ตอนที่ 16
กล้าหาญ
Naaytan Aroonkittiniwat
รูป : แก๊งคุณชายลูกค่ายละครกินอาหารกับแก๊งชายโฉดโหดเยี่ยงหมาที่ตลาดหน้ามอ
แคปชั่น : Family #NTKH1stday
จำนวนไลค์ : 212
Naaypon Aroonkittiniwat : แฟมิลี่? ไหนกู (12 Likes)
เพื่อนร่วมโรงเรียนคนที่หนึ่ง : โหยยยย กล้าดูดีขึ้นมากเลยว่ะ
เพื่อนคนที่สี่ : You look so happy
เพื่อนคนที่สอง : Gu envy laew wa!
Naaykong Aroonkittiniwat : คนไหนแฟนนายท่าน?
Naaytan Aroonkittiniwat : ทุกคนเงียบไว้ ห้ามตอบน้องกู
Naaykong Aroonkittiniwat : กูส่องแป๊บเดียว เดี๋ยวกูก็เจอ กูไม่ได้โง่
Naaytan Aroonkittiniwat : @Naaykong Aroonkittiniwat ไม่น่ารับแอดมึงเลย...
เพื่อนร่วมโรงเรียนคนที่สอง : โอ้โห นายกอง โอ้โห...
รุ่นพี่คนที่หนึ่ง : น้องคนนี้ของมึงได้ใจจริงๆ (34 Likes) “เชี่ยนายกอง”
“หืม” ผมหันขวับไปเพราะจู่ๆ นายท่านมันก็บ่นพึมพำเป็นชื่อน้องชายตัวเองตอนที่เราเดินกลับจากกินข้าวที่ตลาดหน้ามอ ท่าทางต้นสายปลายเหตุมันน่าจะมาจากสิ่งที่อยู่ในจอโทรศัพท์ของนายท่าน ผมจึงได้ทำการยื่นหน้าเข้าไปดู...
...แน่นอนว่าแฟนผมมันจับหัวของผมให้หันไปทางอื่นแทบจะในทันที
ผมสามารถแตะต้องทุกอย่างของนายท่านได้หมดแม้กระทั่งร่างกายของมันทุกซอกทุกมุม แต่สิ่งเดียวที่ผมแตะต้องไม่ได้นั่นก็คือเฟซบุ๊กลับของมัน
ไม่รู้จะมีเหี้ยอะไรเป็นความลับนักหนา
“น้องมึงมีอะไรเหรอ”
“มันกวนตีนน่ะ” นายท่านหันมามองหน้าผม “มึงยังไม่เคยเห็นน้องชายกูเลยสักคนนี่”
“ไม่เหมือนมึง...เห็นพี่สาวกูบ่อยมากจนกูจะจับมึงแต่งงานกับพี่กูคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว”
อีกฝ่ายเหล่มองผมพร้อมยิ้มมุมปาก “ได้เหรอ”
“ได้ก็บ้า กูพูดเป็นเชิงเปรียบเทียบว่ามึงมาบ่อย!”
“โห เสียงดังขึ้นเลยว่ะ”
“...”
“ถามจริง...ที่มึงเสียงดังเนี่ย มึงหวงใครกันแน่”
“หืม” ฆ่าตัวตายชัดๆ เลยกู...เปลี่ยนเรื่องพูดตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย
“หวงพี่สาวหรือว่าหวงกู”
“หวงพี่กูดิ กูจะหวงมึงทำเตี่ยอะไรล่ะ”
สิ้นเสียงของผม นายท่านก็ทำการแกล้งผมด้วยการโอบรอบตัวผมไปทั้งตัว ผมดิ้นพล่านเพราะกลัวว่ามีคนเห็น โชคดีที่ทางเดินตรงนี้มันมืด แม้กระทั่งกลุ่มเพื่อนของเราที่เดินนำอยู่ข้างหน้าก็ยังไม่เห็นสิ่งที่เราทั้งสองคนกำลังทำอยู่เลย
เอ๊ะ...หรือพวกมันไม่สนใจวะ
“แกล้งกูเก่งนัก” นายท่านปล่อยผมจากนั้นก็บิดแก้มผมแรงๆ
“ไม่ได้แกล้ง หวงพี่จริงๆ” ผมพูดเสียงอ่อย ลองหันไปเช็กหน้านายท่านดู มันไม่ได้มีสีหน้าที่สลดลงแต่อย่างใด ถึงจะเป็นอย่างนั้น...ผมก็ไม่อยากให้มันคิดในแง่ลบอยู่ดี “มึงกูก็หวง”
“หา” นายท่านยิ้มร่า
“มึงจำไม่ได้เหรอตอนที่มึงมาบ้านกูบ่อยๆ เมื่อตอนมอปลายอ่ะ กูไม่ยอมปล่อยให้มึงอยู่บ้านตามลำพังกับพี่สาวกูเวลาที่มึงรอกูเลยนะ”
“ก็มึงหวงพี่มึงป่ะวะ”
ไม่ผิดที่มันจะคิดอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วผมมีความลับอย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยแชร์ให้มันรับรู้อยู่
“จริงๆ แล้ว...กูหวงมึงอยู่นิดหน่อย”
นายท่านทำสีหน้าได้ใจ
“แค่นิดหน่อย!” ผมร้อง “พี่เจ้าหญิงชอบชมมึงให้กูฟัง กูกลัวพี่กูจะชอบมึง...” ผมอ้างไปถึงพี่สาวคนที่สามที่มีวัยใกล้เคียงกับผมมากที่สุด ตอนนี้เธอเรียนอยู่ปีสามแล้วครับ พี่คนโตอย่างพี่เจ้านางนั้นทำงานแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ส่วนพี่คนรองอย่างพี่เจ้างามนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ห้า (เธอเรียนทันตแพทย์น่ะ)
“จริงเหรอ พี่เจ้าหญิงชมกูเหรอ” นายท่านแม่งหลงประเด็นใหญ่แล้ว “กูปลื้มคนนี้ที่สุดในบรรดาพี่สาวของมึงทุกคนเลย”
ผมเตะหน้าแข้งของมันอย่างไม่ยั้งแรงจนมันต้องกระโดดจับขาตัวเอง
“โอ๊ย!”
“...”
“แบบนี้นี่ไม่ใช่หวงกูแล้วมั้ง กูพูดถึงพี่สาวมึงปุ๊บมึงเตะกูปั๊บ”
“กูไม่รู้แล้วว่ากูรู้สึกอะไรบ้าง ทั้งหวงพี่ทั้งหึงมึงปนๆ กันไปแล้ว ช่างแม่งเหอะ”
“เออ ฟังดูเป็นมึงดี ชอบคิดว่าตัวเองสับสนแต่การกระทำดูออกโคตรง่าย”
“เหี้ยท่าน”
“ไม่ได้ว่าอะไรครับ แค่ตั้งข้อสังเกตเฉยๆ” มันยิ้ม จากนั้นก็มองซ้ายมองขวาแล้วก็ทำการหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว “ดีใจนะที่รู้ว่าตอนนั้นมึงก็หวงกู”
ผมหน้าแดง “ก็มันจริงอ่ะ”
นายท่านมีสีหน้ามีความสุขอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งไอ้เซียนมันส่งเสียงเรียกให้เราสองคนเดินตามไปไวๆ นั่นแหละ พวกเราถึงได้เร่งฝีเท้า
“คนนี้ชื่อนายพล” นายท่านเปิดรูปน้องชายของมันให้ดู...นายพลคนนี้คือคนที่สนิทกับนายท่านที่สุด น้องเรียนอยู่ชั้นม.5 หน้าตามีแววคล้ายนายท่านแต่ตาโตกว่าและก็มีใบหน้าที่ใหญ่กว่านิดหน่อย
“คนที่รู้เรื่องของมึงทุกเรื่องอ่ะนะ”
“ใช่ มันรู้จักมึงด้วย”
“...”
“รู้หมดว่ามึงทำให้กูเจ็บยังไงบ้าง”
“เฮ้ย” ผมเริ่มหน้าเสีย “แล้วน้องมันจะเกลียดกูมั้ยเนี่ย”
“ไม่หรอก” นายท่านยิ้มน้อยๆ “ก็มีบ่นบ้างว่าทำไมต้องทำให้พี่ชายเข้าโรง’บาลด้วย...แต่ไม่เกลียดหรอก”
นั่นคือไม่เกลียดเหรอวะ...ผมเริ่มใจคอไม่ดี แต่นั่นก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“ส่วนไอ้นี่...ตัวแสบ ชื่อนายกอง” นายท่านชูรูปน้องชายคนต่อมาของมันให้ดู คนนี้หน้าเหมือนนายท่านมากจนผมถึงกับต้องกดขยายรูปดูใกล้ๆ เด็กม. 3 คนนี้คล้ายนายท่านแทบจะเรียกได้ว่าเหมือนนายท่านสมัยยังเป็นเด็กมัธยม แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเจ้าเด็กคนนี้นั้นต่างจากแฟนผมอย่างสุดขั้วยังไงก็ไม่รู้
นายท่านมันช่วยชี้แจงแถลงไขได้ทันเวลาพอดี
“แสบที่สุด ดื้อที่สุด เข้าใจยากที่สุด” มันถอนหายใจ “กูเป็นห่วงไอ้นี่ที่สุดๆ เลย”
ดูจากการดึงหน้าตอนถ่ายรูปแล้ว...ผมคิดว่านายกองนั้นดูแลตัวเองได้นะ
“ส่วนนี่คนสุดท้าย...นายน้อย” แววตาของนายท่านฉายแววเอ็นดูออกมาอย่างเห็นได้ชัด คนสุดท้องของบ้านอรุณกิตตินิวัฒน์นี่น่ารักสุดๆ ไปเลยครับ เป็นเด็กม. 1 ที่เหมือนอยู่ประถมอยู่เลย หน้าโคตรเด็กทั้งๆ ที่เป็นเด็กอยู่แล้ว ทุกคนไม่งงกันใช่มั้ยครับ...
“คนนี้น่าเป็นห่วงที่สุดไม่ใช่เหรอ” ผมพูดตามความรู้สึก
“น่าหวงที่สุด แต่ไม่น่าห่วงที่สุด” นายท่านถอนหายใจ “ในบรรดาสามคนนี้...ถ้ามึงจะคิดหนักล่ะก็ มึงคิดแค่เรื่องของนายกองก็พอ”
“น้องมันสร้างวีรกรรมเอาไว้หนักมากเลยเหรอ” จำได้ว่านอกจากนายท่านมันจะเหนื่อยกับการวิ่งไล่ตามจีบผมเมื่อสมัยมัธยมแล้ว มันยังต้องเหนื่อยกับการจัดการน้องที่ชื่อว่านายกองนี่แหละ นี่ถ้าตอนนั้นผมใส่ใจมันสักนิด...ผมคงได้ช่วยมันแก้ปัญหาแล้ว
“ก็ไม่หนักขนาดนั้น มันไม่เคยทำร้ายใคร ไม่ได้ก่อเรื่องเหมือนที่มึงชอบทำเมื่อสมัยก่อน”
ไอ้เหี้ยนี่มีพาดพิง...
“มันแค่เป็นเด็กเข้าใจยาก ชอบคิดไม่เหมือนชาวบ้านน่ะ”
แม้ว่าผมจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ในตอนนั้น...แต่ผมก็รับรู้ได้ว่านายท่านมันห่วงน้องชายคนนี้ของมันมากมายจริงๆ ไม่เหมือนกับผม...ในบรรดาพี่สาวคนสวยทั้งสามคนของผม ผมไม่เคยรู้สึกห่วงใครมากกว่าใครมาก่อน ผมเป็นห่วงเท่าๆ กันหมด
นี่อาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างการเป็นพี่ชายกับการเป็นน้องชายก็ได้มั้ง
วันต่อมา
ตัวละครที่ชื่อ ‘รักกล้ามาก’ ใน RoV เล่นโหดฉิบหาย แต่ตัวละครที่ชื่อ ‘รักท่านมาก’ (ไปเปลี่ยนอีกรอบเรียบร้อย) ของผมกลับเล่นไก่กาซะจนโดนคนในทีมสาปแช่งให้ไปเกิดใหม่หรือไม่ก็ด่าว่าใช้หัวแม่โป้งเท้าเล่นเหรอ
กูเลิกเล่นก็ได้วะ
คืนนี้ผมหลับคนเดียวครับ เนื่องจากนายท่านมันต้องไปเจอแม่ของมัน เราตัดสินใจยังไม่ทำให้เรื่องของเราเป็นเรื่องใหญ่ด้วยกันบากหน้าไปหาแม่ของนายท่านกันทั้งคู่ เราเพิ่งจะคบกันแค่วันแรกๆ ยังไม่อยากให้เกิดดราม่าอะไรทั้งสิ้น
เพราะคืนนี้เราแยกกันนอน ผมก็เลยมีเวลาเล่น RoV ซึ่งเล่นได้ไม่กี่เกมก็เลิกเล่นแล้ว ผมมันเล่นห่วยจริงๆ สมกับคำที่ไอ้เซียนกับไอ้หมูหันมันชอบเหน็บแนม ในเมื่อเล่นไปก็เปลืองแบตเปล่าๆ ผมจึงได้ใจลอยนอนมองเพดานพลางคิดไปถึงนายท่าน
ไม่รู้ป่านนี้นายท่านมันจะนอนหรือยัง...มันจะดื่มนมเปรี้ยวก่อนนอนมั้ย
ใช่...ผมคิดถึงแฟนตัวเองครับทุกคน ผมขอยอมรับอย่างลูกผู้ชาย!
ผมกะจะส่งข้อความไปถาม แต่แล้วก็มีข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมาให้ผมอ่านซะก่อน
084-4444XXX
หน้าด้าน เกิดมาก็เพิ่งเคยโดนด่าว่าหน้าด้านว่ะ ผมเกาหัวแกรกๆ ไม่แน่ใจว่าคนที่ส่งข้อความมาหาผมคือใคร จากนั้นผมเริ่มคิดทบทวนในใจว่าช่วงนี้ผมไปสร้างศัตรูที่ไหนเอาไว้หรือเปล่า
ยังไม่ผมจะได้ทันคิดหน้าคิดหลัง ผมก็ส่งข้อความตอบกลับไปหาเบอร์ปริศนานี้แล้ว
Klahanboy
พราวฝันเหรอ? เงียบแฮะ...สงสัยจะใช่ เอ๊ะ หรือไม่ใช่
ผมไม่กะต่อความยาวสาวความยืดอยู่แล้ว สำหรับผู้หญิงผมไม่เคยเถียงชนะเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าคุณสงสัยว่าเป็นอย่างนั้นได้ยังไงก็จงอย่าลืมนะครับว่าผมมีพี่สาวทั้งหมดสามคน แต่ละคนก็เผ็ดเด็ดดวงไปคนละแบบ แต่ที่แน่ๆ ในช่วง PMS หรือก่อนมีประจำเดือน ผมถูกกระทำเสมอโดยเฉพาะเรื่องโดนด่าเนี่ย
นั่งอยู่เฉยๆ ยังโดนด่าว่าหายใจทำไมเลยครับ คิดดูสิ...
เพราะฉะนั้นที่มาของข้อความนี้จะเป็นพราวฝันหรือไม่ ผมก็ไม่ขอตอบกลับอะไรอีก ผมรู้ว่าเธอโกรธ ที่ผ่านมาผมทำให้นายท่านเจ็บมาเยอะ เธอคงเห็นทุกความเสียใจและเห็นทุกช่วงเวลาที่อ่อนแอของมัน แต่เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง ผมกลับได้ใจมันมาอย่างง่ายดายโดยที่แทบไม่ได้เปลืองแรงอะไรเลย
เธอไม่ผิดที่จะโกรธหรือน้อยใจ
ผมทำอะไรไม่ได้ นอกจากน้อมรับคำด่าและรับความชิงชังของเธอต่อไป
ตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้มีเพียงแค่เป็นแฟนที่ดีที่สุดของนายท่าน ไม่ทำให้มันเจ็บหรือเสียใจอีก ผมจะทำทุกวันให้ดีที่สุด เพื่อให้นายท่านมีความสุข...
หวังว่าสิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้จะช่วยไถ่โทษที่ผมเคยทำนายท่านเสียใจเอาไว้ได้
Klahanboy : นอนยัง ผมถอนหายใจขณะที่พิมพ์ทักไปหานายท่าน
Naaytan_Lkh : คิดถึงจัง ผมหน้าแดงกับสามพยางค์สั้นๆ นั้นของมัน
Klahanboy : สาดดดด ตอบไม่ตรงคำถาม
Klahanboy : แต่กูชอบคำตอบนี้นะ
Naaytan_Lkh : เป็นอะไรหรือเปล่าวะ ทำไมเสียงดูเหนื่อยๆ รู้สึกแปลกใจที่มันรับรู้ความรู้สึกของผม...ไม่ใช่เพราะผมโกรธพราวฝันที่ส่งข้อความเหล่านี้มา แต่ผมรู้สึกผิด...มันเป็นความรู้สึกผิดที่ผมเอาออกจากใจผมไม่ได้
บางทีผมก็คิดว่าผมนี่แม่งเหี้ยมาก...เหี้ยที่ทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่บางครั้ง...คนเราก็เต็มใจเหี้ยเพราะความรักครับ
Klahanboy : กูพิมพ์เอา มึงรู้ได้ไงว่าเสียงกูเป็นยังไง
Naaytan_Lkh : กูเดา
Naaytan_Lkh : ว่าไง มีเรื่องเครียดหรือเปล่า
Naaytan_Lkh : ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ถ้าใช่จะได้ปลอบไง โอ้โห...ผมขอยกโล่รางวัลแฟนดีเด่นให้ไปเลย
Klahanboy : ไม่ใช่
Klahanboy : ถามหน่อยดิ ไอ้แอลเคเอชของมึงนี่คืออะไร อยากรู้มานานแล้ว
Naaytan_Lkh : ให้กูตอบจริงดิ
Naaytan_Lkh : คนรู้กันทั้งประเทศแล้วมั้ง ยกเว้นแต่มึงเนี่ย
Klahanboy : เคเอชนี่น่าจะเกี่ยวกับกูแน่ๆ
Naaytan_Lkh : ขอบคุณที่เข้าใจสักที...
Klahanboy : แล้วแอลนี่มันอะไร
Naaytan_Lkh : กูว่ามึงแกล้งถามเพราะอยากอ่านคำบอกรักของกูแน่เลย หา หรือว่า...
Klahanboy : เลิฟเหรอวะ
Klahanboy : ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย
Klahanboy : เฮ้ยยย จริงดิ!
Naaytan_Lkh : ...
Naaytan_Lkh : นี่กูต้องพิมพ์จริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย
Naaytan_Lkh : เลิฟเคเอช
Naaytan_Lkh : แปลว่านายท่านรักกล้าหาญครับ มันไม่รู้หรอกว่าผมกำลังน้ำตาปริ่ม...แม้ในใจผมจะเคยเดาเป็นคำว่า Love แต่พอได้ถามมันตรงๆ พร้อมกับได้เห็นคำตอบที่ยอมรับอย่างง่ายดายของมัน ผมรู้สึกปลื้มมากมายอยู่เหมือนกัน
Klahanboy : คนฟอลไอจีมึงตั้งเท่าไหร่
Klahanboy : แต่มึงใช้ชื่อไอจีนี้เนี่ยนะ
Naaytan_Lkh : กูใช้ตั้งแต่สมัครแล้ว
Naaytan_Lkh : มาเติมแอลทีหลังตอนที่ห่างกับมึงเนี่ย
Klahanboy : โคตรเท่...
Naaytan_Lkh : กูผัวมึงไงกล้า ฮ่าๆๆ
Klahanboy : ไม่เท่แล้ว
Naaytan_Lkh : ขอโทษครับ... ผมยิ้มให้กับหน้าจอแล้วค่อยๆ พิมพ์ข้อความตอบด้วยมืออันสั่นเทา
Naaytan_Lkh : มึงเหนื่อยจริงๆ แน่ กูสัมผัสได้
Naaytan_Lkh : เกี่ยวกับกูหรือเปล่า
Naaytan_Lkh : ถ้าเกี่ยว...มึงอย่าเพิ่งท้อนะ
Naaytan_Lkh : กูเสียใจแน่ๆ
Naaytan_Lkh : นี่เพิ่งคบกันวันที่สองเองนะเว้ย
Klahanboy : ไอ้บ้า คิดได้ไง ยังไม่ได้พูดอะไรเลย
Naaytan_Lkh : ใจแป้วหมด
Naaytan_Lkh : ออกมาเปิดประตูห้องหน่อยดิ๊
Klahanboy : เฮ้ยยย จะนอนแล้ว
Naaytan_Lkh : น่า...แป๊บเดียว ผมรีบลุกพรวดพราดไปเปิดประตูห้องของตัวเอง นายท่านยืนอยู่หน้าห้องของผมจริงๆ ด้วย มันอยู่ในชุดนอนลายทางสีน้ำเงิน ท่าทางเหมือนกำลังจะนอนเหมือนกัน
ปากของผมกำลังจะเอ่ยคำพูด แต่นายท่านก็พิมพ์ข้อความส่งมาให้ผมทั้งๆ ที่ผมยืนประจันหน้ากับมันอยู่
Naaytan_Lkh : หายคิดถึงละ “ไอ้...” จะด่าแก้เขินก็ด่าไม่ออก เพราะลิ้นมันพันกันไปหมดแล้ว นายท่านยิ้มแฉ่งก่อนจะพิมพ์ข้อความใหม่ส่งมาให้ผมอีกรอบ
Naaytan_Lkh : มึงเหนื่อยได้ทุกเรื่อง
Naaytan_Lkh : แต่ห้ามเหนื่อยเรื่องเป็นแฟนกันกับกูนะ
Naaytan_Lkh : ตกลงมั้ย
ราวกับมันเพิ่งผ่านอะไรบางอย่างมา แล้วก็ทำให้มันกำลังเครียด...เพราะถ้าไม่เครียดล่ะก็ มันคงไม่เอ่ยเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้หรอก
Klahanboy : ตกลง
Klahanboy : ไปนอนได้แล้ว
Naaytan_Lkh : จริงๆ นะเว้ย
Naaytan_Lkh : สัญญาแล้วนะ “เฮ้อ” ผมโผเข้าไปกอดคนขี้กังวลให้หายกังวล มือที่กอดผมตอบกำลังสั่นอยู่ และนั่นก็แปลว่าผมเดาถูกเรื่องที่มันมีเรื่องให้เครียด เชื่อว่าเรื่องที่มันเครียดคงหนีไม่พ้นเรื่องของผมหรือไม่ก็เรื่องที่คบกันกับผม
อย่าลืมนะครับว่ามันเพิ่งไปเจอแม่ของมันมา...
“กูรักมึงนะนายท่าน” ผมพูด “แต่กูคงไม่เปลี่ยนชื่อไอจีเป็นแอลเอ็นทีหรอก”
“ยังไม่ได้ขอสักคำเลย โธ่”
“...”
“แค่ชื่อ RoV ของมึงก็ถูกใจกูมากแล้วล่ะ”
มือของนายท่านเปลี่ยนมากุมมือผมเอาไว้ทั้งสองข้าง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...ผมจะไม่มีวันปล่อยมือคู่นี้อย่างเด็ดขาด
[มีต่อนะคะ]