เรื่องแซบๆ แต่แอบเศร้าของผู้ชายคนหนึ่งใน The Diary ครั้งหนึ่งผมก็เคยมีผัว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องแซบๆ แต่แอบเศร้าของผู้ชายคนหนึ่งใน The Diary ครั้งหนึ่งผมก็เคยมีผัว  (อ่าน 59696 ครั้ง)

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
เฮ้ออออออออออออ  รักกันดีจริงๆๆๆ   

แต่ไม่อยากคิดเลยว่าความห่างไกล  จะเล่นตลกอะไรอีกเนอะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงค์

แค่นี้  หัวใจกะเทยน้อยๆ อย่างเจ้ ก็พร้อมจะละลายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

me// นอนจมกองเลือดตัวเอง :jul1:

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
มาดันให้กำลังใจกันหน่อยนะครับ :oni2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
รอ  :a5: ต่ออยู่นะคะ
ว่าแต่ ดูๆก็รักกันดีเนาะ
แล้วไมกลายเป็นไดอารี่แอบเศร้าได้หล่ะ 
เป็นกำลังใจให้คุณเนลน้า    :L2:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

........หวานซะขนาดนี้......กระเทยน้อยอย่างอิเจ้ก็เลยอดอิจฉาไม่ได้........ :oni2: :oni2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ดีจัง

ไม่ง่ายเลยอ่า  ที่จะเจอคนที่รักเราขนาดนี้  อิอิ

อิจฉา

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
คุณเนลมารึยางงงงงงง    :m13:
เอาดอกไม้มาฝากเป็นกำลังใจค่า    :L2:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
นู๋เนลโชคดีมาก ที่มีช่วงเวลาดีๆด้วยกันนานพอดู
เก็บความจำที่ดีไว้นะ :t2:

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
 :m1:>>>สู้น่ะครับบบผม มาลงเรื่องได้สะจ้ายยยยมาก


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 11  :mc4:

      ผมหาเวลาว่างช่วงวันหยุดลองวีคเอ็นลงไปหาต้อมที่ภูเก็ต ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะเราก็ไม่ได้เจอกันเกือบเดือนแน่ะ ต้อมมารอรับผมที่สถานีขนส่ง เราดีใจกันมากแต่แสดงอาการเยอะไม่ได้เพราะเราไม่ได้อยู่กันสองคน ต้อมไม่ได้พาผมไปพักที่บ้านของเค้าหรอก แต่เปิดห้องที่โรงแรมให้ผมแทน ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดมากหรอกว่าต้อมจะกลัวที่บ้านรู้มั้งถึงไม่พาผมไปรู้จักกับพ่อเค้า ซึ่งดีซะอีกเราจะได้อยู่ด้วยกันสองคนได้อย่างสนิทใจ
     ช่วงเวลาสองสามวันที่อยู่ภูเก็ตผมมีความสุขมาก ต้อมขี่มอเตอร์ไซค์แล้วผมซ้อนท้าย โห...เหมือนผู้หญิงข้าใครอย่าเตะ เอ๊ย! อย่าแตะเลยอะ นั่งกินลมชมเมืองไปเรื่อยๆ ต้อมทำหน้าที่เป็นไกด์ชั้นเยี่ยมพาผมตะลอนเที่ยวได้ไม่มีหยุด
      “เนล ต้อมจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ แล้วนะ”
     “เฮ้ย! จริงดิ อย่าหลอกกันนะเว้ย”
     “ที่ที่ต้อมสมัครงานทางเน็ต เค้าเรียกตัวแล้ว เป็นโปรแกรมเมอร์น่ะ”
     “ไม่เห็นบอกกันเลย”
     “ก็อยากเซอร์ไพรส์ไง มาถึงภูเก็ตต้อมก็จะบอก”
     “แล้วงานทางนี้ล่ะ พ่อต้อมว่ายังไง แล้วต้อมจะไปเมื่อไหร่”
     “โห มาเป็นชุดเลยแม่คุณ ช้าๆ”
     “พ่อต้อมไม่ว่าไง เห็นดีด้วย ส่วนงานทางนี้ต้อมก็คุยกับหัวหน้าแล้วล่ะ ไม่มีปัญหา แล้วอาทิตย์หน้าต้อมจะไปกรุงเทพฯ...เราไปอยู่ด้วยกันนะ”
     “โอเค เดี๋ยวกลับไปเนลจะไปดูห้องนะ”
     ในที่สุดเราก็จะได้อยู่ด้วยกันจริงๆ แล้วเหรอเนี่ย ผมดีใจจนบอกไม่ถูก ใครไม่มาเป็นอย่างผมไม่มีทางรู้หรอกว่า การที่มีผู้ชายแท้ๆ มาคอยเทคแคร์ คอยห่วงใย และรักเราจริงมันเป็นเรื่องที่อะเมซิ่งมากๆ แต่ใช่ว่าผมจะหน้ามืดตามัวละเมอเพ้อพกจนไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรนะครับ ผมคิด คิดตลอดแหละ บอกแล้วไงว่าผมเป็นคนคิดมาก คิดไปไกล คิดไปก่อนล่วงหน้า แต่อย่างว่าแหละอะไรที่มันยังมาไม่ถึง ก็อย่าเพิ่งไปกลัวมัน ขอให้รู้แค่เพียงว่าวันนี้เรามีความสุข พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ถ้ามัวแต่มานั่งตั้งหน้าตั้งตาลุ้นหรือว่าเตรียมใจว่าเมื่อไหร่จะเลิกกัน รับรองได้ว่าประสาทกินกบาลตายชัวร์!
     หลังจากที่ผมกลับมากรุงเทพฯได้เพียงอาทิตย์เดียวต้อมก็ตามมา ผมได้ย้ายออกจากบ้านของพี่สาวเข้าไปอยู่ที่แมนชั่นกับต้อม ชีวิตคู่เราดูดีมากประหนึ่งคู่ผัวตัวเมียสุดชีวิต ต้อมก็ยังเป็นต้อมคนเดิมที่คงไม่แคร์สายตาใครๆ ก็เพราะอย่างนี้นี่ไง ผมถึงมั่นใจในตัวเค้ามาก โห คุณครับใครจะคิดล่ะว่าเราจะคบกันมายาวถึง 5 ปี นี่ก็จะเข้าปีที่ 6 แล้ว ผมแอบหวังเหมือนกันนะว่าเราจะอยู่ด้วยกันถึง 10 ปี มันก็แปลกเนอะ จากคนที่ไม่ได้รู้สึกว่าชอบมาก่อน ไม่ใช่สเป็คเลย แต่กลับมารักกันได้และคบกันได้อย่างยาวนาน
     จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้พาต้อมมารู้จักกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานของผม ซึ่งหารู้ไม่ว่าหายนะกำลังจะมาเยือนชีวิตคู่ของผมแล้ว! 
     “ต้อม นี่แนน”
   
      ‘แนน’ เพื่อนผู้หญิงรุ่นน้องที่ออฟฟิศที่ถือว่าสนิทกับผมที่สุดคนหนึ่ง ไปไหนก็ไปด้วยกัน ไปเที่ยว ไปกินข้าว ไปดูหนังฟังเพลง เต้นระบำร่ำสุราถึงไหนถึงกัน เรียกว่าซี้เป็นเงาตามตัวกันเลยล่ะ และบ่อยครั้งที่เรามักจะไปเที่ยวด้วยกันเป็นกลุ่มมีผม ต้อม แนน และก็โจ้ อ้อ...‘โจ้’ นี่ก็เป็นเพื่อนผู้หญิงรุ่นน้องที่สนิทอีกคน แต่ถ้าเทียบกับแนนผมจะสนิทกับแนนมากกว่า
     “หน้าบึ้งเชียว เป็นไรยะ”
     “ทะเลากะพี่วีอะ” แนนมักจะมีปัญหากับพี่วีแฟนมันบ่อยๆ มีเรื่องทีไรก็จะมานั่งหน้าเม้งบ่นให้ฟัง
     “ประจำเลยอะแก ฉันเบื่อแทนว่ะ”
     “อืม แนนก็เบื่อ เออ วันนี้ต้อมมารับปะ แล้วจะไปไหนกันหรือเปล่า”
     “ไป วันนี้ต้อมมันจะพาไปกินสุกี้อะ เงินเดือนมันออกละ”
     “ไปด้วยดิ”
     “สาระแนเชียวนังแนน เค้าจะไปจู๋จี๋กินกันสองคนสามีภรรยา ชอบเป็นก้างจริงๆ นะแก กลับไปเคลียร์กับพี่วีก่อนเหอะ” โจ้แตะเบรกนังแนนดังเอี้ยดเข้าให้ เล่นเอานังแนนค้อนขวับคอแทบหักเลยทีเดียว
     “ก็ฉันเบื่อนี่ยะ อยากไปเดินเล่นกับพี่เนลด้วย”
     “ไม่ต้องเลย”
     รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เค้าบอกว่ามันมักจะมาคู่กับคราบน้ำตาเสมอ จริงไม่จริงผมก็ไม่รู้อะนะ แต่สำหรับผมถ้ามีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั่นแสดงว่าผมกำลังมีความสุข ไม่ว่าผมรักต้อม ต้อมรักผม ผมรักเพื่อน หรือว่าเพื่อนรักผม ใบหน้าผมจะบ่งบอกออกมาทันทีว่าผมมีความสุขมากแค่ไหน และเวลาผมคบกับใครไม่ใช่แต่ว่าคบเป็นแฟนเท่านั้นที่จะให้ทั้งใจ คบเพื่อนผมก็จะเอาใจคบด้วยเหมือนกัน คือไว้ใจ ไม่เคยมีระแวงหน้าพะวงหลัง และเพราะคำว่า ‘ไว้ใจ’ นี่ล่ะที่ทำให้ผมต้อง…เสียใจ!
   
         ..............................................................

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.......และแล้วผัวเราก็มีเมียใหม่...... :a6: :a6:

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
ค...คะ..ค้าง.....งงงงหง่ะ   :serius2:
 :sad2:  จะเศร้าแล้วใช่ป่าวคุณเนล
โอเคร.... เตรียมซื้อยาทัมใจมารอแระ...   :a6:

animob

  • บุคคลทั่วไป
อ่าเรื่องนี้สนุกจัง

อ่านแล้วโดน

ป.ล. เคยทะเลาะกะเพื่อนเรื่องแป้งเหมือนกัน ปาใส่กันแล้วก็โกรธกัน
ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ 10 ปีผ่านไปก็ไม่คุยกันทั้งๆที่เมื่อก่อนสนิทกันมากกกกก

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
แล้วก็มาเจอกันง่าย ๆ และไปด้วยกันง่าย ๆ ยังงี้เลยเหรอ เค้าความสะเทือนใจมารำไรแล้วน่ะเนี๊ย

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
มารอจ้า    :L1:
คุณเนลมาต่อโลด  เค้าเตรียมใจมาพร้อมละ   :a2:

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 12 :m15:


     เย็นวันนี้ผมยังคงนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศเกินเวลาเหมือนเช่นทุกวัน ส่วนแนนกลับไปตั้งแต่ 6 โมงแล้วเห็นบอกว่าจะไปซื้อของที่เดอะมอลล์บางกะปิ ผมกดโทรศัพท์หาต้อมจะถามว่าถึงห้องหรือยัง ซื้ออะไรมากินบ้าง แต่ คำตอบที่ผมได้รับมันกลับทำเอาผมหน้าร้อน ใจสั่น นั่งไม่ติดเก้าอี้เลย!
     “ต้อมเหรอ อยู่ไหนอะ”
     “อยู่เดอะมอลล์”
     ”ไปทำอะไรอะ”
     “มาซื้ออุปกรณ์คอมฯ”
     “แล้วกินข้าวยังอะ”
     “อ๋อ กินพิซซ่าอยู่”
     “กินคนเดียวเหรอ”
     “กินกับ...แนนอะ พอดีบังเอิญมาเจอกันน่ะ”
     ทำไมต้องไปกินกับแนน?...เท่านั้นแหละ  ความหึงขึ้นหน้าผมปาโทรศัพท์มือถือทิ้งลงพื้นทันที ผมอาจจะดูเป็นคนไม่มีเหตุผล อารมณ์ร้อน ไม่ยอมฟังอะไรก่อน เค้าอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดก็ได้
     ต้อมกับแนนกลับมาหาผมที่ออฟฟิศอีกครั้ง เหมือนจะมาอธิบายว่าอะไรเป็นอะไร แต่ลมพายุมันยังไม่สงบง่ายๆ ถึงแม้ว่ามันจะเบาลงแล้วก็ตามแต่ความขุ่นข้องหมองในใจมันก็ยังไม่จางหาย แนนถูกโจ้แยกไปคุยไม่ให้เข้าใกล้ผม เพราะคงรู้ว่าผมโกรธอยู่ ส่วนต้อมเข้ามาง้อตามระเบียบ ผมก็มึนตึงใส่ ประชดประชัน ไม่ยอมคุยด้วย แถมกลับบ้านก็กลับใครกลับมัน
     เช้าวันรุ่งขึ้นผมมาทำงาน แนนทักทายผม แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ผมยอมรับนะว่ายังโกรธอยู่บ้าง ถึงจะไม่มากเหมือนเมื่อคืน แต่มันก็ยังเป็นตะกอนกร่อนอยู่ในใจ...ความหึงนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
     “พี่เนล แนนมันร้องไห้อยู่ในห้องน้ำน่ะ” โจ้เดินลุกลี้ลุกลนเข้ามาจนทำเอาคนในห้องต้องหันไปมอง
     “ร้องทำไม” 
     “มันบอกว่าพี่ไม่ยอมคุยกับมัน มันเสียใจ”
     “แล้วทีมันไปกินข้าวกับผัวคนอื่นล่ะ”
     ยังไม่ทันที่โจ้จะพูดอะไรต่อ พนักงานผู้หญิงห้องข้างๆ คนนึงก็วิ่งมาบอกอย่างหน้าตาตื่นว่าแนนชักตัวเกร็งหมดสติ พวกผู้ชายกำลังช่วยแบกไปส่งโรงพยาบาลกัน!
     “มารยา!!!”
     “เนลไม่ไปดูมันหน่อยเหรอ ถ้ามันไม่แคร์เนล มันไม่เป็นขนาดนี้หรอกนะ” พี่ๆ ที่แผนกออกอาการเป็นห่วงแนนมาก และดูเหมือนกำลังรุมตำหนิผมกลายๆ ยังไงไม่รู้
     “พี่ แอ๊คติ้งแบบนี้ทำไมเนลจะไม่รู้ เนลเคยทำมาก่อน”
     ใช่ ผมเคยทำมาก่อน สมัยตอนผมเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่งที่ต้องเข้าห้องประชุมเชียร์ แล้วถูกบรรดาพวกพี่ว้ากเกอร์ ตะคอก ตะเบง จนตบะแตก ผมแกล้งบีบน้ำตาทำสีหน้าบ่งบอกถึงความปวดร้าวที่โดนกระทำเยี่ยงนี้ แต่เท่านั้นยังไม่พอ มือไม้ผมออกอาการเริ่มเกร็ง หายใจติดขัด ร้องไห้ไม่หยุดเหมือนคนสติมันอยู่กับตัว...มารยาชัดๆ แน่นอน นี่ล่ะมารยาที่ใครก็สามารถทำได้ทั้งนั้น จากที่แกล้งๆ แต่ด้วยความอินมันเลยทำให้อะไรดูสมจริงไปเสียหมด…ไม่เชื่อก็ลองทำดูสิ!
     หลังเลิกงานโจ้และเพื่อนอีกสองสามคนไปเยี่ยมแนนที่โรงพยาบาล เห็นว่าต้องนอนพักคืนนึง ผมเลยกลายดูเหมือนเป็นคนใจร้าย ไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่แนนก็เป็นคนที่สนิทกันแท้ๆ แต่ทำไมผมถึงมีความหึงอย่างไร้สติเช่นนี้ก็ไม่รู้ หรือเพราะอาการเก่ากำเริบที่นังเอจักรีเพื่อนซี้ขาสั้นเคยวิเคราะห์ว่าผมเป็นโรคน้ำในหอยไม่เท่ากัน ฮอร์โมนเลยขาดการทรงตัว ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวได้ง่ายๆ อืม อาจจะเป็นไปได้เนอะ หึ!
     “ฮัลโหล พี่เนลเหรอ เออ แนนมันไม่ได้เป็นไรมากหรอก หมอบอกว่ามันหายใจไม่ทันเลยเกร็งก็เท่านั้นน่ะ พรุ่งนี้ก็กลับได้ละ”
     “อืม...”
     “มันฝากขอโทษด้วยนะ มันบอกเสียใจ ทีหลังจะไม่ไปเจอต้อมอีกแล้ว”
     “เออๆ ช่างเหอะ ตอนนี้ก็อารมณ์เย็นขึ้นบ้างแล้วล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะโจ้”
     “แล้วพี่เนลคุยกับต้อมหรือยังอะ”
     “ยัง ก็ว่าจะคุยวันนี้ล่ะ รอต้อมกลับมาก่อน”
     “………………”
     “ฟังอยู่ปะเนี่ย โจ้”
     “ฟะ ฟังอยู่พี่ เอ่อ...พรุ่งนี้คุยกันนะ”
     ผมนั่งทบทวนกับตัวเองอยู่หลายรอบ คิดแล้ว คิดอีก ว่าผมคงคิดมากไปจริงๆ นั่นแหละ ต้อมก็เป็นแฟนผม ส่วนแนนก็เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกันซึ่งผมก็ดีกับเค้ามาก ไม่ได้ต่างอะไรกับที่ผมดีกับต้อมเลย แล้วอีกอย่างแนนก็มีแฟนแล้วนี่นา เรื่องแบบนั้นมันคงไม่เกิดขึ้นหรอก เอาล่ะ วันพรุ่งนี้ผมจะกลับมาเป็นคนเดิม เราจะสนุกสนานเฮฮากันอย่างเก่า...
                                  ...................................................................

     แนนกลับมาทำงานตามปกติ บรรยากาศที่ร้อนระอุเมื่อสองสามวันก่อนกลับมาเย็นสบายเหมือนเดิม ท่ามกลางความโล่งอกโล่งใจของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงาน แนนเข้ามาขอโทษผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สำนึกผิด ผมก็อดอมยิ้มไม่ได้พร้อมให้อภัยเพราะไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว สำหรับต้อมเราสองคนได้เคลียร์กันไปเมื่อคืนเรียบร้อย ทุกอย่างแฮปปี้ดีพร้อมท์
     “คืนนี้ไปเที่ยวกันนะ อยากไปนั่งฟังเพลง ต้อมเป็นเจ้ามือ” ผมเอ่ยปากชวนแนนกับโจ้ เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันศุกร์ แล้วอีกอย่างก็อยากให้สัมพันธภาพกลับมาต่อติดเหมือนเดิม
     “ต้อมไปแนนไม่ไปอะ เดี๋ยวพี่ก็หึงอีกหรอก” นังแนนทำทีแขวะผมทีเล่นทีจริง
     “ไปเหอะ ไม่มีอะไรแล้วน่า ไม่หึงแล้ว โจ้ไปด้วยนะ อย่าปฏิเสธ”
     “จะดีเหรอพี่ โจ้ว่าพี่ไปกับต้อม 2 คนเหอะ”
     “ทำไมเหรอ มีอะไรรึเปล่า”
     “………….”
     “ว่าไงโจ้ ”
     “เอ่อ...ไปก็ไปพี่ ร้านเดิมใช่ปะ”
     “ใช่แล้ว”
     แล้วเย็นวันนี้เราสี่คนก็มานั่งฟังเพลงกันที่ร้านประจำแถวโชคชัย 4 ความสนุกและมิตรภาพกลบความรู้สึกหึงหวงไปแล้วหมดสิ้น ผมน่ะคิดมากไปจริงๆ นั่นแหละ การที่ต้อมกับแนนไปเจอกันวันนั้นมันก็แค่บังเอิญ เพื่อนเจอกันก็ต้องทักทายกัน หรือจะกินข้าวด้วยกันมันก็ไม่มีอะไรนี่ ถ้าผมคิดได้แบบนี้ตั้งแต่วันนั้นมันก็คงดีเนอะ แต่ก็ช่างเถอะ ผ่านแล้วก็ผ่านเลย จริงๆ ผมก็ไม่อยากขี้หึง จู้จี้ ขี้บ่น หรือว่างอนใส่ต้อมมากนักหรอก กลัวเค้าเบื่อเหมือนกัน ทุกวันนี้ผมก็พยายามทำดีกับต้อมมาก ดูแลห่วงใยตลอด ผมไม่อยากเสียต้อมไป เพราะเราคบกันมานาน  นานซะจนที่ทำให้ใครหลายๆ คนอิจฉาความรักของเรา เพราะฉะนั้นผมก็ต้องคอยประคับประคองให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองไปตลอดรอดฝั่งให้ได้
     “เนล พรุ่งนี้ต้อมว่าจะไปเที่ยวกับพวกไอ้ตุ๊น ไอ้จบนะ มันชวนไปบ้านมันที่ต่างจังหวัด”
    “เหรอ...ไปสิ ฝากความคิดถึงถึงตุ๊นกับจบด้วยนะ” ตุ๊นกับจบเค้าเป็นเพื่อนสนิทของต้อมที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน และก็ค่อนข้างรู้จักผมเป็นอย่างดีเพราะอยู่หอเดียวกันหมด
     “ทิ้งพี่เนลไปเที่ยวกับเพื่อน ระวังพี่เนลจะแอบไปหาผู้ชายนะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าแนนไม่เตือน”
     “พี่เนลเค้าไม่ชั่วเหมือนแกหรอก นังแนน” โจ้กับแนนเปิดฉากฉะกันขำๆ ทำเอาผมอดหัวเราะไม่ได้
     ...เหตุอันใดพอความรักเธอเริ่มต้น ชายทุกคนหลีกไกล เหตุอันใดเธอเคยคิดดูหรือไม่ใครล้อมกรอบตัวเอง ตั้งข้อแม้รักเสียมากมาย จะมีชายใดเป็นได้ดัง เช่นกฎเกณฑ์เธอวางไว้ใครบ้าง จะมีทางเป็นชายของเธอ
เธอเห็นใคร ไยถึงต้องหลอกตัวเอง …

     มาที่นี่ไม่ผิดหวังจริงๆ ขอเพลงนี้ทีไร นักดนตรีก็เล่นให้ทุกที เพลงโปรดของผมอีกเพลงนึงเลยนะเนี่ย ‘เจ้าสาวที่กลัวฝน’ สงสัยใช่มั้ยล่ะครับว่า เอ๊ะ! เนื้อหาเพลงนี้มันตรงกับชีวิตผมยังไงเหรอถึงชอบ เปล่าครับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย เหตุผลเดียวที่ชอบคือ มันเพราะดีอะ
    หากเธอคิดพบรักที่ชื่นฉ่ำ อย่ามัวทำตัวเองมืดมนอย่ากลัวฝน เพราะฝนนั้นเย็นฉ่ำ อย่ามัวทำตามความคิดเดิม ลองคิดดู ลองหาทางสู้กับฝน…


      

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
ลางร้ายกำลังจะมาชิมิ  แอร๊ยยยยย

ลุ้นนนนนนนนนนนนน

รีบมาต่อเน้ออออออ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
สองตัวนี่แอบไปพบกันที่อื่นป่าวอ่ะ ต้อมนี่ชักทะแม่ง ๆ แล้วน่ะ รึกว่าตรูคิดมาก :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
บทเศร้าเคล้าน้ำตามาอีกแล้ว

แอบไปเตรียมผ้าเช็ดหน้ารอเลยดีมะ

 :m15:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
โจ้มีไรปิดบังป่าวอ่ะ  ดูอ้ำๆอึ้งๆชอบกล
คนอ่านลุ้นเข้าปายยยย   :m29:

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ช่วยดันให้กำลังใจกันหน่อยนะครับ :m13:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
หง่ะ   :o นึกว่าคุณเนลมาต่อซะอีก



ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3


วั้ย กิต.ว่าแนนแอบนัดกับต้อมละค่ะ


ขอบคุณนะคะ คุณ nuichanel


dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

nuichanel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 13 :m15:

     “ฮัลโหล โจ้เหรอ...ไปเดินเล่นกัน อยู่แต่ในห้องเบื่ออะ”
     “ไปดิพี่ ขอเวลาแต่งตัวชั่วโมงนะ”
     “ตามสบายเลย เดี๋ยวพี่ว่าจะโทรชวนนังแนนมันด้วย”
     “มันไม่อยู่หรอกพี่ เมื่อเช้าหนูก็โทรหามัน มันบอกว่าไปประจวบฯ กับพี่วี”
     “คงจะไปเปลี่ยนบรรยากาศกันนะสิ ช่างมันเหอะ เราไปกันสองคนก็ได้”
     ผมนัดเจอกับโจ้ที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง หลังจากซื้อของกันเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว เราก็มาหย่อนก้นนั่งเม้าธ์กันต่อที่ร้านอาหารญี่ปุ่น แหม ก็มันเสียพลังงานจากการเดินไปเยอะนี่ครับ ก็ต้องขอเวลาชาร์จแบตสักหน่อย เพราะเรายังมีแพลนในการช้อปอีกเยอะ
     “พี่เนล หลังจากเรื่องวันนั้นพี่กับต้อมเป็นยังไงกันบ้างอะ”
     “ก็ไม่มีอะไรนี่ ปกติเหมือนเดิม”
     “เหมือนเดิม?”
     “อืม เหมือนเดิม ทำไมเหรอ”
     “ปะ เปล่าพี่ ก็ดีแล้วล่ะ เหมือนเดิม พี่ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากนะ อะไรที่ผ่านแล้วก็ปล่อยมันผ่านไปเหอะ แต่ถ้ามีอะไรขึ้นมา ขอให้พี่รู้ไว้เถอะว่าหนูจะอยู่ข้างพี่นะ”
     “อู๊ย ขอบใจมาก เล่นเอาซะซึ้งเชียว แดกไม่ลงแล้วอ่ะ เลี่ยน 555+”  ผมไม่รู้หรอกนะว่าที่โจ้พูดนั้นมันมีเหตุผลอะไร  แต่อย่างน้อยมันก็ทำเอาผมซึ้งได้เหมือนกันนะเนี่ย   
     ต้อมกลับมาถึงเย็นวันอาทิตย์ในสภาพที่ดูเพลียๆ เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะดูท่าว่าต้อมคงอยากจะพักผ่อน ผมนั่งมองดูหน้าต้อมตอนนอนแล้วพลันนึกย้อนไปถึงตอนที่เราคบกันใหม่ๆ มันขำดีจัง คนอะไรก็ไม่รู้หึงบ้าหึงบอหึงจนผมไม่เป็นอันทำอะไร...ทำไมต้อมถึงรักผมมากขนาดนี้นะ ให้ได้ทุกอย่างที่ผมอยากได้ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากได้อะไรแล้วล่ะ ขอเพียงต้อมอยู่กับผมและรักผมคนเดียวอย่างนี้ตลอดไปก็พอ...
     แต่ตะแด๊ดแต๊ดแต่ ตะแด๊ดแต๊ดแต่ แต๊ดแต่แต๊ดแต่...แต่ตะแด๊ดแต๊ดแต่ ตะแด๊ดแต๊ดแต่ แต๊ดแต่แต๊ดแต่...แต่ตะแด๊ดแต๊ดแต่ ตะแด๊ดแต๊ดแต่ แต๊ดแต่แต๊ดแต่...
     “ฮัลโหล...แนนเหรอ ว่าไง กลับจากประจวบยัง”
     “ยังเลยพี่ คงกลับพรุ่งนี้เช้าน่ะ”
     “แหม ไปสวีทกับพี่วีไกลนะจ๊ะหล่อน เปลี่ยนบรรยากาศหรือไง”
     “นิดนึงพี่ กรุงเทพฯ เบื่อล่ะ อะไรก็เดิมๆ เออ...แล้วพี่อยู่คนเดียวเหรอ”
     “ฉันก็อยู่กับผัวฉันสิยะ ถามได้ แต่ว่าหลับไปแล้วล่ะ กลับมาจากต่างจังหวัดคงเพลียมากอะ”
     “เหรอพี่ อืมๆๆ แค่นี้ละกันนะพี่ พรุ่งนี้เจอกันที่ออฟฟิศ...บ๊ายบ่าย”
     นังแนนคนนี้ She คบกับพี่วีมาก็หลายปีอยู่ เห็นว่าอย่างนั้นนะ แต่ที่บ้านหล่อนไม่มีใครชอบว่าที่ลูกเขยคนนี้เอาซะเลย นังแนนเล่าว่าแม่กับยายไม่ปลื้มที่พี่วีดูเป็นคนหลักลอยไม่มีงานเป็นชิ้นเป็นอันทำ ที่สำคัญด้วยบุคลิกที่เซอร์สไตล์หนุ่มใต้ผมยาวไว้หนวดไว้เคราเลยยิ่งไม่เข้าสเป็คว่าที่แม่ยายสุดๆ เฮ้อ...กรรมของมัน แต่มันก็ยังแอบคบกันอยู่ตลอด ที่เซี้ยวสุดๆ สำหรับนังคนนี้เวลา She มีกิจกรรมเข้าจังหวะโป้งโป้งชึ่งเด้งดึ๋งๆ กับผัวรัก หล่อนก็มักจะต้องเอามาเล่าเป็นฉากๆ ให้ฟังอย่างไม่รู้สึกอะไร
     “พี่เนล หนูว่าที่มันเล่าน่ะ มันไม่ได้ไร้เดียงสาหรอก แต่มันไร้ยางอายต่างหากล่ะ” สาวโจ้เคยแขวะนังแนนไว้ได้อย่างถึงใจจริงๆ
     ก่อนนอนคืนนี้นึกยังไงก็ไม่รู้นะ ผมได้หยิบไดอารี่สีชมพูขึ้นมาอ่านเรื่องราวเก่าๆ อ่านไปก็อดยิ้มไปไม่ได้ ผมพลิกอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย ซึ่งเป็นหน้าที่ผมได้เขียนถึงผู้ชายที่ชื่อ ‘ตั้ม’ แล้วหลังจากนั้นมาผมก็ไม่เคยได้เขียนไดอารี่ถึงใครอีกเลย แม้แต่ต้อม!

                                ………………………………………………………………………

   2 กันยายน 2545
     หลายๆ วันที่ผ่านมานี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงรู้สึกเหงาแปลกๆ ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวสักหน่อย มีทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้องที่ทำงานมากมาย และที่สำคัญผมก็ยังมีต้อมอยู่ข้างๆ...ดูๆ ไป มันก็คุ้นๆ เหลือเกินความรู้สึกแบบนี้มันช่างเหมือนกับตอนที่ผมกำลังเสียตั้มไป!!!
     เค้าว่ากันว่าคนเราถ้าเป็นแฟนแล้วอยู่ด้วยกันไปนานๆ ความสัมพันธ์ที่เคยหวานซึ้งตรึงใจจะกลับกลายเป็นความรู้สึกผูกพันเพียงฉันเพื่อน ผมก็ว่าจริงนะ ไม่ต้องดูไหนไกลเลย ก็คู่ผมนี่ล่ะ ทุกวันนี้เราเหมือนเพื่อนกันมากกว่าคู่รักเสียอีก ความหวานแหววกุ๊กกิ๊กเมื่อครั้งเก่าแทบจะไม่มีให้เห็นกันเลย เพราะเหตุนี้ด้วยมั้งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ต้อมแปลกไปไม่เหมือนเดิม หลังๆ มานี้ต้อมมักจะปฏิเสธที่จะมีอะไรกับผม อ้างว่าง่วงบ้าง เพลียบ้าง แล้วเราก็ทะเลาะกันบ่อยด้วย ซึ่งบางครั้งเรื่องที่ทะเลาะกันก็เป็นเรื่องหยุมหยิมแต่ไม่รู้ว่าโยงกันไปอีท่าไหนก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทุกที แต่การที่จะมีอะไรกันหรือไม่มีอะไรกันนั้นมันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรหรอกครับ แต่ความรู้สึกทางด้านจิตใจผมสัมผัสถึงมันได้ว่ามันดูขุ่นมัวพิกล
     ผมอยากจะถามต้อมเหมือนกันว่า ต้อมเบื่อชีวิตแบบนี้แล้วใช่มั้ย ต้อมเบื่อผมแล้วใช่มั้ย หรือว่าต้อมกำลังมีคนอื่นอยู่ใช่มั้ย แต่ผมไม่กล้าถาม เพราะว่าผมกลัวคำตอบที่จะออกมาจากปากของต้อม มันคงทำให้ผมรับไม่ได้แน่ๆ และมันก็คงไม่เหมาะที่เราจะมีเรื่องมึนตึงในวันสำคัญของผมวันนี้ ใช่ครับ 2 กันยา เป็นวันเกิดของผม ทุกๆ ปีต้อมจะมีเซอร์ไพรส์ให้กับผม มันก็เป็นของขวัญอะไรเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละครับ แต่มันก็ถูกใจผมทุกครั้ง เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้อมให้ผมด้วยใจ และปีนี้ผมก็กำลังรอเซอร์ไพรส์จากต้อมอยู่...และมันก็คงจะทำให้ความรู้สึกหม่นๆ ในใจของผมดีขึ้นบ้าง
     วันนี้ตลอดทั้งวันยังไม่มีโทรศัพท์จากต้อม ต้อมลืมเหรอ ไม่หรอก คงจะเป็นเย็นๆ มั้ง ผมคิดอย่างนั้นนะ ต้อมคงอยากเซอร์ไพรส์ผมมากกว่า...แต่ผมก็ได้แต่รอ รอ รอ และก็รอ ไม่มีแม้กระทั่งข้อความใดๆ ส่งมา หรือว่าต้อมลืมวันเกิดผมจริงๆ
     “ฮัลโหล ต้อม อยู่ไหนอะ”
     “มาเดินซื้อของกับเพื่อนอะ”
     “ต้อมจะกลับกี่โมง รอกินข้าวนะ”
     “ไม่ต้องรอต้อมหรอก วันนี้ต้อมคงกลับค่ำๆ อะ”
     คำตอบของต้อมทำเอาผมอึ้งไปนิด แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นมุกของเค้าเพื่อที่จะทำเซอร์ไพรส์ผมในคืนนี้ก็ได้ แต่ถ้ามันไม่ใช่มุก ต้อมลืมวันเกิดผมจริงๆ ล่ะ
     “ต้อม ต้อมจะกลับกี่โมงล่ะ”
    “เนลจะเซ้าซี้ไมเนี่ย เดี๋ยวต้อมก็กลับเองแหละ”
     “ต้อมมีอะไรหรือเปล่าเนี่ย ต้อมแปลกไปนะ ต้อมมีอะไรก็บอกเนลซิ” ผมเริ่มชักหวั่นใจอะไรบางอย่าง ผมต้องรู้ให้ได้ว่าต้อมเป็นอะไร และเค้ากำลังจะทำอะไร
     “ไม่ได้มีอะไร เนลเป็นไรเนี่ย อย่ามาจับผิดกันเลย”
     “เนลไม่ได้จับผิดนะต้อม แค่อยากจะรู้ว่าต้อมอยู่ที่ไหนกันแน่ อยู่กับใคร แล้วทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน”
     “……………………”
     “ต้อมอย่าเงียบสิ ต้อมมีอะไรก็บอกกับเนลตรงๆ สิ”
     “…………………….” ต้อมยิ่งเงียบยิ่งทำให้ผมกระสับกระส่าย ร้อนใจ ว้าวุ่น ยังไงผมก็ต้องเอาคำตอบจากต้อม ให้ได้ ไม่ว่าสิ่งที่ผมจะได้รู้นั้นมันจะดีหรือไม่ดี
     “ต้อม! ต้อมบอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าต้อมไม่เหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย”
     “…………………….”
     “ต้อม! ต้อมมีคนอื่นใช่มั้ย...ใช่มั้ย”
     “อืม...”
     ผมสะอึกกับคำตอบสั้นๆ เพียงแค่คำว่า “อืม” เล่นเอาผมขาอ่อนแทบยืนไม่ติดพื้น หัวใจเต้นแรง หน้าชาเหมือนถูกตบอย่างแรง ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคำๆ นี้จะหลุดออกมาจากปากคนที่ดีกับผมมาตลอดกว่า 6 ปี ผมพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว มันจุกมันเจ็บเกินจะบรรยาย ผมอยากร้องไห้ออกมาแต่มันก็ร้องไม่ออก
     “ตะ...ต้อมมีคนอื่นจริงๆ เหรอ”
     “อืม...จริง”
     “ต้อม เนลว่าเดี๋ยวเราคุยเรื่องนี้กันที่ห้องก็แล้วกันนะ ” ผมทำใจดีสู้เสือพูดออกไป แล้วกดวางโทรศัพท์ทันที บอกกับตัวเองว่าต้องใจเย็นๆๆ มันไม่มีอะไรหรอกน่า ที่ต้อมพูดมาเราอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ ผมพยายามหลอกตัวเองอยู่ใช่มั้ยเนี่ย?
     ผมนั่งรถกลับห้องด้วยใจไม่เป็นสุข สับสน คิดนู่นนี่นั่นพัลวันไปหมด พอมาถึงห้อง ผมปล่อยตัวนั่งลงบนเตียงเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก มองดูรอบห้อง หยิบรูปถ่ายของผมกับต้อมมาดู มันคงถึงเวลาแล้วสินะที่ต้อมจะไปจากผม...เข้มแข็ง ผมบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ที่ไหนล่ะ และผมก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้มันต้องมาถึง
     “ขอบคุณจริงๆ สำหรับเซอร์ไพรส์ในวันเกิด...เซอร์ไพรส์จริงๆ”
     ประมาณสองทุ่มกว่าๆ ต้อมก็กลับมาถึงห้อง ดูท่าเหมือนต้อมไม่กล้าที่จะสู้หน้าผมเท่าไหร่ ผมยิ้มให้อย่างใจเย็น เพราะมันคงดีกว่าการโวยวายใช้อารมณ์เป็นแน่ เพราะผมเชื่อว่าต้อมอาจจะสับสนอะไรอยู่
     “ต้อม ที่ต้อมพูดกับเนล...”
     “ต้อมอยากมีแฟนเป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้อมรังเกียจเนลนะ ต้อมก็ยังจะดีกับเนลเหมือนเดิม”
     “คนนั้นเป็นใครเหรอต้อม”
     “เพื่อนที่ทำงาน”
     “คบกันนานเท่าไหร่แล้ว”
     “เดือนนึง”
     “เหรอ...”
     “เนล ต้อมขอโทษนะ”
     “ไม่เป็นไรต้อม แหม...เนลทำใจได้ อย่างว่าแหละเราก็คบกันมานานแล้ว มันก็ถึงเวลาแล้วล่ะ”
     ที่ผมพูดออกไป ผมยอมรับว่าผมกำลังหลอกตัวเองอยู่ ผมเจ็บมากนะ แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้แล้ว ผมเดินออกมาที่นอกระเบียงมองท้องฟ้า มองดาว มองทุกอย่างที่สายตาของผมจะสามารถกวาดมองได้ ส่วนต้อมก็นั่งซึมอยู่ในห้อง ต้อมก็คงเครียดไม่แพ้ผมหรอกครับที่เค้าตัดสินใจแบบนี้
     “ฮัลโหล...โจ้” ผมโทรหาโจ้ เพื่อต้องการใครสักคนไว้ให้ผมได้หย่อนใจในตอนนี้
     “ว่าไงพี่”
     “พี่เลิกกับต้อมแล้วนะ” ผมพูดไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้มีอาการซีเรียสใดๆ เลย มันเหมือนกับผมทำใจได้ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย
     “จริงเหรอพี่”
     “อืม ต้อมเค้าบอกว่าเค้ามีคนใหม่ เป็นเพื่อนที่ทำงานของเค้า เห็นบอกว่าคบกันมาได้เดือนนึงแล้ว”
     “พี่เนล แต่หนูว่าไม่ใช่อะ หนูว่าเป็นนังแนนมากกว่า”
     “ไม่ใช่หรอกโจ้ ต้อมเค้าบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานเค้า ไม่ใช่แนนหรอก”
     “พี่เนล จะยังไงก็ช่าง แต่หนูคิดว่าเป็นแนน” น้ำเสียงของโจ้ดูจริงจัง เหมือนกับมั่นใจมากๆ ว่าผู้หญิงคนที่ต้อม คบนั้นคือแนน ไม่ใช่เพื่อนที่ทำงานอย่างที่ต้อมบอกแต่อย่างใด
     “ทำไมโจ้คิดอย่างนั้นล่ะ แนนมันไม่กล้าทำแบบนี้กับพี่หรอก มันก็มีแฟนแล้วนะ แล้วมันก็สัญญากับพี่แล้วด้วย” ผมยังยืนกรานปักใจไม่เชื่อว่าแนนจะทำอย่างนี้ได้
     “หนูเคยแอบได้ยินมันคุยโทรศัพท์กับต้อมหลายครั้งแล้วนะพี่”
     “แต่ต้อมเค้าบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานนะ”
     “ไม่รู้ล่ะ หนูเชื่อของหนูอย่างนี้แหละ แต่ว่าตอนนี้พี่เป็นไงบ้างอะ”
     “ไม่เป็นไรหรอก สบายมาก พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ” ผมวางสายโจ้ไป พร้อมกับคำถามมากมายในใจ แต่ใครล่ะจะช่วยผมตอบคำถามเหล่านั้น ผมเดินกลับเข้ามาในห้องด้วยอาการของคนที่สับสนในชีวิตอย่างมาก ต้อมละสายตาจากโทรทัศน์แล้วหันมามองผม
     “เนล โอเคนะ”
     “อืม ก็ไม่เป็นไรหรอก ทำใจได้ เออ...ถามอะไรหน่อยดิ คนที่ต้อมคบอยู่ไม่ใช่แนนใช่มั้ย”
     “ไม่ใช่ ก็บอกแล้วไงว่าเป็นเพื่อนที่ออฟฟิศ ทำไมถามงี้ล่ะ มีอะไรรึเปล่า”
     “เปล่าๆ ช่างเหอะ”
     คืนนี้ผมนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ หึ! ถ้านอนหลับลงก็คงเป็นเรื่องแปลกแล้วล่ะ เพิ่งจะโดนบอกเลิกมาสดๆ ร้อนๆ ใครจะทำใจได้เร็วขนาดนั้น ต่อหน้าต้อมปากก็บอกว่าทำใจได้ แต่ในใจมันร้าวระบมสุดๆ ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้ นับจากคืนนี้เป็นต้นไป ทุกๆ อย่างมันกำลังจะกลายเป็นอดีต จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้วเหรอเนี่ย ภาพในวันวานมันเริ่มย้อนเข้ามาในสมองของผมอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ได้คบกัน ได้รักกัน จนมาในวันนี้ความรักที่ต้อมเคยมีให้ผม เค้ากำลังจะเอาไปให้คนอื่นแทนแล้ว


ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
แอร๊ยยยยยยยย

ค้างเคอะๆๆ

รีบมาต่อนะ

ต้องใช่แนนแน่ๆๆๆๆ :angry2: :เตะ1:แนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด