{{ He's Not Me }} ผมไม่อยากเป็นดารา - ตอนพิเศษวันแม่ - P.39 - [12/08/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ He's Not Me }} ผมไม่อยากเป็นดารา - ตอนพิเศษวันแม่ - P.39 - [12/08/61]  (อ่าน 173957 ครั้ง)

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
จิระมาถูกทางจริงๆ นางมีพรสวรรค์ทางการแสดง มีสายเลือดนักแสดงที่แท้ทรู
คุณสันนี่ร้ายกาจที่สุดดดดดดด 555 หมั่นไส้ค่ะ
ส่วนเตโช ทีมึนกว่านี้อีกมั้ยย สาบานว่าพระเอก 5555
เตโชเป็นพระเอกที่เหมือนจะออกมาเยอะกว่าเสี่ย แต่ความมึนงงของนางระดับสิบ แถมพูดน้อยซะ ปวดหัวแทนจิระจังเลยยย  :laugh:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อย่่าบอกนะว่าคนเขียนบทคนนั้นคือ จิตริน  :hao4:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เจโชน่าจ๋งจ๋าน เหมือนแมวโดนไล่ออกจากห้องหลังจากให้อาหารเสร็จเลย 555555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โธ่ จิระไม่สงสารเด็กน้อยหน้ามึนหน่อยเรอะ เราว่าเขาก็น่ารักดีนะ

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
เม้นท์ส่งกำลังใจให้คนเขียนค่ะ อ่านเรื่องจิตรินจบก็มาต่อเรื่องนี้ทันที ชอบจิระเรื่องนี้มากกกกกกกก
ตัวตนจริงๆนางเข้าท่าดี สู้คน มีความสามารถ ทำอาหารได้ ดูแลตัวเองได้ คุณสมบัตินายเอกพร้อมพรัก
ใจอยากเห็นพระเอกกำยำมาดแมนสมชายขึ้นบ้าง ...คือนี่ยังแอบมึนกับเสี่ยสุดงอแงของหนูจิตฯอยู่เลย 555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
คมสันต์อาจอยากให้ทั้งเตโช และ จิระ เติมเต็มในส่วนที่ขาดของกันและกันมั้ง

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
จิระก็เก่งในแบบของจิระนะ

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
จิระ คนใจร้ายยยย

อยากอ่านตอนเจอจิตริน คิดถึงง

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
จิระคนเกรี้ยวกราดกับเตโชคนมึนๆ 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ พันธุ์ไทย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราว่าคุณคมสันอาจจะแค่อยากหาคนมาดูแลเตโช(...)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หิวเลยอ่านตอนนี้ เป็นกำลังใจให้จิระผ่านอุปสรรค(คมสัน)ไปได้

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ Velusia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขำท่อนนี้จริงจัง -อย่าคิดว่าจะเป็นดังใจซะทุกเรื่องเลยคมสัน! ฉันคือจิระ จิระที่เป็นโสดและรักตัวเองที่สุดโว้ย!!- ถถถถ จิระ~

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ลุงคมร้ายมากกกก

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เตโชน่ารักดีนะ จิระไม่ใจดี

ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เราอยากดูซีรีย์เรื่องเช็กเมท  :hao4: ถ้าเป็นหนังจริงๆคงดี55555

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 o13 จิแกร่งกว่าที่คิดแฮะตอนอ่านของในเรื่องจิตรินดูปล่อยชีวิตน่าดู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

ตอนที่ 4

จิตริน ทองคำดี

 

 

“นายคิดจะทำอะไรกันแน่!”

(( คิดจะปั้นคุณเป็นดาราน่ะสิครับ ))

ผมสูดยาดมเฮือกหนึ่ง คุยกับคมสันแล้วอารมณ์พลุ่งพล่านพร้อมเกรี้ยวกราดตลอดเวลาจนคลับคล้ายจะเป็นลมยามใช้เสียงดังเกินไป ผมคิดว่าถ้าไปไม่รอดด้านดารา ลองฝึกเป็นนักร้องก็ไม่เลว พลังเสียงดีขนาดนี้บอกเลยเตโชยังชิดซ้าย

“ฉันหมายถึง...นายคิดจะจับคู่ฉันกับเตโชทำไม!”

ณ จุดจุดนี้ ต่อให้ใช้พิมเสนช่วยก็ไม่อาจดับความรุ่มร้อนในอก แค่นึกภาพคนหน้ามึนมองผมอย่างตัดพ้อหาว่าแล้งน้ำใจก็เล่นเอาไมเกรนแทบขึ้น ผมไม่เข้าใจคมสันเลย ไม่เข้าใจสักนิด เขาทำแบบนี้เพื่ออะไร กีดกันผมไม่ให้เป็นมือที่สามระหว่างเสี่ยกับจิตรินเหรอ เฮอะ! ผมไม่คิดสั้นแบบนั้นหรอกน่า คนอย่างจิระ เมื่อเลือกเดินออกมาแล้วจะไม่ย้อนกลับ ไม่มีวันทำตัวไร้ค่าเรียกร้องความสนใจผิดๆ อีกแน่นอน!

(( ผมคิดจะปั้นคุณเป็นดารา แล้วผมจะจับคู่คุณกับเตโชให้มันเป็นข่าวฉาวเสื่อมเสียทำไมล่ะครับ เตโชไม่ใช่เสี่ย ไม่มีแบคหนุนหลังช่วยปิดข่าวสักหน่อย ))

...เออว่ะ

ผมถึงกับเอ๋อไปวูบหนึ่ง ความคิดที่เริ่มวิ่งเล่นไปไกลหวนคืนสู่ความเป็นจริง

“งั้นให้ฉันมาอยู่คอนโดนี้ทำไม แถมยังข้างห้องเตโชด้วย”

(( เพราะคุณออกจากบ้านเสี่ยช่วงเดียวกับที่เตโชติดต่ออยากให้คุณแสดงเอ็มวีพอดี ผมเลยลองสืบประวัติเขาว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังหรือไม่ ทำไมถึงระบุชื่อคุณทั้งที่เพิ่งมีข่าวฉาว ก่อนจะพบว่าเตโชเป็นแฟนคลับของมิสเตอร์เอส ไม่มีเจตนาร้ายแม้แต่น้อย สืบไปสืบมา ประจวบเหมาะกับข้างห้องเขาว่างพอดีเลยจับคุณยัดไปอยู่ในนั้น จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาที่อยู่ใหม่ให้ ))

“คมสัน ไอ้คนไร้ความรับผิดชอบ! นายคิดจะจับฉันยัดตรงไหนก็ยัดงั้นเหรอ!”

(( ครับ ผมถึงยัดคุณเข้าซีรีส์เช็กเมทได้ยังไงล่ะ ))

ถะ...เถียงไม่ออก


“งั้นนายไปบอกเตโชให้มาฝากท้องกับฉัน มาติดรถฉันทำไม”

(( เพราะเตโชไม่มีผู้จัดการส่วนตัว และจากประวัติที่ผมสืบมา พบว่าเขาดูแลตัวเองไม่เป็นเลย ถ้าไม่มีงานแล้ววันๆ เตโชจะหมกตัวอยู่แต่ในห้อง แต่งเพลงร้องเพลงจนบางทีลืมกินข้าวถึงขั้นเคยถูกหามเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว บางครั้งบางทีก็ออกจากบ้านโดยไม่ปลอมตัว ถูกคนรุมถ่ายรูปก็ปฏิเสธไม่เป็นจนเจ็บตัว และยังเกือบโดนลากเข้าโรงแรมอีกต่างหาก คุณจิระ...ถ้าคุณไปสืบเจออย่างนี้เข้าโดยบังเอิญ คุณจะไม่รู้สึกเป็นห่วงเขาหน่อยเหรอครับ ไหนๆ คุณก็เป็นเพื่อนข้างห้อง คนข้างเคียง และยังเคยร่วมงานกัน ผมจึงคิดว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นั้นคงไม่ลำบากอะไร ))

...แล้วไหงผมเสือกเข้าใจและคล้อยตามได้วะ เตโชแม่งอาการหนักมาก แค่ฟังก็ห่วงกลัวเขาจะทำตัวเองตายแล้ว!

(( จริงสิคุณจิระ ))

“อะไรอีก” ผมถามเสียงหงุดหงิด ทั้งที่เป็นฝ่ายโทรไปหาเรื่องคมสันเองแท้ๆ

(( ตอนนี้คุณถือเป็นดาราในสังกัดเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์เต็มตัวแล้ว คุณเองก็ต้องมีผู้จัดการช่วยติดต่องานและรับส่งดูแลเรื่องการแต่งตัว พรุ่งนี้เข้าบริษัทมาคุยกับผมแล้วกัน ให้คุณเลือกเองจะได้ไม่เป็นปัญหา ))

“อ้าว นายไม่ใช่ผู้จัดการฉันหรอ” ผมหลุดถามอย่างประหลาดใจ ก่อนจะรีบตบปากตัวเอง ให้ตายสิจิระ! พึ่งพาคมสันจนเคยชิน แบบนี้ไม่ยิ่งทำให้ทางนั้นได้ใจงั้นเหรอ! “ฉันไม่ต้องการผู้จัดการ ฉันขับรถไปเองได้ เรื่องการแต่งตัวฉันก็จัดการเองได้ ส่วนเรื่องงาน...”

(( ผมจะช่วยดูตารางงานให้แล้วกัน ))

“ฉันไม่ได้อยากให้นายช่วยหรอกนะ!” ผมรีบแย้งด้วยเกรงว่าจะถูกคมสันเข้าใจผิด

(( ครับๆ...ก่อนอื่นวันพรุ่งนี้ตอนสิบโมง คุณมีนัดลองชุดและถ่ายโปรโมทในส่วนของมิสเตอร์เอส ))

“ฉันรู้แล้วล่ะน่า” ผมรีบกดวางสายเพราะอับอาย แบบนี้เรียกว่ายังไม่เข็ด! โดนคมสันทั้งหลอกใช้ทั้งหลอกล่อสารพัดอย่างแล้วยังเกาะแข้งเกาะขาเขาอีก แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ เทียบกับคนไม่รู้จักแล้ว...ผมยังวางใจคมสันว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่เคยทำอะไรที่ผิดต่อบริษัท ฉะนั้นขอแค่ผมทำตัวดี เป็นนักแสดงอย่างที่คมสันต้องการ เขาก็จะดีกับผมเหมือนกัน

เดี๋ยวนะ ผมไม่อยากเป็นนักแสดง แล้วไหงตอนนี้ถึงยิ้มดีใจกันวะ

ผมรีบหุบยิ้มก่อนจะสูดยาดมอีกรอบเข้าเต็มปอด อา...ค่อยยังชั่วขึ้นหน่อย ถ้าไม่ได้เจ้าสิ่งนี้ อารมณ์พุ่งขึ้นพุ่งลงปานจรวดคงทำให้ตัวเองอกแตกตายไปแล้ว แต่พอนึกดูดีๆ ผมเลิกเสพยามาติดยาดมแทนใช่มั้ยเนี่ย

อนาถตัวเองจริงๆ จิระเอ๊ย!

 

----

เช้าวันต่อมาผมในสภาพพร้อมเข้าบริษัทยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้องของเตโช

ในมือถือปิ่นโตสามชั้นสำหรับอาหารเช้าและเที่ยง ไม่ใช่ว่าเป็นห่วง แต่ผมกลัวเตโชอดข้าวตายในห้อง แล้วคนซวยคือใคร คือผมไงที่ต้องมานั่งกลัวผี! ฉะนั้นจิระคนดีจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ช่วยขุนให้เตโชสุขภาพดี ไม่ต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนมาหลอกหลอนสร้างความลำบากแก่เพื่อนบ้านข้างเคียง

เหตุผลนี้ไม่เลวเลย หลังทำใจยอมรับได้ผมก็กดกริ่งด้วยสีหน้าแช่มชื่น

รออยู่นานกว่าเตโชจะลุกมาเปิด...

“จิระไม่ใจดี มีอะไร”

แล้วดูเตโชเรียกผมสิ เอาปิ่นโตปาทิ้งดีมั้ยเนี่ย

“เอาไป” แต่พอนึกภาพตัวเองที่สู้อุตส่าห์ทำให้แล้วก็ทำไม่ลง ผมยัดปิ่นโตใส่มือเตโชที่ยังทำหน้ามึน สภาพเหมือนคนเพิ่งลุกจากเตียง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงน้ำท่าก็ไม่อาบ ซกมกซะไม่มี

“จิระ...ใจดี” เตโชที่แอบแง้มฝาปิ่นโตดูของข้างในมองผมด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความตื้นตัน

“วันนี้มีนัดที่เอ็มเอชเอ็นอีกรึเปล่า”

เตโชส่ายหน้า สองมือโอบกอดปิ่นโตด้วยความรักและหวงแหนผสมซาบซึ้งตรึงใจ เห็นอย่างนั้นผมก็ยิ้มออก ค่อยคุ้มกับที่ทำเผื่อหน่อย!

“งั้นฉันไปทำงานแล้วนะ” เห็นคนรับดีใจเกินจริงผมก็รู้สึกปลื้มปริ่มไปด้วย เลยไม่พูดกระโชกโฮกฮากเหมือนเคย

“จิระ”

“อะไร” ผมหันมาด้วยใบหน้าแต้มรอยยิ้มเริงร่า ทำบุญแต่เช้าอย่างนี้เชื่อสิว่าวันนี้ต้องเป็นวันที่ดีของผมแน่ๆ  ขนาดเตโชยังมองผมไม่วางตา สงสัยจะเห็นผมเปรียบดังพระเจ้าผู้มาโปรด

“แล้วข้าวเย็นล่ะ”

...เห็นผมเป็นเด็กส่งอาหารไปซะฉิบ! ผมยกนิ้วกลางใส่คนหน้ามึนก่อนจะเดินกระแทกเท้าลงลิฟต์  ควรบอกกับตัวเองได้แล้วจิระว่าอย่าไปคาดหวังอะไรกับผู้ชายที่ชื่อเตโช!!


-----


“จิระ มาพอดีเลย มาช่วยดูชุดหน่อยสิว่าเราชอบชุดไหน”

พี่ช่างแต่งหน้าผู้ควบตำแหน่งสไตลิสต์ดูแลเครื่องแต่งกายของนักแสดงถามผมทันทีที่เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว เล่นเอาละลานตากับเสื้อสีดำสารพัดแบบที่เตรียมให้ลองเต็มราวแขวน

“ไม่ต้องตกใจหรอกจิ ก็มิสเตอร์เอสครั้งนี้กลับมาในฐานะของตัวร้าย เป็นสมาชิกขององค์กรใต้ดินเลยต้องใส่ชุดสีดำเพื่อให้คนดูแยกแยะง่ายๆ ไงจ๊ะ แต่ที่เป็นปัญหา คือตัวพี่กับคนเขียนบทยังหาแบบที่ตรงใจไม่ได้ มิสเตอร์เอสชอบใส่เสื้อย้วยๆ ใส่เสื้อซ้ำๆ ไม่ยอมซักไม่ยอมรีด แต่พอความจำเสื่อมจะแต่งตัวแบบนั้นเดินในองค์กรคงไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ พี่เลยเตรียมเสื้อมาเพียบ คงต้องลำบากจิค่อยๆ ลองแล้วล่ะ”

ผมกลืนน้ำลาย ก่อนจะสุ่มหยิบเสื้อชุดแรกมาลองเปลี่ยน เป็นเสื้อกั๊กสีดำ ดูน่ารักเข้ากับวัยสุดๆ แต่หลังแต่งหน้าทำผมปรกตาตามแบบฉบับมิสเตอร์เอสแล้วไม่เข้ากันอย่างร้ายกาจ คนเขียนบทขมวดคิ้ว ไล่ให้ผมกลับไปเปลี่ยนทันทีที่เดินออกมาหน้าเซ็ท จากนั้นก็เป็นแบบนี้วนลูปอีกนับสิบรอบ

ผมเปลี่ยนเป็นเสื้อลำลอง เสื้อโค้ทยาว เสื้อสูท เสื้อเชิ้ต และอีกสารพัดอย่าง แต่ดูเหมือนจะไม่มีชุดไหนตรงใจคนเขียนบทเลย

“ต่อไปลองตัวนี้แล้วกันนะจิ”

ผมมองชุดในมือช่างแต่งหน้าแล้วส่ายศีรษะ ก่อนจะเลือกเฟ้นเสื้อออกมาตัวหนึ่ง

“จะดีเหรอจิ...”

“ปัญหาของเราตอนนี้คืออะไรรู้มั้ยครับ” ผมหันมาพูดกับช่างแต่งหน้าระหว่างมองเสื้อในมืออย่างมั่นใจ “คือทุกคนคิดแต่จะแต่งตัวให้มิสเตอร์เอส ทั้งที่จริงๆ แล้ว...เขาคือซีเคร็ท ไม่ใช่มิสเตอร์เอส!”

หลังจากนั้นสิบนาที มิสเตอร์เอสโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิมที่ผู้กำกับตั้งฉายาให้ก็เป็นที่ประจักษ์

ทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ทุกคนพากันมองมาตาค้าง คนเขียนบทถึงกับองค์ลงหากระดาษจดไอเดียวุ่นวายไปหมด เพราะนอกจากจะเปลี่ยนการแต่งกาย ผมยังกึ่งๆ แสดงเป็นซีเคร็ทด้วย

เสื้อคอเต่าสีดำและกางเกงสีเดียวกันอย่างพอดีตัวขับรูปร่างผอมบางและผิวขาวผ่องให้ปราดเปรียวทะมัดทะแมง ผมสีชาปรกใบหน้าแต่ไม่ปล่อยกระเซิงไร้การดูแล เป็นทรงผมที่เข้ากับซีเคร็ทซึ่งช่วยขับเน้นโครงหน้าให้โดดเด่นและดูลึกลับมีเสน่ห์อย่างประหลาด กลิ่นอายความซื่อบริสุทธิ์หายไป แทนที่ด้วยความเครียดขรึมเก็บกดเข้าแทรก เมื่อรวมกับสีหน้าเรียบเฉยทว่าดวงตาแฝงความรู้สึกอัดแน่นมากมายภายใน ทั้งความสับสนจากความทรงจำที่หายไป ทั้งความเย่อหยิ่งในฐานะแฮกเกอร์อันดับหนึ่งขององค์กร ทั้งการโดนล้างสมองให้คิดแค้นพวกพระเอก จึงทำให้ ‘ซีเคร็ท’ เป็นตัวละครที่มีอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย บุคลิกแข็งกร้าวทว่าแฝงความเปราะบาง ทั้งสุขุมและสวยงามในคราเดียวกัน

“พระเจ้าช่วย...” ขนาดช่างแต่งหน้าหลุดอุทานเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าเซ็ทพร้อมถ่าย “จิระโตเป็นหนุ่มแล้ว!”

ผมขมวดคิ้ว งุนงงกับคำรำพันอย่างชื่นชม

“โอ๊ย  ฟีโรโมนพุ่งเหลือเกินจิจ๋า ปกติจิกับมิสเตอร์เอสน่ะน่ารักน่าเอ็นดู เหมือนน้องชายเหมือนคนในครอบครัว แต่ตอนนี้ออร่าจิล้นมาก ขนาดพี่ที่สนิทกับจิยังอดใจเต้นไม่ได้ มือสั่นไปหมดแล้วเนี่ย โอ๊ย ทั้งหล่อทั้งสวยเหลือเกินพ่อคุณ พี่ไม่กล้าเข้าใกล้เลยกลัวจะทำให้แปดเปื้อน...”

ผมหลุดยิ้มกับคำชมเกินจริง เรียกเสียงกรีดร้องจากพี่ช่างแต่งหน้าเข้าไปใหญ่

“จิอย่าฆ่าพี่ด้วยรอยยิ้มอย่างนั้นเลย พี่เห็นเราเป็นน้องมาตลอด อย่าให้พี่เปลี่ยนสถานะระหว่างเรานะ!”

“เงียบๆ หน่อย!”

พี่ช่างแต่งหน้ารีบปิดปากตัวเองเมื่อคนเขียนบทเอ่ยเสียงเครียดขณะที่มือจดยิกๆ ไม่ยอมหยุด

“จิระ”

“ครับ!?” ผมสะดุ้งเมื่อคนเขียนบทเอ่ยขึ้นมาโดยไม่ละสายตาไปจากสมุด

“เราเล่นบทบู๊เป็นมั้ย”

“ไม่เป็นครับ!” ผมรีบตอบทันทีด้วยใจที่หายวาบ ถ้าเป็นจิตรินคงไม่มีปัญหาเพราะเขาเป็นสตั้นท์แมนเก่า แต่ผมคือจิระคนที่เสพสุขกับการนั่งกินนอนกินกับเสี่ย จะไปวิ่งฝ่ากระสุนได้ยังไง ไม่ไหวหรอก!

“งั้นฉันให้เวลาไปฝึก”

“แต่...”

“จิระ” คนเขียนบทเงยหน้าสบตากับผมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันไม่ยอมให้ซีเคร็ทนั่งหน้าคอมอย่างเดียวเหมือนมิสเตอร์เอสในซีซันแรกแน่! ใครจำกัดความว่าแฮกเกอร์ต้องอยู่แต่ในห้องกัน ฉันจะสร้างซีเคร็ทให้เป็นแฮกเกอร์ที่ลงสนามจริง!”

แล้วทำไมต้องพูดใส่อารมณ์ขนาดนั้น ไอ้ผมที่อยากจะค้านถึงกับค้านไม่ออกเลย!

“จิระ เราไม่ต้องกังวลหรอก เอาแค่พอจับปืนเป็นและเอาตัวรอดได้ก็พอแล้ว” คนเขียนบทว่าอย่างมีเมตตา “รับรองว่าเรตติ้งจะต้องพุ่งจนภาคแรกเทียบไม่ติด!”

“แต่ข่าวฉาวของ...”

“จิระจ๋า” พี่ช่างแต่งตัดบทด้วยดวงตาที่ยังคลอน้ำใสอย่างปลาบปลื้มกับการเติบใหญ่ของผม ก่อนจะหยิบแว่นดำออกมาสวมบนหน้าผมเป็นอย่างสุดท้าย เมื่อหันไปมองกระจก ซีเคร็ทก็กลายเป็นสายลับน่าค้นหาที่มีกลิ่นอายเฉพาะตัวไปทันที “ข่าวฉาวน่ะปล่อยให้ฉาวไปเถอะ แต่เชื่อสิว่าไม่มีใครละสายตาไปจากจิตอนนี้ได้แน่ๆ! ไม่มีทาง!!”

“ไม่มีทาง!” คนเขียนบทเสริมด้วยประโยคเดียวกัน หลายคนที่เตรียมฉากจัดไฟก็พร้อมใจกันพยักหน้ารับอย่างขันแข็ง เห็นท่าทางมุ่งมั่นจนเกินเหตุแล้วผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบว่า...

“ครับ”



----


เหนื่อยเป็นบ้า

กว่าผมจะลากสังขารตัวเองกลับคอนโดมาได้ก็ปาไปเกือบหนึ่งทุ่ม เพราะหลังลองชุดถ่ายโปรโมทสำหรับเตรียมโฆษณาของซีซันสองแล้ว ผมยังโดนคนเขียนบทดึงตัว ให้ลองแสดงหลายๆ ฉากเพื่อที่พี่ท่านจะได้เขียนกันสดๆ อีกด้วย แถมหลังจากนั้นยังโดนคมสันลากไปเรียนการแสดงเพิ่มอีกต่างหาก โดนติวเข้มยิงยาวมาตลอดวัน จิระอยากเป็นลม

ยังดีที่ขากลับแวะหาอะไรรองท้องมาแล้ว พอถึงห้องผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ นอนตายยันเช้าด้วยความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง

ตื่นมาอีกครั้งก็ปาไปแปดโมงเช้า ผมอ้าปากหาว ถ้าไม่เพราะติดเรียนการต่อสู้เพิ่มเติมในช่วงสิบโมง เรียนการแสดงในช่วงบ่ายอย่าหวังเลยว่าจะยอมเข็นตัวเองลงจากเตียง ตารางชีวิตที่เต็มไปด้วยความยุ่งยากนี้คืออะไรกันนะ สมัยเป็นเด็กเลี้ยง ผมไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากนั่งรอนอนรอเสี่ย ขุดสารพัดกลวิธีเรียกร้องความสนใจ แต่น่าประหลาดมาก เพราะพอเทียบกันแล้ว เมื่อก่อนผมสบายก็จริงแต่เหนื่อยใจเป็นบ้า ขณะที่ตอนนี้แม้เหนื่อยกาย ผมกลับกระตือรือร้นที่จะมุ่งมั่นขวนขวาย

หลังจัดการตัวเองเรียบร้อยผมก็ยืนทำอาหารในครัวพร้อมคิดเมนูใหม่ๆ ไปด้วย วันนี้ทำข้าวต้มกระดูกหมูน่าจะดี ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ผมสามารถสั่งของสดมาส่งถึงห้องได้เลยโดยไม่ต้องลงไปหาซื้อเอง ระหว่างรอน้ำเดือดก็ทำกระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้า รับรองว่าอร่อยเหาะการันตีโดยจิระ พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ผมก็ตักแบ่งใส่ถุงสองถุง ก่อนจะเดินไปกดกริ่งหน้าห้องเตโช กินซ้ำสองมื้อคงไม่เป็นหรอกเนอะ

ปรากฏว่าไม่ยักมีปฏิกิริยาตอบสนองจากข้างใน หรือว่าเขามีธุระเลยออกไปก่อนแล้ว

ผมยักไหล่ ในเมื่อเตโชไม่อยู่ก็ถือว่าพลาดแล้วกัน แต่พอหันหลังเตรียมเดินกลับห้องตัวเองได้แค่สองก้าว ประตูห้องก็ถูกเปิดแง้มอย่างเชื่องช้า

ผมถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นเตโชนั่งตัวไหลกับพื้นพิงประตูด้วยท่าทางไร้เรี่ยวแรง

“จิ...ระ...”

เสียงหลอนมาก ผมถึงกับเผลอก้าวถอยหลังอย่างหวาดหวั่น

“หิว...มาก...”

“ฉันไม่ใช่เด็กส่งอาหารนะเฮ้ย” ผมว่าเขาก่อนจะค่อยๆ ย่องส่งถุงข้าวต้มให้ “กินมั้ย”

“กิน...”

“งั้นก็ลุกขึ้นมาดีๆ สิ”

บอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็กส่งอาหาร แต่การกระทำทำไมมันส่อไปทางนั้นจังวะ หลังมองจนมั่นใจว่าเตโชคงหมดสิ้นพลังกายจะยันตัวเองลุกขั้นมาแน่ๆ ผมก็กลับห้อง เดินไปเทข้าวต้มใส่ชาม โรยด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ เหยาะพริกไทยอีกเล็กน้อย ก่อนจะถือมาล่อเตโช

ได้ผล คนตัวสูงที่ใกล้จะไหลตายค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นมาด้วยสภาพคลับคล้ายซอมบี้ในหนังสยองขวัญ เดินเอียงไปเซมาตามกลิ่นเข้าห้องของผม ก่อนจะนั่งแหมะกับเก้าอี้ แล้วจัดการโซ้ยข้าวต้มอย่างตะกละจะกลาม

ผมถึงกับถอนหายใจเฮือก ถามตัวเองว่าไยต้องลงทุนเอาชามข้าวต้มไปล่อตั้งแต่หน้าประตูด้วย แต่พอเห็นเขากินอย่างหิวโหย ก็เพิ่งนึกได้ว่าเมื่อวานตอนเย็นผมไม่ได้เอาอาหารไปส่งให้เขานี่หว่า

“เตโช” ผมตักส่วนของตัวเองมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา “ถ้าฉันไม่อยู่นายก็หาอะไรกินเองสิ ร้านอาหารโทรสั่งก็มี ไม่ต้องมารอฉันหรอก!”

“จิระ...ทำอร่อย”

หัวใจพองฟู นานเหลือเกินที่ไม่มีคนชมรสมือของผม คงนับตั้งแต่คุณยายเสียไป...

“อร่อย ประหยัด สะอาด สุขภาพดี”

มาเป็นคำขวัญประจำจังหวัดกันเลยวุ้ย หัวใจผมเหี่ยวฟีบในพริบตา ถ้าไม่ติดว่าเขาตักข้าวต้มใส่ปากไม่หยุดก็อยากจะเอาชามตรงหน้าเทราดหัวคนหน้ามึนซะจริงๆ

“พูดเรื่องนี้ก็นึกได้ ทำไมฉันต้องเสียเงินทำกับข้าวให้นายทุกมื้อด้วย ขาดทุนชัดๆ” ว่าจบผมก็ดึงถุงข้าวต้มที่กะให้เขาเป็นมื้อเที่ยงเตรียมเก็บทันที แต่เตโชมือไวมาก คว้าหูหิ้วอีกข้างกระชากขาดจากมือผมไปไว้ฝั่งตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยประกายตาปานสัตว์ป่าล่าเหยื่อ เฮ้! เป็นสล็อตมาตลอดจะกลายร่างเป็นเสือดาวเพราะข้าวต้มกระดูกหมูไม่ได้นะ!

“จิระใจดี มีน้ำใจ”

“คำชมไม่ช่วยให้มีเงินโว้ย!” ผมตบโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย “เอาถุงนั้นคืนมานะ ฉันไม่ให้นายแล้ว”

เตโชรีบยกชามกระดกซดรวดเดียวหมด ก่อนจะประคองถุงข้าวต้มสำหรับมื้อเที่ยงด้วยความรักและทะนุถนอม วิ่งฉิวออกจากห้องผมไปเข้าห้องตัวเอง แถมยังปิดประตูใส่หน้า ล็อกกลอนด้วยอีกต่างหาก

“ไอ้เตโช! ไอ้ตัวเขมือบจอมงก!” ผมที่ตามออกมาไม่ทันได้แต่ยืนโวยวายอย่างโมโห “อย่าหวังเลยว่าฉันจะทำข้าวให้นายกินอีก!”

พลันประตูค่อยๆ เปิดแง้มพร้อมกับลูกตาข้างหนึ่งของเตโชที่มองผมอย่างจ๋อยๆ

“มองอะไร ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ”

ปรากฏว่าเขาค่อยๆ ยื่นแบงค์พันออกมาให้ผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่คลับคล้ายจะแฝงความเสียดายสุดแสน

“หนึ่งพันต่ออาหารสามมื้อทั้งเดือนน่ะเหรอ” ผมถามเสียงห้วน

เตโชนิ่งไปอีกอึดใจ ก่อนจะค่อยๆ ยื่นแบงค์พันใบที่สองให้ผมพร้อมคำอธิบาย

“เงินเก็บน้อย ต้องส่งที่บ้าน หิวมาก จิระใจดี”

...รู้สึกเหมือนตัวเองอัจฉริยะก็ตอนแปลคำพูดเนี่ยล่ะ เตโชต้องการสื่อว่าเขามีเงินเก็บน้อยเลยต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด แถมยังต้องเจียดเงินส่งให้ที่บ้านอีก จะให้ออกไปหาอะไรกินเองก็ลำบาก หิวมากเกินทานทน เลยอยากฝากท้องกับจิระคนใจดี

จะว่าไป...ในประวัติที่คมสันส่งมาให้ผมก็มีเขียนเหมือนกันว่าเตโชเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เดินทางมาล่าฝันในเมืองกรุงด้วยตัวคนเดียว แม้ไม่ยากจนแต่ก็ไม่ถึงกับร่ำรวย หากไม่เพราะพรสวรรค์ในการแต่งเพลงเองคงไม่สามารถโด่งดังรวดเร็วขนาดนี้ แต่เตโชเป็นนักร้องหน้าใหม่ เพิ่งมีผลงานเพลงแค่มีกี่ซิงเกิ้ล ยอดขายในปัจจุบันก็เป็นอันรู้ๆ อยู่ว่าถูกการโหลดเถื่อนทำลายไปเยอะ ดีหน่อยที่เขาหน้าตาโอเค พอมีงานถ่ายแบบโชว์ตัวบ้าง แต่ด้วยทักษะการพูดติดลบ ทำให้หมดสิทธิ์ในการสัมภาษณ์สื่อหวังโปรโมท นับว่าชีวิตในเมืองหลวงคงจะเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย

แต่...

“ถ้านายไม่มีเงินแล้วอยู่คอนโดนี้ได้ยังไง ซื้อขายตั้งหลายล้าน ค่าเช่าก็ไม่ใช่น้อยๆ”

“บริษัทออกให้...แล้วค่อยหักเปอร์เซนต์” เตโชตอบตาปริบๆ ตัวโตขนาดนี้ทำแล้วน่ารักตายล่ะ

“บริษัทนายใจป้ำขนาดนั้นเลย เอ๊ะ...เออ...เจ้าของบริษัทนายก็เจ้าของคอนโดนี้นี่หว่า” ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ โชคดีอีกอย่างของเตโชคือเขาจับพลัดจับพลูได้ค่ายเพลงชื่อดัง มีที่อยู่ให้สำหรับนักร้องในสังกัดโดยเฉพาะ ใกล้ที่ทำงาน แถมผนังก็เป็นแบบกั้นเสียง ต่อให้ร้องจนคอแทบแตกก็ไม่เล็ดลอดสร้างความรำคาญแก่เพื่อนข้างห้อง แถมระบบรักษาความปลอดภัยก็ดีเลิศ ต้องแปะการ์ดกับเซนเซอร์ลิฟต์จึงจะกดชั้นได้ และไม่สามารถกดชั้นอื่นนอกจากของตัวเองได้ด้วย จึงเป็นที่หมายตาของเหล่าคนในวงการ เสียก็แต่...อาหารการกินแถวนี้ค่อนข้างแพงไปสักหน่อย สั่งทีตกจานละร้อยถึงสองร้อย กินพิซซ่าได้หนึ่งถาดเลยทีเดียว

ชักจะเห็นใจ ผมยอมรับสองพันจากเตโชมาอย่างจำยอม

“เย็นนี้ฉันคงกลับเร็วกว่าเมื่อวาน ถ้ายังไง...”

“เอาข้าวผัดหมูใส่คะน้าเยอะๆ”

“โว้ย ฉันไม่ใช่ร้านตามสั่ง!” ตอนแรกโวยวายให้เขาเปิดประตู แต่ตอนนี้ผมบังคับเขาให้ปิดประตูแล้วไสหัวไปซะ! ทำไมคนอย่างจิระต้องมาออกกำลังกายปอดแต่เช้าด้วย แล้วนี่...เวรล่ะ! จะเก้าโมงแล้ว! ผมรีบวิ่งกลับห้องไปล้างจานและอาบน้ำอีกรอบเพราะอาละวาดจนเหงื่อออกเต็มตัวไปหมด ก่อนจะรีบขับรถบึ่งไปที่ทำงาน ไปถึงก่อนเวลาสิบห้านาที

คมสันรอต้อนรับผมอยู่แล้วที่ห้องซ้อม ท่าทางมีลับลมคมนัยชอบกล

“ไหนล่ะคนที่จะมาสอนฉัน” ผมมองซ้ายมองขวาอย่างระงับความตื่นเต้น เป็นครั้งแรกเลยที่จะได้ลองจับปืน แม้จะเป็นปืนปลอมสำหรับเข้าฉากก็เถอะ

“กำลังจะมาถึงในอีกห้านาทีครับ”

“แล้วทำไมนายต้องมารอฉันด้วย ให้คนอื่นมาแทนไม่ได้รึไง”

“ก็ผมเป็นผู้จัดการของคุณนี่ครับ”

ผมลอบกลั้นยิ้ม ก่อนจะแสร้งเนียนเดินดูอุปกรณ์ทั้งพวกสลิงโหน เป้าซ้อมมือ และสารพัดอาวุธฆ่าเวลา

ไม่นานประตูห้องซ้อมก็เปิดออก ผมรีบวางมาดเตรียมเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนทันที แต่แล้วก็ต้องชะงักค้าง...เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในห้องด้วยสภาพสวมเสื้อกล้ามอวดหุ่นได้สัดส่วนโชว์ผิวเข้มคล้ำสุขภาพดี

ไม่จริงน่า

“คุณจิระ นี่จิตริน ทองคำดี คนที่จะมาช่วยฝึกคุณตลอดสัปดาห์นี้”

บอกทีว่าไม่จริง

“ส่วนคุณจิตริน นี่จิระ ดาราที่ผมอยากให้คุณช่วยดูแลครับ”

--------------------

ตัดให้ขาดเลยฉับๆๆ

ในที่สุดหนูจิทั้งสองก็ได้เจอกัน แต่เป็นการเจอแบบไม่รู้ตัวล่วงหน้า เรียกว่างวดนี้โดนคมสันต้มทั้งคู่ค่ะ แต่จิตรินแฮปปี้มากแน่นอน ส่วนจิระนั้น...หึหึหึ

ขอมาแปะโป้งไว้ก่อนค่ะ จะพยายามเข็นออกมาน้า พยายามปัดฝุ่นตัวเองอยู่ค่ะ ฮึบๆ!
#จิระผู้เกรี้ยวกราด #ฝอยตกเสี่ยรีเทิร์น

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แป๋ววววว  นึกว่าจิตรินเป็นคนเขียนบทเสียที  :undecided:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สองจิเจอกันล้าวววว วุ้ยๆๆๆ

ออฟไลน์ falovekanda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่มมมมม จะตัดตอนนี้ไม่ได้ พ่อยอดขมองอิ่มจอมฝอยจิตรินของเรามาแล้ววววว :katai1:

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เฮ้นดูเตโชมากๆเลยค่ะ พูดน้อยแล้วยังเป็นคนมึนๆ น่ารังแกจังเลย ถ้าเป็นจิจะจับแกล้งทั้งวันทั้งคืน55555555

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
คมสันต์ก็ยังคงแผนเยอะเหมือนเดิม

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ย๊ากกกกกกกกกกกกกกส์ เอามาต่อเดี๋ยวเน้!!!!มาตงมาตัดอาร๊ายยยย   :angry2: :angry2: :angry2:


 :laugh: นี่ก็อินมากไป 5555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้ยย ฉันเหนื่อยแทนหนูจิจริงๆต้องมาสู้รบกุบคมสันไม่พอ ยังมาเจอความมึนอย่างเตโชอีก และในที่สุดพี่จิและน้องจิก็ได้เจอกันแล้วคาดว่าตอนหน้่พี่จิอาจกระโดดกอดน้องจิเลยก็ได้ เตรียมรับมือกับความฝอยของพี่จิได้เลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
จิระก็น่ารักไปอีกแบบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด