เรื่องแซบๆ แต่แอบเศร้าของผู้ชายคนหนึ่งใน The Diary ครั้งหนึ่งผมก็เคยมีผัว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องแซบๆ แต่แอบเศร้าของผู้ชายคนหนึ่งใน The Diary ครั้งหนึ่งผมก็เคยมีผัว  (อ่าน 59722 ครั้ง)

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ช่างมาไว ไปไว เตรียมใจไม่ทันจริงๆ
สู้ ๆ คับ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
โดนไปอีกดอก

เฮ้อออ  เศร้าอีกจนได้สิน่า

 :m15:

hunkung11

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
เป็นอย่างงี้แหละมีเจอก็ต้องมีจาก  เพียงแต่รูปแบบกาจากนั้นจะแตกต่างออกไปจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง 

ก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้แล้วเราจะเป็นผู้ที่เข้มแข็งที่สุด

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 7

     จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 3 ปีแล้วที่ผมไม่เคยได้เจอตั้ม ไม่ได้ติดต่อตั้ม อาจจะเป็นเพราะผมต้องเจอสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ ในมหาวิทยาลัย ซึ่งการเรียนและกิจกรรมหนักกว่าสมัยมัธยมเยอะ เลยทำให้ลืมที่จะคิดถึงอดีตไปบ้าง แต่มันก็มีเหมือนกันที่แว้บๆ เข้ามา แล้วก็หายไป เพราะมีเรื่องอื่นให้คิดอีกเยอะ...และผมคิดว่า ผมกับตั้มตอนนี้เราต่างก็เดินเป็นเส้นขนานคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกต่อไป แต่...ผมคิดผิด ผมเชื่อแล้วแหละว่าโลกมันกลมจริงๆ
     ช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเพื่อนที่เชียงใหม่ ลืมบอกไปว่าผมก็อยู่ที่ลำปางเหมือนเดิมนั่นแหละ หลังจากเอ็นฯ ไม่ติด ผมก็สมัครสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง พักหอเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่หอพักมาสเตอร์บุญทวีแล้วนะ ผมอยู่หอพักของทางมหาวิทยาลัยน่ะ เพื่อนบางคนก็ถามว่าทำไมไม่เป็นเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ล่ะ โลกทัศน์จะได้กว้างกว่านี้ มีอะไรให้สัมผัสเยอะแยะ ผมก็ตอบไปว่า…
     “ขอบคุณสำหรับคำถาม...เอ่อ ไม่ดีกว่าค่ะ น้องเนลไม่อยากจะอยู่ไกลบ้านมาก อยู่ใกล้พ่อแม่มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ ว่างเราก็กลับบ้านไปหาท่าน หรือไม่ท่านก็มาหาเรา เรียนที่ไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะ อยู่ที่สมองและสองมือ ไม่ว่าจะเป็นชายจริงหรือหญิงแท้ขอให้เราทำตัวดี ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน (เอ้า! ว่าไปนู่น) ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ถึงแม้เราจะบวชให้ท่านไม่ได้ (เสียงสะอื้น) แต่เราก็สามารถตอบแทนท่านด้วยการเป็นคนดี คิดดี พูดดี มีอริยสัจ 4 พรหมวิหาร 4 อิทธิบาท 4 แล้วถ้าคุณแน่ก็อย่าแพ้ ป.4 ขอบคุณค่าาาาาาา!!!!!!!
     “ตกรอบ!!!”
     เพื่อนๆ พร้อมใจกันประสานเสียงซะดัง เรียกเสียงฮากันสนุกสนาน นี่ก็เป็นมุกที่พวกเราชอบเล่นกันในกลุ่มแล้วก็จะขำกันทุกที ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเวลาสาวประเภทสองประกวดกัน ทำไมจะต้องตอบคำถามเป็นแพทเทิร์นเดียวกันหมด …“ขอบคุณสำหรับคำถาม” อันนี้แทบจะ 99% จะต้องพูด (เพื่อ?) “ไม่ว่าจะเป็นชายจริงหรือหญิงแท้ เราก็สามารถเป็นคนดีของสังคมได้” อันนี้ 98% จะต้องพูด (เพื่อ?) บางครั้งคำถามไม่ได้ชี้นำให้ตอบแบบนี้ แต่คุณ She ประมาณว่าเตรียมมาแล้ว ยังไงกูก็จะตอบอะ มีไรปะยะ!
     มีเรื่องขำๆ จะเล่าให้ฟัง ผมเคยดูการประกวดสาวประเภทสองเวทีใหญ่เวทีหนึ่ง รอบ 10 คนสุดท้าย กติกาคือ ให้บอกความหมายของภาพที่ปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าผู้เข้าประกวด คือใช้ระบบสัมผัสน่ะ ประมาณว่าจิ้มหน้าจอแล้วภาพต่อไปจะโชว์ แล้วทีนี้มีผู้เข้าประกวดนางหนึ่ง ถึงคิว She คุณเธอก็จิ้มหน้าจอ  ภาพก็ขึ้น แทนที่จะโชว์ศักยภาพทางสติปัญญาบอกความหมายของภาพนั้นเลย แต่ไม่! She พูดว่าอะไรก่อนรู้มั้ย
     “ขอบคุณสำหรับคำถาม!!!”
     เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย...ผมแทบจะสำลักเย็นตาโฟเพราะทั้งเลือด ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา และผักบุ้งต่างก็แย่งกันขำ เท่าที่ดูไม่ได้มีใครถามอะไรหล่อนเลยนะ  (คอมพิวเตอร์ก็ไม่ได้พูดกับหล่อนเหมือนกัน) เป็นเอามาก นี่เข้าขั้น ‘ขอบคุณสำหรับคำถามเข้าเส้นเลือด’ ซะแล้ว 555+
     อุ๊ย! แถออกนอกรันเวย์ไปซะไกลเลย...เมื่อกี้เม้าธ์ค้างถึงเรื่องไปเที่ยวเชียงใหม่ต่อเลยละกัน ผมกับเพื่อนๆ ไปถึงก็ค่ำแล้ว กินข้าวกินปลาเรียบร้อยก็ถึงเวลาดึ้งดึ่งๆ เต้นระบำร่ำสุรากันเต็มที่หวังคืนนี้จะต้องแฮปปี้ๆ แน่ๆ มันก็แฮปปี้จริงๆ น่ะแหละ เพราะกลุ่มพวกผมมันขาแดนซ์ขาเมากันอยู่แล้ว อ้อ! กลุ่มผมที่ว่านี้ไม่มีเออุ่มกะเอจักรีอยู่ด้วยหรอกนะ เพราะสองสาวนั่นเอ็นฯ ติดต่างแยกย้ายกันไปเรียนคนละทิศละทางแล้ว เพื่อนกลุ่มใหม่นี้เป็นเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัย ทั้งแสบและแซบกว่าหลายเท่าตัวเลยล่ะ แต่ผมบันเทิงเริงใจกับแสงสีและเสียงเพลงได้ยังไม่เท่าไหร่ ก็ต้องรู้สึกเบลอๆ เอ๋อๆ เหมือนคนจิตหลุด เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ตอนที่ผมกำลังโยกกายย้ายสะเอวอย่างสนุกสนานกับเพื่อนอยู่นั้น จู่ๆ ผมก็เห็นผู้ชายคนนึงกำลังเดินใกล้เข้ามา (จริงๆ แล้วเค้าไม่ได้เดินมาหาผมหรอก คงจะไปห้องน้ำอะ แล้วตรงผมมันเป็นทางผ่านพอดี) มันก็เหมือนมีมนต์สะกดหรือยังไงไม่ทราบทำให้ผมเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ ในใจพร่ำคิดว่า...ขออย่าให้ใช่...ขอย่าให้ใช่...แต่ใจอีกซีกดันค้านขึ้นมาว่า...ขอให้ใช่...ขอให้ใช่...เฮ้อ! ทำไมมันสับสนอะไรอย่างนี้นะ
     “ตั้ม...” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ เพราะเริ่มจะมั่นใจขึ้นมาแล้วว่าผู้ชายคนที่เค้าเดินเข้ามาใกล้ผม และผมกำลังเดินเข้าไปหาเค้า...นั้นคือ ตั้ม!
     ผู้ชายคนนั้นยืนประจันหน้ากับผม มองผมเหมือนกำลังพินิจพิเคราะห์อะไรสักอย่าง เค้าคงนึกอยู่ว่าเคยเห็นผมที่ไหน แต่ว่า 2-3 ปีผมคงไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมากหรอก แต่เค้าคนนี้น่ะสิ ดูเปลี่ยนไปเยอะ ทั้งหล่อขึ้นมาก สูงขึ้น และดูเท่ตามสไตล์วัยรุ่น แถมยังแอบเก๋เอาปลาสเตอร์ลายเสือสีดำมาปิดบริเวณจมูกอีก
     “พี่...”
     “ตั้ม...ตั้มใช่มั้ย”
     “อืม ตั้มเอง เป็นไงบ้างอะ”
     “ก็สบายดี ตั้มล่ะ”
     “สบายดีพี่ มาเที่ยวกับเพื่อนเหรอ”
     “อืม หล่อขึ้นนะเรา”
     “อยู่แล้ว” ความขี้เล่นและอารมณ์กวนๆ ของตั้มยังเหมือนเดิมเลย
     “มีแฟนหรือยังอะ” ผมถามตั้มออกไป แต่ในใจก็ยังนึกหวงอยู่นิดๆ ไม่อยากให้ตั้มมีแฟนใหม่เลย ตั้มไม่ตอบผมเป็นคำพูด เพียงแค่รอยยิ้มและยักคิ้วผมก็รู้แล้วล่ะ
     “ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”
     “ผู้หญิงดิพี่ โห...”
     ดูสิ ผมถามอะไรอย่างนั้น ตั้มเค้าเป็นผู้ชายนะ เค้าก็ต้องมีแฟนเป็นผู้หญิงสิ ตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกันแล้ว ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติของมัน ตั้มก็ต้องเดินตามเส้นทางที่ธรรมชาติและความจริงขีดไว้ ส่วนผมน่ะเหรอ ผมก็ยังคงอยู่ในสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดให้เป็นเช่นเดิม เราสองคนห่างกันมาก ความรู้สึกผูกพันอย่างเช่นวันวานมันไม่มีแล้ว สำหรับผมมันอาจจะยังคงหลงเหลือมีเชื้ออยู่บ้าง ถ้าหากตั้มพร้อมจุดมันขึ้นมาอีกครั้ง ผมก็พร้อมที่จะสนองตอบอยู่แล้ว แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่ความคิด ความจริงต่างหากล่ะที่ผมต้องเผชิญ
     “พี่ เดี๋ยวตั้มไปเข้าห้องน้ำก่อน”
     “อืม ตามสบายเลยไอ้น้อง” ผมตบแก้มตั้มเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ผมก็ไม่รู้ว่าจากคืนนี้ไปแล้ว ผมจะได้เจอกับตั้มอีกหรือเปล่า แต่ถ้าเราไม่ต้องเจอกันอีกเลยมันก็จะเป็นการดี เพราะผมไม่อยากเห็นตั้มคนใหม่ คนที่เปลี่ยนไป ผมอยากเห็นตั้มคนเก่า คนที่ชอบแกล้งผม กอดผม หอมผม หรืองอนผมเวลามีใครมายุ่งกับผม
     ผมที่ดูเหมือนว่ากำลังสนุกสนานกับเสียงเพลงที่บรรเลงให้ผมโยกซ้ายโยกขวา แต่จริงๆ แล้วในใจผมเศร้านะ เศร้ามากๆ เลย พร่ำบ่นกับโชคชะตาว่าทำไมต้องให้มาเจอกับตั้มอีก มันแปลกนะ แทนที่ผมจะดีใจ แต่ทำไมมันรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้ก็ไม่รู้ ตั้มนั่งอยู่ที่โต๊ะตรงข้ามกับผมไม่ไกลกันมากนัก มากับเพื่อน 5-6 คน ดูท่าว่าตั้มคงจะเริ่มมึนๆ กับฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้วกระมัง เพราะเดี๋ยวฟุบหน้า เดี๋ยวเงยหน้าขึ้นมามองผม สลับกันแบบนี้หลายครั้ง ผมก็มองตั้มแล้วยิ้มให้ตลอด แต่ผมก็ทำได้แค่นี้แหละ
     คืนนี้เราจากกันโดยไม่ได้ร่ำลาอะไรกันเลย ตั้มกลับไปก่อนเพราะคงเมามาก กลับไปโดยที่ทิ้งให้ผมนั่งจมอยู่กับอดีต (อีกแล้ว) คืนนี้มันช่างไม่สนุกอย่างที่คิดเลยจริงๆ พับผ่าสิ หลังจากที่ผับเลิกเพื่อนๆ ในกลุ่มก็ชวนกันไปต่อที่ร้านแห่งหนึ่งที่นี่บรรยากาศดูไฮสไตล์เดิร์นทีเดียวเชียวล่ะ ร้านนี้เปิดถึงเช้า ประมาณว่าผับ-เธคเลิกแล้วก็มานั่งต่อที่ร้านนี้ได้ ใจผมก็ไม่อยากไปเท่าไหร่หรอก แต่ไม่อยากให้เพื่อนเรียกว่าอีตุ้มถ่วง
     “สั่งกันก่อนเลยนะ เดี๋ยวไปห้องน้ำก่อน”
     “เออ...เดี๋ยวขอไปโทรศัพท์บอกซะมีก่อนนะจ๊ะ แป๊บเดียวเดี๋ยวมา”
     “เนลเดี๋ยวเค้ามานะ ไปทักเพื่อนโต๊ะนู้นก่อน”
     เออ ดี ไปกันหมด ทิ้งกูอยู่ที่โต๊ะคนเดียว เฮ้อ…
     ...สุดท้ายเรื่องเราจบลงทุกอย่าง ไม่ขัดไม่ขวางในเมื่อเธอจะไป มีแค่เพียงสิ่งเดียวยังติดค้างในใจ อยากรู้ เรื่องใครอีกคน...
     โห...พี่มิ้นท์ มาลีวัลย์ มาได้จังหวะดีจริงๆ เล่นเอาผมน้ำตาซึมแทบร่วงไปกับเสียงเพลงของพี่เค้า ใครหนอช่างเปิด ไม่ต้องเอาใจผมขนาดนั้นก็ได้ เห็นผมเศร้าไม่ต้องเอาเพลงนี้มาช่วยบิ้วท์ก็ได้ เล่นอย่างนี้ ฆ่ากันซะดีกว่า
     ...หากว่าใครคนนั้นเป็นคนดีและรักเธอ อยู่กับเธอ ทำเพื่อเธอได้ทุกอย่าง และถ้าใครคนนั้นทำได้อย่างที่ฉันทำ ฉันก็คงอุ่นใจ ไม่ห่วงอีกแล้ว และพร้อมจะลาไปอย่าง...เต็มใจ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
“ขอบคุณสำหรับคำถาม...เอ่อ ไม่ดีกว่าค่ะ น้องเนลไม่อยากจะอยู่ไกลบ้านมาก อยู่ใกล้พ่อแม่มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ ว่างเราก็กลับบ้านไปหาท่าน หรือไม่ท่านก็มาหาเรา เรียนที่ไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะ อยู่ที่สมองและสองมือ ไม่ว่าจะเป็นชายจริงหรือหญิงแท้ขอให้เราทำตัวดี ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน (เอ้า! ว่าไปนู่น) ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ถึงแม้เราจะบวชให้ท่านไม่ได้ (เสียงสะอื้น) แต่เราก็สามารถตอบแทนท่านด้วยการเป็นคนดี คิดดี พูดดี มีอริยสัจ 4 พรหมวิหาร 4 อิทธิบาท 4 แล้วถ้าคุณแน่ก็อย่าแพ้ ป.4 ขอบคุณค่าาาาาาา!!!!!!!

นี่ก็ให้ตกรอบ...ไปไกลเกินไปป่าว...ดีน่ะกลับมาทันไม่งั้นมีเฮ :laugh:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
อืมคนมันจะจเออยู่ไหนยังไงมันก็เจอ

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เศร้าได้อีก

เวลาเปลี่ยน  คนเปลี่ยน

แต่ใจเราไม่เปลี่ยน

ความรักเป็นของเรา  ไม่มีใครเอาไปได้หรอก  จริงมั๊ยครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ช่วยดันกันหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจลงตอนต่อๆ ไป

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 8

     และความรักของผมกับผู้ชายคนที่ชื่อ ‘ตั้ม’ ก็ปิดฉากลงโดยที่ไม่มีภาคสองหรือภาคสามให้ติดตามต่ออีกแล้ว ผมไม่รู้หรอกนะว่าบทสรุปแบบนี้มันจะเรียกว่าจบแบบไหน sad ending, happy ending หรือว่า surprise ending อืม...อาจจะทั้งสามแบบรวมกันก็เป็นได้นะ
     หลังจากนั้นมาผมก็ยังไม่เคยมีใครมาเติมเต็มความรู้สึกดีๆ แบบที่ตั้มทำให้ผมอีก จะมีก็แต่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หรือไม่ก็แอบไปชอบเค้าก็เท่านั้นเอง หลายๆ คนมักจะถามผมว่ายังไม่มีแฟนเหรอ? ทำไมไม่หาแฟนสักคนล่ะ? โธ่ ถ้ามันหาได้ง่ายๆ เหมือนซื้อคะน้าหรือปลาทูเค็มก็ว่าไปอย่าง และผมก็ไม่ใช่บุคคลผู้ซึ่งปกติธรรมดาที่ไหน เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ The X-Men ครั้นผู้ชายแท้ๆ จะแห่มาขากถุยให้หัวกระไดไม่แห้งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ผมถึงไม่ไขว่คว้าไง ก็มักจะตอบกลับไปกับคนที่ชอบถามเสมอๆ ว่า...ขอบคุณสำหรับคำถาม ถึงเวลามันก็มาเองนั่นแหละ (อิๆๆ)
     จนกระทั่งผมได้มารู้จักกับรูมเมทรุ่นน้องปี 1 คนนึงชื่อว่า ‘ต้อม’ (ไม่พ้นตัว ต. เลยเนอะ) ต้อมเป็นคนภูเก็ต หน้าเข้มผิวคล้ำตามสไตล์เด็กใต้ ตอนแรกที่ต้อมเข้ามาอยู่ที่หอใน (เราจะเรียกหอของมหาวิทยาลัยว่าหอใน) เราก็ไม่ได้สนิทกัน ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่หรอก เจอกันก็ทักทายพอเป็นพิธีแบบรุ่นพี่รุ่นน้องเท่านั้น เพราะดูว่าเค้าเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงพอสมควร เรียนเสร็จกลับมาก็ฟังเพลงหรือไม่ก็อ่านหนังสือ และอีกอย่างผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับต้อมเป็นพิเศษมากกว่าน้องร่วมหอคนนึงเท่านั้น 
     ผมรู้มาว่าต้อมแอบชอบเพื่อนต่างคณะของผมคนนึงที่ชื่อ ‘จิ๋ว’ ยัยจิ๋วคนนี้ She จิ๋วสมชื่อ เป็นสาวร่างเล็ก ค่อนข้างห้าว กระโดกกระเดก แต่ว่า She ก็ไม่ได้สนิทอะไรกับผมนักหรอก ก็รู้จักกันผ่านๆ น่ะ แต่เห็นว่านางมีแฟนอยู่แล้วด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่าต้อมรู้หรือเปล่า เพราะเดี๋ยวก็ซื้อขนมให้นางบ้าง ส่งจดหมายให้นางบ้าง ซื้อผ้าปาเต๊ะจากใต้มาฝากให้ด้วยนะ  แต่ยัยจิ๋วรับหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบนะ แหม...พ่อคู้ณ ช่างมีความสุขซะจริงนะเปิดเพลงหนุ่มเปเล่ซะลั่นห้อง
     ...ได้แค่นี้ก็พอ แค่เพียงมีเธอ ได้แค่นี้ก็พอ ต้องการแค่นี้ ได้แค่นี้ก็พอ แค่เพียงวันนี้ยังมีเธอ อื่นใด...ก็ไม่ต้องการ...
     บอกตามตรงกับผู้ชายที่ชื่อ ‘ต้อม’ นี้ ผมไม่เคยรู้สึกมีจิตพิศวาสเชิงชู้หนุ่มอะไรเลยแม้แต่น้อย และผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าอนาคตข้างหน้าผมต้องมาลงเอยกับคนๆ นี้ จนวันหนึ่งไม่รู้ว่าวิญญาณอีคุณสน ณ อาญารักเข้าสิงหรืออย่างไร ถึงทำให้ผมคิดที่จะแย่งชิงต้อมมา ไม่ได้แย่งมาจากยัยจิ๋วหรอกนะ เพราะนางไม่ได้คิดอะไรกับต้อมเลย คงเซย์โนมา ต้อมมันก็เลยชีช้ำน้ำตาซึมอยู่พักนึง แต่ที่ผมว่าจะแย่งมานั้นน่ะ จะแย่งมาจาก ‘นังติ๊ก’ เพื่อนสาวกิ่งกระเด้งเก้งผสมกวางสุดซี้ที่ตอนนี้โกรธกันอยู่ โกรธกันด้วยเรื่องที่แบบว่า เฮ้อ...เอ่อนะ...แป้ง! เราโกรธกันด้วยเรื่องแป้ง เราเอาแป้งแกล้งมาปาใส่หน้ากัน ก็เลยโกรธกัน ตลกมะ ต่างคนต่างอีโก้ เชิดใส่ ไม่ง้อ ยอมรับว่าโกรธมันมาก เจอหน้าเป็นเขม่น พอเห็นมันสนิทกับต้อม เดินไปเรียนด้วยกัน ตกเย็นก็ไปเล่นกีฬาด้วยกัน ผมก็...ฮึ่ม คอยดู กูจะแย่งมาให้ได้ (นี่ล่ะ ผลของการบ้าละคร อาการจะหนักอย่างนี้ล่ะ 555+)
     พูดถึงบ้าหนังบ้าละคร ผมว่าทุกคนต้องเป็นกันทั้งนั้นล่ะน่า ยิ่งตอนเด็กๆ ไม่ต้องพูดถึง ใครเป็นฮีโร่โชว์อะไรเจ๋งๆ เราก็ต้องการเป็นแบบเค้า อยากเริ่ด อยากเก่ง อยากมีพลัง อยากสารพัด ทั้งเป็นเซียวเหล่งนึ่ง (มังกรหยก) ผีสาวซิงซิง (โปเยโปโลเย) ตงฟางปุ๊ป้าย (เดชคัมภีร์เทวดา) อู๊ย...ปล่อยผ้า ซัดเข็ม ดีดพิณกันสุดพลัง กลุ่มผมก็สรรหามาสิ ทั้งผ้าแพร เข็มเย็บผ้า ลูกกระพรวน อาศัยช่วงพักเที่ยงเล่นกัน ใครแข็งแรงหน่อยก็ต้องมาทำหน้าที่เป็นสลิงช่วยอุ้มประมาณว่าเหาะได้อะ พอปล่อยผ้ากันจนเบื่อแล้วก็กลายร่างมาเป็นซือเจ๊เตะต่อยกันมันไปเลย และเด็ดสุดก็ต้องสิงห์สาวนักสืบ ซากิ อาซามิยา ที่มีอาวุธเป็นลูกดิ่งสังหาร ช่วงนั้นโยโย่กำลังมาแรง พวกเราก็จัดการดัดแปลงลูกดิ่งพลาสติกให้เป็นลูกดิ่งเหล็กขึ้นมา โดยการไปซื้อลูกเหล็กมาติดประกบทั้งสองข้าง ดูไปดูมามันช่างละม้ายคล้ายดัมเบลเหมือนกันนะ  นอกจากลูกดิ่งเรายังมีอาวุธเสริมอีกเพียบ ทั้งโครเชท์ ลูกแก้ว กระเรียนเหล็ก เรียกว่าบ้าครบสูตร อิๆๆ ยัง...ยังไม่หมด ความบ้าของผมยังมีอีก แต่ครั้งนี้บ้าจนผมเข็ดไปเลย ผมบ้าอยากเป็นมาม่าซัง ใช่...ฟังไม่ผิดหรอก ผมอยากเป็นมาม่าซัง เลียนแบบเรื่อง ‘กลกามแห่งความรัก’ หนังไทยสุดอื้อฉาวและดังสุดๆ มาม่าซังในเรื่องต้องพกมีดโกนไว้ในกระเป๋าตลอดเพื่อจัดการกับพวกลูกน้องทรยศ อีนี่ก็เอาบ้าง พกมีดโกนบ้าง พกตลอด แถมไม่พกเปล่า หยิบมาเล่น วางมาดเป็นมาม่าซังสุดฤทธิ์ ผลสุดท้ายบาดนิ้วจนเนื้อหลุดติดใบมีด ร้องไห้ไปแปดบ้านไม่เหลือคราบของเจ้าแม่แห่งถนนชินจูกุเลย 555+
     มาเม้าธ์เรื่องนังติ๊กกันต่อ ผมไม่รู้หรอกนะจริงๆ ติ๊กมันคิดอะไรกับต้อมหรือเปล่า รู้เพียงแต่ว่าติ๊กมันเป็นแม่สื่อให้ต้อมกับจิ๋ว เพราะติ๊กกับจิ๋วมันเรียนคณะเดียวกัน ผมคงคิดอกุศลไปคนเดียวอะ เพราะความโกรธแกมหมั่นไส้ติ๊กอยู่เป็นทุนเดิม (จากเรื่องแป้ง) เลยคิดว่าติ๊กมันต้องปิ๊งต้อมแน่ๆ ก็เลยคิดเล่นๆ สาบานว่าคิดเล่นๆ จริงๆ ว่ากูจะแย่งมึงให้ด้ายยยยยยยย!!!! (แมะ...ตามสูตรนางร้ายละครไทยเป๊ะ)
   
         .......................................................................

     จำคำพูดที่ผมเคยพูดกับเพื่อนๆ ได้หรือเปล่าว่าเรื่องแฟนเรื่องความรักน่ะ ถึงเวลามันก็มาเองแหละ ไม่ต้องไปไขว่คว้ามันหรอก...ผมกำลังจะบอกว่า มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะมันเกิดขึ้นกับผมอีกแล้ว...ก็ต้อมนี่แหละ อ๊ะ! อย่าเพิ่งคิดว่าผมใช้วิชามารอย่างที่บอกเล่นๆ ไปนะ เปล่าเลย ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ผมอยู่เฉยๆ แทบจะไม่ได้สนใจอะไรต้อมเลยด้วยซ้ำ วันๆ ก็เอาแต่เรียน เล่น หรือไม่ถ้ามีกิจกรรมก็จะซ้อมเต้น โดยที่เรื่องความรักไม่ได้อยู่ในหัวสมองเลย
     ต้อมมักจะมานอนเล่นที่เตียงผมเป็นประจำ (เข้าอีหรอบเดียวกับตั้มเลย ดูดิ) ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าในใจเค้าคิดอะไรอยู่ แต่ถามผม สาบานเลยว่าผมยังไม่ได้คิดอะไรกับต้อม นอนก็นอนไป แต่ถึงเวลาถ้าผมจะเข้านอน คุณต้องกลับไปนอนเตียงของคุณ คือบอกไว้นิดว่าเตียงที่หอพักของผมน่ะมีสองชั้น ที่นอนอยู่ชั้นบนส่วนชั้นล่างเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ คงนึกภาพออกนะครับ
     เท่าที่ผมมองต้อมเค้าก็เป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ชอบผู้หญิงนะ ไม่มีวี่แววหรือเค้ารางใดๆ ที่บ่งว่าต้อมจะเป็นเสือ (ไบ) แม้แต่นิดเดียว จะว่าเพราะอกหักจากยัยจิ๋วเลยเปลี่ยนฟีลมาชอบผู้ชาย น้ำหนักมันก็ดูไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเท่าไหร่ในการที่จะไปแก้อีมี่ แล้วถ้าสมมุติว่าต้อมจะชอบผู้ชายจริงๆ ก็น่าจะเป็นพวกกะเทยแต่งหญิง มีนม มีโจ๊ะ ให้ดูเป็นน้องนีไปเลยดิ เพราะผู้ชายแท้ๆ มักจะชอบแบบนั้น แต่ลุคส์ผมมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ยังคงแต่งเกย์ดูเท่ๆ สไตล์ทอมบอย ไม่มีจุดไหนหรือส่วนใดที่บ่งบอกถึงกลิ่นอายของสตรีเพศแม้แต่น้อย!

     “มานอนอีกละ ลุกไปเลย แล้วไม่ไปเชียร์กีฬาเหรอเนี่ย” ผมไล่ต้อมให้ลงไปร่วมกิจกรรมกีฬาคณะที่วันนี้ทางมหาวิทยาลัยได้จัดขึ้น ส่วนผมน่ะเหนื่อยมากเลยขอชะแว้บแอบขึ้นมาอู้สักแป๊บ
     “เชียร์ตั้งแต่เช้าแล้วพี่ ของีบก่อน ง่วงอะ”
     เป็นเด็กหอในก็ดีอย่างนี้แหละ เรียนเสร็จ หรือว่าเหนื่อยจากกิจกรรมใดๆ ในมหาวิทยาลัย ถ้าต้องการพักผ่อนก็มานอนเล่นที่หอได้อย่างสบายๆ
     “แล้วพี่เนลล่ะ เชียร์เสร็จแล้วเหรอ”
     “ร้อน และก็เหนื่อยด้วย อยากนอนเหมือนกัน”
     “ก็ขึ้นมานอนดิพี่ อะ ผมเขยิบให้ละ”
     “ไรวะ” ผมบ่นพึมพำ ซึ่งก็ไม่เข้าใจเจตนาจริงๆ ของต้อมว่าเค้ามีจุดประสงค์อะไร คิดอะไรอยู่ (แหม...ไร้เดียงสาจริงนะเรา)
     ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้าขึ้นไปนอนนะ เตียงของผมนี่ผมก็ขึ้นไปนอนดิ นอนเบียดกันอย่างนั้นนั่นล่ะ ต้อมนอนหลับตาตัวแข็งทื่อ (ย้ำ! ตัว) ไม่สนใจอะไร ผมก็นอนไปฟังวิทยุที่อยู่บนเตียงไป สักพักผมนึกครึ้มอยากจะลองใจต้อมดูก็เลยพลิกตัวกอด ต้อมก็ยังเฉย ไม่ได้ว่าอะไร ผมย่ามใจรุกหนักขึ้น ทีนี้ลองเอาขาไปว่างก่ายบริเวณเป้าต้อม ผมรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปทรงภายในกางเกงขาสั้นที่ต้อมใส่ได้ชัด ต้อมตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ผู้ชายกระทำให้ แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าต้อมไม่ใช่เกย์อย่างแน่นอน คนไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่เนอะ โดนสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง มันก็ต้องมีเอนเอียงบ้างล่ะน้า อ๊ะ! แต่ว่าอย่าเพิ่งคิดเกินเลยอะไรไปไกลนะครับ ผมหยุดอยู่แค่นั้น ไม่มีอะไรต่อ ถ้าเป็นคนที่ผมชอบล่ะก็ไม่แน่ แต่ต้อมไม่ใช่สเป็คผมเลย!
     คืนนั้นเองต้อมก็ยังคงมานอนเล่นที่เตียงผม ผมปล่อยทุกอย่างให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ หรือผิดธรรมชาติก็สุดแล้วแต่ ผมแอบตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้อมถึงมาพิศวาสอะไรผมนักหนาเนี่ย แทนที่จะเป็นนังติ๊กกระติกแตก เพราะเห็นไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่บ่อยๆ ผมไม่กล้าถามต้อมตรงๆ หรอกครับ กลัวหน้าแตกถ้าเค้าไม่ได้คิดอะไรกับผม เราสองคนนอนด้วยกันโดยไม่สนใจเตียงรอบข้าง ผมรู้ว่าอาจจะมีเม้าธ์กัน แต่มันก็เท่านั้น ผมไม่ซีเรียสอะไรหรอก คนที่ซีเรียสควรจะเป็นต้อมต่างหาก แต่ตรงกันข้ามต้อมกลับไม่แคร์ใครเลย
     เราทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้น พูดคุยกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เปิดใจว่าเป็นแฟนกันได้อย่างเต็มที่ ก็ไม่รู้สิ เค้า อาจจะกำลังตื่นเต้นกับของเล่นใหม่ก็ได้ หรือว่าเป็นพวกชอบก็เดินเข้ามาแล้วถ้าเบื่อก็เดินออกไปเหมือนกับที่ผมเคยเจอๆ มาก็ได้ ผมถึงไม่ถามต้อมไงล่ะว่าคิดยังไงกับผม ชอบผมเหรอ รักผมเหรอ ถึงมานอนกับผมทุกวันๆ แต่ยังไงก็ช่างตอนนี้ทุกคนที่รู้ที่เห็นก็สรุปกันเอาเองและเข้าใจกันไปหมดแล้วล่ะว่าผมกับต้อมเราเป็นแฟนกัน ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่รู้ว่าต้อมคิดแบบนั้นหรือเปล่า แต่สำหรับผมไม่รู้สิ ไม่กล้าคิด
     ผมกับต้อมในตอนนี้เราก็ยังดำเนินกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้หวานจี๋จ๋าอะไรหรอกนะ บุคลิกของต้อมเค้าเป็นคนขรึมๆ นิ่งๆ ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ส่วนผมน่ะซ่า ห้าว ตลาดแตก ซึ่งคนละขั้วเลยล่ะ ความสัมพันธ์ทางกายเราลึกซึ้งกันพอสมควร ที่บอกว่าพอสมควรเพราะว่าต้อมยังไม่ได้ล่วงล้ำก้ำเกินอะไรผมมาก ส่วนความสัมพันธ์ทางใจผมว่ามันก็เริ่มมีบ้างแล้วล่ะ ผมเลยกล้าถามต้อมว่าทำไมถึงมาชอบผม แล้วเปลี่ยนรสนิยมมากินถั่วดำน้ำกะทิได้ยังไง อยากรู้จริงๆ
     “ไม่รู้สิ!”
     นี่คือคำตอบที่ผมจะได้ยินเป็นประจำเมื่อถามต้อมกี่ครั้งก็ตาม ถึงผมจะเซ้าซี้อยากรู้แค่ไหน ก็ได้คำตอบว่า ‘ไม่รู้สิ’ แล้วต้อมก็หอมแก้มผมกอดผมเป็นการกลบเกลื่อน ก็เป็นอันว่ามันคงเป็นปริศนาคาใจผมอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ …

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
มาได้แบบเดิมทุกที เนอะเวลาคนเราจะเจออะไรก็เจอแต่แบบเดิมๆๆๆ อยู่เรื่อยเนอะว่ามะ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
ความรักมันก็แบบนี้แหละน้อง ถึงเวลามันก็วิ่งมาหาเราเอง
แล้วพอถึงเวลามันก็วิ่งหนีเรา แบบว่าหมดอายุการใช้งานทันทีตามป้ายฉลาก
ป้าขวัญขอให้น้องมีความสุขกับชีวิตที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้จ๊ะ  :t2:

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

........รักคลุมครือ.....แล้วที่เหลือคือน้ำตา....... :n1: :n1:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ฉันนึกว่าเรื่องนี้ไม่ up เสียแล้ว

อ๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงค์

ดีใจสุดๆ ที่ได้อ่านต่อ

ชอบมากๆ เพื่อนสาว

อิเจ้  กะเทยแดนสะตอ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: มาเป็นกำลังใจให้คุณเนลค่ะ
 :a5: แล้ว  รู้สึกวัยใกล้เคียงกันเลย
ป้าเบิร์ดเอย มาลีวัลย์เอย  แถมด้วยทีสเกิร์ตอีก  เหอๆๆ วัยรุ่น(เหลือน้อย)เจงๆ
ชอบตอนที่เม้าท์กะบรรดาผองเพื่อนสาวทั้งหลายมากเลย
อ่านแล้ว  :laugh: อารมณ์ดีสุดๆ
รออ่านเรื่องแซบๆของคุณเนลอยู่นะ  สู้ๆค่า  :a2:

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 9

     หลังจากที่ผมสอบปลายภาคเสร็จก็ต้องเตรียมตัวกลับบ้าน เช่นเดียวกับนักศึกษาหอพักทุกคน รวมทั้งต้อมด้วย จะกลับมาเจอกันอีกทีก็อีกประมาณสองสัปดาห์เพราะต้องมาลงเรียนซัมเมอร์กัน ช่วงที่ผมอยู่บ้านนั้นผมฝันถึงต้อมบ่อยมาก อาจด้วยเพราะความผูกพัน ความสนิทกันนั่นล่ะ ถามว่าคิดถึงมั้ย ก็คิดถึงนะ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะผมก็ไม่แน่ใจว่ากลับมาเจอกันอีกทีทุกอย่างยังจะคงเดิมหรือว่าเปลี่ยนแปลงไป ผมเลยไม่อยากจะทุ่มใจอะไรให้มากกลัวจะเสียใจเหมือนครั้งที่คบกับตั้ม
     วันที่กลับมาลงซัมเมอร์ ผมได้มาเจอต้อมอีกครั้ง เรายิ้มให้กัน แล้วก็ผ่านเลยกันไป มันทำให้ผมนึกในใจว่าต้อมยังจะเหมือนเดิมกับผมหรือเปล่าเนี่ย หรือว่าช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมาต้อมเรียกสติกลับคืนได้แล้ว แต่ถึงยังไงก็ช่างเหอะ  เหมือนเดิมหรือไม่เหมือนเดิมมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตผมมากมาย ผมคงไม่ฟูมฟายหรอก เรื่องแค่นี้นอมอลๆ เพราะมากกว่านี้ผมก็ผ่านมาแล้ว

     “เดี๋ยวนอนด้วยนะ” 
     “อะไร นอนอะไร ตอนกลางวันทำเป็นไม่ทัก” 
     “ก็ยิ้มทักแล้วไง”
     “เหรอ เห็นนิ่งๆ ก็นึกว่าลืมกันซะแล้ว” ผมรู้สึกดีนะที่ต้อมยังไม่ลืมเรื่องของเรา แต่ถึงกระนั้นก็เหอะ ผมยังไม่วายที่จะทำท่าประชดประชันเพราะหมั่นไส้ทำหยิ่งใส่เราเมื่อตอนกลางวัน แต่นั่นล่ะนะ มันเป็นบุคลิกของต้อมเค้าล่ะ ไม่ใช่ตั้มนี่ที่จะได้ขี้เล่นเป็นเด็กๆ ชอบหยอกล้อผม
     คืนนี้ห้องทั้งห้องเป็นของผมกับต้อมเท่านั้น ไม่มีใครมานอนเป็นก้างขวางคอขัดความสุข เพราะนักศึกษาที่เรียนซัมเมอร์แล้วพักที่หอในจะกระจายนอนตามห้องต่างๆ ตามชอบใจ แล้วห้องจะว่างเยอะมาก ไม่เหมือนกับตอนที่เรียนภาคปกติ ซึ่งนักศึกษาจะอยู่กันเต็ม
     “ถามจริงๆ คิดถึงบ้างปะเนี่ย ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน”
     “ก็คิดถึง” ต้อมยังคงตอบตามสไตล์ที่สั้นและห้วน
     “ต้อมรู้ปะ เนลฝันถึงต้อมด้วยล่ะ”
     “เหรอ”
     “ก็เออสิวะ ตอบยาวๆ หน่อยดิ บ้าปะเนี่ย” ผมแกล้งทำเสียงดุขึ้นมา ทำเอาต้อมหัวเราะ เค้าก็คงนึกขำผมและก็ขำตัวเองเหมือนกันน่ะ
     “นอนๆๆ” ต้อมตัดบทแบบยิ้มๆ แล้วกอดผมสลับกับหอมแก้มผม ซึ่งผมก็ทำตอบกลับด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ
     “เหมือนตั้มเลยอะ”
     “ใครเหรอตั้ม”
     “แฟนเก่าน่ะ ตอนเรียนมัธยม เค้าก็ชอบทำแบบนี้เหมือนกัน แล้วต้อมล่ะ เคยมีแฟนปะตอนอยู่ภูเก็ตอะ”
     “ก็เคย”
     “ผู้หญิง?”
     “อืม ผู้หญิง”
     “แล้วเคยมีอะไรกันปะ”
     “ไม่เคย อย่างมากก็แค่จับมือ”
     “จริงดิ” ผมทำเสียงและชักสีหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่
     “ก็จริงสิ ทำไม ไม่เชื่อเหรอ”
     “เวอร์จิ้นเนอะ”
     “อืม เวอร์จิ้น นอนได้แล้ว ไม่คุยแล้ว”
     คิดเหรอว่าคืนนี้เราจะได้นอนกันง่ายๆ ไม่มีทางหรอก กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบตีสี่ เพราะอะไรน่ะเหรอ อุ๊ย! กองเซ็นเซอร์เตรียมไกรกรรไว้แล้วอะ งั้นคิดเอาเองละกันนะ 555+
     มาครั้งนี้ความสัมพันธ์ของผมกับต้อมก่อตัวขึ้นไปเยอะ ต่างก็มีใจให้กันมากขึ้น รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของของกันและกัน มีหวง มีห่วง และมีหึง โดยเฉพาะต้อม ไม่รู้ว่าจะหึงอะไรนักหนา บางครั้งเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือเรื่องที่ไม่มีมูลก็เหมาเอาซะหมด เห็นผมคุยกับเพื่อนของเค้าที่เป็นผู้ชาย เค้าก็งอนไม่พูดกับผม ถามจึงรู้ว่าไม่พอใจที่ไปคุยกับคนอื่น เฮ้อ เป็นเอามาก นี่ยังไม่พอ ขนาดผมเล่นกับเพื่อนผู้หญิง หรือแม้แต่เพื่อนที่เป็นเกย์ หรือกะเทย ต้อมก็ไม่พอใจ ผมไม่รู้ว่าเค้าหวงหรือว่าหึง หรืออาจจะทั้งสองอย่างเลยก็ได้ เราทะเลาะเรื่องนี้กันบ่อยนะ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไรนักหนา ต้อมเป็นคนเข้าใจง่าย งอนแป๊บๆ ก็หาย ไอ้ลักษณะอาการแบบนี้พานให้ผมนึกถึงตั้มขึ้นมาทันที

     “อิจฉาพี่เนลเนอะ  ทำบุญด้วยอะไรอะ มีพ่งมีผัว ผัวรักผัวหลง”
     “เดี๋ยวกูถีบเลย”
     “เล่นของหรือเปล่ายะ ฉันว่าพี่เนลต้องเอาตูดไปอังหม้อข้าวให้ไอต้อมกินแน่ๆ หงส์ร่อนมังกรรำ 555+”
     “เออช่างคิดนะมึง แล้วมึงอยากจะลองของปะ เดี๋ยวกูจัดให้”
     บรรดาลูกสมุนเก้ง กวาง บ่าง ชะนี มักจะแซวผมอยู่บ่อยๆ ด้วยความหมั่นไส้หรืออิจฉาก็ไม่รู้นะ เพราะต้อมก็เปิดเผยขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ ไม่แคร์ใครจะมองว่ายังไง พวกเพื่อนผู้หญิงและเพื่อนผู้ชายของต้อมเค้าก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาแอนตี้ใดๆ ก็อย่างว่าแหละชีวิตใครก็ชีวิตมันอะเนอะ เรื่องของผมกับต้อมดังไปทั่วมหาวิทยาลัย ใครๆ ก็พูดถึงกัน ผมไม่ได้รู้สึกลำพองหรือหยิ่งผยองหรอกนะว่ามีผู้ชายมาหลงรัก ผมก็คงทำตัวตามปกติ แต่อาจจะมีเวลาให้เพื่อนให้น้องน้อยกว่าเดิมก็เท่านั้น
     ที่ผ่านๆ มาผมเคยได้ยิน ได้เห็น ได้สัมผัสว่าคนที่เป็นเกย์ กะเทย สาวประเภทสอง มักจะเป็นผู้ให้อยู่เสมอ ประมาณว่า...พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้ เจ้าใช่ไหมไม่เคยให้พี่ หรือว่า ถึงเค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ...แต่สำหรับผมแล้วมันกลับตรงกันข้าม ถือว่าเป็นความโชคดีมากๆ เพราะคนที่มีแต่ให้นั้นคือต้อม ไม่ใช่ผม ต้อมให้ทุกอย่างที่ผมอยากได้ ตามใจทุกเรื่องที่ผมเอ่ยปากขอ ผมเข้าใจว่าต้อมเป็นผู้ชายประมาณว่าชอบใครชอบจริง รักใครรักจริง ให้ได้ทุกสิ่งเพื่อคนที่ตนรัก ทั้งเสื้อผ้า น้ำหอม เงิน และทอง จนบางครั้งผมเลยกลายดูเป็นคนที่เห็นแก่ตัว แต่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ให้อะไรต้อมเลยนะ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผมให้มันไม่ใช่วัตถุสิ่งของที่มีราคาค่างวด แต่ทุกอย่างที่ต้อมได้รับจากผม ผมมั่นใจว่าต้อมมีความสุขและรู้สึกดีอย่างแน่นอน 
     ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผมจะพาต้อมกลับไปเที่ยวที่บ้านผมเสมอๆ ต้อมเข้ากับพ่อแม่ผมได้ดี ในฐานะเพื่อนของลูกไม่ใช่ผัวของลูกนะ อย่าเข้าใจผิด ต้อมจะคุยกับพ่อผมได้อย่างถูกคอ อะไรที่เกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง หรือในเชิงวิชาการคุยได้ไม่หยุด แต่พอคุยอะไรที่ไม่มีสาระกับผมน่ะ ไม่ค่อยคุยหรอก ฮึ…ตอนแรกพ่อกับแม่ผมท่านคงไม่สงสัยอะไรหรอก หรือถ้าจะสงสัยท่านก็ไม่ถามอะไร เพราะพ่อกับแม่ผมท่านรักผมมาก ไม่เคยดุด่าว่าอะไรที่ผมเป็นเกย์ ผมเคยได้ยินพ่อคุยกับเพื่อนของท่านบอกว่าลูกจะเป็นอะไรก็ช่าง ขอให้เรียนจบ มีหน้าที่การงานทำ แล้วเป็นคนดีก็พอ นี่แหละพ่อผม เค้าบอกว่าตำรวจจะแอนตี้ลูกที่เป็นเกย์ กะเทย ให้ตายยังไงก็รับไม่ได้เด็ดขาด ผมคงเป็นเกย์ที่โชคดีที่สุดคนหนึ่งล่ะมั้ง เพราะเกิดมาในครอบครัวที่เข้าใจ พ่อกับแม่ไม่เคยพูดอะไรให้ผมได้เสียใจเลย...ผมรักพ่อกับแม่มากที่สุดเลยครับ


crazykung

  • บุคคลทั่วไป
ว้าววๆๆ ชอบพี่ต้อมมมม จังเยยงับ



รู้สึก "ได้ใจ" ดีงับ สู้ๆงับพี่เนลล มาต่อร่วยน้า :t2:

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป
เคยเป็นแต่ผู้ให้มาตลอด เหนื่อย สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย  :m25:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
มาว่าคุณเนลใช้วิชาหงส์ร่อนมังกรรำได้ไง   :m25:
เพราะจริงๆแล้วใช้น้ำมันพรายดีดใส่ต้อมใช่ป่าวว   :jul3:
ต้อมดี๊ดีอ่ะ   เจอแบบนี้รักตายเลย    :o8:
แต่ต้อมตามใจมากๆแบบนี้  เหมือนสปอยล์แฟนเลยอ่ะ  จริงป่าวคุณเนล อิๆๆ

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: มาช่วยดันกันหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจลงตอนต่อๆ ไป  :pig4:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
มาว่าคุณเนลใช้วิชาหงส์ร่อนมังกรรำได้ไง   :m25:
เพราะจริงๆแล้วใช้น้ำมันพรายดีดใส่ต้อมใช่ป่าวว   :jul3:
ต้อมดี๊ดีอ่ะ   เจอแบบนี้รักตายเลย    :o8:
แต่ต้อมตามใจมากๆแบบนี้  เหมือนสปอยล์แฟนเลยอ่ะ  จริงป่าวคุณเนล อิๆๆ


คำตอบคือ.....
อ้างถึง
“เล่นของหรือเปล่ายะ ฉันว่าพี่เนลต้องเอาตูดไปอังหม้อข้าวให้ไอต้อมกินแน่ๆ หงส์ร่อนมังกรรำ 555+”

 :laugh: :laugh:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
แป่ววววววว  .......
นึกว่ามาต่อซะอีก    :o12:
รอต่อไป    :a1:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
นู๋เนลแอบใช้ว่านรากราคะหรือเปล่า
 :t2:

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 10

     เวลาผ่านไปเร็วมากนี่ผมคบกับต้อมสองปีแล้วเหรอเนี่ย ทุกอย่างยังราบรื่น แฮปปี้ สุโขสโมศรี สุขีสโมสร ถึงแม้ว่าผมจะเรียนจบออกมาหางานทำแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังติดต่อกันตลอด เพราะช่วงแรกผมก็ยังทำงานที่ลำปางอยู่ และต้อมก็ยังไปมาหาสู่ผมที่บ้านเสมอ หรือไม่บางครั้งผมก็ไปนอนกับต้อมที่หอใน แต่ส่วนใหญ่ต้อมจะมาหาผมที่บ้านซะมากกว่า ต้อมยังคงเป็นต้อมที่น่ารัก เสมอต้นเสมอปลาย ดีกับผมไม่เปลี่ยน เวลาผมไม่สบายเค้าก็จะคอยดูแลป้อนข้าวป้อนยา ผมไม่รู้ว่าจะมีเกย์กะเทยสักกี่คนที่จะโชคดีเหมือนกับผมที่มีผู้ชายแท้ๆ จริงใจขนาดนี้ ตอนวันวาเลนไทน์ต้อมก็ทำเซอร์ไพรส์ผมด้วยการเอารูปของเราสองคนที่ถ่ายด้วยกันชนิดกอดกันกลมไปเข้ากรอบทำเป็นปฏิทิน คิดดูดิต้อมเค้าไม่อายเลยนะที่เอาไปให้ร้านถ่ายรูปทำ คนที่ร้านเค้าจะคิดยังไงเนี่ย เฮ้อ...ช่างกล้าเนอะ
     เราสองคนเคยไปไหว้พระแล้วสัญญาต่อหน้าท่านกันว่าเราสองคนจะรักกันและอยู่ด้วยกันไปตลอด (แหม ดูประหนึ่งไอ้ขวัญกับอีเรียมแห่งทุ่งบางกะปิก็ไม่ปานเลยอะ) ไม่มีใครบังคับใครให้พูด แต่เราสองคนต่างก็มีใจกับเรื่องนี้กันจริงๆ เพราะ ณ นาทีนี้เราต่างมั่นใจซึ่งกันและกันมาก มันอาจจะเป็นความมั่นใจที่ดูเกินตัวผมไปสักนิด แต่ผมก็ยังคิดอยู่เสมอแหละว่า ความรักแบบนี้ไม่มีจริงในโลกหรอก เราอาจจะอยู่กันได้นาน แต่คงไม่ตลอดชีวิต
     เรื่องความหึงความหวง ตอนนี้น่ะเหรอ ผมว่าผมกลับเป็นหนักกว่าต้อมซะอีกนะ หึงขนาดไม่อยากให้ต้อมดูหนังโป๊อะ ไม่รู้ดิทำไม ประสาทแดกเอาเรื่องนะผมเนี่ย มีอยู่ครั้งนึง เค้าเล่น Pirch แชทคุยกับใครบ้างก็ไม่รู้  แล้วทีนี้คงไปปิ๊งปั๊งกับน้องนีนางหนึ่ง แหม...อีนีนี่ก็คันถึงขั้นส่งจดม่งจดหมายพร้อมแนบรูปถ่ายมาให้ต้อมดู อีเปรต! ทำอย่างกะจะส่งมาชิงโชคไปเที่ยวญี่ปุ่นฟรีอย่างนั้นแหละ และบังเอิญที่ผมไปเที่ยวหาต้อมที่หอใน แล้วไปเปิดลิ้นชักเจอ บรรยากาศมาคุก็เริ่มบังเกิด
     “ใครอะต้อม”
     “เพื่อนทางเน็ตอะ เค้าส่งรูปมาให้ดู”
     “แค่นั้นเหรอ”
     “อืม ไม่มีอะไรหรอก”
     “ต้อมไม่ได้ชอบเค้าใช่มั้ย”
     “คิดมากน่า”
     ก็จะไม่ให้ผมคิดมากได้ไงล่ะ แฟนเราทั้งคนนะ บอกตามตรงว่าผมโกรธมาก ผมคิดว่าต้อมกำลังนอกใจผมแน่ๆ เลย ผู้ชายยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่วันยันค่ำ ผมไม่ฟังคำอธิบายอะไรจากต้อมอีก วิ่งกระฟัดกระเฟียดลงไปข้างล่างหอ นั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงม้าหินอ่อนรอให้ต้อมลงมาง้อ...ห้านาที...สิบนาที...สิบห้านาที ไอ้บ้า! ทำไมไม่ลงมาง้อซะทีวะ ฮึ่ม! อ๊ะ มาแล้ว สงสัยผมคงคิดดังไปหน่อย ต้อมเลยเดินหน้าจ๋อยๆ ลงมาหา
     “มันไม่มีอะไรจริงๆ นะ ต้อมแค่คุยเล่นๆ กับเค้าเท่านั้นเอง แล้วเค้าก็ส่งรูปมาให้ดู”
     “นี่ขนาดเล่นๆ นะ ยังบอกที่อยู่เค้า ต้อมไม่รักเนลแล้วใช่มั้ย”
     “ไม่ใช่ ต้อมยังรักเนลอยู่เหมือนเดิมจริงๆ ถ้าต้อมไม่รักต้อมจะไปสัญญาต่อหน้าพระกับเนลทำไมล่ะ”
     ด้วยอารมณ์ที่ยังโมโหอย่างต่อเนื่อง ผมถอดแหวนทองที่ต้อมซื้อให้ปาทิ้งเข้าไปในพงหญ้า แล้วเดินออกจากหอในไปโดยไม่หันกลับมามองต้อมอีกเลย ผมยอมรับว่าฟิวส์ขาดจริงๆ คิดมาก หึงมาก กลัวต้อมไปมีใครอื่น แต่ไม่ถึง 20 นาทีดีมั้ง ผมเริ่มใจเย็นลง มีสติขึ้น รู้สึกผิด กลับไปที่หออีกครั้ง ขึ้นไปหาต้อมเพื่ออยากจะขอโทษ ผมเห็นต้อมนั่งมองแหวนวงนั้นอยู่ บอกตรงๆ รู้สึกใจหายมาก
     “ต้อม...”
     ผมยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นน้ำตาลูกผู้ชายของต้อมเอ่อล้นออกมา ต้อมมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ ผมไม่รอช้าโผเข้ากอดต้อมพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษทันที
     “ต้อม เนลขอโทษนะ”
     “ไม่เป็นไร ต้อมไม่โกรธหรอก ต้อมไม่มีอะไรกับคนนั้นจริงๆ นะ ต้อมแค่อยากรู้จักเฉยๆ เหมือนเพื่อนคนนึงเท่านั้น”
     “ต้อมยังรักเนลอยู่ใช่ปะ”
     “รักสิ รักมากด้วย”
     เฮ้อ! แล้วเราก็เข้าใจกัน...เรื่องงอนง้อของผมกับต้อมมีกันอยู่บ่อยๆ ไม่ต้อมงอนผม ผมก็งอนต้อม แต่ถ้าใครงอนอีกฝ่ายก็ต้องง้อ มันเลยดูเหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับเราสองคน
     ผมทำงานอยู่ที่ลำปางได้ประมาณปีนึง ผมก็ได้งานทำที่กรุงเทพฯ งานด้านสื่อน่ะ เป็นนิตยสารบันเทิงที่มีชื่อเสียงมาก ผมมาพักกับพี่สาวแท้ๆ ที่นี่ ผมสนุกกับงานมาก แต่ในใจก็ยังคงคิดถึงต้อมอยู่ตลอด ยิ่งห่างกันไกลอย่างนี้ผมก็ยิ่งห่วงต้อมเป็นเท่าตัว กลัวนะ ไม่ใช่ไม่กลัว ผมกลัวต้อมมีคนอื่น กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวอะไรต่อมิอะไรไปหมด ผมยอมรับว่าเป็นคนคิดมาก คิดไปก่อนล่วงหน้า คิดว่าเค้าต้องทำอย่างโน้นทำอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะไม่ได้คิดหรือไม่ได้ทำอย่างที่เราคิดก็ได้ แต่ผมก็ยังสบายใจขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยเพจเจอร์ที่ต้อมซื้อให้ก็มีข้อความของต้อมส่งมาหาทุกวันตามสัญญา มันทำให้ผมยิ้มได้ มีกำลังใจทำงาน และอีกไม่นานเราก็จะได้มาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกันหลังจากที่ต้อมเรียนจบในปีหน้านี้
     แต่เอาเข้าจริงพอต้อมเรียนจบต้อมกลับได้งานทำที่ภูเก็ตบ้านของต้อมเอง ผมก็เห็นดีด้วยนะ ถึงแม้ในใจอาจจะแอบผิดหวังเล็กๆ ก็ตาม อย่างน้อยการที่ต้อมได้ทำงานอยู่ใกล้บ้าน ใกล้ครอบครัว มันก็อบอุ่นดี และอีกอย่างได้งานอะไรก็ทำไปก่อน ผมไม่อยากให้ต้อมอยู่ว่างๆ แต่อย่างต้อมหางานได้ไม่ยากหรอก เรียนเก่ง จบด้านคอมฯ มา ใครก็ต้องการ เราโทรคุยกันตลอด เพจเจอร์ก็ไม่มีวันที่หน้าจอจะว่าง ข้อความหวานๆ เลี่ยนๆ ชนิด Call Center แอบอ้วกก็ยังส่งมาให้ผมได้ยิ้มทุกวัน และจดหมายที่ต้อมบรรจงพับเป็นรูปหัวใจผมก็หยิบมาอ่านตลอด อ่านกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ
     “ต้อมอยากเจอเนลเร็วๆ จังเลย คิดถึงมาก อยากกินชะอมไข่ทอดน้ำพริกกะปิฝีมือเนลด้วย…”
     โดยเฉพาะย่อหน้าสุดท้ายมันทำให้ผมยิ่งรักผู้ชายคนนี้มากขึ้น
     “ต้อมสัญญาจะไม่ทำให้เนลผิดหวังนะ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ต้อมรักเนลคนเดียว รักที่สุดเลย อย่าทิ้งต้อมไปไหนนะ...รักเสมอ ต้อมครับ”
     เนลไม่ทิ้งต้อมไปไหนหรอก เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป!


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด