Calorie ที่ 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน ผมเดินช้าๆ ไปยังตึกคณะของผม ผมเช็ดน้ำตาที่มันดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดไหลได้ ผมอ่อนล้าเหลือเกิน แค่หายใจก็ยังเจ็บปวด
" เป็นอะไรหรือเปล่าครับ " ผมมองผ้าเช็ดหน้าที่ถูกยื่นให้จากผู้ชายคนหนึ่ง ผมจำมันได้ทันทีว่าใคร มันเป็นคนที่ชอบมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามเวลาเข้าเรียน และไม่เคยสนใจที่จะคุยกับผมมาก่อน
" อย่ายุ่ง " ผมปัดมือผู้หวังดีประสงค์ร้ายออกไป มันจำผมไม่ได้หรือยังไงผมไม่เข้าใจ
" ลี่ๆๆๆ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่วิ่งหน้าตาตื่นมาแต่ไกล และเหลือบมองไอ้คนที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าเมื่อกี้ ซึ่งตอนนี้มันช็อคตาค้างไปเรียบร้อยแล้ว
" มึงเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม แล้วก็มึงรู้ไหมว่าพี่โรลเป็นอะไร " ผมดันมันออกและเดินต่อไป ไม่สนใจสิ่งที่มันพูด
" มึงไปดูพี่โรลหน่อย " มันดึงแขนผมแต่ผมก็ยื้อตัวไว้
" กูไม่ไป ปล่อยมันบ้าไปเลย มันจะไปฆ่าใครต่อยใครก็ตามสบาย กูปล่อยแล้ว กูโสด " ผมพูดด้วยความโมโห และไม่ได้สังเกตุเห็นอาการหูผึ่งของหนุ่มๆ โดยรอบ
" ต่อยใครที่ไหนล่ะ พี่แกนอนร้องไห้อยู่กลางโรงอาหารโน้น เพ้อถึงขนาดนั่งคุยกับหมาอ่ะ " ผมขมวดคิ้วมองไอ้เมี่ยง ไอ้พี่บ้านั่น ผิดคาดแฮะ นึกว่าจะอันตพาลไล่ทำร้ายผู้คนซะอีก
ผมที่สงสัยก็เลยค่อยๆ เดินไปที่โรงอาหารช้าๆ แหวกฝูงชนที่กำลังมุงดูอะไรสักอย่าง และภาพที่ผมเห็น ก็ทำเอาผมที่เศร้าๆ แทบจะหลุดขำออกมาเลยทีเดียว
" ลี่ตบโผม ดูรอยนี่ เห็นไหม 5 นิ้วเนี่ย แรงมาก เจ็บไปถึงขั้วหัวใจ ผมอุตส่าห์ห่วงหวงมานาน แต่ไปกอดคนอื่นซะงั้น แล้วจะให้ผมทำยังไง ยุงมากัดลี่ผมยังแค้นยุงเลย แล้วนี่ผู้ชายมีเจี๊ยวตัวเป็นๆ ผมทำใจไม่ด๊าย " ผมแอบเดินเลาะๆ ไปมองพี่โรลที่กำลังเอ่อ ปลดทุกข์กับน้องหมาตัวอ้วนแถวโรงอาหาร ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มองพี่แกด้วยสายตาสงสารปนเวทนา พี่ครับ แค่โดนตบนี่พี่สติหลุดไปถึงดาวไหนเนี่ย
แล้วไอ้อาการจองหองปากร้ายเมื่อกี้มันหายไปไหน ไม่รู้แหละโกรธมาก ไม่ฟังแถมไม่เชื่อ แต่ผมนั้นก็อาจจะผิดด้วยนั่นแหละ เพราะผมนั้นกอดพี่นายจริงๆ ผมไม่ควรปล่อยตัว ไม่ควรยุ่งกับผู้ชายคนอื่น ในเมื่อผมมีพี่โรลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกรณีใดๆ
สักพักเพื่อนๆ พี่โรลนั้นก็มาลากพี่แกไปจากน้องหมา ซึ่งพี่โรลก็ยังคงอาลัยอาวรและกอดน้องหมาไว้แน่น จนน้องหมาถูกลากไปด้วย เหอะๆ ไอ้บ้า ไม่ใจอ่อนหรอก เชอะ
บ่ายวันนั้น ผมนั่งเรียนด้วยความเหม่อลอย ไม่มีสมาธิ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ผมยังคงคิดถึงสายตาที่แสนเย็นชาของพี่โรล ผมคิดถึงพี่โรล
" อาลี่ ไหวไหมเนี่ย " แพรโบกมือไปมาอยู่ตรงหน้าผมที่ยังคงตาลอยไปไกล
" นี่ๆ อาลี่เป็นแฟนพี่โรลจริงๆ เหรอ เห็นเขาลือกันว่าพี่โรลกำลังเฮิร์ทจัด "
" ไม่รู้สิ เลิกกันแล้วละมั้ง " ผมที่พูดแบบนั้นออกมาแต่หัวใจกลับเจ็บปวดเหลือเกิน
" ก็ว่าอยู่ว่าทำไมพี่เขาถึงมาที่คณะเราตลอด อิจฉาอ่าลี่จัง อย่าเลิกเลย พี่เขาชอบลี่มาตั้งนานแล้วใช่ไหมล่ะ ตอนแรกก็นึกว่าชอบแพรซะอีก โด่ว ที่ไหนได้มองลี่ที่อยู่ข้างๆ แพรต่างหาก "
" แพรไม่เกลียดเหรอ ลี่เป็นเกย์นะ " ผมคงไม่สามารถกลับไปชอบผู้หญิงได้อีกแล้วล่ะ เห็นหนิงที่เป็นแบบนั้นแล้วผมกลัวผู้หญิงขึ้นมาจับใจ
" บ้าเหรอออ นี่มันขุมสมบัติชัดๆ " ผมขมวดคิ้วมองแพรที่กำลังส่งสายตาตื่นเต้นสุดๆ มาให้ผม
' เด็กใหม่ที่ไหนวะ '
' บ้า นั่นมันไอ้ตี๋อ้วนที่ชื่อลี่ไง '
' พ่องมึงเถอะ ผอมแล้วน่ารักเหี้ยๆ '
' น่ารักชิบหาย มองเพลินเลยกู '
ผมที่ดึงสติกลับมาก็พบว่า ตัวผมนั้นกำลังโดนนินทาอยู่ตลอดไม่ขาดสาย แต่ก็นะ ผมไม่สนหรอก
" แล้วอาลี่หายดีแล้วเหรอ ขอโทษนะที่แพรไม่ได้ไปเยี่ยมเลย แพรก็ว่าอยู่ว่าลี่หายไปไหน ดีนะที่เจอเมี่ยงที่คณะ เขาเลยบอกมา "
" เกือบปกติแล้วล่ะ "
" อย่ากลับไปอ้วนอีกนะ ดูแลตัวเองด้วย ตอนลี่อ้วนแพรก็คิดว่าลี่น่ารักนะ แต่พอผอมแพรนี่แทบอยากจะถวายมดลูกให้เลย งืออ โครตน่าร้ากก " แพรไม่พูดป่าวแต่กำลังดึงแก้มผมจนแดงเถือก
" ลี่ไม่เอาหรอกมดลูกอ่ะ ไม่อยากท้อง " ผมว่าผมอาจจะพูดอะไรผิดไป เพราะแพรนั้นตาเป็นประกายทันทีที่ผมพูดแบบนั้น
" อย่าบอกนะว่า ได้กับพี่โรลแล้วเหรอ " ผมตาโตรีบอุดปากยัยสาววายนี่ทันที จะบ้าหราเธอ ยังเฟ้ยย และอย่าหวังเลยแบบนี้ หึ
" ถ้าเกลียดลี่ก็บอกตรงๆ นะ เพราะลี่กลัว ลี่เคยมีเพื่อนที่คล้ายๆ แพรอยู่ แต่ตอนนี้เค้าเพิ่งมาบอกว่าเกลียดที่ลี่ชอบผู้ชาย ลี่ก็เลยช็อคเลยแหละ "
" ผู้หญิงคนนั้นใครอ่ะ อยู่ในมหา'ลัยเราป่ะ ความคิดต่ำมาก เจอจะตบให้คว่ำ "
" ฮ่ะๆ ขอบใจนะ " ผมยิ้มให้แพรที่ขมวดคิ้วจริงจัง แบบนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วมั้ง
ในช่วงกลางวันผมก็เดินลงมาและหาข้าวกินปกติ ผมนัดกับไอ้เมี่ยงที่โรงอาหาร เพราะผมไม่อยากเดินไปที่คณะสถาปัตย์เท่าไหร่ เดี๋ยวจะเจอคนที่ไม่อยากเจอเข้า
" ฮิ้ววว คนนั้นอ่ะ คนนั้น แก้มใสๆ มีเจ้าของหัวใจหรือยังจ๊ะ " ผมหรี่ตามองไอ้พวกใส่เสื้อช็อปที่กำลังโห่ฮาแซวผมกันอย่างออกรส นี่คณะพวกมึงไม่มีข้าวกินเหรอ ถึงเหาะมาแดกนี่ได้
ผมไม่สนใจและเดินผ่านไป แต่เสียงแปลกๆ ที่เกิดขึ้นก็ทำเอาผมหันไปมองพวกมันอีกรอบ และก็พบว่ามีถังน้ำขนาดใหญ่ราดลงมารดหัวพวกมันจนเปียกเป็นลูกหมา น้ำแม่งมาจากไหนฟะ ดีนะที่ผมเดินผ่านไปแล้ว ผมเอียงคอมองระเบียงด้านบน แต่ก็ไม่พบใคร ก็ดี สมน้ำหน้า ปากดีนักพวกมึง
" คนน่ารัก รอพี่นานไหมจ๊ะ " ผมหันไปกระทืบทีนคนพูดทันที หนอย แซวกูอีกคนเหรอ เอาทีนไปแดก
" โอ้ยยย แรงดีขนาดนี้หายแล้วแน่นอน " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยักคิ้วกวนโอ้ยซะเหลือเกิน
" อย่ามากวนกู วันนี้อารมณ์ไม่ดี " ผมนั่งลงที่ม้านั่งตัวยาวพลางทำหน้าบูด
" เล่าให้กูฟังเดี๋ยวนี้ มึงกับพี่โรลเป็นเชี่ยไรกัน "
" พี่โรลคิดว่ากูกลับไปคบพี่นาย " ไอ้เมี่ยงหน้าเครียดขึ้นทันที
" อยู่ดีๆ ทำไมคิดงั้นได้วะ บ้าไปแล้ว " ผมเลยยื่นรูปแอบถ่ายตอนที่ผมกอดพี่นายให้มันดู
" ลี่ มึงทำเชี่ยไรเนี่ย " มันมองผมด้วยสีหน้าโกรธเคือง นี่มึงก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ
" มึงก็ไม่เชื่อกูเหรอ " ผมคิดตัดพ้อในใจ เออ กูมันเหี้ย กูหลายใจเอง กูจะเอาแม่งหมดอ่ะ พอใจไหม
" เชี่ยนายบังคับมึงใช่ไหม กูจะไปอัดแม่งเดี๋ยวนี้แหละ " ผมดึงคอเสื้อมันที่กำลังลุกขึ้นให้นั่งลงอีกรอบ
" ไม่ได้บังคับ "
" ลี่ อย่าว่ากูเข้าข้างพี่โรลนะ เป็นกูก็โกรธชิบหาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มึงก็ไม่ควรทำแบบนี้ "
ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าผมพลาดไปแล้ว แต่พี่โรลที่นั่งอยู่กับหนิงโดยไม่บอกผมนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้องนี่นา ผมเล่าให้มันฟังว่าทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนั้น ผมโกรธพี่นายมากที่ไม่ยอมพูดอะไร และปล่อยให้มีรูปแบบนี้หลุดออกมาให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่ว่าผมนั้นก็มั่นใจว่าน้ำตาของพี่นายนั้นเป็นของจริง จากความรู้สึกจริงๆ
" กูสงสารมึงทั้งคู่จริงๆ ส่วนพี่โรลก็ปากร้ายเกินไป แต่เดี๋ยวพี่เค้าเย็นลงก็คุยกันดีๆ เถอะ ส่วนไอ้เชี่ยนายกูจะไปทำให้มันสารภาพ "
" พอเถอะ กูเหนื่อยแล้ว " ผมพูดเบาๆ และน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
" เฮ้อ ตามใจมึงละกัน แล้วเย็นนี้รอกูด้วยนะ กูมีซ้อมบอลว่ะ เลิกดึก "
" ไม่ต้องอ่ะกูกลับเอง "
" ไม่ได้ๆ มึงพึ่งหาย ไปนั่งรอข้างสนามบอล "
" สั่งกูเป็นพ่อเลยนะมึง "
ตกเย็นผมก็นั่งรอมันซ้อมข้างสนาม ผมคิดไปเองหรือเปล่านะว่าเหมือนไอ้พวกที่ซ้อมบอลอยู่นี้มันมองผมแปลกๆ มองเหมือนจะแดกผมเข้าไปทั้งตัว
ผมมองไอ้เมี่ยงที่วิ่งไปมาไล่ตระครุบบอลด้วยความโชว์พาว เหอะ ไอ้กากเอ้ย ผมว่าผมไม่ไหวละ แม่งยุงจะแดกผมทั้งตัว ผมกลับก่อนดีกว่า ค่อยโทรบอกมัน
ผมตัดสินใจและลุกขึ้น เดินออกมาจากสนาม และเดินไปเรื่อยๆ ไปตามทางกลับบ้านเหมือนทุกวัน ผมที่รู้สึกว่าไม่อยากจะถึงบ้านไว เลยใช้ทางอีกทาง ที่เป็นทางอ้อม ซึ่งผมไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนัก
ผมเดินไปตามทาง และแวะซื้อไก่ย่างหนึ่งไม้ตรงปากซอย และเดินกินไปเรื่อยๆ ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ บรรยากาศมันแปลกๆ ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับ มีคนกำลังจ้องมองผมอยู่ ผมหยุดเดิน ถือไก่ไว้ในมือที่เกร็งแน่น
ผมนับหนึ่งถึงสามในใจ และหันไปด้านหลังทันทีพร้อมที่จะหวดคนที่ตามมาด้วยไม้ไก่ย่างนี่แหละ แต่เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่าเบื้องหน้านั้นว่างเปล่า
' หงับๆๆ "
" โอ้ย ลิชชี่ " ผมถึงกับเอามือทาบอก อิห่าเอ้ย มึงนี่เองตกใจหมด แล้วยังมีหน้ามาแย่งแดกไก่กูอีก วันนี้มันช่างเป็นวันซวยจริงๆ
ผมยืนมองลิชชี่ หมาพันธุ์ทางกิ๊กไอ้เมี่ยงกำลังกินไก่ของผมอยู่ ชิ จับทำลูกชิ้นแม่งเลยดีไหม ผมยืนด่ามันสักพักและก็เดินต่อไป เห้อ มืดชิบเป๋ง ไม่น่ามาทางนี้เลยกู
' ครืนนน เปรี้ยง!! '
ผมมองไปบนท้องฟ้า โอ้ยยย อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนขนาดนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ เปียกก็เปียก
ผมเดินไปเรื่อยๆ ไม่สนใจฝนปรอยๆ ที่เริ่มตกลงมา แต่ความรู้สึกเดิมๆ นั้นก็เริ่มกลับมาอีก
" ลิชชี่ มึงจะเอาอะไรจากกูอีก " ผมหันกลับไปและบ่นหมาที่คิดว่ากำลังวิ่งตามผมมา แต่ก็ต้องตกใจ เพราะว่าด้านหลังของผมนั้นกลับว่างเปล่า ไม่มีใคร
' เปรี้ยง!! ' ผมสะดุ้งตกใจเสียงฟ้าผ่าที่ดังขึ้น แสงสว่างวาบน้อยๆ ชั่วพริบตา ส่องให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างดำมืดที่กำลังขยับไหวอยู่หลังพุ่มไม่พุ่มหนึ่ง
ผมรีบหันกลับไปตามทางและค่อยๆ เดินไปข้างหน้าต่อไป ผมคงคิดไปเอง ต้องตาฝาดแน่ๆ
ทางเดินที่ผมเดินกลับนั้นดูเหมือนจะมืดลงเรื่อยๆ มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟสองข้างทาง ที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด
เสียงฝีเท้าและความรู้สึกแปลกๆ เข้าถาโถมตัวผม จนทำให้ผมขนลุกเกรียว ผมกลืนน้ำลาย เหลือบมองไปทางด้านหลังด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน ลนลาน รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามซอยเปลี่ยวด้วยความสั่นกลัว และเหมือนว่าเสียงฝีเท้านั้นจะดังขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
โจรเหรอ หรือคนโรคจิต หรือว่าจะเป็นผี อ้ากกก ตอนนี้ผมนั้นใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิต วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
อย่า!! ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย!!
ผมคิดในใจ เพราะถึงผมจะตะโกนออกไป ก็คงไม่มีใครได้ยิน เพราะว่าซอยนี้นั้นเป็นซอยเปลี่ยว ที่ไม่มีบ้านสักหลัง
ผมยังคงวิ่งไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองเสียงฝีเท้านั้น ผมรอด ผมรอดแล้ว ผมเห็นแสงไฟข้างหน้า ผมกำลังจะวิ่งเข้าไปในเขตชุมชนแล้ว
จนในที่สุด ผมก็วิ่งฉิวมาถึงบ้าน และนั่งเหนื่อยหอบอยู่ที่หน้าประตู
ไม่มีใครตามมา ไม่เห็นมีใคร แต่ทำไมเมื่อกี้้ ผมคิดว่ามีคนวิ่งตามผมแน่ๆ ยิ่งผมวิ่งเร็ว เสียงฝีเท้านั้นก็เร็วตาม โครตน่ากลัว ผมจะไม่ไปซอยนั้นอีกแล้ว
ผมเดินขึ้นห้อง อาบน้ำและล้มตัวลงนอนบนเตียง ผมเหนื่อยมาก เหนื่อยทั้งกายและใจ ผมยกมือถือขึ้นมามองดูเวลา แต่ภาพหน้าจอมือถือของผม ก็ทำให้ผมร้องไห้อีกครั้งและผลอยหลับไป
" ลี่ "
" อืออ ใคร อย่ายุ่งจะนอน " ผมลืมตาขึ้นช้าๆ และหรี่ตามองภาพฝันที่มันช่างสวยงาม ผมมองเห็นพี่โรลกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่ข้างเตียงและก้มหน้ามองผมในระยะประชิด
" พี่โรล ผมคิดถึงพี่ ผมขอโทษครับ " คนคนนั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกนิดและประกบจูบผมอย่างรวดเร็ว ความอบอุ่น ความนุ่มนิ่ม และ เดี๋ยวๆๆๆ เหมือนจริงเกินไปแล้วโว้ย
" พี่โรล ไอ้บ้า มาได้ไง " ผมผลักพี่โรลออกและปาตุ๊กตาใส่อย่างรวดเร็ว แต่พี่โรลก็แค่นิ่งเงียบ และทำหน้าเศร้าๆ เท่านั้น
ผมมองหน้าต่างห้องผมที่กำลังเปิดอยู่ และเสื้อผ้าพี่โรลที่เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า หนอยยย ปีนขึ้นมายังไงฟะชั้น 3 แล้วไอ้คนที่วิ่งตามผมนี่พี่ใช่ไหม ผมละเชื่อเขาเลย
" พี่ขอโทษ " พี่โรลยังคงนั่งคุกเข่าเหมือนสารภาพผิด
" ขอโทษที่พี่พูดแรงแบบนั้น เรื่องลี่ผอมลงน่ะ พี่รู้อยู่แล้วล่ะว่าลี่น่าจะป่วย แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ พี่พูดแบบนั้นเพราะพี่กำลังโกรธมาก " ผมมองพี่โรลที่กำลังยิ้มเศร้าๆ ส่งมาให้ผม
" พี่ไม่เชื่อผม " ผมนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ยังคงไม่ยอมมองหน้าพี่โรล
" มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก ลี่รู้ไหม นายมันมาบอกพี่เมื่อกลางวัน ว่าเหตุผลจริงๆ ที่ลี่กอดมันคืออะไร " ผมมองพี่โรลที่ยังคงหน้าเครียดอยู่ พี่นายบอกงั้นเหรอ แล้วทำไมเมื่อเช้าถึงเงียบกันนะ
" มันบอกพี่ว่ามันทนเห็นลี่เสียใจไม่ได้อีกแล้ว แต่ถึงมันจะบอกพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่หรอก ถ้าพี่ไปกอดผู้หญิงคนอื่นบ้าง ลี่จะทนได้หรือเปล่า " ผมส่ายหน้าทันทีที่พี่โรลพูดแบบนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ผมไม่ยอมแน่ๆ
" ไอ้คนขี้หึง " ผมขมุบขมิบบ่นเบาๆ
" พี่ไม่ได้คิดว่าลี่จะกลับไปคบมันหรอก ถ้าลี่จะไปก็คงไปนานแล้ว พี่เห็นแก่ตัวเรื่องความรัก เพราะว่าที่ครอบครัวของพี่ต้องแตกก็เพราะเรื่องนี้แหละ พี่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก "
" อาจจะฟังดูงี่เง่า แต่ว่าพี่จะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ลี่ พี่เป็นคนแบบนั้นแหละ พี่เวอร์ไปใช่ไหม เกลียดพี่หรือยัง " ผมมองพี่โรลที่ยังคงยิ้มเศร้าแบบนั้น ผมไม่ชอบเลย พี่เป็นคนสดใส และสร้างรอยยิ้มให้ผมเสมอ
" ขอโทษที่ทำห้องเปื้อนนะ พี่มาแค่นี่แหละ พี่ไม่สบายใจ ไม่ชอบให้มีอะไรค้างคา " พี่โรลทำท่าลุกขึ้น ส่งยิ้มให้ผมและทำเหมือนจะปีนหน้าต่างกลับไป
" พี่โรล " พี่โรลรีบหันขวับทันทีเหมือนกำลังรอให้ผมรั้งไว้ หนอยย
" ประตูอยู่ทางนี้ครับ " พี่โรลที่ดูหน้าตามีความหวังในตอนแรก บัดนี้กลับห่อเหี่ยวลงทันใด
พี่โรลลากตัวเองในชุดนักศึกษาเปียกๆ เดินผ่านเตียงผมและจับลูกบิดประตู
' หมับ '
ผมวิ่งลงจากเตียงมากอดพี่โรลไว้จากทางด้านหลัง
" รออะไรแบบนี่อยู่ใช่ป่าว " ผมพูดแหย่พี่โรลที่ทำหน้าเหมือนกำลังกลั้นยิ้มอยู่ หนอยย ร้ายนะไอ้แฟนบ้านี่
ผมเหมือนรู้สึกตายแล้วได้เกิดใหม่ มันจะมีอะไรดีไปกว่าการที่เราสองคนยังคงรักกัน และได้ฟังความรู้สึก ความคิดของกันและกัน
ขอแค่เราเปิดใจกัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ด้วยดี