ตอนที่ 16: ไม่เหมือนเดิม“กวี พี่พฤกษ์จะไปดูบ้านที่นครปฐม ลุกเร็ว โปรเจ็คนี้เราช่วยพี่พฤกษ์ดูไม่ใช่เหรอ” นุ่นเรียกน้องเล็กเสียงดังลั่น เมื่อหูแว่วได้ยินพฤกษ์ฝากงานรุ่นน้องในแผนก เธอจึงรีบแจ้นมาบอก
“พี่พฤกษ์ให้ผมไปด้วยเหรอครับ” กวีรีบเก็บของลงกระเป๋าด้วยความดีใจ
“เปล่า”
“อ้าว!” ลูกโป่งใบโตเหี่ยวเฉา กวีทิ้งตัวลงนั่งเหมือนเดิม
“มาเถอะน่า เดี๋ยวพี่จัดการเอง” นุ่นลากแขนของกวีให้ลุกขึ้นยืน ก่อนดันหลังให้ออกเดิน
“พี่พฤกษ์ นุ่นไปเรียกกวีมาให้ เห็นพี่พฤกษ์จะไปดูบ้านที่นครปฐมใช่ไหม”
“ใช่”
“นุ่นจำได้ว่ากวีดูโปรเจ็คนี้กับพี่ไม่ใช่เหรอ เลยช่วยไปตามพี่พฤกษ์จะได้ไม่เสียเวลา” นุ่นใช้วิธียัดเยียดแบบไม่สนใจว่าเหตุผลฟังขึ้นหรือไม่ พฤกษ์เป็นสุภาพบุรุษยังไงก็ไม่หักหน้าน้องแน่ โดยเฉพาะน้องผู้หญิงอย่างเธอ
“พี่นุ่น คราวที่แล้วพ่อแค่ใช้ให้ผมไปถ่ายรูป before ของบ้านเก็บไว้เท่านั้นเอง” กวีกระตุกแขนของนุ่น สีหน้าไม่สบายใจ จากที่เคยตื้อไม่ดูทางตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาควรทำตัวอย่างไร เขาไม่อยากทำให้พฤกษ์รำคาญใจอีก
“เอาเถอะน่า เชื่อพี่” นุ่นหันไปพูดเสียงรอดไรฟันกับรุ่นน้องเพื่อไม่ให้พฤกษ์ได้ยิน
“อย่าเลย” กวีเริ่มหน้าเสีย เพราะสีหน้าของพฤกษ์นิ่งมาก นิ่งจนเขาเดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
“พร้อมหรือยัง”
“ครับ?” กวีชะงักมือที่กำลังดึงแขนของนุ่นเพื่อห้ามปราม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“พี่ถามว่าพร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วจะได้ไปกันเลย”
“เร็วสิ” นุ่นเร่งน้องเล็กเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ยืนเอ๋อ
“พร้อม..พร้อมครับ ผมไปได้เลย” กวีเพิ่งได้สติ รีบตอบเมื่อมีคนกระตุ้น
“งั้นก็ไปกัน”
“ครับผม” กวียิ้มกว้าง รีบสาวเท้าตามพฤกษ์ไป เป็นอีกวันที่เขาจะได้อยู่กับพฤกษ์สองคน ที่สำคัญมันเป็นวันเกิดของเขาด้วย อย่างนี้จะไม่ให้เขามีความสุขได้อย่างไร
✪✥✤✣✦✧✣✤✥✪
Rrrrrr
กวีลอบถอนใจเบาๆ มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ความสุขมักมาได้ประเดี๋ยวเดียว ก่อนเบื้องบนจะส่งบททดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจมาให้ กวีอยากยกหูฟังขึ้นมาเสียบเพื่อจะไม่ต้องได้ยินบทสนทนาระหว่างพฤกษ์กับฤดีมาศ แต่เมื่อทำอย่างนั้นไม่ได้เขาจึงได้แต่นิ่งฟัง
“ครับฤดี”
(ฤดีจะโทรมาถามว่าวันนี้จะมีใครใจดีพาฤดีไปทานข้าวเย็นบ้างไหมคะ)
กวีอยากถอนใจออกมาดังๆ พี่พฤกษ์นะพี่พฤกษ์จะใส่หูฟังบลูทูธเหมือนทุกครั้งก็ไม่ได้ ทำไมต้องเปลี่ยนมากดออกลำโพงของรถด้วย
“วันนี้ผมไม่สะดวกครับ กำลังขับรถไปทำงานที่นครปฐม”
(พฤกษ์คะ) น้ำเสียงแง่งอนดังผ่านลำโพงออกมา กวีเจ็บใจที่เขาเองยังรู้สึกว่าเป็นเสียงเรียกชื่อที่ฟังออดอ้อน น่ารักเหลือเกิน
(พักนี้พฤกษ์ไม่ค่อยมีเวลาให้ฤดีเลย โทรไปเมื่อไหร่ก็ติดงาน ฤดีจะงอนจริงๆ แล้วนะคะ)
“งานผมยุ่งมากครับ”
(ไม่รู้ล่ะคะวันนี้ฤดีจองตัวพฤกษ์ จะมาดึกดื่นแค่ไหนก็ได้ ไม่เจอกันตั้งนานฤดีคิดถึง) คำว่าคิดถึงหวานจนหัวใจของกวีสั่นไหว เขากลัว กลัวว่าจะได้ยินคำนั้นจากปากของพฤกษ์กลับไป
(นะคะพฤกษ์ ตามใจฤดีหน่อยนะคะ)
“ฤดีครับ สักครู่นะ เดี๋ยวผมโทรกลับ”
(อ้าว..ทำ..)
“ไม่นานครับ ไม่เกินสามนาที”
(ก็ได้ค่ะ ฤดีจะรอนะคะพฤกษ์)
“ครับ” กวีมองพฤกษ์ด้วยสายตามีคำถาม ไม่มีเหตุฉุกเฉินหรือสายเข้าให้พฤกษ์ต้องหยุดการสนทนา จะว่าไม่คุย เขาก็ได้ยินเต็มสองหูว่าพฤกษ์จะโทรกลับไปภายในสามนาที
“กวี”
“อื้อ” เขาขานรับอยู่ในคอ ความเซ็งทำให้ไม่อยากพูดอะไรออกมา
“ได้ยินแล้วใช่ไหม”
“ครับ พี่พฤกษ์จะบอกว่าไปส่งผมที่บ้านไม่ได้ใช่ไหมครับ หรือจะบอกว่าไปถึงนครปฐมแล้วต้องรีบกลับหรือยังไง”
“คิดไปถึงไหน พี่จะถามเราว่าจะให้พี่ไปไหม”
“หะ!” กวีงงจนเผลอเผยอปากค้าง
“เร็วๆ พี่ต้องโทรกลับฤดี”
“มาถามผมได้ยังไงครับ พี่พฤกษ์นัดกันสองคนนี่ ผมไม่ได้นัดด้วยสักหน่อย”
“ก็ถ้าเราไม่อยากให้ไป พี่จะได้ปฏิเสธ”
“หา?” กวีมึนเข้าไปใหญ่ พฤกษ์พูดว่าอะไรนะ เขาพยายามรวบรวมสติประมวลผลคำพูดของอีกฝ่าย คนพูดหันมามองเขาแวบ
หนึ่ง ก่อนหันไปมองถนนด้วยสีหน้าเป็นปกติ
“ถ้า...ถ้าผมบอกว่าไม่อยากให้พี่พฤกษ์ไปล่ะครับ” กวีใจเต้นโครมคราม นี่มัน ..นี่มันหมายความว่ายังไงกัน
“ตกลงไม่ให้ไป”
“ผมถามว่าถ้า..”
“แต่พี่ถามเอาคำตอบจริงๆ”
“งั้นผมไม่ให้ไปครับ” กวีกลั้นหายใจ รอว่าพฤกษ์จะหักมุมตอนจบอีกไหม เช่น ที่พี่ถามเพราะมาด้วยกันจะปลีกตัวทิ้งน้องไปคนเดียวก็น่าเกลียด หรืออาจจะเป็น มาด้วยกันก็ต้องให้เกียรติกันแบบนั้น
“อืม” กวีไม่เข้าใจคำว่าอืมของพฤกษ์ จนอีกฝ่ายกดโทรออก
“ฤดีครับ ขอโทษทีผมคงไปเจอฤดีไม่ได้”
(ไม่เอาสิคะพฤกษ์ ฤดีไม่เอาคำตอบนี้ นะคะ มาหาฤดีหน่อย วันนี้ฤดีรู้สึกไม่ค่อยดีเลยอยากมีเพื่อน) น้ำเสียงคนพูดออดอ้อนน่าสงสาร
“ขอโทษจริงๆ ครับ แต่ช่วงนี้งานผมยุ่งมากคงไม่มีเวลานัดเจอกัน”
(แต่..)
“ฤดีลองโทรชวนเพื่อนๆ ดูสิครับ จะได้ไม่เหงา”
(แต่ฤดีไม่ได้อยากอยู่กับเพื่อนนี่คะ)
“งั้นฤดีก็ไม่อยากอยู่กับผมด้วยสิครับ”
(อะ..อะไรนะคะพฤกษ์) กวีแอบมองใบหน้าด้านข้างของพฤกษ์ เมื่อกี้มัน...ไม่ใช่แค่ฤดีมาศเพียงคนเดียวที่สับสนเขาเองก็เช่นกัน
“ก็เห็นฤดีบอกว่าไม่อยากอยู่กับเพื่อนไม่ใช่เหรอครับ ผมเลยแซ็ว ว่าถ้าอย่างนั้นฤดีคงไม่อยากอยู่กับผมด้วย”
(พฤกษ์)
“วันนี้ผมขอโทษจริงๆ แต่วันหลังฤดีมีอะไรลองโทรมาได้ครับ ถ้าว่างผมไปหาอยู่แล้ว เพื่อนกัน”
(เพื่อน?) เสียงแหลมปรี๊ดทะลุลำโพงออกมา
“ฤดีผมต้องวางแล้วครับ เอาไว้วันหลังค่อยคุยกันใหม่ พอดีผมไม่ได้มาคนเดียวเกรงใจคนมาด้วย”
(เดี๋ยวคะพฤกษ์!)
“สวัสดีครับ” กวีมองพฤกษ์กดวางสาย หัวใจเขาเต้นโครมคราม วันเกิดปีนี้เขาได้ทั้งของขวัญและได้ทั้งกำลังใจ พฤกษ์ไม่ได้ชอบฤดีมาศ พฤกษ์ยังไม่มีใคร
กวีเหลือบตามองคนขับ พฤกษ์เงียบไปหลังจากวางสายกับฤดีมาศ กวีมีคำถามอยากถามมากมาย แต่เห็นอาการของพฤกษ์แล้วเขาได้แต่เก็บมันไว้ในใจ
“กวี”
“ครับ?”
“ไม่มีอะไรจะถามพี่เหรอ”
“ไม่มีครับ”
“แต่พี่มี มีเรื่องอยากพูดกับเรา”
“อะไรครับ” กวีใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่ใช่ว่าพฤกษ์จัดการเคลียร์กับฤดีมาศได้แล้ว จะหันมาเคลียร์กับเขาต่อนะ วันไหนก็ได้แต่อย่าให้เป็นวันเกิดเขาเลย สาธุ
“รู้ตัวไหมว่าพักนี้เราแปลกไป”
“แปลก! “ ใจของเขาร่วงลงไปอยู่ตาตุ่ม หรือว่าพฤกษ์รู้อะไรมา เป็นไปไม่ได้น่า พฤกษ์ไม่มีทางสงสัยเขา “แปลกยังไงครับ”กวีกลั้นใจถามออกมาจนได้
“เมื่อก่อนเราตามวอแวพี่ตลอดเวลาแทบไม่มีเวลาหายใจ”
“พี่พฤกษ์อะ” ตื่นเต้นก็ตื่นเต้นหรอก แต่เขาก็อดหน้ามุ่ยไม่ได้เมื่อเจอประโยคนี้เข้าไป
“ฟังให้จบก่อน”
“ก็ได้”
“แต่เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยกวนใจพี่เท่าไหร่ เลิกงานไม่เคยมาล้อมหน้าล้อมหลัง ทีจริงน่าจะเรียกว่าเผ่นกลับบ้านก่อนใครเลยมากกว่า”
“ก็ผมติดธุระ” กวีแก้ตัวเสียงอ่อย
“พี่ไม่ได้ถามเหตุผล จะฟังต่อหรือเปล่า”
“ครับๆ ดุชะมัด” กวีแอบบ่นเบาๆ
“จะว่ายังไงดี ดูเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ค่อยติดพี่มากเหมือนเก่า”
“เปล่านะ” สีหน้าของกวีร้อนรน กลัวว่าพฤกษ์จะเข้าใจเขาผิด “ผมยังติดพี่พฤกษ์เหมือนเดิม”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไร”
“ก็ผมกลัวพี่พฤกษ์เข้าใจผมผิด”
“หึๆ
“พูดต่อสิครับ”
“ไม่ทันแล้ว ถึงบ้านลูกค้าแล้วเห็นไหม เพราะเราเอาแต่ขัดพี่เลยคุยกันไม่ถึงไหน” กวีมองไปด้านหน้าถึงเพิ่งเห็นว่ารถกำลังชะลอเพื่อเลี้ยวเข้าจอด เหอะ ความผิดเขาที่ไหน ทางตั้งไกลมาพูดอะไรตอนนี้
“พี่พฤกษ์” กวีรีบเดินตามพฤกษ์ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินเข้าไปในบ้านของลูกค้า
“เอาไว้ค่อยคุยกันต่อขากลับ”
“ผมขอพูดนิดเดียว ผมไม่อยากรอ” จะว่าเขาเป็นเด็กดื้อก็ได้ แต่จะให้พฤกษ์เข้าใจผิดความรู้สึกของเขาไม่ได้ กวีไม่ยอม
“พูดมาสิ” พฤกษ์ยอมหยุดเดิน กวีก้าวไปยืนตรงหน้าสบตากับพฤกษ์โดยไม่ยอมละสายตา
“ถึงท่าทางของผมจะแปลกไปแต่ผมไม่เคยเปลี่ยนใจ ผมรักพี่พฤกษ์เหมือนเดิม รักอยู่คนเดียว”
“พี่รู้ว่าเราเหมือนเดิม”
“รู้ก็ดีครับ” กวีโล่งอก อย่างน้อยพฤกษ์ก็ไม่เข้าใจผิดเขาเรื่องนี้
“เพราะคนที่ไม่เหมือนเดิมคือพี่”
“หะ!”
“ที่พี่อยากพูดก็คือบางอย่างมันกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว พอไม่มีใครมาป่วนก็เหงาอยู่เหมือนกัน”
“จริงเหรอ! จริงหรือเปล่าพี่พฤกษ์” กวีคว้าหมับเข้าที่แขนของพฤกษ์ หูของเขาไม่ได้ฝาดหรือเพี้ยนไปใช่ไหม
“หึๆ”
“อย่าหัวเราะสิ ตอบผมก่อน” กวีจับแขนพฤกษ์ไว้แน่น ตื่นเต้นจนหัวใจแทบทะลุออกมาจากอก
“ไม่ได้ ลูกค้ารอนานแล้ว”
“พี่พฤกษ์~” กวีร้องด้วยด้วยเสียงขัดใจ ก่อนสายตาแลน้ำเสียงจะเปลี่ยนมาเป็นเจ้าเล่ห์แทน
“ก็ได้ครับ งานเสร็จเมื่อไหร่อย่าหวังว่าจะรอด”
“เก่งขนาดนั้น?” คนพูดทำสีหน้าขำเขา
“คอยดูก็แล้วกัน”
“หึๆ ได้พี่จะคอยดู” พฤกษ์ยกมือขึ้นลูบหัวเด็กเอาแต่ใจ ก่อนเดินนำเข้าไปในตัวบ้าน กวีหัวใจพองโตคับอก โอ๊ย พี่พฤกษ์ใจอ่อนให้เขาแล้ว ใจอ่อนให้เขาแล้วจริงๆ
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
สปอย**
ตอนหน้าแนะนำให้เตรียมหมอนไว้เกิน 2 ใบ เดี๋ยวจิกไม่พอ ><
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin