{เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | END「060418」p.2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | END「060418」p.2  (อ่าน 6600 ครั้ง)

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
************************************







นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น
ที่มีหลายตอนอยู่ใน ซีรี่ย์เดียวกัน
ประกอบด้วบ
#Wolf
#Fox
#Tiger

เรื่องราวของเหล่าอมนุษย์ที่อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ ภายใต้กฎระเบียบต่างๆ





พูดคุย TWITTER


.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.• .•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2018 17:30:37 โดย แก้วกระจก »

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf「021017」
«ตอบ #1 เมื่อ28-09-2017 09:54:55 »

#Wolf


ในโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่มนุษย์ แต่ยังมีอมนุษย์ที่สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ต่างๆได้อาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้กรอบกฎกติกาที่ถูกจัดตั้งขึ้นภายในสังคม


นั่นคือโลกที่ผมอาศัยอยู่


และผมเป็นหนึ่งในอมนุษย์ที่อาศัยอยู่ร่วมกับเหล่ามนุษย์ธรรมดา ในโลกของเราอมนุษย์ถูกจัดแบ่งไปตามประเภท โดยจะอยู่รวมกันเป็นตระกูลและแตกปลีกย่อยออกไป


โดยตระกูลที่ผมสังกัดอยู่เป็นตระกูลของหมาป่านั่นเอง คุณพ่อผมเป็นรองผู้นำของตระกูลซึ่งถูกย้ายให้มาประจับการอยู่ที่บ้านรองแห่งนี้รวมถึงตัวผมและคุณแม่


“น้องวา คุณพ่อเรียกตัวให้ไปพบจ้ะ”


“ครับ?”


“เห็นมีเรื่องสำคัญจะคุย ให้ไปหาที่ห้องทำงานคุณพ่อแน่ะ” คุณแม่แจงรายละเอียดให้ผมฟัง ร้อยวันพันปีคุณพ่อไม่เคยเรียกผมไปพบที่ห้องทำงานเลยสักครั้ง


ดูเหมือนครั้งนี้จะมีเรื่องสำคัญ


คงจะเป็นเรื่องหน้าปวดหัวไม่น้อย


“มาแล้วเหรอ” ผมเปิดประตูเข้ามาก็พบกับคุณพ่อที่นั่งยิ้มต้อนรับอยู่ที่โต๊ะทำงาน


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”


ท่านยิ้มรับ “มีเรื่องอยากขอร้องหน่อยน่ะ”


“ครับ?”


“คือทางตระกูลหลักลูกชายของผู้นำตระกูลกำลังหาคู่อยู่...”


“พ่อจะส่งผมไปเป็นหนึ่งในคู่ของเขา?”


“ไม่ใช่ๆ พ่อจะส่งเราเป็นตัวแทนของพ่อเป็นผู้คุ้มกันกับผู้พิจารณาคู่ของลูกผู้นำ”


“หะ?” เป็นงานที่ดูไร้สาระที่สุดในโลก


“คิดหรอครับว่าส่งคนที่ไม่ใช่รองผู้นำไปคุ้มกันหรือพิจารณาคู่ของลูกท่านผู้นำแบบนั้น ทางนั้นเขาจะยอมรับ” ปกติแล้วอมนุษย์สายพันธ์หมาป่าอย่างเราจะมีพิธีหาคู่ครองหรือเลือกคู่ในเวลาที่อายุครบตามที่กฎของตระกูลกำหนด
ในส่วนของตระกูลหมาป่าเราจะเป็นช่วงอายุ 25 ปีบริบูรณ์ และในพิธีนั้นหากเป็นพิธีของผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้นำต่อจากรุ่นก่อนจะต้องมีรองผู้นำตระกูลในปัจจุบันมาช่วยคุ้มกันและพิจารณาลงมติเห็นชอบ ประมาณว่าเป็นตัวแทนของตระกูลสาขาที่เหลือ


หากทางฝ่ายตระกูลรองไม่เห็นชอบก็ถือว่าเป็นการยกเลิกและจัดหาคู่ครองใหม่


ในครั้งของลูกชายผู้นำในครานี้ผมว่าหน้าจะอยู่ในกรณีพวกนั้น


เพราะมีตระกูลสาขาแยกย่อยอยู่จนเยอะแยะ การที่ต้องทำให้ทั้งตระกูลยอมรับถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ


และจะส่งผมที่ยังไม่ได้เป็นทั้งผู้นำตระกูลรองไปแบบนี้ทางตระกูลหลักก็มีแต่จะโวยวายเป็นการใหญ่โตเท่านั้น


“พ่อคุยไว้แล้วล่ะ เพราะติดธุระจริงๆงานทางนั้นก็เลื่อนไม่ได้ ลูกจึงได้เป็นตัวแทนของพ่อไปแทน” คุณพ่อว่า “ลูกก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วด้วยเรื่องฝีมือการต่อสู้ก็ไม่ใช่หยอก คงพอไปไหวได้”


“คิดดีจริงๆหรอครับ”


“อืม”


“ทำไมไม่เอาคนอื่นแทนล่ะครับ”


“เหมือนทางนั้นจะกลัวความลับของตระกูรั่วไหลน่ะ”


ขี้ระแวงเสียจริง


“พ่อก็เสนอว่าเป็นลูกไป ทางนั้นเขาก็ตอบตกลงและแน่นอนเขาบังคับว่านอกจากพ่อก็มีแค่ลูกเท่านั้นหากลูกปฏิเสธงานพิธีคงต้องเลื่อนออกไปผลกระทบที่ตามมาก็รู้ๆกันดี”


“ครับ เอาเป็นว่าผมรับงานนี้ตามคำสั่งแล้วกันนะครับ” ผมถอนหายใจ


ในเมื่อเป็นแบบนี้ความรับผิดชอบและความกดดันอันหนักอึ้งจึงเหมือนกันตกมาสู่บ่าผมเข้าเต็มๆ


การที่ยอมให้คนที่ไม่ใช่รองผู้นำ ไม่ใช่แม้กระทั่งมืออาชีพเรื่องการต่อสู้ไปแบบนี้ทางตระกูลหลักคิดอะไรกันอยู่


แต่ก็อย่างว่าคนในมักกลัวความลับหรือข้อมูลรั่วไหลแน่นอนจึงต้องพึ่งคนของตระกูลรอง หากไม่ใช่ผู้นำแล้วจะเป็นใครอีกนอกจากผู้ที่จะขึ้นรับตำแหน่งต่อไป


ผมไง...


กฎระเบียบตระกูลอันแสนหน้าเบื่อ ที่ไม่ว่าใครก็ถูกบังคับให้ทำตามแบบนั้น ถึงกฎจะเปิดกว้างเรื่องการคบหา เพศ หน้าตา แต่เรื่องที่จะที่ให้ตระกูลสาขายอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย คนในตระกูลมักส่งลูกหลานตัวเองใส่พานถวายให้ผู้ที่จะได้รับตำแหน่งผู้นำกันทั้งนั้น


เพื่ออะไรล่ะ?


หากไม่ใช่อำนาจต่างๆที่จะตามมา


เหอะ






ผมขอตัวออกจากห้องคุณพ่อมา ท่านบอกระยะเวลาเตรียมตัวและรายละเอียดยิบย่อยมาให้


ซึ่งผมจะต้องเดินทางไปตระกูลใหญ่ในพรุ่งนี้เช้า ต้องไปดูแลความเรียบร้อยก่อนถึงวันพิธีจริง 3 วัน


“อ่าว...น้องวาคุณพ่อว่าไงบ้างลูก ถูกดุรึเปล่า” คุณแม่เข้ามาถามสีหน้าเป็นกังวล


“เปล่าหรอกครับ ผมไม่ได้ถูกดุอะไรถูกใช้งานด้วยซ้ำ” ผมว่าด้วยสีหน้าเซ็งๆ


“น้องวา!!”


ถูกดุอีกจนได้


“ครับบบบ”


“แล้วงานที่ว่านี่ยังไง”


“ก็ไปทำงานแทนพ่อในงานพิธีเลือกคู่ของบ้านหลัก”


“ตายจริง! แบบนั้นน้องวาต้องทำตัวดีๆนะลูก” คุณแม่รีบเดินเข้าสำรวจรอบตัวผม “แม่ว่าน้องวาน่าจะตัดผมได้แล้วมั้งลูก?”


ผมจับผมตัวเองที่ยาวลากไซร้คอลงมาถึงบ่าขึ้นมาพิจารณาดู มันก็ยาวแล้วจริงๆ


แต่ให้เลือกตัดกับปล่อยไว้แบบนี้...


ผมเลือกแบบหลัง


“แบบนี้มันสบายกว่านี่ครับ เดี๋ยวพอไปอยู่ที่นั่นผมค่อยรวบไว้ให้เรียบร้อยก็ได้”


“แบบนั้นก็ได้ มันจะดูไม่รกรุงรัง”


“ครับ”


“มันอาจจะดูไม่ดีที่จะพูดแบบนี้ แต่แม่อยากให้น้องวาดูแลตัวเองให้มากๆยิ่งน้องวาเป็นแบบนี้น้องวาต้องระวังยิ่งขึ้นไปอีกนะจ๊ะ” คุณแม่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่ใช่แค่ผู้ล่าที่จะล่าเท่านั้น แต่ผู้ล่าก็ถูกล่าได้เหมือนกัน จำคำของแม่เอาไว้       ตระกูลหลักไม่ใช่สถานที่ในแบบที่เราอยู่ อันตรายมีอยู่รอบตัวผู้ล่าที่เหนือกว่าเรายังมี...น้องวาเข้าใจไหมลูก”


ผมเข้าใจที่คุณแม่พยายามจะสื่อ ถึงผมจะเคยไปเหยียบที่ตระกูลหลักมาแล้วครั้งสองครั้งแต่มันก็แค่เมื่อวัยเด็กใครจะยักสนใจกัน


แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้น


อย่างที่แม่บอก


ถึงจะเป็นผู้ล่าแต่ก็ยังมีผู้ล่าที่เหนือวกว่า ใช่ว่าผู้ล่าอย่างเราจะถูกล่าไม่ได้


การไปตระกูลหลักในครั้งนี้เป็นการไปทำงานในฐานะผู้แทนตระกูลรองเท่านั้น อย่างอื่นนอกเหนือจากนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่จำเป็นต้องไปแยแสต่อมัน


นั่นแหละสิ่งที่ผมจะยึดมันไว้


“ครับ”





วันรุ่งขึ้นเช้าตรู่ผมก็ออกมาเตรียมตัวเดินทางไปยังตระกูลหลักซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตระกูลรองพอตัว กฎของตระกูลคือการที่บ้านตระกูลหลักและตระกูลสาขาห้ามอยู่ติดกันเพื่อกระจายเผ่าพันธุ์และกำลังคนให้มากที่สุด


แน่นอนมันเหมือนหลักจิตวิทยาที่เอาไว้ขู่อมนุษย์ประเภทอื่นที่มีสาขาน้อยเท่านั้น เพื่อให้ถูกจัดลำดับชั้นของสังคมได้ถูกต้อง


อย่างหมาป่าแบบพวกผมนั้นถูกจัดอยู่ในอมนุษย์ประเภทนักล่า


ซึ่งมีตระกูลสาขาแยกย่อยอยู่นับไม่ถ้วน


“ไปดีมาดีนะน้องวา”


“ครับ”


“คุณพ่อไม่ได้มาส่งอย่างอนท่านล่ะ”


“ผมโตแล้วนะครับ เรื่องแบบนี้นี่มัน....”


“ฮะๆ นั่นแหละจ้ะ รักษาตัวด้วยนะ”


“ครับ”


ใช้เวลาไม่นานมากผมก็เดินทางมาถึงบ้านของตระกูลหลัก เข้าใจอยู่หรอกว่าคนในตระกูลหลักอาจจะมีเยอะแต่พื้นที่ของตัวบ้านมันจะไม่เยอะไปหรือไง


พื้นที่เยอะจนเหลือเฟือเลยด้วยซ้ำ


“คุณเทวาต้องการอะไรอีกไหมครับ” ลุงคนขับรถเอ่ยถาม


“ไม่ครับ”


เขาก้มหัวให้ผมแทนคำบอกลาและขับรถกลับไป การมาตระกูลใหญ่ในครั้งนี้ของผมไม่มีทั้งผู้ติดตามแม้แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่มีอย่างที่ผ่านมา


ก็หวังว่าจะผมจะรอดไปจนถึงวันงานนะ


“คุณเทวาใช่หรือไม่ครับ”


“ครับ” พอเดินมาถึงประตูหน้าบ้านก็พบกับคนของตระกูลหลัก เดาจากลักษณะท่าทางก็คงไม่พ้นกับพ่อบ้านหรือผู้ติดตามของคนในบ้านแห่งนี้


“เชิญด้านในเลยครับ ท่านผู้นำรอพบคุณอยู่” ผมก้มหัวให้เล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็เดินนำผมไปพร้อมแนะนำตัวเองระหว่างทาง


“ขออภัยที่แนะนำตัวเองช้าไปนะครับ ผมชินเป็นผู้ติดตามส่วนตัวของคุณพันวาครับ” ชินพูดพร้อมยิ้มให้ผม น่าแปลกที่ผู้ติดตามส่วนตัวมาต้อนรับผมถึงขนาดนี้ทั้งๆที่ปกติน่าจะเป็นพ่อบ้านหรือแม่บ้านธรรมดาแท้ๆ


“ผมได้รับหน้าที่มารับคุณเทวาตามคำสั่งท่านผู้นำน่ะครับ”


เหมือนอ่านใจออก


“ครับ”


ชินพาผมเดินมาถึงหน้าห้องผู้นำตระกูล บรรยากาศของที่นี่ดูแตกต่างจากที่เคยมาในครั้งก่อนๆ มันดูจะอึมครึมกว่าแต่ก่อนเยอะมาก


ผมเปิดประตูพร้อมพูดขออนุญาตเป็นเชิง ก่อนจะเดินเข้าไปก็พบกับผู้นำตระกูลกับลูกชายของเขาที่นั่งคอยอยู่แล้ว


“เทวาสินะ”


“ครับ”


“อืม...ดูไม่ผิดจริงๆ”


“ครับ?”


“เป็นหมาป่าสีขาวสินะ...”


“ครับ”


ทำไมถึงรู้ละ..


ทั้งๆที่ไม่ได้แปลงเป็นหมาป่าแท้ๆ


“ต้องขอบคุณเธอมากๆที่มาทำงานให้แบบนี้” ท่านผู้นำยิ้ม เขาดูจะไม่ได้เป็นคนน่ากลัวอย่างที่คาดไว้ ถึงผมจะเคยมาที่นี่แล้วแต่ก็ยังไม่เคยพบหน้าท่านผู้นำสักครั้ง


“มันเป็นหน้าที่อยู่แล้วครับ” ผมก้มหน้ารับคำของท่านผู้นำ เงยหน้าก็สบตาเข้ากับลูกชายของเขาพอดี


คนที่ชื่อ พันวา สินะ


คนที่จะขึ้นเป็นผู้นำตระกูลรุ่นต่อไป


“เอาเป็นว่าพ่อจะให้เราทำความรู้จักกับเทวาเขา ยังไงทั้งพิธีเทวาเขาก็ต้องอยู่กับเราจนจบงานทำความรู้จักสนิทชิดเชื้อเอาไว้ก่อนดีกว่า งั้นพ่อขอตัวละ” ท่านผู้นำพูดทิ้งท้ายและเดินออกไปพร้อมกับชิน เหลือไว้แต่ผมกับลูกชายของเขา


หากผมจะคิด จะมีใครว่าผมไหม


ว่าลูกชายท่านผู้นำหน้าโคตรกวนตีน...


“ไง”


คำแรกที่เขาทักทายผม


“ครับ”


เขาเดินเข้ามาใกล้ผม เรื่อยๆ เรื่อย.... และมาหยุดกระชันชิดตรงหน้าผมน้อมตัวเข้ามาเรื่อยๆจนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นรดไปถึงกกหู


“ฝากตัวด้วย”


จุ๊บ


“สัส!”


ปึก!!!


ผมยกหน้าแข้งเข้าชนกับจุดมหาการของพันวาเต็มๆ จนเจ้าตัวจุกเอาทั้งสองมือมากุมเป้าตัวเองไว้


ไอ้พันวามันแอบหอมแก้มผม!


“คุณไม่ควรทำแบบนี้กับผู้ติดตามเฉพาะการอย่างผม” คงความสุภาพเอาไว้ในฐานะคนจากตระกูลรองที่เคารพตระกูลหลักตามประเพณีและกฎระเบียบ


“หรอ”


“สัส!”


ยกเว้นกรณีนี้...







จริงๆนิยายเซ็ตนี้ไม่เครียด  แต่ทำไมมันดูเครียดๆ ???
รอดูต่อไปหนูเทวาจะรอดไหม.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2017 18:48:59 โดย แก้วกระจก »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf「280917」
«ตอบ #2 เมื่อ28-09-2017 13:08:17 »

รอ..อออออ  :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf「280917」
«ตอบ #3 เมื่อ29-09-2017 09:57:14 »

ว้ายยยยยยยยยยยยย ถูกล่าแล้วจ้าาาาาาาาา  :hao7:
รอออออออออออออออออออออออออออออออออออออ  :z2:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf「280917」
«ตอบ #4 เมื่อ29-09-2017 10:31:04 »

เทวา หมาป่าสีขาว
เสร็จพันวา แหง

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
#1


ฟิวส์ผมเริ่มขาด


ผมไม่ใช่คนใจเย็น


และแน่นอนผมก็ไม่ใช่คนใจร้อนจนเกินเหตุ


แต่ถ้าคุณมาเจอคนแบบพันวาคุณจะรู้ว่าแค่หมอนี่กระดิกเท้าก็หน้าโมโห


“คิดว่าจะเลือกคู่แบบไหนให้พี่ล่ะ”


“มันก็แล้วแต่คุณ ผมมีหน้าที่แค่พิจารณาความเหมาะสมตามประเพณี ยังไงคู่ครองของคุณก็คือผู้ที่จะมาปกครองเราภายในอนาคตเพราะแบบนั้นจึงต้องทำให้ผมซึ่งเป็นตัวแทนของสาขาอื่นๆพิจารณาว่าทางนั้นจะเห็นชอบ”


“พูดเป็นพิธีเชียว”


เขายิ้มอีกครั้ง แต่กลับกันผมกลับกรอกตาไปมารอบทิศ


“มันเป็นงานนี่ครับ”


“ไม่พูดเป็นพิธีขนาดนั้นก็ได้” พันวายิ้ม “เรียกเราว่าพี่และแทนตัวเองว่าผมก็พอ”


แต่ผมกลับผิดคาดเพราะนายพันวานี่พูดสุภาพมากกว่าที่ผมคิด แต่ท่าทางแม่งสวนทางลิบลับ


เพราะอาจจะเห็นผมนิ่งเฉยพันวาจึงว่าต่อ “คิดว่ามันเป็นคำสั่งจากฉันสิ”


“ไม่ได้ครับ” ยังไงก็ต้องปฏิบัติตามกฎอยู่ดีไม่ใช่หรอ


“งั้นเรียกแบบนี้ตอนอยู่ในบ้านก็พอ พอออกงานสังคมก็ค่อยพูดสุภาพแทน”


“คิดว่าคงไม่มีวันนั้น”


“เป็นคำสั่งจากพี่นะ” นำเสียงแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เหมือนกำลังขู่มาที่หมาป่าไม่มีทางสู้แบบผม “มันเป็นผลดีต่อตัววาเอง”


เมื่อกี้เขาเรียกผมว่า วา สินะ


“...”


“ว่าไงล่ะ”


“เป็นคำสั่งไม่ใช่เหรอครับ”


“หึ” ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจกว่าที่คิด “เอาเป็นว่าพี่ให้วาไปจัดการธุระของตัวเองให้เสร็จก่อนแล้วกัน เจอกันมือเย็น”


เขาเดินออกจากห้องออกไป


ผมได้แต่ถอนหายใจ มาเหยียบที่นี่ได้ไม่ถึงวันก็เจอตัวปัญหาเสียแล้ว


รีบทำงานแล้วกลับบ้านจะดีกว่า


ผมตามหาชินและติดต่อให้เขาบอกรายละเอียดเรื่องห้องพักของผมการปฏิบัติตัวและกิจวัตรประจำวันของตระกูลหลักเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในหน้าที่


พอทราบรายละเอียดต่างๆผมก็ขอตัวมาจัดของในห้องพัก ห้องไม่ได้ใหญ่มากไปก็เหมาะกับคนที่มาพักอาศัยไม่นานแบบผม


ฟึบ!!


ผมสะดุ้งเมื่อสังเกตเห็นหมาป่าตัวใหญ่กระโดดผ่านหน้าต่างห้องตัวเองไปเมื่อครู่ มันเร็วมากจนผมตกใจกำลังขาของหมาป่าตัวนั้นต้องแข็งแรงขนาดไหนกัน


“คุณเทวาคะ?” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของผู้หญิงดังอยู่หน้าประตู พอผมเดินออกไปเปิดก็พบกับแม่บ้านของที่นี่ยืนรออยู่หน้าห้อง


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“พอดีว่าเห็นหมาป่าสีเงินตัวใหญ่ๆผ่านมาแถวนี้รึเปล่าคะ”
หมาป่าสีเงิน?


ตัวใหญ่?


“ก็แว็บๆแถวหน้าต่างน่ะครับ”


“เฮ้อ...อีกแล้วสินะ” ผมแอบได้ยินเธอพึมพำ


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“คือว่า..”


“บอกมาเถอะครับ เผื่อมีอะไรที่ผมพอช่วยได้”


“มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกค่ะ แต่หมาป่าที่คุณเทวาเห็นเมื่อกี้นี้น่ะเป็นคุณพันวาเองค่ะ”


“ครับ?”


“คุณพันวาเธอชอบแปลงเป็นร่างนั้นแล้วแอบหนีออกจากบ้านไปบ่อยๆน่ะค่ะ จะตามกลับก็ตามไม่ได้ฉันสู้ความเร็วของคุณพันวาไม่ได้หรอกค่ะ จะไหว้วานคนอื่นก็ลำบากอีก...” เดาง่ายๆเลยคือหมอนั่นสร้างความลำบากให้เธอคนนี้ไม่น้อยสินะ


แล้วลูกชายผู้นำแอบหนีออกไปแบบนี้คนอื่นๆไม่กังวลอะไรกันบ้างหรือไง


หากเกินเหตุอันตรายขึ้นมาล่ะ..


เฮ้อ...


“เอาเป็นว่าผมไปตามเขากลับมาให้แล้วกันนะครับ”


“จริงหรอคะ!”


“ครับ” เธอทำหน้าดีใจและก้มหัวขอบคุณผมไปหลายที สุดท้ายหมอนั่นก็สร้างความลำบากให้ผมจำได้


ผมเปิดหน้าต่างและปีนขึ้นเกาะอยู่บนนั้น พริบตาร่างกายมนุษย์ก็เปลี่ยนเป็นร่างหมาป่าสีขาว


“หมาป่าสีขาว..” ผู้หญิงแม่บ้านคนนั้นพูดอะไรสักอย่างแต่ผมได้ยินไม่ชัดนัก


“จะกลับมาให้ทันมื้อเย็นนะครับ”


“คะ...ค่ะ”




ผมไม่มีเบาะแสอะไรเลยนอกจากลิ่นหมอนั่น ไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหนถึงจะเจอเขา ตามกลิ่นไปเรื่อยแบบนี้มีหวังได้คลาดกันแน่ๆ
 ผมตามกลิ่นของเขามาจนถึงสวนของบ้านตระกูลหลัก ขอแค่ไม่ออกไปนอกบริเวณของบ้านแห่งนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว


ทำไมน่ะเหรอ


ก็เพราะแค่ในบ้านผมยังหาตัวปัญหาไม่เจอเลยเนี่ยสิ!


“เทวา” ผมสะดุ้งเมื่อเสียงอันคุ้นชินดังขึ้นจากด้านหลัง “อะไรกันหางตั้งหูตั้งแบบนั้น”


“คุณนั่น...พี่นั่นแหละทำไมถึงโผล่มาแบบนี้” สายตาดุดันจากหมาป่าสีเงินตัวใหญ่ข่มขู่มาให้ผมเปลี่ยนสรรพนามโดยพลัน


“ก็วาไม่ใช่เหรอ สะกดรอยตามพี่มา”


“ก็แม่บ้านเขาตามหาพี่อยู่”


“เฮ้อ..”


“อะไรอีก..”


“พี่ก็แค่แอบออกมาให้เวลากับตัวเองน่ะ ถ้าเธอเป็นคนของตระกูลรองก็น่าจะรู้ภาระงานที่เธอต้องรับไว้นะ”


ผมหยุดชะงักไป มันก็จริงตามที่เขาพูด
ถึงจะเป็นตระกูลรองที่งานที่ได้รับนั้นก็ไม่น้อยไปกว่าทางตระกูลหลักเลย


“ที่นี่ไม่ค่อยมีใครมากันเพราะมันค่อนข้างรกน่ะ”


“มันก็น่าอยู่หรอก”


พริบตาร่างหมาป่าสีเงินตัวใหญ่ตรงหน้าก็กลายร่างเป็นชายหนุ่มใบหน้ายียกวนบาทาเหมือนเดิม


เมื่อเห็นแบบนั้นผมจึงแปลงกลับเป็นร่างมนุษย์เหมือนเดิมเช่นกัน เพราะอมนุษย์แบบเราสามารถแปลงร่างได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ด้วยเหตุพวกนี้จึงทำให้อมนุษย์แบบพวกผมจำเป็นต้องอยู่ในกรอบระเบียบมากกว่าพวกมนุษย์


“มานั่งนี่สิ” พันวากวักมือเรียกผมไปนั่งที่ม้านั่งข้างๆศาลา บริเวณนั้นเป็นสวนดอกไม้ที่ค่อนข้างรกร้างไม่ได้มีทัศนะอันน่ามองเสียเท่าไหร่


“ตอนพี่เด็กๆสวนนี่สวยมาก แต่พองานของตระกูลเริ่มมากขึ้นสวนจึงถูกละเลยแล้วปล่อยรกล้างขนาดนี้ พี่คิดว่าอยากจะมาดูแลมันให้เป็นเหมือนเดิมแต่ก็ทำไม่ได้เสียที” ผมนั่งฟังคนตัวสูงกว่าเล่า สายตาเขาทอดมองไปยังสวนดอกไม้นั่นน้ำเสียงดูอ่อนลงกว่าทุกที


“ทำไมไม่ให้พวกคนสวนมาจัดการล่ะครับ”


“อยากอยู่หรอก แต่เพราะงานประเดประดังเข้ามาจนลำบากใจไม่กล้าไปบอกน่ะ”


“ของแบบนี้แค่พี่เอ่ยปาก สวนนี่ก็ถูกเนรมิตใหม่แล้ว”


“เหรอ” น้ำเสียงของเขาดูเลื่อนลอยอย่างบอกไม่ถูก ไม่เหมือนกับคนยียวนเมื่อกลางวันเลย


“มัวแต่มานั่งเหงาแบบนี้นี่น่ะเหรอการให้เวลาตัวเองของพี่”


“...”


“อย่างกับนั่งปลดทุกข์หลังตกงาน”


“...”


“ให้เวลาตัวเองก็ควรที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขไหมละ”


ผมไม่รู้หรอกว่าที่ผมพูดไปจะทำให้อีกฝ่ายโกรธหรือไม่ แต่ไอ้ท่าทางขัดหูขัดตาไม่สมเป็นพันวาแบบนั้นผมไม่ชอบเลย


แค่เห็นก็เคืองลูกตาแล้ว


ที่สำคัญคนบ้าอะไรบอกให้เวลากับตัวเองแต่กลับนั่งถอนหายใจจิตตกแบบนี้


นั่นควรเป็นผมด้วยซ้ำที่ต้องทำ


“แบบไหนล่ะ”


“กับอีแค่คำตอบของคำถามเด็กๆแบบนี้พี่ยังหาคำตอบไม่ได้ พี่แม่งผู้นำตระกูลคนต่อไปจริงไหมวะ?”


“...”


“ทำอะไรแล้วตัวเองมีความสุขก็ทำไปสิครับ”


“อืม ขอบคุณ”


ผมเริ่มจะไม่สบอารมณ์ท่าทางแบบนั้นของเขาเต็มที่


“งั้นหอมแก้มวาได้ใช่ไหม”


“หะ!..” ผมได้แต่ตกใจ ไม่ทันได้รู้ตัวริมฝีปากของคนข้างๆก็ประทับลงบนแก้มผมมันไม่ได้แรงถึงขนาดจมลงไปกับแก้มผม มันเพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาที่ประทับอยู่บนแก้มเท่านั้น


ผมตกใจรีบถอยออกห่างจากพันวาทันที
“ทำไมอะไรของคุณ!!”


“ก็ว่าบอกทำให้ตัวเองมีความสุข”


“มันใช่แบบนี้ไหม!”


“เหรอ” รอยยิ้มนั่นกลับมาอีกแล้ว


ผมเกลียดมันชะมัด


“ผมกลับละ หวังว่าคุณจะรีบกลับไปให้ทันมือเย็น” ผมรีบเดินหนีตัวปัญหาออกมาทันที หมดอารมณ์จะใช้สรรพนามแบบนั้นกับคนอย่างพันวาแล้ว


ไม่ปฏิเสธหรอกว่าผมก็ไม่ได้รังเกียจ แต่มันก็กะทันหันเกินไป


ผมก็แค่คนที่รู้จักได้ไม่ถึงวัน


เหอะ







ผ่านไปหนึ่งวันตั้งแต่ผมมาอยู่ ณ บ้านตระกูลหลัก ผมได้เรียนรู้กิจวัตรของคนในบ้านนี้ไปพอสมควรจากชิน และได้ดูแลความเรียบร้อยของเอกสารการเตรียมการต่างๆของพิธีเลือกคู่อีกด้วย


ถึงจะยุ่งยากแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร


ผมเข้ากับคนที่นี่ได้ดีโดยเฉพาะชิน เขาอายุมากกว่าผมอยู่โขแต่เราก็คุยถูกคอกันพอสมควรทีเดียว การวางตัวของเขาดีมากต่างจากลูกชายของผู้นำลิบลับ


“วาชอบดอกไม้ไหม”


ตอนอารมณ์ดีก็กลับมายียวนเหมือนเดิม


แต่พอบางทีก็เปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างเช่นตอนนั้น


แปลก


“ผมจำเป็นต้องตอบหรือครับ”


“พี่ให้พูดใหม่”


“ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบ”


“คุณแม่พี่ที่เสียไปน่ะชอบดอกไม้มากๆ” ผมแอบปรายตาไปมองคนตัวสูงที่หลังจากทำงานของตัวเองจนเสร็จสรรพดีก็เอาแต่ชวนคุยนั่นคุยนี่ไม่หยุด “ท่านชอบดอกไฮเดรนเยียมากๆ สวนเมื่อวานนี้ก็เป็นสวนของคุณแม่น่ะ แต่เสียดายนะที่ท่านแพ้เกสรดอกไม้จึงอยู่กับพวกมันไม่ได้”


น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงอีกแล้ว


โหมดไหนของเขาอีก


“พี่พันวา ผมว่าเราไปตรวจดูสถานที่จัดงานกันดีกว่านะครับ”


ผมตัดสินใจเปลี่ยนบทสนทนา มีหวังคุยกันต่อไปอาจจะโยงดราม่าเปล่าๆ


ผมสบตากับพันวา แววตาของเขาว่างเปล่าแถมยังดูเศร้าสร้อยจนผมตกใจเล็กน้อย


ผมสังเกตมาตั้งแต่ได้คุยกับเขา ภายในดวงตาของเขาถึงมันจะฉายอารมณ์ออกมาแต่ภายในนั้นมันกลับดูว่างเปล่า เหมือนอารมณ์ที่แสดงออกมานั้น..


มันไม่ได้ออกมาจากข้างใน


ข้างในของเขา


“เอาสิ”


พันวาลุกขึ้นเดินนำผมออกไป แผ่นหลังกว้างที่ดูโดด
เดี่ยวนั่นก็เหมือนกัน


ถึงจะไม่แสดงออกมาโดยตรง แต่ผมก็พอจะรับรู้อะไรบางอย่าง


อะไรบางอย่างที่ฝังรากอยู่ในตัวเขา


ไปดูสถานที่จัดงานนานอยู่พอสมควรเพราะต้องจัดเช็คสถานที่ให้เรียบร้อย งานพิธีจะเป็นงานปิดซึ่งรู้กันภายในตระกูลหมาป่าภายในประเทศเท่านั้น


เหล่าทายาทที่พามาคู่ของพันวาในงานนี้คัดเลือกจากฐานะ บุคลิก ใบหน้า และกระจุบกระจิบอีกไม่น้อย


ผมเห็นรายชื่อพวกนั้นแล้วก็ได้แต่ยิ้มแหยง


มีคู่มาให้เลือกถึงตรงหน้าขนาดนี้ สบายดีแท้


พันวาขอตัวออกไปก่อนเพราะต้องไปทำงานที่ชินมามอบหมายให้ใหม่  ทำให้ตอนนี้ผมได้มีโอกาสคุยกับชินอีกครั้ง


“เอ่อ..คุณชินครับ”


“ครับ”


“คือขอเวลาคุยด้วยสักครู่ได้หรือเปล่าครับ”


“ตามที่คุณเทวาสะดวกเลยครับ”


“คือว่า...ขออนุญาตถามนะครับ” ผมอ้ำอึ้งอยู่สักพัก “คุณพันวาเขามีปมอะไรในวัยเด็กหรืออะไรเทือกๆนั้นที่ทำให้เป็นปมมาถึงปัจจุบันไหมครับ”


ชินตาโตขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบ “เรื่องแบบนั้นไม่มีหรอกครับ”


เขายิ้ม


“จริงๆไม่เรียกว่าปมหรอกครับ คุณพันวาเขาเสียคุณนายไปตั้งแต่เด็ก คุณท่านก็ไม่มีเวลาว่างพอจะมาเล่นกับคุณพันวา คนที่เหลือในบ้านไม่เว้นแต่ผมก็เหมือนกัน ทำให้คุณพันวาจะติดนิสัยขี้เหงาหน่อยๆ รักอิสระ เพราะไม่มีใครเป็นที่พึ่งให้เขาเลยตั้งแต่เด็ก...สายตาของเขาเลยอาจจะดูโดดเดี่ยวน่ะครับ”


อา..เรื่องมันเป็นนี้สินะ


“เพื่อนๆของเขาก็ต่างจะเข้าหาเขาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองกับครอบครัว คุณพันวาเลยแทบจะไม่มีเพื่อนเลย”


พูดตรงๆก็โดดเดี่ยวมาโดยตลอดสินะ


“เวลาคุณพันวาเหนื่อยๆก็จะแอบหนีไปที่สวนน่ะครับ และจะนั่งอยู่ที่นั่นเงียบๆจนไม่มีใครกล้าเข้าไปเรียกแม้แต่ผมเองก็...”


“ขอบคุณมากๆนะครับ” ผมก้มหัวให้ทำเอาชินรีบก้มตอบ


“คุณเทวา..”


“ผมรับรู้แล้วล่ะครับ” ผมยิ้มและเดินจากชินไป


เพราะแบบนั้นพันวาถึงได้เป็นแบบนี้สินะ


ตัวปัญญาหาแบบนี้ก็มีเรื่องน่าทุกข์ใจเหมือกัน


ถึงจะแอบยุ่งยากก็เถอะ แต่ยังไงผมก็ทำงานอย่างสุขใจไม่ได้ถ้าเจ้านายที่ต้องดูแลเอาแต่รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวอยู่แบบนี้






“หมาป่าขาวเนี่ย เป็นแบบนี้ทุกตัวเลยรึเปล่านะ...” ชินที่แอบมองตามได้แต่ยิ้มบางๆให้กับแผ่นหลังของผู้มาเยือนใหม่






ปั่นไปจนใกล้จะจบ เพิ่งรู้ว่าลืมเอามาลง อุ่ย...... :katai4:
ไหนน้องวาบอกจะไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นไง ลูก....
พี่วาก็แอบเหงาเหมือนนะ กระซิก.... กระซิก   
 :katai5:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「300917」
«ตอบ #6 เมื่อ30-09-2017 18:07:51 »

 หมาป่าสีจาวทำไมอะะะะะ ต้องคู่กับหมาป่าสีเงินอะไรงี้ปะ อิอิ  :z2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「300917」
«ตอบ #7 เมื่อ30-09-2017 20:48:43 »

น้องวาน่ารัก... :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「300917」
«ตอบ #8 เมื่อ30-09-2017 21:34:27 »

ตามอ่านจ้า

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「300917」
«ตอบ #9 เมื่อ30-09-2017 21:36:07 »

หรือว่าแม่ของพันวาก็เป็นหมาป่าขาว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「300917」
« ตอบ #9 เมื่อ: 30-09-2017 21:36:07 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「300917」
«ตอบ #10 เมื่อ01-10-2017 12:17:00 »

 :katai5:

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
#2


ในที่สุดผมก็ผิดคำพูดต่อตัวเอง การที่จะไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างอื่นยกเว้นเรื่องงาน


สุดท้ายผมก็ต้องสนใจพันวาลูกชายผู้นำตระกูลจนได้ เพราะทำงานกับเขาตลอดถึงรับรู้ได้ บรรยากาศรอบตัวเขามันแปลก ถึงจะหน้าตากวนบาทาแค่ไหนก็เถอะ


“พันวา”


“มาด้วยกันหน่อย”


“หืม” เขาเลิกคิ้วสงสัย


แน่นอนร้อยวันพันปียังไงผมก็ไม่มีทางชวนเขาไปไหนด้วยแน่นอน แต่นี่กรณีพิเศษ


ถ้าเจ้านายเป็นซะแบบนี้ให้ตายยังไงผมก็ทำงานไม่มีความสุข


อึดอัดจะแย่


ผมไม่สนคำตอบรับของคนที่ตรงหน้า จัดการคว้าข้อมือหมาป่าหนุ่มเอาไว้และลากไปด้วยกัน


จนมาถึงหน้าห้องผู้นำตระกูล


“ขออนุญาตครับ”


ผมโพล่งออกไป เปิดประตูเข้าห้องท่านผู้นำไปก็พบว่าท่านกำลังตกใจกับภาพตรงหน้า


“ผมขออนุญาตพาลูกชายคุณออกไปด้านนอกบ้านหลักนี้ จะกลับมาไม่เกินมื้อเย็นและขออนุญาตยืมรถของที่นี่ด้วยขอบคุณครับ” พูดเสร็จสรรพ ไม่รอให้ท่านผู้นำที่มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ตอบอนุญาต ผมก็จัดการปิดประตูห้องและเดินออกมา
บึ่งไปที่โรงรถของบ้าน


“เดี๋ยวก่อน เทวาเรากำลังจะทำอะไร”


“ทำให้คุณมีชีวิตชีวาขึ้นไง”


พันวาอ้าปากข้าง ผมไม่ได้สนใจจัดการสตาร์ทรถให้พันวานั่งข้างๆคนขับและขับรถออกไป


ประตูรั้วของตระกูลหลักเป็นแบบใช้รีโมตเปิดปิดแต่แน่นอนผมพกมันไว้ติดตัวตลอดเวลา จากการที่ชินให้มาเมื่อเย็นวันก่อน


เป็นประโยชน์เอาก็ตอนนี้แหละ


ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงชานเมืองที่คนไม่พลุ่งพล่านนัก พันวานั่งรถมากับผมไม่ปริปากพูดอะไรด้วยสักคำเอาแต่นั่งเท้าคางมองกระจกอย่างเดียว


เอาเถอะ เป็นผมถูกลากมาแบบนี้มีหวังโวยวายยิ่งกว่าเขาอีกด้วยซ้ำ


“ถึงแล้วล่ะ” ผมหาที่จอดรถสักพัก ดับเครื่องและบอกคนข้างๆที่ตอนนี้หากอยู่ในร่างหมาป่าคงเรียกได้ว่าหูตั้งหางกระดิกเป็นแน่


ที่นี่เป็นเรือนกระจกของตระกูลหมาป่าซึ่งทางตระกูลรองนั้นถือกรรมสิทธิ์ดูแลอยู่


เรือนกระจกพื้นที่มากพอสมควร ภายในนั้นอุดมไปด้วยดอกไม้ต้นไม้หายากต่างๆแบ่งโซนภูมิอากาศไว้เสร็จสรรพ


คนสร้างพวกมันก็ไม่ใช่ แม่ของผมเองนั่นแหละ


ท่านเล่าให้ฟังเมื่อสมัยท้องผมแล้วอาการแพ้ท้องของท่านคือต้องการชมดอกไม้ต้นไม้ต่างๆ คุณพ่อที่เห็นแบบนั้นจึงสร้างเรือนกระจกนี่ไว้ให้และคุณแม่จึงมาดูแลต่อ


ที่มีมีเวรยามเฝ้าอยู่ตลอดผมที่มาแบบกะทันหันแบบนี้จึงต้องเข้าไปคุยกับเขาก่อน


“พี่เอิร์ท เปิดให้หน่อยนะครับ”


“โอเคๆถือว่าพี่เห็นแก่เรานะ” พี่เอิร์ทเป็นหนึ่งในคนดูแลที่นี่ โชคดีที่วันนี้เป็นเวรพี่เอิร์ทดูแลเลยทำให้เราเข้ามาได้แบบไม่ต้องยื่นเรื่องอะไรทั้งสิ้นจริงๆถ้าผมมาคนเดียวก็จะสะดวกกว่านี้ แต่นี่ดันพาคนนอกมาด้วยไง


ถึงจะเป็นลูกชายผู้นำแต่ถ้าไม่ได้มาจากตระกูลรองทางเราก็ถือว่าเป็นคนนอกหมด


เพราะแม่ผมหวงที่นี่มาก


“อ้อนจังนะ” เหมือนได้ยินเสียแซะจากคนข้างๆที่เดินตามมาติด ขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกกวนตีนกันอีก “ทำไมไม่พูดแบบนี้กับพี่บ้างละ”


เริ่มตะหงิดๆเหมือนอยากเอาบาทาฝาดหน้าลูกผู้นำตระกูล


“คิดว่าพี่น่าจะชอบที่แบบนี้”


“รู้ด้วยเหรอ”


“สันนิษฐานเอา”


“รู้สึกว่ามันจะเป็นจริงนะ”


พันวาหันมายิ้มให้ผม ยิ้มนั่นเหมือนเป็นการขอบคุณยิ่งทำให้ผมไม่กล้าสบตาเขาเข้าไปอีก


“เทวา..ขอบคุณนะ” เกินความคิดพันวาเดินเข้ามาแล้วคว้าผมไปกอด ความสูงของผมทำให้อยู่เพียงระดับคางเข้าเท่านั้น


พันวากดจมูกลงมาที่ศีรษะผมจนผมรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ผมแทบจะทำอะไรไม่ถูกสมองประมวลผลไม่ทันจนไม่รู้จะพูดอะไรออกไป


ใช้เวลาสงบสติอยู่นานแถมพันวาก็ยังค้างอยู่ท่าเดิม จนผมค่อยๆผลักอกคนตัวสูงให้ออกห่าง


“คุณน่ะไม่ได้อยู่คนเดียว..” ผมกำหมัดแน่นจนรู้สึกเจ็บ ร้อยวันพันปีผมไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้แน่ๆ
กลั้นใจพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดต่อ “หัดรับรู้ได้แล้วว่าคนรอบตัวก็เป็นห่วงคุณเหมือนกัน หากสิ่งพวกนี้มันทำให้คุณสงบจิตสงบใจได้ก็จงชื่นชมพวกมันซะ”


พันวาเหมือนจะอึ้งไปเล็กน้อย ผมสูดรวบรวมลมหายก่อนเอ่ยต่อ “ถ้าพี่ชอบ ผมจะพามาบ่อยๆ”


“อืม”


น้ำเสียงของพันวาเริ่มอ่อนลง ไม่เหมือนกับน้ำเสียงที่เขาทักทายผมในคราแรกที่เห็นหน้า


ไม่ใช่น้ำเสียงที่พูดกับผู้ติดตามเฉพาะการ


น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ


นั่นทำให้ผมยิ้มได้


ดวงตาที่ดูว่างเปล่าเริ่มทอประกาย ทำเอาผมใจเต็มไม่เป็นกระส่ำ


“เคยได้ยินเรื่องคู่แห่งโชคชะตารึเปล่า” เสียงจากคนตัวสูงข้างๆผมเอ่ยขึ้น


“มันก็แค่นิทาน” คู่แห่งโชคชะตาเป็นเรื่องตำนานเล่าขานของตระกูลหมาป่า คู่แห่งโชคชะตาคือคู่ที่ถูกกำหนดไว้แล้วเพียงแค่ต้องตามหากันจนเจอเท่านั้น และท้ายที่สุดคู่แห่งโชคชะตาจักต้องครองรักกันตราบนิรันดร์


ไม่รู้ว่าใครลิขิตหรือกำหนด ต่างคนก็ต้องอยู่กินและรักกับคู่ตนเองเพียงเท่านั้น


“งั้นเหรอ ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาก็คงดีนไม่น้อย” ผมขมวดคิ้วสงสัย


มันจะไปดีตรงไหนหากจะต้องมาผูกติดกับใครสักคน หากคนๆนั้นไม่ใช่คนที่รักแต่ต้องมาจับคู่กันจะเป็นเช่นไรกันล่ะ?


“อยากได้คู่แห่งโชคชะตาเป็นหมาป่าสีขาวตัวข้างๆ” หากอยู่ในสภาพร่างหมาป่าผมคงกระโจนตะครุบหมอนี่แล้วจับกินซะ


แต่ในความจริงแล้วมันไม่ใช่


ผมได้แต่ยืนก้มหน้าหลบสายตาของเขา และก่นด่าใจใจเพียงเท่านั้น


“เชิญคุณไปหาหมาป่าตัวอื่นเถอะ” ผมลองทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นสบแต่ก็พบว่าถึงจะใจกล้าแค่ไหนก็พ่ายแพ้อยู่ดี เมื่อหมาป่าสีเงินตรงหน้าตัวนี้ยิ้มร่าเหมือนกำลังสนุกที่แกล้งผมอยู่


แถมรอยยิ้มนั้น



โคตรอันตราย



ผมเป็นอะไรไปเนี่ย


“ไม่คิดนะว่าคำทำนายจะแม่นขนาดนี้” ผมแอบได้ยินพันวาพึมพำอะไรกับตัวเองอยู่แผ่วๆ


“พึมพำอะไรของคุณ!” ด้วยความที่ผมร้อนรนไปหมดจึงทำให้โพล่งพูดแบบนั้นไป เล่นเอาอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นยกยิ้มล้อเลียน


“อะไรกัน รุกรนแปลกๆรึเปล่า”


“พันวา!!”


“กฎตระกูลไม่ได้บอกไว้เหรอ จงสุภาพและนอบน้อมต่อหมาป่าผู้อวุโสกว่า”


ยอกย้อน!!


“ดอกไม้ที่นี่สวยดีนะ”


เปลี่ยนเรื่องอีก!!


“หน้าแดงนะวา พี่ว่าออกไปนั่งตากแอร์ในรถดีกว่าไหมเรา” มาอีกแล้วรอยยิ้มมุมปากแสนเจ้าเล่ห์นั่น


ผมจิ๊ปากไม่พอใจ หันหลังให้ลูกชายผู้นำและเดินไปดูดอกไม้รอบๆไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่ร่ายล้อเลียนอยู่ร่ำๆ


ให้ตาย


ผมเอาตัวเองมายุ่งวุ่นวายกับอะไรแบบนี้ทำไมนะ


แค่เห็นแววตาว่างเปล่าของหมอนี่ก็อยากจะบ้า แค่นั้นเอง


มันก็แค่ไม่พอใจที่หมอนั่นจะมามองที่ผมด้วยสายตาแบบนั้น


“เฮ้อ...” ผมได้แต่ถอนหายใจให้กับสิ่งที่ตัวเองทำไปทั้งหมด


เอาเถอะ


เห็นหมอนี่เป็นแบบนี้ก็ยังดีกว่าทำงานงกๆจนลืมเหมือนคนไร้วิญญาณนั่นแหละ






“กลับมาแล้วหรือครับ” ชินยิ้มเมื่อผมกับพันวาเดินเข้ามาถึงตัวบ้านแล้ว เขายิ้มรับอย่างอบอุ่นเหมือนคนเป็นแม่ที่มาต้อนรับลูกชายกลับบ้าน


“ไปถึงไหนกันมาล่ะครับ”


“น้องขาวพาไปเรือนกระจกของตระกูลรองมาน่ะ” ชินพยักหน้ารับพร้อมเดินตามหลังพวกผมมา


เดี๋ยวนะ


เดี๋ยวๆ


เดี๋ยวก่อน


น้องขาว?


“น้องขาว?” ผมขมวดคิ้วถามคนที่เดินตามมาข้างๆ


“เราไง”


“หะ”


ผมได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตะลึง ชื่อน้องขาวกับผู้ชายเนี่ย..


มันเหมาะสมรึไง


“ก็หมาป่าทุกตัวในบ้านนี้มีแต่สีเงินกับดำ มีเราคนเดียวนั่นแหละในตอนนี้ที่มีสีขาว”


“ผมว่าชื่อนี้ก็เหมาะกับคุณดีนะครับ คุณเทวา” ชินหัวเราะเล็กก่อนหันมาพูดกับผม


“เหมาะตรงไหนมิทราบครับ” ผมคัดค้านสุดกำลัง


“นี่ก็เย็นแล้วไปพักผ่อนเตรียมทานข้าวเย็นเถอะ ไว้เจอกันนะ...น้องขาว” พันวาโบกมือลาพวกผมแถมยังยิ้มขันจนผมเริ่มควันออกหู


“ถ้าผมขอตระกุยหน้าลูกชายบ้านนี้จะมีใคนว่าอะไรไหมครับ” ผมพูดอย่างไม่สบอารมณ์ แอบได้ยินชินหัวเราะออกมาเล็กๆเหมือนกัน


“ดูถ้าพวกคุณจะสนิทกันดีนะครับ”


“ตรงไหนถึงเรียกว่าสนิทครับ”


“ฮะๆ นั่นสิครับ” คุณชินว่าพร้อมโค้งหัวให้ผมและเอ่ยลา “ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ ไว้เจอกันตอนมื้อเย็นนะครับคุณน้องขาว”


“คุณชิน!”


คนบ้านนี้เป็นแบบนี้หมดทุกคนเลยรึไงนะ!






ปล. คู่แห่งโชคชะตาไม่ได้มีความหมายเหมือนในโลกomegaverse ที่หลายๆท่านคุ้นเคยแต่อย่างใด
เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบ



ชื่อจริง เทวา
ชื่อเล่น เทวา
เรียกสั้นๆ วา
แม่เรียก น้องวา
New name by พี่พันวา น้องขาว (ของพี่) อุ่ย.....

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
#2.1


นี่ก็เข้าวันที่ 2 แล้วที่ผมมาอาศัยอยู่บ้านหลังนี้เหลือแค่อีกวันเดียวเท่านั้นก่อนงานจริง


ผมมาตรวจงานเอกสารรายชื่อของคนที่จะมาเป็นคู่ให้กับพันวา มาประมาณหลายสิบคนเลยทีเดียว แต่จากที่ผมเช็คทั้งหมดแล้วนั้นกลับไม่มีการบอกลักษณะของอมนุษย์เลย


ถึงจะมีระบุไว้เป็นหมาป่า แต่ลักษณะสี หรืออย่างอื่นบ่งบอกถึงร่างเจ้าตัวในร่างหมาป่า


ทั้งหญิงและชายคละกันไป กฎของอมนุษย์นั้นหากไม่ต่างสายพันธ์ก็สามารถแต่งงานอยู่กินกันได้แบบคนทั่วไป เพียงแค่หากแต่งกับผู้ชายแล้วท้องไม่ได้แค่นั้นเอง แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไรอยู่ดี


แอบหมั่นไส้หมอนั่นอยู่เหมือนกัน


ไม่ต้องกระดิกนิ้วเรียกหาก็มีมาถวายถึงที่


เหอะ


“ทำอะไรอยู่” เสียงอันคุ้นเคยของลูกชายเจ้าของบ้านดังขึ้นจากเบื้องบน ผมเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารก็ต้องตกใจจนเกือบหงายหลังเมื่อใบหน้าของเขากับผมห่างกันไม่เท่าไหร่เอง



บ้าชิบ!


“ระวังหน่อยสิ” พันวาเข้ามาจับเก้าอี้ไว้กันไม่ให้ผมล้มหงายหลังไป


“ขอบคุณครับ” ใจหายใจคว่ำไปแล้ว


“ทำอะไรทำถึงเหม่อขนาดนี้ หืม”


ทำไมต้องลากเสียงยาวแล้วขยับเข้ามาใกล้ด้วยเล่า..


“ทำงานของคุณอยู่นั่นแหละ เช็คความเรียบร้อยของคู่ของคุณไง”


“คัดกรองคนหรอ”


ผมพยักหน้ารับ


“คัดขนาดนี้แล้วพิธีจริงก็ต้องคัดคนที่ฉันเลือกอีก?”


“รู้หน้าไม่รู้ใจนะคุณ”


“รอบคอบไว้ก่อนสินะ”


“ก็คงงั้น อย่าลืมสิคุณยังไงเราก็ต้องทำให้ตระกูลสาขายอมรับ ที่ให้ผมมาแบบนี้ก็เหมือนกับผมเป็นสื่อกลางระหว่างพวกเขากับตระกูลหลัก หากไม่ไม่อนุมัติยังไงมันก็ไม่ผ่านอยู่ดี” ผมอธิบาย พันวาพยักหน้าหงึกงักตาม “แล้วงานของคุณล่ะ”


“ทำเสร็จแล้ว”


“ไหนคุณชินบอกงงานคุณเยอะหนักเยอะหนา”


“น้องขาวมาอยู่ด้วยแล้วเลยมีกำลังใจทำงาน”


“นี่คุณ..!!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบหมาป่าสีเงินก็แทรกขึ้นก่อน


“ไปเที่ยวข้องนอกกันหน่อยเป็นไง”


“หาเรื่องเอาแต่จะเที่ยวนะคุณ...!!!”


ปัง ปัง ปัง!!


เสียงปืนดังขึ้นเล่าเอาทั้งผมและพันวาตกใจไปตามๆกัน และตามมาด้วยเสียงตะโกนโหวเหวกโวยวายจากคนในบ้าน


“ชิ! พวกนั้นอีกแล้ว!!” พันวากัดฟันกรอดเตรียมจะวิ่งออกไปตามๆคนอื่นแต่ผมก็รั้งเอา


“เกิดอะไรขึ้น”


“รออยู่ในห้องนี้ปิดประตูหน้าต่างให้ดีหากได้ยินเสียงปืนให้หมอบโอเคไหม” เขาพยายามจะพุ่งไปอีกรอบจนผมต้องวิ่งตามออกไปด้วย


“เทวา! ออกมาทำไม!!”


“นี่คุณผมก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ยังไงนี่ก็ตระกูลของเราเหมือนกัน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง


นี่เขามองผมเป็นอะไรกัน มีเรื่องอะไรแบบนี้ก็ควรบอกผมสิ
“ตามมา” พริบตาร่างสูงใหญ่ของพันวาก็แปลเปลี่ยนเป็นหมาป่าสีเงินอันน่าเกรงขามวิ่งนำไปโดยมีผมที่เปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าตามไปติดๆ


ตลอดทางพันวาพาผมวิ่งกระโดซับซ้อนไปหาที่หลบซ่อนและอธิบายเรื่องที่เกิดไปด้วย เกิดมาจนป่านนี้ก็เพิ่งรู้ว่าตระกูลตัวเองมีเรื่องบาดหมางกับพวกไฮยีน่าอยู่ไม่น้อย


เลยมีเหตุซุ้มก่อการร้ายแบบนี้แทบจะประจำ


นี่บ้านหลักหรือค่ายมวย!


“ทางนั้นมีปืนนะคุณ!”


“พวกแปลงเป็นสัตว์ก็มี เราต้องจัดการพวกนั้นก่อน พวกนั้นน่ะปัญหาใหญ่ยิ่งกว่ากระสุนปืนอีก” พันวาว่า “พวกนี้มันชอบซุ้มโจมตีประจำ”


ตอนนี้เรากำลังซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ๆใกล้ทางฝั่งนั้นที่กำลังซุ่มยิงอยู่และมีฝูงไฮยีน่าจำนวนไม่น้อยขู่กรรโชกมาทางตระกูลหลัก


จำนวนคนของบ้านนี้ไม่ใช่น้อยๆคงสู้กับทางนั้นได้พอสมควร แต่ที่วัดกันจริงมันคือเรื่องฝีมือต่างหาก


กรรรจ์!!!


พันวากระโจนออกไปใส่ไฮยีน่าตัวหนึ่งในฝูงนั้น ประจวบเหมาะกับทางตระกูลหลักที่กระโจนออกมาโต้ตอบ ทั้งเสียงปืนและเสียงขู่กรรโชกผสมปนเปกันไปหมด


ผมกระโจนเข้าใส่ไฮยีน่าตัวหนึ่งที่อยู่ในฝูงนั้นเช่นเดียวกับพันวา ถึงหมาป่าอย่างเราจะตัวใหญ่กว่าแต่เจอฝูงไฮยีน่าขนาดนี้หากไม่รอบคอบก็เสร็จพวกมันได้


“เหอะ แรงดีไม่ตกเลยนะหนุ่มน้อย” เสียงจากไฮยีน่าตนหนึ่งตาของมันมีรอยยาวเหมือนโดนมีดกรีดจนเป็นแผลที่ตาข้างซ้าย


“ยังไม่เข็ดอีกนะ”


“ไม่เข็ดแน่จนกว่าพวกแกจะตายยกตระกูล!!” สิ้นคำของมันไฮยีน่าตัวอื่นก็กระโจนมาใส่พวกผมทั้งสอง โชคอาจจะเข้าข้างที่พันวาและผมไหวพริบดีทั้งคู่จึงหลบการโจมตีแสนระห่ำนั้นได้


เหลือบไปดูทางอื่นก็ดูจะวุ่นวายไม่ต่างกัน


ผมจัดการกระโดนเข้าตะปปเข้าที่หน้าไฮยีน่าตัวหนึ่งที่พุ่งเข้าหาและกัดพร้อมทั้งฉีกกระฉากหนังและเนื้อของมันออกมา เลือดสีแดงฉานเริ่มไหลเป็นทางแต่ผมก็มิได้แยแสกับพวกมัน


“คุณพันวา คุณเทวา” เสียงของชินดังขึ้นไม่ไกล หันก็ไปก็พบเข้าถือปืนลูกซองเล็งมาที่ฝูงไฮยีน่าที่กำลังล้อมพวกผมอยู่ ไม่ต้องมีสัญญาณบอกทั้งผมและพันวากระโดดหลบอย่างคล่องตัว


เรื่องวิ่ง กระโดดน่ะ หมาป่าไม่เป็นรองใครอยู่แล้วหากเทียบกันในส่วนนี้แล้วไฮยีน่าถือว่าเสียเปรียบแถมพวกมันตามสัญชาตญาณแล้วจะไม่กินเหยื่อที่ยังไม่ใช่ซากศพด้วยซ้ำ


ปัง ปัง ปัง !!!!!!


ลูกปืนพุ่งตรงเข้าใส่ไฮยีน่าอย่างแม่นยำ พวกมันล้มลงจมกองเลือดไปทีละตัวจนน่าสมเพศ


ไฮยีน่าตัวมีบาดแผลบริเวณเปลือกตาข้างซ้ายกัดฟันกรอด แขกเขี้ยวขู่ด้วยความโกรธแค้น


กรรรจ์!!!!


“ไอ้พวกหมาป่า!!!” ไม่ทันอึดใจมันก็พุ่งกระโจนเข้าใส่ผมโดยที่ที่ผมยืนอยู่นั้นเป็นมุมตรอกและรอยๆจึงไม่มีที่ให้กระโดดนี้ ทำให้โดยเจ้าไฮยีน่านั่นกัดเข้าที่คอเต็มๆ


แต่เพราะขนาดตัวและแรงแล้วจึงทำให้ผมสามารถสะบัดเขี้ยวของมันออกไปได้


แต่มันก็ยังกระชากเนื้อหนังของบริเวณคอออกไปได้อยู่ เลือดเริ่มไหลบริเวณแผลทำให้ขนสีขาวสะอาดนั้นถูกย้อมชโลมไปด้วยสีแดงฉานน่ากลัว


“เทวา!!”


“คุณเทวา!!”


เสียงของพันวาและชินแทบจะประสานกัน ฤทธิ์บาดแผลไม่ได้น่ากลัวมาก ไม่ได้ทำให้ผมต้องล้มลงไปนอนกับพื้นอะไรเทือกนั้นหรอก ผมยังไหวและจัดการไฮยีน่าตัวได้ต่อ


แต่ไม่นานก็มีหมาป่าสีเงินตัวใหญ่น่าเกรงขามกระโจนออกมา ส่งเสียงเห่าหอนจนทั้งบรรดาหมาป่าทั้งหลายและฝูงไฮยีน่าจำเป็นต้องหันตามเสียงนั่น


“หยุดการกระทำของพวกแกซะ” หมาป่าสีเงินตัวใหญ่แสนสง่ายืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมอันโชยไปด้วยกลิ่นคาวของเลือดและเศษเนื้อหนังของทั้งพรรคพวกตัวเองและฝ่ายตรงข้าม


หากเป็นมนุษย์ธรรมดามาเห็นภาตรงหน้าคงจะมีอ้วกกันเป็นแถวๆ


“สิรภพ!!!” เสียงของไฮยีน่าที่มีแผลบริเวณตาซ้ายตะโกนลั่น มันวิ่งไปแยกเขี้ยวขู่ต่อหน้าท่านผู้นำอย่างจองหอง


“ท่านผู้นำ! อ๊ะ...คุณพันวา” ชินที่รีบจะพุ่งตัวไปหาท่านผู้นำก็ถูกพันวากระโดดเข้ามาขว้างไว้ก่อน


“อาทิตย์..แกยังไม่สาแก่ใจแกอีกหรือ” ท่านผู้นำพูดอย่างใจเย็น


“หึ ให้ตระกูลแกล่มจมก่อนเถอะถึงจะสาแก่ใจกู” ไฮยีน่าตัวนั้นแสยะยิ้ม


“ดูให้ดีนะอาทิตย์ แกนำลูกหลานแกมาตายเป็นศพทิ้งไว้แบบนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว...” ตามที่ท่านผู้นำได้เอ่ย รอบข้างตอนนี้เต็มไปด้วยศพของไฮยีน่าเพราะขนาดตัวและแรงที่น้อยกว่าทางเรามากจึงทำให้ฝั่งเราจะมีเพียงก็บาดเจ็บเท่านั้น


“แกจะนำลูกหลานมาทำเรื่องเช่นนี้ให้สาแก่ใจแกหรือ” ท่านผู้นำยังคงใจเย็น “กลับไปซะอาทิตย์และอย่ามาเหยียบที่นี่อีก!”


“ไอ้สิรภพ!”


“ไม่งั้นฉันอาจจะไม่ไว้หน้าตระกูลแก่!” ไฮยีน่าที่ชื่อสิรภพถมน้ำลายลงไปข้างๆนั่น และเรียกรวมไฮยีน่าตัวอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่และพวกที่ยังไม่ได้แปลงเป็นไฮยีน่ากลับไปจนหมด


เรื่องศพไฮยีน่าที่อยู่ที่นี่ทางเราจะเป็นจัดการเองตามคำสั่งของท่านผู้นำ


“ใครบาดเจ็บเรียกตัวหมอมารักษาด่วน!” ท่านผู้นำลั่นวาจาเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านก็ต่อสายเรียกทั้งหมอประจำตระกูลบ้างหมอจากโรงพยาบาลบ้างไม่ขาดสาย


ทางฝ่ายชินและพันวารีบถลาเข้ามาดู โดยที่พันวาและผมยังคงอยู่ในร่างเดิม


หากกลับร่างคนตอนนี้บาดแผลอาจจะทำให้ใครต่อใครที่เห็นตกใจได้ อย่างน้อยร่างนี้ก็พอจะมีคนปกปิด


“อย่าขยับเยอะนะครับเดี๋ยวแผลเปิด รอตรงนี้เดี๋ยวผมไปเอาอุปกรณ์มาประถมพยาบาลให้ก่อน” ผมพยายามจะร้องเรียกไม่ให้ชินรีบร้อนจนเกินไปแต่เหมือนจะไม่ทันเมื่อเจ้าตัวรีบวิ่งตาลีตาเลือกเข้าไปในบ้าน


“ทำไมไม่ระวังตัว” พันวารีบวิ่งเข้ามาหาอย่างรีบร้อย “แปลงกลับเป็นมนุษย์สิ”


“แต่ว่า..”


“เทวา” พันวากดเสียงต่ำลงเป็นเชิงสั่น ทำให้ผมทำตามที่เขาว่ามา


ผมกลายร่างกับเป็นมนุษย์นั่นอยู่บนพื้นตรงหน้ามีหมาป่าตัวใหญ่กำลังเดินเข้ามาใกล้พร้อมรอบข้างๆที่เต็มไปด้วยคราบเลือดและซากศพเศษซากไฮยีน่า


“อ๊ะ..” ผมร้องเสียงหลงออกมาเมื่อพันวาในร่างหมาป่านั้นเข้ามาเลียบาดแผลบริเวณลำคอของผม เขาทำเหมือนกับเลียทำความสะอาดขนอย่างนั้นอหละ


“นี่คุณ..” ถึงจะส่งเสียงร้องเรียกยังไงพันวาก็ไม่ยอมหยุด เขายังเลียอยู่ที่แผลผมอยู่อย่างนั้น


เข้าใจว่าสัญชาติญาณหมาป่าเวลาเห็นแผลก็ต้องเลียทำความสะอาดแต่นี่เราเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ป่านะ


แบบนี้มัน...


“อึก!..”


“เจ็บเหรอ” พันวาชะงักการกระทำของเขาลงเมื่อผมส่งเสียงแปลกๆออกมา


ไม่ได้เจ็บเลยสักนิด เขาไม่ได้เลียแผลจนแรงแต่เลียทำความสะอาด


แต่ที่ผมต้องส่งเสียงออกไปนั่น.... เพราะมันรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีกระแสไฟช็อตไปทั้งตัวเมื่อพันวาเข้ามาใกล้


“กลับร่างเป็นคนได้แล้ว” ผมว่า แต่หมาป่าตัวใหญ่ก็ยังส่ายหน้าเอาแต่ใจ


“กลิ่นสาปไฮยีน่าติดตัวเราไปหมดเลย” เขาโต้กลับมาอย่างนั้นและกลับมาทำสิ่งที่ตนทำค้างไว้ต่อ แต่ไม่หยุดอยู่แค่บริเวณแผลอีกแล้ว


พันวาเลียไปตามซอกคอไล่ลงมาถึงไหปลาร้าเล่นเอาผมขนลุกซู่สะดุ้งโหยงหนี


“ไม่ทำอะไรหรอก แค่ลบกลิ่นพวกนั้นออกให้”


พอเห็นผมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเขาก็ถอนหายใจแล้วอธิบายต่อ


“อยู่ในร่างสัตว์แบบนี้กลิ่นมันติดตัวง่ายกว่า”


หมายความว่าพันวาอยู่ในร่างหมาป่าแล้วคลุกคลีกับผมแบบนี้กลิ่นของเขาก็จะติดตัวผมไม่ใช่หรือ


แบบนี่มันไม่ใช่แล้ว!!


“ถ้าคู่คุณมารู้ว่าคุณทำแบบนี้กับผมมันจะแย่เอานะ”


ผมยังไม่อยากทำเสาเตียงบ้านใครร้าวตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งหรอก


“เฮ้อ...ให้นายทำแผลแล้วเราจะเคลียร์ทุกอย่างกันเทวา” พันวากลับร่างเป็นมนุษย์ดั่งเดิม จากนั้นการกระทำของเขาก็ทำให้ผมตกใจอีกครั้งแถมคนรอบข้างก็ยังตกใจกันเป็นแถบๆ


“พันวา!!” ผมร้องลั่นเมื่อถูกพันวาอุ้มขึ้นจนลอยเหนือพื้น แถมท่านี้มันท่าเจ้าสาวด้วยไม่ใช่เหรอ!


พันวาไม่พูดอะไรเพียงแค่เดินเข้าไปในบ้านท่ามกลางสายตาของคนในตระกูลขนาดท่านผู้นำยังไม่ได้เอ่ยปากแย้งอะไร


ผมได้แต่ก้มหน้างุดไม่กล้าแม้กระทั่งเงยหน้าขึ้นมามองรองข้าง


เขาทำอะไรของเขา...





พี่พันวาก็แค่อยากให้กลิ่นตัวเองติดตัวน้อง พูดแค่นี้เอง
พี่จะอ้อมทำไมคะ?.... :hao3:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「041017」
«ตอบ #13 เมื่อ04-10-2017 21:59:44 »

คู่แท้แห่งพรหมลิขิตไปอีกกกกกกกกกก o18
พันวารู้ตั้งแต่แรกแล้วไหม? ดูวอแแวน้องจัง :mew4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「041017」
«ตอบ #14 เมื่อ04-10-2017 23:20:26 »

เค้าต้องเป็นคู่แท้ของกันและกันแน่นวล...ลลลลลลลลล   :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「041017」
«ตอบ #15 เมื่อ05-10-2017 11:30:11 »

เทวา มาเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนบิดา
แต่ดูท่าหน้าที่ของเทวา  เปลี่ยนไปแล้ว
เทวา กลายมาเป็นคู่ของพันวา ลูกชายของหัวหน้าเผ่าซะและ

พันวา เทวา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「041017」
«ตอบ #16 เมื่อ05-10-2017 14:14:00 »

หวงก็บอกสิจ๊ะพันวา

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Wolf 「041017」
«ตอบ #17 เมื่อ05-10-2017 18:32:14 »

นี้เป็นคู่กันชิมิ

เริ่ด ให้ชัดเจนไปเลยพันวา

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
#3


สุดท้ายแผลบริเวณลำคอของผมก็ได้รับการรักษา เย็บแผลไปตั้ง 5 เข็ม แถมยังไม่พอมีไข้แทรกให้ปวดหัวเล่นอีก


สถานการณ์ของตระกูลหลักกลับมาปกติ ผมได้มีโอกาสได้ไปคุยเรื่องความขัดแย้งระหว่างตระกูลกับพวกไฮยีน่าก็รู้มาว่าเป็นความบาดหมางส่วนตัวของท่านผู้นำกับผู้นำของทางนั้นเอง


ผมจึงไม่อยากถามอะไรมากไปกว่านั้น


จริงๆก็แอบกังวลว่าเรื่องพวกนี้จะบานปลายไปถึงตระกูลสาขาอื่นๆ แต่ท่านผู้นำก็รับประกันว่าจะไม่มีวันเกิดเรื่องแบบนั้น ทำให้ผมสบายใจไปได้เปราะหนึ่ง


บ้านแห่งนี้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ชินที่เข้ามาเฝ้าและดูแลเรื่องอาหารการกินรวมถึงยาต่างๆที่คุณหมอสั่งให้ผมจนเรียบร้อย ผมใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน พรุ่งนี้วันงานพิธีก็น่าจะมีแรงเข้าร่วมได้สบายทุกคนจึงหมดห่วง


จะมีก็แต่..


“ทำไมไม่กลับไปทำงานครับ”


“เฝ้าเราไง”


“ผมไม่ได้เป็นอะไร”


“แต่พี่เป็นห่วง”


“งานของคุณล่ะครับ ทิ้งไว้แบบนี้มันดีเสียที่ไหน” ผมถอนหายใจ เมื่อลูกชายผู้นำตระกูลคนนี้ดื้อดึงจะเฝ้าไข้ผมท่าเดียว  มาตั้งแต่เมื่อวานจนงานการไม่เป็นอันทำ ทั้งชินหรือคนอื่นๆก็ไม่ห้ามเขา


ปล่อยเอาไว้แบบนี้จนผมเองต้องออกปากไล่


“ชิน คุณช่วยผมหน่อยเถอะ” ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากชินที่ยืมยิ้มบางๆมาให้ แต่คำตอบที่ได้จากชินก็ไม่มีอะไรไปมากกว่ารอยยิ้มนั้นเลย


“แบบนี้เผลอรู้ไปถึงหูคู่ของคุณในวันพรุ่งนี้เข้า เขาจะไม่มาโวยวายใส่ผมกันเหรอ” ผมพึมพำ


“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเทวา” เสียงของท่านผู้นำทำเอาผมละจากความคิดในหัวไปมองยังท่านที่เดินเข้ามา


“ครับ?”


“อาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม”


“โอเคขึ้นมากแล้ว แค่มีไข้แทรกนิดหน่อย” ผมยิ้ม


“เจ้าพันวาเป็นห่วงเราจนไม่มีสติสตางค์จะทำงานเลยล่ะ” ท่านหัวเราะออกมาเล็กๆ ทำเอาผมหน้าเห่อร้อนขึ้นโดยไร้สาเหตุ


“เอ่อ...ท่านผู้นำครับแล้วเรื่องที่ว่าก่อนหน้านี้คือ..” ผมเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นท่านผู้นำเริ่มติดลมจนลืมประเด็นที่ท่านแทรกเอาไว้ก่อนหน้านี้


“อ๋อ เรื่องนั้นเองหรือ” ท่านกล่าวพร้อมรอยยิ้มบางๆ  “มันอาจจะทำให้เธอตกใจ แต่ฉันเห็นว่าสมควรจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังได้แล้ว”


“หมายความว่ายังไงกันครับ”


“สาเหตุและทุกๆอย่างที่เธอจำเป็นต้องมาที่ตระกูลหลักแห่งนี้”


อะไรนะ...


“ในเหล่าหมาป่าจะมีหมาป่าบางส่วนที่มีพลังในด้านการทำนายอนาคตซึ่งทางตระกูลหลักมีสมาชิกของหมาป่าส่วนนี้อยู่ เมื่อไม่นานก่อนที่ทางฉันจะแจ้งไปทางตระกูลรองเรื่องงานพิธีเราได้คำทำนายมาว่า หมาป่าสีขาวคือคู่ครองของผู้นำรุ่นต่อไป จากนั้นเราจึงได้ทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับหมาป่าสีขาวในตระกูลของเราทั้งหมด” ท่านผู้นำเว้นวรรคพูด หัวใจผมเต้นแรงไม่เป็นระส่ำ ผมได้แต่ตกตะลึงกับถ้อยคำจากปากของผู้นำเหล่าหมาป่า


“จึงได้เป็นตัวเธอและรายชื่อคู่งานพิธีทั้งหมดออกมาและทั้งหมดนี้เป็นหมาป่าสีขาวในตระกูลที่ยังไร้คู่” ผมตกตะลึงอยู่นานสักพักจึงกลั่นกรองสิ่งที่ได้ฟังในสมองได้และเอ่ยถามออกไป


“แล้วทำไมผมถึงได้เป็นตัวแทนของคุณพ่อแบบนั้นล่ะครับ แถมทางนี้ยัง...” ผมไม่กล้าพูดได้เต็มปากว่าพวกเขายอมรับผมมาทำงานนี้แทนคุณพ่อ


“เรื่องแบบนั้นคงต้องถามคุณชินแล้วล่ะ”


“เอ๋..”


“เพราะเขาคือผู้ทำนายทุกอย่าง”


“!!!”


“อย่างที่ท่านผู้นำกล่าวไว้ครับ ผมเป็นคนทำนายเรื่องทั้งหมดนี้เองรวมถึงการเลือกคุณมาแทนรองผู้นำนั่นก็เป็นสิ่งที่ผมพึงเห็นด้วยตนเอง”


ผมสั่นสะท้านไปทั้งตัว


นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน..


ทันใดนั้นเมื่อร่างกายผมสั่นสะท้านด้วยความตกตะลึงกลับมีมือใหญ่ของคนที่นั่งเฝ้าไข้ผมอยู่ข้างๆมาวางทับมือผมและกระชับไว้ นั่นทำให้ผมอุ่นใจและพร้อมจะรับฟังต่อได้


“ผมเป็นหนึ่งในผู้เหลือรอดของหมาป่าสายพันธ์พิเศษที่มีพลังพิเศษติดตัว” ชินเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เพราะเหลือผมเพียงคนเดียว ผมจึงได้มาประจำ ณ ตระกูลหลักแห่งนี้และแน่นอนไม่ใช่เพียงพลังของการทำนายแต่ลางสังหรพิเศษของผมยังแม่นยำที่สุดในเหล่าหมาป่า”


“ในครั้งที่ผมเห็นคุณผ่านในรูปภาพ สัญชาตญาณผมมันก็บอกว่าคุณคือ คนที่จะนำพาตระกูลหมาป่าสู่ความรุ่งเรืองดั่งท่านภรรยาผู้นำรุ่นก่อนๆ” ชินยิ้มรับ “ต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมดก่อนตั้งแต่แรก ทีทำไปเพื่อทดสอบคุณเทวาให้แน่ใจเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์มุ่งร้ายคุณแต่อย่างใดจริงๆครับ


ชิน คือหมาป่าสายพันธ์พิเศษที่เหลือรอด.....


บ้าน่า


เรื่องพรรค์นี้มัน...


“ฉันก็ต้องขอโทษเทวาด้วยเหมือนกันที่ปิดบัง” ท่านผู้นำโค้งตัวให้ผมจนผมเลิกลักรีบห้ามปรามท่านทันที


“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงเรื่องนี้ก็..”


“พี่ก็ต้องขอโทษเราด้วยเหมือนกันที่ปิดบัง” เจ้าของมือใหญ่ที่กุมมือผมอยู่เอ่ยคำขอโทษ ตามตรงผมก็รู้สึกตกใจแต่ไม่ได้ติดใจจะโกรธอะไร


พวกเขาทำไปยังไงก็เพื่อตระกูล


เพื่อทดสอบผม


แต่ที่ผมอาจจะเคืองจริงๆก็คือเรื่องที่ปิดบังผมไว้ขนาดนี้


เพราะเป็นตระกูลใหญ่ จึงไม่ให้ความไว้วางใจแก่คนภายนอกมาเท่าที่ควร ถึงผมจะมาจากตระกูลรองเรื่องนี้ผมรับรู้ดี


“เรื่องนี้ทุกคนภายในบ้านหลังนี้รู้หรือครับ” ผมได้คำตอบกลับมาเป็นการพยักหน้าจากคนทั้งสามภายในห้อง


“เฮ้อ..ขอโทษเธออีกครั้งนะเทวา ฉันปลีกตัวจากเวลางานมามากแล้วต้องขอตัวก่อน ยังไงก็ขอโทษอีกครั้งด้วย” ผมได้แต่บอกว่าไม่เป็นไรให้กับท่านผู้นำแต่เหมือนผลที่ได้จะเป็นอย่างนั้นเมื่อท่านคะยั้นคะยอขอโทษขอโพยผมอย่างเดียวเลย


“แล้วเรื่องงานวันพรุ่งนี้ล่ะครับ” ผมถาม


ผมเคืองใจได้สักครู่เมื่อรู้เรื่องราว


“ได้ลูกสะใภ้แล้วจะไปหาอีกทำไมเล่า ยังไงงก็ฝากตัวแล้วกันนะ...ลูกสะใภ้” จากท่านผู้นำก็เดินออกไปจากห้องหน้าตาเฉยแถมยังเรียกชินติดสอยห้อยตามไปด้วยเหลือไว้เพียงผมกับลูกชายของตน


เดี๋ยว


เดี๋ยว


เดี๋ยวก่อน


ลูกสะใภ้


....หมายความว่าไง!!


“ทำหน้าเป็นไก่ตาแตกไปได้” พันวาขบขัน จนผมต้องหันไปแยกเขี้ยวใส่ฐานมาหยอกล้อ


“นั่นคำพูดคำจาคุณหรอ” ผมถอนหายใจเฮือก “คุณดูท่านผู้นำพูดเข้าสิ”


“พ่อก็พูดถูกแล้วนี่”


ผมตกใจหนัก ตาโตเมื่อฟังคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆพูด ถูกอะไรของเขา


บ้าที่สุด!


“ที่วาได้มาทำหน้าที่แทนคุณพ่อของวาแบบนี้มันก็ชี้บอกตรงๆแล้วนะว่าชินเขาเลือกวา และทดสอบวาจากงานเหล่านี้และตอนนี้วาก็ผ่านการทดสอบแล้วด้วย”


“ผ่านการทดสอบ? ยังไงครับ?”ในหัวผมมีแต่เครื่องหมายคำถามชนกันเต็มไปหมด


“เอาชนะใจพี่และคนอื่นๆของที่นี่ไง มีหรือได้ลูกชายรองผู้นำมาตระกูลสาขาอื่นจะไม่เห็นดีเห็นชอบ” พันวายังยิ้มไม่หุบ


“แบบนั้นมัน...”


“วาไม่ต้องคิดมาหรอกนะ เรื่องพวกนี้คุณพ่อของพี่ได้กระจายข่าวไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วพร้อมกับเรื่องยกเลิกงานพิธีคู่กะทันหันด้วย”


“เดี๋ยวสิ!!” แบบนั้นมันไม่กะทันหันเกินไปหน่อยเหรอ


ทางสาขาอื่นจะรับได้จริงเหรอ


“หน้าตาเป็นกังวลเชียว”


พันวาเอื้อมมือมาทางหน้าผากผม นิ้วชี้วางตรงกลางระหว่างคิ้วและนวดคลึงเบาๆ


“เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่นี่ครับ”


“หืม..กังวลเรื่องพวกนั้น ไม่กังวลเรื่องของเราบ้างเหรอ” ผมชะงักรีบหันกลับมามองคนข้างๆที่บัดนี้รอยยิ้มบางๆและสายตาเป็นห่วงเมื่อครู่พลันเปลี่ยนไป ตอนนี้หมาป่าหนุ่มถูกชโลมไปด้วยความเจ้าเล่ห์มากกลจนทำเอาผมแทบขนลุกซู่


หากอยู่ในร่างหมาป่าผมคงวิ่งหนีหางตั้งไปไกลแล้ว


แต่นี่ไม่


ผมกำลังป่วย


และนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย


แถมภายในห้องนี้เพียงผมและเขา....


เวร!!


“พี่รู้นะว่าทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยน” พันวาขยับใบหน้าเลื่อนเข้ามาใกล้


“...”


“ถึงจะทีละนิดแต่พี่ก็รับรู้ถึงมัน” เขาว่าพร้อมกับขยับเขามาใกล้เรื่อยๆ


“...”


“วาไม่รู้สึกเหมือนพี่บ้างหรือ” บัดนี้ใบหน้าของผมและเขาแทบจะจรดกันอยู่แล้ว พันวาเขยิบเข้ามาใกล้ผมจนหน้าผากเราจรดชิดติดกัน เขาค่อยๆช้อนตามองผมแววตาของเขายากที่จะอ่านมันออกแต่มันทำให้ร้อนรุ่มอยู่ภายใน


“ผม...”


ผมยังสามารถตอบมันได้ ว่าความรู้สึกพวกนี้มันเรียกว่าอะไร


ผมยังไม่แน่ใจกับมันเท่าที่ควร


เห็นผมแน่นิ่งไปพอประมาณพันวาจึงลอบหายใจเล็กน้อยและจับคางผมเชิดขึ้นให้เผชิญหน้ากับเขา


“ไม่เป็นไร ค่อยๆเริ่มต้นทีละนิดก็ได้” ว่าจบริมฝีปากของพันวาก็ประกบเข้าที่ริมฝีปากผมอย่างอ้อยอิ่ง ค่อยดูดเม้มริมฝีปากของผมอย่างละเลียด และใช้จังหวะที่ผมเผลอพันวาก็แทรกลิ้นอุ่นๆของตัวเองเข้ามา


นั่นทำให้ผมกลัวจนต้องหดตัวถอยหนี แต่เขาก็กลับส่งปลายลิ้นร้อนๆนั้นมาหยอกเล่นกับปลายลิ้นของผมจนผมจำต้องปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง


พันวาคว้านลิ้นไปทั่วโพลงปากของผมอย่างกระหาย บดเบียดริมฝีปากเข้ามาเรื่อยๆจนตัวผมสั่นไปหมด


ผมหอบสั่นไร้เรี่ยวแรง เมื่อพันวาละออกจากริมฝีปากของผมดูเหมือนเขาจะไม่ได้หอบหนักเหมือนสักนิดดูจะรื่นรมย์เบิกบานกว่าตอนแรกเสียด้วยซ้ำ


“หวาน”


“เจ้าเล่ห์ชะมัด” ผมอดที่จะต่อว่าคนที่ยืนยิ้มร้ายให้ผมอยู่ไม่ได้


“พี่ว่าถึงเวลาที่จะเริ่มต้นคำว่า ‘เรา’ ของพี่กับวาแล้วนะ” ผมได้ยินก็ถึงกับไปต่อไม่เป็น เดาได้ว่าใบหน้าตอนนี้คงแดงเป็นลูกมะเขือเทศแน่ๆ


“ล้อเล่นกับคนป่วยแบบนี้มันไม่ดีนะครับ”


“ใครว่าพี่ล้อเล่น”


“...”


“พี่ยิ่งกว่าจริงจังเสียอีก”


“...”


“ว่าไงครับเทวา?” สมองผมว่างเปล่า มันว่างเปล่าไปหมดทั้งๆที่เวลาแบบนี้น่าจะสรรหาคำมาปฏิเสธแต่นี่กลับไม่..


ผมคิดอะไรไม่ออกเลย


ผมจะเริ่มต้นกับเขาได้งั้นหรอ..


“อย่ากังวลไปเลย ทุกอย่างมันจะดีเชื่อพี่สิ”


คำพูดจริงจังเอื้อนเอ่ยจากปากหมาป่าหนุ่ม มันดูหนักแน่นและมั่นคงพอจะให้ผมเชื่อถือไหม


“ครับ”


“ครับอะไร”


เขายิ้ม


“กรุณาช่วยดูแลผมด้วยครับ”


บอกไปแล้ว


การตัดสินใจของผมมันจะถูกแน่หรือ


“แน่นอน” พันวาสวมกอดผม ไออุ่นจากร่างกายของเขามันทำให้ผมสงบลงได้ไม่ยากแถมมันยังทำให้ผมทวีความโหยหาในตัวเขาเพิ่มไปอีก


บางทีอาจจะไม่ใช่ผมที่จะตัดสินใจหรือคิดไปแค่คนเดียว


มันอาจจะถึงเวลาที่ผมจะเดินหน้าและตัดสินใจไปพร้อมกับใครสักคนหนึ่ง


ซึ่งคนคนนั้นคงจะเป็น อมนุษย์คนหนึ่งที่ชื่อว่า พันวา













ตอนหน้าพี่พันกับน้องวาจะจบแล้วเด้อ....

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง...รอตอนจบ   o13 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ดีที่เทวาไม่งี่เง่านอกจากไม่มาม่าแล้วยังแอบหวานอีกงุ้ยๆๆ  :hao7: ตอนหน้างานแต่งไหมอะ รอคืนเข้าหอเลยฮะ อิอิ   :katai2-1:

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
#4


ผมกับพันวาเราคบกันมาได้เกือบหนึ่งปีแล้ว ซึ่งทุกอย่างเป็นด้วยความเรียบร้อยทั้งเรื่องของตระกูลสาขาอื่นที่ยอมรับผมได้อย่างไม่ยากและทางตระกูลรองซึ่งก็คือครอบครัวของผมแน่นอนท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมอวยพรให้ผมเสียด้วยซ้ำ


ผมย้ายเข้ามาอยู่ที่ตระกูลหลักฐานะคนรักของพันวา


แต่ว่ามันยังมีเรื่องที่ทำให้กังวลอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องบุตรซึ่งทางพ่อของพันวาหรือท่านผู้นำก็ได้บอกไว้ว่าหากผมมีบุตรไม่ได้ก็คงเลือกคนจากตระกูลสาขาอื่นๆมารับตำแหน่งแทน


เพราะยังไงก็ไม่มีกฎตายตัวว่าให้เลือกแต่บุตรของผู้นำเท่านั้น


คนสมัยใหม่เดี๋ยวนี้เก่งๆก็มีเยอะทำให้ท่านผู้นำไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย




มาถึงเรื่องของตระกูลไฮยีน่าที่รุกรานตระกูลหลัก ตอนนี้เรื่องราวได้ยุติลงแล้วด้วยการที่ทางตระกูลนั้นได้ยอมรับผิดและขอโทษทางเราด้วยใจจริง ทำให้ทางเราไม่ติดใจเอาความและประนีประนอมในฐานะเพื่อนอมนุษย์ด้วยกัน


“นั่งคิดอะไรอยู่ หืม”เสียงพันวาดังขึ้นจากด้านหลังเรียกให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิดหันหน้าไปหาเขาที่ยืมกอดอกยิ้มแป้นอยู่ด้านหลัง


“ไม่ได้คิดถึงคุณหรอกครับ” ผมแกล้งคนตัวสูงเล่น ทำเอาหน้าหงอยไปไม่น้อย


“พี่บอกวาไม่รู้กี่ครั้งว่าเลิกเรียกแทนพี่แบบนั้นเสียที” ถ้อยคำน้อยเนื้อต่ำใจหลุดออกจากพันวา ผมนึกขำเมื่อเขาขุดประเด็นยิบย่อยที่ต้องเอามาทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวันขึ้นมา


“เรียกแบบนี้มันไม่ดีตรงไหนกันครับ” ผมแกล้งคนตรงหน้าเล่น


“มันดูห่างเหินน่ะสิ”


นึกสนุกจึงแกล้งแหย่คนตัวสูงเล่น ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเดินเข้าจนประชิดเจ้าตัวและจับไปที่ไหล่ของเขาพร้อมกับกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงและถ้อยคำที่ยังไงชาตินี้นอกจากเขาผมก็ไม่มีทางไปพูดกับใครแน่นอน!


“วาชอบแบบนี้นี่ครับ”


“...”


“หรือพี่พันวาไม่ชอบ” พูดไปขนลุกไปแต่ขอให้ได้แกล้งคนตัวสูงนี่หน่อยแค่นี้ก็ยอม จากนั้นเหมือนพันวาจะชะงักไปชั่วขณะเลยทีเดียว ทำให้ผมอาศัยจังหวะนั้นหนีออกจากห้องทำงานของผมปล่อยให้เจ้าตัวยืนทื่อเป็นท่อนไม้ไว้อย่างนั้น


แอบหัวเราะในใจ ไม่แกล้งเขามานานแล้วเหมือนกัน


ผมเดินออกจากห้องทำงานมาก็พบกับชินระหว่างทางเข้า


“เหนื่อยหน่อยนะครับ” ผมยิ้มให้ชินที่มือหอบเอกสารพะรุงพะรัง “เดี๋ยวผมช่วย”


“ไม่..” ไม่ทันที่ชินพูดจบผมก็ยกกองเอกสารครึ่งหนึ่งมาถือไว้เองและแอบขำกับท่าทางอึ้งๆของชิน


“จะหอบเอกสารพวกนี้ไปไหนกันครับ” ผมถาม


“ห้องทำงานท่านผู้นำครับ” จากนั้นผมกับชินจึงเดินขนาบข้างกันไปที่ห้องท่านผู้นำ


ตอนนี้ผมกับชินสนิทกันยิ่งกว่าเดิมเขาเหมือนพี่ชายและเพื่อนของผมไปพร้อมๆกัน เพราะมีไม่กี่คนในบ้านที่ผมจะกล้าพูดด้วย


“ขอบคุณคุณเทวาด้วยนะครับ”


“ไม่เป็นไรหรอกครับแค่นี้เอง”


“คุณเทวารู้หรือเปล่าครับ”


“ครับ?”


“ว่าตั้งแต่คุณเทวาเข้าที่ตระกูลหลักแห่งนี้ คุณพันวาก็เปลี่ยนไปมากเลยนะครับ ต้องขอบคุณคุณจริงๆ” เอาอีกแล้วชินขอบคุณผมอีกแล้ว


ขอบคุณกันไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ..


“ทั้งหมดนี้เพราะคุณชินทั้งนั้นแหละครับ ก็คุณชินเป็นคนเลือกผมมาทำงานแทนคุณพ่อนี่ครับ” หากคุณชินไม่เลือกผมและผมกลายไปเป็นหนึ่งในบรรดารายชื่อคนที่พันวาต้องเลือกคู่

ผมก็คงคิดไม่ออกเหมือนกันว่าปัจจุบันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า


ผมลาจากคุณชินและเดินออกมา ในหัวพลันนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องไปที่สวนของตระกูลหลักแล้ว


อืม...วันนี้เห็นว่าจะมีคนนำดอกไม้มาลงใหม่ด้วย คงต้องเข้าไปดูความเรียบร้อยหน่อย


ผมคิดในใจอย่างอารมณ์ดี






ไม่นานผมก็เดินมาที่สวนของตระกูลหลัก ตอนนี้ผมจัดการจัดการสวนดอกไม้ร้างในตอนนั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแถมยังได้แรงจากคุณแม่ของผมมาช่วยจัดการเรื่องการปลูกดอกไม้ต่างๆอีกด้วย


ต้องขอบคุณคุณแม่มากๆที่ช่วยแนะนำผมจนสวนร้างแห่งนี้กลับมาสวยงามอีกครั้ง


ผมยิ้มเมื่อทอดสายตามองไปยังเหล่าดอกไม้หลากหลายนานาพันธ์ที่บานสะพรั่ง


“แอบหนีมาที่นี่เอง” เสียงจากผู้มาเยือนใหม่ทำให้ผมตกใจสะดุ้งตัวโยน เมื่อบรรยากาศเงียบๆเมื่อครู่ถูกผู้มาใหม่พังทลายมันลง


“คุณ...ทำไมมาไม่ให้ซุ้มให้เสียง แล้วทำไมมาในร่างนี้?” ผมมองไปยังผู้มาเยือนใหม่ในร่างหมาป่าสีเงินตัวใหญ่น่าเกรงขาม จะใครที่ไหนนอกจากพันวานั่นแหละ


ทำเอาตกอกตกใจหมด


“เรานั่นแหละแอบหนีมาไม่บอกไม่กล่าว” ผมถอนหายใจพูดต่อไปคงไม่ได้แล้ว มีหวังทะเลาะกันแน่ๆเพราะดูจากท่าทางแล้วพันวาอาจจะตามหาผมจนทั่วจนหอบไปทั้งตัวแบบนี้


“ขอโทษแล้วกัน” ผมว่า “มานั่งนี่สิ”


ผมตบลงที่ข้างๆตัวเองบนม้านั่งตัวเดิม ตัวเดิมกับตอนที่พันวาพามาครั้งแรก


“ทำไมไม่กลับร่าง” ผมเลิกคิ้วสงสัย เจ้าตัวกระโดดขึ้นมาบนม้านั่งตามที่ผมบอกแต่ก็ยังไม่ยอมคืนร่างเสียที


“ขี้เกียจ”


“มีงี้ด้วย”


“...”


เงียบใส่อีก


งอนผมอยู่แน่ๆ


“โกรธอะไรผมหรือเปล่า” ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเอ่ยถามไป แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เจ้าหมาป่าตัวใหญ่ก็ยังนั่งหางไม่กระดิกอยู่เหมือนเดิม


งอนแน่ๆ


“นี่..” จิ้มเข้าไปที่ขนหนาๆ


“...” นิ่งเหมือนเดิม


“เฮ้ออ...” ผมพ่นลมหายใจ


“โกรธอะไรวาครับพี่พันวา” สุดท้ายก็ต้องัดลูกไม้มาใช้ และสำเร็จตามที่คาดพันวาหันหน้ามาสนผมแต่ก็ยังไม่ยอมพูดอะไรอยู่ดี


งอนได้งอนดีเสียจริง


ผมตัดสินใจใช้จังหวะที่พันวาเผลอเข้าไปกอดที่ตัวเขาในร่างหมาป่าขนสีเงินสะอาดหนานุ่ม ทำให้ผมรู้สึกดีอยู่ไม่ใช่น้อย


“งอนอะไรครับหืม..” ได้ยินเขาแอบลอบหายใจ


“ออกมาทำไมไม่บอกรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง”


“ก็ไม่ได้ออกไปไหนนี่ ที่นี่ก็บ้านคุณ”


“รีบเปลี่ยนสรรพนามเชียวนะ” พันวาหัวเราะ


“ของดีมีน้อยครับ”


“นี่วา ขอบคุณที่เลือกจะอยู่ข้างพี่ต่อถึงทุกวันนี้นะ” หมาป่าหนุ่มเอ่ย


“ผีเข้าหรือไงคุณเนี่ย” ผมกระชอบอ้อมกอดรอบตัวหมาป่าให้แน่นขึ้นเพื่อสื่อให้เขารู้


รู้ว่าผมยังอยู่กับเขาตรงนี้


จากนี้


และตลอดไปนั่นแหละ


“พี่รักวานะครับ” จู่ๆหมาป่าตรงหน้าก็กลายร่างกลับเป็นมนุษย์ดั่งเดิม ไม่รู้จะเล่นอะไรของเขา แต่ผมก็ยิ้มออกมาเล็กและตอบกลับร่างสูงไป


“ครับรู้แล้วว่ารัก” ผมกดไหล่อีกฝ่ายให้ต่ำลงและเคลื่อนตัวไปใกล้อีกคนเรื่อยๆ “รักเหมือนะกันนะครับ


จุ๊บ


END






จบแล้วเด้อ....
ต่อไปเป็นพาร์ท #Fox นะคะ ซึ่งคาดว่านาจะมาอาทิตย์หน้าถ้าไม่ติดอะไร
ได้เวลาบอกลาน้องเทวากับพี่พันวากับบ้านหมาป่ากันแล้ว
บ๊าย บาย


แปะรูปพาร์ท #Fox

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จบและ อยากอ่าน nc อ่ะ รอนะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก
 น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก
  น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก

ออฟไลน์ Mayniemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z13:น่ารักมากค่ะ แอบหวังฉากเรทนิดนึ่ง  :hao6:

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: {เรื่องสั้น} ผู้ล่า ➹ | #Fox「121017」
«ตอบ #25 เมื่อ12-10-2017 20:25:57 »





#fox


ในโลกใบนี้ไม่ได้มีซึ่งมนุษย์และสรรพสัตว์สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ แต่ยังมีอมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยโดยเหล่าอมนุษย์จะสามารถแปลงเป็นสัตว์ทั้งหลายตามตระกูลและประเภทที่ตัวเองสังกัดอยู่ตามสายเลือด

 
โดยอมนุษย์จะอาศัยอยู่รวมกับมนุษย์ภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆอย่างเคร่งครัด


ซึ่งผมเป็นหนึ่งในอมนุษย์ ประเภทนักล่า ตระกูลสุนัขจิ้งจอก


ผมเป็นสายพันธ์สุนัขจิ้งจอกแดงที่ขนานนามว่าอยู่ในสายพันธุ์จิ้งจอกที่สวยที่สุด


ผมเป็นเพียงอมนุษย์ธรรมดาๆ ที่ใช้ชีวิตปกติประจำวันเหมือนๆกับมนุษย์ปกติทั่วไป ใช้ชีวิตวัยรุ่นธรรมดา เรียน เที่ยว กิน ก็แสนจะปกติ


“ช้า” ผมเอ่ยเมื่อร่างบางของผู้หญิงผู้เป็นเพื่อนสนิทนั่งลงตรงข้ามผม


“อาจาร์ยปล่อยเรทย่ะ” เธอท่าทางฟึดฟัดเหมือนจะไม่พอใจอะไรมา


ผู้หญิงคนนี้มีชื่อว่า อริน เธอเป็นแฝดพี่ของชายอีกคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆผม ซึ่งเขาชื่อว่า อลัน พวกเขาเป็นอมนุษย์ตระกูลเดียวกับผมแต่ต่างสายพันธุ์กัน


อรินเป็นจิ้งจอกครอสซึ่งแยกสายพันธุ์จากจิ้งจอกแดง ส่วนอลันผมยังไม่เคยเห็นร่างเขาในตอนแปลงเป็นจิ้งจอกแต่ก็เดาว่าเขาคงสายพันธุ์เดียวกับอริน

พวกเขาเป็นคะนองตระกูลหลักส่วนผมเป็นคนของทางตระกูลรองทำให้สนิทกันมานานพอควร


“อารมณ์ไม่ดีหรือไง” อลันถาม


“เออสิ เผลอไปได้ยินคำเสนียดหูมา” อรินจิ๊ปากไม่พอใจอยู่หลายรอบ


“พูดไม่เพราะ” ผมเอ็ด


 เธอกรอกตาเล็กๆแต่ก็ไม่ได้ถกเถียงอะไรเพียงแค่กล่าวคำขอโทษแบบลวกๆออกมา ซึ่งผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร


“ไปได้ยินอะไรมา” เป็นผมที่ถามเธอกลับ


“พวกอมนุษย์ปลาหมึกเจ้าเดิมนั่นแหละ นี่ขนาดพวกนางเสนอหน้ามาคุยกับฉันเองนะลับหลังยังเอาฉันไปนินทาว่าร้ายบ้าบอ ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงสักอย่าง ทำไมมีอะไรไม่พูดมาตรงๆก็ไม่รู้ อารมณ์เสีย!” เธอร่ายยาวมือไม้กวัดแกว่งไปมาตามอารมณ์


“สมควร” เสียงของอลันดังขึ้นหลังจากแฝดพี่ของเขากล่าวจบ


“เอ๊ะ! ไอ้เด็กนี่!”


“พอๆ” ผมเอ่ยห้ามเมื่อเริ่มเห็นสงครามเริ่มตั้งเค้าหน่อยๆ


“รินอะไรที่ไปได้ยินถ้าไม่มีอะไรสำคัญก็ปล่อยๆมันไป” ผมหันไปพูดกับเธอซึ่งเธอก็ดูจะตั้งใจฟังดีไม่ได้ชักสีหน้าหรือถกเถียงกลับมาอย่างที่ควรเป็น “ลันนายก็อย่าไปแหย่รินแบบนั้น”


เจ้าตัวก็พยักหน้างึกหงัก แถมยังเบี่ยงสายตาไปอีกทางแสดงออกค่อนข้างชัดว่าเจ้าตัวไม่พอใจใช่เล่น


“รุยเข้าข้างเธอ”


“นี่ ฉันเป็นพี่นายนะยะ”


ผมพ่นลมหายใจ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจแยกย้ายกันกลับห้องกันไป


ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมฝาแฝดถึงได้ต่างกันจนสุดขั้วขนาดนี้







“รุย หนาว” พวกเราแยกย้ายกลับห้องของตัวเอง แต่จะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกทั้งหมดเพราะอลันเป็นรูมเมทของผม ส่วนอรินเธออยู่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งมันคงไม่ดีถ้าผู้หญิงคนเดียวอย่างเธอจะมาอยู่ร่วมกับพวกผม


เราทั้งสามสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมจึงทำให้ผมรู้จักนิสัยของฝาแฝดดี


เขาไม่ได้เหมือนที่คนภายนอกมองเห็น


หากได้รู้จักก็จะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง


“เพิ่มแอร์สิ” ผมหันไปมองอลันที่กำลังกอดคอผมพร้อมกับซบหน้าลงมาบนไหล่


“อือ” แต่คำตอบของเขากลับเป็นเสียงครางรับแถมยังดูอิดออดไม่มีแรงอีกต่างหาก ตัวก็ทั้งโตทั้งสูงกว่าผมมากโขแล้วแท้ๆ
แต่นิสัยก็ยังคงเดิม


ผมค่อยๆปลดแขนของคนตัวสูงกว่าที่โอบรอบคอผมออกและเดินไปหยิบรีโมทแอร์กดลดแอร์ตามความต้องการของเจ้าของห้องอีกคน


“รุย”


“หืม”


“กอดหน่อย”


“อะไรเนี่ย”


ผมเลิกคิ้วสงสัย แต่อลันก็ยังไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเพียงแค่อ้าแขนรับให้ผมเดินเข้าไปกอด ผมที่เห็นแบบนั้นก็เผลอยิ้มออกมาและก็เดินเข้าไปให้เขากอดอย่างช่วยไม่ได้


“วันนี้สนใจแต่ยัยริน”


“ลัน!” ผมดุ


“รุยสนใจแต่ริน”


“ก็วันนี้รินดูอารมณ์ไม่ดี”


“ตอนนี้ลันก็อารมณ์ไม่ดี


“หืม”


“สนใจลันสิ”


คำพูดที่ทำเอาผมไปไม่เป็นของอลัน ต่อให้ตอนเด็กๆเขาจะขี้อ้อนขนาดไหนก็เถอะแต่พอโตมาขนาดนี้แล้วเขาจะไม่ปรับเปลี่ยนนิสัยแบบนี้ของเขาหน่อยหรือ


ตัวก็โต สูงก็สูง ตาก็ดุเสียขนาดนั้น


พอมาพูดอะไรแบบนี้แล้วมันดูขัดตาสุดๆ


แต่เอาเถอะ....


เขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว


“จิ้งจอกเนี่ยควรทำตัวแบบนี้ไหม” ผมพูดติดตลก


“ลันแค่อยากทำกับรุย..คนเดียว” คำพูดของเขาแผ่วเบาจนผมได้ยินเหมือนเสียงกระซิบแผ่วๆแทน


ผมเงยหน้าออกจากอ้อมกอดของอลัน “เมื่อกี้ลันพูดอะไรหรือเปล่า”


“เปล่า”


“เหมือนได้ยินอะไร...”


“หิวข้าว”


“อ๋อ รอแปปนะเดี๋ยวรออุ่นกับข้าวแป๊ปนึง” ผมรีบกุรีกุจอไปที่ตู้เย็นหยิบอาหารที่เหลือไว้เมื่อเช้ามาอุ่นให้ดี และคิดไว้ว่าจะทำอย่างอื่นเพิ่มอีกซักอย่างสองอย่าง “เดี๋ยวทำไปเผื่อริน”


รายนั้นยิ่งไม่ชอบทำอาหารเลย....ทั้งๆที่เป็นผู้หญิงแท้ๆ


“อือ”


ไม่นานผมก็ทำอาหารเสร็จ
 แต่ดูเหมือนผมที่ต้องเผื่อแผ่นำอาหารไปให้รินที่ชั้นล่างจะไปไม่ได้เมื่อแฝดคนน้องงอแงไม่ยอมให้ผมไปไหน ทำให้ฝั่งแฝดพี่อย่างรินต้องขึ้นมาทานอาหารที่ห้องผมเอง


“ทำไมหน้าบึ้ง” ผมเอ่ยถามเมื่อรินนั่งลงบนเก้าอี้เราทั้งสามกำลังทานอาหารเย็นกันอยู่


“ลำไยมนุษย์ปลาหมึก” เธอเบ้ปาก “ไม่รู้จะแซะไปถึงไหนบรรพบุรุษพวกนางเป็นเกรียงแซะเครปเหรอ”


“ขี้บ่น”


“ไอ้ลัน!”


“น่ารำคาญ”


“ฉันเป็นพี่แกนะ!!”


“พอเลยทั้งคู่ ทานข้าวได้แล้ว” ผมพ่นลำหายใจสุดท้ายก็ต้องมาสงบศึกของฝาแฝดอีกจนได้ ทำไมถึงนิสัยต่างกันขนาดนี้นะ


“เฮ้อ...ต้องขอบคุณอาหารของรุยนะที่ทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นเนี่ย” อรินยิ้ม


“แบบนั้นก็ดีแล้ว”


“ฉันละเบื่อ”


“ทำไมรินถึงคบกับคนพวกนั้นอยู่ล่ะ”


“ฉันไม่ได้คบแต่พวกนางเสนอหน้ามาคุยด้วยเอง ในคลาสฉันแทบไม่มีคนคุยกับฉันเลยมั้ง นอกจากพวกนางสามตัวเนี่ยแหละติดหนึบสมชื่อปลาหมึกจริงๆ” เธอพ่นลมหายใจยาวพรืดทำเอาผมแอบขำไม่ได้


“อยากแอบไปกัดพวกเขาล่ะ” ผมเตือน


“จะเหลือเหรอ” อลันแทรกขึ้น


“เหอะ!” อรินแค่นหัวเราะแบบขอไปที


“แสดงว่าทำไปแล้วเหรอ”


“พวกนางมายั่วฉันเอง”


“อริน” ผมเรียกเธอเสียงต่ำลงหรี่ตามองเธออย่างคาดโทษ “มันไม่ดี”


“หน่าๆ แค่สนุกๆนิดๆหน่อย”


“เฮ้อ...อย่าทำอีกละ”


“จ้าๆ รุยเนี่ยคนดีจริงๆ”


“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” อย่างผมไม่ได้เรียกว่าคนดีหรอก ที่ผมเตือนเธอก็เพราะหากทางฝ่ายนั้นเอาเรื่องขึ้นทั้งหมดนั่นน่ะจะส่งผลไปถึงตัวอรินโดยตรง โดยกฎของอมนุษย์บนโลกแล้วบทลงโทษของเธออาจจะทำให้เธอถูกจำกัดพื้นที่เลยก็ได้


“ลันออกไปก่อน ขอเก็บจานก่อน” ผมหันไปบอกอลันที่กำลังโอบรอบเอวและซบหัวลงมาที่ไหล่ผมอย่างเจ้าตัวชอบทำ แต่ตอนนี้ผมไม่ว่างอยู่เพราะฉะนั้นตามใจเขาอย่างที่เคยไม่ได้หรอก


“อยากซบนักก็มาซบไหล่ฉันเป็นไง” อรันเดินเข้ามาอ้าแขนรับน้องชาย ซึ่งอลันก็เบือนหน้าหนีแถมยังเดินหนีไปทางอื่นทำเอาอรินเบ้ปากใส่


ผมก็ทำได้แต่หัวเราะแห้งๆให้กับคู่แฝดเท่านั้น






“ลันจะไปนอนห้องรินเหรอ” ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวสูงเดินออกจากห้องไปพร้อมกับอริน แต่คำตอบที่ได้เป็นการส่ายหน้าปฏิเสธของเจ้าตัวจึงทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่จนแฝดคนพี่ต้องออกมาพูดอธิบายเอง


“ไอ้ลันมันไปเอาของห้องฉัน แป๊ปนึงนะ” ผมพยักหน้ารับและปิดห้องโดยไม่ได้ล็อกเพื่อให้อลันเปิดเข้ามาได้สะดวก




เดินลงมาถึงห้องของแฝดคนพี่หน้าประตูห้องอรินก็หันหลังพิงกับประตู เอ่ยกับน้องชายฝาแฝดของตน


“แกคิดจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่” ไร้ซึ่งการตอบสนองของชายหนุ่ม จนคนเป็นพี่ถึงกับถอนหายใจ


ปวดหัวกับอมนุษย์ปลาหมึกไปหมาดๆก็ต้องมาปวดหัวกับน้องชายตัวเองต่อ


ให้ตาย ชีวิตเธอนี่มันดีจริงๆ


“แกคิดว่าแสดงออกไปแบบนั้นรุยจะรู้เหรอ” ไร้การตอบกลับของอลันเช่นเคย “แกควรทำอะไรที่มันดีกว่านี้ไอ้ลัน”


“อืม”


“ระวังจะโดนคาบไปแดก” เธออดจะพูดไม่ได้เสียจริงๆ เรื่องของน้องชายทำให้เธอรู้ว่าแค่หน้าตาดีอ่อยนั่นอ่อยนี่มันไม่ทำให้รักสมหวังจริงๆดูในกรณีของน้องชายเธอสิ


หล่อก็หล่อ


อ่อยขนาดนั้นเจ้าตัวยังไม่รู้เลย


ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเขาความรู้สึกช้าหรือน้องชายเธอมันโง่ อ่อยไม่โดนจีบไม่ติดหรือเปล่า


“แกไม่เหมือนคนอื่นนะลัน” เธอย้ำอีกครั้ง


“อืม”


“ระวังเถอะ แกจะเสียใจ” เธอพูดออกไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับน้องชายทั้งสิ้น อลันได้ฟังอย่างนั้นแล้วจึงพยักหน้าหงึกหงักและโบกมือลาเดินตรงกลับห้องของเจ้าตัว


เธอมองตามแผ่นหลังกว้างของน้องชายและก็อดหัวเสียไม่ได้ ถึงจะเป็นแฝดแต่น้องชายช่างต่างกับเธอลิบลับ


เธอก็คิดภาพไม่ออกเหมือนกันว่าคนอย่างอลันจะแสดงออกมารักกับรุยในรูปแบบไหน และสิ่งที่เขาทำจะไม่ทำให้รุยเสียใจ


ในเมื่อรุยนั้นเชื่อมั่นสิ่งที่เรียกว่า...เพื่อน


จนเกินไป...


แต่นั่นอาจจะเป็นความกังวลจิปาถะของเธอก็ได้ ซึ่งเธอก็หวังให้เป็นแบบนั้น








จริงๆเรื่องนี้ก็ไม่เครียดเท่าไหร่(?)แต่ทำไมมันดูเครียดตั้งแต่เริ่มเลยอ่ะ55555555
มาก่อนกำหนดการจริงตั้ง 3 วัน คึกมาก
พาน้องรุยมาให้รู้จักกัน~~~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2017 18:03:54 โดย แก้วกระจก »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เพื่อนสนิท..คิดไม่ซื่อ   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
#1


“เดี๋ยวก็โดนว่าหรอก” ผมพยายามงัดคนตัวใหญ่กว่าที่ตอนนี้ทำเหมือนไม่รู้ไม่สนนอนพิงลงมาที่ไหล่ของผมอย่าไม่แยแสสายตามีมองมา สำหรับเพื่อนๆผมไม่สนหรอกแต่นี่เราอยู่ที่คลาสเรียนและที่สำคัญตอนนี้เรากำลังเรียนแถมยังไม่เลิกด้วย


“ง่วง” เสียงเนือยๆจากคนที่พิงเข้ามาบ่งบอกว่าเขานั้นไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว


และก็เป็นแบบนั้นจวบจนหมดคาบทำให้คนขี้เซาข้างๆลืมตาตื่นขึ้นมาได้  มิวายยังอ้าปากหาววอดๆไม่อายเช้าบ้านกันโต้งๆแบบนั้นอีก


“อลัน...เราทำขนมมาให้”


หืม... ผมหันไปตามเสียงผู้หญิงที่เรียกคนข้างๆตัวผม เจ้าตัวทำหน้าไม่รับรู้อะไรแต่ก็มีมารยาทตอบกลับไป


“ให้รุย”


“เอ๋..”


“ฝากไว้กันเราก็ได้ ตอนนี้เขาเพิ่งตื่นอาจจะงวยเงีย” ผมขันอาสาแทนทำเอาสาวเจ้าอ้ำอึ้งๆสักพัก แต่ผมยังคงยิ้มเพื่อให้เธอวางใจเธอจึงส่งขนมในมือมาให้ผมในที่สุด


“ฝากด้วยนะรุย”


“อืม”


ผมพ่นลมหายใจยาวเมื่อสาวเจ้าเธอจากไป ทอดสายตามองไปยังคนขี้เซาที่เดี๋ยวเดียวก็ฟุบหลับลงไปอีกแล้ว


“ลัน...ตื่นได้แล้ว กลับกันเถอะ” ผมเขย่าเจ้าตัวเบาๆสองสามทีจนเจ้าตัวรู้สึกตัวตื่น มีส่งเสียงฮึดอัดรำคาญออกมาเบาๆแต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มบางอย่างเอ็นดู


ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ


ผมโทรไปหาอรินถามไถ่เธอว่าเลิกเรียนหรือยังตามปกติ แต่ดูเหมือนคราวนี้เธอมีเรียนต่ออีกหน่อยนั่นทำให้ผมและอลันต้องกลับห้องไปก่อนส่วนเธอจะกลับเองตามมาทีหลัง


ผมกะว่าพอถึงเวลาเธอเลิกเรียนไปสักหน่อยคงโทรเช็คสักรอบให้แน่ใจ ผมเหลือบไปเห็นอลันที่เดินไปวางกระเป๋าสะพายไว้ที่โซฟาอย่างลวกๆทำเอาผมเอ็ดตามหลังเป็นไม่ได้


“เก็บให้เป็นที่ด้วยสิลัน” สิ้นเสียงของผมเจ้าตัวก็ย่นจมูกเล็กๆไม่พอใจแต่กลับทำตามคำผมสั่งอย่างว่าง่าย หากเปรียบเขาจากจิ้งจอกเป็นแมวได้เขาคงเป็นแมวเชื่องๆขี้เซาโดนบ่นนิดโดนบ่นหน่อยก็ไม่พอใจแต่สุดท้ายก็ยอมทำตามและยอมจำนน


น่ารัก


ผมเก็บข้าวของขอเสร็จจึงเข้าไปอาบนน้ำให้เรียบร้อย จึงออกไปเตรียมกับข้าวให้คนตัวใหญ่ที่นั่งหน้าหงออยู่หน้าทีวีดู


เหมือนเจ้าตัวจะหิวเสียแล้วสิ


“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมลัน”


“ข้าวตุ๋น”


“งั้นรอแปปนึ่งนะ” ผมยิ้มและหันมาเตรียมของเพื่อที่จะทำอาหาร


สักพักหนึ่งผมเริ่มรู้สึกได้ที่เอวเริ่มมีมือของใครอีกคนลอบเข้ามาและโอบกอดผมไว้หลวมๆ ความรู้สึกหนักๆบริเวณคางทำให้ผมเดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น


“ลันแบบนี้ทำไม่ถนัดนะ”


“อืม”


“ลัน”


“อยากอยู่แบบนี้”


“อยู่แบบนี้ก็ทำอาหารไม่ได้สิ”


ผมเอ็ดแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะฟังความไม่เข้าหูแถมยังพยายามซุกเข้ามาที่ต้นคอผมมากขึ้นอีกด้วย


“ลัน”


“รุย”


“เป็นอะไร”


“อยากอยู่ใกล้ลัน”

“ปกติก็อยู่ใกล้กันทุกวันนี่”


“อยากอยู่แบบนี้” สีหน้าของอลันดูเศร้าลงทันตาเมื่อเขาเอ่ยคำพวกนั้นออกมา แววตาดูหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด มันไม่ใช่การอ้อนในแบบของลันเหมือนทุกครั้ง


มันต่างกันออกไป


“มีอะไรหรือเปล่า” ผมถามน้ำเสียงเป็นห่วง


“เปล่า”


“ลัน”


“รุยทำอาหารเถอะ” จากนั้นเจ้าตัวก็ละมือกลับเดินออกจากผมตรงไปยังห้องน้ำ เสียงฝักบัวภายในห้องน้ำดังขึ้นเบาๆทำให้ผมรับรู้ว่าคนตัวสูงบัดนี้อาบน้ำอยู่ภายในห้องนั้น


แปลกจริงๆด้วย






ผมลงมาหาอรินที่ชั้นล่างโดยอาศัยโอกาสที่อลันหลับไปแล้วแอบออกมาจากห้อง ผมกดกริ่งรออรินอยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงเธอผ่านบานประตูเธอคงเห็นผมได้จากตาแมวนั่นแหละ


“มีอะไรเหรอรุย” อรินเปิดประตูออกมาถามด้วยใบหน้าสงสัย


“มีเรื่องจะคุยด้วย รบกวนหรือเปล่า” ผมถาม


“ไม่อ่ะ เข้ามาสิ” อรินกวักมือเรียกผมให้ตามเข้าไป ห้องของเธอไม่มีอะไรมากเพราะเป็นห้องที่ผู้หญิงอาศัยอยู่คนเดียวแถมเธอยังไม่มีนิสัยชอบตกแต่งอะไรมากมาย


“ทำไมมาเรียกดึกดื่นๆแบบนี้ แล้วเจ้าเด็กนั่นล่ะ”


“หลับแล้ว” เด็กนั่นในความหมายของเธอก็คงหนีไม่พ้นอลัน


“แล้วมีอะไร”


“วันนี้อลันดูแปลกๆ”


“มันก็แปลกของมันทุกวัน”


“ริน”


“เฮ้อ...ยังไงล่ะ”


“ไม่รู้สิ ดูสีหน้าจะหม่นๆลง”


อาจจะเป็นเพราะผมรู้จักกับเขามาตั้งแต่เด็กๆละมั้ง ถึงทำให้ผมสังเกตเห็นความผิดปกติของอลันได้เร็วกว่าคนอื่นๆ


“หืม...” อรินเผยรอยยิ้มบางๆออกมา “จิ้งจอกมันมีหลายประเภทนะรุย”


“...”


เธอต้องการสื่ออะไร


“อย่างฉันเป็นประเภทมุทะลุกล้าได้กล้าเสีย บางประเภทดุร้ายและร้ายกาจจนนับมือไม่ไหว แต่มีบางประเภทที่มันจะซุ้มรอเหยื่อ เล่นกับเหยื่อและค่อยฆ่าให้ตาย เป็นจำพวกเจ้าเล่ห์เพทุบายในทุกการกระทำ”


“อริน”


“คิดว่าหมอนั่นเป็นแบบไหนกันล่ะ?”


“ว่าเขาทางอ้อมสินะ” ผมพ่นลมหายใจเมื่อเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเธอ ผมเข้าใจสิ่งที่อรินพยายามจะสื่อแต่ดูจากกระอธิบายแล้วเหมือนเจ้าตัวจะแอบว่าน้องชายทางอ้อมมากกว่า


จะบอกว่าอลันทำตัวแปลกๆเพราะความเจ้าเล่ห์เพทุบายหรือ ผมว่าคงไมม่


“ฮะๆ ตระกูลหลักน่ะมีจิ้งจอกประเภทเดียวกับลันเยอะเลยล่ะ”


“...”


“ระวังตัวไว้ล่ะรุย”


ผมสบตาเธอไม่ละเช่นกันกับอรินที่ยังสบตาผมอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน “อา...มีเรื่องที่ฉันต้องถามนายเหมือนกัน”


“หืม”


“ลองสมมุติดูนะว่ามีสิ่งๆหนึ่ง นายรักมันมากแต่รูปภายนอกไม่สิ่งแท้จริงนายจะว่ายังไง”


“อธิบาย” ผมขมวดคิ้วเป็นปมแน่น อรินพยายามจะสื่ออะไรกัน


“ง่ายๆก็คือสิ่งที่นายเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่นายเห็น นายจะยังรักสิ่งๆนั้นอยู่รึเปล่า”


“ฉันคิดตัวเองคงมั่นคงพอ พอที่จะรักมัน ไม่ว่างจะเป็นยังไงในเมื่อฉันจะปักใจและซื่อตรงต่อคำว่ารักกับสิ่งๆนั้น ฉันเองคงไม่เปลี่ยนใจ”


“งั้นก็ดีแล้ว กลับได้แล้วรุยป่านนี้เด็กนั่นตื่นมาไม่เห็นนายคงร้องไห้งอแง”


“อืม”


“เจอกัน” อรินโบกมือลาก่อนที่ผมจะออกจากห้องของเธอมาตรงกลับห้องตัวเอง




แผ่นหลังของร่างโปร่งเดินจากไปทิ้งเพียงประโยคที่ยังตราอยู่ในใจของหญิงสาว


“ฉันคิดตัวเองคงมั่นคงพอ พอที่จะรักมัน ไม่ว่างจะเป็นยังไงในเมื่อฉันจะปักใจและซื่อตรงต่อคำว่ารักกับสิ่งๆนั้น ฉันเองคงไม่เปลี่ยนใจ”


งั้นเหรอ


คำตอบแสนซื่อแต่ดูฉลาด


เธอระบายยิ้มพึงพอใจออกมา นานแล้วเหมือนกันที่เธอไม่ได้ยินแบบนี้ออกมาเลย จากการลองใจกลายเป็นได้คำตอบที่แสนระเริงหูกลับมาแบบนี้มันก็คุ้มไม่น้อยเหมือนกัน

แถมเธอยังตั้งใจแสดงพิรุธออกไปให้อีกคนจับผิดได้ง่าย แบบนี้คงมีอะไรสนุกๆให้ดูเร็วๆแถมยังได้ปั่นหัวน้องชายตัวแสบทางอ้อมอีกด้วย


กำไรเห็นๆ


สำหรับจิ้งจอกทั่วไปเล่ห์กลนั้นหลักเหลี่ยมหลากหลายตัวพึงจะมีมันแต่สำหรับจิ้งจอกบางตัว ความหลักเหลี่ยมมากเล่ห์อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ต้องมีแต่ความจริงใจและความมั่นคงนั้นอาจจะเป็นสิ่งต้องขวนขวายหาใส่ตัวมากกว่าก็เป็นได้

หญิงสาวนึกคิดอยู่ในใจ คำพูดนี้ชายหนุ่มจิ้งจอกเพื่อนสนิทของเธอได้ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาเธอโดยแท้


ดูเหมือนน้องชายเธอตบะแตกเก็บอาการอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่จริงๆ แสดงว่าที่เธอลั่นคำไปเมื่อคราวนั้นยังคงอยู่ในโสตประสาทเจ้าตัวอยู่บ้าง....




ผมกลับมาถึงห้องอขงตัวเองแต่พอเปิดประตูออกมาไฟภายในห้องนั้นกลับเปิดสว่างทั้งๆที่คนที่สำควรจะหลับใหลอยู่ตอนนี้นั่งไขว่หางแสดงสีหน้าไม่พอใจอยู่บนโซฟา


“ลัน” ผมเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว


“ไปไหนมา”


“ห้องริน”


“ทำไมถึงแอบไป” ผมเงียบแทนการให้คำคอบ ผมจงใจแอบหนีเขาเพื่อไปปรึกษาอรินเพราะไม่อยากให้อลันเข้ามาห้ามเพื่อการนั้นเลยต้องแอบหนี


ผมรู้หากเขารู้เข้าคงจะโกรธแน่ๆ


แต่ผมดันทำมันไปแล้วนี่สิ


“ขอโทษ” การขอโทษคงเป็นการดีที่สุด


“ทีหลังจะไปก็บอกดีๆไม่ต้องเห็นแอบ” อลันพ่นลมหายใจยาวเขาเดินเข้ามาโอบกอดผมเอาไว้ ผมรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เปารดอยู่บริเวณกระหม่อม “ตื่นมาไม่เห็นรุย นึกว่าจะเป็นอะไร”


“ที่นั่งแบบนั้นคือนั่งหัวเสียรึเปล่า”


“อือ”


ผมไม่เคยเดาเกี่ยวกับตัวเขาผิดสักครั้งเดียว


อลันก็ยังเป็นอลัน


ผมนึกทบทวนสิ่งที่ได้พูดคุยกับอรินเมื่อครู่ ที่เธอพยายามสื่อมาคงจะมีอะไรเกี่ยวกับอลันแน่นอนพวกเขาทั้งสองอยู่ในตระกูลหลักแต่หาไม่ใช่ลูกหลานของผู้นำตระกูลแต่ถูกเชิญเข้าไปเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งแน่นอนหากอรินว่ามาแบบนั้นแล้วก็คงจะตรงตามกับสิ่งที่ผมคิด


ผมว่า ผมคงคิดไม่ผิดหากอรินยกเรื่องจิ้งจอกและจิ้งจอกในตระกูลมาพูด แถมยังมีเรื่องที่เธอลองถามผมนั่นอีก
ผมรู้ว่าเธอกำลังจะพิสูจน์หรือทดสอบอะไรบางอย่าง


สีหน้าของเธอมันบอกแบบนั้น หนำซ้ำนัยน์ตาของเธอมันยังยิ่งชัดเจน


“นอนได้แล้วนะ” ผมยิ้มจูงมืออลันกลับไปที่ห้องนอนของเขา


“จะนอนกับรุย”


“หือ”


“ไถ่โทษที่ทำให้ลันโกรธ”


“แบบนั้นก็ได้” ผมยิ้ม


สุดท้ายก็ต้องมาลงเอยที่ห้องนอนผมเพื่อเป็นการไถ่โทษของตัวเอง แล้วนี่เป็นการลงโทษแบบไหนกัน?


ผมล้มตัวลงนอนตามด้วยอลันที่แทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มและดึงตัวผมเข้าไปกอดจนตอนนี้หน้าผมแทบจะจมอกเขาอยู่แล้ว


“ทำแบบนี้สาวๆหายแย่”


“อืม”


ผมยิ้มอีกครั้งก่อนที่อลันจะเอื้อมมือไปปิดไฟตรงหัวนอนฝั่งผม


เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นกว่าเดิมจนตอนร่างกายของพวกเราสองคนแทบจะกลืนกันเป็นคนๆเดียวอยู่แล้ว


ดูจะอึดอัดไปหน่อย แต่ก็สบายและอุ่นใจ


พวกเรานอนค้างอยู่ในท่านั้นนิ่งแต่ภายในคือนั้นนอกจากสัมผัสจากแขนทั้งสองของอลันแล้ว ผมกลับรู้สึกได้ว่ามีอะไรพาดมาระหว่างช่วงเอวและตัวมากกว่านั้น…








คือโดยรวมมันก็ไม่มีอะไรเป็นแง่เป็นเงื่อนงำหรอก แต่น้องรุยพาให้มีเฉยๆอ่ะ....
อลันเป็นตัวอะไร...ปลาหมึกรึเปล่า....?
น้องรุยเป็นคนฉลาดแต่บางเรื่องน้องก็ไม่เลย555555

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ แก้วกระจก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
#2


วันนี้วันเสาร์ ผมกับอลันจึงพากันเดินห้างเพื่อพักผ่อน ส่วนอรินเธอขอผ่านเพราะไม่อยากออกไปไหนมากกว่าการนอนอยู่บนเตียงในห้องของเธอ


“ลันอยากกินอะไร” ผมหันไปถามคนตัวสูงข้างตัว


“รุย”


เขาพูดอะไรนะ เสียงของเขามันแผ่วมากจนเหมือนเขาทำปากขมุบขมิบอะไรซักอย่าง


“ว่าอะไรนะลัน”


“รุย”


“เรียกเราเหรอ”


“เปล่า”


“แล้วเมื่อกี้?” เขาเรียกผมไม่ใช่หรือ


“ไปดื่มกาแฟกัน” ลันเดินนำผมตรงไปที่คาเฟ่ใกล้ๆบริเวณนั้น


ร้านคาเฟ่แห่งนี้ตกแต่งโทนดาร์กๆมองดูรอบๆแล้วให้ความรู้สึกเหมือนจมดิ่งลงไปทั้งๆแบบนั้น


ดูๆแล้วฟีลก็เหมือนคนข้างๆตัวผมนี่แหละ


“หน้าซีดๆนะลัน” ผมทักขึ้นทำเอาคนที่นั่งตรงข้ามเลิกคิ้วแปลกใจ


“เหรอ”


“อืม”


“เดินตากแอร์ก็แบบนี้แหละ”


ผมพยักหน้าตาม สีหน้าของอลันทำเอาผมอดเป็นห่วงไม่ได้แต่ปากเจ้าตัวบอกไม่เป็นไรก็คงไม่เป็นอะไร เพราะปกติอลันก็ไม่ใช่คนล้มป่วยอะไรง่ายๆด้วย...ละมั้ง


“เพิ่งรู้ว่าลันชอบกินเค้ก”


ปกติไม่เคยเห็นเจ้าตัวกินเค้กหวานๆแบบนี้ ขนาดกาแฟยังสั่งอเมริกาโน่มาดื่มเลยแท้ๆ


“อืม” เจ้าตัวครางตอบ “วันนี้อยากกิน”


“แปลกๆนะ” ผมแซ็วอย่างขำๆ


“คงงั้น”

“รุยอ้าปาก”

“หืม” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า เจ้าตัวตักเค้กของตัวเองเป็นชิ้นเล็กๆใช้ซ้อมจิ้มมันขึ้นมาจ่อบริเวณริมฝีปากของผม

“อ้าปาก” ผมรับคำอย่างว่าง่ายรับเค้กชิ้นพอดีคำเข้าปากไป

“ขอบคุณครับ”


พวกเราใช้เวลาดื่มกาแฟไม่นานนักก็หันมาเลือกซื้อเสื้อผ้าและของใช้จิปาถะกัน


ผมที่ยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่โดยมีอลันเดินตามหลังอยู่ เจ้าตัวก็ยังคงเสน่ห์อย่างคงเส้นคงว่ามีสาวๆเหล่มองตามเป็นแถบๆ


“สาวๆมองใหญ่เลย” ผมเองก็อดที่จะแซ็วเขาไม่ได้
“อืม ช่างเถอะ”


“เสียงดูเหนื่อยๆนะ”


“รุยคิดไปเอง”


ผมพ่นลมหายใจ โอเค เอาเป็นว่าผมคงคิดไปเองนั่นแหละ


“ลันว่าสีไหนโอเค” ผมถือเสื้อแขนยาวสองตัวยกขึ้นเทียบให้อลันตัดสินใจช่วย มีสีเขียวเยี่ยวม้ากับสีแดงเลือดหมูที่ผมยังติดสินใจเลือกไม่ได้


นี่ก็ใกล้จะเข้าหน้าหาวแล้วอากาศเริ่มเย็นลงแล้วด้วย ถึงจะเป็นในกรุงแบบนี้ก็ควรจะเตรียมตัวไว้ก่อน


ถึงจะเป็นอมนุษย์จิ้งจอกแต่ก็ใช่ว่าตอนเป็นร่างมนุษย์จะมีขนปกคลุมร่างกายอยู่ตลอดเสียหน่อย


“แดง”


“อืม...” ผมยกตัวสีแดงขึ้นมาเทียบบริเวณตัวดู


“รุย..” อลันเดินเข้ามาใกล้เรียกชื่อผมเสียงแผ่ว


“ลัน! ทำไมเหงื่อเต็มหน้าแบบนั้น” ผมว่าอย่างตกใจ เมื่อครู่ผมมัวแต่สนใจเสื้อผ้าจนไม่ได้หันมาดูอลัน จนตอนนี้เจ้าตัวใบหน้าชุ่มเหงื่อเต็มไปหมดทั้งๆที่แอร์ภายในห้างเย็นช่ำแท้ๆ


ผมยื่นมือหมายจะจับแขนอีกฝ่ายแต่อลันกลับถอยออกห่าง


“ลัน!”


“รุย...กลับ” เสียงนั้นขาดช่วงแผ่วจนผมตกใจ อลันใบหน้าซีดเผือกจนหน้ากลัว นั่นทำให้ผมไม่รีรอรีบพาอลันออกจากห้างไปที่จอดรถโดยทันที


แต่ที่ห้างจนถึงที่จอดรถเขากลับไม่ยอมให้ผมแตะต้องตัวเขาเลย


“ไปโรงบาลกันเถอะ”


“ไม่!!” เสียงปฏิเสธกร้าวของอลันทำผมตกใจ หันไปปะทะกับอมนุษย์จิ้งจอกที่เดินตามหลังมา


“แต่ลันไม่สบายนะ”


“โทรหายัยนั่น กลับห้องกัน”


“แต่โทรหาริน ยังไงรินก็ให้เราพาไปโรงบาลอยู่ดี” ผมแย้ง


“รุย ลันขอ” ผมขมวดคิ้วชั่งใจอยู่นานสุดท้ายก็ต้องขึ้นรถและมุ่งตรงกลับคอนโดโดยระหว่างทางผมต่อบรูทูธโทรหาอริน


“ฮัลโหล ริน!!”


[เสียงดังทำไมเล่า!]


“ลันแย่แล้ว!”


[ห๊า!?]


“อยู่ๆเขาก็ดูไม่ค่อยดี ฉันจะพาไปโรงบาลก็ไม่ยอมบอกให้โทรหาเธอ”


[อะไรนะ! เด็กเวรนั่นมันคิดอะไรอยู่! ฉันไม่ใช่หมอบอกมันไป!!]


“ลันเราว่าไปโรงบาลกันดีกว่านะ” เมื่อได้ยินปลายสายว่าแบบนั้นผมจึงหันไปเกลี้ยกล่อมคนที่นั่งข้างๆอีกครั้ง ตอนนี้เขานอนพิงไปกับเบาะรถร่างกายที่อ่อนล้าเหงื่ออกชุ่มร่างไปหมด


ตัวเริ่มขาวซีดจนหน้ากลัวนั่นยิ่งทำให้ผมใจไม่ดี


“พี่เวร..” เสียงแผ่วเหมือนพึมพำอะไรสักอย่างของอลันไม่ได้ทำให้ผมใส่ใจกับมันเท่าไหร่ ในขณะที่ผมกำลังหักพวกมาลัยเลี้ยวไปทางโรงพยาบาลเสียงแหลมจากหญิงปลายสายก็แทรกขึ้น


[เดี๋ยว! รุยวันนี้วันที่เท่าไหร่]


“ทำไมริน”


[บอกมาก่อนรุย!]


“9 กันยาไง” ผมต้องข่มใจให้เย็นลงและค่อยๆตอบเธอไป


[ไม่ต้องไปโรงบาลรุย!! พามันกลับคอนโดส่งมันมาห้องฉัน!!!!]เสียงจากอรินทำให้ต้องหยุดชะงักก่อนจะหักเลี้ยวไปอีกทาง ผมค่อยๆพารถจอดเทียบข้างทางสักครู่เพื่อคุยกับปลายสายที่ตอนนี้เหมือนเธอกับผมคงต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนเสียแล้ว


“แต่ริน ลันป่วยนะ!” ผมแย้ง


เหลือบไปมองคนคนตัวสูงที่อาการเริ่มไม่สู้ดียิ่งกว่าเดิม


[รุย! ฟังฉัน...ถ้านายไม่อยากให้ลันเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตารีบพาหมอนั่นมาห้องฉัน ขอแบบด่วนที่สุด!! ]


ติ๊ด!!!


เจ้าตัวตัดสายทันทีทำเอาผมความคิดในหัวผมตีแย้งกันไปหมด สิ่งที่ผมควรทำคือต้องพาอลันไปโรงบาลให้ด่วนที่สุดแต่สิ่งที่อรินแย้งมากลัยตรงกันข้าม


ผมกำมือแน่นจนเดืองเถือก สุดท้ายผมก็ตัดสินใจพาร่างสูงที่ตอนนี้ดูไม่สู้ดีกลับไปที่คอนโด อรินเธอยืนรอพวกอยู่ด้านล่างอย่างตื่นตระหนกพอเห็นร่างของอลันที่ผมประคองมาเธอก็รีบมาช่วยประคองเอาไว้


ถึงขณะที่ประคองอลันจะทำท่าผละออกจากผมอยู่ทุกครั้งก็ตาม


“อริน...นั่นคนของตระกูลหลัก” ผมทักขึ้นเมื่อเดินมาถึงบริเวณชั้นล่างของคอนโด พวกเขาตรงมาที่พวกผม


“ให้พวกเขาจัดการเถอะรุย” อรินว่า


“หมายความว่ายังไง”


“ทุกอย่างจะเรียบร้อย เชื่อฉัน” ว่าจบเธอก็จับมือผมที่ประคองอลันออกโดยมีคนจากตระกูลหลักอีกสี่ห้าคนเข้ามาช่วยประคองและพาอลันไปยังลานจอดรถของคอนโด


“อริน”


ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้านี้ ไม่เข้าใจแม้กระทั่งอริน


เธอกำลังจะทำอะไรกันแน่...


แล้วทำไมถึงมีพวกตระกูลหลักมาที่นี่


“ทุกอย่างจะเรียบร้อย รุยเชื่อฉันนะ” เธอว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตานั้นสื่อว่าถ้อยคำของเธอออกมาจากใจจริงจนผมได้แต่นิ่งงันเก็บงำความสงใสเอาไว้ภายใน


ชั่วครู่ทั้งอรินและพวกคนจากตระกูลหลักที่พาอลันไปก็เคลื่อนรถออกจากคอนโดไป ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปที่ไหน


อลันล้มป่วยกะทันหัน


อรินที่ดูแปลกไป


คนจากตระกูลหลัก


แล้วทำไมทั้งอลันถึงไม่ยอมให้ผมพาเขาไปโรงพยาบาลรวมถึงอริน...


ผมไม่เข้าใจมันเลยสักนิดเดียว


โถ่เอ้ย!


ผมสบถอย่างหัวเสียอยู่ภายในใจ หนทางเดียวที่จะทำให้ผมรู้คือทางไหนกัน?








มันไม่อะไรมากมายหรอกแก เชื่อฉันเด้อ
ตอนหน้าก็กระจ่างใสไม่มีปมไรแล้ว น้องอลันเป็นตัวอะไรเดี๋ยวรู้กัน
ปลาหมึกแน่ๆ เชื่อฉัน
อาจจะมาช้าแต่ก็มานะ ช่วงนี้งานเยอะขอเวลาเคลียร์งานก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2017 20:05:06 โดย แก้วกระจก »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด