงค์วินพร้อมแอบเบะปาก

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
แหมมมมมมมมมมมมมม~~ กำลังใจมาหาถึงที่ หมั่นจ้าหมั่น :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2018 13:35:37 โดย utamon »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
ดีต่อใจ

มาทันก่อนลงแดง

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จะรู้ตัวเมื่อไหร่กันเนี่ยทั้งคู่

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
แหมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ hereg407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขนาดยังไม่รู้ใจตัวเองยังหวานละมุนกัน ถ้ารู้ใจกันละกัน จะหวานขนาดหน๊ายยย

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น้องพิงค์กับพี่หมอไม่สะกิดใจหน่อยหรอ ว่ามันมีบางอย่างแปลกๆ
เกินกว่าจะเป็นแค่คนรู้จักหรือแค่พี่น้องกันเนี่ยยยยย :ling1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
แซนดี้ .... ท่าทางไม่รู้ตัวกันทั้งคู่แหละ

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ค่ะไม่ค่อยจะคิดถึงพี่เค้าเลยค่ะแต่ขอไปนอนด้วยแค่นั้นเอง อ้างว่าร้อนมั่งหละคิดถึงก็บอกพี่เค้าตรงๆจ้าาาาน้องพิงค์

ออฟไลน์ Tai5ive

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด