[เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17  (อ่าน 3254 ครั้ง)

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




——————————————————————————————————————

นิยายที่แต่ง
กลิ่นสี และ กาวน์หมอ
First Time #ครั้งแรกพบ

———————————————————————————————————————
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-11-2017 01:50:00 โดย miinta »

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #1 เมื่อ17-11-2017 01:12:38 »

H I  D D E N



ป๊าบ!

เสียงของน้ำหนักของฝ่ามือกระทบกับศีรษะทุยอย่างแรงดังขึ้นภายให้ห้องเรียนกว้าง

“เราเจ็บนะเมฆ” ผมโอดครวญใส่คนที่นั่งข้างๆ ผู้ที่เป็นเจ้าของแรงมือที่ตบลงมา

“ตบให้มึงเจ็บไง” เมฆว่า “มึงหยุดส่องไอจีชาวบ้าน แล้วตั้งใจเรียนได้แล้ว”

“โธ่เมฆา แปปนะๆ”

“ไม่ เอามานี่เลย คราวนี้สาวไหนล่ะ”

เมฆากระชากโทรศัพท์เครื่องเท่าฝ่ามือออกจากมือของผมอย่างง่ายดาย ก่อนเจ้าตัวจะเลื่อนหน้าจอที่ผมเปิดค้างไว้ไปมา

“เมฆาเอาคืนมานะ” ผมว่าแล้วพยายามจะคว้าโทรศัพท์คืน แต่อีกคนกลับชูมันยกมันขึ้นแล้วโยกตัวไปอีกทางแทน ทำให้ผมเอื้อมตามไม่ถึง แหมะอยู่กับโต๊ะคนขี้แกล้งนี่แหละ
ฮึ่ย ถ้าไม่ติดว่านั่งโต๊ะเลคเชอร์อยู่นะเมฆา!

“ไม่ใช่ผู้หญิง...นี่?” เมฆาเลิกคิ้วสูงราวกับแปลกใจ ก่อนก้มมองผมที่ยังคงพาดตัวกับโต๊ะเจ้าตัว

“เอาคืนมานะเมฆ!” ผมยืดตัวจะหยิบโทรศัพท์ที่เมฆแกว่งตรงหน้า หน้าจอขึ้นเป็นแอพอินสตราแกรม

“หึหุ่นแค่นี้ ดีกว่านี้มึงก็ได้เห็นบ่อยๆไม่ใช่หรือไง” คนสูงกว่าเคลื่อนหน้ามากระซิบติดใบหูอย่างหยอกเย้า “คืนนี้กูให้สัมผัสยังได้เลย ว่าไงคีริน”

“....” ผมทำแก้มพองใส่คนที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ กลายเป็นว่าเมฆาฉวยหอมแก้มผมซะได้

“เมฆา!”

“ตกลงว่า---”

“นายคีริน นายเมฆา! ถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็เชิญออกนอกห้องค่ะ เพื่อนๆเขารำคาญเสียงพวกคุณกัน”

เสียงอาจารย์ประจำวิชาดังขึ้นขัดการคุยกันของพวกผม เมฆหันไปกล่าวขอโทษเสียงเบา แล้วกวาดของบนโต๊ะลงกระเป๋า

ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่แขนผม ฉุกกระชากให้ลุกขึ้นทันที

เอาจริงดิเมฆา…

“แล้วนั่นจะไปไหนกัน?” อาจารย์วัยใกล้เกษียณคนเดิมถามขึ้น

“ก็ออกไปนอกห้องตามที่อาจารย์บอกไงครับ ยังไงพวกผมสองคนก็ท็อปห้องอยู่แล้ว สวัสดีครับจารย์” เมฆายกมือไหว้อาจารย์ด้วยท่าทางที่ผมคิดว่ากวนตีน แล้วดึงแขนผมให้ออกจากห้องตามไป

ก่อนประตูจะปิดลงโดยนายเมฆา ผมว่าผมเห็นอาจารย์ทำหน้าเหวอนะ



“ไปกินข้าวกันมึง กูหิว” เมื่อออกจากห้องได้เมฆาก็พูดขึ้น เพื่อนสนิทก็ลากผมไปทางโรงอาหารทันทีโดยไม่ต้องรอคำตอบผม

ผมมองตามแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่เดินนำหน้าผมอยู่ เมฆาที่มักจะถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาตลอดเวลาตั้งแต่รู้จัก

ผมเผลอเหยียดยิ้มขึ้นเมื่อคิดว่าผู้คนที่ห้อมล้อมเมฆาตรงนี้ไม่มีทางรู้ว่า ภายใต้กายกำยำตามแบบคนออกกำลังกายที่ปกปิดด้วยเสื้อนักศึกษาสีขาว... ซึ่งภายในนั้นมีแต่รอยเล็บที่ผมฝากไว้จากกิจกรรมจากเมื่อวาน


ใช่แล้ว..รอยเล็บ

ผมกับเมฆามีความสัมพันธ์กัน แต่เราไม่ใช่คนรักกัน เราเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน..

ก็แค่Friend with benefits นั่นคงเป็นชื่อเรียกของความสัมพันธ์ของพวกเราในตอนนี้ละมั้ง

จำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วใครเป็นคนเริ่มก่อน...

อาจเป็นผม อาจเป็นเมฆา หรืออาจเป็นเราทั้งคู่ที่เริ่มมัน

แต่ใครเริ่มก่อนก็ไม่สำคัญ ในเมื่อเราก็มีแต่ได้กับได้กันทั้งสองฝ่าย

หลังจากที่เราเริ่มความสัมพันธ์บ้าๆนี้ เมฆาที่เคยถูกสมนามว่าเสือฟันดะ ที่ชอบหิ้วสาวน้อยหนุ่มน้อยมานอนด้วยก็หยุดทุกอย่าง

เพียงแค่ความเห็นแก่ตัวของผม.. ที่เอ่ยปากในครั้งที่สองของการริเริ่มความสัมพันธ์นี้ว่า

"ถ้าอยากได้เรา..เมฆาต้องมีแค่เรา"

ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เห็ว่าเมฆาจะไปนอนกับใครอีกเลย...


แต่..ทุกอย่างมีเริ่มก็ต้องมีจบ

กฎของเรา..ความสัมพันธ์นี้จะยุติลงเมื่อ ใคร สักคนตกหลุมรักอีกฝ่ายก่อน

ที่สำคัญคือผมดันเป็นคนที่ทำผิดกฎนั้นเอง หลงรักในความใจดี และความเป็นตัวเองของเมฆา

ไม่อยากที่จะให้อ้อมกอดผมราวกับว่าผมเป็นของสำคัญนั้นหายไป...

อีกครั้งกับการเห็นแก่ตัวของผม...เพื่อไม่ให้เมฆาสงสัยในความรู้สึกจึงต้องแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไรกับคนตรงหน้า

ผมเผลอขบริมฝีปากเมื่อเห็นใครคนหนึ่งกอดแขนเมฆา ก่อนจะคลายออกในวินาทีต่อมา


รู้ทั้งรู้ว่าควรจะไม่แสดงอาการหึงหวงออกมา
ทั้งๆที่รู้...


“ริน...คีริน มึงเหม่ออะไร” เสียงเมฆาเรียกสติผมให้กลับคืน

“อ๊ะ เปล่า” ผมโป้ปด เบือนหน้าหนีจากสายตาของเมฆที่จ้องมองมา เกรงว่าอีกฝ่ายจะรับรู้แววตาที่ปิดไม่มิดของผมในตอนนี้
แววตาของความรู้สึกหึงหวงที่แสดงออกไปไม่ได้

"เราแค่..หิวแล้ว" ผมตอบเมฆาออกไปอย่างนั้น เขาเลิกคิ้วเหมือนไม่เชื่อแต่ก็แหวกกองทัพคนที่รายล้อมอยู่นั่นจูงผมเดินลิ่วไปโรงอาหารทันที


ยามเที่ยงตรง สภาพภายในโรงอาหารก็เหมือนสงครามขนาดย่อม เพราะนักศึกษาทั้งหลายที่เลิกเรียนก็ต่างกรูกันมาทานข้าวที่นี่

"กูว่าไปหาแดกข้างนอกเถอะ" เมฆาว่า ผมพยักหน้าเห็นด้วย คาบเรียนตอนบ่ายของเรามีตอนบ่ายสองจึงสามารถออกไปใกล้ๆนี่ได้

เมฆาพาผมเดินไปที่ยานพาหนะส่วนตัวที่จอดอยู่

คิดว่าคนหล่อคนดังอย่างเมฆาจะขับอะไรครับ? มาทายกันเถอะ

ครับ? บิ๊กไบค์?
เหอะ ผมไม่เคยเห็นเมฆาจับมอไซต์สักครั้งเลย

หืม สปอตคาร์?
เมฆามีนะ แต่ขี้หวงอย่างนั้นจอดแน่นิ่งไว้บ้าน บอกว่าเอาไว้ไปโชว์สาวแล้วหิ้วกับมานอน

อีโก้คาร์?
คุณเขาบ่นว่าเล็กสำหรับคนร้อยแปดสิบกว่าอย่างเมฆครับ


"ไปใกล้ๆแล้วกัน เดี๋ยวกูปั่นไปเอง"

อ่านไม่ผิดครับ ปั่น..
เมฆาและจักรยานแม่บ้านสีแดงของเขา

"ขึ้นมาเร็ว กูไม่รอนะ" เมฆาพูดพลางเอี่ยวตัวตบเบาะหลังที่ดังปุๆ ผมลอบถอนหายใจก่อนก้าวซ้อนเบาะหลังแบบหันหน้าออก "มึงนั่งแบบคนดีๆไม่เป็นหรือไง”

ผมหัวเราะออกมาเบาๆกับคนขี้บ่นที่ออกแรงปั่น ลมเอื่อยๆตีปะทะใบหน้า "เราไม่ตกหรอก ตกคอหักแขนหักไปก็ไม่มีใครสนใจเราหรอกเมฆ.."

ผมยิ้มขื่นให้ตัวเองเมื่อพูดถึงตรงนั้น แผ่นหลังของอีกคนเคลื่อนขยับเหมือนว่าเมฆาหันมามองผม

"มึงยังมีกูไงริน" โทนเสียงทุ้มเอ่ยออกมาให้ได้ยิน "กูนี่ไงที่สนใจมึง ใส่ใจมึง แค่มีกูมึงไม่พอหรือไง"

"แต่ถ้าวันหนึ่งเมฆมีแฟน..." ผมเงียบเสียง พาลนึกไปว่าถ้าตัวเองไม่มีคนๆนี้อยู่ด้วย...ยังจะมีใครที่จะอยู่ข้างตัวเองอีกไหม

ผมนิ่งเงียบ พอๆกับอีกฝ่ายก็ไม่คิดที่จะเอ่ยอะไรออกมา

จักรยานแม่บ้านสีแดงหยุดลงเมื่อถึงจุดหมาย พวกเราเดินเข้าร้าน ทั้งอาหารและทานกันอย่างเงียบๆ
ตั้งแต่ที่ผมเอ่ยเรื่องแฟน เมฆาก็ไม่เอ่ยคุยกับผมเลย

"เมฆ..." ผมเรียกชื่อคนปั่นจักรยานเบาๆ เมฆาไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา

"เมฆา คุยกับเราหน่อย" พยายามเรียกชื่อเจ้าตัวซ้ำๆ แต่เมฆาก็ใจแข็งเกินกว่าที่จะหันมาคุยกับ

"เมฆ.. รินขอโทษ" ผมพูดเสียงอ่อย พลางซบหน้าลงกับแผ่นหลังแข็งๆตรงหน้า

ถึงไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ไม่รู้ว่าอะไรทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ..’ไม่ว่าจะเรียกอย่างไรอีกฝ่ายก็คงยังเงียบ

รู้สึกหน่วงที่กลางอก...
ความเงียบนั้นทำให้หยาดน้ำที่คลอหน่วยตาหยดรินใส่เสื้อของเมฆา

จักรยานแม่บ้านสีแดงหยุดลงอีกครั้งเมื่อถึงจุดจอด

ผมรีบปาดหยาดน้ำที่อยู่บนใบหน้าออกอย่างลวกๆเพื่อที่จะไม่ให้เมฆาได้เห็น แต่อีกคนกลับมือไวกว่า

"อย่าร้อง" มือใหญ่ของอีกคนเอื้อมมาปาดใต้ตาผมช้าๆ ผมหลับตาลงหลบคนตรงหน้าเมื่อได้ยินเมฆาถอนหายใจออกมา

"ตอนนี้มึงอยู่กับใคร"

"เอ๋.."

"กูถามว่า ตอนนี้มึงอยู่กับใคร"

ผมเงียบ.. เพราะในหัวมีภาพของบ้านที่อาศัยอยู่แวบขึ้นมาจากคำถามนั้น

บ้าน..ที่ไม่มีใครสนใจใยดีคนอย่างคีริน

"คนเดียว..."

เมื่อผมตอบเสียงแผ่ว เมฆาก็รวบผมไปกอดทันที

ร่างผมที่ปะทะร่างกายอุ่นๆของเมฆา...

ความอุ่นที่มันอบอุ่นเกินไป

"คนเดียวที่ไหน แล้วกูล่ะ หืม”

"เมฆเป็น...เพื่อน" อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดผมแน่นขึ้น

ผมฉวยโอกาสแนบใบหน้าลงกับอกคนตัวสูง จังหวะหัวใจที่เต้นเชื่องช้าของเมฆา มันตรงกันข้ามกับจังหวะที่เต้นระรัวของผม...

"ใช่กูเป็นเพื่อน มึงไม่ได้อยู่คนเดียว มึงยังมีกู" เมฆาเอ่ยปลอบ มือหนาลูบเส้นผมเล่นไปมา

"อื้อ"


"กูชอบมึงตอนร่าเริงมากกว่านะคีริน"

“เมฆา...” ผมคว้าปลายแขนเสื้อของคนตรงหน้าและกระตุกเบาๆ “โดดเรียนได้ไหม อีกอย่าง..หยุดยาวถึงวันจันทร์”

ผมช้อนตามองเมฆาอย่างมีความหมาย... เหมือนตาฝาดที่เห็นเมฆากระตุกยิ้มก่อนจะพาผมออกไปจากที่ตรงนั้น

และแล้วคาบบ่ายเราก็ไม่ได้เข้าเรียนกัน

.
.
.

“เมฆ..เมฆา ช้าหน่อย อ๊า” ความร้อนผ่าวที่สอดใส่ และกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงที่ได้รับทำให้ผมครางเสียงหลง

เมฆาอยู่กับผมมากพอที่จะรู้ว่าผมต้องการอะไร...
เมฆารู้ว่าครอบครัวผมไม่ได้อบอุ่น พ่อเลี้ยงที่ขี้เหล้า แม่ที่เสียไป พี่ที่ไม่เคยสนใจ..
และเมฆารู้ว่าผมต้องการความอบอุ่นที่เขามอบให้เพื่อปลอบประโลมความโดดเดี่ยว

ไม่ดีสักนิดที่โดดเรียนมาทำเรื่องอย่างว่ากัน..

แผ่นอกของเมฆาแนบชิดกับหลังของผมจนรู้สึกถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นตามแรงอารมณ์ ไหนจะแขนแกร่งที่โอบรัดรอบตัว ริมฝีปากร้อนๆของอีกที่แนบลงมากับช่วงไหล่ และร่างกายที่ประสานกันเป็นหนึ่ง
ดันเผลอคิดไปว่าสัมผัสทั้งหมดนั่นเป็นของตัวเอง..

“อืม... ” เสียงครางต่ำข้างใบหูยิ่งเพิ่มความกระสันให้กับผม ตั้งใจจะเคลื่อนมือไปขยับความต้องการ แต่กลับถูกมือใหญ่ของอีกคนปัดทิ้งก่อนฝ่ามือนั่นเองจะเข้ามาจับแทนที่ และขยับประสานให้เข้ากับจังหวะที่เจ้าตัวเป็นฝ่ายควบคุม

ฟันคมฝังลงกับลาดไหล่จนรู้สึกแสบ ก่อนเมฆาจะจับผมพลิกตัวประจันหน้าทั้งๆที่ส่วนนั้นยังคงสอดใส่อยู่ อีกฝ่ายคว้าขาผมให้ล็อกกับเอวสอบ ริมฝีปากบางอ้อยอิ่มอยู่ที่ยอดอกทั้งสองข้างจนเป็นตุ่มไต

“เมฆ...อ๊า!” ผมหวีดร้องออกมาเมื่อเมฆาถอนตัวตนของเขาออกจนเกือบสุด และกระแทกเข้ามาเต็มความยาวซ้ำๆจนรู้สึกจุกช่องท้อง

ผมมองค้อนใส่คนขี้แกล้งที่หัวเราะหึออกมา ก่อนจงใจตอดรัดตัวตนที่ฝังอยู่จนเมฆาทำหน้าเหยเกออกมา

“ซนอีกระวังเจอดีนะริน” เมฆเอ่ยชื่อเล่นผมที่นานๆทีเจ้าตัวจะเรียก แต่วันนี้เขากลับเอ่ยเป็นครั้งที่สองแล้ว

“เมฆาจะทำอะไรเราหรอ” ผมยกยิ้มทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ยกมือขึ้นลูบริมฝีปากซีดนั่น และเคลื่อนลงกรีดนิ้วกับแผงอกของคนตรงหน้า ไล่ผ่านกล้ามเนื้อแข็งแรงอย่างช้าๆจนไปถึงกลุ่มขนด้านล่าง ก่อนจะสัมผัสเข้ากับความแข็งขืนที่สอดใส่ในช่องทางลับอยู่ และออกแรงบีบมันเบาๆ

วันนี้เมฆาแกล้งผมมามากพอแล้ว...

“คีริน” เมฆาเรียกชื่อผมผ่านไรฟัน เมื่อผมเป็นฝ่ายขยับสะโพกเข้าหาเขาเอง

“ว่าไง เมฆาจะทำอะไรเราหรอ” ผมถามซ้ำเมื่อไม่ได้คำตอบ เมฆาขบฟันจนเส้นเลือดขึ้นอย่างคนอดอั้น

ไม่ต้องเอ่ยคำถามซ้ำเป็นครั้งที่สาม เพราะเมฆาทำให้ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ โดยการกระแทกตัวเองเน้นๆตรงจุดอ่อนไหวที่ภายในของผม

“เมฆ อ๊า!... ช้าลง อะ อ๊า” ผมร้องขออย่างกระท่อนกระแท่นแต่คนขี้แกล้งก็คิดไม่ปราณี แท่งร้อนที่ผลุบเข้าออกยิ่งเพิ่มความเร็วจนผมครางลั่น หยาดน้ำในตาที่เกิดจากแรงอารมณ์ไหลลงมา

ผมเอื้อมคว้าเมฆาที่เต็มใจก้มตัวลงมาให้กอด จิกเล็บลงกับแผ่นหลัง ขบฟันลงกับไหล่เพื่อนสนิทเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ

“เมฆ..อย่า เมฆา อ๊า!”

“อืม..”

เมฆากระแทกตัวลงมาอีกไม่กี่ครั้งผมก็ปลดปล่อยความต้องการออกมาหมด

“...ไปก่อนกูอีกแล้ว” เมฆาว่าเสียงขำ ใบหน้าหล่อเข้มคลอเคลียอยู่กับข้างแก้มและใบหู “รัดแรงๆแบบนั้นล่ะคีริน..อ่า”

เพราะไม่มีเครื่องป้องกันมาขวางกั้น ผมรู้สึกถึงความอุ่นร้อนวาบในช่องท้องเมื่อเมฆาถึงฝั่งฝัน เสียงหอบหายใจของเมฆาและผมดังก้องไปทั่วห้องพักของผมแห่งนี้
เซ็กส์ที่มีเพื่อปลดปล่อยความเครียดของผมจบลงแล้ว

“เมฆ!” ผมร้องออกมาเมื่อคนที่ทับผมอยู่ขยับตัวตนแข็งขืนที่ยังอยู่ภายในราวกับแกล้ง เสียงชื้นแฉะหยาบโลนที่ได้ยินจากช่องทางทำให้ผมหน้าร้อนวาบ ตั้งใจจะหันไปต่อว่าเมฆาที่หัวเราะหึๆข้างหู

แต่ทว่า...

จังหวะที่ผมหันไปหาเมฆา เป็นจังหวะเดียวกับที่เมฆาหันมาหาผม

ปลายจมูกที่ชนกัน ริมฝีปากที่หากขยับตัวก็จะแตะกันได้

เมฆาเคยบอกว่าเขาไม่จูบคู่นอน... และตอนนี้ผมอยู่ในคำๆนั้น

เผลอสบกับนัยน์ตาสีเข้มของเมฆา ผมไม่กล้าที่จะขยับห่างหรือเบี่ยงหน้าหนี ทำได้แต่เพียงหลับตาหลบดวงตาสีเข้มคู่นั้น

 เพราะเกรงกลัว..
กลัวว่าเมฆาจะรับรู้ความรู้สึกจริงๆ
กลัวที่จะเอ่ยคำต้องห้ามออกไป

ลมหายใจอุ่นๆที่ปะทะใบหน้าทำให้หัวใจเต้นระรัวยิ่งกว่าเซ็กส์ที่ผ่านมา

ได้ยินเสียงเมฆาขยับตัว ก่อนที่ข้างๆจะยวบขึ้นคล้ายว่าคนที่นอนอยู่ลุกออกไปแล้ว ผมยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้นเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวในห้องที่เพิ่งจะเงียบเชียบราวกับมีผมอยู่ในห้องนี้คนเดียว

ก่อนสัมผัสนุ่มหยุ่นเบาๆบริเวณริมฝีปากที่บวมแดงจากการขบกัดกลั้นเสียงของตัวเองจะทำให้ผมลืมตาขึ้นทันที

นัยน์ตาสีเข้มของเมฆาจ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว...คล้ายว่ารอให้ผมลืมตาตื่น

สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ได้รับก่อนหน้านี้ไม่ได้จากหายไปไหน มีเพียงเมฆาที่ขบเม้มริมฝีปากผมเบาๆด้วยปากของตัวเอง ไม่มีการสอดแทรกลิ้นเข้ามาภายใน มีแค่เพียงสัมผัสเบาๆที่คลึงอยู่กับริมฝีปากราวกับว่ามันเป็นของที่ต้องทะนุทนอมไว้

ไม่กี่วินาทีราวกับนิรันดร์..
เมฆาผละออกไปแล้ว


“เมฆ...”

“ขอโทษ” เมฆาพูดแทรกผมขึ้นมา

“....” ผมมองคนตรงหน้าอย่างสับสน แววตาของเมฆาสั่นระริกอย่างไม่เคยจะเป็น

“ขอโทษที่จูบ” มือของเมฆาเคลื่อนมาไล้ริมฝีปากที่ผมเม้มแน่นให้คลายออก

“เมฆา...”

“กูว่า...” อีกครั้งที่เมฆาพูดขัดผม “กูคงทำผิดกฎของเราไปแล้ว”

ผมนิ่งเงียบกับสิ่งที่ได้ยิน กฎที่มีเพียงข้อเดียวที่ผมฝ่าฝืนจนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ให้มิด กลับกลายเป็นว่าเมฆา..

ก็ทำผิดกฎเพียงข้อเดียวของเราเช่นกัน

“กูขอโทษ...” เมฆาก้มจูบหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากห้องนี้ไป

โดยที่ผมไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไปสักคำ

.
.
.

สามวันนับจากวันนั้น.. สามวันที่ผมไม่ได้ติดต่อหาอีกฝ่ายและไม่มีสายเรียกเข้าจากเมฆาเช่นกัน เพราะผมไม่กล้าที่จะไปพบหน้าเมฆา วันนี้จึงเป็นวันแรกที่จะได้เจอเขาหลังจากวันนั้น

ทันทีที่ถึงห้องเรียน เมฆาดูต่างจากเดิม..ไม่สิเขาคงกลับไปเป็นเมฆาคนเดิมก่อนที่เราจะมีความสัมพันธ์บ้าๆนี่ เหมือนจะได้ยินเพื่อนในห้องพูดคุยกันว่าตลอดสามวันไปเจอเมฆาอยู่ที่ผับ และทุกวันเขาจะมีคนข้างกายตลอด

“คีริน” เสียงทุ้มปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ความคิด เงยหน้าไปก็เห็นเพื่อนสนิทตัวโตยืนมองค้ำหัวอยู่

ผมยกยิ้มน้อยๆให้อีกฝ่าย ก่อนเบือนหน้าหนีเพราะไม่กล้าที่จะสบตา เมื่อเห็นว่าเมฆาก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกผมจึงก้มไปสนใจหนังสือเรียนต่อ

เมื่อวานผมตัดสินใจกลับไปที่ที่เรียกว่าบ้าน... เพราะห้องนั้นมีกลิ่นของเมฆามากเกินไป

ถึงเราจะยุติความสัมพันธ์บ้าๆนั้นเพราะคำพูดของเมฆาแล้วก็เถอะ ผมดีใจนะที่รู้ว่าเมฆารู้สึกอย่างเดียวกับผม แต่เรื่องที่ได้ยินจากเพื่อนร่วมห้องทำให้คิดว่า...

เมฆาคงแค่เบื่อผมเลยบอกอย่างไปนั้นเพื่อตัดสัมพันธ์

และเพื่อให้เป็นอิสระจากคำพูดผูกมัดของผม


“ริน...” ผมหันไปเลิกคิ้วสูงใส่คนที่เรียกชื่อผม เมฆาจ้องผมอยู่ก็จริงแต่ก็ไม่มีอะไรออกมาจากปากเขาเช่นกัน เมฆาไม่อยากพูด ผมก็ไม่อยากเซ้าซี้ถาม
ตอนนี้...เหมือนว่ามีก้อนของความอึดอัดเข้าแทรกระหว่างเรา


โชคดีที่วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็ว ผมรีบรวบของลงเป้ก่อนจะก้าวยาวๆออกจากห้องโดยไม่สนใจเสียงเรียกชื่อที่รั้งให้ผมอยู่

ผมเดินเอื่อยๆมาที่ป้ายรถเมล์ เมื่อเห็นคันที่ต้องขึ้นมาถึงก็ก้าวขึ้นทันที รอไม่นานรถก็เคลื่อนตัวออกจากป้าย นั่งมองวิวข้างทางเปลี่ยนไปตามเส้นทางเดินรถ จนกระทั่งถึงบ้านหลังน้อยที่ผมเคยอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้

ผมลอบถอยหายใจออกมาก่อนไขกุญแจเข้าบ้าน

โชคไม่ดีนักที่คนที่รออยู่หลังบานประตูคือพี่ชายเพียงคนเดียวของผม

“คีรี...” ผมเอ่ยชื่อคนตรงหน้า พี่ชายที่แก่กว่าตัวเองราวห้าปี พี่ชายที่หน้าตาคล้ายผมจนเหมือนฝาแฝด
จนเว้นเส้นผมสีแดงนั่น

 “กูพี่มึงนะ” คำพูดเรียบๆเอ่ยออกจากปากนั่น ผมมองคนตรงหน้าที่ขนาดของร่างกายไม่ต่างกันนัก

“พี่...คีย์มีอะไรครับ” ผมหลบตาคนตรงหน้า จัดการเอารองเท้าไว้ในชั้นให้เรียบร้อย

“งาน” ผมขมวดคิ้วกันคำของพี่ชายที่เดินเข้ามาใกล้ “ลูกค้าอยากได้กู แต่หมู่กูไม่รับ”

ใช่...พี่ชายผมใช้ร่ายกายตัวเองแลกกับเงิน

“พี่ก็ปฏิเสธเขาไปสิครับ ผมขอตัว” ผมว่าแล้วเดินเบี่ยงคนที่ยืนจังก้ากลางโถงบ้าน แต่มือของอีกคนคว้าหมับเข้าท่อนแขนผม

“กูรับงานมาแล้ว...” เล็บของอีกคนจิกลงผ่านเนื้อแขนเสื้อ “พ่อไม่อยู่ และอีกประมาณสองชั่วโมงเขาจะมาที่บ้าน โชคดีจริงๆที่พ่อบอกว่ามึงกลับมาอยู่บ้านตั้งแต่เมื่อวาน”

“ไม่”

“กูรู้ว่ามึงก็ชอบเรื่องเซ็กส์...ไม่งั้นมึงคงไม่นอนครางใต้ร่างเพื่อนสนิทอย่างนั้นหรอกใช่ไหม” คีรียิ้มเหยียด “ ถ้ายังไงมึงรับแขกแทนกูด้วยแล้วกันนะน้องรัก”

ผมกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินอีกคนพูดอย่างนั้น

“ผมไม่ใช่คนที่รับงาน พี่ทำไปคนเดียวเถอะ” ผมกระแทกไหล่คนเป็นพี่ แล้วเดินขึ้นห้องไป

หนึ่งในสาเหตุที่ผมไม่อยากกลับบ้านคือพี่ชาย เพราะเขารู้ความสัมพันธ์บ้าๆระหว่างผมและเมฆา...

ผมเหลือบมองโทรศัพท์ที่มันสั่นไม่หยุดมาสักพักก่อนถอนหายใจ เมฆาเป็นคนกระหน่ำโทรเข้ามา... คิดว่าเขาคงไม่รู้ว่าผมอยู่ไหน และคงคิดไม่ถึงว่าผมจะกลับมาที่บ้านที่ไม่อยากกลับ


นาฬิกาบอกเวลาเกือบหกโมง ถ้านับเวลาตามที่คีรีบอก คนพวกนั้นจะมาบ้านราวๆทุ่มครึ่ง เพราะผมต้องหนีออกไปจากที่นี่ก่อน แต่ก่อนที่จะคิดหาทางหนีเสียงท้องที่ดังประท้วงทำให้ผมต้องลงมาหาอะไรเข้าท้องบ้าง โชคยังดีที่มีมาม่ากับไข่เหลืออยู่ ผมจัดการเทน้ำตอกไข่ใจจาน เอามันเข้าไมโครเวฟไม่นานเกินรออาหารสามนาทีได้กิน ผมยกซดน้ำจนไม่เหลือ ก่อนจะเดินไปเทน้ำในตู้เย็นมาดื่มจนหมดแก้ว

คีรียินมองผมอยู่จากบันไดบ้าน พี่ชายต่างสายเลือดยืนยิ้มราวกับกำลังพึงพอใจอะไรสักอย่างที่ผมไม่รู้

ผมหรี่ตาอย่างสงสัย ก่อนจะเซลงไปนอนกองกับพื้นเพราะร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปดื้อๆ ความง่วงนอนเข้าแทรกทั้งๆที่เพิ่งเป็นเวลาเย็น

“ออกอาการไวดีนี่” คีรีชูซองอะไรสักอย่างที่อยู่ในมือขึ้น

ผมปรือตามองผู้เป็นพี่ชาย

ว่าหรือน้ำที่ดื่มไปนั่น!


ร่างกายที่สะลึมสะลือพอๆกับสติที่ใกล้ผมลง

“ฮึก...” ผมฝืนลุกขึ้น คิดอย่างเดียวว่าอย่างน้อยก็ขอให้ไปจากที่นี่ได้

“เมฆา...” ผมพึมพำชื่อของเพื่อนสนิท หวังให้เขาโผล่มาในตอนนี้

ไม่น่ากลับมาบ้านเลย… ผมคิด

ภาวนาให้ใครก็ได้มาช่วยผม

แต่…
คำภาวนาไม่เป็นผลเมื่อประตูบ้านถูกเปิดขึ้นโดยผู้ชายแปลกหน้าราวๆสี่-ห้าคน

กลุ่มคนตรงหน้าล้วนสวมผ้าคาดตาทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร พวกมันกรูเข้ามาล้อมผมทันทีที่เห็นผมอยู่บนพื้น สัมผัสน่ารังเกียจลูบไล้ไปทั่วกาย

ใจกรีดร้องจนจะขาดเมื่อใครสักคนฉีกทึ้งชุดหนักศึกษาที่ใส่อยู่ออก ปลดกางเกงสแล็คลงไปกองกับข้อขา พยายามจะสอดนิ้วเข้ามาภายใน

นั่นคือความทรงจำสุดท้ายก่อนที่ผมจะไม่รู้สึกอะไรอีก

(((ต่อด้านล่าง)))

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #2 เมื่อ17-11-2017 01:13:14 »





เฮือก!

ผมลืมตาโพลง สะดุ้งตัวลุกขึ้นพรวดจนรู้สึกวูบจนต้องหลับตาลงเพื่อปรับสภาพ พอลืมตาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องสีขาว หลังมือขาวเจ็บจี๊ดจากการรั้งของสายอะไรสักอย่างไว้

โรงพยาบาล?

ผมมองไปรอบๆอย่างงุนงง ก่อนสติจะกลับมาพร้อมภาพและสัมผัสอันน่าขยะแขยง

“ฮึก...” อาการเจ็บที่บั้นท้ายทำให้น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมกอดตัวเองไว้ จิกเล็บลงกับต้นแขนจนเจ็บปวด...นี่คือเรื่องจริง

ตัวผมที่...สกปรกไปแล้ว


เสียงเปิดประตูไม่ได้อยู่ในโซนประสาทของผมที่กำลังแหลกสลาย เสียงร้องแสะแรงเขย่าตัวไม่ได้ทำให้ผมหายจากการทำร้ายตัวเอง

“คีริน!”

แต่เสียงตวาดคุ้นหูนั่นทำให้ผมได้สติขึ้นมา

“คีริน! ริน! มึงมองกู!”

“เม...ฆา” ผมเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยสียงแห้งผาก บุคคลตรงหน้าคือคนที่ผมยังไม่พร้อมที่จะเจอมากที่สุด

“ไม่...เมฆอย่าจับเรา...เราไม่.. เมฆ!” ผมขยับตัวหนีคนตรงหน้า ดิ้นหลบฝ่ามือที่จะเข้ามาจำจบสายน้ำเกลือหลุด


หมับ!

“ริน ใจเย็น” เมฆารวบผมไว้ในอ้อมกอด สัมผัสเบาๆที่ลูบแผ่นหลังและความอบอุ่นจากอีกคนไม่ได้ทำให้ผมดีขึ้น แต่กลับกัน ผมรู้สึกขยะแขยงตัวเองมากกว่าเดิมเมื่อเมฆายังคงทำเหมือนทะนุถนอมผม

ปึก! ปึก!

ผมทุบลงกับหลังอีกคนเมื่อหลีกหนีอ้อมกอดอุ่นไม่ได้ ยิ่งคำปลอบของเมฆาที่ข้างใบหูทำให้ผมร้องไห้หนักมากขึ้น

“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว”

“ฮึก...”

“ฟังนะ มึงไม่ได้โดนทำอะไร กูไปช่วยทัน”

“.....”

“เงียบครับคนดี ชู่ว” มือใหญ่ของเมฆาลูบลงกับศีรษะผมเบาๆพร้อมกับคำพูดนั่น เสียงทุ้มนุ่มที่ไม่เคยได้ยินดังขึ้นซ้ำๆจนผมหยุดสะอื้นไห้

“จริงหรอ ที่ไปช่วยเราทะ..” สัมผัสแผ่วเบาแตะลงมาที่ริมฝีปากแทนคำตอบ เมฆาขบเม้มปากผมราวกับมันเป็นขนมหวาน ผละออกแล้วจูบลงมา เมฆาทำอย่างนั้นซ้ำๆจนผมรู้สึกว่า...หน้าร้อนจัด

“จริงสิ ขึ้นอยู่กับรินว่าพร้อมฟังหรือเปล่า” เมฆาว่าก่อนกัดลงกับปากล่างผมอีกครั้งแล้วผละออกห่าง

“ฟัง...”

เมฆายกยิ้มขึ้นมุมปาก “รู้ตัวไหมว่าสลบไปสองวัน” ผมส่ายหัวรัว “วันนั้นที่มึงกลับไปก่อน กูก็ตามมึงไปจนรู้ว่ามึงกลับบ้าน แต่กูก็อยู่แถวๆนั้นแหละ พยายามโทรหามึงแต่มึงไม่ยอมรับสาย จนหกโมงกว่าๆป๊ากูโทรมาเลยละสายตาจากบ้านมึงไปคุยกับป๊า แต่พอได้ยินเสียงมึงร้องกูเลยวิ่งไปตามเสียงมึงไป อย่างแรกที่กูเห็นคือมึงนอนตัวเปล่าอยู่กับพื้น ไอ้เวรพวกนั้นคนนึงกำลังใช้นิ้วกับ..”

เมฆาขบกรามนานจนขึ้นสัน

“กูเลยกระโจนไปกลางวงพวกมันแล้วกระชากตัวมึงออกมา โชคดีที่ป๊าที่ยังไม่วายสาย พอได้ยินเสียงตะโกนกูก็คิดว่าคงมีเรื่องเลยส่งลูกน้องมาหา กูเลยปล่อยให้พวกนั้นจัดการแล้วพามึงมาโรงบาลก่อน”

“แล้วคีรี...” ผมว่าเสียงสั่น ยกมือกอบกุมเสื้อของอีกคนที่กอดไว้จนยับ

ดีแค่ไหนที่เมฆาอยู่ใกล้ๆ

“...กูไม่รู้ มันหนีไปก่อนกูจะเข้าไปหามึง” เมฆารวบตัวผมเข้าไปกอด “หลังจากนี้ไปอยู่กับกูนะ ป๊ากูก็ไม่ได้ห้าม”

ผมผละออกทันที่ได้ยินประโยคหลัง จ้องมองเมฆาด้วยความไม่เข้าใจ “...ทำไม”

“กูรักมึง” คำพูดนั้น...น้ำเสียงหนักแน่นของเมฆาทำให้ผมร้อนวูบไปทั้งตัวจนต้องหลบหน้า

“แต่...”

“กูรู้ว่ามึงก็รักกูคีริน กูรู้ตั้งนานแล้ว” เมฆาล็อกหน้าผมให้หันไปมอง “มึงไม่อยากให้กูรู้ว่ามึงคิดยังไงกับกู กูก็ทำเป็นไม่รู้ ไหนจะกฎบ้าๆที่มึงตั้งเพื่อปิดกั้นตัวเอง ทั้งๆที่มึงและกูทำผิดกฎนั้น”

“เมฆ...” นับน์ตาสีเข้มวูบไหวเมื่อผมมอง

“เรารักกันไม่ใช่หรอคีริน กูขอโทษที่ปล่อยมึงไปวันนั้น ยกโทษให้กูได้ไหม...” เมฆารวบผมไปกอดอีกครั้ง แผ่นอกที่แนบชิดกันจนรู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นระรัวของเมฆา...เป็นจังหวะเดียวกับผม

“ฮึก...” น้ำตาที่แห้งเหือดของผมไหลออกมาอีกครั้ง

“เรา...เรารักเมฆ รัก..ฮึก” ผมปล่อยโฮกับไหล่เมฆา พูดคำเดิมวนไปซ้ำๆจนอีกคนหัวเราะหึ

“กูรู้แล้ว รักมึงเหมือนกัน แต่ตอนนี้เงียบเถอะคีริน แม่งร้องยังกับเด็กโดนแย่งของเล่น ตาบวมหมดแล้ว” เสียงหัวเราะหึและเสียงปลอบกลั้นขำทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมาตาม

“กูอยู่ตรงนี้นะ จะไม่หายไปไหนแล้วนะ” เมฆาว่า นิ้วมือปาดคราบน้ำตาที่ติดอยู่ออกใก้ผม ก่อนใบหน้าของเมฆาจนเคลื่อนเข้ามาใกล้
จนกระทั่งริมฝีปากแตะกันอีกครั้ง


“เมฆ รินฟื้นหรือยะ...” เสียงชะงักของผู้ที่เข้ามาใหม่ทำให้เราผละจากกันทันที... ป๊าของเมฆา

“ป๊ามาไมวะ แม่ง” เมฆาเหวี่ยงใส่ผู้เป็นพ่อ

ของแรร์แฮะ...เมฆโหมดเหวี่ยง

“อ้าว นั่นสะใภ้ป๊าจะไม่ให้มาเยี่ยมหรือไร” ป๊าของเมฆา..ชายวัยสี่สิบปลายๆที่ยังดูหล่อเหล่าเอ่ยขึ้นเรียบๆ สะใภ้อะไรกัน!

“นี่เมียผมป่ะป๊า รินฟื้นแล้ว รู้แล้วป๊ากลับไปได้ยัง?”

“นี่ไล่ป๊า?”

“เออ ไปดิ ไป๊”

ผมมองสองพ่อลูกที่เถียงกันด้วยใบหน้าแดงก่ำ สะใภ้บ้างละ เมียบ้างละ ถามผมสักคำยังว่าจะเอาตำแหน่งพวกนี้ไหม!!

คำตอบคือเอา...

“ฟื้นแล้วก็ดี ป๊ามีเรื่องจะคุยด้วย” ป๊าหันมาหาผม “ป๊าไปคุยกับพ่อรินแล้ว เรื่องของรินไปอยู่ในความดูแลของป๊าและเขายอม”

ผมกลืนน้ำลายอึก

“แล้วเรื่องพี่ของริน...” ป๊าเงียบเสียงไปเมื่อเจอสายตาของเมฆา คีรีทำไม?

“คีรีทำไมครับป๊า” ผมถามชายสูงวัย

“อ่า..เรายังตามหาเขาไม่เจอ พอออกจากโรงบาลแล้วกลับบ้านเรานะริน ป๊ายินดีรับเราเป็นลูกอีกคน” ว่าจนป๊าก็ก็ก้มมาหอมแก้มผมเบาๆอย่างเอ็นดู เมฆาโวยวายดังลั่นพอๆกับเสียงหัวเราะของป๊า ก่อนที่คนแก่จะโดนเมฆาโยนออกจากห้องผู้ป่วยอย่างไม่ปราณี...

นั่นป๊าตัวเองป่ะเมฆา....

“ริน! ยอมให้ป๊าหอมง่ายๆได้ไง!” เมฆาว่า ยกมือขึ้นถูแก้มข้างที่โดนป๊าหอมจนเจ็บ ก่อนเจ้าตัวจะหอมลงมาย้ำๆจนผมต้องบอกให้พอ
ทันทีที่เมฆาหยุด ผมและเขาก็มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆ

“รักรินนะ” เสียงกระซิบข้างหูทำให้ผมหน้าขึ้นสี เมฆาปีนขึ้นเตียงผู้ป่วยมาคร่อมตัวผมไว้ ดึงสายรัดของเสื้อโรงพยาบาลออกจนหมด ก่อนจะจูบลงกับซอกคอขบเม้มจนขึ้นสีแดงเรือ

“รัก..” เมฆาทำให้เกิดรอยแดงทุกที่ที่ริมฝีปากลากผ่าน กางเกงผู้ป่วยที่ไร้ชั้นในถูกดึงออกอย่างเบามือจนผมเย็นวาบเพราะไม่มีอะไรปกปิดส่วนล่าง

เมฆายกยิ้มเมื่อเห็นผมเอื้อมมือปิดส่วนนั้น เขาใช้ร่างกายที่ใหญ่กว่าผมแทรกเข้ามาหว่างขา รวบข้อมือผมไว้ด้วยกันยึดไว้หัวเตียงด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างบีบเฟ้นไปทั่วลำตัวผม

“อื้อ..อืม” ผมครางในลำรอเมื่อเมฆาจูบ... ลิ้นร้อนไล้ทั่วริมฝีปากจนผมยอมเปิดปากให้ลิ้นซนนั่นเข้ามาหยอกเย้าทั่วโพรงปาก

...จูบแรกของพวกเรา...

“แฮ่ก..” ผมหอมเมื่อเมฆาผละออก หายใจได้ไม่ทันไรคนขี้แกล้งก็จูบลงมาอีกครั้งอย่างรุนแรงกว่าเดิม

“อื๊อ!”

“แค่นี้เหนื่อยหรอเมีย” เมฆายออมหยุดจูบเพราะผมประท้วง แววตาพราวระยิบนั่นทำให้ผมไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่

“ก็จูบแรก! พอใจเมฆายัง!” ผมว่าเสียงดัง เมฆาหัวเราะขำก่อนก้มจูบผมแรงๆอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะแทนที่ด้วยการสอดนิ้วเข้ามาในปากผม

เมื่อเมฆาเห็นว่าทุกอย่างพร้อม เขาก็จัดการให้สะโพกผมขึ้นไปอยู่กับหน้าขาเขา ก่อนจะส่งนิ้วที่ชุ่มด้วยน้ำลายไปที่ช่องทางด้วยหลัง

“ไม่! อย่าทำ...อย่า!”

ผมหวีดร้องด้วยความกลัวเมื่อนิ้วของเมฆากดเข้ามา ความกลัวที่ทับซ้อนกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้...

เมฆาชะงักเมื่อเห็นผมน้ำตาไหล เขาถอนนิ้วออกมาแล้วจูบปลอบประโลม เมฆาที่ผละออกจากตัวผมไปแล้วทำให้สติผมคืนมา

คนตรงหน้าคือเมฆา...คนที่ผมรัก ไม่ใช่ไอ้พวกนั้น

“เมฆ...เราไม่เป็นไร” ผมว่าเสียงแผ่ว  “นะเมฆา”

เขายังเงียบ...

“เม...อ๊า!” ไม่ทันได้เรียกอีกฝ่าย เมฆาก็จับผมพลิกคว่ำให้สะโพกโก่งขึ้น ก่อนความรู้สึกชื้นแฉะจะเข้าแทรกจนเสียววูบตรงท้องน้อย

เมฆาใช้ปากกับตรงนั้นของผม!

“เมฆ มันสกปร...อ๊า!” ผมครางออกมาเมื่อเมฆาสอดนิ้วเข้ามาอีกครั้ง ความแปลกประหลาดนั่นแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน

นิ้วที่ควงอยู่ภายในเพิ่มขึ้นจากสองเป็นสาม...เมฆาจัดการขยายช่องทางจนพร้อมที่จะรับตัวตนของอีกฝ่ายได้

“รินไม่สกปรกหรอน่า” เมฆาที่ปากว่างแล้วพูดขึ้น ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่ถูไถกับช่องทางอยู่ “พร้อมไหม”

“อ๊า ลึก...ไป!” ไม่รอคำตอบ เมฆาก็กระแทกตัวลงมาครั้งเดียวจนสุด ความใหญ่โตของเมฆาที่ไม่ยอมขยับสักทีทำให้รู้สึกอึดอัดและเจ็บปวด

“โทษที” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์พูดขึ้นมา ก่อนเมฆาจะค่อยขยับจนผมตัวโยกไปตามแรงส่ง

“เม..ฆา ช้าลง ช้าอีก อืมมม” ช่วงบนผมราบไปกับที่นอน มีแค่สะโพกที่ยกขึ้นเพราะถูกเมฆายึดเอาไว้ แรงกระแทกในแต่ละครั้งทำให้ผมหลุดครางออกมาลั่น

“อืม..อย่ารัดแน่นสิริน” เมฆาครางต่ำ ก่อนจะพลิกตัวผมโดยที่อะไรๆยังเชื่อมกันอีกแล้ว!

“อ๊า!” ผมหวีดร้องออกมาพร้อมๆกับน้ำสีขุ่นที่ปลดปล่อยจนเปื้อนหน้าท้อง เมฆาทำหน้ายิ้มถูกใจที่ทำให้ผมถึงได้

“ไม่รออีกแล้วนะเมีย” เจ้าของเสียงก้มลงมาจูบกั้นเสียงผม ถอนตัวตนออกจนสุดแล้วกดกระแทกลงมาจนผมเผลอกัดลิ้นเมฆา

คนตัวสูงตาวาวเหมือนได้ของเล่นถูกใจ เมฆาถอนตัวออกจาผมโล่ง จับผมยกตัวให้ขึ้นมาบนตักอย่างงงๆ

“เมฆ...” ผมเรียกอีกฝ่ายแผ่วเบา

“ครับเมีย... อยากได้ก็ทำเองสิ” คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มเมื่อเห็นผมเหลอหลากับตำแหน่งตอนนี้

ออนท็อป...

“ไม่..เป็น” ผมส่ายหัวจนผมกระเซิง ตั้งแต่มีอะไรกับเมฆามา ผมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนคุมจังหวะทุกอย่างไม่เคยที่จะเป็นฝ่ายคุมเอง..

“นั่งลงมา จับไว้ให้แล้วนี่ไง” เมฆาว่าเสียงอ่อนโยน สวนกับการกระทำ แท่งร้อนถูกสะกิดกับปากทางเข้ากระแทกกับมันเบาๆแต่ไม่ใส่เข้าไปราวกับยั่วยวน

ผมมองค้อนใส่อีกคนก่อนกลั้นใจกดตัวรับแก่นกายใหญ่ ไม่มีปัญหาเรื่อความฝืดเคืองเพราะเมฆา...

“อืมม...” ผมครางแผ่วเมื่อกดตัวครอบครองตัวตนที่ร้องผ่าวของเมฆาสุด ก่อนจะจุกช่องท้องเพราะท่านี้มันลึกกว่าปกติมาก!

“ขยับสิ ตามใจรินเลย” ผมทำตามเมฆาอย่างว่าง่ายแต่เงอะงัน จังหวะที่ไม่ประสีทำให้เมฆาน่าจะหงุดหงิดพอตัวจนต้องเป็นฝ่ายชักนำ

“อ๊า อ๊ะ เมฆ...” ครางชื่อคนตรงหน้าออกมาเมื่อเมฆากระทุ้งตัวสวนขึ้นตอนที่ผมกำลังขยับลง

ลึกเกินไปแล้ว!

ผมซุกตัวลงกับไหล่เมฆาเมื่อหมดแรงที่จะยกตัวอีก เมฆาหัวเราออกมาน้อยๆก่อนจะยกสะโพกผมให้ค้างในอากาศ ก่อนกระแทกกระทั้นตัวขึ้นมาเต็มแรง

“เม อ๊า! เมฆา ลึก! อื๊อ” ผมปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สองเมื่อเมฆากระทุ้งตัวเข้ากับจุดกระสันซ้ำๆ ก่อนหลังผมจะลงติดกับเตียงอีกครั้ง


“ไม่รอกูเลยนะริน” ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาจูบผมเบาๆ เมฆาขยับตัวอย่างเชื่องช้าแบบที่ผมไม่เคยได้รับ ความอ่อนโยนในจังหวะเนิบช้าไม่รีบเร่งทำให้เมฆาได้สนุกกับส่วนอื่นของผมไปด้วย

เช่นริมฝีปากที่คลอเคลีย ฝ่ามือที่เค้นคลึงหยอกล้อ

“อีกนิดนะ” เมฆากระซิบติดหู งับใบหูเบาๆแล้วซุกหน้ากับซอกคอชื้นเหงื่อ

ผมโอบกอดเมฆาเหมือนที่เจ้าตัวกำลังมอบความอบอุ่นให้ผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจิกเล็บลงกับแผ่นหลังเมื่อเมฆาเร่งตัวเองเพราะใกล้ถึงจุดหมาย

“ริน...อืม รักริน” เสียงทุ้มเอ่ยกล่าว มือข้างหนึ่งละจากการยึดสะโพกเอื้อมมาประสานมือผมแน่น

“เราก็ อ๊ะ รักเมฆ” ผมตอบคำรักให้อีกคนได้ยิน เมฆาส่งยิ้มที่ผมคิดว่ามันอบอุ่นและอ่อนโยนให้ผม กระแทกตัวมาอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะปล่อยความอุ่นวาบเข้ามาภายใน พร้อมๆกับผมที่เสร็จเป็นครั้งที่สาม

“แฮ่ก...เหนื่อย” ผมว่า ขยับตัวหมายจะให้เมฆาลุกออกไปได้แล้ว แต่เมฆากลับทำแค่ลุก แล้วขยับตัวตนที่ยังไม่ถอนออกเบาๆคนผมหวีดร้อง


“แกล้งสะใภ้ป๊าพอหรือยัง” ผมสะดุ้งสุดตัวกับเสียงของบุคคลที่สามภายในห้อง

“ป่ะ...ป๊า” ผมเสียงสั่น เมฆาจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ แล้วคว้าผ้าห่มมาปิดผมทั้งตัวแต่ยังไม่ยอมลุกออกไปไหน “เมฆา!”

“ป๊ามีไร” เมฆาถามเมินเสียงผมแล้วถามอีกคนเสียงห้วน คนเป็นพ่อทำแค่ยิ้มๆแล้วส่งสายตาสงสารมาให้ผม “ป๊า มี อะ ไร”

“โอเคๆอย่าทำเสียงดุใส่ป๊าสิ นี่ป๊าแกนะ” ป๊ายกมือยอมแพ้ “แค่จะมาบอกหนูรินว่าป๊าขนของออกไปไว้ที่บ้านหมดแล้ว ส่วนหมอบอกว่าพรุ่งนี้เช้าก็กลับได้เลย”

“บอกแล้วก็ออกไป ผมจะเอาเมียต่อ” ไม่พูดเปล่า เมฆาก็กระแทกตัวตนที่แข็งขึ้นมาอีกครั้งเข้ามาแรงๆจนผมหวีดร้อง

ต่อหน้าป๊าไม่ได้นะเมฆ!

“ก็เอาไปดิป๊าขี้เกียจขับรถกลับบ้าน ไม่ต้องสนป๊านะหนูริน” ป๊าว่าหน้าระรืน ปิดไฟในห้องจนมืดสนิทแล้วทิ้งตัวลงกับโซฟา

เมฆายกยิ้มร้ายให้ผมที่ส่ายหน้าห้าม แต่คนขี้แกล้งก็ยังเป็นคนขี้แกล้งที่รวบมือผมไว้เหนือหัวแล้วกระแทกตัวมาแรงๆเพื่อร่วมรักอีกครั้ง…

“อ๊าเมฆ! ป๊า...ยังอยู่ อึก”
“ช่างป๊าสิ”
“เมฆา! มันลึก อ๊า”
“อืม...รัดอย่างนั้นแหละริน ดีครับ”
“อึก...เมฆา!!”
“อ่า...”

สุดท้ายควาหน้าด้านหน้าทนของเมฆา...ก็ทำให้ผมเสร็จอีกรอบจนได้ โดยมีป๊าเป็นพยาน...

ต่อไปนี้จะให้เรามองหน้าป๊ายังไงฮะเมฆา!

.
.
.

“หนูรินเป็นไงบ้าง” เสียงผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกชาย เมื่อเช้าเขาทั้งคู่พาคีรินออกจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้าน ตอนแรกเขาก็จัดห้องให้หนูรินดีๆ แต่ลูกชายสุดดื้อของเขากลับงอแงว่าจะเอาเมียไปนอนด้วย ในฐานะป๊าที่แสนดีก็ต้องให้ล่ะนะ ผลคือแทนที่หนูรินจะได้พัก เลยต้องขนของจากห้องนู้นมาห้องเมฆาจนหมด ก่อนจะสลบไปต่อหน้าต่อตาพวกเราจนเมฆาอุ้มไปประเดิมห้องนอน

“นอนอยู่ แล้วเรื่อง...คีรี” เมฆาเอ่ยเสียงแข็ง ตาสีเข้มฉายแววแข็งกร้าวราวกับบุคคลที่พูดถึงยืนอยู่ตรงหน้า

“โกดังเรา แกจะเล่นไรก็เพลาๆมือแล้วกัน อย่างน้อยนั่นก็พี่ชายของหนูรินนะ” ป๊าเอ่ยห้ามส่งๆ เขารู้ว่าลูกชายเขาเลือดร้อยแค่ไหน แต่กลับเย็นได้เพราะมาเจอเด็กดีอย่างริน

“พี่เหี้ยๆอย่างนั้นควรเพลาหรือป๊า หึ วางยาน้องชายให้คนอื่นข่มขืน” เมฆายิ้มแสยะ ก่อนยื่นหน้าไปใกล้ผู้เป็นพ่อ “ลูกน้องพ่อ..รวมทั้งคนของผม เอาไปที่โกดังนั่นให้หมด ผมรู้ว่าป๊าเข้าใจความหมายนะ”

ชายสูงวัยไม่ได้พูดอะไรต่อ มีเพียงรอยยิ้มต้นแบบของเมฆาที่ประดับมุมปากเท่านั้น

“และอย่าให้คีรินรู้”

สองพ่อลูกพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนเสียงหัวเราะสยองขวัญของทั้งคู่จะดังไปทั้งห้อง

คนนึงหลงเมีย อีกคนก็หลงลูกสะใภ้
ก็พอกันทั้งคู่ล่ะ...


“เมฆา...” เสียงเรียกเบาๆทำให้เมฆาหันไปมองตามเสียง ก่อนหุนหันออกไปจากห้อง

“ริน กูอยู่นี่”

ผู้เป็นพ่อมองตามภาพนั้นแล้วส่ายหัวออกมาเบาๆ

“สงสัยต้องจัดงานแต่งแล้วมั้งคู่นี้”


=======================

-End-

=======================


เรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งระบายความเครียดค่ะ...ถูกที่บ้านกดดันจนไม่รู้จะไปลงไหนเลยมาเป็นเรื่อง... ภาษาเลยอาจจะแปลกไปหน่อยรวมทั้งฉากเอ็นซียังง่อนแง่น ///ขนาดที่ว่าเกลามาแล้วสองสามครั้งเรายังรู้สึกแปลกๆอยู่ดี แฮ่ๆ
ส่วนชื่อเรื่องมาจากช่วงแรกที่คีรินบิดบังความรู้สึกตัวเองที่มีต่อเมฆา กับเรื่องที่เมฆาและป๊าปิดคีรินไว้ค่ะ---

ออฟไลน์ brave

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #3 เมื่อ17-11-2017 09:20:27 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #4 เมื่อ17-11-2017 10:13:59 »

เป็นคู่พ่อลูกที่น่ากลัว..เรื่องสนุกดีจ้า  :pig4:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #5 เมื่อ17-11-2017 14:48:55 »

เราว่าอ่านแล้วก็โอเคนะคะ แค่บางช่วงอาจรวบรัดไปหน่อย แต่โดยรวมดีเลย  o13

คนเขียนบอกว่าแต่งตอนอารมณ์ไม่โอเค..เรื่องนี้เลยมีความรู้สึกเทา ๆ ดี เราชอบ  :m4:

ยังไงก็เขียนผลงานมาให้อ่านอีกนะคะ..รอ ๆ ...ตามอยู่นะจ้ะ  :pig4: สู้ ๆ   :a1:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #6 เมื่อ17-11-2017 19:59:06 »

หน่วงตอนที่เมฆเมินรินมาก แง้ๆๆๆ ทั้งที่ก็รู้ว่าใจตรงกันแท้ๆ แม่ง อิเมฆมีความเล่นตัวเด้ออออออ  :m16: ดีที่จบแฮปปี้ดีที่รินไม่โดนโทรม

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #7 เมื่อ18-11-2017 10:33:34 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #8 เมื่อ18-11-2017 11:36:53 »

รู้ว่ารักแล้วหายไปทำไม แกล้งรินหรอ

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #9 เมื่อ20-11-2017 09:09:02 »

ตกอกตกใจ คิดว่าจะมาทางดาร์กเสียแล้ว
ชอบบรรยากาศเทาๆในเรื่อง ที่ดูเทาแต่ก็ยังมีไอความสุขจางๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
« ตอบ #9 เมื่อ: 20-11-2017 09:09:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #10 เมื่อ20-11-2017 12:10:54 »

มีแต่คุณป๊าหรอคะ ไม่มีคุณม๊าหรอหาคุณม๊าให้คุณป๊าหน่อยสิ อุอิ

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] H I D D E N
«ตอบ #11 เมื่อ22-11-2017 23:58:59 »

คุณป๊ามีลูกสะใภ้น่ารักๆแล้วตัวเองไม่อยากมีบ้างหรอคะ?? 5555

ออฟไลน์ мıınta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
    • TW
Re: [เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17
«ตอบ #12 เมื่อ27-11-2017 01:57:47 »

H I D D E N [side story]


“อ๊ะ เมฆาอย่า”

“เมฆ! เราบอกวะ...อืมมม”

“เมฆา...”

เสียงครางหวานของลูกสะใภ้(?)ที่ดังจนรบกวนสมาธิ ทำให้ผมต้องทิ้งเอกสารที่อ่านอยู่ ลดแว่นสายตาที่ใส่ออกแล้วยกมือบีบนวดหว่างคิ้วของตัวเอง

ก็ตั้งแต่ไปขอหนูคีรินจากพ่อของเขาและพาเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยเนี่ย เจ้าลูกชายตัวดีของผมก็เล่นพาหนูรินทัวร์รอบบ้านซะเกือบทุกอาทิตย์ ทั้งๆ ที่หนูรินอยู่กับพวกเรามาได้เกือบปีแล้ว ผมล่ะกลัวลูกสะใภ้ผมสึกหรอก่อนเวลาจริงๆเชียว อย่างวันนี้...ตอนที่เราทานมื้อเย็นกันเสร็จก็เห็นสองคนนั่นไปนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น พอผมขึ้นมาที่ห้องทำงานไม่ถึงสิบนาทีไอ้เมฆมันก็จับหนูรินกินกลางบ้านซะแล้ว สงสารก็แต่บรรดาลูกน้องผมที่ยังอยู่รอบๆบ้านนี่แหละครับ เสียงหนูรินใช่จะเบาๆ

ไม่สิ... ต้องบอกว่าไอ้ลูกชายผมมันไม่ยอมให้หนูรินกลั้นเสียงมากกว่า

“เฮ้อ” ผมถอนหายใจแล้วก้มมองไอ้สิ่งที่ควรจะสงบนิ่งที่ตอนนี้ตุงคับกางเกง เสียงครางขนาดนั้นถ้าไม่มีอาการอะไรก็เรียกว่าเสื่อมแล้ว ถึงผมจะใกล้เลขสี่ แต่ยังแข็งแรงแบบไม่ต้องพึ่งยานะครับ(ขยิบตา) ผมหัวเราะหึออกมาก่อนจะเบนสายตาไปมองใครบางคนที่ถือวิสาสะเปิดประตูห้องทำงานผมเข้ามายืนมุมห้องตั้งแต่เริ่มได้ยินเสียงครางของหนูริน

ไม่รู้ว่าตอนนี้สายตาของผมเป็นยังไง ตอนผมตวัดตามองเขาถึงสะดุ้งโหยงแล้วก้มหน้าแดงๆ ลงทั้งๆ ที่ก็น่าจะชินได้แล้ว

ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยนี่นา

“ศินมานี่” ทันทีที่ผมเอ่ยเรียก ศศิน อืม... เลขาประจำตัวควบตำแหน่งคนรักของผมก็เดินก้าวเข้ามาหาอย่างรู้หน้าที่ เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อผมยกมือเกลี่ยแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ผิวแก้มที่ร้อนฉ่าทำให้ผมเผลอยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น แล้วรั้งเอวศศินให้เข้ามาใกล้ผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน

ที่เมฆาชอบแกล้งหนูคีริน ส่วนหนึ่งคงเพราะพันธุกรรมจากผมละมั้ง

“คุณ..กร” เสียงที่สั่นดังขึ้นอย่างแผ่วเบาเมื่อผมไล้มือจากแก้มร้อนลงมาที่ลำคอ ฝ่ามือที่กุมกันอยู่ของศศินเปลี่ยนมาเป็นยันไหล่เมื่อผมลากผ่านลงมายังยอดอกที่ชูชันผ่าเสื้อนอนเนื้อดีทั้งๆที่ยังไม่ได้แตะต้อง เคลื่อนช้าๆผ่านหน้าท้องแบนราบไร้ไขมันจนกระทั่งถึงขอบยางยืดของกางเกง

“อึก.. คุณกรครับ” ผมแนบริบฝีปากเข้ากับหน้าท้องของคนตรงหน้า กดจูบหนักๆผ่านเนื้อผ้าในขณะที่มือก็ง่วนกับส่วนกลางตัวที่แข็งขืนของศิศิน

“เวลาอยู่ที่บ้าน พี่ให้เรียกว่าไง หืม” คนที่หน้าแดงราวมะเขือเทศส่ายหน้าไปมาจนหัวกระเซิง “ว่าไงครับ”

“พี่... พี่กร อ๊ะ” ผมดึงร่างสูงโปร่งของศินให้นั่งคร่อมตัก ร่างกายสั่นที่น้อยๆ ใบหน้าที่ขึ้นสียิ่งกว่าเดิม และน้ำเสียงตอนที่เรียกผมว่าพี่กร นั่นทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มแดงๆ ก่อนเคลื่อนไปจูบลงกับกลีบปากนิ่ม ไล้เลียทั่วริมฝีปากจนศศินเปิดปาก ก่อนส่งลิ้นไปทักทายหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่พยายามหลีกหนี แต่สุดท้ายก็ยอมส่งลิ้นมาสัมผัสกันผม ถึงศศินจะจูบไม่เก่ง(แม้ว่าจะสอนมาหลายครั้งแล้ว) มันกลับยิ่งยั่วอารมณ์ผมกว่าเดิม

“คนดี” ผมผละออกจากริมฝีปากที่บวมเจ่อ กดจูบลงที่ซอกคอที่มีกลิ่นสบู่จางๆจนขึ้นรอยสีสวยตัดกับผิวขาวเหลือง พลางปลดกระดุมเสื้อนอนของคนตรงหน้าจนเผยให้เห็นแผ่นอกชื้นเหงื่อ

“อ๊า พี่กรอย่าครับ” คำพูดที่ตรงข้ามกับร่างกายดังขึ้นเมื่อผมครอบปากลงกับหัวนมสีอ่อนที่ชูชันล่อหน้าล่อตา ตวัดลิ้นเลีย สลับดูดดึงราวกับมันจะมีน้ำนมจนได้ยินเสียงครางจากปากของอีกคนแผ่วๆ

“อย่ากลั้นเสียงสิ พี่อยากฟังเสียงศินนะ” พูดพลางขบกัดยอดอกให้ศศินหลุดครางเล่น

“อา พี่กร...” ศศินมองผมด้วยดวงตาคลอน้ำเมื่อผมละออกมาทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้ ขยับมือบีบเค้นสะโพกนิ่มแกล้งปัดมือผ่านแก่นกายที่แข็งชันจนมีน้ำอยากเปื้อนซึมให้เจ้าเล่นสยิวเล่น ก่อนที่ศศินจะทนไม่ไหวเป็นฝ่ายขยับตัวมาเบียดกับตัวผม

“ว่าไงครับที่รัก” ผมกดจมูกหอมแก้มคนที่มองค้อนผมด้วยตาวาวน้ำ ใช้มือปัดเอกสารบนโต๊ะและของที่เกะกะกิจกรรมอย่างว่าทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วยกศศินขึ้นไปบนนั้น พร้อมกระชากกางเกงที่เจ้าตัวใส่ออกทันที

“หืม...” ผมร้องอย่างแปลกใจเมื่อเห็นสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ตรงช่องทางของคนรัก ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์ “นี่อะไรกันครับ”

“อื๊ออ พี่กรอย่า มันไม่..สะอาด อึก” ศศินหอบหายใจหนักเมื่อผมกดนิ้วลงกับช่องทางนั้น เข้าไปสัมผัสแรงสั่นน้อยๆที่อยู่ในตัวของอีกคน ยิ่งผมสอดนิ้วเข้าลึก เจ้าสิ่งนั้นยิ่งเข้าไปลึกกว่าจนแก่นกายของเขากระตุกสั่น เสียงเอ่ยห้ามดังขึ้นเมื่อผมครอบปากลงไปกับส่วนร้อนผ่าว ขยับกลืนกินจนสุดพลางกระทุ้งนิ้วที่มีเจ้าของเล่นก้อนน้อยอยู่ด้วยลงที่จุดกระสันของศศินย้ำๆ จนตัวอีกคนสั่นเทิ้ม มือขยุ้มหัวผมแน่นก่อนจะเป็นฝ่ายขยับสะโพกเข้าหาปากของผมเอง จนกระทั่งสายน้ำอุ่นจะพุ่งเข้าโพรงปากที่ผมก็เต็มใจจะรับมัน
ผมผละออกมาเมื่อกลืนความต้องการของศศินลงคอ ปาดหยาดน้ำบางส่วนที่เปื้อนอยู่ออกพลางมองคนที่หอบตัวโยนและทิ้งตัวนอนราบกับโต๊ะทำงาน สองขาที่ยังตั้งอยู่จนผมที่นั่งอยู่ตรงปลายเท้าเห็นทุกส่วน

โดยเฉพาะช่องทางลับที่มีสายสีชมพูของก้อนของเล่นยื่นออกมา

“พี่กรอย่ากลืนนะ! อื๊ออ” ศศินที่เพิ่งรู้ตัวร้องขึ้นมา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นครางเสียงหลงเมื่อผมปรับแรงสั่นของเจ้าเครื่องนั้นจนสุด

อ่า... ผมเผลอเลียปากตัวเองเมื่อเห็นช่องทางนั้นขมิบๆน้อย

“พี่ใส่พร้อมเจ้านี่ได้ไหม” ผมลุกขึ้นเอาตัวไปแทรกกลางระหว่างขาที่หุบเข้าหากันให้อ้าออก โน้มตัวไปกดจูบกับปากแดงนั่นแรงๆครั้งนึง ก่อนจะกระซิบคำที่ทำให้ศศินส่ายหัวรัวจนผมยกยิ้มอย่างเอ็นดู ยกมือเกลี่ยเส้นผมชื้นเหงื่อให้ออกจากใบหน้าแดงๆ

“ไม่ได้หรือครับ” แสร้งว่าเสียงอ่อนให้คนข้างใต้ปรือตามองก่อนจะหลบตาผมอีกครั้ง พลางกระแทกตัวตนที่ยังคงคับแน่นอยู่ในกางเกงกับช่องทางอ่อนนุ่นเป็นจังหวะ “นะครับ”

“จะทำอะ... อืมมม อะไรก็... อึก ทำ” พอสิ้นเสียงกระท่อนกระแท่นของศศิน ผมก็รีบปลดกางเกงลงทันทีและควักเอาเจ้าลูกชายที่พร้อมใช้งานให้โผล่ออกมาสู่ภายนอก จับมันถูไถช่องทางนิ่มจนศศินยกมือกลั้นเสียงคราง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางลั่นเมื่อผมกระแทกตัวตนลงไปจนสุดลำ

“อ่า... ” ผมแทบเสร็จเพราะความคับแน่นนั่น

“คุณกร!” คนใต้ร่างเรียกชื่อผมดังลั่น ใบหน้าแดงก่ำเหยเกเพราะความอึดอัดที่ได้รับในคราเดียว

“เรียกว่าอะไรนะครับ” ผมแกล้งกระทุ้งตัวแรงๆเมื่อได้ยินสรรพนามที่อีกคนเรียก “ไหนเรียกใหม่สิคนดี”

“อื้ออ พี่กร...” เสียงหวานๆที่ครางชื่อผมทำให้ผมขยับเอวทันที ความคับแน่นตอดรัดที่ได้รับในทุกครั้งที่ร่วมรักทำให้ผมเผลอกระแทกตัวเองแรงกว่าเก่าโดยลืมว่าภายในช่องทางไม่ได้มีแค่แก่นกายของผม ทำให้ศศินบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน

“พี่กร อืมม เบาหน่อย อึก” ศศินปิดปากและเชิดหน้าขึ้น เสียงครางที่ผมอยากได้ยินเล็ดลอดผ่านฝ่ามือน้อยจนผมต้องละมือจากสะโพกไปจับมือนั่นให้มากอดผมไว้

“อย่ากลั้นเสียงสิครับ พี่อยากได้ยิน”

“ไม่อะ... อ๊ะ! อืมมม” เสียงครางน่าฟังดังขึ้นผมถอนตัวออกหมดและกระแทกเข้าสุดซ้ำๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขยับตัวเนิบนาบดันให้เจ้าก้อนของเล่นเข้าไปลึกขึ้นกว่าเก่า

“อ่า... ศิน” แรงตอดรัดทำให้ผมครางออกไป คนตัวเล็กกว่าจิกเล็บลงกับแผ่นหลังทำให้ผมรู้ว่าเจ้าตัวจะเสร็จอีกครั้งจึงล็อกสะโพกศศินไว้แน่นแล้วขยับกระแทกระรัว

“พี่กร อึก ศินจะถึง อืมม... ” ศศินจิกเล็บระบายความเสียดเสียวที่ได้รับ ใบหน้าชื้นเหงื่อเชิดขึ้นครางในลำคอเมื่อปลดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาจนเปื้อนหน้าท้องพวกเรา

แรงตอดรัดถี่ๆ ที่บีบรัดทำให้ผมกระแทกตัวลงไปอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดใส่ในตัวของศศิน

“แฮ่ก... พี่กรลุกเลย!” มือเล็กที่กอดคอผมเปลี่ยนเป็นทุบตีไหล่ให้ผมลุกออก แต่คิดหรอว่าแค่นี่ผมจะพอ? “หว๋า”

“ยังไม่อิ่มครับ” ผมกดจูบลงกับแก้มนวลเมื่อดึงคนหอบแฮ่กให้มานั่งบนตักอีกครั้งโดยที่ด้านล่างยังคงเชื่อมกันอยู่ พอไม่ได้ขยับตัวก็รู้สึกถึงแรงสั่นจากของเล่นก้อนน้อยที่อยู่ภายในส่งผลให้ศศินครางแผ่ว ก่อนบทรักครั้งที่สองของเราจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

.
.
.

“พี่กร... ศิน ไม่ไหวแล้ว”

“ศิน?” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่อยู่บนตักผม มีเพียงเสียงหายใจแผ่วๆทำให้รู้ว่าศศินสลบไปแล้ว ผมยกตัวศินออกจากตัวตนที่ยังแข็งขืนของผม ก่อนสิ่งที่ค้างคาจากหลายๆรอบจะไหลลงมายันท่อนขา

อ่า... ดูท่าว่าผมจะทำมากเกินไปแฮะ หัวค่ำยันเกือบเที่ยงคืนเล่นเอาซะสลบคาอกแบบนี้หวังว่าตื่นมาคงไม่เจอศศินโกรธนะ

หลังจากที่จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัว ล้วงเอาของออกจากช่องทางให้คนรักเสร็จก็อุ้มแนบอกเพื่อพาไปนอนที่ห้องดีๆ

“ป๊า?” ทันทีที่เปิดประตูห้องทำงานออกไป เสียงทุ้มโทนเดียวกับผมก็ทักขึ้นราวกับแปลกใจที่เห็นผมยังอยู่ในห้องทำงานจนเวลานี้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มล้อเลียนเมื่อเห็นคนในอ้อมแขนผม

“หึ เอาจนสลบแบบนี้ระวังม๊าโกรธนะ” ผมถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ลูกชายพูด

“ป๊าก็กลัวว่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ... ” ผมว่าก่อนจะเดินผ่านลูกชายไปที่ห้องของตัวเอง ที่ผมไม่อะไรเรื่องมีสะใภ้เป็นผู้ชายก็เพราะคนในอ้อมแขนแหละครับ ตอนแรกก็ปิดเมฆาเรื่องคบกับศินไว้อยู่ด้วยการเอาคำว่าเลขาบังหน้า แต่มันดันบังเอิญมาเห็นตอนกำลังเข้าด้ายเข้ารู พอคุยๆไปมันบอกก็รับได้เพราะมันสารภาพว่าแอบชอบเพื่อนตัวเองหรือก็คือหนูริน ผมกับศินงี้ถึงกับอ้าปากค้างกันเลย แต่กว่าจะได้คนนี้มาก็แทบลากเลือกครับ

 ศศินอยู่กับผมตั้งแต่ผมเด็กๆในฐานะคนของป๊าผมหรือปู่ของไอ้เมฆนั่นแหละ แต่ด้วยอายุไล่ๆกัน (ศินเด็กกว่าผมสามปี) พวกผมเลยสนิทกันง่ายๆ พอปู่ไอ้เมฆเห็นอย่างนั้นเลยให้มาเป็นคนติดตามผมแทน เห็นตัวเล็กอย่างนี้ศศินเก่งทั้งมวยไทย คาราเต้ ยิงปืน และอีกหลายๆอย่างรวมถึงเรื่องอย่างว่าด้วย  ศศินรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผมพอๆกับที่ผมรู้จักเขาแหละครับ ก็ไม่รู้ว่าความสนิทของผมที่มีให้ศินเนี่ย ศินคิดเป็นความรู้สึกอย่างอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่... ศศินก็เริ่มตีตัวห่างกับผม เมื่อผมไปทำผู้หญิงท้องครับ ไม่สิ ต้องบอกว่าเธอจงใจปล่อยให้ท้องเพื่อจับผมมากกว่า เสือผู้หญิงที่ป้องกันตัวเองทั้งครั้งที่ถุงยางทั้งยาคุมมีหรือจะพลาดถ้าเจ้าหล่อนที่พอๆกันไม่จงใจ ป๊าผมที่รู้เรื่องก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดให้เธอทำแท้ง แต่ยื่นคำขาดว่าถ้าเด็กในท้องลืมตาดูโลกเมื่อไหร่เธอต้องไปจากผม ตอนแรกเธอก็ไม่ยอมตกลงจนป๊าจะจับผมแต่ง แต่เธอกลับเสนอตัวเลขมาก่อนเลยเป็นอันดีล

หลังจากเมฆาเกิดผมก็ยุ่งกับการเป็นคุณพ่อวัยใส ทั้งเรียนมหาลัยทั้งเตรียมทำงานกับป๊า รู้ตัวอีกทีก็ไม่มีศศินอยู่ข้างๆแล้ว ให้ป๊าช่วยหาก็ไม่ยอมช่วยบอกว่าผมเป็นทำคนหายเอง ก็ต้องหาเอง แต่คือตอนนั้นคนของตัวเองมีน้อยไงเลยทำอะไรไม่ได้ พอป๊ายกตำแหน่งให้ผมตอนเมฆาประมาณ5ขวบ อาจดูเห็นแต่ตัวแต่อย่างแรกที่ผมทำเลยคือให้คนออกตามหาศศินครับ และก็เจอในที่สุด

“คุณทิวากร... ผมออกจากที่นั่นแล้วผมคงไม่กลับไปอีกครับ” ศศินที่ผมเจอตัวอีกครั้งพูดกับผม น้ำเสียงเศร้าสร้อยและแววตาสั่นระริกทำให้ผมใจกระตุกวูบ

“ศินเป็นคนของพี่! เป็นครอบครัวของพี่ พี่ไม่ปล่อยให้ศินหายไปอีกแล้ว” ผมว่าเสียงหนัก ศศินเงยหน้าสบตาผมวูบหนึ่งก่อนเบือนหนี

“ผมกลับไม่ได้ครับ” เขายิ้มขื่น “คุณจะให้ผมกลับไปทำไมในเมื่อคุณก็มีคนของคุณแล้ว จะให้ผมเข้าไปเป็น... ส่วนเกินทำไมครับ”

คำว่าส่วนเกินจากปากของศศินทำให้ผมดึงคนตรงหน้าเข้ามาจูบโดยไม่สนใจว่าตอนนี้กำลังอยู่ในมหาลัยของคนตรงหน้า ตอนแรกแค่คิดว่าจะปิดปากคนพูดพล่อยๆที่ไม่รู้อะไรเลยเท่านั้น แต่สัมผัสนุ่มๆที่รับรู้ทำให้ผมไม่ได้ผละออก ศศินก็ไม่ได้ขัดขืน

จนกระทั่งผมรู้สึกถึงสายน้ำอุ่นที่ไหลริน

“ศิน...” ผมผละออกทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าร้องไห้ ยื่นมือหมายจะไปปากน้ำตาของศศินแต่เขากลับถอยห่าง

“คุณ...ฮึก คุณไม่ควรมายุ่งกับคนอย่างผม คุณมีลูก คุณมีครอบครัวแล้ว!” ศศิพูดเสียงดังราวกับพยายามตอกย้ำคำๆนั้นกับตัวเอง น้ำตาที่ไหลอาบหน้าของศศินทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบใจ ไม่ชอบทั้งเรื่องที่คนตรงหน้าคิดไปเอง ทั้งเรื่องที่ร้องไห้

แต่แววตาที่ศศินมองมาที่ผมทำให้ผมแน่ใจว่าคนตรงหน้ารักผม

“ศิน ฟังพี่” ผมก้าวไปหาเขา แต่ยิ่งก้าวศินก็ยิ่งหนี จนกระทั่ง...

หมับ
“คุณกร!” คนในอ้อมแขนร้องเสียงหลงเมื่อผมก้าวยาวๆไปหาแล้วดึงมากอดแนบอก “คุณกรปล่อยผม!”

“ไม่ พี่ไม่ปล่อยศิน” ผมออกแรงกอดอีกคนแน่น “หยุดดิ้นแล้วฟังพี่!”

ผมเผลอตวาดออกไป ทำให้ศศินในอ้อมแขนชะงักกึก

“พี่ไม่ได้มีใคร ครอบครัวพี่มีแค่ป๊า ม๊า แล้วก็เมฆ และถ้าพี่มีจะมีใครอีกคนพี่ก็อยากให้คนนั้นเป็นศิน” คนในอ้อมกอดนิ่งไปแล้ว “ได้ไหมครับ ศินอยู่กับพี่ได้ไหม”

ผมกระชับอ้อมแขนให้ศินชิดกับผมมากขึ้น กดจูบลงกับศีรษะชื้นนั่นแล้วตัดสินใจเอ่ยคำที่ผมปฏิเสธมาตลอด “พี่รักศินนะ มาเป็นช่วยพี่ดูแลเมฆ... มาครอบครัวของพี่อีกคนได้ไหม”

ศินผละออกจากผมเล็กน้อย แววตาของคนตรงหน้าเบิกกว้างขึ้น ทั้งดูดีใจระคนสับสนกับสิ่งที่ผมพูด ก่อนใบหน้าที่มีคราบน้ำตาจะแดงระเรื่อ

“ไม่...คุณกร โกหก” เสียงสั่นของศินทำให้ผมลอบยิ้ม “ไม่จริงน่า...”

“พี่รักเรานะ” ผมว่าซ้ำเบาๆข้างหูสีแดงนั่น คลายอ้อมแขนลงแล้วแสร้งพูดเสียงอ่อย “แต่ถ้าเราไม่อยากอยู่กับพี่... ไม่ได้รักพี่ ไม่อยากเป็นครอบครัวของพี่ พี่ก็ไม่ตอแยเราแล้วต่อ”

ศศินยังนิ่งจนผมใจแป้ว เนิ่นนานจนผมคิดว่าเขาคงไม่อยากอยู่กับผมจริงๆ จนคลายอ้มแขนให้อีกคนเป็นอิสระ

“... พี่ขอโทษครับ” ผมเอ่ยเสียงอ่อน ครั้งนี้ไม่ได้แสร้งทำเพราะความร้อนวูบที่ตามันฟ้อง ก่อนจะกลั้นใจพูดประโยคต่อไป “ถ้าศินต้องการ... พี่ก็จะไม่เจอ ไม่มายุ่งกับเราอีกแล้วครับ”

ผมยิ้มขื่นให้คนตรงหน้า ตัดสินใจกดจูบลงกับศีรษะเล็กนั่นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันกลับไปยังรถที่จอดอยู่

แต่...
หมับ

แรงรั้งเล็กๆที่ชายเสื้อทำให้ผมหยุดกึก และหันกลับไปมองทำให้เห็นศศินที่หน้าแดงเถือกจนหน้าสีเดิมไม่เจอกำลังมองมาที่ผม ปากเล็กนิ่มอ้าแล้วหุบอยู่สองสามครั้ง และเม้มแน่น ก่อนประโยคยาวๆ ที่ออกจากปากศศินจนทำให้ใจที่ห่อเหี่ยวไปแล้วของผมพองโตขึ้น

“พี่กรแม่งบ้า! มาพูดๆๆๆแบบนี้จะให้ศินตอบยังไง! ไม่คิดหรือไงว่าศินตกใจแค่ไหนที่จู่ๆคนที่ตัวเองแอบรักตั้งนานมาสารภาพรัก มาจูบ มาชวนให้เป็นครอบครัวด้วยแบบนี้! ให้เวลาศินตกใจก่อนดิไม่ใช่พูดจบแล้วเดินหนีแบบนี้! ไอ้พี่กรคนบ้า!!! อ๊ะ!”

ผมพุ่งไปรวบตัวศินที่หลับหูหลับตาพูดทันที รอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าผมก่อนจะจับศศินจูบย้ำอีกหลายๆครั้งด้วยความดีใจจนศินยกมือขึ้นกั้น

“พอครับคุณกร! นี่ในมหาลัยนะ!” ศินตวาด และโดนผมจูบอีกครั้ง

“เรียกพี่เหมือนเดิมสิครับ นะ”

“ปล่อยผมก่อนนะคุณกร!”

ศศินมองซ้ายมองขวา แถวนี้ไม่มีใครหรอกครับเพราะผมให้คนของผมกันออกไปหมดแล้ว

“เรียกพี่กร แล้วแทนตัวว่าศินด้วยครับ” ผมว่าด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ จนศินเบิกตากว้างอีกครั้ง

“ไม่”

“...นะครับ”

“พะ...พี่กร ปล่อยศินก่อน” แทนที่จะปล่อย ผมกลับรวบคนตัวเล็กกว่าขึ้นบ่าแล้วเดินไปที่รถทันที ก่อนจะบอกแกมขู่ว่าถ้าดื้อจะเอาคารถ เท่านั้นแหละครับเงียบจนถึงบ้าน

“เออ เจอก็ดี อย่าทำหายอีกล่ะ” ป๊าพูดขึ้นเมื่อผมลากศศินไปหา และบอกว่าศินจะมาเป็นครอบครัวของผม แต่ที่เด็ดสุดเลยคือเจ้าลูกชายวัยห้าขวบของผมนี่สิ เดินดุ๊กดิ๊กเข้ามากอดขาศศินก่อนจะเรียกเขาด้วนสรรพนามที่ทำให้ศินหน้าแดง

“ม่าม๊า”

เท่านั้นแหละครับ ศศินก็ปฎิเสธไม่ได้แล้ว


.
.
.

เสียงครางจากอาการเจ็บปวดที่ดังขึ้นทำให้ผมลืมตาตื่น ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้าของเสียงร้องที่ตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปตัวรอยจูบและรอยกัดกำลังพยายามจะลุกออกจากที่นอน แต่ด้วยสังขารที่ไม่เที่ยงจึงไปไหนได้ไม่ไกลนัก

“อ๊ะ คุณกร!” ผมขยับไปซ้อนหลังร่างเล็กกว่า กดจูบลงกับลำคอที่มีรอยแดงประดับเบาๆ “คุณกรไม่ต้องเลย! ผมปวดตัวไปหมดแล้ว ฮึ่ย”

“อยู่บ้านเรา” ผมว่าเสียงเข้ม ดึงศินให้มานั่งหว่างขาและกัดลงกับไหล่ราวกับทำโทษคนที่ยังเรียกผมด้วยสรรพนามห่างเหิน ทำยังไงถึงจะจำกันนะ?

“พี่กร ปล่อย มันทิ่ม... ” ศินดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด เพราะผมไม่ได้ใส่อะไรนอนไงไอ้ตรงนั้นเลยแข็งที่หลังศิน “พี่กร... ศินปวดตัว วันนี้มีงานด้วย ศินไม่เอานะ”

ศศินหันหน้าช้อนตามามอง และเอ่ยด้วยเสียงอ้อนๆ ไหนจะใบหน้าแดงระเรื่อที่ผมคิดว่ายังน่ารักแม้ว่าจะเข้าวัยสามสิบหกแล้วก็ตามอีก

“อ๊ะ! พี่กร ศินบอกไม่เอา!” เขาร้องออกมาเมื่อโดนผมจับพลิกจมฟูก “วันนี้ศินต้องพาหนูรินเข้าไปดูคีรีนะ!”

ผมโคลงหัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อที่ออกจากปากของคนรัก พี่ชายของคีรินที่บังอาจวางยาเพื่อให้คนมาข่มขืนลูกสะใภ้ที่น่ารักของผม หลังจากโดนผมเอาไปเก็บไว้ที่โกดังและให้ลูกน้อง... อืม สั่งสอนเล็กๆ น้อยๆ ก่อนปล่อยออกมา ตอนนี้เลยกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่กล้าที่จะออกจากบ้านอีก พอหนูรินรู้ก็เป็นห่วงพี่ชายตัวเองทั้งๆ ที่โดนอย่างนั้น กลายเป็นว่าทุกเดือนหนูรินเลยจะไปเยี่ยมพี่ชายตัวเองโดยมีศศินพาไป

“ค่อยให้เมฆมันพาไป” ผมลากปากลงกับตัวศินอย่างนาบเนิบ กดความแข็งขืนให้สัมผัสกัน จงใจปลุกเร้าอารมณ์ของคนใต้ร่าง

“พี่... อึก ไม่เอา”

“ศินไม่เอาไง พี่เอาเอง” ว่าแล้วผมก็จับให้ศินแยกขา แทรกตัวไปตรงกลางดีๆก่อนสอดใส่ในช่องทางที่อ่อนนุ่มอย่างไม่ต้องเปิดทาง

“อ๊า พี่กร!” ศศินมองค้อนผมตาเขียวปั๊ดจนผมอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

แกร่ก

แต่ก่อนที่จะขยับตัว... ประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้น

“ป๊าครับ วันนี้คือ... อ๊ะ” ลูกสะใภ้คนสวยเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารในมือ ก่อนสีหน้าจะแดงเถือกเมื่อเห็นว่าคนในห้องกำลังทำอะไรกัน

“อ้ะ... คือ... รินขอโทษครับ!”

“พี่กร!” ไม่ใช่เพียงหนูรินที่หน้าแดง แต่คนที่กำลังร่วมกิจกรรมเดียวกับเขาก็แดงเถือกเหมือนกัน เพราะผมจับศินให้นอนหันไปทางปลายเตียงจับสะโพกให้อยู่บนตักผม ส่วนประตูห้องก็เปิดมาเห็นเตียงเลย แล้วคิดว่าหนูรินจะเห็นชัดแค่ไหนล่ะ

“เฮ้ยพี่ไม่เกี่ยว หนูรินเข้ามาเอง” ผมรีบแก้ตัวก่อนจะแกล้งขยับแรงๆจนศินร้อง

แต่ก็นะ มารยังไงก็คือมาร

แกร่ก

“ป๊า ทำอะไรอยู่รินเห็นมันถึงหน้าแดงลง...ไป” เสียงของลูกชายที่เดินเกาหัวแกรกขาดหาย และดูท่าว่าจะตื่นเต็มตาเมื่อเห็นว่าได้คำตอบของคำถามแล้ว “อ๋ออ”

“เมฆ! ออกไปก่อนนะ! ” ศินแผดเสียงสั่น รีบคว้าผ้าห่มที่กองๆอยู่ขึ้นมาปิดตัวจนเหลือแค่ลูกกะตากับขาที่เกี่ยวเอวผมทันทีที่เห็นลูกชายเข้ามาให้ห้อง

“เอ่อ... ครับม๊า”

“เดี๋ยวเมฆ” ผมเรียกไอ้ลูกหมาที่กำลังจะเดินออกไปไว้ ศินตวัดตาดุๆมามองผมทันที

“อะไรป๊า”

“วันนี้พาหนูรินไปหาคีรีเองนะ ม๊าไม่ว่า”

“ไม่! ม๊าว่างเดี๋ยวพาไปเอง อ๊าา” ผมกระแทกตัวสวนขึ้นไปให้ศินหลุดเสียงครางแทนคำที่จะพูด “เมฆ.. ฮ้า ม๊าพอ..อึก พี่กร!”

“งั้นผมพาไปเองครับ ดูท่าม๊าจะไม่ไหว” เมฆยกยิ้มร้าย ก่อนจะเดินออกไปเมื่อพูดจบ

ตอนนี้เหลือแค่คนที่หน้าแดงตัวแดงตรงหน้าผมแหละครับ

“ศิน” ผมเรียกอีกคนด้วยเสียงแหบพร่า จะขยับก็ไม่กล้าเพราะส่วนนั้นรัดตัวตนของผมแน่น “ศินครับ”

ปุ!
“พี่กรคนบ้า!” ศศินปาหมอนใกล้ๆมือใส่หน้าผมอย่างแรง ก่อนจะเป็นฝ่ายถอนตัวออกจากผมไปลุกขึ้นนั่งอยู่ปลายเตียง

“ศินครับ พี่รัก---”

“หนึ่งอาทิตย์! ห้าม-แตะ-ตัว-ศิน!” ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำขาดของอีกคน “เข้าใจไหม!”

“แต่...”

“ไม่มีแต่! คืนนี้ห้ามกอดศินด้วย!”

ได้ยินแบบนี้จะให้ผมอะไรได้ล่ะนอนจาก

“ครับที่รัก...”


ความกลัวเมียไม่เข้าใครออกใครครับ

.
.
.

กล้องแพนไปที่คู่ด้านนอก

“คีริน หน้าแดงนะ” เมฆาเอ่ยแซว ยกสองมือขึ้นแนบหน้าแดงๆของคนรักแล้วบิดไปมาอย่างมันเขี้ยว

“ก็... ใครจะรู้ล่ะว่าป๊ากับคุณศิน... ไม่ล็อกห้องนี่” คีรินว่างืมงำ เมื่อสักครู่ที่เข้าไปห้องนอนป๊าเพื่อคุยเรื่องเอกสารแล้วเจอป๊ากับคุณศินกำลัง... อืมมม

“แล้วกูถามก็ไม่บอกนะ นี่เข้าไปทีหลังม๊าตัวแดงเหมือนมึงเวลาเขินเลย” ถึงจะคบกันแล้วแต่นานๆ ทีเมฆาจะใช้แทนตัวหวานๆ ใช้อย่างนี้มาตั้งนานแล้วเปลี่ยนก็ไม่ชิน “ว่าแต่คีริน”

“หืม?” หันไปหาคนรักที่ทำเสียงจริงจังเคร่งเครียด “เมฆมีอะไรหรอ”

“... ของเมฆกับของป๊า รินว่าใครใหญ่กว่ากัน” เมฆายิ้มร่าเมื่อเห็นคีรินหน้าขึ้นสีอีกครั้ง

“เมฆา!!” คีรินแผดเสียงเรียกชื่อคนตรงหน้า ไม่ใช่คำตอบแต่เป็นเหมือนอุทาน

“โอเค ของเราสินะ”

“เมฆ!”

“หึๆ”

สุดท้ายคีรินที่หาทางเถียงเมฆาไม่ได้ ก็ทำได้แต่หันลังทำฮึดฮัดไปอีกทางแทน


ระดับนี้ไม่มีกลัวเมียครับ เมฆาไม่ได้กล่าวไว้

=======================

-End-
Or
-Tbc. ?-

=======================
มารับSinรับPornยามดึกกันค่ะ หาม๊าให้คุณป๊าได้แล้วนะ คนละฟิลกับเรื่องหลักเพราะแต่งไปยิ้มไป ขำมากมายกับพ่อลูกที่เหมือนจะเหมือนแต่ก็ต่าง 555555555555
ถ้านึกสนุกอาจจะมาแต่งอีกค่ะLOL

ฝากทวิตด้วยคะ่ จิ้มมม ≫ Miinta

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: [เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17
«ตอบ #13 เมื่อ27-11-2017 10:20:50 »

นึกสนุกบ่อยๆ เราชอบ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17
«ตอบ #14 เมื่อ27-11-2017 11:17:18 »

พ่อลูกนี่ไม่ต่างกัน 555แวะมาบ่อยๆก้อดี รออ่านจ้า  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: [เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17
«ตอบ #15 เมื่อ27-11-2017 12:31:35 »

โอ้ยย ความหนาของพ่อลูกคู่นี้ไม่มีใครเกินใครจิงๆ /หนังหน้านี่ล่ะ  :hao6:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17
«ตอบ #16 เมื่อ27-11-2017 14:03:05 »

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจ้า  :m20:
tbc. น้าาาาาาาาาาาา ตามต่อๆๆ  :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: [เรื่องสั้น] H I D D E N [End] Side Story up 27.11.17
«ตอบ #17 เมื่อ27-11-2017 16:40:54 »

พอกันทั้งพ่อทั้งลูก :hao6: :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด