➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019  (อ่าน 66786 ครั้ง)

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ชอบบบบบบมากฟีลกู้ด

อยากให้มาต่อให้อ่านกันบ่อยๆนเาาาาา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม่สบายซะแล้ว พี่ภูดูแลด่วน ๆ เลยนะ  :mew3:

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักดีค่ะ
พี่ภูอย่ารุนแรงกับน้องบ่อยนะ
 :mew2: :mew2: :mew2:

รอดูหลานเลยค่าาา
ลูกพ่อภูก่ะแม่ข้าว

ชอบอ่านแนวนี้ มีเด็กตัวน้อยๆ ฟิลกู๊ด
 :L1:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่ภูกินข้าวอิ่มมากไหมมมมมม :z1: :z1: :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 6
By moggy
-----------------------

สองวันผ่านไป ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย มีนายแม่และพี่ภูช่วยดูแลเป็นอย่างดี ยิ่งคนหลังนี่แทบจะประคบประหงมกันเลยทีเดียว ตอนนี้พี่ภูเข้าไร่ไปแล้ว ผมมานั่งอ่านหนังสือที่ชานบ้าน นายแม่ก็ขึ้นไปเอนหลังครับ ผมอยู่ที่นี่มาเดือนครึ่งแล้ว แต่ในทุกวันกิจวัตรของผมก็เหมือนเดิมทุกวัน จนตอนนี้ผมเริ่มชินกับการอยู่ที่นี่เสียแล้ว

“ข้าว...ข้าว” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยเรียก แต่ลูกข้าวที่หลับคาหนังสือนั้นไม่ได้รู้สึกตัวเลย ภูธิปจึงอุ้มขึ้นห้องไปนอนดีๆ แต่ก็ยังไม่วายหาเศษหาเลยกับคนที่อยู่ในอ้อมกอดตัวเอง

“อืม...พี่ภู” ลูกข้าวที่เริ่มรู้สึกตัว เพราะมีการรบกวนแถวซอกคอตัวเอง

“ข้าว...หอมจัง หอมไปทั้งตัว” ภูธิปเริ่มเอาแต่ใจ จนสุดท้ายก็อยู่ในร่างเปลือยเปล่าทั้งคู่

“พี่ภู” คนตัวเล็กครางเรียก นั่นยิ่งเป็นการกระตุ้นคนเอาแต่ใจให้รุกหนักมากขึ้นไปอีก ความร้อนในกายแทบจะเผาไหม้คนตัวใหญ่

“ข้าว อย่าเกร็งครับ” ภูธิปเอ่ยขึ้นในขณะสอดใส่แก่นกายของตัวเองเข้ากับช่องทางอ่อนนุ่ม จนสุดท้ายทั้งคู่ก็หลอมรวมกันอีกครั้ง กว่าพายุจะสงบฟ้าก็เริ่มมืดค่ำแล้ว



ภูธิปปล่อยให้เจ้าตัวนอนพัก ส่วนตัวเขาเองลงมาหาอะไรกิน แล้วเดี๋ยวต้องเอาขึ้นไปให้คนที่อยู่ข้างบนนั้นด้วย เพราะดูท่าแล้วคงละลุกไม่ไหวเป็นแน่

“แม่” ภูธิปเอ่ยทักคุณหญิงจันทร์ที่นั่งอยู่ตรงโซฟาหวาย

“หลับเพลินหรอตาภู ลงมาซะค่ำเชียว แล้วน้องล่ะ”

“พักอยู่ครับ” ภูธิปเอ่ยตอบ พร้อมเข้าไปหอมแก้มผู้เป็นแม่

“พักหรอ เห็นแหววบอกว่าดีขึ้นแล้วนี่” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามอย่างสงสัย

“อ่อ ไข้หายแล้วครับ แต่เพลีย ผมก็เลยให้นอนพักไปก่อน” ลูกชายเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี เธอนั้นเห็นลูกชายมีสีหน้าที่ดูยิ้มๆ เท่านั้นเธอก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

“ลูกเขามีพ่อมีแม่นะตาภู ทำอะไรก็นึกถึงผู้ใหญ่บ้าง” คุณหญิงจันทร์เอ่ยอย่างเตือนๆ เพราะเธอนั้นก็ไม่ได้รังเกียจลูกข้าวแต่อย่างใด ในทางตรงข้ามกลับดีใจที่ได้คนดีๆ อย่างลูกข้าวมาเป็นลูกอีกคนเสียด้วยซ้ำ

“ครับ ผมจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ขอบคุณนะครับ แม่” คนเป็นลูกชายเอ่ยตอบอย่างมั่นคง แล้วบรรจงหอมแก้มผู้เป็นแม่ไปที

“กินข้าวกันครับแม่”

“แล้วน้องล่ะลูก”

“เดี๋ยวผมเอาขึ้นไปให้เองครับ”



หลังจากลูกข้าวกินข้าวเสร็จ น้องก็หลับต่อทันที ภูธิปเลยออกมาที่ระเบียงห้องเพื่อโทรศัพท์ถึงสายที่ไม่ได้รับ

“ว่าไง” เสียงเข้มกรอกเสียงลงไป

‘ไม่ว่าไง แค่จะบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้วกับ 4 คนนั้น ให้การไปว่าเป็นการป้องกันตัว’ พูดถึง 4 คนที่โดนเขายิงตาย ภูธิปให้ชาครเพื่อนของเขาจัดการให้ มันเป็นเจ้าของไร่สวนยางและเป็นผู้มีอิทธิพลแถบนี้ เรื่องจึงจบง่าย ชาครเป็นเพื่อนกับเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว และถ้าถามว่าทำไมเขาถึงให้เพื่อนจัดการให้ นั่นเพราะภูธิปไม่ชอบความวุ่นวาย และรักความเป็นส่วนตัวมาก ยิ่งมากคน ก็มากความ

“อืม ขอบใจมาก”

‘อือ แล้วฝั่งนั้นมีความเคลื่อนไหวยัง’ มันถามถึงไอ้หัวหน้าของไอ้ 4 คนนั้นซึ่งเป็นคนที่มีพรรคพวกมากอย่างไม่น่าเชื่อ ผมให้คนตามอยู่ห่างๆ ดูว่ามันจะทำอะไรต่อ และก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ มันกำลังรวบรวมคนเพื่อจะมาแก้แค้นเขา ปล่อยไปดีๆ ไม่ชอบ จะมาแว้งกัด ฮึ่ม...ตีงูต้องตีให้ตายจริงๆ สงสัยต้องจัดการจริงๆ จังๆ ซะแล้ว

“ให้คนตามอยู่”

‘มีไรให้ช่วยก็บอก’ หลังจากมันวางสายไปแล้ว ภูธิปก็เข้าไปหาคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียง หึหึ...สุดท้ายก็ต้องย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน ภูธิปนั่งมองลูกข้าวสักพักก็ไปอาบน้ำ แล้วกลับมานอนข้างคนที่หลับลึกอยู่ อยู่ใกล้ลูกข้าว เขาตื่นตัวตลอดเวลาเลย ปกติเขาก็ไม่เป็นนะ สงสัยจะเสพติดเจ้าตัวเล็กเข้าให้แล้ว ภูธิปก้มลงหอมแก้มไปที แล้วหลับตามคนในอ้อมกอด



ผมตื่นขึ้นมาในเช้ามืด พอผมเริ่มขยับ คนที่นอนกอดผมอยู่ก็ขยับตามเล็กน้อย ผมเลยพยายามลุกให้เงียบเชียบที่สุด ปล่อยให้พี่ภูนอนต่อ และทุกเช้าก็เป็นปกติที่ผมจะลงมาช่วยทำครัว

“นายแม่ อรุณสวัสดิ์ครับ” ผมทักนายแม่ที่เพิ่งเข้ามาในครัว

“ตื่นเช้าจังลูก”

“ครับ เมื่อคืนเข้านอนเร็วครับ” ผมตอบแล้วยิ้มให้นายแม่

“วันนี้ ทำเมนูอะไรล่ะ” นายแม่ถามขึ้นเพราะเห็นหม้อต้มน้ำ เหมือนจะเคี่ยวอะไรสักอย่างอยู่

“โจ๊กหมูครับ นายแม่ทานได้ไหมครับ”

“ได้ลูก...มาแม่ช่วยทำดีกว่า สักพักตาภูคงจะลงมาแล้ว”

“ครับ” ผมตอบแค่นั้น แต่หน้าก็ยังประดับด้วยรอยยิ้ม คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเห็นแล้วก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ระหว่างทำครัวด้วยกัน ทั้งสองก็พูดคุยกันไปเรื่อยด้วยเรื่องทั่วไป ดิน ฟ้า อากาศบ้าง

“แม่จะถามหลายทีแล้ว หนูข้าวเรียนทำอาหารมาหรอลูก เห็นทำได้หลายอย่าง”

“เปล่าครับ”

“อ้าว...ทางบ้านสอนหรือจ๊ะ” คุณหญิงจันทร์ยังสงสัยต่อ

“หัดทำเองครับ พอดีแม่ข้าวไม่ค่อยอยู่บ้านครับ คือท่านเป็นนักวิจัยครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ในแลป” ผมอธิบายพร้อมรอยยิ้ม ไม่มีวี่แววในความโกรธเคืองหรือน้อยใจที่แม่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับเจ้าตัว

“ไม่น้อยใจแม่บ้างหรอ ที่ไม่มีเวลาให้”

“ไม่หรอกครับ เพราะข้าวเข้าใจ และรู้ดีว่าแม่รักข้าวที่สุด ข้าวถึงเดินตามรอยแม่เป็นนักวิจัยไงครับ” คนตัวเล็กพูดไป ก็ยิ้มไป ช่างเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดีอะไรเช่นนี้ น่าเอ็นดูจริงๆ

“แล้วพ่อหนูล่ะ” ยังไม่เห็นเจ้าตัวจะเอ่ยถึงพ่อเลย

“เสียแล้วครับ เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ครับ พ่อข้าวก็เป็นนักวิจัยเหมือนกัน ข้าวก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะตอนนั้นข้าวยังเด็กอยู่ แม่ให้รับรู้เท่าไหนก็เท่านั้นครับ”

“โถ...ลูก” นายแม่เห็นดังนั้นจึงเข้าไปกอดลูกข้าวไว้ทั้งตัว

“ผมไม่เป็นอะไรครับ” ลูกข้าวก็ยังคงมีรอยยิ้มประดับไว้เสมอ

“ป่ะ เราไปรอกันที่โต๊ะดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวแม่ให้แหววกับสายยกออกไป”

“ครับ”



พอเดินไปที่โต๊ะอาหาร ภูธิปก็นั่งอยู่ก่อนแล้ว

“วันนี้ลงมาเร็วนะตาภู” นายแม่ยิ้มแต่ก็ยังลูบหัวลูกข้าวอยู่

“ครับ ตื่นเร็วน่ะ”

“ดีเลย วันนี้แม่กะจะพาน้องไปวัด ว่างไหมเราน่ะ”

“ครับ”

“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ขับรถให้แม่หน่อยนะ”

“ครับ แม่”

“หนูข้าว...ลูก เดี๋ยวกินเสร็จไปแต่งตัวนะ แม่จะพาไปวัด”

“ครับ นายแม่”



ผมขึ้นมาแต่งตัวตามที่นายแม่บอก ถึงมันจะกะทันหันไปหน่อย แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ผมจะได้ไปทำบุญ

“ตัวไหนดีน๊า...” ผมพึมพำ ขณะยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า สักพักก็มีมือเลื้อยมากอดจากทางด้านหลัง

“พี่ภู”

“อืม...ฟอด” พี่ภูขโมยหอมแก้มอีกแล้ว

“พี่ภู ปล่อยเลย เดี๋ยวนายแม่รอนาน”

“แปปนึง ขอกอดก่อน....พี่ได้ยินข้าวคุยกับแม่” ภูธิปพูดแค่นั้น ก็กอดลูกข้าวแน่นขึ้นอีก

“อ่อ...ข้าวไม่ได้เป็นอะไรครับ ไม่ได้คิดมากด้วย” คนตัวเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส ไม่ได้มีแววเสียใจเจืออยู่

“เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ข้าวยังเด็กอยู่เลย แม่ข้าวบอกให้อยู่กับปัจจุบัน อดีตเป็นเรื่องราวที่ไว้นึกถึงเท่านั้น” ผมตอบพร้อมยิ้มให้

“อืม” ภูธิปจูบที่ขมับไปทีแล้วปล่อยให้เจ้าตัวไปแต่งตัวต่อ

“ข้าว เก็บเสื้อผ้าไปเผื่อสัก 2-3 วันนะ พี่จะพาไปเที่ยว” ภูธิปเอ่ยต่อ ทำให้คนตัวเล็กแปลกใจ

“งานไม่เยอะหรอ พี่ภูจะเสียงานหรือเปล่า”

“ไม่ แม่พี่จะไปปฏิบัติธรรมด้วย พี่เลยกะจะพาไปเที่ยว ขากลับค่อยแวะไปรับแม่อีกที”

“ครับ” ผมเก็บเสื้อผ้าเสร็จ ก็ไปแต่งตัว กว่าจะออกจากบ้านก็ปาไปเกือบเก้าโมงเช้า



เราไปวัดที่อ่าวลึกกันเพราะเป็นวัดที่นายแม่มาเป็นประจำอยู่แล้ว เข้าไปไหว้พระในโบสถ์ แล้วก็มาถวายสังฆทานและปัจจัย วัดที่นี่เงียบสงบมากครับ หลวงปู่ท่านใจดี เสวนากันอยู่นาน ก่อนลากลับท่านก็ผูกข้อมือให้ผมกับพี่ภูด้วยครับ เพื่อความเป็นสิริมงคล

จากนั้นก็แยกกับนายแม่ และเราก็เดินทางต่อไปที่เมืองกระบี่ครับ พี่ภูบอกว่าจะพาไปอนุสาวรีย์ปูดำ และวัดถ้ำเสือ วันนี้ไปแค่นี้ก่อน เพราะเหลือเวลาไม่มาก พรุ่งนี้แพลนว่าจะพาไปทัวร์เกาะกัน

เรามาถึงวัดถ้ำเสือในช่วงบ่ายๆ เห็นพี่ภูว่า ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัดในเวลาต่อมา กว่าจะออกจากวัดถ้ำเสือได้ก็ 3 โมงกว่าแล้ว เรากะไปที่ลานปูดำเลย แล้วจะได้แวะกินอาหารที่นั่นด้วยเลย อนุสาวรีย์ปูดำเป็นจุดชมวิวชั้นดีของเมืองกระบี่ เพราะสามารถมองเห็นเขาขนาบน้ำ ภูเขาสองลูกที่ตั้งอย่างโดดเด่นริมแม่น้ำกระบี่ และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ด้วย ใกล้ๆ กับประติมากรรมปูดำ จะมีอนุสาวรีย์นกออกหรือนกอินทรีย์ นกประจำถิ่นที่นี่ สาเหตุที่สร้างอนุสาวรีย์เป็นรูปปูดำและนกออกเพราะทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองกระบี่



กว่าจะกลับเข้าโรงแรมฟ้าก็มืดแล้ว เพราะตรงลานปูดำนั้น ช่วงเย็นสวยมากจริงๆ ก็เลยอยู่ตรงนั้นเสียนาน ซึมซับกับบรรยากาศที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน อิจฉาคนที่นี่จังได้อยู่กับธรรมชาติแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ไหนจะอากาศที่บริสุทธิ์อีก อยากอยู่ที่นี่จัง...

“พี่ภูจะอาบน้ำก่อนหรือเปล่าครับ” ผมถามคนตัวโตที่นอนแผ่หลาอยู่ที่เตียง

“อืม ข้าวอาบก่อนเลย พี่ขอพักก่อน”

“ครับ” ผมตอบแค่นั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไป

สักพักใหญ่ผมก็เดินออกจากห้องน้ำ พอดีกับพี่ภูที่เตรียมตัวจะอาบน้ำแล้ว ผมไปนั่งเช็ดผมที่เตียง ใส่เสื้อคลุมของโรมแรมนอนนี่แหละครับสบายดี อ่อที่นี่เป็นโรงแรมของพี่ภูครับ ตอนแรกก็งงว่าทำไมพนักงานเข้ามาทักซะนอบน้อมเกินเหตุ ผมคงทำหน้าสงสัยอยู่นาน พี่ภูถึงบอกให้ฟัง


ร่างสูงเดินออกจากห้องน้ำด้วยเสื้อคลุมเหมือนผม ผมที่เปียกลู่ ทำให้รู้ว่าคนตัวโตนั้นไม่ใส่ใจกับการเช็ดผมเลย เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก น่าตีจริงๆ

“พี่ภู ข้าวเช็ดผมให้” คนตัวโตเดินมาหาอย่างไม่อิดออด

“ทำไม เช็ดลวกๆ อย่างนั้น เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ผมเอ่ยอย่างบ่นๆ

“…” ภูธิปไม่ได้ว่าอะไร แค่นั่งหลับตาให้คนตัวเล็กจัดการไป

“เสร็จแล้วครับ” ผมลุกไปตากผ้า แล้วกลับมานวดช่วงต้นคอให้

“พี่ภู เหนื่อยหรอ”

“นิดหน่อย พี่ไม่ได้ขับรถนานๆ แบบนี้นานแล้ว ไม่ค่อยออกไปไหน ส่วนใหญ่จะอยู่แต่ไร่ ส่วนโรงแรมนานๆ จะเข้ามาที ถ้าด่วนเดี๋ยวลูกน้องก็เอาเอกสารเข้าไปให้ที่ไร่น่ะ”

“อือ...งั้นพี่ภูนอนเลยไหม”

“หึหึ...มาให้พี่กอดซะดีๆ” คนตัวใหญ่กว่าหันกลับมาแล้วพลิกตัวลูกข้าวลงกับเตียง

“อะไรเล่า คนเจ้าเล่ห์” ลูกข้าวพูดไป แก้มแดงไป

“พี่ภู...ดะ” ยังพูดไม่ทันจบ ปากเล็กก็โดนฉกไปครอบครอง ความหวานทำให้ภูธิปยิ่งรุกเข้าไปอีก หวานเหลือเกิน จากนั้นก็ไล้จมูกลงมาที่ซอกคอ ตรงนี้ก็หอมเย้ายวน เลยมาที่ลาดไหล่ ก็ยิ่งเย้ายวนมากขึ้นอีก ความร้อนในกายเริ่มปะทุขึ้น ความต้องการที่จะลิ้มรสคนตรงหน้ายิ่งมากขึ้น

“ข้าว” กายใหญ่หยัดขึ้นเล็กน้อย แล้วจูบไปตามหน้าผาก แก้ม และจบที่ริมฝีปากอีกรอบ ลูกข้าวบีบแขนคนเอาแต่ใจเบาๆ เป็นการบอกเมื่อเจ้าตัวเริ่มหายใจไม่ทัน ภูธิปจึงผ่อนออกให้

“พี่ภู อ๊ะ” ตอนนี้ภูธิปไล่จูบไปทั่วตัว แล้วลากวนที่ตุ่มไตสีหวานทั้งสองข้าง คลอเคลียอยู่ไม่ห่างเป็นเวลานานพอที่คนนอนอยู่บนเตียงเกือบจะถึงฝั่งฝันอยู่ในที ภูธิปรู้ว่าจุดนี้อ่อนไหวกับลูกข้าวมาก จึงสานต่อและมือก็ช่วยลูกข้าวน้อยๆ ไปด้วย

“พี่ภู...พี่ภู ข้าว...ข้าว...” น้ำสีขาวขุ่นถูกปล่อยออกมา คนตัวเล็กนอนหอบตัวแดง ภูธิปมองยังไงมันก็ดูเหมือนเชิญชวนให้เข้าหามาก ไม่รอช้าภูธิปขึ้นคร่อมเจ้าตัวทันที สอดนิ้วเข้าไปเป็นการเบิกทาง จนรู้สึกว่าพร้อมแล้ว จึงจ่อแก่นกายของตัวเองเข้ากับช่องทางอ่อนนุ่มของลูกข้าว

“ข้าว อย่าเกร็งครับ” ดูเหมือนครั้งนี้จะเข้าลำบากกว่าทุกครั้ง

“จะ...เจ็บ พี่ภู” ลูกข้าวครางพูด ภูธิปจึงช่วยเล้าโลมให้คนตัวเล็กรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ภูธิปไม่อยากทำให้เจ้าตัวบาดเจ็บ เขาถึงต้องอดทน

“พี่ภู เข้ามาเถอะ” ลูกข้าวก็รู้ว่าคนตรงหน้าอดทนมากแค่ไหน พี่ภูไม่เคยทำให้เขาเจ็บ แม้สักครั้งก็ไม่เคย เขาก็ต้องอดทนเช่นกัน เขาไม่อยากเอาเปรียบความรักของคนตัวโตคนนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจพูดออกไป

“อ๊ะ...อะ...”

“อีกนิดนะ เกือบหมดแล้ว”

“พี่ภู” เมื่อสอดเข้าจนสุดความยาว คนตัวเล็กยิ่งรู้สึกมากกว่าเดิม มากกว่าทุกครั้ง จากนั้นภูธิปจึงเริ่มขยับ กิจกรรมจึงดำเนินต่อไปโดยมีลูกข้าวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กว่าทุกอย่างจะจบลงท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้มเรืองรองรอรับพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นในอีกไม่ถึงชั่วโมงนี้

******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//


ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ชอบบบบบบ
รอตลอดดดดดด
มาบ่อยกว่านี้ได้ไหมมมพลีสสสสส

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
จะท้องแฝดไหมแบบนี้ ^^

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มาดดุๆ ตอนแรกหายไปหมดเลยนะภู หวานซะลูกข้าวระทวยไปเลย  :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เอะอ่ะก็กินน้องข้าวอ่ะพี่ภู
5555555555
 :o8: :-[

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
พี่ภูระวังอ้วน"กินข้าว"บ่อยอ่ะ :mew3:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
พี่ภูคนเจ้าเล่ห์   :mew3:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ี่พี่ภูหื่น...จับน้องข้าวกินอยู่เรื่อยเลย  :hao6:  :hao3:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่ภูให้น้องพักหน่อยก็ได้ค่ะ สงสารน้องบ้างเดี๋ยวไม่สบายเอานะคะ แล้วจะอดไปหลายวันนะเออ

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 7
By moggy
-----------------------

วันนี้ลูกข้าวตื่นสายกว่าปกติมาก ภูธิปจึงลองเอามือจับที่หน้าผาก อุณหภูมิก็ปกติดี สงสัยจะแค่เพลียเท่านั้น เขาจึงโทรสั่งอาหารขึ้นมาที่ห้อง กว่าคนตัวเล็กจะตื่นก็คงอีกนาน ภูธิปจึงไปอาบน้ำ แต่งตัว เดี๋ยวกะจะลงไปดูงานเสียหน่อย ไหนๆ ก็มาแล้ว

“ข้าว ตื่นครับ” ภูธิปปลุกคนที่อยู่บนเตียง เพราะรูมเซอร์วิสมาส่งอาหารแล้ว

“อือ...พี่ภู” เสียงเล็กงัวเงีย

“ลุกเร็ว กินข้าว เดี๋ยวจะพาไปเกาะ”

“อื้อ...จะ...เจ็บ” จังหวะที่ลูกข้าวเอี้ยวตัวจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องลงไปนอนแมบอยู่ที่เดิม

“เจ็บหรอ ไหนพี่ดูสิ” ภูธิปเอี้ยวตัวจะตรวจดู แต่ลูกข้าวก็ไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด

“บ้า พี่ภู” ลูกข้าวดันตัวเองนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมแก้มแดงๆ

“เจ็บมากไหม” พี่ภูเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ดูกังวล
 
“นิดหน่อยครับ แต่เมื่อยตัวมากกว่า” ลูกข้าวตอบทั้งที่แก้มยังแดงเป็นลูกมะเขือเทศสุก

“แล้วจะไปเกาะไหวไหม” ผมพยักหน้าเท่านั้น
 
“อืม งั้นเดี๋ยวพี่พาไปห้องน้ำ จะได้กินข้าวกัน”

“ครับ” ผมรับคำ พี่ภูก็อุ้มไปที่ห้องน้ำ

“พี่ภูออกไปก่อน” ผมแย้งขึ้น เพราะคนหน้าเข้มไม่ยอมออกไปซะที

“เสร็จแล้ว เรียกพี่นะ”


กว่าผมจะจัดการตัวเองเสร็จ ก็ใช้เวลามากพอสมควรเลยครับ กว่าจะเอาอะไรๆ ที่มันคั่งค้างอยู่ในตัวออกก็เสียเวลาพอสมควร พี่ภูนะ พี่ภู เดี๋ยวต้องบอกให้ใส่ถุงซะแล้ว ลำบากผมมากเลย แต่จะให้ไปพูด ผมก็หน้าร้อนผ่าวๆ แล้ว ทำยังไงดีอ่า พอถึงเวลาจริงไม่กล้าพูดซะงั้น มันน่าอายนะครับ เวลาพูดเรื่องใต้สะดือ

“พี่ภู” คนหน้าเข้มเข้ามาอย่างเร็ว สงสัยรออยู่หน้าห้องน้ำอยู่แล้ว

“ไม่ต้องอุ้ม ข้าวเดินไหว” ผมรีบพูด เพราะพี่ภูถลาเข้ามาจะอุ้มท่าเดียว ผมต้องเบรคไว้ก่อน ผมดีขึ้นแล้วครับ ไม่ค่อยเจ็บแล้วถ้าเทียบกับครั้งแรกน่ะนะ พี่ภูแค่ประคองเท่านั้น




อาหารเช้าวันนี้ข้าวต้มปลาครับ กำลังอยากกินพอดีเลย รู้ใจนะเนี่ย นายโจรป่า อิอิ ไม่ได้เรียกพี่ภูแบบนี้นานแล้ว นี่พี่ภูก็โกนหนวด เล็มเคราให้สั้นขึ้นแล้วนะเนี่ย แต่ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรแตกต่างจากเดิมเลย เดี๋ยวกลับบ้านไปรอบนี้ผมต้องจัดการกับเจ้าตัวซะหน่อย นับวันยิ่งจะเหมือนโจรเข้าไปทุกวัน



ผมอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขาสั้นครึ่งต้นขาสีเขียวขี้ม้า แล้วก็หมวกอีกใบ ก็เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนพี่ภูเสื้อกล้ามสีขาวมีเชิ้ตสีฟ้าแขนสั้นทับ กับกางเกงขาสั้นประมาณเข่า พี่ภูขับสปีดโบ๊ทไปเอง รอพนักงานขนของและอาหารลงเรือเสร็จ เราก็ออกประมาณ 9 โมง ที่หมายแรกคือหาดไร่เลย์ หาดทรายขาว เนียน น้ำใส เราเดินเล่นไปเรื่อยๆ จนมาถึงหาดถ้ำพระนาง ถ้ำสวยที่โดดเด่นด้วยความวิจิตรที่ธรรมชาติสร้างให้เกิดหินงอก หินย้อย สลับซับซ้อนเป็นชั้นแนว ภายในถ้ำมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวเรือและผู้คนท้องถิ่นมากราบสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นก็พาไปที่เกาะปอดะ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด นุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใส ด้วยท่ามกลางบรรยากาศใต้ทิวสน ผ่อนคลายด้วยเสียงคลื่นและสายลม ร่มรื่นมาก เราพักกินข้าวกันที่นี่ ถ้าไม่ติดว่าต้องไปที่อื่นต่อ ว่าจะขอพี่ภูพักที่นี่ เพราะบรรยากาศน่านอนมาก เราไม่ได้มาในช่วงเทศกาลคนก็เลยไม่เยอะ ทำให้ผมชอบที่นี่เป็นพิเศษ

“ชอบหรอ” ดูท่าว่าคงไม่สามารถรอดพ้นสายตานายหัวภูธิปไปได้

“ข้าวชอบ ร่มรื่นดีจัง หาดก็สวย” สายตาที่กำลังชื่นชมกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าหันมาตอบคนหน้าเข้ม

“ไว้วันหลังพี่จะพามาอีกแล้วกัน”

“จริงๆ นะ”

“อืม” ภูธิปวางมือที่หัวเล็ก

“แตงโม”

“หื้ม”

“ข้าวอยากกินแตงโม” หลังจากของคาว ลูกข้าวก็ถามหาของหวานทันที ภูธิปจึงหันไปหยิบให้

“ขอบคุณครับ”

“ปากแดงหมดแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เพราะเขาเก็บของหมดแล้ว เหลือก็แต่ลูกข้าวที่นั่งกินแตงโมเกือบจะหมดกล่องอยู่รอมร่อ พร้อมเช็ดปากที่เลอะออกให้

“…” ลูกข้าวทำเพียงแค่หันมายิ้มให้เป็นการขอบคุณ



และเราก็เริ่มเดินทางอีกครั้ง ไปที่ทะเลแหวกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น Unseen Thailand สวยสมกับที่เขาร่ำลือกันจริงๆ แต่เพราะเราไปเร็ว ทำให้ต้องรอน้ำลงอีกสักชั่วโมงได้ พี่ภูพาไปนั่งใต้ร่มไม้ที่โขดหินด้านหนึ่ง ผมก็นั่งกินผลไม้ไปเรื่อย ส่วนพี่ภูพักสายตาครับบนตักผมนี่แหละ

“พี่ภู” เห็นคนตัวโตนิ่งไปชั่วโมงกว่า ผมเริ่มเมื่อยๆ แล้วด้วย

“อืม” พี่ภูหรี่ตานิดหน่อย เพื่อปรับสายตา

“เห็นทะเลแหวกแล้ว” ผมชี้ให้คนหน้าเข้มดู

“อืม ป่ะ ไปดูกัน” พอพี่ภูลุก ผมก็ลุกตาม แต่ผมก็ต้องนั่งต่อ เหน็บกินครับ แง...

“เป็นไร”

“เหน็บกิน” แฮ่...ผมยิ้มแห้งๆ ส่งไป

“แล้วไม่บอก มา ขี่หลังพี่”

“บ้าหรอ พี่ภู คนเยอะแยะ”

“ก็คนเยอะแยะนี่แหละ มาเร็ว” ภูธิปเอื้อมจับลูกข้าวขึ้นหลังเรียบร้อย คนตัวเล็กจะทำอะไรได้ ก็ต้องคล้องแขนกับรอบคอสิ เดี๋ยวตกไปคงเจ็บแย่

“สวยอ่ะ พี่ภู” ลูกข้าวที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็น พูดคุยไม่หยุด ชี้นั่น นี่ ให้ภูธิปดู แต่ร่างใหญ่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อหรือรำคาญเลยสักนิด กลับชอบเสียงหงุงหงิงอยู่ข้างหูเสียอีก


และการดำน้ำที่สุดท้ายก่อนกลับต้องยกเลิกไปเพราะลูกข้าวกลัว...

“ไม่ดำจริงหรอ...ข้าว สวยนะ” ภูธิปพยายามโน้มน้าว เพราะไหนๆ ก็มาแล้ว เขาไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้น

“อื้อ...ไม่ดำ น้ำเขียวๆ น่ากลัว”

“เอ้า...ก็ตรงนี้เป็นแถบแนวปะการังและสาหร่ายทะเลนิ ก็ต้องสีนี้แหละ”

“ไม่เอา ไม่ดำ ข้าวกลัว กลับเถอะ ข้าวง่วงแล้ว นะ...พี่ภู นะ” นี่เรียกว่าอ้อนได้หรือเปล่านะ ภูธิปคิดในใจ

“โอเคๆ กลับก็กลับ”



สปีดโบ๊ทหันหัวเรือกลับทางชายฝั่งทันที กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่าย 3 โมงแล้ว ภูธิปรีบพาเจ้าตัวไปอาบน้ำทันที เดี๋ยวจะไม่สบายเอา แต่ก็นะ ยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งเสพติด

“อืม...พี่ภู อย่าสิ” ตอนนี้ลูกข้าวกำลังโดนรังแกโดยคนตัวโต

“อืม...นิดเดียวครับ” ลูกข้าวก็เสร็จคนเจ้าเล่ห์ไปตามระเบียบ หึหึ แค่รอบเดียวก็พอเดี๋ยวจะป่วยเอาเพราะแช่น้ำนาน



เช้าอีกวัน ภูธิปลงไปข้างล่าง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยและเอกสารนิดหน่อย

“สวัสดีครับ นายหัว” ประวิทย์ผู้จัดการที่นี่เอ่ย พร้อมส่งเอกสารให้ผู้เป็นนายดู

“เรียบร้อยดีไหม” ภูธิปก้มลงอ่านเอกสารในมือ พร้อมถามประวิทย์ไปด้วย

“เรียบร้อยดีครับ นาย”

“แล้วอีก 3 ที่ล่ะ” ผู้เป็นนายเอ่ยถามต่อถึงโรงแรมในเครืออีก 3 แห่ง

“เรียบร้อยทุกอย่างครับ เอ่อ...นายครับ เมื่อกี้คนที่ไร่ฝากซองนี้ให้นายครับ” ภูธิปขมวดคิ้วทันที แต่ก็รับซองเอกสารมา

“อืม”

“นายกลับวันนี้ใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมจะเตรียมรถให้”

“อืม ช่วงบ่ายน่ะ”

“ได้ครับ”

“ยังไง ฝากด้วยแล้วกัน” ประวิทย์มองผู้เป็นนาย นายเป็นผู้มีพระคุณกับคนอย่างเขามาก เพราะด้วยอายุที่มาก บวกกับเรียนมาน้อย ไปที่ไหนก็ไม่มีใครรับเข้าทำงาน นายให้ทั้งงาน ให้ทั้งชีวิตใหม่ แค่นี้เขากับครอบครัวก็ทดแทนไม่หมดแล้ว ถึงนายจะดูดุ แต่นั่นก็เพื่อให้ลูกน้องทุกคนอยู่ในกฏระเบียบที่มี การที่จะคุมคนเยอะๆ ทั้งที่อายุยังน้อย ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ภูธิปก็ทำได้ และทำได้ดีเสียด้วย แต่คนที่นายพามานี่สิ สงสัยจะเป็นคนสำคัญ เพราะปกติไม่เคยเห็นภูธิปจะดูแล หรือใส่ใจใครอย่างนี้มาก่อน แค่เดินด้วยยังไม่เคยเห็นเลย นอกจากเจ้าตัวจะมากับคุณหญิงจันทร์เท่านั้นแหละ

“ครับ นาย” ประวิทย์รับคำ



ภูธิปกลับขึ้นห้องมาได้ ก็ตรงไปที่เตียงที่มีก้อนกลมๆ อยู่บนนั้น หึหึ...ขี้เซาจริงๆ เลย ใบหน้าขาวล้อมกรอบด้วยผมซอยสั้นระต้นคอ คล้ายๆ ทรงเห็ดมั้ง หึหึ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากไปที แต่เขาก็เข้าใจคนตรงหน้า ไหนจะไปทัวร์เกาะ ไหนจะโดนเขารังแกอีก ก็น่าเพลียอยู่หรอก ภูธิปยิ้มให้กับตัวเอง เพราะไม่คิดว่าเขาจะรักใครได้ นอกเหนือจากงานแล้ว เขาก็มีแต่แม่เท่านั้น พอมาเจอกับลูกข้าว ระบบการใช้ชีวิตของเขารวนไปหมด ปกติเขาจะอยู่ทำงานในไร่จนเสร็จถึงจะกลับบ้าน ซึ่งไม่บ่อยนักที่เขาจะกลับ หรือไม่ก็ค้างที่บ้านต้นไม้ที่เคยพาเจ้าตัวไป หึหึ...นึกแล้วก็ขำ ที่เจ้าก้อนกลมกลัวความสูง หน้าซีดยิ่งกว่าอะไร น่าแกล้งมาก ตอนนี้เขากลับบ้านใหญ่ทุกวัน เลิกงานเป็นเวลา หรือเลิกก่อนด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดเลยว่ารวนมากจริงๆ ตอนเห็นลูกข้าวครั้งแรกบอกตามตรงว่าชอบตาโตๆ นั่นมาก พอพามาอยู่ด้วยแค่คืนเดียว เขาก็อยากให้เจ้าตัวอยู่ที่นี่ซะเลย และเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เขาสามารถรั้งเจ้าตัวไว้ได้ บอกเลยไม่อยากให้อยู่ห่างตัวเขาเลย กลัวจะเกิดเรื่องแบบนั้นอีก ยิ่งเจ้าตัวหน้าหวานคล้ายผู้หญิงอย่างนี้ ก็ทำให้เขายิ่งหวงมาก ภูธิปผละจากเตียงไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อเปิดซองดูก็มีรูปถ่ายมากมายอยู่ในนั้น เขารีบติดต่อกลับทันที

‘ครับนาย’

“รู้หรือยัง เป้าหมายพวกมันคือใคร”

‘ยังครับ นาย...แต่ส่งรูปให้นายดู เพราะเห็นว่ามันไม่ได้แค่รวบรวมคน แต่เหมือนจะทำการใหญ่อะไรสักอย่าง เหมือนจะมีแบ็คด้วยครับ’

“อืม...ตามต่อไป”

‘ครับนายหัว’


พอวางจากสายหนึ่ง ภูธิปก็โทรไปอีกสายหนึ่งต่อทันที

‘อืม’

“ไอ้ชา สืบให้ที พวกมันทำอะไรกันอยู่”

‘ได้’ จากนั้นก็วางสายไป ภูธิปเดินไปที่เตียงอีกครั้ง ก็เห็นคนตัวเล็กตื่นแล้ว




“ตื่นแล้วหรอ”

“อื้อ...พี่ภู” พอเดินเข้าไปหา ลูกข้าวก็เข้ามากอดเขาทันที ทำไมช่วงนี้ขี้อ้อนจัง

“ครับ” ภูธิปกอดตอบ พร้อมหอมแก้มไปที

“ไป...ลุก อาบน้ำ เตรียมตัวได้แล้ว”

“อืม...พี่ภู” ลูกข้าวคราง และกอดเขาแน่นกว่าเดิม หื้ม!! น่าแปลกใจ ปกติลูกข้าวไม่เข้าหาเขาก่อนนะ

“ไปครับ พี่พาไปห้องน้ำนะ” ภูธิปอุ้มเจ้าตัวขึ้นแล้วพาไปที่ห้องน้ำ



“ไม่ลืมอะไรนะ” ภูธิปถามคนที่นั่งมองอยู่ที่เตียง เจ้าตัวแค่พยักหน้าเท่านั้น จากนั้นก็ลงไปข้างล่างกัน ซึ่งประวิทย์ได้เตรียมรถรอไว้ให้แล้ว

“ผมเอากระเป๋าขึ้นรถให้เรียบร้อยแล้วครับ” ผู้จัดการเอ่ยขณะยืนรอส่งผู้เป็นนาย

“อืม ขอบใจมาก มีอะไรด่วนก็โทรหาฉันโดยตรงได้ตลอด”

“ครับนาย”



จากนั้นรถก็แล่นออกไปทางอ่าวลึก เพื่อไปรับนายแม่ก่อนกลับบ้านกัน

“พี่ภู ข้าวนอนนะ ง่วง”

“อืม” ภูธิปเอื้อมไปหยิบผ้าห่มที่อยู่เบาะหลังมาคลุมให้ลูกข้าว



ก่อนจะเข้าอ่าวลึก ลูกข้าวก็ตื่นขึ้น

“อื้อ...พี่ภู”

“ว่าไงครับ” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยกลับทันที แล้วเอามือไปลูบหัวลูกข้าว

“หิว” คำสั้นๆ ที่ทำให้ภูธิปถึงกับหัวเราะออกมา คนอะไรไม่นอน ก็กิน...ไม่กิน ก็นอน หึหึหึ

“เรานี่นะ...เดี๋ยวไปกินพร้อมแม่นะ จะถึงแล้ว” ภูธิปบอก แล้วเอามือโยกหัวคนที่บอกว่าหิว

“ครับ”



พอกลับมาถึงบ้าน นายแม่ขอตัวขึ้นไปพัก พี่ภูพาผมมานั่งเล่นหลังบ้านที่มีสวน กลิ่นดอกมะลิหอมโชยคละคลุ้งทั่วบริเวณ พระอาทิตย์กำลังตกสะกดสายตาของผม สวยมาก ผมไม่เคยมานั่งเล่นช่วงเย็นๆ อย่างนี้หรอกครับ

“ไม่เมื่อยหรือไง” ผมนั่งบนตักพี่ภู

“ไม่ ข้าวตัวเล็กนิดเดียว”

“ถึงข้าวจะตัวเล็ก แต่ก็ผู้ชายนะ น้ำหนักต้องมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว”

“หึหึ น้ำหนักน้อยกว่าแม่พี่อีกนะ รู้ตัวหรือเปล่า”

“จริงหรอ!! ข้าวไม่เคยอุ้มตัวเองอ่ะ” คนตัวเล็กเย้าหยอก

“หึหึ ให้พี่อุ้มคนเดียวก็พอ” เอ่ยเสร็จ ภูธิปก็เข้าคลอเคลียกับซอกคอขาว

“พี่ภู อย่าสิ”

“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ภูธิปตอบแต่ยังไม่ได้ละจากซอกคอขาว

“ข้าว รู้สึกแปลกๆ หยุดก่อนนะ พี่ภู” ผมรู้สึกเสียววูบที่ช่วงท้องน้อย เหมือนความรู้สึกผมจะไวกว่าเดิมรึเปล่านะ

“แปลกยังไง” พี่ภูก็คือพี่ภู เอาแต่ใจจริงๆ บอกให้หยุดก็ทำต่อ

“พี่ภู อ๊ะ” เจ็บนิดหน่อย

“พี่ภูทำอะไร” ผมลูบคอตัวเองนิดๆ แล้วหันไปหาคนตัวโต

“เปล่านิ” เสียงทุ้มเอ่ยชิดริมฝีปากบาง และบดจูบลงทันที ทั้งสองลิ้นคลอเคลียกันไม่ห่าง กว่าคนเอาแต่ใจจะหยุด ริมฝีปากบางก็บวมแดงขึ้นเล็กน้อยคล้ายลูกเชอรี่ พอภูธิปเห็นก็อยากจะกินเชอรี่ลูกนี้อีกเสียจริงๆ


******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//

**เป็นไข้หวัด ต้องขอโทษที่มาต่อช้านะคะ

**ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนอย่างมากเลยค่ะ  :mew1:



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ข้าวท้องแล้วแน่ ๆ เลย เย้ยยย  :mc4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เพิ่งมาเจออออ
คือมันฟีลกื้ดมากจนกลัว
อย่าม่าหนักเลยน้าาาา

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ท้องเเล้วใช่ไหมๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :z1: :z1: :z1:

น้องน้อยอาจมีหนูน้อยแล้ว อ้อนเชียว  :impress2:

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องข้าวเริ่มมีอาการ พี่ภูดูแลน้องดีๆ นะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 8
By moggy
-----------------------

อีก 2 วัน ผมจะกลับกรุงเทพฯ แล้วครับ เพราะอยู่ที่นี่เกือบ 2 เดือนแล้ว เร็วมาก วันพักร้อนของผมหมดแล้ว ก็ต้องกลับไปทำงานต่อ พี่ภูบอกว่าจะไปส่งแล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนเสียเลย แต่ช่วงนี้ผมเพลียง่ายมาก ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อยากนอนอย่างเดียวเลย

“พี่ภู อย่าสิ ข้าวจะนอน” คนเจ้าเล่ห์จะคลุกวงในท่าเดียว

“ไม่ได้หรอ” เสียงทุ้มนุ่มคล้ายอ้อน แล้วจะให้ผมใจแข็งได้ยังไงครับ

“ครั้งเดียวนะ ข้าวง่วง”

“โอเคครับ ที่รัก” ภูธิปก้มหอมแก้มคนใจดี แล้วเริ่มดำเนินกิจกรรมต่อไป อืมครั้งเดียวแต่นานมาก... หลังจากนั้นลูกข้าวก็หลับแทบจะทันที 



ผมตื่นขึ้นในเช้าอีกวัน กิจวัตรก็ตามเดิม เพราะทำจนชินแล้ว แต่ที่ไม่ชินก็กลิ่นกระเทียมเจียวนี่แหละ

“คุณข้าว เป็นอะไรคะ” แหววถามขึ้นขณะหั่นผัก ทำให้นายแม่ที่กำลังเจียวกระเทียมอยู่หันมาแทบจะทันที แล้วปล่อยให้ป้าสายทำต่อ ส่วนตนนั้นเดินไปหาคนที่ยืนพะอืดพะอมอยู่

“เป็นอะไรลูก ไม่สบายหรอ”

“เปล่าครับ นายแม่...ขอโทษนะครับ” ลูกข้าวเอ่ยตอบ แต่ยังไม่ทันไรก็ต้องวิ่งไปห้องน้ำ เสียงอาเจียนดังออกมา จนนายแม่ที่รีบตามมาดู ต้องเข้าไปช่วยลูบหลังให้

“เป็นยังไงบ้างลูก” คุณหญิงจันทร์เอ่ยถามด้วยความห่วงใย

“ไม่เป็นไรครับ นายแม่”

“ไหวไหมลูก”

“ครับ” นายแม่ช่วยพยุงออกจากห้องน้ำ แต่ยังก้าวออกไปไม่ถึง 3 ก้าว ก็ต้องกลับเข้าไปอีกครั้ง



“ข้าวเป็นไรครับแม่” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ขณะที่นายแม่กำลังช่วยลูบหลังให้ลูกข้าวอยู่

“ไม่รู้เหมือนกันลูก อยู่ๆ ก็อาเจียน” ผู้เป็นแม่หลีกทางให้ภูธิปเดินเข้ามาหาลูกข้าวที่เกาะชักโครกอยู่

“เดี๋ยวแม่ไปเอายาหอมมาให้”

“โอ้ก อ้อก..” ภูธิปช่วยลูบหลังร่างเล็ก

“พี่ภู”

“…” ภูธิปส่งแก้วน้ำบ้วนปากให้ แล้วลูบหัวอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็อุ้มออกไปนั่งพัก



“ขอบคุณครับ นายแม่” ผมยื่นมือไปรับถ้วยยา แต่ก็ต้องวางลงในทันที แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอีกครั้ง

“อ้อก..อ้อก” ภูธิปที่วิ่งตามมา ก็ช่วยลูบหลังและประคองร่างเล็กไปด้วย

“ไปหาหมอไหม ข้าว” หน้าซีดเซียว ทำให้ภูธิปเป็นกังวล

“สักพักคงหายแหละ พี่ภู” เสียงเล็กเอ่ยออกมา แล้วพิงกับอกกว้าง

“อืม งั้นไปพักนะ” แขนแกร่งอุ้มลูกข้าวขึ้นแล้วพาไปที่ห้องนอน

“พี่ภูไปทำงานเถอะ”

“ไปเถอะลูก เดี๋ยวแม่ดูให้...สายไปหยิบยาดมมาให้ทีนะ แล้วบอกแหววให้เอาโจ๊กขึ้นมาบนนี้” คุณหญิงจันทร์ที่ตามขึ้นมาตั้งแต่แรกเอ่ยบอกผู้เป็นลูก และหันไปสั่งกับสายทันที

“ครับ ถ้ามีเรื่องด่วนโทรหาผมทันทีนะครับแม่” ภูธิปเอ่ยกับแม่ แล้วลูบหัวลูกข้าวที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง

“อยู่กับแม่นะ พี่จะรีบกลับ” คนบนเตียงทำเพียงพยักหน้าเท่านั้น ภูธิปก้มลงจูบที่หน้าผาก แล้วเดินออกไป



ผมคิดในใจ นายแม่ยืนอยู่ตรงนี้ ก็ต้องเห็นแน่ว่าพี่ภูทำอะไรไว้ก่อนที่จะเดินออกไป ไม่อายเลยนะพี่ภู แต่ผมนี่สิ...ว่าแล้วก็หลับตาหนีซะเลย

“แม่เข้าใจลูก” คุณหญิงจันทร์เห็นท่าทีก็รู้ว่าลูกข้าวทำตัวไม่ถูก ตนเลยพูดพร้อมลูบหัวอย่างเอ็นดู สักพักตาแป๋วก็ลืมขึ้น

“ขอบคุณนะครับ นายแม่” ผมยกมือขึ้นไหว้อย่างรู้สึกขอบคุณจริงๆ

“จ้ะ มากินข้าวก่อนนะ” นายแม่จะป้อนให้ แต่ร่างเล็กก็พะอืดพะอมขึ้นมาอีก แล้วลุกไปห้องน้ำ

“เฮ้อ ไปหาหมอไหมลูก กินอะไรไม่ได้เลย” หลังจากลูกข้าวกลับออกมา นายแม่ก็ถามขึ้นทันที เพราะรู้สึกสงสารที่เจ้าตัวทานอะไรไม่ได้เลย ลูกข้าวแค่ส่ายหน้าไปมา

“สายไปเอานมอุ่นๆ มาไป” นายแม่หันไปสั่งกับคนเก่าแก่อีกรอบ

“ยังดีที่กินนมได้...งั้นพักนะลูก” พอกินเสร็จร่างเล็กก็ล้มตัวลงนอนทันที



ผมตื่นขึ้นอีกครั้งในช่วงเที่ยงๆ หิวจัง... เดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา แล้วลงไปข้างล่าง

“ตื่นแล้วหรอคะ คุณข้าว” แหววที่เห็นลูกข้าวก่อนใครเอ่ยถาม

“ครับ”

“เป็นยังไงบ้างลูก” นายแม่ที่นั่งร้อยพวงมาลัยอยู่เอ่ยถาม ก่อนจะวางเข็มลง แล้วเอามือไปแตะที่หน้าผากลูกข้าวเพื่อวัดอุณหภูมิ

“ไม่มีไข้ ค่อยยังชั่วหน่อย นี่ตาภูก็โทรมาทุกชั่วโมงเลย”

“ทุกชั่วโมงเลยหรอครับ”

“ใช่ลูก ทุกชั่วโมงเลย ตาภูนี่นะ...สงสัยจะติดเมีย” พอนายแม่พูดจบ ลูกข้าวก็หน้าแดงทันที

“แก้มแดงใหญ่แล้วค่ะ คุณข้าว” แหววพูดแซวๆ

“หึหึหึ ก็เมียน่ารักซะขนาดนี้นี่นะ” นายแม่เอ่ยพร้อมลูบหัวคนแก้มแดงไปมา

“นายแม่”

“เรียกแม่เฉยๆ ก็พอลูก เรียกเหมือนตาภูน่ะ”

“ครับ…คุณแม่ ขอบคุณนะครับ” ผมยกมือขึ้นกราบบนตักคุณหญิงจันทร์ ท่านก็ลูบหัวเบาๆ

“ไปๆ สาย ตั้งโต๊ะเถอะ เที่ยงกว่าแล้ว” นายแม่ว่ากับป้าสายที่นั่งช่วยนายแม่ร้อยพวงมาลัยอยู่

“ค่ะ คุณท่าน”

“หิวหรือยัง ลูก”

“ครับ หิวมากเลย” ผมเอ่ยตอบพร้อมส่งยิ้มให้ผู้ใหญ่

“ว้าว วันนี้มีต้มยำด้วย” พอถึงโต๊ะอาหาร ก็เห็นว่าเมนูที่อยู่บนโต๊ะน่ากินมาก และก็อยากกินมากด้วย

“อร่อยจังครับ ป้าสาย”

“ขอบคุณค่ะ...คุณข้าว เติมข้าวอีกไหมคะ”

“แฮ่...นิดนึงก็ดีครับ”

“กินเยอะๆ ลูก” นายแม่เอ่ยขึ้น

“ครับ คุณแม่”



พี่ภูกลับมาประมาณ 1 ทุ่ม เห็นว่าจะสิ้นเดือนแล้วเลยต้องสะสางเอกสารเยอะหน่อย

“ข้าว เป็นยังไงบ้าง” พอก้าวเข้าบ้านมา ก็ตรงไปที่ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาหวายทันที

“ดีขึ้นตั้งแต่เที่ยงแล้ว พี่ภูอ่ะ ตื่นตูมเกินไป แล้วไหนจะโทรมาเช็คทุกชั่วโมงอีก” ผมอดจะค่อนแคะไม่ได้

“พี่เป็นห่วง” ภูธิปจับหน้าผาก คอ แขน ของลูกข้าว

“อืม ตัวไม่ร้อน” คนตัวโตจึงวางใจได้เปราะหนึ่ง

“ก็ข้าวไม่ได้เป็นอะไรนี่”

“ดีแล้ว แล้วพรุ่งนี้ล่ะจะออกกี่โมง”

“อืม...7 โมงเช้าก็ได้ครับ”

“อืม”

“ไปกินข้าวกัน พี่ภู ป้าสายทำเสร็จแล้ว” ผมชักชวนไปที่โต๊ะอาหาร เพราะตอนนี้ตัวเองก็เริ่มหิวแล้วด้วย

“ไปสิ” ภูธิปเดินตามลูกข้าวไปที่โต๊ะอาหาร


เมนูเย็นนี้มี สะตอผัดกะปิกุ้งสด หมูคั่วเกลือ และแกงส้มปลากระบอก น่ากินทั้งนั้นเลย

“แกงส้มอร่อยจังครับ ป้าสาย” ผมกินไป ก็เอ่ยชมป้าสายไปด้วย

“ขอบคุณค่ะ กินเยอะๆ นะคะ” ผมแค่ยิ้มกลับเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้ทั้งนายแม่และภูธิปยิ้มตามไปด้วยความเอ็นดู

“อ่ะ พี่ตักให้” พี่ภูตักสะตอผัดกะปิกุ้งสดมาให้ กุ้งตัวโตมาก ลูกข้าวกำลังจะตักเข้าปาก แต่ก็ต้องลุกไปห้องน้ำทันที สร้างความตกใจให้แก่ผู้ร่วมโต๊ะอาหาร ภูธิปรีบตามไปทันที

“โอ้ก โอ้ก อ้อก...” ลูกข้าวอาเจียนไม่หยุด ภูธิปได้แต่ช่วยลูบหลังให้

“…” เมื่อเห็นว่าลูกข้าวเริ่มสงบแล้ว ภูธิปก็ยื่นแก้วน้ำให้เพื่อล้างปาก แล้วพาออกไปข้างนอก

“เป็นอีกแล้วหรอลูก ดีขึ้นไหม” นายแม่ส่งยาหม่องให้คนอ่อนเพลีย

“ข้าว เวียนหัวครับ”

“เดี๋ยวข้าวจะขึ้นไปพัก คุณแม่กับพี่ภูไปทานข้าวต่อเถอะครับ”

“แม่ไปกินข้าวต่อเถอะ เดี๋ยวผมดูแลน้องเอง” ภูธิปเอ่ยกับนายแม่ นายแม่พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป



ภูธิปวางลูกข้าวลงบนเตียง แล้วไปเอาผ้าชุบน้ำหมาดมาเช็ดหน้าและตามคอเพื่อให้สบายตัว

“คิดอะไรอยู่ พี่ภู” ผมถามคนคิ้วขมวด

“เปล่า พี่แค่เป็นห่วง แล้วพรุ่งนี้จะกลับไหวหรอ”

“ไหวแหละมั้ง” ผมตอบกลับอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก

“อืม งั้นก็พักซะ พี่ไปอาบน้ำก่อน” ผมพยักหน้ารับเท่านั้น


ระหว่างนั้นลูกข้าวไม่ได้ง่วง แค่หมดแรงเท่านั้น จึงโทรไปหาแม่ ผมโทรติดต่อกับแม่เป็นประจำอยู่แล้วครับ บางที พี่ภูก็คุยกับแม่ แม่ผมก็บอกอยากเจอพี่ภูมาก ผมเป็นหมาหัวเน่าซะงั้น

‘จ๋า ลูก’ ดอกเตอร์พิมพ์พิกากรอกเสียงใส่

“แม่ ทำอะไรอยู่ครับ”

‘แม่อยู่แลปครับลูก’

“แม่ พักผ่อนบ้างนะครับ ข้าวเป็นห่วง”

‘จ้าๆ แล้วลูกล่ะ เป็นยังไงบ้าง พรุ่งนี้จะกลับแล้วใช่ไหม’

“ครับ พี่ภูจะไปส่ง”

‘ว้าว แม่จะได้เจอหน้าลูกเขยแล้วหรอเนี่ย’

“แม่!!!”

‘ฮ่าๆๆ โอเคๆ แล้วพี่ภูไปไหนซะล่ะ’

“พี่ภูอาบน้ำครับ”

‘แล้วนี่กินข้าวหรือยังลูก’

“กินไปได้นิดเดียวเองครับ”

‘อ้าว ทำไมอย่างนั้นล่ะลูก’

“ไม่รู้ครับ แต่ข้าวเหม็นอาหารครับแม่ ได้กลิ่นแล้วจะอาเจียนท่าเดียวเลย”

‘หรอครับ ลูก แล้วเป็นอะไรมากไหม’ ดอกเตอร์พิมพ์พิกาแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรกับลูก นอกจากความเป็นห่วงเท่านั้น

“ดีขึ้นแล้วครับ”

‘ดีแล้วลูก ถ้าอย่างนั้นไปพักผ่อนเถอะจ้ะ’

“ครับ แม่ ข้าวรักแม่นะครับ”

‘แม่ก็รักข้าว ระวังตัวด้วยนะลูก’ หลังจากวางสายไป ลูกข้าวแปลกใจนิดหน่อย ทำไมแม่ชอบพูดให้ระวังตัวก่อนวางสายทุกครั้ง ปกติเวลาโทรคุยกันตอนอยู่กรุงเทพฯ แม่ก็ไม่เคยพูดนะ ตั้งแต่ผมมากระบี่ แม่ก็เตือนผมตลอดเวลาที่เราได้โทรคุยกัน เฮ้อ...ช่างเถอะ แม่คงเป็นห่วงเท่านั้น


สักพักพี่ภูก็ออกจากห้องน้ำมา

“ยังไม่นอนหรอ” ภูธิปแปลกใจที่คนเพลียยังไม่นอน

“ข้าวไม่ง่วง แค่หมดแรงเท่านั้นเอง”

“อืม กินนมได้ไหม เดี๋ยวพี่ลงไปเอาให้”

“ได้ครับ ตอนเช้าคุณแม่ก็ให้กินนม”

“เดี๋ยวพี่มา” ภูธิปว่าก่อนจะออกจากห้องไป



หลังจากลูกข้าวกินนม บ้วนปากเรียบร้อย ทั้งคู่ก็เตรียมเข้านอน แต่คนตัวเล็กก็ยังเจื้อยแจ้วเล่าเรื่องที่เจ้าตัวได้โทรคุยกับแม่มา และก็เป็นอย่างนี้ประจำ โทรคุยกับแม่เสร็จก็ชอบมาเล่าให้เขาฟังทุกครั้งไป เขาเคยได้คุยกับแม่พิมพ์แล้ว ท่านใจดีและน่ารักเหมือนลูกข้าวไม่มีผิด แล้วยังฝากฝังลูกข้าวไว้กับเขาอีก เขาก็รับปากทุกครั้ง และบอกแม่พิมพ์ว่าจะขึ้นไปหาและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย

“พี่ภู” ผมเรียกคนที่กอดผมอยู่

“ว่าไง”

“ข้าวรักพี่ภู” อยู่ๆ ผมก็อยากบอกครับ แล้วก็แนบตัวเข้าหาคนตัวโตอีกครั้ง

“หึหึ พี่ก็รักข้าว” ถึงภูธิปจะแปลกใจ แต่ก็ตอบกลับอย่างที่ใจบอก

“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า” ภูธิปเอ่ยต่อพร้อมจูบที่หน้าผากคนในอ้อมกอด

******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ Spenguin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
หนูลูกข้าวน่ารักจังงง

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด