ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 611926 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โธ่ พิงค์พิงค์ผู้น่าสงสาร

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
รู้สึกรักเด็ก ๆ บ้านนี้ เป็นโดยเฉพาะทัพหน้าอย่างแซนดี้ที่เป็นกำลังสำคัญมาตลอด  :man1: อยากให้นางมีคู่บ้าง  :jul3:


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
พิงค์ผู้ชอบความเจ็บปวดดดด งานเลือดต้องเลยมา :เฮ้อ:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โถ่วพิงค์ เกือบตายเลยนะเรา

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
โอโห้ เพื่อนแต่ละคน บรรยายสภาพนี่ฉากฆาตกรรม? 555 ชอบอ่ะ  น้องพิงค์

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ gemgems

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พอไม่รู้ตัวก็อ้อนพี่เค้าใหญ่เลยนะคะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 ภูพิงค์ ทำไมร้าย ขนาดละเมอ ยังว่าพี่อีก
ดีนะ ว่าถูกคน พี่จะได้รู้ว่าทำน้องคิดมาก

หมอวินท์เอ้ยยย ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มตั้งแต่ได้ยินแล้ว
เป็นแบบนี้แล้ว อย่ารอเวลาไปนานนะ ลุยเลย

ทีมเพื่อนพิงค์คือดีมาก ชงเข้มกันมากค่ะ ยกรางวัลให้เลย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
แซนดี้พูดซะอาการหนักเลย  :laugh:

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ดันให้มาอยู่หน้า 1 จะได้หาง่าย   

รอมาหลายวันและ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 31 : ฟันคุดเป็นสื่อของหัวใจ


ภูพิงค์ฟื้นขึ้นมาอีกทีในตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากที่ได้กินยาและนอนพัก เด็กหนุ่มก็ได้สติสตังและเรี่ยวแรงกลับคืนมาบ้าง เขาลืมตาขึ้น หันมองซ้ายขวา ก่อนจะลุกขึ้นช้าๆ แล้วเกาศีรษะแกรกๆ

แม่ง.. พี่วินตามมาหลอนถึงในฝัน อาการหนักแล้วกู

บานประตูห้องแง้มเปิดออก เมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเห็นว่าเพื่อนรักฟื้นแล้ว เขาจึงเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับชามโจ๊กเจ้าเดิม “ตื่นพอดี กำลังจะมาปลุกมึงให้แดกอะไรสักหน่อยอยู่เลย”

“ไม่หิวเลยว่ะ”

“แดกหน่อยเหอะ เผื่อจะเป็นมื้อสุดท้ายของมึง เดี๋ยวพี่หมอจะมารับไปขึ้นเขียงแล้ว”

ภูพิงค์ชะงัก “พี่หมอไหนวะ”

“ก็มีอยู่หมอเดียวมะที่จะมารับมึงอะ พี่หมอวินไง”

“ฮะ?”

“เออ มึงฟังไม่ผิดหรอก ไม่ต้องทำหน้าเด๋อ แดกซะจะได้พอมีแรงลุกขึ้น” ซันวางชามโจ๊กลงตรงหน้าเพื่อนรัก จากนั้นจึงนั่งลงข้างกัน

“พี่วิน...จะมาที่นี่เหรอ พี่เขารู้ได้ไงวะ”

“มึงรู้ตัวมั้ยว่ามึงอาการหนัก นอนพะงาบๆ พวกกูเลยไปตามพี่หมอให้มาช่วยดู พี่เขามานั่งดูแลมึงอยู่เป็นชั่วโมง ท่าทางเป็นห่วงมึงมาก ข้าวปลาแทบไม่ได้แดก พวกกูต้องบังคับแดกแล้วพากลับไปส่งคลินิกเนี่ย”

“ไอ้เหี้ย~ กูไม่ได้ฝันงั้นเรอะ”

“ฝันเปียกเลยสิมึง” ซันพูดกลั้วหัวเราะ “รีบๆ แดกซะ จะแดกเองหรือจะให้กูป้อน”

“ไม่ต้องเว้ย” เด็กหนุ่มหยิบชามโจ๊กร้อนๆ ขึ้นมาตักกินไปช้าๆ พลางพยายามนึกย้อนกลับไปว่าตอนที่พี่วินมา เขาพูดหรือทำอะไรน่าอายออกไปบ้างหรือเปล่า

เมื่อกินเสร็จ ซันก็พยุงเพื่อนรักเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา ภูพิงค์เห็นเงาตนเองในกระจกเข้าก็ขมวดคิ้ว

“ไอ้ซัน มึงว่าแก้มกูบวมๆ มั้ยวะ”

“เออ นิดหน่อยๆ ผ่าฟันก็บวมเป็นธรรมดา แต่กูว่ามันยังบวมได้อีก”

“ฉิบหาย แก้มกูจะย้อยเป็นพวงเหมือนปลาทองมั้ยเนี่ย”

“มึงน่าจะผ่าสองข้างอ่ะ จะได้ย้อยแบบสมดุล” พอเห็นว่าเพื่อนรักก้มลงจะบ้วนปาก ซันก็กระตุกแขนอีกฝ่ายเบาๆ “เออ พี่หมอบอกว่าอย่าเพิ่งบ้วนปาก มึงรอให้พี่หมอดูก่อนเหอะ”

“กูเพิ่งแดกโจ๊กไปนะมึง ขอกูบ้วนสักทีเหอะ”

ซันขมวดคิ้ว “อือ ก็จริงของมึงว่ะ”

ภูพิงค์ก้มลงรองน้ำมาอมไว้ในปาก พอบ้วนทิ้งก็มีเลือดปะปนน้ำออกมาอีก มีน้ำไหลออกมาทางจมูกด้วยเหมือนเดิม เขายกมือขึ้นเช็ด ก่อนจะหยุดมองหยดน้ำเปื้อนเลือดที่บนหลังมือตน “กูจะตายมั้ยวะไอ้ซัน”

“อย่ามาสำออยน่ะ แค่นี้ไม่ตายหรอก กูว่าเลือดออกน้อยลงแล้วนะ” ปากตอบไปเช่นนั้น หากในใจก็เป็นกังวลไม่แพ้กัน “แต่พอก่อนเหอะ” ก่อนจะประคองเพื่อนรักไปนั่งลงบนที่นอนอีกครั้ง

“เป็นไงวะ เดินไปห้องน้ำแค่นี้ สิ้นแรงเลย มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย”

“สัส!” ภูพิงค์ชูนิ้วกลางใส่

“ตอนนี้มีอะไรอยากทำก็รีบๆ ทำซะนะ” ซันตบไหล่เพื่อนเบาๆ เพื่อปลอบใจ

“นี่มึงจะแช่งหรือจะช่วยปลอบใจกูวะ”

“ก็พูดเผื่อๆ ไว้”

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นแทรก ก่อนขิงจะโผล่หน้าเข้ามา “เฮ้ย พี่หมอมาแล้วเว้ย เปลี่ยนเสื้อผ้าซะหน่อยมึง” ต่อจากนั้นสองหนุ่มก็ช่วยกันเปลี่ยนเสื้อให้เพื่อนรัก แล้วพยุงเขาลงไปชั้นล่าง

“ทำไมมึงเชื่อฟังผิดปกติวะ”

“สงสัยอาการหนักมาก”

“ไอ้พวกเหี้ย กูเครียดนะเว้ย”

เมื่อเห็นเงาของทันตแพทย์หนุ่มอยู่รำไร ใจของภูพิงค์ก็ร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาเบือนหน้าหนี ทว่าในใจก็คิดว่า ถ้าหากต้องตายเพราะผ่าฟันคุดนี่จริงๆ ล่ะก็ เขาคงจะต้องเสียใจมากๆ ที่ไม่มีโอกาส...

เอาไงดีวะ

“พาเหยื่อมาแล้วพี่หมอ” ซันร้องบอก

รวินท์ยิ้มรับ หากเด็กหนุ่มกลับหลบสายตาเขา พอตื่นแล้วก็งอนเขาต่อเลย ให้มันได้อย่างนี้สิ “พาขึ้นรถเลย”

“ใส่กระโปรงหลังดีมั้ยพี่หมอ”

“สัส ไม่เอาซีเมนต์หล่อกูแล้วเอาไปถ่วงน้ำเลยล่ะ” ภูพิงค์หันไปด่า

“เออ ต้องแปะยันต์ด้วย มึงจะได้ไม่เฮี้ยนมาก พวกกูกลัว”

“ถ้ากูตาย กูจะ...”

“เข้าสิงกูแล้วไล่ปล้ำไอ้พวกเหี้ยนี่ให้หมดเลยใช่มะ เอาเลยมึง กูเสียสละ” แซนดี้ช่วยต่อประโยคให้

ทันตแพทย์หนุ่มเดินกลับเข้าไปนั่งในรถตรงที่นั่งคนขับแล้วสตาร์ตเครื่องยนต์รอ ส่วนเพื่อนๆ ของเด็กหนุ่มเปิดประตูฝั่งข้างคนขับออก ยัดเพื่อนรักเข้าไปนั่งอย่างทุลักทุเลแล้วช่วยรัดเข็มขัดให้เสร็จ

“เต็มที่เลยนะพี่หมอ”

“เฮ้ย! พวกมึง!” ภูพิงค์ทำสายตาเว้าวอน

“อ้าว พวกคุณไม่ไปด้วยกันเหรอ”

“ไม่ดีกว่าครับ พวกผมจะสวดมนต์ให้มันจากที่นี่”

“เดี๋ยว!” เด็กหนุ่มพูดยังไม่ทันจบก็ถูกปิดประตูรถใส่หน้า ดีที่เขาเอาแก้มหลบทัน ไม่อย่างนั้นคงเลือดพุ่งหมดตัวตายอยู่บนรถพี่วินนี่แหละ

“กลัวอะไรผม”

ภูพิงค์ถอนหายใจหนักๆ “เปล่าครับ”

“งั้นก็ดี” พอพูดจบทันตแพทย์หนุ่มก็ขับรถกลับไปยังคลินิกอย่างรวดเร็ว พอจอดรถแล้วก็เดินออกมาเปิดประตูรถให้อีกฝ่าย พร้อมกับช่วยพยุงออกมา

“ผมเดินไหว”

“ให้ผมพยุงเถอะ ถ้าล้มแล้วแก้มกระแทกพื้นเลือดสาด จะตายอยู่หลังคลินิกนี่ก่อนเรียนจบนะเว้ย”

นั่นสินะ ไม่ใช่เวลามาเล่นตัว หน้าเขายิ่งเสียสมดุลอยู่ ภูพิงค์คิดแล้วจึงยอมเอาแขนพาดลำคออีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆ เดินไปพร้อมกันช้าๆ

จมูกของเด็กหนุ่มไล้ผ่านเส้นผมของรวินท์ เขาได้กลิ่นหอมบางๆ ปะปนกับกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อในคลินิก เขาแอบชำเลืองมองเสี้ยวหน้ากับริมฝีปากสีแดงของทันตแพทย์หนุ่ม ซึ่งเป็นผลให้หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ

ตึ๋งเดินเอาขยะออกมาทิ้งในถังขยะที่ด้านหลังคลินิกพอดี เขาหรี่ตามอง “พี่หมอพยุงใครมาเนี่ย”

“ตึ๋ง มาพอดี เปิดประตูให้หน่อย”

เจ้าของชื่อเรียกหันไปเปิดประตูค้างไว้ให้ แล้วหันกลับมาเพ่งมอง “เหย! พี่พิงค์นี่หว่า เกิดอะไรขึ้นกับพี่ครับเนี่ย เปลี้ยมาเชียว หมดเลยความหล่อที่สะสมมา!”

ถ้าหากเขายังพอมีแรงก็อยากจะถีบไอ้เด็กนี่สักสามสี่ที “ทักดีๆ หน่อยก็ได้มะวะ”

“โห พูดงึมงำฟังไม่รู้เรื่องเลย ท่าจะอาการหนัก”

พอรวินท์ประคองเด็กหนุ่มเข้าไปข้างในคลินิก พี่นิ้งเห็นเข้าก็อุทานเสียงดัง “อุ้ย! ตายแล้ว! คุณพิงค์แก้มบวมมาเลย”

นั่น...แต่ละคนทักเขาด้วยความหวังดีทั้งนั้น เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เอาล่ะ นั่งก่อนนะ” ทันตแพทย์หนุ่มพยุงคนอ่อนวัยกว่าไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำฟัน “หัวกระเซิงเชียว” เขาโน้มใบหน้าเข้าไปหาอีกฝ่าย แล้วจัดผมให้

ภูพิงค์นั่งนิ่ง พลางลดสายตาลงมองริมฝีปากที่อยู่ไม่ไกลออกไป เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ พอพี่วินใจดีกับเขาแบบนี้ ใจเขาอ่อนปวกเปียกไปหมดเลย

ขณะที่พี่นิ้งเอาผ้ากันเปื้อนมาคลุมให้เด็กหนุ่ม ก็มีทันตแพทย์หญิงอีกคนเดินเข้ามาในห้อง เธอดูน่าจะอายุมากกว่าพี่วินนิดหน่อย เมื่อเด็กหนุ่มเห็นเข้าก็ผงกศีรษะขึ้น

ทันตแพทย์หญิงยิ้มกว้าง “แหม คนนี้น่ะเหรอที่ทำให้วินต้องถ่อไปรับพี่มาถึงที่นี่ ไม่บอกก่อนล่ะว่าเป็นละอ่อนน้อย พี่จะรีบซิ่งมาเองเลย”

ภูพิงค์กลืนน้ำลายฝืดลงคอ ในห้องนี้มีทันตแพทย์ถึงสองคน ทำให้เขารู้สึกหายใจหายคอลำบาก แล้วทำไมไอ้พี่วินต้องไปตามคนอื่นมาด้วยวะ

รวินท์ตอบคนอ่อนวัยกว่าเหมือนเข้าใจสายตาที่จ้องมองมาทางเขา “พี่ลักษณ์เป็นรุ่นพี่ผม เป็นทันตแพทย์เฉพาะทางด้วย เจอคนไข้ที่มีอาการแบบคุณมาเยอะ ผมเลยไปขอให้พี่เขามาช่วยดูอาการคุณให้หน่อย ไม่ต้องห่วงนะ พี่ลักษณ์เก่งมากๆ” พอตอบเสร็จก็เดินไปล้างมือใส่ถุงมือ ใส่ผ้าปิดจมูกและเสื้อกาวน์ให้เรียบร้อยจึงกลับเข้ามา เขายืนมองภาพเอ็กซเรย์ฟันของเด็กหนุ่มที่เคยเอ็กซเรย์ไว้บนจอคอมพิวเตอร์กับทันตแพทย์หญิงอยู่สักพักจึงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ทันตแพทย์

“พิงพนักสิ มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ใจอยากจะด่า แต่ตอนนี้ปากไม่อำนวย

พนักเก้าอี้ค่อยๆ เอนลงไปแล้ว ภูพิงค์รู้สึกเหมือนโดนจับขึ้นขาหยั่ง ถึงจะไม่เคย แต่ก็คิดว่าความรู้สึกน่าจะคล้ายๆ กัน เมื่อเก้าอี้เอนลงจนสุดและไฟข้างบนเปิดสว่าง เขาก็เข้าใจว่าวินาทีสุดท้ายของปลาช่อนก่อนถูกทุบหัวเป็นเช่นไร

“ไม่ต้องเกร็ง อ้าปากนิดนึง”

เด็กหนุ่มพยายามฝืนอ้าปากตามที่อีกฝ่ายสั่ง เขากลัวจนมือเย็นเฉียบ ฉี่จะเล็ดอยู่แล้ว

“อื้อหือ...” รวินท์แกล้งทำเสียงเครียด

“โอ้โห... จองวัดเลยดีมั้ย” พี่ลักษณ์พูดกลั้วหัวเราะ พลางแตะมือลงบนแขนของเด็กหนุ่มเบาๆ “พี่พูดเล่นนะ อย่าเพิ่งหัวใจวายคาเก้าอี้นะคะ”

วินาทีนั้นภูพิงค์หูอื้อตามัวแล้ว เขาได้ยินทันตแพทย์ทั้งสองพูดคุยปรึกษากันด้วยภาษาอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่องเลย จากนั้นทั้งคู่ก็ก้มหน้าลงมาใกล้ๆ

ใบหน้าของพี่วินอยู่ใกล้แค่คืบเท่านั้น จากมุมที่เขามองเห็นขนตายาวเป็นแพ จมูกโคตรโด่ง แค่ครึ่งหน้ายังต้องยอมรับว่าพี่วินหน้าตาดีเสียจนทำให้หัวใจเขาเต้นแรง เด็กหนุ่มมัวแต่สนใจเสี้ยวหน้าของทันตแพทย์หนุ่ม มองเพลินจนลืมสนใจปากตัวเอง ลืมสนใจทันตแพทย์อีกคนที่อยู่ข้างๆ ลืมความเจ็บปวดทั้งหมดไปเสียสนิท โดนทำอะไรกับปากบ้างก็ไม่รู้ตัวเลย

คิดถึง... เขาอดทนไม่พบพี่วินมาได้ยังไงตั้งเป็นสัปดาห์

แต่สักพักทันตแพทย์หนุ่มก็ถอยออกไป เด็กหนุ่มจึงมองตามอย่างรู้สึกเสียดาย

เสร็จแล้วเหรอวะ ทำไมไวจัง... นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาอยากทำฟันนานๆ

รวินท์ก้มลงมาอีกครั้ง พร้อมกับใช้กระดาษทิชชูซับตรงมุมปากของคนอ่อนวัยกว่าให้อย่างอ่อนโยน

ภูพิงค์จับจ้องใบหน้าของทันตแพทย์หนุ่มนิ่งราวกับถูกมนต์สะกด เขาอยากจะมองพี่วินใกล้ๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกฝ่ายบอกให้ทำอะไรก็ทำตามอย่างว่าง่ายที่สุด หูก็ฟังทันตแพทย์ทั้งสองพูดคุยกันแม้จะฟังไม่รู้เรื่องก็ตามที แต่ดูเหมือนว่าพี่ลักษณ์จะสอนอะไรพี่วินไปด้วยโดยใช้ปากของเขาเป็นสื่อการสอน

พอรวินท์เงยหน้าขึ้นก็ประสานสายตากับเด็กหนุ่มเข้าพอดี “เพลินดีมั้ย”

ถามนี่... คิดว่าผมตอบได้เหรอวะ อ้าปากอยู่แบบนี้น่ะ

“จ้องผมจนเห็นสิวหมดทุกเม็ดแล้วยัง”

ไม่เห็นมีสักเม็ด หน้าเนียนอย่างกับตูดเด็ก

“เอาผ้าปิดตาคุณพิงค์ไว้ดีมั้ยคะ” พี่นิ้งโผล่หน้ามาถาม

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “อื้อ!” ไม่เอาเว้ย! พี่นิ้งนี่ แค้นเคืองอะไรเขามาแต่ชาติปางไหนวะ แกล้งกันอยู่ได้!

รวินท์หัวเราะจนตาหยี “ใกล้เสร็จแล้วน่ะ อย่าเพิ่งงอแง”

แม้คนอ่อนวัยกว่าจะเห็นเพียงแค่ดวงตาของทันตแพทย์หนุ่ม แต่เขาก็คิดว่าขนาดดวงตายังเป็นประกายขนาดนี้ แล้วริมฝีปากที่กำลังยิ้ม จะน่ารักน่ามองสักขนาดไหนกันวะ

ยิ่งจ้องมองไปก็ยิ่งรู้สึกถึงเสน่ห์ของอีกฝ่าย มันยากเหลือเกินที่จะห้ามใจไม่ให้หลงใหล หากถ้าไม่หยุดเสียแต่เนิ่นๆ แบบนี้... ตัวเขาท่าจะแย่ ยิ่งถ้าถลำลึกไปอีก อาการคงหนักกว่าตอนนี้หลายสิบเท่า

ภูพิงค์หักใจละสายตาออกไปจากทันตแพทย์หนุ่ม แล้วทอดถอนใจยาว

“เดี๋ยวผมให้ยาไปเพิ่มนะ ไม่ต้องเครียด ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พี่ลักษณ์ก็คอนเฟิร์มแล้ว”

ไม่นานพนักเก้าอี้ทำฟันก็ถูกยกขึ้น รวินท์ส่งทิชชูให้เด็กหนุ่มเช็ดปากและนั่งทำใจอยู่บนเก้าอี้ก่อน ส่วนตัวเขาออกไปคุยกับพี่ลักษณ์พี่นิ้งที่เคาทน์เตอร์ด้านหน้า

“จัดยาตามนี้นะ ค่าใช้จ่ายเดี๋ยวผมจัดการเอง”

“แหม คนไข้พิเศษเหรอวิน” พี่ลักษณ์หันไปแซ็ว

เจ้าของชื่อยิ้มบาง “เดี๋ยวผมไปส่งพี่...”

ทันตแพทย์หญิงโบกมือไปมา “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวแฟนพี่มารับ แล้วอย่าลืมพาพี่ไปเลี้ยงข้าวตามสัญญานะ”

“ครับๆ อยากกินอะไรนึกไว้เลย” รวินท์ยกมือไหว้ “ขอบคุณพี่ลักษณ์มากครับ”

“ไม่เป็นไรๆ นิดหน่อยนะ จริงๆ เคสนี้วินคนเดียวก็เอาอยู่” พี่ลักษณ์ตบไหล่รุ่นน้อง “แต่พี่ดีใจที่ได้เจอวินนะ”

ภูพิงค์กำลังค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ พอได้ยินเช่นนั้นก็ชะงัก พี่วิน... อุตส่าห์ไปตามพี่ทันตแพทย์เฉพาะทางนี่มาเพื่อเขาเลยเหรอเนี่ย แล้วพวกเขามีความสัมพันธ์กันยังไง ทำไมพี่หมอผู้หญิงถึงใจดีกับพี่วินจังวะ

“หมอลักษณ์คะ รถของแฟนหมอนี่ใช่รถคันที่จอดตรงนั้นรึเปล่า มาจอดสักพักแล้วค่ะ” ผู้ช่วยทันตแพทย์อีกคนชี้บอก

“โห มาอย่างเร็ว สงสัยเพราะเห็นว่ามากับวินแน่ๆ” ทันตแพทย์หญิงหัวเราะ

“เหย ผมอันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ” รวินท์ยิ้มเจื่อนๆ

ภูพิงค์เดินมายืนพิงประตูห้องตรวจ เขาแอบพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยกับแฟนพี่ลักษณ์ว่าไอ้พี่วินอันตรายจริงๆ

เมื่อทันตแพทย์หญิงหันมาเห็นเข้าก็โบกมือให้ “หายไวๆ นะคะ รักษาความสะอาดดีๆ ทานยาให้ครบนะ หมอไปละค่ะ”

เด็กหนุ่มยกมือไหว้ “ขอบคุณครับ”

พอทันตแพทย์หญิงกลับไปแล้ว ภูพิงค์จึงเดินไปที่เคาทน์เตอร์ซึ่งทุกคนยืนอยู่ “พี่หมอ”

รวินท์หันขวับ รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันควัน ครั้งนี้พี่นิ้งเองก็ชะงัก เพราะเห็นว่าเด็กหนุ่มเคยเรียกแต่ชื่อเล่นของทันตแพทย์หนุ่มมาตลอด

“ผมจ่ายเองได้ บ้านไม่ได้อนาถาขนาดนั้น” คนอ่อนวัยกว่าหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าสตางค์ แล้วส่งให้ “นี่ครับพี่นิ้ง”

“คะ...ค่ะ”

เด็กหนุ่มลดสายตาลงต่ำ ก่อนจะพูดเสียงเบา “ยังต้องมาทำอะไรอีกมั้ยครับ ถ้ามีก็นัดวันให้ผมด้วย”

“ดูอาการสักอาทิตย์นะ ถ้ากินยาครบอาการก็น่าจะดีขึ้นแล้วล่ะ เสาร์หน้าถ้าแผลประสานดีผมจะตัดไหมให้ ส่วนที่มีน้ำไหลออกมาจากจมูกเพราะคุณมีแผลทะลุโพรงไซนัส ต้องอดทนกับมันสักนิด รักษาความสะอาดดีๆ มันจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง แผลแบบนี้บางทีมันก็เกิดขึ้นได้บ้างจากการผ่าฟันคุดซี่บนนั่นล่ะ ไม่ต้องซีเรียสนะ ถ้าจะผ่าซี่ที่เหลืออีกก็รอให้หายดีก่อน แล้วมาผ่ากับผมก็ได้”

“ครับ” คนอ่อนวัยกว่าตอบสั้นๆ

ทันตแพทย์หนุ่มผลุบเข้าห้องด้านหลังไปเปลี่ยนเสื้อผ้า สักพักจึงเดินออกมา พอเห็นภูพิงค์นั่งพิงพนักโซฟารออยู่อย่างอ่อนแรง สภาพเหมือนเพิ่งไปวิ่งเสยรถบรรทุกมาหมาดๆ ก็หัวเราะเบาๆ

รวินท์เอื้อมมือไปให้เด็กหนุ่มใช้จับยึด “ไปๆ ลุกสิ เดี๋ยวผมไปส่ง”

คนอ่อนวัยกว่าปัดมือทันตแพทย์หนุ่มออก “ขอบคุณครับ ผมยืนเองไหวน่ะ แค่มาทำฟัน ไม่ได้มาให้ทำคลอด”

“อ้าวเหรอ ก็เห็นทำท่าเหมือนเพิ่งตกเลือด งั้นก็ไปที่รถกัน” รวินท์พูดพลางเดินนำออกไปช้าๆ เขาหยุดชำเลืองมองคนที่เดินโซเซตามหลังมาเป็นพักๆ

เมื่อตอนมายังยอมให้เขาพยุงอยู่เลย ขากลับเกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมาอีกล่ะนี่ รวินท์ถอนหายใจอย่างอ่อนใจ

ทันตแพทย์หนุ่มเดินไปเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับออกไว้ให้แล้วเดินวนไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ เขารอให้เด็กหนุ่มก้าวเข้ามานั่งข้างกันอย่างใจเย็น เมื่ออีกฝ่ายขึ้นมานั่งก็หอบแฮกเป็นสุนัขหอบแดด

รวินท์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาค่อยๆ เคลื่อนรถออกไปอย่างเชื่องช้า เพียงครู่เดียวก็ถึงบ้านเช่าซึ่งเป็นจุดหมาย

เมื่อรถจอดนิ่ง ภูพิงค์ยกมือไหว้แล้วหันไปเปิดประตูรถออก หากพอจะก้าวลงจากรถ เจ้าของรถกลับรั้งแขนเขาไว้

“ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย”

“ผมไม่สบาย คุยไม่รู้เรื่องหรอก”

“ไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร ฟังเฉยๆ ก็พอ”

ภูพิงค์ขมวดคิ้วอย่างลังเล ใจหนึ่งบอกตัวเองให้รีบไสหัวออกไปเร็วๆ แต่อีกใจ...อ่อนยวบยาบลงไปกองบนเบาะเรียบร้อย สุดท้ายเขาก็ดึงประตูปิดกลับมาเช่นเดิม ตามด้วยพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด

“ขอบใจ” รวินท์ดึงมือตนเองกลับ จากนั้นจึงผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ผมรู้ว่าในสายตาของคุณผมเป็นคนที่แย่มากขนาดไหน ผมแค่อยากบอกคุณว่าผมพยายามปรับปรุงตัวเองอยู่นะ”

“พี่บอกผมทำไม”

“ก็เพราะอยากบอกไง” ครั้งนี้เด็กหนุ่มยอมหันมาสบสายตาด้วย ทันตแพทย์หนุ่มจึงยิ้มบาง “แล้วผมก็จะแสดงให้คุณเห็นด้วย”

ภูพิงค์หลุบสายตาลงมองต่ำ เขาไม่อยากและก็ไม่ควรจะเชื่ออีกฝ่าย ถ้าไม่อยากเจ็บปวดมากไปกว่านี้

รวินท์งัดจุดอ่อนของเด็กหนุ่มขึ้นมาใช้ “คุณพูดเองไม่ใช่เหรอ เราขึ้นดอยด้วยกันมาแล้วก็เท่ากับเป็นเพื่อนกัน เพื่อนก็ต้องให้โอกาสเพื่อนสิ ผมทำอะไรไม่ดีก็เตือนผม ช่วยผมปรับปรุงตัวหน่อยนะ”

คนอ่อนวัยกว่าจนมุม เขาพยักหน้าหงึกหงักเออออไป “อือๆ”

“ตอบให้จริงใจหน่อยสิวะ”

“อือ”

“ถ้างั้น เลิกเรียกผมว่าพี่หมอ แล้วกลับไปเรียกเหมือนที่เคยเรียก...นะ”

“คิดดูก่อน”

“เดี๋ยวปั๊ดบีบแก้มแตกเลยนี่”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบสายตาคนพูด “โห เป็นหมอยังไงเนี่ย! มีขู่ทำร้ายคนไข้ด้วยอะ!”

“ตอนนี้ไม่ได้เป็นหมอเว้ย เป็นเพื่อนไง”

ภูพิงค์อ้ำอึ้ง ดูเอาเถอะ ทำไมไอ้พี่วินต้องพูดจาทำหน้าทำตาน่ารักใส่เขาด้วยวะ จะไม่ปล่อยให้เขาขึ้นจากหลุมเสน่ห์นี่ไปได้เลยใช่มั้ยวะเนี่ย!

หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นรัวแรงอยู่ในอก เขาเกลียดตัวเองตอนนี้ชะมัด

“แล้ว...กับพี่หมอผู้หญิง สนิทกันเหรอ” คนอ่อนวัยกว่าถามเสียงอ่อย

“จะเรียกว่าสนิทก็ได้ ก็สายรหัสเดียวกัน ไปกินข้าวด้วยกันทุกปีแหละ” รวินท์พยายามอ่านสีหน้าอีกฝ่าย “พี่เขาจบเฉพาะทางแล้วก็มาทำงานอยู่ที่นี่”

“อาการของผมมันแย่มากเลยเหรอ ทำไมต้องไปตามพี่หมอผู้หญิงมา”

“ไม่หรอก” ทันตแพทย์หนุ่มตบมือลงบนตักเด็กหนุ่มเบาๆ “ก็เพื่อนคุณเล่าอาการซะน่ากลัว ผมก็วิตกจริตเป็นเหมือนกันนะเว้ย แถมผมเองก็เป็นแค่หมอฟันมือใหม่ด้วย กลัวว่าคนเดียวจะรับมือไม่ไหว ผมก็เลยไปขอให้พี่เขามาช่วยดูให้ เพราะพี่เขาเชี่ยวชาญทางนี้มากกว่าผมมาก แต่คุณไม่ต้องห่วงนะ กินยาให้ครบ ไม่กี่วันก็ดีขึ้นแน่”

“ขอบคุณครับ”

รวินท์ยิ้มบาง พลางเคลื่อนมือไปวางประกบลงบนหลังมือคนอ่อนวัยกว่า “ผมเป็นห่วงคุณมากนะรู้มั้ย”

ระหว่างพวกเขาเงียบกริบลงไปอีกครั้ง

ภูพิงค์รู้สึกเหมือนหัวใจของเขาทำงานหนักจนหยุดเต้นไปชั่วครู่ อยากจะยกมือขึ้นกุมอกก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นถึงความหวั่นไหวในหัวใจ เขาจึงได้แต่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นหิน เลี่ยงที่จะสบสายตาด้วยแล้วลดสายตาลงมองมือของตนเองที่อยู่ใต้มืออุ่นๆ ของทันตแพทย์หนุ่ม

รวินท์บีบมือที่อยู่ใต้ฝ่ามือตน “คืนนี้ไหวมั้ย อยากให้นอนค้างด้วยรึเปล่า”

คราวนี้ภูพิงค์ยิ่งอ้ำอึ้งหนักไปอีก ใจหนึ่งบอกให้ตัวเองปฏิเสธ แต่อีกใจ... เขาจะปฏิเสธไปได้อย่างไรกันวะ! ในเมื่อเขาเองก็คิดถึง อยากอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่าย

“เผื่อตกเลือดตอนดึกๆ ผมจะได้บอกลาทัน”

คนอ่อนวัยกว่าขึงตาใส่ “นั่นปากเรอะพี่!”

“พี่อะไร”

“พี่...”

“ลืมชื่อแล้วรึไง ใครแก่กว่ากันกันแน่วะ”

ใครจะไปลืมลงวะ!

“พิงค์” รวินท์ทำเสียงกึ่งดุ

“เออๆ พี่วิน”

ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มกว้าง ยิ่งดูน่ารักขึ้นไปอีกร้อยเท่าในสายตาของเด็กหนุ่ม “ว่าไง อยากให้ค้างด้วยมั้ย”

คนอ่อนวัยกว่าพยายามเก๊กหน้านิ่ง แต่แล้วก็พยักหน้าช้าๆ

“เดี๋ยวผมเลื่อนรถแป๊บ คุณลงไปก่อน” พออีกฝ่ายก้าวลงจากรถไป เขาก็เอื้อมมือไปเลื่อนเกียร์ ถอยรถจอดให้ชิดกำแพง จากนั้นจึงก้าวลงมา


(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


ภูพิงค์ยืนหน้ามุ่ยอยู่ที่หน้าบ้าน ในมือถือถุงยาขยี้ไปขยี้มา หงุดหงิดกับตัวเองเล็กน้อยที่ปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ได้ พอทันตแพทย์หนุ่มเดินเข้ามาหาก็เดินนำเข้าบ้านเช่าไป


ภายในบ้านทุกคนกำลังจัดการมื้อค่ำกันอยู่ มื้อนี้พวกเขากินข้าวเหนียวหมูทอดแบบไม่เกรงใจคนที่หน้าบวมกันเลย

“อ้าว ไอ้พิงค์ พี่หมอ~ กลับมาไวจัง”

“ไม่ต้องทำหน้าเศร้าเว้ยไอ้พิงค์ โจ๊กมึงอยู่ในหม้อนู่น”

“พี่หมอกินข้าวกัน”

เด็กหนุ่มคิดว่าพี่วินก็คงจะหิวเหมือนกันนั่นล่ะ ปกติสายแดกซะด้วย เขาจึงหันไปบอกอีกฝ่าย “พี่กินอะไรก่อนละกัน ผมจะไปอาบน้ำก่อน” พูดจบก็เดินโซเซออกไป

“พี่หมอ นั่งๆ” แซนดี้ลุกขึ้นมาฉุดแขนทันตแพทย์หนุ่มให้ไปนั่งลงในวงด้วยกัน “กินก่อนพี่ เดี๋ยวไม่มีแรงรับมือมันนะ ระยะนี้มันดุยังกะกระทิง ขวิดไม่เลือกหน้าด้วย”

รวินท์ยิ้มบาง เขานั่งลงอย่างว่าง่าย แล้วพวกเด็กหนุ่มก็เอาจานกับช้อนส้อมมาเสิร์ฟให้ กินไปได้สักพักจึงเริ่มพูดคุยกัน

“ตกลงปากมันจะหายมั้ยอะพี่หมอ”

“หายสิ แต่ต้องกินยาให้ครบ แล้วก็รักษาความสะอาดมากๆ หน่อย ช่วยดูเขาด้วยละกัน”

“น่ากลัวชะมัด ไอ้เวรนี่ก็ไม่รู้เกิดบ้าอะไรขึ้นมา จู่ๆ ก็เสือกไปผ่าฟันคุด ทั้งที่ปกติกลัวหมอฟันยิ่งกว่ากลัวผี”

ซันพยักหน้าหงึกหงัก “นั่นดิ ใกล้สอบแล้วด้วย เกิดต้องนอนโรงบาลเป็นอาทิตย์ทำไงวะ ดีนะที่ตอนกูผ่าไม่สาหัสเท่าไอ้พิงค์ แต่กูก็ไข้ขึ้นหลายวันเหมือนกัน”

“ไอ้เหี้ย ดีแล้วที่กูยังไม่ผ่า คิดแล้วสยอง”

รวินท์ต้องรีบห้าม ก่อนทุกคนจะตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ “ใจเย็นๆ พิงค์เขาไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้นหรอก การผ่าฟันคุดไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะ พวกคุณอย่าเข้าใจผิด บางคนก็มีไข้หลังการผ่าน่ะ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย แต่ผมว่าอย่างพิงค์น่ะ พรุ่งนี้เขาก็น่าจะลุกมาวอนหาเรื่องได้บ้างแล้วล่ะ ส่วนที่มีน้ำไหลออกมาจากจมูกตอนบ้วนปาก นั่นเพราะรากฟันบนมันอยู่ใกล้โพรงไซนัสไง เวลาผ่าฟันออกไปมันก็เลยเกิดแผลทะลุถึงกันได้ และมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนหรอก”

“โชคดีนะเนี่ยที่มีพี่หมอ” ดิวเอ่ยขึ้นพลางกะพริบตาปริบๆ “คืนนี้พี่หมอจะค้างมั้ย”

“อือ ผมจะขออยู่ดูอาการเขาหน่อยนะ”

ซันยังก้มหน้าก้มตากินอยู่ ขิงจึงถีบไปเบาๆ “งั้นมึงมานอนห้องกู”

“ไม่เป็นไร ผมนอนพื้นก็ได้”

คนถูกถีบเงยหน้าขึ้น “เฮ้ย ไม่ได้หรอกพี่ นอนเตียงผมนั่นแหละ... คือมันก็แค่ที่นอนเปล่าๆ แต่ก็ดีกว่านอนพื้นนะพี่ ผมฝากไอ้พิงค์ด้วยละกันครับ”

เมื่อเห็นว่ารวินท์กินใกล้เสร็จแล้ว แซนดี้จึงลุกขึ้น “เดี๋ยวอุ่นโจ๊กให้ไอ้พิงค์ก่อน จะได้ฝากพี่หมอเอาไปให้มันด้วย”

“เตรียมน้ำเกลืออุ่นๆ ให้เขาบ้วนปากด้วยก็ดีนะ เกลือประมาณหนึ่งช้อน น้ำอุ่นหนึ่งแก้ว”

“ได้ครับพี่”

สักพักแซนดี้ก็ถือถาดใส่ชามโจ๊ก แก้วน้ำและกระติกน้ำแบบเก็บความร้อนได้มาส่งให้ “ในกระติกนี่เป็นน้ำเกลืออุ่นๆ นะพี่หมอ ผมเตรียมไว้ให้รวดเดียวเลย จะได้ไม่ต้องขึ้นไปกวนบ่อยๆ”

“โอเค”

พอทันตแพทย์หนุ่มรับถาดไปถือไว้ ทั้งสี่คนก็ยกมือไหว้ “ขอบคุณคร้าบพี่หมอ”

รวินท์ถือถาดเดินขึ้นบันไดไปช้าๆ เขาเคาะประตูห้องแล้วเปิดเข้าไปข้างใน

ภูพิงค์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เส้นผมยังชื้นๆ อยู่เลย เขานั่งเอนหลังพิงกองหมอน ท่าทางจะหมดแรงพอตัว

“กินโจ๊กก่อน จะได้กินยาก่อนนอน”

เด็กหนุ่มตักโจ๊กกินอย่างว่าง่าย เพราะเขาหิวด้วยล่ะ กินไปก็ชำเลืองมองคนที่นั่งด้วยกันเป็นระยะๆ แต่แล้วอีกฝ่ายก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาช่วยเช็ดผมให้อย่างอ่อนโยน

เขาอดยิ้มออกมาอย่างพอใจไม่ได้

เฮ้อ... กูหนอ

“อยากให้ป้อนมั้ย”

“ฮะ!” คนอ่อนวัยกว่าไม่ทันตอบ รวินท์ก็ดึงชามโจ๊กออกไปจากมือเขาแล้ว

ทันตแพทย์หนุ่มตักโจ๊กขึ้นมาเป่าเบาๆ จากนั้นจึงเอาไปจ่อปากเด็กหนุ่ม “เอ้า อ้า...”

ภูพิงค์อ้าปากตามที่รวินท์บอก พอกลืนโจ๊กลงท้องไปก็อ้าปากรอให้ป้อนเป็นลูกนก เพราะริมฝีปากสีแดงฉ่ำที่เป่าโจ๊กให้เขาแท้ๆ ทำให้สายตาเขาจับจ้องไปอย่างลืมตัว จนทำให้รู้สึกว่าโจ๊กในชามหมดไวเหลือเกิน

“ดื่มน้ำหน่อย”

พอดื่มน้ำเสร็จก็ชี้ไปทางกองเสื้อผ้าที่พับไว้อย่างเรียบร้อย “ผมเตรียมเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวไว้ให้พี่แล้วนะ พี่ไปอาบน้ำก่อนเถอะไป”

“โอเค คุณนั่งพักไปก่อน เดี๋ยวกินยาแล้วจะได้แปรงฟันบ้วนน้ำเกลือ”

“ครับ”

รวินท์ยิ้มบาง พลางใช้หลังมือสัมผัสแก้มตรงที่บวมเล็กน้อยอย่างแผ่วเบา “อดทนหน่อย กินยาให้ครบ รักษาความสะอาดมากๆ ไม่กี่วันก็หายละ” ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้า แล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำไป

คนอ่อนวัยกว่ามองตามตาละห้อย เขาถอนหายใจหนักๆ

เพราะอะไรกันนะ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาสามารถตัดใจจากคนที่ชอบได้อย่างไม่ยากลำบากนัก แต่ครั้งนี้... ทั้งที่ต้องเจ็บ... หากก็ยังอยากจะฝืนอดทน

เด็กหนุ่มเอนหลังพิงกองหมอนไปอีกครั้งอย่างอ่อนใจ

ไม่นานทันตแพทย์หนุ่มก็เดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนอนแหงนหน้ามองเพดานไปอย่างเลื่อนลอย เขาจึงเดินเข้าไปหาแล้วชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ “กินยารึยัง”

“ยัง รอพี่อยู่”

“ต้องให้ป้อนยาด้วยรึไง” รวินท์หัวเราะ พลางเอื้อมมือไปหยิบยาและแก้วน้ำส่งให้ “เอ้า”

พอกินยาเสร็จ ภูพิงค์ก็ลุกขึ้นเตรียมไปแปรงฟันและบ้วนน้ำเกลือตามที่ทันตแพทย์หนุ่มบอก เขาทำมือบอกให้อีกฝ่ายนั่งรอเฉยๆ “ผมทำเองได้น่ะ” เพราะที่จริงกลัวว่าพี่วินจะเห็นเขาตอนน้ำไหลออกจากจมูก โคตรไม่เท่เลย ตอนตีกลองสะบัดชัยอุตส่าห์สะสมความเท่ไว้ตั้งเยอะ

สักพักเด็กหนุ่มก็เดินเซออกมาจากห้องน้ำ กลับมานั่งลงบนฟูกที่นอนพลางหอบเบาๆ เขาส่ายหน้าไปมา “แม่ง แค่ผ่าฟันยังขนาดนี้ คนที่เขาคลอดลูกกันนี่จะขนาดไหนวะเนี่ย”

“คลอดลูกน่ะ เลือดออกมากกว่าผ่าฟันเยอะ แค่นี้น่ะ จิ๊บๆ เท่านั้น” รวินท์เขกศีรษะเด็กหนุ่มไปหนึ่งที “เอ้า นอนๆ”

“แล้ว... พี่จะนอนตรงไหน”

ทันตแพทย์หนุ่มหยุดคิด ก่อนจะหันไปตอบ “นอนกับคุณไง ได้ใช่มั้ย”

“อ่า... เอ่อ... ก็ได้” คนอ่อนวัยกว่าขยับให้บนเตียงมีที่ว่างพอสำหรับให้อีกฝ่ายเอนตัวลงนอนได้ ในเมื่อพี่วินอุตส่าห์เสียสละมาดูแลเขา จะให้พี่วินนอนพื้นได้อย่างไร เขาไม่อยากรบกวนไอ้ซันมันด้วย และที่สำคัญที่สุด... เขาอยากใกล้ชิดกับพี่วิน แค่เล็กน้อยก็ยังดี

รวินท์ยิ้มกว้าง เขาลุกไปปิดไฟแล้วเอนตัวลงนอนข้างเด็กหนุ่ม “ถ้ารู้สึกมีไข้ หรือปวดมากก็เรียกผม เดี๋ยวเอายาให้” เขาพูดขึ้นโดยที่ไม่หันหน้าไปทางอีกฝ่าย เพราะบนหมอนใบเดียวกันเช่นนี้ ถ้าหันไปจมูกเขาคงโดนแก้มป่องๆ ของภูพิงค์แน่ๆ

“รู้สึกดีขึ้นมากแล้วพี่ แล้วก็... เอ่อ วันนี้ขอบคุณมากนะครับ”


สองหนุ่มกะพริบตาปริบๆ ต่างคนต่างมองเพดานอยู่สักพัก จนกระทั่งทันตแพทย์หนุ่มพูดขึ้นอีกท่ามกลางความเงียบงัน

“หลับรึยัง คุยกันอีกนิดได้มั้ย”

“หลับแล้ว” ภูพิงค์ตอบไปแบบนั้น เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะคุยเรื่องอะไรน่ะสิ

“งั้นผมคุยคนเดียวก็ได้” รวินท์หยุดถอนหายใจ ก่อนจะพูดต่อ “ผมดีใจมากนะที่คุณมาหาผมวันเกิด หมอนข้างน่ารักมาก ขอบใจนะ”

เด็กหนุ่มหันหน้าหนี เพราะเขาไม่อยากนึกถึง ไม่อยากได้ยินเรื่องวันนั้นอีก

“คนที่คุณเจอในห้องผมชื่อคุณออย ผมเคยเจอเขาตอนไปวิ่งสองสามครั้ง ผมจะบอกคุณตามตรงนะ วันนั้นไม่ได้ทำอะไรนอกจากจูบที่ปาก คอแล้วก็หน้าอก จับสะโพกเขาไปทีนึงด้วย”

โอ้โห... ไม่ต้องเล่าละเอียดขนาดนั้นก็ได้มั้ย ถามคนฟังหน่อยเถอะว่าเขาอยากฟังมั้ย

คนอ่อนวัยกว่าทำเสียงกรนเบาๆ เผื่อว่าจะทำให้อีกฝ่ายหยุดพูดได้

“ผมผิดเอง ทำตัวไม่ดี ใจง่ายด้วย แต่เพราะนึกถึงคุณขึ้นมา ผมถึงได้หยุดไว้แค่นั้น แล้วตอนที่ผมกำลังขอโทษคุณออย คุณก็ดันโผล่มาพอดี”

“ไม่ใช่ว่าหยุดเพราะผมโผล่ไปขัดจังหวะพอดีรึไง”

“อ้าว ยังไม่หลับเหรอ”

ภูพิงค์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “เรื่องวันนั้นช่างแม่งเถอะ ผมไม่อยากฟังแล้ว”

รวินท์เม้มปากแน่น คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้สารภาพความจริงกับภูพิงค์แล้ว และอีกฝ่ายก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขา อย่างน้อยก็ยังยอมให้คนอย่างเขา... เป็นเพื่อนได้

ทันตแพทย์หนุ่มพลิกตัวหันหลังให้คนที่นอนอยู่ข้างกัน ก่อนจะข่มตาหลับลง เขาควรจะดีใจที่อย่างน้อยก็ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องของหัวใจน่ะ

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่มีโอกาสมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะภูพิงค์... คงไม่ได้ชอบผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเขา


*TBC*


ฮัสกี้พาพี่วินมาง้อน้องแล้ววว แต่น้องจะเล่นตัวไหวมั้ยเนี่ย 5555555 ดูจะใจอ่อนให้พี่รัวๆ

/พี่วินมารยาเยอะ น้องพิงค์ต้องสู้นะ!

ดูซิ๊ดู เพื่อนน้องพิงค์ยกเตียงให้นอนแล้วก็ยังเนียนมานอนเบียดน้องอีก คนเรา  :เฮ้อ:

ตอนนี้กับตอนที่แล้วเป็นเรื่องของฟันคุดล้วนๆ จริงๆ การผ่าฟันคุดมันไม่ได้น่ากลัวหรอกนะคะ กรณีแบบน้องพิงค์ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ น้าาา เพราะงั้นใครที่กำลังลังเล ไปผ่าเถอะค่ะ เผื่อได้เจอหมอวินงายย อิอิ จะได้ฟินเหมือนตอนน้องพิงค์ขึ้นเขียงนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า ขอบคุณพี่สาวและคุณหมอมินต์อีกรอบที่สละเวลามาให้คำปรึกษา เยิฟๆ นะคะ :mew1:

ปล. โห สามสิบตอนแร้ววว สองหนุ่มยังไม่ได้จุ๊บกันจริงๆ จังๆ เลยอะ 55555555 รอกันต่อไปอีกนิดนะคะ


ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ต่างก็ชอบกันแล้ว น้องพิ้งอย่างอนนานสิ ถถถถถ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ห้ามปอดซิพี่หมอ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
พี่วินง้อขนาดนี้แล้วหายโกรธเถอะพิงค์

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
พิงค์ไม่ต้องเล่นตัวแล้วพี่หมอดูแลดีขนาดนี้ ฏอก่สมาละปล้ำเลย55855

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 คนน้องก็ยังงอนพี่อยู่ส่วนคนพี่ก็คิดว่าน้องไม่ได้ชอบผู้ชาย :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ถ้าเราเป็นพิงค์เอาจริงๆ เราก็คงอยากถอยอ่ะ เพราะหมอวินถึงจะขี้อ่อยแต่ก็เป็นของแรร์ งานนี้พี่หมอวินต้องรุกแล้วล่ะขืนป๊อด อด!!นะเออ..

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ absolutepoison

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่วิน ทุ่มสุดตัวไปเลยยยย ละอ่อนน้อยจะได้เทใจให้ทีเดียวทั้งดวง อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :ling1:ลุ้นต่อๆๆๆๆๆไป

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
ความดราม่าทั้งหมดทั้งมวลคือต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ชอบตัวเองนี่แหละ  รุ้สึกเจ็บหน่วง ๆ สงสารพิงค์ก็สงสาร สงสารพี่วินท์อีกคน ต่างคนต่างรัก รอใครสักคนเปิดปากก่อนคนนั้นชนะ  :ruready อุตส่าห์ดีกันแล้วเชียว แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้  :mew6:


รอตอนต่อไปค่ะ



 :katai3:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เฮ้อ...ต่างคนต่างคิดไปคนละทาง เมื่อไรจะรักกันน่อ  :mew2:
 :L2:  :pig4:  :L2:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
พี่วินคะ เพื่อนธรรมดาที่ไหนเขางอนตอนเห็นพี่ไปนัวเนียสาว
เขาหึงค่ะ 5555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เล่นตัวเยอะๆเลยพิงค์

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไม่ปล่อยให้พูดความในใจให้หมด  แล้วเมื่อไรจะเข้าใจกันและกันหล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
พี่วินพยายามกว่านี้หน่อยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด