IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115  (อ่าน 706017 ครั้ง)

ออฟไลน์ me_toey

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มูนนี่เด็กดี น้องเริ่มโตแล้ว ปลื้มปริ่ม :mew4:

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
จันโดนกินอีกแล้ววว

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มูนนี่เด็กดี....  หนูเริ่มโตแล้วสินะ พี่จะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกก้าวที่หนูเติบโตเป็นผู้ใหญ่นะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เจิ้นอาการหนักมากจริงๆ

เจ้าจันทร์คนดี ถึงหนูจะชอบมาก
หนูก็ไม่ต้องบอกเจิ้นหมดก็ได้
แล้วยังมีความชอบที่เจิ้นเข้ามาหน่อยๆ ด้วย
แบบนี้เจิ้นจะไปไหนรอด

เจ้าจันทร์ค่อยๆ เติบโตจริงๆ
รอบข้าง เวลา เหตุการณ์ ทำให้น้องเรียนรู้

ชอบเจ้าจันทร์ สารพัดจะคิด เล็กน้อย มหาศาลก็ได้หมด

ขอบคุณคุณแบมมากนะคะ ที่อยากจะแต่งไปนานๆ ยาวๆ
เราก็จะรออ่าน และเป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ถุถถ!! มูนนี่สิ่งที่นู๋ให้เจิ้นได้แค่คนเดียวคือความสุข แล้วก็ให้เจิ้นเข้าไปในตัวไงลุกกก!! 555 แค่นั้นเจิ้นก็ฟินไปถึงดาวอังคารแล้ว

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
เจ้าจันทร์ คิดเยอะขึ้น เริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ออฟไลน์ Nachar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มูนนี่ของเราเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆเเล้ว ส่วนเจิ้นนี่เอาใหญ่เลยนะเราอ่า  มูนนี่เริ่มจะติดใจละฮ่าาาา /เป็นเรื่องที่อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มูนนี่สู้ๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
 :pig4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โว๊ะ!!!   :m25: :m25: :m25:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 38 : ฺMoreover : Feb 11, 18 : P.71
« ตอบ #2169 เมื่อ: 12-02-2018 09:39:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ขอบคุณที่พาเจ้าจันทร์และเจิ้นมาให้รู้จัก
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :3123:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
อ่าน 2 ตอนรวด คือมันดีต่อใจค่ะ บอกเลย   :z1:

ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หนูอยู่ให้เจิ้นรักก็พอนะลูก

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ว้าวในความคิดมีเหตุมีผลมากขึ้นของเจ้าจันทร์ แม้เป้าหมายคืออยากจะไปอยู่เคียงข้าง คอยช่วยเหลือทุกเรื่องให้เจิ้น  จะดูเกินตัวไปบ้าง แต่การที่น้องมองหาวิธีการหรือแนวทางที่ตัวเองจะเดินไปสู่จุดหมายได้นั้นทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ชอบพัฒนาการทางความคิดของนาง คือเป็นคนมีเหตุผลโดยพื้นฐานอยู่แล้ว  แต่อาจจะไม่ค่อยได้ไตร่ตรองความคิดของตัวเองเท่าไรเพราะมีคนคอยคิดให้ ตัดสินให้ตลอด พอได้ลองคิดเอง ทำเองอย่างค่อยเป็นค่อยไปเลยทำให้การคิดมีเหตุผลมากขึ้น  อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงมากขึ้น ไม่มโน(มาก)อีกต่อไป โตไปอีกขั้นแล้วนะเจ้าจันทร์  :กอด1:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จันทร์ได้เจิ้นแล้วต้องรับผิดชอบนะ
เจิ้นเก็บไว้ให้จันทร์มาจนจะเหี่ยวตายอยู่แล้ว

แต่แหมมมมมมมม ยาวเลยนะพ่อคุ๊ณ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
มูนนี่เติบโตเพราะได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
การที่เจิ้นส่งไปเรียนนอกทำให้มูนนี่น้อยโตขึ้นจริงๆ

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
นูนู่ หนูเริ่มโตแล้วลูกกกก  :really2:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
มูนนี่เป็นกำลังใจของเจิ้นไงลูกกก เด็กดีจริงๆ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ทำไมชอบการเรียกเจิ้นของเจ้าจันทร์55555
แมลงยุบยิบยุบยับ :jul1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 38 : ฺMoreover : Feb 11, 18 : P.71
« ตอบ #2179 เมื่อ: 13-02-2018 00:16:22 »





ออฟไลน์ full

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
มูนนี่ของพี่ค่อยโตขึ้นเรื่อยๆเริ่มคิดมากขึ้น สู้ๆนะ  :pig4:

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 39 Life’s goal


   “อยากมีปีก? คนปกติที่ไหนเขาบินได้กัน”



   “มันคือการเปรียบเปรยยยยยยยยย โอ้ยลุงรู้จักการเปรียบเปรยไหม แบบว่ามีปีกคือเก่ง ไม่มีปีกก็ไม่เก่งไง”



   ผมเลือกมาปรึกษาลุงหยางเหมือนเดิมเพราะอยากจะอัพเดทแผนการขอเจิ้นแต่งงานด้วย ก็เลยเริ่มจากเรื่องที่ผมร้อนใจที่สุดก่อนอย่างการหาปีกให้ตัวเอง



   เรานัดกันที่ร้านกาแฟในคอนโดของลุงหยาง พ่อไปธุระให้คุณปู่ช่วงเช้าผมก็เลยรีบมาไวๆก่อนเพื่อเจอลุงหยางจะได้คุยกันได้สะดวก



   “อยากจะเก่ง? อยากอย่างเดียวไม่ได้ต้องลงมือทำด้วย”



   “ก็...ผมเริ่มไม่ถูกอ่ะ”



   “อยากจะเก่งด้านไหน?”



   “ก็...จริงๆอยากเก่งแบบเป็นมือขวาเจิ้นได้”



   “ผู้ช่วยเจ้าของธนาคาร? เรื่องบางเรื่องก็ต้องแยกแยะนะว่ามันเป็นจริงได้ไหมเจ้าลูกกระต่าย”



   ผมชักงอนลุงหยางแล้วอ่ะ อย่างน้อยลุงก็ควรให้กำลังใจผมสิ ก็รู้ว่ามันยากแต่ถ้าผมพยายามมากๆมันก็อาจจะเป็นไปได้ไง ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็ต้องอยู่ที่นั่น!



   “อยากช่วยเจิ้นก็ไม่ต้องเกี่ยวกับธนาคารก็ได้ ชีวิตเจิ้นไม่ได้มีแค่เรื่องธนาคารสักหน่อย”



   “บ้านยังอยู่ในธนาคารเลยอ่ะ คิดไม่ออกแล้ว”



   ผมเกยคางกับโต๊ะ รู้สึกเครียดยังไงก็ไม่รู้ หรือผมจะไปแอบดูว่าเจิ้นถือหุ้นที่ไหนอีกไหม? จะได้ไปอยู่บริษัทนั้นแล้วช่วยเขาทำงาน ผลประกอบการจะได้ดี เงินปันผลมาหาเจิ้นจะได้เยอะๆ



   “ถ้าเกรดเฉลี่ยเท่าที่บอก บริษัทใหญ่ๆเขาไม่น่ารับนะ”



   “...ผมไม่มีหนทางเลยหรอ มันแย่มากเลยนะลุงที่ผมเป็นที่พึ่งให้เจิ้นไม่ได้เลย เป็นที่ปรึกษาก็ไม่ได้ ช่วยอะไรก็ไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งเจิ้นล้มล่ะ?”



   “ช่อฟ้าไม่เจ๊งในรุ่นเจิ้นหรอก คิดมากไปหรือเปล่า?”



   “ก็แบบเผื่ออ่ะเผื่ออออ”



   “ธนาคารใหญ่ๆไม่เจ๊งง่ายๆหรอก มีรัฐบาลอุ้มอยู่ มันเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจของประเทศ แล้วเคยดูข่าวหรือตามดูผลประกอบการช่อฟ้าบ้างไหม? ธนาคารท๊อปทรีของประเทศ...จะล้มก็คงมีแต่เดินสะดุดล้มนั่นล่ะ”



   “งั้น...เจิ้นก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมหรอ?”



   “ก็ถึงถามว่าอยากจะช่วยอะไร? ถ้าอยากช่วยงาน คนช่วยเจิ้นเก่งๆก็เยอะแล้ว ไปช่วยเรื่องอื่นดีกว่าไหม เรื่องที่เจิ้นยังไม่มีคนทำให้”



   “แล้วผมจะได้มีปีกไหมอ่ะ ผมอยากเข้มแข็ง อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองไม่เป็นภาระเจิ้น อยากเป็นผู้ใหญ่”



   “เจิ้นอาจจะไม่ได้อยากมีปีกก็ได้ บินตลอดเวลามันก็เหนื่อย เดินด้วยสองเท้าก็ดีกว่า เมื่อยก็นั่ง ทำไมไม่ลองเป็นคนเดินดินปกติที่คนมีปีกจะลงมาเดินด้วยได้ล่ะ”



   “ผมก็ต้องเก่งก่อน”



   ลุงหยางยกยิ้มที่ผมไม่เข้าใจ ก็มันไม่ถูกหรอถ้าเจิ้นจะยอมลงมาเดินกับผม ผมก็ต้องเก่งหรือมีอะไรที่ทำให้เจิ้นรู้สึกว่ามันดีกว่าการบินอยู่ที่สูงๆ



   “การอยู่กับคนเก่ง ก็อาจจะคิดไปเองว่าต้องเก่งเหมือนคนอื่น แต่คนกี่ล้านคนบนโลกจะเก่งเรื่องเดียวกันมันก็ไม่ใช่ ลองหาตัวเองก่อนดีกว่าไหม? ว่าถนัดอะไร ชอบอะไร”



   “ผมคิดว่า...ชอบทำกับข้าว”



   “ก็ทำให้มันจริงจัง อยากจะเป็นเชฟ หรืออยากจะเปิดร้าน ก็ลองคิดต่อยอดดู ชอบทำกับข้าวแต่จะไปทำงานธนาคาร มันก็ฝืนตัวเอง”



   “แต่ทำกับข้าวช่วยเจิ้นไม่ได้นี่”



   “เจิ้นก็ต้องกินข้าววันละสามมื้อ พนักงานธนาคารมันทำกับข้าวให้เจิ้นไหมล่ะ? เกิดเป็นกระต่ายก็ต้องเก่งแบบกระต่าย จะไปทำหน้าที่ของสัตว์อื่นได้ไหม?”



   ผมรู้มีกำลังใจขึ้นมาแต่ก็ยังไม่เข้าใจคำพูดของลุงหยางเท่าไหร่ แต่ก็พอเห็นภาพนะ เพราะกระต่ายมันขาสั้นกระโดดดึ๋งๆทีละนิด จะไปเก่งเท่าปลาหมึกแปดหนวดแบบเจิ้นได้ยังไง เจิ้นมีตั้งแปดหนวดแถมมีลูกน้องปลาหมึกก็คงต้องเก่งมากๆอยู่แล้ว ผมอาจจะต้องเริ่มจากการมีลูกน้องกระต่ายก่อน แต่ก่อนจะมีลูกน้องผมต้องเป็นหัวหน้ากระต่ายก่อน เพราะผมมีหัวหน้าใหญ่เป็นพ่ออีกที ก็แบบว่าหัวหน้ารอง หัวหน้าเล็ก ลูกน้อง ลูกกระจ๊อก... แล้วลุงหยางเป็นกระต่ายไหมอ่ะ?


   “ถ้าจะเป็นกระต่ายที่ไปอยู่กับเจิ้นได้แบบไม่เป็นภาระ ต้องทำยังไงบ้าง ลุงมีคำแนะนำไหม”



   “ก็พอจะมีสักอย่างสองอย่าง ทำได้ก็อยู่กับเจิ้นได้”



   “อื้อ ผมจะทำให้ได้”



   “อย่างแรก...โตเป็นผู้ใหญ่ซะ
   







พออายุยี่สิบคำว่า ผู้ใหญ่ ก็ชักเข้ามาในชีวิตเยอะแยะ



ผมพอจะจับใจความได้ละว่าการโตเป็นผู้ใหญ่มันไม่ใช่แค่อายุ แต่มันหมายถึงผมจะต้องทำอะไรบางอย่างที่แตกต่างไปจากเดิมเพื่อพิสูจน์ตัวเอง



ลุงหยางบอกว่าผมต้องเริ่มจากการดูแลตัวเองให้ได้ พึ่งพาเจิ้นให้น้อยลง และมีทางเดินชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกวันนี้ความคิดผมวนเวียนอยู่กับเจิ้นไปหมด ต้องลองหาจุดหมายที่เป็นของผมจริงๆสักที



“ผมจะลองคิดดู...อ้อ มีอีกเรื่อง เรื่องแต่งงานกับเจิ้นอ่ะ”



จบเรื่องแรกที่ผมต้องกลับไปคิด ก็ต้องคุยกับลุงต่อเรื่องจะขอเจิ้นแต่งงาน ผมคิดว่าถ้ามันคาบเกี่ยวกับช่วงที่ผมยังไม่เป็นผู้ใหญ่จริงๆก็คงจะไม่เหมาะจะไปขอเจิ้นใช่ไหม?



แต่ผมก็กลัวเจิ้นจะน้อยใจนะ เพราะผมไปรังแกเจิ้นด้วย เอ๊ะ แต่ตอนอยู่สิงคโปร์เจิ้นก็บอกว่าเขารังแกผมนี่? ผมรีบเล่าให้ลุงหยางฟังเรื่องที่เกิดขึ้นเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้



“Make Love กันแล้ว?”



“อื้อ แต่เจิ้นบอกว่าเขารังแกผมนะ”



“หึ...งั้นก็ไม่ต้องแต่งแล้วสิ รังแกมารังแกกลับก็หายกัน”



“อ้าว...แล้วต้องทำไงต่ออ่ะ”



“ก็ไม่ต้องทำไง ก็ไม่ต้องแต่ง”



“แต่ผมรับปากไปแล้ว...”



“ก็เจิ้นเขามารังแกกลับแล้ว มีอะไรต้องรับผิดชอบอีก”



ก็จริง...ผมรู้สึกสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เพราะเรื่องที่ผมกังวลเกี่ยวกับอนาคตจริงๆมันก็เกี่ยวพันกับเรื่องแต่งงานหน่อยๆ แบบว่าถ้าแต่งงานแล้วต้องอยู่ด้วยกันตลอด ผมก็ควรจะเก่งกว่านี้ ควรจะมีปีกเพื่อเป็นครอบครัวที่แข็งแรง



แต่แล้วลุงก็บอกไม่ต้องแต่ง? โอ้ยตกลงผมจะต้องทำยังไงต่ออ่ะ สับสนจังเลย



“ก็ลองพยายามเพื่อนอนาคตตัวเองไง คิดถึงตัวเองบ้าง หายใจเข้าก็เจิ้น หายใจออกก็เจิ้น ไปโดนเขารังแกแล้วยังไปยอมเขาอีก”



“ก็ขัดขืนแล้วอ้ะ...จริงๆผมอยากเป็นฝ่ายเข้าไปในตัวเจิ้นมั่งแต่เจิ้นก็ไม่ยอมทุกที แล้วมันก็เจ็บ เฮ้อ...”



ลุงหยางทำหน้าเหมือนโลกจะแตกแล้วก็ถลึงตาใส่ผม ผมไม่กลัวลุงแล้วที่ลุงดูจะโมโหผม ลุงก็เป็นแบบนี้ตลอด เหมือนจะดุแต่ก็ใจดี


“ปวดหัวฉิบหาย”



“เอ๊ะ แต่เจิ้นรังแกผมเยอะกว่าที่ผมรังแกเจิ้นแล้วนะ หรือว่า...เจิ้นจะต้องมาขอผมแต่งงาน?”



“นี่ใจคอจะแต่งให้ได้เลย?”



“ก็มันเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษนะ เวลาทำอะไรไม่ดีต่อคนอื่นเราก็ต้องรับผิดชอบ ทีตอนผมรังแกเจิ้นผมก็ยังต้องรับผิดชอบ เจิ้นรังแกผมเขาก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกันแหละ เจิ้นเป็นคนแมนๆด้วย”



“เฮ้อ...ไม่ต้องเป็นหรอกเชฟ ร้านอาหารก็ไม่ต้องเปิด ถ้าแต่งกับเจิ้นจริงๆ ไปหัดนับเงินไป ช่วยเจิ้นเก็บเงินเก็บทองก็พอละ เจิ้นคงไม่ต้องการให้เธอทำอะไรมากหรอก...นี่ไงตำแหน่งที่เจิ้นยังขาด...คนดูแลการเงิน บริหารบัญชีเป็นหรือเปล่าล่ะ? แบ่งรายรับรายจ่าย ออมเงิน บริหารความเสี่ยง”



อันนั้นทำเป็นแฮะ ผมก็เพิ่งให้เจิ้นออมเงินสิบเปอร์เซ็นของรายได้...พอจะใช้เกินก็เอาบิลมาเบิก หรือผมจะเหมาะกับการควบคุมการเงินของเจิ้นจริงๆ?



ผมอาจจะไม่เก่งขนาดช่วยเจิ้นบริหารการเงินของธนาคาร แต่ถ้าเป็นในแฟมิลี่เราผมก็คงทำได้ใช่ไหม? ก็มีแค่เจิ้นกับผม แล้วพี่เลขายังไงก็เป็นคนนอกเจิ้นไม่มีทางไว้ใจเท่าผมหรอก ตอนนี้ผมอาจจะได้ดูแค่พวกซื้อของเข้าบ้าน กับข้าวกับปลา แต่ถ้าผมเก่ง เจิ้นอาจจะให้ผมดูพวกหุ้น การลงทุนของเจิ้น หรือว่าอสังหาริมทรัพย์ที่เจิ้นถือไว้ส่วนตัว เครื่องเพชร งานศิลปะ จะว่าไปเจิ้นก็ชอบประมูลอะไรไม่รู้เยอะแยะ พวกนี้ก็เป็นการสิ้นเปลือง ถ้าผมช่วยเจิ้นควบคุมพวกนี้ ผมไม่มีวันโกงเจิ้นด้วย เจิ้นก็จะวางใจ นี่ไงที่อาจารย์เคยบอกว่ามันมีอาชีพ มันนี่โค้ช อยู่นะ ....ที่ปรึษาทางการเงินของเจิ้น?



ตำแหน่งนี้มันดีมากเลย!!!!







ผมโอเคเห็นด้วยกับคำแนะนำของลุงหยาง แต่ลุงก็บอกว่าพ่อเล่าให้ลุงฟังว่าผมอยากอยู่หอ การไปอยู่คนเดียวมันก็ดี ผมจะได้หัดดูแลตัวเองและบริหารการเงินของตัวเองก่อน พอทำได้ก็ค่อยมาช่วยเจิ้นดูเป็นการฝึกประสบการณ์ ส่วนคนที่จะแนะนำเรื่องนับเงินนับทองต้องไปให้พ่อผมสอน



เพราะลุงหยางก็ให้พ่อเป็นมันนี่โค้ชเหมือนกัน พ่อผมเก่งเรื่องการเงินไม่ต่างจากเจิ้นหรอก ถือว่าลุงหยางเลือกคนถูก พ่อกลับมาตอนเที่ยงผมเลยขอให้พ่อช่วยสอนนับเงิน พ่อบอกว่าคนที่นับเงินเก่งที่สุดคือพนักงานแบงค์



พ่อพาผมไปกดเงินที่ช่อฟ้าสาขาใกล้ๆคอนโดมาสองหมื่น มีทั้งแบงค์พัน แบงค์ห้าร้อย แล้วก็แบงค์ร้อย พ่อมีครีมกระปุกที่มันเหมือนขี้ผึ้งไว้ใช้สำหรับแตะนิ้วนับกระดาษมาให้ด้วย



   ตอนไปเบิกเงินผมก็เห็นพนักงานนับ เขานับเร็วมาก พ่อบอกมันเป็นความสามารถที่พนักงานแบงค์ทุกคนจะต้องทำได้ เก่งจัง... ตอนพ่อรับเงินมาพ่อก็นับแบบนั้นให้ผมดู มันเหมือนจับแค่ขอบแล้วมือก็ขยับแบบออโตเมติค



   ศิลปะของการนับเงิน



   พ่อสอนผมนับ...ซึ่งผมก็นับได้ทีละช้าๆ นับทีติดไปสองแบงค์บ้างไรบ้าง ต่างจากพ่อที่นิ้วแทบไม่กระดิกแต่แบงค์ถูกนับไปอย่างรวดเร็ว ผมใช้เวลาช่วงเสาร์อาทิตย์ที่มาอยู่กับพ่อหัดนับเงินจนมันดีขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังช้าอยู่ถ้าเทียบกับพ่อ



   “เวลาพ่อนับเงินลุงหยางก็นับแบบนี้หรอ”



   “อ่า...ก็ใช่...บางทีคุณสุริยะก็รับเงินจากลูกค้าเป็นเงินสด ก็ต้องนับแบบนี้”



   “จันทร์จะหัดนับเงินให้เจิ้นบ้าง หรือจันทร์ควรเริ่มจากไปเป็นพนักงานแบงค์ก่อนจะได้นับเก่งๆแบบพ่อ”



   “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ฝึกเองบ่อยๆก็เก่งขึ้น ที่พนักงานเขาต้องนับเร็วๆเพราะงานพวกนี้มันแข่งกับเวลาด้วย บางช่วงลูกค้าจะเยอะจนล้น รอนานๆบางคนก็ใช้อารมณ์ พอนับบ่อยๆก็เร็วไปเอง”



   “พ่อก็เคยทำงานแบงค์ไหม”



   “เคยสิ...เจิ้นก็เคย...ถ้าไม่ลองทำงานที่ลูกน้องทำ เราจะบริหารคนได้ยังไงล่ะ? เพราะเราไม่จะไม่รู้ว่าวันหนึ่งลูกน้องต้องเจออะไรบ้าง ลักษณะงานแบบไหน ความกดดันแบบไหน ยิ่งงานที่ต้องเจอลูกค้าบางทีก็ต้องรอบรับอารมณ์คน”



   ผมคิดว่าดีแล้วที่เปลี่ยนใจไม่ไปทำงานแบงค์เพราะผมเป็นคนทำอะไรช้าๆ อาจจะไม่ทันใจลูกค้าก็ได้ โชคดีนะที่ลุงหยางให้คำแนะนำ มาดูแลเงินทองให้เจิ้นน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า



   แต่เงินเจิ้นก็เยอะ...บางทีเขาก็จะนับเงินสดบ้าง พี่ๆเลขาจะช่วยนับ ถึงพี่ๆจะไว้ใจได้แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าวันหนึ่งพี่ๆลาออกแล้วต้องรับคนใหม่ก็ไม่รู้จะดีเหมือนพี่ๆไหม คนนอกมันก็ไว้ใจไม่ได้เท่าคนใน ต่อไปถ้าผมนับเก่งๆผมจะช่วยเจิ้นนับเอง



   ผมปรึกษาพ่อเรื่องที่จะย้ายไปอยู่หอ พ่อไม่ได้ว่าอะไรแต่พ่อแค่บอกว่ามันเป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมอยากจะลองอยู่คนเดียว ถ้างอแงจะกลับบ้านอีกผมก็จะหมดเครดิตความน่าเชื่อถือ



   “จันทร์จะทำให้ได้”



   “ก็ลองคุยกับเจิ้นดู”



   “พ่อช่วยคุยให้หน่อย...น้า”



   “จันทร์โตแล้ว ต้องคุยเอง คุยด้วยเหตุและผลกับเจิ้นดีๆ พ่อเชื่อว่าเจิ้นจะเข้าใจ”



   นอกจากนับเงินแล้วผมก็ต้องฝึกคิดเลขด้วย พ่อกับลุงหยางพาผมไปซื้อพวกแบบฝึกหัดคณิตคิดเร็วเหมือนของเด็กๆมาให้ทำ เมื่อก่อนเจิ้นก็เคยให้ผมฝึกแต่ผมก็งอแงไม่อยากทำ ถ้าไม่งอแงผมน่าจะได้ไปคณิตศาสต์โอลิมปิคก็ได้



   ลุงหยางก็สอนผมกดเครื่องคิดเลข...ลุงหยางก็เก่งคำนวนเหมือนกัน ลุงคิดเลขเร็วมาก พ่อบอกว่าใครๆก็ทำได้กันทั้งนั้น และถ้าผมตั้งใจก็จะทำได้



   เย็นวันอาทิตย์ผมเลยมีแบบฝึกหัดกับเงินปึกใหญ่กลับมาช่อฟ้าด้วย ผมเล่าให้เจิ้นฟังว่าผมอยากเก่งมากขึ้นถึงจะไม่ได้บอกเขาทั้งหมดว่ามันเพราะอยากจะบริหารการเงินให้เจิ้น ผมอยากให้เจิ้นเซอไพรส์ตอนผมเก่งแล้ว ผมอ้างไปว่าอยากเรียนเก่งขึ้นและผมก็อยากทำงานในธนาคาร



   เจิ้นนับเงินแบบขั้นเทพให้ผมดู มันไม่ต่างจากพ่อเลยอ่ะ ผมจะต้องทำให้ได้ไวๆบ้าง ผมขอเจิ้นว่าอยากลองทำงานในธนาคารดู ผมอาจจะได้แลกเปลี่ยนความรู้การบริหารเงินกับคนที่มีความรู้จริงๆ เขารับปากแต่ต้องช่วงผมว่างก่อน



    ผมหัดนับจนกลิ่นเงินติดมือไปหมด แล้วก็ทำแบบฝึกหัดจนหมดเล่ม การเพ่งตัวเลขทำให้ผมปวดตา



มันเหนื่อยแต่ว่าผมจะไม่ท้อเพราะตอนนี้ผมมีจุดมุ่งหมายในชีวิตแล้ว ลุงหยางบอกผมตอนมาส่งที่ช่อฟ้าว่า ความสำเร็จเป็นรางวัลของความพยายาม ผมเพิ่งจะเริ่มมันก็ต้องแบบนี้แหละ ต่อไปผมจะเก่งขึ้นเอง ให้ผมโฟกัสกับจุดหมายของผมให้ดี อย่าลังเล ผมอาจจะนับแบงค์ขั้นเทพจนเจิ้นส่งประกวดนับแบงค์ชิงแชมป์ประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนไปแข่งระดับนานาชาติ ได้เปิดโรงเรียนศิลปะแห่งการนับเงิน ได้ลงกินเนสบุ๊กก็ได้ แต่ก่อนอื่น...ผมจะต้องทำเป็นก่อนนะ



เครียดจากการบวกเลขผมก็เลยชวนคุณป้าแม่บ้านทำหม้อไฟเพราะเห็นโฆษณาเอ็มเคในทีวีแล้วก็อยากกิน คุณป้าแม่บ้านกับผมเลยไปเทอมินอลกันเพื่อซื้อวัตถุดิบ หม้อไฟของเราจะเป็นหม้อไฟแนวสุขภาพไม่ค่อยเน้นเนื้อสัตว์ ผมชอบกินเต้าหู้ปลา เจิ้นชอบกินลูกชิ้นปลาหมึก...เจิ้นหัวปลาหมึกกินลูกชิ้นตัวเอง



“ลูกชิ้นมีอะไรตลกหรอคะคุณจันทร์”



ง่ะ..ผมถือแพคลูกชิ้นแล้วยืนหัวเราะเหมือนคนบ้าเลย




   เราต้มน้ำซุปกันตอนบ่ายหอมฟุ้งไปทั่วห้อง ผมยังไม่เก่งพอจะทำน้ำซุปได้เอง แล้วก็การจัดพวกเครื่องหม้อไฟด้วยว่าต้องเตรียมเท่าไหร่มันถึงจะพอ



   นอกจากจะดูแลการเงินเจิ้นแล้ว ผมก็ต้องดูแลสุขภาพเจิ้นด้วย ผมชอบทำอาหารผมคิดว่าผมจะทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ไหนๆก็เรียนมาตั้งหลายอย่าง ขนมก็เริ่มจะทำเป็น แค่คิดว่าจะได้ดูแลเจิ้นเยอะๆก็มีความสุขจัง



   แล้วเจิ้นจะต้องเป็นคนไปขอผมแต่งงานแล้วนะ เพราะเจิ้นรังแกผมเยอะกว่าแล้ว ผมไม่ต้องกังวลเรื่องยืมเงินของลุงหยางแล้วด้วย ลุงหยาแอบกระซิบว่าพ่อหวงผมมากไม่ยกให้เจิ้นได้ง่ายๆหรอก แต่ผมเสียหายไปแล้วนี่? ถึงจะไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเสียหายเท่าไหร่...แต่ถ้าเสียหายพ่อก็คงยอมให้แต่งง่ายๆมั้ง?



   ไม่รู้เหมือนกัน...ถ้าพ่อไม่ให้แต่งผมจะทำยังไงดี?



   ผมคุยกับเจิ้นเรื่องนี้ก่อนนอน บอกเขาตรงๆว่าตอนนี้คนเสียหายเป็นผมแล้วนะเจิ้นจะทำยังไงต่อ? ผมกลัวมากเลยว่าเจิ้นจะไม่อยากรับผิดชอบผม เพราะผมเป็นฝ่ายไปรังแกเจิ้นก่อน เขาอาจจะโกรธ



   “พี่ก็แต่งกับจันทร์อยู่ดี...เดี๋ยวพี่จะไปขอจันทร์เอง”



   “เจิ้นจะไม่ทิ้งจันทร์ใช่ไหม”



   “พี่จะอยู่กับจันทร์ตลอดไป”



   “จันทร์ก็จะอยู่กับเจิ้นตลอดไป”



   เจิ้นทำให้ผมสบายใจ ดีใจจังที่เรายังได้แต่งงานกัน...ผมยังจำได้นะว่าการแต่งงานคือการที่เราจะอยู่ด้วยกันอย่างถูกต้อง สงสัยที่ผ่านมาผมกับเจิ้นอาจจะอยู่ด้วยกันแบบผิดกฎหมาย เพราะชื่อผมมันไม่ได้ถูกย้ายมาที่ช่อฟ้ากับเจิ้นอ่ะ ไม่รู้เกี่ยวกันไหม แต่ชื่อผมยังอยู่ที่บ้านที่นทบุรีอยู่เลย ผมมาลักลอบอยู่บ้านเจิ้นแหละ



   “เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบถูกกฎหมายสักที”



   “หืม? เราก็ไม่เคยอยู่กันแบบผิดกฎหมายนะ”



   “อ้าว...โอ้ยจันทร์งงอ่ะ”



   ผมอธิบายเรื่องที่ผมเข้าใจสถานการณ์อยู่ด้วยกันของเรา เจิ้นกลับเลิกคิ้วแล้วเขาก็ขำ ผมเริ่มหน้างอเพราะรู้สึกว่าผมต้องเผลอเข้าใจอะไรผิดๆแล้วมันก็คงจะดูตลกแน่ๆ



   “การแต่งงาน...คือการที่เราจะเป็นคนรักกันอย่างเป็นทางการ และคนอื่นรับรู้ว่าเรารักกัน ตอนนี้เราก็รักกันแต่คนอื่นไม่รู้ เขาก็เข้าใจว่าจันทร์ไม่ได้รักพี่ แล้วพี่ก็ไม่ได้รักจันทร์”



   “แต่จันทร์รักเจิ้นนะ เจิ้นรักจันทร์เหมือนกันใช่ไหม? แบบว่าเราเข้าใจตรงกันเนอะ”



   “ใช่...พี่รักจันทร์....เราใจตรงกัน”



   คำว่ารักของเจิ้นฟังดูเพระจัง ผมเลยยื่นหน้าไปจุ้บปากเจิ้นเป็นรางวัลเด็กดี แต่เจิ้นก็แรงเยอะกว่าพลิกผมนอนลงกับเตียง



   “อื้อ...ห้ามเข้ามานะเจิ้น...จันทร์ไม่ให้นะ”



   “ไม่ให้จริงหรอ?”



   “มะ ไม่ให้นะ...อื้ออ อย่ากัดนะ”



   ผมพยายามจะห้าม...แต่มือเจิ้นก็ยุบยิบไปหมด ชุดนอนของผมถูกจนปลดกระดุมออก แล้วเขาก็กัดนม... เจิ้นชอบกัดนมผม...ดูด...บางทีก็เลีย ทำเหมือนกับนมผมเป็นจูปาจุ๊บ 



   “งื้ออออ เจิ้นนนนน”



   “พี่กัดนิดเดียว”



   ปากของเจิ้นขยับต่ำลงไปที่หน้าท้อง เสียงคัดค้านของผมมันไม่เข้าหูเจิ้นเลย พอจะดันออกข้อมือก็ถูกเจิ้นล็อคไว้...แล้วพอโดนเจิ้นกัดที่ข้างเอวผมก็หมดแรง



   ไม่ได้อยากให้เจิ้นยุบยิบนะ แต่พอโดนกัดเยอะๆผมก็หมดแรงไปเอง...มันเหมือนมีอะไรร้อนๆพองอยู่ข้างในตัวที่ทำให้สมองผมเบลอ ยังไม่ทันจะสลัดความงงเหล่านี้ออกไปเจิ้นก็ขยับขึ้นมากัดหู...



   “จันทร์ของพี่...”



   แล้วเจิ้นก็เขามา...มันเจ็บ เจ็บจนร้องไห้ แต่เจิ้นก็ไม่เอาออกไป เขาหยุดรอให้ผมเริ่มจะชินกับตัวเขาและ...เขาก็เข้ามาจนสุด เจิ้นไม่ใจดีเลย ไม่ออมแรงด้วย พอเข้ามาจนหมดเขาก็กระแทกผม



   น้ำตาผมไหลพรากแล้วมันก็ไม่หยุดด้วย ความเจ็บปะปนไปกับความรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะบินได้ ผมเห็นขาตัวเองบนไหล่เจิ้น เห็นแววตาเจิ้นที่เหมือนจะมีลูกไฟอยู่ข้างใน



   เจิ้นเสยผมยาวของตัวเองขึ้น...ทำให้ผมเห็นเขาชัดๆ แผ่นอก...หน้าท้อง...และสิ่งที่เจิ้นเอาเข้ามาในตัวผม จากมุมนี้เจิ้นเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ เขาน่ามอง...ทำให้ผมละสายตาไปไม่ได้เลย



   “จูบ...จูบจันทร์”



   ผมอยากจูบเจิ้นแบบไร้สาเหตุ ก็แค่อยากแตะต้อง อยากสัมผัสเจิ้น นิ้วของเจิ้นเหมือนมีมนต์วิเศษไม่ว่าเขาสัมผัสผมตรงไหนก็เหมือนผมจะละลาย



   “เรียกชื่อพี่....ศศิมณฑล”



   “เจิ้น...อะ...”



   “เรียกอีก...”


   “เจิ้น ...เจิ้น”



   “เด็กดี...”



   ผมต้องเสพติดความรุนแรงไปแล้วแน่ๆ เพราะพอเรียกเจิ้นเยอะๆผมก็โดนกัด แล้วผมก็ชอบให้เจิ้นกัด เขากัดจนข้างในตัวผมเต็มไปด้วยน้ำ...แต่เจิ้นก็ไม่ยอมเลิกยุบยิบ ผมโดนเจิ้นจับให้นอนคว่ำแล้วเขาก็ตี



   ละ แล้ว...ผมชอบให้เจิ้นตีด้วย



   เจิ้นทั้งตี...ทั้งเข้ามา ตัวผมมันไม่เป็นตัวเอง มันควบคุมไม่ได้ ผมทำได้แค่ร้องไห้แล้วก็เรียกร้องกับเจิ้นเยอะแยะไปหมด



   “จันทร์รุนแรงอีกแล้ว ฮึก...”



   “เปล่า...มันเป็นร่อยรองของความรัก...เหมือนที่จันทร์กัดพี่ตรงนี้ อยากกัดอีกไหม? หรืออยากให้พี่กัด?”



   “อยากให้เจิ้นกัด...ได้ไหม”
   






หลังจากผมเดินไม่ได้ไปหนึ่งวัน ผมก็รวบรวมความกล้ามาขอเจิ้นไปอยู่หออีกครั้ง ผมไม่อยากคุยกับเจิ้นเรื่องขอนี้ที่บ้านเพราะเรื่องนี้จริงจังมากต้องมานัดคิวเจิ้นพี่เลขา แต่พอเอ่ยปากเจิ้นก็สวนกลับแบบไม่ทันให้ผมได้อธิบายเลย



“ไม่”



“จันทร์อยากลองอยู่คนเดียวแบบคนอื่นๆบ้างอ่ะ จันทร์ซักผ้าได้แล้ว รีดผ้าก็ใกล้จะเรียบแล้ว แล้วก็อุ่นนมได้ ทำกับข้าวได้ จันทร์ดูแลตัวเองได้แล้วจริงๆนะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว จันทร์โอเค จันทร์เอาอยู่”



ผมพยายามทำหน้าจริงจังให้ได้มากที่สุด จะต้องไม่อ้อนเจิ้นเพราะมันจะดูเด็ก เรากำลังคุยเรื่องที่เป็นการเป็นงานผมก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เจิ้นให้ได้



“พี่จะไม่เสี่ยงอีก คราวก่อนก็ไม่ไหว”



“แต่จันทร์อยู่สิงคโปร์เองได้แล้วนะ”



“นั่นเพราะมีคนอยู่ด้วย จันทร์อาจจะคิดไปเองว่าไหว แต่จริงๆแล้วไม่ใช่”



เจิ้นยังคงเสียงแข็ง แต่เรื่องนี้ผมจะไม่ยอม เจิ้นจะเห็นผมเป็นเด็กตลอดไปไม่ได้ แรกๆเจิ้นก็อาจจะกังวลอย่างนี้แหละ แต่อยู่ๆไปเจิ้นก็จะชินเองแล้วก็แบบว่า ว้าวววว ผมเก่งจังเลย ไม่น่าเชื่อเลยยยย เซอร์ไพรส์มากกก อะไรอย่างนั้น



   “ให้จันทร์ลองก่อน ถ้าไม่เวิร์คจันทร์สัญญาว่าจะไม่พูดเรื่องอยู่คนเดียวอีกเลย นะ เจิ้นนะ ให้จันทร์ไปอยู่หอนะ จันทร์สัญญาว่าจะไม่เหมือนครั้งแรก มันจะโอเค”



   ถามว่าผมอยากไปไหม...ก็ไม่ได้อยาก ผมคงคิดถึงเจิ้นมาก คิดถึงคุณป้าแม่บ้านด้วย แต่ผมก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง และคราวนี้ผมต้องทำให้ได้ ผมจะต้องเป็นผู้ใหญ่ ต้องหัดบริหารการเงินตัวเองให้ได้ ตอนนี้ผมมีจุดหมายที่พอจะจับต้องได้แล้ว



   ผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าผมดูแลตัวเองได้ ไม่ได้งอแงเหมือนตอนปีหนึ่งอีก ผมอายุ 20 เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น และวันหนึ่งผมก็จะดูแลเจิ้นได้เหมือนกัน



“จะไปให้ได้ใช่ไหม?”



   “เจิ้น...จันทร์จะกลับบ้านทุกวันศุกร์นะ แล้วก็จะโทรหาเจิ้นทุกวันนะ”



   “พี่คงนอนไม่หลับ”



   เจิ้นมักจะนอนไม่หลับถ้าไม่มีผมนอนด้วย เขาพูดทุกครั้งที่เราต้องห่างกัน...ผมก็ไม่ต่างกับเจิ้นหรอก มันชินแล้วที่เราจะต้องนอนกอดกัน อย่างตอนไปสิงคโปร์ก็ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าผมจะเคยชินกับการไม่มีเจิ้น



   “เดี๋ยวก็จะชิน”



   “พี่ต้องชินกับการไม่มีจันทร์?”



   คำพูดของเจิ้นทำผมอยากจะร้องไห้ นั่นสิทำไมเราต้องชินกับการที่จะไม่มีกันด้วย มันไม่ควรชินนะเพราะเราจะมีกันไปตลอด หรือการไปอยู่หอจะเป็นการตัดสินใจที่ผิด? แต่คนอื่นก็อยู่กัน...หรือว่ามันก็ไม่ควรจะต้องทำตามคนอื่น



   “จันทร์...จันทร์ไม่รู้แล้ว ...จันทร์ก็ มะ ไม่ได้อยากห่างเจิ้นนะ”



   “จันทร์กำลังจะห่างพี่”



   “ง่ะ ห่างกันสี่สิบนาทีเอง นะ เชื่อจันทร์นะ จันทร์รักเจิ้นที่สุดในโลก เท่าๆกับสินเชื่อเลย อ่ะมากกว่าสินเชื่อนิดนึง”



   ผมลุกเดินอ้อมโต๊ะไปกอดเจิ้น



   “ไหนว่าคุยจริงจัง แล้วทำไมคุณศศิมณฑลเดินมากอดผมล่ะครับ?”



   “คุณศศิมณฑลอยากกอด ขอกอดไม่ได้หรอ ทำไมขี้หวงล่ะ ทีเจิ้นมากอดก่อนคุณศศิมณฑลยังไม่หวงเลยนะ”



   เจิ้นหลุดขำแล้วก็รั้งเอวผมไปนั่งตัก เขายอมให้ผมไปอยู่หอแต่ก็บ่นผมเยอะมากแถมขู่ด้วยว่าถ้าร้องไห้กลับบ้านคราวนี้นะจะไม่ให้ไปไหนอีกเลย งดไอติม งดกันดั้ม งดการ์ตูน งดขนม เหมือนโดนขังลืมไปเลย



   “ไม่ให้นอนกอดด้วย”



   “งั้นตอนนี้ขอกอดก่อนนะ เผื่อจันทร์ไม่รอด โดนทำโทษจะไม่ได้กอด”



   ผมกอดเจิ้นหนุบหนับ ผมคิดว่าเจิ้นจะใจอ่อนแล้วแต่ไม่...เขาดันตัวผมออกแล้วยกยิ้มร้ายกาจ ยิ้มที่ผมไม่เคยเห็น มันทำให้ใจผมร่วงไปกองกับพื้น



   “จันทร์จะได้สิ่งที่จันทร์ขอ แต่พี่ก็มีเงื่อนไขในการให้”




---------------------------------------------------------- จบภาค The Emperor...จักรพรรดิ -------------------------------------------


จบภาคแล้วจ้า <3 ตัดที่ตรงนี้เลย อิอิ

The Emperor แปลว่า จักรพรรดิ ตั้งตามเจิ้นที่มีดวงชะตาจักรพรรดิค่ะ




มูนนี่มีเป้าหมายในชีวิตแล้ว ไม่รู้คราวนี้จะรุ่งหรือจะร่วงหรือจะล่มอีกนะคะ 55555+ ให้กำลังใจมูนนี่ด้วยนะ อยากจะฮุบสมบัติพี่เจิ้นซะแล้ว ลุงหยางก็เหลือเกินนน แนะนำน้องดีมาก แกล้งเจิ้นทางอ้อมไปอี้กกกก



เราจะทำการส่งส่วนนี้ไปพิมพ์ก่อน ตอนพิเศษเดี๋ยวขอปรึกษาทาง บก. อีกทีว่าจะให้จบทุกภาคก่อนค่อยลงตอนพิเศษหรือว่ายังไงน้า ทุกอย่างมันยังไม่คอนเฟิร์ม 100% จะอัพเดทผ่านหน้าเพจเป็นระยะค่ะ



ส่วนทวิตเตอร์.... ก็เพ้อเจ้อซะส่วนใหญ่ ใครไปฟอลอาจจะรำคาญ แนะนำทางแฟนเพจนะคะ อิอิ
ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ




แล้วเจอกันต่อในภาคหลัง .... The Empress ...จักพรรดินี

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สมัครเป็นสนมไปทางไกนคะ อยากเสนอตัวไปรับใช้นายท่านทั้งสองมากเลยค่ะ คิคิ

ออฟไลน์ IamLonelygirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จบภาคแรกแล้วว
เจิ้นนมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรรน้าาา
สะดุดประโยคนี้นั่งขำนานมากค่าา


“ก็ลองพยายามเพื่อนอนาคตตัวเองไง คิดถึงตัวเองบ้าง หายใจเข้าก็เจิ้น หายใจออกก็เจิ้น ไปโดนเขารังแกแล้วยังไปยอมเขาอีก”



“ก็ขัดขืนแล้วอ้ะ...จริงๆผมอยากเป็นฝ่ายเข้าไปในตัวเจิ้นมั่งแต่เจิ้นก็ไม่ยอมทุกที แล้วมันก็เจ็บ เฮ้อ...”

ฮาาาาาาาาาาาา ตลกมากกก จันทร์ตลกกกกก
จะรอติดตามต่อไปค่าาาา
คนเขียนสู้ๆ

ออฟไลน์ supermyrainbow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอซื้อเลย สนุกมาก
ชอบความสม่ำเสมอในการอัพนิยาย
ติดตามตอนต่อไป  :-[

ออฟไลน์ Zestful

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลูกกระต่ายนี่เชื้อไม่ทิ้งแถววว ชอบโดนกัดชอบโดนตีเหมือนพ่อไม่ทีผิดเลยยยยยยย  :-[

ออฟไลน์ ladiiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอๆๆๆ อยากได้หนังสือ รอภาคต่อไปด้วยยย
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เงื่อนไขอะไรกันนะ รอฟัง :hao7:
//ชอบยิ้มร้ายกาาจของเจิ้นจริงๆ

ออฟไลน์ dreammed46

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบลุงหยางมากอ่ะ
แย่งซีนเจิ้นสุด
นี่พระเอกป่ะคะเนี่ย
555555555555

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ตอนมูนนี่ปรึกษาลุง เรานี่เห็นภาพลุงหยางถลึงตาใส่เลย...กร๊ากกกก

โถถถถ ลูกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด