ตอนที่10
“ครับ ใช่ครับ ตอนนี้พี่กาจน์อยู่ที่หอผม”ขณะนี้ผมกำลังโทรรายงานพี่เฟิร์น ปล่อยให้เด็กสถาปัตย์เขานั่งทำงานของเขาไป ผมเดินออกมาคุยกับพี่สาวคนสวยที่ระเบียง ได้ยินเสียงเธอหันไปบอกกับแฟนของเธอด้วยว่าพี่ชายฝาแฝดของเขาสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง
แหมๆ ไหนบอกว่างานยุ่งไงครับพี่กิตต์ ทำไมถึงอยู่กันสองต่อสองดึกดื่นขนาดนี้
“ขอบคุณมากนะนิทาน ช่วยพวกพี่ได้มากๆเลย”“ไม่เป็นไรครับ พี่กิตต์ติดหนี้บุญคุณผมไว้แล้ว ไว้ผมป่วยเมื่อไหร่จะไปให้รักษาฟรีนะครับ”ผมเอ่ยกลั้วหัวเราะ ไม่อยากให้บรรยากาศมันซีเรียสนักเพราะผมกำลังจะโยงเข้าเรื่องสำคัญ”พี่เฟิร์นครับ ผมขอถามอะไรพี่อย่างนึงได้มั้ย”
“ว่ามาสิ”“เคยเกิดอะไรขึ้นกับพี่กาจน์ครับ ทำไมทุกคนถึงเรียกพี่เขาว่าเจ้าชายต้องห้าม ทำไมพวกพี่ต้องเป็นกังวลเรื่องที่พี่เขากลับบ้านดึกๆติดกันหลายวัน...ยังไม่รวมเรื่องที่พี่กาจน์ไม่อยากให้คนในมหาลัยเห็นหน้าผมอีก”
ผมถามสิ่งที่รบกวนจิตใจมานานออกไป ปลายสายเงียบหายไปนานมากจนผมต้องเลื่อนมือถือมาเช็คหน้าจอว่าเธอวางสายไปแล้วหรือยัง เธอยังถือสายอยู่อย่างนั้นแต่ไม่ยอมตอบอะไรกลับมา ไม่รู้ว่าเธอกำลังชั่งใจว่าจะเล่าให้ผมฟังดีมั้ยหรือกำลังหันไปปรึกษาแฟนคนเก่งของเธอ
“ทะ ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ มันก็...ดูปกติดีนี่”ตอบแบบนี้แสดงว่าไม่อยากจะเล่า
“เล่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ผมแค่อยากรู้เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง พวกพี่ทำตัวแปลกๆจนผมอดคิดไม่ได้ว่าผมไปหน้าเหมือนแฟนเก่าพี่กาจน์เขารึป่าวทุกคนถึงได้ชงผมไปหาพี่เขาซะขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆ”ผมหัวเราะได้จืดสนิทยิ่งกว่าแกงจืดลืมใส่คนอร์ ส่วนปลายสายก็หัวเราะกลับมาอย่างฝืดคอ น้ำเสียงของของหล่อนฟังดูแห้งแล้งเสียจนผมอยากจะแบ่งต้มจืดจืดๆของผมให้กลั้วคอ
เอาจริงๆผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่กาจน์กับแฟนที่เจ้าตัวบอกว่าเจอกันครั้งแรกที่ชลบุรีเลิกกันรึยัง เคยได้ยินแค่ว่าแฟนของพี่กาจน์น่ารักมากๆและทั้งคู่คบกันตอนปี1 ช่วงก่อนที่พี่กาจน์จะเปลี่ยนไป ผมจึงสันนิษฐานว่าแฟนคนนั้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับที่มาของฉายาเจ้าชายต้องห้ามไม่มากก็น้อย
แค่หลอกถามส่งๆแต่ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าทั้งคู่เลิกกันแล้ว
“คิดมากน่านิทาน หน้าเหมือนแฟนเก่าอะไรกัน ไม่ใช่หรอก ไม่เหมือนแน่ๆ พี่มั่นใจ ฮาๆ...ๆ...ๆ”“ผมยอมเชื่อก็ได้ แต่พี่เฟิร์นช่วยบอกผมหน่อยได้มั้ยว่าทำไมพี่กาจน์ถึงเลิกกับแฟนครับ?”
“ถะ ถาม ปะ ไปทะทะทำไม เหรอนิทาน มันไม่มีอะไรไง...”พี่เล่นติดอ่างซะขนาดนี้ผมคงเชื่อลงหรอกนะ แต่ในเมื่อเผือกมาซะขนาดนี้ผมจะกลับไปมือเปล่าก็คงไม่ได้
“เผื่อผมมีใจให้พี่กาจน์ผมจะได้รู้ไว้ไงครับ เรื่องรักครั้งก่อนที่ฝังใจพี่เขา”ลงทุนเดินทางไปรำลึกความหลังในที่แบบนั้นถ้าไม่เรียกใจฝังใจแล้วจะให้เรียกว่าอะไรได้ล่ะ
พี่เฟิร์นหายไปอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่นานเพราะผมได้ยินเสียงของพี่กิตต์ดังแว่วเข้ามาในสายว่า ‘บอกน้องไป’
“แฟนเก่าพี่กาจน์เขา...เสียแล้ว” คำตอบของพี่เฟิร์นนั้นแผ่วเบาราวกับเจ้าตัวไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะเอ่ยถึงเรื่องนี้จริงๆ และนี่เป็นคำตอบที่ผมคาดไม่ถึง รู้สึกช็อคจัดไปเลย กระทั่งกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่นั่นแหละผมถึงหาเสียงตัวเองจนเจอ
“ขอโทษครับ ไม่น่าถามเลย”เพราะความขี้เผือกของผมล้วนๆเลย ผมรู้สึกแย่มากๆเหมือนไปสะกิดโดนแผลเก่าของพี่ๆที่ยังไม่แห้งสนิทเข้าอย่างจัง
ผมตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องเพราะเสียมารยาทมามากพอแล้ว
ทว่าพี่สาวปลายสายกลับพูดอะไรบางอย่างออกมา
อะไรบางอยู่ที่ทำให้ผมรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
“...ถูกฆ่าตาย”ใคร...ใครเป็นคนฆ่า แล้วทำไมถึงต้องฆ่า คำถามทั้งสองนี้วนเวียนอยู่ในหัวผมไม่สิ้นสุด
พี่เฟิร์นขอตัววางสายไปแล้วในขณะที่ผมยังคงยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง
มันก้าวขาไม่ออก ตัวแข็งไปหมด
เข้าใจแล้วว่าอะไรที่ทำให้พี่กาจน์เสียศูนย์ได้ขนาดนี้
ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าผมจะตระหนักได้ว่าตัวเองถูกยุงกัดเป็นสิบตุ่มจนคันคะเยอไปหมดทั้งตัว ผมค่อยๆเลื่อนบานประตูระเบียงเข้าไปในห้อง เห็นร่างสูงที่กำลังขะมักเขม้นกับงานของตัวเองอยู่แล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดในอกแปลกๆ พี่กาจน์ได้ยินผมเข้ามาในห้องเขาเลยเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้
“คุยนานจัง”
“อะ เอ่อ แม่เอาแต่นินทาพ่อไม่หยุด ผมจะวางก็วางไม่ได้น่ะครับ คุยยาวเลย แฮ่ๆ”ผมโกหกคำโตแต่อีกฝ่ายไม่นึกติดใจสงสัย
พี่กาจน์ยังคงส่งยิ้มตามแบบฉบับมาให้”จะนอนเลยมั้ย ปิดไฟได้นะ พี่ใช้โคมเอา”เสียงของพี่กาจน์ยังคงอ่อนโยนกว่าเสียงของพี่กิตต์ดังเดิม ทั้งๆที่เนื้อเสียงเหมือนกันราวกับแกะแต่น้ำเสียงของคนตรงหน้ามันทำให้ผมอบอุ่นหัวใจได้มากกว่า
“ไม่ดีกว่าครับ ผมขอนั่งข้างๆได้มั้ย”
“หืม? ได้สิ”คนฟังเลิกคิ้วกับคำขอประหลาดของผมแต่ก็ไม่คิดจะซักไซร้ว่าผมเป็นอะไรผมจึงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่เขา คราวนี้นั่งใกล้กว่าครั้งไหนๆ เป็นระยะที่ขยับแขนแม้เพียงเล็กน้อยชายเสื้อก็สัมผัสโดนกันได้
“มีเรื่องอะไรลำบากใจปรึกษาพี่ได้นะ”เมื่อครู่ผมบอกว่าแม่นินทาพ่อให้ฟังด้วยใบหน้าเจื่อนๆ พี่เขาคงตีความไปว่าที่บ้านผมกำลังมีปัญหาเลยอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“เปล่าครับ แค่อยากอยู่ข้างๆพี่เฉยๆ”
“...”
“ได้มั้ยครับ”
“ได้สิ พี่ชอบ”รอยยิ้มเล็กๆถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากผู้พูด เป็นรอยยิ้มสุขใจที่ทำให้ผมใจชื้นขึ้นเป็นกอง
“ทำไมพี่ถึงให้ผมพิเศษกว่าคนอื่นล่ะครับ คือ...ผมหมายถึง...ที่ว่างระหว่างเรา”
ผม...ไปเหมือนใครในความทรงจำของพี่รึป่าวครับ ความสัมพันธ์ของพวกเราถึงก้าวหน้าเร็วทั้งๆที่ควรเป็นแค่คนแปลกหน้าที่เจอกันครั้งแรกและครั้งเดียวในร้านอาหาร
ผมไม่อยากมีส่วนไหนไปเหมือนแฟนเก่าของพี่เลยครับ
ได้โปรดตอบผมมาทีเถอะว่าพี่มองเห็นอะไรในตัวผม
“จมูกกับตาของนิทานเหมือนแม่พี่ มันเหมือนมากๆ”ไม่พูดเปล่าเขายกมือขึ้นมาสัมผัสปลายจมูกของผมอย่างแผ่วเบา ใบหน้าหล่อเหลาประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะที่พวกเราสบตากันในระยะใกล้
“...”
“อยู่ด้วยกันแล้วพี่ไม่รู้สึกว่ากำลังอยู่กับคนอื่น”
“จริงเหรอ!”ผมโพล่งถามออกไปด้วยความดีใจ ใช่ ดีใจมากๆที่พี่เขาตอบว่าผมเหมือนแม่
“อืม เหมือนมากๆ แถมนิสัยยังเหมือนด้วย แม่พี่เป็นคนใจดี ขี้เป็นห่วง เหมือนเราเปี๊ยบ”ไม่พูดเปล่า เอามือมายีหัวผมซะยุ่ง
“เดี๋ยวเถอะพี่ ผมเสียทรงหมด”
“จะนอนอยู่แล้วจะห่วงหล่อทำไม”
“คืนนี้ผมไม่นอน ผมจะนั่งดูพี่ทำงาน”
“เหรอ แต่พี่นอนนะ โต้รุ่งคนเดียวสู้ๆนะครับน้องนิทาน”
“เห้ย นิสัยไม่ดีอ่ะ!! ไหนบอกว่าต้องทำถึงเช้าไง”ผมหน้าเหวอเมื่ออีกฝ่ายจัดแจงเก็บของทั้งอย่างนี้และทำท่าว่าจะไปอาบน้ำนอนจริงๆ
“ยืมเสื้อหน่อย มีเสื้อที่พี่พอใส่ได้บ้างป่ะ ขอผ้าขนหนูกับแปรงสีฟันด้วยครับ อ้อ ที่ห้องนี่มีเครื่องซักผ้าแบบปั่นแห้งป่ะ พี่ขี้เกียจกลับคอนโดไปเปลี่ยนชุดตอนเช้า”
“เห้ๆ เอาทีละอย่างสิครับ อ่ะ นี่ครับ ผมมีเสื้อกีฬาอยู่ ไอ้อัทมันสั่งไซส์ผมมาผิด ส่วนนี่แปรงสีฟันใหม่แกะกล่องเลยครับ อ้อ ผ้าขนหนูใช้ผืนเดียวกับผมได้มั้ยครับ มีแค่ผืนเดียว”ผมเดินวุ่นวายไปรอบห้องเพื่อหาของที่เจ้าชายต้องการ พี่กาจน์มองผมเดินไปบ่นอุบอิบไปว่าทำไมถึงชอบทำอะไรปุบปับแบบนี้ นึกอยากจะนอนก็นอน นิสัยแย่ชะมัดแล้วก็ยืนขำ มีอะไรตลกครับ ผมกำลังบ่นพี่อยู่นะ
ที่สำคัญมานั่งทำงานแค่แปปเดียวทำไมไม่กลับไปทำที่ห้องตัวเองครับ”ขยะที่ก่อไว้เก็บกวาดให้เรียบร้อยนะครับ ถ้าทำห้องผมซกมกผมไม่ยอมจริงๆด้วย”
“ครับๆ”
“ส่วนเสื้อนี่รีบถอดมาเลยครับผมจะได้เอาไปหยอดตู้ใต้หอให้ ตู้ซักกับตู้อบมันแยกกันกว่าจะซักเสร็จนานแย่เลย”ผมแบมือยืนไปตรงหน้าร่างสูง พี่กาจน์มองมือผมก่อนกระพริบตาปริบๆ
“ให้พี่ถอดเลยเหรอ”
“ใช่สิครับ ผมจะเอาลงไปซักให้ตอนนี้เลย”
“บอกเซอร์ด้วย?”
“อะ...”เออ ลืม เอาวะ!”ด้วยก็ได้ครับ ถอดใส่ถุงมาเลยครับ”ว่าแล้วก็เดินหน้าร้อนไปหยิบถุงสิครับ
“อ้าว ไม่แบมือแล้วเหรอ : )”
“อย่าแซว! เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว”
“ฮ่าๆๆๆ นี่ครับ ใจเย็นๆนะ พี่เขินอ่ะ ขอเข้าไปถอดในห้องน้ำได้ป่ะ”
“เชิญเลย ผมก็เขินเหมือนกัน อ่ะนี่ถุง ถอดเสร็จแล้วเปิดประตูแง้มๆยื่นแค่มือออกมาส่งของก็พอนะครับ”
“ครับแม่”
เชื่อแล้วว่าพี่กาจน์เห็นผมเหมือนแม่จริงๆ
ระหว่างพี่เขาอาบน้ำผมก็เอาผ้าลงไปปั่น พอพี่เขาอาบน้ำเสร็จเครื่องก็ปั่นเสร็จพอดีเหมือนกันผมเลยใช้พี่เขาลงไปเอาเสื้อตัวเอง พี่กาจน์กลับขึ้นห้องมาด้วยรอยยิ้มแสนสุข มีการฮัมเพลงระหว่างตากผ้าด้วย
“ไม่หยอดเครื่องอบต่อล่ะครับ”ผมถามเพราะกลัวผ้าแห้งไม่ทันเพราะนี่ก็จะตีหนึ่งอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรๆ ถ้าแห้งไม่ทันค่อยอบพรุ่งนี้ก็ได้”
“ระวังเสื้อเหม็นตืดนะครับ สาวหนีหมด”
“ให้หนีจริงก่อนเถอะ พี่จะปิดซอยฉลองแด่สันติภาพเลย”
“หลงตัวเอง”
“เรื่องธรรมดาของคนหล่อ ว่าแต่คืนนี้ให้พี่นอนไหนครับ”พี่กาจน์มองเตียงคู่ขนาด5ฟุตที่ผมนอนอยู่ด้วยสายตาประหลาด แหม รู้ทั้งรู้ว่าผมคงไม่ไล่ไปนอนพื้นแล้วยังมาทำเป็นเป็นถาม ผมเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ก่อนตบที่ว่างข้างตัว
“ข้างผมนี่ไง”
คุณเจ้าชายเดินไปปิดไฟด้วยรอยยิ้ม ขนาดตอนปีนขึ้นเตียงห้องมืดไปหมดแล้วมองยังมองเห็นโครงหน้าของพี่แกลางๆว่ากำลังยิ้มอยู่
“ยิ้มไรพี่”
“ป๊าววว แค่คิดว่านิทานอยู่คนเดียวไม่มีรูมเมทเหรอครับ”
“อืม ทำไมอ่ะ”
“นั่นสิ ทำไมล่ะ”
โอ๊ยยยย สาบานได้เลยว่าผมมองเห็นหน้าพี่เขาไม่ชัด ห้องมันมืดมากอาศัยแค่แสงไฟจากหน้าหอที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างนิดหน่อยพอเห็นใบหน้าหล่อๆของคนข้างตัวแค่ลางๆเท่านั้น แต่แค่นี้มันก็สามารถกดดันให้ผมอ้อมแอ้มตอบว่าทำไมพอเข้ามหาลัยผมถึงเช่าหออยู่คนเดียว
“ก็เผื่อพาแฟนมานอน มีรูมเมทอยู่ก็แย่ดิ! เรื่องพวกนี้มันเป็นความฝันของเด็กม.ปลายที่เพิ่งขึ้นมหาลัยเลยนะครับ!!”
“ฮ่าๆๆ เป็นเรื่องธรรมดาแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย”
“เห้ย พี่เห็นได้ไง มืดขนาดนี้!?”
“พี่ไม่เห็น พี่เดาจากเสียง”
โดนหลอก!! เพราะผมโววยวายเลยเป็นการยืนยันว่าผมกำลังหน้าแดงอยู่จริงๆ
“หยุดหัวเราะได้แล้วพี่ มันมีตรงไหนตลก!? ผมเขินนะ อย่าทำอย่างงี๊”โอ๊ยยยย มันน่าอายมั้ยละ ตอนนี้แก๊ปกับแจนทำท่าจะไปกันได้ด้วยดี ด้านอรกับอัทนี่สถานะแฟนแล้วรอแค่เวลาเปิดตัว ส่วนผมที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะหิ้วสาวมานอนที่ห้องกลับหาไม่ได้แม้กระทั่งคนคุยด้วย
ผมงอตัวเป็นกุ้ง สำนึกได้ว่าพรุ่งนี้ต้องไปเล็งสาวตรงสเป็คสักคน
“พามาได้สักคนรึยังครับ”
“ยัง(โว้ยยย)”
“งั้นพี่ก็คนแรกดิ : )”
“!!!”
“ฝันดีครับนิทาน”
_____________________________
นี่คือสิ่งที่อั้นไว้ตอนที่แล้ว
เจ้าหนูจำไม LV.99 ปฏิบัติการเปิดอกเคลียร์ทุกข้อสงสัย 5555