[สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)  (อ่าน 42739 ครั้ง)

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตกลงเป็นโรคอะไร ติดเชื้ออะไรทางไหนถึงอาการหนักแบบนี้

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พี่โรลคนจริง2017

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เคลียร์ไปนะพี่โรล แต่ว่าพี่แก ล่มงานแบบนั้น มันน่าจะสนุกน่าดู อยากรู้ว่าฝีปากแกเชือดเฉือนขนาดไหน

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
หนิงน่ากลัวมากเลย  :hao7:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่โรลรีบกลับมานะ น้องลี่รออยู่

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
พี่โรลเป็นพระเอกถุดถุยที่อยากให้มีเยอะๆในนิยายวาย ด่ามันไปเลยชะนีเน่าอย่างดีออกหนิงอ่ะ เห็นแก่ตัว ลัทธิพี่โรลมา หมดยุคพระเอกตามนางร้ายไม่ทันแล้ว ต้องด่าไฟแล่บเป็นสี่จีแบบนี้ดิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ลี่เอ่ย หนูกินอย่างไงให้กระเพาะตัวเองทะลุ  :เฮ้อ:
โรลด้วย หนีจากงานหมั้นแทนที่จะมาหาลี่ ดันหนีออกนอกประเทศเสียได้  :m16:

ออฟไลน์ หิมะขาว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ chaweewong19841

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
สนุกมากกก มาต่ออีกเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง


          โรล          ​



          ​ผมที่ออกจากร้านสุดมุ๊งมิ๊งนั่น ตั้งใจว่าจะไปหาลี่ทันทีแต่ก็เจอตอเข้าอย่างจัง ไม่รู้ว่ายัยผู้หญิงนั่นโทรฟ้องคุณแม่หรือว่ายังไง เพราะทันทีที่ผมออกจากร้านไปได้ไม่ไกล ก็มีรถตู้สีดำของบ้านผม มาดักและพาตัวผมขึ้นรถไป

          ​ผมที่เรียนเรื่องการต่อสู้มานั้น ไม่เคยกลัวกับอะไรแบบนี้ แต่คราวนี้กลับต้องยอม เพราะว่าคนที่มานั้นมีแต่พ่อบ้านแก่ๆ และป้าแม่บ้านที่สนิทกับผมตอนที่ผมยังอยู่ที่บ้าน

          ​ทุกคนดูกลัวและมีความกังวลใจ ผมว่าพวกเขาคงจะต้องโดนลงโทษแน่ๆ ถ้าผมไม่ได้กลับไป

          ​ทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ ลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาเดือดร้อนด้วย ได้เสียสิ อยากให้หมั้นก็จะหมั้น แต่อย่าหวังว่างานจะราบรื่นไปได้ด้วยดี

          ​ผมยอมขึ้นรถและตรงกลับบ้าน คุณแม่นั้นยึดโทรศัพท์ผม และขังผมไว้ในห้องอย่างแน่นหนา

          ​ผมพังทุกอย่างที่อยู่ในห้อง ตีอกชกหัวตัวเองอย่างแค้นเคือง ผมคิดถึงลี่ ป่านนี้ลี่จะเป็นยังไงบ้าง ผมไม่สามารถรู้ได้เลย

          ​อีกสองวันถัดมาอยู่ดีๆ ผมก็ต้องตกใจ งานหมั้นถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่าย มีเพียงผู้ใหญ่และสื่อมวลชนเท่านั้นที่เข้าร่วมงาน คงกะจะไม่ให้ผมตั้งตัวและไม่บอกอะไรผมเลยก่อนถึงวันงาน ร้ายมาก แต่คอยดูว่าใครจะร้ายกว่า

          ​ผมแอบขอดูแหวนหมั้นก่อนที่คนเตรียมงานจะนำมันไปวางไว้ มันเป็นแหวนที่ดูหรูหรา อยู่ในกล่องกำมะหยี่อันใหญ่ ดูมีค่าราคาแพง และดูดีเกินไป ไม่เหมาะที่จะอยู่บนนิ้วของผู้หญิงแบบนั้น และถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมให้กับเธอเอง

          ​เมื่องานเริ่มขึ้น ผมได้มานั่งอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายที่หน้าตาชื่นบานกันเหลือเกิน ผมหน้าบูดใส่กล้อง และชูนิ้วทักทายเป็นระยะ แต่ก็หันมายิ้มหวานให้กับว่าที่เจ้าสาวของผมเสมอ เธอช่างสวยและดี๊ด๊ามีความสุขเหลือเกิน เดี๋ยวเธอจะสุขล้นจนแทบอ้วกเลยล่ะ พี่รับประกัน

          ​" สวมแหวนให้พี่เขาสิ " ผมมองผู้หญิงตรงหน้า ที่ยิ้มหวานหยดย้อย และเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ และหยิบแหวนสวมนิ้วมือผมด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยน

          ​ผมส่งยิ้มหวานหยดย้อยกลับไปให้เช่นกัน ถึงเวลาแลกกันแล้วนะจ๊ะคนสวย ผมหยิบกล่องแหวนที่ใส่แหวนของฝ่ายหญิงเอาไว้ และจับมือหนิงเบาๆ อย่างรักใคร่(เหรอ)

          ​" ที่ผ่านมาพี่ขอโทษด้วย พี่ทำผิดไปแล้วจริงๆ หนิงนี่แหละที่คู่ควรกับสิ่งนี้ที่สุด " หนิงมองผมด้วยใบหน้าตกใจและปราบปลื้มน้ำตาแทบเล็ด คงจะดีใจจนเนื้อเต้นเลยล่ะ

          ​" ขอบคุณค่ะพี่... " แต่ทันทีที่ผมเปิดกล่องแหวนออก เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเร็วมาก หนิงที่ช็อคจนตาค้างและกรีดร้องออกมาสุดเสียง แมลงตัวสีดำมีปีกเล็กๆ ที่น่ารักประมาณฝูงนึงได้กำลังเกาะเสื้อผ้าหน้าผมของเธอ มีบางตัวที่เธอเกือบจะกินเข้าไป และมีอีกหลายๆ ตัวที่บินไปเกาะญาติผู้ใหญ่และลามไปถึงช่างภาพ

          ​ผมที่รู้และเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ได้ตั้งหลักวิ่งเร็วจี๋ออกจากตรงนั้นตั้งแต่เริ่มเปิดกล่องแล้ว

          ​ผมหัวเราะจนตัวงอกับภาพที่เห็น และแย่งกล้องจากช่างภาพมากดชัตเตอร์อย่างเมามัน

          ​" เอารูปนี้ลงฉบับพรุ่งนี้เลยนะพี่ ผมไปละ " ผมตบไหล่นักข่าวเบาๆ และวิ่งฉิวลอดรั้วที่เป็นทางลับของผมออกไป

          ​ใจของผมนั้นตั้งใจว่าจะไปหาลี่ และไปหลบที่บ้านลี่ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ลี่อาจจะเดือดร้อนก็ได้ เพราะผมรู้ ว่าคุณแม่จะเดือดแค่ไหน และถ้าเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ มีทางเดียว ก็คือต้องไปอ้อนคุณพ่อนั่นแหละ ผมควรจะไปหลบสักพักแล้วค่อยกลับมา และเอาคุณพ่อมาเข้าพวกให้ได้ เพื่อต่อต้านการบังคับผมในครั้งนี้ เพราะว่าผมจะไม่มีวันยอม ไม่ว่าด้วยเหตุผมใดก็ตาม

          ​ผมวิ่งฉิวไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อโทรหาลี่ เพราะว่าผมนั้นไม่ทันได้หยิบมือถือของผมออกมาด้วย

          ​แต่ผมที่ยืนรอสัญญาณอยู่นั้น ก็พบว่าไม่มีคนรับ และถูกตัดสาย หมายความว่ายังไงกันนะ นี่ลี่โกรธพี่ขนาดไหนแน่เนี่ย

          ​ผมไม่มีทางเลือก ผมไม่สามารถรอได้นานเกินกว่านี้ ผมจึงรีบกลับไปเก็บของที่จำเป็นและหนีขึ้นเครื่องไปรัสเซียภายในเวลาไม่นาน

          ​แต่เป็นเวรกรรมแท้ๆ ผมที่กะว่าเมื่อลงเครื่องแล้วก็จะติดต่อลี่ทันที แต่เมื่อคุณพ่อที่รู้ว่าผมจะมา ก็มารอต้อนรับและลากผมเข้าไปในป่า ผมมึนมากว่าทำไมถึงไม่พาผมไปที่บ้าน คุณพ่อก็บอกผมว่า คุณพ่อมาตั้งแคมป์ล่าสัตว์อยู่เป็นอาทิตย์แล้ว เมื่อผมมาก็ลากผมมาอยู่ในป่าด้วยซะเลย หมดกันลี่ของพี่ รอพี่สักอาทิตย์นะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับไป

          ​จนเวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งอาทิตย์พอดี ผมนั้นขอร้องและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คุณพ่อได้ฟัง คุณพ่อก็รับปากว่าจะคุยกับคุณแม่ให้ ถึงจะไม่อยากยุ่งด้วยก็เถอะ ครั้งที่แล้วเรื่องงานเลี้ยงนั่น คุณพ่อบอกว่ารำคาญคุณแม่ ก็เลยบอกให้ผมทนเข้าร่วมไป

          ​ผมบินกลับไทยทันทีด้วยความคิดถึงลี่อย่างสุดหัวใจ ผมกลับไปที่คอนโด และก็พบว่าไม่ได้มีใครมายุ่งกับของๆ ผม ทุกอย่างยังอยู่ดี คุณพ่ออาจจะเจรจาสำเร็จก็ได้ ไม่มีใครดักรอ ไม่มีใครมาซุ่มตีหัวผม

          ​และวันนี้ก็เป็นวันที่ผมต้องไปเรียนครับหลังจากที่โดดมานาน และลี่ก็คงไปเรียนเช่นกัน ผมจะได้เจอลี่แล้ว ดีใจชะมัด

          ​แต่เมื่อผมที่แต่งตัวเรียบร้อยเตรียมไปเรียน กำลังใส่รองเท้าและเตรียมดึงประตูเปิด ผมกลับเจอซองอะไรบางอย่างที่ร่วงอยู่แถวๆ นั้น น่าจะมีคนเอามาสอดที่ใต้ประตูมากกว่า ตอนเข้ามาผมคงไม่ทันได้เห็นมัน

          ​ผมมองดูจดหมายซองเล็กๆ ที่ไม่มีจ่าหน้าซอง ไม่มีอะไรเลยอย่างสงสัย ผมเปิดซองออกช้าๆ เพื่อดูสิ่งที่อยู่ด้านใน

          ​ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ผมไม่รู้ว่าตัวผมนั้นยืนอยู่นานเท่าไหร่ แค่เพียงรูปถ่ายใบเล็กๆ ที่อยู่ในมือ ผมกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะถือมันต่อไป ผมปล่อยให้รูปบานนั้นร่วงหล่นไปบนพื้น พร้อมๆ กับหยาดน้ำตาของผมที่มันไหลออกมาเช่นกัน



          ​อาลี่



          ​หลังจากวันที่หนิงมาที่โรงพยาบาลเวลาก็ผ่านไปอีกสักพัก ผมนั้นออกจากโรงพยาบาลแล้วและเกือบจะหายเป็นปกติ แต่ผมก็ยังคงต้องกินยาเป็นกำ ซึ่งมันน่ารำคาญจริงๆ และสิ่งที่ทำให้ผมเศร้าใจมากที่สุดก็คือ พี่โรลนั้นก็ยังคงหายเงียบไป ผมร้องไห้ ผมเจ็บปวดในหัวใจ ผมนั้นไม่ได้มีความสำคัญกับพี่เลยใช่ไหม​ พี่ถึงทิ้งผมไปนานขนาดนี้

          ​ผมที่เตรียมตัวเดินไปที่มหา'ลัยก็ต้องหยุดชะงัก เพราะว่ารถเบนซ์คันสีดำได้มาจอดขวางผมเอาไว้

          ​" ลี่ขึ้นรถสิ พี่ไปส่ง " ผมมองพี่นายที่เปิดกระจกและถอดแว่นดำออก

          ​" ผมไปเองดีกว่า ผมแข็งแรงดีแล้ว " ผมพูดกับพี่นาย

          ​ระหว่างผมกับพี่นายนั้นเครียกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเราก็เป็นเพียงแค่พี่น้องกันเท่านั้น ที่ผมคิด

          ​" อาลี่ ไปกับอานายเถอะ เราพึ่งหาย ม๊าไม่อยากให้เดินไป เมี่ยงก็ไปกับลี่ด้วยนะ ม๊าฝากลี่ด้วย " ผมมองไอ้เมี่ยงที่ไม่พอใจมากๆ แต่ก็เห็นด้วยกับม๊า เพราะไม่อยากให้ผมออกแรงมาก

          ​ตอนนี้ผมผอมลงจนต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมด เรียกได้ว่าเหมือนเป็นคนละคน ผมที่กินข้าวได้แล้วแต่ตอนนี้ก็ยังคงกินไม่ได้เหมือนเก่า ผมอยากจะอ้วนเหมือนเดิม สภาพแบบนี้ถ้าพี่โรลมาเห็นจะเป็นยังไง ผมเครียดจัง

          ​ผมลงจากรถ และเดินไปคณะพร้อมๆ กับพี่นาย เพราะว่าไอ้เมี่ยงนั้นแยกตัวไปที่คณะตัวเองแล้ว ผมเดินไปเรื่อยๆ อย่างเหม่อลอย ในหัวใจนั้นเฝ้าแต่คิดถึงคนคนนึง คนใจร้ายที่ไม่รู้อยู่ที่ไหน

          ​" ลี่ จะเดินชนเสาอยู่แล้ว ใจลอยไปไหนเนี่ย " พี่นายจับแขนผมเอาไว้ ก่อนที่ผมจะเดินชนเสาเข้าจริงๆ พี่นายขยี้หัวผมเบาๆ เหมือนเรียกสติ

          ​ผมมองไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่สั่นไหว บุคคลที่ผมเฝ้าคิดถึงมาตลอดนั้น กำลังยืนอยู่ตรงหน้าพวกเราในระยะที่ไม่ไกลมากนัก ผมยิ้มดีใจที่เห็นพี่โรลยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยสีหน้าที่...

          ​ผมค่อยๆ หุบยิ้มลงช้าๆ เพราะว่าแววตาของพี่โรลที่มองผมนั้นกลับเป็นแววตาที่มีแต่เพียงความว่างเปล่า  ผมน้ำตาไหลออกมา สายตาที่เย็นชาของพี่นั้น มันทำให้ผมเจ็บยิ่งกว่าสิ่งไหนที่ผมเคยพบเจอมาทั้งชีวิต

          ​" มันไม่ใช่นะครับ พี่กำลังเข้าใจผิด ใช่ไหม​พี่นาย " ผมรีบเดินไปหาพี่โรลและเกาะเสื้อพี่โรลไว้ และหันกลับไปขอคำสนับสนุนยืนยันจากพี่นาย

          ​" ลี่รู้ไหม​ว่าพี่เกลียดอะไรที่สุด " พี่โรลไม่มองหน้าผมเลยสักนิด พี่โรลนั้นมองออกไปยังอากาศที่ว่างเปล่า ทั้งๆ ที่ผมอยู่ยืนอยู่ตรงหน้า

          ​" พี่ไม่เชื่อผมเหรอ พี่คิดว่าผมจะกลับไปเหรอ " ผมเริ่มกำเสื้อพี่โรลแน่น ผมก็เริ่มโกรธเหมือนกันนะ

          ​" รู้ไหม​พี่เชื่อลี่เสมอมา ถึงจะกลัว แต่ก็เชื่อ แต่ลี่ช่วยบอกพี่ทีได้ไหม​ ว่านี่มันคืออะไร " ผมมองดูรูปถ่ายใบเล็กๆ ที่พี่โรลปล่อยมันร่อนลงไปบนพื้น

          ​ผมส่ายหัวไปมาอย่างตกใจ มันใช่ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น ผมเริ่มร้องไห้ออกมาหนักขึ้น และมองไปที่พี่นายที่ยังคงเงียบอยู่ ทำไมกัน ทำไมถึงมีรูปพวกนี้ได้

          ​" มันดูไม่เหมือนมันกอดลี่ แต่เป็นลี่ที่กอดมัน "

          ​" มันไม่ใช่แบบนั้นนะ คือผมแค่เครียเรื่องเก่าๆ กับพี่นาย ใช่ไหม​ครับพี่นาย พี่พูดอะไรสักอย่างสิ!! " ผมเริ่มพูดเสียงดังและตะโกนไปหาพี่นาย แต่พี่นายก็ยังคงเงียบและไม่พูดอะไรเช่นเดิม นี่เป็นแผนของพี่งั้นเหรอ นี่พี่อยากได้ผมมากขนาดนี้เลยเหรอ ผมน้ำตาไหลจนตัวสั่น ผมมันโง่ มันโง่ยังไงก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง

          ​ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับเฮงซวยและสิ้นหวังนี้

          ​" ผอมลงขนาดนี้ เพื่อมันสินะ " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงักไป และเงยหน้ามองพี่โรลด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

          ​' เพี๊ยะ '

          ​ผมตบพี่โรลเข้าเต็มๆ ที่ใบหน้า ความจริงแล้วผมอยากตบตัวเองต่างหาก ผมมันเหี้ยจริงๆ

          ​ผมเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย โลกเบื้องหน้าทุกก้าวการเดินมันช่าง หนักอึ้งและมืดดำ



มันมืดมัวหม่นหมอง ยิ่งกว่าขุมนรกใดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 11:57:07 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เทมันให้หมดไปเลย

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
สงสารลี่ และพี่โรล  :o12: ส่วนพี่นายนะหรือ  :beat:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ทำไมอ่อนไหวกันขนาดนั้นนะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ หิมะขาว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ซื้อหวยได้ถูก  :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เลิกมันทั้งคู่เลยหลานลี่ อยู่กับเมื่ยง 2 คนก็ได้เนอะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน


          ผมเดินช้าๆ ไปยังตึกคณะของผม ผมเช็ดน้ำตาที่มันดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดไหลได้ ผมอ่อนล้าเหลือเกิน แค่หายใจก็ยังเจ็บปวด

          " เป็นอะไรหรือเปล่าครับ " ผมมองผ้าเช็ดหน้าที่ถูกยื่นให้จากผู้ชายคนหนึ่ง ผมจำมันได้ทันทีว่าใคร มันเป็นคนที่ชอบมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามเวลาเข้าเรียน และไม่เคยสนใจที่จะคุยกับผมมาก่อน

          " อย่ายุ่ง " ผมปัดมือผู้หวังดีประสงค์ร้ายออกไป มันจำผมไม่ได้หรือยังไงผมไม่เข้าใจ

          " ลี่ๆๆๆ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่วิ่งหน้าตาตื่นมาแต่ไกล และเหลือบมองไอ้คนที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าเมื่อกี้ ซึ่งตอนนี้มันช็อคตาค้างไปเรียบร้อยแล้ว

          " มึงเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม แล้วก็มึงรู้ไหมว่าพี่โรลเป็นอะไร " ผมดันมันออกและเดินต่อไป ไม่สนใจสิ่งที่มันพูด

          " มึงไปดูพี่โรลหน่อย " มันดึงแขนผมแต่ผมก็ยื้อตัวไว้

          " กูไม่ไป ปล่อยมันบ้าไปเลย มันจะไปฆ่าใครต่อยใครก็ตามสบาย กูปล่อยแล้ว กูโสด " ผมพูดด้วยความโมโห และไม่ได้สังเกตุเห็นอาการหูผึ่งของหนุ่มๆ โดยรอบ

          " ต่อยใครที่ไหนล่ะ พี่แกนอนร้องไห้อยู่กลางโรงอาหารโน้น เพ้อถึงขนาดนั่งคุยกับหมาอ่ะ " ผมขมวดคิ้วมองไอ้เมี่ยง ไอ้พี่บ้านั่น ผิดคาดแฮะ นึกว่าจะอันตพาลไล่ทำร้ายผู้คนซะอีก

          ผมที่สงสัยก็เลยค่อยๆ เดินไปที่โรงอาหารช้าๆ แหวกฝูงชนที่กำลังมุงดูอะไรสักอย่าง และภาพที่ผมเห็น ก็ทำเอาผมที่เศร้าๆ แทบจะหลุดขำออกมาเลยทีเดียว

          " ลี่ตบโผม ดูรอยนี่ เห็นไหม​ 5 นิ้วเนี่ย แรงมาก เจ็บไปถึงขั้วหัวใจ ผมอุตส่าห์ห่วงหวงมานาน แต่ไปกอดคนอื่นซะงั้น แล้วจะให้ผมทำยังไง ยุงมากัดลี่ผมยังแค้นยุงเลย แล้วนี่ผู้ชายมีเจี๊ยวตัวเป็นๆ ผมทำใจไม่ด๊าย " ผมแอบเดินเลาะๆ ไปมองพี่โรลที่กำลังเอ่อ ปลดทุกข์กับน้องหมาตัวอ้วนแถวโรงอาหาร ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มองพี่แกด้วยสายตาสงสารปนเวทนา พี่ครับ แค่โดนตบนี่พี่สติหลุดไปถึงดาวไหนเนี่ย

          แล้วไอ้อาการจองหองปากร้ายเมื่อกี้มันหายไปไหน ไม่รู้แหละโกรธมาก ไม่ฟังแถมไม่เชื่อ แต่ผมนั้นก็อาจจะผิดด้วยนั่นแหละ เพราะผมนั้นกอดพี่นายจริงๆ ผมไม่ควรปล่อยตัว ไม่ควรยุ่งกับผู้ชายคนอื่น ในเมื่อผมมีพี่โรลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกรณีใดๆ

          สักพักเพื่อนๆ พี่โรลนั้นก็มาลากพี่แกไปจากน้องหมา ซึ่งพี่โรลก็ยังคงอาลัยอาวรและกอดน้องหมาไว้แน่น จนน้องหมาถูกลากไปด้วย เหอะๆ ไอ้บ้า ไม่ใจอ่อนหรอก เชอะ

          บ่ายวันนั้น ผมนั่งเรียนด้วยความเหม่อลอย ไม่มีสมาธิ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ผมยังคงคิดถึงสายตาที่แสนเย็นชาของพี่โรล ผมคิดถึงพี่โรล

          " อาลี่ ไหวไหม​เนี่ย " แพรโบกมือไปมาอยู่ตรงหน้าผมที่ยังคงตาลอยไปไกล

          " นี่ๆ อาลี่เป็นแฟนพี่โรลจริงๆ เหรอ เห็นเขาลือกันว่าพี่โรลกำลังเฮิร์ทจัด "

          " ไม่รู้สิ เลิกกันแล้วละมั้ง " ผมที่พูดแบบนั้นออกมาแต่หัวใจกลับเจ็บปวดเหลือเกิน

          " ก็ว่าอยู่ว่าทำไมพี่เขาถึงมาที่คณะเราตลอด อิจฉาอ่าลี่จัง อย่าเลิกเลย พี่เขาชอบลี่มาตั้งนานแล้วใช่ไหม​ล่ะ ตอนแรกก็นึกว่าชอบแพรซะอีก โด่ว ที่ไหนได้มองลี่ที่อยู่ข้างๆ แพรต่างหาก  "

          " แพรไม่เกลียดเหรอ ลี่เป็นเกย์นะ " ผมคงไม่สามารถกลับไปชอบผู้หญิงได้อีกแล้วล่ะ เห็นหนิงที่เป็นแบบนั้นแล้วผมกลัวผู้หญิงขึ้นมาจับใจ

          " บ้าเหรอออ นี่มันขุมสมบัติชัดๆ " ผมขมวดคิ้วมองแพรที่กำลังส่งสายตาตื่นเต้นสุดๆ มาให้ผม

          ' เด็กใหม่ที่ไหนวะ '

          ' บ้า นั่นมันไอ้ตี๋อ้วนที่ชื่อลี่ไง '

          ' พ่องมึงเถอะ ผอมแล้วน่ารักเหี้ยๆ '

          ' น่ารักชิบหาย มองเพลินเลยกู '

          ผมที่ดึงสติกลับมาก็พบว่า ตัวผมนั้นกำลังโดนนินทาอยู่ตลอดไม่ขาดสาย แต่ก็นะ ผมไม่สนหรอก

          " แล้วอาลี่หายดีแล้วเหรอ ขอโทษนะที่แพรไม่ได้ไปเยี่ยมเลย แพรก็ว่าอยู่ว่าลี่หายไปไหน ดีนะที่เจอเมี่ยงที่คณะ เขาเลยบอกมา "

          " เกือบปกติแล้วล่ะ "

          " อย่ากลับไปอ้วนอีกนะ ดูแลตัวเองด้วย ตอนลี่อ้วนแพรก็คิดว่าลี่น่ารักนะ แต่พอผอมแพรนี่แทบอยากจะถวายมดลูกให้เลย งืออ โครตน่าร้ากก " แพรไม่พูดป่าวแต่กำลังดึงแก้มผมจนแดงเถือก

          " ลี่ไม่เอาหรอกมดลูกอ่ะ ไม่อยากท้อง " ผมว่าผมอาจจะพูดอะไรผิดไป เพราะแพรนั้นตาเป็นประกายทันทีที่ผมพูดแบบนั้น

          " อย่าบอกนะว่า ได้กับพี่โรลแล้วเหรอ " ผมตาโตรีบอุดปากยัยสาววายนี่ทันที จะบ้าหราเธอ ยังเฟ้ยย และอย่าหวังเลยแบบนี้ หึ

          " ถ้าเกลียดลี่ก็บอกตรงๆ นะ เพราะลี่กลัว ลี่เคยมีเพื่อนที่คล้ายๆ แพรอยู่ แต่ตอนนี้เค้าเพิ่งมาบอกว่าเกลียดที่ลี่ชอบผู้ชาย ลี่ก็เลยช็อคเลยแหละ "

          " ผู้หญิงคนนั้นใครอ่ะ อยู่ในมหา'ลัยเราป่ะ ความคิดต่ำมาก เจอจะตบให้คว่ำ "

          " ฮ่ะๆ ขอบใจนะ  " ผมยิ้มให้แพรที่ขมวดคิ้วจริงจัง แบบนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วมั้ง



          ในช่วงกลางวันผมก็เดินลงมาและหาข้าวกินปกติ ผมนัดกับไอ้เมี่ยงที่โรงอาหาร เพราะผมไม่อยากเดินไปที่คณะสถาปัตย์เท่าไหร่ เดี๋ยวจะเจอคนที่ไม่อยากเจอเข้า

          " ฮิ้ววว คนนั้นอ่ะ คนนั้น แก้มใสๆ มีเจ้าของหัวใจหรือ​ยังจ๊ะ " ผมหรี่ตามองไอ้พวกใส่เสื้อช็อปที่กำลังโห่ฮาแซวผมกันอย่างออกรส นี่คณะพวกมึงไม่มีข้าวกินเหรอ ถึงเหาะมาแดกนี่ได้

          ผมไม่สนใจและเดินผ่านไป แต่เสียงแปลกๆ ที่เกิดขึ้นก็ทำเอาผมหันไปมองพวกมันอีกรอบ และก็พบว่ามีถังน้ำขนาดใหญ่ราดลงมารดหัวพวกมันจนเปียกเป็นลูกหมา น้ำแม่งมาจากไหนฟะ ดีนะที่ผมเดินผ่านไปแล้ว ผมเอียงคอมองระเบียงด้านบน แต่ก็ไม่พบใคร ก็ดี สมน้ำหน้า ปากดีนักพวกมึง

          " คนน่ารัก รอพี่นานไหม​จ๊ะ "  ผมหันไปกระทืบทีนคนพูดทันที หนอย แซวกูอีกคนเหรอ เอาทีนไปแดก

          " โอ้ยยย แรงดีขนาดนี้หายแล้วแน่นอน " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยักคิ้วกวนโอ้ยซะเหลือเกิน

          " อย่ามากวนกู วันนี้อารมณ์ไม่ดี " ผมนั่งลงที่ม้านั่งตัวยาวพลางทำหน้าบูด

          " เล่าให้กูฟังเดี๋ยวนี้ มึงกับพี่โรลเป็นเชี่ยไรกัน "

          " พี่โรลคิดว่ากูกลับไปคบพี่นาย " ไอ้เมี่ยงหน้าเครียดขึ้นทันที

          " อยู่ดีๆ ทำไมคิดงั้นได้วะ บ้าไปแล้ว " ผมเลยยื่นรูปแอบถ่ายตอนที่ผมกอดพี่นายให้มันดู

          " ลี่ มึงทำเชี่ยไรเนี่ย " มันมองผมด้วยสีหน้าโกรธเคือง นี่มึงก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ

          " มึงก็ไม่เชื่อกูเหรอ " ผมคิดตัดพ้อในใจ เออ กูมันเหี้ย กูหลายใจเอง กูจะเอาแม่งหมดอ่ะ พอใจไหม​

          " เชี่ยนายบังคับมึงใช่ไหม​ กูจะไปอัดแม่งเดี๋ยวนี้แหละ " ผมดึงคอเสื้อมันที่กำลังลุกขึ้นให้นั่งลงอีกรอบ

          " ไม่ได้บังคับ "

          " ลี่ อย่าว่ากูเข้าข้างพี่โรลนะ เป็นกูก็โกรธชิบหาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มึงก็ไม่ควรทำแบบนี้ "

          ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าผมพลาดไปแล้ว แต่พี่โรลที่นั่งอยู่กับหนิงโดยไม่บอกผมนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้องนี่นา ผมเล่าให้มันฟังว่าทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนั้น ผมโกรธพี่นายมากที่ไม่ยอมพูดอะไร และปล่อยให้มีรูปแบบนี้หลุดออกมาให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่ว่าผมนั้นก็มั่นใจว่าน้ำตาของพี่นายนั้นเป็นของจริง จากความรู้สึกจริงๆ

          " กูสงสารมึงทั้งคู่จริงๆ ส่วนพี่โรลก็ปากร้ายเกินไป แต่เดี๋ยวพี่เค้าเย็นลงก็คุยกันดีๆ เถอะ ส่วนไอ้เชี่ยนายกูจะไปทำให้มันสารภาพ "

          " พอเถอะ กูเหนื่อยแล้ว " ผมพูดเบาๆ และน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง

          " เฮ้อ ตามใจมึงละกัน แล้วเย็นนี้รอกูด้วยนะ กูมีซ้อมบอลว่ะ เลิกดึก "

          " ไม่ต้องอ่ะกูกลับเอง "

          " ไม่ได้ๆ มึงพึ่งหาย ไปนั่งรอข้างสนามบอล "

          " สั่งกูเป็นพ่อเลยนะมึง "



          ตกเย็นผมก็นั่งรอมันซ้อมข้างสนาม ผมคิดไปเองหรือ​เปล่านะว่าเหมือนไอ้พวกที่ซ้อมบอลอยู่นี้มันมองผมแปลกๆ  มองเหมือนจะแดกผมเข้าไปทั้งตัว

          ผมมองไอ้เมี่ยงที่วิ่งไปมาไล่ตระครุบบอลด้วยความโชว์พาว เหอะ ไอ้กากเอ้ย ผมว่าผมไม่ไหวละ แม่งยุงจะแดกผมทั้งตัว ผมกลับก่อนดีกว่า ค่อยโทรบอกมัน

          ผมตัดสินใจและลุกขึ้น เดินออกมาจากสนาม และเดินไปเรื่อยๆ ไปตามทางกลับบ้านเหมือนทุกวัน ผมที่รู้สึกว่าไม่อยากจะถึงบ้านไว เลยใช้ทางอีกทาง ที่เป็นทางอ้อม ซึ่งผมไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนัก

          ผมเดินไปตามทาง และแวะซื้อไก่ย่างหนึ่งไม้ตรงปากซอย และเดินกินไปเรื่อยๆ ผมคิดไปเองหรือ​เปล่านะ บรรยากาศมันแปลกๆ ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับ มีคนกำลังจ้องมองผมอยู่ ผมหยุดเดิน ถือไก่ไว้ในมือที่เกร็งแน่น

          ผมนับหนึ่งถึงสามในใจ และหันไปด้านหลังทันทีพร้อมที่จะหวดคนที่ตามมาด้วยไม้ไก่ย่างนี่แหละ แต่เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่าเบื้องหน้านั้นว่างเปล่า

          ' หงับๆๆ "

          " โอ้ย ลิชชี่ " ผมถึงกับเอามือทาบอก อิห่าเอ้ย มึงนี่เองตกใจหมด แล้วยังมีหน้ามาแย่งแดกไก่กูอีก วันนี้มันช่างเป็นวันซวยจริงๆ

          ผมยืนมองลิชชี่ หมาพันธุ์ทางกิ๊กไอ้เมี่ยงกำลังกินไก่ของผมอยู่ ชิ จับทำลูกชิ้นแม่งเลยดีไหม​ ผมยืนด่ามันสักพักและก็เดินต่อไป เห้อ มืดชิบเป๋ง ไม่น่ามาทางนี้เลยกู

          ' ครืนนน เปรี้ยง!! '

          ผมมองไปบนท้องฟ้า โอ้ยยย อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนขนาดนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ เปียกก็เปียก

          ผมเดินไปเรื่อยๆ ไม่สนใจฝนปรอยๆ ที่เริ่มตกลงมา แต่ความรู้สึกเดิมๆ นั้นก็เริ่มกลับมาอีก

          " ลิชชี่ มึงจะเอาอะไรจากกูอีก " ผมหันกลับไปและบ่นหมาที่คิดว่ากำลังวิ่งตามผมมา แต่ก็ต้องตกใจ เพราะว่าด้านหลังของผมนั้นกลับว่างเปล่า ไม่มีใคร

          ' เปรี้ยง!! ' ผมสะดุ้งตกใจเสียงฟ้าผ่าที่ดังขึ้น แสงสว่างวาบน้อยๆ ชั่วพริบตา ส่องให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างดำมืดที่กำลังขยับไหวอยู่หลังพุ่มไม่พุ่มหนึ่ง

          ผมรีบหันกลับไปตามทางและค่อยๆ เดินไปข้างหน้าต่อไป ผมคงคิดไปเอง ต้องตาฝาดแน่ๆ

          ทางเดินที่ผมเดินกลับนั้นดูเหมือนจะมืดลงเรื่อยๆ มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟสองข้างทาง ที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด

          เสียงฝีเท้าและความรู้สึกแปลกๆ เข้าถาโถมตัวผม จนทำให้ผมขนลุกเกรียว ผมกลืนน้ำลาย เหลือบมองไปทางด้านหลังด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน ลนลาน รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามซอยเปลี่ยวด้วยความสั่นกลัว และเหมือนว่าเสียงฝีเท้านั้นจะดังขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

          โจรเหรอ หรือคนโรคจิต หรือว่าจะเป็นผี อ้ากกก ตอนนี้ผมนั้นใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิต วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

          อย่า!! ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย!!

          ผมคิดในใจ เพราะถึงผมจะตะโกนออกไป ก็คงไม่มีใครได้ยิน เพราะว่าซอยนี้นั้นเป็นซอยเปลี่ยว ที่ไม่มีบ้านสักหลัง

          ผมยังคงวิ่งไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองเสียงฝีเท้านั้น ผมรอด ผมรอดแล้ว ผมเห็นแสงไฟข้างหน้า ผมกำลังจะวิ่งเข้าไปในเขตชุมชนแล้ว

          จนในที่สุด ผมก็วิ่งฉิวมาถึงบ้าน และนั่งเหนื่อยหอบอยู่ที่หน้าประตู

          ไม่มีใครตามมา ไม่เห็นมีใคร แต่ทำไมเมื่อกี้้ ผมคิดว่ามีคนวิ่งตามผมแน่ๆ ยิ่งผมวิ่งเร็ว เสียงฝีเท้านั้นก็เร็วตาม โครตน่ากลัว ผมจะไม่ไปซอยนั้นอีกแล้ว

          ผมเดินขึ้นห้อง อาบน้ำและล้มตัวลงนอนบนเตียง ผมเหนื่อยมาก เหนื่อยทั้งกายและใจ ผมยกมือถือขึ้นมามองดูเวลา แต่ภาพหน้าจอมือถือของผม ก็ทำให้ผมร้องไห้อีกครั้งและผลอยหลับไป

          " ลี่ "

          " อืออ ใคร อย่ายุ่งจะนอน " ผมลืมตาขึ้นช้าๆ และหรี่ตามองภาพฝันที่มันช่างสวยงาม ผมมองเห็นพี่โรลกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่ข้างเตียงและก้มหน้ามองผมในระยะประชิด

          " พี่โรล ผมคิดถึงพี่ ผมขอโทษครับ " คนคนนั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกนิดและประกบจูบผมอย่างรวดเร็ว ความอบอุ่น ความนุ่มนิ่ม และ เดี๋ยวๆๆๆ เหมือนจริงเกินไปแล้วโว้ย

          " พี่โรล ไอ้บ้า มาได้ไง " ผมผลักพี่โรลออกและปาตุ๊กตาใส่อย่างรวดเร็ว แต่พี่โรลก็แค่นิ่งเงียบ และทำหน้าเศร้าๆ เท่านั้น

          ผมมองหน้าต่างห้องผมที่กำลังเปิดอยู่ และเสื้อผ้าพี่โรลที่เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า หนอยยย ปีนขึ้นมายังไงฟะชั้น 3 แล้วไอ้คนที่วิ่งตามผมนี่พี่ใช่ไหม​ ผมละเชื่อเขาเลย

          " พี่ขอโทษ " พี่โรลยังคงนั่งคุกเข่าเหมือนสารภาพผิด

          " ขอโทษที่พี่พูดแรงแบบนั้น เรื่องลี่ผอมลงน่ะ พี่รู้อยู่แล้วล่ะว่าลี่น่าจะป่วย แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ พี่พูดแบบนั้นเพราะพี่กำลังโกรธมาก " ผมมองพี่โรลที่กำลังยิ้มเศร้าๆ ส่งมาให้ผม

          " พี่ไม่เชื่อผม " ผมนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ยังคงไม่ยอมมองหน้าพี่โรล

          " มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก ลี่รู้ไหม​ นายมันมาบอกพี่เมื่อกลางวัน ว่าเหตุผลจริงๆ ที่ลี่กอดมันคืออะไร " ผมมองพี่โรลที่ยังคงหน้าเครียดอยู่ พี่นายบอกงั้นเหรอ แล้วทำไมเมื่อเช้าถึงเงียบกันนะ

          " มันบอกพี่ว่ามันทนเห็นลี่เสียใจไม่ได้อีกแล้ว แต่ถึงมันจะบอกพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่หรอก ถ้าพี่ไปกอดผู้หญิงคนอื่นบ้าง ลี่จะทนได้หรือ​เปล่า " ผมส่ายหน้าทันทีที่พี่โรลพูดแบบนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ผมไม่ยอมแน่ๆ

          " ไอ้คนขี้หึง " ผมขมุบขมิบบ่นเบาๆ

          " พี่ไม่ได้คิดว่าลี่จะกลับไปคบมันหรอก ถ้าลี่จะไปก็คงไปนานแล้ว พี่เห็นแก่ตัวเรื่องความรัก เพราะว่าที่ครอบครัวของพี่ต้องแตกก็เพราะเรื่องนี้แหละ พี่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก "

          " อาจจะฟังดูงี่เง่า แต่ว่าพี่จะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ลี่ พี่เป็นคนแบบนั้นแหละ พี่เวอร์ไปใช่ไหม​ เกลียดพี่หรือ​ยัง " ผมมองพี่โรลที่ยังคงยิ้มเศร้าแบบนั้น ผมไม่ชอบเลย พี่เป็นคนสดใส และสร้างรอยยิ้มให้ผมเสมอ

          " ขอโทษที่ทำห้องเปื้อนนะ พี่มาแค่นี่แหละ พี่ไม่สบายใจ ไม่ชอบให้มีอะไรค้างคา " พี่โรลทำท่าลุกขึ้น ส่งยิ้มให้ผมและทำเหมือนจะปีนหน้าต่างกลับไป

          " พี่โรล " พี่โรลรีบหันขวับทันทีเหมือนกำลังรอให้ผมรั้งไว้ หนอยย

          " ประตูอยู่ทางนี้ครับ " พี่โรลที่ดูหน้าตามีความหวังในตอนแรก บัดนี้กลับห่อเหี่ยวลงทันใด

          พี่โรลลากตัวเองในชุดนักศึกษาเปียกๆ เดินผ่านเตียงผมและจับลูกบิดประตู

          ' หมับ '

          ผมวิ่งลงจากเตียงมากอดพี่โรลไว้จากทางด้านหลัง

          " รออะไรแบบนี่อยู่ใช่ป่าว " ผมพูดแหย่พี่โรลที่ทำหน้าเหมือนกำลังกลั้นยิ้มอยู่ หนอยย ร้ายนะไอ้แฟนบ้านี่

          ผมเหมือนรู้สึกตายแล้วได้เกิดใหม่ มันจะมีอะไรดีไปกว่าการที่เราสองคนยังคงรักกัน และได้ฟังความรู้สึก ความคิดของกันและกัน



ขอแค่เราเปิดใจกัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ด้วยดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 12:36:30 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เข้าใจกันแล้ว

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ไม่รู้นะเนี่ยว่าลิชชี่ เป็นกิ๊กกับเมี่ยง โถน่าสงสารมามะเรายังไม่มีใคร :m20:
ว่าแต่ลี่กับโรล ดีกันแล้ว ระวังป๊ามาเคาะประตูนะ อิอิอิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดีกันแล้ว แต่อย่าลืมชะนีหนิงนะ รีบ ๆ จัดการแฉพฤติกรรมที่ทำไว้ให้แม่โรลรู้โดยด่วนนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          Calorie ที่ 27 ช่วงเวลาหรรษา


          ผมยังคงกอดพี่โรลและซบหน้าลงกับแผ่นหลังที่เปียกชื้นนั้น

          " ปล่อยพี่เลย งอน " พี่โรลทำท่าดึงแขนผมออก และงอแงทำท่าจะเปิดประตู

          " ฮ่าๆ ไม่ให้ไป หายไปตั้งนาน ไอ้บ้า โครตเคืองเลย คนจะตายห่าอยู่แล้วยังไม่โผล่มาดูใจอีก " ผมบ่นตัดพ้อ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยตัวพี่โรลไป

          " พี่ขอโทษจริงๆ นะ พี่แม่งโครตเหี้ยเลย เวลาสำคัญเสือกไม่อยู่ " ผมไม่น่าพูดแบบนั้นเลย พี่โรลดูเครียดจริงจังขึ้นมาอีกแล้ว

          " แล้วเป็นยังไงแล้วบ้าง ผอมขนาดนี้ กินอะไรบ้างหรือป่าว " พี่โรลหันมาคุกเข่าลงกับพื้นและกอดเอวผมเอาหน้าซบท้องของผมไว้ ทำตัวเป็นเด็กอีกแล้ว

          " ขอโทษนะครับ พี่คงเซ็งเลยใช่ป่ะ พี่ชอบที่ผมอ้วนนี่ "

          " ใช่เซ็งมาก " ผมตาโตและฟาดพี่โรลทันที หนอยยย นี่ชอบผมเพราะแค่ผมอ้วนจริงๆ ใช่ไหม​

          " ลี่เป็นแบบนี้ศัตรูพี่มีแต่จะเพิ่มขึ้น พี่เซ็งมาก จะทำยังไงไม่ให้แฟนถูกจีบ " ผมหน้าขึ้นสีน้อยๆ อ้ากกก แบบนี้เองเหรอ เขินอ่ะ

          " บ้า ไม่ได้หน้าตาดีขนาดนั้น " ผมพูดอ้อมแอ้มในคออย่างเขินๆ

          " เคยส่องกระจกบ้างไหม​ " พี่โรลถามเสียงเครียด

          ผมแกะพี่โรลออกและเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้ออกมา

          " อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวผมเอาชุดพี่ไปซักให้ " ผมยื่นผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าตอนผมอ้วนให้พี่โรลที่น่าจะใส่ได้พอดี

          " เสื้อผ้าไม่ต้องก็ได้ พี่ไม่คิดจะใส่ โอ้ยยย " ผมฟาดพี่โรลเข้าที่กลางหลังไปอีกดอก ทะลึ่งจริงๆ ตาคนนี้

          " ชู่วว เบาๆ หน่อยครับ เดี๋ยวป๊าม๊าได้ยิน " ผมรีบจุ๊ปากบอกพี่โรลให้เงียบเสียงลงหน่อย และพี่โรลก็เงียบจริงๆ เงียบแบบชะงักไปเลย

          " โอ้มายก๊อตต " พี่โรลทำตาโตเอามือทาบอกอย่างกวนๆ

          " อะไรพี่ " ผมถามแบบงงๆ

          " ขอแบบเมื่อกี้อีกทีได้ป่ะ " พี่โรลยิ้มทำหน้ากวน

          " อะไรเหรอ ผมทำอะไร " ผมละมึนกับพี่แกจริงๆ

          " ชู่วว แบบนี้น่ารักอ่ะ โอ้ยๆๆ " ผมหยิกแขนพี่โรลอีกทีด้วยความเขิน อ้ากกก ไอ้บ้า เวอร์ไปละทำอะไรก็น่ารักหมดอ่าเนอะ

          ผมค่อยๆ เปิดประตูช้าๆ และโผล่หัวออกไปมอง เพราะห้องน้ำนั้นอยู่นอกห้องผมครับ ตรงสุดทางเดิน อยู่ข้างๆ ห้องอาเฟยนั่นแหละ

          เมื่อทางโล่ง ผมก็ดันหลังพี่โรลให้เดินเข้าไปในห้องน้ำ พี่โรลนั้นฉุดกระชากพยายามจะเอาผมเข้าไปด้วยอยู่นาน จนผมต้องฟาดไปหลายทีกว่าจะยอมปิดประตูอาบน้ำดีๆ

          ผมด้อมๆ มองๆ รอพี่โรลอาบน้ำอยู่สักพัก พี่โรลก็ออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่เอว อ้ากกกก นี่ไม่ได้ฟังที่พูดเลยใช่ไหม​

          ' แอ๊ดดด '

          จังหวะพอดีที่พี่โรลเดินมาหน้าห้องผม อาเฟยก็เปิดประตูออกมา

          " เฮีย อาบน้ำเสร็จยั... " อาเฟยที่เห็นพี่โรลก็ตาค้างไปเรียบร้อย ผมรีบวิ่งไปหาน้องและชู่วปากบอกเป็นสัญญาณว่าห้ามส่งเสียง และทำมือให้พี่โรลที่ยืนโชว์หุ่นนายแบบเข้าไปในห้อง

          " เฮีย คนนี้หนูขอ " ผมทำหน้าเอือมระอาความแก่แดดของน้อง

          " อย่าบอกป๊าม๊า "

          " ทำไมบอกไม่ได้ละคะ พี่เขาเป็นเพื่อนเฮียไม่ใช่เหรอ แต่ว่าหล่อสุดๆ ไปเลยอ่ะ เหมือนเฟยเคยเห็นในนิตยสารอ่ะ พี่เขาเป็นนายแบบใช่ป่ะ " อาเฟยทำท่าดี๊ด๊าอย่างตื่นเต้น

          " ตามนั้นแหละ แต่ห้ามบอกป๊าม๊าเข้าใจไหม​ " อาเฟยพยักหน้าและยิ้มหวาน

          " ไม่บอกแต่ขอเบอร์พี่เขามั่งสิ โอ้ยย ขี้งก " ผมดีดหน้าผากน้องและเดินกลับเข้าห้องตัวเอง

          โอ้ยย เจ้าพ่อคุณจะชอบโชว์ไปถึงไหน พี่แกยังใส่แค่ผ้าเช็ดตัวของผมผืนเดียว นั่งยิ้มหน้าบานอยู่บนเตียงเล็กๆ ของผม

          " เตียงเล็กจัง แต่แบบนี่ก็ดี " พี่โรลพูดพลางทำตาเป็นประกาย รู้นะว่าคิดอะไร ไอ้คนหื่นกาม

          ผมเดินไปหาพี่โรลและหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาช่วยพี่โรลเช็ดผม ผมพยายามเลี่ยงไม่มองร่างกายของพี่โรลตรงๆ อ้ากกก จะหุ่นดีไปไหนวะ อยากจับเหมือนกันนะ แต่ไม่กล้า

          พี่โรลนั่งเฉยๆ และเงยหน้ามองผมพลางส่งยิ้มหวานมาให้ ผมสังเกตุเห็นว่าแก้มที่ขาวมากๆของพี่โรลนั้น ยังคงมีรอยมีสีแดงจางๆ อยู่บนนั้น

          ผมหยุดมือที่กำลังเช็ดผม และเลื่อนลงมาลูบเบาๆ ที่แก้มของพี่โรลช้าๆ ผมใส่สุดแรงจริงๆ นะเนี่ย

          " เจ็บมากไหม​ครับ " พี่โรลจับมือผมที่กำลังลูบแก้มตัวเองเอาไว้ ให้มือของผมนั้นแนบที่แก้มของตัวเองลงไปอีกพลางหลับตาลง

          " เจ็บไม่เท่าหัวใจ " พี่โรลพูดทั้งๆ ที่ยังคงหลับตาอยู่

          ผมมองหน้าที่แสนเศร้าของพี่โรล มองริมฝีปากได้รูปที่แดงธรรมชาตินั้นและค่อยๆ โน้มตัวลงให้ริมฝีปากของพวกเราประสานกัน

          ผมงับเบาๆ ที่ริมฝีปากนั้นและเคลื่อนตัวลงไปนั่งบนตัก กอดคอคนที่รัก ให้พวกเราได้แนบชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม

          พวกเรากอดกันแน่นและจูบสัมผัสกันเนิ่นนาน ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ มันร้อนวูบวาบ ทั้งๆ ที่อากาศนั้นก็ไม่ได้ร้อนเลยสักนิด ผมผละริมฝีปากที่โดนดูดจนจะเปื่อยอยู่แล้วออกจากริมฝีปากของพี่โรล

          " พี่เอาแขนออกได้ไหม​ นั่งไม่ถนัดเลย " ผมพูดเขินและถามแบบไม่ได้มองหน้าพี่โรลเลยสักนิด

          " แขนพี่อยู่นี่นะ " พี่โรลพูดพลางยกแขนสองข้างชูขึ้น เดี๋ยวนะ

          อ้ากกกก อื้อหือ นี่แค่จูบนะ พี่ไม่คิดจะเก็บอาการหน่อยเหรอ โอ้ยยย ผมบัดนี้หน้าแดงจนเป็นมะเขือเทศเดินได้ไปแล้ว

          " ทะลึ่ง ที่นี่ไม่ได้นะ เดี๋ยวป๊าม๊าขึ้นมา " ผมพูดอ้อมแอ้มกับอกแน่นๆ ของพี่โรล ไม่กล้ามองหน้าเลยอ่ะ เขินชิบหาย

          " แปลว่าถ้าเป็นที่อื่นก็ได้เหรอ " พี่โรลรวบตัวผมเข้าไปกอดแน่นขึ้น และเริ่มลูบไปมาบนหลังของผม พลางซุกไซร้แก้มและคอผมไปด้วย

          แย่แล้ว ผมว่าผมรู้สึกว่าร่างกายผมก็เริ่มจะตอบสนองเหมือนกัน โอ้ย ไม่ได้นะลูกพ่อเย็นไว้

          " ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นซะหน่อย " ผมหดคอเอียงหนีพี่โรลที่กำลังจูบและเลียเบาๆ ที่หูสีแดงของผม จนผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว

          ' ก็อกๆๆ '

          ผมที่กำลังโดนพี่โรลนัวเนียก็สะดุ้งสุดตัว ชิบหายแล้ว ชิบหายแล้วว เอาไงดีฟะ

          ผมที่คิดไม่ออกก็นอนลงกับเตียงและปิดไฟลง พลางห่มผ้าห่มผืนใหญ่คลุมผมและพี่โรลเอาไว้ และให้พี่โรลทำตัวลีบๆ แบนๆ ให้เล็กที่สุดทับตัวผม

          " อาลี่ ไม่กินข้าวกินปลาหรือไง เขารอกันอยู่นะ แล้วปิดไฟมืดทำไมอ่ะ " มาม๊าเปิดประตูและถามผมด้วยความสงสัย

          " ค.คือลี่ง่วงอ่ะม๊า เหลือไว้ให้หน่อยนะ เดี๋ยวดึกๆ ลี่ลงไปกินเอง "

          " ไม่สบายอีกเปล่า บอกม๊ามานะ ไม่เอาแบบเดิมนะอาลี่ "

          " ลี่ไม่เป็นไรจริงๆ ฮะ แค่ง่วงเฉยๆ ม๊าไปกินข้าวเถอะ " ผมพูดอย่างร้อนรนทันทีที่ม๊าทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามา แต่ว่าผมที่นอนอยู่กับรู้สึกแปลกๆ รู้สึกเย็นวาบๆ ที่หน้าท้อง และลามไปยันอก

          อ้ากกกกก โอ้ยย อีพี่โรลอย่านะโว้ยย แกจะเสี่ยงตายเกินไปแล้ว ผมพยายามทำสีหน้าปกติ ทั้งๆ ที่ความรู้สึกนั้นมันไม่ใช่เลย

          ใต้ผ้าห่มนั้น พี่โรลเลื่อนเสื้อยืดของผมขึ้นช้าๆ และไล่จูบที่หน้าท้องของผม ลากจมูกเบาๆ ขึ้นมายังอกของผม และลากลิ้นแผ่วเบาโลมเลียที่ยอดอกนั้นจนผมต้องเม้มปากแน่น พี่โรลยังคงไม่สนใจมือผมที่ทั้งดันทั้งจิกผมพี่โรลอยู่ และดูดเม้มที่ติ่งไตสีชมพูเล็กๆ สองข้างนั้นเหมือนจะแกล้งกัน

          " ไม่ลงไปกินตอนนี้จริงๆ เหรอ " ม๊ายังคงมองผมและไม่ยอมปิดประตูสักที

          " อ..ครับ ม๊าขอลี่นอนเถอะ " ผมพูดออกมาอย่างยากลำบาก ตัวของผมเกร็งและสั่นน้อยๆ อย่างสุดจะทน

          ในที่สุดม๊าก็ปิดประตูและเดินลงไป ผมรีบเปิดผ้าห่มและพยายามดันพี่โรลที่กำลังเมามันกับร่างกายผมให้ออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล ผมบิดเร้าร่างกายไปมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ มันรู้สึกเหมือนกับร่างกายของผมนั้นต้องการ แต่ใจก็คอยแต่จะห้ามและขัดขืนต่อไป

          " ..อ อืออ อย่า  " ผมเริ่มหายใจหอบ และมองพี่โรลที่กำลังคล่อมผมไว้ทั้งตัว และเลื่อนตัวจากอกผม ขึ้นมาดูดเลียแล้วครอบครองริมฝีปากผมเอาไว้อีก

          ผมรู้สึกเคลิ้มปล่อยตัวอ้าปากน้อยๆ ให้เรียวลิ้นของเราสัมผัสหยอกล้อกัน พวกเราเริ่มกอดรัดลูบไล้กันไปมา ถ้าหากยังปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ พวกเราคงไม่สามารถหยุดมันได้อีกแน่นอน

          " พี่โรล " ผมหันหน้าหนีจากริมฝีปากนั้นและจับแก้มพี่โรลไว้ พี่โรลไม่ได้พูดอะไร แต่กลับยิ้มให้ผมน้อยๆ

          " พี่ขอโทษนะ ทำให้กลัวหรือเปล่า " ผมส่ายหน้าน้อยๆ แทนคำตอบ

          " พี่อยากให้ลี่เป็นของพี่ เป็นของพี่จริงๆ พี่กลัวคนที่จะมาแย่งลี่ไป " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นทันที นี่เป็นการขอกินตับแบบเนียนๆ ใช่ไหม​

          " ไม่ได้ " ผมเอามือปิดหน้าเขินสุดๆ ที่ได้ยินอะไรแบบนี้

          " ไม่เป็นไร พี่รอได้ " พี่โรลดึงมือผมออกจากหน้าและลูบแก้มผมเบาๆ

          " เสียงมันจะดังออกไป ห้องนี้ไม่เก็บเสียง " ผมพูดด้วยหน้าแดงก่ำและเอามือมาปิดหน้าอีกรอบ

          พี่โรลที่ได้ยินแบบนั้นก็ก้มลงกระซิบข้างหูผมเบาๆ จนผมรู้สึกจักกะจี๋

          " พี่ทำเบาๆ นะ " อ้ากกกก พูดอะไรกันวะเนี่ย ผมเขินจนจะม้วนหน้าอยู่แล้ว

          " เปิดไฟได้ไหม​ พี่อยากเห็นลี่ชัดๆ " พี่โรลพูดและขยับตัวช้าๆ กดน้ำหนักลงที่ตัวผมพลางพูดเบาๆ ด้วยเสียงกระเส่าจนผมขนลุก

          " ไม่เอา~ " ผมที่พูดแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนแรงกดของคนข้างบน

          พี่โรลก้มลงประกบริมฝีปากจูบหยอกเย้าริมฝีปากของผมช้าๆ พลางค่อยๆ เลื่อนมือเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบางของผม และลูบไล้เบาๆ ไปตามผิวกายนั้น

          ผมลูบไล้มือไปตามลำตัวและกล้ามเนื้อสวยของคนเบื้องบนช้าๆ เช่นกัน ดูเหมือนว่าเราจะตื่นตัวกันเต็มที่ซะแล้ว เพราะผมสัมผัสได้ถึงความคับตึงของตัวเองและของคนข้างบน ที่กำลังแนบกันนัวเนียจนแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียว

          ' แอ๊ดดด '

          " ลี่ ทำไมมึงไม่รอกู... "

          ผมกับพี่โรลสะดุ้งเฮือกและหยุดการกระทำทุกอย่างทันที มองประตูที่เปิดออกและผู้มาเยือนที่กำลังทำหน้ายิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยกวนส้นทีนตามสไตล์มัน

          " แหม พอดีกันแล้วก็สีกันทันทีเลยนะ "

          ผมคว้านาฬิกาปลุกหัวเตียงและขว้างใส่หัวมันเต็มๆ จนมาร้องเจี๊ยก



ผมอยากฆ่ามันจริงๆ ให้ตาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2018 12:40:34 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
555สงสารเมี่ยง

ออฟไลน์ พันธุ์ไทย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำลังจะได้สีกันอยู่5555 :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด