How much do you love me?
Chapter 1
'ต้น ปีใหม่ไปไหนดี'
'เล่นเกม'
'แล้วกูอะ'
'พูดไม่เพราะ พูดใหม่'
'แล้วเน็ทอะ'
'ก็อยู่กับต้นไง'
เมื่อคืนผมถามแฟนที่คบมาห้าปี เพราะอยากให้เรามีเวลาให้กันบ้าง ไม่ใช่เจอกันทุกวัน แต่เวลามองหน้ากันไม่ถึงสองชั่วโมง เพราะสิบชั่วโมงมันก็เอาแต่จ้องหน้าคอม ไม่ตีป้อมก็ตีมอน เอาจริงๆนะ เวลาจะตีผมยังไม่มีเลย ตอนปีแรกก็เออ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็เบื่อ แต่พอเข้าปีที่สองสามสี่ จนถึงตอนนี้ ในเครื่องมันมีเกมไม่ต่ำกว่าสิบเกม จบเกมนั้นเล่นเกมนี้ ให้ตายเถอะ ถามว่าน้อยใจไหม ผมบอกได้เลยว่าโคตรๆ แต่รักมันไหม หึ! ไม่รักจะยอมหรือ
ผมนั่งคิดนอนคิดตะแคงคิด ก็ยังไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี ถึงจะได้ออกไปเที่ยวกับมันบ้าง จนกระทั่งไอ้(คุณ)แฟนตัวดีมันเดินมาจากห้องนอน
...คนอะไรวะ ตื่นมาหน้าไม่ล้างยังหล่อฉิบหาย...
“เน็ท หิวข้าว” นี่แหละครับ หน้าที่ยามเช้าของผม
“เหมือนเดิมใช่ไหม”
ต้นพยักหน้า ก่อนจะเดินมานั่งข้างผม แล้วทิ้งตัวลงนอนบนตัก
“รอต้นหลับก่อนแล้วเน็ทค่อยไปนะ"
“อื้อ”
เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากผม ต้นก็หลับตาทันที ผมมองใบหน้าที่ตัวเองชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แล้วใช้มือเกลี่ยเส้นผมต้นเล่นไปเรื่อยๆ
ต้นเป็นคนขี้อ้อน แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับมันมากนัก จะบอกว่าเป็นคนโรคส่วนตัวสูงก็ว่าได้ เพราะแม้แต่กับผมมันก็เป็นแบบนั้น ถ้าหากต้นกำลังตั้งใจทำอะไรอยู่ ห้ามเข้าไปยุ่งกับมันมาก เพราะจะทำให้อารมณ์เสีย แต่ไม่ได้ด่าหรอกนะ เพียงแค่จะเงียบและเงียบใส่เท่านั้น แต่หลังจากที่ทำสิ่งนั้นเสร็จ มันก็จะเข้ามาหาแล้วทำตัวเหมือนเดิม เป็นมนุษย์นิ่งๆ ติดเกม และขี้อ้อน(กับผม)มาก
ผมนั่งมองต้นอยู่อีกสักพัก ก่อนจะค่อยๆยกหัวมันขึ้น หยิบหมอนมาสอดรองใต้คอ พอแน่ใจว่าต้นจะไม่ตื่นมาอีก ก็เดินไปหยิบกุญแจห้อง ล็อคประตูห้องให้เรียบร้อย แล้วออกไป
ผมลงมาซื้อหมูปิ้งเจ้าประจำ ที่อยู่เลยคอนโดไปไม่กี่ก้าว หมูปิ้งป้านิ่ม ขึ้นชื่อในเรื่องความนุ่ม หอม และอร่อยจนหยุดกินไม่ได้ ซึ่งมันคือเรื่องจริง ขนาดคนเลือกกินอย่างต้นยังติดใจเลย
เมื่อเดินมาถึงร้านผมก็เห็นว่าวันนี้ป้านิ่มมีลูกมือมาด้วยหนึ่งคน ซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และทันทีที่ผมเดินมาถึง ป้านิ่มก็ยิ้มแฉ่งทันที
“มาแล้วหรือ หมูกำลังร้อนๆเลยลูก” ซื้อบ่อยไม่บ่อยก็วัดกันตรงนี้แหละครับ
“หมูสิบห้า ข้าวเหนียวดำหนึ่ง ข้าวเหนียวขาวสองครับป้า”
“เหมือนเดิมทุกวันล่ะเนอะ” ป้านิ่มหยิบหมูใส่ถุง ก่อนจะหันไปพูดกับเด็กหนุ่มคนข้างๆ "ตักข้าวเหนียวให้พี่เขาด้วย”
“ได้ยินแล้วน่า” เด็กหนุ่มท่าทวงกวนๆ ยิ้มล้อเลียนป้านิ่ม ก่อนจะโดนเขกกระบาลไปหนึ่งที "หูยยย รอบที่ห้าแล้วนะ”
“ก็เอ็งกวนทำไมล่ะ” ป้านิ่มดุแบบไม่จริงจัง ซึ่งดูก็รู้ว่าป้าแกคงเอ็นดูหลานมากทีเดียว
“หลานหรือครับป้า”
“ใช่จ๊ะ เจ้าน้ำเพิ่งลงมาจากเชียงใหม่โน่น จะมาเรียนพิเศษในกรุงเทพฯ แม่มันเลยมาฝากไว้”
ผมหันไปมองน้ำ ถึงได้เห็นว่ากำลังยิ้มให้ผมอยู่
“พี่กินเยอะแบบนี้ทุกวันเลยหรือ” ว่าพลางยื่นถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งให้
“อ๋อใช่ แฟนพี่กินเยอะน่ะ”
“อ๋อ” น้ำลากเสียงยาว "พี่รู้ยัง ร้านเราสั่งทางไลน์ได้แล้วนะ เผื่อวันไหนพี่ยุ่ง จะได้ไม่ต้องเดินมาซื้อเอง”
“จริงด้วย ป้ายังไม่ได้บอกเน็ทเลยเนอะ แต่จะมีแบบนี้เฉพาะตอนเจ้าน้ำมันอยู่นะ พอมันกลับก็ไม่มีแล้วจ้า” ป้านิ่มว่า โดยที่มือยังสาละวนอยู่กับการปิ้งหมู ป้านิ่มหยิบไม้ที่เสียบเนื้อหมูสดไว้ออกจากกล่อง นำมาวางลงบนตะแกงที่ข้างใต้มีถ่านไม้ร้อนๆ เพียงเท่านี้ก็มีกลิ่นหอมๆโชยขึ้นมาแล้ว
“ดีเลยครับ งั้นผมขอไลน์หน่อยนะ”
ทันทีที่ผมพูดจบ น้ำก็หยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดQR CODE ให้แสกน ซึ่งไอดีที่ขึ้นเป็นชื่อของน้ำ ผมกดแอดทันที แล้วจึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง
“ได้แล้วเนอะ”
“อื้อ งั้นผมไปแล้วนะครับป้า” ผมยกมือไหว้ "ไปนะ” ผมยิ้มให้น้ำหนึ่งที
“เดินกลับดีๆนะลูก”
ป้านิ่มมักจะอวยพรแบบนี้เสมอ ซึ่งผมก็รู้สึกดีที่ได้ยิน เพราะมันทำให้ผมคิดถึงคุณป้าที่เคยเป็นแม่นม ตอนผมเป็นเด็ก ซึ่งหลังจากที่ผมอายุประมาณสิบห้า ท่านก็เสียด้วยโรคมะเร็ง จำได้ว่าผมร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์ทีเดียว
ผมใช้เวลามากกว่าปกติ เพราะมัวแต่คุยนานไปหน่อย ทำให้ทันทีที่ผมไขกุญแจ เปิดประตูเข้่ามาในห้อง ก็พบว่าคุณชายมันตื่นแล้ว แถมยังมองมาที่ผมตาเขียวปั๊ด
“ทำไมไปนาน”
ผมวางถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งลงบนโต๊ะหน้าโซฟา แล้วยืนมองมัน เหมือนกับที่มันเงยหน้ามองผมอยู่เช่นกัน
“คุยกับป้านิ่มเพลินไปหน่อย ทำไม หิวมากหรือ” ผมไม่ได้กวน แต่ใครใช้ให้มันมองด้วยสายตาแบบนั้น
“เปล่า”
“แล้วเป็นอะไร”
มันไม่ตอบ แต่กวักมือเรียกผมให้เข้าไปหาแทน ซึ่งผมไม่ชอบทะเลาะกับมันหรอกครับ เพราะงั้นเวลามีอะไรก็อยากให้คุยกันมากกว่า เพียงแต่บางครั้งผมก็แกล้งทำเป็นลืมๆไป จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียใส่กัน
ผมเดินไปยืนตรงหน้ามัน เท่านั้นแหละครับ วงแขนอบอุ่นก็กอดเข้าที่เอวผมทันที ตามด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ซุกเข้ามา แล้วเงยหน้ามองผม ด้วยสายตาที่มองมา มันทำให้ผมใจสั่น และเหมือนมันจะรู้ถึงได้ดึงผมลงมาทั้งตัว จนปลายจมูกเราชิดกัน
“เขินหรือ ตัวมีแต่กลิ่นหมูปิ้ง” ต้นสูดกลิ่นที่ติดบนเสื้อผม "น่ากิน”
...กินเลยสิ...
...ส่วนเมื่อกี้คิดอะไรอยู่ หรือเป็นอะไร ก็ลืมๆมันไปเถอะ...
บอกตามตรงผมคาดหวังว่าจะได้จูบหวานๆจากมัน เพียงแต่...
“ฮัลโหล”
ใช่ครับ โทรศัพท์ตัวดีมันแผดเสียงขึ้นมากลางครัน และต้นมันก็ยกผมออกจากตักให้นั่งลงบนโซฟา ก่อนจะเดินยิ้มเข้าห้องนอนไปเปิดคอมฯอีกครั้ง เสียงที่ได้ยินมันคือการชวนเล่นเกม ตัวละครที่จะเล่น รวมทั้งเป้าหมายของวันนี้อะไรพวกนั้น ซึ่งผมไม่โอเค...
...เพราะเกม ทำให้เวลาที่เราควรมีด้วยกันหายไป...
ผมมองข้าวเหนียวหมูปิ้งบนโต๊ะอยู่นาน จนรู้สึกว่ากระบอกตาร้อนผ่าว จึงรีบลุกขึ้นยืนเงยหน้า พอแน่ใจว่าน้ำตาจะไม่ไหลออกมาแน่ๆ ก็หยิบถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งขึ้นมาเพื่อเอาไปใส่จานให้มัน
ระหว่างที่วางหมูปิ้งลงบนจาน ผมได้ยินเสียงหัวเราะดังลอดออกมาจากห้อง
...ให้ตายเถอะ ผมอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆแล้ว...
สายตาของผมอยู่ที่แผ่นหลังของต้น ที่กำลังคลิกเม้าส์อย่างเมามัน เสียงพูดคุยฟังดูสนุกสนาน ในโลกที่ไม่มีผมมันดีขนาดนั้นเลยหรือ ผมหยิบถุงข้าวเหนียวสองห่อวางลงข้างหมูปิ้ง โดยเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้ถุงโดนน้ำหวานจากปลายไม้ ก่อนจะหยิบขึ้นมาถือไว้ เพื่อเดินเอาไปให้
ทันทีที่วางลงบนโต๊ะ ต้นก็หันมองผมแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปสนใจเกมตรงหน้าต่อ ผมเลือกที่จะหันหลังแล้วเดินออกมา แต่ขณะที่กำลังจะพ้นประตู เสียงต้นก็ดังขึ้น
“เน็ท อย่าเพิ่งไป”
...ผมหวังว่ามันจะรับรู้ความรู้สึกของผม...
“ต้นไม่กินข้าวเหนียวดำนะ ทำไมหยิบมาผิดล่ะ”
...แต่ก็ไม่ เพราะแค่หันหน้ามาพูดกัน ต้นยังทำให้ไม่ได้เลย...
“โทษที เดี๋ยวเอาไปเปลี่ยนให้นะ”
ผมแกล้งหัวเราะ แล้วเดินเร็วๆเข้ามาหยิบถุงข้าวเหนียวดำออกไป ทันทีที่มาหยุดตรงอ่างล้างจาน น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมกำลังน้อยใจ น้อยใจมากๆ ถ้ารู้ว่าการตามใจปล่อยให้มันติดเกมแล้วจะเป็นแบบนี้ ตั้งแต่แรกผมคงพยายามดึงมันออกมา หาอย่างอื่นให้มันทำ หรือ...หรือ...หรือจริงๆแล้วมันทำไม่ได้จริงๆ
ระหว่างที่ผมกำลังสับสน โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นมาสองครั้ง ผมล้วงหยิบขึ้นมา และพบว่าได้รับข้อความจากน้องน้ำ ผมสไลด์เปิดดู
Nam
พี่เน็ท
พรุ่งนี้เหมือนเดิมปะ
เดี๋ยวผมเอาไปส่งให้ที่หน้าคอนโด
ผมลังเลอยู่พักหนึ่ง ว่าควรจะตอบน้องยังไงดี เพราะอันที่จริงการเดินไปซื้อเองก็ไม่ได้เสียเวลามากนัก ถ้าเทียบกับเวลาที่น้ำต้องเดินมา แล้วป้านิ่มจะไม่มีคนช่วย
Nett
พี่ไปซื้อเองก็ได้
เรามาแล้วใครจะช่วยป้านิ่มล่ะ
Nam
นี่เป็นคำสั่งจากป้าครับผม
พี่เน็ทรีบอนุญาตเร็ว น้ำไม่อยากโดนป้าเขกหัวอีก
ผมนึกถึงภาพป้านิ่มเขกหัวน้ำที่เห็นเมื่อตอนเช้าก็หลุดขำออกมา
Nett
โอเค ขอเป็นแปดโมงแล้วกันนะ
ถึงแล้วก็ไลน์มาหาพี่แล้วกัน
Nam
โอเคครับ
nam sent you a sticker
สติ๊กเกอร์คนแก่หัวล้านเต้นท่าระบำชาวเกาะทำให้ผมหัวเราะเสียงดัง ซึ่งมันก็ดูเหมาะกับน้ำจริงๆ การได้คุยกับน้ำ ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ผมหยิบถุงข้าวเหนียวสีขาวขึ้นมา ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหาต้น
“ต้นไผ่ กินก่อนสิ แล้วค่อยเล่น” ต้นหันมามองผม ก่อนจะถอดหูฟังออก
“ป้อนหน่อยสิ” เมื่อเห็นผมทำท่าจะไม่ยอม "นะๆ”
ผมยิ้มนิดๆ ก่อนจะไปลากเก้าอี้มาอีกตัวหนึ่ง แล้วนั่งลงข้างๆ ทันทีที่ผมนั่งลง ต้นก็เอนหัวมาซบที่ไหล่ของผม เราสบตากันแปบหนึ่ง ก่อนที่ต้นจะเงยหน้าขึ้นจูบผมเบาๆ
...แม้จะเป็นสัมผัสที่บางเบา แต่มันอุ่นไปทั้งใจ...
“ขอโทษนะ” ต้นละมือจากเม้่าส์และคีย์บอร์ด มาประคองหน้าผมไว้ ตัวละครที่ต้นกำลังเล่นค้างอยู่หยุดนิ่งกระทันหัน และผมได้ยินเสียงเพื่อนในเกมด่าต้นกันยกใหญ่ แต่ต้นก็ไม่ยอมปล่อยมือ
“ต้น เพื่อนด่าใหญ่แล้ว”
“เมื่อกี้ต้นพูดไม่ดีกับเน็ทใช่ไหม เน็ทถึงทำหน้าเสียใจ”
...ทั้งๆที่ผมคิดว่า ความเสียใจมันหายไปแล้วเชียว...
“เน็ทแค่เสียดายที่....ที่” ให้ตายเถอะ ใครจะกล้าพูด ว่าอยากให้แฟนจูบจะตายอยู่แล้ว
“ต้นทำเน็ทค้างหรือ”
...ก็รู้นี่...
“ขอแก้ตัวได้ไหม”
“แต่ต้นกำลังจะตายนะ” ผมเหลือบไปมองหน้าจออีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องหลับตาลง เมื่อต้นประกบจูบลงมาอย่างแนบแน่น ต้นไม่ได้ทำมากไปกว่านั้น เพียงแต่แค่ไม่ยอมปล่อยผมไป เราจูบกันเนิ่นนาน จนกระทั่งต้นผละออกเพียงนิด แต่เพราะต้นก็คือต้น ยังเป็นคุณแฟนที่ร้ายเหมือนเดิม ถึงได้ใช้ปลายลิ้นเลียที่ริมฝีปากผม ก่อนจะหันกลับไปหยิบเฮดโฟน และมองหน้าจอเหมือนเดิม ทิ้งให้ผมใจเต้นตึกตักอยู่ข้างๆ
“ค่อยต่อคืนนี้เนอะ ขอต้นเล่นก่อนนะครับ”
...ให้ตายเถอะ ผมดึงปลั๊กคอมฯตอนนี้เลยได้ไหม...
เช้าวันที่ 31 ธันวาคม อากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ ผมสวมชุดนักศึกษาเตรียมตัวออกไปเรียนคลาสเสริม ส่วนต้นไผ่ยังนอนอุตุอยู่บนเตียง เพราะคณะที่ต้นเรียนปิดคลาสไปหมดแล้ว ผมเดินมายืนข้างเตียง ก่อนจะโน้มหน้าไปลงกระซิบข้างหูต้น
“เน็ทซื้อหมูปิ้งไว้ให้นะ อย่าลืมกินด้วย” ต้นงึมงัมตอบรับ พลิกตัวหันหน้ามาทางผม ปรือตามองแวบหนึ่ง ก่อนจะหลับไปอีกครั้ง ผมยิ้ม ก้มหน้าลงไปจูบที่หน้าผากแล้วจึงผละออก
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พบว่าน้องน้ำไลน์มาบอกว่ารออยู่ข้างล่างแล้ว ด้วยความที่ไม่อยากให้น้องรอ ผมจึงเดินเร็วๆออกจากห้องไป และกลายเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมลืมล็อคประตู
ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก ผมก็ได้พบกับน้ำที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ ด้วยรูปร่างผอมสูง ใบหน้าดูเป็นมิตร แถมนิสัยออกกวนๆ ดูแล้วน้ำน่าจะเป็นรุ่นพี่ที่ฮอตไม่ใช่เล่น
“รอนานไหม”
"ไม่นานสักกะนิ๊ดเดียว" น้ำเดินเข้ามาหา จนผมได้กลิ่นหมูปิ้งที่ติดตัวน้องมา "หอมหมูมากกกก”
น้ำหัวเราะจนเห็นฟันเขี้ยวทั้งสองด้าน ผมรับถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งมาจากน้อง ก่อนจะยื่นเงินให้ น้ำรับไปเก็บโดยไม่ได้นับ ทำให้ผมอดจะท้วงไม่ได้
“นับก่อนสิ”
“ผมรู้พี่ไม่โกงผมหรอก เนอะ” น้ำยักคิ้วข้างหนึ่ง ซึ่งผมสามารถพูดได้เลยว่า ...กวนตีน
“เออ แต่ทีหลังควรนับก่อนนะ เดี๋ยวป้านิ่มก็ขาดทุนหรอก”
“หูยยยยย พูดงี้นับดีกว่า เผื่อพี่โกง ผมจะได้ริบหมูคืน” น้ำล้วงเงินออกมานับไปเรื่อยๆ ถ้าผมไม่ได้รู้สึกไปเอง น้ำดูจะนับเงินช้ามาก แถมยังชอบนับผิดนับถูก กลายเป็นว่าเวลาที่ผมใช้สำหรับลงมาซื้อหมูปิ้งคือเท่าเดิม
“โอเค ครบครับ” น้ำเก็บเงินใส่กระเป๋าตามเดิม "นี่พี่จะไปมหา'ลัยหรือ”
“ใช่ วันนี้มีเรียน”
“แล้วแฟนพี่อ่ะ ไม่ไปด้วยกันหรือ”
“มันไม่มีเรียน ยังหลับอยู่เลย”
“อ๋อ”
น้ำทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่โทรศัพท์ของผมดังขึ้นเสียก่อน หน้าจอขึ้นชื่อ'ต้นไผ่' ผมจึงกดรับทันที
“ฮัลโหล” แต่ไม่มีคำพูดใดๆตอบกลับมา แถมยังวางหูใส่เสียนี่
...ท่าทางคุณชายจะหิวแล้วล่ะมั้ง...
“น้ำ พี่ไปก่อนนะ ขอบคุณสำหรับนี่มาก” ผมชูถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งขึ้น แล้วโบกมือลาน้อง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในลิฟต์
พอผมมาถึงห้อง ก็พบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อค ผมรู้สึกแย่ในความสะเพร่าของตัวเอง แต่ก็คิดได้ว่าป่านนี้ต้นคงจะหิวแล้ว จึงเดินเข้าไปภายใน ขณะถอดรองเท้า ผมเห็นเงาของต้นกำลังเดินมา จึงรีบถอดให้เร็วขึ้น แต่กลายเป็นว่าทั้งร่างของผมถูกอุ้มจนลอยขึ้น ถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งหลุดมือตกดังปุ๊บแถวหน้าห้อง เมื่อหันกลับมามองหน้าของต้น ก็รู้สึกได้ว่า เหมือนผมจะโดนโกรธเสียแล้ว
ต้นไผ่วางผมลงบนเตียง ก่อนจะตามขึ้นคล่อมทาบทับ สองมือจัดการปลดกระดุมเสื้อของผมออก
“หยุดนะ เน็ทต้องไปเรียน” ผมพยายามถดตัวหนี แต่ต้นก็ไล่ตามไม่ลดละ สีหน้าและแววตาของต้นทำให้ผมรู้สึกกลัว
“เด็กนั่นมันเป็นใคร ใช่คนที่เน็ทคุยแล้วหัวเราะเมื่อวานหรือเปล่า”
ผมอึ้งทันทีที่ได้ยิน เพราะเมื่อวานผมแน่ใจว่าต้นเอาแต่เล่นเกม ไม่สนใจผมสักนิด? ...นั่นสินะ ถ้าไม่สนใจจะเห็นได้อย่างไร ว่าสีหน้าของผมไม่โอเค
“ใช่ น้องชื่อน้ำเป็นหลานของป้านิ่มหมูปิ้ง”
“แล้วทำไมต้องคุยไลน์กัน จะนอกใจต้นหรือ”
ผมส่ายหน้า "เปล่า น้ำมาช่วยป้านิ่มขาย เลยมีสั่งซื้อทางไลน์ด้วย เน็ทก็เลยแอดไว้ จะได้ไม่เสียเวลาเดินไปซื้อ”
“เด็กนั่นมันชอบเน็ท ต้นรู้” สีหน้าที่เหมือนคุณสุนัขตัวโตกำลังหงอย ทำให้ผมอดจะยื่นมือไปลูบหัวไม่ได้
“เน็ทมีต้นแล้ว ไม่มองคนอื่นหรอก” ผมยันตัวขึ้นให้ใบหน้าเราสองคนเกือบชิดกัน
...ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากไปเรียนแล้ว...
“เน็ทไม่ไปเรียนได้ไหม”
...อื้อ ได้สิ...