ตอบคำถาม(เท่าที่ตอบได้)
-เอิญคือลูกติดของแม่ใหม่พี่กาจน์ มีศักดิ์เป็นน้องของพี่กาจน์
-เอิญยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากตอนก่อคดียังเป็นผู้เยาว์อยู่ฉะนั้นตอนนี้เอิญอยู่สถานพินิจค่ะ_____________________________
ตอนที่13
หลังจากกลับไปที่โต๊ะ ผมก็เอาแต่เหม่อจนเพื่อนๆทักด้วยความเป็นห่วง พวกมันกลัวว่าผมจนทนสายตาคนอื่นไม่ไหวแล้วจึงผลัดกันปลอบเสียยกใหญ่ ผมพยามพูดให้พวกนั้นสบายใจว่าผมไม่ได้เหม่อเพราะเรื่องนั้นแต่พวกมันก็ไม่ยอมเชื่อ
“ถ้ามึงไม่ไหวเปลี่ยนที่อ่านได้นะ กูว่าสายตาคนในห้องสมุดมองมึงแปลกๆตั้งแต่ตอนมึงออกไปหยิบหนังสือละ”อัทพูดขึ้นขณะยัดชีทเรียนใส่กระเป๋า พวกอรเห็นดังนั้นก็ทำท่าจะเก็บของตามเช่นกัน
“บอกแล้วไงว่ากูไม่ได้สนใจ แค่คิดอะไรนิดหน่อย”
“คิดว่า?”
“คิดถึงพี่กาจน์”
“....”
“กะ กูหมายถึงคิดเรื่องพี่เขาอยู่!! เมื่อกี้เจอพี่กิตต์ พี่เขาฝากธุระไปบอกพี่กาจน์กูเลยคิดว่าจะหาทางบอกพี่เขายังไงดี”เพื่อนยิ่งยิ้มล้อกันใหญ่เมื่อผมลนลานแก้ตัวทั้งๆที่ยังไม่มีใครในโต๊ะเอ่ยแซวอะไรเลย
“ก็โทรหาดิ๊ หรือไม่ก็ไลน์ นี่ศตวรรษที่21แล้วนะรู้ยัง มนุษย์เราติดต่อกันง่ายขึ้นเยอะเว้ย ยิ่งไลน์ยิ่งใกล้ไงมึง”แก๊ปกล่าว
“ไม่ได้ๆ เรื่องสำคัญถ้าไม่พูดกันซึ่งๆหน้าพี่กาจน์มีโอกาสเบี้ยวสูง”ผมส่ายหัวพรืด
“งั้นก็ไปหาพี่เขาสิ”อรเสนอ
“เราขี้เกียจ”ขี้เกียจในที่นี้คือขี้เกียจเดินทาง ขี้เกียจแวะซื้อแมสต์ปิดปาก ขี้เกียวโดนเด็กสถาปัตย์ต่างมอมองตามด้วยความเผือกครับ ผมมีเหตุผลไม่สะดวกหลายอย่างจึงมีไอเดียว่าจะนัดพี่เขาออกมาเจอกันที่ห้างแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
“ให้พี่เขามาหาที่นี่สิ”อรเสนอทางเลือกใหม่
ผมมุ่ยหน้าไม่เห็นด้วยแต่ไอ้แก๊ปกลับทำตัวไร้มารยาท มันฉกมือถือผมไปปลดล็อค เห้ย มึงรู้รหัสผ่านกูได้ไง นิ้วของไอ้เพื่อนใหม่พิมพ์รัวบนหน้าจอโดยที่ผมไม่สามารถชิงมือถือตัวเองคืนมาได้เพราะโดนไอ้อัทกับแจนล็อคแขนเอาไว้
“เรียบร้อยมั้ยแก๊ป”อัทถามคู่ซี้คนใหม่ ไอ้แก๊ปยิ้มแป้นพร้อมชูนิ้วโป้งให้เพิ่ลๆ
“กูไลน์บอกพี่เขาให้มึงแล้ว อ่ะ คืน”
“พวกมึงนี่มัน...”ผมส่งเสียงรอดไรฟันด้วยความโกรธ
“ดีแล้วเชื่อกู กูเพื่อนมึงนะ ทำแบบนี้ก็เพื่อมึง เมื่อกี้มึงบอกว่าพี่กิตต์ก็อยู่ในห้องสมุดใช่ป่ะ พอพี่กาจน์มาอีกคนพวกไทยมุงแม่งจะ
ได้งงกันเป็นไก่ตาแตก ไอ้สัส ทำไมพี่กิตต์ถึงอยู่ชั้นสองกับชั้นหนึ่งพร้อมๆกันได้วะ ทีนี้พวกแม่งก็จะสับสนอลม่านกัน บันเทิงสัสๆ งงกันเข้าไป นินทาเพื่อนกูดีนัก สมน้ำหน้า เอ๊ยๆๆๆๆ ไม่ใช่ๆ กูหมายถึงทุกคนก็จะได้เอะใจไงว่าพี่กิตต์ที่อยู่กับมึงเป็นคนละคนกับพี่กิตต์ที่พวกนางรู้จัก แค่นี้คนก็จะเลิกนินทามึงไปเอง”
อัท...มึงไม่ต้องตีหน้าเห็นอกเห็นใจใส่กู กลางประโยคเมื่อกี้มึงเผลอหลุดความคิดของมึงออกมาหมดเปลือกแล้ว
ผมทำหน้าเซ็งแต่ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อน
ปล่อยมัน
มันอยากทำอะไรทำเต็มที่ไปเลย ผมเป็นคนว่าง่ายอยู่แล้ว
“แต่ตอนพี่กาจน์มากูย้ายไปนั่งโต๊ะอื่นนะ ไม่ต้องตามมา ธุระที่จะคุยเป็นเรื่องส่วนตัว”
“คับ/ค่า”
ห้อสมุดมหาลัยผมเปิดถึงห้าทุ่มครับ ฉะนั้นผมจะรอพี่กาจน์นานเท่าไหร่ก็ได้ อรขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะบ้านอรอยู่ไกล เธอเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ได้อยู่หอ ส่วนสามคนที่เหลือยังคงนั่งหน้าสลอนจนกระทั่งหนึ่งทุ่ม
ผมยกไลน์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ไอ้แก๊ปเป็นคนพิมพ์ด้วยใบหน้าเบื่อโลก
Nithan : *สติกเกอร์หมีhello
Nithan : พี่กาจคัฟ นิทานคิดถึงพี่จุง มาหาที่มอหน่อยจิ รอที่ห้องสมุดนะคัฟฟฟ
Nithan : *สติกเกอร์หมีส่งจุ๊บ
กู!ไม่!เคย!พิมพ์!เชี่ยอะไร!ปัญญาอ่อน!!! แบบนี้!!!! ไอ้ควายยยยยยย!!!
เก่งกาจน์ : อันนี้เพื่อนแกล้งหรืออยากเจอจริงๆ 5555+
เก่งกาจน์ : แต่พี่อยากเจอจริงๆงั้นพี่ไปหานะ
พี่เขาตอบกลับมาทันทีที่ไอ้แก๊ปส่งข้อความไปครับ แสดงว่ามันได้อ่านข้อความตอบกลับนี้เต็มๆ ผมงี้เขินจนทำหน้าไม่ถูกเลย หยอดไม่รู้จักเวล่ำเวลาจริงๆพี่กาจน์นี่!
ผมส่งข้อความไปเพิ่มว่าให้แลกบัตรกับบรรณารักษ์ก่อนเข้ามาเพราะพี่เขาเป็นคนนอก แต่อีกฝ่ายยังไม่ได้อ่าน ผมเดาว่าขับรถอยู่
รอสักพักร่างสูงผู้มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับคนดังจากคณะแพทย์ก็เดินยิ้มร่าเข้ามาในห้องสมุด พวกผมรู้ได้ทันทีว่าพี่เขามาถึงแล้วตั้งแต่พี่เขายืนแลกบัตรอยู่หน้าประตู เพราะเด็กมหาลัยผมคนอื่นส่งเสียงอุทานกันเบาๆแต่พออุทานพร้อมกันหลายคนมันเลยดัง ดังเป็นทอดๆเหมือนเล่นเวฟ เริ่มจากคนที่อยู่ใกล้ทางเข้า ไล่มาเรื่อยๆตามลำดับ ที่พวกเขาแปลกใจกันไม่ใช่อะไรหรอกครับ
พี่กิตต์ในชุดนักศึกษาผิดระเบียบ...
กางเกงยืนพอดีตัวสีดำ แขนเสื้อพับเกือบถึงข้อศอก รองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังสีน้ำเงินตัดขาวกับเข็มขัดสีเงินสะดุดตา ผมสีดำขลับถูกแต่งทรงเสยไปด้านหลัง มันไม่ได้ถูกใส่เจลไว้เยอะจึงหลุดลุ่ยไม่เป็นระเบียบแต่กลับเพิ่มความเซ็กซี่ขึ้นแทน และพี่กิตต์คนนั้นกำลังยิ้ม แถมเดินล้วงกระเป๋าฮัมเพลงอารมณ์ดีอีกต่างหาก
“คึกๆๆๆ พวกแม่งงงเป็นไก่ตาแตก ถ้ารู้ว่ามีพี่กิตต์อีกคนกำลังอ่านหนังสือเคร่งเครียดอยู่ชั้นสองจะทำหน้ายังไงวะ”
“นั่นดิ สนุกว่ะมึง ใครก็ได้ขึ้นไปตามพี่กิตต์มาทีดิ๊ คึกๆๆๆๆ”แก๊ปกับอัทสุมหัวกันหัวเราะน่าเกลียด ผมทำเป็นไม่สนใจพวกมัน ลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงตัวให้พี่กาจน์เห็น และเมื่อนัยน์ตาสีเทาอมฟ้าหาผมพบ รอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่ายยิ่งกว้างขึ้นอีก
อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่าพี่กาจน์มีเสน่ห์กว่าพี่กิตต์เพราะรอยยิ้ม
หลายๆคนในทีนี้ก็คงคิดเหมือนผม
นั่นไง พี่สาวคนที่ยืนอยู่ใกล้พี่กาจน์มองรอยยิ้มนั้นตาค้าง เหมือนถูกผีหลอก
ครับ
ทุกคนไม่ต้องตกใจคิดว่าพี่กิตต์คนนั้นยิ้มเป็นด้วยเหรอเพราะพี่กิตต์ก็ยังยิ้มไม่เป็นเหมือนเดิมนั่นแหละ
“สวัสดีครับ”ผมทักพี่เขาก่อน เพื่อนๆผมถึงรีบยกมือไหว้สวัสดีตาม
“สวัสดีๆๆ ใครเป็นคนพิมพ์ข้อความนั้นครับ”
“ผมครับ”แก๊ปยกมือขึ้นสุดหัว สีหน้ามันบอกชัดว่ากำลังภูมิใจ
“ถูกใจพี่ พี่ซื้อคิทแคทมาฝาก”
“โอ้โหวววววว”ไอ้เพื่อนเลวรีบรับคิวแคทชิ้นนั้นไว้ด้วยความปิติ ไอ้อัทงอแงอยากได้บ้างพี่กาจน์เลยบอกว่าคราวหน้าจะซื้อมาให้ คราวนี้ไม่รู้ว่าอยู่กันกี่คนเลยซื้อมาแค่อันเดียว แล้วพอตัวมันได้มันก็ขอให้ที่รักมันบ้าง พี่กาจน์เลยต้องซื้อให้อรและแจนด้วยเพราะถ้าแจนไม่ได้อยู่คนเดียวก็น่าสงสารแย่
เพื่อนผมแม่งสะกดคำว่าเกรงใจกันไม่เป็น
“พี่กาจน์ไปนั่งกับผมโต๊ะอื่นนะครับ”พี่กาจน์ทำท่าจะลากเก้าอี้มานั่งผมเลยรีบบอก
ช่วงทักทายมิตรรักแฟนเพลงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ พี่เขาเดินตามผมออกมาอย่างว่าง่าย ความจริงโต๊ะแถวนั้นก็มีว่างอยู่ แต่มันใกล้สายตาพวกเพื่อนๆมากเกินไปผมไม่อยากโดนแซวระหว่างคุยธุระสำคัญ
“ขอโทษที่อยู่ดีๆก็เรียกออกมานะครับ”
“ไม่เป็นไร ขับรถมาแป๊ปเดียวเอง คิดถึงพี่เหรอครับ”
“ก็...นิดหน่อย แฮ่ๆ คือว่า...”ดันไม่ทันเตรียมคำพูดดีๆสำหรับปูพื้นเข้าเรื่องที่พี่กิตต์ไหว้วานมาซะได้ พออยู่หน้าพี่กาจน์ผมยิ่งคิดเรื่องตอแหลๆไม่ทันด้วย ชิบผายล่ะ ต้องพูดอะไรสักอย่างให้มันดูไม่พิรุธ ต้องหาเรื่องเนียนๆมาคุยก่อน...
“พี่รู้อยู่แล้วว่าเราอยากคุยกับพี่เรื่องอะไร ไอ้กิตต์มันเดาใจง่ายยังกับเด็กอนุบาล และถ้าไอ้กิตต์มันเรียนอนุบาลห้องกุ๊กไก่ นิทานก็คงเรียนอยู่ห้องทานตะวันข้างๆกัน”
“...”
โฮกกกกก ผมมองคนที่นั่งแบบสบายๆด้วยความรู้สึกทึ่งๆ นี่ผมกับพี่กิตต์ถูกจับไต๋ได้ตั้งแต่ตอนแก๊ปส่งไลน์ไปหาแล้วนี่หว่า!!
“แล้วพี่จะกลับบ้านมั้ยครับ”
“ไม่”
“พี่กาดดดดด....”ผมครวญครางเสียงอ่อน ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยาก พี่กาจน์ก็ช่างใจดีเว้นเสปซไว้ให้ผมทบทวนตัวเอง พี่แกเล่นไม่หือไม่อืออะไรเลยยิ่งทำให้ผมใจเสีย
“โกรธผมรึป่าว...พี่กาจน์”ผมเอียงคอช้อนตาถามอีกฝ่ายด้วยสายตาวิงวอน ส่งกระแสจิตคำว่าอย่าโกรธเก๊าเลยนะ เก๊าแค่เป็นห่วงตัวเองเจ๋ยๆ
“ไม่”
“แต่พี่เสียงแข็งใส่อ่ะ”
“พี่ไม่ได้โกรธนิทาน พี่โกรธไอ้กิตต์”
“อย่าโกรธน้องพี่เลย น้องพี่ก็แค่หวังดี”
“พี่รู้”
“งั้นก็กลับบ้านสิครับ แม่พี่เขาอยากเจอพี่นะครับ เป็นคนขอร้องพี่กิตต์มาอีกทอดนึงด้วยซ้ำ”
“พี่ไม่ได้โกรธแม่”
“งั้นก็กลับบ้านสิ...”
“พี่กลัว”คำว่ากลัวที่พูดออกมานั้นมันสั่นเทา เสียงเครือครางของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างกันตอนนี้มันฟังแล้วให้ความรู้สึกเจ็บปวดจนน่าใจหาย ยังไม่นับรวมสีหน้าที่เหมือนจะขาดอากาศหายใจใต้น้ำนั่นอีก
กลัว...
พี่กาจน์กำลังกลัว
“จับมือผมมั้ย”นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำให้พี่เขาได้
พวกเรานั่งประสานมือกันอยู่อย่างนั้น ผมไม่สนใจสายตายของคนอื่น ผมแคร์แค่สายตาของคนข้างตัวที่ก้มมองผมอยู่ ไหล่ของพวกเราโดนกัน มือของพวกเราเริ่มชื้นเหงื่อ เวลาผ่านไปเนิ่นนาน พวกอัทมาบอกลาผมตอนสามทุ่ม พวกมันล้อผมเรื่องมือแต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก เพราะในหัวกำลังครุ่นคิดว่าจะช่วยพี่กาจน์ยังไงดี
”ขอโทษที่ทำให้นึกถึงเรื่องที่ไม่อยากนึกถึงนะครับ”
“ไม่เป็นไร”
“ยังไงวันเสาร์ก็ไม่อยากกลับใช่มั้ยครับ”
“อืม”
“พรุ่งนี้พี่เลิกเรียนกี่โมงครับ”
“โดดได้ทั้งวัน โปรเจ็คจบไม่มีเวลาทำตายตัว”
“งั้นเจอกันที่ห้าง xxx ตอนบ่ายสามได้มั้ยครับ ผมอยากให้พี่ไปช่วยกันซื้อของ พี่สะดวกมั้ยถ้าผมจะทำสตรอเบอรี่ครีมพายฝากพี่กิตต์ไปให้คุณแม่ของพี่”ถ้าไม่กล้าไปให้เห็นหน้าอย่างน้อยๆก็ควรทำอะไรสักอย่างให้คุณแม่รับรู้ว่าลูกชายคนนี้ยังรักเสมอนะ
“พี่ยังต้องกลับบ้านอยู่มั้ย”
“ถ้าไม่อยากกลับจริงๆก็ไม่ต้องครับ แต่คราวหน้าสัญญานะครับว่าจะไม่หนีอีก”
“อืม...ก็ได้”
หลังจากวันนั้น ข่าวลือเรื่องผมเป็นมือที่สามก็ถูกเบี่ยงประเด็นไปจากเดิม นับว่าแผนปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของไอ้อัทกับไอ้แก๊ปประสบความสำเร็จด้วยดี
ตอนนี้ทุกคนมีประเด็นใหม่ให้พูดถึงแทนนั่นก็คือ...
พี่กิตต์เป็นไบโพลาร์(พวกสองขั้ว)
เดี๋ยวก็เหวี่ยงใส่น้องนิทาน สักพักดันเดินยิ้มเข้ามาหาน้องนิทานเฉิบ
.
.
ผมว่างานนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่กิตต์ครับ นอกใจแฟนแล้วยังเป็นคนสองบุคคลิคอีก
สังคมแม่งไม่มีการกลั่นกรองข่าวสารใดๆกันเล้ยยยย
__________________________________________
อ่านเมนต์ของทุกคนตอนที่แล้วครบทุกเมนต์...
ทุกอย่างที่งงหรือสงสัยกันเรามีคำตอบเตรียมไว้แล้ว
แต่ยังไม่เฉลยตอนนี้ 5555
ขอยืนยันอีกครั้งว่าโทนเรื่องไม่ได้เครียด ทุกคนใจเย็นๆ /กอดปลอบ/
ดูอย่างพี่กาจน์สิ พี่แกยังแจกอ้อยสู้วิกฤติสบายใจเฉิบ