#แว่นดุ : (ตอนที่ 16) จูบ ...หน้าที่ 7 [10/02/18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #แว่นดุ : (ตอนที่ 16) จูบ ...หน้าที่ 7 [10/02/18]  (อ่าน 28081 ครั้ง)

ออฟไลน์ kachettt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
    • Twitter
แว่นดุ 4
คืนนี้พี่เจอดีแน่



เช้าของอีกวัน...

ผมตื่นนอนเพราะแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องจนทำให้ทั่วทั้งห้องสว่างจ้า รับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้อยู่ในช่วงเช้า ผมนอนลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน และกระพริบตาถี่ๆอย่างที่ทำเป็นประจำเพื่อขับไล่ความง่วงออกไป


หันหน้าไปด้านข้างของตัวเองมันมีก้อนดำๆนอนห่มผ้าสีน้ำตาลของผมจนเป็นก้อนกลมก้อนใหญ่ มันนอนขดเป็นหอยในท่านอนตะแคงหันหน้ามาทางผม ดูท่าแล้วคงจะตื่นยาก เพราะนอนหลับตาพริ้มขนาดนั้น ฝันดีอยู่หรือไง...


ไม่เคยได้สังเกตแบบชัดๆสักครั้งยามที่เจ้าแว่นมันไม่ได้สวมแว่นอยากรู้จังว่าหน้าตามันเป็นแบบไหน เพราะผู้ชายที่ผมเจอในผับคืนนั้นผมมองเขาด้วยอาการมึนเมาทั้งสิ้น ตอนนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้มองมันให้ชัดเจนขึ้น



ขนตาสีดำยาว...คิ้วหนาดกดำ...ผมตัดซอยรูปทรงแอปเปิ้ล...จมูกโด่งเป็นสัน...ริมฝีปากหยักหนาสีคล้ำ...โครงหน้าได้รูปมีสันกรามชัดเจน...และที่สำคัญ...มีสีผิวสีน้ำตาลแทน




ไม่คิดว่าโตมาแล้วจะหล่อขนาดนี้.... ผิดกับตอนเด็กลิบลับ


“จะจ้องผมอีกนานไหมครับ”

ผมตกใจกับการทักทายแรกของเจ้าแว่น หน้าของผมและมันเกือบจะชนกันอยู่แล้ว ก็มันเล่นลุกพรวดพราดขึ้นมานี่สิ

“ไม่เห็นเหมือนตอนเด็กเลย ตอนเด็กโคตรขี้เหร่”

“จะบอกว่าตอนนี้ผมหล่อ?”

“ยังไม่ได้พูดไหมละ”

“ปูทางมาขนาดนี้ชมเลยก็ได้”

ผมทำหน้าเซ็งมองไปหาไอ้แว่นหลงตัวเองตรงหน้า ถึงใจผมจะบอกว่าหล่อก็เถอะนะ แต่จะให้ผมชมผู้ชายอย่างหมอนี่ ฝันไปเถอะ!


“เมื่อคืนยังคลานมาหาผม...อุ่ก!”

เส้นความอดทนอดกลั้นขาดผึง.....ผมแสร้งลุกขึ้นจากเตียงและใช้ศอกกระทุ้งเข้าไปที่หน้าท้องของมันทันทีอย่างแรง

“ไปตายซะไอ้ดำ!”

สิ้นสุดคำพูดสุดท้ายผมก็กระแทกเท้าเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับเสียงปิดประตูดังสนั่น โดยไม่สนใจเสียงหัวเราะของไอ้แว่นนั่นที่มันขำตามหลังผมมา




.
.
.
“พี่เรียนบ่าย...และตื่นแต่เช้าทำไม”

หลังจากผมอาบน้ำเสร็จและเดินออกมาจากห้องน้ำ ยังคงมีผ้าขนหนูพันเอวเอาไว้อยู่เพราะผมจะออกมาแต่งตัวข้างนอก แต่กลับต้องชะงักเท้าหยุดเดินเพราะเสียงพูดของอีกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของผม

ในมือของเจ้านั่นมีกระดาษตารางเรียนเด่นหราอยู่ และมันก็โบกไปมาซ้ายทีขวาที ทำเพื่อ?

“ไปหอสมุด”
“ไปด้วย”
“ไม่ต้อง”
“จะไป”
“ไม่ต้อง”
“ไหนว่าจะเชื่อฟังผมไง”

...เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง...

ผมลืมไปว่าตกลงอะไรกับเจ้าแว่นเอาไว้ ลืมเสียสนิทเลย ก็ดูท่าทางมันสิ กวนประสาทผมซะขนาดนี้ ไม่เหมือนคนมาแก้แค้นสักนิด ปกติมันจะต้องบีบคั้นผมมากกว่านี้หรือเปล่า

และนี่อะไรของมัน...

“ไม่มีเรียนหรือไง?”

“ผมมีเรียนตอนบ่ายถึงค่ำ”

ให้ตาย ดันเป็นเวลาเข้าเรียนเดียวกันกับผมอีก มีหวังผมจะต้องนั่งกับหมอนี่ในหอสมุดนานแน่ๆ ผมเรียกไอ้ทีมานั่งเป็นเพื่อนดีกว่า พอคิดได้แบบนั้นก็เดินตรงไปหามือถือของตัวเองบนโต๊ะทันที

“นี่พี่กำลังยั่วผมอยู่รึเปล่า”
“ยั่วอะไร”

“นั่งมองนานละ ไม่ยอมไปแต่งตัวสักที....หรือว่าอยากให้ผมแต่งตัวให้.....โอ๊ยเจ็บๆๆ”

ในตอนแรกผมจะเอื้อมมือไปหยิบมือถือแต่ได้ยินมันพูดกวนประสาทออกมาเสียก่อน เลยเปลี่ยนเป้าหมายไปหยิกหูมันและบิดไปมาแทน


“ถ้าจะไปด้วยกันก็ไปอาบน้ำ แล้วมีชุดเปลี่ยนหรือไง”
“พี่ไม่เห็นผมแบกกระเป๋ามาหรอ เตรียมพร้อมมาแล้ว”


ผมเหลือบสายตาไปมองกระเป๋าของมันที่แบกมา จริงด้วย... นี่มันเตรียมมานอนที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วอย่างนั้นหรอ ยอมใจมันเลย
พอมันเห็นผมบ่นอุบอิบไม่สบอารมณ์ มันก็ยิ้มขำและเดินเข้าห้องน้ำไป นี่ผมจะต้องเจอกับหมอนี่ทุกวันเลยไหมเนี่ย แค่วันแรกก็หมดพลังชีวิตไปเยอะแล้ว

ผมถอนหายใจและหยิบมือถือขึ้นมากดข้อความหาเพื่อนสนิท...


“มึง”
“มีไรวะ ทำไมตื่นเช้า”
“ไปหอสมุดกับกูหน่อย”
“เออได้ดิ บ่ายเรียนใช่ปะ”
“ใช่ มึงแต่งชุด นศ.มาเลยจะได้ไม่ต้องเปลี่ยน”
“เจอกันชั้น 3”



.
.
ณ หอสมุดในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

ผมเดินมาพร้อมกับไอ้เด็กแว่นตัวสูงผิวคล้ำ เวลามันใส่แว่นทีไรผมหงุดหงิดกับขี้หน้ามันทุกที และแถมวันนี้มันยังเลือกกางเกงมาใส่ได้โคตรเสล่อ เสื้อไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกแต่ประเด็นมันอยู่ที่กางเกงของมันเนี่ยแหล่ะ หงุดหงิด!!


เพราะคราวนี้มันใส่กางวอร์ม!!


ให้ตายเถอะตั้งแต่ผมเดินกับมันออกมาจากประตูหน้าห้อง ไม่ว่าจะเดินสวนใครก็ตาม ผมและมันล้วนตกเป็นเป้าสายตาสำหรับทุกคนซะไปหมด ถ้าไอ้พวกที่เดินผ่านไปผ่านมามันมองแต่ไอ้แว่นก็ว่าไปอย่าง แต่มันกลับมองผมด้วยนี่สิประเด็น


ยังไม่พอ!

ไอ้แว่นมันยังเดินกอดคอผมด้วย นี่มันกะเอาให้ผมอับอายจนมุดแผ่นดินหนีเลยหรือไง ได้ข่าวว่าบ้านมันรวยดูจากรถสปอร์ตในวันนั้นที่มันขับมาผับ แต่ไม่มีปัญญาจะไปหาซื้อกางเกงดีๆแว่นดีๆหรือแม้แต่เสื้อดีๆใส่เลยหรือไง ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด พอจะแกะมือมันออกก็โดนกระซิบขู่ว่าจะปล่อยคลิป

และคนอย่างผมนะหรอ.....ก็ยอมมันไงครับ!

กว่าผมจะถึงหอสมุดก็โดนมันแกล้งไปหลายตลบ มันทั้งแกล้งทำเป็นสะดุดขาตัวเองล้มและกอดผมกลางถนนบ้าง ทั้งแกล้งทำเป็นสนิทสนมกับผมเสียนักหนาบ้าง และไอ้ที่บ้าบอที่สุดคงเป็นตอนที่มันแกล้งตบก้นผมกลางที่สาธารณะโดยไม่กลัวว่าคนอื่นจะมองเลยสักนิด

ไอ้นี่มันต้องเป็นโรคจิตแน่!!

“ไอ้กัสทางนี้...มึงทำไมมาช้.........น้องเซน?”

WHAT??? เดี๋ยวนะ....

ทำไมไอ้ทีมันถึงได้รู้จักได้ละ ผมหันไปมองหน้าเพื่อนทันที และก็มองสลับไปมากับไอ้แว่น ซึ่งไอ้แว่นมันทำหน้าแปลกใจเอามากๆเลยละ แถมยังทำหน้าทำตาแปลกๆด้วย

“มึงรู้จักไอ้แว่นนี่ได้ไง?”

“น้องที่รู้จักน่ะ ลูกเพื่อนพ่อ...ว่าแต่เซนไปเรียนต่อที่มหาลัยxxxนี่นา ไม่ใช่มหาลัยนี้ไม่ใช่หรอ แหม...ตอนพี่ชวนก็เห็นบอกจะไปxxxอยู่นั่นแหล่ะ”

ไอ้ทีมันหันมาคุยกับผมนิดหน่อยแต่หันไปคุยกับไอ้แว่นนั่นซะยาวเหยียด ก็เข้าใจละนะว่ารู้จักกัน แต่ผมหงุดหงิดเป็นบ้า
จะว่าหึงเพื่อนได้ไหม... แบบหวงมันอะ ไม่อยากให้มันไปสนิทสนมกับคนอย่างไอ้แว่นนี่

“ตอนนี้อยากเรียนที่นี่ ไม่อยากเรียนxxx”

ไอ้แว่นมันตอบโคตรจะเย็นชา จะพูดว่าไงดีละ เพื่อนผมยิ้มแป้นพูดคุยอย่างออกรส แต่ไอ้แว่นนี่ดิกลับทำหน้านิ่งซะยิ่งกว่าอะไร เหมือนคนไม่อยากคุยเสียอย่างนั้น

ว่าแต่....ผมมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ เห็นไอ้แว่นกับไอ้ทีคุยกันอยู่สองคน ผมเลยจะขยับตัวออกมาและทำท่าจะเดินเข้ามุมหนังสือ
เออ อยากคุยก็คุยไป ขอตัวก่อนละกัน

แต่...

ไอ้แว่นมันเหมือนมีตาหลัง...มันจับแขนเสื้อผมไว้ไม่ให้เดินไปไหน เออกูไม่ไปก็ได้เว่ย!

“ว่าแต่น้องเซนไปรู้จักกับกัสมันได้ยังไง”

“ความจริงรู้จักกันมาตั้งนานแล้ว”

“จริงหรอ ไม่เห็นกัสพูดถึงเซนเลย...”

ผมหันมองหน้าเพื่อนสลับกับหน้าของไอ้แว่นไปมา แต่เห็นมันทำหน้าไม่อยากคุยแล้ว

“กลับก่อนนะ พอดีนัดเพื่อนไว้”

ผมงงหนักกว่าเดิม อยู่ๆมันจะไปก็ไปง่ายๆแบบนี้เลยหรอ อารมณ์ของไอ้แว่นนั่นแปรปรวนสุดๆ ผมยืนอ้าปากเหวอกับท่าทางของมัน แต่ก่อนที่มันจะไป มันหันหน้ามาทางผมและก้มลงมาหา

อย่านะเว่ยที่นี่มันหอสมุด และเพื่อนก็ยังอยู่ด้วย!


“คืนนี้พี่เจอดีแน่”


มันทำเพียงแค่กระซิบเบาๆคุยกับผมเท่านั้น และก็ผละใบหน้าออกพร้อมกับเดินออกไปทันที ผมยืนทื่อกับสถานการณ์เมื่อกี้ มันผ่านไปไวมาก แถมน้ำเสียงของไอ้แว่นมันดูดุยังไงชอบกล

คืนนี้ผมจะรอดไหมเนี่ย...



“ไอ้กัส...”

“มึงไม่ต้องมาทำหน้าจริงจังกับกูเลยนะไอ้ที มีอะไรก็ว่ามา”

“มึงกับน้องเซนเป็นอะไรกัน?”

“เป็นอะไร...กูไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหล่ะ”

“โกหก”

“แล้วมึงอะเป็นไร โกรธอะไรกูเนี่ย กูต่างหากปะที่ต้องโกรธมึงอะ แม่งเจอคนรู้จักหน่อยไม่ได้ เทเพื่อนทิ้งเลยนะมึง”

ผมพูดออกไปบ้าง ยอมรับว่าน้อยใจมากด้วย มันเอาแต่คุยกับไอ้แว่นนั่นจนลืมผมเสียสนิท เอาซะจนผมไม่มีบทพูด เลยทำให้ผมต้องเดินหนีไงเล่า

“เมื่อกี้กูขอโทษนะมึง อย่างอนกูดิ”

“เออไม่งอนก็ได้ แต่ต้องเลี้ยงข้าวกลางวันกูด้วย”

“ถ้ากูไม่เลี้ยง”

“กูงอน!!”

“เลี้ยงก็ได้วะ แต่โลกแม่งโคตรกลมเลยนะว่าไหมมึง”

“โลกมันก็กลมอยู่แล้วปะ?”

“ไม่ใช่แบบนั้นสิวะ ว่าแต่มึงรู้จักน้องเซนและไม่เคยบอกกูเลยนะ”

“ก็กูไม่คิดว่ามึงจะรู้จักเหมือนกัน”

“เออช่างมัน ไปหาหนังสืออ่านกันเถอะ”

ตอนนี้ผมยืนงงในดงหนังสือมากเลยครับ เพราะท่าทางของเพื่อนผมมันดูจะดีใจแปลกๆ มันดูร่าเริงผิดจากปกติมาก

หลังจากที่มันได้คุยกับไอ้แว่นนั่น...



ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะจุดมุ่งหมายของผมตอนนี้คือหาหนังสืออ่าน ช่วงสอบมิดเทอมไม่ค่อยมีเด็กอ่านกันหรอก แต่ผมไม่ใช่แบบนั้น เพราะต้องกันเหนียวไว้ก่อน อยากจบไปพร้อมกับเกรดสวยๆเอาไปฝากพ่อกับแม่ที่บ้าน เป็นหน้าเป็นตาให้พวกแกสักหน่อยก็ยังดี พอคิดได้แบบนี้ก็มีกำลังใจในการอ่านหนังสือขึ้นมาทันทีเลย ไปหาหนังสืออ่านดีกว่า...




.
.
หลังเลิกคาบเรียนจนเกือบห้าโมงเย็น...

“พวกมึงสองคน!”

ผมกับทีกำลังจะเดินออกจากห้องไปแต่มีเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทมากแต่ก็ถือว่าไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยเรียกตัวพวกผมเอาไว้

“มีไร” ผมเป็นคนถามเอง

“คืนนี้ไปกินเลี้ยงวันเกิดกูปะ อยากให้คนไปเยอะๆว่ะ”

“ไปดิ”

เสียงของไอ้ทีมันครับ ปกติมันไม่ค่อยไปร้านเหล้านะ แต่วันนี้มาแปลก คงจะอยากเที่ยวบ้างละมั้ง โอเคเลยมันไปผมก็ไป
หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วก็นัดแนะว่าเจอกันร้านไหนเวลากี่โมง โดยผมกลับไปที่หอตัวเองก่อนเพื่ออาบน้ำอาบท่าและเตรียมตัวออกท่องเที่ยวราตรีเหมือนที่เคยเป็นมาแบบปกติ... ไม่ได้ไปมานานแล้ว คิดถึงเหล้าชะมัด


:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:

ตอนนี้น้อยแต่ตอนหน้าเยอะมาก!
มีหื่นด้วย งุงิ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ kachettt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
    • Twitter
แว่นดุ 5
โรคหอบหื่นกำเริบ



ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสามทุ่มแล้ว ผมดื่มไปเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะมันเหล้าฟรีนี่ครับ เราต้องกักตุนเอาไว้เยอะๆ ส่วนไอ้ทีมันกินไปโยกหัวไปและมันก็นั่งอยู่กับเพื่อนของมัน คนนี้เป็นใครไม่รู้ครับ ผมไม่ค่อยรู้จัก แต่ไอ้ทีมันบอกว่าเป็นเพื่อนในคลาสวิชาเลือก ผมไม่ค่อยได้ยินที่มันเล่าเท่าไหร่ก็เลยรู้มาแค่นั้นแหล่ะครับ


นั่งไปได้สักพักจู่ๆก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาเลยรับทั้งๆที่เสียงเพลงในร้านดังนั่นแหล่ะ เผื่อเป็นพวกขายของ ผมจะได้ตัดสายโดยไม่เสียเวลาเดิน

แต่สายที่รับกลับไม่ใช่อย่างที่ผมคิด มันเป็นใครก็ไม่รู้เสียงผู้ชาย ผมเลยเดินออกมาจากโต๊ะเพื่อไปคุยอีกครั้ง

“ไม่ได้ยินครับ ช่วยพูดใหม่อีกทีได้ไหม”
“อยู่ไหน!!!พี่กัส!!!!”


ชิบหายละ ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าใคร ไอ้แว่นนั่นแหล่ะ

คืนนี้พี่เจอดีแน่

จู่ๆไอ้คำพูดที่หอสมุดมันก็ลอยมาปะทะเข้ากับสมองเต็มๆ ไม่รอดแน่ ผมไม่รอดแน่! ดันลืมไปซะสนิท ห่วงกินแต่เหล้านะมึง ไอ้กัสเอ๊ย!


“ร้านเหล้า...” ทำเสียงเบาสุดๆ
“ร้านไหน?”
“ไม่ต้องมาหรอกน่า เดี๋ยวก็กลับแล้วเนี่ย”
“ร้านไหน!”
“ร้าน 00 !!



 พอผมพูดจบปุ๊บมันก็ตัดสายผมปั๊บ  ผมถอนหายใจยาวๆทันที แล้วมันจะมาขึ้นเสียงใส่ผมทำไมเนี่ย ก็แค่มากินเหล้าปะ ผมยักไหล่ไม่สนใจ ถึงแม้ตอนแรกที่คุยอยู่ในสายจะกลัวจนหัวหดก็ตาม แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวละ เป็นแค่รุ่นน้องคิดจะมาควบคุมรุ่นพี่หรอ อธิษฐานเอานะไอ้แว่น


ผมกลับเข้าไปนั่งด้านในสักพักก็มีผู้ชายมาขอชนแก้ว คนอย่างผมไม่ปฏิเสธอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ผมชนแก้วกลับไปพร้อมกับมองไปด้วยสายตาหวานเยิ้ม


เขามีรูปร่างหน้าตาที่ดีเอามากๆเลยล่ะ ใส่เสื้อผ้าดูดีท่าทางจะรวย แถมยังมีผิวสีเข้มด้วยแต่ไม่เข้มมากเหมือนไอ้แว่นหรอกนะ สีผิวออกจะน้ำผึ้งกึ่งแทนนิดหน่อย ใบหน้าดูหล่อคมแบบไทย แถมยังสูงมากเลยด้วย ท่าทางหุ่นคงจะดีไม่เบา


“ผมชื่อ...”
“ไม่ต้องบอกชื่อหรอก ผมไม่สนใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว” ผมตอบกลับไป
“แต่ผมสนใจคุณ”
“อะไร”
“ไม่ได้สนใจคุณแค่ผิวเผินหรอกนะ...แต่ผมอยากลึกซึ้งมากกว่านั้น”


ผมงุนงงกับท่าทีของชายที่ย้ายตัวเองมานั่งข้างๆ น่าแปลกที่ปกติผมมักจะพูดเรื่องไม่บอกชื่อแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นเสมอ และแน่นอนคนพวกนั้นไม่ได้ว่าอะไร ผิดกับคนๆนี้ที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก อยากจะสานต่อความสัมพันธ์งั้นหรอ

“ผมไม่ชอบการผูกมัด และอีกอย่างคุณต้องไม่ชอบแน่ถ้ารู้ว่าผมผ่านอะไรมาบ้าง”

“อา...ผมเข้าใจดี แต่แค่ลองคุยกันสักนิดก็ไม่ได้เลยหรอ”

ผมชั่งใจอยู่สักพักไม่ได้ตอบอะไรออกไป ถ้าเป็นคนอื่นมาเซ้าซี้แบบนี้กับผมละก็ ผมคงตัดปัญหาด้วยการด่าไปแล้ว แต่คนนี้กลับไม่ใช่ ผมไม่ได้ทำแบบนั้น

เขามีน้ำเสียงและท่าทีการพูดที่สามารถทำให้ผมโอนอ่อนได้อย่างน่าประหลาด และอีกอย่างผมก็ไม่ได้มีใครในใจด้วยในตอนนี้ ถ้าหากผมอยากลองคุยกับเขาดูละ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา

และอีกอย่างสถานะของผมกับไอ้แว่นนั่นก็เป็นแค่คู่นอนธรรมดา พอมันอยากก็มาไม่อยากก็ไป มันไม่ได้น่าเสียหายอะไรถ้าผมจะลองคุยกับใครสักคน...

แล้วผมจะมาคิดถึงไอ้แว่นทำไมตอนนี้เนี่ย!



“ก็ได้...”

“จริงเหรอ? ไม่โกหกผมนะ”

“ไม่โกหก”

“ผมชื่อซิน ดูท่าทางคุณน่าจะยังเรียนมหาลัยหรือเปล่า”

“ผมเรียนอยู่ปี 2 ชื่อกัสครับ”

“เด็กน้อย...พี่ทำงานแล้ว อายุ 24 ครับ”

“แล้วพี่มากินเหล้าอะไรแถวนี้ หรือว่ามาสอยเด็ก”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ พอดีพี่แวะมาทำธุระกับเจ้าของร้าน แต่เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว ถ้าไม่ว่าอะไรพี่ขอเบอร์โทรติดต่อได้ไหม”

ผมไม่ได้ว่าอะไรในเมื่อตัดสินใจจะลองคุยดูแล้ว ผมจึงให้เบอร์โทรติดต่อกับพี่เขาไป หลังจากนั้นไม่นานพี่ซินก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

ส่วนผมนั่งได้สักพัก เจ้าเพื่อนของผมมันก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับหิ้วเพื่อนของมันมานั่งข้างๆ


“มึง...กลับเองได้เปล่าวะ เดี๋ยวกูเอาเพื่อนไปนอนหอก่อน สภาพมันคงไม่น่ารอดถึงเที่ยงคืน”

“ได้ดิ ไม่เป็นไร”

“เออถ้าไงกูไปก่อนนะมึง โทษทีว่ะ ถ้าไงเดี๋ยวกูโทรหามึงนะ”


ผมหันไปพยักหน้าให้ไอ้ทีเพื่อนรักของผม โดยที่ตอนนี้มันหิ้วเพื่อนกลับไปแล้ว ส่วนพี่ซินก็กลับมาหาผมที่โต๊ะหลังจากที่เพื่อนของผมออกไปได้ไม่นาน

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชะงัก

พี่ซินเดินมาพร้อมกับคนๆหนึ่ง และมันคือไอ้แว่น....หมายความว่ายังไง


“มีอะไรหรือเปล่า หรือว่ารู้จักกันแล้ว”

พี่ชินพูดกับผมในตอนที่ผมเอาแต่มองไปข้างหลังพี่เขา และตอนนี้พี่ซินก็หันหลังกลับไปมองบ้าง...

“นี่เซน...”

...เดี๋ยวนะ...


พี่ซินรู้จักกับไอ้แว่นด้วยหรอ ว่าแต่ทำไมไอ้แว่นนี่ มันถึงได้รายล้อมไปด้วยคนที่ผมรู้จักหมดเลยละ และประเด็นคือ ไอ้แว่นมันกำลังทำหน้าไม่สบอารมณ์สุดๆ ผมรู้สึกได้เลย

 แถมตอนนี้ผมยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆอีก ให้ตายเถอะ อย่าเพิ่งฆ่ากูตอนนี้เลยนะไอ้แว่น


“เอ่อ...คือ”

“เซนน้องชายพี่เอง ไม่คิดว่าจะมาเจอกันโดยบังเอิญที่นี่ เลยเอามาแนะนำให้รู้จักซะเลย”

“ผมรู้จัก...พี่กัสแล้ว”

“อ้าวจริงเหรอ”

“เคยเจอกันแล้วน่ะ”

“ถ้าแบบนั้นก็ดีเลย จะได้รู้จักกันเอาไว้ ตอนนี้พี่ต้องกลับแล้วด้วยสิ ฝากไปส่งกัสที่หอด้วยเลยนะไอ้น้องชาย”


...ช็อคครับ...

ฝากใครไม่ฝาก ดันฝากไอ้แว่น! จะให้ไอ้แว่นไปส่งผมที่หอหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็เสร็จมันอะดิ ไม่เอาด้วยหรอก


“ม...ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้”

“เดี๋ยวผมไปส่งพี่กัสเอง พี่ซินกลับไปก่อนได้เลยไม่ต้องห่วง”

“งั้นพี่กลับก่อนนะครับน้องกัส ไว้เจอกันใหม่”

ผมพยักหน้ารับรู้ให้กับพี่ซิน ซึ่งพี่เขาก็เดินออกไปทันทีที่พูดจบ ผมหันหน้ากลับมามองไอ้แว่นอีกครั้ง คราวนี้มันจ้องผมเขม็งพร้อมกับนั่งลงข้างๆผม และขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนผมขนลุกซู่

“ให้พี่ผมกลับไปจนแน่ใจก่อน แล้วเราค่อยกลับกัน”

มันกระซิบเสียงต่ำข้างๆใบหู จนผมตัวเกร็ง ผมหันไปมองมันอย่างหวาดๆก็ได้รับแต่สายตาดุกลับมา ขนาดมันใส่แว่นผมยังรู้สึกได้เลยว่ามันอารมณ์มาคุแค่ไหน



.
.
ตอนนี้ผมขึ้นรถมากับไอ้แว่น โดยที่มันขับรถมุ่งหน้าไปที่ไหนสักที่ซึ่งผมไม่ค่อยคุ้นทางสักเท่าไหร่ คงไม่ได้เอาผมไปฆ่าใช่ไหม จนผมทนไม่ไหวอดที่จะถามออกไปไม่ได้

“จะไปไหน หอพี่ไม่ได้ไปทางนี้”

“เงียบไปเลย”

ผมเงียบลงทันที เพราะกลัวด้วย ตอนนี้มันดุเอามากๆ แถมยังเร่งความเร็วรถให้ขับเร็วมากขึ้นอีกจนผมต้องจับเบาะเอาไว้แน่น ไม่อยากตายตอนนี้นะเว้ย ไม่นานนักมันก็เลี้ยวเข้าไปที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง

ไอ้แว่นมันลงจากรถไปแล้วแต่ผมยังไม่ลงเพราะอยากกลับหอตัวเองมากกว่า แถมพรุ่งนี้ผมยังต้องอ่านหนังสือด้วย ถ้าหากผมกลับหอจะได้ตื่นเช้ามาและนั่งอ่านหนังสือต่อได้เลย ไม่ใช่มาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้


“ลงมา”
“ไปส่งพี่ที่หอเดี๋ยวนี้”
“บอกว่าให้ลงมา”
“ไม่ลง!  โอ๊ย!”

ผมร้องเสียงหลงทันทีเมื่อช่วงแขนถูกกระชากให้ออกมาจากรถอย่างแรง ไอ้แว่นมันแรงเยอะมากจนผมกระเด็นไปชนกับหน้าอกแกร่งของมัน

“อยากคลิปหลุดหรือไง”

ผมตัวชา...คราวนี้มันเอาจริงแน่ ดูหน้ามันก็รู้แล้วว่าโกรธจัดมากแค่ไหน แถมมือที่บีบอยู่บริเวณช่วงแขนของผม มันเล่นบีบซะแน่นแถมยังไม่คลายมือออกด้วยซ้ำ

ผมจำใจต้องเดินไปตามแรงฉุดถึงแม้จะเดินไม่สะดวกก็ตาม เพราะมันเดินเร็วมากจนผมสาวเท้าก้าวตามแทบไม่ทัน

ไม่นานผมก็ขึ้นมาถึงที่ห้องของมัน โดยการขึ้นลิฟต์และเดินออกมาอีกนิดหน่อย ผมถูกโยนเข้ามาในห้องอย่างแรงจนเกือบล้ม

“เป็นบ้าอะไรนักหนา!”

“เป็นบ้าหรอ พี่ต่างหากที่เป็นบ้าอะไร วันนี้ผมบอกว่าไง! รู้มั้ยว่าผมรอพี่ที่หน้าหอตั้งนานแต่พี่กลับหนีผมมาร้านเหล้า”

“ใครใช้ให้รอ ไม่ได้บอกว่าให้มารอซะหน่อย”

หมับ!

“เจ็บนะไอ้แว่น! ปล่อย!”

มันพุ่งตัวเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับเอื้อมมือมากระชากแขนที่บริเวณเดิม จากตอนแรกผมก็เจ็บอยู่แล้ว และตอนนี้ก็ยิ่งเจ็บจนรู้สึกปวดมากกว่าเก่า คงจะเป็นรอยอีกแน่เลย


“สงสัยต้องโดนสั่งสอนสักหน่อยแล้วล่ะ”

“สั่งสอนอะไร! ออกไปห่างๆ”

“พี่ก็น่าจะรู้นะครับว่าผมทำอะไรได้บ้างกับร่างกายของพี่!”

“ไอ้โรคจิต ปล่อย!”

“เสียงดังไปก็เท่านั้น ห้องนี้เก็บเสียงได้อย่างดีเลยล่ะ และมันก็เป็นเหตุผลที่ผมพาพี่มาที่นี่ เผื่อว่าพี่จะร้องครางดังๆคนอื่นมันจะได้ไม่ต้องมาสอดรู้เรื่องของเราไงล่ะ”


มันปล่อยมือออกจากแขนของผมไปแล้ว ขาของผมสั่นเมื่อก้าวเท้าถอยหลังให้ห่างออกจากมันให้มากที่สุด แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเพราะมันก็ก้าวเท้าเข้ามาหาผมเหมือนกัน

“หนีไม่ได้หรอก....คืนนี้พี่จะยอมหรือไม่ยอม ผมไม่สน! ผมสนแค่ได้ตัวพี่เท่านั้น เป็นคู่นอนก็ช่วยให้ความร่วมมือกับผมด้วย!”

นัยน์ตาสีดำสนิทของคนตรงหน้ามันยิ่งทำให้ผมกลัว แม้มันจะใส่แว่นเอาไว้ก็ตามแต่มันไม่อาจซ่อนความน่ากลัวพวกนั้นเอาไว้ได้เลยแม้แต่นิด

“วันอื่น...วันอื่นได้ไหม”

“ไม่....ไม่มีวันอื่น มีแต่วันนี้และก็เดี๋ยวนี้!”




-----------------------
มีต่อค่ะ...

ออฟไลน์ kachettt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
    • Twitter
ต่อ



ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอแห้งผากและพยายามวิ่งไปที่ห้องน้ำตรงหน้า แต่ผมคิดผิดมหันต์ที่วิ่งผ่านตัวมันไป มันเอื้อมแขนมารั้งเอวของผมเอาไว้จนหลังผมแนบชิดติดกับอกของมัน ผมพยายามดิ้นให้หลุดแต่ไม่สามารถสู้แรงที่มีมากของมันได้


ผมถูกเหวี่ยงลงกับเตียงนอนกว้างและมันก็ทาบทับตามลงมาพร้อมกับประกบจูบที่ริมฝีปากของผม มันเต็มไปด้วยความกระหายและรุนแรงจนผมรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในปาก มือก็พยายามดันอกของมันให้ออกห่างแต่ด้วยสรีระร่างกายที่แตกต่างกันมาก ผมไม่อาจสู้แรงของคนตรงหน้าได้ไหว


มือกร้านลงน้ำหนักรุนแรงและร้อนระอุคลึงแนบลงกับแกนกายของผมและบดคลึงไปมาอย่างหนักมือผ่านเนื้อกางเกงจนผมต้องครางต่ำเพราะเริ่มรู้สึกวูบโหวงที่บริเวณช่วงท้อง


“รู้สึกไวเป็นบ้า...ผมโคตรชอบคนแบบนี้”

ผมนอนแน่นิ่งไม่ขัดขืน เพราะผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนกัน มันเริ่มถอดเสื้อผ้าของผมออกทีละชิ้นอย่างช้าๆจนหมดเหลือไว้เพียงกางเกงชั้นในสีขาวตัวบางที่มีรอยซึมของน้ำสีใสเป็นวงกว้างจากการปลุกเร้าเมื่อครู่


ผมนอนหอบกระเส่าบนเตียงนอนมองหน้าของไอ้แว่น ที่ตอนนี้มันก้มหน้าลงมาตรงกลางกายของผม มันเปิดปากแล้วใช้ลิ้นแลบเลียส่วนปลายยอดของผมไปทั่วกางเกงชั้นสีขาว จนผมต้องกระดกเอวเด้งรับปลายลิ้นร้อนชื้น


“อื้อ...ส...เสียว”
“ผมจะทำให้เสียวกว่านี้อีก คอยดูสิ”

มันละริมฝีปากออกจากชั้นในของผมและขยับกายขึ้นมาคร่อมทับที่บริเวณช่วงอก มันกำลังถอดเข็มขัดบนเอวของตัวเองออกแล้วเอื้อมไปรัดที่ข้อมือของผมทั้งสองข้างให้ชิดติดกัน จากนั้นก็นำไปผูกไว้กับหัวเตียง

ในตอนแรกผมขัดขืนไม่ให้มันผูกแต่เพราะถูกคร่อมทับทำให้ผมไม่สามารถขยับตัวออกได้ สุดท้ายก็สู้แรงที่มีมากของมันไม่ไหว...

“ทั้งตัวเล็ก...ขาว...แถมเอวยังเล็กเหมือนผู้หญิงอีก...”

มันพึมพำมองผมที่ปลายเตียงหลังจากมัดข้อมือของผมเสร็จแล้ว จากนั้นก็เอื้อมมือร้อนมากอบกุมกลางกายของผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันดึงชั้นในของผมหลุดออกไปด้วย และใช้มือชักรูดกลางกายของผมขึ้นลงไปมาจนต้องเด้งเอวสวนตอบรับความเสียวซ่านที่มากจนเกินรับไหว

“อื้อ...อ๊า จะออก พี่จะออก”

ผมครางเสียงหลงเมื่อถูกชักนำอย่างรุนแรง สองขาเล็กของผมอ้ากว้างเพื่อรองรับมือของมันอย่างเต็มที่ พร้อมกับกระดกบั้นท้ายขึ้นลงตามจังหวะการสาวมือ จนผมเกือบจะได้ปลดปล่อยความต้องการของตัวเองแต่กลับถูกนิ้วโป้งของมันกดปิดเอาไว้ไม่ให้ผมฉีดพ้นน้ำแห่งความสุขออกมา

“เอามือออกไป จะออก อยากออก”

ผมร้องขอเสียงหลงหวีดหวิว ช่วงตัวบิดส่ายไปมาหวังจะให้กลางกายเสียดสีและหลุดออกจากนิ้วมือที่กดปิดไว้นั่น แต่กลับไม่เป็นผล

“ผมไม่ให้พี่ถึงง่ายๆหรอก โทษฐานที่พี่ดื้อกับผม”

“ไม่ได้ดื้อ พี่ไม่ได้ดื้อ เอามือออกเถอะนะ”

ผมร้องอ้อนวอนให้มันปล่อยมือ แต่กลับยิ่งถูกมืออีกข้างสาวรูดท่อนลำแทน ส่วนบริเวณปลายยอดของผมยังคงถูกปิดเอาไว้แน่นด้วยนิ้วหัวแม่มือดังเดิม

“ตัวแดง...แถมยังครางเสียงโคตรเพราะ แบบนี้ไม่ให้ผมหลงได้ไง”

มันพูดพร้อมกับก้มหน้าลงมาแลบลิ้นเลียช่วงท้องบริเวณแอ่งสะดือของผมไปมา ผมหดเกร็งหน้าท้องไร้มัดกล้ามอย่างรุนแรงจนตัวงอเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับจากคนตรงหน้า

มันสาวรูดแบบเดิมอีกครั้ง คราวนี้ทำทั้งสองมือพร้อมๆกับอ้าปากดูดเลียบริเวณหน้าท้องนิ่มและแบนราบของผมอย่างหื่นกระหาย มันยอมปล่อยให้ผมไปถึงฝั่งและปล่อยนิ้วมือออกจากส่วนปลายที่เป็นรูอ้ากว้างพร้อมปลดปล่อยเต็มที่ ผมระเบิดโพลงปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาพร้อมอาการกระตุกเกร็งไปทั่วทั้งตัว

แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องครางเสียงดังอีกครั้ง เพราะมันก้มหน้าลงไปดูดเลียส่วนปลายของผมที่กำลังปลดปล่อยออกมาเป็นระลอก มันยังปล่อยออกมาไม่หมดด้วยซ้ำ แต่กลับถูกริมฝีปากหนาดูดเลียส่วนหัวและรูเล็กบนปลายยอดแดงก่ำเพื่อเร่งเร้าให้ผมปลดปล่อยออกมาตามคำสั่งของมัน


มันถอนปากออกและเงยหน้ามามองผมพร้อมกับกลืนน้ำที่ผมเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อครู่ในปากของมันให้เห็นต่อหน้าต่อตา ผมมองมันด้วยดวงตาหวานเชื่อมคลอหน่วย ผมหรีปรือมองมันด้วยความรู้สึกต้องการ

ใครจะไม่มองแบบนั้นกันละ ก็เล่นกลืนน้ำของผมไปซะขนาดนี้ อีกอย่างมันเป็นคนแรกเลยล่ะที่ทำให้ผมแบบนี้ และผมไม่เคยที่จะถึงจุดสุดยอดได้มากมายแบบนี้มาก่อนเลยด้วย


“น้ำพี่กัสหวาน ตัวของพี่กัสก็หวาน แต่อยากรู้จังว่าตรงนั้นจะหวานมั้ย”

“ตรงนั้น...ตรงไหน”

“ตรงนี้ไง”

มันพูดพร้อมกับเอามือมาจับยกเอาช่วงขาของผมให้อ้ากว้างและใช้มือแตะลงที่บริเวณช่องทางด้านหลังที่กำลังขมิบไปมาของผม ผมลนลานพยายามหุบขาปิดไม่ให้มันจ้องไปมากกว่านี้พร้อมกับพูดห้ามเสียงสั่น

“อย่า...อย่าคิดจะทำอย่างนั้นนะ”

“ทำไม...จะเก็บไว้ให้ใครทำ”

“ไม่มีทั้งนั้นแหล่ะ ไม่ให้ใครทำทั้งนั้น”

“ให้ผมทำเถอะน่า พี่รู้เปล่าว่าตรงนี้น่ะความรู้สึกไวกว่าตรงนั้นอีกนะ”


มันพูดพร้อมกับแตะนิ้วมือสัมผัสไปที่ช่องทางด้านหลังจากนั้นก็แตะนิ้วมือไปที่กลางกายของผมตามลำดับ ผมส่ายหน้าหวือ ผมไม่ได้ตอบว่าไม่รู้แต่เพราะกำลังจะสื่อว่าไม่อยากให้ทำมากกว่า


มันไม่รอช้าขยับกายก้มหน้าลงไปที่ช่องทางของผม พร้อมกับใช้มืออ้าขาของผมให้กว้าง จนก้นของผมลอยสูงขึ้นมาจากพื้นเตียง มันอ้าปากแลบลิ้นเลียช่องทางพับปิดสนิทของผมโดยที่ผมไม่ทันได้เอ่ยปากห้าม ทุกอย่างผ่านไปรวดเร็วมาก..

ความรู้สึกเสียวกระสันไปทั่วทั้งไขสันหลังแล่นปราบไปทั่วทั้งตัว ปลายเท้าเกร็งทั้งสองข้าง ใบหน้าสะบัดส่ายไปมา พร้อมกับก้นที่บิดส่ายเพื่อให้หลุดจากการปลุกเร้าด้วยเรียวลิ้นร้อนนั้น


“ไม่ อย่า! พอได้แล้ว อื้อ อ๊า”

“ร้องเสียงหลงขนาดนี้พี่ยังจะให้ผมพออีกหรอ”

“อื้อ อ่ะ ย...อย่าสอดลิ้นเข้ามานะ!”


ผมกระตุกตัวเกร็งเพราะความรู้สึกแปลกๆเมื่อลิ้นหนาร้อนระอุชอนไชเข้ามาที่ช่องทางอ่อนนุ่มของผม มันทั้งกระดกลิ้นขึ้นลงไปมาในช่องทางยิ่งผมร้องเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำซ้ำๆอยู่แบบนั้น ทำให้ผมต้องปลดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาอีกระลอก

“อ๊า!! อ๊า”

ผมปลดปล่อยออกมาที่บริเวณส่วนปลายยอด โดยไม่โดนแตะต้องแกนกายแม้สักนิด ช่องทางอ่อนนุ่มบีบเกร็งปลายลิ้นร้อนเป็นจังหวะตามการปลดปล่อยน้ำสีขุ่น มันละใบหน้าออกมาจากช่องทางของผมและขยับกายขึ้นมานั่งบนขาของตัวเอง พร้อมกับหยิบแกนกายขนาดใหญ่ออกมาด้านนอก

“ไม่ได้เอาถุงมาด้วย ขอสดนะพี่”

“ไม่ได้นะ! ไม่ให้”

“ไม่ปล่อยข้างในหรอกน่า....ถ้าปล่อยเดี๋ยวล้างให้ นะครับพี่กัส ดูสิ...มันอยากเข้าไปจะแย่อยู่แล้ว”

ผมสุดจะทนกับความอ้อนของไอ้แว่น มันทำตาปริบๆมองมาที่ผมพร้อมกับเอาแกนกายที่มีน้ำใสไหลซึมออกมาเต็มส่วนปลายบาน สอดแยงไปมาที่ช่องทางด้านหลังที่เปียกชื้น ผมไม่ได้ตอบอะไรก็เท่ากับว่ายินยอมนั่นแหล่ะ

ตอนนี้ไอ้แว่นมันน่าจะหายโมโหแล้ว ดูจากท่าทางของมันเอา และถ้าผมขัดใจมันละก็มีหวังประตูหลังผมแหกแน่ๆ เพราะแบบนี้ผมเลยยอมๆมันไป

พอไอ้แว่นมันเห็นว่าผมไม่ขัดขืนมันก็ขึ้นคร่อมผมทันที พร้อมกับสอดแกนกายขนาดใหญ่เข้ามาแค่ส่วนหัว มันแช่ค้างไว้แบบนั้นและก้มลงจ้องมองผมไม่ละสายตาไปไหน

“เข้ามาอีกสิ เข้ามาให้หมดเลย”

“พี่ตอดแรง ผมเข้าไปไม่ไหวหรอก อย่ารัดแน่นสิครับ ผมรู้ว่าพี่กำลังเสียว อะ โอ๊ย!”

“ถ้าลีลานักจะรัดให้มันขาดตรงนี้แหล่ะ”

ผมรู้ว่ามันกำลังแกล้งผมอยู่ ดูแค่นี้ก็รู้แล้ว ทำเป็นแกล้งเข้าไม่ได้ให้ตายเถอะ ไอ้แว่นหื่นกามเอ๊ย! ด้วยคามโมโหผมเลยแกล้งรัดมันซะเลย เห็นมันร้องและหลับตาปี๋ก็ยิ่งรู้สึกสะใจ

แต่ผมกลับต้องร้องเสียงหลงกลับไปบ้างเพราะไอ้แว่นมันกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนผมจุกไปหมด แรงเสียจนตัวผมกระเด้งไปด้านบน มันเห็นผมกระเด้งขึ้นไปจึงจับรวบสะโพกของผมให้กลับลงมาด้านล่างทำให้ช่องทางของผมกระแทกลงมารับเข้ากับแกนกายขนาดใหญ่ที่สอดรออยู่ก่อนแล้วทันที

“มันจุกนะ! อึก อ๊ะ อ๊ะ”

“ตรงไหนนะ จุดเสียวของพี่”

“ไอ้แว่นแกมันโรคจิต อ๊ะ อ๊า!!!”

“ตรงนี้หรอ”


ผมร้องเสียงหลงเมื่อมันกระแทกย้ำมาตรงจุดที่ผมรู้สึกเสียวที่สุด เมื่อมันรู้ว่าอยู่ตรงไหนก็กระแทกย้ำจุดเดิมอยู่สี่ห้าครั้ง จนผมทนไม่ไหวดิ้นพล่านเหมือนปลาโดนน้ำร้อนลวก


แต่ผมต้องอ้าปากค้างกับการกระทำของคนตรงหน้า เพราะมันกระชากแท่งร้อนออกไปอย่างแรง จนผมรู้สึกวูบโหวงในช่องท้องที่เกิดจากความว่างเปล่าในช่องทางสีสด ไอ้แว่นขยับตัวขึ้นมาและกระชากเอาเข็มขัดที่รัดข้อมือผมเอาไว้กับหัวเตียงออกไปจนทำให้มือของผมเป็นอิสระ


ผมมองมันด้วยสายตาเหม่อลอยเหมือนคนเมา ตาของผมพร่าไปหมด ผมต้องการให้เจ้าแว่นเข้ามาเติมเต็มในตัวของผมอีกครั้ง
ผมจึงผลักให้มันออกห่างไปจากตัวเมื่อถูกแก้มัดเสร็จแล้ว มันมองผมงงๆและทำท่าจะคลานกลับเข้ามาหา

แต่ผมเปลี่ยนท่าทางของตัวเองเป็นท่าหมอบคลานหันหลังให้ และขยับช่วงตัวให้แนบลงไปกับพื้นเตียงนุ่ม พร้อมกับใช้มือจับแก้มก้นขาวผ่องแบะออกกว้างเผยให้เห็นช่องทางสีแดงสดฉ่ำน้ำที่ปิดไม่สนิทเนื่องจากโดนรุกรานอย่างรุนแรงมาเมื่อครู่


“เข้ามาสิ...เข้ามาให้หมดเลยนะเซน”

“พี่แม่งโคตรยั่ว ให้ตายเถอะ!”

ผมหันหน้าไปมองเจ้าแว่นเห็นมันพุ่งตัวเข้ามาหาผมอย่างเร่งรีบ พร้อมกับใช้แท่งร้อนจ่อเข้ามาที่ช่องทางฉ่ำน้ำของผม มันเสียบเข้ามาอย่างแรงและลึกมากจนผมสัมผัสได้ถึงพวงสองแฝดของมันกระทบไปมาที่พวงของผม

“อ๊า อ๊า อ๊า แรงอีก...อย่าหยุด”

“อืม อ่า ซี๊ด ตอดดีเป็นบ้าเลย”

ผมครางลั่นพร้อมกับกระแทกก้นสวนไปยังแท่งร้อนของคนด้านหลังประจวบเข้ากับจังหวะที่มันกระแทกเข้ามาพอดิบพอดี ทำให้แกนกายร้อนเข้ามาลึกมากจนผมกระตุกเกร็งอยู่หลายครั้ง

“รัดผม ตอดผม แบบนั้นแหล่ะ ดีมาก! อ่า”

“ม..ไม่ไหวแล้วเซน พี่ไม่ไหวแล้ว อ๊า!!”


ผมปลดปล่อยน้ำสีขุ่นอีกครั้งโดนที่ไม่ได้โดนปลุกเร้าใดๆ ส่วนแกนกายด้านหลังกระทุ้งเข้ามาอย่างรุนแรงอีกสี่ห้าครั้งไม่นานก็รับรู้ได้ถึงความอุ่นวาบที่ช่องท้อง ผมขมิบตอดรัดพร้อมๆกับการปลดปล่อยของตัวเองไปด้วย ผมได้ยินเสียงครางต่ำพึงพอใจของคนด้านหลังอย่างชัดเจน



ฟุ่บ!

เสียงถอนแกนกายออกของเจ้าแว่น มันดึงออกหลังจากปลดปล่อยเข้ามาและแช่ค้างเอาไว้พักใหญ่ ก้นของผมจากที่ถูกดึงรั้งด้วยมือหนาเมื่อถูกปล่อยก้นขาวของผมก็ล้มลงกระแทกเตียงนอนอย่างไร้เรี่ยวแรงจะตั้งชัน


“พี่กัส น้ำไหลออกมาเต็มเลย”

“น้ำอะไร?”

ผมงุนงงกับการพูดของเจ้าแว่นมันเอาแต่นั่งกุมน้องชายตัวเองเอาไว้และจ้องมองมาที่ก้นของผม มันมองด้วยสายตาแปลกๆแถมยังยิ้มและเลียมุมปากของตัวเอง ไม่นานมันก็จับก้นผมมาให้อยู่ท่าเดิมคือท่านอนคว่ำให้ตัวแนบกับเตียงและโก่งก้นขึ้น

“ไอ้แว่น แกจะทำอะไร!”

“พี่กัส ผมรู้สึกอีกแล้ว ขอนะครับ”

“ไม่โว้ยยยยยย!”


และหลังจากนั้นผมก็โดนไปอีกสามยก โชคดีที่ผมไม่ได้สลบไปก่อนแถมยังมีแรงด่ามันด้วย มันนั่งขัดสมาธิและก้มหน้าข้างตัวผม ในขณะที่ผมยังนอนอยู่ ส่วนผมชี้หน้าด่าสั่งสอนมันจนหงอย เพราะมันทำให้ผมขยับตัวไม่ได้นี่แหล่ะ !


“ห้ามแตะตัวกันสามวัน!!”

“พี่กัสสสสสสส ใจร้าย”




:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:

บอกแล้วว่าหอบหื่นกำเริบ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนแรกว่าสงสารหลานกัสที่โดนข่มเหง แต่กลับสมยอมซะงั้น คนแก่กลับลำไม่ทันจริง ๆ  :sad5: :sad5:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :oni2: :haun5: :interest: :o9:h


ตายไปเลยยยยยย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ที เพื่ิอนกัส ดันรู้จักเซนด้วย
เซน เหมือนอยากตามกัส ไปอยู่กับกัส
แต่กัสนัดทีไว้ เลยโกรธแยกออกไป
ที่น่าสงสัยที ชอบเซนใช่ไหม เพราะดูอารมณ์ดีขึ้นมา

พี่ซิน สนใจกัส มาทักกัส ให้ความรู้สึกว่าต้องเป็นอะไรกับเซน
เพราะชื่อใกล้เคียงกัน แล้วก็เป็นพี่น้องกันจริงๆซะด้วย
จะ 3p หรือเปล่าหรือนะ

กัสเอ๊ย.....ความรู้สึกไวจริงๆ  :z3:
ไม่ยอมมีอะไรกับเซน แต่แป๊บเดียว เสียวนำไปซะแล้ว
แถมเรียกร้อง อ่อยเต็มที่  :z1: :pighaun: :haun4:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หื่นจริงๆ

ออฟไลน์ W2P5

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สามวันแว่นน้อยต้องเหงาแน่ๆ :hao6: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ทีชอบเซนแน่ๆ ลูกเพื่อนพ่อแสดงว่าต้องเคยเจอกันบ้างแล้วสินะ อืมๆ จะมีเหตุการณ์เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดไหมน้อออ -0-

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แว่นหาทางให้พี่กัสใจอ่อนเลย จากสามวันเหลือสามชั่วโมงพอ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
3pก็ดีนะ ชอบพี่แต่เสียดายน้องง่ะ

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
คิดว่าไม่3p เพราะเซนน่าจะเป็นคนขี้หวง
ทีเหมือนชอบเซน แต่เซนไม่ชอบที เพราะอะไร?
ซินสนใจกัสจริงๆเหรอ

ออฟไลน์ kachettt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
    • Twitter
แว่นดุ 6
ข่าวลือจากคนนิรนาม



ช่วงสายโด่งของอีกวัน

“มันเป็นเพราะแกเลยไอ้แว่น ลุกไม่ได้เลยเนี่ย!”


เสียงของผมกำลังด่ากราดใส่ไอ้ตัวการที่มันเป็นต้นเหตุทำให้ผมไม่สามารถลุกขึ้นได้ สภาพของผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับศพ ริมฝีปากแห้งกรัง ตัวร้อน ปวดหัวปวดสะโพกไปหมด ขยับไปทางไหนทีนึงก็ต้องร้องโอดโอยทีนึง


“แล้วเมื่อคืนใครบอกให้ทำแรงๆ”

“ไอ้แว่น!”

“นี่พี่จะไปไหน นอนอยู่ก่อนไม่ได้หรอ วันนี้ก็หยุดด้วย”

“จะกลับหอ”

“หึ...กลับไหวก็กลับไปดิ”

“ไอ้แว่น! โอ๊ย”


ผมทำท่าจะลุกขึ้นมาด่ามัน แต่ดันลืมตัวไปหน่อยว่ากำลังเจ็บสะโพกอยู่ ทำให้เกิดอาการเจ็บและปวดไปทั่วช่วงตัวด้านล่างทันทีที่ขยับกาย ทำให้ต้องล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

ผมเหลือบมองไอ้แว่นที่กำลังทำหน้าตาเหลอหลาแถมยังทำตัวไม่ถูกมองมายังผม


“ผมว่าพี่ปวดท้องเพราะไม่ยอมเอาน้ำออกแน่เลย งั้นมานี่ เดี๋ยวผมพาไปห้องน้ำจะล้างตัวให้”


ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากนอนมองมันที่กำลังขยับกายเข้ามาอุ้มผมไปห้องน้ำ มันทำความสะอาดให้ผมเบามากจนผมรู้สึกร้อนที่หน้าแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก

เวลาผ่านไปไม่นานนักก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย...


ผมถูกอุ้มมานอนที่เตียงอีกครั้ง มันวางผมลงกับเตียงเบาๆและขยับตัวลุกขึ้นไปกดมือถือพร้อมกับทำหน้านิ่งคิ้วขมวดเดินวนไปวนมาอยู่นานมาก

ผมมองจนกระทั่งมันเดินไปเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบางอย่างออกมาวางข้างๆตัวผม ส่วนเจ้าตัวก็นั่งลงตามมาติดๆพร้อมกับพูดขึ้น

“กินยาแก้ปวดไปก่อน แล้วก็ทายานี่ด้วย”

“ทำไมมีของพวกนี้”

“ไม่ใช่ของผม มันเป็นของพี่”

“ใช่พี่คนเมื่อคืนหรือเปล่า”

“อือ ทำไมอะ”

“ไม่ทำไม กำลังคิดว่าเขาหล่อดี...โอ๊ยทำบ้าไรเนี่ยไอ้แว่น”


มันจับขาผมอ้ากว้างอย่างแรงจนต้องร้องเสียงหลง พอมองลงไปเห็นมันบีบยาใส่นิ้วมือเป็นก้อนพร้อมกับมองผมเขม็ง จากนั้นก็ใช้นิ้วทายาที่ช่องทางด้านหลังของผมและกดเน้นๆจนรู้สึกเจ็บแปลบๆ

นี่มันกำลังแกล้งผมอยู่ใช่ไหม!


“หมั่นไส้ว่ะ ชมแต่คนอื่น ไม่ชมผมบ้าง”

“ก็แกไม่หล่ออะ โอ๊ยๆเจ็บนะ!”


มันทายาที่ก้นผมซะแรงจนเจ็บไปหมด ยังดีที่ยาเป็นแบบเย็น เลยทำให้รู้สึกพอจะลบล้างกันไปได้บ้าง มันจับขาผมวางลงเตียงดังเดิมและลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องอีกห้องเหมือนจะไปทำอะไรสักอย่าง

ผมมองตามไปจนมันเข้าไปในห้องนั้นสักพัก จึงหยิบมือถือแถวหัวเตียงขึ้นมาดูเวลา

แต่เห็นข้อความแชทจากใครสักคนจึงเปิดเข้าไปดู


“น้องกัสถึงหอหรือยังครับ?”

ส่งมาตั้งแต่เที่ยงคืนเลยนี่นา มันเป็นข้อความจะพี่ซินคนที่ผมเพิ่งให้เบอร์ไปเมื่อคืน พอเมมเบอร์ไปแล้วเลยขึ้นเป็นไอดีแชทละมั้ง
ถึงว่าสิทำไมพี่เขารู้ไอดีของผมได้ ผิดกับไอ้แว่นที่มันรู้ไอดีและเบอร์ของผม ก็เพราะมันต้องหยิบมือถือของผมไปกดหาแน่ๆ ไอ้นี่ไม่มีการขอแม้แต่นิด ไอ้เด็กไร้มารยาท


หลังจากที่ผมก่นด่าไอ้แว่นไปเสียนาน จึงกดส่งข้อความกลับไปหาพี่ซินต่อ

“ถึงนานแล้วครับ ผมถึงแล้วก็นอนทันที เลยไม่ได้ตอบข้อความของพี่”


โกหกสิครับ จะให้ตอบไปโต้งๆว่าทำ....กับน้องพี่อยู่ครับเลยไม่ได้ตอบ มันก็กระไรๆอยู่


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ทำงานก่อนนะ”


...เดี๋ยวนะ...

ตอบแชทไวมาก นี่ตกลงทำงานจริงหรอ ไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นเพราะว่าผมส่งไปยังไม่ทันจะถึงนาทีเลยด้วยซ้ำ พี่เขาก็ส่งข้อความกลับมาหาผมไวเสียยิ่งกว่าจรวด

ในขณะที่ผมกำลังนั่งจดจ้องหน้าจอมือถือของตัวเองอยู่...
 

“คุยกับใคร”
“พี่ซิน”
“...ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อคืนละ พี่ซินจีบพี่กัสหรอ”
“ประมาณนั้นแหล่ะมั้ง”


ผมตอบแบบไม่ได้ใส่ใจนัก ก็แค่อยากลองคุยกันดูแค่นั้นเอง อีกอย่างผมไม่ได้อยากจะผูกมัดกับใครนานๆด้วย มันก็แค่ลองดู เผื่อถ้ามันไปกันรอดก็คงจะคบดูละนะ


ผมเห็นไอ้แว่นมันยืนถือจานแซนวิชทำหน้าบึ้งตึงมองมาที่ผมหลังจากที่ตอบมันไป


“แล้วพี่กัสชอบพี่ซินหรือเปล่า”

มันเป็นคำถามที่ผมไม่สามารถตอบได้ เพราะผมไม่รู้เหมือนกันว่าชอบพี่ซินไหม แค่รู้สึกถูกใจรู้สึกถูกชะตาเสียมากกว่า พอคุยกันก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรด้วย

จะบอกว่าชอบหรอ....มันก็จะดูโกหกไปหน่อย

ผมเลือกที่จะไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง ส่วนเจ้าแว่นมันเดินมานั่งข้างๆ พร้อมกับส่งจานแซนวิชมาให้ตรงหน้า

แต่แปลกที่มันไม่เซ้าซี้เหมือนทุกครั้ง เพราะปกติมันชอบคะยั้นคะยอจะตาย แปลกจริงๆนะ


“ผมทำมาให้”
“ขอบใจนะ”
“ตอนนี้พี่กัสมีคนที่ชอบหรือยัง”
“ไม่มี”
“.............ดี...”

เห็นมันตอบกลับมานั่นแหล่ะ แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายของไอ้แว่น ผมไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่นัก และก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรขนาดนั้นด้วย

ผมจึงหันหน้ามาสนใจแซนวิชในมือ พร้อมกับหยิบแซนวิชขึ้นมากัดกินคำโต อร่อยใช้ได้ หมอนี่มันเก่งเรื่องทำอาหารด้วยหรอ ก็ดูเข้ากับลุคของมันอยู่นะ ท่าทางที่ดูติ๋มๆหยิมๆ ไม่แปลกที่จะทำอาหารเป็น...


แต่ผมนี่สิ แค่ทอดไข่ยังกลัวน้ำมันกระเด็นเลย อย่าถามถึงการทำอาหาร เลือกออกไปซื้อข้าวราดแกงกินเสียยังดีกว่ามานั่งทำเองอีก กลัวว่าห้องจะไฟไหม้ไม่ใช่อะไรหรอก


.
.
ในขณะที่ผมกำลังนอนตัวเปื่อยเล่นโน้ตบุกของมันเพลินๆ จู่ๆมันก็ลุกขึ้นนั่งและรับสายจากใครสักคน


“ฮัลโหล”
“ตอนนี้เลยหรอ”
“คืนนี้ได้ไหม”
“อืม...ได้”



จากนั้นมันก็ถอนหายใจยาวเหยียด กดปิดมือถือพร้อมกับปล่อยตัวเองนอนลงอีกครั้ง ผมหันมองท่าทางของมันที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์สุดๆ แต่มันเปิดปากพูดขึ้นมาก่อน


“ร่างกายพี่กัสเป็นไงบ้าง?”

“ปวดเอวนิดหน่อย”

“เย็นนี้ผมไปส่งที่หอนะ ถ้าพี่มีไรโทรหาผมทันทีเลย เข้าใจเปล่า”

“แฟนโทรตามหรือไง”

ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดออกไปแบบนั้น คงเป็นเพราะการพูดการจาของเจ้าแว่นที่มีต่อคนในสายนั่นละมั้ง ผมมันยิ่งความรู้สึกไวอยู่ด้วย

“ไม่ใช่”

“คุยกันเหมือนแฟนเลยนี่หว่า”

“ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไม่มีแฟนด้วย”

“เออเอาเถอะ ถึงเวลาไปส่งด้วยแล้วกัน”

ผมตัดบททันทีเพราะไม่อยากเถียงไปมากกว่านี้  ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงได้ปฏิเสธจริงจังขนาดนั้น ก็แค่แซวเล่นนิดหน่อยเอง ทำเป็นจริงจังไปได้


หลังจากที่ผมพูดตัดบทไปและลอบมองเจ้าแว่นเป็นระยะ ใบหน้าของมันไม่ได้คลายความเครียดลงเลย เป็นอะไรของเจ้านี่กันนะ...


ผมเก็บความสงสัยนั้นเอากับตัวไว้เงียบๆ พอถึงช่วงเย็นร่างกายของผมดีขึ้นมาก คงจะเป็นเพราะยาด้วยละนะ เจ้าแว่นมันมาส่งผมที่หอตามที่บอกพร้อมกับแวะซื้ออาหารให้ผมด้วย

จะว่าไปมันก็เป็นคนเอาใจใส่อยู่เหมือนกัน ทั้งเรื่องทำอาหารให้กิน ทายา หายามาให้ และไหนจะอาบน้ำให้อีก ไม่รู้ว่ามันทำแบบนี้กับคู่นอนของมันทุกคนหรือเปล่า

แต่สำหรับผม ไม่มีคู่นอนคนไหนที่ทำให้ผมถึงขนาดนี้ ส่วนใหญ่ทำกันแล้วก็จากไป นานๆทีจะนัดมาเจอกันอีกครั้ง แต่โดยมากผมไม่ค่อยจะมีความสัมพันธ์กับคนเดิมๆสักเท่าไหร่...




.
.
หลังจากนั้น 3 วัน


ตอนนี้ผมเข้าสู่ช่วงของการสอบแล้ว โชคดีที่ไม่มีไอ้แว่นมันเข้ามาก่อกวน ลองมันเข้ามาตอนนี้สิ ผมได้พ่นไฟแน่ ยิ่งเครียดเรื่องอ่านหนังสือสอบอยู่

ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้างแยกแยะเรื่องต่างๆออกจากกันได้อย่างชัดเจนมากครับ อย่างเรื่องเที่ยวก็คือเที่ยว เรื่องเรียนก็คือเรียน ทุกอย่างผมสามารถแยกแยะมันออกได้ โดยไม่เอาไปผสมกันจนเสียอย่างใดอย่างหนึ่งเลย


....ว่าแต่ทำไมวันนี้มันเป็นวันบ้าอะไร! ตั้งแต่ผมเดินออกมาจากห้องก็เจอแต่สายตาแปลกๆเต็มไปหมด นี่ผมใส่เสื้อกลับตะเข็บหรือเปล่าวะ มันก็ไม่ใช่นี่หว่า แล้วมองกันทำหาอะไร มองแล้วก็ซุบซิบอยู่นั่นแหล่ะ แต่เท่าที่สังเกตคนที่มองจะเป็นพวกนักศึกษาปีเดียวกับผม และเป็นที่สำคัญคณะเดียวกับผมด้วย
 

“มึงมานี่! ไอ้กัส!”

ในที่สุดเพื่อนรักของผมก็มาช่วยชีวิตแล้ว ผมรีบหันมองตามเสียงเรียกแทบจะทันที พอมองหาจนเจอ มันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นักอยู่ข้างหน้าผมเอง

“เหมือนสวรรค์มาโปรดกู รักมึงมากไอ้ที หอมทีนึงได้มะ”

“ออกไปไกลๆกูเลยไอ้ห่า”

“มึง...วันนี้กูรู้สึกแปลกๆว่ะ ทำไมมีแต่คนมองกูวะ และแม่งไม่มองเฉยๆไง กระซิบกระซาบอยู่ได้”

“นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกหรอ เออกูขอเทศมึงหน่อยเหอะ”

“อะไรของมึงพูดมาเร็วๆกูหงุดหงิดแล้วเนี่ย”

“อ่ะมึงดูนี่!”


ไอ้ทียืนมือถือส่งมาให้ผม ในหน้าจอมือถือของมันเป็นรูปภาพแอบถ่ายแถวหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคอนโดนั้นคือที่ไหน เมื่อสามวันก่อนชัดๆ!!


และคนในรูปมันคือผมและไอ้แว่นนั่น มันกำลังจับแขนผมเดินพาเข้าไปในคอนโด และไม่ได้มีรูปเดียว มันมีรูปที่ไอ้แว่นยืนเกาะประตูเรียกผมที่อยู่ในรถด้วย บ้าเอ๊ย!


“ตอบคำถามกูมาก่อน มึงไปทำอะไรกับน้องเซนที่คอนโด”

“อ...เอ่อ....คือ”

“กูบอกมึงแล้วไอ้กัส ว่าให้ระวังตัว แล้วเป็นไงละมึง”

“ใครส่งมาให้มึงวะ”

“มันอยู่ในกลุ่มคณะเราเลยไอ้ห่า ไม่ได้เข้าไปดูหรือไง มีแต่คนเค้าแซวมึงกันให้ทั่วทั้งแชท!”

“เชี่ยเอ๊ย! ถึงว่าดิ ตั้งแต่กูออกจากหอมามีแต่คนมอง และแม่งคณะเราทั้งนั้นเลยด้วย”

“ไม่มองก็แปลกแล้วปะวะ!”


ตอนนี้ผมแทบไม่มีกระจิตกระใจจะสอบเลยครับ จะต้องทนตกเป็นเป้าสายตาคนจนถึงเมื่อไหร่  แต่ที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ผมอยากรู้มากเลยว่าใครมันเป็นคนถ่าย และใครมันเป็นคนปล่อยรูป


ผมมั่นใจว่ามันต้องเป็นคนเดียวกัน และมันต้องรู้จักผม หรือไม่ก็รู้จักกับไอ้แว่น!



มีต่อ...

ออฟไลน์ kachettt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
    • Twitter
ต่อ...

.
ในตอนที่ผมนั่งหน้าเซ็งอยู่กับไอ้ที ก็มีกลุ่มเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ผมไม่ค่อยชอบสายตาไอ้พวกนี้เวลามองผมเลย

 แต่ที่ทำให้ผมหงุดหงิดมันเป็นเพราะคนหนึ่งในกลุ่มมันดันพูดขึ้นมา มันชื่ออะไรไม่รู้ ผมไม่ค่อยจำชื่อเพื่อนในภาคได้ซะด้วยสิ


“ไอ้กัส กูเพิ่งรู้ว่ามึงเป็น....คืนนี้สนใจติวหนังสือกับกูปะ”

“ไปไกลๆไอ้สัด ก่อนที่กูจะฆ่ามึง”

“ลืมไป มึงไม่ชอบแบบพวกกู คงจะชอบเด็กแว่นหยิมๆ5555555 เห็นในรูปจับมือกันเดินขึ้นคอนโดตอนดึกๆ สงสัยจะติวกันหนักว่ะ เป็นไงบ้างวะติวท่าไหนบ้าง”

“ไอ้เชี่ยแม่ง”


ผมทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกระชากคอเสื้อไอ้คนที่มันพูดกวนตีนใส่ผมเมื่อครู่ ถึงมันจะตัวสูงกว่าผมก็เถอะ แต่ผมไม่ยอมมันหรอก กล้าดียังไงมาพูดจาดูถูกผมถึงขนาดนี้ สนิทก็ก็ไม่ได้สนิท ไอ้ตัวทุเรศ!


ผมเห็นมันทำหน้าเหลอหลาทันทีที่ผมกระชากคอเสื้อของมัน และจ้องมันเขม็ง

“ใจเย็นๆก่อนพวกมึง”

ไอ้ทีมันพูดห้ามและรีบเข้ามาดึงตัวผมให้ออกห่าง ส่วนเพื่อนของไอ้นั่นก็เข้ามาดึงตัวและห้ามเช่นกัน ผมไม่ละสายตามองมันแม้สักนิด เพราะว่าผมกำลังโกรธ เป็นใครไม่โกรธบ้างละ พูดจาหยามเหยียดกันขนาดนี้!


ผมมันเป็นพวกขี้หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเป็นพวกไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร พวกมันคงเห็นแต่ผมยิ้มให้ บางครั้งก็ทักทาย มันคงไม่เคยเห็นผมโกรธและโมโห มีก็แต่ไอ้ทีที่มันรู้นิสัยของผมดีที่สุด


“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!” มันพูดและเดินออกไป

“ฝากแล้วมาเอาด้วย ไม่งั้นกูถมน้ำลายทับแน่”

“ไอ้กัสพอ!”

ไอ้ทีรีบพุ่งมาห้ามผมอีกครั้ง แน่นอนว่าผมก็กำลังพยายามจะข่มอารมณ์ให้มันสงบลงอยู่เหมือนกัน ผมเห็นไอ้นั่นมันเดินหันหลังกลับไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของมัน

ดูท่าทางมันไม่สบอารมณ์สุดๆแถมยังสะบัดมือเพื่อนที่เข้ามาโอบทิ้งอย่างไม่ใยดี ไอ้พวกขี้แพ้ชวนตี !

“ไอ้กัส”

“ไม่ต้องพูดเลย กูโมโห พวกมันพูดแบบนี้ได้ไงวะ”

“กูรู้ แต่มึงต้องใจเย็นๆลงมาหน่อย”

“พยายามอยู่ แต่ก็ขอบใจมึงมากนะไอ้ที ถ้าไม่ได้มึงห้ามเอาไว้ กูคงมีเรื่องชกต่อย ไม่ได้สอบกันพอดี”

ไอ้ทีมันมองมาที่ผมและส่ายหัวระอาจนผมหมั่นไส้ เลยผลักหัวที่มันส่ายไปมาไปอีกทาง จนมันเกือบล้มหน้าขมำไปกับโต๊ะ มันเงยหน้าขึ้นมามองและกำลังจะผลักหัวผมบ้างแต่โทษที พอดีผมไวกว่าเลยหลบได้ทัน



.
.
หลังจากที่สอบเสร็จก่อนชาวบ้านชาวช่อง เพราะมันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเอาไว้ ข้อสอบก็เหมือนกับในห้องที่เรียนกันนั่นแหล่ะ มันทำให้ผมทำได้ไวขึ้น พอทำเสร็จเร็วกว่าคนอื่นเลยต้องออกมานั่งรออยู่ข้างนอกคนเดียวนี่ไง


ในขณะที่ผมกำลังนั่งรอไอ้ทีอยู่หน้าห้องสอบอย่างสบายใจ ดันมาเจอกับไอ้แก๊งเดิมนั่นเข้า ผมทำเป็นมองไม่เห็นและทำทีเดินเข้าไปในห้องน้ำเพราะไม่อยากเสวนาด้วย แต่พวกมันกลับเดินตามผมเข้ามานี่สิ ไอ้พวกนี้มันจะหาเรื่องผมอีกหรือไง

“พวกมึงมีปัญหาอะไรอีก”


ผมเปิดประโยคพูดขึ้นทันทีที่รับรู้ได้ว่าในบริเวณห้องน้ำชายไม่ได้มีเพียงแค่ผมคนเดียวอีกต่อไป เพราะมันดันมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาด้วย

“สั้นๆเลยนะ กูไม่จบ” ไอ้คนเดิมมันพูด

“กูจบ! มึงไม่จบมันก็เรื่องของมึงแล้ว”

ผมพูดเสร็จก็รีบล้างมือ และเดินสวนกลุ่มพวกมันออกมา แต่ผมเดินออกมาไม่ได้อย่างที่ใจคิด เพราะถูกเพื่อนของมันอีกคนขวางทางเอาไว้ ไอ้นี่มันตัวใหญ่ที่สุด มันบังทางมิดจนผมไม่สามารถหาซอกทางเดินออกไปได้


“เห็นเด็กร้านเหล้าคุยกันใหญ่ว่ามึงมันเด็ด อยากรู้จังว่าเด็ดยังไง”

“ไอ้พวกทุเรศ ถ้าพวกมึงไม่ถอยออกไป กูตะโกนเรียกคนข้างนอกแน่!”

“มึงชอบแบบไอ้แว่นหรอ ไร้รสนิยมสุดๆเลยว่ะ อย่างไอ้แว่นมันมีอะไรดี”
 
“นั่นมันเรื่องของกู”

“โอ๊ย! ไอ้เชี่ยแม่ง”

ผมกระทืบเท้าเต็มแรงใส่ไอ้คนข้างหน้าที่มันยืนขวางทางอยู่ จนมันร้องลั่น จากนั้นผมก็รีบวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำทันที แต่หนีออกมาได้ไม่ไกลนัก

 ผมดันวิ่งมาชนเข้ากับอกของใครคนหนึ่งคนตรงหน้าเข้า แม่งใครวะ มายืนขวางทางคนจะวิ่งเนี่ย


“พี่กัส?”

เสียงโคตรคุ้น ผมเงยหน้าขึ้นมอง ไม่ได้คุ้นอย่างเดียวนี่มันคนกันเองเลยละ

“ไอ้แว่น!”

“พี่หนีอะไรมา”


มันชะโงกหน้ามองไปทางด้านหลังของผม และก็มีกลุ่มไอ้พวกที่หาเรื่องผมเดินออกมาจากห้องน้ำสามคน พวกมันเดินมาทางผมพอดี


แต่ไอ้คนที่มันมีปัญหากับผมดันเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆและยื่นหน้าเข้ามากระซิบกระซาบเสียงเบา


“มึงเจอดีแน่”


ผมกัดฟันกรอดกำมือแน่นและจะหันหน้าไปมอง แต่มันขยับตัวออกไปแล้วพร้อมกับมองไปที่ไอ้แว่นเขม็ง  จากนั้นมันก็เดินผ่านผมและไอ้แว่นไป...


“พี่กัส...มันพูดว่าอะไร”

“ไม่รู้เหมือนกัน”


ผมโกหกเพราะไม่อยากให้ไอ้แว่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไอ้คนนั้นมันมีปัญหากับผมแค่คนเดียวก็เกินพอแล้ว ไม่อยากลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวด้วยสักเท่าไหร่ เพราะดูท่าทางจากเมื่อกี้ที่มันมองไอ้แว่นแล้ว มันคงจะเล็งเอาไว้ไม่น้อยเลยละ


ทางที่ดีควรตัดปัญหาออกไปตั้งแต่ตอนนี้มันคงจะดีที่สุด

“หน้าตามันกวนตีน เหมือนคนมาหาเรื่อง”

“ช่างมันเถอะ อย่าไปยุ่งกับมันก็แล้วกัน”

ผมพูดและทำท่าจะเดินหนีเพื่อจะไปรอไอ้ทีต่อ แต่กลับถูกรั้งช่วงแขนไว้ไม่ให้เดินต่อไปได้
 
ผมรีบหันกลับมามองที่แขนของตัวเองและรีบสะบัดมือออกทันที พร้อมกับมองซ้ายทีขวาที กลัวคนจะมาเห็นเข้า ผมกับไอ้แว่นยิ่งเป็นประเด็นกันอยู่ด้วยช่วงนี้ กลัวจะมีคนมาแอบถ่ายผมกับมันอีก

“อย่าจับ และก็ออกไปห่างๆด้วย ถ้าไม่อยากเดือดร้อน เข้าใจหรือเปล่า”

“พี่รังเกียจผมหรอ?”

...ผมชะงัก...

ไม่ได้รังเกียจ ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด ถ้ารังเกียจจะยอมให้มันทำ...ปะวะ แล้วนี่มันเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก ทำหน้าหงอยเป็นหมาเลย และท่าทางตัดพ้อนั่นมันคืออะไร?


“ไว้คุยทีหลัง กลับไปได้แล้วไป!”

“ผมมารับพี่กลับไปด้วยกัน”

“ไม่กลับ! อยากกลับก็กลับไปคนเดียวดิ”

ผมเริ่มจะหงุดหงิดแล้วนะ เซ้าซี้อยู่ได้ คนก็เริ่มทยอยออกจากห้องสอบกันแล้วด้วย อีกอย่างผมไม่อยากให้ทั้งมันและก็ตัวผมเองโดนนินทาไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้ก็โดนจนไม่รู้จะโดนยังไงแล้ว

พอคิดได้แบบนั้นผมก็เลยรีบเดินออกมา แต่คราวนี้กลับไม่เป็นผล ไอ้แว่นมันจับแขนผมแน่นและพาเดินเข้าลิฟต์ทันที 


ผมอยากตะโกนด่ามันมากแต่ด่าไม่ได้ เพราะกลัวพวกนักศึกษาที่เพิ่งสอบเสร็จและทยอยออกมาจะหันมามองกลายเป็นเป้าสำหรับนินทาอีกครั้ง ผมจึงยอมเดินตามมันมาโดยไม่ขัดขืนอะไร


เมื่อเข้ามาในลิฟต์...

“เป็นบ้าอะไรไอ้แว่น! บอกให้กลับไปไง ดื้อด้านอยู่ได้”


มันไม่ตอบแถมยังไม่มองหน้าผมด้วย ท่าทางนิ่งมาก นิ่งเสียจนผมเริ่มกลัวขึ้นมาหน่อยๆแล้ว พอลิฟต์เปิดโชคดีที่ด้านนอกไม่มีคน คงเป็นเพราะตอนนี้มันเย็นมากแล้ว

เมื่อผมไม่เห็นใครด้านนอกจึงรีบวิ่งออกมาจากลิฟต์หมายจะหนีไอ้แว่น แต่ผมหนีออกมาไม่ทันเลยโดนมันจับเอาไว้


“กลับไปกับผม”

“หอพี่ใช่ไหม”

“คอนโดผม”

“ไม่ไป! ไอ้แว่นปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย!”

“อยากให้คนลงมาจากตึกและเห็นพี่กับผมก็เชิญ เห็นว่าไม่อยากให้เห็น ผมก็เลยรีบพาออกมา แต่ถ้าพี่กับผมยังยืนเถียงกันแบบนี้ ได้เห็นกันทั้งตึกแน่”

เมื่อไอ้แว่นพูดจบมันจ้องหน้าผมเขม็ง จริงอย่างที่มันว่าถ้าผมมัวช้าลีลาอยู่แบบนี้มีหวังได้เห็นกันทั้งตึกจริงๆแน่

เอาเถอะ มันดีกว่ามายืนเถียงไปเถียงมาเป็นไหนๆ ผมจึงยอมเดินตามมันและขึ้นไปนั่งบนรถ โดยไร้ท่าทีขัดขืนเหมือนก่อนหน้านี้


ภายในรถเงียบกริบไม่มีใครเปิดบทสนทนาทั้งสิ้น มันขับออกมาจากมหาลัยนานพอสมควร ผ่านไปสักพักก็ถึงคอนโด ความจริงผมอยากจะพูดกับมันนะ แต่ทิฐิที่ผมมีมันดันสูงนี่สิเลยเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า

“ขึ้นไปข้างบน ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

ผมไม่ได้ตอบได้แต่พยักหน้าเข้าใจและเดิมตามไปโดยดี แน่นอนว่าผมค่อนข้างระแวงไม่น้อยเลยมองซ้ายทีขวาทีเพื่อมองหาไอ้คนแอบถ่ายรูปวันนั้น แต่มันไม่มีใครเลย...

ผมจำได้ว่ากลางดึกแบบนั้นที่นี่แทบจะไม่มีคนด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่ก็เข้านอนกันหมดแล้ว และทำไมถึงมีคนมาแอบถ่ายได้ อยากจะรู้จริงๆว่ามันคือใคร



ในห้อง...

พอผมเดินเข้ามาด้านในก็มุ่งหน้าไปทางโซฟาทันทีพร้อมกับวางกระเป๋าเอาไว้ส่วนตัวผมก็นั่งบนโซฟาตัวยาว  ส่วนไอ้แว่นเดินตามเข้ามาเหมือนกัน มันมองท่าทีของผมด้วยสายตานิ่งๆ ผมจึงเปิดประโยคพูดคุยกับมันเพราะจะได้หาทางกลับหอของตัวเอง อีกอย่างถ้ามันไม่มืดมากผมก็ยังพอเรียกแท็กซี่กลับได้

“มีอะไรก็ว่ามา พูดจบแล้วจะได้กลับ”

“ผู้ชายที่ตึกคือใคร”

“พูดเรื่องของนายเซน!”

“ผมถาม”

“...เพื่อนภาค”
“ผมเห็นว่าพี่กัสหนีพวกมันออกมาจากห้องน้ำ โดนทำอะไรหรือเปล่า”

มันไม่พูดเฉยๆอย่างเดียว แต่กลับเดินเข้ามาและนั่งข้างผม จับพลิกตัวผมไปมาเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างบนตัว จนผมหงุดหงิดเลยผลักมันออกและพูดขึ้น

“ไม่โดน ไม่ต้องหา มันไม่ได้ทำอะไร”

“ไว้ใจไม่ได้ ถ้าพี่ให้ผมไปรับทุกเย็น...”

“ไม่ต้อง”

มันยังไม่ทันพูดจบประโยคด้วยซ้ำ ผมรีบตัดบทเอาไว้ก่อนที่มันจะรวบรัดตัดความ กลายเป็นมารับทุกเย็น ไม่เอาด้วยหรอก ผมไม่กลับด้วยหรอก แค่นี้ก็โดนนินทาจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว 


“รังเกียจผมนักหรือไง!”

“รังเกียจอะไร แล้วจะขึ้นเสียงใส่ทำไมเนี่ย”

“ก็พี่ไม่ให้ผมไปรับ ไม่ให้ผมเดินข้างๆ ไม่ให้ผมอยู่ใกล้ต่อหน้าคนอื่น แล้วแบบนี้จะให้ผมคิดยังไง นอกจากคำว่ารังเกียจ”


...ผมนั่งนิ่ง...

แน่นอนผมอึ้งกับคำพูดของมันไม่น้อย ยอมรับว่ารู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน ที่ผมทำแบบนั้น ถ้าผมเป็นเจ้าแว่นก็คงจะรู้สึกได้ไม่ต่างอะไรกันหรอก

ผมไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไปนอกจากนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น มองนัยน์ตาของคนตรงหน้า มันมีแต่ความน้อยใจเต็มไปหมด

ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก...ว่าทำไมต้องทำสายตาแบบนั้นมาที่ผม

ผมเผลอเอื้อมมือออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มือของผมกำลังลูบข้างแก้มของคนตรงหน้า และมันก็เอียงหน้ารับกับมือของผมพร้อมกับหลับตา ท่าทางเหมือนแมวชะมัด

หลังจากนั้นเจ้าแว่นก็เอื้อมมือขึ้นมาทาบทับกับมือของผมและจับกุมเอาไว้ ไม่ยอมให้ผมละมือออก

มือของเจ้าเด็กนี่.....ร้อนจัง....

 “อ้อนอยู่หรือไง”

“ผมอ้อนไม่ได้หรอ มือของพี่กัสอุ่นมากเลย อยากอยู่แบบนี้นานๆ”

“ทำตัวเป็นเด็กไปได้”

“ก็เด็กกว่าพี่กัสอะ.....โอ๊ย! เจ็บนะพี่”

หมดอารมณ์!

นี่มันกำลังหลอกด่าว่า ผมแก่แล้วหรือเปล่าวะ ไอ้เด็กนี่ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน! มือของผมที่จากเดิมลูบแก้มมันอยู่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนเป็นบิดแก้มของมันอย่างแรงจนเจ้าตัวร้องเสียงดังลั่น


สะใจโว้ย! สมน้ำหน้า!




 
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:

จะบอกว่าตอนต่อไปพี่กัสน่าสงสารมาก
และจะแง้มๆให้ทายเล่นกัน
ว่าคนปล่อยข่าวลือคือใคร สำหรับตอนหน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ฮึ่ยยย.......ทำไมกัส ไม่บอกความจริงแว่น  :z3: :z3: :z3:
ไอ้พวกบ้าๆปากหมา มันต้องมารังควานกัสอีกแน่ๆ
กลัวพวกมันจะข่มขืนกัสน่ะสิ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     

ออฟไลน์ Jintajam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 ฮึ้ย พวกเขามีการพัฒนาขึ้นหรือป่าว   :katai2-1:

แต่กลัวตอนหน้าจะมาม่าจัง  :o12:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เพื่อนทีแน่นวล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใครหว่า จะเป็นทีปะ ไม่ใช่มัง เพื่อนสนิทเชียวนะ  :o10:
หรือจะเป็นแว่นเอง ไม่ใช่ๆ ในรูปมีแว่นด้วย  :confuse:
ไม่รู้แล้ว ยอม  :m5:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ใครปลาอยนะ แยากรู้,,,

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ทีหรือเปล่า? เพราะคนที่รู้จักทั้งคู่ก็มีแค่ทีไง
การที่น้องแว่นไม่ชอบที มันคงมีเหตุผลนะ
เราไม่ไว้ใจใครอะไรทั้งนั้นโดยนิสัยส่วนตัว5555555555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
ทีหรือเปล่า :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ทีแน่ๆอ่านหลายเรื่องเพื่อนสนิทนี่ละน่ากลัวสุดแล้ว 5555  :pig4:

ออฟไลน์ kachettt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
    • Twitter
แว่นดุ 7.1
ข่มขู่


“ว่าแต่ไหนบอกมีเรื่องจะคุย ก็คุยมาสิ”

“...มันสามวันแล้วนะ ที่พี่กับผมไม่ได้มี...”

“ไปตายซะไอ้แว่นหื่นกาม!”


หน๊อย!! ไอ้แว่นหื่นเอ๊ย! ที่แท้เรื่องที่จะคุยมันคือเรื่องแบบนี้เองหรอ ไอ้เด็กวิปริต ผมโมโหมากเลยครับ มันเสียเวลาผมมั้ยละ
วันนี้ผมควรจะได้กลับหอไปอ่านหนังสือ แต่ดันโดนไอ้แว่นมันหลอกพามาหอเพื่อนจะมาทำเรื่องอย่างว่า ให้ตายเถอะ!



.
.
หลังจากนั้นผมกับเจ้าแว่นไม่ได้มีอะไรกันหรอกนะครับ เพราะผมไม่ยอมมันซะอย่าง ช่วงนี้เป็นช่วงสอบด้วยเลยไม่อยากเอาร่างกายไปเสี่ยง กลัวจะไม่มีแรงไปสอบเนี่ยแหล่ะ ปล่อยให้เจ้าแว่นมันใช้มือนางไปพลางๆก่อนแล้วกัน


เห็นแล้วก็ขำมันนะครับ มันทำหน้าหงอยเหมือนลูกหมาที่เจ้าของไม่ยอมพาออกไปเดินเล่น ครางหงิงๆอ้อนผมไม่หยุดเลย แต่โทษทีนะ ผมช่วยอะไรไม่ได้หรอก พูดคำไหนคำนั้น




พอรุ่งเช้าอีกวันไอ้แว่นก็ไปส่งผมที่หอเหมือนที่เคยทำบ่อยๆ พอส่งผมเสร็จมันก็กลับไป แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆอยู่ตอนนี้ เพราะผมกำลังรู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังมองมาทางผมอยู่...


แต่พอหันหน้ากลับไปทางที่ผมรู้สึกกลับไม่มีใครเลยสักคนเดียว มีเพียงแค่พุ่มไม้เล็กๆเท่านั้น ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตสักอย่าง
ผมคงจะคิดไปเองและหวาดระแวงเกินไปละมั้ง พอคิดแบบนั้นผมก็เดินขึ้นหอตัวเองทันที โชคดีที่ไอ้แว่นมันแวะข้างทางพาไปซื้ออาหารมาด้วย ผมเลยไม่ต้องออกไปซื้อข้างนอก


อีกอย่างไม่ค่อยอยากรบกวนไอ้ทีมันด้วย ตอนนี้มันคงกำลังเคร่งเครียดกับการอ่านหนังสืออยู่ละนะ เห็นมันบอกว่าเทอมนี้จะทำเกรดให้ได้ดีๆ


เห็นแบบนี้มันก็เรียนเก่งอยู่นะแต่มันหัวไม่ค่อยไวเท่านั้นแหล่ะ ถ้าจับหลักการอ่านหนังสือได้มันก็คงจะเก่งนำผมไปแล้ว


ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อยพร้อมกับเดินมายังห้องของตัวเอง จนตอนนี้ผมเข้ามาอยู่ในห้องเป็นที่เรียบร้อย จะว่าไปพอนึกถึงไอ้ทีผมรู้สึกแปลกใจตั้งแต่เมื่อวานแล้ว


ทำไมมันถึงไม่โทรหาผม...

ทั้งๆที่ผมก็บอกมันว่าจะรออยู่หน้าห้องสอบแท้ๆ ถ้ามันหาผมไม่เจอก็น่าจะโทรหากันบ้างไม่ใช่เหรอ

และ...และถ้าสมมติผมโดนไอ้พวกบ้านั่นเล่นงานในห้องน้ำ ใครกันละที่จะมาช่วยผม

บ้าเอ๊ยไอ้กัส! คิดอะไรอยู่วะ!

ผมสบถใส่ตัวเองและรีบสลัดความคิดบ้านี่ออกจากหัวทันที คิดบ้าอะไรอยู่วะ มึงกำลังคิดถึงเพื่อนในแง่ร้าย แย่จริง! ผมทิ้งเอาความคิดบ้าๆในหัวนั่นออกไปและกดโทรหาเพื่อนรักทันที ไม่นานมันก็รับสายของผม


“ไอ้ที...”

“มีอะไร”

“เมื่อวานกูขอโทษนะเว่ยที่กูออกมาก่อน พอดีกูติดธุระ เลยไม่ได้บอกมึงอะ”

“ถึงว่าดิกูออกมาแล้วไม่เจอมึง เลยกลับหอมาเลย”

“ร...เหรอ เออถามไรหน่อยดิมึง”

“ไรวะ พูดมาเลย กูจะอ่านหนังสือต่อแล้ว”

“ทำไมมึงไม่โทรหากู...ทั้งๆที่มึงก็หากูไม่เจอ...”

“.....อ่อ พอดีกูเห็นเพื่อนข้างนอกเลยถามพวกมันว่ามึงไปไหน เห็นพวกมันบอกว่ามึงออกไปแล้ว กูเลยไม่โทรนี่ไง”

จริงด้วย...ผมนี่คิดมากเกินไปจริงๆ ทำไมถึงได้ไปสงสัยเพื่อนของตัวเองแบบนั้นกันนะ

“นั่นสิเนอะ 555 ถ้างั้นแค่นี้แหล่ะมึง ตั้งใจอ่านหนังสือนะเว่ย”


พอผมพูดจบเห็นมันไม่ได้ตอบอะไรกลับมาผมเลยกดตัดสายเอง ผมลอบถอนหายใจยาวเหยียด ทำไมถึงได้คิดอะไรตื้นแบบนี้กัน นั่นมันเพื่อนสนิททั้งคนเลยนะ ผมไม่ควรที่จะคิดสงสัยมันด้วยซ้ำ




.
.
23:40 น.

กองหนังสือระเกะระกะเต็มห้องไปหมด รวมไปถึงชีทเรียนต่างๆที่ถูกปากกาหลากสีสันแต่งแต้มเป็นรูปร่างหลากหลาย บ่งบอกจุดที่สำคัญและควรเน้นย้ำ


ปกติเวลานี้ผมจะนอนแล้ว เว้นแต่ว่าถ้าผมไม่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนข้างนอกน่ะนะ แต่วันนี้ที่ผมยังไม่นอนก็เพราะต้องอ่านหนังสือนี่แหล่ะ


ผมนั่งอ่านเพลินๆเสียงแจ้งเตือนในมือถือของผมก็ดังขึ้น ทำให้ต้องละมือออกจากหนังสือตรงหน้า จะว่าไปผมควรพักสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน อ่านมาร่วมสองชั่วโมงติดแล้ว...


ผมเอื้อมไปหยิบมือถือบนโต๊ะอีกฝั่งและเปิดมือถือเพื่อกดดูว่าเป็นข้อความของใครที่ส่งเข้ามา อ่า...เป็นข้อความของพี่ซิน


“น้องกัส...ช่วงนี้สอบหรอครับ ตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะ ขอให้สอบได้คะแนนดีๆทุกวิชาเลย”

“ขอบคุณมากครับพี่ซิน”

“ตอบไวจัง...พี่รบกวนกัสอ่านหนังสือหรือเปล่า”

“ไม่ครับ ผมกำลังพักอยู่พอดี”

“พี่อยากเจอกัสจังเลย...หลังสอบเรานัดเจอกันดีไหม”

“อืม...ได้สิครับ ถ้าสอบเสร็จแล้วเจอกันก็ได้”

“จริงนะ ห้ามคืนคำนะครับ”

“สัญญาเลย555”

“ถ้างั้นพี่ไม่กวนกัสแล้วละ อ่านหนังสือสอบต่อนะครับ และก็อย่านอนดึกมากละ รู้มั้ย”

“ได้ครับ ขอบคุณมากเลย”


ผมกดปิดมือถือและวางเอาไว้ที่เดิม คุยกับพี่ซินก็สบายใจดีเหมือนกันนะ มันออกจะน่าแปลกนิดหน่อยที่ผมรู้สึกคุยด้วยแล้วไม่อึดอัดเหมือนคนอื่นๆ


คงเป็นเพราะเขาเป็นพี่ด้วยละมั้ง เลยทำให้ผมกล้าพูดกล้าคุยแบบนั้น รู้สึกอบอุ่นเหมือนมีพี่ชายยังไงไม่รู้สิ


ทว่าพอผมจะหยิบปากกาไฮไลท์ขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวอ่านหนังสือต่ออีกครั้ง เสียงแจ้งเตือนมือถือดันร้องขึ้นมาอีกรอบ
พี่ซินเหรอ..ยังคุยไม่จบหรือไงนะ


ผมวางปากกาลงและเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมากดดูอีกครั้ง แต่กลับต้องชะงักทันที เพราะรูปภาพในมือถือจากแชทของใครสักคนที่ผมไม่รู้จัก มันส่งข้อความเข้ามาข่มขู่ผม...


ผมพยายามคิดว่าไอ้คนที่ส่งเข้ามามันคงจะเป็นไอ้แว่นที่กำลังแกล้งผมอยู่แน่ๆ เพราะภาพคลิปบ้านี่มันมีแค่ไอ้แว่นเท่านั้นที่มีไว้ครอบครอง พอคิดได้แบบนั้นผมก็กัดฟันกรอด มือกำมือถือแน่น มันไม่ตลกเลยนะ!


“ไอ้แว่น! ไม่ตลกนะเว้ย!”

“แว่น?”

“ก็แกไงไอ้แว่น คลิปบ้านี่มันมีแค่แกคนเดียว ไม่ตลกจริงๆนะ!”

“นี่ไม่ใช่แว่นที่คุณพูดถึง”

“หมายความว่าไง”

“เข้าเรื่องเลยดีกว่า...เลิกยุ่งกับเซนซะ! ถ้าไม่อยากให้คลิปของนายว่อนไปทั่วเน็ตและเว็บมหาลัย แค่รูปนั่นนายยังอับอายไม่พอสินะ ถึงได้ไปขลุกตัวอยู่กับเซนอีก ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย เลิกยุ่งกับเซนซะ! ถ้านายทำไม่ได้ ก็เตรียมดังได้เลย...”


ผมวางมือถือลงบนโต๊ะทันที่อ่านข้อความสุดท้ายของมันจบ

ผมกำลังอึ้ง...

มันไม่ใช่ไอ้แว่น แล้ว....ทำไมมันถึงได้มีคลิปนี้ มันมีได้ยังไง... หรือว่า แฟนของมันอย่างนั้นหรอ...มันบอกผมว่ามันไม่มีแฟนนี่นา
แล้วคนที่ส่งมามันคือใคร ตอนนี้ผมปวดหัวไปหมด ไม่สามารถอ่านหนังสือต่อได้อีก อ่านไปก็ไม่เข้าหัวเลยสักนิดเพราะผมเอาแต่คิดถึงแต่ประโยคข่มขู่จากข้อความบ้านั่น

จะทำยังไงดี...ผมกำลังกลัว กลัวมากๆ กลัวว่าจะถูกปล่อยคลิปออกไป กลัวพ่อแม่จะรู้ กลัวทุกอย่าง



ทำไมมึงไม่ระวังตัวเลยวะไอ้กัส



จู่ๆเสียงของเพื่อนอย่างไอ้ทีมันก็ประดังเข้ามาในหัว จริงอย่างที่มันเคยเตือน เพราะผมไม่รู้จักระวังตัว เอาแต่รักสนุกไปวันๆ ไม่เคยคิดถึงใคร เอาแต่คิดถึงตัวเอง... มันถึงได้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น

พอกันที...

เรื่องมั่วสุมพวกนั้น พอกันที!


ผมเลิกอ่านหนังสือและนอนลงบนเตียง...พยายามไม่คิดถึงเรื่องคลิป แต่สมองกลับฉายภาพวนซ้ำๆอยู่อย่างนั้น
ถ้าไอ้แว่นมันไม่ถ่ายคลิปเอาไว้ มันก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!



“นายต้องการอะไร”
“พี่โดนเหมือนผมตอนนั้นได้ไหมละ”




ไอ้แว่นมันเคยพูดเอาไว้...ใช่ มันเคยพูดเอาไว้จริงๆ ผมยิ้มฝืนๆให้ตัวเอง และจู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมา...


ร้องไห้หรอ ผมไม่ได้ร้องไห้มานานเท่าไหร่แล้ว มันนานมากแล้วที่ผมไม่ได้ร้องไห้ แต่ตอนนี้น้ำตาของผมกำลังไหล

กลัว.... กลัวว่าตัวเองจะถูกประจาน กลัวว่าตัวเองจะถูกมองไม่ดี กลัวสายตาของผู้คน กลัวการไม่มีเพื่อน กลัวไปหมด...

ใช่ความรู้สึกแบบนี้หรือเปล่า ที่ไอ้แว่นมันเจอเมื่อตอนเด็ก..


เรื่องนี้ผมคิดว่าไอ้แว่นมันไม่รู้เรื่อง เพราะมันดูปกติมาก แกล้งผมเหมือนเดิมหรืออะไรหลายๆอย่างที่มันเหมือนเดิม ไม่ได้ผิดปกติอะไรเลย

แต่คนที่ทำเรื่องนี้...ต้องเป็นคนใกล้ตัวเจ้านั่นแน่ๆ




:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:

มันมาอีกแล้ว
คราวนี้มันมีคลิปด้วย
ตอน 7.2 ดราม่าค่ะ บอกล่วงหน้าไว้ก่อง


ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ต้องเป็นทีแน่ๆ เพราะคิดไม่ออกแล้วว่าเป็นฝีมือใคร  :z3: :z3:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อย่าบอกนะว่าเป็นทีอ่ะ. สงสารเลยนะนั่น,,,

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ลุ้นๆ :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด