มีคนทายชื่อพระเอกเข้ามาเยอะเลย
ทุกคนทายถูกว่าชื่อต้องขึ้นด้วยตัว ก.
ใช่แล้ว! ชื่อของพระเอกเรื่องนี้คือ!!
กุ๊ก...ก็บ้าละ 555_______________________
ตอนที่5
“ฝาแฝดเหรอ!!!”
ผมกับเพื่อนแหกปากด้วยความตกใจถึงขีดสุด คอหอยแทบหลุดกระเด็นออกทางรูจมูก เชี่ยยย ผมโคตรจะตกใจจริงๆนะเห้ย
โลกเรามีคนหน้าตาระดับนี้ถึงสองคนเลยเหรอ!!
“ใช่จ้า สองคนนี้เขาเป็นแฝดกัน คนที่เรียนคณะแพทย์ ปี5มอเราคือพี่กิตต์คนนี้”พี่เฟิร์นชี้ไปยังร่างสูงที่เพิ่งเดินเข้าร้านมาใหม่ ก่อนปรายตามองฝาแฝดอีกคนที่เอาแต่ส่งยิ้มแห้งๆมาให้ผมมาตั้งแต่เมื่อกี้”ส่วนคนที่ก่อหนี้ก่อสัมพันธ์ต่างต่างนานากับน้องนิทานไว้ก็คือหมอนี่
พี่กาจน์ พี่ชายฝาแฝดของพี่กิตต์ ทั้งสองคนเรียนคนละมหาลัยกัน ถ้าไม่สนิทกับพี่กิตต์จริงๆก็ไม่มีคนรู้หรอกว่าพี่กิตต์มีพี่ชายฝาแฝด”
“แฮ่ พี่ชื่อกาจน์ ยินดีที่ได้รู้จักครับทุกคน”
“สะ สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”แก๊ป อัท อร แจร เอ่ยพร้อมกันด้วยระบบออโต้อีกครั้ง ส่วนผมกลับนั่งจ้องหน้าพี่กาจน์นิ่งๆ
ผมกำลัง...
โกรธ
“เห้ย ไอ้นิทาน มึงจะไปไหน!?”อัทร้องเสียงหลงเมื่อผมยืนขึ้นด้วยใบหน้าตึงๆ
“ห้องน้ำ!”ผมกระแทกเสียงตอบด้วยความไม่พอใจ ที่จริงผมไม่ได้อยากไปห้องน้ำหรอก แค่ไม่อยากให้เพื่อนกรูตามมาทั้งขโยงก็เลยตอบปัดๆไปงั้น ผมก็แค่ไม่อยากเห็นหน้าพี่กิตต์ เอ๊ย พี่กาจน์ เออ ที่จริงก็หน้าเหมือนกันทั้งคู่นี่หว่า แม่ง ไม่อยากเห็นทั้งคู่นั่นแหละ
คงสนุกมากสินะ ปลอมตัวสลับกับฝาแฝดเที่ยวหลอกชาวบ้านน่ะ
ตอนเด็กๆผมเคยคิดเล่นๆนะว่าถ้ามีแฝดผมจะให้อีกคนนึงไปเรียนแทนผมหรือไม่ก็แอบสลับตัวกันทำอะไรสนุกๆตอนที่เป็นตัวเอง
แล้วทำไม่ได้
แต่พอเจอกับตัวแล้วแม่งอย่างจี๊ดเลย!!
หมับ!
หมาที่ไหนวิ่งมาจับมือผมวะ ห๊า!!
“นิทาน! นิทานจะไปไหน!! พี่ขอโทษ”
หมากาจน์นี่เอง วิ่งหอบแห่กๆมาเลย
“ห้องน้ำไง!”
“แต่นิทานเดินเลยห้องน้ำมาสองห้องแล้วนะ”
“ผ...ผมไม่เห็น!!”ทำไมผมต้องรู้สึกหน้าแตกตอนกำลังโกรธจัดแบบนี้ด้วยวะ ทั้งความโมโหทั้งความอับอายแม่งตีเลือดขึ้นมาอออยู่บนหน้าผมจนร้อนผ่าวไปหมดแล้วเนี่ย
“พี่รู้ว่านิทานกำลังโกรธ พี่เลยตามมาขอโทษ ยกโทษให้พี่ได้มั้ย”
“พี่เล่นสนุกกับความโง่ของผม ทำให้ผมเสียหน้าต่อหน้าเพื่อนทั้งกลุ่ม”ผมสะบัดมือที่จับไว้ออก เปลี่ยนมายืนกอดอกยืนจังก้ามองหน้าอีกฝ่ายแทน”พี่เฟิร์นรู้เรื่องหนี้ของเราแสดงว่าพี่ไปเตี๊ยมพี่เฟิร์นให้ทำเหมือนว่าพี่กาจน์คือพี่กิตต์เวลาอยู่ต่อหน้าผม พี่เฟิร์นถึงได้หัวเราะทุกครั้งที่เจอหน้าผม”
“พี่ขอโทษ”
“ผมก็นึกคาใจอยู่ว่าคนดังระดับพี่จะลดตัวลงมาเล่นกับเด็กปี1โนเนมอย่างผมทำไม ที่แท้ก็หาใครก็ได้มาหลอกเล่นเอาสนุก”
“ไม่ใช่นะนิทาน ฟังพี่ก่อนเหอะ ไปกันใหญ่แล้ว”
“ฟังก็ได้ ตอบผมมาสิว่าทำไมต้องหลอกผมว่าเป็นพี่กิตต์ด้วย”
“เพราะพี่...”พี่กาจน์สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดจากนั้นก็ผ่อนออกมาช้าๆเหมือนประวิงเวลาเพื่อรวบรวมอะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างๆคล้ายจะเป็นความกล้า
“พี่ไม่กล้าเป็นตัวเอง”
“หืม ผมไม่เข้าใจ ขยายความได้มั้ยครับ”ความโกรธสงบลงแล้ว ผมเอียงคอลงเพื่อสบตากับอีกฝ่ายซึ่งยืนก้มหน้าอยู่ นัยน์ตาของพี่กาจน์เป็นสีเทาเข้ม เหมือนสีของกองฟืนที่ถูกเผาจนมอดเป็นขี้เถ้า ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุดบนใบหน้าอีกฝ่าย แต่ตอนนี้มันฉายแววเศร้าๆยังไงชอบกล
“พี่มาแกล้งผมทำไมครับ ที่มหาลัยนู้นไม่มีเพื่อนเล่นเหรอครับ”
“อืม ไม่มี”
อ้าว ชิบ ดราม่าซะงั้น และดูเหมือนจะไม่มีจริงๆตามที่พูดซะด้วย ดูทำหน้าเข้า โอ๊ยยย สงสาร ใจอ่อนยกโทษให้ก็ได้วะ
“งั้นพี่กาจน์อยากเป็นเพื่อนกับนิทานมั้ยครับ”ผมถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“ได้เหรอ”
“ได้ครับ แต่พี่กาจน์ต้องจำไว้นะครับว่าการโกหกเพื่อนเป็นสิ่งไม่ดี ทำน่ะทำได้ครับ แต่ถ้าความลับแตกเมื่อไหร่เพื่อนจะเสียความไว้ใจนะครับ”ใครเป็นพี่ใครเป็นน้องล่ะครับงานนี้ พี่กาจน์ที่แก่กว่าผมสี่ปีพนักหน้าหงึกๆอย่างว่านอนสอนง่าย งุบงิบเสียงแผ่วว่าขอโทษ
“ดีมากครับ งั้นเริ่มจากแนะนำตัวกันก่อนเนอะครับ ตอนนี้พี่ยังเรียนอยู่รึป่าวครับ หรือว่าจบแล้ว?”พี่กิตต์อยู่ปี5แล้วนี่นะ ฝาแฝดของพี่กิตต์ถ้าเรียนคณะที่4ปีจบตอนนี้ก็คงทำงานแล้ว
“เรียนสถาปัตย์ อยู่มอT ปี5”
“อ้อ ปีสุดท้ายแล้วสินะครับ”
“อืม”
ผมพยักหน้าหงึกๆขณะรับข้อมูลของอีกฝ่าย
“อาทิตย์หน้าพี่มีแข่งบาสกับวิศวะ มาดูได้มั้ย”
“หือ อะไรนะครับ หมายถึงชวนผมเหรอ”ผมชี้ตัวเองงงๆ
“ใช่ ไม่ต้องชวนเพื่อนมาก็ได้แค่มาดูพี่ สอบเสร็จวันศุกร์เช้าใช่มั้ย พี่แข่งวันเสาร์”
“ครับ”
“ครับคือมาดูได้ใช่มั้ย”
“ครับ”
“เอาเบอร์มาสิไว้ค่อยนัดอีกทีว่าจะให้รับที่ไหน ป่านนี้เพื่อนเป็นห่วงกันแย่แล้วโดยเฉพาะคนชื่ออัท ดีนะที่เมื่อกี้พี่วิ่งแซงมาได้ไม่งั้นป่านนี้อัทหานิทานเจอก่อนพี่แล้ว ฮ่าๆๆ”
พวกเราแลกเบอร์กันก่อนที่แอพไลน์จะแอดพี่กาจน์เป็นเฟรนด์อัตโนมัติ
รูปโปรของพี่กาจน์เป็นรูปพระอาทิตย์กำลังตกดิน ดูเหมือนพี่เขาจะถ่ายเองนะ แต่ที่สะกิดใจผมก็คือแคปชันที่เจ้าตัวตั้งไว้
Just close your eyes, the sun is going down
เมื่อผมกับพี่กาจน์กลับมาในร้านพร้อมกันพวกที่เหลือก็พากันถอนหายใจโล่งอก ผมตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทิ้งตัวลงนั่งข้างแก๊ปเหมือนเดิมส่วนพี่กาจน์ก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างผมเพราะที่เก่าของเจ้าตัวโดนพี่กิตต์แย่งไปแล้ว
“เยี่ยวนานนะมึง”เสียงนกเสียงกาของอัทกล่าวลอยๆในร้านที่เงียบสนิท เชื่อว่าทุกชีวิตในร้านได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ผมเห็นอรกับพี่เฟิร์นแอบอมยิ้มมุมปาก ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกเขินขึ้นมาดื้อๆ ก่อนมือถือในกระเป๋ากางเกงจะสั่นอีกครั้ง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครส่งข้อความมาหา
AUT_T: พี่กิตต์ไม่ได้กำลังจีบมึง
Nithan: ก็เออดิ กูบอกมึงกี่รอบละสัส
AUT_T: แต่พี่กาจน์กำลังจีบมึง คราวนี้กูมั่นใจมากๆ
Nithan: มึงพลาดอีกรอบละอัท กูมั่นใจกว่าเก่าอีกว่าพี่กาจน์ไม่ได้จีบกู
AUT_T: วิ่งตามออกไปง้ออย่างกับละครขนานนั้นเพื่ออะไรถ้าไม่จีบ?
Nithan: ไม่รู้ดิ กูอาจจะหน้าเหมือนแฟนเก่าพี่เขาก็ได้ 55555
_________________________
โหยยยยยยยยย หาาาาาา ความรักความเมตตา
หลังจากมีชื่อเป็นของตัวเองพระเอกของเราก็รีบเรียกคะแนนสงสารจากน้องนิทานใหญ่เลย
เห็นใจเขาหน่อย เป็นพี่กิตต์อยู่ตั้งนาน 555
คุณเจ้าชายต้องห้ามของเราชื่อ กาจน์ อ่านว่า กาด นะคะ
พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์
พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์
พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์ พี่กาจน์
#พยามปลูกฝังชื่อพระเอก