ตอนที่12
“ตอนนี้ที่คณะเรา ไม่สิ มหาลัยเรามีทอล์คออฟเดอะทาวน์ใหญ่”อัทเพื่อนรักเกริ่นขึ้นกลางวง
ขณะนี้ผม อัท อร แจน และแก๊ปกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอยู่นห้องสมุด ทบทวนบทเรียนตามประสาปี1สุดขยัน
“เรื่อง?”ผมถามทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนกำลังพูดถึงอะไร
“พี่กิตต์กับมึงกิ๊กกันอยู่”
“มึงเชื่อ?”
“กูไม่เชื่อ จ้างให้เชื่อล้านนึงกูยังไม่เชื่อเลย”ผมเกือบซาบซึ้งกับความเชื่อมั่นที่เพื่อนมอบให้แล้วครับ ถ้ามันไม่พูดประโยคต่อมา”กู อร แจนและไอ้แก๊ปกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าผู้ชายในข่าวที่อยู่กับมึงคือพี่กาจน์ ไม่ใช่พี่กิตต์! ”
ถุ้ย!
“อย่าทำหน้างออย่างนั้นสินิทาน แจนว่าน่าอิจฉาจะตาย ดังในชั่วข้ามคืนเลยนะ”
ยังไม่ทันข้ามคืนผมก็ดังแล้วครับ แค่ในวันนั้นข่าวลือบ้าๆนี่ก็กระจายไปทั่วสารทิศ วันแรกๆผมไม่มีหน้าไปโรงอาหารด้วยซ้ำ เพราะเวลาผมอยู่ท่ามกลางฝูงชนทุกคนก็จะหันมามองผมพร้อมป้องปากซุบซิบนินทากันด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ต้องเขาใจว่าคู่พี่กิตต์พี่เฟิร์นเขาดังมากๆและคบกันยืดสุดๆ ต่อให้เอฟซีพี่กิตต์จะรู้สึกหึงหวงแต่ทุกคนก็ยอมรับเรื่องที่ทั้งสองคนคบกัน แล้ววันดีคืนดีก็มีเด็กผู้ชายปี1คนนึงเข้ามาแทรก โอ้โห คุณเอ๊ย เป็นผมผมก็เกลียดอีเด็กนั่นอ่ะ
“เห้อ...”
“อย่าคิดมากมึง แค่ไม่เข้าใกล้พี่กิตต์แต่คุยกับพี่เฟิร์นบ่อยๆให้คนเขารู้ว่ามึงไม่มีอะไรในกอไผ่แค่นี้ก็ปิดปากพวกขี้นินทาได้แล้ว”อัทเพื่อนรักตบบ่าผมเชิงให้กำลังใจ
“ขอบคุณ”
“เพื่อนกันเว้ย เรื่องธรรมดา”
โอ๊ยยย ซาบซึ้งน้ำตาจะไหล
“เออ กูก็สงสัยนานแล้ว ทางมอนู้นเขารู้ป่าววะว่าพี่กาจน์มีแฝด”แก๊ปถาม
ผมนั่งนึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนส่ายหัวอย่างจนใจ”ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยมีพี่คนไหนพูดถึง แต่คิดว่าไม่รู้กันหรอก”
เพราะพี่กาจน์เองก็ไม่ยอมให้คนรีโพสต์รูปตัวเองลงเพจเหมือนกัน แถมในเฟสของเจ้าตัวก็แทบไม่มีรูปตัวเองเลย มีแต่รูปท้องฟ้า ท้องฟ้า ท้องฟ้า แล้วก็ท้องฟ้า
“โอ๊ะ กูไปหยิบหนังสือแป๊ปนะ เมื่อกี้อุตส่าหาเจอแต่ดันลืมหยิบมา มีใครจะฝากเอาอะไรมั้ย”ผมนึกขึ้นได้ว่ายังหยิบหนังสือที่ต้องการมาไม่ครบจึงเดินไปยังชั้นหมวดคณิตศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนชั้นสอง
ห้องสมุดมหาลัยผมมีสองชั้น อาณาบริเวณค่อนข้างกว้างขวางหนังสือก็มีเยอะแยะ ตอนมาครั้งแรกผมเกือบหลงทางแหนะ แต่ผมมาที่นี่บ่อยแล้วรับรองคราวนี้ไม่หลงแน่นวล พอขึ้นไปชั้น2ก็เลี้ยวซ้าย ชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงรายอยู่ตรงกลางโซนคือชั้นที่ผมตามหา
“อ๊ะ”
ทว่า ผมกลับเจอคนที่ไม่ควรจะเจอที่สุดในยามนี้
พี่กิตต์...
ขวับ! (เสียงหันหน้ามามองของชาวเผือก)
“มาอ่านหนังสือเหรอ”พี่กิตต์เป็นฝ่ายทักก่อน ใบหน้าหล่อเหลายังปราศจากรอยยิ้มเช่นเคย
“ครับ...แฮ่ๆ”หน้าเหมือนกันเปี๊ยบแท้ๆแต่ทำไมผมถึงไม่รู้จะคุยกับแฝดคนน้องยังไงดีล่ะเนี่ย
“หาอะไรอยู่เหรอ ให้พี่ช่วยหามั้ย”
“มะ ไม่เป็นไรครับ”ห้องสมุดคนน้อยก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเลย แถมพวกเรายังอยู่คุยกันอยู่ข้างบันได เด่นสะดุดตาได้อีก ผมงี้เหงื่อแตกพลั่กๆ”ผมขอตัวไปหยิบหนังสือก่อนนะครับ”
“เดี๋ยว”
พี่จะมาช่างพูดชวนผมคุยอะไรตอนนี้ครับ!! ถามจริ๊งงง ข่าวลือเสียๆหายๆนั่นไม่ลอยเข้าหูพี่บ้างเลยเหรอ
“ครับ?”
“กาจน์เป็นยังไงบ้าง ได้เจอกันบ้างมั้ย”
“ไม่ได้เจอกัน2-3วันแล้วครับ ทำไมเหรอครับ”ก็ตั้งแต่วันที่มาซื้อกาแฟกันโน่นไง
“ถ้าเจอกาจน์เมื่อไหร่ฝากบอกด้วยว่าวันเสาร์นี้ให้กลับบ้าน คุณแม่บอกว่าจะกลับจากวอชิงตันวันศุกร์ นานๆทีแม่จะกลับไทยยังไงๆก็ต้องลากกาจน์กลับบ้านให้ได้”
“อ้าว ทำไมพี่ไม่บอกเองล่ะครับ เอ้อ ขอโทษที่เสียมารยาทครับ คือผมหมายความว่าทำไมพี่ไม่บอกเองล่ะครับ เอ๊ะ ผมพูดเหมือนเดิมเลยใช่มั้ย เอ้อ ก็ตามนั้นแหละครับ”มาใช้ผมทำไมเล่า! ผมไม่ใช่พิราบส่งสารนะ
“ถ้าพี่บอกมัน มันก็ไม่มาน่ะสิ”
“หือ?”ผมเอียงคอด้วยความงุนงง ใจนึกอยากจะถามกลับไปอีกครั้งว่าอ้าว ทำไมล่ะครับแต่พี่กิตต์แกก่อกำแพงไว้สูงมาก ผมรู้สึกว่าผมกับพี่แกไม่สนิทถึงขั้นถามเรื่องคนในครอบครัว แต่พี่กาจน์เคยบอกว่าผมหน้าเหมือนแม่ พออยู่กับผมแล้วรู้สึกดีเหมือนอยู่กับคนในครอบครัวผมถึงได้แปลกใจว่าแม่อุตส่าห์กลับมาหาทั้งทีทำไมพี่เขาไม่ยอมไปหา
“พี่ตอบคำถามผมมาข้อนึงแล้วผมจะพาพี่กาจน์กลับบ้านให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม”
“ถามว่า?”
“ทำไมพี่กาจน์ถึงไม่ยอมกลับบ้านครับ”ผมจ้องหน้าอีกฝ่ายตาไม่กริบพริบ ความเสือกมันไม่เข้าใครออกใคร นาทีนี้ผมลืมสายตาเสือกๆของคนรอบข้างซะสนิทใจเพราะผมกำลังตั้งใจเสือกเรื่องตรงหน้าอยู่เช่นกัน คนดังจากคณะแพทย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเดินนำไปยังโต๊ะแถวๆนั้น
เรื่องมันยาวถึงขนาดต้องนั่งเล่าเลยเหรอครับ
ผมนั่งตามด้วยความประหม่าเล็กน้อย
“คุณแม่ของพวกพี่เสียไปตั้งแต่เด็กๆแล้ว คุณแม่ที่พี่พูดถึงเมื่อกี้คือแม่เลี้ยง คุณพ่อเพิ่งแต่งงานใหม่เมื่อ 10ปีก่อน แต่พวกพี่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงหรือแม่แท้ๆหรอกนะ คุณแม่ใจดีกับพวกพี่สองคนมาก กาจน์ติดคุณแม่มากๆ ขนาดตอนที่แต่งเข้าบ้านใหม่ๆพี่กาจน์จะเข้าม.ปลายอยู่แล้วยังเดินจูงมือคุณแม่เหมือนเด็กเล็กๆอยู่เลย...”
พูดมาถึงจุดนี้มือหนาก็ยกขึ้นกุมหัวเหมือนด้านในกำลังปวดจี๊ดๆยามหวนนึกถึงเรื่องเก่าๆ
“แม่เป็นคนสวย ขนาดอายุขึ้นเลข4แล้วก็ยังมีเค้าโครงความสวย เพราะเครื่องหน้าแม่สวยมากโดยเฉพาะจมูกกับตา ปัญหามันอยู่ตรงที่คุณแม่มีลูกติดคนหนึ่ง น้องสาวอายุห่างจากพวกเรา 5ปี และน้องสาวก็หน้าเหมือนคุณแม่มากๆเหมือนถอดแบบกันมา”
“อ้อ พี่กาจน์เคยพูดถึงน้องสาวให้ผมฟัง”
วันนั้นที่พวกเราไปซื้อของมาทำปาร์ตี้มาม่ากันไงครับ
“เหรอ กาจน์เคยพูดถึงเอิญด้วยเหรอ...”นัยน์ตาสีเทาของพี่กิตต์ไหววูบ
ร่างสูงทำท่าจะลุกขึ้นยืนผมจึงรีบรั้งไว้ด้วยความตกใจ
“จะไปไหนครับ พี่ยังไม่ได้บอกผมเลยนะว่าปัญหามันคืออะไร!?”
“พี่บอกไปแล้ว”ตรงไหนครับพี่ ผมคงแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนมากเกินไปว่ากูไม่เข้าใจเฟ้ยยย พี่เขาถึงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่งก่อนขยายความเสริมความเข้าใจให้ผมว่า
”ปัญหาคือคุณแม่หน้าเหมือนเอิญมากๆ พี่กาจน์เลยไม่อยากเห็นหน้าคุณแม่”
พูดจบก็เดินจากไป
เห้ย!!
ผมไม่เข้าใจ
ด้วยความค้างคาใจและลางสังหรณ์บางอย่างมันคอยบีบหัวใจผมจนปวดหนึบๆ ราวกับว่าถ้าพลาดเรื่องคราวนี้ไปผมจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ผมต้องรู้ให้ได้ ทำยังไงก็ได้ อีกแค่นิดเดียวชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายก็จะต่อกันจนครบสมบูรณ์แล้ว
“พี่กิตต์! รอผมก่อนครับ”ผมตัดสินใจวิ่งตามร่างสูงลงบันไดไป
คนถูกเรียกหันกลับมามอง
“อีกนิดเดียว พูดตรงๆไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ผมขอคำใบ้อีกแค่นิดเดียว ขอร้องล่ะครับ!!”
คนตรงหน้าถอนหายใจเป็นรอบที่สาม ในสายตาคนนอกคงเห็นผมเป็นพวกขี้ตื๊อ ตื๊อจนพี่กิตต์ชักสีหน้ารำคาญใส่ แต่สิ่งที่ผมเห็นคือเจ้าชายลับแลผู้มีใบหน้าเรียบเฉยตลอดศกกำลังแสดงความลำบากใจเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต
“พี่กาจน์ไม่พร้อมจะเจอเอิญตอนนี้ ส่วนเหตุผลก็คือ...”
เหตุผลก็คือ?
“เรื่องที่เฟิร์นเคยเล่าให้เราฟังทางโทรศัพท์”
คราวนี้ผมไม่ได้เอ่ยรั้งพี่กิตต์เอาไว้เมื่อเขาหันหลังเดินจากไป เพราะผมเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
แฟนของกาจน์ถูกฆ่าตาย...
พี่กาจน์ไม่อยากเจอน้องสาวเพราะเรื่องนี้...
.
.
.
เอิญเป็นคนฆ่าแฟนของพี่กาจน์
.
.
.
และผม...ก็หน้าเหมือนเอิญ
________________________________
จบตอนได้แบบ...
คงจำกันได้เนอะว่าพี่กาจน์เคยบอกว่าน้องหน้าเหมือนแม่ นั่นคือการบอกอ้อมๆว่าหน้าเหมือนเอิญเช่นกัน...
ขยายความเพิ่มง่ายๆก็คือพี่กาจน์มีแฟนคลับเยอะก็จริงแต่คนที่รู้จักหรือเฝ้ามองแบบห่างๆไม่มีทางอินจัดจนพลั้งมือทำเรื่องแบบนั้นหรอกเนอะ
พี่กาจน์มีอดีตที่น่าสงสาร แต่ปัจจุบันคนที่น่าสงสารที่สุดคือนิทาน
น้องถูกคนรอบข้างผลักเข้าไปหาพี่กาจน์ ทุกคนคาดหวังว่าน้องจะทำอะไรได้ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องของน้อง
แต่กว่าจะมาถึงวันที่ต้องยืมมือคนอื่น พี่กิตต์ พี่เฟิร์น ก็พยามเต็มที่แล้ว
นี่ไม่ใช่นิยายสืบสวน เราไม่อยากให้มองในแง่มุมใครฆ่าใครอะไรมากนัก เมนหลักจริงๆคือตัวละครทุกตัวจับมือผ่านพ้นไปด้วยกัน นี่เลยพยามเติมความหวานเข้าข่มความขมสุดๆ5555